ขอความรู้เกี่ยวกับ ณาน 16 ขั้น

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Rupanama, 25 สิงหาคม 2009.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    องค์พละ พระศาสดาสอนเอาไว้

    1 ศรัทธา คือ ศรัทธาในพระวินัยและพระธรรมที่มีอยู่ก่อน

    2 วิริยะ คือ พากเพียรศึกษาตามพระวินัยและพระธรรม

    3 สติ คือ เจริญสติ ในที่นี้คือ เจริญสติใน มหาสติปัฎฐาน

    4 สมาธิ คือ เจริญ องค์สมาธิ คือ ฌาณ

    5 ปัญญา คือ เจริญ การพิจารณาธรรม

    องค์พละ 5 นี้ เมื่อเอามาใช้สำหรับ การภาวนา ก็ตามที่ได้กล่าวมานี้

    ดังนั้น การเจริญธรรม ไม่ใช่เพียงการดูรู้ทุกข์ เพราะมันดูไม่ได้ มันหลงดู
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คนมีครู มีศาสดาเป็นครู แต่ดันไปฟังวิถี ที่ศาสดาไม่เคยสอน

    มันก็มีแต่มั่วกับมั่ว แถมยังสอนคนอื่นให้มั่วตาม วินัยไม่มี กฎเกณฑ์ไม่มี องค์ธรรมไม่มี

    วันๆ เอาแต่ดู ทุกข์ นั่นแหละ มันก็ทุกข์๋อยู่อย่างนั้นแหละ

    อริยสัจมี 4 ประการ คนมั่ว ก็ยุบเหลือดูทุกข์

    ครั้นเถียงไม่ได้ อ้างพยัญชนะ อ้างสมมติบัญญัติว่า ไม่ตรงกันบ้างสื่อกันไม่เข้าใจกันบ้าง

    ก็ ครูบาอาจารย์ ท่านสอนสั่งมา ไม่เห็นท่านขัดกันสักราย มีแต่พวกอ้างนั่นอ้างนี่ พอแถไปไม่ได้ อ้างพยัญชนะ โทษสมมติบัญญัติ ก็สมมติบัญญัติมันออกจากปากใึคร นั่นแหละ ก็ใจมันสั่งมาอย่างนั้น จะไปโทษบัญญัติอย่างไร มันต้องโทษหัวใจคนพูด ว่ามันเลือกคำพูดอะไรมาพูด
     
  3. นิยายธรรม

    นิยายธรรม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +20
    กรรม...กระทู้นี้ยังทะเลาะกันอยู่อีกเหรอ
     
  4. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    นักบวชสององค์เดินแสวงธรรม ผ่านหมู่บ้าน ขณะกำลังจะข้ามคลองเห็นสตรีนางหนึ่งตกลงไปในน้ำ นักบวชคนหนึ่งโดดลงไปช่วยอุ้มนางขึ้นมาจากน้ำได้ โดยมีเพื่อนนักบวชด้วยกันยืนดูอยู่เงียบ

    เสร็จแล้วก็พากันเดินต่อไปโดยมิได้คุยอะไรกันต่อ จนพักใหญ่ ๆ เพื่อนนักบวชเอ่ยขึ้นมาแบบเสียงแข็ง ๆ ว่า " นี่ท่าน..ที่ท่านทำลงไปเมื่อสักครู่ ท่านไม่คิดจะกล่าวอะไรเลยหรือ ? มันเป็นการถูกต้องแล้วหรือที่ท่าน ลงไปถูกเนื้อ ต้องตัวสตรีนั้น ไม่มีอะไรเลยหรือ "

    นักบวชที่ลงไปช่วยสตรีตกน้ำ หันมายิ้ม แล้วตอบว่า " อ้าว..นี่ท่านยังแบกมันมาถึงนี่เชียวหรือ..?" เพื่อนนักบวชขมวดคิ้วแบบสนเท่ห์นิดหนึ่ง แล้วพยักหน้า....แต่ไม่มีคำกล่าวใด ๆ ออกมาอีกเลย.
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นั่นนะสิ ก็เห็นกระทู้มันตกลงไปแล้วนี่
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นั่นนะสิ ก็เห็นกระทู้มันตกลงไปแล้วนี่
     
  7. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ถูกต้องแล้วคร๊าบ

    อ้อ...หลวงตามหาบัวท่านคอนเฟริมผ่านรายการของท่านว่า ธรรมไม่จำเป็นต้องมีแต่ในข้อบัญญัติตามพระไตรปิฏกนะคะ
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ไม่รู้ว่าเป็นประเด็นเดียวกันไหม แต่อ่านโพสท์นี้แล้ว นึกถึงโพสท์นี้

