เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย jityim, 23 เมษายน 2018.

  1. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ทุกสรรพสิ่งที่มองเห็นและไม่เห็น แก่นแท้ คือ พลังงาน ทุกสรรพสิ่งที่เป็นพลังงานจึงต้องการสั่นสะเทือนเพื่อการดำรงอยู่

    คลื่นที่กล่าวมานี้ หมายถึงคลื่นกระแสพลังงานบวก และกระแสพลังงานลบ จากคลื่นพลังจิต คลื่นความคิดของมนุษย์ เมื่อมนุษย์เกิดกระแสทั้งบวกและลบ คลื่นนั้นจะแผ่ออกมาภายนอกร่างกายและเคลื่อนไหลไปคลื่นแนวแรงโน้มถ่วงสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งคลื่นพลังานที่เกิดขึ้นมามันจะไม่หายไปไหน มันคงดำรงอยู่อย่างนั้น นอกจากจะทำให้เป็นกลาง ดั่งที่พระพภุทธเจ้าตรัสไว้ เช่น กรรม ก็เป็นคลื่นพลังงานมันจะไม่หายไปไหนมันจะคงดำรงอยู่เพื่อให้เจ้าของรอชดใช้ เหมือนดั่งเงาตามตัวนะค่ะ

    ถ้าที่ jityim กล่าวคลื่นที่ว่านี้ก็คือ คลื่นกระแสพลังงานโลกของทุกสรรพสิ่งดำรงอยู่ในโลกใบนี้มีน้ำหนักพลังงานมวลรวม ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้โลกเกิดการสั่นสะเทือนเพื่อดำรงอยู่ ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งรูปธรรมและนามธรรม

    รูปธรรมคือสิ่งที่มองเห็น นามธรรมคือสิ่งที่มองไม่เห็น แม้กระทั่งรูปธรรมภายในก็มีกระแสพลังงานสั่นสะเทือนอยู่เพื่อกาาดำรงอยู่ของสิ่งนั้น หากไม่ทีคลื่นพลังงานสั่นสะเทือนอยู่ภายใน รูปธรรมที่เห็นอยู่จะดำรงอยู่ไม่ได้ ต้องแตกสลายหายไป

    สิ่งที่Jityim กล่าวไว้ คือ การรับรู้ถึงคลื่นกระแสพลังงานโลกค่ะ ที่ต้องมีการสั่นสะเทือนตนเองเพื่อให้ดำรงอยู่ แต่ถ้าโลกเรามีความสมดุล เหมือนดั่งล้อรถยนต์ที่เราก้อยไป หรือล้อรถยนต์ที่มันวิ่งไปข้างหน้าภ้ามันมีความสมดุล เราจะเห็นได้ว่า มันไม่สัดส่าย คือ มีลักษณะหมุนเหมือนไม่หมุน แน่ถ้ามันขาดความสมดุลมันจะสัดส่ายอย่างเห็นได้ชัด อีกไม่นานมันก็จะพลิกคว่ำและล้มลงวิ่งไปต่อไม่ได้ในอีกไม่ช้า

    โลกของเราก็เหมือนกันค่ะ ถ้าโลกเรามีความสมดุล มีพลังงานที่สูง ก็คงมีลักษณะที่หมุนเหมือนไม่หมุน ไม่มีลักษณะการแกว่งหรือสัดส่ายแต่ถ้าโลกใบนี้ เราสามารถรับรู้ความรู้สึกการสัดส่ายได้ แสดงว่าโลกของเราจึงต้องขาดความสมดุลแน่ จึงทำให้มนุษย์รับรู้คลื่นการกวัดแกว่งและสัดส่ายอย่างเห็นได้ชัด

    คือมนุษย์เป็นปัจจัยเพราะมนุษย์มีคลื่นกระแสพลังงานแห่งจิตที่สร้างมวลพลังงานที่ปลดปล่อยออกมามีผลต่อมวลน้ำหนักของโลก(บางส่วน) แม้แต่คลื่นควันฝุ่นมลพิษก็มีผลต่อมวลน้ำหนักมวลของโลก คลื่นกระแสเดียวกัน(บวก)ก็ส่งเสริมกัน คลื่นกระแสต่างกันลบ นำไปใช้ไม่ได้ก็ขยะที่ถ่วงดุลพลังงานโลก ดังนั้นคลื่นพลังงานลบจึงมีผลทำให้โลกขาดความสมดุลนะคะ

    เมื่อโลกขาดความสมดุลทางน้ำหนักพลังงาน ทำให้โลกสัดส่ายไม่สามารถหมุนเพื่อสั่นสะเทือนตนเองในการดำรงอยู่ได้ การขาดความสมดุลทางพลังงานของโลกเป็นสาเหตุที่โลกไม่อาจหมุนเพื่อรักษาตนเองในการดำรงอยู่ คือ ภาพมายาที่แสดงให้เห็น การเริ่มสัดส่าย เริ่มเอียง พลิกคว่ำ แม้กระทั่งการหยุดหมุนได้ เป็นต้น

    เมื่อมนุษย์จะทราบดีว่าโลก ณ ขณะนี้มีการขาดความสมดุลทางพลังงาน ที่เห็นได้คือมนุษย์กำลังเผชิญกับการแปรปรวนของภูมิอากาศและธรรมชาติกันอยู่ มนุษย์จะรู้และทราบแก่ใจกันดีว่าเป็นเพราะอะไรกำลังเกิดขึ้นกับโลกใบนี้

    เมื่อมนุษย์สามารถรับรู้คลืนกระแสพลังงานการสัดส่ายแสดงว่า ภาพมายาการหมุนของโลกมีพลังงานระดับต่ำ หรือขาดความสมดุลจึงทำให้คลื่นพลังงานของโลกสัดส่าย หรือกวัดแกว่งได้

    ค่ะ เมื่อjityim รับรู้ได้ คนอื่นรับรู้ได้ว่าพลังงานของโลก มีการหมุนแบยสัดส่าย เมื่อรับรู้ได้แบบนี้ถ้าไม่แก้ไขอะไรกันเลย เกรงว่าโลกจะพลิกคว่ำหรือตีลังกา ที่ลายคนเตือนว่าโลกอาจจะเกิดกระบวนการ Pole shift การตีลังกาพลิกคว่ำ ก็เพราะสาเหตุนี้ เนื่องจากโลกขาดความสมดุลทางพลังงาน ดั่งที่มีการเตือนกันไว้ ก็อาจจะเป็นไปได้ นะค่ะ
     
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    และรู้ไหมคะ ทำไมโลกของเราจึงยังไม่เกิดกระบวนการ pole shift ซะที ทั้ง ๆ ประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติที่บันทึกเอาไว้ว่าโลกมีการยกระดับพลังงานมาแล้วถึง 3 ครั้ง เช่นยุคแอตแลนติค เป็นต้น และครั้งที่ 4 นี้หลายคนก็มีการรับทราบจากสื่อต่าง ว่า การยกระดับพลังงานครั้งที่ 4 จะเกิดขึ้นในยุคนี้ ที่หลายสิบปีนำข้อมูลมาเตือนหลายสำนัก และบางคนถึงกับรอดู เตรียมตัวรับมือ และก็เลื่อน ๆ ไปจากคำทำนายต่าง ๆ ที่มาทายทักว่าจะเกิดปีโน้นปีนี้ แต่แล้วไม่เกิดจนหลายคนเลิกเชื่อ คิดว่างมงายเพ้อฝันไปก็มี...
     
  3. ฝ่ายขาว

    ฝ่ายขาว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2021
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +16
    ครับแม่นแล้ว
     
  4. ฝ่ายขาว

    ฝ่ายขาว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2021
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +16
    เขาว่ามีอุกาบาตรตกหรอคับ
     
  5. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ค่ะเห็นข่าวเหมือนกันว่า 7_58.jpg


    สมาคมดาราศาสตร์ไทย บอกว่าผู้เชี่ยวชาญสหรัฐกล่าวว่า เป็นดาวตกดวงใหญ่ หรือดาวเคราะห์น้อยพุ่งข้ามาชนในชั้นบรรยากาศโลก และเกิดได้หลายกรณี การเสียดสีเป็นเศษหินหรือ ฝุ่นของดาวหาง ซึ่งในแต่ละละวันจะมีเศษดาวตกเข้ามาทุกวัน แต่ตกในสถานที่ห่างไกล หรืออาจตกมาแล้วเกิดการเผาใหม้ในชั้นบรรยากาศ ไม่เหลือซากตกลงบนพื้น
    news-942c276.jpg

    ความสำคัญของระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลก

    เป็นรั้วป้องกันภัยจากผู้แปลกปลอมที่ดีที่สุดของระบบดาวเคราะห์โลก ในสนามพลังงานจักรวาล
    มีเทหวัตถุมากมาย ล้วนมีพลังอำนาจในตนเองตามกฎเกณฑ์กายภาพสากล 3 ประการ

    1.สั่นสะเทือนเพื่อการสร้างใหม่ได้อย่างเสรี
    2.สั่นสะเทือนเพื่อการดำรงอยู่ได้อย่างเสรี
    3.สั่รสะเทือนเพื่อการเสิ่อมสลายได้อย่างเสรี

    การเปลี่ยนแปลงตามกฎเกณฑ์ทั้งสามประการ ่่่ก่อให้เกิด "ขยะทางกายภาพ" หรือ "ขยะแห่งจักรวาล" อย่างมากมาย ที่หลุดล่อนล่องลอยไปในจักรวาลอย่างไร้ระบบ เสมือนธุลีฝุ่นที่ปลิวไปในทุก ๆ แห่ง บางชิ้นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางหลายร้อยกิโลเมตร ซึ่งล้วนทำอันตรายต่อดาวเคราะห์โลกได้ทั้งสิ้น หากพุ่งชนโลกอย่างรุนแรงด้วยมวลที่ใหญ่โตและพุ่งชนด้วยความเร็วสูง ๆ

    โลกมีระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกเองห่อหุ้มไว้อย่างมั่นคง โดยรั้วจะต้องยกระดับสูงในระดับ60,000 กิโลเมตร อำนาจสนามแม่เหล็กโลกจะสามารถผลักใสให้วัตถุหรือเทหวัตถุผู้เป็นแขกที่โลกมิได้เชื้อเชิญให้เบี่ยงเบนเส้นทางเดินออกไปมิให้พุ่งชนเข้าสู่โลกมวลหยาบที่เป็นขยะพลังงาน ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ระบบโลกด้วยความเร็วสูงเหล่านั้น จะเกิดการเสียดทานกับสนามแม่เหล็กโลก จนก่อให้เกิดความร้อนสูงจนลุกไหม้หมดสิ้น หรือเกือบหมดก่อนที่มันจะตกกระทบสู่พื้นผิวโลก ซึ่งมันไม่สามารถทำอันตรายใด ๆต่อทุกสรรพสิ่งในระบบโลกได้เลย

    ถ้าปล่อยให้มนุษย์ยุคโลกพลังงานเก่า ร่วมกันสั่นสะเทือนอย่างไร้จิตสำนึกกันมากขึ้น โดยมิได้สื่อเตือนบอกกล่าวมวลมนุษย์ชาติเพื่อสร้างสติและมีจิตสำนึกที่ถูกต้อง ป่านนี้ดาวเคราะห์โลกและทุกสรรพสิ่งในระบบเอกภพคงมิมีสิ่งใดเหลือไว้ให้มนุษย์ยุคพลังงานใหม่ได้เห็นอีกแล้ว

    เหตุเพราะมนุษย์จะเป็นตัวการให้เสียสมดุลเกิดขึ้นแล้ว ในที่สุดมันก็จะมิมีสิ่งใดเหลืออยู่อีกเลย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195

    พุทธทำนาย "แผ่นดินอธรรมจะถล่มถมทะเล โลกจะเกิดหายนะภัย"

    เมื่อประมาณวันที่ 5-6 มีนาคม 2567 โลกร้อนระอุมาก เห็นข่าวบอกว่า 51 องศา เวลาประมาณบ่ายโมง ขณะที่นั่งอยู่ในบ้าน ห่างจากประตู ประมาณเกือบ 2 เมตร ยังได้รับรังสีของแสงอาทิตย์เข้ามากระทบ รู้สึกว่าแสบผิวทั้ง ๆ ที่ไม่ได้อยู่กลางแดดเลย ใครที่อยู่แต่ในห้องแอร์ จะไม่ได้สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกนี้ได้เลย

    จนเมื่อวันก่อน จากที่โลกรับรู้ความจริงคำสื่อเตือนข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์น้อยอุกาบาตตกเข้ามาในชั้นบรรยากาศโลก จากนั้นวันที่ 7-8 มีนาคม 2567 อากาศที่เคยร้อนเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด วันสองวันที่ผ่านมารู้สึกว่าอากาศไม่ค่อยร้อนเลย

    เข้ามาเล่น ที tiktok คลิปเตือนเตรียมตัวรับมือสงครามโลกเข้ามาที่หน้าฟีดเป็นระยะ
    Screenshot_2024-03-09-15-52-17-40_f69139cffc4d135a71392e13634f144a.jpg

    ซึ่งก็น่าจะประมาณสักต้นเดือนมีนาคม ปลาย ๆ กุมภาพันธ์ก็มีพลังงานที่ผิดปกติกับโลกรับรู้ได้ และก็มีข่าวพายุเทอร์นาโดพัดโหมกระหน่ำประเทศสหรัฐอย่างรุนแรง และแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นแต่ไม่รุนแรง

    และรับรู้ข้อมูลมาจาก tiktokว่า
    Screenshot_2024-03-09-15-15-53-31_f69139cffc4d135a71392e13634f144a.jpg Screenshot_2024-03-09-15-34-06-13_f69139cffc4d135a71392e13634f144a.jpg

    ซึ่งได้เหมือนมีอะไรดลใจให้ค้นหาข้อมูลแผนที่โลกเพื่อหาดูว่า 'จุดศูนย์กลางของการสั่นสะเทือน" ตามที่สิ่งศักดิ์สื่อเตือน อยู่ตรงจุดไหน และดันมาตรงสถานการณ์โลกว่าช่วงขณะนั้นพอดี คือ ประมาณต้นเดือนมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง จึงมีคำเตือนให้รับมือสงครามโลก และอากาศของโลกร้อนระอุจนแสบผิว

    สาเหตุที่โลกยังไม่เกิดกระบวนการ plole shift

    เพราะโลกได้ถูกยกระดับพลังงานให้สูงขึ้นมา 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมาแล้ว ทุกครั้งที่พลังงานของโลกต่ำลง โลกจะได้รับพลังงานมาจากนอกระบบโลกด้วยอำนาจพายุแม่เหล็กที่ถูกส่งเข้ามาจากจักรวาล ภาพมายาที่เห็นได้ก็คือ จะเกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรงบนพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งมนุษย์จะรู้ได้โดยพื้นผิวโลกจะต้องสั่นสะเทือน เพราะการเคลื่อนตัวของมัน เพื่อนย้ายแนวแกนแม่เหล็กโลกจะมีการเคลื่อนย้ายไปจากตำแหน่งเดิมไม่เกิน 3 องศา ณ ปัจจุบุันนี้แนวแกนแม่เหล็กโลกได้เบี่ยงเบนไปทางทิศตะวันออกเฉียงจากพิกัดเดิมอย่างรับรู้กันมาแล้ว นั่นก็คือการเพิ่มพลังอำนาจแกนแม่เหล็กโลก หรือ การยกระดับพลังงานโลกให้สูงขึ้นด้วยการยกระบบโครงข่ายพลังงานสนามแม่เหล็กโลกให้สูงเพิ่มขึ้นจากระดับพื้นโลกเป็น 60,000 กิโลเมตรนั่นเอง จนกว่าระบวนการทุกอย่างจะสิ้นสุดจนนำเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ (ผลลัพธ์ที่ตามมา 1 ในนั้น มนุษย์ทุกคนจะมีอายุุขัยยืนยาวและมีสติปัญญาที่สูงขึ้นนำโลกไปสู่ความเจริญด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ )

    เมื่อโลกได้เปลี่ยนแปลงการยกระดับพลังงานขึ้น และได้รับความร่วมือร่วมใจจากมวลมนุษย์ชาติ กระบวนการ pole shift จึงเปลี่ยนแปลงไป โดยการได้รับพลังงานจากนอกระบบโลกเข้ามายกระดับพลังงานเคลื่อนย้ายแนวแกนแม่เหล็กโลกเพื่อยกระดับพลังงานโลกให้สูงขึ้นแทน ภัยพิบัติจะรุนแรงแค่ไหนขึ้นอยู่กับพลังงานที่ถูกส่งเข้าทดแทนพลังงานโลกที่ตกต่ำ

    การทำสงครามก็คือการทำลายระบบความสมดุลของโลก ทำให้พลังงานโลกตกต่ำลง ถ้าหากเกิดสงครามขึ้นมาจริง ๆ กระบวนการที่จะเกิดขึ้นแทนกระบวนเกิด ploe shift คือ พื้นที่นั้น ๆ ที่เป็นเขตหายนะภัย เมื่อตรงจุดศูนย์กลางการสั่นสะเทือนและการบิดตัวอย่างรุนแรงยิ่งกว่าแผ่นดินไหวครั้งใด ๆ เขตหายนะภัยที่ตรงกับคำพุทธทำนาย "แผ่นดินอธรรมจะถล่มเป็นทะเล โลกจะดิ่งสู่ความหายนะ"อันเกิดจากแผ่นดินแยกยุบตัวจะถูกฝังไว้ไต้โลกท่ามกลางฝุ่นและเปลวเพลิง

    ซึ่งสิ่งที่ jityim ได้รับรู้ขึ้นในใจขึ้นได้ว่าคือ ตรงส่วนใดของโลก ที่จะเป็นจุดศูนย์กลางหายนะภัย จึงไปค้นคว้าดูแผนที่โลกก็พบว่า เป็นสถานที่ตรงกับที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้สื่อเตือนเอาไว้เลยอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะเป็นจุดศูนย์กลางการสั่นสะเทือนหายนะภัยของโลก

    คำว่า "พื้นที่ที่เป็นเป้าหมาย" ไม่ใช่เป็นเป้าหมายของสิ่งศักด์สิทธิ์ที่จะกำหนดไว้ แต่คำว่า "เป้าหมาย" ให้นัยนะเหมือนกับว่า ณ สถานที่นั้นมันถูกกำหนดไว้แล้วด้วยตัวมันเอง ก็คือ การหยั่งรู้อนาคตว่ามันต้องเกิดขึ้นอะไรบ้างในอนาคตที่หยั่งรู้ได้ เหมือนกับมีทางเดิน 2 เส้นทาง ถ้าไปทางซ้ายจะพบเจอกับอะไร ถ้าไปทางขวาต้องเจอกับอะไร อยู่ที่การตัดสินใจเลือกเส้นทาง เลือกเส้นทางใด เส้นทางนั้นได้กำหนดอนาคตเอาไว้แล้ว

