จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    คำสอน ที่สุดของที่สุด ทางสายกลาง

    [​IMG]
    Published on Jul 18, 2016

    ธรรมะเพื่อการพัฒนาตน...โดย หลวงพ่อฤาษีฯ พระราชพรหมยานเถระ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    . .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2016
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    อานิสงส์ของการนึกถึงพระพุทธเจ้าบ่อยๆ :
    พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง อุทัยธานี

    [​IMG]
    Published on Apr 6, 2016

    อานิสงส์ของการนึกถึงพระพุทธเจ้าบ่อยๆ :
    พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง อุทัยธานี
    หนีนรก ตอนที่ 8
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    คาถาเมตตาของหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง จังหวัดภูเก็ต
    " พระอรหัง สุคโต ภะคะวา นะ เมตตาจิต "
    เป็นคาถาที่หลวงพ่อปานให้หลวงพ่อฤาษีตอนออกธุดงค์

    วัดฉลอง หรือชื่อที่เรียกเป็นทางการ ก็คือ วัดไชยธาราม เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่มีชื่อเสียงของภูเก็ต


    คลิก
    http://www.paiduaykan.com/province/south/phuket/watchalong.html]วัดฉลอง ภูเก็ต หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง การเดินทางไปวัดฉลอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
    :z8มาส่งความระลึกถึง ความรัก ความเคารพพี่ต้อยค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 สิงหาคม 2016
  6. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 สิงหาคม 2016
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    ก็คืออานาปานุสสติบวกกับ"สติ"ที่หลวงพ่อฤาษีท่านสอนนั่นแหละค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DhukaSukha.jpg
      DhukaSukha.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71 KB
      เปิดดู:
      70
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    [​IMG]

    . .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    [​IMG]
    อรรถกถา เสรีววาณิชชาดก
    ว่าด้วย เสรีววาณิช


    พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อประทับอยู่ในเมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุรูปหนึ่งผู้ละความเพียรเหมือนกัน จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า อิธ เจ หิ นํ วิราเธสิ ดังนี้.
    ก็ พระศาสดาทรงเห็นภิกษุนั้นถูกภิกษุทั้งหลายนำมาโดยนัยก่อนนั่นแล จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอบวชในศาสนาอันให้มรรคผลเห็นปานนี้ เมื่อละความเพียรเสีย จักเศร้าโศกตลอดกาลนาน เหมือนเสรีววาณิชเสื่อมจากถาดทองอันมีค่าแสนหนึ่ง ฉะนั้น.
    ภิกษุทั้งหลายทูลอ้อนวอนพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อทรงแสดงเรื่องนั้นให้เเจ่มแจ้ง.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงการทำเหตุอันระหว่างภพปกปิดไว้ ให้ปรากฏ.
    ในอดีตกาล ในกัปที่ ๕ แต่ภัทรกัปนี้ พระโพธิสัตว์ได้เป็นพ่อค้าเร่ ชื่อว่าเสรีวะ ในแคว้นเสริวรัฐ. เสรีววาณิชนั้น เมื่อไปเพื่อต้องการค้าขาย กับพ่อค้าเร่ผู้โลเลคนหนึ่ง ชื่อว่าเสรีวะ ข้ามแม่น้ำชื่อว่านีลพาหะ แล้วเข้าไปยังพระนครชื่อว่า อริฏฐปุระ แบ่งถนนในนคร (ไปคนละทาง) กันแล้ว เที่ยวขายสินค้าในถนนที่ประจวบกับตน.
    ฝ่ายวาณิชนอกนี้ ยึดเอาถนนที่ประจวบเข้ากับตนเท่านั้น. ก็ในนครนั้นได้มีตระกูลเศรษฐีตระกูลหนึ่งเป็นตระกูลเก่าแก่. บุตร พี่น้องและทรัพย์สินทั้งปวงได้หมดสิ้นไป. ได้มีเด็กหญิงคนหนึ่งเหลืออยู่กับยาย. ยายหลานแม้ทั้งสองนั้นกระทำการรับจ้างคนอื่น เลี้ยงชีวิต.
    ก็ ในเรือน ได้มีถาดทองที่มหาเศรษฐีของยายกับหลานนั้นเคยใช้สอย ถูกเก็บไว้กับภาชนะอื่นๆ เมื่อไม่ได้ใช้สอยมานาน เขม่าก็จับ. ยายและหลานเหล่านั้นย่อมไม่รู้ แม้ความที่ถาดนั้นเป็นถาดทอง.
    สมัยนั้น วาณิชโลเลคนนั้นเที่ยวร้องขายของว่า จงถือเอาเครื่องประดับ จงถือเอาเครื่องประดับ ได้ไปถึงประตูบ้านนั้น.
    กุมาริกานั้นเห็นวาณิชนั้น จึงกล่าวกะยายว่า ยาย ขอยายจงซื้อเครื่องประดับอย่างหนึ่งให้หนู.
    ยายกล่าวว่า หนูเอ๋ย เราเป็นคนจน จักเอาอะไรไปซื้อ.
    กุมาริกากล่าวว่า พวกเรามีถาดใบนี้อยู่ และถาดใบนี้ไม่เป็นอุปการะเกื้อกูลแก่พวกเรา จงให้ถาดใบนี้ แล้วถือเอา (เครื่องประดับ).
    ยาย จึงให้เรียกนายวาณิชมา แล้วให้นั่งบนอาสนะ ให้ถาดใบนั้น แล้วกล่าวว่า เจ้านาย ท่านจงถือเอาถาดนี้ แล้วให้เครื่องประดับอะไรๆ ก็ได้แก่หลานสาวของท่าน.
    นายวาณิชเอามือจับถาดนั่นแล คิดว่าจักเป็นถาดทอง จึงพลิกเอาเข็มขีดที่หลังถาด รู้ว่าเป็นทอง จึงคิดว่าเราจักไม่ให้อะไรๆ แก่คนเหล่านี้ จักนำเอาถาดนี้ไป แล้วกล่าวว่า ถาดใบนี้จะมีราคาอะไร ราคาของถาดใบนี้ แม้กึ่งมาสกก็ยังไม่ถึง จึงโยนไปที่ภาคพื้น แล้วลุกจากอาสนะหลีกไป.
    พระโพธิสัตว์คิดว่า คนอื่นย่อมได้เพื่อจะเข้าไปยังถนนที่นายวาณิชนั้นเข้าไป แล้วออกไป จึงเข้าไปยังถนนนั้น ร้องขายของว่า จงถือเอาเครื่องประดับ ดังนี้ ได้ไปถึงประตูบ้านนั้นนั่นแหละ.
    กุมาริกานั้นกล่าวกะยายเหมือนอย่างนั้นแหละอีก.
    ลำดับ นั้น ยายได้กล่าวกะกุมาริกานั้นว่า หลานเอ๋ย นายวาณิชผู้มายังเรือนนี้ โยนถาดนั้นลงบนภาคพื้นไปแล้ว บัดนี้ เราจักให้อะไรแล้ว ถือเอาเครื่องประดับ.
    กุมาริกากล่าวว่า ยาย นายวาณิชคนนั้นพูดจาหยาบคาย ส่วนนายวาณิชคนนี้ น่ารัก พูดจาอ่อนโยน คงจะรับเอา.
    ยายกล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นจงเรียกเขามา กุมาริกานั้นจึงเรียกนายวาณิชนั้นมา.
    ลำดับนั้น ยายและหลานได้ให้ถาดใบนั้นแก่พระโพธิสัตว์นั้น ผู้เข้าไปยังเรือน แล้วนั่ง.
    พระโพธิสัตว์นั้นรู้ว่า ถาดนั้นเป็นถาดทอง จึงกล่าวว่า แม่ ถาดใบนี้มีค่าตั้งแสน สินค้าอันมีค่าเท่าถาด ไม่มีในมือของเรา.
