ญาณทัศนะ และ ผลจากการปฏิบัติ

ถามหมอแล้วว่าไงคับ

 

ผมตอบคำถามของท่าน เมธาวี1
ที่ถามเรื่องเม็ดเล็กๆ ใสๆ ชนกันไปชนกันมา ครับ
ไม่ได้ตอบเรื่องสีของผู้อื่น

ก่อนจะแสดงความเห็น ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ลองตั้งสติ พิจารณาถึงมารยาททางโลกด้วยนะครับ

 

ถามหมอแล้วว่าไงหละคับ

 

การกลับมาแก้ข้อความที่ตัวเองพิมพ์ไว้ครบถ้วนสมบูรณ์ด้วยเจตนาพร้อม เมื่อมีผู้แย้งในข้อความนั้น ได้กลับมาแก้ข้อความเดิมให้มีความหมายผิดไป เพื่อประโยชน์ในการรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง

ศีลของ Tamjugg ได้ขาดสะบั้นลงเสียแล้ว...

ศีลข้อมุสาวาทา นั้น รวมถึงการกลับคำพูดด้วย การกลับคำพูดนั้น มีผลในทางจิตใจ ในทางอกุศล ในทางบุญบาป มากกว่า การพูดเท็จตั้งแต่ต้น เพราะว่าเป็นคำพูด ที่ได้มีการกระทำ การกล่าวออกไปแล้ว ต้องมีการใช้ความพยายามมากกว่าการโกหกตั้งแต่แรก ในการปิดบัง เปลี่ยนแปลง ซ่อนเร้น เนื้อหาเดิม ในกระบวนการของบุญ และ บาปแล้ว ถือว่าเป็นบาปมากกว่า การโกหกในชั้นแรกครั้งเดียว

Tamjugg หากได้เห็นในชาติภพต่างๆ จริง ตอนนี้ ก็คงจะระลึกรู้ตัวได้แล้ว ว่า
อกุศลบาปของการผิดศีลมุสานี้ ได้บันทึกลงไปในจิตของ Tamjugg แล้ว และจะเป็นบาปที่ส่งผลในอนาคตอย่างแน่นอนเที่ยงตรงที่สุด

แต่อย่างไรเสีย ผมก็ต้องชี้แจงให้ Tamjugg ได้ระลึกรู้ จะได้สำรวม ระวัง กาย วาจา ต่อไปในอนาคต เพื่อที่จะได้ไม่ผิดศีลธรรมอีกต่อไป

พิจารณาดูให้ดีนะ Tamjugg
การเห็นอดีตชาติ การเกรงกลัวต่อบาป ต่อผลกรรม จะเกรงกลัวขนาดไหนก็ตาม มันก็เป็นแค่การเกรงกลัวในชั้นความคิด ไม่ใช่การยกระดับจิต
หากไม่มีสติระลึกรู้ในปัจจุบัน กิเลสอนุสัย ที่มันฝังอยู่ในใจมานานนับหมื่นนับแสนนับล้านชาติ มันมีกำลังมาก ทำให้ความเกรงกลัวในบาป มันขาดสะบั้นลงง่ายๆ ขาดลงพร้อมกับศีลที่ตนเพียรรักษามานาน ได้อย่างง่ายดาย

กลับมาปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องเถิด... เพื่อตัวของ Tamjugg เอง ไม่ใช่เพื่อใครผู้อื่น

 

