กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    พ่อท่านทอง สีลสุวัณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดสำเภาเชย
    วันที่ 19 มีนาคม 2560 - 03:30 น.

    bud04190360p1-696x392.jpg

    อริยะโลกที่ 6

    “พระศีลมงคล” หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า “พ่อท่านทอง สีลสุวัณโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดสำเภาเชย อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี พระเกจิดังเมืองปัตตานี ที่ประชาชนในพื้นที่ให้ความเลื่อมใสศรัทธา


    มีลิ้นดำที่ติดตัวท่านแต่กำเนิด ด้วยตามตำราโบราณถือว่าผู้มีลิ้นดำมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ สามารถกำราบคุณไสย

    ด้วยเหตุนี้จึงได้รับนิมนต์ร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลแทบทุกงาน

    อีกภาพหนึ่งท่านเป็นพระของชาวบ้าน รอบรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในอำเภอปะนาเระ และแก้ได้ถูกจุด

    เป็นลูกชาวปัตตานีโดยกำเนิด เกิดในตระกูลศรีชาติ มีใจฝักใฝ่ในพระศาสนามาแต่ครั้งเยาว์วัย จนกระทั่งเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ที่พัทธสีมาวัดดอนตะวันออก เมื่อพ.ศ.2482 ได้รับฉายาว่า สีลสุวัณโณ แปลว่าผู้มีศีลงดงามดั่งทอง

    ต่อมาปีพ.ศ.2487 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสำเภาเชย จนถึงปีพ.ศ.2494 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นเจ้าคณะตำบล พ.ศ.2509 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอปะนาเระ พ.ศ.2543 ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์เจ้าคณะอำเภอปะนาเระ

    พ.ศ.2497 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ “พระครูพินิตนรัญญู” พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ที่ “พระศีลมงคล”

    อุปนิสัยเป็นพระเรียบง่าย พูดน้อย แต่ทำงานเยอะ โดยเฉพาะงานด้านการศึกษาที่ท่านสนับสนุนส่งเสริมเต็มที่ โดยบริจาคที่ดินให้จัดตั้งโรงเรียนวัดสำเภาเชย ซึ่งทำการสอนในระดับมัธยมศึกษา ม.1-ม.3 (ป.5-ป.7 เดิม) ตั้งแต่พ.ศ.2499 ปัจจุบันได้ยุบรวมกับโรงเรียนบ้านปะนาเระ

    ต่อมาได้จัดตั้งโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมประจำศาสนศึกษาขึ้นในวัดสำเภาเชย แผนกธรรมประจำสนามสอบวัดสำเภาเชย อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี

    เพื่อเป็นการส่งเสริมการศึกษาแก่เด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ท่านจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ.2525

    [​IMG]
    ในฐานะเจ้าอาวาสวัดสำเภาเชย พัฒนาวัดโดยจัดสร้างอาคารเสนาสนะต่างๆ ภายในวัด เช่น อุโบสถ หอฉัน ศาลาอเนกประสงค์ ศาลาที่พัก ซุ้มประตู และกำแพงวัด ปรับบริเวณสถานที่ให้มีความร่มรื่น สวยงาม

    จนได้รับการยกย่องให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง จากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ในปีพ.ศ.2525 และเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่นในปีพ.ศ.2544

    นอกจากนี้ ยังได้สร้างและปรับปรุงเสนาสนะแก่วัดต่างๆ อีกด้วย คือ สร้างอุโบสถวัดโพธาราม สร้างตึกสงฆ์หลวงปู่ทวด ในโรงพยาบาลปะนาเระ สร้างอุโบสถวัดดอนตะวันออก สร้างอาคารอเนกประสงค์ หมู่ที่ 4 บ้านคลองต่ำ ตำบลปะนาเระ

    รวมทั้งเพื่อให้พระภิกษุ-สามเณรมีกำลังใจ ท่านให้ทุนการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณรที่ไปศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ที่กรุงเทพฯ เป็นเวลากว่า 10 ปี

    อีกทั้งยังมอบเครื่องเขียนแบบเรียนแก่พระภิกษุสามเณรที่ศึกษาพระธรรมวินัย ทั้งวัดสำเภาเชยเอง และวัดในอำเภอปะนาเระด้วย

    มีโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนทุกปี เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม และเปิดโอกาสให้เด็กเยาวชนได้ ใกล้ชิดกับวัดมากยิ่งขึ้น

    ในฐานะเจ้าคณะอำเภอปะนาเระท่านมีส่วนช่วยเหลือจัดสร้างดำเนินการสาธารณูปโภค ร่วมกับประชาชนและราชการพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญรุดหน้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ สร้างศาลาที่พักริมทางในตำบลปะนาเระหลายแห่ง ตัดถนนลัดจากหมู่บ้านคลองต่ำถึงตลาดอำเภอปะนาเระ สร้างถนนจากหมู่บ้านมะรวดขึ้นไปยังสถูปเจดีย์หลวงพ่อหนอน ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขามะรวด จัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาแก่เด็กนักเรียนในอำเภอปะนาเระที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

    และเผยแผ่ สร้างความเจริญแก่ชุมชนและเป็นคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เช่น อบรมศีลธรรมแก่เยาวชนในช่วงปิดภาคเรียน จัดอบรมกรรมฐานแก่ประชาชน จัดพิมพ์หนังสือธรรมะเพื่อเผยแพร่ผลงานที่ท่านได้ทำ เพื่อเป็นอนุสรณ์ทิฏฐานุคติแก่อนุชนรุ่นหลัง

    ทำให้ท่านเป็นผู้รับรางวัลเสาเสมาธรรมจักร ประเภทส่งเสริมการพัฒนาชุมชน และสงเคราะห์ประชาชนโดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สาขาส่งเสริมการพัฒนาชุมชน ประจำปี 2540

    ละสังขารอย่างสงบด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2554 สิริอายุ 93 ปี พรรษา 76


    ขอบคุณที่มา...
    นสพ.ข่าวสด (คอลัมน์พระเครื่อง)


     
  2. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    สาธุครับ น่าเลื่อมใสมากๆ
     
  3. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 152 ลำดับที่ #3033

    วันนี้อาจารย์นพคุยเรื่องความเชื่อ
    ...มีมุมมองที่น่าสนใจ


    [QUOTE="nopphakan, post:]
    ลูกไฟพยานาคนั้น ไม่เคยมีโอกาสได้ไปดูในช่วงเทศกาล
    เพราะไม่ค่อยชอบไปเบียดๆ คนวุ่นวาย...
    แต่ก็เคยเห็นกับตา ตัวเองมา แต่จะเห็นที่วัดมีชื่อ
    ก็แกล้งๆถามท่านเจ้าอาวาสว่า บริเวณนั้น
    เป็นห้องอะไร ประมาณนี้หละ.....พอขำๆ...

    '' ความเชื่อ ตราบใดที่ยังไม่มีการพิสูจน์
    ก็ยังถือว่าถูกได้เสมอ ''


    ยกตัวอย่าง ชายคนหนึ่งที่ถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิต
    เพราะเค้าค้นพบว่า ฟันเขามี ๓๒ ซี่
    แล้วไปพยายามที่จะบอกคนอื่นๆว่า มี ๓๒ ชื่
    ซึ่งในชนกลุ่มนั้น เค้าเชื่อว่า ฟันมี ๓๐ ซี่
    เป็นเหตุให้ ชายคนดังกล่าวถูกทำร้ายจนเสียชีวิต.....
    ที่พูดไม่ใช่คนไทยนะ...เป็นฝรั่ง.....

    ทางวิทยาศาสตร์ จะยอมรับก็ต่อเมื่อ
    หากวิธีการของเรา ที่พิสูจน์ขึ้นมาแล้วนั้น
    เมื่อใดก็ตาม ถ้ามีบุคคลใดๆ
    นำไปทำซ้ำ ผลที่ออกมาจะต้องเหมือนกัน
    หรือใกล้เคียงกันนั่นเอง นี่คือ ทางวิทย์

    ไม่ใช่แบบ ทาง ประเทศ พี่ยุ่น นะ
    ที่มีข่าวดังเรื่อง การสร้างเซลล์ เนื้อเยื่อมนุษย์
    แต่กลับพบว่า เมื่อมีคนไปทดลองทำซ้ำ
    กลับไม่ได้ ผลดังที่กล่าวมา
    สุดท้าย กลายเป็นเรื่อง โอละพ่อ
    เป็นเรื่อ กุ๊กกิ๊ก กันระหว่าง ลูกศิษย์สาว
    กับอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงระดับโลกท่านั้น
    สุดท้าย ก็จบชีวิตตัวเองไปซะงั้น....
    แต่ในหนัง เรื่อง Avenger ยังเอามาทำเป็นหนังอยู่
    มีตอนหนึ่ง ที่นำเอา นักแสดง ญ พี่ยุ่น ที่เป็นหมอ
    มารักษา กลุ่ม Avenger ที่เป็นนักธนูนั่นหละ..
    (เพราะที่ดัง เพราะลูกศิษย์สาว เป็นผู้ค้นพบ )

    ถ้าจะเอาการพิสูจน์ ตามหลักวิทยาศาสตร์
    จะได้ แนวความเห็นว่าออกมาว่า
    เราสามารถเห็นได้แต่ผล
    แต่ไม่สามารถทราบเหตุที่ทำให้เกิดได้...

    ทางนักวิทยาศาสตร์ ต่างประเทศ เค้าจะมีแนวคิดประมานนี้
    เวลาเจอเรื่องแบบนี้ เค้าจะพยายาม
    ทดลองด้วยวิธีต่างๆ ที่คาดว่า จะสามารถ
    ทำให้เกิดเป็นลูกไฟแบบนั้นขึ้นมาได้....
    แต่เมื่อได้พยายามลองแล้วลองอีก ด้วยวิธีใดๆก็ตาม
    ก็ไม่สามารถทำได้. เค้าก็จะให้ความเห็น
    แบบที่ เล่ามาข้างต้น คือ "เราจะพบเห็นได้แต่ผล
    แต่ไม่สามารถทราบเหตุที่ทำให้เกิดได้ ''
    แล้วก็จะมาดูเรื่องแรง เรื่องเหตุต่างๆ
    อะไรบ้าง ที่สามารถที่จะพอเป็นเหตุให้เกิดได้

    เค้าจะไม่มีการสรุปนะ ว่าไม่มีจริง ไม่มีทางเป็นไปได้
    และก็ไม่ตั้งข้อสมมุติฐาน อยู่บนความเชื่อหรือไม่เชื่อ
    ถ้าไม่มี วิธีการในการทดลองต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดผล
    แบบนั้นได้

    .....ยกตัวอย่าง เช่น กลไพ่ลอยได้
    เค้าจะไม่ฟันธงว่า ไม่เชื่อ มายากล หนักเข้าบ้านเรา
    ยังคิดเชิงอกุศลกับคนที่เห็นต่างๆอีก ว่างมง่าย
    ว่าไม่ฉลาดบ้าง เอาศาสนามาอ้างอีก
    ว่าระดับโน้นนี่นั้นไม่เคยสอน
    ไม่มีในตำรา.....แบบนี้ไม่ใช่วิธีคิดแบบนักวิทย์ฯ
    ที่อยู่บนพื้นฐานของเหตุและผล หรือทางพุทธฯ
    ที่ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน
    พวกนี้ ถือว่า '' เป็นนักวิทยากวยหัวศาสตร์ ''ที่
    ชอบเอาศาสนา ชอบเอาความเห็นตน
    มายกตน สร้างความแตกต่างให้ตนเองดูดี......

    เช่น เรื่องกระสือ ทางวิทย์ จะบอกว่า
    เค้าเห็นอะไรบ้าง แบบนั้นแบบนี้
    เคลื่อนไหวอย่างไร สีอะไร ฯลฯ
    จากการลงสนามไปพิสูจน์.......
    คือพูดในสิ่งเท่าที่ตาเห็น และคนอื่นๆเห็นเหมือนกัน
    แต่จะยังไม่มีการสรุป ฟันธงอะไร
    ถ้ายังไม่ผ่าน เครื่องมือ ตลอดจนพยายามพิสูจน์ต่างๆมาก่อน

    แต่ประเทศไทย ถ้าเป็นเรื่องกระสือ ยังไม่ทันไปดูเลย
    แต่ตั้งสมมุติฐาน ว่าไม่เชื่อ จะไปพิสูจน์ว่าไม่มีจริง
    เป็นเรื่องงมงาย ไร้สาระ แถมยังด่าพวกที่เชื่ออีก...
    แล้วก็ตั้งตัวเป็น ผู้รู้ ผู้กล้า ผู้มีความสามารถ
    อ้างว่า เพื่อป้องกันความงมงาย เพื่อพิสูจน์ความจริง
    สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงข้ออ้าง ที่ยกตนเองขึ้นมาเท่านั้น


    พอเห็นความแตกต่างของระบบและวิธีคิดหรือยังครับ.....

