"ความฝัน เทพสังหรณ์" สัญญานเตือนจากเบื้องบน

ขออนุญาตตอบคุณทศพรครับ

ไม่ต้องสงสัยครับ หลวงปู่ท่านได้กล่าวเอาไว้ถูกต้องแล้วครับ

คาถาที่ว่านั้นแปลแบบย่นย่อได้ว่า

อากาสัตถา จัดภูมิมัตถา เทวานาคา มหิถิกา ปุญญังตัง อนุโมทันตุ จีรังรักขันตุ พุทธะสาสะนัง


" ไม่ว่าบนห้วงฟ้านภากาศ แลคงคา อีกผืนแผ่นดินในทิศทั้งสี่ มวลหมู่เทพนาคาทั้งหลายผู้มีฤทธิ์ ขอน้อมนึกระลึกถึงบุญกุศลทั้งปวงเพื่อการรักษาพระพุทธศาสนาให้มั่นคง ถาวร ตลอดไป"


เรียนคุณคณานันท์ครับ

ตอบข้อกังขาของผมได้หมดสิ้นเลยครับ

มีท่านนักปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งได้แปลให้ผมฟังดังนี้ครับ

อากาสัตถา อากาสะ + สัตถา(ศรัทธา) แปลว่า กลุ่มศรัทธาที่ลงมาเกิดมาจากแดนอากาสานัญจายตนะพรหมไปจนถึง เนวสัญญานาสัญญายตนะพรหม

จัดภูมิมัตถา จัด + ภูมิ + มัตถา(มิตร) แปลว่า เมื่อลงมาเกิดแล้วก็จะจัดรวมกลุ่มกันเป็นกัลยาณมิตรคอยช่วยเหลือกัน(เหมือนที่กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติกำลังทำอยู่)

เทวานาคา แปลว่า นาคที่เป็นเทวดาเหล่านี้

มหิถิกา มหา(ยิ่งใหญ่) + อิถิกา(การรวมกลุ่มของอภิญญาชน) แปลว่า การรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของอภิญญาต่างๆ

ปุญญังตัง แปลว่า เหตุปัจจัยของบุญกุศลในครั้งนี้

อนุโมทันตุ แปลว่า จงร่วมกันทำภาระกิจการอนุโมทนาบุญในครั้งนี้ให้ทันเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดในอนาคตอันใกล้นี้

จีรังรักขันตุ จีรัง(ยั่งยืน) + รักขันตุ(รักษา) แปลว่าการดำรงรักษาพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนยาวนานสืบไป

พุทธะสาสะนัง แปลว่า พุทธศาสนาอันสถาพร

ซึ่งโดยรวมแล้วเหมือนกันเป๊ะกับของคุณคณานันท์

อนุโมทนากับคุณคณานันท์ด้วยครับ
ทศพร
<!-- / message --><!-- sig -->

 

สาธุ อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและใน
อนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า

ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคตล่วงเลยไปถึง กึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลาย
ที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของ
โลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้
รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า อำมหิตจะรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ ผู้ขวนขวาย
ในกุศลตามวจนะของตถาคตก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงใน
พระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบางแต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่
พ้น

เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปี เป็นต้นไป ไฟจะรุกรามมาทาง
ทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็น
เพลิงผลาญ เหล็กกล้า จะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติด
เมืองข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมือง ทรง
เมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มา
ปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก ดิน
ฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเลโลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความ
หายนะนักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ

ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่
ต้องอยู่ใน ศิลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบ
สอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศิลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่
มีใคร เคารพยำเกรง

พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราช
โพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระ
องค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของ
ตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง ๕,๐๐๐ พระวัสสา


ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อม
ยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรม
ของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้
รักษาศิล ๕ ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดดรู้จักพอ ไม่โป้
ปดคตโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคต ให้มั่น
คง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล"

 

ตอนย่ำรุ่งวันนี้ มีแม่ชีท่านหนึ่งมาเข้าฝันผมครับ ในฝันบอกว่า

"ได้ยินกิติศัพท์การทำงานของพวกเรามานานพอสมควรแล้วเลยมาเยี่ยม มาโมทนาบุญด้วย"

ในฝันเห็นเป็นแม่ชีวัยประมาณ 50 ปีเศษ ใส่แว่นตา ในใจบอกว่าชื่อ"บงกช"