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์มองเห็นอนาคตของมวลมนุษยชาติจึงได้สื่อเตือนสติมนุษย์ โดยจักรวาลก็ไม่รู้ว่า ทุกคนจะตัดสินใจอย่างไร เมื่อจะต้องเผชิญกับสถานการณ์นั้น ๆ มนุษย์แต่ละคนจะตัดสินใจอย่างไร โดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้ เพราะทุกคนมีมีอิสระเสรีภาพในการเลือกตัดสินใจ เพียงแต่ว่าสถานที่เป้าหมายที่ถูกกำหนดไว้แล้ว กับคำสื่อเตือนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้หยั่งรู้อนาคตมวลมนุษยชาติกับสถานการณ์โลกจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ใดบ้าง ซึ่งเหตุการณ์สถานการณ์ที่โลกกำลังเผชิญก็กำลังจะดำเนินไปคำทำนายที่ได้สื่อเตือนล่วงหน้าเอาไว้ พึงระลึกไว้ว่า อนาคตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยปัจจุบันการ
    อยู่ที่ตัดสินใจที่จะเลือกทำ

    เป็นข้อมูลเพื่อพิจารณา เพราะว่ามีสิ่งดลใจให้ค้นหาว่า ทวีปที่มีมหาสมุทรคั่นกลาง คืออยู่ตรงไหน? ที่จะเป็น"จุดศูนย์กลางการสั่นสะเทือน" ผลปรากฎว่าเป็นสถานที่จะต้องมีผลกระทบกับประเทศต่าง ๆ ที่ตรงกับสถานการณ์โลกตอนนี้พอดี ที่จะมีผลกระทบหายนะ ต่อศูนย์กลางการสั่นสะเทือนของการเคลื่อนย้ายแนวแกนแม่เหล็กโลกในครั้งนี้ เมื่อโลกต้องเผชิญกับหายนะแห่งสงครามที่จะบานปลายเป็นสงครามนิวเคียร์่ก่อนที่สงครามนิวเคลียร์จะทำลายโลกเสียเอง

    เพื่อพิจารณา เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2024
  7. ฝ่ายขาว

    ฝ่ายขาว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2021
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +16
    ขยีบอีกนิดหลายอยางเกิดละคับ
     
  8. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ไขรหัสคำทำนายนอสตราดามุส

    ค่ะ สงครามโลกครั้งที่ 3 จะไม่เกิดขึ้นตามคำพยากรณ์ในยุคพลังงานเก่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะไม่มีวันปล่อยให้เกิดขึ้น เพราะจะเกิดหายนะทางธรรมชาติก่อน หากมิเปลี่ยนใจเสียก่อน

    ได้ฟังข้อมูุลมาว่า หากพรุ่งนี้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3ขึ้น โลกเราจะเป็นอย่างไร?

    อาวุธนิวเคลียร์ 75 % จุดชนวนขึ้นมาพร้อมกันจะมีการสูญเสียประชากรโลก 1,000 ล้านคน การเชื่อมอินเตอร์เน็ตจะล่มสลาย อากาศโลกจะสกปรกไม่สามารถมองเห็นแสงแดดอีกต่อไป เมื่ออากาศสกปรก มันคือหายนะของปอดมนุษย์ สัตว์ และประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากนั้น ระบบการผลิตอาหารของโลกจะพังทะลายลง ส่งผลให้มนุษย์ประมาณ 2,000 ล้านคนอยู่แบบขาดแคลนอาหาร ประมาณ 1 เดือน ชั้นโอโซนบรรยากาศของโลกจะถูกทำลายลง ส่งผลให้พืชจำนวนมากก็ต้องตายตามลงไปด้วย และอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น มันก็ตะเกิดขึ้น ภายในระยะ 1 ปี จะทำให้ผู้คน 1,000 พันล้านคนต้องตายตามไป เมื่อทุกอย่างพังทลายลง โลกของเราใช้เวลาอีก 50 ปี ที่จะ generation โอโซนให้มาเหมือนเดิม โลกจะใช้เวลาอย่างน้อย 50 ปีที่จะต้องสร้างอะไรขึ้นมาใหม่

    จากที่ติดตามข่าว ผู้นำศาสนา ผู้นำประเทศชั้นนำของโลกเข้าใจและพยายามไกล่เกลี่ยให้เกิดการเจรจา แต่ความขัดแย้งระหว่างประเทศทั่วโลก แต่มันยังก่อตัวแทบทุกหนแห่งไม่ว่างเว้น จำนวนทหารและพลเรือนที่ต้องจบชีวิตลงเพราะศึกสงคราม มันเป็นระดับตัวเลขที่ทำให้น้ำหนักมวลรูปธรรมที่สมดุลของระบบโลกโดยรวม พลอยขาดความสมดุลไปด้วย

    เมื่อขาดความสมดุลดินฟ้าอากาศแปรปรวน ความขาดแคลนอาหารบริโภคเป็นปัญหาที่มนุษย์โลกต้องเผชิญ จากสภาวะโลกที่มีดินฟ้าอากาศเปลี่ยนไป จะก่อเชื้อโรคชนิดใหม่ ๆ ที่เป็นภัยต่อสุขภาพมนุษย์ ไม่อาจเยียวยารักษาได้มากมายหลายโรค จะมีทั้งโรคร้ายชนิดใหม่ที่ไม่เคยรู้จัก และโรคร้ายชนิดเก่า ๆ ที่เคยเอาชนะมันมาได้ มันจะแอบซุ่มวิวัฒนาการสายพันธ์ของตัวมันเองตามกฎเกณฑ์กายภาพของจักรวาล ยกระดับตัวมันเองสู่ความสมดุลกับมนุษย์ได้อีกครั้ง ที่มันสามารถจะมีอำนาจต้านทานฤทธิ์ยาตัวเก่าได้เป็นอย่างดียิ่งกว่าเดิม เชื้อโรคเหล่านี้จะทำให้มนุษย์ส่วนใหญ่กลายเป็นผู้อ่อนแอทางร่างกายและจิตใจ

    แต่ทว่านับจากโลกเปลี่ยนเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่แล้ว คำทำนายนอสตราดามุสจะไม่แม่นยำอีกต่อไป มนุษย์ยุคพลังงานใหม่ทุกคนจะถูกเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกที่แตกต่างไปจากเดิม มนุษย์ที่มีจิตสำนึกบกพร่องและเป็นภัยต่อผู้อื่นอย่างร้ายแรง จะถูกชำระออกไปจากมิติทางกายภาพของโลก จิตสำนึกของมนุษย์ส่วนใหญ่จะสั่นสะเทือนด้านบวกต่อกันมากขึ้น

    การเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกของมนุษย์ เท่ากับว่ามนุษย์โลกได้ร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงอนาคตตนเองไปแล้วเช่นกัน คำทำนายนอสตราดามุส จึงย่อมไม่เป็นไปตามนั้นอีกในบทที่เหลืออยู่

    หากการกระทำของมนุษย์กระทำจนก่อให้เกิดการเสียสมดุลทางพลังงาน คือมีการตายเกิดขึ้นในกรณีพิเศษที่ไม่ใช่การเกิดตายตามอายุขัยวงจรปกติเพื่อรักษาความสมดุลทางพลังงานกรณีโลกขาดความสมดุลไป การช่วยเหลือดูแลระบบโลก เพื่อให้โลกคายพลังงานที่เร้นอยู่ภายในออกมา ซึ่งจะรับรู้กระบวนการมายาของกระบวนการได้จากปรากฎการณ์ที่เป็นภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่ทันเกิดขึ้นเพราะโลกต้องการพลังงานใหม่ที่เข้มข้นมาทดแทน มนุษย์จะต้องเผชิญกับเคราะห์ภัยและมีผู้สละชีวิตเสมอ

    แต่จะมีจิตสำนึกที่ถูกต้องของมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่น่ายกย่องยิ่ง

    ในคำพยากรณ์ของนอสตราดามุสที่ถูกต้องแม่นยำในยุคพลังงานเก่า ซึ่งมันจะไม่แม่นยำอีกต่อไป มันจะมีบางบทสำคัญ โดยเฉพาะบทสุดท้ายที่พยากรณ์อนาคตโลกมนุษย์ไว้ล่วงหน้า ซึ่งสันเวลาที่ระบุไว้ได้มาถึงแล้ว คือยุคปลายของโลกยุคพลังงานเก่านี่เอง

    รหัสคำทำนายของนอสตราดามุส

    วิชาของดวงอาทิตย์กับวิชาของดาวศุกร์ จะแข่งขันเพื่อแสดงแก่นแท้คำพยากรณ์มาเป็นของตน ทั้งสองฝ่ายจะไม่ฟังซึ่งกันและกัน แต่วิชาของพระกู้โลก จะได้รับการรักษาโดยดวงอาทิตย์หรือไม่?