    ยายและหลานจึงกล่าวว่า เจ้านาย นายวาณิชผู้มาก่อนพูดว่า ถาดใบนี้มีค่าไม่ถึงแม้กึ่งมาสก แล้วเหวี่ยงถาดลงพื้นไป แต่ถาดใบนี้จักเกิดเป็นถาดทอง เพราะบุญของท่าน พวกเราให้ถาดใบนี้แก่ท่าน ท่านให้อะไรๆ ก็ได้แก่พวกเรา แล้วถือเอาถาดใบนี้ไปเถิด.
    ขณะนั้น พระโพธิสัตว์จึงให้กหาปณะ ๕๐๐ ซึ่งมีอยู่ในมือ และสินค้าซึ่งมีราคา ๕๐๐ กหาปณะทั้งหมด แล้วขอเอาไว้เพียงเท่านี้ว่า ท่านทั้งหลายจงให้ตาชั่งนี้กับถุง และกหาปณะ ๘ กหาปณะแก่ข้าพเจ้า แล้วถือเอาถาดนั้นหลีกไป.
    พระ โพธิสัตว์นั้นรีบไปยังฝั่งแม่นํ้า ให้นายเรือ ๘ กหาปณะ แล้วขึ้นเรือไป. ฝ่ายนายวาณิชพาลหวนกลับไปเรือนนั้นอีก แล้วกล่าวว่า ท่านจงนำถาดใบนั้นมา เราจักให้อะไรๆ บางอย่างแก่ท่าน. หญิงนั้นบริภาษนายวาณิชพาลคนนั้น แล้วกล่าวว่า ท่านได้กระทำถาดทอง อันมีค่าตั้งแสนของพวกเรา ให้มีค่าเพียงกึ่งมาสก แต่นายวาณิชผู้มีธรรมคนหนึ่ง เหมือนกับนายท่านนั่นแหละ ให้ทรัพย์พันหนึ่งแก่พวกเรา แล้วถือเอาถาดทองนั้นไปแล้ว.
    นายวาณิชพาลได้ฟังดังนั้นคิดว่า เราเป็นผู้เสื่อมจากถาดทองอันมีค่าตั้งแสน. วาณิชคนนี้ทำความเสื่อมอย่างใหญ่หลวงแก่เราหนอ เกิดความโศกมีกำลัง ไม่อาจดำรงสติไว้ได้ จึงสลบไป (พอฟื้น) ได้โปรยกหาปณะที่อยู่ในมือ และสิ่งของไว้ที่ประตูเรือนนั่นแหละ ทิ้งผ้านุ่งผ้าห่ม ถือคันชั่งทำเป็นไม้ค้อน. หลีกไปตามรอยเท้าของพระโพธิสัตว์ ไปถึงฝั่งแม่นํ้านั้น เห็นพระโพธิสัตว์กำลังไปอยู่ จึงกล่าวว่า นายเรือผู้เจริญ ท่านจงกลับเรือ. พระโพธิสัตว์ห้ามว่า อย่ากลับ.
    เมื่อนายวาณิชพาล แม้นอกนี้ เห็นพระโพธิสัตว์ไปอยู่นั่นแล เกิดความโศกมีกำลัง หทัยร้อน เลือดพุ่งออกจากปาก หทัยแตกเหมือนโคลนในบึง ฉะนั้น. วาณิชพาลนั้นผูกอาฆาตพระโพธิสัตว์ ถึงความสิ้นชีวิตลง ณ ที่นั้นนั่นเอง.
    นี้เป็นการผูกอาฆาตในพระโพธิสัตว์ของพระเทวทัต เป็นครั้งแรก.
    พระโพธิสัตว์กระทำบุญมีทานเป็นต้น ได้ไปตามยถากรรม.
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้นตรัสพระธรรมเทศนาแล้ว ทรงเป็นผู้ตรัสรู้พร้อมเฉพาะแล้วแล ได้ตรัสพระคาถานี้ว่า
    ถ้าท่านพลาดโสดาปัตติมรรค คือความแน่นอนแห่งพระสัทธรรมในศาสนานี้ ท่านจะต้องเดือดร้อนใจในภายหลัง สิ้นกาลนาน เหมือนวาณิชชื่อ เสรีวะ ผู้นี้ ฉะนั้น.
    บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อิธ เจ นํ วิราเธสิ สทฺธมฺมสฺส นิยามกํ ความว่า หากท่านพลาด คือ ถ้าท่านพลาดโสดาปัตติมรรค กล่าวคือความแน่นอนแห่งพระสัทธรรมอย่างนี้ ในศาสนานี้ อธิบายว่า ท่าน เมื่อละความเพียร จะไม่บรรลุคือไม่ได้.
    บท ว่า จิรํ ตุวํ อนุตปฺเปสิ ความว่า เมื่อเป็นอย่างนั้น ท่านเมื่อเศร้าโศก คือรํ่าไรอยู่ตลอดกาลนาน ชื่อว่าจักเดือดร้อนใจภายหลัง ในกาลทุกเมื่อ. อีกอย่างหนึ่ง ในบทนี้มีอธิบายดังนี้ว่า ท่านเกิดในนรกเป็นต้น เสวยทุกข์มีประการต่างๆ ตลอดกาลนาน ชื่อว่าจักเดือดร้อนใจภายหลัง คือชื่อว่าจักลำบาก เพราะความเป็นผู้ละความเพียร คือเพราะความเป็นผู้พลาดอริยมรรค.
    ถามว่า จักเดือดร้อนภายหลัง อย่างไร?
    ตอบว่า จักเดือดร้อนภายหลัง เหมือนนายวาณิช ชื่อว่าเสรีวะ ผู้นี้.
    อธิบายว่า เหมือนนายวาณิชผู้นี้ อันมีชื่ออย่างนี้ว่า เสรีวะ. ท่านกล่าวคำอธิบายนี้ไว้ว่า เมื่อก่อน วาณิชชื่อเสรีวะได้ถาดทองมีค่าหนึ่งแสน ไม่ทำความเพียรเพื่อจะถือเอาถาดทองนั้น จึงเสื่อมจากถาดทองนั้น เดือดร้อนใจในภายหลังฉันใด แม้เธอก็ฉันนั้นเหมือนกัน. เมื่อไม่บรรลุอริยมรรคอันเช่นกับถาดทองที่เขาจัดเตรียมให้ในศาสนานี้ เพราะละความเพียรเสีย เป็นผู้เสื่อมรอบจากอริยมรรคนั้น จักเดือดร้อนใจภายหลัง ตลอดกาลนาน ก็ถ้าจักไม่ละความเพียรไซร้ จักได้โลกุตรธรรม แม้ทั้ง ๔ ในศาสนาของเรา เหมือนนายวาณิชผู้เป็นบัณฑิต ได้เฉพาะถาดทอง ฉะนั้น.

