“เหมอัศวาราม” วัดไทยแห่งแรกในจีน เปิดสัมพันธ์มิติใหม่มหายาน-เถรวาท

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย สังขารไม่เที่ยง, 3 สิงหาคม 2012.

  1. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    “เหมอัศวาราม” วัดไทยแห่งแรกในจีน เปิดสัมพันธ์มิติใหม่มหายาน-เถรวาท

    วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม 2555 เวลา 00:00 น.
    [​IMG]
    <!-- /.images-list-items -->[​IMG]
    <!-- /.images-list-items -->[​IMG]
    <!-- /.images-list-items -->[​IMG]
    <!-- /.images-list-items -->
    <!-- /.images-list-container -->
    <!-- /.images-list-wrapper -->[​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    <!-- /.slide-container -->
    <!-- /.slide-wrapper -->
    <!-- /.more-img -->

    <!-- /.featured-img -->
    <!-- /.content -->
    <!-- /.content -->
    <!-- /.content -->
    <!-- /.content -->
    <!-- /#featured-caption -->ไม่ง่ายนักที่วัดไทยนิกายเถรวาท จะได้มาผูกพัทธสีมา ฝังลูกนิมิตบนผืนแผ่นดินมังกร สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีความยิ่งใหญ่ทางด้านเศรษฐกิจ และมีอิทธิพลในเวทีโลก ที่สำคัญพื้นที่ที่เราชาวไทยได้มาจัดสร้างวัดนั้นยังอยู่ในที่ของวัดไป๋หม่าซื่อ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดม้าขาว ในเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนานของจีน ซึ่งเป็นวัดสำคัญมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะเป็นวัดในพระพุทธศาสนาแห่งแรกของจีน ที่มีอายุยาวนานเกือบ 2,000 ปี
    วัดไทยที่ถือกำเนิดเป็นแห่งแรกในจีนนี้ ได้รับการขนานนามว่า “วัดเหมอัศวาราม”หรือวัดม้าทอง ซึ่งเชื่อว่า หลายคนยังคงไม่คุ้นและยังไม่เคยเห็น เพราะวัดแห่งนี้ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะผู้แทนสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพิ่งได้เดินทางจากเมืองสยามมาผูกพัทธสีมา และฝังลูกนิมิตเป็นวัดอย่างสมบูรณ์แบบถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมี พระพรหมสิทธิ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ในฐานะรองประธานที่ปรึกษาโครงการจัดสร้าง วัดเหมอัศวาราม และพระเถรานุเถระกว่า 300 รูป เข้าร่วมประกอบพิธี
    ในวันประกอบพิธี อาจารย์ยิ่นเล่อ เจ้าอาวาสวัดม้าขาว พร้อมคณะสงฆ์ของวัดให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น คณะสงฆ์ไทยได้เข้าไปสักการะพระประธานในอุโบสถจีน ได้ชมทัศนียภาพอันงดงามของวัด เดินผ่านเส้นทางตามสวนของวัดเชื่อมออกไป ก็จะพบกับซุ้มประตูวัดเหมอัศวารามที่งดงามตามแบบไทย พอเดินเข้ามาในพื้นที่นึกว่าอยู่ในประเทศไทย ซึ่ง วัฒนา อัศวเหม ผู้ถวายทุนจัดสร้างวัด ให้ข้อมูลว่า วัดไป๋หม่าซื่อได้มอบพื้นที่ 7.5 ไร่ ให้จัดสร้างและได้พาพวกเรามายืนในสถานที่จริง ก็ทำให้รู้ว่า พื้นที่ขนาดเท่านี้ สร้างวัดได้ขนาดกำลังดี และดูงดงามยิ่งนัก
    ในพื้นที่วัดที่เห็นเด่นเป็นสง่า คือ อุโบสถทรงไทย หน้าบันประดิษฐาน พระราชลัญจกร ภปร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และครุฑ ตราประจำแผ่นดิน รูปทรงอุโบสถคล้ายกับพระอุโบสถวัดสระเกศฯแต่มีขนาดย่อส่วนลงมาตามขนาดของพื้นที่ ภายในอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธชินราชจำลอง พุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก รอบอุโบสถจะมีกำแพงแก้วคล้ายวัดโบราณกำหนดเขตพัทธสีมา
    ทางเข้าหน้าอุโบสถจะมีม้าทอง 2 ตัว เป็นสัญลักษณ์ของวัด ถัดมาจากอุโบสถ โดยยืนหันหน้าเข้าพระประธาน ขวามือจะมีกุฏิทรงไทย กลมกลืนกันทั้งวัด ด้านซ้ายมือเป็นหอกลอง หอระฆัง ที่สำคัญกำลังมีการก่อสร้าง ภูเขาทองจำลองจากวัดสระเกศฯ สูง 29 เมตร ซึ่งจะแล้วเสร็จในอีก 8 เดือนข้างหน้า จะทำให้วัดแห่งนี้สง่างามมากขึ้นไปอีก ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีตึกพิพิธภัณฑ์ ศาลารับรอง โรงครัวพร้อมห้องน้ำ ศาลาปฏิบัติธรรม พร้อมรองรับพุทธศาสนิกชนอีกด้วย
    กว่าที่จะมาเป็นวัดที่งดงามอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย พระพรหมสิทธิ ในฐานะรองประธานโครงการจัดสร้างวัดฯ ได้เล่าให้ฟังว่า ต้องใช้เวลาสร้างวัดเหมอัศวารามกว่า 2 ปี โดยที่เราใช้พื้นที่ของวัดม้าขาว เนื่องจากเห็นว่าเป็นวัดประวัติศาสตร์ มีความเป็นมาอันยาวนานยิ่งใหญ่ในอดีต เพราะพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นมา 2,000 ปี ในจีน
