ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. Vking

    Vking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,555
    เนื่องในวันวิสาขบูชา มีโอกาสได้ไปร่วมถวายมหาสังฆทานมาค่ะ

    วันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ....

    ก็รู้สึกอิ่มเอมใจที่ได้มีโอกาสร่วมกิจในวันที่ดี ดี แบบนี้

    ขอส่งพลังมายังท่านทั้งหลายได้มีส่วนด้วยกันนะคะ

    ขอน้อมในองค์คุณแห่งมหาบารมี องค์คุณแห่งพระพุทธะ พระมหาโพธิสัตว์ ทรงเป็นประธาน

    ขอให้ท่านทั้งหลาย จิตญาณทั้งหลายในทุกภูมิ ทุกชั้น ทุกหมู่ ทุกเหล่า ทุกชีวิตจิตวิญญาณ ตลอดจนถึงเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย

    ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้มีส่วนในการที่ข้าพเจ้าได้ถวายมหาสังฆทานในครั้งนี้ และในทุกครั้งทุกคราวไป

    เพื่อที่จะได้มีส่วน...ตรงต่อเนื้อหาแห่งพระสัจธรรมตามองค์คุณพระพุทธ พระมหาโพธิสัตว์โดยทั่วกัน

    และในส่วนที่ข้าพเจ้าได้มีหนี้กรรม หนี้ต่อโลกธาตุ หนี้ต่อสังสารวัฎ หนี้ต่อสรรพสัตว์ หนี้แรงงาน หนี้โกงภาษี หนี้ชีวิต หนี้ต่อสังคมส่วนรวม หนี้สาธารณะ หนี้เกี่ยวกับทรัพย์สิน รวมถึง หนี้ที่เคยได้เอารัดเอาเปรียบในทุกประเภท ข้าพเจ้าขอชดเชยชดใช้ด้วยอธิวาสนาที่ข้าพเจ้าได้สั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ในทุกภพ ทุกชาติ ทุกกัลล์ ทุกกับป์ ทุกพุทธันดร ที่เป็นการให้ การสละตามเนื้อหาแห่งพระสัจธรรม และการที่ได้เกื้อกูลต่อพระศาสนา

    และข้าพเจ้าขอชดเชยชดใช้ด้วยการปลง การปล่อยวาง การให้ การสละที่ตรงต่อเนื้อหาแห่งพระสัจธรรม

    ก็ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้มีส่วนนับแต่นี้เป็นต้นไปและตลอดกาลนานเทอญ ... สาธุ
     
  2. Water Lily

    Water Lily เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +738
    รู้สึกเหมือนกันเลย ข้อความที่hilarionส่งมามันตรงกับสิ่งเกิดกับเรามาก เริ่มอ่านตอนที่อยู่ดีๆก้อปวดหัวปวดท้อง เปิดมาอ่านเจอพอดีว่าเป็นการเลื่อนระดับ พออีกสัปดาห์ก้อหายเลย อ่านต่อๆมาก้อค่อนข้างโดนใจตลอด ช่วงนี้ก็เป็นแนวเบื่อหน่าย อยากเปลี่ยนแปลง อยากทำอะไรที่สร้างคุณค่าให้มากกว่านี้ แต่ทุกครั้งที่อ่านข้อความก้อเหมือนจิตใจได้รับการเยียวยา รู้สึกดีขึ้น แต่เป็นแบบที่คุณชยุตบอก คือมันเป็นระลอกๆ
     
  3. waterydis

    waterydis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ช่วงที่ผ่านมานี้เราเองก็รู้สึกเหมือนว่าอยากอยู่ในสภาพดักแด้ อยากจะหนีจากโลกนี้ไปให้ไกลเพราะเบื่อหน่ายเหลือเกินกับการทำเรื่องไม่จำเป็น แต่มันก็ต้องทำไปตามหน้าที่มนุษย์ ถามตัวเองอยู่ทุกวันว่าทำไปเพื่ออะไร ไม่ใช่ว่าเราสิ้นหวังหรือท้อแท้นะ แต่เราไม่เห็นว่าสิ่งที่ทำไปเป็นประโยชน์ต่อเรายังไง เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ความสุขของเราลดน้อยหรือเพิ่มขึ้นมากว่าเดิมเลย ร่างกายก็ป่วยอยู่เรื่อยๆ เหมือนเป็นไข้หวัด สิ่งหนึ่งที่มีอยู่คือกำลังใจ มันแปลกนะ ทุกอย่างดูเหมือนไร้ความหมายและวุ่นวาย (ตามระบบของมิติที่สาม) แต่ข้างในมันยังสว่างแจ่มใสอยู่
     
  4. ศารทวิศุวต

    ศารทวิศุวต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +368
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=AKhmlGwz7f0]เปิดความจริง มนุษย์ต่างดาว 1 - YouTube[/ame]
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=yHlJq4ayNvw]เปิดความจริง มนุษย์ต่างดาว 2 - YouTube[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=so3LxeAOi7k"]B3_?????????????2 - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2013
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    พักนี้ผมงมอยู่กับข้อมูลในกระทู้ข้างล่างนี้อยู่

    "ข้อความจากต่างมิติ-การดาวน์โหลด-และ-การผสานรวมเข้ากับตัวตนหลากมิติของตัวเราเอง"

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...านรวมเข้ากับตัวตนหลากมิติของตัวเราเอง.495876/

    ซึ่งข้อมูลพวกนี้ ทำให้ผมกระจ่างขึ้นมาหลายเรื่องมากๆ
    ยิ่งอ่านก็ยิ่งหายสงสัย เรื่องที่เคยสงสัยมานานแล้ว
    ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่ามันสอดคล้องกันไปหมดเลย
    กับข้อความในกระทู้อื่นๆ ที่เป็นข้อความจากต่างมิติทั้งหลาย

    จนเมื่อเร็วๆนี้ มีข้อความผ่านนาง Blossom มา
    ก็อีกนั่นแหละ พูดเหมือนกันกับชาว Arcturian และท่านอื่นๆอีกแล้ว
    ว่าโลกนี้คือ hologram อีกแล้ว..ผมก็เลยไม่รู้ว่าควรจะเอาข้อความนี้
    ไว้โพสต์ไว้ในกระทู้ไหนดี เพราะว่ามันก็ใช่หมดทุกกระทู้นั่นแหละ

    ก็เลยเอาเป็นว่า เอามาไว้ในกระทู้นี้ก็แล้วกันนะครับ


    ..........................................................
     
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจากต่างมิติผ่านทางนาง Blossom Goodchild

    “ภาพสามมิติ” (Hologram)

    ประจำวันที่ 27/5/13

    ที่มา:
    Blossom Goodchild - May 27, 2013


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    Blossom: สวัสดี มีคนมากมายชอบข้อความสื่อสารครั้งที่แล้วของพวกคุณ
    ขอบคุณมากนะคะ วันนี้ดิฉันอยากจะขอถามคำถามอีกซักข้อ ถ้าพวกคุณไม่ว่าอะไรนะคะ?


    ยินดีต้อนรับพวกคุณทุกๆคน นั่นคือสิ่งที่สมควรแล้ว และพวกเราก็กระตือรือล้น
    ที่จะอธิบายสิ่งที่คุณอยากจะถามอยู่เหมือนกัน


    Blossom: โอ..ดีมากเลยคะ งั้น..ดิฉันก็เดาว่าพวกคุณคงจะรู้แล้วกระมัง
    ว่าคำถามของดิฉันคืออะไร? ดิฉันได้สังเกตมาเมื่อเร็วๆนี้ว่า
    มันมีความสวยงามอยู่ในอากาศทุกแห่งทุกหน ในต้นไม้ ในดวงดาว
    และในดวงจันทร์ตอนค่ำคืนด้วย และก็ในอื่นๆอีกมากมาย ในความคิดเห็นของดิฉัน
    ดิฉันคิดว่าสิ่งเหล่านั้นหนะ พวกมันก็คงไม่ได้สวยงามขึ้นหรอก
    พวกมันก็คงจะเป็นเหมือนเดิมของพวกมันนั่นแหละ เพียงแต่ว่าในตอนนี้
    ดิฉันสามารถที่จะชื่นชมกับความสวยงามเหล่านั้นได้แล้ว
    เพราะว่าดิฉันได้ “ยกระดับ” ขึ้นอีกเล็กน้อยแล้ว ซึ่งดิฉันยอมรับว่ามันเยี่ยมมาก..
    และมันก็มีเหตุผลที่น่าจะเป็นอย่างนั้นด้วย

    ดังนั้น ดิฉันจึงได้มานั่งคิดถึงเรื่อง “โฮโลแกรม” (hologram)
    ที่พวกเราถูกบอกว่าพวกเรากำลังอาศัยอยู่ในโฮโลแกรมอยู่


    และถ้าพวกเราย้ายขึ้นไปอยู่ในมิติที่ 5 แล้ว ดิฉันก็ขอเดาว่า
    ตรงนั้นคงจะไม่ใช่โฮโลแกรมแล้วใช่ไหมคะ?
    ดังนั้น พวกเราจะสามารถมีประสบการณ์กับมิติที่ 5 ได้มากขึ้นได้อย่างไร
    ในเมื่อพวกเรายังคงมองดูโฮโลแกรมเก่าของมิติที่ 3 ที่พวกเรากำลังอาศัยอยู่นี้อยู่
    มันจะเป็นไปได้เหรอคะ?

    และก็อีกอย่างหนึ่ง..ได้โปรดอธิบายเหมือนกับที่อธิบายให้เด็กอายุ 8 ขวบฟังได้ไหมคะ
    เพราะว่าดิฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดิฉันไม่เข้าใจว่าอะไรคือ “โฮโลแกรม” ด้วยซ้ำไป
    ขอบคุณค่ะ


    คุณได้เลือกหัวข้อเรื่องที่จะทำให้หลายๆคนงงจริงๆเลย
    มันเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะให้ความรู้กับพวกคุณ
    เพื่อช่วยให้พวกคุณมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
    และพวกเราก็รู้สึกว่าช่วงเวลาที่จะต้องอธิบายถึงเรื่องนี้ น่าจะมาถึงแล้ว


    Blossom: ค่ะ..ดิฉันกำลังตั้งใจฟังอยู่ค่ะ
    (I’m all ears – เป็นสำนวนว่ากำลังตั้งใจฟังอยู่ – ผู้แปล)


    ไม่หรอก คุณไม่ได้เป็นหูทั้งหมดหรอก เพราะว่าพวกคุณทั้งหมดคือ “ความรัก”
    (You are all Love – เขาชอบเล่นมุกกันหนะครับ – ผู้แปล)


    พวกคุณคือ “ภาคแสดงของความรัก” (expression of Love) ชนิดหนึ่ง
    ที่กำลังมีชีวิตอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงโลกหนึ่ง ที่ไม่จริง


    Blossom: งง..ครั้งที่ 1 เจ้าค่ะ! เพราะว่ามันจริงสำหรับดิฉันนี่คะ
    เพราะว่ามันเป็นทั้งหมดที่ดิฉันรู้จักหนะค่ะ


    มันเป็นสิ่งที่พวกคุณทุกๆคนพากันสร้างขึ้นมาทั้งหมดเลย
    พวกคุณสร้างมันขึ้นมาเพื่อตัวพวกคุณเอง
    แต่ว่า..พวกเราอยากจะบอกว่า มันคือสิ่งที่วางซ้อนทับกันอยู่


    Blossom: งง..ครั้งที่ 2 เจ้าค่ะ! มันจะไม่เข้าใจยากไปหน่อยหรือคะ?