    รหัสของนอสตราดามุสบทนี้ สามารถแยกความหมายนัยยะดังนี้

    วิชาของดวงอาทิตย์กับวิชาของดาวศุกร์ จะแข่งขันกันเพื่อแสดงแก่นแท้คำพยากรณ์มาเป็นของตนทั้งสองฝ่ายจะไม่ฟังกันและกัน

    วิชาดาวศุกร์อันเป็นศาสตร์ที่มนุษย์คิดสร้างขึ้นเอง ส่วนวิชาดวงอาทิตย์ วิชาพระกู้โลก คือธรรมะและคำพยากรณ์ของพระศาสดา การรักษา คือรักษาความสมดุลของระบบโลกเอาไว้

    กระบวนการเพื่อการเปลี่ยนแปลง
    กระบวนการเพื่อสร้างใหม่
    กระบวนการเพื่อการดำรงอยู่

    เพื่อใช้ในการจัดองค์กรใด ๆ ให้สมดุลในทุกที่ที่มันขาดสมดุลเสมอ

    นัยยะว่า จิตสำนึกของผู้นำชนชาติใดได้ยกระดับก็นำพาชนในชาติไม่เดือดร้อน แต่ถ้าผู้นำชนชาติใดขาดจิตสำนึกบกพร่อง ก็ต้องถือว่าเป็นกรรมของชนชาตินั้น มนุษย์มีอิสระเสรีภาพในการตัดสินใจเลือก
     
  9. ฝ่ายขาว

    ฝ่ายขาว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2021
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +16
    เยี่ยมคับ
     
  10. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นแน่..แต่ไม่ใช่สิ้นโลก



    IMG_20240315_151651.jpg
    Jityim ยอมรับค่ะด้วยลำพังสติปัญญาของตนเองไม่มีทางที่ทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างแน่นอน เมื่อกระทู้ที่ผ่านมาเมื่อจิตไม่นิ่งก็อยากทำด้วยความอยาก แต่มันก็แฝงไปด้วยความปรารถนาดี ก็พยามยามหาข้อมูลมาบอกกล่าวกัน พอพิมพ์แล้วสรุปให้ตนเองฟังไม่ได้ความ จึงลบข้อมูลทิ้งไปเพราะไม่รู้ว่าจะสรุปว่าอย่างไร แต่พอกลับมาดูอีกครั้งข้อมูลที่ลบไปก็ยังอยู่เหมือน จึงเอะใจกลับมาทำต่อ โดยข้อมูลที่ได้ให้มาประติดประต่อจนสมบูรณ์ จึงตัดสินใจโพสต์

    และตนเองเชื่อว่าข้อมูลที่ทำ มีเหตุผลและมีเหตุเหตุปัจจัยที่สมเหตุสมผล นั่นคือการชี้นำทางของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มิได้เกิดจากเหตุผลด้วยความส่วนของตนเลย

    แม้กระทั่งโพสต์นี้ก็เช่นกัน หลังฟังข่าวจากยูทูปข้างต้น จึงได้ข้อมูลนี้มา

    ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นแน่ แต่ไม่ใช่วันสิ้นโลก
    สงครามมีแน่ แต่ไม่ใช่สงครามโลก


    ปัจจุบันมีมนุษย์เกิดการสั่นสะเทือนจิตสำนึกอย่างสูง บางคนสับสนโดยมีสาเหตุมาจากความเชื่อ จนกลายเป็นความหวั่นวิตก จากข้อมูลของบรรดาโหรเทวดาที่มีคำทำนายเรื่องวันสิ้นโลกในไม่อีกกี่ปีข้างหน้า

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เปลี่ยนจากความหวาดวิตก หรือความขลาดกลัวภัยจะเกิดขึ้นกับตนเอง มาเป็นความรักและความห่วงใยโลก เพื่อช่วยกันยกระดับจิตสำนึกโลกสู่สภาวะความสมดุล และประการต่อมา คือ จงฉีกคำพยากรณ์ของนอสตราดามุสที่อ่านมาทิ้งไปเสีย เพราะมันจะไม่มีวันเป็นเช่นคำพยากรณ์นั้น มันจะไม่แม่นยำอีกต่อไป

    จริงอยู่มันอาจเคยถูกต้อง แต่นับจากการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นสนามแม่เหล็กโลกในครั้งนี้โลกได้เปลี่ยนคุณสมบัติของตัวเองไปจากเดิมและได้รับการช่วยเหลือทางอำนาจแม่เหล็กเพิ่มขึ้น

    ศักดิ์สิทธิ์ย่อมรู้จริงและมอบความจริงให้แก่มนุษย์เสมอด้วยความรัก

    แต่ทว่าสิ่งที่มนุษย์เรียกว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 จะไม่มีวันเกิดขึ้นในลักษณะของการต่อสู้ทำลายล้างระหว่างประเทศหรือข้ามทวีปเหมือนอดีตอีกต่อไป

    แต่สงครามที่เกิดขึ้นจะมี 2 ลักษณะ คือ1.การต่อสู้ทำลายล้างกันภายในชนชาติเดียวกันหรือไม่ก็สงครามเศรษฐกิจในประเทศที่พัฒนาแล้วแต่คลั่งวัตถุนิยมเพลิดเพลินในเทคโนโลยีชั้นสูงและสงครามที่ 2 ก็คือสงครามที่เกิดจากการผจญภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงของมนุษย์ทั่วโลก นั่นต่างหาก

    การทำลายล้างต่อสู้กันเองของชนในชาติมหาอำนาจหรือบางประเทศที่ผู้นำระดับบริหาร พกพา กลุ่มกรรมที่มีความกลัวเป็นอารมณ์ติดตัวมาจากอดีตชาติอันเป็นกรรมหนักหนาที่สุดของมนุษย์ และบางคนมีอดีตชาติผูกพันกับมนุษย์ยุคแอตแลนติส ที่กลับชาติมาเกิดใหม่พูดบ้าคลั่งเทคโนโลยี บุคคลเหล่านี้จะนำพาประเทศชาติของตนดิ่งลงสู่เหวสู่ความหายนะ และผู้นำจะต้องถูกจับขังคุก โดยประชาชนของตนเอง หรือไม่ก็ไร้แผ่นดิน บ้างก็ต้องถูกลงโทษถึงเสียชีวิต

    ส่วนภาวะภัยธรรมชาตินั้น มนุษย์ทุกคนบนโลกจงเตรียมตัวเตรียมใจกันไว้ให้จงหนัก การฝึกเพิ่มพลังทางวิญญาณ ด้วยการสวดมนต์ ภาวนาและทำสมาธิเท่านั้น จึงเป็นทางอยู่รอดมิเช่นนั้นอาจถึงขั้นเสียสติได้

    แม้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะมอบความรู้มาให้มนุษย์ล่วงหน้าแล้ว เพื่อลดความรุนแรงบ้าง แต่ภาวะทางกายภาพของโลกที่สั่นสะเทือนจนเกิดคลื่นยักษ์มหึมาน้ำท่วมใหญ่เกาะบางเกาะ จะจมหายไปบางประเทศจมหายไป แผ่นดินบางส่วนงอกขึ้นมาภูเขาไฟระเบิด พื้นแผ่นดินบางประเทศในโลกตะวันตก จะเคลื่อนตัวออกจากกันเป็น 2 ซีกเหตุการณ์เหล่านี้จะทยอยเกิดขึ้นเป็นระยะ เดี๋ยวทวีปโน้น เดี๋ยวทวีปนี้ และบางทีก็จะเจอชะตากรรมพร้อมกันโรคระบาด น้ำเสียขาดแคลนอาหาร ขาดน้ำสะอาดบริโภค ขาดอากาศบริสุทธิ์ที่ใช้หายใจติดต่อกันหลายวัน ฟ้ามืดเพราะแสงอาทิตย์ส่องลงมาไม่ถึง หลายชีวิตจะต้องพากันสละชีพ กับเหตุการณ์ก่อนวันสุุดท้ายในการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ ทุกอย่างจึงจะสู่สภาวะปกติ

    ทางออกของมนุษย์ ที่ช่วยลดความรุนแรงนี้ได้ทุกคนจะต้องร่วมมือกันสร้างแรงสั่นสะเทือนที่มีอำนาจด้านหมวกแบบรวมหมู่ ตั้งแต่วันที่ได้รับข่าวสารนี้ด้วยการยกระดับจิตสำนึกของตัวเองให้สูงขึ้น ด้วยการส่งผ่านพลังงานความรักที่มีอยู่พร้อมด้วยตัวเองแต่ละคนออกมา เลิกจิตใจที่ใฝ่ต่ำ ไกลจากธรรมะ หันมามอบความรักให้กับเพื่อนร่วมโลกทุกคน ด้วยความรู้สึกดั่งบุตรหลาน แล้วมอบพลังงานความรักเรานั้นให้กับโลกใบนี้ เร่งแสวงหาความสงบสุขในจิตใจของตัวเองให้โดยเร็ว ความปลอดภัยของทุกคนย่อมมีหนทาง ทั้งหมดนั่นคืออาวุธ ที่จะปกป้องตัวเองจากสงคราม กับภัยธรรมชาติของมนุษย์ครั้งยิ่งใหญ่เลยทีเดียว ดินแดนที่อุดมมาด้วยรสพระธรรม ดาษดื่นด้วยผู้มีความสมดุลทางจิตวิญญาณ ดินแดนนั้นย่อมอยู่รอด

    ภัยธรรมชาติต่างๆ เช่น บางอย่างการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจนมีจนมีผู้เสียชีวิตเป็นหมู่คณะอุบัติเหตุเภทภัยจนถึงขั้นชีวิตของมนุษย์มักจะปรากฏการตายหมู่มากขึ้นกว่าเดิม และการเกิดแผ่นดินไหว การระเบิดของภูเขาไฟ ปรากฏการณ์พื้นผิวโลกเคลื่อนตัว ปรากฏการณ์เอลนินโญ และการทดลองระเบิดปรมาณูที่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ในบางประเทศ คือสัญญาณเตือนภัยทั้งสิ้น