ผมเอาข้อความออกเพราะกลัวคนไม่ได้อภิญญา จะสงสัยขัดข้านต่อต้านหรือเกิดโทสะ(คนบางส่วนนะคับ คนดีๆก็มีเยอะ) และข้อความผมมันจะทำให้คุณเกิดโทสะเปล่าๆเพราะคนที่ได้เท่านั้นที่รู้กัน คนที่ไม่ได้ถ้าละทิฐิมานะการถือตน และอารมณ์ไม่ทันเดี๋ยวโทสะจะก็ขึ้นเปล่าๆ พระอรหันต์จำนวนไม่น้อยก็ถึงพร้อมด้วยอภิญญา6 ไม่ว่าจะเป็นอัตรเบื้องขวาและเบื้องซ้ายก็ระลึกชาติได้นะคับ คุณกล่าวว่าการระลึกชาติโดยการเข้าฌานนั้นเหมือนจะหาประโยชน์ไม่ได้เลย จะเป็นการล่วงเกินพระอรหันต์และรวมถึงพระศาสดาไหมที่สามารถระลึกชาติได้เป็นแสนกัลป์และเป็นวสีเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชาและจรณะ ถึงพร้อมด้วยอภิญญา6

คุณกล่าว การเห็นอดีตชาติ การเกรงกลัวต่อบาป ต่อผลกรรม จะเกรงกลัวขนาดไหนก็ตาม มันก็เป็นแค่การเกรงกลัวในชั้นความคิด ไม่ใช่การยกระดับจิต
--ระวังคำพูดด้วยคับการระลึกชาตินั้นพระอรหันต์ทั้งหลายรวมถึงพระศาสดาก็เข้าฌานและระลึกชาติดั่งที่ตรัสไว้ในชาดก500ชาติ คุณว่าไม่ใช่การยกระดับจิต คุณได้ญานระลึกชาติรึยัง ? รู้เกินกว่าพระอริยะเจ้าไปไหม ทำไมพุทธองค์ถึงยกการระลึกชาติมาเป็น 1 ในอภิญญา 6 ถ้าหาประโยชน์ไม่ได้ดั่งที่คุณพูด?

ผมว่าคุณเอาเวลาว่างๆไปปฏิบัติให้เกิด ญาน เทอญ อันจะยังประโยชน์ให้แก่ตนมากกว่า ได้ญานหรืออภิญญาแล้ว ค่อยกลับมาตอบคำถามในกระทู้ยังไม่สายคับ 7วันถึง7ปี ผมว่าคุณก็น่าจะได้อะไรบ้างไม่มากก็น้อย เกิดเป็นคนนั้นมีโอกาสดีกว่าภพภูมิอื่นคับ คือมีโอกาสบรรลุธรรมขั้นสูงสุดได้ ผมขอโมทนาไว้นะที่นี้คับ การจะเกิดญานนั้นไม่ใช่มาจากการพูดคุย แต่หากเกิดจากการปฏิบัติจิงและถึงพร้อมด้วยศีลคับ ในพระไตรปิฏกมีบอกไว้หมดแล้วคับ ให้น้อมจิตตามไม่ใช่แค่ท่องจำแล้วพึงพิจารณาว่าเราตั้งอยู่ในคำสอนอยู่ไหม เช่น อริยมรรคมีองค์8 พรหมวิหาร4 พละ5 อธิบาท4 ไตรลักษณ์ สติปัฏฐาน4 และอื่นๆ คุณอาจจะเห็นธรรมตามด้านล่างนี้สักวันนึงก็เป็นได้


“ ดูก่อนอุทายี อีกประการหนึ่ง เราได้บอกปฏิปทาแก่สาวกทั้งหลายแล้วสาวกทั้งหลายของเราปฏิบัติตามแล้ว ย่อมได้บรรลุอิทธิวิธีหลายประการ....... สาวกของเราเป็นอันมาก จึงได้บรรลุบารมีอันเป็นที่สุดแห่งอภิญญาอยู่
“ ดูก่อนอุทายี อีกประการหนึ่ง เราได้บอกปฏิปทาแก่สาวกทั้งหลายแล้วสาวกทั้งหลายของเราปฏิบัติตามแล้ว ย่อมได้ยินเสียงสองชนิด คือเสียงทิพย์ และเสียงมนุษย์....... ย่อมกำหนดรู้ใจของสัตว์อื่น ของบุคคลอื่นด้วยใจ..... ย่อมระลึกชาติก่อนได้เป็นอันมาก....... ย่อมเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติ กำลังอุปบัติ..... ย่อมทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติอันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะสิ้นไป ....... สาวกของเราเป็นอันมาก จึงได้บรรลุบารมีอันเป็นที่สุดแห่งอภิญญาอยู่
“ ดูก่อนอุทายี ธรรมห้าประการนี้แล เป็นเหตุให้สาวกทั้งหลายของเราสักการะ เคารพ นับถือ บูชาแล้วพึ่งเราอยู่”