    มันจะยาก ถ้าคุณยินยอมให้ใจของคุณคิดว่ามันยาก..ดังนั้น โดยมารยาทแล้ว..
    พวกเราขออธิบายซ้ำถึงสิ่งที่พวกคุณ “รู้แล้ว” อีกสักหน่อย


    ว่า..ดาวเคราะห์โลก คือ โลกแห่งความเป็นจริงโลกหนึ่ง
    และ..แต่ว่า ในขณะเดียวกัน มันก็ไม่ใช่โลกแห่งความเป็นจริงด้วย
    เพราะว่าคุณเห็นไหม? ว่า..มันไม่มีอะไรจริงเลย
    นอกจากพลังงานแห่ง “ความรัก” เท่านั้น


    เพราะฉะนั้นแล้ว “ทุกสิ่งทุกอย่าง” ที่ถูกสร้างขึ้นมา
    ก็คือมาจากพลังงานแห่ง “ความรัก” ทั้งนั้น


    มันคือผลงานการสร้างสรรค์อย่างหนึ่งของ “ความคิด”
    มันคือสิ่งที่พวกคุณเลือกที่จะ “รับรู้” ว่ามันเป็นความจริงเท่านั้นเอง
    ทั้งๆแท้ที่จริงแล้ว มันคือสิ่งที่เสกสรรปั้นแต่งขึ้น
    โดยจินตนาการของพวกคุณทั้งนั้นเลย

    มันไม่มีโลกแห่งความเป็นจริงใดๆอยู่จริงๆเลย
    นอกจากพลังงานแห่งความรักเท่านั้น
    เพราะฉะนั้น พวกเราจึงอยากจะบอกเพิ่มเติมอีกว่า
    มันไม่มีอะไรเลย ที่เป็นของจริงจริงๆ
    เพราะว่ามันมีแต่พลังงานแห่ง “ความรัก” เท่านั้น


    Blossom: เอ่อ..แต่ว่า..ถ้าพวกคุณบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง
    ล้วนถูกสร้างขึ้นมาจากพลังงานแห่งความรัก
    และบอกว่าพลังงานแห่งความรักคือของจริงแล้ว
    ถ้าเช่นนั้น สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาจากพลังงานแห่งความรัก ก็ไม่ใช่ของจริงหรอกเหรอ?


    พวกมันคือผลงานที่เกิดขึ้นมาจาก “ความคิด”
    ความคิดทั้งหลายของพวกคุณ เป็นของจริง
    แต่ว่าคุณ และพวกคุณอีกจำนวนมากมาย
    เชื่อว่าพวกมันเป็นผู้ควบคุมพวกคุณอยู่
    แทนที่จะเชื่อว่าพวกคุณต่างหากหละ
    ที่เป็นผู้ควบคุมพวกมันอยู่


    แต่พวกเรายังไม่อยากที่จะเฉออกไปนอกประเด็นของคำถามเดิมมากนัก

    พวกคุณคิดว่าแนวคิดเกี่ยวกับมิติที่ 5 นั้นไม่ใช่โฮโลแกรมใช่ไหม๊
    แต่ว่า..ทุกสิ่งทุกอย่างคือโฮโลแกรม!
    เพราะว่าพวกมันถูกสร้างขึ้นมาจากแสงสว่าง


    Blossom: อ้าว..ถ้าอย่างนั้น เมื่อพวกเราเข้าไปอยู่ในมิติที่ 5 แล้ว
    ที่นั่นก็เป็นโฮโลแกรมด้วยหนะสิ?


    ถูกต้องแล้ว เพราะว่ามันไม่มีอะไรอยู่เลย!
    มันมีแต่เพียงสิ่งที่พวกคุณเลือกที่จะสร้างสรรค์ขึ้นมา
    จากความคิดทั้งหลายของพวกคุณเอง เท่านั้นเอง


    ไม่ว่ามันจะนานมาแล้วแค่ไหนก็ตาม รอยประทับรอยแรกเหล่านั้น
    ก็คือสิ่งที่ถูก “คิดออกมา” นั่นเอง


    พวกคุณคิดว่าร่างกายเนื้อของพวกคุณ คือของจริงใช่ไหม
    และมันก็ส่งผลกระทบต่อพวกคุณอยู่ใช่ไหม
    พวกคุณเห็นการเจ็บไข้ได้ป่วย และรูปแบบความเป็นไปต่างๆ
    ที่เจ้ายานพาหนะพวกนี้เป็นไปอยู่ใช่ไหม


    แต่ว่าอันที่จริงแล้ว..พวกคุณเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง!
    (สร้างการเจ็บไข้ได้ป่วย และรูปแบบความเป็นไปต่างๆ
    ของร่างกายเนื้อของเรา – ผู้แปล)
    ไม่ว่าจะเพื่อการเรียนรู้ (หรืออะไรทำนองนั้น)
    หรือเพราะว่าพวกคุณเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้
    คือสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นกับร่างกายเนื้อของพวกคุณเองได้ก็ตาม


    แต่ว่า..ถ้าพวกคุณสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการคิดของพวกคุณเองได้หละก็
    และถ้าพวกคุณสามารถรับรู้ได้ว่า แม้ว่ามันจะรู้สึกราวกับว่า ร่างกายเนื้อของพวกคุณนี้
    มันมีอยู่จริงๆหละก็ พวกคุณก็จะรู้ว่า มันมีอยู่แต่เฉพาะในโลกแห่งความเป็นจริง
    ของพวกคุณนี้เท่านั้น แล้วเกิดอะไรขึ้นเมื่อจิตวิญญาณที่สถิตย์อยู่ได้จากมันไป?
    มันก็จะเสื่อมสลายไป เพราะว่ามันไม่ได้ถูกใช้งานอีกแล้ว


    Blossom: อะฮ่า! ดังนั้น มันก็เลยอยู่ที่นั่น ในโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพ

    พวกเราขออธิบายให้ลึกลงไปอีกสักหน่อยว่า
    ในโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพของพวกคุณนั้น
    พวกคุณรู้สึกว่า พวกคุณสามารถที่จะแตะต้องสัมผัสกับมันได้
    (ร่างกายเนื้อของเรา – ผู้แปล)
    ..พวกคุณจินตนาการว่า พวกคุณสามารถมองเห็นมันได้..
    พวกคุณสามารถมีประสบการณ์กับสิ่งที่พวกคุณเห็นว่า
    จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของตัวเองในโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพนี้ได้..
    แต่ว่า มันก็เป็นแค่ภาคแสดงอย่างหนึ่งของพลังงานเท่านั้นเอง
    (an expression of energy)


    Blossom: แล้วมันมีอยู่จริงไหมคะ?

    มันมีอยู่จริง ในการสร้างสรรค์ของพวกคุณ

    Blossom: แล้วในการสร้างสรรค์ของพวกคุณหละคะ?

    แน่นอนสิ..มันก็ต้องมีอยู่จริงด้วย เพราะว่าการสร้างสรรค์ของพวกคุณ
    ก็คือส่วนหนึ่งของ “สรรพสิ่งทั้งปวง” ด้วย!
    การสร้างสรรค์ของพวกคุณ ก็คือส่วนหนึ่ง
    ที่เนรมิตรให้เกิดภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ขึ้นอยู่ด้วย
    ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ มันกำลังยืดขยายตัวมันเองออกไปเรื่อยๆ
    ในแต่ละเทค (take) อยู่


    พวกคุณจะต้องจดจำให้ได้ว่า มันคือเกมๆหนึ่งเท่านั้นเอง
    มันคือเกมที่ได้ถูกเล่นอย่างเอาเป็นเอาตายมากเกินไป


    พวกคุณได้พากันหลงลืมศักยภาพอันยิ่งใหญ่แห่งการสร้างสรรค์ของตัวเองไปจนหมดสิ้นแล้ว
    และพวกคุณก็หลงลืมไปแล้วว่า ทำไมพวกคุณถึงได้เลือกที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของเกมๆนี้


    โอ..พวกคุณมีศักยภาพที่น่าอัศจรรย์มาก
    พวกคุณมีศักยภาพที่จะทำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง
    แต่ว่าพวกคุณได้กักขังความคิดของตัวเองเอาไว้
    กับคำว่า “พวกคุณไม่รู้” ไปเสียแล้ว


    Blossom: พวกคุณจะกรุณาพูดออกมาเลยได้ไหมคะว่า
    พวกเราคือผู้ที่กักขังความคิดของตัวเองเอาไว้

    หรือไม่ก็พูดว่า พวกเราถูกกักขังความคิดเอาไว้
    โดยใครก็ตามที่ต้องการจะทำร้ายพวกเราใช่ไหมคะ?


    ผู้คนที่ได้ยอมพ่ายแพ้ต่อเกมนี้ไปแล้ว ได้นำพาพวกคุณให้มาถึงจุดที่พวกคุณกำลังยืนอยู่ในขณะนี้
    แต่ว่า พวกเราอยากจะบอกกับคุณว่า...


    พวกคุณไม่ได้ถูกกักขังหรอก!
    เพียงแต่พวกคุณคิดว่าพวกคุณถูกกักขังเท่านั้นเอง!


    และยิ่งถ้าพวกคุณเรียนรู้เกี่ยวกับกับดักทั้งหลาย
    ที่พวกคุณรู้สึกว่ามันอยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกคุณนั้น ยิ่งมากเท่าไหร่
    พวกคุณก็จะยิ่งประหลาดใจกับความจริงที่ว่า
    พวกคุณสามารถที่จะปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากพวกมันได้ทุกเมื่อ มากเท่านั้นด้วย

    แต่ว่าพวกคุณได้พากันกักขังตัวเอง
    เอาไว้ในกฎเกณฑ์อันเข้มงวดนั้นเสียแล้ว
    โดยการคิดว่า พวกคุณไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย


    แต่ว่าอันที่จริงแล้ว พวกคุณสามารถทำได้
    เพราะว่าพวกคุณคือผู้ที่กุมชะตากรรมของตัวเองอยู่!


    ซึ่งกระบวนการแห่งการตื่นรู้ ที่กำลังขยายตัวมากขึ้นอยู่ทุกขณะ
    ตามกาลเวลาของพวกคุณอยู่นี้ จะนำมาซึ่ง “ความรู้ที่ว่า” พวกคุณมีอิสระภาพ


    พวกคุณได้รับมอบ “ทางเลือกเสรี” (Free Will) มาแล้ว
    เพียงแต่ว่าพวกคุณยังไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้เท่านั้นเอง


    Blossom: งั้นเหรอคะ..แต่หลายคนอาจจะพูดว่า “ทางเลือกเสรี” ที่ว่านี้
    ได้ถูกริบเอาไปจากพวกเราแล้ว ด้วยการควบคุมจิตใจ โดยอาศัยสื่อมวลชนทั้งหลาย และอื่นๆ
    และด้วยการวางยาพิษพวกเรา โดยผ่านทางอาหารของพวกเรา รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
    โดยที่พวกเราไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย และยิ่งเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมามากเท่าไหร่
    พวกเราก็ยิ่งพบว่าพวกเราถูกควบคุมมากแค่ไหนด้วย จนบางครั้งพวกเราหลายคน
    เกิดความท้อแท้และสิ้นหวัง เพราะว่ามันดูเหมือนว่าจะไม่มีทางออกทางไหนเลย


    นั่นหนะเป็นทางที่พวกเขาเลือกที่จะคิดกันไปเอง
    เพราะว่ามันไม่มีอะไรที่จะสามารถนำเอา
    ทางเลือกเสรีไปจากพวกคุณได้หรอกนะ
    แม้ว่าพวกคุณหลายคนจะสรุปตรงกันในทางตรงกันข้ามนี้ก็ตาม


    นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมพวกคุณ
    ถึงเป็นมนุษย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์..เป็นผู้สร้างร่วม (Co-creator)


    Blossom: ถ้างั้นดิฉันก็เข้าใจแล้วหละค่ะ ว่าบางทีพวกเราก็อาจจะกำลังเป็นอิสระภาพอยู่จริงๆก็ได้
    แต่ว่า..พวกคุณจะไม่บอกใช่ไหมคะว่า พวกเราหมดหวังกับมันแล้ว โดยที่พวกเราไม่ได้เลือก?


    แล้วพวกคุณในฐานะเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งเผ่าพันธุ์ ได้เรียนรู้อะไรมาบ้างแล้วหละ?
    แล้วคุณในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ได้เรียนรู้อะไรมาบ้างแล้วหละ จากกับดักอันนี้?


    พวกคุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรักมากขึ้น
    เพราะว่าถ้าพวกคุณไม่ได้มาตกอยู่ในสถานะ
    ที่จะต้องมีประสบการณ์กับความเป็นทวิภาวะอยู่แบบนี้แล้ว
    แล้วพวกคุณจะสามารถรู้ได้อย่างไร ว่า “ความรัก” คืออะไร?
    เพราะว่ามันไม่มีอะไรมาเปรียบเทียบให้เห็น


    Blossom: แต่ว่าความเป็นทวิภาวะทั้งหมดนี้ ก็คือความรักด้วยใช่ไหมคะ?
    หลายคนสงสัยว่า พวกคุณสามารถพูดออกมาได้อย่างไรว่า
    แม้แต่คนชั่วทั้งหลาย ก็คือ “ภาคแสดงแห่งความรัก” ด้วย


    ใช่แล้ว พวกเขาก็เป็นภาคแสดงแห่งความรักด้วย! (expression of Love)
    เพราะว่าพวกคุณพากันมองดูแต่เรื่องเลวร้ายที่พวกเขาได้ทำลงไป
    แต่ว่าพวกคุณไม่พากันมองดูว่า เรื่องเลวร้ายเหล่านั้นได้สอนอะไรให้พวกคุณบ้าง

    มันสอนให้พวกคุณมีความรัก!