    พระศาสดาทรงถือเอายอดด้วยพระอรหัตทรงแสดงพระธรรมเทศนานี้แก่ภิกษุนี้อย่างนี้ แล้วทรงประกาศสัจจะ ๔ ในเวลาจบสัจจะ ภิกษุผู้ละความเพียร ดำรงอยู่ในพระอรหัตอันเป็นผลเลิศ.
    แม้พระศาสดาก็ทรงตรัสเรื่อง ๒ เรื่องสืบต่อกัน แล้วทรงประชุมชาดกว่า
    วาณิชพาลในกาลนั้น ได้เป็น พระเทวทัต ในบัดนี้
    นายวาณิชผู้เป็นบัณฑิตในกาลนั้น ได้เป็น เราเอง ทรงให้เทศนาจบลงแล้ว.

    จบอรรถกถาเสรีวาณิชชาดกที่ ๓

    http://www.84000.org/tipitaka/atita100/jataka.php?i=270003]��ö���

    *มีชื่อเดียวกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2016
  10. ซี-วา

    ซี-วา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +644
    สิ่งใดชำรุดสิ่งนั้นได้ชื่อว่า"โลก"
    สิ่งใดดำรงอยู่สิ่งนั้นได้ชื่อว่า"ธรรม"
    ....................................
    ทำความดีย่อมได้ดี
    ทำความดีไม่จำเป็นต้องได้ของดี

    (ระลึกถึงทุกๆท่านครับ)(deejai)
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    สังเวคกถา
    [​IMG]
    Uploaded on Feb 22, 2012

    Playlist : http://www.youtube.com/playlist?list=...
    พระธรรมเทศนาพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ลี ธมฺมธโร)
    ให้เสียงโดย ภิกขุ กิจฺจวิชฺโช
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    [​IMG]
    อัฏฐิเสนชาดก
    ว่าด้วยการขอ
    ข้าแต่ท่านอัฏฐิเสนะ วณิพกเหล่าใดที่ข้าพเจ้าไม่รู้จัก วณิพกเหล่านั้นมา
    หาข้าพเจ้าแล้วเป็นต้องขอ เหตุไรพระผู้เป็นเจ้า จึงไม่ขออะไรๆข้าพเจ้า?
    ผู้ขอย่อมไม่เป็นที่รักของผู้ถูกขอ ผู้ถูกขอเมื่อไม่ให้ก็ไม่เป็นที่รักของผู้ขอ
    เพราะเหตุนั้น อาตมภาพจึงไม่ทูลขออะไรพระองค์ โดยคิดเห็นว่าอาตมภาพอย่าหมางใจกับพระองค์เสียเลย.