    แต่สิ่งที่ตนเอง จะแน่ใจได้ว่าโลกกำลังก้าวเข้าสู่มิติพลังงานที่สูงขึ้น โลกถูกยกพลังอำนาจแม่เหล็กโลกจริงดั่งคำพุทธทำนายที่ตรัสไว้ว่า "แสงสว่างจะส่องมายังโลกอีกครา" ซึ่งสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์เมตตาสื่อเตือนมา ลองพิจารณาเหตุและผลดูกันค่ะ

    สวัสดีค่ะ ขอจบข้อมูลไว้แต่เพียงเท่านี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2024
  11. ฝ่ายขาว

    ฝ่ายขาว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2021
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +16
    ครับใกล้ละ
     
  12. ฝ่ายขาว

    ฝ่ายขาว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2021
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +16
    ทีมงาหายไปหมดละหรอคับท่าเกษมอะคับ
     
  13. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ไม่่รู้จักท่านเกษมเป็นการส่วนตัวค่ะ รู้จักชื่อแค่ในเว็บไซด์พลังจิต
    ไม่ได้เป็นทีมงานกันค่ะ ทุกคนมีใจ มีหน้าที่เหมือนจิ๊กซอว์ ที่สื่อออกมาในตลอดระยะเวลาน่าจะนานนับสิบปี ตั้งแต่มีเว็บพลังจิต 5,000 กว่ากระทู้ และ 500,000 กว่าโพสต์

    ซึ่งข้อมูลแต่ละท่านเท่าที่ทราบ ก็ล้วนเชื่อมโยงคุยกันเรื่องแนวการเกิดภัยพิบัติในยุคปัจจุบันคืออะไร จะต้องทำหรือเตรียมตัวกันอย่างไร หรือหาทางป้องกัน เพราะภัยเป็นภัยที่เกิดทั่วโลกจริง ๆ และจะเป็นอย่างไรต่อไป นอกจากป้องกันแล้ว มีทางที่ดีคือ แก้ไขได้ไหม หรือว่าต้องเป็นตามธรรมชาติตามยถากรรม

    นอกจากประเทศไทยของเราแล้วเท่าที่ทราบประเทศต่าง ๆ ก็มีกลุ่มทำงานเรื่องภัยพิบัติกระจายอยู่กันทั่วโลกด้วยค่ะ

    ก็ดีนะคะที่โลกเราไม่ต้องเกิดภัยร้ายแรงเช่น โลกพลิกกลับขั้ว หรือ สงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้น

    แต่โลกเรามีการยกระดับพลังงานขึ้นจริง ๆ ทุกคนที่ได้สัมผัสกับเรื่องมิติเหนือธรรมชาติ กันได้ง่ายขึ้น

    เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตโลกจะเป็นเช่นไร เพราะไม่มีอะไรแน่นอน แต่ที่แน่นอนตอนนี้คือโลกร้อนมากเหมือนเป็นเตาอบ เคยฟังมาว่าโลกร้อนแบบนี้เหมือนนรกบนดิน ถ้าเราไม่รอชะตากรรม คือรอการเปลี่ยนแปลงโลก โดยโลกถูกชำระ หรือ
    โลกรีเซตตัวเอง เพื่อให้ภูมิอากาศไม่แย่ไปยิ่งกว่านี้ จะเป็นไปได้ไหม!

    ประเทศสิงคโปร์เขายังไม่รอ หรือปล่อย
    ไปตามยถากรรมเลย

    images (64).jpeg

    images (66).jpeg

    นี่ก็คือประเทศไทยของเรา

    images (67).jpeg

    ถ้าเรามองแล้ว ตามที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า ดินแดนที่อุดมด้วยรสพระธรรมนั้นแดนนั้นอยู่รอด เราก็มั่นใจอย่างนั้นจริง ๆ เพราะจะเรียกได้ว่า ภัยพิบัติโลกตลอดระยะเวลา หลายสิบปีที่ผ่านมาผลกระทบก็มีน้อยแทบจะไม่ค่อยกระทบกระเทือนคนไทยเลย

    แล้วถ้าไม่เกิดภัยพิบัติเลย โลกยังจะร้อนระอุไปเรื่อย ๆ อนาคตจะเป็นนเช่นไร?

    แต่ถ้าโลกต้องคืนสู่ความสมดุลไปไม่ให้โลกแย่ไปกว่านี้ การชำระล้าง pollution พอลลูขั่น สำหรับประเทศไทยแล้วจะมีฝนตกติดต่อกันหลายวันหลายคืนอย่างที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านได้เคยตักเตือนไว้ ไม่น่าจะไกลเกินจริงหรือเปล่าค่ะ

    หรือเราไม่เชื่อหรอก โลกก็ต้องเป็นไปของมันอย่างนี้แหละทำอะไรมากไม่ได้หรอก เป็นไปตามยุค เป็นไปได้ไหมที่ประเทศไทยจะใช้นวตกรรมพลิกฟื้นประเทศของเราด้วยตนเอง

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2024
  14. ฝ่ายขาว

    ฝ่ายขาว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2021
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +16
    แจ่มคับ
     
  15. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    เตรียมตัวให้พร้อม..

    ระวังและเตรียมพร้อมต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นแบบคาดเดาเหตุการณ์ไม่ได้ ต่อภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นไม่รู้ว่าโลกจะต้องเผชิญสถานการณ์อย่างไร สำหรับประเทศไทยถ้าเรามั่นใจว่าประเทศของเราได้เตรียมพร้อมการสร้างตาข่ายป้องกันภัยพิบัติกันไว้แล้วอาจไม่รุนแรง แต่โลกเหมือนลูกผลส้ม เมื่อสะเทือนที่หนึ่งย่อมส่งผลถึงอีกที่หนึ่งด้วยเหมือนกัน

    Jityim ก็ว่าจะหยุดทำแล้ว แต่ก็เป็นห่วง ซึ่งถ้ามีข้อมูลก็จะนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ ที่ผ่านมาข้อมูลมีมากพอสำหรับการตัดสินใจของมวลมนุษย์ชาติพอเพียงแล้วที่จะช่วยกันเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดีขึ้น หรือโลกเกิดภัยพิบัติน้อยลง

    เมื่อวันที่ 24-25 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา เกิดจันทรคลาสขึ้น และได้เห็นคลิปปลาหนีน้ำที่ประเทศไทย Screenshot_2024-03-27-09-37-09-63_f69139cffc4d135a71392e13634f144a.jpg Screenshot_2024-03-27-09-36-10-87_f69139cffc4d135a71392e13634f144a.jpg Screenshot_2024-03-27-09-36-02-16_f69139cffc4d135a71392e13634f144a.jpg

    และมีข้อมูลวันที่ 8 เมษายน 2567 เกิดสุริยะคลาส ในวันเวลาที่ห่างกันไม่มาก ซึ่งวันเกิดสุริยะคลาส เมื่อประมาณ 50 ปีก่อน เคยได้มีข่าวสื่อเตือนสหรัฐอเมริกาล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเพื่อให้เตรียมตัว
    Screenshot_2024-03-27-09-44-04-72_f69139cffc4d135a71392e13634f144a.jpg Screenshot_2024-03-27-09-44-23-79_f69139cffc4d135a71392e13634f144a.jpg

    ซึ่งความหมายตามข่าว คือโลกจะต้องเผชิญกับคลื่นพายุสุริยะทีมีกำลังมหาศาลที่ส่งผลต่อโลกได้

    เมื่อมาพิจารณาถึงคำสิ่งศักดิ์สิทธิ์จักรวาลได้เผยหมนุษย์ทราบล่วงหน้าวันที่ชำระโลกสถานหนัก ตรงกับตำแหน่งพิกัดที่โลกกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เล็งทำมุมกันเป็นเป็นตรง

    เมื่อกี้นนี้ดูคลิปใน tiktok บอกว่า กองกำลังนาโต้จัดทัพมากที่สุดเท่าที่มีมา จริงไหม!!! ถ้าเป็นจริง เพราะเราทุกคนบนโลกก็ไม่ใครรู้ว่าแต่ละคนจะตัดสินใจอย่างไร ?(หน่วยข่าวกรองย่อมมีข้อมูล)

    Screenshot_2024-03-27-09-40-32-46_f69139cffc4d135a71392e13634f144a.jpg

    ก็ยังเห็นข่าวนักวิทยาศาสตร์หลายคนพากันมาร้องให้ ซึ่งพวกเขาก็รับรู้ถึงภัยที่จะเกิดขึ้นกับโลก Screenshot_2024-03-27-09-39-11-66_f69139cffc4d135a71392e13634f144a.jpg

    ทำไม!!ช่างตรงและสอดคล้องกัน

    Screenshot_2024-03-27-09-37-46-57_f69139cffc4d135a71392e13634f144a.jpg

    คำทำนายเมื่อ 600 ปี เตือนว่าเสียงคะนองแห่งม้าก็ได้ยิน(สงคราม) ทั้งแผ่นดินก็หวั่นไหว

    การเกิด "คลาส" เพื่อช่วยให้แนวแกนแม่เหล็กโลกเคลื่อนตัวเบี่ยงเบนไปตามที่กำนดไว้ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ใกล้รอยร้าวของเปลือกโลกเป็นกลุ่มหนึ่งที่ต้องเผชิญเคราะห์ภัยอย่างรุนแรงยิ่ง

    สถานที่มีภูเขาไฟหรือมีธารลาวาไหลผ่านใต้พื้นโลก ดินฟ้าอากาศจะจะวิปริตแปรปรวน เนื่องจากพายุแม่เหล็กจากใต้โลก บริเวณดังกล่าวปลดปล่อยคลื่นพลังงานออกมาจำนวนมาก บางแห่งภูเขาไฟอาจระเบิดไ้ด้ มนุษย์ที่อาศัยอยู่บนเกาะกลางมหาสมุทรและที่ราบริมฝั่งทะเลหรือแม่น้ำ จะมีปัญหาต้องเผชิญกับสภาวะน้ำท่วม พายุหมุนรุนแรง