    ว่าด้วยการตรึกในอริยสัจ ๔


    [๑๖๖๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงอย่าตรึกถึงอกุศลวิตกอันลามก คือ กาม-
    *วิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะวิตกเหล่านี้ ไม่ประกอบด้วย
    ประโยชน์ ไม่ใช่พรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความ
    ดับ ความสงบ ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้ นิพพาน ก็เมื่อเธอทั้งหลายจะตรึก พึงตรึกว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ
    นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะความตรึกเหล่านี้ ประกอบด้วยประโยชน์
    เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความสงบ
    ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้ นิพพาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลาย พึงกระทำ
    ความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรคามินีปฏิปทา.


    จบ สูตรที่ ๗

    ที่มา : �����ûԮ�������� �� - ����ص�ѹ��Ԯ�������� ��

    <!-- google_ad_section_end -->
    ๑๖๖๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงอย่าคิดถึงอกุศลจิตอันลามกว่า โลกเที่ยง
    โลกไม่เที่ยง โลกมีที่สุด โลกไม่มีที่สุด ชีพอันนั้น สรีระก็อันนั้น ชีพอย่างหนึ่ง สรีระก็อย่าง
    หนึ่ง สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเป็นอีก สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมไม่เป็นอีก สัตว์เบื้อง
    หน้าแต่ตายแล้วย่อมเป็นอีกก็มี ย่อมไม่เป็นอีกก็มี สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเป็นอีกก็หามิได้
    ย่อมไม่เป็นอีกก็หามิได้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะความคิดนี้ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่ใช่
    พรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ... นิพพาน ก็เมื่อเธอทั้งหลายจะคิด พึงคิดว่า
    นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะความคิดนี้ประกอบด้วยประ-
    *โยชน์ เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่าย ... นิพพาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะ
    ฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกข-
    *นิโรธคามินีปฏิปทา.

    จบ สูตรที่ ๘​


    <!-- google_ad_section_end -->
    http://palungjit.org/threads/การตรึกในอริยสัจ-๔.202720/
     
  9. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    นิโรธคามินีปฏิปทา คือ อะไรครับ มีทางหลักกี่ทาง แล้วทางรองที่เชื่อมต่อถึงทางหลักมีไหมครับ แล้วซอยอื่นๆที่ต่อไปถึงทางรอง นั้นมีไหมครับ
    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2009
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ให้อากู๋ช่วย พอได้ความเป็นเบื้องต้นดังนี้

    ทุกฺขนิโรธคามินีปฏิปทา ข้อปฏิบัติเป็นเครื่องดำเนินถึงความดับทุกข์หรือเรียกสั้น ๆ ว่า มรรค


    มีสัมมาทิฏฐิเป็นต้น สัมมาสมาธิเป็นที่สุด


    อ่านละเอียดก็ตามลิ้งนี้ค่ะ

    http://www.oknation.net/blog/agile/2009/02/06/entry-1
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ไม่ต้องไปจำ คำว่านิโรธคามินีปฏิปทา ให้จำว่า การดับทุกข์ คือ การดับที่สมุทัย

    สมุทัย มันมีเป็นขั้นๆ ก็ใช้ปัญญามองเห็นได้ขั้นใด ก็ใช้สติ ปัญญา พละ ของตนเองแก้ไขไปในขั้นนั้น ตามแต่กำลังจะมีไป แล้วศึกษา เพื่อจะได้เข้าสู่การดับทุกข์ ในอริยสัจ ที่ตรงทางมากขึ้น
    ยกตัวอย่า่งตามที่เคยพูดมาแล้วเช่น คนไม่อยากทำงาน การดับทุกข์ของคนนี้ ถ้าเขามองเห็นว่า เหตุแห่งทุกข์ คือ เขาไม่ชอบเจ้านาย เขาก็ต้องใช้ หลักธรรม คือ เมตตา หรือ ถ่อมตน เข้ามาช่วยดับทุกข์ ทีนี้ สิ่งเหล่านี้มันก็ใช่ว่าจะตรงต่อทุกข์อริยสัจ ก็ต้องทบทวนศึกษาไปว่า เหตุใดคือ เหตุที่แท้จริง บางทีก็สังเกตุได้ว่า ที่ไม่อยากทำงานนั้นเพราะขี้เกียจ ก็หาเหตุปัจจัยว่าทำไมขี้เกียจ แล้วดับตัวนั้นตามกำลังที่มี
    บางที ก็ว่า ขี้เกียจทำงาน เพราะว่า ร่างกายมันเหนื่อยล้า มันก็พาลไป
    ทีนี้ เหตุทั้งหมด ที่เป็นภายนอกจะตรงทางเข้าสู่ นิโรธ ที่ถูกต้องมากขึ้น ก็ด้วย การศึกษาในปฏิปทา คือ 1 มีศีลที่ดี 2 มีสมาธิที่ดี 3 อบรมปัญญา ก็จึงจะลู่เข้าสู่ การดับที่ตรงเหตุตรงปัจจัย เห็นจิตเห็นใจ ตนเองที่ถูกต้อง ว่า เพราะเหตุปรมัตใดกันแน่