    ผู้ใดเป็นอยู่ด้วยการขอ ย่อมไม่ขอสิ่งที่ควรขอ ในเวลาที่ควรขอ ผู้นั้น ย่อมทำให้ผู้อื่นเสื่อมจากบุญ แม้ตัวเองก็หาเลี้ยงชีพไม่สะดวก.
    ส่วนผู้ใดเป็นอยู่ด้วยการขอ ย่อมขอสิ่งที่ควรขอในเวลาที่ควรขอ ผู้นั้น
    ย่อมทำให้ผู้อื่นได้บุญ แม้ตัวเองก็หาเลี้ยงชีพสะดวกด้วย.

    ผู้มีปัญญาเห็นยาจกมาแล้ว ย่อมไม่โกรธเลย ท่านผู้ประพฤติพรหมจรรย์
    เป็นที่พอใจของข้าพเจ้า ท่านต้องการอะไร เชิญบอกมาเถิด ข้าพเจ้าจะให้ทุกอย่าง.

    ผู้มีปัญญาย่อมไม่ออกปากขอเลย ส่วนผู้ที่ฉลาดควรจะรู้ความต้องการได้
    เอง พระอริยะทั้งหลาย ย่อมไม่ออกปากขอ มีแต่ยืนนิ่งอยู่ ด้วยภิกขาจารวัตรเท่านั้น นี่เป็นอาการขอของพระอริยะทั้งหลาย.

    ข้าแต่ท่านพราหมณ์ ข้าพเจ้าขอถวายโคนมสีแดงพันตัว พร้อมทั้งโคผู้พัน
    ตัวแก่ท่าน เพราะว่า ผู้ที่มีมารยาทดังพระอริยะ ได้ฟังคาถาอันประกอบไปด้วยธรรมของท่านแล้ว จะไม่ถวายแก่ท่านผู้มีมารยาทดังพระอริยะอย่างไรได้.
    จบ อัฏฐิเสนชาดกที่ ๘.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2016
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    [​IMG]

    . .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    [​IMG]

    . .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    [​IMG]
    ๒๖. การฟังธรรมตามกาล กลับสารบัญ

    ขยายความมงคลข้อที่
    ๒๖ การฟังธรรมตามกาลเป็นอุดมมงคล
    อรรถกถาท่านกล่าวว่า บุคคลใดมีใจฟุ้งซ่าน ถูกวิตกอย่างใดอย่างหนึ่งมีกามวิตก คือการตรึกถึงกามเป็นต้นครอบงำ การฟังธรรมเพื่อขจัดความฟุ้งซ่านในขณะนั้น เรียกว่าการฟังธรรมตามกาล เพราะละอกุศลวิตกเป็นต้นได้

    อีกอย่างหนึ่ง การเข้าไปหากัลยาณมิตรแล้วฟังธรรม เพื่อกำจัดความสงสัยในกาลใด กาลนั้นชื่อว่า
    การฟังธรรมตามกาล การฟังธรรมตามกาลจัดเป็นอุดมมงคล เพราะเป็นเหตุให้ได้บรรลุคุณวิเศษต่างๆ
    มีการละนิวรณ์เป็นต้นได้ นอกจากนั้นยังกำจัดกิเลสให้สิ้นไปได้ด้วย

    การฟังธรรมมีอานิสงส์ถึง ๕* ประการคือ
    ๑. ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยได้ฟัง
    ๒. แม้ฟังแล้วเมื่อได้ฟังซ้ำอีกย่อมเข้าใจและจำได้
    ๓. ทำให้บรรเทาหรือคลายความสงสัยได้
    ๔. ทำความเห็นให้ถูกตรง ไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ
    ๕. จิตของผู้ฟังย่อมผ่องใส