    เพราะว่าเรื่องเลวร้ายเหล่านั้น
    มันได้ไปปลุกเร้าให้แก่นแท้
    แห่งความเป็นมนุษย์ของพวกคุณตื่นขึ้นมา
    พวกมันได้สร้างทางออกให้แก่พวกคุณ!
    เพื่อใครก็ตามที่กำลังค้นหาทางออกที่ดีกว่าอยู่ในขณะนี้


    ดังนั้น สิ่งที่พวกคุณคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่มีประโยชน์
    กลับเป็นสิ่งที่ได้สร้างประโยชน์อันยิ่งใหญ่ให้กับพวกคุณมาโดยตลอด


    นี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งแล้ว ที่พวกเราพูดถึงภาพรวมที่ใหญ่กว่าให้พวกคุณฟัง
    แต่มันก็ใหญ่จนเกินกว่าที่พวกคุณ ซึ่งกำลังอาศัยอยู่ในคลื่นความสั่นสะเทือน
    ที่หนาแน่นทึบตันแบบนี้จะสามารถเข้าใจได้


    Blossom: พวกคุณได้เคยบอกว่าพวกเราลงมาที่นี่ด้วยความรัก
    และทางเลือกเสรีก็ยังไม่ได้ถูกแทรกแซงแต่อย่างใด และแม้ว่าพวกคุณจะพูดอยู่เสมอๆว่า
    มันมีความจำเป็นที่จะต้องทบทวนกฎเกณฑ์บางอย่างอยู่ก็ตาม
    แต่ทำไม และ อย่างไร ในตอนที่พวกเรามาถึงใหม่ๆ พวกเราถึงได้เจอกับความยุ่งเหยิงแบบนั้น
    เป็นครั้งแรกได้หละคะ ถ้าพวกเรารู้จักแต่เพียง “ความรัก” จริงๆ?


    ความยุ่งเหยิงที่คุณพูดถึงนั้น จริงๆแล้วพวกเราก็เคยคิดถึงมันอยู่เหมือนกัน
    แต่มันก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเท่านั้นเอง


    แผนการณ์ของเกมนี้ ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่ามันกำลังจะเดินไปทางไหน
    เพราะว่ามันกำลังถูกสร้างขึ้นมาจากทุกๆก้าวย่างของพวกคุณอยู่


    เพราะฉะนั้นแล้ว อย่างที่เคยบอกไปแล้วในครั้งก่อนๆว่า
    พวกเราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันกำลังจะไปทางไหน
    จนกว่าเกมๆนี้จะดำเนินไปได้ด้วยดีแล้วโน่นแหละ
    และจริงๆแล้วก็ไม่เคยมีการทดลองไหนเลย ที่จะเหมือนกันกับการทดลองนี้


    Blossom: แล้วอะไรหล่ะ ที่ทำให้พวกเราไม่สามารถรักษาระดับความสั่นสะเทือนที่สูงๆเอาไว้ได้
    เหมือนตอนที่พวกเราเพิ่งมาถึง? แล้วคลื่นความสั่นสะเทือนต่ำๆนี้ มันมาจากไหนกันแน่

    ถ้าพวกเราไม่เคยรู้จักมันมาก่อนเลย?

    มันถูกสร้างขึ้นมาจาก “ความคิด”
    ก่อนหน้านี้ มันเคยเป็นแนวคิดที่ไม่ปกติ
    ที่คนๆหนึ่งจะรู้สึกอิจฉา หรือ โลภขึ้นมาได้


    Blossom: แล้วถ้าพวกเราเคยรู้จักแต่ความรักเท่านั้นจริงๆ..
    แล้วความคิดแบบนั้นมามาจากไหนกันหล่ะ?


    มันมาจากความรู้สึกชนิดหนึ่ง ที่ได้ผ่านเข้ามาในระหว่างที่กำลังทำการทดลองนี้อยู่
    มันมีไว้เพื่อให้ใครก็ตาม เดินหน้าต่อไป บนเส้นทางชีวิตบนโลกใบนี้ของพวกเขา
    ซึ่งเส้นทางชีวิตนี้ก็คือสิ่งที่พวกเขาสร้างกันขึ้นมาเอง


    Blossom: แต่ว่า..ทำไมความรักถึงต้องการแบบนั้นได้หล่ะคะ?

    ก็เพราะว่า “ความรัก” ก็กำลังถูกทำการทดลองอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน
    มันกำลังถูกทดลองในทุกแง่ทุกมุมของมัน
    ซึ่ง “ภาคแสดงของความรัก” (expression of Love) นี้
    ก็มีอยู่มากมายจนเป็นอนันต์ซะด้วย


    ซึ่งภาคแสดงที่ว่านี้ก็คือ “สรรพสิ่งทั้งปวง”
    ซึ่งภาคแสดงที่ว่านี้ ก็คือพวกคุณแต่ละคน
    และมันก็คือทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่มีอยู่ด้วย!


    Blossom: สรุปว่า..พวกคุณกำลังบอกว่าสิ่งต่างๆอาจจะดูเหมือนว่ามันมีอยู่จริงในช่วงเวลาหนึ่ง
    ทั้งๆที่มันยังอยู่ในพลังงานความคิดของเรา ใช่ไหมคะ?


    ไม่ใช่เลย

    Blossom: อ้าว..ไม่ใช่เหรอคะ! ดิฉันคิดว่าดิฉันเข้าใจอะไรบางอย่างแล้วซะอีกแล้วนะเนี่ย!
    พวกคุณได้โน้ตเอาไว้แล้วใช่ไหมคะ ว่าเมื่อกี๊นี้ดิฉันได้พูดไปว่า “ดูเหมือนว่ามีอยู่” หนะค่ะ?


    ใช่แล้ว พวกเรารู้แล้ว ว่าคุณพูดว่าอย่างนั้น แต่ว่าพวกเราก็ยังอยากจะบอกว่ามันไม่มีอยู่จริงอยู่

    เพราะว่ามันไม่มีอะไรอยู่จริงๆ นอกจาก “ความรัก” เท่านั้น
    พวกคุณแค่เชื่อกันไปเองเท่านั้นว่า มันมีอยู่จริงเท่านั้น


    Blossom: แล้วถ้างั้น อะไรหละคะ ที่พวกเรากำลังสร้างสรรค์มันขึ้นมาอยู่นี่หนะ
    ถ้าไม่มีอะไรอยู่จริงๆหละก็?


    พวกคุณก็กำลังสร้างสรรค์โฮโลแกรมขึ้นมาอยู่หนะสิ!
    หรือมันก็คือเกมเกมหนึ่งเท่านั้นเอง!


    Blossom: แต่ว่า..จิตวิญญาณแท้ๆของพวกเราก็ร่วมอยู่ในเกมนี้ด้วยนี่คะ..

    ใช่แล้ว และนั่นแหละคือส่วนที่สำคัญมากที่สุด
    ของบทภาพยนตร์ทั้งเรื่องนี้เลยหละ


    จิตวิญญาณของพวกคุณ ก็คือ “ความรัก”
    พวกคุณได้รับมอบโอกาสนี้มา ให้มาแสดงออกถึงความรัก
    ในเกมๆนี้ เวอร์ชั่นที่อยู่ในมิติที่ 3 นี้


    Blossom: อ้าว..แล้วเวอร์ชั่นของมิติที่ 5 หละคะ? พวกเราได้รับการบอกเล่ามาว่า
    มันจะเป็นโลกๆใหม่ ที่พวกเรากำลังจะได้เข้าไปอยู่ ที่ๆจะไม่มีสงคราม และความอดยากอีกต่อไปแล้ว
    และมิติที่ 5 ที่ว่านั้น จะเป็นโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเรา


    แน่นอนสิ..เพราะว่าพวกคุณได้เริ่มต้นสร้างโลกแห่งความเป็นจริงในมิติที่ 5 ขึ้นมานานแล้ว
    และตอนนี้พวกคุณก็กำลังเตรียมตัวที่จะย้ายเข้าไปอยู่ในนั้นแล้ว


    Blossom: แต่ว่า มันก็ไม่จริงอีกแล้วใช่ไหมคะ?

    มันไม่มีอะไรที่เป็นของจริงหรอกนะ!

    แต่ว่า..ยิ่งพวกคุณเลื่อนระดับขึ้นไปอยู่ในมิติที่สูงๆกว่ามากเท่าไหร่
    ตัวตนแห่งความรักของพวกคุณ ก็จะทำให้พวกคุณรู้สึกว่า
    มันเหมือนกับเป็น “โลกแห่งความเป็นจริงจริงๆ”
    (True Reality) มากขึ้นเท่านั้นด้วย


    และถ้าพวกคุณเลื่อนระดับขึ้นต่อไปอีก ไปสู่มิติที่สูงๆขึ้นไปอีกเรื่อยๆ
    มันก็จะยิ่งเหมือนกับว่ามันเป็น “โลกแห่งความเป็นจริงจริงๆ” มากขึ้นเรื่อยๆด้วย
    เพราะว่าพวกคุณกำลังเลื่อนกลับขึ้นไปสู่
    “ความเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง” ซึ่งก็คือ “ความรัก” อยู่นั่นเอง


    เหล่าจิตวิญญาณทั้งหลาย ที่ตอนนี้ อาศัยอยู่แต่ในอาณาเขตที่อยู่สูงที่สุดเท่านั้น
    ถึงจะเป็น “ของจริง” หรือ “ความรัก” พวกเขาคือผู้ที่อยู่เหนือเกมๆนี้
    แต่พวกเขาก็มีความตระหนักรู้ถึงเกมๆนี้อยู่อย่างมากด้วยเช่นเดียวกัน


    เพื่อนรักทั้งหลาย จงจำไว้ว่า
    ยิ่งพวกคุณเคลื่อนกลับขึ้นไปใกล้
    “ความจริง” (The Truth) มากเท่าไหร่
    ความจริงอันนั้นก็จะถูกรับรู้โดยพวกคุณ
    หรือโดยผ่านพวกคุณ ได้มากเท่านั้นด้วย


    ซึ่งในความจริงอันนั้น..ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกระจ่างแจ้งหมด!


    พวกเราขอขอบคุณคุณสำหรับการไหลนี้ Blossom พวกเราขอขอบคุณพวกคุณทุกๆคน
    สำหรับการคิดใคร่ครวญว่าพวกคุณเป็นใคร และเพราะเหตุนี้เอง พวกเราจึงถือว่าพวกคุณคือ
    “การแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนดาวเคราะห์โลก”


    Blossom: ค่ะ จนกว่าพวกคุณจะมาถึงค่ะ!

    และพวกเราก็จะมา คุณก็รู้นี่ว่าพวกเราจะมา

    Blossom: แน่นอนค่ะ ดิฉันรู้..นักบินอวกาศแห่งความรักของดิฉัน..
    โอ..พวกคุณได้ใส่คำนี้เข้ามาในหัวดิฉันหรือเปล่าเนี่ย? ดิฉันชอบมันค่ะ


    พวกเราเป็นหนึ่งเดียวกัน

    Blossom: ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณจริงๆ! ด้วยรักและแสงสว่างอย่างเช่นที่เคยมา!


    Website: http://www.blossomgoodchild.com/
    ..............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • hologram.jpg
      hologram.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.1 KB
      เปิดดู:
      513
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2013
  7. Water Lily

    Water Lily เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +738
    June 2- 9, 2013

    Beloved Ones,You, as our beacons of Light, are igniting the very atmosphere around you as you move through your daily activities. You are each powerful in your own ways and contribute much to the stabilization of your planet. More of you are now stepping out of the dense fields of expression into greater feelings of joy and happiness, peace and harmony and this in turn adds to the collective field of humanity.
    You are aware that your thoughts, words and deeds have a greater influence on those around you than you ever thought was possible and you are ever more discerning in the ways in which you interact with your sisters and brothers, always mindful that the impact upon their fields of energy be one of blessing, empowerment and goodwill.This is not to say that you cannot express your human moments as old issues come up for review, for indeed, this is all a part of the process of letting go and becoming more centered and aligned with your true divine essence.

    Anything that is not in alignment with the higher aspects of your true self will continue to come to the surface to be acknowledged and accepted as a part of your total self, human and divine. What happens when you work on yourselves in this way is that as you release all the aspects within you that do not serve you on your ascension journey into higher consciousness and expression, you start to appreciate and love yourselves more and when you love yourselves unconditionally, without judgments and justifications, you begin to love others in the same vein.  