ส่วนการที่คุณจะหาว่าผมรักษาภาพลักษณ์หรือไม่นั้นผมห้ามไม่ได้ ตัวผมคิดว่าภาพลักษณ์นั้นถ้อยคำที่กล่าวออกมามันสะท้อนถึงตัวบุคคลชัดเจนที่สุดอยู่แล้ว บัณฑิตย่อมรู้ได้ เหมือนธรรมทั้งหลายที่พุทธองค์ตรัสผมอ่านแล้วต้องยกมือไหว้เลย เป็นวาจาที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นประโยชน์ ควรจดจำ เป็นจริง ไม่จำกัดกาล และบ่งบอกถึงพระปัญญาธิคุณที่เป็นหนึ่งหาผู้เสมอเหมือนมิได้อีกแล้ว

 

คุณมีญาณแบบไหนกันหละครับ ถึงมาบอกว่าผมไม่ได้ญาณ (smile)

ถ้าสงสัย คุณถามพระอาจารย์คุณ ให้ตรวจสอบดูก็ได้นะครับ

แล้วคุณบอกว่า เอาข้อความออกจากกระทู้นี้ แต่ไป post อีกกระทู้นึง เอาซะขนาดว่า ถ้าเป็นพระนี่ อาบัติกระจุย... แบบนี้ยังอ้างขึ้นอีกหรือ

 

ดั่งที่พุทธองค์ตรัสไว้จิงทุกประการ มนุษย์นั้นมี4จำพวก เปรียบเสมือนดั่งบัว4เหล่า....

 

กำลังมันส์
ยังกะ บัวขาว เจอ สมรักษ์
เท่าที่ฟัง เหมือนคนนึงกำลังเตือนว่า อันนี้ผมก็เคยเจอมาแล้ว อย่าไปหลงกะมัน
แต่อีกคนกำลัง ร้อนวิชา ที่พูดมาทำได้อย่างผมยัง มาบอว่ายึดติดๆ

ผมฟังแบบคนยังไม่มี ไม่ได้อะไร นะครับ ^^ แหะๆ
สมาธิต้นๆของผม คงค่อย กระดึบๆต่อไป _ _ll
อนุโมทนากับ สองท่านครับ

 

มันจบตั้งแต่แรกแล้วคับ ที่อินทรบุตรยังไม่ได้อภิญญาอะไรเลย อินทรบุตรอาจจะได้อยู่อย่างนึงคือ ได้แต่พูดนั่นพูดนี่ จิงๆผมไม่อยากพูดแล้วนะคับเดวจะเสียน้ำใจกันเปล่าๆ แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเปลืองพื้นที่ของเว็ปบอร์ดโดยใช่เหตุ และเว็ปบอร์ดนั้นก็จำเป็นต้องใช้พื้นที่ว่างในการเก็บข้อมูลและสิ่งที่เป็นสาระต่างๆอีกมากคับ
ถ้าได้ญานหรืออภิญญาอะไรจิงก็เชิญไปลงในห้อง อภิญญาXPคับ ผมขออนุโมทนาไว้นะที่นี่ จะรออ่านคับ

 

u have arahunt teach ..u ask him how.. for me I do for Buddha...apinya ..no idea

 

yep , if u do the right way , u will get apinya6 automatically then u finish this religion job. As I said apinya6 many monk already gain it since 2600 years ago and finish their goal .