ความจริงของ"พระวัดพระแก้วมรกต"ที่ท่านอาจจะไม่เชื่อ

กรุวัดพระแก้ว(วังหน้า) ที่เคยพบเจอ

 

ใช่ครับพี่ joni_buddhist

 

ข้อมูลเพิ่มเตืมโดยพระศิริพงศ์ จากลิงค์นี้ครับ ผู้เขียนว่า "เมื่อทุกคนได้ฟังด้วยกลัวคำสาปจึงไม่วิเคราะห์ให้รอบคอบต่างนำของที่ตนหยิบไปคืน"
ถ้าเป็นอย่างนั้น น่าจะมีพระวัดพระแก้ววังหน้า(วัดบวรสถานสุทธาวาส) ให้พบเห็นน้อยมาก และผูัเขียนก็เขียนถีงพระเนื้อดินเผาและพระเนื้อชิน ไม่ได้กล่าวถีงพระเนื้ออิ่นๆเอาไว้

ขอทำความเข้าใจ

วัดบวรสถานสุทธาวาส(วัดพระแก้ววังหน้าเป็นวัดในพระราชวังบวรสถานมงคล)
วัดบวรสถานสุทธาวาส - วิกิพีเดีย

เราขอบอกเล่าที่มาของผงก้นกรุวังหน้านำมาสร้างพระปิดตายอดยิ่งยศผงก้นกรุวังหน้าและพระสังกัจจาย ยอดยิ่งยศ ผงก้นกรุวังหน้า ผงก้นกรุวังหน้าที่เรามีอยู่นั้นเพราะตัวเราพร้อมมารดาบิดาของเราอยู่ในเหตุการณ์ในวันเปิดกรุวังหน้าที่ฐานชุกชีกลางพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส
(วัดพระแก้ววังหน้า) ใจกลางของโรงเรียนนาฏศิลปในวันนั้นผู้ร่วมในเหตุการณ์ต่างก็หยิบฉวยพระเครื่องจากการเปิดกรุไว้เป็นสมบัติของตน
แต่ด้วยท่านอาจารย์ ธนิต อยู่โพธิ์(อธิบดีกรมศิลปากรในครั้งนั้น)ประกาศว่าใครนำพระในกรุไปให้นำกลับมาคืน
เพราะเป็นของที่กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทท่านสาปแช่งไว้และเมื่อทุกคนได้ฟังด้วยกลัวคำสาปจึงไม่วิเคราะห์ให้รอบคอบต่างนำของที่ตนหยิบไปคืน
ไว้บนบุษบกพระประธานปางห้ามสมุทรของพระอุโบสถวัดพระแก้ววังหน้าส่วนตัวมารดาของเราเนื่องจากท่านนับถือเคารพเทิดทูนองค์สมเด็จพระบัณฑูรลิ้นดำมาก
เมื่อหยิบพระจากกรุมีผงก้นกรุติดมาด้วยกอบใหญ่ๆ ท่านจึงนำผ้าขาวห่อไว้แล้วนำคืนเฉพาะพระดินเผาที่ลงรักปิดทองซึ่งมีพระนอน ๑ องค์ พระนาคปรก ๑ องค์ พระสดุ้งมาร ๑ องค์ พระเศียรโล้น ๑ องค์ ส่วนตัวเราเหลือพระเนื้อดินเผาอยู่อีก ๒ องค์ พระเนื้อชิน ๑ องค์ ปัจจุบันนี้ก็ยังอยู่ และผงก้นกรุวังหน้าที่มารดาเราเก็บไว้นี้เองที่นำมาเป็นมวลสารส่วนผสมในการสร้างพระปิดตายอดยิ่งยศผงก้นกรุวังหน้า และพระสังกัจจายยอดยิ่งยศผงก้นกรุวังหน้า
เมื่อเราจบการศึกษา จากโรงเรียนนาฏศิลปได้อ่านประชุมพงศาวดารภาค ๑๓ ตำนานวังหน้าทราบประวัติการสร้างพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส(วัดพระแก้ววังหน้า) โดยละเอียดว่าสร้างในสมัยกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ(รัชกาลที่ ๓)
ไม่ได้สร้างในสมัยกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาถ(บุญมาในรัชาลที่๑)
ฉะนั้นของในโบสถ์วัดพระแก้ววังหน้าจึงมิต้องคำสาปในครั้งนั้นเราและอีกหลายคนช่างโง่เขลาเสียจริงที่นำของไปคืนไว้ที่พระประธานเพราะกุศโลบายของท่านอาจารย์ธนิตแท้ๆ

