เหรียญเกราะเพชรลพ.มหาโพธิ์เหรียญหลังคาระเบิดลพแช่มพระผงผสมชานหมากลปสีถ้ำเขาบุญนาค

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1734329395109.jpg
    หลวงพ่อแกละวัดลำลูกบัว
    ท่านเป็นลูกศิษย์ #หลวงพ่อเต๋ คงทอง สุดยอดพระเกจิอาจารย์ เจ้าของตำนาน กุมารเบอร์๑ ของเมืองไทย
    หลวงพ่อท่านเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับ หลวงปู่แย้ม แห่งวัดสามง่ามครับ.. ท่านมีนามว่า

    พระครูพัฒนาภินันท์ หรือ หลวงพ่อแกละ วัดลำลูกบัว จ.นครปฐม
    หลวงพ่อแกละ เกิดเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2465 เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกรูปหนึ่งของจังหวัดนครปฐม ซึ่งที่เคารพนับถืออย่างสูงจากศิษยานุศิษย์จำนวนมาก
    หลวงพ่อแกละนั้นเป็นพระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพรักของชาวบ้านทั่วไปรอบๆวัด เนื่องด้วยท่านเป็นพระที่มีเมตตาอย่างมาก และเท่าที่ได้ทราบมา ท่านเป็นนักพัฒนาวัดอีกด้วยครับ.. รวมถึงสิ่งก่อสร้างสาธารณะที่เป็นประโยชน์อย่างมากครับ
    หลวงพ่อแกละ วัดลำลูกบัว ท่านศิษย์เอกหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม ร่ำเรียนวิชาอาคมจนแตกฉานว่ากันว่าท่านสำเร็จวิชาการสร้างตุ๊กตาทอง หรือ กุมารทองสามารถกำหนดจิตมีตัวมีตนได้ครับ..ตามรอยหลวงพ่อเต๋อาจารย์ของท่านเลยครับ..กุมารทองของท่านเป็นที่เสาะแสวงหาๆยากมากๆครับใครมีไว้ต่างห่วงแหนสุดๆครับ..เพราะใช้แทนของหลวงพ่อเต๋ได้สบายๆครับ
    ส่วนวัตถุมงคลอย่างอื่นของท่านเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อแกละมีประสพการณ์แคล้วคลาด มหาอุตม์มากๆครับและเป็นวัตถุมงคลของดีราคาเบาอีกด้วยครับ..กิตศัพท์คนนครปฐมทราบกันดี
    หลวงพ่อแกละ ในอดีตอดีตท่านเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอดอนตูม ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ในยุคปี 30 กว่าอีกองค์หนึ่ง ที่ปฏิบัติดี และปฏิบัติชอบ เป็นที่นับถือของชาวบ้านในละแวกนั้น และใกล้เคียง ที่สำคัญท่าน "เก่ง" แต่แบบเงียบ ๆ ไม่แสดงตัวครับ
    หลวงพ่อแกละมรณภาพเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2549 ด้วยโรคไตวาย สิริอายุรวม 84 ปี พรรษาที่ 64 ในงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารของท่านมีศิษยานุศิษย์ร่วมงานอย่างคับคั่งหลายพันคนมาร่วมสักการะท่านเป็นครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ของที่ระลึกที่แจกในงานคือพระรุ่นพระราชทานเพลิงยังได้ปลุกเสกโดยหลวงพ่อแย้ม ศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกับท่านอีกด้วย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระสมเด็จสุขใจหลวงพ่อแกละวัดลำลูกบัว ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20241216_122710.jpg IMG_20241216_122740.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2024 at 15:28
  2. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,966
    ค่าพลัง:
    +6,876
    ขอจองครับ
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1734333481626.jpg
    1938-2f107.jpg
    หลวงพ่อวิชา รติยุตโต คณาจารย์รูปหนึ่งที่มีความคุ้นเคยกับสายหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นอย่างดี ท่านเป็นสหธรรมิกกับพระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง)หลวงพ่อวิชาท่านได้ศึกษาวิชาความรู้จาก พ่อท่านคล้าย วัดจันดี จ.นครศรีธรรมราช หลวงพ่อทบ วัดชนเเดน เรามักจะเห็นหลวงพ่อวิชาร่วมในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลของครูบาอาจารย์ อาทิ พิธีพุทธาภิเษกพระปัจเจกพุทธเจ้า วัดเขาวง , พิธีพุทธาภิเษกหล่อสมเด็จองค์ปฐมสี่ศอก วัดท่าขนุน เเม้ว่าอายุพรรษาหลวงพ่อวิชาจะห่างกับหลวงพ่อฤาษีมากอยู่ เเต่บ่อยครั้งที่หลวงพ่อวิชาได้ไปร่วมงานพุทธาภิเษก ณ วัดท่าซุง และเคยได้เฝ้ารับเสด็จในหลวงในการเสด็จที่วัดท่าซุง ซึ่งท่านได้พาศิษย์ที่เป็นเสือเป็นโจรพาไปเข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณกลับเนื้อกหลับตัวเป็นคนดีของชาติ และท่านยังได้ถวายพระเครื่องซึ่งเป็นพระสมเด็จเนื้อนิลกาฬ (นิลตะโก) ให้กับในหลวง ซึ่งคนที่ไปฝ้ารับเสด็จในวันนั้นยังบอกเล่าให้ฟังอีกว่าพระทุกรูปที่ไปเฝ้ารับเสด็จนั้นก็ถวายพระเครื่องกับในหลวง แต่ในหลวงรับแล้วส่งต่อให้กับข้าราชบริพาน แต่พอในหลวงรับวัตถุมงคลของหลวงพ่อวิชาท่านเก็บวัตถุมงคลนั้นไว้ในกระเป๋าฉลองพระองค์ ของพระองค์เอง และล่าสุดในปี 2549 ในหลวงได้มีพระกระแสรับสั่งให้นิมนต์หลวงพ่อวิชาไปเข้าฝ้าที่วังไกลกังวลหัวหิน เพื่อให้หลวงพ่อดำเนินการสร้างเขื่อนอีซ่า ที่จ.อุทัย ให้แล้วเสร็จ ซึ่ในขณะนี้ท่านได้สร้างเขื่อน เสร็จแล้ว ใช้งบประมาณทั้งหมด 13 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากศรัทธาของท่านเอง ไม่เคยใช้เงินของรัฐแม้เต่บาทเดียว