    ความเชื่อ ถ้ายังไม่ได้การพิสูจน์ ก็ย่อมถือว่า
    เป็นจริงได้เสมอ.....

    เช่น เรื่องผี.....ทางวิทย์ พิสูจน์ในเรื่องพลังงาน
    แล้วก็พูดตาม สิ่งที่เครื่องมือ ตรวจจับได้
    พิสูจน์บนพื้นฐานเพื่อหาเหตุที่เป็นไปได้ที่จะทำให้เกิด......
    เรียกว่า คำพูดมีแหล่งที่มา จากเครื่องมือ

    ทางพุทธฯ เรื่องผี
    ปากอ้างเป็นพุทธฯ อ้างพระพุทธฯไม่เคยสอน
    แต่ฟันธงว่า จิตปรุงแต่ง(ทั้งๆที่ ไม่ใช่นักปฏิบัติ
    ไม่มีความสามารถใช้งานทางจิต) พิสูจน์ด้วยการ
    ไปอยู่บริเวณนั้น ๑ หรือ ๒ วัน แล้วก็เอามาสรุป
    คิดเองเอ่อเอง ตามที่ตนเชื่อ ....

    และก็สรุปตาม ประสบการณ์ที่ตนเองมี
    โดยปราศจาก เครื่องมือการทดสอบใดๆ ที่เป็นสากล
    แล้วก็ ไปด่า ฝ่ายที่ความเห็นต่างๆ ว่าเค้าต่างๆนาๆ
    อะไรประมาณนี้หละ......
    พวกนี้ ตอนที่ตายนั่นหละ ถึงจะรู้ตัว......

    ประมาณนี้ แต่ถ้าพุทธฯเรา ถ้าเราเห็นแต่ผล
    ก็ยังไม่ควรยึดเลย ให้วางใจเป็นกลางไว้
    แม้เราจะเชื่อว่า เหตุแบบนี้ ทำให้เห็นหรือเกิดผล
    แบบนี้ได้ก็ตาม. จนกว่าเราจะค้นหาเหตุได้
    จากการปฏิบัติ แล้วให้มันอยู่ในรูปแบบคำว่า
    ปัจจัตตัง คือ รู้ได้เฉพาะตน
    คุยได้ กับบุคคลที่เห็นผลมาเหมือนกัน

    แต่ไม่ใช่กับบุคคลที่ ไม่เคยเห็นผล ไม่มีแนวคิด
    ในการค้นหาเหตุ แต่ฟันธงไปเลยว่า ไม่มี โกหก
    งงงาย...อะไรประมาณนี้.....

    เอาประมาณนี้หละครับ.....

    โน้น รอจนกว่า ทางวิทย์จะค้นพบ
    เครื่องมือ ในการเก็บรวบรวมมวลจิตได้ก่อน
    แล้วเอามาเก็บไว้ใน ฮารต์ดิสได้
    ถึงจะใกล้เคียง ในสิ่งที่
    ทางพระศาสดาเราได้ ค้นพบมาแล้วโน้นครับ
    ซึ่งยังไม่ใช่ในเร็วๆนี้ครับ...
     
  4. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 153 ลำดับที่ #3051

    วันนี้อาจารย์นพเล่าเรื่องหลวงปู่ ท.
    ที่ตนเองเคยประสบมาให้ฟัง...สนุกมาก


    [QUOTE="nopphakan, post:]
    สำหรับ เรื่อง เกี่ยวกับหลวงปู่ ท. ที่ใครๆก็รู้จัก
    ส่วนตัวมีเรื่องเหนือวิสัยที่สามารถเล่าได้อยู่เรื่องหนึ่ง

    ที่มองว่าเป็นรูปธรรม ที่พอจะเล่าได้ คือ
    กรณีขับรถยนต์ รู้จัก ย้อยพวงมาลัย ไหมครับ
    ย้อยพวงมาลัย คือ ชิ้นส่วนที่จะทำให้เราสามารถบังคับล้อ
    ให้ไปในทิศทางที่สัมพันธ์กับการบังคับพวงมาลัยในรถ
    ซึ่งมันจะมีแกนตัวหนึ่งเป็นตัวเชื่อมชิ้นส่วนต่างๆที่มาจาก
    พวกมาลัยและชิ้นส่วนที่จะไปบังคับล้อให้เลี้ยว
    ก่อนหน้านั้น ได้ไปซ่อมตรงจุดนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง
    จำได้แม่นเรื่องนี้ ตอนปี ๒๕๕๒ ช่วงปีใหม่ ช่วงนั้นทำงาน
    อยู่ที่ หนองขามน่าจะชลบุรี จะกลับมาขอนแก่น
    แต่ต้องแวะไปรับ น้าที่ นนทบุรี ด้วย...ช่วงไป นนฯไป
    มีอะไร วิ่งทาง กรุงเทพชลบุรีสายใหม่ แล้วย้อนกลับมา
    ไปทางปราจีนบุรี เพื่อวิ่งข้ามเขา มาทางกบิณบุรี
    มาทาง ปักธงชัยที่โคราช นั้นในขณะที่ขับรถนั้น

    ผ่าสถานการณ์รถติด ขึ้นเขานั้น อยู่ดีๆเหมือนง่วง
    เฉยๆแต่ก็พยายามฝืนไม่หลับ แล้วสายตาเหลือขึ้นไปมอง
    บนท้องฟ้านั้น พบเห็นเหตุการณ์ประหลาดบางอย่าง
    ตรงนี้ไม่สามารถเล่าได้ ส่วนตัวก็ไม่ได้เอะใจอะไรตอนนั้น
    เพราะช่วงนั้น แม้ทำงาน ๗ วัน ๒ บริษัท เป็นที่ปรึกษา
    ๒ แห่ง ไม่มีวันหยุดเลย..และเที่ยวปกติ ก็ยังเจอเรื่องนามธรรม
    แบบตาเปล่าได้อยู่ปกติ ก็เลยไม่ได้คิดอะไร

    ...ก็ขับรถมาได้เรื่อยๆ จนถึง ขอนแก่น
    แต่ยังไม่ถึงบ้าน มาถึงบริเวณ ถนนมิตรภาพในตัวเมือง
    ก็พบว่า อยู่ดีๆรถไม่สามารถสตารท์ติดได้ และไม่สามารถ
    บังคับพวงมาลัยให้เลี้ยวซ้ายและขวาได้
    ตอนนั้น พอเข้าใจได้ว่า รถมันอายุหลายปีแล้ว
    คงเป็นไปตามสภาพ ตอนนั้นขับยี่ห้อเดียวกับ มอไซด์นี่หละครับ
    แต่ก็ มาประหลาดใจอย่างหนึ่งว่า
    เข๊มขัดหนัง จรเข้แท้ๆ ที่ซื้อ ที่โรงงานผลิตเลย
    โรงงานจะอยู่แถวๆหนองขาม ห่างกันไม่ถึง ๑๐ กิโลฯ
    ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย....หาอย่างไรก็ไม่เจอ
    ทั้งๆที่เป็นคนเอาใส่ไว้ในกระเป๋ากับมือ
    แต่ก็ได้แต่ปลง เพราะรู้สึกเสียดายมากตอนนั้น
    เพราะจำได้ว่า ตอนนั้นจะซื้อกระเป๋าสตางค์มาฝาก
    พระบิดา ซื้อเข๊มขัดมาฝากพระมารดา....
    และตอนนั้น บัตร ATM ก็หายอีก สมุดก็ไม่ได้เอามา
    เอามาก็เบิกไม่ได้เพราะแบงค์ปิดหมด ๕๕๕ เรียกว่า
    มีแต่ตังค์ที่ติดกระเป๋าตัวเอง ไม่กี่บาท
    ได้ยืมคนอื่นๆใช้ไปก่อน ๕๕๕ นึกแล้วขำดี

    ก็นั่งแท๊กซี่กลับบ้าน แล้วก็ให้อู่ มาลากไปไว้
    ดีว่า เจ้าของอู่ยังไม่ได้ไปไหน แต่ก็ต้องรอ
    หลังปีใหม่ค่อยได้ซ่อม......

    ผลปรากฏว่า เจ้าของอู่บอกว่า รถพี่
    แกนย้อยพวกมาลัยมันไม่มีครับ
    ปกติมันไม่น่าจะเลี้ยวรถซ้ายหรือขวาได้
    ก็เลยบอกเค้าว่า ก็ขับขึ้นมาทางปราจีนมาถึง ขอนแก่นได้
    ทาง เจ้าของอู่ เค้าก็เลยทำหน้าแบบงงๆ
    ประมาณว่า เราพูดเล่นหรือพูดจริง......

    นึกออกไหม ถ้าแกนย้อย มันไม่มี
    การที่เราจะเลี้ยวรถเพื่อจอดยังไม่ได้
    เพราะรถมันจะตรงได้อย่างเดียว.....

    ที่เล่ามานี่หละ คิดว่า เหนือวิสัยมากแล้ว...
    กับ ประสบการณ์ หลวงปู่ ท.
    แลกกับ การที่เข๊มขัดหนังจรเข้หาย
    กับการลืมบัตร ATM แต่ไม่ประสบอุบัติเหตุ
    ในระหว่างเดินทางขึ้นเขา จนมาถึง
    ขอนแก่นได้. ส่วนตัวคิดว่า
    โชคดีสุดๆแล้วหละครับ.......

    ส่วนอื่นๆ จะเป็นนามธรรม
    พูดไปก็พิสูจน์ไม่ได้.....
    เอาว่า การที่ส่วนตัวได้ทราบว่า
    ท่านมีพระวรกายคล้ายพระพุทธรูปฯ
    ยืนบนดอกบัว และ กำลังเสด็จลงมาจากบนฟ้านั้น
    เหตุเพราะ สมัยที่ออกจากวัดป่าใหม่ๆ(คือพึ่งสึกมา)
    ช่วงนั้นกำลังสติอ่อน เลยติดการท่องเที่ยว
    แบบพิเศษไปหน่อย เพราะเมื่อก่อนจะชอบ
    ไปเที่ยววัดดังๆแบบพิเศษด้วย
    เพราะการเดินทางปกติ เราไม่มีเวลา
    และมีค่าใช้จ่ายด้วย เป็นเหตุผลหนึ่งที่ใช้อ้างนะ....
    แต่ก็มีหลายครั้ง ที่ทำเพื่อไปดูคนใกล้ชิด ณ เวลานั้น
    ว่าเค้าทำอะไรอยู่ ถ้าสถานที่ใด ไม่มีผู้ดูแลรักษา
    จะสามารถไปเห็นได้หมดว่า กำลังทำอะไร
    เล่าให้ฟังแต่ไม่แนะนำ เพราะมันทำเพื่อตัวเอง
    ไม่มีประโยชน์.....

    อย่างวัดดังๆ หลวงพ่อ องค์ใหญ่ๆเนี่ย
    เวลาไปแบบพิเศษ ท่านจะออกมา ยิ้มต้อนรับ กลางอากาศ
    ด้วยความรู้สึกว่า ท่านเมตตามากๆ

    มีวันหนึ่ง นึกจะไปวัด มีชื่อ ที่ จ.อุทัยธานี อีกรอบ
    คือเคยไปแล้วรอบหนึ่ง ว่าจะไปอีก ว่างอยู่ช่วงนั้น
    ในระหว่างทาง ของเส้นทางที่จะไปวัด มีชื่อ
    ที่ จ.อุทัยธานี นั้นหละครับ ที่พบท่านที่ลอยมาจากบนฟ้า
    ส่วนตัวไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร เพราะเห็นเป็น
    พระพุทธรูปยืนบนดอกบัว ชัดเจนมาก เห็นในสภาพ
    แวดล้อมกลางวันนี่หละครับ
    ซักพักท่าน ก็กลายมาเป็น
    พระสงฆ์ท่านหนึ่ง
    ในท่านั่ง มีขนาดหัวเข่าซ้ายถึงขวาใหญ่มาก
    ๒๔ เมตรคือตอนนั้น จิตมันบอกว่า ๒๔ เมตรและก็ยืนแหนหน้ามองท่านอยู่ (แต่ด้วยที่กำลังสติอ่อน คือ กำลังสติทางธรรม
    คือเครื่องมือที่ทำให้เรารู้อะไรๆทางด้านนามธรรมต่างๆ)
    ตอนนั้น ไอ้เราก็เลยยืนมองพระพักต์ท่าน แต่มีความรู้สึกว่า
    ท่านหน้าตาเหมือน หลวงตา รูปหนึ่งที่ จ.สระบุรี คือดูคล้ายๆ
    กัน เลยยังไม่ทราบว่า ท่านเป็นใคร
    ในใจก็เลยคิดว่า ''ท่านเป็นใครครับ.... ''

    แค่คิด พระสงฆ์รูปใหญ่นั้น ก็หมุนมาให้เห็นด้านข้าง
    พร้อมกับมีเสียงตอบกลับมาว่า