 

ที่มา
วัดบวรสถานสุทธาวาส - วิกิพีเดีย

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยุ่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนา พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นศักดิพลเสพ ขึ้นเป็น สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ดังนั้น พระองค์จึงเสด็จมาประทับอยู่ที่พระราชวังบวรสถานมงคล โดยมีการได้ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงพระราชวังบวรสถานมงคลมากมาย เนื่องจากพระราชวังบวรสถานมงคลอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม โดยพระองค์โปรดให้ใช้บริเวณสวนเลี้ยงกระต่ายในสมัยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์เป็นบริเวณสำหรับสร้างวัดภายในพระราชวังบวรสถานมงคลเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เรียกว่า วัดพระแก้ววังหน้า แต่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ พระองค์เสด็จทิวงคตลงเสียก่อน การก่อสร้างวัดพระแก้ววังหน้ามาแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยได้รับพระราชทานนามว่า "วัดบวรสถานสุทธาวาส"

 

ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ครับ

 

ขอบคุสำหรับข้อมูลครับ

 

เมื่อวาน11พ.ย. ผมไปเดินดูที่ท่าพระจันทร์มาแล้วครับทั้งแผงที่อยู่หน้าถนนหรือร้านที่อยู่ในซอย ผมเดินเข้าไปอยู่สามซอย ก็เจอเก๊เป็นเข่งจริงอย่างที่พี่ๆหลายท่านบอกมา เพียงแต่มันคนละเรื่องกับองค์ของพ่อตาผมหรือของผู้ใหญ่ท่านอื่นที่ผมเคยเห็นมาเลย แถมพิมพ์ก็คนละโลกกันเลย ผมเองกัดฟันซื้อมา7-8องค์เพื่อหาความจริงครับ แล้วพรุ่งนี้จะถ่ายรูปและลงให้ดูกันครับว่าเก๊ท่าพระจันทร์มันเหมือนกับพระที่ผมลงจริงๆหรือ

 

ด้วยความนับถือครับพี่ ผมว่าพี่ไม่ได้อ่านในสิ่งที่ผมเขียนอย่างละเอียดรอบครอบเท่าไหร่นะครับ เพราะผมไม่เคยบอกหรือแสดงอะไรที่ชี้ว่าเป็นพระสมเด็จฯโตสร้างนะครับ ตรงกันข้ามผมบอกว่าไม่น่าจะทันสมเด็จฯโตท่านด้วยซ้ำครับ พี่ดูจากหัวข้อกระทู้ก็ได้ครับว่ามีเขียนเกี่ยวกับสมเด็จมั้ยครับ ฝากย้ำให้ท่านอื่นกรุณาเข้าใจให้ตรงกันด้วยนะครับ

 

ขอบคุณท่านเช่นกันครับ เพราะตัวผมเองเข้ามาในนี้ก็ได้อ่านพบข้อมูล ข้อคิดเห็นหลายๆแง่มุม ของสมาชิกท่านอื่นๆที่เข้ามาแบ่งปันประสบการณ์ รวมถึงของท่านด้วย และข้อมูลข้อคิดเห็นต่างๆเหล่านั้นก็เป็นประโยชน์ต่อผมอย่างมากในการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับพระเครื่อง

 

พระที่ได้มาจากท่าพระจันทร์เมื่อวานครับ

 