    หลวงพ่อเล็กวัดท่าขนุนเคยปรารภถึงหลวงพ่อวิชาว่า
    “วันนี้หลวงพ่อวิชา วัดศรีมณีวรรณ ซึ่งปัจจุบันนี้น่าจะอยู่ที่วัดป่าหิมพานต์ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังจากที่ไปอยู่ที่สำนักสงฆ์ชอนทุเรียนที่ตากฟ้ามาระยะหนึ่ง ถ้าท่านทั้งหลายไม่รู้จัก ก็ต้องบอกว่าท่านอยู่ในรุ่นครูบาอาจารย์เลย ท่านใดที่เคยไปวัดท่าซุงในระยะแรกเริ่มในการก่อสร้างอุโบสถวัดท่าซุง ตลอด ๓ ปี คือ พุทธศักราช ๒๕๑๗-๒๕๑๙ กำลังใหญ่ส่วนหนึ่งที่ช่วยงานก็คือหลวงพ่อวิชา วัดศรีมณีวรรณนี่เอง
    การพุทธาภิเษกวัตถุมงคลระยะนั้นทุกครั้ง หลวงพ่อวัดท่าซุงจะนิมนต์หลวงพ่อวิชาเข้าร่วมพิธีกรรมด้วย แม้ว่าในขณะนั้นท่านยังเป็นพระหนุ่มเณรน้อยอยู่ อายุน้อยกว่าอาตมาตอนนี้เยอะมาก แต่ท่านมีความรู้ความสามารถที่แท้จริง ปัจจุบันนี้อายุกาลพรรษาก็ ๗๐ กว่าเข้าไปแล้ว วันนี้ก็มีความเมตตาให้กับครูบาวิฑูรย์ เดินทางมาร่วมพิธีด้วย เดี๋ยวถ้าเห็นหลวงพ่อที่ห่มสีกรักเขียว ๆ เหมือนพระธรรมยุต ก็ให้รู้ว่าเป็นหลวงพ่อวิชา ต้องบอกว่าท่านอยู่ในระดับของครูบาอาจารย์ของอาตมาอีกทีหนึ่ง”
    เก็บตกงานออกนิโรธกรรม - สืบชะตาครูบาวิฑูรย์ ชินวโร
    วันอาทิตย์ที่ ๒๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๘
    (ขอบพระคุณข้อมูลจากเก็บตกเว็บวัดท่าขนุน)

    หลวงพ่อวิชา รติยุตฺโต วัดศรีมณีวรรณ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
    กำเนิด
    ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๗ ที่บ้านคุ้งสำเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท บิดาชื่อเจียด สมสุด มารดาชื่อ เนียม สมสุด การศึกษาพื้นฐาน ม.ศ.๓ อุปสมบท ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๑๔ (อายุ ๒๗ ปี) ปัจจุบัน(๒๕๕๙) อายุ ๗๒ ปี ๔๕ พรรษา
    วัดในความปกครอง
    (เจ้าอาวาส) : วัดศรีมณีวรรณ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
    วัดสาขา : วัดชอนทุเรียน ต.พุนกยูง อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์,
    วัดชายเขา ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี
    วัดคลองหวาย ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี
    ที่พำนักหลัก สำนักฯ บ้านชอนทุเรียน หมู่ที่ ๒ ต.พุนกยูง อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์
    ที่พำนักปัจจุบัน : สวนส้ม ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี (ใกล้วัดชายเขา)
    กำลังปลูกป่าสมุนไพร และสร้างศาลาทำบุญให้วัดชายเขา
    การฝึกกรรมฐาน เริ่มเมื่ออายุประมาณ ๑๒-๑๓ ปี
    ครู-อาจารย์ผู้ให้สืบทอดวิทยาคม
    ๑.หลวงปู่อนงค์ ปะสันนะจิตโต (พระธุดงค์) เป็นอาจารย์สอนกรรมฐานองค์แรก ได้สำเร็จวิชาเปิดโลก
    ๒.หลวงพ่อสด ธัมมะธะโร เจ้าอาวาสวัดหนองสะแก (คูเมือง) อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติสำหรับบรรพชิต, เรียนเวทย์วิทยาคม, เรียนทำกุมารทองด้วยกิ่งกาฝากทอง ให้แต่คุณ ไม่ให้โทษ มีชื่อเสียงมาก ฯลฯ
    ๓.พระครูเนกขัมมวิสุทธิ์ (หลวงปู่เกตุ จันทะสุวัณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดศรีเมือง ต.ไกรกลาง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัยเรียนอักษรขอม, เรียนกรรมฐาน, เรียนเวทย์วิทยาคม เช่น วิชาการยิงกระสุนคต, วิชาทำตะกรุดมหากระดอน(สืบตำราจากหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า) เป็นต้น
    ๔.พระครูวิชิตพัชราจารย์ (หลวงพ่อทบ ธัมมะปัญโญ) เจ้าอาวาสวัดช้างเผือก อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ศึกษาเวทย์วิทยาคม เช่น วิชาดับพิษไฟ, ตะกรุดโทน(ยันต์คู่ชีวิต) ฯลฯ
    ๕.พระครูพิศิษฐ์อรรถการ (พ่อท่านคล้าย จนฺทสุวณฺโณ-วาจาสิทธิ์) เจ้าอาวาสวัดจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช สืบทอดวิชาวาจาสิทธิ์, การเจริญจิตเข้าสู่อัปปนาสมาธิ การเจริญจิตเข้าสู่ฌานสมาบัติขั้นอภิญญา, การปลุกเสกวัตถุมงคลเพื่อให้เข้มขลัง ไม่มีคำว่าพลังเสื่อม ไม่มีข้อจำกัดในการใช้วัตถุมงคล ห้ามอย่างเดียวคือ “ห้ามถอดจากตัว ถ้ากลัวภัย”
    วัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียง วัตถุมงคลที่สร้างเน้นความโดดเด่นทั้งทาง เมตตา มหานิยม แคล้วคลาดภัย มหาอุด คงกะพันชาตรี กันสารพัดภัยอธิษฐานตามปรารถนาที่ชอบด้วยทำนองคลองธรรม เป็นของที่ขลังแบบตัวจริงเสียงจริง ไม่ต้องโฆษณาชวนเชื่อ (วัตถุมงคลของหลวงพ่อท่านห้ามทดลอง เพราะจะวิบัติ มีผู้นำไปยิง แล้วประสบอุบติเหตุถึงแก่ชีวิตมาแล้ว)
