ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

ข่าวช่วงค่ำ 20.00 น.


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้"

ฉบับที่ 18 ลงวันที่ 02 มกราคม 2556

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิจะต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ ส่วนบริเวณเทือกเขาและภูเขาสูง
จะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งบริเวณยอดดอย ในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นในระยะนี้

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้

มีฝนลดลง และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง แต่อ่าวไทยตอนล่างยังคงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือขอให้เพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือขนาดเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปควรงดออกจากฝั่งในระยะ 1-2 วันนี้

อนึ่ง บริเวณกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในช่วงวันที่ 3-4 มกราคม 2556 ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าว มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา โดยเริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป



ประกาศ ณ วันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.30 น.


(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

(นายวรพัฒน์ ทิวถนอม)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


สตูลแจ้งเตือนระวังโรคฉี่หนูระบาด



ในภาคใต้ ป้องกันได้ด้วยการหลีกเลี่ยงเดินลุยน้ำ ลุยโคลนตม ต้องสวมใส่รองเท้าบู๊ท

เมื่อวันที่ 2 ม.ค. นายณรงค์ ลือขจร รักษาราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สตูล เปิดเผยว่า ปี 2555 ประเทศไทยมีผู้ป๋วยโรคฉี่หนูแล้ว 3,836 ราย เสียชีวิต 54 ราย ซึ่งโรคฉี่หนูได้แพร่ระบาดมากที่สุดในพื้นที่ภาคใต้ และรองลงมาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับในขณะที่ในพื้นที่จังหวัดสตูลปี 2555 มีผู้ป๋วยโรคฉี่หนู 31 ราย พื้นที่มีการแพร่ระบายโรคฉี่หนูของจังหวัดสตูล คือ ในอ.ควนกาหลง และอ.มะนัง

ทั้งนี้โรคฉี่หนู่ดังกล่าวติดต่อมาจาก หนู สุนัข โค กระบือ สุกร ฯลฯ ที่เป็นตัวนำเชื้อมาแพร่ โดยสัตว์เหล่านี้จะปัสสาวะปนเปื้อนเอาไว้ในแม่น้ำ ลำคลอง หรือ สถานที่มีน้ำขัง พื้นที่แฉะทำให้ผู้คนที่ลงไปเดินลุยน้ำท่วมติดเชื้อโรคฉี่หนูเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล หรือ ทางเยื่อบุอ่อนๆ ง่ามมือ ง่ามเท้า ดวงตา ฯลฯ

ในขณะที่โรงฉี่หนูสามารถป้องกันได้ด้วยวิธีให้หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำหรือ ลุยโคลนตม โดยเฉพาะอย่างผู้ที่มีบาดแผล ตามแขน ขา มือ เท้า แต่ถ้าหากจำเป็นต้องเดินย่ำ หรือเดินลุยน้ำโคลน โดยเฉพาะชาวสวน ชาวนา รวมทั้งผู้ทำงานบ่อปลา ขุดลอกท่อระบายน้ำ ขอให้สวมใส่รองเท้าบู๊ท และสวมถุงมือยางป้องกันเอาไว้ด้วย ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ติดเชื้อโรคฉีหนูเข้าสู่ร่างกาย ประการสำคัญหลังเดินลุยน้ำ หรือลุยโคลนแล้วต้องเร่งทำการล้างร่างกายโดยเฉพาะที่บริเวณบาดแผลที่มีอยู่ตามร่างกายให้สะอาด นอกจากนั้นให้ทำความสะอาดบ้านเรือนให้สะอาด หากพบหนูปัสสาวะทิ้งไว้ หรือกัดแทะสิ่งของต่างๆ ภายในบ้านควรนำสิ่งของเหล่านั้นไปทำลายทิ้ง และเก็บกวาดขยะมูลฝอยนอกบ้าน หรือภายในบ้านเรือนให้สะอาด กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ จะปลอดภัยจากโรคฉี่หนูอย่างแน่นอน

น้ำท่วมพัทลุงชาวบ้านเดือนร้อนแล้ว4พันครัว



ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มของ 2 อำเภอ อำเภอเมือง อาทิ ตำบลโคกชะงาย ตำบลเขาเจียก ตำบลนาท่อม ตำบลปรางหมู่ ตำบลพญาขัน ตำบลนาโหนด และตำบลชัยบุรี อำเภอเขาชัยสน อาทิ ตำบลหารโพธิ์ อำเภอควนขนุน อาทิ ตำบลมะกอกเหนือ ตำบลพนางตุง และตำบลทะเลน้อย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจาก จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่รองรับน้ำจากเทือกเขาบรรทัด ก่อนจะไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา ระดับท่วมสูงประมาณ 70-80 ซ.ม. ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน กว่า 3,500 ครอบครัว ถนนในหมู่บ้านหลายสายยังถูกน้ำท่วมสูง รถเล็กยังไม่สามารถสัญจรได้ โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านพลายทอง บ้านเขาจิงโจ้ ตำบลพญาขัน ตำบลชัยบุรี ตำบลนาโหนด อำเภอเมือง ที่น้ำเข้าท่วมในพื้นที่เป็นระลอกที่ 3 ช่วง 3 สัปดาห์
ส่วนสถานการณ์คลื่นสูง ซัดชายฝั่งที่บริเวณหาดแสนสุขลำปำ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา จนทำให้ร้านค้า สถานที่ราชการ ต้องเร่งขนย้านสิ่งของหนีน้ำตลอดทั้งคืน ล่าสุด จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คลื่นได้สงบแล้ว ส่วนความเสียหายกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจของเจ้าหน้าที่


รับปีใหม่ ค่าไฟฟ้าเพิ่มอีกหน่วยละ 4.40 ส.ต

บอร์ดกกพ.มีมติ ขึ้น Ft อีก4.04สต.ต่อหน่วย



ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน มีมติขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติงวดใหม่ตั้งแต่เดือนม.ค.-เม.ย.2556 อีก 4.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยให้เหตุผลเรื่องปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ไม่ต้องการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน

วันนี้(2 ม.ค.)นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ระบุว่า กกพ.มีมติเห็นชอบให้ประกาศค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือ Ft งวดใหม่ประจำเดือน ม.ค.-เม.ย.2556 ขึ้นอีก 4.04 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งเมื่อรวมกับค่า Ft เดิมแล้ว ทำให้ค่า Ft ใหม่เท่ากับ 52.04 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของประชาชนเมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานจะปรับเพิ่มขึ้นจากเดิม 3.72 บาทต่อหน่วย มาเป็น 3.76 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ประธานกกพ. ให้เหตุผลว่า การขึ้นค่าFt ได้พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาวะเศรษฐกิจ และไม่ต้องการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนจึงเห็นชอบให้มีการปรับขึ้นในอัตราดังกล่าว จากเดิมที่หน่วยงานผลิตไฟฟ้าเสนอปรับขึ้นมาในอัตรา 13.57 สตางค์ต่อหน่วย โดยต้นทุนที่มีภาระในส่วนนี้ ได้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ร่วมรับภาระแทนประชาชนเป็นการชั่วคราวไปก่อนซึ่งคิดเป็นเงิน 5,131 ล้านบาท


นอกจากนี้ กกพ.จะนำรายละเอียดทั้งหมดเผยแพร่ผ่าน www.erc.or.th เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในวันที่ 2-8 ม.ค.นี้ ก่อนนำผลการรับฟังความคิดเห็นมาพิจารณาและประกาศเรียกเก็บค่าไฟฟ้าตั้งแต่งวดนี้เป็นต้นไป


ข่าวนี้ไม่เกี่ยวกับภัยพิบัติ แต่เอามาลงให้ดูกันเพราะ มันซึ้งเข้าไปในหัวใจมั๊กๆ

สุดซึ้ง สุนัขตาบอดเดินได้เพราะแมวบอกทาง


เพื่อนรักต่างสายพันธุ์ แมวช่วยสุนัขตาบอดเดินได้ตรงทาง โดยใช้อุ้งเท้าบอกทิศ

วันนี้ (1 ม.ค.) เว็บไซต์ต่างประเทศ "เดอะซัน" นำเสนอข่าวน่าประทับใจของเพื่อนสี่ขาต่างสายพันธุ์ อย่างสุนัขพันธุ์ผสมชื่อ เทอเฟล วัย 8 ปี ที่ส่วนใหญ่จะเก็บตัวอยู่ในกรงหลังจากถูก วินิฉัยว่า เป็นโรคต้อกระจกทำให้สูญเสียการมองเห็น ซึ่งเวลาเดินจะชนเฟอร์นิเจอร์ หรือสิ่งของข้างทางเป็นประจำ

จนจูดี้ เจ้าของสุนัขรับแมวจรจัดสีน้ำตาลมาเลี้ยงในบ้านและตั้งชื่อให้ว่า แพดิแทด ก็เกิดเรื่องน่าประหลาดขึ้น เมือแพดิแทดเดินตรงไปยังกรงของเทอเฟลพร้อมช่วยนำทางเทอเฟลไปเดินเล่นในสวน โดยแมวแพดิแทดจะใช้อุ้งเท้าในการบอกทิศทางเพื่อนสุนัข

ทั้งนี้ จูดี้ ข้าราชการบำนาญวัย 57 กล่าวว่า ตนรู้สึกแปลกใจมากเพราะคิดมาตลอดว่าแมวกับสุนัขไม่ถูกกัน แต่เหมือนแมวแพดิแทดจะรู้ว่า เทอเฟลตาบอด ทั้งคู่เลยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม้แต่นอนก็นอนด้วยกันจนถึงปัจจุบัน.