ก็ต้อง ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาและกำลังใจที่ท่านมีให้พวกเราทุกๆคน ในงาน ในบารมีทุกๆสิ่งที่ได้ร่วมใจกันครับ

แม้ช่วงนี้จะมี "คลื่นแทรก" มาบ้าง แต่พลังบริสุทธ์ก็ยังหลั่งไหลมาสู่พวกเราทุกๆคนครับ

 

*** สภาพเช่นนี้... "หลักสัจจะธรรม" จึงปรากฏอีกครั้ง ****

"สัจจะ ปฏิบัติเป็นประจำ "...คือ หนทางรอด...และ การสืบต่อ พระพุทธศาสนา

*****************************
พระคาถา

 

แม่ชีท่านนี้ อยู่ที่ "แดนมหามงคล" จ.กาญจนบุรีครับ คุณพรหมประกาศิตและผมเคยไปที่สถานที่แห่งนี้มาแล้วครับ

บอกได้เลยว่า...สุดยอดจริงๆครับ..งดงาม..สงบเงียบ..และเป็นระเบียบเรียบร้อยมากๆๆครับ

 

คุณหนุมาน คุณไม่ใช่ผู้นำสาร
การบอกกล่าวเหล่านี้ มันผิดนะครับ ผมเตือนได้เท่านี้

 

อ๋อ ไอ้นี่ผมบอกได้ ไม่ผิด

สัจจะ คือการรักษาศีล หรือทำความดี โดยให้คำมั่น
ซึ่งคุณหนุมาน ได้ขอให้รักษาเอาไว้วันละ 1 ข้อ

ผมแนะนำวิธีทำให้ง่าย คือ ตื่นเช้ามา สวดมนต์ ไหว้พระ แผ่เมตตา
ขออโหสิกรรม ระลึกบารมีและพระคุณของพระพุทธเจ้า

หลังจากนั้น ขอเชิญ พระพุทธเจ้า พระโพธิสัต พระอริยะ เทพเทวา เทวดา และท้าวยมราช มาเป็นสักขีพยาน ในการตั้งสัจจะอธิฐาน ในการทำความดีของข้าพเจ้า 1 ข้อในวันนี้ ได้แก่ .... เลือกเอาเองนะครับ ว่าจะทำแบบไหน ขอให้ตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็ดีครับ สำหรับคนไม่กินเหล้า ก็อย่าไปขอว่าจะงดการรับประทานสุรานะครับ ให้พยายามเลือกข้อที่เราทำผิดเป็นประจำ และสัญญาว่าวันนี้จะไม่ทำ เช่นชอบพูดเพ้อเจ้อ ก็ให้ตั้งจิตว่า วันนี้ ข้าพเจ้าขอทำความดี โดยจะไม่พูดเพ้อเจ้อ ถ้าหากข้าพเจ้าทำได้จริง ขออุทิศผลบุญความดีเหล่านี้ให้เจ้ากรรมนายเวร และญาติพี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า รวมถึงผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากทั้งหลายทั้งปวงด้วยเถอะ และขอให้ความดีนี้ คุ้มครองข้าพเจ้า ให้พ้นจากภัยอันตรายทั้งหมดทั้งปวง และสามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย มีชีวิตที่สงบสุขตามครรลองของพุทธศาสนา และขอให้มีสติ และปัญญา รักษาความดี และละเว้นการทำความชั่วทั้งปวงด้วยเทอด สาธุ ครับ

ทำทุกวัน เมื่อทำได้เป็นประจำแล้ว ก็ให้เพิ่มมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ ครับ จบครบ ศีล 5 กรรมบท 10 เป็นต้นครับ ส่วนศีลที่มากกว่าศีล 5
ผมเห็นว่าไม่จำเป็นสำหรับผู้ที่ยังไม่ต้องการหลุดพ้นครับ

สำคัญ อย่าลืมขอเชิญ พระพุทธเจ้า พระโพธิสัต พระอริยะ เทพเทวา เทวดา และท้าวยมราช มาเป็นสักขีพยาน ในการตั้งสัจจะอธิฐาน นะครับ

 