    ๑.เหรียญเสมารูปเหมือน หลังยันต์พุทธนิมิต รุ่นแรก เนื้อทองเหลือง ชุบเงิน ๒๕๑๘ ออกงานผูกพัทธสีมาอุโบสถวัดศรีมณีวรรณ อ.มโนรมย์ พุทธคุณดีทุกด้าน ประสบการณ์ มีผู้รอดชีวิตจากการถูกยิง,ถูกแทง,อุบัติเหตุ และถูกปล้น เช่น ครูแหม่ม สอนที อ.มโนรมย์ ถูกโจรผลักล้ม ใช้เท้าเหยียบอก ควานหาสร้อยทอง ๓ บาทที่ห้อยเหรียญนี้เหรียญเดียวแต่ควานหาอย่างไรโจรก็หาไม่พบ จนมีพลเมืองดีประสบเหตุ โจรได้หนีไปมือเปล่า
    ๒. เหรียญรูปเหมือน หลังหลวงพ่อ ๓ พี่น้อง (พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของวัด) รูปไข่ เนื้อทองแดง ๒๕๑๘ ออกงานผูกพัทธสีมา พุทธคุณดีทุกทางประสบการณ์โดดเด่นทางแคล้วคลาด เช่น นายเจริญ พันธุ์รุ่งมณี ชาวลานสัก บัดกรีแบตเตอรี่รถบรรทุก บังเอิญไฟลัดวงจร แบตฯเกิดระเบิด นายเจริญเล่าว่าเหมือนมีแผ่นเหล็กขนาดใหญ่มากั้นตัวเขา จึงไม่มีน้ำกรดและเศษแบตฯมากระทบตนเองเลย, อีกครั้งหนึ่งบุคคลคนเดียวกันนี้ถูกไฟฟ้าแรงสูงนับหมื่นโวลด์ดูด ขณะเดินสายโทรศัพท์พลัดตกลงมาจากยอดเสา แต่ปลอดภัย
    ๓.เหรียญรูปเหมือน รุ่นสร้างเขื่อนอีซ่า ปี ๒๕๓๓ เนื้อทองแดงรมดำ หลังยันต์ครู ประสบการณ์โดดเด่นทางมหาอุด แคล้วคลาด คงกะพันชาตรี เช่น วัยรุ่น ชาวบ้านชายเขา ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัย ถูกคู่อริจับล็อกแขน แล้วปาดคอด้วยคัตเตอร์ใหญ่ แต่คัตเตอร์ไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย ,กลุ่มคนที่หลงผิด เช่น โจรเสือ ผ่านความตายมาทุกครั้ง หลวงพ่อให้ปฏิญาณตนให้เลิกอาชีพผิดกฎหมายประมาณ ๒๐๐ คน
    ๔.ตะกรุดโทนยันต์คู่ชีวิต เนื้อตะกั่ว ยาว ๓ นิ้ว ๕๕๖ ดอก,เนื้อทองเหลือง ยาวประมาณ ๓.๕ นิ้ว ประสบการณ์ มหาอุด แคล้วคลาด คงกะพันชาตรี กันสัตว์เขี้ยวเล็บงา งูพิษอ้าปากไม่ออก นายตำรวจ อ.มโนรมย์ (ขอสงวนนาม) รั้นเอาไปทดลองยิง แต่ยิงไม่ออก หลังจากนั้นถูกรถพ่วงทับตายชาวนครสวรรค์ผู้หนึ่ง (ปลายปี ๒๕๕๖) ถูกรถปิกอัพชน แล้วตามทับซ้ำ และขับหนีไป ชายผู้นี้ได้ลุกขึ้นได้เป็นปรกติ ไม่บาดเจ็บใดๆ เลยนายเล็ก ชาว อ.มโนรมย์ ถูกรถปิกอัพชน จนร่างกระเด็นขึ้นไปอยู่บนกระโปรงรถคันนั้น แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย (เกิดปลายปี ๒๕๕๖)
    ๕.มีดหมอ ด้ามเศียรฤาษี, มีดปากกา ๒.๕ นิ้ว ใบเหล็กขาว และ ขนาดใหญ่ ๕ นิ้ว (ใบเหล็กขาว และใบเหล็กแหนบ) รุ่นปัจจุบันสร้างเมื่อ ๒๕๕๐-๒๕๕๖ประสบการณ์และพุทธคุณ ป้องกันและขับภูตผีปีศาจร้าย สัตว์เขี้ยวเล็บงา กันคุณไสย ลมเพลมพัด(ของที่หมออาคมปล่อยโดยไม่เจาะจง) กันศาตราวุธ และกันภัยทั้งปวง (โดดเด่นมากๆ)
    ๖.คทาและไม้เท้า ประสบการณ์และพุทธคุณ กันสัตว์มีเขี้ยวงา เช่น เสือ วัว ควาย งูพิษ, กันอาวุธทั้งปวง,กันฤทธิ์ยักษ์, ปีศาจร้าย,เทวดารักษา,กันคุณคนคุณไสย, กันสารพัดภัย คุ้มบ้าน คุ้มตัว คุ้มรถ
    ๗.กุมารทอง แกะทีละองค์จากไม้กาฝากทอง (ทองกวาว) ใส่ขวดพร้อมน้ำมันจันทน์ เป็นรูปลักษณ์เด็กชาย ประจุพลังทิพย์ของหลวงพ่อวิชา ไม่ใช่เทพ ไม่ใช่ผี บูชาแล้วให้ตั้งชื่อเอาเอง เมื่อนำเข้าบ้านก็บอกว่าอนุญาตให้รับประทานข้าวปลาอาหารพร้อมกับตัวเราทุกครั้ง (บอกครั้งแรกครั้งเดียวก็ได้) บอกให้เฝ้าบ้าน,บอกให้เฝ้ารถ,บอกให้ติดตามคุ้มครอง, บอกให้ช่วยธุระในเรื่องต่างๆ, ให้ช่วยทำมาค้าขาย, ช่วยด้านคดีความ, ขอโชคลาภ ฯลฯ ประสบการณ์โดดเด่นในทุกๆ ด้าน เช่น ป้องกันรถยนต์และทรัพย์สินในรถ ขณะจอดในห้างใหญ่ที่เจ้าของลืมเลื่อนกระจกข้างขึ้น จนห้างปิด, ถูกงัดห้อง แต่โจรเอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง (ทั้งเงิน นาฬิกา พระเครื่อง) ,บอกหวยแก่ผู้ครบครองหลายครั้ง(เฉพาะในช่วงที่มีดวงได้), ช่วยให้รถยนต์ที่ขณะขับเกิดยางแตก แต่รถหยุดกึกอยู่กับที่ (เหตุเกิดที่ จ.อยุธยา)
    ๘.พระปิดตาชานหมาก มหาลาภ ๒๕๕๖ สร้างด้วยชานหมาก ผสมเกศา และมวลสารสำคัญๆ ๒๘ รายการ ประจุตะกรุดเงินทุกองค์ พุทธคุณ มหาเมตตา มหานิยม อุดมลาภ แคล้วคลาดกันสารพัดภัย เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ทำมาหากินและค้าขายดีประสบการณ์ที่ทราบขณะนี้คือ คนที่คล้องถูกลอตเตอรี่ ๓-๔ งวดติดกัน และแคล้วคลาดอันตราย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20241215_182115.jpg IMG_20241215_182149.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2024 at 16:12
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    IMG_5511.jpg
    สาธุ!! เมื่อมีคนบอกว่า หลวงปู่สี..เป็นพระที่ไม่น่านับถือ แต่หลวงพ่อฤาษีลิงดำกลับพูดว่า กราบฉันแสนครั้งยังไม่เท่าได้กราบหลวงปู่สีครั้งเดียว!!