    '' จำได้หรือยังว่าเป็นใคร''
    ตอนนั้นก็เลย อ้อ...หลวงปู่ .... นี่เอง
    จบเรื่อง นิทาน ขี้โม้ ทางด้านนามธรรม
    ตามแบบคนกำลังสติอ่อน ไม่มีค่ารถเดินทางในช่วงนั้น
    เหตุการณนี้ ปี ๕๒ เช่นกันครับ

    ส่วนเรื่องที่มีคนเล่า ว่าท่านเป็นโน้นเป็นนี้
    อยู่นั่นอยู่นี้ ไม่ทราบหรอกครับ
    ก็ฟังๆไว้เฉยๆเหมือนกัน

     
  5. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720

    (9)
    ".....ไว้ชิมแล้วจะบอกนะคร๊าบ"

    555 เรื่องนี้ค้างไว้เกือบเดือน
    เหตุเพราะไม่ได้ชิม(ไปตจว.)
    เลยไม่รู้รสชาติว่าเหมือนมะละกอหรือมะม่วง
    ส่วนคนที่บ้านบอก"พอผ่าออกมาข้างในเละ
    ....ส่วนผิวนอกยังพอดูได้อยู่"

    (รูปนี่ที่เคยนำมาลง)
    70400.jpg


    (ส่วนรูปนี่ถ่ายไว้ก่อนไปตจว.)
    70408.jpg

    สรุป...มะละกอรูปทรงมะม่วงนี้
    ...มันเป็นอะไรกันแน่
    จะเรียกมะม่วง หรือ มะละกอ
    ผมว่าน่าจะเรียก "มะม่วงผ่ากอ"

    .....55555 ผ่าเหล่าผ่ากอ
     
  6. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    สาธุครับท่าน9
     
  7. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    ถูกหวยลาวครับ 3000 สวดเงินล้านทุกวัน 30 จบขึ้นไป
     
  8. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720

    ขอแสดงความดีใจด้วยคน

    ได้ยินหวยลาวครั้งแรก...ที่นี่
    ไม่ทราบว่า"หวยลาว"หน้าตาเป็นอย่างไง
    น้องเอก...ช่วยอธิบายให้ทีเด๋อะ
    (ถ้าเป็นหวยถูกกฏหมายนะคร๊าบ)
    ถ้าผิด...ก้อผ่านไป
     
  9. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    พูดถึงเรื่องหวย...หวยๆๆๆๆ

    ไม่เฉพาะพี่ไทยนะที่ส่วนมากเล่นหวย
    คนทั่วโลกก็ไม่ต่างกัน
    คนนับถือศาสนาอื่นๆก็เล่นหวย
    ไม่ว่าชนชาติไหนก็ชื่นชอบเสี่ยงโชคกัน
    มันเป็นสีสันส่วนหนึ่งของชีวิต

    ทั้งๆที่คำว่า"หวย" คล้ายๆคำว่า"ห่วย"
    ห่วยมีความหมายว่าเช่นใด...
    ห่วยคือ ไม่ดี แย่ ไม่ได้เรื่อง ไม่เอาไหน เลว

    "ห่วยแตก" จะหนักกว่า "ห่วย"
    เช่นฝีมือห่วยแตก ,ผลงานห่วยแตก
    คล้ายๆกับคำว่า "เฮงซวย"

    ...แต่มีความรู้สึกคล้ายกับคำว่า "หวยแดก"


     
  10. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    เรื่องหวยออนไลน์หรือที่เรียกว่า"ล๊อตโต้"
    เห็นด้วยไหม ?
    ...แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
    ส่วนตัวๆๆเห็นด้วยในบางมุมมอง
    โดยยึดเอาประเทศเพื่อนบ้านเป็นตัวชี้วัดหนึ่ง
    และสภาพชีวิตจริงของคนไทยภายในประเทศ
    ที่หนีไม่พ้นเรื่องการเสี่ยงโชค...เป็นสำคัญด้วย
    ทั้งหมดขอให้อยู่ในกรอบของเดือนละ 2 งวด...



    และคาดว่า...หากหวยล๊อตโต้ออกมา
    กระแสศรัทธาพญานาคที่คนบางกลุ่มนับถือ
    ด้วยเพราะเหตุที่เชื่อว่าจะนำโชคลาภมาสู่ตน
    จะมีผู้คนแห่ไปสถานที่นี้มากยิ่งขึ้น

    สังเกตได้จาก...มีคำชะโนด1 ที่อุดรธานี
    ตอนนี้มีคำชะโนด 2 ที่วังน้ำเขียว และที่อื่นๆ
    555...ไว้ว่างๆจะหาเวลาไปทำสก๊ปข่าวมาฝาก
    ...ว่าจะคึกคักแค่ไหน

    *************************************


    นิด้าโพล ชี้ คนไทย 75% เห็นด้วย รบ.ออกหวย 2 ตัว 3 ตัวสู้ใต้ดิน 65% ค้านออกน้ำเต้าปูปลา

    เผยแพร่: 30 มิ.ย. 2562 14:03 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000006415801.jpg
    นิด้าโพล ชี้ คนไทยส่วนใหญ่ 75% เห็นด้วย รบ.ออกหวย 2 ตัว 3 ตัวอสู้หวยใต้ดิน เหตุเพิ่มช่องทางเลือกซื้อ โอกาสถูกรางวัลสูง แต่ 65% ไม่เห็นด้วยหากจะออกน้ำเต้าปูปลา เหตุส่งเสริมให้เสพติดการพนันเกินไป

    ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “รัฐบาลจะออกหวย 2 ตัว 3 ตัว สู้กับหวยใต้ดิน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 25 – 26 มิ.ย. 2562 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวน 1,259 หน่วยตัวอย่าง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 67.43 เคยซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ร้อยละ 37.33 เคยซื้อหวยใต้ดิน ร้อยละ 29.31 ไม่เคยซื้อหวยทุกชนิด ร้อยละ 3.97 เคยซื้อหวยหุ้น และร้อยละ 0.48 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ สลากออมสิน หวยกล่อง หวยออนไลน์ และหวยลาว

    ส่วนการเสี่ยงโชคของประชาชนในปัจจุบัน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 89.33 ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ร้อยละ 38.76 ซื้อหวยใต้ดิน ร้อยละ 6.85 เลิกซื้อหวยทุกชนิดแล้ว ร้อยละ 2.81 ซื้อหวยหุ้น และร้อยละ 0.22 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ สลากออมสิน และหวยลาว ส่วนการที่รัฐบาลจะออก หวย 2 ตัว 3 ตัว โดยมีรางวัลแจ็กพอต เพื่อสู้กับหวยใต้ดิน พบว่า ประชาชน ร้อยละ 75.39 เห็นด้วย เพราะ เป็นการเพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อและถูกกฎหมาย มีโอกาสถูกรางวัลค่อนข้างสูง ขณะที่บางส่วนระบุว่าจะได้นำรายได้บางส่วนไปใช้ประโยชน์เพื่อสังคมบ้าง ดีกว่าให้ไปเข้ากระเป๋าเจ้ามืออย่างเดียว และหวยใต้ดินจะได้หมดไปหรือเบาลง รองลงมา ร้อยละ 16.86 ไม่เห็นด้วย เพราะ ทำให้ประชาชนงมงายมากขึ้น กังวลว่าจะทำให้เกิดปัญหาในระยะยาว ขณะที่บางส่วนระบุว่า อยากให้ยกเลิกระบบหวยทั้งหมด ร้อยละ 0.67 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ขอดูรายละเอียดในส่วนของรูปแบบการซื้อและผลตอบแทนที่ได้รับก่อน และร้อยละ 7.08 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

    สำหรับความคิดเห็นต่อการที่รัฐบาลจะออกหวยรูปภาพแบบน้ำเต้าปูปลา เพื่อสู้กับหวยใต้ดิน พบว่า ประชาชน ร้อยละ 65.17 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเสพติดการพนันมากเกินไป และอาจทำให้เกิดหนี้สินกับประชาชนโดยไม่จำเป็น ขณะที่บางส่วนระบุว่า อยากให้ยกเลิกระบบหวยทั้งหมด รองลงมา ร้อยละ 20.11 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะ เป็นรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ จะได้ซื้อขายอย่างถูกกฎหมาย และจะได้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีโอกาสถูกรางวัลค่อนข้างสูง ขณะที่บางส่วนระบุว่า จะได้ไม่เสี่ยงต่อการโดนตำรวจจับ ร้อยละ 0.11 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ขอดูรายละเอียดในส่วนของรูปแบบที่รัฐบาลจะทำออกมาก่อน และร้อยละ 14.61 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

    เมื่อถามถึงการเสี่ยงโชคของประชาชน หากในอนาคตมีตัวเลือกเสี่ยงโชคมากขึ้นทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 63.70 ระบุว่า ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล รองลงมา ร้อยละ 30.90 ระบุว่า ซื้อหวย 2 ตัว 3 ตัวของรัฐบาลที่มีแจ๊กพ็อต ร้อยละ 25.81 ระบุว่า ไม่ซื้อหวยทุกชนิด ร้อยละ 12.63 ระบุว่า ซื้อหวยใต้ดิน ร้อยละ 4.05 ระบุว่า ซื้อหวยรูปภาพแบบน้ำเต้าปูปลาของรัฐบาล ร้อยละ 1.19 ระบุว่า ซื้อหวยหุ้น ร้อยละ 0.32 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ และร้อยละ 2.30 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

    562000006415802.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2019
  11. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    เด๋ว inbox ครับ
     
  12. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 154 ลำดับที่ #3066

    ผม(9)สงสัยคือเรื่องเจ้ากรรมนายเวรตรงที่ว่า...
    ข้อ 1.มารดาที่แท้งลูกโดยไม่ได้ตั้งใจ
    เช่นหกล้มโดยอุบัติเหตุ...
    หรือแท้งโดยไม่ทราบสาเหตุอันใด
    ทั้งที่ทนุถนอมทารกแรกเริ่มเยี่ยงชีวิต
    ...ทารกน้อยจะกลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรได้อย่างใด ?

    ข้อ 2.คนที่ตั้งใจทำแท้งลูกด้วยอ้างว่า"ความจำเป็น"
    อย่างนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องเจ้ากรรมนายเวร
    แต่เห็นมีบางวัด บางสำนักสามารถ...
    ...ลบล้างเจ้ากรรมนายเวรได้ด้วยกรรมพิธีต่างๆ
    ไม่ทราบว่า...มีความเป็นไปได้แค่ไหน ?


    [QUOTE nopphakan, post

    มีกรรม นายมีเวร กลายเป็น
    เจ้ากรรมนายเวร... ที่พูดทั่วไป

    เป็นเรื่องนามธรรม เริ่มต้นด้วย
    เจ้ากรรมนายเวร(ความเชื่อ) = วิบากกรรม(ความเชื่อ) = วิบาก(ความเชื่อ)
    = กระแสที่จรเข้ามา(ความเชื่อ และทางวิทย์) = สื่อนำแรง(ทางวิทย์)
    หรือ แรง(ทางวิทย์ที่ไม่อาศัยพื้นที่ ไม่มีพื้นที่ ก็ไม่มีระยะทาง ไม่มีระยะทาง ก็ไม่มีเรื่องเวลา เรียกว่า เหนือกาลเหนือเวลา)
    เอกลักษณ์อีกอย่างคือ ซ้อนทับกันได้ไม่จำกัด(ทางวิทย์) และ เอกลักษณ์อีกอย่างคือ สามารถเพิ่มแรงได้(ทางวิทย์ และความเชื่อ)

    คำว่า สามารถเพิ่มแรงได้(ทางวิทย์ และ ความเชื่อ) = ผลกรรมหรือผลของวิบากกรรม(ความเชื่อ) = ผลของสื่อนำแรงที่เพิ่มขึ้น(ทางวิทย์). ทั้งหมดทั้งมวล มีต้นกำเนิดแรง
    เหมือนกันก็คือ จิต(วิทย์เข้าไม่ถึง)

    ระดับเบสิค....
    ๑.ต้นกำเนิดแรง(จิต) มีนิสัยชอบส่งออกหรือท่องเที่ยว
    เป็นภาษาง่ายๆทราบกันทั่วไป ทางกิริยาคือส่ง
    ตัววิญญาน(แรงชนิดหนึ่งที่ออกจากจิต)
    ออกไปกระทบภายนอก แต่แค่กระทบ
    แต่ไม่รู้อะไร และก็ดึงเก็บเข้ามา(ดึงเข้ามากลาย
    เป็นแรงอีกชนิดหนึ่งเราเรียกสัญญา)เอาไว้ในตัวจิต.