ระยะเวลาของพระเก๊ในแต่ละยุคก็ต่างกันนะครับ หมดก็สร้างใหม่เรื่อยๆ จะไปเหมาว่าไม่เหมือนกันแล้วไม่ใช่พระเก๊ ถ้าเอาแบบกำปั้นทุบดินก็จะไม่ได้ข้อสรุป ใช้สติคิดวิเคราะห์แยะแยะให้ดีครับ พระเก๊กุวังหน้ามือผีนั้นมีหลอกลวงมาเป็นระยะเวลากว่า4-5-60ปีมาแล้วนะครับ อาจจะนานกว่านั้น พระเก๊สมัยก่อนเล่นเป็นแท้เพราะเก่าก็เยอะ ช่วงที่จตุคามดังๆ พระเก๊มือผีก็มีการเอาจตุคามมาอ้างว่าเป็นพระยุคสมเด็จโต วังหน้า ยังมีอีกมากมายตามแต่สติปัญญาของคนทำจะคิดได้ ที่น่าห่วงและพวกผมออกมาทะเลาะกับพวกพระเก๊มือผีกุวังหน้าหากินส่วนต่าง ก็เพราะมีคนหลงเชื่อนะครับ จิ้งจกทักโบราณว่าให้ฟังไว้บ้าง นี่ปากคนกินข้าวทักกันมานานแสนนานฟังไว้บ้างก็ดี คนแก่ก็ใช่ว่าจะโกหกไม่เป็น ไอ้ที่เด็กๆรุ่นใหม่โดนของเก๊ ก็เพราะลุง เพราะตา ตามแผงอัดเอาหัวทิ่ม หรือพระเก๊ตกทอดจากปู่ย่า ตาทวด เคยได้ยินมาว่าพระเก๊นานไปก็เก่าแท้เอง มันเป็นไปไม่ได้ครับ เก่าแค่ไหนก็ยังเก๊ ยกเว้นว่าเก่ามากแล้วคนเอามาเล่านิทานขายนั่นก็อีกเรื่อง มีอย่างนึงที่เก่าแล้วไม่เก๊ก็คือเมียเราครับ แม่ฝากเอาไว้ แกบอกว่า"มันเป็นเพื่อนกู ยังไงไก็ดูแลมันดีๆนะไอ้ทิดเอ้ย"

 

อันนี้เป็นของพ่อตาผม ซึ่งผมได้เอาพระที่ซื้อมาจากท่าพระจันทร์กับของพ่อตาผมไปเคาะกับพื้นกระเบื้องเพื่อให้ผิวพระกระเทาะออกมา โดยที่พระที่เอามาจากท่าพระจันทร์นั้นเคาะกับกระเบื้องเบา2-3ครั้งผิวก็กระเทาะออกมาครับและเห็นเนื้อข้างในว่าขาวเหมือนปูนปาสเตอร์และไม่มีมวลสารอะไรอยู่เลย ส่วนพระของพ่อตาผมนั้นผมต้องออกแรงมากกว่าและเคาะหลายครั้งกว่าผิวจะกระเทาะครับและปรากฏมวลสารชัดเจนอีกทั้งสีของเนื้อพระยังดูใกล้เคียงกับผิวนอกด้วย แต่อีกองค์มีแค่รอยกระแทกปรากฏเท่านั้นครับ

 

พระวัดพระแก้วนี่ไม่ใช่ออกมาตอนช่วงปี2525หรือครับ แล้วที่สำคัญครับพี่ผมไม่ได้เอาไปโยงกับสมเด็จฯโตท่านเลยนะครับ ผมยังบอกเองเลยว่าไม่คิดว่าพระที่ผมคิดว่าเป็นพระวัดพระแก้วที่ผมเอามาลงจะทันสมเด็จฯโตท่านครับ ผมทราบครับว่ามันมีขบวนการที่ฉวยโอกาสกับเรื่องพระวัดพระแก้วอยู่ครับ ทั้งอ้างสมเด็จฯโตทั้งเกจิเก่งๆในยุคสมัยนั้นว่าได้ปลุกเสกสร้างขึ้นมาครับ