    นำข้อมูลมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังค่ะ เห็นว่าปลาหนีน้ำขึ้นมาจำนวนมาก ในวันเกิดจันทรุปราคา

    และตอนนี้เชียงใหม่ประเทศไทยก็มีฝุ่น PM 2.5 เป็นอันดับ 1 ของโลกแซงปากีสถานแล้วค่ะ Screenshot_2024-03-27-12-39-17-33_f69139cffc4d135a71392e13634f144a.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2024
  16. ฝ่ายขาว

    ฝ่ายขาว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2021
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +16
    ใกล้แล้วสิคับรอมานานละจะได้ล้าง
     
  17. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ไม่ทราบค่ะ แล้วแต่เหตุปัจจัย ที่โลกเราถูกยกระดับพลังงานขึ้นเพราะโลกเสื่อม เพราะว่ามนุษย์ไม่สามารถร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือโลกได้ แต่ถ้ามนุษย์ร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือโลกได้ โลกเจริญไม่เสื่อม มนุษย์ก็อย่างสุขสบาย ถ้าโลกเสื่อมมนุษย์ก็อยู่กันอย่างลำบาก คือกลียุคค่ะ อยู่ที่มนุษย์ร่วมกันตัดสินใจว่า อยากจะให้บ้านของตนเองมีสภาพแวดล้อมแบบไหน

    แค่ถ้าบ้านหลังหนึ่ง ไม่ใสใจดูแลตนเอง และส่งผลให้ระบบใหญ่เสียสมดุลไปด้วย ก็คงต้องเข้าช่วยเหลือ ให้ระบบใหญ่ดำรงอยู่ได้ค่ะ เพราะทุกระบบในจักรวาลนี้ล้วนเชื่อมโยงกัน

    Jityim มีข้อมูลนำมาให้รับรู้กันค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2024
  18. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สูญสิ้น

    อีกนัยยะของพุทธทำนาย ดั่งที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์สื่อเตือนไว้ว่า สังคมต้องการคนทำความดี ให้คนที่ต้องการทำความดีไม่ท้อแท้ สงบงันในการทำดี

    ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา บ้านเมืองเราอยู่รอดปลอดภัยจากภัยพิบัตินานาประการจากภัยธรรมขาติ ไม่รุนแรงเพราะสิ่งที่คุ้มครองประเทศชาติเรา ก็คือผู้คนในประเทศปฏิบัติตามคำสั่งสอนพระศาสนาที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสไว้ในพุทธทำนายว่าบ้านเมืองใดที่ผู้คนส่วนใหญ่มีศีลธรรมคุณธรรมบ้านเมืองนั้นจะอยู่รอด

    เพราะคำว่ายุคศิวิไล คือยุคพลังงานใหม่ หมายถึง การที่นำพาผูู้คนไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของจิตใจ ผู้คนจะเจริญด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อันเป็นความรู้ใหม่จากศาสตร์ของจักรวาล และคนจะเข้าถึงสัจจะและยกระดับปัญญา เพื่อพัฒนาจิตใจกันมากขึ้น

    ปัญหาของคนยุคพลังงานเก่า เนื่องจากผู้คนมีจิตใจที่เสื่อมโทรม หลงมัวเมาลาภยศกิเลสตัณหา ห่างไกลจากสัจจะความเป็นจริง คนมุ่งร้ายทำลายเบียดเบียนกัน ขาดความเป็นธรรมในสังคม ทำให้คนชั่วมีอำนาจและสังคมเต็มไปด้วยการแสวงหาผลประโยชน์ สังคมมนุษย์ คลั่งอำนาจ ลาภยศ สินทรัพย์ และวัตถุนิยมมากยิ่งกว่าการแสงหาความดีงาม กิเลสตัณหา อบายมุข สารพิษยาเสพติดหาได้กลาดเกลื่อน

    โลกยังต้องการพลังงานด้านบวกจากจิตใจของมนุษย์ หากประเทศชาติใด มุ่งช่วยเหลือโลกด้วยพากันปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระศาสดา ถือว่าบ้านนั้นเมืองนั้น กำลังส่งสัญญาณให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์รับรู้ว่า พวกตนพร้อมแล้วที่จะนำพากัน โดยร่วมมือร่วมใจนำพาประเทศชาติของตนให้รอดพ้นจากภัยธรรมชาติเพื่อยกระดับพลังงานโลก


    1712490025329.jpg

    มีอยู่วันหนึ่ง ได้มีคำหนึ่งที่เกิดในสมาธิบอกว่า

    เมื่อเราไม่ทิ้งท่าน (องค์สัจจะ) ความดี ท่านก็จะไม่ทิ้งเรา

    เมื่อเราไม่ช่วยเหลือคนที่ทำความดี แล้วจะไม่มีใครอยากทำความดี

    IMG_20240410_161359.jpg
    IMG_20240410_161418.jpg
    จากที่ดูข่าวหลายคนยืนยันท่านสมถะจริง ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นเพราะทำคดีผู้มีอิทธิพล และปราบปราบเว็บพนันออนไลน์ส่งผลให้ต้องออกจากชีวิตข้าราชการเราก็ต้องเสียตำรวจดี ๆ ที่ทำงานที่เห็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง

    และกรณีท่านบิ๊กโจ๊ก พลตร..เอกสุรเชษฐ์ หักพาล

    เคยได้ทราบข่าวว่าท่านทำคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองในหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ไว้มาก ก็ให้สงสัยว่าท่านทำความผิดจริงไหม! สงสัยในใจ และอยู่ดี ๆ คลิปก็เด้งมาหน้าจอกรณีข่าวเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่ท่านถูกยิง และท่านวีระชัย ทรงเมตตา บวชเป็นพระเด้งเข้ากรุ และก็มีคลิปการทำงาน ข่าวคุณสรยุทธสัมภาษณ์การทำงานของท่าน บิ๊กโจ๊กเกี่ยวกับการกู้เรือนักท่องเที่ยวจีนล่มที่ภูเก็ต ท่านออกเงินส่วนตัว 30 ล้านบาทกู้เรือ เพื่อประเทศชาติ



    IMG_20240408_085438.jpg

    จากคำสื่อเตือนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 1 ในพุทธทำนาย ยุคพลังงานเก่าที่ผ่านมา เป็นสังคมที่ไม่ได้ส่งเสริมคนทำดี ทำให้คนทำดีเกิดความท้อแท้สงบงันเหมือนการเห็นแก่ตัวเพราะต้องคอยระมัดระวังตน โดยหยุดบทบาทตนเองไว้ การที่มนุษย์จะแสดงความดีงามสู่สังคมสักครั้งสักคนจะต้องใช้ความกล้าหาญและการเสียสละที่ยิ่งใหญ่เกินจริง จึงจะพอฟันฝ่าอำนาจด้านลบที่เกาะกุมจิตใจผู้คนส่วนใหญ่ได้

    ค่ะ jityim นำเรื่องนี้มาให้พืจารณา ที่จริงแล้วเป็นใหญ่ในบ้านเมืองทุกท่านที่ดำรงตำแหน่งสำคัญของบ้านเมืองล้วนแต่เป็นผู้ที่มีวาสนาสั่งสมบารมีความดีมามากอยู่แล้ว มิเช่นนั้นจะไม่สมารถรับตำแหน่งสำคัญของประเทศขาติได้โดยเฉพาะประเทศไทย ความจริงทุก ๆ ท่านอาจจะทราบต้นสายปลายเหตุที่แท้จริง บางท่านอาจทราบที่มาที่ไปดี อย่างกรณี jityim ถึงแม้จะไม่รู้ตื้นลึกหนาบางว่าเป็นอย่างไร แต่ก็ต้องทำหน้าที่นี้

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้กล่าวเอาไว้ว่า ท่านจะไม่ทิ้งคนที่ทำความดี หากท่านไม่ช่วยคนที่ทำความดี แล้วจะไม่มีใครอยากทำความดี หน้าที่ของตำรวจคือ การรักษาความสงบสุขเบื้องต้น หากคนในองค์กรนี้ท้อแท้สงบงัน ไม่มีใครกล้าที่จะทำดี เพราะทำแล้วเห็นผลว่าจะเป็นเช่นไร? บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร เมื่อทำแล้วผลตอบแทนไม่ได้ดี คนที่ต้องการทำความดีก็จะท้อแท้ เมื่อไม่มีใครคิดอยากจะทำความดี เพราะสังคมไม่สนับสนุนการทำดี

    เพื่อให้ความเป็นธรรม เจตนาหัง ภิกขเว คือ ความเจตนาเป็นตัวตั้ง ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่ต้องการทำความดี เพื่อไม่ให้คนรุ่นหลังไม่ท้อแท้ในการทำความดี นี่คือเหตุผลสำคัญใหญ่ของบ้านเมืองในการธำรงไว้ซึ่งศีลธรรม ปราศจากอบายมุข ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพลมากดขี่ข่มเหงรังแกผู้อื่น