    เรื่องราวปาฏิหาริย์และบารมีของหลวงปู่สีนั้นนับได้ว่ามีมากนัก ท่านได้รับขนานนามว่า พระอรหันต์ ๗ แผ่นดิน หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๒ ตรงกับปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ และท่านได้มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๐ ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ รวมอายุได้ ๑๒๘ ปี บวชพระมาได้ ๘๙ พรรษา เรื่องราวของบารมีของหลวงปู่สีนั้น แม้แต่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ได้กล่าวไว้ว่า
    "กราบฉันแสนครั้งยังไม่เท่าได้กราบหลวงปู่สีครั้งเดียว" เรื่องมีอยู่ว่า
    สืบเนื่องจากคณะชาวชลบุรีเกิดความ ศรัทธาหลวงปู่ที่หลวงปู่ได้ไปโปรดที่จังหวัดชลบุรี จึงตามมาหาหลวงปู่ถึงวัด ครั้นพอถึงเวลาฉันเพลแล้ว ชาวชลบุรีก็นำอาหารที่เตรียมมาถวายเพล ท่านก็ลุกขึ้นมานั่งยอง ๆ ฉันอาหาร โดยมีแมวและสุนัขนั่งล้อมหน้าล้อมหลัง ชาวจังหวัดชลบุรีกลุ่มนั้น เมื่อได้เห็นอากัปกิริยาของหลวงปู่เช่นนั้น คือนั่งไม่สำรวม ก็ไม่ศรัทธา จึงได้พากันเดินทางต่อไปยังวัดท่าซุง เพื่อกราบนมัสการหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พวกเขาได้เล่าให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำฟังถึงหลวงปู่สีว่า
    "เป็นพระที่ไม่น่านับถือ"
    แต่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านกลับตอบไปว่า
    "กราบฉันแสนครั้งยังไม่เท่าได้กราบหลวงปู่สีครั้งเดียว"
    ต่อมาภายหลังชาวชลบุรีกลุ่มนี้ก็กลับกลายมาเป็นศิษย์ที่นับถือหลวงปู่สีมาก ที่สุดกลุ่มหนึ่งอย่างไม่น่าเชื่อ และได้สร้างพระถวายหลวงปู่สีอยู่หลายรุ่น
    หลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค จ.นครสวรรค์ ปี๒๕๑๗ มีสร้างด้วยกัน ๔ สี คือ แดง ดำ เทา และ ขาว .. จัดสร้างโดยพระครูวิศิษฐ์สมโภชน์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ กทม. เพื่อนำปัจจัยไปสร้างศาลาและกุฎิสงฆ์ที่วัดบ้านเกิดของท่าน ซึ่งหลวงปู่สี ท่านก็อนุญาติตามนั้น มวลสาร ผงว่าน 108 - ดอกบัวบูชา หลวงพ่อพุทธโสธร - ผงธูปจากที่บูชาสมเด็จโตฯ วัดระฆังฯ - ผงธูปและดอกไม้จากศาลเจ้าพ่อหลักเมือง - ดอกไม้บูชาพระแก้วมรกต - ดอกไม้บูชาพระนอนวัดโพธิ์ - ชานหมาก น้ำหมาก และผงวิเศษของหลวงปู่สี แต่เพิ่มส่วนผสมผงปูน และเศษทองปิดองค์พระพุทธรูปปูนในวัดโพธิ์ท่าเตียนจำนวนมาก โดยกดพิมพ์กันที่วัดพระเชตุพนฯ แล้วจึงนำไปให้หลวงปู่สีปลุกเสกเดี่ยว ..มีประสบการณ์เรื่องเมตตา มหานิยม มหาลาภเด่นดังมาก สภาพสวย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับจากเว็บไซต์ต่างๆ
    วรรณสีพระเรียกว่าสีแก่น้ำหมาก
    ให้บูชา 450 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทครับ
    1373912-53a6a.jpg

    IMG_20241216_204348.jpg IMG_20241216_204423.jpg
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    9s.jpg

    พระครูอุดมวิชชากร (เหมือน อินทโชโต) เป็นชาวชลบุรีโดยกำเนิดนามเดิมชื่อ เหมือน ถาวรวัฒนะ บิดาชื่อตึ๋ง มารดาชื่อปุ่น มารดาเป็นน้องสาวพระครูชลโธปมคุณมุนี (หลวงพ่อเจียม) อดีตเจ้าอาวาสวัดกำแพง เกิดวันอังคารที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๓๖ ปีมะเส็ง สมัยรัชกาลที่ ๕ อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๖ พระอธการจั่น วัดเสม็ด องเมือง จ.ชลบุรี เป็นพระอุปัชชายะ เมื่ออุปสมบทได้ ๖ พรรษา ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกำแพงต่อจากพระอธิการหมอน เพิ่งได้ลาสิกขาไปปี พ.ศ. ๒๔๖๒ ได้รับพระราชฐานสมณศักดิ์เป็นพระครูอุดมวิชชากร พ.ศ.๒๔๙๕ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลบางปลาสร้อย เขต ๒ พ.ศ.๒๕๐๒ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งพระอุปัชชาย์ และเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูเจ้าคณะตำบลชั้นเอก พ.ศ. ๒๕๒๒ หลวงพ่อเหมือนศึกษาไสยเวทย์ วิทยาคม จากหลวงพ่อเจียมผู้เป็นลุงแห่งสำนักวัดกำแพงแห่งนี้ ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้มากมาย เป็นที่เสาะแสวงหาของชาวเมืองชลและชาวภาคตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระปิดตาปี พ.ศ. ๒๕๐๐ แะเหรียญรุ่นแรกซึ่งเสาะแสวงหาบูชาได้ยากยิ่ง หลวงพ่อเหมือนเป็นพระที่มีอายุยืนยาวพูดน้อย ประพฤติดี ปฏิบัติดี สงบเสงี่ยม เรียบร้อย สุขุม เยือกเย็น มีเมตตาสูง ลูกศิษย์ลูกหามากมาย วิทยาคมสูงล้ำทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด โชคลาภค้าขาย ท่านเป็นผู้มีคุณูประการต่อการศึกษาของลูกหลานชาวชลบุรีเป็นอย่างมากเป็นผู ก่อตั้งโรงเรียนวัดกำแพง ก่อตั้งมูลนิธิพระครูอุดมวิชชากร เพื่อนำดอกผลอันมาจากที่ดินรวมถึงทรัพยสินของวัดให้การสนับสนุนการศึกษาแก่ กุลบุตร กุลธิดาของเหล่าญาติโยม เป็นองค์อุปถัมย์ยุวพุทธิกสมาคมชลบุรีมาแต่ยุคเริ่มก่อตั้ง เป็นพระเกจิอาจารย์ในยุคปีพ.ศ. ๒๕๐๐ ที่รับหน้าที่ปลุกเสกประพรมน้ำพระพุทธทนต์ตอนปีใหม่รวมถึงวัตถุมงคลแก่ชาว ชลบุรีทุกปี มาเป็นเวลาอันยาวนาน จนถึงมรณภาพ หลวงพ่อเหมือนมรณภาพ วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ ศิริอายุรวม ๙๒ ปี พรรษา 71