เมื่อวานผมฝันว่าผมพุ่งเข้าหาความมืด หรือพุ่งเข้าหากำแพงมืด(จำไม่ค่อยได้แล้วครับ) แต่ความรู้สึกตอนนั้น รู้สึกกลัวครับ เลยเกาะคำภาวนา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสัญชาตญาณกลัวความมืดรึเปล่าไม่รู้ครับ พยายามจะออกจากฝันเพราะกลัว แต่ออกไม่ได้ ร่างกายขยับไม่ได้ บอกไม่ถูกครับ ผมก็ได้ยินเสียงเพื่อนผม เหมือนพูดคุยกันปกติ หลอนๆยังไงไม่รู้ครับ กึ่งหลับกึ่งตื่น กว่าจะออกได้ ต้องตั้งจิตภาวนาอยู่หลายวิ เหมือนกัน ขนาดตื่นมาแล้วความกลัวยังติดใจอยู่เลย ผมต้องรีบลุกไปเปิดไฟ แปลกเหมือนกัน

จิตใจผมคงจะมืดไปด้วยกิเลสล่ะมั้ง เฮ้อ!

ก่อนหน้านั้น ไม่รู้ผมอุปาทานไปรึเปล่า นอนอยู่ บางทีจะได้ยินเสียงเหมือนคนกรีดร้อง หรือ หัวเราะ หรือด่า ซึ่งเป็นความรู้สึกที่หดหู่มากครับ ผมก็ตั้งจิตแผ่เมตตา+ภาวนาไปด้วยเพราะกลัวครับ

 

ฝันข้างต้นที่เล่ามา เป็นกำลังด้านมืดครับ คล้ายอาการของผีอำ หากโดนคลุมเต็มตัวจะกลายเป็นการถูกผีอำขยับตัวไม่ได้ครับ พอรู้สึกตัวแล้วจะมีอาการใจสั่นไม่หายครับ

วิธีแก้ไขก็คือให้ตื่นขึ้น อย่านอนต่อเด็ดขาด เปลี่ยนอิริยาบท ไปห้องอื่น แล้วไปล้างหน้าล้างตาสวดมนต์ไหว้พระ และหาพระมาสวมเสียทันที โดยอย่าไปคิดถึงมันอีก และ หากนอนต่อจะโดนอำอีกครั้ง

พวกนี้พลังแรงมาก บางทีสวดมนต์แล้วก็ยังเอาไม่ค่อยอยู่


ช่วงนี้พลังด้านมืดคืบคลานเข้ามาทางสายธรรมมากเลยทีเดียวครับ ขอให้อธิฐานรักษาใจเราให้เป็นสัมมาทิษฐิเอาไว้ครับจะช่วยคุ้มครองได้ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านส่งพลังมาช่วยได้เต็มที่ครับ

ขอให้คุณพระคุ้มครองทุกๆท่านครับ หลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข มีพระพุทธคุมดวงใจ

 

ใช่ค่ะ เคยมีความรู้สึกเหมือนถูกอำแบบนี้พอเราฮึด ขึ้นมาได้นอนต่อก็อำอีก จนเราไล่ด้วยเสียง (ในความรู้สึก) อันดังมากๆ ก็หายไปนะค่ะ บางทีถ้าอำเราก็จะบ่นบอกว่ามารบกวนการนอน ทำให้ปฏิบัติธรรมได้น้อย เค้าก็จะหายไปค่ะ

 

ผมเคยฝันถูกพี่อำ แต่แค่ยังไม่ถึงนาทีแล้วผมก็ตื่น คืออะไรอะครับ

 

ขอบคุณมากครับ ปกติผมก็สวดมนต์แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลเช้า-เย็นนะครับ แต่ยอมรับว่าก่อนนอนส่วนมากจะทรงอารมณ์ให้เป็นสมาธิไม่ค่อยได้ มันจะต้องมีเรื่องให้คิดเรื่อยเลย บางทีผมก็รู้สึกรำคาญตัวเองเหมือนกัน จะคิดอะไรนักหนาก็ไม่รู้ แต่สงสัยครับ บ้านผมก็มีศาลเจ้าที่ ท่านปล่อยให้เข้ามาได้ยังไงล่ะครับ???