    เก็บไปเก็บมา
    ๒.จิตก็เลยสร้างช่องทางให้ ตัววิญญานออกไปกระทบ
    กลายเป็น ตา หู จมูก ลิ้น จนรวมๆเป็นร่างกาย(รูปธรรม
    ซึ่งประกอบ ด้วยองค์ประกอบสะสาร 2 แบบ คือ 1. องค์ประกอบของสะสารที่แทนที่ไม่ และ 2.แรงที่เป็นสื่อนำแรง
    ที่กล่าวไปแล้วข้างต้น นอกจาก อิเลคตรอนในเรื่องอะตอม ฯลฯ)
    บ้างเรียก กระบวณการ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ว่า อวิชชา(คือ กระบวนการ ๑ และ ๒)
    หรือความไม่รู้ .........
    โดยมี ๓. ตัวโทสะ โมหะ โลภะ (เป็นแรงอีกเช่นกัน
    ซึ่งมีอยู่แล้วปกติในตัวจิต เป็นองค์ประกอบ ในการ
    สร้าง ๒ ขึ้นมา) บุญ(แรง)ดีก็เกิดมาดี(ความเชื่อ)
    กรรม(แรง)มาก
    ก็เกิดมาไม่ดี(ความเชื่อ) ,..........


    ระดับเบสิคต่อมา.........

    เมื่อมีกาย(รวมทั้งบ้าน รถ วัตถุต่างๆ ดวงดาว ฯลฯ)ซึ่งประกอบด้วยอนุภาคที่เป็น 1.องค์ประกอบสะสาร + 2.สื่อนำแรงแล้ว
    กลายเป็นตัวเราแล้ว

    เนื่องด้วย มี 1 . องค์ประกอบของสะสารเป็นส่วนประกอบอยู่
    ก็ย่อมมีการเสื่อมสลายของสะสารได้ เป็นเอกลักษณ์ปกติ
    การเสื่อมสลายต้องอาศัยระยะเวลา งงไหม....
    *** ย้อนเบสิค องค์ประกอบสะสาร เอกลักษณ์คือ
    แทนที่กันไม่ได้ เช่น เอากล่องมาต่อกัน ๑๐ กล่อง
    มันจะกลายเป็น กล่องที่เรียงกัน ยาว ๑๐ กล่อง
    เมื่อมันมีความยาว หมายถึงว่า มันมีระยะทาง
    ระหว่าง กล่องที่ ๑ ไปยังกล่องที่ ๑๐ เมื่อมีระยะทาง
    มันเลยมีเวลาที่มาเกี่ยวข้อง คือ เวลาที่ใช้ระหว่าง
    ระยะทางจากกล่องที่ ๑ ไปกล่องที่ ๑๐ ดังนั้น
    ในส่วนองค์ประกอบของสะสาร จึงเกี่ยวข้องกับเวลา
    ตามธรรมชาติ ตามเอกลักษณ์ของมันนั้นเอง***

    ดังนั้น เมื่อได้ มีการกำเนิดร่างกายขึ้นมาแล้ว
    คือ 1 + 2 จึงต้องมีเรื่องของเวลามาเกี่ยว
    ข้องเป็นปกติ......
    เอกลักษณ์ ของ 1. มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้
    ตามสภาพแวดล้อม เช่น เอากล่องวางตากแดดเป็นต้น
    และก็อาศัยระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลง....
    ดังนั้น ร่างกายก็เช่นกัน...พูดง่ายๆว่า
    วางไว้เฉยๆ อยู่เฉยๆ ก็เปลี่ยนแปลงได้
    ถ้ามีเวลามาเกี่ยวข้องด้วย......

    วงจรมันคือ
    ระยะเวลาที่เกี่ยวข้อง + กับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
    (แรง 1 และ 2). = การเปลี่ยนแปลงสมบูรณ์คงเหลือแต่
    แรง 2(บุญ กรรม หรือ แรงชนิดหนึ่ง) กับต้นกำเนิดของแรงคือ จิต บ้านเราเรียกง่ายๆ ว่า อายุไข นั่นเอง.....

    และมันก็จะย้อนไปที่. ระดับเบสิค อีกครั้งหนึ่ง
    ทางโลกอาจจะเรียก หล่อๆว่า ปฏิสมุฯ อะไรนี่หละก็ได้
    หรือ วงจรเวียนว่ายตายเกิดก็ได้ แต่หากสังเกตุดูวงจรนี้
    มันจะอยู่ภายใต้ 1 และ 2 นั่นเอง

    ดังนั้น เมื่อ เริ่มกระบวณการเกิดขึ้นมาแล้ว (ตั้งครรภ ท้อง)
    มันก็คือ การเริ่มต้นในวงจร ที่ได้เล่าใหฟังมาก่อนหน้านั้นทั้งหมด

    ดังนั้น เมื่อเกิดกระบวณการเบสิค + กระบวณการเบสิคต่อมา
    จะเห็นได้ว่า มันยังขาดกระบวณการ ในส่วนของ
    ระยะเวลาที่เกี่ยวข้อง + การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
    จนกระทั่งถึง ขั้น ที่ = การเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์(
    กระบวณการระหว่าง แรง 1 กับ 2)
    เพื่อที่จะ ครบรอบวงจรเวียนว่ายตายเกิดนั่นเอง...........

    ดังนั้น ถ้าเข้าใจในส่วนของแรง
    เราจะพบว่า ไม่ว่า วงจรเวียนว่าย
    ตายเกิดนั้น จะถูกตัด หรือ ไม่ครบวงจร
    แบบตั้งใจ(เจตนาทำแท้ง)
    หรือไม่ตั้งใจ(เช่น ปัญหาทางสุขภาพ ปัญหาอุบัตเหตุ
    ปัญหาความไม่สมประกอบ ถูกทำร้าย ถูกทำให้ได้รับ
    การกระทบกระเทือน ฯลฯ)
    มันก็ยังเหลือกระบวณการ ก่อนที่จะไปถึงการครบรอบ
    เวียนว่ายตายเกิด

    ที่นี้ เมื่อถูกตัดวงจร
    พบว่า 1 หายไปคือส่วนที่แทนที่ไม่ได้ แต่
    2 ยังคงอยู่ เพราะ ในระดับเบสิค
    1 กับ 2 มันอาศัยซึ่งกันและอยู่ มันมีตัวเชื่อม
    ในระหว่าง ตัว 1 และ 2 ให้มันรวมกัน
    ก็คือตัว วิญญาน(หรือแรงชนิดหนึ่ง)
    ดังนั้น มันก็จะเหลือแต่ในส่วน นามธรรมตรงนี้
    ที่ ตัววิญญาน มันยังยึด(เริ่มจากเบสิค)ใน ระยะเวลาของ
    วงจรเวียนว่ายตายเกิดอยู่(อายุไข เรียกง่ายๆ)

    เมื่อ แรง 2 มันกำเนิด อยู่ใน มารดา
    (คือ แรง 1 และ 2 อีกชุด ในส่วนของท้อง)
    มันก็เลย จะรวมอยู่ กับ แรง 1 และ 2 (ผู้กำเนิด
    หรือมารดา)
    เพราะ มารดานั้น มีต้นกำเนิดของแรง
    ที่ได้ไป สร้างรวมกำต้นกำเนิดของแรง 1 และ 2( บิดา)
    มันจึงสามารถ กำเนิดเป็น ต้นกำเนิดแรง 1 และ 2 เด็กขึ้นมาได้.....เราเรียกง่ายๆว่า สายเลือด.......

    เมื่อ มันกำเนินมาจากต้นกำเนิดใด. เด็กที่จะเหลือแต่แรง 2
    นั้น ก็สามารถไปเกาะกับ ต้นกำเนิดแรง(จิต) นั้นๆได้
    อาจจะเป็น ต้นกำเนิดจาก บิดา หรือ มารดา ได้ทั้งนั้น
    หรือ ถ้าไม่มี บิดา แต่มีแต่ มารดา ก็จะไปเกาะต้นกำเนิดแรง
    ของมารดาฝ่ายเดียวได้.......

    ปล. เนื่องจาก เอกลักษณ์ของต้นกำเนิดแรงจิต
    มีได้เพียงหนึ่งเดียว แต่แรงอื่นๆ
    ที่เข้ามารวมมีได้เป็นล้านๆ และสามารถเพิ่มแรงได้
    ด้วยเหตุตรงนี้ .....เราจึงรู้ในทางโลกว่า
    ด้วยคำว่า มีเด็กตาม มีผีตาม มีผีมาเกาะ อะไรนั่นหละครับ.....
    พอจะเกทไหม......(ที่เกาะ คือ เด็กหรือแรง 1 และ 2
    ที่ตอนนี้เหลือแต่ 2 จนกลายเป็น แรง 1 และ 2+ 2
    ให้มีต้นกำเนิดแรงคือ จิต = สอง มาจาก = ( 1+2) + (2)
    กลายเป็น สมการแรง สองจิต = 1 + (22)

    ส่วนกรณี ที่จะแก้กรรม ก็คือ การทำให้แรงที่มาเกาะหายไป
    หรือการทำให้เหลือ แต่ต้นกำเนิดแรง 1 และ 2 ปกติ

    แก้กรรม คือ แก้แรง
    คือการ ทำให้. สองจิต 1 + 22 = จิต 1 2 นั่นเอง....

    ก็แล้วแต่ว่า จะใช้วิธีการใดๆ...
    ตามเหตุและปัจจัยนั่นเอง...

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2019
  13. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    >>ควันหลงจากที่ท่านอจ.นพตอบข้างบน<<
    ...เมื่อ 9 อ่านทบทวนเรื่องมารดาแท้งลูก+เจ้ากรรมนายเวร
    ...ยังรู้สึกสับสน...งง งง อยู่
    (เท็จจริงคือถามเผื่อให้ผู้ชมที่คาดว่าจะ"ยังงงๆ"ด้วย)

    หลังจากอ่านแล้ว
    จึงขยายความ(ถามต่อ)
    ...ตามข้างล่าง

    ***********************************
    ข้อสอบนี้ยากมากๆ...แต่อ่านสนุก
    อ่านทบทวนหลายครั้ง
    ยังไม่มั่นใจว่าจะกา(ก), กา(ข), กา(ค)
    (เพราะผมเป็นคนฉลาดน้อย 555)

    ผมขอสรุปตามความเข้าใจของผมนะครับ
    **ถูกผิดเช่นใด อาจารย์ช่วยเข้ามาท้วงติงด้วยครับ**

    แรง 1 คือจิต+วิญญาณ
    แรง 2 คือร่างกาย หูตาจมูกลิ้น
    (ทั้งแรง1 แรง2 จะมีวิญญาณเป็นตัวเชื่อม)
    แรง 3 คือโทสะ โมหะ โลภะซึ่งอยู่ภายในจิต

    มนุษย์เรา(แรง 2)จะเกิดมาดีหรือไม่ดี
    จะขึ้นอยู่กับแรงบุญและแรงกรรมที่เคยสร้างไว้
    (และแรง 3 มีส่วนร่วมกำหนดด้วย)


    ดังนั่นเมื่อกำเนิดตัวตนมีร่างกายแล้ว
    จะมีจิต(แรง 1) และร่างกาย(แรง 2)
    ยังจะต้องมีเรื่องของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
    เพราะเป็นไปตามกฏธรรมชาติ เกิดแก่เจ็บตาย
    ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา
    คงเหลือแต่บุญ กรรม ซึ่งเป็นแรงชนิดหนึ่ง


    สุดท้ายผมขอสรุปง่ายๆตามที่ผมเข้าใจคือ
    ไม่ว่าวงจรเวียนว่ายตายเกิดนั้น
    ...จะถูกตัด หรือ ไม่ครบวงจร
    แบบตั้งใจ(เจตนาทำแท้ง)
    หรือไม่ตั้งใจ(เช่น ปัญหาสุขภาพ/อุบัติเหตุ)
    โดยที่ร่างกายของทารก(แรง2)
    ถูกทำลายไป(ทำแท้ง)
    ...แต่ยังคงเหลือแต่วิญญาณซึ่งเป็นตัวเชื่อมกับร่างกาย
    ตัววิญญานคือแรงชนิดหนึ่ง
    แรงวิญญานยังยึดวงจรเวียนว่ายตายเกิดอยู่
    จึงยังคงร่องลอยไปทุกสถานที่
    ...เป็นเหตุให้ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง(มารดา)
    หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องทางอ้อม
    ไดัรับผลเหตุแห่งกรรมที่ตนได้ทำไว้

    ****************************************

    หมายเหตุ
    เมื่ออาจารย์นพอ่านแล้ว
    แสดงเครื่องหมาย "ถูกใจ"
    นั่นแสดงว่า....
    ที่ผมขยายความนั่น "ถูกต้อง"
    (อาจไม่เต็ม 100)


     
  14. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    สาธุๆ
     
  15. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    สกุ๊ปข่าวนี้น่าสนใจ
    อ่านเพลิน...สนุกดี
    มีอยู่ภาพหนึ่งที่มีลำแสงชัดเจน
    คล้ายกับที่หมูเจนเคยไปที่นั่น
    แล้วถ่ายได้...เคยนำมาโพสต์ให้ดูที่นี่
    (เมื่อกี้ย้อนไปค้นหาแล้วไม่เจอ)