    This can only help to further clear and alleviate the heavy dense energies and this work on self ultimately helps all, for ALL is energy, frequency and vibration. By being mindful of your effect upon those around you, it is always beneficial to remind yourselves of your true nature and that of course is, that you are a Being of Love. Love is the bottom line in all things and in all situations; sometimes, however, it needs a deeper introspection within yourself to connect with your heart in order to feel it.

    Many of you, at one time or another have been hurt or wounded in some way in your interactions with others and this has caused you to put shields of protection around your heart which can keep you from experiencing all that is good in your life now. It is time to release these now, Dear Ones.Dare to become vulnerable as you open your heart wide. Your inner light must shine bright and it is important to daily maintain your rituals and practices to accomplish this, whether that is through meditation, yoga, breathing exercises, visualizations, mantras, decrees, listening to music that uplifts and inspires or even singing.

    These are many ways to keep your light shining bright and we are sure that there are many more we have not mentioned here that you know of and utilize. The point we are making here is that the time for playing small in your world to conform to outdated paradigms has come to an end. It is now a new time, a new beginning where all souls have equality in their right to pursue their passions, that which brings joy to their inner being and outer self. Think upon the activities which bring you joy and make that a priority in your daily life. Spend some time each day in this activity for your soul’s highest and greatest good.It does not matter if the passion that gives you joy is something that will never bring fame, fortune or accolades from the world around you, all that matters is that you begin to connect with feeling good about yourselves so that the gifts you bring to bless this world begin to surface.

    Each of you has gifts that you bring to this world and it is now time to find and connect with yours. The world is very rich and there is enough for all, connect now to the world within and let yourself shine!

    Until next week…I AM Hilarion
    ©2013 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of GracePermission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit, copyright and website is included.   
    WELCOME! - The Rainbow Scribe
    Thank you for including the above website link when posting this message.

    เผื่อใครอยากอ่านก่อน แปลก่อนได้เลยนะคะ
     
  8. pitcha_nate

    pitcha_nate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +1,369
    ขอบคุณค่ะ...คุณ Water Lily

    แหม...วันอาทิตย์เพิ่งระเบิดอารมณ์อันรุนแรงใส่ลูกสาว...ต่อด้วยเช้าวันจันทร์อีกรอบ...
    เล่นเอา "หมดเรี่ยว หมดแรง"...
    ส่วนลูกสาว...ไม่รู้เป็นไงบ้าง...ดูท่ายังรับได้อยู่นะ...
    5555555555555555

    ผ่านไปแล้ว ผ่านไปแล้ว ผ่านไปแล้ว...letting go...
    ก็แค่ประสบการณ์...
    เริ่มต้นใหม่ดีกว่าเนอะ!!!!
    55555555555555
     
  9. Water Lily

    Water Lily เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +738
    June 2- 9, 2013
    2-9 มิ.ย. 2556

    Beloved Ones,
    เธอผู้เป็นที่รัก

    You, as our beacons of Light, are igniting the very atmosphere around you as you move through your daily activities. You are each powerful in your own ways and contribute much to the stabilization of your planet. More of you are now stepping out of the dense fields of expression into greater feelings of joy and happiness, peace and harmony and this in turn adds to the collective field of humanity.

    ธอผู้เป็นดั่งแสงนำทาง กำลังจุดประกายให้กับบรรยากาศรอบๆตัวเธอตลอดเวลาที่เธอทำกิจกรรมประจำวัน เธอต่างมีพลังในหนทางของเธอเองและได้เสียสละอย่างมากเพื่อที่จะช่วยให้ดาวเคราะห์ของเธอมีเสถียรภาพ พวกเธอหลายคนในขณะนี้ได้ก้าวผ่านการปลดปล่อยความรู้สึกที่เข้มข้น และเข้าสู้ความรู้สึกมีความสุข สันติภาพ และความกลมกลืน และในทางกลับกันสิ่งนี้ได้ย้อนกลับไปยังมวลมนุษย์ทั้งหลาย

    You are aware that your thoughts, words and deeds have a greater influence on those around you than you ever thought was possible and you are ever more discerning in the ways in which you interact with your sisters and brothers, always mindful that the impact upon their fields of energy be one of blessing, empowerment and goodwill.This is not to say that you cannot express your human moments as old issues come up for review, for indeed, this is all a part of the process of letting go and becoming more centered and aligned with your true divine essence.
    เธอตระหนักดีว่าความคิด คำพูด และความตั้งใจของเธอ มีผลกระทบอันยิ่งใหญ่ต่อผู้คนที่อยู่รอบๆมากกว่าที่เธอเคยคิดว่ามันจะเป็นไปได้และมากกว่าที่เธอเคยรู้มา ในแบบเดียวกับที่เธอได้ตอบสนองต่อพี่น้องของเธอ ​โปรดระลึกไว้ว่าผลกระทบที่เหนือกว่าสนามพลังงานคือหนึ่งในการอวยพร การกระจายพลังงาน และความตั้งใจที่ดี นี่ไม่ได้เป็นการบอกว่าเธอไม่สามารถแสดงออกถึงสภาวะของความเป็นมนุษย์เมื่อเรื่องเก่าๆกลับเข้ามาให้เธอทบทวน แต่ในความเป็นจริงแล้วนี่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปล่อยวางและทำให้เธอสามารถกลับมาสูจุดศูนย์กลางและสอดคล้องกับแก่นแท้อันเป็นเทวะที่แท้จริงของเธอ

    Anything that is not in alignment with the higher aspects of your true self will continue to come to the surface to be acknowledged and accepted as a part of your total self, human and divine. What happens when you work on yourselves in this way is that as you release all the aspects within you that do not serve you on your ascension journey into higher consciousness and expression, you start to appreciate and love yourselves more and when you love yourselves unconditionally, without judgments and justifications, you begin to love others in the same vein.
    สิ่งใดก็ตามที่ไม่สอดคล้องกับแง่มุมที่สูงส่งของตัวตนที่แท้จริงของเธอ จะค่อยๆเปิดเผยออกมาเพื่อที่สิ่งนั้นจะถูกรับรู้และถูกยอมรับว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนทั้งหมดของเธอ ทั้งภาคมนุษย์และภาคเทวะ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเธอเริ่มทำงานกับตัวเธอในลักษณะนี้ก็คือเธอจะปลดปล่อยทุกมุมมองภายในตัวเธอที่ไม่รับใช้เธอในเส้นทางของการยกระดับไปสู่ระดับการรับรู้และการแสดงออกที่สูงขึ้น เธอเริ่มชื่นชมและรักตัวเธอเองมากขึ้น และเมื่อเธอรักตัวเธอได้อย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่มีการพิพากษา และการตัดสิน เธอก็จะรักผู้อื่นในแบบเดียวกัน

    This can only help to further clear and alleviate the heavy dense energies and this work on self ultimately helps all, for ALL is energy, frequency and vibration. By being mindful of your effect upon those around you, it is always beneficial to remind yourselves of your true nature and that of course is, that you are a Being of Love. Love is the bottom line in all things and in all situations; sometimes, however, it needs a deeper introspection within yourself to connect with your heart in order to feel it.
    สิ่งเหล่านี้ทำได้เพียงแค่ช่วยขจัดและยกระดับพลังงานที่เข้มข้นและหนัก และการทำงานบนตัวเธอสามารถช่วยได้ทุกๆสิ่ง เพราะทุกสิ่งคือพลังงาน ความถี่ และการสั่นสะเทือน โปรดระลึกไว้ถึงผลกระทบของเธอต่อผู้คนรอบๆเธอ มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องเตือนตัวเองเสมอถึงธรรมชาติที่แท้จริงของเธอและแน่นอนว่าเพราะเธอคือ “ ตัวตนแห่งความรัก” ความรักคือบทสรุปของทุกสิ่งและทุกสถานการณ์ บางครั้งก็ต้องการความเข้าใจที่ลึกซึ้นในตัวเธอที่จะเชื่อมหัวใจของเธอเข้ามาเพื่อที่จะรู้สึกถึงสิ่งนั้น

    Many of you, at one time or another have been hurt or wounded in some way in your interactions with others and this has caused you to put shields of protection around your heart which can keep you from experiencing all that is good in your life now. It is time to release these now, Dear Ones.Dare to become vulnerable as you open your heart wide. Your inner light must shine bright and it is important to daily maintain your rituals and practices to accomplish this, whether that is through meditation, yoga, breathing exercises, visualizations, mantras, decrees, listening to music that uplifts and inspires or even singing.
    พวกเธอหลายคน ย่อมมีสักครั้งที่ได้ถูกทำใหรู้สึกเจ็บปวดหรือเกิดบาดแผลในบางรูปแบบของการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุให้เธอสร้างเกราะป้องกันให้หัวใจของเธอจากความเจ็บปวด และยังปกป้องเธอจากการได้รับประสบการณ์ที่ดีในชีวิตด้วย บัดนี้ถึงเวลาที่จะปลดปล่อยสิ่งเหล่านี้ออกไป เธอผู้เป็นหนึ่ง จงกล้าที่จะเจ็บปวดเมื่อเธอเปิดหัวใจเธอให้กว้าง แสงสว่างภายในตัวเธอต้องส่องสว่าง และเป็นสิ่งสำคัญในทุกวันที่ต้องรักษาพิธีกรรมและการฝึกฝนประจำวันเพื่อเข้าถึงสิ่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบต่างๆ เช่น ทำสมาธิ โยคะ ฝึกหายใจ ฝึกจินตนาการ มันตรา โองการ การฟังเพลงที่ช่วยยกระดับและสร้างแรงบันดาลใจ หรือแม้แต่การร้องเพลง

    These are many ways to keep your light shining bright and we are sure that there are many more we have not mentioned here that you know of and utilize. The point we are making here is that the time for playing small in your world to conform to outdated paradigms has come to an end. It is now a new time, a new beginning where all souls have equality in their right to pursue their passions, that which brings joy to their inner being and outer self. Think upon the activities which bring you joy and make that a priority in your daily life. Spend some time each day in this activity for your soul’s highest and greatest good.It does not matter if the passion that gives you joy is something that will never bring fame, fortune or accolades from the world around you, all that matters is that you begin to connect with feeling good about yourselves so that the gifts you bring to bless this world begin to surface.

    มีหลายวิธีที่จะช่วยให้แสงภายในของเธอส่องสว่าง และเรามั่นใจว่ามีอีกหลายวิธีที่ไม่ได้กล่าวถึง ณ ที่นี้ แต่เธอรู้วิธีใช้มั้น จุดสำคัญที่เรากำลังสร้าง ณ ที่นี้คือเวลาของการเล่นบทเล็กๆในโลกของเธอเพื่อรักษากระบวนทัศน์เก่าได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ณ บัดนี้คือเวลาใหม่ การเริ่มต้นใหม่ที่จิตวิญญาณทุกดวงมีความเท่าเทียมกันในสิทธิที่จะได้รับสิ่งที่ปรารถนา ซึ่งเป็นสิ่งที่นำความสุขมาสู่ตัวตนภายในและภายนอก จงคิดถึงกิจกรรมที่จะนำความสุขมาและจัดอันดับให้เป็นสิ่งสำคัญในชีวิต จงใช้เวลาในแต่ละวันกับกิจกรรมเหล่านี้เพื่อจิตวิญญาณของเธอจะดีขึ้นและสูงขึ้น ไม่เป็นไรหากสิ่งที่เธอทำแล้วมีความสุขจะไม่นำชื่อเสียง โชคลาภ หรือ รางวัล จากโลกรอบๆตัวเธอมาให้ สิ่งที่สำคัญคือเธอได้เริ่มจะเชื่อมต่อกับความรู้สึกดีภายในตัวเธอและนั่นคือพรสวรรค์ที่เธอได้นำมาอวยพรให้กับโลกนี้ได้เริ่มเปิดเผยออกมา

    Each of you has gifts that you bring to this world and it is now time to find and connect with yours. The world is very rich and there is enough for all, connect now to the world within and let yourself shine!

    เธอทุกคนมีพรสวรรค์นี้ ที่เธอได้นำมาสู่โลกนี้ และ บัดนี้คือเวลาที่จะค้นหาและเชื่อมโยงเข้ากับตัวเธอ โลกนี้มีความร่ำรวยมหาศาลและมีเพียงพอสำหรับทุกคน เชื่อมเข้าหาโลกภายในของเธอและจงเปล่งประกายออกมา

    Until next week…I AM Hilarion
    พบกันสัปดาห์หน้า..เราคือ ฮิลาริออน

    ©2013 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of GracePermission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit, copyright and website is included.   
    WELCOME! - The Rainbow Scribe
    Thank you for including the above website link when posting this message.