 

เรื่องนี้ว่าไม่ได้ครับ บางครั้งก็เป็นวาระของกฏแห่งกรรม และบางครั้งจิตของเราเผลอเปิดให้เขาเข้ามาเองก็มีครับ วิธีแก้ไขอีกทางก็คือ ใส่บาตร ถวายสังฆทานให้เขาครับ

ตัวผมเอง เวลาเห็นท่าไม่ดี ก็ต้องอาราธนาท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ท่านให้ช่วยคุมทั้งสี่ทิศแล้วอาราธนาบารมีพระท่านคลุมซ้ำอีกทีหนึ่งครับ



ส่วนภาวะRem นั้น เป็นช่วงที่คลื่นสมองปรับตัวในช่วงอัลฟา ในช่วงเคลิ้มๆ เป็นภวังค์จิตแบบหนึ่งจะมีอาการ ดิ่งๆวูบๆ บางทีก็เหมือนตกจากที่สูงครับ หรือบางคนเรียกว่า อาการตกฌาน ก็อาจมีการแทรกบ้างก็เป็นได้ในบางราย แต่ยังไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหานี้ครับ

ต้นเหตุที่แท้จริงคือ เรา"การ์ดตก" เองครับ เจ้ากรรมนายเวร ท่านเลยขอเอาซะหน่อย อีกอย่างหนึ่งต้องแจ้งให้เทวดาที่ปกปักรักษาท่านช่วยป้องกันให้เราด้วยหรือ ช่วยเตือนช่วยบอกให้รู้ตัวก่อนครับ

 

เมื่อเช้าเกือบตีสี่ ฝันว่าอยู่ใกล้ทะเล บนที่สูง
สักพักมีการจุดพลุ เตือนภัย ให้ออกจากบริเวณนั้น
เห็นคนจุดธูปไหว้เจ้าที่ต้นไม้ใหญ่ แล้วมีน้ำทะเล
พุ่งกระฉอกขึ้นมา
ขนาดอยู่ที่สูง น้ำทะเลยังพุ่งขึ้นมาได้
แล้วคนที่อยู่ข้างล่าง จะเป็นอย่างไร..นึกแล้วเสียวไส้ครับ

 

เมื่อคืนฝันว่ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นอะไรบางอย่างคล้ายๆ กลุ่มเมฆสีดำค่อยๆ รวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่จนมีรูปร่างคล้ายกับคนตัวใหญ่มาก ลอยอยู่บนท้องฟ้าแล้วจ้องมองลงมายังตัวเมือง - เป็นการมองอย่างมุ่งร้าย เหมือนเตรียมพร้อมจะทำบางสิ่งบางอย่าง มีพลังลบอย่างรุนแรง - ความรู้สึกบอกว่าเป็นกลุ่มมารที่มารวมตัวกัน
คงเป็นเพียงแค่ฝันร้าย

 

ก่อนตื่นขึ้น ในวันที่ 29 พฤษภาคม ในฝันรับรู้ถึงคำสองคำว่า

ชลบุรี และ 3 กุมภาพันธ์


โดยฝันนั้น ปราศจากทั้งภาพและเสียง ราวกับเป็นการบอกกล่าวเอาไว้ในความรู้สึก

 

มีฝันของคุณจิตกุศลที่มาตรงกับคุณ พุทธโกมุท และก็บังเอิญเหมือนกับที่ผมเองได้เคยฝันเมื่อนานสองสามเดือนแล้วครับ

ขออนุโมทนากับข้อมูลสารของสมาชิกทุกท่านค่ะ
ช่วงนี้อากาศร้อนมาก ๆ
มีเรื่องความฝันแปลก ๆ มาเล่า เป็นเพียงความฝันแต่ก็จำได้ติดตามาก
ในฝันเหมือนตนเองอยู่บนตึกสูง หน้าต่างเป็นกระจกสามารถมองเห็นสภาพภายนอกได้ชัดเจน มองออกไปน่ากลัวมาก เห็นพายุหมุนลูกใหญ่ สีดำทมึนก่อตัว และหมุนทำลายสิ่งต่าง ๆ แรงของพายุนั้นกระแทกกระจกของตึกจนร้าว
พายุไม่ได้มีเพียงลูกเดียว แต่เมื่อลูกแรกสลายตัว ลูกใหม่ก็จะก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ
ยังจำภาพได้ติดตา เป็นความฝันที่น่ากลัวมาก ซึ่งก่อนนอนไม่ได้คิดถึงเรื่องเหล่านั้นเลย ความฝันครั้งนี้เพิ่งฝันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี้เอง
ขอย้ำว่าเป็นเพียงความฝัน ขอสมาชิกทุกคนโปรดใช้ สติ ในการพิจารณาข้อความเหล่านี้ด้วย สาธุ....
<!-- / message -->

 

