เหมือนตกนรกทั้งเป็น

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย อะไรอะไร, 12 มีนาคม 2009.

  1. อะไรอะไร

    อะไรอะไร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2009
  2. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    ลองอโหสิ แผ่เมตตา

    คนที่เจอปัญหาแบบคุณต้องรู้สึกแย่ แต่ถ้าคุณเกลียดพ่อนี่ บาปมหันต์ ไม่ว่าพ่อของคุณจะทำกับคุณงัย ท่านก็คือพ่อของคุณ สิ่งที่คุณต้องเจอคือต้องทำใจหรือ ย้ายที่อยู่หมั่นสวดมนต์ประจำ เจริญสติ เพราะที่คุณประสพอยู่ก็คือกรรมของคุณและพ่อคุณที่ผูกพันธ์กันอยู่ ดังนั้นเพื่อเป็นการตัดกระแสกฏแห่งกรรมนี้ขอให้คุณอโหสิกรรมและเผื่อเมตตา ให้พ่อของคุณ จิตใจของคุณจะได้สงบค่ะ ในเมื่อเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ก็อย่าไปคิดเปลี่ยน ยอมรับทำความเข้าใจ อะไรที่ได้ชดใช้ก็ปล่อยให้แล้วกันไป ยิ่งคุณไปด่าไปว่าจิตใจคุณก็ย่ำแย่ไปด้วย บาปจะมัดติดกันไปอีก ชดใช้ให้หมดในตาเนื้อที่เห็น เพราะเบื่องหน้าหน้ากลัวยิ่งนัก หากยังเวียร ว่าย ตายเกิด
     
  3. thai8

    thai8 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +9
    แนะนำ คุณพ่อให้เข้าวัดฟังธรรม ศึกษาธรรมะ สิ แล้วท่านจะรู้สิ่งในกรรม
    ที่ท่านทำไว้กับ แล้วเป็นสิ่งที่ดีด้วย เพราะว่าคุณได้ชักจูง พ่อ แม่
    เข้าวัด ศึกษาธรรม เป็นการ ตัดกรรม ระหว่าง ลูกกลับพ่อแม่ดีที่สุด และเป็นทางนี้ทางเดี่ยวเท่านั้น ...........ส่วนตัวคุณ ควรแยกกันอยู่กันกับ
    พ่อของคุณ / เพราะจะได้ไม่ต้องก่อเวร ทาง ...มโนกรรม วจีกรรม.. ในแต่ระวัน กันอีก ขอให้คุณโชดดี
     
  4. อะไรอะไร

    อะไรอะไร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    เรื่องแยกที่อยู่กันคงแยกไม่ได้ ถึงได้ตั้งกระทู้ ถามว่าควรปฎิบัติอย่างไรให้เราสงบ
    เพราะมีความจำเป็นต้อง อยู่ ไม่ใช่ว่าอยากอยู่อ่ะค่ะ.........ขอบคุณทุกความคิดเห็น ค่ะ
     
  5. ณัฐสิทธิ์

    ณัฐสิทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,916
    1. หาหนังสือที่เกี่ยวกับ..เรื่องจริงจากประสบการณ์ ..ตามกฎแห่งกรรม วางตามจุดต่างๆในบ้านเผื่อว่าท่านจะได้หยิบอ่าน เผื่อกระตุ้นต่อมคุณธรรม บาปบุญคุญโทษ เอาธรรมข่มกิเลส

    2. หารูปภาพโปสเตอร์ พระพุทธรูปขนาดใหญ่ เช่น พระพุทธชินราช พระพุทธโสธร พระแก้วมรกต มาปิดที่หน้าห้องนอนของคุณ ห้องโถง ห้องอาหาร เพื่อช่วยสร้างความสงบทางจิตใจแก่ผู้พบเห็น

    3. ไปทำบุญกับองค์กร/มูลนิธิต่างๆที่ช่วยสงเคราะห์คนที่ประสบเคราะห์ภัยจากครอบครัวเช่น บ้านพักสตรีฉุกเฉิน บ้านเด็กอ่อนในสลัม หรือ ให้ธรรมทานกับผู้ต้องขังในเรือนจำต่างๆ เพื่อเป็นการฟื้นฟูจิตใจ ให้คลายทุกข์ ให้ชุ่มเย็นด้วยธรรม ชี้ทางสว่างแก่คนที่ตกทุกข์เสวยทุกข์