    ขอโทษนะค้า ช้าหน่อยขออภัย งานเข้าตลอดๆ มีของท่าน Salusa ด้วยอยากเอามาแปลให้จังเลย..;k06
     
  10. อาจีฟา

    อาจีฟา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +307
    <iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/1JDY1KvoQYk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  11. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    ขอโทษนะค้า ช้าหน่อยขออภัย งานเข้าตลอดๆ มีของท่าน Salusa ด้วยอยากเอามาแปลให้จังเลย..;k06[/QUOTE]


    แปลเลยจ้า รออ่านอยู่
     
  12. Vking

    Vking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,555
    พอดีว่าไปเจอข้อความนี้มา... นำมาฝากให้อ่านกันค่ะ

    เำพิ่มเติมข่าวสารสักหน่อยนะครับ อ่านเป็นความรู้กันนะครับ
    นับแต่เดือนพฤษภาคม ค.ศ.2013 นี้เป็นต้นไป…..
    เจ้าจักต้องรู้ว่า ทุกอณูของตารางพื้นที่บนดาวเคราะห์โลก ซึ่งเป็นดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรีนี้ จะเกิดการสั่นสะเทือนครั้งสำคัญขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ตามแผนปฏิบัติการชำระโลกของบิดาแห่งเจ้า เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เหล่ามวลมนุษย์และโลก ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ในอันที่จะดำรงอยู่ร่วมกันในฐานะเพื่อนร่วมงานของกันและกัน สำหรับดาวโลกยุคพลังงานใหม่ ภายหลังปฏิบัติการปิดยุคพลังงานเก่าที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว......
    ปฏิบัติการสั่นสะเทือนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ มิได้เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการให้เกิดแรงสั่นสะเทือนแผ่นเปลือกโลกภายใต้ฝ่าเท้าของพวกเจ้า ที่กำลังเกิดขึ้นถี่ๆ ในระดับที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และกระจายทั่วทุกภาคพื้นทวีปอยู่ในระยะนี้และในช่วงเวลาที่ผ่านๆมาหรอก กรณีแผ่นดินสะเทือนเลื่อนไหวอะไรเหล่านี้ บิดาแห่งเจ้ารู้ดีว่าพวกเจ้าทั้งหลายต่างก็ได้เรียนรู้ ต่างก็ได้เผชิญกันมาทั้งทางตรงทางอ้อมเสียจนเริ่มจะคุ้นชินกันอยู่แล้ว ในวันข้างหน้าแม้มันอาจเกิดเหตุร้ายรุนแรงให้เสียหายอย่างมากมายเท่าทวีกว่าที่ผ่านมา แต่พวกเจ้าส่วนใหญ่ก็น่าจะยังตั้งรับเหตุการณ์อันแรงร้ายประเภทนี้กันได้อย่างไม่ยากเย็น

    ข่าวสารปฏิบัติการชำระโลก ที่บิดาแห่งเจ้าจะนำมาบอกกล่าวเล่าเผยให้ล่วงรู้ไว้ในห้องเรียนอันศักดิ์สิทธิ์นี้ เป็นข่าวสารชิ้นพิเศษ...ล่าสุด...ล่าสุด...เกี่ยวกับปฏิบัติการสำคัญที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วตราบจนบัดนี้ และมันยังจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปอีกยาวโข ซึ่งมนุษย์โลกส่วนใหญ่นั้นยังไม่รู้ และมีไม่น้อยเลยที่ไม่รู้ว่าตนจักต้องรู้อีกด้วย
    นี่จะเป็นทั้ง “คำเตือน” และ “ข่าวสาร” ชิ้นสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง ที่พวกเจ้าจะเฉยเมยด้านชามิได้ หากจะสร้างความพร้อมให้กับเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์และแก่นแท้ในตนเอง สู่การเป็นมนุษย์ยุคพลังงานใหม่ที่จะสามารถข้ามผ่านและฟันฝ่า สถานการณ์เลวร้ายสุดๆของบรรดาหายนภัยทุกรูปแบบที่โลกของเจ้ายังมิเคยเผชิญกันมาก่อน ในช่วงเวลา 56 วัน 8 ราตรีอันมืดมิด ชนิดที่มืดสนิทอย่างไม่เคยมืดมาก่อน มันมืดเสียจนแม้กระทั่งเส้นลายมือของเจ้าเองก็มิอาจเห็นกันเลยทีเดียว
    Visudhi Punya ปฏิบัติการที่กำลังเกิดขึ้นก็คือ ภารกิจในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขดีเอ็นเอ (DNA) ภายในเซลอวัยวะร่างกายของเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของพวกเจ้าทุกคน ไม่ว่าชายหรือหญิง เด็กหรือผู้ใหญ่ไปจนกระทั่งผู้ที่อยู่ในวัยชรา ทั้งนี้ไม่ว่าเขากำลังมีสุขภาพดีหรือที่กำลังพักผ่อนนอนป่วยอยู่บนเตียง ไม่ว่าเขากำลังประพฤติดีหรือประพฤติชั่ว หรือว่ากำลังทำตัวโง่เง่างมงายไปวันๆ และไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะล่วงรู้ข่าวสารสำคัญชิ้นนี้กันแล้วหรือว่ายังไม่รู้กันอยู่ก็ตาม ทุกรูปธรรมล้วนจะได้รับแรงสั่นสะเทือนด้านบวกจากปฏิบัติการทางเท็คนิกในครั้งนี้โดยถ้วนหน้ากัน
    ปฏิบัติการทางเท็คนิกสำหรับภารกิจการชำระโลกนี้ ช่างเท็คนิกทั้งหลายจะใช้วิธีส่งคลื่นพลังงานความรักมาจากการระเบิดบนพื้นผิวของพระสุริยะ ที่พี่ๆน้องๆชาวโลกของเธอเฝ้าสนใจติดตามดูกันอยู่นั่นล่ะ บิดาแห่งเจ้าเพียงอนุญาตให้พวกเขาสร้างจุดดำบนดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้นจากปกติที่มีอยู่แล้ว 6 จุดกระจายทั่ว ให้เพิ่มเป็น 7-8-9 จุดไปเรื่อยๆ โดยเน้นสร้างจุดดำที่ขั้วเหนือและขั้วใต้ของดวงอาทิตย์เป็นสำคัญ คลื่นพลังงานที่ผลิตสร้างจากจุดดำบริเวณที่ค่อนไปทางขั้วเหนือจะถูกขับเคลื่อนตรงมายังซีกโลกตอนใต้ ขณะที่คลื่นพลังงานที่ผลิตสร้างจากจุดดำทางขั้วใต้ของดวงอาทิตย์ ก็จะถูกขับเคลื่อนตรงมายังซีกโลกตอนบนหรือตอนเหนือ

    พวกเขาสร้างจุดดำบนดวงอาทิตย์ได้ โดยใช้เท็คโนโลยีขั้นสูงยิงเส้นแสงจากระยะไกลตรงไปยังพิกัดตำแหน่งบนดวงอาทิตย์ตามที่กำหนดไว้ จนยังผลให้ก๊าซเหลวมากกว่าหนึ่งอย่างภายในดวงอาทิตย์ตรงจุดนั้นเกิดปฏิกิริยา Nuclear Fusion แล้วระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงจากภายใน จึงก่อให้เกิดการหมุนวนของก๊าซคล้ายดั่งพายุหมุน พุ่งขึ้นมาจากด้านในสู่บริเวณชั้นนอกของดวงอาทิตย์ เมื่อพวกเจ้าส่องกล้องมองไกลๆจะเห็นคล้ายจุดดำเล็กๆ จนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นจุดดับกันตลอดมา แท้จริงแล้วที่เห็นเป็นสีดำเพราะตรงจุดนั้นคือบริเวณที่เป็นศูนย์กลางของการหมุนของตำแหน่งที่ถูกทำให้ระเบิดนั่นเอง ที่พวกเจ้ามองเห็นเป็นสีดำก็เพราะเป็นบริเวณที่อยู่ลึกลงไปในดวงอาทิตย์ต่างหากล่ะ

    สายธารพลังงานความรักจากดวงอาทิตย์ ซึ่งระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่องพร้อมๆกันหลายจุดนั้นมีเป้าหมายสำคัญ คือกระทำต่อดาวเคราะห์โลก โดยมันจะอยู่ในรูปของ คลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็ก (Electromagnetic Energies) ที่พวกเจ้าอาจเรียกว่า ลำแสงแห่งจักรวาล (Cosmic Rays) ก็ได้
    พวกเจ้าจักต้องรู้ว่า เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ชายหญิงของพวกเจ้านี้ ที่สามารถแสดงพลังอำนาจต่างๆผ่านพลังชีวิตของตนได้นั้น นอกจากอำนาจแห่งรักในแก่นแท้ของเจ้าเองกับอำนาจแม่เหล็กโลกที่เข้มข้นทางด้านบวกแล้ว “ลำแสงแห่งจักรวาล” ที่ถูกขับเคลื่อนออกมาจากจุดดำรายรอบพื้นผิวของดวงอาทิตย์ ทั้ง 6 จุด ก็เป็นแหล่งพลังงานอันสำคัญที่จะทำหน้าที่คอยป้อนรหัสคำสั่งลับเพื่อกำกับการทำงานของ ดีเอ็นเอ (DNA) ภายในเซลอวัยวะร่างกายทุกๆเซลให้มันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีสมรรถภาพ โดยให้มันสามารถใช้งานได้ยาวนานไม่มีวันตาย และลำแสงแห่งจักรวาลที่ว่านี้ก็ยังคอยทำหน้าที่โปรยหว่านองค์ความรู้ใหม่ในทุกด้านมาให้เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตของพวกเจ้าเสมอมาในเวลาเดียวกันอีกด้วย โดยหลักการทางด้านเท็คนิกข้อหนึ่งซึ่งพวกเจ้าควรจะรู้ไว้ก็คือ กระบวนการที่ว่านี้มันจะสามารถสั่นสะเทือนอย่างมีประสิทธิภาพในระดับที่พวกเจ้าแต่ละคนจะเข้าถึง ลำแสงแห่งจักรวาลดังว่านี้ได้นั้น เงื่อนไขสำคัญมีอยู่ 3 ประการ คือ
    1).เจ้าจะต้องสามารถเข้าถึง การสั่นสะเทือนจิตสำนึก (Consciousness) ในตนเองทางด้านบวก เพื่อการมีอารมณ์ดี คิดดี พูดดี และทำดีได้ตลอดเวลาในยามตื่น
    2).ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกจะต้องสมดุลและคงที่ ไม่เบี่ยงเบน ซึ่งในยุคพลังงานเก่าที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 14 เกาส์ ถ้าหลังชำระโลกเสร็จแล้วในยุคพลังงานใหม่นั้นมันจะเปลี่ยนค่าเป็น 20-22 เกาส์
    3).พวกเจ้าจะต้องเข้าถึง พลังอำนาจทางวิญญาณซึ่งเป็นแก่นแท้ของตนเองได้ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “ความรักบริสุทธิ์” หรือ “รักเพื่อรัก” แล้วสั่นสะเทือนขับเคลื่อนมันออกมามอบให้แก่ดาวเคราะห์โลกอย่างเพียงพอ
    ถ้ามนุษย์โลกเสรีนี้ สามารถสั่นสะเทือนตนเองให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 3 ประการเหล่านี้ได้ ดาวเคราะห์ดวงนี้ก็จะไม่สูญเสียความสมดุลไปในทางต่ำรุนแรงขึ้นจนยากจะแก้ไขเยียวยาได้
    ถ้ามนุษย์โลกเสรีนี้ สามารถสั่นสะเทือนตนเองให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 3 ประการเหล่านี้ได้ พวกเจ้าจะไม่แก่ง่ายตายไวเหมือนเช่นทุกวันนี้ และพวกเจ้าก็จะมีความเฉลียวฉลาดมากกว่าทุกวันนี้อีกด้วย
    บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย....
    เมื่อพวกเจ้าบกพร่องล้มเหลวในการปฏิบัติทั้งสามประการดังว่านั้น พลังอำนาจทางจิตวิญญาณที่จะนำพาตนเองผ่านด่านนภาลัยออกไปเพื่อคืนกลับบ้านเกิดเมืองนอนทางจิตวิญญาณของเจ้าเองก็อ่อนแอตกต่ำลงจนยากจะแก้ไขใดๆได้อีกเช่นกัน