ที่มาของข่าว เดลินิวส์ ข่าวสด แนวหน้า ผู้จัดการออนไลน์

 

ข่าวหลังเที่ยงคืน 00.30 น.


อัพเดทพายุที่เกิดขึ้นในเวลานี้

ภาพดาวเทียมล่าสุด ของมหาสมุทรอินเดีย

หลังจากพายุโซนร้อน Dumile ที่กำลังทวีกำลังขึ้นเป็นไซโคลนตามความคาดหมายของ TSR โดยพายุมีทิศทางออกห่างมาดากัสกา แล้วเรายังพบหย่อมความกดอากาศต่ำลูกใหม่ที่ได้ก่อตัวขึ้นสู่ระดับ HIGH แล้ว




ภาพดาวเทียมล่าสุด ของมหาสมุทรแปซิฟิคตอนใต้

ส่วนพายุไซโคลนฟรีดา ได้ลดความเร็วลมลงกลายเป็นพายุโซนร้อนแล้ว เรายังพบหย่อมความกดอากาศต่ำลูกใหม่ได้ก่อตัวขึ้นแถบฟิลิปินส์อีกเช่นกัน





ต้องติดตามความคืบหน้ากันต่อไปครับ

 

ข่าวเช้า วันที่ 03-01-2013 เวลา 07.30 น.

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 3 มกราคม 2556 ภาค 07.00น.

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในช่วงวันที่ 3-4 มกราคม 2556 ทำให้บริเวณดังกล่าว กลับมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยเริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปยังคงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือยังต้องเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือต่อไปอีก 1 วัน

พยากรณ์อากาศตั้งแต่เช้าวันนี้ (3 ม.ค. 56)จนถึงเช้าวันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส
สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ คำนวณโดยกรมอุทกศาสตร์
วันนี้ น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 11.09 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 41 เซนติเมตร และเวลา 20.51 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 93 เซนติเมตร
น้ำลงเต็มที่ เวลา 04.22 น. ต่ำกว่าระดับทะเลปานกลาง 35 เซนติเมตร และเวลา 17.00 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 47 เซนติเมตร
วันนี้ที่ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.22 น.
กรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.02 น.

ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : จุฑาทิพย์ แสนยศ จุฑาทิพย์ แสนยศ
Rewriter : กัลยา คงยั่งยืน / สวท. กัลยา คงยั่งยืน / สวท.
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

อุตุฯ ใต้ประกาศ ฉ.11 เตือนฝนตกหนัก



บริเวณความกดอากาศสูง หรือ มวลอากาศเย็นกำลังแรงที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน เริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีกำลังปานกลาง และบริเวณภาคใต้มีฝนลดลง
สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง อ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งตั้งแต่ วันที่ 2 – 3 มกราคม 2556
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก
ออกประกาศ วันพุธที่ 2 มกราคม 2556
เวลา 11.30 น. —ISN 03


10.00 น.JTWC ประกาศการสลายตัวของ พายุโซนร้อน ฟรีดา แล้ว โดยขึ้นคำว่า สิ่งที่หลงเหลืออยู่ (RMNTS-TC 05P)

 

สกู๊ปข่าวพิเศษ

10 อันดับสัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก




อันดับ 10 Puffer Fish ปลาปักเป้า ปลาปักเป้า คือสัตว์มีพิษที่มีคนนิยมบริโภคมาก โดยเฉพาะในแถบประเทศญี่ปุ่น (ปลาปักเป้าภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ฟูกุ) และเกาหลี (ในส่วนของภาษาเกาหลีจะเรียกว่า บ๊อค ฮัง) โดนเนื้อปลาปักเป้านั้น จริงๆแล้ว ไม่ได้มีพิษ แต่ส่วนที่มีพิษก็คือพวกผิวหนังและเครื่องในของปลาปักเป้า แต่พิษเหล่านี้มักจะซึมเข้าไปในเนื้อตอนแล่ พ่อครัวที่จะแล่ปลาปักเป้าต้องมีใบอนุญาติกันเลย ถ้าหากกินพิษของปลาปักเป้าไป อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ในทันที




อันดับ 9 Poison Dart Frog กบลูกดอก กบลูกดอกสีน้ำเงินนั้นเป็นสัตว์ที่อยู่ในป่าฝนในทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้ เป็นกบที่มีสีสันสวยงามแต่พิษของมันร้ายแรงมาก พิษของกบลูกดอก 1 ตัว สามารถคนได้ถึง 10 คน และหนูถึง 20,000 ตัว พิษของมันเพียง 5 ไมโครกรัม (เท่ากับปลายเข็ม) ก็สามารถฆ่าคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ๆได้ พิษของมันถูกนำมาใช้ในลูกดอกอาบยาพิษของอินเดียแดง มันจึงถูกเรียกว่ากบลูกดอก




อันดับ 8 Inland Taipan งูไทปันโพ้นทะเล งูไทปันถูกพบได้มากในทวีปออสเตรเลีย เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงมาก พิษที่มันปล่อยออกมาจากการกัดหนึ่งครั้ง สามารถฆ่าคนได้ถึง 100 คน หรือหนู 250,000 ตัว พิษของมันสามารถฆ่าคนได้ภายใน 45 นาที แต่อย่างไรก็ตาม งูไทปันเป็นงูที่ค่อนข้างขี้อาย ไม่เคยมีการบันทึกว่ามีคนตายจากพิษของมัน




อันดับ 7 The Brazillian Wandering Spider แมงมุมบราซิล แมงมุมบราซิลหรือแมงมุมกล้วย ได้รับการบันทึกลงในกินเนสเวิลด์เรคคอรด์ว่าเป็นแมงมุมที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก พิษของมันมีพิษทำลายประสาท พวกมันจะอันตรายอย่างมากเพราะโดยนิสัยของมันแล้วมันชอบแอบอยู่ตามรองเท้า ตู้เสื้อผ้า แม้กระทั่งในรถยนต์ พิษของมันถ้าโดนกัดนอกจากจะทำให้เจ็บปวดอย่างมากแล้ว มันจะทำให้อวัยวะเพศของเราควบคุมไม่ได้ และถ้ารอดตายจากการโดนมันกัด มันก็จะทำให้เราเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ




อันดับ 6 Stonefish ปลาหิน ถ้าแข่งกันในเรื่องของความสวยงามแล้ว ปลาหิน ท่าทางจะแพ้อย่างขาดลอย แต่ถ้าแข่งกันเรื่องความรุนแรงของพิษแล้วละก็ เจ้าปลาหินไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มันได้ชื่อว่าเป็นปลาที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก พิษของปลาหินนี้จะอยู่ในหนามของตัวมันเอง มีคนบอกว่า ถ้าคุณโดนมันแทงเข้าละก็ คุณจะได้ลิ้มรสความเจ็บปวดเท่าที่มนุษย์จะเจ็บได้เลยทีเดียว นอกจากจะเจ็บสุดๆแล้ว มันจะทำให้คุณเป็นอัมพาต แล้วก็ตายได้ในที่สุด




อันดับ 5 Death Stalker Scorpion แมงป่องเดธท์ สตอล์คเกอร์ แมงป่องโดยทั่วไปนั้น ถึงแม้ว่าจะโดนกัด พิษของมันก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรมนุษย์ได้มากนัก อาจจะเจ็บปวดนิดหน่อย แต่...มันไม่ใช่สำหรับแมงป่องพันธุ์เดธท์ สตอล์คเกอร์เลย เพราะพิษของมันสามารถทำลายระบบ ประสาทได้ ถ้าคุณโดนมันกัด คุณจะปวดอย่างมหาศาล จากนั้นจะตามมาด้วยอาการไข้ขึ้น เป็นอัมพาต และตายในที่สุด แต่ถึงแม้พิษมันจะร้ายแรงมาก แต่มันก็ไม่สามารถฆ่ามนุษย์ที่เป็นผู้ใหญ่ได้ แต่ว่ามันจะเป็นอันตรายต่อ เด็ก ทารก คนแก่ อย่างมาก ถึงแม้ว่ามันไม่สามารถ




อันดับ 4 Blue-Ringed Octopus ปลาหมึกแหวนน้ำเงิน ปลาหมึกแหวนน้ำเงินนั้นมีขนาดที่เล็กมาก ขนาดประมาณลูกกอลฟ์เท่านั้นเอง แต่ขนาดไม่ใช่ปัญหาสำหรับความรุนแรงของพิษมันเลย เพราะพิษมันสามารถฆ่าคนได้ภายในไม่กี่นาที และที่สำคัญ มันยังไม่มียาแก้พิษ ถ้าโดน ปลาหมึกแหวนน้ำเงินกัดละก็ คุณจะไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากหรอก แต่ว่าพิษมันจะเริ่มทำลายระบบประสาทของคุณ หลังจากนั้นคุณจะรู้สึกอ่อนแอและคุณก็จะเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ระบบการหายใจจะเริ่มล้มเหลว หลังจากนั้น ก็ตายในที่สุด >> น่ากลัวไหมล่ะครับ เล็กพริกขี้หนูจริงๆ




