@ คชสีห์/เทพพระพิฆเนศ อาจารย์เฮง ไพรวัลย์ งาแกะ เรื่มเปิดที่เบาๆ @

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย พลังชาตรี 13, 7 พฤศจิกายน 2010.

  1. Na_mo_

    Na_mo_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    2,025
    ค่าพลัง:
    +4,750
    น้องใหม่ขอร่วมแจมครับ
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม

    1515 บาทครับ

     
  2. lonkpop

    lonkpop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2009
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +194
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 2000บาทครับ
     
  3. ongvip

    ongvip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +2,216
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 2013บาทครับ
     
  4. lonkpop

    lonkpop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2009
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +194
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 2400บาทครับ
     
  5. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,474
    ค่าพลัง:
    +1,852
    ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้าร่วมประมูล

    1. arjarhnnop 913 บาทครับ......

    2. คนกรุงศรี ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม

    ร่วมด้วยครับจัดไปที่เลขสวย 1313 บาทครับ (สวยชอบๆๆครับ)

    3. Na_mo_ น้องใหม่ขอร่วมแจมครับ
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 1515 บาทครับ

    4. ongvip ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 2013 บาทครับ

    5. lonkpop ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 2400 บาทครับ

    ตอนนี้สุงสุดที่ 2400 บาทครับ ขอบพระคุณมากครับ
     
  6. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,474
    ค่าพลัง:
    +1,852
    รายการที่ 1. ปิดวันเสาร์ที่ 5/03/54 เวลา 20.13 .


    [​IMG]


    มณีโชติแก้ว มหานิลดวงประเสริฐ

    บ่ มีคำห่อหุ้ม มณีแก้วกะเล่าจาง

    (คนเราแม้จะมีหน้าตาดีเพียงใด หากไม่มีศีลธรรมก็ไม่มีค่ามากมาย เหมือนกับแหวนที่ไม่มีหัวย่อมมีค่าน้อย)

    ถ้าเราหมุนเข็มนาฬิกาย้อนหลังไปสักยี่สิบปี ยุคสมัยนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อเสียงของ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” แห่งวัดบ้านไร่ โด่งดังที่สุดในเมืองไทย เรียกได้ว่าถนนทุกสายล้วนมุ่งตรงสู่วัดบ้านไร่..

    มีชาวบ้านคณะหนึ่งตั้งใจที่จะไปกราบหลวงพ่อคูณ เมื่อไปถึงหลวงพ่อคูณท่านได้เอ่ยปากถามว่า พวกเขาเหล่านั้นมาจากที่ไหน และเมื่อท่านได้ทราบว่าชาวบ้านคณะนี้มาจากอำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี ท่านจึงพูดขึ้นว่า..

    “พวกเอ็งไม่ต้องมาหากูดอก อยู่ที่ตาลสุมก็มีหลวงปู่สวน พี่กูอยู่ทางโน้นเก่งกว่ากูอีก รู้จักมั๊ย หลวงปู่สวน...”

    เล่ากันว่าสิ้นคำพูดของหลวงพ่อคูณ ทำเอาชาวบ้านคณะนั้นต่างมองหน้ากันอย่างงงๆ และพากันสงสัยว่า ทั้งหลวงพ่อคูณและหลวงปู่สวนต่างรู้จักกันได้อย่างไร ซึ่งถ้าว่ากันตามความจริงแล้วการที่หลวงปู่ญาท่านสวนจะรู้จักหลวงพ่อคูณก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะชื่อเสียงและกิติคุณของหลวงพ่อคูณนั้นเป็นที่รู้จักและกล่าวถึงกันอย่างกว้างขวาง

    แต่ที่ทุกคนสงสัยคือ “หลวงพ่อคูณ ท่านรู้จักหลวงปู่ญาท่านสวนได้อย่างไร....”

    เพราะช่วงเวลานั้นวัดของหลวงปู่ญาท่านสวนอยู่ห่างไกลมาก ขนาดคนอุบลยังต้องถอนหายใจเมื่อเอ่ยถึง ที่สำคัญคือหลวงปู่ญาท่านสวน ท่านก็ยังไม่ได้มีชื่อเสียงเป็นเพียงพระภิกษุมากอายุธรรมดาองค์หนึ่งเท่านั้น ต่อเนื่องในเรื่องเดียวกัน เมื่อมีโอกาสลูกศิษย์ของหลวงปู่ญาท่านสวนได้ถามเรื่องนี้กับท่านว่า

    “ผมทราบข่าวว่ามีชาวบ้านเดินทางไปกราบหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่วัดบ้านไร่ พอหลวงพ่อคูณท่านทราบว่าชาวบ้านมาจากอำเภอตาลสุม ท่านเลยไล่ให้กลับมาหาหลวงปู่ จริงหรือเปล่าครับ”

    หลวงปู่ญาท่านสวนได้เมตตาตอบกับเขาว่ามีชาวบ้านมาเล่าให้ท่านฟังเหมือนกัน และเมื่อลูกศิษย์ท่านนี้สอบถามต่อก็ได้ความว่าหลวงปู่ญาท่านสวน ไม่เคยรู้จักหลวงพ่อคูณมาก่อน ตลอดจนทั้งสององค์นี้ก็ไม่เคยเจอหน้ากันด้วย ลูกศิษย์จึงได้พูดในทำนองกระเซ้าว่า...

    “งั้นหลวงปู่ก็คงรู้จักกันทางโทรจิตสิครับ”

    สิ้นคำกระเซ้า หลวงปู่นิ่งเงียบ ไม่ตอบได้แต่อมยิ้ม…

    ครับเรื่องแบบนี้อธิบายยาก เมื่อไม่มีคำตอบ ทำให้หลายต่อหลายคนต่างเดินหน้าค้นหาคำตอบต่อไป ขณะที่อีกหลายคนกลับเชื่อว่า

    “การไม่มีคำตอบนั่นแหละคือคำตอบ"

    เมื่อคราวที่หลวงปู่ญาท่านสวนได้รับนิมนต์ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม..

    เมื่อถึงกำหนดเวลาเจ้าหน้าที่ได้เข้ามากราบนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ทุกรูปเพื่อเข้าพิธี โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินนำหลวงปู่เข้าไปในพระอุโบสถ พระรูปที่สองที่เดินตามมาคือ “หลวงปู่ทิม อัตตสันโต” แห่งวัดพระขาว เมื่อหลวงปู่ญาท่านสวน เดินไปถึงอาสนะสำหรับพระที่มาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก

    เจ้าหน้าที่ได้กราบนิมนต์ท่านขึ้นนั่งหัวแถวรูปแรก แต่ท่านไม่ยอมขึ้นและหยุดยืนรอหลวงปู่ทิมที่เดินตามมา เมื่อหลวงปู่ทิมได้เดินมาถึง หลวงปู่ญาท่านสวนจึงได้นิมนต์ให้หลวงปู่ทิมขึ้นนั่งหัวแถวก่อน

    เล่ากันว่าหลวงปู่ทิมท่านก็ไม่ยอมขึ้นและนิมนต์ให้หลวงปู่ญาท่านสวนขึ้นนั่งก่อน หลวงปู่ทั้งสองใช้ “รอยยิ้มและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน” แทนคำนิมนต์ ในที่สุดหลวงปู่ญาท่านสวนท่านจึงจำใจขึ้นนั่งหัวแถวและก็ตามด้วยหลวงปู่ทิม...

    ต่อมาลูกศิษย์หลวงปู่ทิม ได้เล่าให้ลูกศิษย์ของหลวงปู่ญาท่านสวนที่มาในวันนั้นฟังว่า.....วันนั้นตนเองได้ติดตามหลวงปู่ทิมไปด้วยและได้กราบนมัสการถามหลวงปู่ทิมหลังจากเสร็จพิธีแล้วว่า

    “ทำไมหลวงปู่ไม่ขึ้นไปนั่งก่อน และทำไมถึงให้หลวงปู่รูปนั้นขึ้นไปนั่งก่อน”

    หลวงปู่ทิมท่านเมตตาตอบลูกศิษย์ของท่านว่า

    “ก็ท่านเป็นพระอรหันต์ ก็ต้องให้ท่านขึ้นก่อนสิ...”

    จากนั้นศิษย์ผู้นี้จึงได้ทราบชื่อของหลวงปู่รูปนั้นว่า

    “ท่านพระครูอาทรพัฒนคุณ” หรือ “หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร” แห่ง “วัดนาอุดม อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี

    สำเร็จลุน ถือว่าเป็นพระปรมาจารย์ผู้ทรงอภิญญาและมีกฤษดาอภินิหารมากมาย เป็นที่เลื่องลือในแถบลุ่มแม่น้ำโขง...เทียบเคียงกับ “หลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า” ครับ ส่วนที่แตกต่างคงเป็นที่หลวงปู่ศุข เป็นพระเมืองไทย ส่วนสำเร็จลุน เป็นพระเมืองลาวและคำว่า “สำเร็จ” มาจากธรรมเนียมของคนลาวที่ใช้เรียกพระภิกษุที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบครับ

    เล่ากันว่ามีคนเคยเห็นสำเร็จลุนยืนสรงน้ำกลางแม่น้ำโขง ความเก่งกาจของท่านขนาดสามารถบังคับให้เรือรบของทหารฝรั่งเศสหยุดได้และเมื่อครั้งที่ทหารฝรั่งเศสให้คนมานิมนต์ท่านลงไปในเรือรบ แต่ท่านบอกว่าไม่อยากลงเพราะกลัวเรือจะล่ม แต่ก็ไม่มีใครเชื่อท่าน สำเร็จลุนท่านจึงได้ก้าวเท้าขึ้นไปเหยียบปรากฏว่าเรือรบเอียงวูบทันทีจนเกือบจะล่ม เรียกว่าไม่มีใครกล้าคะยั้นคะยอให้ท่านลงเรือรบอีกเลย

    และมีอยู่คราวหนึ่งท่านสำเร็จลุนได้บอกให้ลูกศิษย์ของท่านไปปอกมะละกอและหาเครื่องตำส้มตำเอาไว้ ส่วนตัวท่านเองจะไปเอาน้ำปลาจากกรุงเทพมาให้ ปรากฏว่าท่านเดินคล้อยหลังไปแป๊ปเดียว ก็เดินกลับมาพร้อมกับถือเอาขวดน้ำปลายี่ห้อแปลกๆที่ไม่เคยมีในแถบนี้มาก่อน...

    จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องแปลกนะครับ เพราะมีบางคนคิดว่า “สำเร็จลุน” ท่านก็คือพระองค์เดียวกับ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างที่หลายๆคนคิด





    หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทะโร ตะกรุดทองคำแท้ๆ ๙๐% ยาว 3.5 ซ.ม

    หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทะโร ตะกรุดทองคำแท้ๆ ๙๐% ยาว 3.5 ซ.ม เป็นลายมือจารแท้ๆของท่านสวน หลวงปู่ญาท่านสวนจารเอง "ทั้งหมด ๙ แผ่น" ท่านที่เคยเห็นรอยจารของท่านย่อมรู้ว่าใช่เพราะก่อนที่ท่านจะทำการม้วนได้ถ่ายรูปลายมือท่านไว้ครับ ทองแท้ของแท้การันตี "พลังชาตรี 13"

    ดูภาพขยายใหญ่กดที่รูปภาพนะครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    เปิดประมูลเริ่มแรกที่ 4513 บาท ราคาทองก็ได้แล้วครับแบ่งกันจ้า

    บิดขึ้นครั้งละเท่าไรก็ได้ครับ

    ปิดประมูลวันเสาร์ที่ 5/03/54 เวลา 20.13 น.

    ขอบพระคุณครับ



    ตะกรุดทองคำแท้ หลวงปู่ญาท่านสวน

    ขอบพระคุณมากครับคุณอ๋อง กรุณาเปิดให้ที่ 4613 บาท

    .......................................................................................



    รายการที่ 2. ปิดประมูลวันจันทร์ที่ 7/03/54 เวลา 20.13 น.


    ครบแล้วครับ 913 ท่าน เลขรวมกันก็ 13

    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 9 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
    พลังชาตรี 13

    สมาชิกที่ได้อ่านกระทู้นี้แล้ว : 913 (Set) (View-All)

    ตามคำสัญญาครับ สมาชิกที่ได้อ่านกระทู้นี้แล้วครบจำนวน 913 คน

    ขอวันที่ 4/3/54 ในเวลา 13.24 นาที

    ขอเปิดลูกอมผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม 1 ลูกครับ 1 ไดไป 3 เลยครับ

    ขอบพระคุณมากครับ


    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม

    ลูกใหญ่ๆครับใหญ่กว่าไข่นกกระทา


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ลูกนี้เลยครับ ใหญ่ที่สุด ตั้งแต่นำมาให้กันครับ


    [​IMG]


    [​IMG]


    พระผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม ของดีที่ใครก็อยากได้ไว้บูชา บางท่านมีแล้วก็อยากมีอีกหลายคนคงรู้สึกว่า * แพง * แพงสุดๆ ราคาขึ้นทุกพิมพ์ทุกอย่างทุกเวลา ต่อไปก็คงหมดสิทธิ์ที่จะได้บูชา ผมจึงอยากแนะนำให้หา ลูกอมผงพรายผงพราย - ลูกประคำผงพรายกุมาร - ตะกรุดสาริกา (เป็นตะกรุดที่ฝังหลังพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่)
    สามชิ้นที่ต้องหา มาแขวนบูชากันครับ ราคาเบากว่ากันมากครับ ตามจริงแล้วลูกอมกลมๆที่ปั้นเป็นลูกกลมนั้นเพื่อที่นำมากดเป็นพระพิมพ์ขุนแผนลูกใหญ่ก็พิมพ์ใหญ่เล็กก็เป็นพิมพ์เล็กครับ ลูกที่กดกดไม่ทันก็จะแข็งนำไปกดพิมพ์ไม่ได้ก็กลายมาเป็น "ลูกอมผงพรายมหาภูติและลูกประคำ"

    การสร้างลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม ท่านศึกษาตำราที่ตกทอดมาจากหลวงพ่อสังฆ์เฒ่า ซึ่งเป็นปู่แท้ๆ ของท่าน ผงพรายกุมารมหาภูติ สร้างจาก กะโหลกเด็กชาย ผีตายท้องกลม ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร โดยลูกศิษย์ที่หลวงปู่ครอบครูให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจะไปสืบหาตามที่หลวงปู่บอกมา โดยที่มิได้กำหนดเวลามาก่อน ศพผีตายท้องกลมศพเด็ก พอได้ข่าวก็จะไปขอกับญาติศพเพื่อที่จะนำมาให้หลวงปู่ทำพิธีขอขมา และสะกดวิญญาณ หลังจากนั้นก็กำชับกับศิษย์ว่า อย่าเผาให้หมด เพื่อจะเก็บเอากะโหลกเด็ก ไปให้หลวงปู่ สร้างพระ เครื่องรางที่ท่านปลุกเสก มีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขานเป็นที่สุด กล่าวกันว่าผู้ใดได้ครอบครองบูชา ผงพรายกุมารนับว่าเป็นของวิเศษขั้นสูง จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ประสบการณ์มีมากมายโดยเฉพาะทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และโชคลาภ
    ไม่เป็นสองลองใคร

    พุทธคุณนั้นยอดเยี่ยมมากๆครับ รับรองว่าไม่แตกต่างอะไรกันเลยกับพระพิมพ์ขุนแผนบูชาหลักแสนและล้าน ผู้ที่มีลูกอมลูกประคำตะกรุดสาริกาไว้บูชาย่อมทราบกันดีทุกๆท่านว่าได้ผลตามที่ต้องการ สำหรับท่านที่มีอยู่แล้วยังอาราธนาไม่เป็น ท่านที่ยังไม่มีแต่คิดว่าต่อไปคงจะได้มาบ้างสักลูก และท่านที่นับถือหลวงปู่ มาลองดูกันครับ

    วิธีอาราธนาลูกอมผงพราย (จากปากหลวงปู่ทิม)

    มีคนถามหลวงปูว่า " ลูกอมนี่ดีอย่างไร "
    หลวงปู่ตอบว่า " ไม่อยากจะบอก ตามแต่จะใช้ นี่ทำดีที่สุดแล้ว

    "เวลานำติดตัวให้ว่า" นะโมฯ 3 จบ แล้วต่อด้วยคาถานี้

    @@ สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ อานุภาเวนะ ๆ ๆ จงอยู่ใต้พุทธบารมี @@

    ว่าดังนี้แล้วนำติดตัวไปลูกอมจะมีอิทธิฤทธิ์แรงและเห็นผลเร็วครับ แต่จงเชื่อมั่นในองค์หลวงปู่ทิมและ ลูกอมประคำผงพราย-ประคำมหาภูติ ที่เรามีอยู่ อย่าลังเลสงสัย อย่าไขว้เขวแล้วจะบังเกิดผลอย่างแน่นอน ถ้าท่านอยากจะขอพรอะไรควรขอ "หลังเที่ยงคืน"


    จากที่ผมประสพมา ท่านใดที่มีของหลวงปู่ทิมบูชาแล้ว ก็ยังไม่พอที่จะหาเก็บตลอดไปถึงแม้ว่าราคาบูชาจะสูงขึ้นเท่าไรก็ตาม ทำให้เห็นว่าบูชาแล้ว ล่ำรวย ไม่หยุดเช่นกัน หาบูชากันนะครับ ชิ้นเดียวก็พอ


    หากันเถอะครับ ไม่จำเป็นต้องของผมขอให้เป็นของแท้ๆก็พอ ก่อนที่ราคาบูชาจะทะลุ ไปมากกว่านี้

    ที่ผมก็ไม่มีแล้วหาเข้าเหมือนกันครับ มีแต่พวกสั่งมายังหาไม่ได้เลยครับ

    แนะนำครับ

    การเช่าหาควรจะศึกษาเสียก่อน ไปหาดูของแท้ก่อนที่ร้านมีมาตฐาน ผงพรายหลวงปู่ดูไม่ยากครับดูง่ายมากๆ
    "คำเตือน" อย่าโลภเห็นของถูกแล้วใจกลับเสียด่ายเงิน ของดีของถูกไม่มีหรอกครับ สู้เถอะครับของแท้ไม่แพง