    4. ขอให้คุณหมั่นสวดมนต์ ทำวัตรเช้าเย็น ต่อหน้าพระพุทธรูป แล้วจึงแผ่เมตตา แล้วอุทิศบุญกุศลแก่ มารดาบิดา ญาติทั้งหลาย เปรตทั้งหลาย เจ้ากรรม-นายเวรทั้งหลาย รวมทั้งสัตว์ทั้งหลาย จากนั้นจึงนั่งกรรมฐาน ภาวนา เดินจงกรม ตามความเหมาะสมแห่งเวลา และสถานที่ เพื่อความสงบทางจิต เพื่อลดกระแสบาปอกุศลให้เบาบางลง

    5. ถ้ามีโอกาส ให้ไปทำบุญ และกราบขอพรกับพระอริยเจ้าทั้งหลายที่ยังดำรงธาตุขันธ์ในปัจจุบัน ( ท่านอาจาย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นต้น )แล้วอธิษฐานจิตให้ท่านช่วยแผ่เมตตามาสู่ตัวคุณและบิดาด้วย กระแสเมตตาจิตของพระอรหันต์นั้นชุ่มเย็นสงบหาประมาณมิได้

    เห็นใจ แล้วก็ขอเป็นกำลังใจ ให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ได้ในเร็ววัน
    มีแต่ธรรมะเท่านั้น (ธรรมทาน อภัยทาน ) ที่จะเยียวยารักษาแผลใจครับ
     
  6. TTT333

    TTT333 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +160
    ฟังดูแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจเจ้าของกระทู้อย่างยิ่ง เรื่องในอดีตบางเรื่องที่เกิดขึ้นกับเรา บางเรื่องก็ยากที่จะลืมเลือนออกจากจิตใจได้ ในเมื่อสิ่งนั้นมันเกิดขึ้นมาแล้วเราต้องยอมทำใจว่ามันเกิดขึ้นแล้วและเป็นอดีตไปแล้วไม่สามารถแก้ไขอย่างใดได้ ส่วนในปัจจุบันขณะนี้เราสามารถทำได้ให้เราตั้งจิตคิดอโหสิกรรมต่อเหตุการณ์นั้น ตั้งจิตคิดอโหสิกรรมให้กับบิดาเรา พยายามคิดเสียว่าพ่อเรามีกรรมติดตัวมาแต่ชาติปางก่อน รวมทั้งตัวเราด้วยจึงต้องมีเวรกรรมต่อกันในลักษณะเช่นนี้ นับแต่นี้ไปเราได้ไถ่เวรกรรมนั้นให้บิดาของเราแล้วโดยเราได้อุทิศร่างเราเพื่อชดใช้หนี้กรรมต่างๆ หลังจากนั้นควรทำบุญอุทิศกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เมื่อทำครบถ้วนดังนี้แล้วให้สำรวมจิตคิดเริ่มต้นชีวิตใหม่ น้อมจิตคิดปฏิบัติธรรมพรหมวิหารสี่ ได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา.......ข้อแนะนำทั้งหมดปุถุชนคนธรรมดาเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ แต่หากทำได้ใจเราจะเหมื่อนพระโพธิ์สัตว์อันประเสริฐโดยแท้
     
  7. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    น่าเห็นใจครับ เรื่องนี้คงต้องบอกว่า คุณมาใช้กรรมให้พ่อคุณ ยังไงก็ พยายามปรับที่ใจเรานะครับ
    ตอนนี้เลี่ยงได้ก็พยายามเลี่ยงไปก่อน เข้าใจว่าทำใจยาก แต่ถ้าทำใจได้แล้วทางออกปัญหา
    คือคุณต้องพยายามชักจูงพ่อคุณให้เค้าสนใจธรรมะ ครับ