ตามปกติแล้วไม่ค่อยจะฝันนะคะเรื่องพวกภัยธรรมชาติเนี่ย เท่าที่ฝันแบบจำได้ติดตาเลยก็ มีอยู่ 4 ครั้งค่ะ ครั้งแรกฝันก่อนเกิดเหตุการณ์ซึนามิที่ภาคใต้เราประมาณ 1-2 อาทิตย์ค่ะ ฝันว่ากำลังยืนอยู่ในวัดและมองไปจากหน้าต่างโบสถ์ก็จะมองเห็นทะเล แต่แล้วอยู่ ๆ ก็มีคลื่นซัดเข้ามาเร็วมากจนเข้ามาถึงในวัดทำให้วัดน้ำท่วมทั้ง ๆ ที่วัดก็อยู่ห่างจากชายฝั่งพอสมควร
ครั้งที่สองฝันหลังเกิดซึนามิได้เป็น ปี ๆ แล้วค่ะ ในฝันว่ากำลังยืนอยู่บนถนนเลียบชายหาดที่พัทยา แล้วอยู่ ๆ ก็มีพายุเข้ามาแล้วน้ำจากทะเลก็ค่อย ๆ ท่วมเข้ามาในพัทยาอย่างเร็ว (แต่รู้สึกไม่แรงมากนักเพียงแต่น้ำท่วมเข้ามาเร็วมาก)คนวิ่งหนีกันอลหม่านไปหมด
ครั้งที่สาม(ครั้งนี้ฝันแปลกค่ะ) ฝันว่าอุกาบาตตกลงมาเป็นแบบเหมือนห่าฝน ลูกย่อม ๆ ไม่ใหญ่นักแต่เยอะ ตกไปที่ไหนก็ไฟไหม้ไปทั่ว คนวิ่งหนีตายกันแบบไม่คิดชีวิตเลยค่ะ ตัวดิฉันเองในฝันก็วิ่งหนีจนรู้สึกเหนื่อยมากด ๆ แล้วพอหลังจากฝนอุกาบาตหยุดแล้ว ก็พลันรู้สึกถึงแรงระเบิดของดวงอาทิตย์ รู้สึกได้ถึงแรงกดดันของคลื่นความร้อน ในฝันรู้สึกถึงความร้อนเลยค่ะว่าร้อนมากจนรู้สึกถึงกับหายใจไม่ออกเลยค่ะ พอแรงระเบิดเบาลง ดวงอาทิตย์ ก็แตกตัวออกมาเป็นสองดวง (ครั้งนี้เป็นฝันที่เหมือนจริงมากจนรู้สึกถึงความเหนื่อยในการวิ่งหนี และ ความร้อนจนหายใจไม่ออกเลยค่ะ)
และสุดท้ายเมื่อไม่นานมานี้ ดิฉันฝันว่า กำลังอยู่ใจกลางเมือง ก็มองเห็นกลุ่มหมอกสีดำใหญ่มากลอยครอบคลุมเมืองไปตามทางทั่ว ในฝันรู้สึกว่าคนกลัวหมอกนี้มาก ทุกคนต่างวิ่งหนีหาที่หลบกันใหญ่ แล้วมันก็ผ่านเข้ามาบริเวณที่ดิฉันยืนอยู่ มันเข้ามาบดบังทำให้บริเวณนั้น ๆ มืดไปหมด มองอะไรก็ไม่เห็น พอหมอกดำนี้ผ่านเข้ามาทุกคนต้องหยุดเดินและยืนอยู่กับที่เพราะมองอะไรไม่เห็นเลย มันผ่านเข้ามาประมาณ 10 นาที (ตามความรู้สึกในฝันค่ะ) ก็ผ่านเข้าไปตามจุดอื่น ๆ ของเมืองต่อไป
(ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ว่าดูหนังมากเลยฟุ้งซ่านหรือเปล่า)<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

ปกติฝันจำไม่ได้ถ้าไม่ตื่นขึ้นมาเลยในตอนนั้น แต่เมื่อคืนตื่นเลยครับ
จำได้ตอนเดียว กำลังยืนอยู่แถวๆเชิงเขาแห่งหนึ่ง เห็นโคลนร้อน ลาวาทะลักมาจากเนินด้านบน มาเหมือนคลื่น ซึนามิ เลยรู้สึกว่าตกใจมากแต่ก็มองหาที่หลบ มีแง่หินเตี้ยๆอยู่ใกล้ๆที่หนึ่งเท่านั้น ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่าถึงแม้ดูแล้วไม่น่าจะหลบพ้น พอผมโดดลงไป ก็พอดีโคลนร้อนก็หยุดไหลพอดี อยู่ตรงหน้า งานนี้รอดหวุดหวิด