    หลวงปู่ทิม เราท่านย่อมทราบกันดีว่าท่าน สำเร็จอภิญญา ชั้นสูง พระที่สำเร็จอภิญญาชั้นสูงนั้นการที่บรรจุพุทธคุณย่อมเป็นไปตามที่ท่านอธิฐานจิตใว้

    ซึ่งชุดที่ผมนำมาให้ชมนั้นจะมีอยู่ในที่ พิพิธภัณฑ์ หลวงปู่ทิม ครับ


    สร้อยประคำ 108 ที่ท่านเห็นในภาพพิพิธภัณฑ์นั้นก่อนที่บริจากมานั้นมีคนให้ราคาบูชากันอยู่หลัก ล้าน บาทแต่เจ้าของไม่ขายให้ แต่นำมาบริจากให้ลูกหลานไว้ศึกษา เป็นพระคุณยิ่งๆ

    ขอขอบพระคุณภาพต่างๆจากพิพิธภัณฑ์ หลวงปู่ทิม มาจากคุณ panda ขอบพระคุณครับ


    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]





    บารมีของหลวงปู่ทิม

    คัดลอกจากหนังสือที่ระลึก ฉลองหอฉัน และฉลองอายุครบ 8 รอบ
    พระครูภาวนาภิรัต (ทิม) วัดละหารไร่ ระยอง 10 มิ.ย.2518

    จากบันทึกของนายสาย แก้วสว่าง

    บิณฑบาตที่จ.ชลบุรี

    มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี อ.บางละมุง ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้ ได้มาเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อวานนี้ผมเห็นหลวงปู่ทิม ไปบิณฑบาตอยู่ที่เมืองชล ผมจำได้เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็นความจริง เพราะจำหลวงปู่ทิมได้ ผมก็ได้แต่นึกและก็ไม่กล้าตอบ แต่นึกว่าหลวงปู่ของเราจะเป็นไปได้หรือ ผมจึงเก็บเอาเนื้อความนี้ไว้แต่ในใจและก็คุยกันเรื่องอื่นต่อไป อยู่มาประมาณอีกสัก 10 กว่าวันก็มีคนเมืองชลมาเล่าให้ผมฟังอีก ก็เหมือนกับทีคนแรกเล่าให้ผมฟังทุกประการ ผมจึงลองถามหลวงตาที่เป็นขรัวรองอยู่ที่วัดดูและเล่าเรื่องราวให้ท่านฟัง ท่านตอบว่า อาตมาก็ไม่ทราบและไม่ได้สังเกตเพราะฉันจังหันต่างกัน แต่ก็ปรากฏท่านทีอาหารแปลกปะปนอยู่เสมอ แต่ก็อาจจะเป็นความจริงเพราะท่านเป็นพระที่สำเร็จญาณชั้นสูงอยู่แล้ว

    ยิงไม่ถูก

    มีชาวบ้านหนองละลอกคนหนึ่งชื่อ นายธง สุขเทศ หรือชาวบ้านละแวกนั้นมักเรียกว่า ปลัดธง บ้านอยู่ไม่ห่างจากบ้านผมเท่าไรนัก หลังจากที่ผมกลับจากทำงานก็อาบน้ำจวนจะทานอาหาร เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ปลัดผู้นี้ก็เริ่มจะทานอาหารเหมือนกัน หยิบจานอาหารมาวางและมีลูกสาวอยู่ใกล้ๆ ผมก็กำลังทานอาหารอยู่ที่บ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนระเบิดขึ้น 2 จังหวะ 4 นัด แล้ว 3 นัดติดต่อกัน ปรากฏภายหลังว่าผู้ยิงพาดปืนกับขอบสังกะสีรั้วบ้านระยะประมาณ 4 เมตร แต่กระสุนมิได้ถูกนายธงเลย มีกระสุนไปถูกขาตั้งรถจักรยานทำให้สะเก็ดบินไปโดนเด็กลูกสาวที่ขาบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้คงเป็นเพราะอภินิหารเหรีญหลวงปู่ทิมรุ่นแรกซึ่งนายธงแขวนคออยู่เพียงเหรียญเดียว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ยิงใช้ปืนคาบิ้น 2 กระบอกเพราะเก็บปลอกกระสุนได้แน่ชัด

    ยิงไม่เข้า

    มีคนเดินทางมาจากเมืองชลเล่าให้ผมฟังว่าเพื่อนของเขาถูกยิงตอนเวลาหลังอาหารด้วววยปืนลูกซองถึง 9 นัด เสื้อขาดทะลุถึงผิวหนังไหม้เกรียมแต่ไม่เข้า ทั้งนี้ก็เพราะเขาได้ปลักขิกหลวงปู่ทิมกับลูกอมมาแขวนไว้เพียงไม่กี่วัน และเรื่องเท่าที่ผมเห็นมาเกี่ยวกับปลักขิกก็คือหลานของผมถูกสุนัขกัดจนเสื้อออกางเกงขาดเป็นริ้วรอย ถึงกับล้มลงนอนร้องไห้ เมื่อผมวิ่งไปช่วยปรากฏว่าไม่มีรอยเขี้ยวสุนัขเลย เด็กคนนั้นมีแต่เพียงปลักขิกของหลวงปู่ทิมแขวนอยู่ที่เอว 1 อันเท่านั้น

    น้ำมนต์เดือด

    เมื่อราว พ.ศ.2511 ที่วัดตะพงนอก อ.เมือง จ.ระยอง ได้มีพิธีปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังหลวงพ่อจันทร์ เจ้าอาวาสวัดตะพงนอก ในพิธีนี้ได้นิมนต์เกจิอาจารย์มาหลายรูปด้วยกัน และหลวงปู่ทิมก็ได้รับนิมนต์ด้วย หลังจากเริ่มพิธีปลุกเสก หลวงพ่อต่างๆ ก็ได้ทำการปลุกเสก และในพิธีนี้ อาจารย์รัตน์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดได้นำโอ่งใส่น้ำมนต์มาตั้งไว้ และนิมนต์หลวงปู่ทิมทำการปลุกเสกน้ำมนต์องค์เดียวท่ามกลางพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ปรากฏว่าน้ำมนต์ที่อยู่ในโอ่งใหญ่ครึ่งโอ่งพอหลวงปู่ลงมือปลุกเสกน้ำได้เดือดและค่อยๆ ทวีความสูงขึ้นท่ามกลางความอัศสสจรรย์ของผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอ่างมาก ปรากฏว่าหลวงจากพิธีแล้ว น้ำมนต์ได้ถูกชาวบ้านแย่งเอาไปจนหมดสิ้น

    แคล้วคลาด

    นายจำลองแห่งร้านทวีทรัพย์ ได้ชวนนายเพียรวิทย์ จารุสถิติ นายนิวัฒน์ ร้านรุ่งเรืองมิตร ได้ไปหาหลวงปู่ทิมเพื่อนมัสการท่าน ขากลับได้บูชาเหรียญ รูปถ่ายและปลักขิก กลับมาได้ครึ่งทางนายนิวัฒน์จึงชวนนายจำลองเพื่อขอลองของ ทั้ง 3 ก็ได้ทำการทดลองโดยทั้ง 3 นำเอาเครื่องรางดังกล่าวอาราธนาแล้วแขวนกิ่งต้นไม้ นายจำลองได้ใช้ปืน .22 ยิงในระยะห่างกันประมาณ 1 คืบ ปรากฏว่ายิงไม่ถูก นายนิวัฒน์จึงขอยิงบ้าง จ่อยิงปรากฏว่าไม่ถูกอีกเช่นกัน ทั้งคู่บอกว่าถ้าระยะนี้ยิงไม่ถูกก็ไม่ต้องใช้ปืนแล้ว เพราะทั้งคู่เป็นผู้ที่สนใจปืนอยู่แล้ว

    ถ่ายรูปหลวงปู่ไม่ติดถ้าไม่ขออนุญาต

    เมื่อคราวปลุกเสกของที่วัดพลา จังหวัดระยอง หลวงปู่ได้รับนิมนต์ไปนั่งปลุกเสกด้วย มีช่าวภาพหนังสือพิมพ์ไปถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาตจากหลวงปู่ก่อนปรากฏว่า กดชัตเตอร์เท่าไรๆ ชัตเตอร์ก็ไม่ทำงาน แต่พอนึกได้เข้าไปขออนุญาตก็ติดและได้ภาพที่ชัดเจนดี

    เสกตะกรุดใต้น้ำ

    คุณป้าอยู่ งามศรี บ้านอยู่ใกล้ๆ วัดละหารไร่และเป็นหลานของหลวงปู่ทิมได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยหลวงปู่ทิมอายุประมาณ 60-70 ปี เวลาท่านทำตะกรุดท่านจะลงไปทำใต้น้ำโดยถือตะกรุดแล้วเดินลุยน้ำลงไปจากศาลาหน้าวัด มีผู้เห็นกันหลายคน เมื่อหลวงปู่ทิมทำตะกรุดเสร็จเดินลุยน้ำขึ้นมาทุกคนประหลาดใจ เพราะเนื้อตัวและจีวรของหลวงปู่ทิมหาได้เปียกน้ำไม่

    เสกตะกรุดลอย

    ท่านอาจารย์รัตน์ เจ้าอาวาสวัดหนองกระบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยองเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ทิมเป็นพระที่มีพลังจิตกล้าแข็งมากสามารถเสกจนตะกรุดลอยได้ ท่านเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งได้นิมมนต์พระอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดระยองมา 4 รูปด้วยกัน มีหลวงพ่อหอม หลวงพ่ออ่ำ หลวงพ่อชื่น และหลวงปู่ทิม ให้หลวงพ่อที่มาทั้ง 4 รูปนำตะกรุดสาริกามาด้วย แล้วนำลงใส่บาตรให้หลวงพ่อทั้ง 4 องค์นั่งล้อมรอบบาตร และขอให้ท่านทุกองค์เรียกตะกรุดให้ลอยขึ้นจากบาตร หลวงพ่อหอม เป็นผู้เรียกก่อนโดยนั่งบริกรรมอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมา จากนั้นหลวงพ่ออ่ำ และหลวงพ่อชื่อก็ได้นั่งบริกรรมทำนองเดียวกัน ตะกรุดก็ไม่ยอมลอยขึ้น จนถึงองค์สุดท้ายคือหลวงปู่ทิม ท่านนั่งบริกรรมอยู่สักครู่ก็ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมาจากก้นบาตร หลวงพ่อหอมและเจ้าอาวาสวัดหนองกระบอกเห็นเช่นนั้นก็ตกใจแลบอกว่า ขอให้ช่วยทำให้วิ่งรอบบาตรด้วย หลวงปู่ทิมก็นั่งหลับตาภาวนา ตะกรุดก็วิ่งอยู่รอบๆ บาตรท่ามกลางความตื่นตะลึงของพระสงฆ์ทุกองค์ และเรื่องนี้ได้เป็นที่โจษขานกันทั่วไปในจังหวัดระยอง

    อำนาจจิตอันกล้าแข็งของหลวงปู่ทิม

    แม้แต่เครื่องปั่นไฟท่านก็สามารถบังคับให้หยุดได้โดยไม่ทราบสาเหตุ คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วัดละหารไร่มีลิเกมาเล่น พอลิเกกำลังจะออกแขกก็ปรากฏว่าไฟฟ้าดับพรึบลง พอแขกเข้าโรงไฟฟ้าก็สว่างขึ้นเป็นอย่างนี้ถึง 3ครั้ง จนต้องมีคนเตือนคณะลิเกให้ไปขออนุญาตหลวงปู่ทิมเสียก่อน เมื่อไปขออนุญาตแล้วก็ปรากฏว่าไฟฟ้าที่เคยปิดๆ ดับๆ ก็ติดสว่างตลอดทั้งคืน

    หลวงปู่ทิมเป็นพระที่สร้างของยาก

    มีผู้ไปขอสร้างของเสมอ แต่ถูกปฏิเสธไปเกือบทุกราย ท่านบอกว่าท่านไม่เก่ง แต่นับเป็นการประหลาดมากเมื่อครั้งที่คุณชินพร สุขสถิตย์ บรรณาธิการหนังสืออภินิหารและพระเครื่องไปกราบนมัสการและขออนุญาตท่านสร้างพระเครื่องเพื่อหารายได้สร้างศาลาการเปรียญท่านอนุญาตให้โดยดี ทั้งๆ ที่ตัวผู้ขอสร้างเองยังหนักใจเรื่องทุนที่จะนำมาลงทุนสร้างซึ่งต้องใช้เงินหลายแสนเพราะมีการหล่อพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พราะสังกัจจัยและพระปิดตาถึง 4 รายการด้วยกัน แต่หลวงปู่ทิม ท่านบอกว่า "ทำไปเถิดและจะสำเร็จเอง" ถึงปรากฏเป็นเรื่องจริงขึ้น บรรดาทุนรอนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะต้องจ่ายให้ช่างหล่อกันก็มีลู่ทางและได้มาอย่างไม่น่าเชื่อในการสร้างพระเครื่องครั้งนี้ หลวงปู่ทิมท่านพูดว่า "เป็นการสร้างของลูกศิษย์แท้ๆ และเงินทองจะไหลมาเทมา" หลวงปู่ทิมจึงอนุญาตให้คุณชินพรและคุณอารมย์ ทับสุวรรณ ครอบครูเป็นศิษย์ของท่านได้ทั้งๆ การจะครอบครูเป็นศิษย์โดยตรงของหลวงปู่ทิมนั้นนับว่ายากมาก ศิษย์ที่จะได้รับครอบครูต้องปรนนิบัติรับใช้เป็นเวลาหลายๆ ปีจึงจะครอบครูให้


    เรื่องจากคุณธงชัย อุดมความสุข

    ตะกรุด 3 กษัตริย์

    นับเป็นยอดตะกรุดมหานิทรา ยิงไม่ออก ถ้านำไปแขวนไว้ที่เสาหมอจะสะกดคนในบ้านให้หลับไหลหมด ขึ้นหยิบทรัพย์สินได้และดูเหมือนจะประสบกับโยมวัดผู้หนึ่ง เสียของเกือบหมดบ้านเพราะนอนไมรู้สึกตัวเลย เนื่องจากเอาตะกรุด 3 กษัตริย์ไปแขนไว้ที่เสาหมอกลางบ้าน หลวงปู่ทิมทราบเรื่องจึงไม่คิดจะทำอีก

    อาของผู้เขียนเล่าให้ฟังว่านางเอี้ยน เกสารัตน์ เสมียนประจำสำนักงานสหกรณ์ระยองไปขอตะกรุด 3 กษัตริย์จากหลวงปู่ทิม พอได้มาก็เอากลัดไว้กับเสื้ออย่างมั่นคง พอลากลับหลวงปู่ทิมถามว่าตะกรุดยังอยู่ดีหรือ? นางเอี้ยนก็ตอบว่าอยู่ค่ะ หลวงปู่หัวเราะแบมือให้ดู ปรากฏว่าตะกรุดอยู่ในมือหลวงปู่ทิม นายเอี้ยนหันมาดูที่เสื้อไม่พบตะกรุดก็ตกใจ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าหลวงปู่ทิมทราบดีว่านางเอี้ยนไม่ค่อยเชื่อถือท่านเท่าใดนัก จึงลองให้ดู ตะกรุด 3 กษัตริย์ของท่านนี้เล่ากันว่าเอาปืนยิงใส่บ้านยังไม่ออกเลย ไปยิงลิงยิงค่างถ้าเอาตะกรุดไปด้วยก็จะทำให้ยิงไม่ออกเช่นกัน


    เรื่องจากคุณชินพร สุขสถิตย์

    ปลาของหลวงปู่ทิม

    ช่างมงคล นาคแทน ผู้รับเหมาสร้างโบสถ์และศาลาการเปรียญได้เล่าให้ผมฟังว่า มีอยู่วันหนึ่งคุณมงคลได้มาที่วัดเพื่อควบคุมงานก่อสร้าง หลวงปู่ได้เรียกเข้าไปหาและสั่งว่าได้ขอร้องไม่ให้ลูกน้องไปยุ่งเกี่ยวกับปลาในสระแล้วทำไมลูกน้องจึงเข้าไปยุ่งอีก ขอให้ช่วยไปตักเตือนสั่งสอนด้วย คุณมงคลได้ยินดังนั้นก็ตกใจ เพราะหลวงปู่ได้สั่งไว้หลายหนแล้วว่าให้กำชับคนงานอย่าให้ไปยุ่งกับปลาในสระน้ำ คุณมงคลจึงกลับไปที่พักคนงานและเรียกลูกน้องมาด่าทุกคน แล้วถามว่าใครไปจับปลาของหลวงปู่ ซึ่งทุกคนปฏิเสธ คุณมงคลจึงไปหาหลวงปู่อีกและออกรับแทนลูกน้องว่า ไมมีลูกน้องคนใดไปยุ่งเกี่ยวกับปลาของหลวงปู่เลย หลวงปู่ทิมจึงว่า "ไอ้คนดำมืดยังไง" คุณมงคลก็กลับไปใหม่ และไปเรียกนายดำซึ่งมีผิวกายดำมะเมื่อมอยู่คนเดียวมา และบอกว่า "หลวงปู่บอกว่าลื้อไปจับปลาของท่านมาจริงหรือเปล่า" นายดำได้ยินก็ตกใจพูดกับช่างมงคลว่า "ท่านรู้ได้อย่างไรก็ผมไปแอบจับตอนตี 1 แล้วนี่ครับ

    เกี่ยวกับปลานี้

    คุณเพรียรวิทย์ จารุสถิติศิษย์ก้นกุฏิของท่านเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อถึงวันดีคืนดี หลวงปู่จะเดินลุยน้ำลงไปในสระ คลี่ชายจีวรออก จับกางสองมือแล้วช้อนปลาเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง มีปลาเข้ามาขังอยู่ที่ชายจีวรแน่นไปหมด คุณเพียรวิทย์บอกว่าหลวงปู่ใช้มนต์จินดามณีเรียกปลามาหา