    แล้วเวลาคุณทำบุญ พยายามแผ่เมตตาให้เค้าครับ ขอตัดกรรม ขอขมากรรม ขอให้จบสิ้นแค่ชาตินี้
    หรือวันพ่อคุณก็เอาดอกไม้ไปกราบท่านแล้วก็บอกท่านว่า ขอขมากรรมทุกอย่างต่อกัน ก็ได้ครับ
    ส่วนเรื่องการปฏิบัติถ้าสนใจก็ พีเอ็มมาถามได้ครับ จะแนะนำให้ครับ

    ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ สู้ๆ ครับ
     
  8. ^บัวหลวง^

    ^บัวหลวง^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +661
    ……..ดิฉันควรปฏิบัติธรรมอย่างไร เพื่อให้ตัวเองมีบาปน้อยที่สุด ในการกระทำต่อพ่อแบบนั้น และมีวิธีปฏิบัติอย่างไรให้จิตใจสงบ

    การให้อภัยดีที่สุดค่ะ ให้อภัยท่านและยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น คนเราทุกคนย่อมทำผิดกันได้
    อย่างไรท่านก็เป็นบุพการีของเรา ส่วนตัวเราถ้าอยากมีจิตใจสงบก็ทำกรรมฐานค่ะ
    ใช้อานาปานสติก็ดีค่ะ พร้อมกับรักษาศีล5ด้วย เมื่อครบทั้งศีล,สมาธิแล้วเดี๋ยวปัญญาก็เกิดเองค่ะ
    ก็จะคิดออกเองว่าควรทำอย่างไรต่อไปค่ะ

    สำคัญว่าต้องมีสติอยู่กับปัจจุบัน
    สิ่งที่มันแล้วก็ให้แล้วไป มันเป็นอดีตไปแล้ว กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ค่ะ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดดีกว่าค่ะ

    อย่าไปนึกย้อนถึงอดีต มันไม่มีประโยชน์และทำให้จิตใจเศร้าหมอง
    จิตใจเศร้าหมองถ้าตายตอนนั้นก็ไปอบายภูมิ

    อย่าทำร้ายตัวเองเลยนะคะ ถ้ารักตัวเอง ก็ให้อภัยทานค่ะ จิตใจคุณจะได้สงบ มีความสุข
    การปฏิบัติธรรมก็จะได้ผลดีค่ะ และได้ชื่อว่าเป็นลูกที่ดีด้วย

    บุคคลทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลกรรมนั้น เราควรจะสงสารคนที่ทำกรรมชั่วนะคะ ทำกรรมชั่วต้องไปอบายภูมิ ถ้าแนะนำให้ท่าน(พ่อแม่)เข้าวัด ปฏิบัติธรรมได้จะดีมากเลยค่ะ

    ยังงัยถ้าดีกันแล้วก็ไปรดน้ำดำหัวคุณพ่อและคุณแม่นะคะ ไปขอขมากรรม จะได้เป็นอโหสิกรรมต่อกันค่ะ บางทีถ้าเราไปขอขมาท่าน ท่านอาจจะละอายใจและไม่ทำเรื่องอย่างนี้อีกค่ะ สิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจจะได้หมดไปค่ะ

    เอาใจช่วยนะคะ ขอให้คุณเอาชนะตัวเองได้ ชนะข้าศึกทั้งปวง และเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ ^^<!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2009
  9. mashima

    mashima เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +162
    ลองปฏิบัติธรรมดูค่ะและให้พ่อของคุณเห็นว่าคุณปฏิบัติธรรม อารมณ์หื่น ๆ ของเค้าอาจจะหมดไปเอง อนิสงค์ของการปฎิบัติธรรมอาจทำให้เค้านึกถึงบาปบุญคุณโทษ ขอให้คุณมีกำลังใจในการต่อสู้กับความเจ็บปวด และใช้ธรรมมะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเพื่อลืมอดีตที่ผ่านมา ขอส่งพลังใจไปให้ค่ะ
     
  10. patcha2001

    patcha2001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +174
    เหมือนตกนรกทั้งเป็น...ควรทำอย่างไรดี