อันดับ 3 Marbled Cone Snail หอยเต้าปูนลายหินอ่อน หอยเต้าปูนตัวเล็กๆ สีสันสวยงาม แต่!!! พิษของมันน่ะเหรอ เพียงแค่หยดเดียว สามารถฆ่าคนได้ถึง 20 คน ถ้าคุณเล่นน้ำที่ทะเลที่มันค่อนข้างอุ่นๆแล้วเห็นเจ้าตัวนี้อยู่ อย่าคิดที่จะหยิบมันมาเล่นเลยนะครับ แค่ดูมันอยู่ห่างๆก็พอแล้ว เพราะถ้าคุณโดนพิษมันเล่นงานละก็ คุณจะปวด หลังจากนั้นก็จะเริ่มบวม ระบบการหายใจเริ่มล้มเหลว ร่างกายจะคันหยุกหยิก เป็นอัมพาต แล้วก็ตายในที่สุด แต่ยังไงก็ตาม มีรายงานว่ามีแค่ 30 คนเท่านั้นที่ตายเพราะหอยเต้าปูน




อันดับ 2 King Cobra งูจงอาง งูจงอางหรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ophiophagus hannah เป็นงูพิษที่มีลำตัวยาวที่สุดในโลก ด้วยขนาดโตสุดที่ 5.6 เมตร งูจงอางนั้น เรารู้กันว่าอาหารโปรดของมันก็คือ งู !!! นั่นหมายความว่ามันกินสัตว์ตระ***ลเดียวกัน และเพียงแค่โดนมันกัดเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้คนตายได้อย่างง่ายๆ และพิษของมันนั้น สามารถฆ่าช้างที่โตเต็มวัยได้เพียงแค่ 3 ชั่วโมง ในส่วนของมันนั้น ส่วนประกอบของมันแตกต่างกับพิษงูโดยทั่วไป ที่สำคัญมันพบได้ทั่วไปในทวีปเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และในประเทศไทย






อันดับ 1 Box Jellyfish แมงกระพรุนกล่อง และแล้วแมงกระพรุนกล่องก็ได้เป็นแชมป์สัตว์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก รายงานว่ามันฆ่าคนไปแล้ว 5,567 คน พิษของมันนั้นจะไปทำลาย หัวใจ ระบบประสาท ผิวหนัง และที่สำคัญ ถ้าโดนพิษมันจะเจ็บปวดอย่างที่สุด ส่วนใหญ่คนที่โดนพิษมันนั้นจะช็อค และหัวใจล้มเหลวก่อนที่จะกลับเข้าถึงฝั่ง แต่ถ้าคุณโดนพิษมันก็ยังมีโอกาสที่จะรอดอยู่นั่นคือ ต้องรีบเอาน้ำส้มสายชู มาล้างอย่างน้อย 30 วินาที เพราะมันจะทำลายพิษของแมงกระพรุนกล่องก่อนที่มันจะเข้าไปสู่กระแสเลือด


ที่มาจาก Sanook.com

 

Earthquake Location
Magnitude 4.4 MANIPUR, INDIA REGION
Thursday, January 03, 2013 at 05:47:27 UTC

siamblogza: วัตถุประหลาดมีแสงและเกิดการระเบิดบินวนไปวนมา

 

ข่าวเย็นนึ้


ภาคเหนืออินเดียหนาวจัดตายแล้วกว่า 100 ศพ


ประชาชนในภาคเหนือของอินเดียกำลังเผชิญภาวะอากาศหนาวจัดที่สุดในรอบ 44 ปี มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 100 ศพ

วันนี้ ( 3 ม.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองลัคเนา ประเทศอินเดียว่า ภาคเหนือของอินเดียกำลังประสบภาวะอากาศหนาวจัดในรอบกว่า 40 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 100 ศพ


รายงานของสำนักงานตำรวจรัฐอุตตรประเทศในวันนี้ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตในพื้นที่อย่างน้อย 114 ศพ ในจำนวนนี้ 23 ศพ เสียชีวิตเมื่อช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานด้วยว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อาจเป็นคนจรจัด หรือผู้ที่มีฐานะยากจน เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตจำนวนมากอยู่บริเวณริมถนน


ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยารายงานว่า อุณหภูมิเฉลี่ยในรัฐอุตตรประเทศอยู่ที่ระหว่าง 4-10 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยในกรุงนิวเดลี อยู่ที่ 9.8 องศาเซลเซียส ต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2512 หรือในรอบ 44 ปี

"เหนือ" หนาวเพิ่ม "ดอยอินทนนท์" 3.5 องศาฯ


กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้อิทธิพลความกดอากาศสูงกำลังแรง ส่งผลภาคเหนืออุณหภูมิลดลงอีก ขณะนักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศหนาว และชมความงามดอกไม้เมืองหนาวแน่น

เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (3 ม.ค.) นายรักชัย ศรีนวน เวรพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า บริเวณบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในช่วงตั้งแต่วันที่ 3-4 ม.ค. 56 ทำให้บริเวณดังกล่าวกลับมีอากาศเย็น และอุณหภูมิจะลดต่ำลงอีก 2-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ และเกษตรกรในระยะนี้ ในบางพื้นที่อาจมีน้ำค้างเกิดขึ้นได้ สำหรับอุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 3.5 องศาฯ ที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ สำหรับตัวเมืองเชียงใหม่วัดได้ 19 องศาฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานบริเวณยอดดอยม่อนตะวัน ซึ่งตั้งอยู่ภายในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ เพราะพึ่งเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปเมื่อปลายปี52 ทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มหลั่งไหลเข้ามาเที่ยววันละไม่ต่ำกว่า 1,000 คน เพื่อขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาว ดูทะเลหมอก ชมดอกไม้เมืองหนาวตามจุดต่างๆ รวมถึงสัมผัสกับวิธีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่นี้ จำเป็นต้องพิงไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายตลอดเวลา เนื่องจากอากาศหนาวมาก และมีหมอกตั้งแต่ช่วงเช้า ไปจนถึง 09.00 น. ของทุกวัน ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวแห่ขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวและตั้นเต๊นท์พักค้างแรมจนแน่นขนัดไปทุกพื้นที่

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ยอดดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ หรือแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอื่นๆ ก็มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ห้องพักตามแหล่งที่พักหลายแห่งยังมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจองจนเต็มกว่า 90 เปอร์เซ็นต์


นายคมสัน สุวรรณอัมพา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยพิบัติภัยหนาว ขณะนี้ถือว่าเริ่มรุนแรงมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยหนาวแล้ว จำนวน 16 อำเภอ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ ทางอำเภอของแต่ละแห่งจะมีการนำงบประมาณในการช่วยเหลือ อำเภอละ 1 ล้านบาท มาช่วยเหลือในการจัดซื้อเครื่องนุ่งห่มกันหนาว เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในเขตพื้นที่ของตนเองไปก่อน หากอำเภอไหนที่ไม่เพียงพอในเรื่องของเครื่องนุ่งห่มกันหนาว ทางจังหวัดก็จะเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้ความต้องการเครื่องนุ่งห่มกันหนาวพบว่า มีจำนวนถึง 250,000 ชิ้น ซึ่งทางเราจะเร่งหาทางช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน.


หมอจีนคิดวิธีใช้ไอเย็นรักษาโรคมะเร็ง สนใจติดต่อได้ไม่เสียค่าใช้จ่าย


หมอจีนพบวิธีรักษาโรคมะเร็งแบบใหม่ ใช้ความเย็นชะลอโรคร้าย และฝังแร่ไอโอดีนกันมมันตภาพ 125 เผยสถิติคนป่วยดีขึ้นมั่นใจหายขาด สนใจติดต่ออาคารไซเบอร์เวิลด์ ทาวเวอร์ ชั้น 5

วันนี้ (3 ม.ค.) ที่โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ มร.เผิงเสี่ยวชื่อ หัวหน้าคณะแพทย์รพ.มะเร็งสมัยใหม่กวางโจว สาธารณะรัฐประชาชนจีน เปิดเผยว่า เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต”ไทย-จีน”เป็นปีที่ 37 จึงจัดทำโครงการแลกเปลี่ยนความเห็นเชิงวิชาการด้านการแพทย์ 2 ประเทศ โดยเฉพาะการรักษามะเร็ง เพื่อยกระดับความร่วมมือทางการแพทย์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยคณะแพทย์รพ.มะเร็งสมัยใหม่กวางโจว ได้ค้นพบวิธีการรักษาแบบใหม่ด้วยการผสมผสานการแพทย์จีนเข้ากับการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยใช้ความเย็นเข้ามาช่วยลดการแพร่กระจายของเซลมะเร็ง โดยการฝังแร่ไอโอดีนกัมมันตภาพ 125 รวมถึงการใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ทำให้เกิดบาดแผลเล็ก สามารถยับยั้งไม่ให้เนื้องอกเติบโตและลุกลามจนเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ จากสถิติผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาล้วนแต่มีสุขภาพดีขึ้น หากรักษาและดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด โอกาสที่จะรักษาเซลมะเร็งให้หายขาดมีความเป็นไปได้สูง