แต่เราจะเหมาทั้งเข่งไปว่าเป็นเรื่องไม่จริงนั้นมันก็ไม่ถูก ยิ่งได้ยินเราหยิบยกเหตุผลที่เอามาใช้ปฏิเสธว่า "ไม่มีบันทึกไม่มีหลักฐานเป็นแค่เรื่องเล่าปากต่อปากของคนสมัยเก่า พิสูจน์อะไรไม่ได้" แต่เรากลับไม่เคยเอาเหตุผลนี้ไปใช้กับเรื่องของพระสมเด็จวังระฆัง แถมบันทึกบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพระของสมเด็จฯโตที่มีคนบันทึกไว้เราก็ไม่ยอมรับซะอย่างนั้น แล้วอย่างนี้มันดูสมเหตุสมผลที่จะเอามาเป็นบรรทัดฐานมั้ยครับ

อนึ่งถ้าพูดถึงพระสมเด็จวัดระฆังนั้นก็เริ่มมีค่านิยมสูงในช่วงหลังปี2500 แถมช่วงนั้นพิมพ์ทรงมาตรฐานอะไรก็ยังไม่มีการกำหนด การพิจารณาของคนสมัยก่อนให้ความสำคัญกับเนื้อหาและธรรมชาติมากกว่าพิมพ์เยอะ ส่วนพิมพ์นั้นก็เพิ่มเริ่มมีการกำหนดมาตรฐานเมื่อซัก 30 ปีที่แล้วเห็นจะได้เองครับ และค่านิยมของสมเด็จวัดระฆังเลยพุ่งปี๊ดหลังจากนั้น ช่วงนั้นสมัยนั้นผมว่าเรื่องราวของพระวัดพระแก้วพระวังหน้ายังไม่เกิดเลยนะครับ

 

เห้อว่าจะไม่loginแล้วเชียว อ่านมาถึงตรงนี้ ผมว่าจะพี่ จขกท อะชอบก็เก็บไว้ใช้ไว้เชื่อท่านเดียวดีกว่าครับ อย่าพยายามหาข้อมูลมาลงเลยพี่ถ้าพี่เชื่อพี่ก็เชื่อไปดีกว่านะเอาข้อมูลมาลงมาก ๆ คนในที่นี้ผมให้99.99%เลยเค้าไม่เล่นกันอะพี่พระติดเพชรแบบนี้ เดี๋ยวพี่เอาข้อมูลมาลงมาก ๆ ความจริงกระจ่างมาก ๆ พี่จะช้ำใจเอาเปล่าๆนะ อีกอย่างพี่พระปลอมที่ท่าพระจันทร์นะครับเค้าปลอมมาแต่รุ่นปู่รุ่นพ่อเราแล้วนะครับเนื้อหาแต่ละยุคแตกต่างกันไปเพราะกาลเวลาแล้วก็รูปแบบมันจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพื่อไว้เล่ากับนิทาน วงการนี้สุดยอดนะครับอย่าหาข้อมูลให้เหนื่อยเลย เพราะบทสรุปมันจบที่ท่าพระจันทร์ครับ เอาเป็นว่าแค่ดูที่เพชรพลอยก็ไม่ใช่แล้วนะครับ ผมแนะนำให้เอาไปถามร้านพลอยดูนะครับว่าพลาสติกป่าวไม่แน่นะครับอาจจะใช่ แล้วก็ผมก็มีนะครับเนื้อหาประมานของพี่อะเป็นทรงขุนแผนประทับเหมือนปูมั้งไม่แน่ใจ แต่ผมไม่ว่างถ่ายรูปหรอกนะครับ แค่มาแสดงความคิดเห็นอ่านมาแต่มี1หน้าตอนนี้5หน้าและไม่ไหวจริง ๆ "ถ้าเชื่อก็จงเชื่อไป อย่าพยายามให้คนอื่นเชื่อมันจะเจ็บที่ตัวพี่เอง เพราะความจริงมันไม่ได้อยู่ไกลตัวเลย"

 