    เรื่องจากคุณ พ.เด็กวัด..หลวงปู่ทิมของผม

    สมัยที่หลวงปู่ทิมเดินจงกรม ท่านกำหนดจิตยกมือพนมเหนืออก ข้อศอกคู้แนบติดกับลำตัวย่างเท้าก้าวเดินอยางช้าๆ กำหนดเดินไปข้างหน้าเก้าสิบเก้าก้าว และกันหลังกลับถอยไปอีกเก้าสิบเก้าก้าว บริเวณที่หลวงปู่ทิมเดินจงกรม บริเวณที่เดินจงกรมนี้ต้นหญ้าไม่กล้างอกขึ้นมา แต่แปลกที่สุด ไม่ว่าพวกมดหรือสัตว์สี่เท้าใดๆ ไม่กล้าเดินผ่านบริเวณนั้น จะต้องเดินอ้อมพ้นเขตบริเวณจงกรม

    คาถาของหลวงปู่ทิม

    "มะอะอุ ทุกขัง อนิจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ"
    หลวงปู่ทิมท่านว่าเป็นคาถาที่ดีและก็สั้น และพุทธคุณของคาถาบทนี้ก็สูงมากอยู่ที่คนปฏิบัติ ท่านยังกรุณาเล่าให้ฟังว่า มีใครคนหนึ่งที่อยู่ตลาดมาปรับทุกข์ให้ท่านฟังว่า ขายของก็ไม่ดีทะเลาะกับเมีอยู่ที่บ้านแทบทุกวัน ญาติพี่น้องต่างเกลียดชัง อยากจะขอคาถาให้เขารัก หลวงปู่จึงให้คาถาบทนี้ไป ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้ ชายผู้นั้นมีความสุขแล้ว จะไปไหนเมียก็ตามไปด้วย ญาติพี่น้องก็รักใครกันดี ผู้เขียนจึงมั่นใจว่าพุทธานุภาพในคาถาบทนี้จะประสบผลสำหรับผู้ที่ปฏิบัติเป็นประจำสม่ำเสมอ ถ้าผู้ใดได้รับคาถานี้ไป ขอให้นึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และคุณหลวงปู่ทิมเป็นที่ตั้งทุกอย่างก็จะอำนวยโชคพอสมควรกับบุญกรรมของบุคคลนั้น

    พัดโบกหลวงปู่ทิม

    ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2517 ได้เกิดน้ำป่าไหลท่วมบริเวณวัด ขณะนั้นหลวงปู่ทิมนั่งฟังเสียงน้ำหลากอยู่หน้าห้องของท่านพลันลุกขึ้นเข้าห้องหยิบผ้ายันต์ผืนสี่เหลี่ยม ถือเดินออกไปยังหอฉันเก่า ซึ่งผู้เขียนเกรงว่าจะถูกน้ำพัดพาไปด้วย หลวงปู่ท่านยืนเสกผ้าผืนนั้นซักอึดใจหนึ่งท่านก็โยดผ้าผืนนั้นลงไปตามกระแสน้ำ ผ้าผืนนั้นก็ลอยไปตามน้ำอย่างรวดเร็วท่ามกล่างคนงานที่ได้ช่วยกันเก็บเครื่องครัวอยู่บนวัดโดยไม่ทราบว่าหลวงปู่ได้ทำอะไร สักครู่หนึ่งทุกคนต่างตะลึงได้เห็นผ้าผื้นนั้นไหลทวนน้ำขึ้นมาหาหลวงปู่โดยหอบเอาอะไรมาสิ่งหนึ่ง หลวง ปู่ได้หยิบผ้าผืนนั้น ปรากฏมีลูกไก่เล็กๆ สีขาวคู่หนึ่งอยู่ในอุ้งมือ ท่านเอามือลูบไล้ไปที่ลูกไก่สีขาวคู่นี้ด้วยความปราณีอย่างเมตตา



    บัตรการันตีจากสถาบันที่เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ท่านใดที่มีความต้องการ ลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม/เม็ดประคำผงพราย/ตะกรุดสาริกา

    วันนี้เรามาคุยกันเรื่องของลูกอมผงพรายของหลวงปู่ทิมกันสักหน่อยนะครับ

    ได้มีเพื่อนๆหลายต่อหลายท่านได้โทรมาพูดคุยกับผมและขอความรู้ในเรื่องต่างที่เกี่ยวกับ "ลูกอมผงพราย" ว่าทำไมลูกอมผงพรายนั้นจึงมีหลายๆท่านได้นำเสนอในการบูชามากมายหลายราคามีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักพันต้นๆและหลักหมื่นซึ่งทำให้การตัดสินใจที่จะบูชาไม่รู้จะบูชาแบบไหนกันดี

    อันนี้ผมขอแจงอธิบายดังนี้ครับ

    ลูกอมหลวงปู่ทิม (ผงพรายกุมาร) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าเป็นผงพรายที่มีพุทธคุณสูงที่สุดของเมื่องไทย มารตฐานในการเล่นหาจะมีไม่กี่นิดครับ บอร์นฝุ่น บอร์นน้ำมัน และลูกอมยุดแรกๆและต้องออกจากวัดระหารไร่เท่านั้นในปี 17/18 ครับ ค่านิยมที่ผมกล่าวถึงนี้จะเล่นหากันในราคาที่สูงครับ และเนื้อผงพรายนั้นนั้นจะเป็นชนิดเดียวกันกับขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ซึ่งมีค่านิยมสูงถึงหลักหลายๆแสนบาทในปัจจุบัน

    ส่วนลูกอมผงพรายอีกชนิดหนึ่งที่มีออกมามากๆในปัจจุบันนั้น ผู้ที่ให้บูชาอาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจอันนี้ผมมิทราบครับ โดยไม่ได้บอกที่มาว่าเป็นลูกอมหลวงปู่ทิมแบบใหน แบบมาตรฐานเล่นหา หรือ แบบลูกอมที่ออกมายุดหลังออกมาหลายๆวัดมากๆโดยที่ได้ทำเรื่องของผงพรายกุมารมาจากวัดหลวงปู่ทิมซึ่งทางมูลนิธิหลวงปู่ก็ได้จัดให้ไปทุกๆวัดที่มีความประสงค์ที่จะนำไปเป็นส่วนประสมการการทำลูกอมผงพรายของวัดนั้นๆ จากที่ผมทราบมานะครับจะจัดให้ไปประมาณตลับยาหม่องเท่านั้นครับ ทั้งทางแทบระยองและจังหวัดต่างๆทั่วประเทศและจะมีบางวัดนะครับที่ได้หลวงปู่ไปรวมในการปลุกเสกด้วย เมื่อทำพิธีปลุกเสกเสร็จแล้วก็เรียกกันว่า "ลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม"

    ดังนั้นจึงปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นของแท้ ผมก็ว่าแท้ครับ ไม่เคยว่าไม่แท้เลยสักครั้ง ผมจึงขอทำความเข้าใจว่า "คำว่ามาตรฐานในการเล่นหา" แตกต่างกันครับ


    ขอบคุณมากครับ


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ลูกนี้เลยครับ ใหญ่ที่สุด ตั้งแต่นำมาให้กันครับ ศ.ก 2.7 ซ.ม


    ใหญ่/ฝังตะกรุด/เส้นเกษา เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.7 ซ.ม

    ลูกนี้ผมออกทั่วไปตามปกติอย่างไรก็หลักหมื่นครับ

    รับรองครับไม่มีพวกฝากมาให้ต่อยอดแน่นอนครับ

    แต่โปโมชั่น ได้เท่าไรก็ส่งมอบเท่านั้นครับ "มิตรไมตรี"


    เปิดประมูลตามสัญญาเริ่มแรกที่ 13 บาท

    บิดขึ้นครั้งละเท่าไรก็ได้ครับ ไม่มีการประมูลเองแน่นอนครับ

    ปิดประมูลวันจันทร์ที่ 7/03/54 เวลา 20.13 น.

    ขอบพระคุณครับ



    ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้าร่วมประมูล

    1. arjarhnnop 913 บาทครับ......

    2. คนกรุงศรี ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม

    ร่วมด้วยครับจัดไปที่เลขสวย 1313 บาทครับ (สวยชอบๆๆครับ)

    3. Na_mo_ น้องใหม่ขอร่วมแจมครับ
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 1515 บาทครับ

    4. ongvip ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 2013 บาทครับ

    5. lonkpop ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 2400 บาทครับ

    ตอนนี้สุงสุดที่ 2400 บาทครับ ขอบพระคุณมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011
  7. atha

    atha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    644
    ค่าพลัง:
    +2,664
    ลูกอมผงพรายกุมาร 2,613 บาทครับ
     
  8. loongtow

    loongtow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    677
    ค่าพลัง:
    +1,266
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 2713 บาท ครับ
     
  9. krai2499

    krai2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +291
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 2,813 บาท ครับ
     
  10. devil_win0

    devil_win0 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +272
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 3113 ครับ
     
  11. krai2499

    krai2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +291
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 3,213 ครับ
     
  12. devil_win0

    devil_win0 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +272
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 3,456 ครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  13. loongtow

    loongtow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    677
    ค่าพลัง:
    +1,266
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 3555
     
  14. krai2499

    krai2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +291
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นเกสาหลวงปู่ทิม 3,600 ครับ
     
  15. OJET'S

    OJET'S เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +483
    ลูกอมผงพราย 3800 ครับ ... ร่วมด้วยครับหลังจากหายไปนาน ; ]
     
  16. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,474
    ค่าพลัง:
    +1,852
    รายการที่ 1. ปิดวันเสาร์ที่ 5/03/54 เวลา 20.13 .


    [​IMG]


    มณีโชติแก้ว มหานิลดวงประเสริฐ

    บ่ มีคำห่อหุ้ม มณีแก้วกะเล่าจาง

    (คนเราแม้จะมีหน้าตาดีเพียงใด หากไม่มีศีลธรรมก็ไม่มีค่ามากมาย เหมือนกับแหวนที่ไม่มีหัวย่อมมีค่าน้อย)

    ถ้าเราหมุนเข็มนาฬิกาย้อนหลังไปสักยี่สิบปี ยุคสมัยนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อเสียงของ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” แห่งวัดบ้านไร่ โด่งดังที่สุดในเมืองไทย เรียกได้ว่าถนนทุกสายล้วนมุ่งตรงสู่วัดบ้านไร่..

    มีชาวบ้านคณะหนึ่งตั้งใจที่จะไปกราบหลวงพ่อคูณ เมื่อไปถึงหลวงพ่อคูณท่านได้เอ่ยปากถามว่า พวกเขาเหล่านั้นมาจากที่ไหน และเมื่อท่านได้ทราบว่าชาวบ้านคณะนี้มาจากอำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี ท่านจึงพูดขึ้นว่า..

    “พวกเอ็งไม่ต้องมาหากูดอก อยู่ที่ตาลสุมก็มีหลวงปู่สวน พี่กูอยู่ทางโน้นเก่งกว่ากูอีก รู้จักมั๊ย หลวงปู่สวน...”

    เล่ากันว่าสิ้นคำพูดของหลวงพ่อคูณ ทำเอาชาวบ้านคณะนั้นต่างมองหน้ากันอย่างงงๆ และพากันสงสัยว่า ทั้งหลวงพ่อคูณและหลวงปู่สวนต่างรู้จักกันได้อย่างไร ซึ่งถ้าว่ากันตามความจริงแล้วการที่หลวงปู่ญาท่านสวนจะรู้จักหลวงพ่อคูณก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะชื่อเสียงและกิติคุณของหลวงพ่อคูณนั้นเป็นที่รู้จักและกล่าวถึงกันอย่างกว้างขวาง

    แต่ที่ทุกคนสงสัยคือ “หลวงพ่อคูณ ท่านรู้จักหลวงปู่ญาท่านสวนได้อย่างไร....”

    เพราะช่วงเวลานั้นวัดของหลวงปู่ญาท่านสวนอยู่ห่างไกลมาก ขนาดคนอุบลยังต้องถอนหายใจเมื่อเอ่ยถึง ที่สำคัญคือหลวงปู่ญาท่านสวน ท่านก็ยังไม่ได้มีชื่อเสียงเป็นเพียงพระภิกษุมากอายุธรรมดาองค์หนึ่งเท่านั้น ต่อเนื่องในเรื่องเดียวกัน เมื่อมีโอกาสลูกศิษย์ของหลวงปู่ญาท่านสวนได้ถามเรื่องนี้กับท่านว่า

    “ผมทราบข่าวว่ามีชาวบ้านเดินทางไปกราบหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่วัดบ้านไร่ พอหลวงพ่อคูณท่านทราบว่าชาวบ้านมาจากอำเภอตาลสุม ท่านเลยไล่ให้กลับมาหาหลวงปู่ จริงหรือเปล่าครับ”

    หลวงปู่ญาท่านสวนได้เมตตาตอบกับเขาว่ามีชาวบ้านมาเล่าให้ท่านฟังเหมือนกัน และเมื่อลูกศิษย์ท่านนี้สอบถามต่อก็ได้ความว่าหลวงปู่ญาท่านสวน ไม่เคยรู้จักหลวงพ่อคูณมาก่อน ตลอดจนทั้งสององค์นี้ก็ไม่เคยเจอหน้ากันด้วย ลูกศิษย์จึงได้พูดในทำนองกระเซ้าว่า...

    “งั้นหลวงปู่ก็คงรู้จักกันทางโทรจิตสิครับ”

    สิ้นคำกระเซ้า หลวงปู่นิ่งเงียบ ไม่ตอบได้แต่อมยิ้ม…

    ครับเรื่องแบบนี้อธิบายยาก เมื่อไม่มีคำตอบ ทำให้หลายต่อหลายคนต่างเดินหน้าค้นหาคำตอบต่อไป ขณะที่อีกหลายคนกลับเชื่อว่า

    “การไม่มีคำตอบนั่นแหละคือคำตอบ"

    เมื่อคราวที่หลวงปู่ญาท่านสวนได้รับนิมนต์ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม..

    เมื่อถึงกำหนดเวลาเจ้าหน้าที่ได้เข้ามากราบนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ทุกรูปเพื่อเข้าพิธี โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินนำหลวงปู่เข้าไปในพระอุโบสถ พระรูปที่สองที่เดินตามมาคือ “หลวงปู่ทิม อัตตสันโต” แห่งวัดพระขาว เมื่อหลวงปู่ญาท่านสวน เดินไปถึงอาสนะสำหรับพระที่มาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก

    เจ้าหน้าที่ได้กราบนิมนต์ท่านขึ้นนั่งหัวแถวรูปแรก แต่ท่านไม่ยอมขึ้นและหยุดยืนรอหลวงปู่ทิมที่เดินตามมา เมื่อหลวงปู่ทิมได้เดินมาถึง หลวงปู่ญาท่านสวนจึงได้นิมนต์ให้หลวงปู่ทิมขึ้นนั่งหัวแถวก่อน

    เล่ากันว่าหลวงปู่ทิมท่านก็ไม่ยอมขึ้นและนิมนต์ให้หลวงปู่ญาท่านสวนขึ้นนั่งก่อน หลวงปู่ทั้งสองใช้ “รอยยิ้มและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน” แทนคำนิมนต์ ในที่สุดหลวงปู่ญาท่านสวนท่านจึงจำใจขึ้นนั่งหัวแถวและก็ตามด้วยหลวงปู่ทิม...

    ต่อมาลูกศิษย์หลวงปู่ทิม ได้เล่าให้ลูกศิษย์ของหลวงปู่ญาท่านสวนที่มาในวันนั้นฟังว่า.....วันนั้นตนเองได้ติดตามหลวงปู่ทิมไปด้วยและได้กราบนมัสการถามหลวงปู่ทิมหลังจากเสร็จพิธีแล้วว่า

    “ทำไมหลวงปู่ไม่ขึ้นไปนั่งก่อน และทำไมถึงให้หลวงปู่รูปนั้นขึ้นไปนั่งก่อน”

    หลวงปู่ทิมท่านเมตตาตอบลูกศิษย์ของท่านว่า

    “ก็ท่านเป็นพระอรหันต์ ก็ต้องให้ท่านขึ้นก่อนสิ...”

    จากนั้นศิษย์ผู้นี้จึงได้ทราบชื่อของหลวงปู่รูปนั้นว่า

    “ท่านพระครูอาทรพัฒนคุณ” หรือ “หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร” แห่ง “วัดนาอุดม อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี

    สำเร็จลุน ถือว่าเป็นพระปรมาจารย์ผู้ทรงอภิญญาและมีกฤษดาอภินิหารมากมาย เป็นที่เลื่องลือในแถบลุ่มแม่น้ำโขง...เทียบเคียงกับ “หลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า” ครับ ส่วนที่แตกต่างคงเป็นที่หลวงปู่ศุข เป็นพระเมืองไทย ส่วนสำเร็จลุน เป็นพระเมืองลาวและคำว่า “สำเร็จ” มาจากธรรมเนียมของคนลาวที่ใช้เรียกพระภิกษุที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบครับ

    เล่ากันว่ามีคนเคยเห็นสำเร็จลุนยืนสรงน้ำกลางแม่น้ำโขง ความเก่งกาจของท่านขนาดสามารถบังคับให้เรือรบของทหารฝรั่งเศสหยุดได้และเมื่อครั้งที่ทหารฝรั่งเศสให้คนมานิมนต์ท่านลงไปในเรือรบ แต่ท่านบอกว่าไม่อยากลงเพราะกลัวเรือจะล่ม แต่ก็ไม่มีใครเชื่อท่าน สำเร็จลุนท่านจึงได้ก้าวเท้าขึ้นไปเหยียบปรากฏว่าเรือรบเอียงวูบทันทีจนเกือบจะล่ม เรียกว่าไม่มีใครกล้าคะยั้นคะยอให้ท่านลงเรือรบอีกเลย

    และมีอยู่คราวหนึ่งท่านสำเร็จลุนได้บอกให้ลูกศิษย์ของท่านไปปอกมะละกอและหาเครื่องตำส้มตำเอาไว้ ส่วนตัวท่านเองจะไปเอาน้ำปลาจากกรุงเทพมาให้ ปรากฏว่าท่านเดินคล้อยหลังไปแป๊ปเดียว ก็เดินกลับมาพร้อมกับถือเอาขวดน้ำปลายี่ห้อแปลกๆที่ไม่เคยมีในแถบนี้มาก่อน...

    จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องแปลกนะครับ เพราะมีบางคนคิดว่า “สำเร็จลุน” ท่านก็คือพระองค์เดียวกับ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างที่หลายๆคนคิด





    หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทะโร ตะกรุดทองคำแท้ๆ ๙๐% ยาว 3.5 ซ.ม

    หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทะโร ตะกรุดทองคำแท้ๆ ๙๐% ยาว 3.5 ซ.ม เป็นลายมือจารแท้ๆของท่านสวน หลวงปู่ญาท่านสวนจารเอง "ทั้งหมด ๙ แผ่น" ท่านที่เคยเห็นรอยจารของท่านย่อมรู้ว่าใช่เพราะก่อนที่ท่านจะทำการม้วนได้ถ่ายรูปลายมือท่านไว้ครับ ทองแท้ของแท้การันตี "พลังชาตรี 13"

    ดูภาพขยายใหญ่กดที่รูปภาพนะครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    เปิดประมูลเริ่มแรกที่ 4513 บาท ราคาทองก็ได้แล้วครับแบ่งกันจ้า

    บิดขึ้นครั้งละเท่าไรก็ได้ครับ

    ปิดประมูลวันเสาร์ที่ 5/03/54 เวลา 20.13 น.

    ขอบพระคุณครับ



    ตะกรุดทองคำแท้ หลวงปู่ญาท่านสวน

    ขอบพระคุณมากครับคุณอ๋อง กรุณาเปิดให้ที่ 4613 บาท

    .......................................................................................



    รายการที่ 2. ปิดประมูลวันจันทร์ที่ 7/03/54 เวลา 20.13 น.


    ครบแล้วครับ 913 ท่าน เลขรวมกันก็ 13

    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 9 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
    พลังชาตรี 13

    สมาชิกที่ได้อ่านกระทู้นี้แล้ว : 913 (Set) (View-All)

    ตามคำสัญญาครับ สมาชิกที่ได้อ่านกระทู้นี้แล้วครบจำนวน 913 คน

    ขอวันที่ 4/3/54 ในเวลา 13.24 นาที

    ขอเปิดลูกอมผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม 1 ลูกครับ 1 ไดไป 3 เลยครับ

    ขอบพระคุณมากครับ


    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม

    ลูกใหญ่ๆครับใหญ่กว่าไข่นกกระทา


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ลูกนี้เลยครับ ใหญ่ที่สุด ตั้งแต่นำมาให้กันครับ


    [​IMG]


    [​IMG]


    พระผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม ของดีที่ใครก็อยากได้ไว้บูชา บางท่านมีแล้วก็อยากมีอีกหลายคนคงรู้สึกว่า * แพง * แพงสุดๆ ราคาขึ้นทุกพิมพ์ทุกอย่างทุกเวลา ต่อไปก็คงหมดสิทธิ์ที่จะได้บูชา ผมจึงอยากแนะนำให้หา ลูกอมผงพรายผงพราย - ลูกประคำผงพรายกุมาร - ตะกรุดสาริกา (เป็นตะกรุดที่ฝังหลังพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่)
    สามชิ้นที่ต้องหา มาแขวนบูชากันครับ ราคาเบากว่ากันมากครับ ตามจริงแล้วลูกอมกลมๆที่ปั้นเป็นลูกกลมนั้นเพื่อที่นำมากดเป็นพระพิมพ์ขุนแผนลูกใหญ่ก็พิมพ์ใหญ่เล็กก็เป็นพิมพ์เล็กครับ ลูกที่กดกดไม่ทันก็จะแข็งนำไปกดพิมพ์ไม่ได้ก็กลายมาเป็น "ลูกอมผงพรายมหาภูติและลูกประคำ"

    การสร้างลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม ท่านศึกษาตำราที่ตกทอดมาจากหลวงพ่อสังฆ์เฒ่า ซึ่งเป็นปู่แท้ๆ ของท่าน ผงพรายกุมารมหาภูติ สร้างจาก กะโหลกเด็กชาย ผีตายท้องกลม ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร โดยลูกศิษย์ที่หลวงปู่ครอบครูให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจะไปสืบหาตามที่หลวงปู่บอกมา โดยที่มิได้กำหนดเวลามาก่อน ศพผีตายท้องกลมศพเด็ก พอได้ข่าวก็จะไปขอกับญาติศพเพื่อที่จะนำมาให้หลวงปู่ทำพิธีขอขมา และสะกดวิญญาณ หลังจากนั้นก็กำชับกับศิษย์ว่า อย่าเผาให้หมด เพื่อจะเก็บเอากะโหลกเด็ก ไปให้หลวงปู่ สร้างพระ เครื่องรางที่ท่านปลุกเสก มีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขานเป็นที่สุด กล่าวกันว่าผู้ใดได้ครอบครองบูชา ผงพรายกุมารนับว่าเป็นของวิเศษขั้นสูง จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ประสบการณ์มีมากมายโดยเฉพาะทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และโชคลาภ
    ไม่เป็นสองลองใคร

    พุทธคุณนั้นยอดเยี่ยมมากๆครับ รับรองว่าไม่แตกต่างอะไรกันเลยกับพระพิมพ์ขุนแผนบูชาหลักแสนและล้าน ผู้ที่มีลูกอมลูกประคำตะกรุดสาริกาไว้บูชาย่อมทราบกันดีทุกๆท่านว่าได้ผลตามที่ต้องการ สำหรับท่านที่มีอยู่แล้วยังอาราธนาไม่เป็น ท่านที่ยังไม่มีแต่คิดว่าต่อไปคงจะได้มาบ้างสักลูก และท่านที่นับถือหลวงปู่ มาลองดูกันครับ

    วิธีอาราธนาลูกอมผงพราย (จากปากหลวงปู่ทิม)

    มีคนถามหลวงปูว่า " ลูกอมนี่ดีอย่างไร "
    หลวงปู่ตอบว่า " ไม่อยากจะบอก ตามแต่จะใช้ นี่ทำดีที่สุดแล้ว

    "เวลานำติดตัวให้ว่า" นะโมฯ 3 จบ แล้วต่อด้วยคาถานี้

    @@ สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ อานุภาเวนะ ๆ ๆ จงอยู่ใต้พุทธบารมี @@

    ว่าดังนี้แล้วนำติดตัวไปลูกอมจะมีอิทธิฤทธิ์แรงและเห็นผลเร็วครับ แต่จงเชื่อมั่นในองค์หลวงปู่ทิมและ ลูกอมประคำผงพราย-ประคำมหาภูติ ที่เรามีอยู่ อย่าลังเลสงสัย อย่าไขว้เขวแล้วจะบังเกิดผลอย่างแน่นอน ถ้าท่านอยากจะขอพรอะไรควรขอ "หลังเที่ยงคืน"


    จากที่ผมประสพมา ท่านใดที่มีของหลวงปู่ทิมบูชาแล้ว ก็ยังไม่พอที่จะหาเก็บตลอดไปถึงแม้ว่าราคาบูชาจะสูงขึ้นเท่าไรก็ตาม ทำให้เห็นว่าบูชาแล้ว ล่ำรวย ไม่หยุดเช่นกัน หาบูชากันนะครับ ชิ้นเดียวก็พอ


    หากันเถอะครับ ไม่จำเป็นต้องของผมขอให้เป็นของแท้ๆก็พอ ก่อนที่ราคาบูชาจะทะลุ ไปมากกว่านี้

    ที่ผมก็ไม่มีแล้วหาเข้าเหมือนกันครับ มีแต่พวกสั่งมายังหาไม่ได้เลยครับ

    แนะนำครับ

    การเช่าหาควรจะศึกษาเสียก่อน ไปหาดูของแท้ก่อนที่ร้านมีมาตฐาน ผงพรายหลวงปู่ดูไม่ยากครับดูง่ายมากๆ
    "คำเตือน" อย่าโลภเห็นของถูกแล้วใจกลับเสียด่ายเงิน ของดีของถูกไม่มีหรอกครับ สู้เถอะครับของแท้ไม่แพง

    หลวงปู่ทิม เราท่านย่อมทราบกันดีว่าท่าน สำเร็จอภิญญา ชั้นสูง พระที่สำเร็จอภิญญาชั้นสูงนั้นการที่บรรจุพุทธคุณย่อมเป็นไปตามที่ท่านอธิฐานจิตใว้

    ซึ่งชุดที่ผมนำมาให้ชมนั้นจะมีอยู่ในที่ พิพิธภัณฑ์ หลวงปู่ทิม ครับ


    สร้อยประคำ 108 ที่ท่านเห็นในภาพพิพิธภัณฑ์นั้นก่อนที่บริจากมานั้นมีคนให้ราคาบูชากันอยู่หลัก ล้าน บาทแต่เจ้าของไม่ขายให้ แต่นำมาบริจากให้ลูกหลานไว้ศึกษา เป็นพระคุณยิ่งๆ

    ขอขอบพระคุณภาพต่างๆจากพิพิธภัณฑ์ หลวงปู่ทิม มาจากคุณ panda ขอบพระคุณครับ


    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]





    บารมีของหลวงปู่ทิม

    คัดลอกจากหนังสือที่ระลึก ฉลองหอฉัน และฉลองอายุครบ 8 รอบ
    พระครูภาวนาภิรัต (ทิม) วัดละหารไร่ ระยอง 10 มิ.ย.2518

    จากบันทึกของนายสาย แก้วสว่าง

    บิณฑบาตที่จ.ชลบุรี

    มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี อ.บางละมุง ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้ ได้มาเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อวานนี้ผมเห็นหลวงปู่ทิม ไปบิณฑบาตอยู่ที่เมืองชล ผมจำได้เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็นความจริง เพราะจำหลวงปู่ทิมได้ ผมก็ได้แต่นึกและก็ไม่กล้าตอบ แต่นึกว่าหลวงปู่ของเราจะเป็นไปได้หรือ ผมจึงเก็บเอาเนื้อความนี้ไว้แต่ในใจและก็คุยกันเรื่องอื่นต่อไป อยู่มาประมาณอีกสัก 10 กว่าวันก็มีคนเมืองชลมาเล่าให้ผมฟังอีก ก็เหมือนกับทีคนแรกเล่าให้ผมฟังทุกประการ ผมจึงลองถามหลวงตาที่เป็นขรัวรองอยู่ที่วัดดูและเล่าเรื่องราวให้ท่านฟัง ท่านตอบว่า อาตมาก็ไม่ทราบและไม่ได้สังเกตเพราะฉันจังหันต่างกัน แต่ก็ปรากฏท่านทีอาหารแปลกปะปนอยู่เสมอ แต่ก็อาจจะเป็นความจริงเพราะท่านเป็นพระที่สำเร็จญาณชั้นสูงอยู่แล้ว

    ยิงไม่ถูก

    มีชาวบ้านหนองละลอกคนหนึ่งชื่อ นายธง สุขเทศ หรือชาวบ้านละแวกนั้นมักเรียกว่า ปลัดธง บ้านอยู่ไม่ห่างจากบ้านผมเท่าไรนัก หลังจากที่ผมกลับจากทำงานก็อาบน้ำจวนจะทานอาหาร เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ปลัดผู้นี้ก็เริ่มจะทานอาหารเหมือนกัน หยิบจานอาหารมาวางและมีลูกสาวอยู่ใกล้ๆ ผมก็กำลังทานอาหารอยู่ที่บ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนระเบิดขึ้น 2 จังหวะ 4 นัด แล้ว 3 นัดติดต่อกัน ปรากฏภายหลังว่าผู้ยิงพาดปืนกับขอบสังกะสีรั้วบ้านระยะประมาณ 4 เมตร แต่กระสุนมิได้ถูกนายธงเลย มีกระสุนไปถูกขาตั้งรถจักรยานทำให้สะเก็ดบินไปโดนเด็กลูกสาวที่ขาบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้คงเป็นเพราะอภินิหารเหรีญหลวงปู่ทิมรุ่นแรกซึ่งนายธงแขวนคออยู่เพียงเหรียญเดียว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ยิงใช้ปืนคาบิ้น 2 กระบอกเพราะเก็บปลอกกระสุนได้แน่ชัด

    ยิงไม่เข้า

    มีคนเดินทางมาจากเมืองชลเล่าให้ผมฟังว่าเพื่อนของเขาถูกยิงตอนเวลาหลังอาหารด้วววยปืนลูกซองถึง 9 นัด เสื้อขาดทะลุถึงผิวหนังไหม้เกรียมแต่ไม่เข้า ทั้งนี้ก็เพราะเขาได้ปลักขิกหลวงปู่ทิมกับลูกอมมาแขวนไว้เพียงไม่กี่วัน และเรื่องเท่าที่ผมเห็นมาเกี่ยวกับปลักขิกก็คือหลานของผมถูกสุนัขกัดจนเสื้อออกางเกงขาดเป็นริ้วรอย ถึงกับล้มลงนอนร้องไห้ เมื่อผมวิ่งไปช่วยปรากฏว่าไม่มีรอยเขี้ยวสุนัขเลย เด็กคนนั้นมีแต่เพียงปลักขิกของหลวงปู่ทิมแขวนอยู่ที่เอว 1 อันเท่านั้น

    น้ำมนต์เดือด

    เมื่อราว พ.ศ.2511 ที่วัดตะพงนอก อ.เมือง จ.ระยอง ได้มีพิธีปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังหลวงพ่อจันทร์ เจ้าอาวาสวัดตะพงนอก ในพิธีนี้ได้นิมนต์เกจิอาจารย์มาหลายรูปด้วยกัน และหลวงปู่ทิมก็ได้รับนิมนต์ด้วย หลังจากเริ่มพิธีปลุกเสก หลวงพ่อต่างๆ ก็ได้ทำการปลุกเสก และในพิธีนี้ อาจารย์รัตน์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดได้นำโอ่งใส่น้ำมนต์มาตั้งไว้ และนิมนต์หลวงปู่ทิมทำการปลุกเสกน้ำมนต์องค์เดียวท่ามกลางพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ปรากฏว่าน้ำมนต์ที่อยู่ในโอ่งใหญ่ครึ่งโอ่งพอหลวงปู่ลงมือปลุกเสกน้ำได้เดือดและค่อยๆ ทวีความสูงขึ้นท่ามกลางความอัศสสจรรย์ของผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอ่างมาก ปรากฏว่าหลวงจากพิธีแล้ว น้ำมนต์ได้ถูกชาวบ้านแย่งเอาไปจนหมดสิ้น

    แคล้วคลาด

    นายจำลองแห่งร้านทวีทรัพย์ ได้ชวนนายเพียรวิทย์ จารุสถิติ นายนิวัฒน์ ร้านรุ่งเรืองมิตร ได้ไปหาหลวงปู่ทิมเพื่อนมัสการท่าน ขากลับได้บูชาเหรียญ รูปถ่ายและปลักขิก กลับมาได้ครึ่งทางนายนิวัฒน์จึงชวนนายจำลองเพื่อขอลองของ ทั้ง 3 ก็ได้ทำการทดลองโดยทั้ง 3 นำเอาเครื่องรางดังกล่าวอาราธนาแล้วแขวนกิ่งต้นไม้ นายจำลองได้ใช้ปืน .22 ยิงในระยะห่างกันประมาณ 1 คืบ ปรากฏว่ายิงไม่ถูก นายนิวัฒน์จึงขอยิงบ้าง จ่อยิงปรากฏว่าไม่ถูกอีกเช่นกัน ทั้งคู่บอกว่าถ้าระยะนี้ยิงไม่ถูกก็ไม่ต้องใช้ปืนแล้ว เพราะทั้งคู่เป็นผู้ที่สนใจปืนอยู่แล้ว

    ถ่ายรูปหลวงปู่ไม่ติดถ้าไม่ขออนุญาต

    เมื่อคราวปลุกเสกของที่วัดพลา จังหวัดระยอง หลวงปู่ได้รับนิมนต์ไปนั่งปลุกเสกด้วย มีช่าวภาพหนังสือพิมพ์ไปถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาตจากหลวงปู่ก่อนปรากฏว่า กดชัตเตอร์เท่าไรๆ ชัตเตอร์ก็ไม่ทำงาน แต่พอนึกได้เข้าไปขออนุญาตก็ติดและได้ภาพที่ชัดเจนดี

    เสกตะกรุดใต้น้ำ

    คุณป้าอยู่ งามศรี บ้านอยู่ใกล้ๆ วัดละหารไร่และเป็นหลานของหลวงปู่ทิมได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยหลวงปู่ทิมอายุประมาณ 60-70 ปี เวลาท่านทำตะกรุดท่านจะลงไปทำใต้น้ำโดยถือตะกรุดแล้วเดินลุยน้ำลงไปจากศาลาหน้าวัด มีผู้เห็นกันหลายคน เมื่อหลวงปู่ทิมทำตะกรุดเสร็จเดินลุยน้ำขึ้นมาทุกคนประหลาดใจ เพราะเนื้อตัวและจีวรของหลวงปู่ทิมหาได้เปียกน้ำไม่