    ไม่ธรรมดา’
    เมื่อไฟพระราช ทานมาถึงก็บังเกิดเหตุที่ไม่น่าเป็นไปได้ขึ้น ด้วยมีลมพายุอันแรงกล้าพัดกระหน่ำลงในบริเวณวัดอย่างรุนแรง... แรง...ขนาดที่ว่าต้นไม้ใหญ่หน้ายุวพุทธิกสมาคม ชลบุรี ถึงกับถอนรากล้มตึงลงทีเดียว ผู้คนตระหนกตกใจกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าอันไม่ทันตั้งตัวนี่ยิ่งนัก
    เมื่อ ลมร้ายฟาดงวงฟาดงาจนเต็มที่แล้วก็พลันสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว จนไม่อยากจะเชื่อว่าเมื่อกี้นี้มีมหาวาตภัยเกิดขึ้นในวัด ความเสียหายปรากฏอยู่ทั่วบริเวณ แต่ที่น่าอัศจรรย์คือ เครื่องประดับประกอบเมรุไม่มีอะไรเสียหายเลย กระทั่งพวงหรีดหรือดอกไม้บูชาต่าง ๆ ในแจกันก็ไม่ล้มลงเลยแม้แต่อันเดียว
    ผมเคยถามพระภาวนาจารย์ผู้เป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ท่านหนึ่งว่า
    “เมื่อเทพมาชุมนุมกันมาก ๆ จะเป็นเหตุให้เกิดลมอย่างนั้นหรือ”
    ท่านตอบทันทีว่า “ใช่”
    ก็ ท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิงในพรหมจรรย์ ย่อมเป็นเหตุให้เทพพรหมพึงใจแลเคารพรักยิ่ง เมื่อวันต้องพรากสังขารท่านไปด้วยไฟ ท่านผู้ลี้ลับซึ่งอยู่ต่างภพภูมิจึงแสดงอาการอาลัยอาวรณ์เป็นครั้งสุด ท้าย
    ความเป็น หลวงปู่เหมือน ไม่อาจทำให้ท่านโด่งดังได้เฉกเช่น หลวงปู่แหวน สุจิณโณ อาจเป็นด้วยจริยาวัตรที่อ่อนโยนไม่มุทะลุดุดันดังเช่นบางอาจารย์หรือไม่ก็เป็นเพราะ บารมี ของท่านที่สั่งสมมา แบบเงียบ ๆ อย่างนั้นเอง
    แต่ความ ‘ดังเงียบ’ ของท่านก็ดังไกลไปถึงดอยแม่ปั๋ง เมื่อมีคนเมืองชลกลุ่มหนึ่งนำทีมโดยบิดาของเพื่อนผม จัดรถทัวร์หอบลูกน้ำเค็มไปกราบพระภูเขาถึงถิ่น เมื่อพระเลือดอีสานนามลือชาถูกพระอุปัฏฐากเข็นรถออกมา ชาวชลบุรีก็กรูเข้าไปกราบ ครั้นหลวงปู่แหวนทักทายไปสักหน่อย ท่านก็เอื้อนเอ่ยว่า
    “มาจากไหน”
    ชาวชลบุรีก็ตอบอย่างภาคภูมิใจกับการเดินทางมาราธอนว่า
    “มาจากชลบุรี”
    คำถามต่อมาคือ
    “พระดีเมืองชลก็มี ทำไมมาถึงนี่ ท่านวัดกำแพงน่ะ”
    เอ ! ใครคือ ท่านวัดกำแพง คนอะไรชื่อแปล๊ก แปลก พอสติแล่นก็ อ๋อ ! หลวงปู่เหมือน นั่นเอง
    ครั้นกลับจากวัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ วัดกำแพงก็คลาคล่ำไปด้วยนักแสวงบุญลูกน้ำเค็มผู้มองไกล จนลืมใกล้
    อะไร ? ที่ทำให้หลวงปู่แหวนเอ่ยปากถึง ‘ท่านวัดกำแพง’ ก็ในเมื่อหลวงปู่แหวนไม่เคยมาชลบุรี และ ‘ท่านวัดกำแพง’ ก็ไม่เคยไปเชียงใหม่ ท่านรู้จักกันได้อย่างไร ? ค้นความจริงยากเหลือเกิน ขอโยนเรื่องไปที่ ‘ญาณ’ อันสูงสุดจะคาดเดาของท่านทั้งสองก็แล้วกัน
    ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้มากมาย เป็นที่เสาะแสวงหาของชาวเมืองชลและชาวภาคตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระปิดตาปี พ.ศ. ๒๕๐๐ แะเหรียญรุ่นแรกซึ่งเสาะแสวงหาบูชาได้ยากยิ่ง หลวงพ่อเหมือนเป็นพระที่มีอายุยืนยาวพูดน้อย ประพฤติดี ปฏิบัติดี สงบเสงี่ยม เรียบร้อย สุขุม เยือกเย็น มีเมตตาสูง ลูกศิษย์ลูกหามากมาย วิทยาคมสูงล้ำทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด โชคลาภค้าขาย
    ท่านเป็น ผู้มีคุณูประการต่อการศึกษาของลูกหลานชาวชลบุรีเป็นอย่างมากเป็นผูก่อตั้ง โรงเรียนวัดกำแพง ก่อตั้งมูลนิธิพระครูอุดมวิชชากร เพื่อนำดอกผลอันมาจากที่ดินรวมถึงทรัพยสินของวัดให้การสนับสนุนการศึกษาแก่ กุลบุตร กุลธิดาของเหล่าญาติโยม เป็นองค์อุปถัมย์ยุวพุทธิกสมาคมชลบุรีมาแต่ยุคเริ่มก่อตั้ง เป็นพระเกจิอาจารย์ในยุคปีพ.ศ. ๒๕๐๐ ที่รับหน้าที่ปลุกเสกประพรมน้ำพระพุทธทนต์ตอนปีใหม่รวมถึงวัตถุมงคลแก่ชาว ชลบุรีทุกปี มาเป็นเวลาอันยาวนาน
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญ ล.ศ.ช.หลวงปู่เหมือน
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20241217_131141.jpg IMG_20241217_131209.jpg