มร.เผิงเสี่ยวชื่อ กล่าวต่อว่า นอกจากการเข้าร่วมประชุมเชิงวิชาการด้านการแพทย์แล้ว จะเข้าเยี่ยมเยียนผู้ป่วยในประเทศไทยที่เคยเข้ารับการรักษาอาการป่วยโรคมะเร็งกับทางรพ.ด้วย โดยรพ.เราได้รับการยกย่องว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการพักฟื้น เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศที่เอื้อต่อการรักษาพยาบาลและพักฟื้นจากอาการเจ็บป่วย มีภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกสมุนไพรสำหรับผลิตยารักษามะเร็ง ทำให้ชาวต่างชาติทั่วโลกเดินทางมารักษา โดยรพ.มีสาขากว่า 100 แห่งในสาธารณะรัฐประชาชนจีน

ทั้งนี้ระหว่างอยู่ในเมืองไทยยินดีให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้สนใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่รพ. มะเร็งสมัยใหม่กวางโจว สำนักงานประเทศไทย เลขที่ 90 อาคารไซเบอร์เวิลด์ ทาวเวอร์ ชั้น 5 ห้อง อาร์5128-5129 ถนนรัชดาภิเษก ห้วยขวาง หรือโทรมานัดหมายล่วงหน้าได้ที่ 082-799-2888 หรือ 02-645-2799

เปิดริมห้วยซองกาเลียและล่องแก่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเสริมรายได้ชุมชน


เตรียมระดมสมอง วางแผนบริหารจัดการ แหล่งท่องเที่ยวริมห้วยซองกาเลีย จัดกิจกรรมล่องแก่ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวสร้างจุดขาย หารายได้เสริมเศรษฐกิจ สร้างความกินดีอยู่ดีชุมชน

วันนี้ ( 3 ม.ค.) นายภูวพล รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ นายกอบต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ที่ผ่านมานักท่องเที่ยว จะรู้จักเพียงด่านเจดีย์สามองค์ สะพานไม้ วัดหลวงพ่ออุตตมะ โบสถ์จมน้ำ แต่จากนี้ไปนักท่องเที่ยว จะต้องเดินทางเข้ามาที่ริมห้วยซองกาเลีย ซึ่งทางอบต. กำลังดำเนินการปรับปรุงเพื่อส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยอันดับแรกจะจัดทำป้าย ดูแลเรื่องขยะมูลฝอย รวมถึงการจัดระเบียบร้านค้า และวางระบบบริหารจัดการให้ดูดียิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก พร้อมกันนั้นจะหารือกับผู้ประกอบการทั้ง 11 ร้าน ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ในการปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้กลมกลืนกับธรรมชาติและสภาพแวดล้อมให้มากที่สุด ไม่มีการบุกรุกหรือทำลายป่า สำหรับเรื่องสุขาและถังขยะ ทางอบต.จะจัดหาเพิ่มเติม ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวยังอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในส่วนของห้องสุขานั้นก็จะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ให้ปรับปรุงให้ดีและดูสะอาดมากกว่าที่ผ่านมา

นายกอบต.หนองลู กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเรื่องอัตราค่าธรรมเนียมค่าเข้า หรือ ค่าบริการนั้น คงจะต้องหารือกันในอนาคตข้างหน้า ว่าจะมีแนวทางในการดำเนินการอย่างไร เนื่องจากต้องการรายได้เพื่อเข้ามาพัฒนาชุมชน และในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่จะถึงในปี 56 นี้จะใช้สถานที่ริมห้วยซองการเลียจัดงานลอยกระทงด้วย เชื่อว่าบริเวณนี้จะเป็นจุดขายของอ.สังขละบุรีอีกแห่งหนึ่ง เพราะเป็นเส้นทางผ่านของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางผ่านไปยังด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งตรงนี้น้ำใสสะอาดสามารถเล่นน้ำและล่องแก่งได้ ขณะนี้มีผู้ประกอบการที่ให้บริการล่องแก่งแก่นักที่องเที่ยวอยู่แล้ว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและสนุกสนาน ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเรียกผู้เกี่ยวข้องทังหมดรวมถึงผู้ประกอบการ เพื่อบูรณาการการท่องเที่ยว และสิ่งสำคัญจะต้องไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ชาวบ้านต้องมีรายได้กลับคืนมา ส่วนในเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ก็จะจัดเวรยามตลอด 24 ชม.


ปิดท้าย7วันอันตรายเจ็บ3329ตายพุ่ง365มากกว่าปี54นครปฐมแชมป์18ศพ



ปิดท้าย7วันอันตรายเจ็บ3329ตายพุ่ง365มากกว่าปี55ขณะนครปฐมยึดแชมป์18ศพสาเหตุหลักเมา-ขับรถเร็ว

(3 ม.ค.) หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า รายงานผลสรุปตัวเลข ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ 2556 โดยมีรายงานสถิติผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางท้องถนน ตลอดทั้ง 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2555 สิ้นสุด ณ วันที่ 2 มกราคม 2556 ปรากฏว่า มีอุบัติเหตุรวม 3,176 ครั้ง มียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 365 ราย และมีผู้บาดเจ็บรวม 3,329 ราย

ด้านนายอนุสรณ์ แก้วกังวาล รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า จำนวนอุบัติเหตุรวม 7 วัน มีจำนวนถึง 3,176 ครั้งนั้น ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 83 ครั้ง หรือร้อยละ 2.68 ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมา 29 ราย จากเดิม 336 ราย หรือร้อยละ 8.63 ซึ่งในปีนี้ จ. นครปฐมมีอัตราตัวเลข ผู้เสียชีวิตมากที่สุด 18 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บ โดยรวมลดลง ร้อยละ 1.3


สำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่คือ เมาแล้วขับ และขับรถด้วยความเร็วสูง ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือ จักรยานยนต์ อย่างไรก็ตามในวันนี้ เวลา 11.00 -14.00 น. จะทำการปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ อย่างเป็นทางการ และนำตัวเลขมาวิเคราะห์ เพื่อหาทางลดสถิติต่อไป

อำเภอเบตงเฝ้าระวังดินโคลนถล่มจากฝนที่ตกลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

อำเภอเบตงเฝ้าระวังดินโคลนถล่มจากฝนที่ตกลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
(3 ม.ค.56) ในพื้นที่อำเภอเบตง จ.ยะลา มีฝนตกติดต่อกันหลายวันตั้งแต่เดือนธันวาคม 55 ที่ผ่านมา ส่วนด้าน นายศุภวริศ เพชรกาฬ นายอำเภอเบตง จ.ยะลา เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกับอุทกภัยในพื้นที่ ว่า ในช่วงนี้จะมีฝนตกลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ได้มีการประชุมกับทางจังหวัด จัดทำแผน จัดเตรียมบุคลากร เครื่องมือ อุปกรณ์ มากว่า 3 เดือน จึงได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเฝ้าระวังการเกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ในพื้นที่เสี่ยง และให้เตรียมความพร้อมรับมือหากเกิดอุทกภัยขึ้น โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ราบเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหล และเป็นพื้นที่ที่เคยเกิดน้ำท่วม อาจจะทำให้เกิดดินถล่ม จึงต้องมีการเฝ้าระวังและออกสำรวจเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ยังได้กำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีการจัดเจ้าหน้าที่และเตรียมอุปกรณ์การช่วยเหลือไว้ให้พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดอุทกภัยขึ้นจะได้เข้าไปช่วยเหลือได้ทัน


ที่มาจาก เดลินิวส์ ข่าวสด บ้านเมีอง กรมประชาสัมพันธ์

 

18:00 หย่อมความกดอากาศต่ำหมายเลข 92W ก่อตัวเป็นพายุดีเปรสชัน 201301W ซึ่งถือเป็นพายุลูกแรกของปีนี้ ที่ฝั่งตะวันตกของฟิลิปปินส์ ทิศทางพายุเบื้องต้น ทาง TSR คาดว่าจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้แล้วเบี่ยงไปทางประเทศมาเลเซีย





ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

 

จากการรายงานของเว็บภัยพิบัติเมื่อเวลา 02:00 พายุดีเปรสชัน 01W ได้รับการตั้งชื่อแล้วว่า โซนามุ เป็นภาษาเกาหลี :boo:

 

ข่าวเช้าวันที่ 04-01-2013


เหนือ-อีสาน อากาศเย็นอุณหภูมิลดต่อเนื่อง



กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันศุกร์ที่ 4 มกราคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส และมีลมแรง โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างให้ระวังคลื่นลมแรงพัดเข้าสู่ชายฝั่งส่วนชาวเรือบริเวณดังกล่าวให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กให้งดออกจากฝั่งในระยะนี้ 1-2 วันนี้

อนึ่ง พายุโซนร้อน “โซนามุ” (SONAMU) บริเวณทะเลซูลู ประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางในเช้าวันนี้ (4 ม.ค.56) พายุนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 4-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม
.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส และมีลมแรง อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม
.
ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงอีกประมาณ 1 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพฯและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. —ISN 07


พายุไซโคลนพัดถล่มเกาะเรอูนียง ทำให้ประชาชนเกือบ 70,000 ครัวเรือนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้

วันที่ข่าว : 4 มกราคม 2556
พายุไซโคลนดูมิลพัดถล่มเกาะเรอูนียงดินแดนของฝรั่งเศสกลางมหาสมุทรอินเดียเมื่อวานนี้ ด้วยกำลังลมแรงกว่า 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และฝนตกหนัก สร้างความเสียหายให้แก่เครือข่ายไฟฟ้า ทำให้ประชาชน 68,000 ครัวเรือนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ นอกจากนี้พายุยังทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายด้วย ขณะที่ประชาชน 170 คนต้องไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพ ซึ่งมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยระหว่างการอพยพ ทั้งนี้พายุไซโคลนดูมิลนับเป็นพายุไซโคลนลูกแรกที่พัดถล่มเกาะเรอูนียงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2550.

ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : บัณฑิต รอดเมือง
Rewriter : บัณฑิต รอดเมือง
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

ออสซี่เผชิญร้อนจัดอุณหภูมิพุ่งเกิน40องศา



ออสเตรเลียเผชิญอากาศร้อนจัดขณะที่มีรายงานคาดการณ์ว่าอุณหภูมิในหลายพื้นที่ของประเทศจะพุ่งสูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียส


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าหน่วยงานฉุกเฉินและดับเพลิงของออสเตรเลียเตรียมพร้อมรับมือเหตุเพลิงไหม้ หลังมีรายงานคาดการณ์ว่าอุณหภูมิในหลายพื้นที่ของประเทศจะพุ่งสูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียรายงานว่า คลื่นความร้อนได้แผ่ปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือของรัฐเซาท์ออสเตรเลียและภาคใต้ของเขตนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี โดยคาดว่าที่เมืองทาร์คูลาในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย จะมีอุณหภูมิสูงถึง 46 องศาเซลเซียสในวันศุกร์นี้ และ 47 องศาเซลเซียสในวันจันทร์หน้า ส่วนที่เมืองแอดิเลด อุณหภูมิจะขยับขึ้นเป็น 41-42 องศาเซลเซียสนับจากวันศุกร์และต่อเนื่องไปอีกหลายวัน

ขณะที่พื้นที่ตอนเหนือรัฐวิกตอเรียจะมีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสในวันนี้และต่อเนื่องไปจนถึงต้นสัปดาห์หน้า อากาศร้อนยังแผ่ปกคลุมไปถึงรัฐควีนส์แลนด์ นิวเซาท์เวลส์ วิกตอเรีย และแทสเมเนีย โดยอุณหภูมิจะยังคงสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสต่อไปอีก 6-7 วันในพื้นที่ตอนในของประเทศ แม้เมืองโฮบาร์ตก็มีอุณหภูมิสูงเช่นกัน โดยคาดว่าจะถึง 38 องศาเซลเซียสในวันศุกร์นี้

ที่มา โพสทูเดย์

 

07:15 เส้นทางพายุโซนามู ปรับแก้ล่าสุด จาก TSR





07:32 ภาพดาวเทียมล่าสุดในแสงปกติของพายุดีเปรสชันโซนามูทางตะวันตกของฟิลิปปินส์







ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

เพิ่มเติมเส้นทางเดินพายุไซโคลน SONAMU จาก GDACS

 

ข่าวเย็นนี้


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

"พายุ “โซนามุ”"
ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 04 มกราคม 2556

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้(4 มกราคม 2556) พายุโซนร้อน “โซนามุ”
(SONAMU) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง หรือที่ ละติจูด 8.4 องศาเหนือ ลองจิจูดที่ 115.8 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กม./ชม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 18 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนผ่านทะเลจีนใต้ตอนล่าง และมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงก่อนเคลื่อนเข้าใกล้ประเทศมาเลเซียในวันที่ 8 มกราคม 2556 ซึ่งผลกระทบจากพายุนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 7-9 มกราคม 2556
อนึ่ง บริเวณกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนกระจาย สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ยังคงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างให้ระวังคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณดังกล่าวให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กให้งดออกจากฝั่งในระยะนี้

ประกาศ ณ วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.30 น.





ที่มาจาก กรมอุตุนิยมวิทยา


ยะลาอ่วมท่วมระลอกสอง เด็กนักเรียนต้องหยุดเรียนยาว


น้ำท่วมยะลาระลอกสอง ริมแม่น้ำสายบุรีอ่วม น้ำท่วมเส้นทางเข้าหมู่บ้าน นร.ต้องหยุดเรียนยาว สวนยางจมน้ำรองสองโอกาสต้นเน่าตายได้ วัวขาดแคลนหญ้า

วันนี้ (4 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ลมมรสุมเข้าภาคใต้อีกระลอก จนเกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของจังหวัดภาคใต้ นั้น จังหวัดยะลามีฝนกระหน่ำอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ปริมาณน้ำแม่น้ำสายบุรี สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนพื้นที่ราบลุ่มในเขตน้ำท่วมซ้ำซาก ริมตลิ่งแม่น้ำสายบุรี เกิดท่วมขังอีกระลอก ตั้งแต่ตำบลบาลอ เรื่อยมา จนถึงตำบลท่าธง ของอำเภอรามัน ประกอบ ตำบลบาลอ ตำบลกายูบอเกาะ ตำบลตะโละหะลอ ตำบลอาซ่อง ตำบลเกะรอ ตำบลท่าธง รวม 6 ตำบล น้ำท่วมเส้นทางคมนาคมภายในหมู่บ้าน สวนยางพารา ชาวบ้านต้องอพยพสัตว์เลี่ยง มาเลี้ยงไว้บนถนนหลวง ทำให้สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ วัว เริ่มขาดแคลนหญ้าและมีโรคแล้ว ในขณะที่ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ไม่ได้ลงมาตรวจสอบแต่อย่างใด


สำหรับพื้นที่น้ำท่วมขังบ้านและเส้นทางเข้าสู่หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านกำปงบาโง บ้านบูเกะซืองอ บ้าน ปายอแง หมู่ที่ 5 ต.อาซ่อง ทำให้เด็กนักเรียน ที่ต้องไปเรียนที่โรงเรียนบ้านสะโต ต้องขาดเรียนยาว จนกว่าน้ำท่วมเส้นทางลดลงปกติ ส่วนบ้านฮูยงปาแซ หมู่ที่ 1 ต.ตะโล๊ะหะลอ น้ำท่วมบ้านและเส้นทางเข้าหมู่บ้านทั้งหมด บ้านปายอยือนิ หมู่ที่ 6 ต.กายูบอเกาะ น้ำท่วมบ้าน 10 หลังคาเรือน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 10 หลังคาเรือน พื้นที่ บ้านกะดุนง หมู่ที่ 4 ต.เกะรอ น้ำท่วมเส้นทาง การสัญจรบางช่วงต้องใช้เรือแทน น้ำในหม่น้ำสายบุรี ยังมีระดับสูงขั้นอย่างต่อเนื่อง หากฝนกระหน่ำอีกระลอก ตามการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ทำให้เกิดน้ำท่วมกระจายไปในหลายพื้นที่อย่างแน่นอน


ด้านนายเดรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้นายสมเกียรติ ศีรษะเนตรนายอำเภอรามัน ลงไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อน โดยเน้นให้ดูแลในเรื่องของสุขภาพร่างกาย ที่อาจเกิดโรคที่มากับน้ำท่วมได้ พร้อมประสาน หน่วยงาน อบต.ในพื้นที่ สำรวจความต้องการในการให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจัดหาที่สำหรับอพยพประชาชนหนีน้ำหากมีความจำเป็น.

หมอกลงหนาจัดกระทบชาวเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนออกวิ่งบริการไม่ได้



เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานมาจากจังหวัดเชียงรายว่าจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นมีหมอกลงหนาทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่เกิน 10 เมตร ทำให้ผู้ขับขี่เรือบริการข้ามฝากแม่น้ำโขงไทย-ลาว ที่ท่าเรือด้านหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน ต่างนั่งรอเวลานำเรือออกบริการลูกค้าทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยว เนื่องจากได้มีหมอกลงมาหนาทึบมากในเช้าวันนี้ ทำให้ไม่สามารถนำเรือออกไปวิ่งบริการตามปกติได้ ซึ่งส่วนมากผู้ที่มาใช้บริการจะเป็นพ่อค้าและแม่ค้าชาวลาวที่ข้ามฝากมาจากเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว มาซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค ประเภทผัก-ผลไม้ เนื้อสัตว์ เพื่อนำไปจำหน่ายต่อให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ฝั่งลาว โดยวันนี้กลุ่มพ่อค้าได้ทะยอยขนสินค้าลงมาจ่อไว้ที่โป๊ะเรือเพื่อรอเวลาให้หมอกจางลงก่อนเรือถึงจะวิ่งได้ตามปกติ

ด้านนายสาคร กันสีเวียง อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 228 หมู่ 3 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เจ้าของเรือหางยาวข้ามฝากที่มาให้บริการที่ท่าเรือแห่งนี้เป็นประจำกล่าวว่าจากการที่มีหมอกลงหนาจัด ทำให้ไม่สามารถนำเรือออกบริการได้เนื่องจากเกรงเรื่องความปลอดภัยเพราะระยะในการมองเห็นไม่เกิน 10 เมตร ถ้าหากยังฝืนวิ่งออกไปอาจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุเรืออาจจะชนกันได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงแต่นั่งรอเวลาให้หมอกจางลงเท่านั้น แต่ก็เป็นเพียงบางวันที่จะมีหมอกลงหนาจัดเช่นนี้ ส่วนมากชาวเรือก็จะเข้าใจและไม่มีใครนำเรือออกวิ่งในช่วงเวลาดังกล่าวถึงแม้ว่าจะทำให้เสียรายได้ก็ตาม.