    ทีนี้ การควานดับตัวนั้น ตัวนี้ ไปตามปัญญาที่มี นั่นแหละคือ การกระทำที่ถูกแล้ว และมันจะนำไปสู่ การดับที่เหตุ ที่ถูกต้องเอง เพราะ สิ่งที่ต้องการให้อยู่ในใจเรา ไม่ใช่ ว่าผลที่ดับได้ มันจะไม่มีทางดับได้ทั้งหมด ถ้าไม่สร้างปัีจจัยคือกุศล เปรียบดัง กับ คนสั่งงาน หากไม่สอนงานแล้ว สั่งไปทีละอย่าง มันก็ทำได้ทีละอย่าง แต่ทางที่ถูกต้องคือ สร้างนิสัยให้คนรักในงานนั้น แล้วเขาจะหาทางปรับปรุงให้มันดีเอง

    ทีนี้ ก็เหมือนกัน การสร้างปัจจัย คือ การให้ควานหาทุกข์ การค้นหาวิธีการดับทุกข์ การศึกษาเหตุของทุกข์ และ สร้างนิสัยปัจจัยเหล่านี้ให้เต็มบริบูรณ์


    พิจารณาเอาเอง
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เวลายกพระสูตรมา ผมคิดว่า คุณควรยกมาอย่างมีประเด็น ไม่ใช่ยกมาสนับสนุน ข้ออ้างตน
    เพื่อให้ชนะ ไม่เช่นนั้น มันจะเป็นการยกมาเพื่อเอาชนะ

    นัยยะที่ การดูรู้เฉย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพระสูตรนี้เลย อาศัยเพียงแค่มีแต่คำว่า ทุกข์เหมือนกันคำเดียว คุณยกมาส่งเดช
    ดูความหมายของพระสูตร และ ดูคำสอนที่ผมตำหนิด้วย ว่าแตกต่างกันในความหมายอย่างไร ไม่ใช่ ยกพระสูตรมาเพื่อปกป้องกิเลส มันจะเป็นบาปเป็นกรรม ยกเอาธรรมมาสนองความไม่รุ้ของตน และ ยกเอาธรรมมาปกป้อง คนไร้สาระ ด้วยความอยากเอาชนะ มันบาปกรรมไหม
     
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คนไม่ฉลาด ไม่กว้าง ไม่ลึก ในธรรม มีแต่กิเลส มันก็ทำอะไรตามกิเลส

    อย่าง ขวัญ นี่ มีกิเลสเต็มตายกมา นี่ไม่ได้ทบทวนเลย อ่านเจอว่า ทุกข์คำเดียวเหมือนกับที่ผมตำหนิ ก็ไปยกพระสูตรมา สนับสนุนคำว่า ทุกข์ คำเดียว โดยจะหมายว่า
    อริยสัจจ 4 นั้น ดูทุกข์อย่างเดียวก็ได้

    นี่แหละ พวกกิเลสเต็มหัว มันจะตีความไปในทางกิเลส ยกอะไรมา หรือ อ่านอะไรก็ เอาเข้าข้างตน เพราะว่า ใจตอนนั้น มันจะเอาชนะบ้าง ใจตอนนั้น มันไม่ชอบใจธรรมคนอื่นบ้าง
    ใจตอนนั้น มันเข้าข้างพวกพ้องของตนบ้าง จิตใจตอนนั้นมันก็โง่ มันก็ไปหยิบพระสูตรมา
    ยกมาสนับสนุนความตนเอง