    โดยเริ่มจากนำพระสงฆ์จากอินเดียมาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ เปิดคำว่า หลักธรรมคำสอนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนเผยแผ่ไปทั่วแผ่นดินจีน ซึ่งปัจจุบันนี้ ความยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะวัดที่เป็นศิลปวัฒนธรรม ที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย เกิดขึ้นที่วัดแห่งนี้ คนที่เข้ามาจะเห็นวัดไทยตั้งอยู่คู่กับวัดจีนหรือมหายานที่นี่ ดังนั้นในอนาคตสถานที่แห่งนี้จะยิ่งใหญ่ ที่ชาวพุทธทั่วโลกจะได้มาชมศิลปวัฒนธรรมระหว่างไทยและจีนร่วมสมัยในพื้นที่เดียวกัน
    “อยากจะให้ทุกคนรับรู้ร่วมกันว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวัดแห่งนี้ ก็คือ คนไทยที่ได้สละทุนทรัพย์มหาศาลมาก่อสร้างจนกลายเป็นวัดที่งดงาม จนทำให้คณะสงฆ์จากประเทศไทยเกือบ 300 รูป ได้เดินทางมาวัดแห่งนี้เพื่อประกอบพิธีสังฆกรรม ผูกพัทธสีมา ฝังลูกนิมิตอุโบสถ ตามหลักพระธรรมวินัย ซึ่งหมายความว่า ต่อจากนี้ไป พระสงฆ์เถรวาทจะเกิดขึ้นแห่งแรกในประเทศจีน เพราะที่ผ่านมาวัดที่เรียกว่า เถรวาท ไม่มีในจีน ต่อไปวัดม้าขาวจะมีวัดเถรวาทและมหายานอยู่ร่วมกันทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาร่วมกัน หมายความว่า อนาคตทางพระพุทธศาสนาของจีนและไทย จะจับมือในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขต่อโลกในอนาคต”
    อีกมุมของ อาจารย์ยิ่นเล่อ เจ้าอาวาสวัดไป๋หม่าซื่อ บอกว่า ชาวจีนที่อยู่ที่นี่พอรู้ว่าจะมีการสร้างวัดไทยขึ้นภายในวัด ก็รู้สึกยินดีและดีใจ ญาติโยมที่เข้ามาวัดจะได้เห็นวัดไทย และวัดทั่วโลก ซึ่งการก่อสร้างวัดอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงช่างฝีมือ ก็นำมาจากเมืองไทยทั้งหมด เป็นวัดที่พิเศษ เป็นการแสดงถึงศิลปวัฒนธรรมของเมืองไทย ญาติโยมที่มาจากทั่วสารทิศทั่วโลก ควรที่จะมาดูที่วัดแห่งนี้และได้ไปกราบพระที่วัดไทยด้วย เพราะโดยปกติแล้ววัดไป๋หม่าซื่อ จะมีคนเข้ามาชมวัดในวันธรรมดา เฉลี่ย 2,000-3,000 คนต่อวัน แต่สำหรับเดือน 4-5 จะมีคนเข้าชมกว่า 3-4 หมื่นคนต่อวัน ส่วนช่วงตรุษจีนจะมีเป็นแสนคนต่อวัน วัดจึงมีอิทธิพลต่อญาติโยมเข้ามาศรัทธาเยอะมาก ซึ่งพระพุทธศาสนาจากอินเดียเข้ามาในจีนที่วัดแห่งนี้
    จนถึงปัจจุบันรวมอายุแล้ว 1,944 ปี จนกระทั่งทุกวันนี้พระพุทธศาสนากลายเป็นรูปแบบของจีนอย่างถาวรแล้ว ซึ่งรัฐบาลจีนสนับสนุนอุปถัมภ์วัดแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการบูรณปฏิสังขรณ์ จนทำให้การพัฒนาวัดทำได้รวดเร็ว
    “ความสัมพันธ์ไทย-จีนเป็นเหมือนพี่กับน้อง คนไทยชอบไปที่เมืองจีน คนจีนก็ชอบไปที่เมืองไทย โดยในด้านกายภาพมีประเทศเป็นข้อกางกั้น แต่ในทางใจแล้วเราไม่มีประเทศขวางกั้น เพราะเรานับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกัน อย่างไรก็ตามในปีมหามงคลที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของชาวไทยทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา วัดไป๋หม่าซื่อ มีความยินดีที่ได้ร่วมสร้างวัดไทยเฉลิมพระเกียรติ และก็ปลื้มปีติที่ได้ต้อนรับสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ในฐานะผู้แทนสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช พร้อมคณะสงฆ์จากประเทศไทย เพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในการสร้างบุญบารมีในครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยและชาวจีนรวมทั้งพระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรืองตราบนานเท่านาน” พระอาจารย์ยิ่นเล่อ กล่าว
    ทั้งหมดนี้จะเห็นว่า ถึงแม้ต่างนิกาย มีเส้นประเทศขีดกั้น แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในมิตรภาพ สมกับยุทธวิธีดึงวัดเข้าวัด เรียนรู้ระหว่างกันสร้างสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างมีเป้าหมายเดียวกันที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาสร้างสันติสุขให้โลก ในทางกลับกัน หากคนไทยนำตัวอย่างคณะสงฆ์ทั้งเถรวาทและมหายานมาใช้ ลดความแบ่งแยก ลดความต่างลงมา มองความเป็นคนไทยนับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกัน บ้านเมืองจะสงบสุขร่มเย็นมากกว่านี้.
    มนตรี ประทุม


    “เหมอัศวาราม” วัดไทยแห่งแรกในจีน เปิดสัมพันธ์มิติใหม่มหายาน-เถรวาท | เดลินิวส์
     

แชร์หน้านี้

Loading...