ภัยหนาวที่หนองบัวลำภู ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านและนักเรียนในพื้นที่สูง



อากาศหนาวที่หนองบัวลำภู ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านและเด็กนักเรียนต้องออกมาเรียนรับแสงแดดอุ่นๆตอนเช้า ในขณะที่หมอใหญ่หนองบัวลำภูออกมาเตือนชาวบ้านให้ดูแลสุขภาพตนเองในหน้าหนาว

วันนี้ (4 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศอากาศหนาวส่งผลกระทบให้ชาวบ้านที่อยู่บนเทือกเขาภูพาน ต.หนองบัว อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู หลายร้อยหลังเรือนต้องลุกขึ้นมาแต่เช้าตรู่เพื่อรับไออุ่นจากดวงอาทิตย์และร่วมกันก่อกองไฟพิงกันแทบทุกหลังคาเรือน เนื่องมาจากสภาพความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคอื่นๆ มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิจะต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่โดยเฉพาะที่โรงเรียนบ้านห้วยทราย นายบุญช่วย ปู่หลุ่น ผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะครูให้นักเรียนต้องออกมานั่งล้อมวงก่อไฟพิงและออกกำลังกายพร้อมด้วยกันทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนเพื่อให้เกิดความอบอุ่นก่อนเข้าแถวเรียนและนั่งล้อมวงเรียนหนังสือท่ามกลางแสงแดดอุ่นๆ และโชคดีที่สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 นำตัวแทนมามอบผ้าห่มกันหนาวแจกจ่ายให้กับนักเรียนที่ขาดแคลนเพื่อคลายความหนาวในขณะนี้

ขณะที่นายวุฒิไกร ศักดิ์สุรกานต์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู ออกมาเตือนประชาชนให้ระมัดระวังดูแลสุขภาพตนเองในช่วงหน้าหนาว ว่าจากสภาพอากาศที่เริ่มเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะนี้ ขอแนะนำให้ประชาชนป้องกันตนเองให้พ้นจากโรคที่มาพร้อมกับภัยหนาวโดยเฉพาะไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคหัด โรคหัดเยอรมัน โรคสุกใส และอุจจาระร่วงในเด็ก รวมถึง โรคผิวหนัง ที่เกิดจากสภาพอากาศแห้ง โดยเฉพาะเหนือและอีสาน ที่มีหนาวเย็นกว่าภาคอื่น โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย 3 กลุ่ม เนื่องจากภูมิต้านทานต่ำกว่ากลุ่มอื่น ได้แก่กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ทั้งนี้ ขอเตือนให้ประชาชนบางกลุ่มเชื่อว่า การดื่มสุรา ดื่มแล้วจะแก้หนาวได้ ก็ไม่เป็นความจริง แม้ว่าจะทำให้รู้สึกเหมือนว่าร่างกายอบอุ่นในช่วงแรก เพราะเกิดจากเส้นเลือดขยายตัว ทำให้ร้อนวูบวาบ แต่ผลที่เกิดตามมาก็คือ ร่างกายจะสูญเสียความร้อนและน้ำจากผิวหนังอย่างรวดเร็ว ทำให้อุณหภูมิในร่างกายต่ำได้ง่าย จึงมักพบการเสียชีวิตจากภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำได้

ที่มาจาก เดลินิวส์

พัทลุง,ปัตตานี ยังมีน้ำท่วมสูงในบางพื้นที่



สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพัทลุง แม้ปริมาณฝนได้ลดลงแล้วก็ตาม แต่ยังมีน้ำท่วมสูงในพื้นที่ลุ่มต่ำรอบทะเลสาบสงขลา เนื่องจากมีน้ำทะเลหนุน

โดยเฉพาะ ในพื้นที ม.2 ,7 ต.มะกอกเหนือ ม.4,7 ตำบลพนางตุง ม.6,7 ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน และ 6 หมู่บ้าน ตำบลลำปำ พญาขันต์ และตำบลหารโพธิ์ อำเภอเขาชัยสน มีน้ำท่วมถนนในหมู่บ้านสูงเฉลี่ย 80 เซนติเมตร ชาวบ้านยังคงต้องใช้เรือในการสัญจร

ขณะที่ทางจังหวัดยังคงประกาศเตือน ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมทะเลสาบสงขลา ด้านอำเภอปากพะยูน บางแก้ว เขาชัยสน ควนขนุน และอำเภอเมือง ให้ระวังคลื่นลมแรงในทะเลอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายประมุข ลมุน ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้สั่งเฝ้าระวังในพื้นที่ 5 อำเภอที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ประกอบด้วย อำเภอเมือง ยะรัง แม่ลาน สายบุรี และ อำเภอหนองจิก ซึ่งเป็นพื้นที่ติดแม่น้ำปัตตานีและแม่น้ำสายบุรี เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน หากยังมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง พร้อมประสานไปยังนายอำเภอทั้ง 12 อำเภอ ให้เตรียมกำลังและเครื่องมือ พร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือประชาชนทันทีหากเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ


เดือน ม.ค.ลำปางเจอทั้งภัยหนาวและภัยแล้งอย่างหนัก



อุตุฯ ลำปางเผย จ.ลำปางเดือนมกราคมนี้ จะเกิดความหนาวเย็นไปตลอดทั้งเดือน จนไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิจะสูงขึ้นแต่รับห่วงสถานการณ์ของภัยแล้งขอให้ประชาชน และเกษตรกร บริหารจัดงานน้ำอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะให้เริ่มแผนประหยัดน้ำ ตั้งแต่ช่วงเดือนนี้ เป็นต้นไป

วันที่ 4 มกราคม 2556 นายทิวา พันธ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคม 2556 นี้ สภาพอากาศในช่วงฤดูหนาวของ จ.ลำปาง ยังจะเป็นช่วง ที่จะเกิดหนาวที่สุดของปี

โดยมวลอากาศเย็นมีกำลังแรงขึ้น และเสริมเข้าปกคลุมบ่อยขึ้น ทำให้มีอากาศหนาวเย็นทั่วไป และหนาวจัดบางพื้นที่ โดยเฉพาะบนยอดเขา อาจจะมีให้เห็นน้ำค้างแข็ง เกิดขึ้นได้ ซึ่งตลอดเดือนมกราคมนี้ ยังเป็นช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว เพื่อรับลมหนาวในพื้นที่ภาคเหนือ

สำหรับสภาพอากาศที่หนาวใน จ.ลำปาง จะหนาวเย็น และหนาวจัด ไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2556 จากนั้นมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อนลง อากาศอุ่นขึ้นอย่างช้า ๆ และสิ้นสุดฤดูหนาว ในกลางเดือนกุมภาพันธ์

อย่างไรก็ตาม ในฤดูหนาวปีนี้ ของ จ.ลำปาง ถือว่าอากาศหนาวน้อยกว่าปีที่แล้ว ส่วนอุณหภูมิต่ำสุด ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ย ทั้งนี้ สภาพอากาศในช่วงฤดูหนาว ไม่น่าเป็นห่วง แต่เป็นห่วงภัยแล้ง ที่กำลังจะมาถึง ขอให้ประชาชน และเกษตรกร บริหารจัดงานน้ำอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะให้เริ่มแผนประหยัดน้ำ ตั้งแต่ช่วงเดือนนี้ เป็นต้นไป

เพราะสถานการณ์ภัยแล้ง อาจจะมาเร็วกว่าทุกปี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2556 นี้ เป็นต้นไปสำหรับอุณหภูมิในพื้นที่ จ.ลำปาง บริเวณพื้นราบเฉลี่ย 16 – 17 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดเขาต่ำกว่า 14 องศาเซลเซียส และในช่วงเดือนมกราคม 2556 นี้

คาดว่าจะเกิดความหนาวเย็นลงอีกระลอก 1 – 3 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่จะลดลงส่งท้ายฤดูหนาว ก่อนที่จะเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูหนาวปีนี้ จ.ลำปาง ยังคงเจอกับสภาพอากาศที่แปรปรวนต่อเนื่องจากมาตั้งปีที่ผ่านมา