    แน่เห็นใจมากค่ะ ที่สุด ที่สุด ของที่สุด
    บวชก็ดีนะค่ะ อย่าสงสารตัวเอง ลืมซะ
    ถ้ามีโอกาสย้ายถิ่นฐาน มีงานการไกล
    หรือ............ไกลๆ ก็จะดี
    สร้างโอกาสและความก้าวหน้าให้ตนเอง
    พี่งศาสนาและธรรมะให้จิตใจมั่นคง
    มั่นใจในความดีของตนเอง
    ผ่านมาแล้วให้ผ่านไป พยายามลืมให้หมด
    ทุกอย่างfairy3fairy3fairy3fairy3fairy3
     
  11. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    สะเทือนใจมากค่ะ ลืมเสียเถอะนะค่ะ ปล่อยวางเสีย
    หยุดกรรมไว้แต่เพียงเท่านี้ กรรมเก่าคงซับซ้อน ผูกพันกันมามาก
    อยากให้กำลังใจนะค่ะ เรื่องเก่าลืมมันเถอะ อะไรที่ทำให้จิตเศร้าหมองก็ลองหลีกเลี่ยงเสีย
    หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็คงต้องวางเฉย สักกะว่า เห็น สักกระว่ารู้
    แต่อย่าปล่อยให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีก อะไรที่เป็นภัยกับตัวเราก็หนีเถอะค่ะ
    อย่าปล่อยให้ใครมาทำร้ายเรา ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ได้ให้ตอบโต้ แต่หนีได้ก็หนีเถอะค่ะ
    มาทางธรรมนั้นถูกทางแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้รักษาแผลใจได้โดยเร็ว
     
  12. วังพญา

    วังพญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +373
    น่าเห็นใจเจ้าของกระทู้มากๆ ค่ะ

    คุณควรพยายามให้อภัย ค่ะ ก็คิดว่ามันเป็นกรรมที่คุณต้องชดใช้ไป และขออโหสิซึ่งกันและกัน จะได้ช่วยยุติหรือผ่อนเบากรรมต่างๆที่ยังค้างกันอยู่ได้

    สังคมไทยเชื่อในเรื่องกลับชาติมาเกิดเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เคยได้ยินได้อ่านมาบ่อยๆว่า อดีตชาติเป็นสามีแต่มาเกิดเป็นลูก เคยเป็นเมียมาเกิดเป็นผัว เคยเป็นลูกมาเกิดเป็นสามี ถ้าไม่ได้มาเกิดเป็นคน ก็มาเป็นสัตว์มาให้เลี้ยง มันก็วนเวียนเป็นวัฎจักรอยู่แบบนี้ ถ้ายังไม่หลุดพ้นไปนิพพาน

    ปฏิบัติธรรม ทำสมาธิ และภาวนาตลอดเวลาระหว่างวัน ให้รู้ว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา เป็นเพียงพาหนะให้จิตเราอยู่ อะไรๆต่างๆที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลง หรือความโชคร้ายต่างๆ ก็อย่าให้มันมากระทบจิต

    ถ้าเรารู้จักปล่อยว่าง ไม่ยึดว่าร่างกายนี้เป็นของๆเรา เราแค่มีไว้เพื่อชดใช้กรรมชั่ว และใช้มันทำกรรมดี มันก็อาจทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เมื่อเวลาความรู้สึกเจ็บปวดในอดีตมันผุดขึ้นมา

    เป็นกำลังใจค่ะ
     
  13. metakunnung

    metakunnung Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +64
    มีคำแนะนำดีดี มากมายเลยครับ ดีครับ ก็ทำไปน่ะครับ สำหรับผมก็จะบอกว่าเราเองต้องใช้กรรมจนหมดจด ใช้หนี้จนหมดนั่นล่ะครับ อย่ากลัวการใช้หนี้น่ะครับ
     
  14. เกลี่ยง

    เกลี่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +428
    เข้าใจและเห็นใจคุณจากใจจริงๆ มันเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากมาก
    เราก็เคยรู้สึกต้องการเรียกร้องความยุติธรรมในแบบทางโลก แต่ถึงจะเรียกร้องได้ เราก็คงไม่เป็นสุขเท่าไร เพราะเหตุการณ์มันย้อนกลับไปไม่ได้ และความรู้สึกที่เสียไปก็จะถูกทดแทนด้วยความสะใจเท่านั้น แต่ก็เป็นการก่อเวรไม่เลิกรา