    เสกตะกรุดลอย

    ท่านอาจารย์รัตน์ เจ้าอาวาสวัดหนองกระบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยองเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ทิมเป็นพระที่มีพลังจิตกล้าแข็งมากสามารถเสกจนตะกรุดลอยได้ ท่านเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งได้นิมมนต์พระอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดระยองมา 4 รูปด้วยกัน มีหลวงพ่อหอม หลวงพ่ออ่ำ หลวงพ่อชื่น และหลวงปู่ทิม ให้หลวงพ่อที่มาทั้ง 4 รูปนำตะกรุดสาริกามาด้วย แล้วนำลงใส่บาตรให้หลวงพ่อทั้ง 4 องค์นั่งล้อมรอบบาตร และขอให้ท่านทุกองค์เรียกตะกรุดให้ลอยขึ้นจากบาตร หลวงพ่อหอม เป็นผู้เรียกก่อนโดยนั่งบริกรรมอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมา จากนั้นหลวงพ่ออ่ำ และหลวงพ่อชื่อก็ได้นั่งบริกรรมทำนองเดียวกัน ตะกรุดก็ไม่ยอมลอยขึ้น จนถึงองค์สุดท้ายคือหลวงปู่ทิม ท่านนั่งบริกรรมอยู่สักครู่ก็ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมาจากก้นบาตร หลวงพ่อหอมและเจ้าอาวาสวัดหนองกระบอกเห็นเช่นนั้นก็ตกใจแลบอกว่า ขอให้ช่วยทำให้วิ่งรอบบาตรด้วย หลวงปู่ทิมก็นั่งหลับตาภาวนา ตะกรุดก็วิ่งอยู่รอบๆ บาตรท่ามกลางความตื่นตะลึงของพระสงฆ์ทุกองค์ และเรื่องนี้ได้เป็นที่โจษขานกันทั่วไปในจังหวัดระยอง

    อำนาจจิตอันกล้าแข็งของหลวงปู่ทิม

    แม้แต่เครื่องปั่นไฟท่านก็สามารถบังคับให้หยุดได้โดยไม่ทราบสาเหตุ คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วัดละหารไร่มีลิเกมาเล่น พอลิเกกำลังจะออกแขกก็ปรากฏว่าไฟฟ้าดับพรึบลง พอแขกเข้าโรงไฟฟ้าก็สว่างขึ้นเป็นอย่างนี้ถึง 3ครั้ง จนต้องมีคนเตือนคณะลิเกให้ไปขออนุญาตหลวงปู่ทิมเสียก่อน เมื่อไปขออนุญาตแล้วก็ปรากฏว่าไฟฟ้าที่เคยปิดๆ ดับๆ ก็ติดสว่างตลอดทั้งคืน

    หลวงปู่ทิมเป็นพระที่สร้างของยาก

    มีผู้ไปขอสร้างของเสมอ แต่ถูกปฏิเสธไปเกือบทุกราย ท่านบอกว่าท่านไม่เก่ง แต่นับเป็นการประหลาดมากเมื่อครั้งที่คุณชินพร สุขสถิตย์ บรรณาธิการหนังสืออภินิหารและพระเครื่องไปกราบนมัสการและขออนุญาตท่านสร้างพระเครื่องเพื่อหารายได้สร้างศาลาการเปรียญท่านอนุญาตให้โดยดี ทั้งๆ ที่ตัวผู้ขอสร้างเองยังหนักใจเรื่องทุนที่จะนำมาลงทุนสร้างซึ่งต้องใช้เงินหลายแสนเพราะมีการหล่อพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พราะสังกัจจัยและพระปิดตาถึง 4 รายการด้วยกัน แต่หลวงปู่ทิม ท่านบอกว่า "ทำไปเถิดและจะสำเร็จเอง" ถึงปรากฏเป็นเรื่องจริงขึ้น บรรดาทุนรอนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะต้องจ่ายให้ช่างหล่อกันก็มีลู่ทางและได้มาอย่างไม่น่าเชื่อในการสร้างพระเครื่องครั้งนี้ หลวงปู่ทิมท่านพูดว่า "เป็นการสร้างของลูกศิษย์แท้ๆ และเงินทองจะไหลมาเทมา" หลวงปู่ทิมจึงอนุญาตให้คุณชินพรและคุณอารมย์ ทับสุวรรณ ครอบครูเป็นศิษย์ของท่านได้ทั้งๆ การจะครอบครูเป็นศิษย์โดยตรงของหลวงปู่ทิมนั้นนับว่ายากมาก ศิษย์ที่จะได้รับครอบครูต้องปรนนิบัติรับใช้เป็นเวลาหลายๆ ปีจึงจะครอบครูให้


    เรื่องจากคุณธงชัย อุดมความสุข

    ตะกรุด 3 กษัตริย์

    นับเป็นยอดตะกรุดมหานิทรา ยิงไม่ออก ถ้านำไปแขวนไว้ที่เสาหมอจะสะกดคนในบ้านให้หลับไหลหมด ขึ้นหยิบทรัพย์สินได้และดูเหมือนจะประสบกับโยมวัดผู้หนึ่ง เสียของเกือบหมดบ้านเพราะนอนไมรู้สึกตัวเลย เนื่องจากเอาตะกรุด 3 กษัตริย์ไปแขนไว้ที่เสาหมอกลางบ้าน หลวงปู่ทิมทราบเรื่องจึงไม่คิดจะทำอีก

    อาของผู้เขียนเล่าให้ฟังว่านางเอี้ยน เกสารัตน์ เสมียนประจำสำนักงานสหกรณ์ระยองไปขอตะกรุด 3 กษัตริย์จากหลวงปู่ทิม พอได้มาก็เอากลัดไว้กับเสื้ออย่างมั่นคง พอลากลับหลวงปู่ทิมถามว่าตะกรุดยังอยู่ดีหรือ? นางเอี้ยนก็ตอบว่าอยู่ค่ะ หลวงปู่หัวเราะแบมือให้ดู ปรากฏว่าตะกรุดอยู่ในมือหลวงปู่ทิม นายเอี้ยนหันมาดูที่เสื้อไม่พบตะกรุดก็ตกใจ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าหลวงปู่ทิมทราบดีว่านางเอี้ยนไม่ค่อยเชื่อถือท่านเท่าใดนัก จึงลองให้ดู ตะกรุด 3 กษัตริย์ของท่านนี้เล่ากันว่าเอาปืนยิงใส่บ้านยังไม่ออกเลย ไปยิงลิงยิงค่างถ้าเอาตะกรุดไปด้วยก็จะทำให้ยิงไม่ออกเช่นกัน


    เรื่องจากคุณชินพร สุขสถิตย์

    ปลาของหลวงปู่ทิม

    ช่างมงคล นาคแทน ผู้รับเหมาสร้างโบสถ์และศาลาการเปรียญได้เล่าให้ผมฟังว่า มีอยู่วันหนึ่งคุณมงคลได้มาที่วัดเพื่อควบคุมงานก่อสร้าง หลวงปู่ได้เรียกเข้าไปหาและสั่งว่าได้ขอร้องไม่ให้ลูกน้องไปยุ่งเกี่ยวกับปลาในสระแล้วทำไมลูกน้องจึงเข้าไปยุ่งอีก ขอให้ช่วยไปตักเตือนสั่งสอนด้วย คุณมงคลได้ยินดังนั้นก็ตกใจ เพราะหลวงปู่ได้สั่งไว้หลายหนแล้วว่าให้กำชับคนงานอย่าให้ไปยุ่งกับปลาในสระน้ำ คุณมงคลจึงกลับไปที่พักคนงานและเรียกลูกน้องมาด่าทุกคน แล้วถามว่าใครไปจับปลาของหลวงปู่ ซึ่งทุกคนปฏิเสธ คุณมงคลจึงไปหาหลวงปู่อีกและออกรับแทนลูกน้องว่า ไมมีลูกน้องคนใดไปยุ่งเกี่ยวกับปลาของหลวงปู่เลย หลวงปู่ทิมจึงว่า "ไอ้คนดำมืดยังไง" คุณมงคลก็กลับไปใหม่ และไปเรียกนายดำซึ่งมีผิวกายดำมะเมื่อมอยู่คนเดียวมา และบอกว่า "หลวงปู่บอกว่าลื้อไปจับปลาของท่านมาจริงหรือเปล่า" นายดำได้ยินก็ตกใจพูดกับช่างมงคลว่า "ท่านรู้ได้อย่างไรก็ผมไปแอบจับตอนตี 1 แล้วนี่ครับ

    เกี่ยวกับปลานี้

    คุณเพรียรวิทย์ จารุสถิติศิษย์ก้นกุฏิของท่านเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อถึงวันดีคืนดี หลวงปู่จะเดินลุยน้ำลงไปในสระ คลี่ชายจีวรออก จับกางสองมือแล้วช้อนปลาเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง มีปลาเข้ามาขังอยู่ที่ชายจีวรแน่นไปหมด คุณเพียรวิทย์บอกว่าหลวงปู่ใช้มนต์จินดามณีเรียกปลามาหา

    เรื่องจากคุณ พ.เด็กวัด..หลวงปู่ทิมของผม

    สมัยที่หลวงปู่ทิมเดินจงกรม ท่านกำหนดจิตยกมือพนมเหนืออก ข้อศอกคู้แนบติดกับลำตัวย่างเท้าก้าวเดินอยางช้าๆ กำหนดเดินไปข้างหน้าเก้าสิบเก้าก้าว และกันหลังกลับถอยไปอีกเก้าสิบเก้าก้าว บริเวณที่หลวงปู่ทิมเดินจงกรม บริเวณที่เดินจงกรมนี้ต้นหญ้าไม่กล้างอกขึ้นมา แต่แปลกที่สุด ไม่ว่าพวกมดหรือสัตว์สี่เท้าใดๆ ไม่กล้าเดินผ่านบริเวณนั้น จะต้องเดินอ้อมพ้นเขตบริเวณจงกรม

    คาถาของหลวงปู่ทิม

    "มะอะอุ ทุกขัง อนิจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ"
    หลวงปู่ทิมท่านว่าเป็นคาถาที่ดีและก็สั้น และพุทธคุณของคาถาบทนี้ก็สูงมากอยู่ที่คนปฏิบัติ ท่านยังกรุณาเล่าให้ฟังว่า มีใครคนหนึ่งที่อยู่ตลาดมาปรับทุกข์ให้ท่านฟังว่า ขายของก็ไม่ดีทะเลาะกับเมีอยู่ที่บ้านแทบทุกวัน ญาติพี่น้องต่างเกลียดชัง อยากจะขอคาถาให้เขารัก หลวงปู่จึงให้คาถาบทนี้ไป ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้ ชายผู้นั้นมีความสุขแล้ว จะไปไหนเมียก็ตามไปด้วย ญาติพี่น้องก็รักใครกันดี ผู้เขียนจึงมั่นใจว่าพุทธานุภาพในคาถาบทนี้จะประสบผลสำหรับผู้ที่ปฏิบัติเป็นประจำสม่ำเสมอ ถ้าผู้ใดได้รับคาถานี้ไป ขอให้นึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และคุณหลวงปู่ทิมเป็นที่ตั้งทุกอย่างก็จะอำนวยโชคพอสมควรกับบุญกรรมของบุคคลนั้น

    พัดโบกหลวงปู่ทิม

    ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2517 ได้เกิดน้ำป่าไหลท่วมบริเวณวัด ขณะนั้นหลวงปู่ทิมนั่งฟังเสียงน้ำหลากอยู่หน้าห้องของท่านพลันลุกขึ้นเข้าห้องหยิบผ้ายันต์ผืนสี่เหลี่ยม ถือเดินออกไปยังหอฉันเก่า ซึ่งผู้เขียนเกรงว่าจะถูกน้ำพัดพาไปด้วย หลวงปู่ท่านยืนเสกผ้าผืนนั้นซักอึดใจหนึ่งท่านก็โยดผ้าผืนนั้นลงไปตามกระแสน้ำ ผ้าผืนนั้นก็ลอยไปตามน้ำอย่างรวดเร็วท่ามกล่างคนงานที่ได้ช่วยกันเก็บเครื่องครัวอยู่บนวัดโดยไม่ทราบว่าหลวงปู่ได้ทำอะไร สักครู่หนึ่งทุกคนต่างตะลึงได้เห็นผ้าผื้นนั้นไหลทวนน้ำขึ้นมาหาหลวงปู่โดยหอบเอาอะไรมาสิ่งหนึ่ง หลวง ปู่ได้หยิบผ้าผืนนั้น ปรากฏมีลูกไก่เล็กๆ สีขาวคู่หนึ่งอยู่ในอุ้งมือ ท่านเอามือลูบไล้ไปที่ลูกไก่สีขาวคู่นี้ด้วยความปราณีอย่างเมตตา



    บัตรการันตีจากสถาบันที่เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ท่านใดที่มีความต้องการ ลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม/เม็ดประคำผงพราย/ตะกรุดสาริกา

    วันนี้เรามาคุยกันเรื่องของลูกอมผงพรายของหลวงปู่ทิมกันสักหน่อยนะครับ

    ได้มีเพื่อนๆหลายต่อหลายท่านได้โทรมาพูดคุยกับผมและขอความรู้ในเรื่องต่างที่เกี่ยวกับ "ลูกอมผงพราย" ว่าทำไมลูกอมผงพรายนั้นจึงมีหลายๆท่านได้นำเสนอในการบูชามากมายหลายราคามีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักพันต้นๆและหลักหมื่นซึ่งทำให้การตัดสินใจที่จะบูชาไม่รู้จะบูชาแบบไหนกันดี

    อันนี้ผมขอแจงอธิบายดังนี้ครับ

    ลูกอมหลวงปู่ทิม (ผงพรายกุมาร) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าเป็นผงพรายที่มีพุทธคุณสูงที่สุดของเมื่องไทย มารตฐานในการเล่นหาจะมีไม่กี่นิดครับ บอร์นฝุ่น บอร์นน้ำมัน และลูกอมยุดแรกๆและต้องออกจากวัดระหารไร่เท่านั้นในปี 17/18 ครับ ค่านิยมที่ผมกล่าวถึงนี้จะเล่นหากันในราคาที่สูงครับ และเนื้อผงพรายนั้นนั้นจะเป็นชนิดเดียวกันกับขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ซึ่งมีค่านิยมสูงถึงหลักหลายๆแสนบาทในปัจจุบัน

    ส่วนลูกอมผงพรายอีกชนิดหนึ่งที่มีออกมามากๆในปัจจุบันนั้น ผู้ที่ให้บูชาอาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจอันนี้ผมมิทราบครับ โดยไม่ได้บอกที่มาว่าเป็นลูกอมหลวงปู่ทิมแบบใหน แบบมาตรฐานเล่นหา หรือ แบบลูกอมที่ออกมายุดหลังออกมาหลายๆวัดมากๆโดยที่ได้ทำเรื่องของผงพรายกุมารมาจากวัดหลวงปู่ทิมซึ่งทางมูลนิธิหลวงปู่ก็ได้จัดให้ไปทุกๆวัดที่มีความประสงค์ที่จะนำไปเป็นส่วนประสมการการทำลูกอมผงพรายของวัดนั้นๆ จากที่ผมทราบมานะครับจะจัดให้ไปประมาณตลับยาหม่องเท่านั้นครับ ทั้งทางแทบระยองและจังหวัดต่างๆทั่วประเทศและจะมีบางวัดนะครับที่ได้หลวงปู่ไปรวมในการปลุกเสกด้วย เมื่อทำพิธีปลุกเสกเสร็จแล้วก็เรียกกันว่า "ลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม"

    ดังนั้นจึงปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นของแท้ ผมก็ว่าแท้ครับ ไม่เคยว่าไม่แท้เลยสักครั้ง ผมจึงขอทำความเข้าใจว่า "คำว่ามาตรฐานในการเล่นหา" แตกต่างกันครับ


    ขอบคุณมากครับ


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ลูกนี้เลยครับ ใหญ่ที่สุด ตั้งแต่นำมาให้กันครับ ศ.ก 2.7 ซ.ม


    ใหญ่/ฝังตะกรุด/เส้นเกษา เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.7 ซ.ม

    ลูกนี้ผมออกทั่วไปตามปกติอย่างไรก็หลักหมื่นครับ

    รับรองครับไม่มีพวกฝากมาให้ต่อยอดแน่นอนครับ

    แต่โปโมชั่น ได้เท่าไรก็ส่งมอบเท่านั้นครับ "มิตรไมตรี"


    เปิดประมูลตามสัญญาเริ่มแรกที่ 13 บาท

    บิดขึ้นครั้งละเท่าไรก็ได้ครับ ไม่มีการประมูลเองแน่นอนครับ

    ปิดประมูลวันจันทร์ที่ 7/03/54 เวลา 20.13 น.

    ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011
  17. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,474
    ค่าพลัง:
    +1,852
    ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้าร่วมประมูล

    1. arjarhnnop 913 บาทครับ......

    2. คนกรุงศรี ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม

    ร่วมด้วยครับจัดไปที่เลขสวย 1313 บาทครับ (สวยชอบๆๆครับ)

    3. Na_mo_ น้องใหม่ขอร่วมแจมครับ
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 1515 บาทครับ

    4. ongvip ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 2013 บาทครับ

    5. lonkpop ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 2400 บาทครับ

    6. atha ลูกอมผงพรายกุมาร 2,613 บาทครับ

    7. เมื่อวานนี้ 11:39 PM
    loongtow ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 2713 บาท ครับ

    8. เมื่อวานนี้ 11:49 PM
    มงคลบุตร ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 2,813 บาท ครับ

    9. devil_win0 ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 3113 ครับ

    10. วันนี้ 12:09 AM
    มงคลบุตร ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 3,213 ครับ

    11. วันนี้ 12:26 AM
    devil_win0 ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 3,456 ครับ

    12. วันนี้ 12:37 AM
    loongtow ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม 3555 บาท

    13. วันนี้ 01:13 AM
    มงคลบุตร ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นเกสาหลวงปู่ทิม 3,600 ครับ

    14. วันนี้ 01:30 AM
    OJET'S ลูกอมผงพราย 3800 ครับ ... ร่วมด้วยครับหลังจากหายไปนาน ; ]

    15. 13. วันนี้ 07:27 AM
    มงคลบุตร ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นเกสาหลวงปู่ทิม 3,900 ครับ

    ขอบพระคุณทุกๆท่านเป็นอย่างยิ่งครับกรุณามาร่วมให้กำลังในการประมูล

    ตอนนี้สุงสุดที่ 3900 บาทครับ ขอบพระคุณมากครับ




    ตะกรุดทองคำแท้ ยาว 3.5 ซ.ม หลวงปู่ญาท่านสวน สุงสุดที่ 4613 ท่าน ongvip
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011
  18. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,474
    ค่าพลัง:
    +1,852
    รายการที่ 1. ปิดวันเสาร์ที่ 5/03/54 เวลา 20.13 .