    ********************************




    "น้องพร" ถอดจิตดำดิ่งเมืองพญานาค เรื่องขนลุกที่เธออ้างว่า "มีอยู่จริง"

    ข่าวทั่วไทย
    ไทยรัฐออนไลน์12 มี.ค. 2562 16:39 น.
    SHARE
    4DQpjUtzLUwmJZZPGSh5kyAPbtLGbjeLqswIJ8eHfW8d.jpg
    ตำนาน "ป่าคำชะโนด" อาถรรพณ์ดินแดนพญานาค ยังคงสร้างความฮือฮาให้กับนักเสี่ยงโชคอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมามีเหล่าบรรดาคอหวย ได้รวยตามกันไปติดๆ เพราะเลขเด็ดที่ต่างคนก็ไปล้วงแคะแกะเกามา จนเรื่องราวเหล่านี้ดังอื้ออึงสะท้านไปทั่วสารทิศต่อเนื่องยาวนาน ปลุกกระแสคนอยากรวย เฮโลกันมาขอหวยที่เกาะคำชะโนด โดยมี "นางรำ" บางราย กลายเป็นตัวแปรสำคัญในการบอกใบ้หวย และหนึ่งในนั้นก็คือ "น้องพร" นาคน้อย มาแล้ว!!! รำถวายปู่ศรีสุทโธ ชูมือใบ้เลข คอหวยจดเสี่ยงโชค
    ก่อนหน้านี้ทีมข่าว "เจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์" ได้สัมภาษณ์เปิดใจสาวโรงงาน นางรำร่างทรง “เจ้าปู่ศรีสุทโธ” มหาเทพนาคาผู้ยิ่งใหญ่แห่งคำชะโนด น้องพร หรือ "นางดวงพร สมีดี" อายุ 36 ปี ลบหลู่ เจออาถรรพณ์ 'นาคน้อย คำชะโนด' เปิดเรื่องจริง สิ่งลี้ลับสิงร่างให้หวย! นอกจากจะสามารถเป็นร่างทรงสื่อสารกับเจ้าปู่ศรีสุทโธแล้ว รู้หรือไม่ว่า "นางดวงพร สมีดี" หรือนาคน้อย ยังสามารถถอดจิตดำลงไปในบาดาล เมืองพญานาค โดยการนั่งสมาธิถอดจิตลงไปกราบพ่อปู่

    4DQpjUtzLUwmJZZPGSh5kyAPbtLGbjeQ2sfvLj0FhroG.jpg
    เกาะคำชะโนด
    "เราต้องนั่งสมาธิทุกคืน ตั้งจิตใจให้สงบ ซึ่งเป็นผลดีแก่จิตใจ ส่วนการถอดจิตดำบาดาลลงไปนั้น นานๆ ไปครั้ง แล้วแต่ว่าเจ้าปู่จะเรียกลงไปเมื่อไหร่ ส่วนในเมืองบาดาล หลายคนคงอยากรู้ว่ามีสภาพเป็นอย่างไร หนูเองก็บอกไม่ถูก มันก็เหมือนบนโลกมนุษย์นี่แหละ ไม่ได้ต้องยากลำบากว่ายน้ำลงไป มันก็เหมือนเมืองมนุษย์ เหมือนนึกได้อีกที จิตวิญญาณเราก็ไปนั่งคุยกับพ่อปู่แล้ว ซึ่งในนั้นก็จะมีมนุษย์คนอื่นๆ อาศัยอยู่ด้วย แต่งตัวปกติทั่วไป แต่จิตที่เราถอดไป ไม่ได้ไปใส่ใจเรื่องรอบตัว เราตั้งใจที่จะไปสื่อสารกับพ่อปู่มากกว่า"

    ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลาถอดจิตลงไป ได้คุยอะไรกันบ้างกับพ่อปู่ ...."คุยเรื่องปกติทั่วไปค่ะ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในรอบเดือนที่ผ่านมา ไม่เคยคุยเรื่องหวย หรือเรื่องตัวเลขอะไรเลย เราถอดจิตลงไปคุยเพื่อความสบายใจ เหมือนคนไปไหว้พระที่วัดเลยค่ะ ส่วนเรื่องตัวเลข พ่อปู่ไม่เคยคุยเลย ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
    เรื่องเหนือความคาดหมายแบบนี้ ไม่คิดว่าคนจะเข้าใจว่าเราสร้างเรื่องใช่มั้ยคะ .... มันขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคลนะ ใครจะไม่เชื่อก็ไม่เคยว่าอะไร เพราะสิทธิ์ของเค้า แต่คนที่เค้านั่งสมาธิ เค้าปฏิบัติธรรม คิดดี ทำดี เค้าก็จะรู้ว่าหากตั้งมั่นจริงๆ จิตเหล่านี้มันก็ถอดออกไปถึงกันได้ สื่อกันได้ คือต้องคนที่เคยเจอเหมือนๆ กันถึงจะรู้ ไม่งั้นบนโลกมนุษย์ทุกวันนี้ คนจะหมั่นทำดีเพื่ออะไร ทำดี ทำบุญ เพื่อที่ตายไปจะได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี หรือไปเกิดใหม่ดีๆ เป็นมนุษย์ที่มีร่างกายครบ 32

    4DQpjUtzLUwmJZZPGSh5kyAPbtLGbjeN9NSIN4tObDew.jpg

    แสดงว่าที่มีการรำร่างทรงและใบ้หวย ก็ไม่ได้เกี่ยวกับพ่อปู่ให้เลขมา? พ่อปู่เป็นผู้ชาย ไม่สามารถมาเข้าร่างทรงเราได้ แต่จะผ่านร่างเป็นผู้หญิงอีกคนนึงมาบอก ส่วนทุกครั้งที่รำ ไม่รู้สึกตัวมาก่อน ไม่รู้ว่ากำลังใบ้เลขอะไรหรือทำอะไร เพราะขณะนั้นร่างกำลังลง ส่วนเลขที่ชูตามนิ้วคือเป็นไปตามธรรมชาติ เพราะเราไม่รู้อะไรล่วงหน้าเลย

    พ่อปู่หน้าตาเป็นอย่างไรคะ? ก็มีลักษณะคล้ายในรูปปั้นที่บูชาในคำชะโนด คล้ายนะคะ ไม่เหมือนทีเดียว แต่เค้าเป็นคนเคลื่อนไหวได้ พูดได้ พูดแต่เรื่องดีๆ สิ่งดีๆ เอาจริงๆ ก็คือ พ่อปู่ไม่ชอบหวยนะ ไม่ชอบให้คนงมงายเล่นหวย การไปเจอพ่อปู่แต่ละครั้งก็จะคุยเรื่องอื่น

    ถ้าพี่บอกว่า พี่ไม่เชื่อเรื่องเมืองบาดาล หรือเมืองพญานาค จะพิสูจน์ยังไงให้พี่เห็น? พี่ดำลงไปกับหนูมั้ยคะ จะพาไปพิสูจน์ เราต้องไปนั่งสมาธิก่อน แล้วถอดจิตลงไป แต่บอกเลยว่าถ้าไม่เคยฝึกนั่งจนเป็นนิสัย การถอดจิตมันจะไปยาก หนูไม่แน่ใจว่าพี่จะทำได้มั้ย แต่ถ้าพี่อยากไป หนูจะพาพี่ไป


    การมาไหว้พ่อปู่ นอกจากคนเค้าขอเรื่องหวยกันแล้ว เค้าขอเรื่องความรักได้มั้ย? ขอแบบไหน ขอให้เจอเนื้อคู่หรือขอให้แฟนกลับมา เราต้องระบุให้ชัดเจน อย่างคนที่หนูรู้จักเค้ามาไหว้เพื่อที่จะขอให้ผู้ชายกลับมา มีการทำพิธี ท้ายที่สุดเค้าก็กลับมา แต่อยู่กันไม่นานต้องแตกแยกกันไปอีก เพราะฝ่ายหญิงกลายเป็นมาทิ้งเค้าไปเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไม แบบนี้มันก็บาป ไม่ดีไม่ควรทำ

    4DQpjUtzLUwmJZZPGSh5kyAPbtLGbjeUaogGVX1oO7GZ.jpg
    บ่อน้ำก่อนปรับปรุงล่าสุด
    แล้วจะไปเมืองบาดาลอีกเมื่อไหร่? มันบอกไม่ได้หรอกพี่ แล้วแต่พ่อปู่ คือเราต้องนั่งสมาธิ เมื่อไหร่ที่จิตสื่อไปถึงกันได้ เมื่อนั้นก็จะได้ถอดจิตลงไปคุย เดือนนึงประมาณ 1 ครั้ง หรือบางเดือนก็ไม่ได้ลงไปเลย เพราะจิตเราไม่นิ่ง

    เมืองบาดาล มันไม่มีน้ำแล้วมันเป็นยังไง มันอยู่ในถ้ำเหรอ? ค่ะ มันเป็นถ้ำเข้าไป ซึ่งถ้ำนั้นก็อยู่ใต้น้ำอีกที อย่างที่บอกว่า หนูไม่ได้ผ่านการดำนำ้ลงไปแบบที่พี่อาจจะเข้าใจนะ หนูถอดจิตไปแล้วนั่งอยู่ตรงนั้นเลย ถ้าพี่ถามถึงหนทางที่จะไปก็คือ หนูนั่งสมาธิเพื่อที่จะนำทางไปสู่เมืองพญานาค ซึ่งก็มีมนุษย์แบบเราๆ เต็มไปหมด

    ที่ผ่านมาทราบว่ามีคนท้าทาย ไม่เชื่อเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นเลยเจอดี? บ่อยนะพวกชอบลองของ เขาก็เห็นกันทั่ว ต่อหน้าต่อตาทั้งพวกนางรำที่แอบอ้างว่ามีร่างทรงโชว์ความขลัง และพวกสบประมาทไม่เชื่อ พูดจากหยามลบหลู่ต่างๆ นานา คนเหล่านี้ก็มีอันเป็นไปแต่ละรูปแบบ และก็ถูกหามออกจากคำชะโนดทุกราย อย่างที่บอกว่า เชื่อหรือไม่เชื่อต้องเห็นกับตาตัวเอง ไม่ใช่ฟังจากใคร ส่วนคนที่พูดจาลบหลู่ สนุกปาก หรืออยากลองของไปเรื่อย อาถรรพณ์ต่างๆ มันจะแสดงอิทธิฤทธิ์ให้เห็นเองโดยที่หนูไม่ต้องไปตามอธิบายอะไรเลย

    4DQpjUtzLUwmJZZPGSh5kyAPbtLGbjeP45eiNo2ECGlH.jpg
    บ่อน้ำในอดีต

    หากใครสร้างเรื่องลี้ลับมาโกหกประชาชน สิ่งร้ายๆ จะเข้าตัว หมายรวมถึงเราด้วยใช่มั้ยว่าถ้าโกหก ก็จะเจอสิ่งไม่ดี ค่ะใช่ ใครทำอะไรไม่ดีก็จะได้อย่างนั้น ถ้าหนูโกหกหลอกลวง เอาของสูงเอาพ่อปู่มาอ้างตบตาคนทั้งประเทศ สิ่งลี้ลับความเลวร้าย บาปกรรมที่หนูทำไป รวมถึงการดึงของสูงลงมาใช้ประโยชน์ส่วนตน จะเข้าตัวหนูเองในไม่ช้าก็เร็ว เพราะฉะนั้นสบายใจได้ว่านี่ไม่ใช่การแสดงเพื่อชักจูงหรือกำลังเล่นกับความเชื่อของคน แต่มันเป็นเรื่องราวอาถรรพณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับตัวเอง หากใครไม่เชื่อไม่เป็นไร แต่อย่าลบหลู่เด็ดขาด เพราะอาจจะเจอของจริงกับตัวเอง


    ***เรื่องทั้งหมดนี้เป็นคำบอกเล่าจากปากของร่างทรงนาคน้อย ที่คำชะโนด จ.อุดรธานี ส่วนสิ่งลี้ลับ เมืองพญานาค หรือการเข้าองค์ทรงเจ้ามีอยู่จริงหรือไม่นั้น แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล เนื่องจากมีประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่ยังหลงใหลเลื่อมใสศรัธทา เค้าถึงได้บอกกันว่า ไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็นกับตัว และ...ถ้าไม่เชื่อ ต้องไม่ลบหลู่.