    การมีผลเช่นนี้ เกิดแต่กรรมเก่าก่อน เราทุกคนต่างเคยเป็นพี่น้อง พ่อแม่ สามีภรรยา แล้วแต่ชาติภพนั้นๆ
    แรงกรรมเก่า สัญญาเก่า ขับให้พ่อคุณกระทำกับคุณเช่นนั้น
    ส่วนปัจจุบันนี้ คุณเป็นคนกำหนดกรรมที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตจนถึงภพชาติต่อๆไป
    ปัจจุบัน มีความเป็นปัจจุบันเพียงช่วงเวลาเมล็ดงาตกใส่ปลายเข็มเท่านั้น สิ่งที่พ่อคุณทำก็เป็นเพียงเมล็ดงาที่ตกใส่ปลายเข็มและร่วงถึงพื้นแล้ว ปล่อยให้มันอยู่ที่พื้นเถอะ ไม่ต้องเก็บขึ้นมา เพื่อทำร้ายจิตใจคุณอีกเลย
    เราเคยรู้สึกเหมือนคุณเจ้าของกระทู้ สิ่งที่เราทำได้และรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ คือ
    ทุกครั้งที่เรานั่งสมาธิ เราจะอุทิศส่วนกุศลให้เขา และเทวดาที่รักษาเขา เพื่อให้เขาเลิกก่อเวรภัยแก่เราขอให้เขาสำนึกได้เพื่อตัวของเขาเอง ส่วนตัวเราจะพยายามอโหสิกรรมให้ เพื่อให้กรรมเวรขาดจากกัน และ อุทิศส่วนกุศลให้แก่ตัวเราเองด้วย(แบบว่าเบิกบุญมาใช้) ให้เทวดาประจำกายโดยเจาะจงว่าเพื่อชำระใจที่มีอกุศล อาฆาตพยาบาทให้มีความใส สงบ
    สิ่งที่เราทำไม่เห็นผลได้ในครั้งเดียว แต่หมั่นทำไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีโอกาส รอยแผลในใจเรา ก็จะดีขึ้น สิ่งที่เราเคยรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่คิดถึง เราไม่สามารถลืมอดีตได้ แต่ภาพเก่าๆที่ทำให้เจ็บปวดก็จะจืดจางลง เหมือนเห็นแต่ภาพแต่ความรู้สึกนั้นหายไปแล้ว
    เป็นกำลังใจให้นะ...มีมึดแล้ว ขอให้สว่าง
     
  15. วิหคเพลิง

    วิหคเพลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +783
    ลองไปหาหลวงพ่อจรัญที่วัดอัพวันดู เผื่อท่านช่วยแก้กรรมได้ อยากให้ไปจริงๆนะ
    อยากให้พระช่วยดีกว่านะ เพราะท่านสอนธรรมได้ดีมาก เราคิดว่าถึงอ่านหนังสือก็คงยังคาใจอยู่ดี
    ถามตอบปัญหากันไปเลย
    เรื่องทุกข์แบบนี้ต้องใช้ธรรมแก้ ธรรมเท่านั้นที่ทำให้คุณพ้นจากทุกข์โดยสิ้น
    พระท่านมีศีล สมาธิ ปัญญาครบถ้วน
    สติปัญญาสว่างไสว ย่อมแก้ปัญหาให้ได้ดีกว่าคนธรรมดาแน่นอน
    ไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ในชาตินี้
    ซึ่งเป็นกรรมใหม่ หรือไม่ก็อาจจะเป็นกรรมที่ส่งมาจากอดีตชาติ ไม่ก็ลองอ่านกระทู้นี้ดู
    http://palungjit.org/showthread.php?t=129821
    เผื่อช่วยได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2009
  16. อะไรอะไร

    อะไรอะไร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นมากเลยค่ะ อ่านไปก็อยากร้องให้ไป
    เพราะเราไม่น่าเกิดมาในสภาพเช่นนี้เลย.........ปวดใจทุกๆ วินาที
     