องค์นี้เป็นองค์ที่เดินเจอโดยบังเอิญที่นวนครครับ และเช่าเก็บไว้เมื่อปีที่แล้วในราคาหลักร้อยกลางๆครับ ส่วนที่มาผมบอกตรงๆว่าสำหรับองค์นี้ผมไม่ทราบและไม่แน่ใจจริงๆครับ แต่เหตุผลที่เช่ามาก็เพราะชอบเนื้อหากับดูเป็นธรรมชาติดี

สำหรับสาเหตุที่ผมเอาเรื่องพระวัดพระแก้วมาพูดคุยก็เพราะหวังดีจากใจจริงครับ ไม่อยากให้เอาไปตีรวมแบบเหมาเข่งกับของปลอม จนสุดท้ายเข้าใจว่าเก็ทั้งหมด ซึ่งอาจจะทำให้เราทำอะไรไม่ดีกับพระที่อาจจะแท้จริงๆแบบที่เราทำกับพระเก๊ก็ได้ เพราะจุดประสงค์ของผมคืออยากให้รู้เพียงว่าพระวัดพระแก้วนั้นมีอยู่จริงๆเท่านั้นและถือโอกาสเตือนๆคนที่จะทำการปล่อยพระวัดพระแก้วด้วย ไม่มีเรื่องของการนำไปปล่อยเช่าบูชา เพราะคนเก่าคนแก่ที่รู้เรื่องพระวัดพระแก้วนั้นเค้าจะไม่เอาพระไปปล่อยบูชาเลย เจอเก็บได้แต่อย่าเอาไปปล่อยเอาไปเปลี่ยน เพราะมันจะเกิดเรื่องไม่ดีกับคนที่เอาไปปล่อย

หลายๆท่านจะคิดฟังหูไว้หูก็ได้ครับ แต่อย่าตั้งใจปฏิเสธท่าเดียวหรือเชื่อท่าเดียวครับ ลองพยายามเดินเข้าไปดูที่อีกทางบ้างให้รู้ให้เห็นทั้งสองทางอย่างชัดเจนจริงๆแล้วค่อยชั่งใจดูครับ เพราะผมก็ปฏิบัติและศึกษาอย่างนี้เหมือนกันครับ ปีก่อนผมศึกษาพระสมเด็จวัดระฆังในแนวทางตรงข้ามกับสากลนิยม พอกลางๆปีนี้ผมก็หันมาศึกษาในแนวทางของสากลนิยมดูบ้าง และก็ได้รู้เข้าใจอะไรมากขึ้นครับ

 

จริงๆ อยากวางอุเบกขาเเละไม่อยากพิมพ์เพราะพี่หนุ่มทะเลตั้งธงในใจว่าเเท้ เก่า อายุได้ มวลสารดี ธรรมชาติดี เเต่ผมกลัวคนเพิ่งหัดสะสมศึกษาพระจะคิดว่าพระเเบบนี้มันเเท้เเละมีอยุ่จริง ขอยืนยันนั่งยันนอนยันว่าพระเเบบนี้ ไม่ดีหรอกครับ อยู่ห่างไกลจะดีที่สุด หยิบมาส่องยังอาย บอกตรงๆไม่โกรธกันนะครับ

ที่ผมพิมพ์นี่ไม่อยากจะดีเบตกะพี่หนุ่มทะเล เถียงไปก้อไม่ได้อะไรดีขึ้นมากะตัวผมเอง เเค่ไม่อยากให้รุ่นใหม่ต้องมาเสียเงินกะพระเเบบนี้ มันไม่มีหรอกครับ พระวัดพระเเก้วฝังเพชรฝังพลอย

 