    4DQpjUtzLUwmJZZPGSh5kyAPbtLGbjeB4th83BIIdTU8.jpg
    บ่อน้ำล่าสุด



    ขอขอบคุณที่มา...
    (นสพ.ไทยรัฐออนไลน์)
     
  16. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    รวมสถานที่จัดงานเข้าพรรษา 2562 เดินสายไหว้พระ อิ่มบุญถ้วนหน้า
    19,224อ่าน

    354

    สถานที่จัดงานเข้าพรรษา 2562 ทั่วไทย ให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้เดินทางมาร่วมทำบุญ และอิ่มบุญกันทั่วหน้า กับอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญทางพุทธศาสนา

    เทศกาลเข้าพรรษา 2562 ตรงกับวันพุธที่ 17 กรกฎาคม อีกหนึ่งวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้ร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งทำเทียนจำนำพรรษาและถวายเทียนพรรษา, ร่วมกิจกรรมถวายผ้าอาบฝน, ร่วมทำบุญตักบาตร ฟังธรรมเทศนา รวมถึงชมขบวนแห่เทียนสุดยิ่งใหญ่ ว่าแต่ปีนี้จะมีสถานที่จัดงานเข้าพรรษา 2562 ที่ไหนบ้าง ลองมาเช็กกันได้เลยค่ะ
    1. งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา ประจำปี 2562
    81e31784-a4eb-4bc2-9965-1465e27d935a.jpg


    ภาจาก martinho Smart/shutterstock.com

    เชิญร่วมงานประเพณี ตักบาตรดอกเข้าพรรษา ประจำปี 2562 ระหว่างวันที่ 14-17 กรกฎาคม 2562 ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี

    ประเพณีตักบาตรดอกไม้เป็นประเพณีสำคัญที่อยู่คู่กับวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารมาช้านาน พี่น้องประชาชนชาวพระพุทธบาทและใกล้เคียง จะถือเอาวันเข้าพรรษาของทุกปี (ตรงกับแรม 1 ค่ำ เดือน 8) เป็นวันตักบาตรดอกไม้ และตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา จังหวัดสระบุรี ได้เพิ่มจำนวนวันตักบาตรดอกไม้ จาก 1 วัน เป็น 3 วัน มีพิธีตักบาตรดอกไม้วันละ 2 รอบ คือ รอบเช้า เวลา 10.00 น. รอบบ่าย เวลา 15.00 น. ในวันแรกของการจัดงานจะเป็นพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ในอาณาบริเวณพระพุทธบาท

    ภาคค่ำขบวนพยุหยาตราสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ขบวนรถบุปผชาติ การแสดงศิลปะพื้นบ้าน วัฒนธรรม และขบวนต่าง ๆ จะเริ่มเคลื่อนออกจากหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลพระพุทธบาท ไปตามถนนพหลโยธินและเลี้ยวเข้าบริเวณวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร โดยจะมีพิธีเปิดงานพิธีตักบาตรดอกไม้ในภาคค่ำดอกไม้ที่ใช้ตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์นั้นจะต้องเป็น “ดอกเข้าพรรษา” เท่านั้น

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเทศบาลเมืองสระบุรี โทรศัพท์ 036 211 022 หรือเว็บไซต์ tmsbr.go.th

    2. งานแห่เทียนพรรษาฟักทอง
    เชิญร่วมงานแห่เทียนพรรษาฟักทอง วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม 2562 ณ วัดอัมพวัน และบริเวณเทวาลัยพระพรหม (ริมถนนเอเชีย) อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี

    ภายในงานพบขบวนแห่เทียนพรรษาฟักทอง โดยขบวนจะเดินทางออกทางด้านหลังวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี เลาะริมคลองชลประทานผ่านตลาดปากบางไปจนถึงวัดอัมพวัน โดยการหล่อเทียนพรรษารูปฟักทอง สร้างอัตลักษณ์ประจำจังหวัดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจะได้มาพักที่สิงห์บุรี ทั้งยังเป็นการแห่เทียนพรรษาฟักทองของสิงห์บุรีขึ้นครั้งแรก และมีวัตถุประสงค์อยากให้เป็นประเพณีของจังหวัดสิงห์บุรี ให้ปฏิบัติต่อไปเป็นประจำทุก ๆ ปี เพื่อร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีทางพระพุทธศาสนาต่อไป



    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี โทรศัพท์ 0 3641 1004 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี โทรศัพท์ 036 770 096-7 หรือเฟซบุ๊ก TAT Lopburi

    3. ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2562
    88c80f08-dfc4-4c3c-968e-8a2dc968ce78.jpg


    ภาพจาก เฟซบุ๊ก Tat UbonRatchathani ททท.สำนักงานอุบลราชธานี

    เชิญร่วมงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2562 "118 ปี ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา เทอดราชาขวัญแผ่นดิน" ระหว่างวันที่ 12-17 กรกฎาคม 2562
    มีรายละเอียดการจัดงาน ดังนี้
    - วันที่ 1-17 กรกฎาคม 2562
    เยือนชุมชนคนทำเทียน ชมวิถีวัฒนธรรมตกแต่งเทียน ณ คุ้มวัดต่าง ๆ
    - วันที่ 12 กรกฎาคม 2562
    พิธีอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานและผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน และพิธีเปิดงานเทศกาลประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ณ หน้าศาลหลักเมือง
    - วันที่ 12-17 กรกฎาคม 2562
    ถนนสายเทียน และงานอุโมงค์เทียน ณ หน้าศาลหลักเมือง ทุ่งศรีเมือง
    - วันที่ 13 กรกฎาคม 2562
    ชมการประกวดหนูน้อยเทียนพรรษาอุบลราชธานี ณ หน้าศาลหลักเมือง
    - วันที่ 15 กรกฎาคม 2562
    ชมประกวดสาวงามเทียนพรรษา ณ โรงแรมสุนีย์แกรนด์


    - วันที่ 16-17 กรกฎาคม 2562
    เวลา 19.00 น. ชมการแสดงขบวนแห่เทียนภาคกลางคืน ประกอบแสง สี เสียง และขบวนเรือชักพระ จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ บริเวณหน้าศาลากลาง (หลังเก่า) ไฮไลต์งานแห่เทียนพรรษา กิจกรรมรวมเทียนพรรษา และขบวนแห่เทียนพรรษาที่ยิ่งใหญ่

    - วันที่ 16 กรกฎาคม 2562
    เวลา 18.00 น. กิจกรรมรวมเทียนโชว์ต้นเทียนทุกต้น ณ บริเวณรอบทุ่งศรีเมือง และพิธีมหาเวียนเทียนวันอาสาฬหบูชา ณ วัดศรีอุบลรัตนาราม

    - วันที่ 17 กรกฎาคม 2562
    เวลา 08.30-12.00 น. ชมขบวนแห่เทียนพรรษาที่สวยงามตระการตา ประกอบด้วยเทียนพรรษา ประเภทแกะสลัก ประเภทติดพิมพ์ และเทียนโบราณ ตามเส้นทางถนนอุปราช-ถนนชยางกูร ซึ่งมีการแสดง 5 จุด ได้แก่

    1. หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม
    2. ศาลากลางหลังเก่า
    3. หน้าโรงแรมบัวบูติก
    4. หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ (กิโลศูนย์)
    5. หน้าปั๊มน้ำมัน Esso

    - วันที่ 20 กรกฎาคม - 20 สิงหาคม 2562
    กิจกรรมเทียนอุบล ยลได้ตลอดเดือน ณ วัดหนองบัว

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 045 243 770 หรือเฟซบุ๊ก Tat UbonRatchathani ททท.สำนักงานอุบลราชธานี

    4. งานแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ณ คลองลาดชะโด ประจำปี 2562
    44d460c6-e73a-4507-8cd6-e7836a987177.jpg


    ภาพจาก เฟซบุ๊ก งานแห่เทียนพรรษาทางน้ำที่ลาดชะโด

    เชิญร่วมงานแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ณ คลองลาดชะโด ประจำปี 2562 วันที่ 16 กรกฎาคม 2562 ณ คลองลาดชะโด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา



    กำหนดการงานแห่เทียนพรรษาทางน้ำ มีรายละเอียด ดังนี้



    วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม 2562 (วันอาสาฬหบูชา)



    เวลา 08.30-09.00 น. เรือทุกลำลงทะเบียน บริเวณด้านหน้าตลาดลาดชะโด



    เวลา 09.00-09.30 น. เรือทุกลำ รวมตัวบริเวณด้านหน้าตลาดลาดชะโด จะมีการแสดงของเรือแต่ละลำสลับกัน ร้องรำและชมเห่เรือพื้นบ้านลาดชะโด



    เวลา 10.39 น. พิธีเปิดงานแห่เทียนทางน้ำ ณ คลองลาดชะโด (ด้านหน้าตลาดลาดชะโด)



    เวลา 11.00 น. ขบวนเรือจะเริ่มทยอยแห่ผ่านบ้านเรือนริมสองฝั่งคลองลาดชะโด โดยผ่านจุด (highlight) บริเวณศาลเจ้าลาดชะโด โดยช่างภาพสามารถยืนถ่ายภาพได้



    เวลา 11.20 น. ขบวนเรือกลับลำและตั้งขบวนใหม่ที่บ้านคุณป้าลิ้นจี่ ครุฑธาพันธ์ และขบวนเรือเคลื่อนผ่าน จุด highlight อีกครั้ง



    เวลา 12.00-12.25 น. ขบวนเรือจะผ่านตลาดลาดชะโดให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพความประทับใจอีกครั้ง



    เวลา 13.00 น. นำเทียนขึ้นจากเรือทุกลำและนำขึ้นไปถวาย ณ วัดลาดชะโด



    เวลา 13.30 น. ชมการแข่งขันการละเล่นพื้นบ้านลาดชะโด



    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลตำบลลาดชะโด โทรศัพท์ 035 740 263-4 หรือเว็บไซต์ adchado.go.th และเฟซบุ๊ก งานแห่เทียนพรรษาทางน้ำที่ลาดชะโด

    5. งานแห่เทียนโคราช ประจำปี 2562
    1e1c67d5-398c-4da3-aaa6-41fd6c4eb1fa.jpg


    ภาพจาก เฟซบุ๊ก เทศบาลตำบลพิมาย

    เชิญร่วมงานงานแห่เทียนโคราช ประจำปี 2562 ระหว่างวันที่ 15-17 กรกฎาคม 2562 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัด และถนนรอบบริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา



    ภายในงานสนุกไปกับกิจกรรมมากมาย เช่น



    - ต้นเทียนพรรษาอันงดงามจากฝีมือภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวอำเภอพิมาย



    - ร่วมสักการะและเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ



    - ร่วมกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา



    - การทำบุญตักบาตรพระประจำวันเกิด



    - การหล่อเทียนและการแกะสลักเทียนพรรษา



    - การประกวดสวดมนต์ทำนองสรภัญญะ



    - การประกวดวาดภาพระบายสี



    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลตำบลพิมาย โทรศัพท์ 044 471 121 หรือเว็บไซต์ phimailocal.go.th, เฟซบุ๊ก เทศบาลตำบลพิมาย

    6. งานมหกรรมแห่เทียนพรรษา และตักบาตรบนหลังช้างจังหวัดสุรินทร์
    504fc15d-92db-493a-b880-4f54987857b8.jpg


    ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thailand Festival

    เชิญร่วมงานมหกรรมแห่เทียนพรรษาสุรินทร์ ระหว่างวันที่ 15-16 กรกฎาคม 2562 ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีจางวาง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์



    ชมขบวนแห่เทียนพรรษาและขบวนแห่ช้างที่ประดับตกแต่งด้วยแสงไฟระยิบระยับ และขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานบนหลังช้าง พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และอธิษฐานจิตถวายในหลวง พิธีปฏิบัติธรรมและเจริญสมาธิภาวนา การประกวดสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ การประกวดโต๊ะหมู่บูชา พิธีทำบุญตักบาตรบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก



    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02 250 5500 หรือเฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานสุรินทร์

    7. งานประเพณีแห่เทียนพรรษาอำเภอสวนผึ้ง
    f2bca2e8-8c12-449b-b1c6-4f204c7aa239.jpg


    ภาพจาก เว็บไซต์ thaifest.tourismthailand.org

    เชิญร่วมงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอำเภอสวนผึ้ง ระหว่างวันที่ 16-17 กรกฎาคม 2562 ณ เทศบาลตำบลชัฏป่าหวาย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี



    สนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ ชมการประกวดรถบุปผชาติประเภทสวยงาม และความคิดสร้างสรรค์ ชมขบวนแห่เทียนพรรษาของวัดต่าง ๆ ในเขต อำเภอสวนผึ้ง และใกล้เคียง ร่วมหล่อเทียนพรรษาถวายวัด ชมนิทรรศการทางพระพุทธศาสนา การจำหน่ายสินค้า OTOP และคาราวานสินค้าราคาถูกมากมาย



    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 032 919 176-8 หรือเฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานราชบุรี

    8. งานประเพณีอัญเชิญผ้าห่มพระบรมธาตุเจดีย์และประกวดเทียนพรรษาประจำปี 2562
    820ad5ef-f209-4ff1-b237-20b0a8c86f8e.jpg


    ภาพจาก เฟซบุ๊ก TAT Lopburi

    เชิญร่วมงานประเพณีอัญเชิญผ้าห่มพระบรมธาตุเจดีย์และประกวดเทียนพรรษาประจำปี 2562 วันที่ 17 กรกฎาคม 2562 ณ วัดพระบรมธาตุวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท



    ภายในงานพบกับ ขบวนแห่อัญเชิญผ้าห่มพระบรมธาตุเจดีย์, พิธีห่มผ้าพระบรมธาตุเจดีย์, การประกวด และตกแต่งเทียนพรรษา, การแสดงรำรำมะนา, การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย



    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 036 770 096-7 หรือเฟซบุ๊ก TAT Lopburi

    9. งานประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี 2562
    1208b7fb-e47e-4cf2-a18c-4f1c7d946294.jpg


    ภาพจาก เฟซบุ๊ก TAT_suphanburi

    เชิญร่วมงานเข้าพรรษาจังหวัดสุรรณบุรี ประจำปี 2562 วันที่ 17 กรกฎาคม 2562

    วันที่ 16 กรกฎาคม 2562

    เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ณ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร

    รถเทียนพรรษา ทั้ง 10 อำเภอ จอดโชว์ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนได้ชมความวิจิตรตระการตา

    วันที่ 17 กรกฎาคม 2562

    เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณหน้าแขวงทางหลวงสุพรรณบุรีที่ 1

    ชมพิธีเปิดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดสุพรรณบุรี การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมของวิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี พร้อมชมขบวนแห่เทียนพรรษาอันยิ่งใหญ่ตระการตา ซึ่งภายในขบวนมีการแสดงในรูปแบบศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การฟ้อนรำที่อ่อนช้อยงดงาม ชมการประกวดเทียนพรรษา การประกวดขบวนแห่ และชมการจัดโชว์รถต้นเทียนพรรษาแบบผสมผสาน โดยการประดับตกแต่งด้วยเทียนบุปผชาติ ในรูปแบบที่เน้นวัสดุธรรมชาติ โดยการนำเสนอความเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงศิลปวัฒนธรรม ประเพณีของท้องถิ่นในแต่ละอำเภอ วิถีการดำรงชีวิตจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ภาษาถิ่น ตำนาน วรรณคดี การแต่งกาย การละเล่นพื้นบ้าน รวมทั้งการสอดแทรกภูมิปัญญาท้องถิ่น การดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

    เวลา 14.00 น. ณ ศาลาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร

    พิธีถวายเทียนพรรษาแด่เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี และเจ้าคณะอำเภอทั้ง 10 อำเภอ

    ประกาศผลการประกวดรถเทียน และขบวนแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2562

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี โทรศัพท์ 035 535 380, 035 536 022 หรือเฟซบุ๊ก TAT_suphanburi

    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

    เว็บไซต์ tmsbr.go.th, เฟซบุ๊ก Tat UbonRatchathani ททท.สำนักงานอุบลราชธานี, เฟซบุ๊ก TAT Lopburi, เฟซบุ๊ก งานแห่เทียนพรรษาทางน้ำที่ลาดชะโด , เว็บไซต์ ladchado.go.th, เฟซบุ๊ก งานแห่เทียนพรรษาทางน้ำที่ลาดชะโด, เฟซบุ๊ก เทศบาลตำบลพิมาย, เฟซบุ๊ก Thailand Festival, เว็บไซต์ thaifest.tourismthailand.org, เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานราชบุรี, เฟซบุ๊ก TAT Lopburi


    (ขอขอบคุณที่มา...
    https://travel.kapook.com/view211599.html)
     
  17. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    ฟรี ฟรี ฟรี ค่าเดินทางใกล้ๆหลายท้องที่
    ในวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา 2562
    เงื่อนไขรายละเอียดต่างๆ...ลองเช็คดู


    ***************************

    ไหว้พระทั่วไทย สุขใจถ้วนหน้า วันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา 2562 ฟรี!! ทุกกิจกรรม
    Home / นักเที่ยวเชี่ยวทาง / ไหว้พระทั่วไทย สุขใจถ้วนหน้า วันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา 2562 ฟรี!! ทุกกิจกรรม
    P7153706-150x150.jpg suchaya.t พฤหัสบดีที่ผ่านมา 3,001
    แชร์
    การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กำหนดจัดกิจกรรม “ไหว้พระทั่วไทย สุขใจถ้วนหน้า 77 จังหวัด” เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา ชวนผู้ที่สนใจเดินสายทำบุญ ไหว้พระ เสริมสิริมงคล และท่องเที่ยวตามเส้นทางต่างๆ ของประเทศ ฟรีทุกกิจกรรม ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ต้องรีบสำรองที่นั่งกันหน่อย เพราะรับจำนวนจำกัดนะคะ

    ไหว้พระทั่วไทย สุขใจถ้วนหน้า วันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา 2562 ฟรี!! ทุกกิจกรรม
    จังหวัดฉะเชิงเทรา
    65471508_2369926259931438_145719006173593600_n.jpg

    การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานฉะเชิงเทรา จัดกิจกรรม “ไหว้พระแปดริ้ว ชิลด์กับสายน้ำ ตามรอยอดีตเรือนไทย” จังหวัดฉะเชิงเทรา แบบวันเดย์ทริป วันที่ 16 และ 17 กรกฎาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 15.30 น. โดยมีเส้นทางดังนี้

    จุดที่ 1 พิพิธภัณฑ์เมืองฉะเชิงเทรา
    จุดที่ 2 วัดวีระโชติธรรมาราม
    จุดที่ 3 ตลาดโบราณนครเนื่องเขต
    จุดที่ 4 วัดนครเนื่องเขต – บ้านต้นตระกูลสังขปรีชา
    จุดที่ 5 วัดโสธรวรารามวรวิหาร


    8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A7-DSC_3224-1.jpg

    จังหวัดตราด

    62428667_828679927504754_7573091880557084672_n.jpg
    ททท.สำนักงานตราด กำหนดจัดกิจกรรม “ไหว้พระทั่วไทย สุขใจถ้วนหน้า @ตราด” ขึ้นในวันที่ 16 -17 กรกฎาคม 2562 โดยจะพาผู้ร่วมกิจกรรม สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดตราด คือ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราด / วัดโยธานิมิต / วัดบุปผาราม / วัดไผ่ล้อม / พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดตราด / พิพิธภัณฑ์สถานเมืองตราด และรับประทานอาหารกลางวันพร้อมกัน

    trat-3.jpg
    ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด โทรศัพท์ 0-3959-7259 – 60 หรือ Facebook : tattratoffice


    จังหวัดพิจิตร

    66109100_526823497854026_9136047590721191936_n.jpg
    การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครสวรรค์ เชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางร่วมกิจกรรม ไหว้พระทั่วไทย สุขใจถ้วนหน้า เส้นทางจังหวัดพิจิตร ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 โดยเริ่มต้นจากนครสวรรค์ ไปตามเส้นทางไหว้พระสิริมงคล ดังนี้

    1. วัดท้ายน้ำ นมัสการหลวงพ่อเงิน
    2. วัดโพธิ์ประทับช้าง กราบหลวงพ่อโต และสมเด็จพระสรรเพชญ์ ที่ 8 (พระเจ้าเสือ)
    3. วัดท่าหลวง (พระอารามหลวง) นมัสการหลวงพ่อเพชร
    4. พิพิธภัณฑ์บ้านดงโฮจิมินห์

    1528174605_13.jpg
    เที่ยวฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย รับจำนวนจำกัดเพียง 40 คนเท่านั้น พร้อมอาหารกลางวัน 1 มื้อ โดยรถจะออกจาก ททท.สำนักงานนครสวรรค์ ในเวลา 07.30 น.

    ผู้ที่สนใจสามารถสมัครสำรองที่นั่งและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่
    1. ททท.สำนักงานนครสวรรค์ หรือ ทางโทรศัพท์หมายเลข 056 221 811-2
    2. ทางเฟสบุ๊ค TATNakhonsawn.Phichit


    จังหวัดลำปาง

    65385103_2372646152992782_8870145044439367680_n.jpg
    การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลำปาง ขอเชิญนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมไหว้พระเที่ยววัดที่จังหวัดลำปาง เนื่องในวันอาสาฬบูชา และวันเข้าพรรษา 15 – 17 กรกฎาคม 2562 เดินสายนั่งรถรางทำบุญ และชมวัดสำคัญย่านเมืองเก่านครลำปาง จัดบริการนำเที่ยวฟรี!!

    • วันที่ 15 กรกฎาคม เที่ยวชมวัดเชียงราย อ.เมือง และตลอดทั้งวันมีกาดมั่วครัวทาน
    • วันที่ 16 และวันที่ 17 กรกฎาคม
      เวลา 07.00 น. ร่วมทำบุญตักบาตรโอสถบนรถม้า หน้าวัดเชียงราย
      เวลา 09.00 น. และ 13.00 น. วันละ 2 เที่ยว นั่งรถรางไหว้พระ ทำบุญ 9 วัด เสริมสิริมงคล ได้แก่ วัดเชียงราย, วัดศรีรองเมือง, วัดปงสนุก, วัดศรีล้อมแสงเมืองมา, วัดพระเจดีย์ซาวหลัง, สำนักปฏิบัติธรรมหลวงพ่อเกษม เขมโก, วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม, วัดประตูป่อง, วัดคะตึกเชียงมั่น
    สามารถสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ ททท.สำนักงานลำปาง โทรศัพท์ 054- 222-214


    จังหวัดเชียงใหม่

    66047857_2372648932992504_1138430010072236032_n.jpg
    ททท.เชียงใหม่ ชวนนุ่งซิ่นเข้าวัดตามรอยละครดัง “กลิ่นกาสะลอง” ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา 16 – 17 กรกฎาคม 2562 เส้นทางวัดเจ็ดยอด วัดโลกโมฬี วัดเกตการาม และ วัดต้นเกว๋น

    201712225ab3dedcb41b9858a86cf61e06c07aed162707.jpg
    โดยมีรถบัสบริการวันละ 2 รอบ รอบละ 80 คน คือ รอบเช้า 08.00 – 12.00 น. และ รอบบ่าย 13.00 – 14.00 น. สามารถติดต่อสำรองที่นั่งได้ที่ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-248604-5 หรือ Facebook : TAT CHIANGMAI


    จังหวัดระยอง

    65554237_2285687334801570_7396358309948686336_n.jpg
    การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง ร่วมกับ เทศบาลตำบลเมืองแกลง ตัดกิจกรรม “ไหว้พระทั่วไทย สุขใจถ้วนหน้า” จังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 16-17 กรกฎาคม 2562

    นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรเสริมสิริมงคล ชมสถาปัตยกรรมสวยงามของโบสถ์ ศึกษาประวัติศาสตร์ของวัด บ้านเก่า วิถีชีวิต ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เพลิดเพลินการนั่งรถรางบนเส้นทาง “เที่ยวระยอง อิ่มบุญ สุขใจ เล่าขานตำนาน…เมืองแกลง” ไหว้พระ 5 วัด ประกอบด้วย

    • วัดสารนารถธรรมาราม
    • วัดบ้านนา
    • วัดหนองจระเข้
    • วัดราชบัลลังก์ประดิษฐาราม/วัดทะเลน้อย
    • วัดวังหว้า
    โดยมีบริการรถรางนำเที่ยว วันละ 2 รอบ รอบละ 125 ท่านเท่านั้น! จุดขึ้นราง ณ ลานจอดรถวัดสารนารถธรรมมาราม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง (สมัครฟรี!!! ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง)
    – รอบเช้า รถรางออกเดินทาง เวลา 08.00 น.
    – รอบบ่าย รถรางออกเดินทาง เวลา 13.00 น.

    ผู้ที่สนใจสามารถสมัครออนไลน์ได้ทาง : https://forms.gle/1Dp4aKpWSj4nw34P8

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 038-655-420-1 หรือทาง Facebook : ททท.สำนักงานระยอง


    จังหวัดจันทบุรี

    65276262_430182771152614_5294593068396183552_n.jpg
    เข้าพรรษานี้ ชวนทำดี กับ ททท.สำนักงานจันทบุรี ไหว้พระทั่วไทย สุขใจถ้วนหน้า @จันทบุรี วันที่ 16-17 กรกฎาคม 2562 ในเส้นทาง “เที่ยว ถ่าย ธรรม” เที่ยววัดสวย ถ่ายรูป ไหว้พระขอพร”

    รถออกจากวัดไผ่ล้อม เวลา 08.30 น. รับจำนวนวันละ 100 คน เท่านั้น เดินทางโดยรถมาสด้า

    1. วัดไผ่ล้อม
    2. วัดมังกรบุปผา
    3. วัดชากใหญ่
    4. วัดตะปอนใหญ่
    5. วัดเกวียนหัก

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานจันทบุรี โทร. 039-480-220 หรือ facebook : ททท.สำนักงานจันทบุรี


    จังหวัดเพชรบุรี

    64380427_2233983976721596_3806760820184973312_n.jpg
    ททท. สำนักงานเพชรบุรี ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย เชิญชวนร่วมกิจกรรมท่องเที่ยว เส้นทางไหว้พระ “ศรัทธา ปาฏิหาริย์ เกจิอาจารย์เพชรบุรี”ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ชมวิวรถราง เที่ยวทางรถเล้ง จ.เพชรบุรี ”

    จุดที่ 1 วัดเขาบันไดอิฐ
    จุดที่ 2 วัดช้าง
    จุดที่ 3 วัดคงคาราม
    จุดที่ 4 รามราชริเวศ (วัดบ้านปืน)

    20180521fa9f3ba98435d6a3ad7b9fbd588791e4143020.jpg
    โดยเดินทางด้วยขบวนรถไฟพิเศษนำเที่ยวขบวนที่ 911 จากหัวลำโพง สู่สถานีรถไฟเพชรบุรี และเดินทางท่องเที่ยวต่อด้วยรถเล้งนำเที่ยว ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตลอดเดือนกรกฎาคม 2562 (เริ่มวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2562)

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานเพชรบุรี โทร. 032-471005-6 และสำรองที่นั่งรถไฟ ที่เบอร์ 1690 (การรถไฟแห่งประเทศไทย)



    ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : TAT Chiang Mai , ททท.สำนักงานระยอง , TAT Nakhonsawan.Phichit , เที่ยวตะวันออก , ททท.สำนักงานจันทบุรี ,tatcontactcenter , thailandtourismdirectory.