  17. wisarn

    wisarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    727
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,505
    วิธีแก้คือให้มาฝึกรู้กายรู้ใจ
    โดยเมื่อกายเคลื่อนไหวให้มารู้ความรูสึกที่กาย
    รู้เบาๆ รู้สบายๆ รู้บ่อยๆ รู้เนืองๆ
    เมื่อชำนาญในการรู้กาย ก็จะเห็นจิตมันคิดมันนึก
    มันปรุงแต่งเรื่องราวออกไป อย่างลืมเนื้อ ลืมตัว ลืมกายนี้ไป
    มันจะเป็นทุกข์เพราะหลงไปคิดกับเรื่องราวต่างๆ
    ต่อเมื่อใดที่เราเคลื่อนไหวร่างกายอิริยาบทและรู้สึกตัวอยู่ ก็จะเป็นการปลุกเร้า
    ความรู้ตัว ให้ตื่นขึ้นมาจากโลกของความคิดความฝัน
    ถ้าเมื่อใดหลงไป เผลอเผลินไปคิดในเรื่องราวต่างๆ ให้เรารู้สึกตัวไว้ที่กายอยู่ก่อน
    แล้วมันจะเห็นเองว่าจิตใจมันเผลอคิดไป
    แรกๆ อาจจะช้า คิดไปนานกว่าจะรู้จักจิตใจตัวเอง ก็ต้อง ฝึก บ่อยๆ
    แล้วการเห็น การเข้าใจ การรู้สึกตัว จะแจ่มชัดขึ้น เมื่อใดคิดเผลอออกไป
    ความรู้สึกตัวจะเร็วขึ้น เห็นความคิดชัดขึ้น เผลอสั้นลง สติปัญญาจะโปร่งใส
    เมื่อนั้น คำตอบทุกอย่าง ปมปัญหาทุกอย่างที่เราติดขัดอยู่ จะแจ้งคลาย
    จะถูกปลดเปลื้องออกด้วยตัวของเราเอง

    จิตส่งออกนอกเป็นเหตุ มีผลเป็นทุก
    จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งเป็นข้อปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ มีผลคือพ้นจากทุกข์ทั้งปวง

    ขอมหาสติ มหาปัญญาจงมีแด่ท่าน (-/\-)
     
  18. lovemam89

    lovemam89 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +0
    เข้าใจ ครับ ว่ามัน ทำใจลำบาก แต่ จะเกลียดกันไป มันก้อไม่มีอะไรดีขึ้น ก้อคงต้องพยายาม ให้อภัยเพราะ ยังไงก้อเป็น ผู้ให้กำเนิดเราตอนนี้อาจจะเกลียดแต่ พอ ตอนเขาไม่อยู่เราจะรู้สึกคิดถึง.....
     
  19. diors

    diors เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +126
    ลองเอาวิธีนี้ไปลองดูครับ ลองจับลมหายใจตัวเองดูครับ หรืออาจจะเอาคำภาวนาด้วยก็ได้ จะเอาเป็นอะไรก็ได้ครับ แต่ผมใช้ พุท โธ
    ไม่ว่า จะนั่ง ยืน เดิน นอน ลองดู แล้วลองพิจาณา ดูว่าที่เราทำอยู่นี้เรารู้สึกยังไง ดูสิว่าจิตเราอยู่อารมย์ไหน ถ้าเราเจอคนที่เราไม่ชอบเรามีอารมย์อย่้างไร

    แล้วพิจารณาต่อไปว่าที่เราเป็นอย่างนี้เพราะสาเหตุเหตุอะไร เมื่อรู้สาเหตุแล้ว จะต้องทำอย่างไร

    ให้เราทรงอยู่ในพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

    1. เมตตา : ความปราถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ความสุขเกิดขึ้นได้ทั้งกายและใจ เช่น ความสุขเกิดการมีทรัพย์ ความสุขเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์เพื่อการบริโภค ความสุขเกิดจากการไม่เป็นหนี้
    และความสุขเกิดจากการทำงานที่ปราศจากโทษ เป็นต้น