ที่มาจาก ครอบครัวข่าว 3

คลื่นลมแรงดันอาหารทะเลราคาพุ่ง



อาหารทะเลพัทลุง ขาดแคลน ราคาพุ่งเกือบเท่าตัว ชาวประมงเสี่ยงตายออกหาปลา ล่าสุด "ปลาทู" ขยับ 90 บาท / กก. หลังคลื่นลมแรง

จังหวัดพัทลุงประกาศเตือนประชาชน ให้ชาวประมงที่อาศัยอยู่ริมทะเลสาบพัทลุง-สงขลา ใน 5 อำเภอ ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งเนื่องจากคลื่นลมแรง 1-2 ม. และชาวประมงในพื้นที่ก็หยุดหาปลากันหมด แต่ยังมีชาวประมงหนึ่งเดียวของจังหวัดพัทลุง ด้วยประสบการณ์และความชำนาญในการออกเรือ จึงเสี่ยงตายฝ่ากระแสคลื่นลมออกหาปลา เพียงเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน

นางเล็ก มาสุข ชาวประมง อยู่บ้านเลขที่ 196 ม.8 ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง กล่าวว่า ตนกับสามีต้องตื่นแต่ฟ้าสาง เพื่อนั่งรอดูท้องฟ้าและกระแสลม หากมีท้องฟ้าเปิดก็จะติดเครื่องยนต์ออกเรือไปอย่างรวดเร็ว เพราะสภาพอากาศในทะเลเปลี่ยนแปลงบ่อยเอาอะไรแน่นอนไม่ได้ ซึ่งระยะทางจากบ้านตนต้องขับเรือไปประมาณ 4-5 กม.เพื่อข้ามฝั่งไปยังบริเวณคลองยวนซึ่งเป็นที่อยู่ของปลาหัวโม่ง หลังจากได้ปลามาแล้วประมาณ 20-30 กก. ก็ต้องรีบกลับเพื่อนำไปจำหน่ายในราคากก.ละ 30 บาท โดยนำรายได้ไปซื้อข้าวสาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแชร์ และส่วนหนึ่งให้ลูกไปโรงเรียน

นางเล็ก ยังกล่าวอีกว่า การออกทะเลแต่ครั้งมีความเสี่ยงถึงชีวิต แต่ด้วยความจำเป็นในภาระและหน้าที่ ประกอบกับประสบการณ์ในการออกเรือหาปลา กว่า 30 ปี จึงไม่น่าเป็นห่วง แต่ที่กังวลมากกว่าคือพรุ่งจะเอาไรกิน

นางรอฮะห์ จิตนารี แม่บ้านบ้านควนอินนอโม เทศบาลตำบลเขาหัวช้าง อ.ตะดหมด จงพัทลุง เปิดเผยว่า ขณะนี้อาหารทะเลได้เกิดภาวะขาดแคลน ซึ่งเดิมในตลาดสดจะมีแม่ค้าขายปลาเป็นจำนวนมาก แต่มาระยะนี้แทบจะไม่มีมีโดยเหลือประมาณ 1 ราย โดยปลาทูราคาประมาณ 90 บาท / กก. ซึ่งเดิมตามปกติราคาประมาณ 60 - 70 บาท / กก. โดยแม่ค้าอ้างว่าตอนนี้ทะลเออกหาปลาไม่ได้ จึงเกิดภาวะขาดแคลน

นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัย ย้อนหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา รวม 7 อำเภอ คืออำเภอเมือง อำเภอควนขนุน อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา อำเภอป่าพะยอม อำเภอศรีบรรพต และอำเภอปากพะยูน จำนวน 38 ตำบล 230 หมู่บ้าน ขณะที่หน่วยงานระดับท้องถิ่น เช่น อบต.และเทศบาล ต่างมองว่าการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง ย้อนหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมคลี่คลายและบางพื้นที่ระดับน้ำลดเข้าสู่สภาวะปกติแล้วนั้น เป็นการช่วยเหลือที่ไม่ทันต่อเหตุการณ์และล่าช้า

โดยเฉพาะสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด ที่ทำงานล่าช้า ส่งผลให้หน่วยงานระดับล่างไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันถ่วงที่และส่งผลให้ผู้ประสบภัยได้รับความเดือดร้อนในเรื่องเครื่องอุปโภค บริโภค ในช่วงที่ถูกน้ำท่วม.

ปภ.ประกาศภัยหนาวแล้ว 5 จว. 38 อำเภอ



อธิบดี ปภ. เผย ความกดอากาศสูงกำลังแรงมาอีกระลอก มีพื้นที่ภัยหนาวแล้ว 5 จว. 38 อำเภอ ส่วนภาคใต้ ยังมีฝนตกหนัก

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า บริเวณกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีน ได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้แล้ว ทำให้ ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส และมีลมแรง โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ ซึ่งปัจจุบัน มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยหนาว) 5 จังหวัด 38 อำเภอ 222 ตำบล 2,916 หมู่บ้าน 623,194 ครัวเรือน 1,621,154 คน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน เชียงราย และจังหวัดเลย

สำหรับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่าง ยังมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ ฝั่งตะวันออกตอนล่างให้ระวังคลื่นลมแรงพัดเข้าสู่ชายฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณดังกล่าวให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กให้งดออกจากฝั่งในระยะนี้ 1-2 วันนี้

อนึ่ง พายุโซนร้อน "โซนามุ" (SONAMU) บริเวณทะเลซูลู ประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางในเช้าวันนี้ (4 ม.ค.56) พายุนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยในระยะนี้

13:00 พายุดีเปรสชันโซนามู ทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อน เส้นทางพายุล่าสุดอาจขึ้นฝั่งที่มาเลเชีย



ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

 

ประกาศตามหาท่าน sunny 430 กลับเข้ามาบ้านด่วนครับ ผมอยู่คนเดียวเผ้ากระทู้ท่านข้ามปีแล้วครับ ผมไม่อยากให้ใครว่า ผมยึดกระทู้ท่านนะขอรับ

 

พายุโซนร้อนโซนามู ทวีความเร็วลมขึ้นเป็น 40 น็อต ทิศทางเปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยทาง TSR คาดการล่าสุดว่าอาจจะเข้านราธิวาสในสภาพดีเปรสชัน (เส้นทางพายุจะเปลี่ยนทุก 3-6 ชั่วโมง โปรดติดตามข้อมูลบ่อยๆ อย่าปักใจเชื่อว่าจะมีเส้นทางตามเดิมตลอดไป)


siamblogza: วัตถุทรงกลมบินไปมา

 

สวัสดดีครับบบบบ ผม sunny430 มาเเล้วครับบบบบ ผมพักร้อนข้ามปีอีกทีอีกหนหลังเหนื่อยมานานครับ ขอบพระคุณทุกท่านที่ยังช่วยกันติดตามสถานการณ์ภัยจากรอบโลกและร่วมเฝ้าระวังนะครับ พี่ engineer03 ฮามากครับบบ ผมมาแล้ว เฝ้าบ้านคนเดียวมันเปลี่ยวหัวใจใช่บ่ครับบ??? ผมเองได้เข้ามาอ่านบ้างตามที่มีเนทหรือสามจีครับ แต่ก็ลำบากมากที่จะพิมตอบ เดี๋ยววันนี้ผมจะเปลั่ยนชื่อกระทู้แล้วนะครับทุกท่าน ยังไงร่วมส่งความคิดเห็นเรื่องชื่อกระทู้เฝ้าระวังของปี 2556 กันได้ครับ คือผมคิดว่าเหตุการณ์เเรงๆคงน่าจะยังเกิดขึ้นรอบโลกอยู่นะครับ รวมไปถึงภัยก่อการร้ายที่น่าจะยังมีครับ เอาเป็นว่าหากท่านใดมีความคิดเห็นเรื่องชื่อกระทู้ก็ช่วยส่งเข้ามาได้

อย่างไรก็ตาม ผม sunny430 และเจ้าหมาหมู เจ้าหมูหมาของผม ขอกราบ ส ว ัส ดี ปี ใ ห ม่ ทุกท่านไว้ในโอกาศนี้ด้วยครับ ขอบพระคุณทุกท่านที่คอยคิดถึงผมเวลาผมไม่อยู่นะครับ ผมรักทุกคนชาวพลังจิตครับบ

 

ฮ่าๆๆ มาเลยท่านกระทู้มันเงียบน่ะท่าน ผมลงแต่ข่าวให้อ่านกัน เขาคงเบี่อมากแล้วครับ

 

มาแล้วครับบบบบท่าน engineer03

 