    ขอบคุณที่มา....
    travel.mthai.com

     
  18. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    ส่วนใครที่ไปบังเอิญไปเที่ยวเขาใหญ่
    ช่วงเทศกาลวันอาสาฬหบูชา-วันเข้าพรรษา
    อย่าลืมแวะไปทำบุญไหว้พระที่วัดป่าภูหายหลง
    วัดสวยทะเลหมอกงามชมวิวรอบๆเขาใหญ่ 360 องศา
    นับเป็นหนึ่งจุดชมวิวเขาใหญ่ที่อลังการที่สุด
    ชมพระอาทิตย์ขึ้นสาดแสงสีทองอร่ามตา
    พร้อมทะเลหมอกทั้งบางและหนาในยามเช้า
    และชมพระอาทิตย์ตกสวยงามในยามเย็น

    สำหรับวันอาสาฬหบูชาปีนี้
    พิเศษกว่าทุกๆปี

    โดยจะมีสาวงามผู้ร่วมคัดเลือก
    เข้าประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ปีนี้
    มาร่วมทำบุญเวียนเทียนช่วงเวลาประมาณก่อนเย็น

    04.jpg


    69.jpg 103.jpg DSCF3725.JPG 1506853324465.jpg IMG_20171008_065451.jpg 05.jpg 22.jpg 133.jpg
     
  19. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    สวยมากครับ
     
  20. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่น่าเที่ยว
    แม้เคยไปมาแล้ว 2-3ครั้ง
    ...แต่ครั้งนั่นๆมิได้เดินตามรอยพญานาค
    และไม่เคยไปไหว้พระธาตุบังพวน
    ถ้ามีโอกาส.....

    จะไปกราบพระอาจารย์ทวี มหาวีโร



    *********************************

    มหัศจรรย์…อีสานเหนือ จากทะเลบัวแดง..สู่เส้นทางพญานาค


    ไทยรัฐฉบับพิมพ์26 ม.ค. 2562 05:01 น.
    SHARE
    4DQpjUtzLUwmJZZPFiY3DtxOkXZl06eYuRCMGEPJqvxd.jpg
    เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่น่าประทับใจ สำหรับทริป “เส้นทางท่องเที่ยว... มหัศจรรย์อีสานเหนือ” ของกลุ่มผู้ถือบัตรเครดิตท่องเที่ยวธนาคารกรุงเทพ ที่มียอดใช้จ่ายสูงสุด หรือ Top Spender สัปดาห์ก่อน

    ทริปนี้...มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ 2 จังหวัด คือ อุดรธานี และหนองคาย

    ออกเดินทางกันแต่เช้า ด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD3352 ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี และเพื่อให้สมศักดิ์ศรี บรรดา Top Spender ก็ต้องโหมโรงเอาใจขาช็อปกันที่นี่เลย...ตลาดผ้าบ้านนาข่า ตลาดที่เกิดจากการรวมกลุ่มของคนทอผ้าบ้านนาข่า ซึ่งมีเครือข่ายอยู่ตามหมู่บ้านในทั้งเขตตำบลนาข่า และหมู่บ้านใกล้เคียง

    สินค้าที่นำมาขายที่นี่ แน่นอน...ผ้าซิ่นอีสานผืนงามๆ มีทั้งผ้าไหมลายขิด ที่แต่ละผืนผ่านการทอเก็บขิดอย่างละเอียด เรื่องลวดลายไม่ต้องพูดถึง คงความเป็นเอกลักษณ์ตามแบบของผ้าอีสานไว้อย่างเหนียวแน่น เนื้อผ้า มัน วาว นูน ครบสูตร นอกจากผ้าซิ่นแล้ว ยังมีร้านขายผ้าประเภท เสื้อ กางเกง กระโปรง รองเท้า ผ้าพันคอ หมอนอิง และของที่ระลึกและอีกมากมาย ตลาดผ้าบ้านนาข่า ไม่ใช่แค่เป็นหน้าเป็นตาของตลาดผ้าเมืองอุดรฯเท่านั้น แต่ยังเป็นตลาดผ้าไหมคุณภาพระดับชาติ ที่นักช็อปผ้าไหมไม่ควรพลาด

    4DQpjUtzLUwmJZZPFiY3DtxOkXZl06ebdyyKhEi2tRI2.jpg
    หลังจากช็อปกันเป็นที่สำราญใจแล้ว ก็ได้เวลาอาหารกลางวัน มื้อนี้ จัดไปเบาๆกับ วี.ที.แหนมเนือง ร้านอาหารเวียดนามเลื่องชื่อเมืองอุดรฯ ก่อนจะไปเที่ยวกันต่อที่ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองอุดรธานี ซึ่งก่อนหน้านี้ปิดซ่อมแซมมานานกว่า 4 ปี เพิ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อปีที่ผ่านมานี้เอง

    แค่เข้าสู่รั้วของพิพิธภัณฑ์ ก็ตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของตึกสีเหลืองตระหง่านที่เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเดิมเคยเป็นอาคารเรียนของโรงเรียนราชินูทิศ โรงเรียนสตรีประจำจังหวัดอุดรธานี ที่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในรัชกาลที่ 6 ทรงตั้งพระราชหฤทัยให้เป็นโรงเรียนสตรีประจำมณฑลอุดร บนหน้าจั่วอาคาร มีการจารึกอักษรพระปรมาภิไธยย่อ “ส.ผ.” ของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (เสาวภาผ่องศรี) ใต้ตราสัญลักษณ์รูปมงกุฎและอุณาโลมและข้อความ “อาคารราชินูทิศ พระพุทธศักราช 2468” ไว้ชัดเจน

    กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนอาคารหลังนี้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อปี 2541 และจังหวัดอุดรธานีใช้อาคารราชินูทิศจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการ แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ที่พาเราย้อนกลับไปในยุคหลายล้านปีก่อน แสดงให้เห็นถึงการเกิดแผ่นดินอีสานที่ยกตัวขึ้นจากทะเล เป็นที่ราบสูงที่มีแอ่งน้ำทะเลค้างอยู่อีกหลายล้านปีและเป็นผลให้มีวัฒนธรรมเกลือเป็นจุดเด่น จนมาถึงยุคบ้านเชียง วัฒนธรรมที่หายไปกว่า 5,000 ปี ยุค “สงคราม” ที่หลายคนอาจจะคิดว่ามันคือการสูญเสีย แต่จริงๆแล้วคือจุดเริ่มต้นของความเป็นเมืองอุดรธานีในปัจจุบัน

    เรียกว่า ถ้าอยากสัมผัสอารยธรรมอีสานและเมืองอุดรธานีอย่างลึกซึ้ง...ต้องไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอุดรธานี...ไม่เช่นนั้นจะถือว่า มาไม่ถึงเมืองอุดรฯอย่างแท้จริง

    4DQpjUtzLUwmJZZPFiY3DtxOkXZl06eUfayvx8YHOFOm.jpg
    เสร็จจากชมพิพิธภัณฑ์ไปต่อกันที่ศาลหลักเมืองอุดรฯ ที่ซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้ถึง 3 สิ่ง คือ ศาลหลักเมือง หลวงพ่อพระพุทธโพธิ์ทอง และท้าวเวสสุวัณ

    แดดร่มลมตก แวะไปล้างหน้าล้างตากันก่อนที่ โรงแรมอัมมาน ยูนีค โฮเท็ล โรงแรมน้องใหม่ไม่ไกลจากหนองประจักษ์ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น โมร็อกโก ที่แทบไม่น่าเชื่อว่า อีสานจะมีโรงแรมสวยๆแบบนี้อยู่ด้วย

    อาหารค่ำวันนี้ ททท.อุดรธานี และเจ้าภาพใหญ่ แบงก์กรุงเทพ จัด Dinner เก๋ไก๋ ในรูปแบบ Chef Table ที่ปรุงอาหารด้วยวัตถุดิบในท้องถิ่น ที่ร้านบ้านนา คาเฟ่ ร้านอาหารสุดชิก สไตล์โรงนา จุดเช็กอินแห่งใหม่ของอุดรธานี ที่เหล่าบรรดาบล็อกเกอร์ที่ยังไม่เคยไปต้องรีบไปแบบด่วนนนนน...

    อรุณสวัสดิ์เมืองอุดรฯกันอย่างเช้าตรู่ ด้วยการออกไปนั่งเรือชม ทะเลบัวแดง ในเขต อ.กุมภวาปี บึงน้ำขนาดกว้างใหญ่มากกว่า 20,000 ไร่ แหล่งรวมนกนานาพันธุ์ และปลาหลากหลายชนิด รวมถึงดอกบัวสาย หรือบัวแดง ที่บานสะพรั่งละลานตาทั่วผืนน้ำ โดยบัวแดงเหล่านี้ จะบานชูช่อรอนักท่องเที่ยวไปชมจนถึงปลายเดือน ก.พ.นี้เท่านั้น

    ตกบ่ายแวะไปกราบขอพร พ่อปู่ศรีสุทโธ และ แม่ย่าศรีปทุมมา ตำนานพญานาคอันศักดิ์สิทธิ์ที่คำชะโนด เสี่ยงโชคกันพอหอมปากหอมคอ แล้วมุ่งหน้าสู่หนองคาย ดินแดนริมแม่น้ำโขง ...อันงดงามยามอาทิตย์อัสดง

    ที่หนองคาย...วัดที่ไม่ควรพลาดนอกจากวัดโพธิ์ชัย ที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใสแล้ว ยังมีเรื่องราวของพระธาตุอันเกี่ยวโยงกับความเชื่อเรื่องพญานาคอีกแห่ง...ที่ วัดพระธาตุบังพวน

    พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองหนองคายที่ตามตำนานอุรังคธาตุ บอกว่า สมัยพุทธกาลพื้นที่ แห่งนี้คือ “ภูเขาลวง” ริมน้ำบางพวน เป็นที่อยู่อาศัยของพญานาค ครั้นเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับยังดินแดนแถบลุ่มน้ำโขงพญานาคได้มาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ทำให้ดินแดนแห่งนี้ถูกยกให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

    ภายในวัดนอกจากจะมีพระธาตุบังพวนแล้ว ยังมีสิ่งน่าสนใจอีกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น สถูปเจดีย์เก่าแก่พระพุทธรูปโบราณศิลปะล้านช้าง โบสถ์โบราณที่เหลือเพียงซากอิฐก่อระดับเอว รวมถึงสถานที่เกี่ยวกับพญานาคอีกแห่งหนึ่งนั่นก็คือ “สระมุจลินท์” สระน้ำเก่าแก่ที่มีตำนานเล่าว่าหลังอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าบรรจุไว้ในองค์พระธาตุได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดมีสายน้ำพวยพุ่งออกมาจากพื้นดิน ซึ่งเชื่อว่านี่คือปากปล่องภูพญานาคที่เฝ้าปกปักรักษาพระธาตุบังพวน จึงมีการขุดเป็นสระน้ำขึ้นในภายหลังและมีการสร้างรูปปั้นพญานาค 7 เศียรไว้กลางสระแห่งนี้ด้วย

    ต้องบอกว่า นี่แค่น้ำจิ้มเล็กๆของการเดินทางสู่แหล่งอารยธรรมล้านปี และดินแดนพญานาคที่หากมีเวลามากกว่านี้ บอกเลยว่า...อีสานไม่ได้มีแค่ความแซ่บนัว แต่มีความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ในทุกอณูให้ได้ค้นหา...!!!


    (ขอขอบคุณที่มา.....
    นสพ.ไทยรัฐฉบับพิมพ์)
     

แชร์หน้านี้

Loading...