พี่หนุ่มครับ ถาม จริงฯ "พี่เป็นอะไรมากไหมครับ"
พี่อ่าน ภาษา แปล ความหมายไม่ออกหรือ ครับ เขาพยามยาม สุภาพ กับ พี่หนุ่ม
นะผมเดา (เบื้องหลัง อาจ ขำหงายท้อง )
พี่ เอา อย่าง อื่น มาถามเถอะ เห็นแล้ว อายครับ ของผม เนียนกว่า ผมยังไม่กล้าเอารูปลง
ผมขอถามพี่หน่อยนะครับ
พี่ไปถึง แหล่งพระ พี่ได้ความรู้ มาแค่ นี้หรือครับ
พี่ จะมา หาความรู้ หรือ จะมาโชว์....หรือจะมาขาย ครับ
พี่ จะเถียงไปเพื่อ...???
พี่ จะให้ใคร ยอมรับ ก็ในเมื่อ เขา ไม่ยอมรับ
เอาแค่นี้ เถอะ ครับ ผมว่า เพื่อ พี่ จะได้ เอาพระอย่างอื่น มาถามได้
แท้ไม่แท้ พิจารณากันเองอีกที ไม่ใช่ มาโฆษณา ว่า ของกรูแท้อยู้ได้
"เหมือน ที่หลวงตาท่านเทศน์นิทาน เรื่อง คนบ้า..บอกว่าขี้เป็นทอง"
เน้นนะครับ "หวังว่าผู้มีปัญญาคงเข้าใจ"

 

เห็นเจตนาท่านเจ้าของกระทู้ดูตั้งใจศึกษาจริงๆ...
ก็อยากบอกว่าพระกรุนี้...ที่ฝังเพชร-พลอย-และฝังอีกหลายอย่าง...มีจริงๆ
เมื่อมีของจริง....ของ Copy ก็มีตามมาด้วย
เป็นบันทึกธรรม เปรียบคล้ายห้องสมุดทางพระพุทธศาสนา
มีเหตุ.....ทำให้รู้จักกลุ่มผู้ค้าที่นำวัตถุมงคลเข้าสู่ท่าพระจันทร์
ก่อนกระจายสู่ร้านค้าย่อย...สู่แผงเล็กแผงน้อย นานแล้ว
เห็นและเก็บไว้ทั้งของจริง ของCopyเพราะชอบศึกษา จึงเปรียบเทียบไม่ยาก
ปฏิบัติธรรม รักษาศีลเป็นฐาน สิ่งใดควรเจอ..สิ่งใดควรรู้ เดี๋ยวรู้เอง
พระเครื่องก็เพื่อเชื่อมพระธรรม......เมื่อนั้น มีให้รู้อีกหลายเรื่อง
.......แต่คงไม่ใช่ที่นี่

 

ผมแค่อยากบอกว่าพระวัดพระแก้วนั้นมีอยู่จริงและเป็นเรื่องจริงเท่านั้น แต่ผมก็จนใจครับที่จะหาเอาภาพพระองค์ที่เป็นพิมพ์ที่ไม่ได้ติดพลอย เพราะที่ผมมีอยู่มันมีแต่แบบนี้ แต่แบบที่เป็นเนื้อผงธรรมดานั้นมีเหมือนกันเพียงแต่เป็นของผู้ใหญ่ท่านอื่น และท่านให้ดูอย่างเดียวไม่ยอมให้ถ่ายรูป เราลองไม่มองเรื่องพลอยที่ตัวพระดูแล้วดูที่เนื้อพระอย่างเดียวก็ได้ หรือเราจะมองที่พลอยที่ตัวพระเป็นหลักก็ได้ครับ ก็ถือว่ามีเหตุผลในการพิจารณาเช่นกันครับ

ถ้าเราคุยกันอย่างใช้เหตุและผล ผมไม่คิดว่านั่นคือการเถียงหรือทะเลาะอะไรกันนะครับ เราเอาเหตุผลของเรามาแลกเปลี่ยนกันมันได้ประโยชน์ไม่มีเสียครับ ดีกว่าเงียบแล้วปล่อยให้กำกวม ผมเชื่อว่าถึงผมไม่เอาเรื่องนี้มาพูด เรื่องมันก็เดินไปของมันจากคนอื่นอยู่ดี หวังดีหวังไม่ดีเราก็ไม่รู้ แต่ถ้าพูดกันตรงนี้ผมมั่นใจว่ามีความหวังดีเต็มร้อยครับ ซึ่งจะผิดทางหรือถูกทางยังไง คำตอบมันก็ออกมาผ่านทางเหตุและผลที่เราคุยกันนี่แหละครับ