    [​IMG]


    มณีโชติแก้ว มหานิลดวงประเสริฐ

    บ่ มีคำห่อหุ้ม มณีแก้วกะเล่าจาง

    (คนเราแม้จะมีหน้าตาดีเพียงใด หากไม่มีศีลธรรมก็ไม่มีค่ามากมาย เหมือนกับแหวนที่ไม่มีหัวย่อมมีค่าน้อย)

    ถ้าเราหมุนเข็มนาฬิกาย้อนหลังไปสักยี่สิบปี ยุคสมัยนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อเสียงของ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” แห่งวัดบ้านไร่ โด่งดังที่สุดในเมืองไทย เรียกได้ว่าถนนทุกสายล้วนมุ่งตรงสู่วัดบ้านไร่..

    มีชาวบ้านคณะหนึ่งตั้งใจที่จะไปกราบหลวงพ่อคูณ เมื่อไปถึงหลวงพ่อคูณท่านได้เอ่ยปากถามว่า พวกเขาเหล่านั้นมาจากที่ไหน และเมื่อท่านได้ทราบว่าชาวบ้านคณะนี้มาจากอำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี ท่านจึงพูดขึ้นว่า..

    “พวกเอ็งไม่ต้องมาหากูดอก อยู่ที่ตาลสุมก็มีหลวงปู่สวน พี่กูอยู่ทางโน้นเก่งกว่ากูอีก รู้จักมั๊ย หลวงปู่สวน...”

    เล่ากันว่าสิ้นคำพูดของหลวงพ่อคูณ ทำเอาชาวบ้านคณะนั้นต่างมองหน้ากันอย่างงงๆ และพากันสงสัยว่า ทั้งหลวงพ่อคูณและหลวงปู่สวนต่างรู้จักกันได้อย่างไร ซึ่งถ้าว่ากันตามความจริงแล้วการที่หลวงปู่ญาท่านสวนจะรู้จักหลวงพ่อคูณก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะชื่อเสียงและกิติคุณของหลวงพ่อคูณนั้นเป็นที่รู้จักและกล่าวถึงกันอย่างกว้างขวาง

    แต่ที่ทุกคนสงสัยคือ “หลวงพ่อคูณ ท่านรู้จักหลวงปู่ญาท่านสวนได้อย่างไร....”

    เพราะช่วงเวลานั้นวัดของหลวงปู่ญาท่านสวนอยู่ห่างไกลมาก ขนาดคนอุบลยังต้องถอนหายใจเมื่อเอ่ยถึง ที่สำคัญคือหลวงปู่ญาท่านสวน ท่านก็ยังไม่ได้มีชื่อเสียงเป็นเพียงพระภิกษุมากอายุธรรมดาองค์หนึ่งเท่านั้น ต่อเนื่องในเรื่องเดียวกัน เมื่อมีโอกาสลูกศิษย์ของหลวงปู่ญาท่านสวนได้ถามเรื่องนี้กับท่านว่า

    “ผมทราบข่าวว่ามีชาวบ้านเดินทางไปกราบหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่วัดบ้านไร่ พอหลวงพ่อคูณท่านทราบว่าชาวบ้านมาจากอำเภอตาลสุม ท่านเลยไล่ให้กลับมาหาหลวงปู่ จริงหรือเปล่าครับ”

    หลวงปู่ญาท่านสวนได้เมตตาตอบกับเขาว่ามีชาวบ้านมาเล่าให้ท่านฟังเหมือนกัน และเมื่อลูกศิษย์ท่านนี้สอบถามต่อก็ได้ความว่าหลวงปู่ญาท่านสวน ไม่เคยรู้จักหลวงพ่อคูณมาก่อน ตลอดจนทั้งสององค์นี้ก็ไม่เคยเจอหน้ากันด้วย ลูกศิษย์จึงได้พูดในทำนองกระเซ้าว่า...

    “งั้นหลวงปู่ก็คงรู้จักกันทางโทรจิตสิครับ”

    สิ้นคำกระเซ้า หลวงปู่นิ่งเงียบ ไม่ตอบได้แต่อมยิ้ม…

    ครับเรื่องแบบนี้อธิบายยาก เมื่อไม่มีคำตอบ ทำให้หลายต่อหลายคนต่างเดินหน้าค้นหาคำตอบต่อไป ขณะที่อีกหลายคนกลับเชื่อว่า

    “การไม่มีคำตอบนั่นแหละคือคำตอบ"

    เมื่อคราวที่หลวงปู่ญาท่านสวนได้รับนิมนต์ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม..

    เมื่อถึงกำหนดเวลาเจ้าหน้าที่ได้เข้ามากราบนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ทุกรูปเพื่อเข้าพิธี โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินนำหลวงปู่เข้าไปในพระอุโบสถ พระรูปที่สองที่เดินตามมาคือ “หลวงปู่ทิม อัตตสันโต” แห่งวัดพระขาว เมื่อหลวงปู่ญาท่านสวน เดินไปถึงอาสนะสำหรับพระที่มาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก

    เจ้าหน้าที่ได้กราบนิมนต์ท่านขึ้นนั่งหัวแถวรูปแรก แต่ท่านไม่ยอมขึ้นและหยุดยืนรอหลวงปู่ทิมที่เดินตามมา เมื่อหลวงปู่ทิมได้เดินมาถึง หลวงปู่ญาท่านสวนจึงได้นิมนต์ให้หลวงปู่ทิมขึ้นนั่งหัวแถวก่อน

    เล่ากันว่าหลวงปู่ทิมท่านก็ไม่ยอมขึ้นและนิมนต์ให้หลวงปู่ญาท่านสวนขึ้นนั่งก่อน หลวงปู่ทั้งสองใช้ “รอยยิ้มและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน” แทนคำนิมนต์ ในที่สุดหลวงปู่ญาท่านสวนท่านจึงจำใจขึ้นนั่งหัวแถวและก็ตามด้วยหลวงปู่ทิม...

    ต่อมาลูกศิษย์หลวงปู่ทิม ได้เล่าให้ลูกศิษย์ของหลวงปู่ญาท่านสวนที่มาในวันนั้นฟังว่า.....วันนั้นตนเองได้ติดตามหลวงปู่ทิมไปด้วยและได้กราบนมัสการถามหลวงปู่ทิมหลังจากเสร็จพิธีแล้วว่า

    “ทำไมหลวงปู่ไม่ขึ้นไปนั่งก่อน และทำไมถึงให้หลวงปู่รูปนั้นขึ้นไปนั่งก่อน”

    หลวงปู่ทิมท่านเมตตาตอบลูกศิษย์ของท่านว่า

    “ก็ท่านเป็นพระอรหันต์ ก็ต้องให้ท่านขึ้นก่อนสิ...”

    จากนั้นศิษย์ผู้นี้จึงได้ทราบชื่อของหลวงปู่รูปนั้นว่า

    “ท่านพระครูอาทรพัฒนคุณ” หรือ “หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร” แห่ง “วัดนาอุดม อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี

    สำเร็จลุน ถือว่าเป็นพระปรมาจารย์ผู้ทรงอภิญญาและมีกฤษดาอภินิหารมากมาย เป็นที่เลื่องลือในแถบลุ่มแม่น้ำโขง...เทียบเคียงกับ “หลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า” ครับ ส่วนที่แตกต่างคงเป็นที่หลวงปู่ศุข เป็นพระเมืองไทย ส่วนสำเร็จลุน เป็นพระเมืองลาวและคำว่า “สำเร็จ” มาจากธรรมเนียมของคนลาวที่ใช้เรียกพระภิกษุที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบครับ

    เล่ากันว่ามีคนเคยเห็นสำเร็จลุนยืนสรงน้ำกลางแม่น้ำโขง ความเก่งกาจของท่านขนาดสามารถบังคับให้เรือรบของทหารฝรั่งเศสหยุดได้และเมื่อครั้งที่ทหารฝรั่งเศสให้คนมานิมนต์ท่านลงไปในเรือรบ แต่ท่านบอกว่าไม่อยากลงเพราะกลัวเรือจะล่ม แต่ก็ไม่มีใครเชื่อท่าน สำเร็จลุนท่านจึงได้ก้าวเท้าขึ้นไปเหยียบปรากฏว่าเรือรบเอียงวูบทันทีจนเกือบจะล่ม เรียกว่าไม่มีใครกล้าคะยั้นคะยอให้ท่านลงเรือรบอีกเลย

    และมีอยู่คราวหนึ่งท่านสำเร็จลุนได้บอกให้ลูกศิษย์ของท่านไปปอกมะละกอและหาเครื่องตำส้มตำเอาไว้ ส่วนตัวท่านเองจะไปเอาน้ำปลาจากกรุงเทพมาให้ ปรากฏว่าท่านเดินคล้อยหลังไปแป๊ปเดียว ก็เดินกลับมาพร้อมกับถือเอาขวดน้ำปลายี่ห้อแปลกๆที่ไม่เคยมีในแถบนี้มาก่อน...

    จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องแปลกนะครับ เพราะมีบางคนคิดว่า “สำเร็จลุน” ท่านก็คือพระองค์เดียวกับ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างที่หลายๆคนคิด





    หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทะโร ตะกรุดทองคำแท้ๆ ๙๐% ยาว 3.5 ซ.ม

    หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทะโร ตะกรุดทองคำแท้ๆ ๙๐% ยาว 3.5 ซ.ม เป็นลายมือจารแท้ๆของท่านสวน หลวงปู่ญาท่านสวนจารเอง "ทั้งหมด ๙ แผ่น" ท่านที่เคยเห็นรอยจารของท่านย่อมรู้ว่าใช่เพราะก่อนที่ท่านจะทำการม้วนได้ถ่ายรูปลายมือท่านไว้ครับ ทองแท้ของแท้การันตี "พลังชาตรี 13"

    ดูภาพขยายใหญ่กดที่รูปภาพนะครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    เปิดประมูลเริ่มแรกที่ 4513 บาท ราคาทองก็ได้แล้วครับแบ่งกันจ้า

    บิดขึ้นครั้งละเท่าไรก็ได้ครับ

    ปิดประมูลวันเสาร์ที่ 5/03/54 เวลา 20.13 น.

    ขอบพระคุณครับ



    ตะกรุดทองคำแท้ หลวงปู่ญาท่านสวน

    ขอบพระคุณมากครับคุณอ๋อง กรุณาเปิดให้ที่ 4613 บาท

    .......................................................................................



    รายการที่ 2. ปิดประมูลวันจันทร์ที่ 7/03/54 เวลา 20.13 น.


    ครบแล้วครับ 913 ท่าน เลขรวมกันก็ 13

    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 9 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
    พลังชาตรี 13

    สมาชิกที่ได้อ่านกระทู้นี้แล้ว : 913 (Set) (View-All)

    ตามคำสัญญาครับ สมาชิกที่ได้อ่านกระทู้นี้แล้วครบจำนวน 913 คน

    ขอวันที่ 4/3/54 ในเวลา 13.24 นาที

    ขอเปิดลูกอมผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม 1 ลูกครับ 1 ไดไป 3 เลยครับ

    ขอบพระคุณมากครับ


    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นพระเกษาหลวงปู่ทิม

    ลูกใหญ่ๆครับใหญ่กว่าไข่นกกระทา


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ลูกนี้เลยครับ ใหญ่ที่สุด ตั้งแต่นำมาให้กันครับ


    [​IMG]


    [​IMG]


    พระผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม ของดีที่ใครก็อยากได้ไว้บูชา บางท่านมีแล้วก็อยากมีอีกหลายคนคงรู้สึกว่า * แพง * แพงสุดๆ ราคาขึ้นทุกพิมพ์ทุกอย่างทุกเวลา ต่อไปก็คงหมดสิทธิ์ที่จะได้บูชา ผมจึงอยากแนะนำให้หา ลูกอมผงพรายผงพราย - ลูกประคำผงพรายกุมาร - ตะกรุดสาริกา (เป็นตะกรุดที่ฝังหลังพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่)
    สามชิ้นที่ต้องหา มาแขวนบูชากันครับ ราคาเบากว่ากันมากครับ ตามจริงแล้วลูกอมกลมๆที่ปั้นเป็นลูกกลมนั้นเพื่อที่นำมากดเป็นพระพิมพ์ขุนแผนลูกใหญ่ก็พิมพ์ใหญ่เล็กก็เป็นพิมพ์เล็กครับ ลูกที่กดกดไม่ทันก็จะแข็งนำไปกดพิมพ์ไม่ได้ก็กลายมาเป็น "ลูกอมผงพรายมหาภูติและลูกประคำ"

    การสร้างลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม ท่านศึกษาตำราที่ตกทอดมาจากหลวงพ่อสังฆ์เฒ่า ซึ่งเป็นปู่แท้ๆ ของท่าน ผงพรายกุมารมหาภูติ สร้างจาก กะโหลกเด็กชาย ผีตายท้องกลม ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร โดยลูกศิษย์ที่หลวงปู่ครอบครูให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจะไปสืบหาตามที่หลวงปู่บอกมา โดยที่มิได้กำหนดเวลามาก่อน ศพผีตายท้องกลมศพเด็ก พอได้ข่าวก็จะไปขอกับญาติศพเพื่อที่จะนำมาให้หลวงปู่ทำพิธีขอขมา และสะกดวิญญาณ หลังจากนั้นก็กำชับกับศิษย์ว่า อย่าเผาให้หมด เพื่อจะเก็บเอากะโหลกเด็ก ไปให้หลวงปู่ สร้างพระ เครื่องรางที่ท่านปลุกเสก มีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขานเป็นที่สุด กล่าวกันว่าผู้ใดได้ครอบครองบูชา ผงพรายกุมารนับว่าเป็นของวิเศษขั้นสูง จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ประสบการณ์มีมากมายโดยเฉพาะทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และโชคลาภ
    ไม่เป็นสองลองใคร

    พุทธคุณนั้นยอดเยี่ยมมากๆครับ รับรองว่าไม่แตกต่างอะไรกันเลยกับพระพิมพ์ขุนแผนบูชาหลักแสนและล้าน ผู้ที่มีลูกอมลูกประคำตะกรุดสาริกาไว้บูชาย่อมทราบกันดีทุกๆท่านว่าได้ผลตามที่ต้องการ สำหรับท่านที่มีอยู่แล้วยังอาราธนาไม่เป็น ท่านที่ยังไม่มีแต่คิดว่าต่อไปคงจะได้มาบ้างสักลูก และท่านที่นับถือหลวงปู่ มาลองดูกันครับ

    วิธีอาราธนาลูกอมผงพราย (จากปากหลวงปู่ทิม)

    มีคนถามหลวงปูว่า " ลูกอมนี่ดีอย่างไร "
    หลวงปู่ตอบว่า " ไม่อยากจะบอก ตามแต่จะใช้ นี่ทำดีที่สุดแล้ว

    "เวลานำติดตัวให้ว่า" นะโมฯ 3 จบ แล้วต่อด้วยคาถานี้

    @@ สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ อานุภาเวนะ ๆ ๆ จงอยู่ใต้พุทธบารมี @@

    ว่าดังนี้แล้วนำติดตัวไปลูกอมจะมีอิทธิฤทธิ์แรงและเห็นผลเร็วครับ แต่จงเชื่อมั่นในองค์หลวงปู่ทิมและ ลูกอมประคำผงพราย-ประคำมหาภูติ ที่เรามีอยู่ อย่าลังเลสงสัย อย่าไขว้เขวแล้วจะบังเกิดผลอย่างแน่นอน ถ้าท่านอยากจะขอพรอะไรควรขอ "หลังเที่ยงคืน"


    จากที่ผมประสพมา ท่านใดที่มีของหลวงปู่ทิมบูชาแล้ว ก็ยังไม่พอที่จะหาเก็บตลอดไปถึงแม้ว่าราคาบูชาจะสูงขึ้นเท่าไรก็ตาม ทำให้เห็นว่าบูชาแล้ว ล่ำรวย ไม่หยุดเช่นกัน หาบูชากันนะครับ ชิ้นเดียวก็พอ


    หากันเถอะครับ ไม่จำเป็นต้องของผมขอให้เป็นของแท้ๆก็พอ ก่อนที่ราคาบูชาจะทะลุ ไปมากกว่านี้

    ที่ผมก็ไม่มีแล้วหาเข้าเหมือนกันครับ มีแต่พวกสั่งมายังหาไม่ได้เลยครับ

    แนะนำครับ

    การเช่าหาควรจะศึกษาเสียก่อน ไปหาดูของแท้ก่อนที่ร้านมีมาตฐาน ผงพรายหลวงปู่ดูไม่ยากครับดูง่ายมากๆ
    "คำเตือน" อย่าโลภเห็นของถูกแล้วใจกลับเสียด่ายเงิน ของดีของถูกไม่มีหรอกครับ สู้เถอะครับของแท้ไม่แพง

    หลวงปู่ทิม เราท่านย่อมทราบกันดีว่าท่าน สำเร็จอภิญญา ชั้นสูง พระที่สำเร็จอภิญญาชั้นสูงนั้นการที่บรรจุพุทธคุณย่อมเป็นไปตามที่ท่านอธิฐานจิตใว้

    ซึ่งชุดที่ผมนำมาให้ชมนั้นจะมีอยู่ในที่ พิพิธภัณฑ์ หลวงปู่ทิม ครับ


    สร้อยประคำ 108 ที่ท่านเห็นในภาพพิพิธภัณฑ์นั้นก่อนที่บริจากมานั้นมีคนให้ราคาบูชากันอยู่หลัก ล้าน บาทแต่เจ้าของไม่ขายให้ แต่นำมาบริจากให้ลูกหลานไว้ศึกษา เป็นพระคุณยิ่งๆ