    ดังนั้น ปฏิบัติการชำระโลกอันหมายรวมถึง จิตตปัญญาหรือจิตสำนึก กายหยาบหรือเครื่องยนต์แห่งกรรม และจิตวิญญาณแก่นแท้ในพวกเธอแต่ละคน ย่อมจักต้องถูกชำระไปพร้อมกัน ด้วยการแก้ไขความเสื่อมและเพิ่มสมรรถนะในการใช้งาน ให้เหมาะสมต่อการเป็นเพื่อนร่วมงานกับดาวเคราะห์โลกเสรีนี้ให้ได้โดยเร็ว ปฏิบัติการทางเท็คนิกเพื่อการนี้ก็คือ
    1).ยกระดับความเข้มข้นของ “ลำแสงแห่งจักรวาล” ที่ส่งมายังระบบโลกให้สูงขึ้นถึงระดับ 7 แล้วกำหนดให้ดาวเคราะห์โลกมีสมการทางพลังงานสามมิติเป็น 6-6-6 ซึ่งจะยังผลให้มีพลังอำนาจมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า การใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของพวกเจ้าจะมีสมรรถนะสูงกว่าในอดีตที่ผ่านมาหลายเท่า ทั้งพลังอำนาจทางกาย พลังอำนาจทางปัญญา และพลังอำนาจทางจิตวิญญาณ ซึ่งบิดาสามารถทำได้ด้วยการกำหนดสร้างจุดดำบนดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้น แล้วส่งคลื่นพลังงานที่เข้มข้นกว่าเข้ามาในระบบดังกล่าวแล้ว
    2).โปรยหว่านรหัสคำสั่งใหม่เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในดีเอ็นเอ ของเซลอวัยวะร่างกายของพวกเจ้า ทั้งการสร้างดีเอ็นเอชุดใหม่แทนของเก่าที่เสื่อมไป และกระตุ้นที่มีอยู่เดิมให้ตื่นจากความหลับไหลขึ้นมาทำหน้าที่ของตนกันเสียที ด้วยพลังงานใหม่ที่เข้มข้นจากดวงอาทิตย์ที่ว่านี้นั่นเอง

    การเปลี่ยนแปลงในข้อนี้มันจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆในลักษณะของวิวัฒนาการ โดยในระบบเซล ดีเอ็นเอที่รับรู้แรงกระตุ้นจากจักรวาล ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงตนเองด้วยการสร้างเส้นใยดีเอ็นเอเส้นเล็กๆที่เป็นขดเกลียวขึ้นมาใหม่ ในขณะเดียวกันกับที่รหัสความเข้มของ “ลำแสงแห่งจักรวาล” ที่เปลี่ยนแปลงไปจากยุคที่ผ่านมา ก็จะถูกแปลรหัสเป็นคำสั่งใหม่ให้เส้นใยดีเอ็นเอเหล่านี้ก่อร่างสร้างรูปด้วยการผูกมัดตนเองเข้าด้วยกัน ซึ่งข้อมูลคำสั่งที่ถูกโปรยหว่านอย่างพรั่งพรูลงมาพร้อมๆกับเส้นแสงเหล่านี้มันเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และจะเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆจนกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะบรรลุผลโดยสมบูรณ์ ขณะนี้ข้อมูลทั้งหลายกำลังถูกดึงดูดเหนี่ยวรั้งเข้าสู่ระบบเซลภายในร่างกายของเจ้าอยู่แล้ว
    นอกจากจะเกิดผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงดังว่านั้นแล้ว เมื่อปฏิบัติการชำระโลกสิ้นสุด หลังผ่าน 56 วัน 8 ราตรีอันน่าพรั่นพรึงไปได้แล้ว ภายในเครื่องยนต์แห่งกรรมของผู้ที่ถูกคัดไว้ทั้งหลาย ยังจะมีวิวัฒนาการใหม่ของระบบเส้นใยประสาทสมองเกิดขึ้น ในอันที่จะช่วยให้การลำเลียงข้อมูลที่ถูกโปรยลงมาจากฟ้าผ่านไปยังจิตสำนึกได้มากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น จะยังผลให้เซลสมองที่ใช้งานได้เฉลี่ยเพียง 20% ของที่มีอยู่ ในขณะที่ยังมีเพื่อนร่วมงานที่หลับใหลอยู่อีก 80% นั้นจะถูกปลุกให้ลุกตื่นขึ้นมาทำหน้าที่กับเขาบ้าง หลังจากแน่นิ่งไม่ไหวติงมาหลายภพชาติแล้ว
    การเปลี่ยนแปลงนี้มันกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เครื่องยนต์แห่งกรรมของเจ้าเองกำลังรับรู้แรงสั่นสะเทือนของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ ในขณะที่กลไกอายตนะทั้งหลายมิอาจรู้เพราะมันล้วนถูกปกปิดมิติไว้ แต่พวกเจ้าอาจสามารถสังเกตจากบานประตูมิติที่แง้มออก ด้วยปัญญาญาณชาญฉลาดกันก็พอได้บ้าง โดยสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นผ่านมายา 6 ประการ ต่อไปนี้ คือ
    (1).วันดีคืนดีตัวเจ้าเองหรือคนใกล้ตัวบางคน เกิดอาการท้องเสียขึ้นมาดื้อๆโดยไม่ทราบสาเหตุ
    (2).วันดีคืนดีตัวเจ้าเองหรือคนใกล้ตัวบางคน เกิดอาการบ้านหมุน คลื่นไส้ คล้ายจะอาเจียน เมื่อเวลาผ่านไปอาการดังกล่าวจะดีขึ้นจนหายไปจนบางคนตกใจและแปลกใจว่าตัวเองป่วยเป็นอะไรก็ไม่รู้ เพราะไม่เคยเกิดอาการเช่นนี้มาก่อน
    (3).วันดีคืนดีตัวเจ้าเองหรือคนใกล้ตัวบางคน เกิดอาการนอนไม่หลับ หัวใจสั่นหวิวๆ คล้ายจะเป็นลม
    (4).วันดีคืนดีตัวเจ้าเองหรือคนใกล้ตัวบางคน เกิดอาการเหมือนคนขี้ลืมขึ้นมาดื้อๆ นึกคิดอะไรไม่ออกขึ้นมาเฉยๆทั้งๆที่ปกติแล้วความจำดีและฉลาด
    (5).เวลาถ่ายรูปย้อนแสงอาทิตย์ จะเห็นแสงสีชมพูซึ่งเป็นสีแห่งรักปรากฏอยู่ในภาพนั้นด้วย มิใช่แสงสว่างจ้าเหมือนปกติทั่วไปอีกแล้ว ไม่ว่าจะใช้กล้องราคาถูกหรือแพงก็ปรากฏเหมือนกัน
    (6).รูปที่ถ่ายย้อนแสง ที่เคยเห็นแสงสีชมพูปรากฏอยู่แต่เดิมนั้น มันจะเปลี่ยนสีเป็นชมพูม่วง และค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นสีม่วงเข้มขึ้นเรื่อยๆ ในราวๆปลายเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป โดยมายาสีม่วงเข้มขึ้นเรื่อยๆบ่งชี้ว่าพลังงานที่ถูกส่งเข้ามายังระบบโลก ได้ยกระดับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเพื่อให้ถึงระดับ 7 ให้ได้ในเร็ววัน แน่นอนว่าจุดดำหรือจุดดับบนดวงอาทิตย์ย่อมต้องเพิ่มจำนวนเข้าหา 11 จุดดังได้เคยกล่าวไว้นานแล้วมิช้านาน
    เจ้าจงทำตัวเองให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่นี้ ด้วยการปฏิบัติสามเหลี่ยมกับบิดาแห่งเจ้าเอาไว้ตลอดเวลา (Enlightenment) ในขณะเดินทาง ขณะใช้ชีวิตประจำวัน และในยามว่าง เพื่อนำเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของเจ้าติดต่อกับบิดาผ่านทางบุตรเอกแห่งบิดา โดยต่อสายดิน (Ground ) ไว้กับโลก และสั่นสะเทือนตนเองเพื่อเข้าให้ถึงความรักกับการครองมหาสติตลอดวัน ผลดีจะบังเกิดแก่เจ้าและคนใกล้ตัว จงอย่าปฏิเสธพลังอำนาจใหม่ของตนเองอันจะบังเกิดผลจากปฏิบัติการนี้

    ผู้ใดเป็นคนดีประพฤติดี คลื่นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงจากนอกระบบโลกนี้ จะเข้าคู่เข้าขากันได้เพราะพลังงานที่เกิดขึ้นภายในตนเองจากการสั่นสะเทือนจิตตปัญญาจะเป็นชนิดเดียวกัน คนๆนั้นก็จะเป็นคนดียิ่งขึ้น
    ผู้ใดเป็นคนพาลสันดานไม่ดี และมีนิสัยเจ้าอารมณ์อ่อนไหวไปในทางก้าวร้าวเศร้าสลดง่ายๆ จิตไม่หนักแน่น คลื่นพลังงานแห่งการเปลี่ยนแปลงจากนอกระบบโลกนี้ จะเข้าคู่เข้าขากันกับพลังงานลบที่ได้จากการสั่นสะเทือนจิตสำนึกด้านลบในชีวิตประจำวันนั้นไม่ได้ เพราะเป็นคนละชนิดกัน มันจะต่อต้านกันจนส่งผลด้านลบที่รุนแรงมากขึ้น คือ คนๆนั้นจะแสดงพฤติกรรมในทางพาลสันดานไม่ดีมากขึ้น เจ้าอารมณ์มากขึ้น อ่อนไหวง่ายมากขึ้น เป็นต้น
    แน่นอนว่า...ใครๆก็ปรารถนาจะนิพพานกันทั้งนั้น
    เมื่อได้ทราบข่าวสารสำคัญชิ้นนี้แล้ว
    ทุกคนจึงน่าจะรู้ว่า...ตนเองจะต้องปฏิบัติอย่างไรจึงจะแจ้งกระจ่างในนิพพานได้ทันเวลา
    ตนเองจะต้องเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตที่ยังจำเจซ้ำซาก มากด้วยกิเลสตัณหาอุปาทานกันอย่างไร...จึงจะก้าวหน้าบนเส้นทางสายนิพพานนี้ได้
    บิดาแห่งเจ้าจักเฝ้าดูพวกเจ้าอยู่ทุกวันเวลาว่า
    การต่อสู้ของพวกเจ้าสู่การรู้แจ้งนั้น...ท่าทีกับลีลาแต่ละคนนั้นเป็นฉันใด......

    ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากจิตจักรวาล ในระบบจิตสู่จิต (Vertical Telepathy)
    โดย: ป.วิสุทธิปัญญา
    14-05-2013

    ANSWER: J Noht AE
    1.การมองเห็นคลื่นพลังงานด้วยอายตนะที่เป็นตาเนื้อ หรือการได้ยินได้ฟังสรรพเสียงในมิติที่สูงกว่าด้วยอายตนะที่เป็นหู หรือสภาวะจิตที่ล่วงรู้บางสิ่งเบื้องหน้าและรู้ล่วงหน้าได้โดยมิได้ผ่านการฝึกฝนใดๆมาก่อนนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกนะถ้าเธอรู้ความจริงที่เราจะกล่าวเฉลยให้รู้ดังต่อไปนี้
    2.ปกติแล้วกลไกประสาทสัมผัสภายนอกที่จัดเป็นอายตนะทั้งห้านั้น มันจะทำงานร่วมกันกับจิตหยาบที่เป็นอายตนะภายในเองด้วย โดยจิตหยาบซึ่งมีที่ตั้งตรงต่อมไพเนียลในกระโหลกศีรษะของเธอนั้น จะเป็นจุดศูนย์รวมของผัสสะสัมผัสของอายตนะภายนอกทั้งห้า เพื่อทำหน้าที่ "รับรู้" ว่าตาเห็นอะไร หูได้ยินอะไร จมูกได้กลิ่นอะไร ลิ้นรับรสอะไรอยู่ และกายสัมผัสกับร้อนเย็นเช่นไร เป็นต้น โดยที่กลไกอายตนะทั้งห้านั้นมันบอกตัวมันเองไม่ได้ว่าที่สัมผัสรู้ดูเห็นอยู่นั่นอะไรเป็นอะไร
    3.พระบิดาแห่งจิตวิญญาณของพวกเธอคือองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่ พระผู้สร้างทุกสรรพสิ่งรวมทั้งเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ชายหญิงด้วย ทรงกำหนดให้อายตนะทั้งห้าสามารถสัมผัสรู้ดูเห็นแต่สรรพสิ่งในมิติโลกทางกายภาพได้เท่านั้น เพื่อให้ลูกๆได้เรียนรู้โลกของพระบิดาตามที่ขันอาสามา แล้วปิดมิติการรับรู้สรรพสิ่งในมิติสูงกว่า คือ มิติทางพลังงานด้านของแก่นแท้คือจิตวิญญาณเอาไว้ให้ เพราะจิตวิญญาณของพวกเธอก่อนมาเกิดเป็นมนุษย์รู้ทุกสิ่งอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อีกให้สับสนเสียเวลา วิชาโลกมากกว่าที่พวกเธอเมื่อเป็นมนุษย์แล้วควรใส่ใจใฝ่รู้
    4.ดังนั้น พระบิดาจึงทรงปิดมิติของตาที่สามของเธอและมนุษย์ทุกคนเอาไว้ ด้วยอำนาจแม่เหล็กโลกที่เข้มข้น (14 เกาส์) อำนาจแม่เหล็กโลกระดับนี้จะยังผลให้ต่่อมไพเนียลสั่นสะเทือนเต็มพลังของตนมากกว่าที่ทรงกำหนดคุณสมบัติเอาไว้ให้ไม่ได้ เมื่อไม่ได้ จิตหยาบที่อยู่ตรงตาที่สามหรือไพเนียลนี้ก็มิอาจรับรู้ได้ว่า ตาเห็นคลื่นพลังงานอยู่ เห็นผีอยู่ ได้ยินผีคุยกันอยู่....มันล้วนแต่อยู่ในมิติทางพลังงานที่เหนือกว่ามิติทางกายภาพทั้งสิ้น คนปกติทั่วไปจะเป็นเช่นที่เรากล่าวมานี้ทั้งนั้น
    5.เธออาจมีคำถามว่า...แล้วใยเธอจึงมองเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นได้ล่ะ? คำตอบคือ ทุกวันนี้มิใช่เธอคนเดียวหรอกนะที่เป็นพิเศษกว่าคนอื่นในลักษณะนี้.....
    <บางคนถึงขนาดคุยกับผีได้โดยไม่ได้ฝึกฝนมาก่อน เลยเปลี่ยนอาชีพไปหากินกับผีก็มีเหมือนกัน
    <บางคนได้ยินเสียงคนคุยกัน...(ผี) ก็เข้าใจว่าหูแว่ว-ประสาทหลอน เข้าใจว่าเพี้ยนจึงไปหาหมอแผนปัจจุบันจนกลายเป็นคนไข้โรคจิตประสาทไป ทั้งๆที่ไม่ได้ป่วยเลย <บางคนก็พาอาการแบบนี้ไปหาพ่อมดหมอผี จึงเสียผู้เสียคนไปก็มี ทั้งๆที่ไม่ได้ป่วยทางจิตประสาท
    <บางคนถึงขนาดจิตไปก้าวล่วงจิตคนอื่นได้ แอบดูกรรมของเขาได้ แอบดูความลับในจิตของเขาได้ แม่นยำเสียด้วยโดยไม่ต้องฝึกฝนไม่ต้องมีครูบาอาจารย์ให้เสียเงินเสียเวลาเลย เขาก็ตั้งตนเป็นเจ้าสำนักไปก็มี ช่วยเหลือคนอื่นบ้าง ทำเป็นธุรกิจการค้าบ้างก็ยังมีให้เห็น
    6.อาการที่เกิดเป็นเห็นเองเช่นนี้ โดยมิพักต้องฝึกฝนเป็นเพราะว่า....
    <โลกเรากำลังสิ้นยุค กำลังถูกชำระ และกำลังเสียสมดุล สนามแม่เหล็กโลกที่กำกับตาที่สามไว้มิให้เข้าถึงสรรพสิ่งในมิติของจิตวิญญาณหรือด้านพลังงานอ่อนแอลงหรือเสียสมดุล ทำให้ประตูมิติคือตาที่สามแง้มออก อำนาจพิเศษของมนุษย์บางคนจึงรู้เห็นเช่นเธอที่ถามมานี้ก็เลยบังเกิดขึ้น อย่าได้แปลกใจเลยนะ....อย่างน้อยคิดเสียว่ามันทำให้เธอมั่นใจว่า พลังงานมีจริง ผีมีจริงก็แล้วกัน
    <การที่บางคนรู้บางคนไม่รู้ในอำนาจพิเศษนี้ เพราะเธอและคนที่สามารถเห็นพลังงานได้นั้น บ้างก็เคยฝึกใช้ตาที่สาม (จิตทิพย์/หูทิพย์/ตาทิพย์) มาแล้วในอดีตชาติ บ้างก็เมื่อภพชาติที่แล้วสิ้นชีวิตขณะตาที่สามยังคงเปิดอยู่หรือปิดไม่สนิทแต่ตายก่อน หรือบางรายก็บรรลุธรรมขั้นสูงในระดับหนึ่งก็ถูกผู้เป็นครูที่สูงส่งของเขาทดสอบว่าจะหลงติดยึดกับมันไหม...ถ้าไม่ยึดติดก็จะนำพาให้ก้าวหน้าสูงขึ้นต่อไป เป็นต้น

    ป.วิสุทธิปัญญา
    14-05-2013

    อ้างอิง http://palungjit.org/threads/ล-ป-สิ...สมปราถนา-และข่าวสารพิเศษหน้า51.336485/page-51
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2013
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    โอ..เป็นครั้งแรกที่อ่านข้อความสื่อสารแนวนี้จนจบ
    แล้วทำตามแบบไม่ค่อยตั้งใจนัก ง่ายๆ สบายๆ
    ทำได้แค่ไหนเอาแค่นั้น..ปรากฎว่าทำได้จริงๆด้วย

    คือปกติแล้วข้อความจากต่างมิติมันก็จะมีหลายแนว
    แนวแจ้งข่าวประจำวัน - ประจำสับดาห์ ออกเครียดๆหนักๆ
    ก็จะเป็นของซาลูซ่า หรือ ที่สื่อผ่าน Shaldan Nidle มา
    หรือรวมถึง Mattew Wards ด้วย

    ส่วนแนวสอนวิชชาการชั้นสูงแบบเมตาฟิสิกส์ล้วนๆก็จะเป็นของท่านเมตาตรอน
    ส่วนแนวของสอนวิชชาการแบบนุ่มๆ แต่ลุ่มลึกก็จะเป็นของท่านมิคาเอล
    และแนวสอนวิธีการปฏิบัติ และประบตัวให้เข้ากับสถานการณ์และพลังงาน
    ในแต่ละช่วงเวลา ก็เช่นของท่านฮิลาเรียน เป็นต้น

    ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ผมจะชอบอ่าน แต่แนวสื่อสารมา
    แล้วให้ทำสมาธิไปด้วย จินตนาการถึงอันนั้นอันนี้ ให้รู้สึกถึงอันนั้นอันนี้นี่
    ผมอ่านไม่ค่อยจบเท่าไหร่ เพราะว่ารู้สึกว่าทำตามไม่ค่อยได้
    แล้วก็รู้สึกว่าอ่านแล้ว ไม่ค่อยได้รู้อะไรเพิ่มเติมสักเท่าไหร่
    เพราะว่าผมมักจะตั้งเป้าไว้ว่า "ต้องการรู้ข้อมูล" อะไรเพิ่มเติม
    อะไรแบบนั้นหนะครับ..

    แต่คราวนี้ผิดคาดมากๆ เพราะว่า มันอาจจะถึงช่วงเวลาของมันแล้วก็ได้
    ที่ระดับพลังงานของเรา มันขึ้นมาถึงจุดๆที่ "การใช้จินตนาการ"
    และ "การใช้ความรู้สึก" นึกไปถึงอันโน้น อันนี้ มันทำได้ง่ายดายขึ้น
    และก็เลย..ทำได้อย่างที่เขาสอนให้ทำจริงๆด้วย!!! ..น่าอัศจรรย์ครับ

    คือเขาบอกให้นึำถึงพลังงานอาบลงมา แล้วเคลียร์อารมณ์ความรู้สึกด้านลบของเราออกไป
    มันก็เป็นไปตามนั้นจริงๆด้วย แล้วมันก็โล่งเดี่ยวนั้นจริงๆด้วย

    ลองอ่านดูในลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ..

    Adjusting Your DNA & the Wesak > Goddess Light

    ........................
     
  14. Issara

    Issara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +433
    Kryon ตอนใหม่ออกวางแผงแล้ว เยี่ยม สุขุม ลึก กินใจ สมเป็นยี่ห้อ kryon ตอนนี้กล่าวถึง three winds (เกิด มีชีวิตอยู่ ตาย) ลองอ่านดูกันนะครับ kryon บอกบางอย่างก็อาจไม่เหมือนที่เราได้ถูกสอนมา ตอนนี้คิดว่าคงเป็นเรื่องอาณาจักรสัตว์ เนื้อความกล่าวว่า สัตว์จะไม่วิวัฒน์มาเป็นมนุษย์ (ตรงอาจขัดกับการเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิของทางพุทธ) ก็ลองอ่านลองพิจราณาดูครับ มีข้อคิดเห็นยังไงก็แลกเปลี่ยนกันได้ แต่ ณ เวลานี้ผมเริ่มเชื่อขึ้นมากเรื่อย ๆ แล้วล่ะว่า 2013 เป็น year 1 ของโลกใหม่จริง (เอ หรือว่ารู้สึกไปเองน้า)



    (ping)

    The Three Winds > Kryon
     
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    http://spiritlibrary.com/shanta-gabriel/initiation-into-light

    ...As we move toward the Solstice,
    let the power of this Divine Light,
    the greatest manifestation of Light
    that you have ever experienced,

    expand and fill you to the fullest capacity
    of your being — and then beyond that
    into your greatest imaginings.

    Perhaps then you will have the tiniest inkling
    of the sweetest Love and empowering Light being
    offered to you from the Realms of Awakening...

    .........................
     
  16. Water Lily

    Water Lily เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +738
    ข้อความจากฮิลาริออน

    June 9-17, 2013
    9-17 มิ.ย. 2556

    Beloved Ones,
    เธอผู้เป็นที่รัก

    Through these next few weeks more of your natural and innate abilities and gifts will become more clarified within you. Your intuitive gifts are coming into greater focus and awareness within you and a greater feeling of oneness and unity with others and all the wonders of the earth will pervade your consciousness. There will also continue to be more moments of confusion and mental fogginess as your brain and body systems are recalibrated and aligned to your highest potentials and greatest good. All that you have focused your energy upon that is aligned to your individual and collective good will begin to manifest for you in wonderful ways.
    ภายใน 2-3 สัปดาห์จากนี้ เธอจะค้นพบว่าพรสวรรค์และความสามารถพิเศษตามธรรมชาติของเธอจะกระจ่างชัดยิ่งขึ้นภายในตัวเธอ ลางสังหรณ์อันเป็นพรสวรรค์ของเธอจะมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ความรู้สึกตัวภายในตัวเธอ และความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้จะขยายสติสัมปชัญญะของเธอ อย่างไรก็ตามสภาวะของความสับสนและขุ่นข้องของจิตใจจะยังเกิดต่อไปอีกสักพัก เนื่องจากสมองและร่างกายของกำลังอยู่ระหว่างปรับตัวให้เข้ากับศักยภาพสูงสุดและสิ่งที่ดีที่สุด เธอจึงควรเพ่งพลังงานของเธอไปยังสิ่งที่สอดคล้องกับข้อดีของเธอซึ่งจะเริ่มขยายผลอย่างงดงามให้กับเธอ

    Those who have done the spiritual work of clearing, refining and purifying their bodies, minds and feelings are aware that there is a feeling of something great and wonderful about to happen. This is in anticipation of the movement of the heavens into greater alignment with galactic center in the cosmic scheme of things and that this will open up a whole new realm of potential within humanity and the collective consciousness. All is in constant movement and transformation on the etheric levels but takes more time to be manifest upon the earth plane and within you.