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    12316438_1141366969248801_5020729797854453532_n.jpg
    เหรียญหลวงพ่อแช่ม รุ่นสร้างโรงพยาบาล ปี2535 ประวัติการสร้างเหรียญรุ่นนี้
    เมื่อ หลวงพ่อแช่มได้รับอุปถัมภ์สร้างตึกคนไข้พิเศษ โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม (พ.ศ.๒๕๓๕) เป็นตึก ๔ ชั้น ขณะนั้นหลวงพ่อแช่มอายุ ๘๕ ปี การสร้างตึกคนไข้พิเศษต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้าง จำนวน ๒๕ ล้านบาท จึงได้มีการจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อแช่มขึ้นมา เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม สร้างเป็นเหรียญรูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อแช่มครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่พาดสังฆาฏิ ด้านหนังเป็นยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ ตามแบบฉบับของหลวงพ่อแช่ม สร้างเป็นเนื้อทองคำ เงิน นวะโลหะ และทองแดง
    ใน ครั้งแรก คณะกรรมการสร้างวัตถุมงคลเหรียญหลวงพ่อแช่มรุ่นดังกล่าวจะจัดพิธีพุทธาภิเษก นิมนต์พระเกจิอาจารย์ในจังหวัดนครปฐมมาร่วมนั่งปรกปลุกเสก จึงได้เข้าไปปรึกษาหลวงพ่อแช่ม เมื่อหลวงพ่อแช่มได้ฟังท่านก็นั่งนิ่งแล้วต่อมาก็ยิ้มๆ ด้วยความเมตตา แล้วก็ปรารภว่า “ไม่เป็นไร ฉันเชื่อว่าฉันทำได้ ชาติเสือไม่ต้องขอเนื้อใครกิน” ด้วยเหตุนี้เองหลวงพ่อแช่มและหลวงพ่ออวยพรจึงได้ร่วมกันปลุกเสกเหรียญรุ่น พิเศษ สร้างตึกคนไข้โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม พิธีปลุกเสกจัดขึ้นเวลากลางคืนที่ตึกกรรมฐานบูรพาจารย์ของวัดดอนยายหอม โดยหลวงพ่อแช่มเป็นผู้จุดเทียนชัย หลังจากนั้นท่านก็นั่งบริกรรมภาวนา โดยมีหลวงพ่ออวยพรร่วมนั่งปรกปลุกเสกด้วย เมื่อนั่งปรกไปได้ระยะหนึ่งปรากฏมีเสียงระเบิดขึ้นที่หลังคาหอกรรมฐาน คณะกรรมการวัดจึงปีนขึ้นไปดู พบว่ากระเบื้องหลังคาแตกเป็น รูใหญ่ ทุกคนเชื่อว่าเป็นพลังจิตตานุภาพของหลวงพ่อแช่มและหลวงพ่อพระครูอวยพรที่ นั่งปรกแผ่กระแสจิตออกมาอย่างเต็มที่จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้พากันเรียกเหรียญหลวงพ่อแช่มรุ่นนี้ว่า “รุ่นหลังคาระเบิด” ประชาชนที่ทราบข่าวพากันมาเช่าบูชาเหรียญรุ่นหลังคาระเบิดอย่างเนืองแน่น ทั้งนี้เพราะเชื่อมั่นว่าเหรียญรุ่นนี้มีพลังพุทธคุณสูงเป็นพิเศษ ทำให้ได้เงินสมทบทุนสร้างตึกคนไข้พิเศษสำเร็จเสร็จสิ้นภายในปีเดียว รวมงบประมาณ ๒๕ ล้านบาทเศษ โรงพยาบาลศูนย์นครปฐมได้ตั้งชื่อตึกดังกล่าวนี้ว่า “อาคารพระครูเกษมธรรมานันท์ (หลวงพ่อแช่ม)” และได้หล่อรูปเหมือนหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอมไว้ที่หน้าตึก เพื่อให้คนได้สักการบูชา และลำลึกถึงคุณความดีที่ท่านได้อุปถัมภ์จนสามารถสร้างอาคารหลังนี้ได้เป็นผล สำเร็จ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    บูชา 270 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20241217_131249.jpg IMG_20241217_131334.jpg
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,770
    ค่าพลัง:
    +21,343
    get_auc1_img (12) (1).jpeg

    หลวงพ่อมหาโพธิ์ท่าน มรณะภาพ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2549 สิริอายุ 86 ปี
    ประวัตท่านบางส่วนครับ
    ฝึกวิชา
    พระอาจารย์บุญยังได้พยายามถ่ายทอดวิชาต่างๆ ด้านพุทธคุณให้ ตอนแรก ๆ หลวงพ่อไม่สนใจ แต่เมื่ออยู่กับท่านนาน ๆ ไปหลวงพ่อเริ่มมีความสนใจขึ้น เห็นพระอาจารย์ท่านทำอะไร ๆ แปลกๆ ให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ เช่น ทำควายธนูด้วยตอกสาน โดยสานมือเดียวแล้ววางไว้ ควายธนูก็มีการขยับเขยื้อนได้ เสกน้ำมันจนเดือดเหมือนน้ำร้อน ฟองเดือดขึ้นมา แต่เมื่อไปสัมผัสด้วยมือกลับไม่ร้อน ทำให้ท่านอยากจะเรียน พระอาจารย์ของหลวงพ่อก็ถ่ายทอดให้ทั้งคาถาปลุกเสก และวิธีฝึก
    วิชาเกราะเพชร
    วิชาหนึ่งที่ท่านชอบและฝึกมาตั้งแต่ต้น คือ “ยันต์เกราเพชร” หรือตาข่ายเพชร โดยหลวงพ่อบุญยังได้เล่าให้ท่านฟังว่าสมัยหลวงปู่ศุข ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ลองวิชาเกราะเพชรกับพระะรูปหนึ่ง ที่แก่กล้าวิชาที่เดินทางผ่านวัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยบอกหลวงปู่สุขว่าจะขี่ม้าพยนต์เข้ามาในโบสถ์ให้ดู หลวงปู่ศุขท่านได้เอาผ้ายันต์เกราะเพชรขึงไว้หน้าประ ตู ปรากฎว่าม้าพยนต์ไม่สามารถผ่านยันต์เกราะเพชรหรือตาข ่ายเพชรไปได้ พระรูปนั้นเมื่อแพ้วิชาของหลวงปู่ศุข ก็ได้เดินทางกลับไปจากวัดปากคลองมะขามเฒ่าเมื่อหลวงพ ่อมหาโพธิ์ได้ฟังจากหลวงพ่อบุญยังเล่าท่านจึงสนใจและ เล่าเรียนวิชาเกราะเพชรลงตระกรุด และผ้ายันต์เกราะเพชรมาตลอดอายุของท่าน