    2. กรุณา : ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ความทุกข์ คือ สิ่งที่เข้ามาเบียดเบียนให้เกิดความไม่สบายกาย
    ไม่สบายใจ และเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการด้วยกัน พระพุทธองค์ทรงสรุปไว้ว่าความทุกข์มี 2 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้
    - ทุกข์โดยสภาวะ หรือเกิดจากเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกาย เช่น การเกิด การเจ็บไข้ ความแก่และ
    ความตายสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่เกิดมาในโลกจะต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรวมเรียกว่า กายิกทุกข์
    - ทุกข์จรหรือทุกข์ทางใจ อันเป็นความทุกข์ที่เกิดจากสาเหตุที่อยู่นอกตัวเรา เช่น เมื่อปรารถนาแล้วไม่สมหวังก็เป็นทุกข์ การประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ รวมเรียกว่า เจตสิกทุกข์

    3. มุทิตา : ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี คำว่า "ดี" ในที่นี้ หมายถึง การมีความสุขหรือมีความเจริญก้าวหน้า ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดีจึงหมายถึง ความปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้น ไม่มีจิตใจริษยา ความริษยา คือ ความไม่สบายใจ ความโกรธ ความฟุ้งซ่านซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีกว่าตน เช่น เห็นเพื่อนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วครูชมเชยก็เกิดความริษยาจึงแกล้งเอาเศษชอล์ก โคลน หรือหมึกไปป้ายตามเสื้อกางเกงของเพื่อนนักเรียนคนนั้นให้สกปรกเลอะเทอะ เราต้องหมั่นฝึกหัดตนให้เป็นคนที่มีมุทิตา เพราะจะสร้างไมตรีและผูกมิตรกับผู้อื่นได้ง่ายและลึกซึ้ง

    4. อุเบกขา : การรู้จักวางเฉย หมายถึง การวางใจเป็นกลางเพราะพิจารณาเห็นว่า ใครทำดีย่อมได้ดี ใครทำชั่วย่อมได้ชั่ว ตามกฎแห่งกรรม คือ ใครทำสิ่งใดไว้สิ่งนั้นย่อมตอบสนองคืนบุคคลผู้กระทำ เมื่อเราเห็นใครได้รับผลกรรมในทางที่เป็นโทษเราก็ไม่ควรดีใจหรือคิดซ้ำเติมเขาในเรื่องที่เกิดขึ้น เราควรมีความปรารถนาดี คือพยายามช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์ในลักษณะที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

    ลองเอาวิธีนี้ลองดูครับ วิธีนี้ผมเคยปฏิบัติเองครับ นำเอาการปฏิบัติของครูบาอาจารย์ต่างๆ จากหลายๆที่ (พอดีจะฝึกสมาธิ ก็เลยอ่านในเว็บไปเรื่อยเจอคำแนะนำอาจารย์ต่างๆมาปฏิบัติดู ลองมันทุกอย่างเลย อิอิ)

    บุญใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วตั้งแต่ อดีตชาติ จน ปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้า้ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้เจ้าของกระทู้ ได้รับผลบุญนั้น ขอให้มีความสุข ความเจริญ ธรรมใดที่ข้าพเจ้าเห็นแล้ว ขอให้เจ้าของกระทู้ ใด้เห็นธรรมนั้นด้วยเทอญ

    สาธุ
     
  20. ธรรมทิพย์

    ธรรมทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +433
    น่าเห็นใจเป็นที่สุด
    ในโลกนี้ยังมีผู้หญิงอีกจำนวนมากที่ถูกทารุณทางเพศ
    จากเครือญาติและคนใกล้ชิดโดยที่เราคาดไม่ถึง

    นับเป็นบาดแผลที่ฝังลึกยากจะลืมเลือน
    อาจเป็นวิบากกรรมที่เคยกระทำร่วมกันมา

    เพียงจิตที่คิดปล่อยวาง อยู่กับปัจจุบัน
    "เดินนับก้าว นอนนับท้อง คอยดูลมหายใจเข้าออก"
    หาอะไรทำไม่ให้อยู่ว่าง หรือทำงานสาธารณประโยชน์
    อาจช่วยได้ค่ะ

    ขอเป็นกำลังใจให้ ขอให้เข้มแข็ง ลืมอดีตแล้วทำปัจจุบันให้ดี
    ขอให้ลืมฝันร้ายโดยเร็ว ให้อภัย แผ่เมตตา เพื่อให้จิตสงบเย็นไม่เร่าร้อนนะคะ
    ;42
     

แชร์หน้านี้

Loading...