    สำหรับหลายๆคนที่ได้ทำงานด้านจิตวิญญาณ อาทิ การชำระล้าง ทำร่างกาย จิตใจ และความรู้สึกให้สะอาดบริสุทธิ์แล้วนั้น จะรู้สึกได้ว่าสิ่งที่วิเศษและยิ่งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งคือการคาดการณ์ของการเคลื่อนที่ของสวรรค์เข้าสู่ศูนย์กลางของแกแล็กซี่ ซึ่งจะนำมาซึ่งโฉมหน้าใหม่ของศักยภาพภายในมนุษยชาติและการมีสติระลึกรู้ การเคลื่อนไหวนี้ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับสภาวะที่เป็นทิพย์ แต่ใช้เวลามากกว่ากว่าที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบนโลกและภายในตัวเธอ

    If you have not already, begin to spend more time outdoors out in the sunshine for at least 20 minutes each day just gazing up at the sun in silence and reverence. The sun is the life giver of energies and further knowledge for all who are ready. Bask in its glow and warmth and connect to the trees, plants, birds and other creatures within your environment. Notice how much more connected you are to all that is around you and that communication is taking place between you. You will notice that there is a sense of family and oneness in your encounters with the birds and animals. You notice they are friendly and more trusting than before.
    ถ้าเธอยังไม่ได้ทำ ขอให้เริ่มใช้เวลาอยู่ภายนอกมากขึ้น และอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์อย่างน้อย 20 นาทีในแต่ละวัน โดยมองไปที่ดวงอาทิตย์อย่างสงบและเคารพ ดวงอาทิตย์คือผู้ให้ชีวิตและพลังงานและความรู้ต่างๆแด่ผู้ที่พร้อมรับ จงผ่อนคลายอยู่ภายใต้แสงสว่างที่อบอุ่นและเชื่อมต่อกับต้นไม้ พืชพรรณ นก และสัตว์ต่างๆในสิ่งแวดล้อมของเธอ สังเกตว่ายิ่งเธอสามารถเชื่อมโยงกับสิ่งรอบๆตัวได้มากเท่าไหร่การสื่อสารก็จะเกิดขึ้นรอบๆเธอ เธอจะเห็นว่ามีความรู้สึกเป็นครอบครัวเดียวกันกับสิ่งรอบตัวไม่ว่าจะเป็นนกหรือสัตว์ เธอจะเห็นว่าพวกมันเป็นมิตรและให้ความไว้วางใจมากกว่าที่เคยเป็นมา

    Be sure to ground yourselves deep into the crystalline diamond heart of the earth by visualizing a cord of light from your root chakra going deep into the center of the earth, anchoring within the diamond there and then flowing back up your spinal column up into your crown chakra and all the way up to the great central sun’s diamond  at galactic center so that there is a flow of energy that occurs within you. You are the cosmic conduits who are here to help the earth expand her light within her core to become the beautiful star that is her radiant destiny.

    จงต่อเชื่อมตัวเธอลึกลงไปยังคริสตัลเพชรใจกลางของโลก โดยจินตนาการว่ามีสายแห่งแสงเชื่อมจากมูลธารจักระ (ฐานของกระดูกสันหลัง)หยั่งลงไปยังใจกลางของโลก และยึดมันไว้กับก้อนเพชรที่อยู่ที่นั่นและจากนั้นปล่อยให้พลังไหลกลับไปตามแนวกระดูกสันหลังไปยังสหัสธารจักระ (กลางกระหม่อม) และปล่อยพลังงานกลับไปยังเพชรใจกลางดวงอาทิตย์ ณ ใจกลางแกแล็กซี่ และเธอจะได้รับกระแสธารของพลังงานที่เกิดขึ้นภายในเธอ เธอเป็นผู้เชื่อมต่อพลังงานแห่งจักรวาลที่อยู่ที่นี่เพื่อช่วยโลกให้ขยายแสงสว่างภายในแกนกลางของเธอเพื่อเป็นดวงดาวทีงดงามและส่องประกายงดงาม

    The wonders that are waiting to be discovered stand poignant and ready for humanity to connect with. The elemental kingdom is joyfully in service to all of creation, helping to bring form to that which is envisioned by the beautiful co-creators of the new earth reality, the magnificent beings of light which each of you are. Get focused, beautiful ones, and hold your vision!
    ความมหัศจรรย์นั้นกำลังรอคอยให้มนุษย์ค้นพบอยู่ อาณาจักรแห่งสวรรค์กำลังรับใช้ทุกสรรพสิ่งในโลกอย่างเป็นสุข เพื่อช่วยนำทางให้เธอ ผู้ร่วมสร้างโลกใหม่อันงดงามให้เป็นจริง เธอผู้เป็นแสงสว่างที่เปล่งประกาย ขอจงโฟกัส และรักษาวิสัยทัศน์ของเธอไว้้

    Until next week…
    พบกันใหม่สัปดาห์หน้า

    I AM Hilarion
    เราคือฮิลาริออน

    *Note from Marlene...I just came across this article in synchronicity and thought to post the link to it here:  NASA Confirms -Super Human Abilities Gained Through Sungazing
    (ผู้แปล - บทความนี้เกี่ยวกับคนที่ฝึกเพ่งมองดวงอาทิตย์ แล้วอยู่ได้ไม่ต้องกินข้าวกินน้ำ แต่อาศัยพลังงานจากดวงอาทิตย์ นาซ่าเลยนำไปศึกษา การมองดวงอาทิตย์เริ่มจากใช้เวลาสั้น 10 วินาที ทำช่วงเช้า หรือเย็นที่แสงไม่จ้าและไม่เป็นอันตราย)
    ©2013 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace
    Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit, copyright and website is included.   WELCOME! - The Rainbow Scribe
    Thank you for including the above website link when posting this message. 
     
  17. Vking

    Vking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,555
    พระอาทิตย์ คงจะเป็น... ศูนย์กลางแห่งแสงสว่าง

    ไม่ว่าเราจะให้ความสนในประเด็นใด... สุดท้ายก็ต้องมาเกี่ยวข้องกับ ... พระอาทิตย์ ...

    อย่างเช่น ผู้ที่ให้ความสนใจในเรื่องของภัยพิบัติ ตอนนี้ ... ก็กำลังศึกษาเกี่ยวกับพระอาทิตย์เช่นเดียวกัน

    ตอนนี้ ... เราเองก็สนใจเล่นโยคะ คิดจะเล่นท่าสุริยะนมัสการเนี่ยล่ะ
    :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2013
  18. waterydis

    waterydis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ตอนที่แปลข้อความของฮิลาริออนอยู่นั้น ฮิลาริออนเตือนอยู่เสมอๆ ว่าให้ฟังเสียงของร่างกายที่บอกหรือเตือน และควรทำตามสิ่งที่ร่างกายต้องการ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงและปรับสมดุลเป็นไปอย่างราบรื่น ช่วงต้นสัปดาห์ก่อน ขณะนั่งสมาธิเราก็บอกร่างกายว่า ถ้ามีอะไรก็ขอให้บอกตรงๆ หรือทำให้รู้สึก เช่นว่า ถ้าอาหารที่เรากำลังเลือกซื้ออยู่นั้นไม่ดีหรือดีต่อร่างกายในช่วงนั้นอย่างไร ก็ขอให้รู้สึกไม่อยากกินหรืออยากกินเกิดขึ้้น เพราะเราเองไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่ กินอะไรก็กินตามใจอยาก ซึ่งทำให้เจ็บปวดโดยใช่เหตุ เท่าที่สังเกต ร่างกายก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากเลย เน้นกินผัก ผลไม้สดมากขึ้น ไม่ค่อยไปกินอาหารตามสั่งเท่าไหร่ กาแฟกินน้อยลง น้ำอัดลมกินบ้าง แต่กินน้ำเปล่ามากขึ้นเกือบเท่าตัว (ทุกอย่างเบสตามความรู้สึกขณะนั้นๆ คงจะหาเหตุผลทางวิทยศาสตร์อะไรไม่ได้)

    เมื่อวานเราเกิดป่วยขึ้นมาอีก รู้สึกเหนื่อยทั้งวัน ว่าจะเขียนงานก็เขียนไม่ได้ ตื่นขึ้นมาแป๊บๆ กินข้าวกินน้ำก็ต้องล้มตัวลงนอน เราตื่นอีกทีตอนห้าโมงเย็น พาน้องหมาไปเดินเล่นในสวน รู้สึกดีขึ้นหน่อย พอกลับถึงบ้านอาการก็กำเริบขึ้นอีก ทั้งน้ำมูกไหล หายใจไม่ออก ปวดหัวตัวร้อน เจ็บคอ เรานอนอีกทีตอนประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง แล้วหลับวูบไปเลย ไม่รู้สึกตัว แล้วเราก็ค่อยถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา โดยมีเสียงอธิบายว่า

    "The operating system has been put into recovery mode. The OS.................................................. You had been sleeping from 21:21 to 23:21.............................................................................. The system has been somewhat recovered. It is now safe................................. so the reason wakes you up from deep sleep. You can now wake up and......................................................................."

    (แปล : ระบบปฏิบัติการได้เข้าสู่โหมดรักษาตัว........... เธอนอนจาก 21:21 ถึง 23:21 ...............ระบบได้ฟื้นตัวขึ้นระดับหนึ่งแล้ว ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเป็นเหตุให้เราปลุกเธอขึ้นมาจากสภาวะหลับลึก เธอตื่นขึ้นได้และ.....)

    เราก็ค่อยๆ มีสติตื่นขึ้นมา รู้สึกหิวน้ำมาก เดินไปหาน้ำกินอัตโนมัติ แล้วกลับมานอนต่อ เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงของระบบร่างกายชัดขนาดนี้ ขณะที่ระบบอธิบายนั้น เราเข้าใจทุกอย่าง (ระบบอธิบายละเอียดยิบ) แต่พอมีสติเต็มที่ ก็เหลือเท่าที่พิมพ์นั้นแหละ เราอัศจรรย์และทึ่งกับความซับซ้อนของระบบร่างกาย ระบบเฉลียวฉลาดมากและปรับตัวให้เข้ากับสภาวะต่างๆ อยู่ตลอด โดยที่เราไม่เคยรู้เลย (เพราะไม่เคยที่จะใส่ใจมั้ง)

    ป.ล.เราไม่ได้ลงระบบเป็นภาษาอังกฤษนะ ;-) แต่ระบบเลือกที่จะใช้เสียงและภาษาเองให้เรารู้ว่านั้นคือเสียงของระบบ
    ป.ล. ถ้าใครจะว่าเราบ้าก็เราไม่ว่า เพราะถ้าจริงก็คงจะเกินแก้แล้ว
     
  19. Vking

    Vking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,555
    ถ้าบ้า เราก็บ้าด้วยคนนะ :)
    เมื่อคืนนี้... เราก็รู้สึกว่า ตัวเองหลับลึกเหมือนกัน
    รู้สึกแปลกกับตัวเองเหมือนกัน ... ด้วยอาการแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว
    นับตั้งแต่วันที่... เราแบกรับภาระในงานอย่างหนึ่งที่หนักอึ้งเลยทีเดียว
    (อันที่จริง... มันก็เป็นความสมัครใจและเป็นเพราะเราไม่้สามารถที่จะปล่อยวางมันได้เองด้วยแหละ)
    ทำให้นอนไม่เต็มอิ่มมานานหลายเดือนแล้วเพราะมัวพะวง หมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องนั้น
    และประจวบเหมาะกับภาระนั้นมันจบลงด้วยเมื่อไม่นานมานี้

    ที่เรารู้สึกได้ว่า เป็นอาการหลับลึก ก็เพราะว่า... เราถูกทำให้รู้สึกตัวขึั้้้นมาด้วยเสียงนกพากันมาร้อง ... คล้าย ๆ ปลุกอ่ะ... รู้สึกงัวเงียและไม่อยากตื่นเลย
    นกเนี่ย... เขาเหมือนเป็นผู้ส่งสาส์นนะ และก็เฉลียวฉลาดมากเลยทีเดียว
    สังเกตดู... เวลาที่เรากล่าวคำขอขมากรรมเมื่อไหร่ เขาก็มักจะพากันมา ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว กันบ่อย ๆ เหมือนเขารับรู้อะไรของเขาน่ะนะ...
     
  20. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    มายืนยันว่าได้รับข้อความเป็นภาษาอังกฤษบ่อยมากขึ้น อิอิ บางครั้งก็เป็นโจทย์คณิตศาสตร์ แต่พอตื่นก็เริ่มจำไม่ได้แล้ว อิอิ


    เมื่อก่อนเป็นคนชอบทานกาแฟสดมากกกก แต่ตอนนี้ดื่มแล้วรู้สึกไม่ดีเลย แต่กลับชอบชาเย็น ที่ชงเองมากกว่า และดื่มน้ำเปล่าเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
     

แชร์หน้านี้

Loading...