    ขอขอบพระคุณภาพต่างๆจากพิพิธภัณฑ์ หลวงปู่ทิม มาจากคุณ panda ขอบพระคุณครับ


    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]





    บารมีของหลวงปู่ทิม

    คัดลอกจากหนังสือที่ระลึก ฉลองหอฉัน และฉลองอายุครบ 8 รอบ
    พระครูภาวนาภิรัต (ทิม) วัดละหารไร่ ระยอง 10 มิ.ย.2518

    จากบันทึกของนายสาย แก้วสว่าง

    บิณฑบาตที่จ.ชลบุรี

    มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี อ.บางละมุง ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้ ได้มาเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อวานนี้ผมเห็นหลวงปู่ทิม ไปบิณฑบาตอยู่ที่เมืองชล ผมจำได้เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็นความจริง เพราะจำหลวงปู่ทิมได้ ผมก็ได้แต่นึกและก็ไม่กล้าตอบ แต่นึกว่าหลวงปู่ของเราจะเป็นไปได้หรือ ผมจึงเก็บเอาเนื้อความนี้ไว้แต่ในใจและก็คุยกันเรื่องอื่นต่อไป อยู่มาประมาณอีกสัก 10 กว่าวันก็มีคนเมืองชลมาเล่าให้ผมฟังอีก ก็เหมือนกับทีคนแรกเล่าให้ผมฟังทุกประการ ผมจึงลองถามหลวงตาที่เป็นขรัวรองอยู่ที่วัดดูและเล่าเรื่องราวให้ท่านฟัง ท่านตอบว่า อาตมาก็ไม่ทราบและไม่ได้สังเกตเพราะฉันจังหันต่างกัน แต่ก็ปรากฏท่านทีอาหารแปลกปะปนอยู่เสมอ แต่ก็อาจจะเป็นความจริงเพราะท่านเป็นพระที่สำเร็จญาณชั้นสูงอยู่แล้ว

    ยิงไม่ถูก

    มีชาวบ้านหนองละลอกคนหนึ่งชื่อ นายธง สุขเทศ หรือชาวบ้านละแวกนั้นมักเรียกว่า ปลัดธง บ้านอยู่ไม่ห่างจากบ้านผมเท่าไรนัก หลังจากที่ผมกลับจากทำงานก็อาบน้ำจวนจะทานอาหาร เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ปลัดผู้นี้ก็เริ่มจะทานอาหารเหมือนกัน หยิบจานอาหารมาวางและมีลูกสาวอยู่ใกล้ๆ ผมก็กำลังทานอาหารอยู่ที่บ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนระเบิดขึ้น 2 จังหวะ 4 นัด แล้ว 3 นัดติดต่อกัน ปรากฏภายหลังว่าผู้ยิงพาดปืนกับขอบสังกะสีรั้วบ้านระยะประมาณ 4 เมตร แต่กระสุนมิได้ถูกนายธงเลย มีกระสุนไปถูกขาตั้งรถจักรยานทำให้สะเก็ดบินไปโดนเด็กลูกสาวที่ขาบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้คงเป็นเพราะอภินิหารเหรีญหลวงปู่ทิมรุ่นแรกซึ่งนายธงแขวนคออยู่เพียงเหรียญเดียว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ยิงใช้ปืนคาบิ้น 2 กระบอกเพราะเก็บปลอกกระสุนได้แน่ชัด

    ยิงไม่เข้า

    มีคนเดินทางมาจากเมืองชลเล่าให้ผมฟังว่าเพื่อนของเขาถูกยิงตอนเวลาหลังอาหารด้วววยปืนลูกซองถึง 9 นัด เสื้อขาดทะลุถึงผิวหนังไหม้เกรียมแต่ไม่เข้า ทั้งนี้ก็เพราะเขาได้ปลักขิกหลวงปู่ทิมกับลูกอมมาแขวนไว้เพียงไม่กี่วัน และเรื่องเท่าที่ผมเห็นมาเกี่ยวกับปลักขิกก็คือหลานของผมถูกสุนัขกัดจนเสื้อออกางเกงขาดเป็นริ้วรอย ถึงกับล้มลงนอนร้องไห้ เมื่อผมวิ่งไปช่วยปรากฏว่าไม่มีรอยเขี้ยวสุนัขเลย เด็กคนนั้นมีแต่เพียงปลักขิกของหลวงปู่ทิมแขวนอยู่ที่เอว 1 อันเท่านั้น

    น้ำมนต์เดือด

    เมื่อราว พ.ศ.2511 ที่วัดตะพงนอก อ.เมือง จ.ระยอง ได้มีพิธีปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังหลวงพ่อจันทร์ เจ้าอาวาสวัดตะพงนอก ในพิธีนี้ได้นิมนต์เกจิอาจารย์มาหลายรูปด้วยกัน และหลวงปู่ทิมก็ได้รับนิมนต์ด้วย หลังจากเริ่มพิธีปลุกเสก หลวงพ่อต่างๆ ก็ได้ทำการปลุกเสก และในพิธีนี้ อาจารย์รัตน์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดได้นำโอ่งใส่น้ำมนต์มาตั้งไว้ และนิมนต์หลวงปู่ทิมทำการปลุกเสกน้ำมนต์องค์เดียวท่ามกลางพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ปรากฏว่าน้ำมนต์ที่อยู่ในโอ่งใหญ่ครึ่งโอ่งพอหลวงปู่ลงมือปลุกเสกน้ำได้เดือดและค่อยๆ ทวีความสูงขึ้นท่ามกลางความอัศสสจรรย์ของผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอ่างมาก ปรากฏว่าหลวงจากพิธีแล้ว น้ำมนต์ได้ถูกชาวบ้านแย่งเอาไปจนหมดสิ้น

    แคล้วคลาด

    นายจำลองแห่งร้านทวีทรัพย์ ได้ชวนนายเพียรวิทย์ จารุสถิติ นายนิวัฒน์ ร้านรุ่งเรืองมิตร ได้ไปหาหลวงปู่ทิมเพื่อนมัสการท่าน ขากลับได้บูชาเหรียญ รูปถ่ายและปลักขิก กลับมาได้ครึ่งทางนายนิวัฒน์จึงชวนนายจำลองเพื่อขอลองของ ทั้ง 3 ก็ได้ทำการทดลองโดยทั้ง 3 นำเอาเครื่องรางดังกล่าวอาราธนาแล้วแขวนกิ่งต้นไม้ นายจำลองได้ใช้ปืน .22 ยิงในระยะห่างกันประมาณ 1 คืบ ปรากฏว่ายิงไม่ถูก นายนิวัฒน์จึงขอยิงบ้าง จ่อยิงปรากฏว่าไม่ถูกอีกเช่นกัน ทั้งคู่บอกว่าถ้าระยะนี้ยิงไม่ถูกก็ไม่ต้องใช้ปืนแล้ว เพราะทั้งคู่เป็นผู้ที่สนใจปืนอยู่แล้ว

    ถ่ายรูปหลวงปู่ไม่ติดถ้าไม่ขออนุญาต

    เมื่อคราวปลุกเสกของที่วัดพลา จังหวัดระยอง หลวงปู่ได้รับนิมนต์ไปนั่งปลุกเสกด้วย มีช่าวภาพหนังสือพิมพ์ไปถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาตจากหลวงปู่ก่อนปรากฏว่า กดชัตเตอร์เท่าไรๆ ชัตเตอร์ก็ไม่ทำงาน แต่พอนึกได้เข้าไปขออนุญาตก็ติดและได้ภาพที่ชัดเจนดี

    เสกตะกรุดใต้น้ำ

    คุณป้าอยู่ งามศรี บ้านอยู่ใกล้ๆ วัดละหารไร่และเป็นหลานของหลวงปู่ทิมได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยหลวงปู่ทิมอายุประมาณ 60-70 ปี เวลาท่านทำตะกรุดท่านจะลงไปทำใต้น้ำโดยถือตะกรุดแล้วเดินลุยน้ำลงไปจากศาลาหน้าวัด มีผู้เห็นกันหลายคน เมื่อหลวงปู่ทิมทำตะกรุดเสร็จเดินลุยน้ำขึ้นมาทุกคนประหลาดใจ เพราะเนื้อตัวและจีวรของหลวงปู่ทิมหาได้เปียกน้ำไม่

    เสกตะกรุดลอย

    ท่านอาจารย์รัตน์ เจ้าอาวาสวัดหนองกระบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยองเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ทิมเป็นพระที่มีพลังจิตกล้าแข็งมากสามารถเสกจนตะกรุดลอยได้ ท่านเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งได้นิมมนต์พระอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดระยองมา 4 รูปด้วยกัน มีหลวงพ่อหอม หลวงพ่ออ่ำ หลวงพ่อชื่น และหลวงปู่ทิม ให้หลวงพ่อที่มาทั้ง 4 รูปนำตะกรุดสาริกามาด้วย แล้วนำลงใส่บาตรให้หลวงพ่อทั้ง 4 องค์นั่งล้อมรอบบาตร และขอให้ท่านทุกองค์เรียกตะกรุดให้ลอยขึ้นจากบาตร หลวงพ่อหอม เป็นผู้เรียกก่อนโดยนั่งบริกรรมอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมา จากนั้นหลวงพ่ออ่ำ และหลวงพ่อชื่อก็ได้นั่งบริกรรมทำนองเดียวกัน ตะกรุดก็ไม่ยอมลอยขึ้น จนถึงองค์สุดท้ายคือหลวงปู่ทิม ท่านนั่งบริกรรมอยู่สักครู่ก็ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมาจากก้นบาตร หลวงพ่อหอมและเจ้าอาวาสวัดหนองกระบอกเห็นเช่นนั้นก็ตกใจแลบอกว่า ขอให้ช่วยทำให้วิ่งรอบบาตรด้วย หลวงปู่ทิมก็นั่งหลับตาภาวนา ตะกรุดก็วิ่งอยู่รอบๆ บาตรท่ามกลางความตื่นตะลึงของพระสงฆ์ทุกองค์ และเรื่องนี้ได้เป็นที่โจษขานกันทั่วไปในจังหวัดระยอง

    อำนาจจิตอันกล้าแข็งของหลวงปู่ทิม

    แม้แต่เครื่องปั่นไฟท่านก็สามารถบังคับให้หยุดได้โดยไม่ทราบสาเหตุ คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วัดละหารไร่มีลิเกมาเล่น พอลิเกกำลังจะออกแขกก็ปรากฏว่าไฟฟ้าดับพรึบลง พอแขกเข้าโรงไฟฟ้าก็สว่างขึ้นเป็นอย่างนี้ถึง 3ครั้ง จนต้องมีคนเตือนคณะลิเกให้ไปขออนุญาตหลวงปู่ทิมเสียก่อน เมื่อไปขออนุญาตแล้วก็ปรากฏว่าไฟฟ้าที่เคยปิดๆ ดับๆ ก็ติดสว่างตลอดทั้งคืน

    หลวงปู่ทิมเป็นพระที่สร้างของยาก

    มีผู้ไปขอสร้างของเสมอ แต่ถูกปฏิเสธไปเกือบทุกราย ท่านบอกว่าท่านไม่เก่ง แต่นับเป็นการประหลาดมากเมื่อครั้งที่คุณชินพร สุขสถิตย์ บรรณาธิการหนังสืออภินิหารและพระเครื่องไปกราบนมัสการและขออนุญาตท่านสร้างพระเครื่องเพื่อหารายได้สร้างศาลาการเปรียญท่านอนุญาตให้โดยดี ทั้งๆ ที่ตัวผู้ขอสร้างเองยังหนักใจเรื่องทุนที่จะนำมาลงทุนสร้างซึ่งต้องใช้เงินหลายแสนเพราะมีการหล่อพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พราะสังกัจจัยและพระปิดตาถึง 4 รายการด้วยกัน แต่หลวงปู่ทิม ท่านบอกว่า "ทำไปเถิดและจะสำเร็จเอง" ถึงปรากฏเป็นเรื่องจริงขึ้น บรรดาทุนรอนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะต้องจ่ายให้ช่างหล่อกันก็มีลู่ทางและได้มาอย่างไม่น่าเชื่อในการสร้างพระเครื่องครั้งนี้ หลวงปู่ทิมท่านพูดว่า "เป็นการสร้างของลูกศิษย์แท้ๆ และเงินทองจะไหลมาเทมา" หลวงปู่ทิมจึงอนุญาตให้คุณชินพรและคุณอารมย์ ทับสุวรรณ ครอบครูเป็นศิษย์ของท่านได้ทั้งๆ การจะครอบครูเป็นศิษย์โดยตรงของหลวงปู่ทิมนั้นนับว่ายากมาก ศิษย์ที่จะได้รับครอบครูต้องปรนนิบัติรับใช้เป็นเวลาหลายๆ ปีจึงจะครอบครูให้


    เรื่องจากคุณธงชัย อุดมความสุข

    ตะกรุด 3 กษัตริย์

    นับเป็นยอดตะกรุดมหานิทรา ยิงไม่ออก ถ้านำไปแขวนไว้ที่เสาหมอจะสะกดคนในบ้านให้หลับไหลหมด ขึ้นหยิบทรัพย์สินได้และดูเหมือนจะประสบกับโยมวัดผู้หนึ่ง เสียของเกือบหมดบ้านเพราะนอนไมรู้สึกตัวเลย เนื่องจากเอาตะกรุด 3 กษัตริย์ไปแขนไว้ที่เสาหมอกลางบ้าน หลวงปู่ทิมทราบเรื่องจึงไม่คิดจะทำอีก

    อาของผู้เขียนเล่าให้ฟังว่านางเอี้ยน เกสารัตน์ เสมียนประจำสำนักงานสหกรณ์ระยองไปขอตะกรุด 3 กษัตริย์จากหลวงปู่ทิม พอได้มาก็เอากลัดไว้กับเสื้ออย่างมั่นคง พอลากลับหลวงปู่ทิมถามว่าตะกรุดยังอยู่ดีหรือ? นางเอี้ยนก็ตอบว่าอยู่ค่ะ หลวงปู่หัวเราะแบมือให้ดู ปรากฏว่าตะกรุดอยู่ในมือหลวงปู่ทิม นายเอี้ยนหันมาดูที่เสื้อไม่พบตะกรุดก็ตกใจ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าหลวงปู่ทิมทราบดีว่านางเอี้ยนไม่ค่อยเชื่อถือท่านเท่าใดนัก จึงลองให้ดู ตะกรุด 3 กษัตริย์ของท่านนี้เล่ากันว่าเอาปืนยิงใส่บ้านยังไม่ออกเลย ไปยิงลิงยิงค่างถ้าเอาตะกรุดไปด้วยก็จะทำให้ยิงไม่ออกเช่นกัน


    เรื่องจากคุณชินพร สุขสถิตย์

    ปลาของหลวงปู่ทิม

    ช่างมงคล นาคแทน ผู้รับเหมาสร้างโบสถ์และศาลาการเปรียญได้เล่าให้ผมฟังว่า มีอยู่วันหนึ่งคุณมงคลได้มาที่วัดเพื่อควบคุมงานก่อสร้าง หลวงปู่ได้เรียกเข้าไปหาและสั่งว่าได้ขอร้องไม่ให้ลูกน้องไปยุ่งเกี่ยวกับปลาในสระแล้วทำไมลูกน้องจึงเข้าไปยุ่งอีก ขอให้ช่วยไปตักเตือนสั่งสอนด้วย คุณมงคลได้ยินดังนั้นก็ตกใจ เพราะหลวงปู่ได้สั่งไว้หลายหนแล้วว่าให้กำชับคนงานอย่าให้ไปยุ่งกับปลาในสระน้ำ คุณมงคลจึงกลับไปที่พักคนงานและเรียกลูกน้องมาด่าทุกคน แล้วถามว่าใครไปจับปลาของหลวงปู่ ซึ่งทุกคนปฏิเสธ คุณมงคลจึงไปหาหลวงปู่อีกและออกรับแทนลูกน้องว่า ไมมีลูกน้องคนใดไปยุ่งเกี่ยวกับปลาของหลวงปู่เลย หลวงปู่ทิมจึงว่า "ไอ้คนดำมืดยังไง" คุณมงคลก็กลับไปใหม่ และไปเรียกนายดำซึ่งมีผิวกายดำมะเมื่อมอยู่คนเดียวมา และบอกว่า "หลวงปู่บอกว่าลื้อไปจับปลาของท่านมาจริงหรือเปล่า" นายดำได้ยินก็ตกใจพูดกับช่างมงคลว่า "ท่านรู้ได้อย่างไรก็ผมไปแอบจับตอนตี 1 แล้วนี่ครับ

    เกี่ยวกับปลานี้

    คุณเพรียรวิทย์ จารุสถิติศิษย์ก้นกุฏิของท่านเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อถึงวันดีคืนดี หลวงปู่จะเดินลุยน้ำลงไปในสระ คลี่ชายจีวรออก จับกางสองมือแล้วช้อนปลาเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง มีปลาเข้ามาขังอยู่ที่ชายจีวรแน่นไปหมด คุณเพียรวิทย์บอกว่าหลวงปู่ใช้มนต์จินดามณีเรียกปลามาหา

    เรื่องจากคุณ พ.เด็กวัด..หลวงปู่ทิมของผม

    สมัยที่หลวงปู่ทิมเดินจงกรม ท่านกำหนดจิตยกมือพนมเหนืออก ข้อศอกคู้แนบติดกับลำตัวย่างเท้าก้าวเดินอยางช้าๆ กำหนดเดินไปข้างหน้าเก้าสิบเก้าก้าว และกันหลังกลับถอยไปอีกเก้าสิบเก้าก้าว บริเวณที่หลวงปู่ทิมเดินจงกรม บริเวณที่เดินจงกรมนี้ต้นหญ้าไม่กล้างอกขึ้นมา แต่แปลกที่สุด ไม่ว่าพวกมดหรือสัตว์สี่เท้าใดๆ ไม่กล้าเดินผ่านบริเวณนั้น จะต้องเดินอ้อมพ้นเขตบริเวณจงกรม