    การลงยันต์เกราะเพชร ต้องท่องสูตรคาภาพระอิติปิโสรัตนมาลา ๕๖ บาท ให้ได้จนขึ้นใจทั้งเดินหน้า และถอยหลังได้รวมทั้งบทปลีกย่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ในการลงยันต์เกราะเพชร ท่านบอกว่ายันต์เกราะเพชร เป็นยันต์ที่ค่อนข้างยากผู้เรียกจะต้องมีความขยันหมั ่นเพียร กับความอดทน และการประสิทธิ์ประสาทจากครูบาอาจารย์ น้อยคนนักที่จะลงยันต์เกราะเพชรได้ บางคนมาขอเรียนเห็นพระคาถา ๕๖ บาท ก็ท้อแล้วไม่อยากจะท่องจำ ความเพียรพยายามไม่มี การลงยันต์ก็ต้องหายใจลงตามสูตรพระคาถา ๕๖ บาท ผู้ที่ฝึกฝนใหม่ ๆ ต้องใช้เวลาเรียนเกือบทั้งวันกว่าจะลงยันต์เสร็จ อย่างตัวของหลวงพ่อเองใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่งโมง ถือว่าลงได้เร็วมากแล้วเพราะท่านฝึกมา ตั้งแต่อายุยังรุ่นอยู่
    ในสมัยก่อนยามว่าง ท่านมักลงตระกรุดเกราะเพชรและทำผงพุทธคุณเกราะเพชรทั ้งชนิดป้องกันตัว และถอนคุณถอนของคนที่ถูกผีเข้า ท่านจะเอาตะกรุดเกราะเพชรที่เป็นแผ่นแบบยังไม่ได้ม้ว นเป็นตะกรุด ตบหัวคนถูกผีเข้า ผีจะทรุดลง และออกจากตัวคนไข้ไปทันที ตะกรุดส่วนใหญ่ท่านจะใช้แผ่นทองแดงมาลงยันต์เกราะเพช ร ยกเว้นแผ่นถอนของท่านจะใช้แผ่นตะกั่ว ส่วนตะกรุดเนื้อเงินท่านจะลงให้เฉพาะกับศิษย์ใกล้ชิด เท่านั้น เกี่ยวกับประสบการณ์ในตะกรุดเกราะเพชร มี ส.ส.ท่านหนึ่งใน จ.ชันนาท ที่เคารพนับถือหลวงพ่อมากได้ขอตะกรุดท่านไปใช้พกติดต ัว ขณะหาเสียงถูกผู้ที่ปองร้ายใช้ระเบิดปาใส่ ปรากฏว่า ส.ส.ท่านนั้นไม่เป็นอะไรเลย วิชาลงตะกรุดใต้น้ำ
    หลวงพ่อบุญยังได้เรียนวิชาตะกรุดใต้น้ำจากหลวงปู่ศุข โดยสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ลงให้กับลูกศิษย์ทุกปี แม้กระทั่งพระสมุห์กลับ แสงเขียว ก็ยังขอให้ท่านช่วยลงตะกรุดใต้น้ำที่วัดดอนตาลให้ โดยก่อนที่จะประกอบพิธีจะต้องตั้งเครื่องบูชาครูริมแ ม่น้ำ และต้องตอกเสาหลักไว้ในน้ำสำหรับผู้ที่จะลงตะกรุดเกา ะไว้ ไม่อย่างนั้นจะถูกน้ำพัดลอยไปตามกระแสน้ำ ตะกรุดจะลง และปลุกเสกใต้น้ำเสร็จแล้วจะปล่อยให้ลอยขึ้นมาบนผิวน ้ำ พวกลูกศิษย์ก็จะแจวเรือคอยเก็บอยู่ข้างบน หลวงพ่อบุญยังเล่าให้หลวงพ่อบุญยังฟังว่าน้ำที่
    วัดดอนตาลน้ำเย็นเหลือเกิน หลวงพ่อมหาโพธิ์เล่าว่า ท่านเคยขอเรียนวิชาตะกรุดใต้น้ำนี้จากท่านอาจารย์บุญ ยัง ซึ่งอาจารย์ท่านก็รับปากถ่ายทอดให้แต่ต้องเรียนในวัน เพ็ญเดือน ๑๒ แต่ยังไม่ทันถึงเดือน ๑๒ หลวงพ่อบุญยังก็มรณะภาพลงเสียก่อนเมื่ออายุได้ ๕๕ เป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก ที่หลวงพ่อท่านเรียนจากพระอาจารย์ไม่ทันจึงทำให้วิชา นี้สูญไป
    เกี่ยวกับวันที่หลวงพ่อบุญยังมรณภาพ ชาวบ้านแถบวัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้เห็นลูกๆไฟดวงใหญ่ลอยเดินทางไปยังวัดหนองน้อย และได้ลอยกลับมาโดยมีลูกๆไฟดวงเล็กตามมาด้วยเป็นที่ตื อันตาตื่นใจแก่ผู้คนในสมัยนั้นมากเล่าขานกันมาจนถึงปัจุบันนี้
    ชีวิตฆราวาส
    ท่านได้สมรสกับ นางสุขใจ เป็นผู้ที่ค่อนข้างจะมีฐานะดีในจังหวัดชัยนาท แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ได้มีร้านค้าขายของชำอยู่ในอำเภอวัดสิงห์ ยามว่างท่านก็จะไปศึกษาวิชาความรู้ทางไสยศาสตร์กับ พระสมุห์กลับ แสงเขียว วัดดอนตาล ซึ่งถือกันว่าเป็นศิษย์มือขวาของหลวงปู่ศุขเลยทีเดีย ว พระสมุห์กลับภายหลังท่านสึกจากพระเสียอีก
    ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ หลวงพ่อมหาโพธิ์ซึ่งตอนนั้นท่านอยู่ในเพศฆราวาส ท่านได้ลงสมัครเลือกตั้งเป็น เทศมนตรีเทศบาล อำเภอวัดสิงห์ ในวาระ ๔ ปำถึง ๒ สมัย รวมเป็น ๘ ปีถึง พ.ศ.๒๕๐๗ ท่านได้เล่าไห็ฟังว่าตอนหาเสียงท่านก็ไม่ค่อยได้ออกไ ปหาเสียงที่ไหนอยู่ในร้านค้าของท่านในอำเภอวัดสิงห์ ค้าขายของไปวัน ๆ หนึ่ง แต่อาศัยที่ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาไสยศาสตร์จากหลว งพ่อบุญยัง และพระสมุห์กลับ ด้วยอานุภาพความศักดิ์ของวิชา นะฤาชา ที่หลวงพ่อบุญยัง ถ่ายทอดไห้มาเป็นพิเศษ จึงทำให้ท่านเป็นที่รู้จักเลื่องลือไปทั้งอำเภอวัดสิ งห์ เป็นที่นิยมชมชอบของประชาชน อำเภอวัดสิงห์ ท่านลอกว่าท่านไม่ต้องไปเหนื่อยกับการหาเสียงเลย ประชาชนทั่วไปเลือกท่านเป็นเทศมนตรีเทศบาล อำเภอวัดสิงห์ ถึง ๒ สมัย จนในปี ๒๕๑๗ กระทรวงมหาดไทยมอบใบประกอบในประกาศนียบัตร ชมเชยในการทำงานของท่าน ที่พัฒนา อำเภอวัดสิงห์ ให้มีความเจริญก้างหน้าแก่ ท้องถิ่น หลังจากที่ท่านได้หมดวาระในตำแหน่งเทศมนตรีไปแล้ว ๙ ปี