    ก็ใจมันเต็มไปด้วยกิเลส มันไปยกมาอย่างไรก้ผิด ก็พลาดไปหมด
     
  14. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ชาติ ชรา มรณะ ถ้าดูก็เห็นแต่ธรรมนอก ผมมองได้เป็นวงนอก ส่วนวงในดูอย่างไรก็ได้แค่รูป สัญญา วิญญาณ เวทนา และสังขาร(การปรุงแต่งตามกิเลส)

    ปล. สืบเนื่องจากหน้าสองของกระทู้ ที่คุยกันเรื่องกระบวนการเกิดดับแห่งทุกข์ ^-^
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นั่นเป็นสัญญา ดูให้จริง ดูที่จิต เป็นจิตตานุปัสสนา คือ ให้เห็นว่า่ จิตตอนนี้มี อกุศล หรือ กุศล

    กุศล นั้น มีพฤติกรรมอย่างไร อกุศลมีพฤติกรรมอย่างไร

    ขันธ์ 5 เป็นเพียงเครื่องมือ
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ขวัญ นี่ก็กิเลสเต็มกะบาล อยู่ค่ะ ในฐานะปุถุชนเต็มขั้น
    ปุถุชนแปลว่า คนกิเลสหนา ท่านขันธ์กล่าวชอบแล้วเรื่องกิเลส
    ธรรมชาติของคนมีกิเลส ก็แสดงกิเลสเป็นปกติ เราก็ได้รู้ว่าใจเรามีกิเลส
    จะได้ไม่หลงในอัตตาตัวเอง ที่ยกมาก็เพราะกิเลสมันนึกได้มันก็ไปเอามาดู
    ถ้าไม่ถูกใจท่านขันธ์ก็ขออภัย โพสท์นี้ก็อีกกิเลสสั่งงานอีกล้วนๆ..
     
  17. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ดูขันธ์มันก็ละเอียดกว่าดูจิตอยู่แล้ว จะไปย้อนทำไมอีก

    ถามท่านขันธ์ ดูจิต ต่อดูจนถึง ฐีติภูตัง แล้วได้อะไร มีดีตรงไหน ^-^
     
  18. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    เห็นแล้วก้ว่าเห็น เห็นอีกก้ว่าเห็นอีก
    เพราะไม่รู้จึงไม่รู้ เพราะไม่รู้อีกจึงยังยึดอีก
    คลายได้ส่วนหนึ่งไม่ใช่คลายได้ทั้งหมด
    เงื่อนปมนี้ว้อนๆกันลงไป หลายชั้นหลายตอน ปิดบังกันมิดแน่นหนา กำหนดพิจารนาดูลงเรื่อยๆ ก้ค่อยๆคลาย ที่ยังไม่เห็นก้ยังไม่เห็นที่เห็นก้คลายไปแล้ว แล้วมันแก้ได้หมดหรือยัง?
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ดูขันธ์ ละเอียดกว่า อย่างไร ในเมื่อกิเลส มันซ่อนในขันธ์นั้น

    เช่น ความโง่ ซ่อนใน สังขาร ที่ปรุงขึ้นมา

    ความฉลาด ซ่อนใน สังขารธรรม ที่ผุดขึ้นมา

    จิตใจที่เต็มไปด้วยกุศล ผลักดันให้ ขันธ์ 5 ปรุงเป็นฝ่ายกุศลขึ้นมา

    ดังนั้น ความแปรเปลี่ยนไปของขันธ์ 5 ไม่ใช่เป้่าหมาย แต่อุปาทาน ขันธ์ 5 คือ ตัวโง่นั้นแหละ เป้่าหมายที่คุณจะต้องดู

    เรียกว่า ให้ ดู กุศลที่จิต อกุศลที่จิต เป็น จิตภาวนา
     
  20. Rupanama

    Rupanama สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +25
    วันนี้ผมมีทุกข์ ผมมองทุกข์นั้น ตามดู/รุ้ จากนั้นจิต เลื่อนมาหาตัวที่เป็นสมุทัยเองครับ เพราะ ว่ามองดูทุกข์นั้นไปเรื่อยๆ เห็นองค์ประกอบของมัน คุณวิเศษเป็นอย่างไร ลักษณะเป็นอย่างไร ให้ผมอย่างไร มันวิ่งไปหาสมุทัยเองครับ พอเห็นสมุทัย ตามดู/รู้ พอสมุทัย แต่ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าทุกข์ดับไปหรือยัง เพราะเห็นสมุทัยอย่างเดียว แต่พอสมุทัยดับไป ไม่เห็นทุกข์แล้วแน่ๆ ครับ
    อย่างนี้ผิดปกติ หรือเปล่าครับ

    รบกวนผู้รู้ด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...