    คาถาของหลวงปู่ทิม

    "มะอะอุ ทุกขัง อนิจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ"
    หลวงปู่ทิมท่านว่าเป็นคาถาที่ดีและก็สั้น และพุทธคุณของคาถาบทนี้ก็สูงมากอยู่ที่คนปฏิบัติ ท่านยังกรุณาเล่าให้ฟังว่า มีใครคนหนึ่งที่อยู่ตลาดมาปรับทุกข์ให้ท่านฟังว่า ขายของก็ไม่ดีทะเลาะกับเมีอยู่ที่บ้านแทบทุกวัน ญาติพี่น้องต่างเกลียดชัง อยากจะขอคาถาให้เขารัก หลวงปู่จึงให้คาถาบทนี้ไป ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้ ชายผู้นั้นมีความสุขแล้ว จะไปไหนเมียก็ตามไปด้วย ญาติพี่น้องก็รักใครกันดี ผู้เขียนจึงมั่นใจว่าพุทธานุภาพในคาถาบทนี้จะประสบผลสำหรับผู้ที่ปฏิบัติเป็นประจำสม่ำเสมอ ถ้าผู้ใดได้รับคาถานี้ไป ขอให้นึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และคุณหลวงปู่ทิมเป็นที่ตั้งทุกอย่างก็จะอำนวยโชคพอสมควรกับบุญกรรมของบุคคลนั้น

    พัดโบกหลวงปู่ทิม

    ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2517 ได้เกิดน้ำป่าไหลท่วมบริเวณวัด ขณะนั้นหลวงปู่ทิมนั่งฟังเสียงน้ำหลากอยู่หน้าห้องของท่านพลันลุกขึ้นเข้าห้องหยิบผ้ายันต์ผืนสี่เหลี่ยม ถือเดินออกไปยังหอฉันเก่า ซึ่งผู้เขียนเกรงว่าจะถูกน้ำพัดพาไปด้วย หลวงปู่ท่านยืนเสกผ้าผืนนั้นซักอึดใจหนึ่งท่านก็โยดผ้าผืนนั้นลงไปตามกระแสน้ำ ผ้าผืนนั้นก็ลอยไปตามน้ำอย่างรวดเร็วท่ามกล่างคนงานที่ได้ช่วยกันเก็บเครื่องครัวอยู่บนวัดโดยไม่ทราบว่าหลวงปู่ได้ทำอะไร สักครู่หนึ่งทุกคนต่างตะลึงได้เห็นผ้าผื้นนั้นไหลทวนน้ำขึ้นมาหาหลวงปู่โดยหอบเอาอะไรมาสิ่งหนึ่ง หลวง ปู่ได้หยิบผ้าผืนนั้น ปรากฏมีลูกไก่เล็กๆ สีขาวคู่หนึ่งอยู่ในอุ้งมือ ท่านเอามือลูบไล้ไปที่ลูกไก่สีขาวคู่นี้ด้วยความปราณีอย่างเมตตา



    บัตรการันตีจากสถาบันที่เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ท่านใดที่มีความต้องการ ลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม/เม็ดประคำผงพราย/ตะกรุดสาริกา

    วันนี้เรามาคุยกันเรื่องของลูกอมผงพรายของหลวงปู่ทิมกันสักหน่อยนะครับ

    ได้มีเพื่อนๆหลายต่อหลายท่านได้โทรมาพูดคุยกับผมและขอความรู้ในเรื่องต่างที่เกี่ยวกับ "ลูกอมผงพราย" ว่าทำไมลูกอมผงพรายนั้นจึงมีหลายๆท่านได้นำเสนอในการบูชามากมายหลายราคามีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักพันต้นๆและหลักหมื่นซึ่งทำให้การตัดสินใจที่จะบูชาไม่รู้จะบูชาแบบไหนกันดี

    อันนี้ผมขอแจงอธิบายดังนี้ครับ

    ลูกอมหลวงปู่ทิม (ผงพรายกุมาร) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าเป็นผงพรายที่มีพุทธคุณสูงที่สุดของเมื่องไทย มารตฐานในการเล่นหาจะมีไม่กี่นิดครับ บอร์นฝุ่น บอร์นน้ำมัน และลูกอมยุดแรกๆและต้องออกจากวัดระหารไร่เท่านั้นในปี 17/18 ครับ ค่านิยมที่ผมกล่าวถึงนี้จะเล่นหากันในราคาที่สูงครับ และเนื้อผงพรายนั้นนั้นจะเป็นชนิดเดียวกันกับขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ซึ่งมีค่านิยมสูงถึงหลักหลายๆแสนบาทในปัจจุบัน

    ส่วนลูกอมผงพรายอีกชนิดหนึ่งที่มีออกมามากๆในปัจจุบันนั้น ผู้ที่ให้บูชาอาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจอันนี้ผมมิทราบครับ โดยไม่ได้บอกที่มาว่าเป็นลูกอมหลวงปู่ทิมแบบใหน แบบมาตรฐานเล่นหา หรือ แบบลูกอมที่ออกมายุดหลังออกมาหลายๆวัดมากๆโดยที่ได้ทำเรื่องของผงพรายกุมารมาจากวัดหลวงปู่ทิมซึ่งทางมูลนิธิหลวงปู่ก็ได้จัดให้ไปทุกๆวัดที่มีความประสงค์ที่จะนำไปเป็นส่วนประสมการการทำลูกอมผงพรายของวัดนั้นๆ จากที่ผมทราบมานะครับจะจัดให้ไปประมาณตลับยาหม่องเท่านั้นครับ ทั้งทางแทบระยองและจังหวัดต่างๆทั่วประเทศและจะมีบางวัดนะครับที่ได้หลวงปู่ไปรวมในการปลุกเสกด้วย เมื่อทำพิธีปลุกเสกเสร็จแล้วก็เรียกกันว่า "ลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม"

    ดังนั้นจึงปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นของแท้ ผมก็ว่าแท้ครับ ไม่เคยว่าไม่แท้เลยสักครั้ง ผมจึงขอทำความเข้าใจว่า "คำว่ามาตรฐานในการเล่นหา" แตกต่างกันครับ


    ขอบคุณมากครับ


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ลูกนี้เลยครับ ใหญ่ที่สุด ตั้งแต่นำมาให้กันครับ ศ.ก 2.7 ซ.ม


    ใหญ่/ฝังตะกรุด/เส้นเกษา เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.7 ซ.ม

    ลูกนี้ผมออกทั่วไปตามปกติอย่างไรก็หลักหมื่นครับ

    รับรองครับไม่มีพวกฝากมาให้ต่อยอดแน่นอนครับ

    แต่โปโมชั่น ได้เท่าไรก็ส่งมอบเท่านั้นครับ "มิตรไมตรี"


    เปิดประมูลตามสัญญาเริ่มแรกที่ 13 บาท

    บิดขึ้นครั้งละเท่าไรก็ได้ครับ ไม่มีการประมูลเองแน่นอนครับ

    ปิดประมูลวันจันทร์ที่ 7/03/54 เวลา 20.13 น.

    ขอบพระคุณครับ



    ยอดประมูลสุงที่สุดตอนนี้ที่ 3900 บาท ท่าน มงคลบุตร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011
  19. krai2499

    krai2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +291
    ลูกอมผงพรายกุมารโค๊ดเลข 3 ฝังตะกรุดมีเส้นเกสาหลวงปู่ทิม 3,900 ครับ
     
  20. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,474
    ค่าพลัง:
    +1,852
    รายการที่ 1. ปิดวันเสาร์ที่ 5/03/54 เวลา 20.13 .


    [​IMG]


    มณีโชติแก้ว มหานิลดวงประเสริฐ

    บ่ มีคำห่อหุ้ม มณีแก้วกะเล่าจาง

    (คนเราแม้จะมีหน้าตาดีเพียงใด หากไม่มีศีลธรรมก็ไม่มีค่ามากมาย เหมือนกับแหวนที่ไม่มีหัวย่อมมีค่าน้อย)

    ถ้าเราหมุนเข็มนาฬิกาย้อนหลังไปสักยี่สิบปี ยุคสมัยนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อเสียงของ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” แห่งวัดบ้านไร่ โด่งดังที่สุดในเมืองไทย เรียกได้ว่าถนนทุกสายล้วนมุ่งตรงสู่วัดบ้านไร่..

    มีชาวบ้านคณะหนึ่งตั้งใจที่จะไปกราบหลวงพ่อคูณ เมื่อไปถึงหลวงพ่อคูณท่านได้เอ่ยปากถามว่า พวกเขาเหล่านั้นมาจากที่ไหน และเมื่อท่านได้ทราบว่าชาวบ้านคณะนี้มาจากอำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี ท่านจึงพูดขึ้นว่า..

    “พวกเอ็งไม่ต้องมาหากูดอก อยู่ที่ตาลสุมก็มีหลวงปู่สวน พี่กูอยู่ทางโน้นเก่งกว่ากูอีก รู้จักมั๊ย หลวงปู่สวน...”

    เล่ากันว่าสิ้นคำพูดของหลวงพ่อคูณ ทำเอาชาวบ้านคณะนั้นต่างมองหน้ากันอย่างงงๆ และพากันสงสัยว่า ทั้งหลวงพ่อคูณและหลวงปู่สวนต่างรู้จักกันได้อย่างไร ซึ่งถ้าว่ากันตามความจริงแล้วการที่หลวงปู่ญาท่านสวนจะรู้จักหลวงพ่อคูณก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะชื่อเสียงและกิติคุณของหลวงพ่อคูณนั้นเป็นที่รู้จักและกล่าวถึงกันอย่างกว้างขวาง

    แต่ที่ทุกคนสงสัยคือ “หลวงพ่อคูณ ท่านรู้จักหลวงปู่ญาท่านสวนได้อย่างไร....”

    เพราะช่วงเวลานั้นวัดของหลวงปู่ญาท่านสวนอยู่ห่างไกลมาก ขนาดคนอุบลยังต้องถอนหายใจเมื่อเอ่ยถึง ที่สำคัญคือหลวงปู่ญาท่านสวน ท่านก็ยังไม่ได้มีชื่อเสียงเป็นเพียงพระภิกษุมากอายุธรรมดาองค์หนึ่งเท่านั้น ต่อเนื่องในเรื่องเดียวกัน เมื่อมีโอกาสลูกศิษย์ของหลวงปู่ญาท่านสวนได้ถามเรื่องนี้กับท่านว่า

    “ผมทราบข่าวว่ามีชาวบ้านเดินทางไปกราบหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่วัดบ้านไร่ พอหลวงพ่อคูณท่านทราบว่าชาวบ้านมาจากอำเภอตาลสุม ท่านเลยไล่ให้กลับมาหาหลวงปู่ จริงหรือเปล่าครับ”

    หลวงปู่ญาท่านสวนได้เมตตาตอบกับเขาว่ามีชาวบ้านมาเล่าให้ท่านฟังเหมือนกัน และเมื่อลูกศิษย์ท่านนี้สอบถามต่อก็ได้ความว่าหลวงปู่ญาท่านสวน ไม่เคยรู้จักหลวงพ่อคูณมาก่อน ตลอดจนทั้งสององค์นี้ก็ไม่เคยเจอหน้ากันด้วย ลูกศิษย์จึงได้พูดในทำนองกระเซ้าว่า...

    “งั้นหลวงปู่ก็คงรู้จักกันทางโทรจิตสิครับ”

    สิ้นคำกระเซ้า หลวงปู่นิ่งเงียบ ไม่ตอบได้แต่อมยิ้ม…

    ครับเรื่องแบบนี้อธิบายยาก เมื่อไม่มีคำตอบ ทำให้หลายต่อหลายคนต่างเดินหน้าค้นหาคำตอบต่อไป ขณะที่อีกหลายคนกลับเชื่อว่า

    “การไม่มีคำตอบนั่นแหละคือคำตอบ"

    เมื่อคราวที่หลวงปู่ญาท่านสวนได้รับนิมนต์ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม..

    เมื่อถึงกำหนดเวลาเจ้าหน้าที่ได้เข้ามากราบนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ทุกรูปเพื่อเข้าพิธี โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินนำหลวงปู่เข้าไปในพระอุโบสถ พระรูปที่สองที่เดินตามมาคือ “หลวงปู่ทิม อัตตสันโต” แห่งวัดพระขาว เมื่อหลวงปู่ญาท่านสวน เดินไปถึงอาสนะสำหรับพระที่มาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก

    เจ้าหน้าที่ได้กราบนิมนต์ท่านขึ้นนั่งหัวแถวรูปแรก แต่ท่านไม่ยอมขึ้นและหยุดยืนรอหลวงปู่ทิมที่เดินตามมา เมื่อหลวงปู่ทิมได้เดินมาถึง หลวงปู่ญาท่านสวนจึงได้นิมนต์ให้หลวงปู่ทิมขึ้นนั่งหัวแถวก่อน

    เล่ากันว่าหลวงปู่ทิมท่านก็ไม่ยอมขึ้นและนิมนต์ให้หลวงปู่ญาท่านสวนขึ้นนั่งก่อน หลวงปู่ทั้งสองใช้ “รอยยิ้มและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน” แทนคำนิมนต์ ในที่สุดหลวงปู่ญาท่านสวนท่านจึงจำใจขึ้นนั่งหัวแถวและก็ตามด้วยหลวงปู่ทิม...

    ต่อมาลูกศิษย์หลวงปู่ทิม ได้เล่าให้ลูกศิษย์ของหลวงปู่ญาท่านสวนที่มาในวันนั้นฟังว่า.....วันนั้นตนเองได้ติดตามหลวงปู่ทิมไปด้วยและได้กราบนมัสการถามหลวงปู่ทิมหลังจากเสร็จพิธีแล้วว่า

    “ทำไมหลวงปู่ไม่ขึ้นไปนั่งก่อน และทำไมถึงให้หลวงปู่รูปนั้นขึ้นไปนั่งก่อน”

    หลวงปู่ทิมท่านเมตตาตอบลูกศิษย์ของท่านว่า

    “ก็ท่านเป็นพระอรหันต์ ก็ต้องให้ท่านขึ้นก่อนสิ...”

    จากนั้นศิษย์ผู้นี้จึงได้ทราบชื่อของหลวงปู่รูปนั้นว่า

    “ท่านพระครูอาทรพัฒนคุณ” หรือ “หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร” แห่ง “วัดนาอุดม อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี

    สำเร็จลุน ถือว่าเป็นพระปรมาจารย์ผู้ทรงอภิญญาและมีกฤษดาอภินิหารมากมาย เป็นที่เลื่องลือในแถบลุ่มแม่น้ำโขง...เทียบเคียงกับ “หลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า” ครับ ส่วนที่แตกต่างคงเป็นที่หลวงปู่ศุข เป็นพระเมืองไทย ส่วนสำเร็จลุน เป็นพระเมืองลาวและคำว่า “สำเร็จ” มาจากธรรมเนียมของคนลาวที่ใช้เรียกพระภิกษุที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบครับ

    เล่ากันว่ามีคนเคยเห็นสำเร็จลุนยืนสรงน้ำกลางแม่น้ำโขง ความเก่งกาจของท่านขนาดสามารถบังคับให้เรือรบของทหารฝรั่งเศสหยุดได้และเมื่อครั้งที่ทหารฝรั่งเศสให้คนมานิมนต์ท่านลงไปในเรือรบ แต่ท่านบอกว่าไม่อยากลงเพราะกลัวเรือจะล่ม แต่ก็ไม่มีใครเชื่อท่าน สำเร็จลุนท่านจึงได้ก้าวเท้าขึ้นไปเหยียบปรากฏว่าเรือรบเอียงวูบทันทีจนเกือบจะล่ม เรียกว่าไม่มีใครกล้าคะยั้นคะยอให้ท่านลงเรือรบอีกเลย

    และมีอยู่คราวหนึ่งท่านสำเร็จลุนได้บอกให้ลูกศิษย์ของท่านไปปอกมะละกอและหาเครื่องตำส้มตำเอาไว้ ส่วนตัวท่านเองจะไปเอาน้ำปลาจากกรุงเทพมาให้ ปรากฏว่าท่านเดินคล้อยหลังไปแป๊ปเดียว ก็เดินกลับมาพร้อมกับถือเอาขวดน้ำปลายี่ห้อแปลกๆที่ไม่เคยมีในแถบนี้มาก่อน...

    จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องแปลกนะครับ เพราะมีบางคนคิดว่า “สำเร็จลุน” ท่านก็คือพระองค์เดียวกับ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างที่หลายๆคนคิด





    หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทะโร ตะกรุดทองคำแท้ๆ ๙๐% ยาว 3.5 ซ.ม

    หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทะโร ตะกรุดทองคำแท้ๆ ๙๐% ยาว 3.5 ซ.ม เป็นลายมือจารแท้ๆของท่านสวน หลวงปู่ญาท่านสวนจารเอง "ทั้งหมด ๙ แผ่น" ท่านที่เคยเห็นรอยจารของท่านย่อมรู้ว่าใช่เพราะก่อนที่ท่านจะทำการม้วนได้ถ่ายรูปลายมือท่านไว้ครับ ทองแท้ของแท้การันตี "พลังชาตรี 13"

    ดูภาพขยายใหญ่กดที่รูปภาพนะครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    เปิดประมูลเริ่มแรกที่ 4513 บาท ราคาทองก็ได้แล้วครับแบ่งกันจ้า

    บิดขึ้นครั้งละเท่าไรก็ได้ครับ

    ปิดประมูลวันเสาร์ที่ 5/03/54 เวลา 20.13 น.

    ขอบพระคุณครับ



    ตะกรุดทองคำแท้ หลวงปู่ญาท่านสวน

    ขอบพระคุณมากครับคุณอ๋อง กรุณาเปิดให้ที่ 4613 บาท


    ปิดวันนี้ครับ 20.13 น
     

แชร์หน้านี้

Loading...