    ความจริงที่รับรู้คือ ยาเสพติดทำลายสมองผู้อื่น จากที่เห็นหลายคนหมดอนาคตเดินร่อนเร่ขอเขากินไปวัน ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีน้องคนหนึ่งนิสัยไม่เลวร้ายเลยแต่ตกเป็นทาสยาเสพติด ตอนนี้สมองใช้การไม่ได้อยู่ดี ๆ ก็เดินหายออกไปจากบ้านไปโผล่ตามที่ต่าง ๆ.ห่างออกไปจากบ้าน พ่อแม่ตามหาตัวมีคนมาบอกว่าเห็นไปเดินอยู่ห่างจากบ้านไปเกือบ 20 กม พอตามตัวกลับมาได้ ก็หายไปอีก สร้างความทุกข์ใจให้กับพ่อและแม่มาก อายุเพิ่ง 20 สมองเบลอใช้งานไม่ได้ แถวตลาดก็มีหลายคน

    ส่วนการพนันโดยเฉพาะพนันออนไลน์ ชีวิตต้องจบสิ้นลง อนาคตดับ ผลพวงเมื่อติดการพนันตามมาด้วยการลัก การหลอกลวง หมดที่ยืนในสังคม บางคนกลับสิ้นสั้นฆ่าตัวตายไม่เฉพาะแม้แต่ตัวผู้ติดการพนันเอง

    เมื่อยุคศิวิไลย์ ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางด้านจิตวิญญาณ ผู้มีบุญบารมีลงมาเกิดเพื่อบารมี สภาพแวดล้อมสังคมมีส่วนกำหนดอนาคตของเขาเหล่านั้น น้อยคนนักที่จะมีจิตใจที่เข้มแข็งไม่ไหลไปตามสิ่งแวดล้อม อย่างกรณีเยาชนจังหวัดสระแก้วเรื่องคดีป้ากบ มีอยู่คนหนึ่งตามข่าวเรียนเก่งสอบแข่งขันโอลิมปิคอนาคตยังเปลี่ยนเข้ามาอยู่ในแกงค์ก่อความเดือดร้อนให้กับสังคมได้

    และยิ่งองค์ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไม่สนับสนุนคนทำความดีแล้วยิ่งทำให้การทำลายศีลธรรมมากขึ้น เพราะคำว่าระเบียบความถูกต้อง จะมากับคำว่าวัฒนธรรมองค์กรใคร ๆ ก็ทำ ซึ่งเคยโดนมาบ้างแล้วถ้าจิตใจไม่เข้มแข็งจริง และยิ่งไม่มีอำนาจด้วยไม่มีใครกล้าฝืน สุดท้ายก็จะเป็นไปตามธรรมเนียม เมื่อคนดีไม่ได้ทำหน้าที่ โดยเฉพาะองค์กรพิทักษ์สันติราษฎร์ก็จะมองให้เห็นความเสื่อมของศีลธรรมในอนาคตได้เลยว่าจะต้องลงเอยเช่นไร!!

    การทำให้คนต้องการทำความดี มีอำนาจก็เพื่อที่จะควบคุมคนไม่ดี และให้คนดีได้ทีโอกาสทำหน้าที่ของตนเอง หากแม้ว่าเป็นจริงดังที่ว่า



    อย่าให้สังคมเคลือบเคลือง จนคนท้อแท้ไม่กล้าทำความดี ถ้าเมื่อคนในองค์กรรู้ดีว่าอะไรคืออะไร ก็ยังโดน แล้วถ้าเปรียบกับตัวพวกเขาเหล่านั้น จะเป็นเช่นไร? คงไม่มีใครกล้าที่จะทำความดี

    โลกยังต้องการพลังงานด้านบวกจากจิตใจมนุษย์ที่มีศีลธรรม ยาเสพติด อบายมุข คือทางแห่งความเสื่อม ทำให้คนเสื่อมจากความดี

    ประเทศชาติเราต้องสนับสนุนให้คนทำดี อย่างเช่น อ.น้องไนซ์ ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นเด็กท่านก็เป็นพระโพธิสัตว์ลงมา สร้างบารมี โพธิจิตที่สั่งสมไว้ ไม่ได้วัดที่อายุ การ สร้างบารมี คือการช่วยเหลือโลกด้านพลังงานด้านบวก หรือแม้แต่วัดธรรมกาย ก็คือการรวมกลุ่มกันให้ทำความดี รวมหมู่คณะกันสร้างสติ สมาธิและปัญญายังก่อให้เกิดพลังงานด้านบวกให้แก่โลก พลังงานดังกล่าวยังมีส่วนช่วยประเทศชาติให้รอดพ้นภัย

    images (71).jpeg

    ดาวน์โหลด (10).jpeg

    ถามว่า jityim อาจจะเป็นเป็นแค่ 1 เสียงเล็ก ๆ เผื่อบังเอิญมีอะไรดลใจให้มีผู้มีอำนาจเข้ามาอ่าน ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวไว้ว่า ถ้าเราไม่ช่วยเหลือคนที่ทำความดี ควไม่มีใครอยากทำดี การตัดสินที่ให้ความเป็นธรรม ที่หลายคนไม่เคลือบแคลงสงสัย เพื่อไม่เสียขวัญและกำลังใจต่อผู้ที่มีอุดมการณ์การทำความดีของค์กรพิทักษ์สันติราษฎร์ของคนรุ่นหลังต่อไปไม่มีใครกล้าที่จะทำความดี

    ประเทศชาติของเรายังประมาทไม่ได้ โลกยังไม่ได้เข้าสู่ยุคศิวิไลซ์อย่างแท้จริง บ้านเมืองต้องการผู้คนส่วนใหญ่มีศีลธรรม ห่างไกลจากอบายมุข ยาเสพติด ที่เป็นเหตุที่สังคมเดือดร้อนใจ IMG_20240410_161338.jpg

    IMG_20240410_161455.jpg

    ภาพนี้ฟ้าผ่าที่กัวเตมาลา 10 เม.ย. 2567แต่หลายคนสังเกตุว่า ฟ้าไม่ได้ผ่าจากข้างบน แต่เหมือนผ่าดันจากข้างล่าง

    Screenshot_2024-04-11-06-22-20-07_f69139cffc4d135a71392e13634f144a.jpg

    การเปลี่ยนจากยุคพลังงานเก่าสู่ยุคพลังงานใหม่ด้วยความสมดุลของระบบที่สูงกว่าเดิมเป็น 2 เท่า เพื่อหวังให้ทุกคนเกิดสติปัญญาทางวิญญาณ หันมาสร้างความดีงาม ตื่นจากความหลงผิดติดอยู่กับอวิชชาที่งมงาย ซึ่งพลังอำนาจความดีงามของมนุษย์บนแผ่นดินนั้น มันพอที่จะช่วยบรรเทาจากหนักให้เป็นเบาไม่น้อยเลย

    ถ้าบริเวณแผ่นดินใด ผู้คนบนแผ่นดินอาศัยนั้น ร่วมมือกันกระทำความดีงามผ่านกระบวนการจิตสำนึกด้านบวกเพิ่มขึ้นมาได้ คลื่นพลังงานด้านบวกจากผลรวมของแต่ละคนที่ปลดปล่อยมันออกมาภายนอก จะปรากฎเป็นกลุ่มพลังงานที่สว่างไสวคล้ายเมฆสีทอง ล่องลอยปกคลุมเหนือแผ่นดินนั้น ในทางกลับกันแผ่นดินใดผู้คนผู้อาศัยบนแผ่นดินนั้น ยังคงหมกหมุ่นมัวเมาอยู่กับการสร้างกลุ่มพลังงานกรรมด้านลบอันเกิดจากจิตสำนึกด้านลบอยู่ต่อไป กลุ่มพลังงานด้านลบจะถูกปลดปล่อยออกมาให้ล่องลอยอยู่เหนือแผ่นดินนั้นเช่นเดียวกัน มันจะเป็นกลุ่มพลังงานที่มีลักษณะคล้ายกลุ่มเมฆหมอกสีดำคล้ำในมิติคู่ขนาน ปกคลุมเหนือแผ่นดินให้จักรวาลผู้ช่วยเหลือยกระดับพลังงานโลกให้เห็นเช่นเดียวกัน

    การสร้างพลังงานด้านบวกจากจิตสำนึกของแต่ละคนบนแผ่นดินนั้น มันจะเป็นการสื่อความหมายให้จักรวาลได้รับรู้ถึงการตัดสินใจของมนุษย์ที่อาศัยบนแผ่นดินนั้นว่าต้องการมีชีวิตรอด สู่การเป็นมนุษย์ยุคพลังงานใหม่แล้ว ซึ่งเสมือนเป็นการแสดงออก เพื่อการร้องขอโอกาสของหมู่คณะนั่นเอง

    กระทู้นี้ยอมรับว่าลำบากใจ เพราะตนเองก็ไม่รู้ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร เขียนและลบมา 3 รอบแล้ว แต่ก็ผ่านไปไหนไม่ได้ ต้องมาวนเวียนลงในกระทู้เพื่อโพสต์เพื่อพิจารณา jityim ก็แค่ทำหน้าที่ที่ตนเองได้ทำมา ความเป็นจริงจะเป็นเช่นไรให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม เพื่อส่งเสริมศีลธรรมให้เฟื่องฟูปกป้องประเทศชาติให้รอดพ้นและปลอดภัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2024
  19. ฝ่ายขาว

    ฝ่ายขาว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2021
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +16
    ใกล่สงกรานแล้วครับเตรียมๆ
     
  20. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,195
    พุทธทำนายที่ว่า "มิกราชโพธิญาณ" นัยยะผู้จะมาช่วยเหลือต่ออายุพระศาสนาให้ครบ 5,000 ปี