    *อัง. ปัญจกนิบาต ข้อ ๑๐๒

    ส่วนการฟังธรรมตามกาลมีอานิสงส์ ๕* ประการ ดังที่ท่านพระนันทกะแสดงให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่า
    ๑. ผู้ฟังย่อมเป็นที่รักที่พอใจ เป็นที่ยกย่องของพระศาสดา
    ๒. ผู้ฟังย่อมซาบซึ้งในอรรถะและธรรมะ คือเหตุและผลของธรรมนั้นๆ
    ๓. ย่อมแทงตลอดในธรรมะนั้นๆ
    ๔. ย่อมได้รับคำสรรเสริญจากเพื่อนพรหมจรรย์
    ๕. ทำให้ปรารภความเพียร เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังไม่แจ้ง

    *อัง. นวกนิบาต ข้อ ๒๐๘

    อีกอย่างหนึ่ง พระบรมศาสดาตรัสว่า การฟังธรรมตามกาลอันบุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้เป็นไปโดยชอบ ย่อมให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ

    ส่วนอาจารย์บางท่านกล่าวว่า
    ๑. การฟังธรรมเป็นเหตุให้พระศาสนารุ่งเรืองอยู่ได้นาน
    ๒. ตายไปแล้วได้เกิดในสุคติโลกสวรรค์
    ๓. จะได้ตรัสรู้มรรคผล
    ๔. เป็นอุปนิสสัยปัจจัยไปในภพภายหน้า

    ดังเรื่องนี้เป็นตัวอย่าง
    แม่ไก่ตัวหนึ่งฟังภิกษุรูปหนึ่งสาธยายธรรม ด้วยความเลื่อมใส ถูกนกเหยี่ยวโฉบไป มีจิตนึกถึงเสียง
    พระธรรมนั้นตายไปบังเกิดเป็นธิดากษัตริย์ ออกบวชเจริญฌานตายแล้วไปเกิดในพรหมโลก จุติจากพรหมโลก
    มาเกิดเป็นลูกเศรษฐี ตายแล้วไปเกิดเป็นสุกร ได้เห็นพระพุทธเจ้ามีจิตเลื่อมใส ตายแล้วเกิดเป็นธิดากษัตริย์อีก จากนั้นไปเกิดในบ้านคามวาสีเป็นลูกพ่อค้า แล้วเกิดเป็นลูกกุฎุมพีในเมืองอนุราะชื่อสุมนา เมื่อเป็นสาวได้เป็นภริยาของมหาอำมาตย์ อยู่มาวันหนึ่งพระอุตตระพาภิกษุสงฆ์เข้าไปบิณฑบาตที่บ้านของนางสุมนา เห็นนางแล้วก็กล่าวว่า ลูกสุกรมาเกิดในที่นี้แล้ว นางได้ฟังว่าตนเคยเกิดเป็นลูกสุกรก็สลดใจ เกิดความเบื่อหน่าย จึงลาสามีออกบวชเป็นภิกษุณี เจริญสติปัฏฐาน ๔ จนเกิดวิปัสสนาญาณ บรรลุเป็นพระอรหันต์ นี่ก็ด้วยอานิสงส์ของการฟังธรรมตั้งแต่ครั้งยังเป็นแม่ไก่ อันเป็นอุปนิสัยปัจจัยสืบต่อกันมาเป็นลำดับถึง ๑๒ ชาติจึงบรรลุ มรรคผล เป็นพระอรหันต์ เป็นการสิ้นสุดวัฏฏะอย่างแท้จริง

    เพราะฉะนั้นการฟังธรรมตามกาลจึงเป็นอุดมมงคล

    http://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2016
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    [​IMG]

    . .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • LostYourMind.jpg
      LostYourMind.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78 KB
      เปิดดู:
      379
    • Sati1.jpg
      Sati1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.6 KB
      เปิดดู:
      65
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    ;aa44. .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. ซี-วา

    ซี-วา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +644
    :VO:VO:VO
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,377
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    พระบรมราโชวาท
    [​IMG]


    Lek musicday
    Published on Sep 3, 2016

    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    วันที่ 4 ธันวาคม 2548
     

แชร์หน้านี้

Loading...