    เหตุที่กลับมาบวช
    หลวงพ่อมหาโพธิ์ท่านได้เล่าว่า ชีวิตของท่านมีความผูกพันกับวัดเสมอห่างจากวัดไม่ได้ แม้จะครองเพศฆราวาสก็ต้องวนเวียนอยู่กับวัด ก่อนที่ท่านจะกลับมาบวชจิตใจก้รุดมร้อน ทำอะไรก็เหมือนคนเสียสติ จนต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาตัวโดยไม่มีสาเหตุของโรค จนมีอยู่วันหนึ่งขณะนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ท่านได้ลุกขึ้นมาเขียนยันต์ต่าง ๆ ตลอดจนยันต์ครูที่ท่านเคยเรียนมา ได้ทิ้งไปนานไม่ได้ทบทวนเลย ซึ่งในเพศฆราวาสท่านก็ไม่ได้ฝึกฝนทบทวนต่อ เพราะเวลาว่างใหญ่จะไปทางโลกหมด ต้องวุ่นวายกับครอบครัวเรื่องการทำมาหากินเวลาปฏิบัต ิทางธรรมทางวิชาคุณพระก็หย่อนยานไป ขาดการไหว้ครูทุก ๆ ปี ก็เลยทำให้ท่านผิดปรกติ แต่ก็ดลจิตให้นึกขึ้นมาได้ ว่าสาเหตุจากแรงครูนี้เองโดยไม่ต้องให้แพทย์รักษา ในปี พ.ศ.๒๕๐๙ ท่านก็ได้เข้ามาสู่สมณเพศ อุปสมบทเป็นพระภิกษุอีกครั้งที่วัดพานิชนาราม อำเภอวัดสิงห์ จ.ชัยนาท โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ พระครูสิงหชยสิชฌน์ (เจริญ) พระกรรมวาจารย์ พระคูครูแบน เจ้าอาวาสวัดโคกสุข และพระแช่ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ ๒๖ เดือน มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๙ เวลา ๑๖.จ๕ น.และได้มาตำพรรษา สังกัดวัดโคกสุข ต.หนองน้อย อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาม จนถึงปี พ.ศ. ๒ษ๕๑๓ ได้ย้ายมาตำพรรษาอยู่ ณ วัดคลองมอญ ในวันที่ ๒๖ กันยายน เพราะวัดคลองมอญในเวลานั้นเกือบจะเป็นวัดล้างอยู่แล้ วไม่มีพระภิกษุจำพรรษาอยู่เลย ชาวบ้านที่อาศัยแถววัดคลองมอญ ได้นิมนต์ท่านให้มาปกครองวัดคลองมอญอยู่หลายครั้ง จนท่านต้องมาเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดคลองมอญ ได้สร้างความเจริญให้กับวัดคลองมอญเป็นอันมาก
    กิตติคุณของหลวงพ่อ
    ซื่อเสียงของท่านล่ำลือไปไกลหลายจังหวัด ในเรื่องการรักษาโรคต่าง ๆ ที่ไม่มีสาเหตุ ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันรักษาไม่ได้ บางคนต้องมารักษาเป็นแรมเดือน ตอนนั้นท่านอยู่ในโบสถ์ รักษาคนไข้โรคแปลกๆ มีทั้งคนถูกคูณถูกของ ทั้งเสน่ห์เล่ห์กลต่าง ๆ น้ำมันพรายฯลฯ บางคนป่วยปางตายท่านก็รักษาจนหายมีชีวิตอยู่รอดได้ ผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากต่างก็มานมัสการท่านขอความเมต รตาจากท่านๆก็ได้สงเคราะห์ให้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหน ื่อย ไม่เลือกชั้น วรรณะ ให้ ความเสมอภาคกับทุกๆ คนเสมอมา จนถึงปี พ.ศ. ๑๔๒๖ ท่านก็ได้หยุดรักษาคนไข้ ประกอบกับอายุสังขารท่าน ก็ชราภาพมากแล้วจึงต้องได้รับการพักผ่อน บำรุงรักษาร่างกายให้มีสุขภาพดี เป็นเนื้อนาบุญให้กับลูกศิษย์ และญาติโยม จะได้พึ่งบารมีของท่านไปได้อีก นาน ๆ จนถึงปัจจุบันนี้ (พ.ศ.๒๕๔๔ ) หลวงพ่อมาหาโพธิ์ญาณสังวโร เป็นทายาทศิษย์สายตรงของหลวงปู่ศุข ที่ถ่ายทอดตำราคัมภีร์ด้านพุทธคุณในศิษย์รุ่นที่ ๓ ที่ได้รับมาแต่ผู้เดียว
    การรักษาโรค
    หลวงพ่อมหาโพธิ์ท่านได้สอนวิธีการรักษาให้กับผู้เขียนในตัวผู้ป่วยที่อยู่ในอาการต่างๆ อาการอย่างไรควรรักษาด้วยวิธีการใด บางคนเป็นแผลเน่าไปทั้งตัว เคยไปรักษาที่โรงพยาบาล หมอปัจจุบันบอกว่าเป็นมะเร็ง รักษาอยู่หลายปีไม่หาย ได้ยินชื่อเสียงของหลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาติพี่น้องได้พามารักษาที่ วัดคลองมอญ เมื่อหลวงพ่อดูอาการแล้วบอกว่า “โดนผีคุณ” ไม่ไช่มะเร็งหลวงพ่อท่านได้ใช้ปูนกับน้ำมนต์รักษาคนไ ข้ ใช้มีดหมอสับ และไม้เท้ากดตามตัวคนไข้ ก่อนทำการรักษาต้องมีดอกไม้ ธูปเทียน และเงิน ๖ บาทสลึงเป็นค่าบูชาครู และต้องบนครูด้วยว่า เมื่อหายจากอาการป่วยแล้วจะถวายครูด้วยไก่ ๑ ตัว, เหล้าขาว ๑ ขวด ,กล้วย ๑หวี, ข้าวสาร ๑ ถ้วย , และเงิน ๖ บาทสลึง เป็นสิ่งที่แปลกผู้คนส่วนมาก ที่มารักษาจากหลวงพ่อหายจากโรคร้ายทุกคน เมื่อถึงวันไหว้ครูจะมีผู้คนมามากมายถวายขวัญข้าวครู เต็มโบสถ์ไปหมดแทบจะไม่มีทางเดินเลย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญเกราะเพชร กองพลที่๑ เหรียญใหญ่ ขนาด ๑.๕ นิ้ว สร้างน้อย และ หายากกว่า เหรียญเล็ก
    ให้บูชา
    500 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20241217_131407.jpg IMG_20241217_131455.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2024 at 01:41

แชร์หน้านี้

Loading...