    IMG_20240415_182824.jpg


    พระธรรมจะเริ่มเปล่งแสงรัศมีฉายส่องโลกอีกวาระหนึ่ง หมายถึง แสงแห่งธรรม หรือองค์ธรรมพระยาธรรมิกราช หรืออีกนัยยะหนึ่งคือ แสงธรรมโลกุตระ ที่มนุษย์กึ่งพุทธกาล หรือเป็นพุทธประเพณี ที่พระยาองค์ธรรมิกราชา ก็คือ แสงธรรมธรรมโลกุตระเปิดให้กับผู้มีวาสนาบารมีที่สั่งสมไว้ ผู้ปฏิบัติธรรมตามคำสอนได้พบธรรมโลกุตระ ในยุคกึ่งพุทธกาลนี้

    กรณีน้องไนซ์ กับ ทางสื่อโซลเซียลที่ในเวลานี้



    ถ้าเราทำความเข้าใจเรื่องการบำเพ็ญบารมีพระโพธิสัตว์ การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะเกี่ยวกับสงสารสร้างบารมีทุกภพภูมิล้วนเกิดได้ตามภพภูมิต่าง ๆ แม้กระทั่งเกิดเป็นพญานาค เทวานิรมิตรจุุติ ตามยุคพระยาธรรมิกราช คือ การมาบำเพ็ญบารมีช่วยเหลือโลกมนุษย์ ที่น้องไนซ์กล่าวถึง "องค์สันตะโร" หมายถึง องค์ธรรมิกราช และการเห็นแสงสี ก็คือ แสงธรรมตามแนวทางธรรมโลกุตระ การเชื่อมจิต คือ การสอนธรรมแบบจิตสู่จิต และการบรรลุธรรมอนาคามี สำหรับธรรมพระโพธิสัตว์ คือนัยยะคือ อนาคามีมรรค ยังไม่ใช่อนาคามีผล เพราะพระโพธิสัตว์ จะบำเพ็ญอรืยมรรค เรียนรู้อริยสัจ จะยังไม่บรรลุผล

    น้องไนซ์อายุ 8 ขวบ ถ้าถามเรื่องการอ่านหนังสือและการตีความหมายสำหรับเด็กธรรมดาแล้ว คงไม่สามารถแปลความหมายของตัวอักษรได้เป็นอย่างแน่ถ้าน้องไนซ์อ่านหนังสือธรรมะแล้วนำมาสอน และส่วนตัวน้องคงไม่ได้อ่านหนังสือธรรมะใด ๆ แน่นอน โดยเฉพาะพระไตรปิฏก(เด็กยังคงอ่านหนังสือไม่เก่ง) เคยฟังธรรมของน้องไนซ์ใน tiktok เป็นบางครั้งและรู้เลยว่าธรรมที่ออกมาจากน้องไนซ์ เป็นธรรมะที่ต้องออกมาจากจิต หรืออีกนัยยะหนึ่งก็คือ ถ้าไม่สั่งสมวาสนาบารมีธรรมไว้ในจิตแล้วจะไม่สามารถแนะนำได้อย่างเข้าใจได้อย่างดี และสามารถรู้จิตใจและแนะนำธรรมที่คนอื่นติดขัดได้แม้เพียงเห็นหน้าแค่สื่อทางโซลเซียล jityim รู้สึกได้แบบนั้น

    และสิ่งที่ทำให้ jityim แน่ใจคือ น้องไนซ์กล่าวถึงคำว่า "องค์สันตะโร" ซึ่งน้อยนักที่คนจะรู้จักคำ ๆ นี้ นอกจากพระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมีขั้นสูง

    เพราะคำว่า "องค์สันตะโร" จะหมายถึง "องค์ธรรมิกราช" ซึ่งเป็นองค์ธรรมโลกุตระ ผู้ที่จะรับธรรม รับแสงธรรมจากองค์ธรรมิกราชได้ต้องบำเพ็ญบารมีขั้นสูง ก็คงต้องหมายถึงผู้ที่บำเพ็ญบารมีโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล เพื่อนำแสงธรรมโลกุตระ รักษาพระศาสนาให้ครบ 5,000 ปี

    ซึ่งผู้บำเพ็ญบารมีพระโพธิสัตว์น่าจะทราบกันดีอยู่แล้วนะค่ะ

    ส่วนกรณีน้องไนซ์ ที่มีสื่อดราม่าในโลกสื่อโซเซียล ณ ขณะนี้



    ที่ jityim ได้กล่าวไว้เมื่อโพสต์ที่แล้ว นัยยะสื่อการเผยแพร่ธรรมะจากจิต ต้องลองไปฟังธรรมที่น้องไนซ์กล่าวไว้ดูค่ะ ธรรมที่ออกมาจากจิตที่ต้องสั่งสมไว้ในอดีตชาติมาเป็นอย่างไร

    โดยเฉพาะการกล่าวถึง "องค์สันตะโร" ชื่อนี้น้อยนักที่คนจะรู้จักว่าคืออะไร และเด็กอายุ 8 ขวบไม่มีทางจดจำมาจากคำบอกเล่าของผู้ใหญ่ และคงไม่ลึกซึ้งถึงนัยยะแห่งความหมายนี้ได้อย่างแน่นอน แม้กระทั่งตัวของ jityim เอง เมื่อได้ยินคำนี้จากปากน้องไนซ์ จึงมั่นใจเรื่องบารมีของน้องไนซ์และฟังธรรมของน้องไนซ์แล้วจึงเห็นว่าไม่ธรรมดา

    หากตามสื่อประเด็นร้อน ณ ขณะนี้ หากพิจารณาโดนปราศจากอคติ พิจารณาโดยความเป็นกลางแบบนิ่ง ๆ เราจะเข้าใจในสิ่งที่น้องต้องการสื่อ และด้วยวัย 8 ขวบ เราต้องยอมรับกันอย่างหนึ่งว่า ธรรมะที่สื่อออกมาจากจิต คือวาสนาที่ได้สั่งสมไว้ วุฒิภาวะทางอารมณ์ต้องเกี่ยวเนื่องด้วยวัยวุฒิ จริงอยู่การมาเกิดใหม่ ชาติใหม่ต้องเริ่มต้นเรียนรู้การใช้ชีวิตกันใหม่ แตกต่างจากธรรมะในจิตที่สั่งสมไว้ด้วยวาสนาบารมีสามารถดึงมาใช้ได้เลยเมื่อถึงกาลเวลาเหมาะสม ตามเหตุปัจเจกบุคคลเท่าที่รู้คือ รู้ตัว 3 ขวบ 5 ขวบ คือแนะนำพ่อแม่แล้วค่ะ

    แม้กระทั่งเราเองเมื่อเป็นผู้ใหญ่แล้วประสบการณ์เราก็ตะต้องเราเรียนรู้การใช้ชีวิตกันใหม่อีก ไม่ว่าจะเกิดมากี่แสนภพชาติ เมื่อตายแล้วเกิดใหม่ก็ต้องเริ่มต้นเรียนรู้กันใหม่ นอกจากอริยทรัพย์ที่สั่งสมไว้เท่านั้น ที่เป็นทรัพย์ภายในของเราที่มาต่อสร้างสั่งสมเพิ่มเติมถ้ายังไม่บรรลุและหลุดพ้น

    ที่ jityim นำมาพิจารณา เพราะเกี่ยวเนื่องกับโพสต์ที่แล้วเนื่องด้วย เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติม จะไม่ทำให้เกิดการเคลือบแคลงสังสัยทั้งที่เห็นด้วยแลไม่เห็นด้วย เพราะเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ถ้าเราสร้างความเข้าใจเป็นหนึ่งเดียวกันได้ จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อพระศาสนามากกว่าค่ะ

    ก็คือ อยากจะให้หลายคนที่ยังไม่เข้าใจได้รับทราบที่มาที่ไป ที่จริงแล้ว jityim ไม่ต้องนำมาลงก็ได้เพราะอย่างไรทุก ๆท่านก็ต้องผ่านบททดสอบต่าง ๆ กันอยู่แล้วโดยเฉพาะผู้บำเพ็ญบารมี แต่ตอนนี้สังคมกำลังแตกแยกทางความคิด โดยมี influencer ต่างๆ เข้ามาแสดงความคิดเห็น และเห็นมีคอมเม้นท์ที่กล่าวพาดพิงโดยที่ใครหลายคนไมได้พิจารณาโดยถ้วนถี่ก่อนก็ว่าตามกัน หากสื่อมิได้นำเรื่องนี้มาลงซ้ำ ๆ แล้วมีคอมเม้นท์วิพากษ์วิจารณ์กันก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของการแตกแยกทางความคิดในการสร้างพลังงานลบโดยมิใช่เหตุนะค่ะ

    แล้วแต่จะพิจารณาค่ะ เผื่อเป็นประโยชน์ที่เคลือบแคลงสงสัย อันนี้น้องเขาไม่ได้เป็นคนบอกนะน้องเคือพระโพธิสัตว์ นอกจากคนที่เขาเป็นพระโพธิสัตว์ด้วยกันเองจะดูกันออก แต่ที่จิตยิ้มเชื่อมั่นคือ ยุคกึ่งพุทธกาลจะมีผู้บำเพ็ญบารมีเพื่อช่วยพระศาสนาให้อยู่ครบ 5000 ปี และเชื่อในธรรมโลกุตระเปิดเพราะประสบพบเจอด้วยตนเอง และเชื่อคำว่าองค์ธรรมิกราชาที่เป็นแสงธรรมส่องสว่างกึ่งพุทธกาล ดังนั้นผู้ลงมาบำเพ็ญบารมีสืบทอดอายุพระศาสนาย่อมมีอย่างแน่นอนโดยเฉพาะผู้ที่กล่าวคำว่า "องค์ธรรมสันตะโร" ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2024

แชร์หน้านี้

Loading...