กราบเรียนพี่น้องชาวพลังจิดสายเฝ้าระวังภัยที่เคารพทุกท่าน ผมเองโล่งใจเป็นอย่างยิ่งที่ปี 2012 หรือช่วงเวลาหนึ่งปีเต็มที่ผ่านมา ไม่มีเหตุภัยขนาดใหญ่มากมากมากที่มาเอาชีวิตและทรัพย์สินของมวลมนุษย์ไปได้ และนั่นก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจอย่างยิ่งครับ เมือ่ปีเก่าผ่านพ้นไป ปีใหม่ผ่านเข้ามา ผมจึงตั้งปณิทานว่า เรายังคงควรตั้งตนเฝ้าระวังด้วยสติต่อไปตราบเท่าที่ยังมีโอกาสให้เราเฝ้าระวังเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติได้ รอบนี้การจองตั๋วที่นั่งเฝ้าระวังของผมจะเปิดแบบตั๋วปีก่อนครับ คือจองยาวทั้งปี 2556 และหากสมาชิกร่วมเฝ้าระวังมีมากผม sunny430 เจ้าเก่าจะเเตกหัวข้อเป็นรายเดือนตามเหตุการณ์และห้วงสภาวะฟ้าดิน(เชิงวิทยาศาสตร์) ยังไงหากชาวพลังจิตท่านใดสนใจจะร่วมกันเฝ้าระวังรับมือภัยพิบัติและแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆที่มีความจะเป็นต่อการเตรียมพร้อม ก็ร่วมจองที่นั่งและส่งข้อความเข้ามาทักทายกันได้เต็มที่นะครับบบบบ

Sunny430
นักเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ

 

ข่าววันนี้


ออสเตรเลีย – มีผู้เสียชีวิต 1 รายจากไฟป่าในเขตทาสมาน



บราซิล- มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ไร้ที่อยู่อาศัยหลายร้อยคนจากฝนที่ตกหนักมากในหลายวันที่ผ่านมา

นราธิวาส - ปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมในพื้นที่ 13 อำเภอ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำ 3 สายหลักมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่แม่น้ำโก-ลก ซึ่งรับน้ำป่ามาจากคลองบูเก๊ะตา อ.แว้ง ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.50 เมตร ทำให้ขณะนี้ประชาชนในชุมชนท่าก่อไผ่ ชุมชนหัวสะพาน และชุมชนบ้านบือเร็ง จำนวน 8 ครัวเรือน รวม 32 คน ต้องอพยพไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยโรงเรียนเทศบาล 4 เป็นการชั่วคราว

04:00 พายุไซโคลนดูมิลที่เกาะมาดากัสกา ลดความเร็วลมลงเป็นพายุโซนร้อน



05:30 พายุโซนร้อนโซนามุ หันลงใต้เล็กน้อย ตำแหน่งล่าสุดอยู่เกือบกลางทะเลจีนใต้ ทิศทางยังคงมุ่งไปที่ประเทศมาเลเซีย



10:00 โมเดลเส้นทางพายุจากอุตุฯญี่ปุ่น JMA (อุตุไทยมักใช้ข้อมูลจากที่นี่) คาดว่าพายุโซนร้อนโซนามุจะไปถึงมาเลเซียในวันที่ 8 (เวลาดูโมเดลพายุ เส้นประวงๆที่เห็นคือ “ความเป็นไปได้” ที่พายุจะเปลี่ยนทางไป ไม่ใช่ขนาดของพายุ



10:30 พายุโซนร้อนโซนามู ทวีความเร็วลมขึ้นเป็น 40 น็อต ทิศทางเปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยทาง TSR คาดการล่าสุดว่าอาจจะเข้านราธิวาสในสภาพดีเปรสชัน (เส้นทางพายุจะเปลี่ยนทุก 3-6 ชั่วโมง โปรดติดตามข้อมูลบ่อยๆ อย่าปักใจเชื่อว่าจะมีเส้นทางตามเดิมตลอดไป)



ที่มาจาก ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com


พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 5 มกราคม 2556 ภาค 12.00 น.

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
ฉบับที่ 4 (10/2556)
เรื่อง พายุ “โซนามุ” (SONAMU)

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (5 ม.ค.56) พายุโซนร้อน “โซนามุ” (SONAMU) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 8.2 องศาเหนือ ลองจิจูดที่ 112.0 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 85 กม./ชม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 18 กม./ชม. คาดว่าพายุนี้มีแนวโน้มอ่อนกำลังลงเมื่อเคลื่อนเข้าใกล้ปลายแหลมญวน และจะเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางประเทศมาเลเซียในช่วงวันที่ 7-8 มกราคม 2556 ซึ่งผลกระทบจากพายุนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 7-9 มกราคม 2556

อนึ่ง บริเวณกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ยังคงมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างให้ระวังคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณดังกล่าวให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้

พยากรณ์อากาศตั้งแต่เที่ยงวันนี้ (5 ม.ค. 56) จนถึงเที่ยงวันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส
สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ คำนวณโดยกรมอุทกศาสตร์
วันพรุ่งนี้ น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 11.05 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 41 เซนติเมตร
น้ำลงเต็มที่ เวลา 04.22 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 9 เซนติเมตร และเวลา 19.09 น. ต่ำกว่าระดับทะเลปานกลาง 7 เซนติเมตร
วันนี้ ที่ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.23 น.
กรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.04 น.

ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : เอกสารข่าว เอกสารข่าว
Rewriter : ศศิธร ภู่จีนาพันธ์ / สวท. ศศิธร ภู่จีนาพันธ์ / สวท.
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

ออสซี่อพยพประชาชนหลังไฟป่าลามเกาะแทสเมเนีย


ทางการรัฐแทสเมเนีย ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่จำนวนมาก หลังเกิดไฟป่าลุกลามอย่างหนัก

วันนี้ ( 5 ม.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียว่า ทางการรัฐแทสเมเนีย ทางตอนใต้ของประเทศ สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่หลายพันคน หลังเกิดไฟป่าลุกลามอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ เผาผลาญบ้านเรือนประชาชนไปแล้วกว่า 80 หลังคาเรือน


พล.ต.ท.สก็อตต์ ทิลยาร์ด รักษาการผู้บัญชาการตำรวจรัฐแทสเมเนีย แถลงว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด คือเขต ดูนัลเลย์ ห่างจากเมืองโฮบาร์ต เมืองหลวงของรัฐแทสเมเนียไปทางตะวันออกราว 55 กิโลเมตร ซึ่งเปลวเพลิงโหมกระหน่ำเผาทำลายอาคารบ้านเรือนกว่า 30 แห่ง ในจำนวนนี้รวมถึงโรงเรียน และสถานีตำรวจ


นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า บ้านเรือนและอาคารพาณิชย์กว่า 40% ในเขตคอนเนลลีย์ส มาร์ช ที่อยู่ติดกับเขตดูนัลเลย์ ได้รับความเสียหายจากเปลวเพลิงด้วยเช่นกัน


ทางการรัฐแทสเมเนียระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเพลิง พร้อมกับอพยพประชาชนกว่า 2,000 คน ที่อาศัยอยู่ในเขตแทสมัน เพนินซูลา เข้าไปพำนักในศูนย์พักพิงในเมืองนูบีนาเป็นการด่วน ขณะที่ประชาชนอีกกว่า 700 คน ในเมืองพอร์ตอาเธอร์ ที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว


เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานด้วยว่า มีชายคนหนึ่งเสียชีวิตท่ามกลางเปลวเพลิง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการพบศพ ทำให้ไม่อาจยืนยันได้ว่า มีผู้เสียชีวิตจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาตัวชายคนดังกล่าวอย่างสุดความสามารถ


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้น่าจะมาจากสภาพอากาศแห้งแล้ง บวกกับอุณหภูมิที่ร้อนจัด แม้อุณหภูมิในเมืองโฮบาร์ตจะเริ่มลดลงบ้าง หลังเพิ่มสูงขึ้นถึง 41.8 องศาเซลเซียส จนกลายเป็นสถิติวันที่ร้อนที่สุดในเมือง นับตั้งแต่มีการเริ่มบันทึกอุณหภูมิ เมื่อช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1880 แต่อุณหภูมิเฉลี่ยของรัฐแทสเมเนียยังคงอยู่ที่สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส

น้ำท่วมที่ยะลา น้ำในแม่น้ำสายบุรี ลดระดับลงแล้ว


น้ำในแม่น้ำสายบุรีที่ท่วมยะลาลดระดับลง บางพื้นที่ยังคงท่วมเส้นทางเข้าหมู่บ้าน เชื่อหากฝนหยุดตก วันพรุ่งนี้ระดับน้ำกลับเข้าสู่ปกติ แต่พื้นที่สวนยางกว่า 100 ไร่ ยังถูกน้ำท่วมอยู่
จากการเกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมา จนเกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาส ปัตตานีและยะลา โดยเฉพาะพื้นที่ติดกับแม่น้ำสุไหงโกลก จ.นราธิวาส แม่น้ำสายบุรี จ.นราธิวาส ยะลาและปัตตานี และแม่น้ำปัตตานี จ.ยะลา ปัตตานี เกิดท่วมขังบ้านเรือนราษฏรแลบะเส้นทางเข้าหมู่บ้าน ในหลายพื้นที่
วันนี้ ( 5 ม.ค.) ในส่วนของจังหวัดยะลา น้ำในแม่น้าสายบุรี ในพื้นที่ อ.รามัน เอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ บ้านฮูยงปาเซ หมู่ที่ 1 ต.ตะโล๊ะหะลอ บ้านถูกน้ำท่วม 8 ครัวเรือน บ้านปายอยือนิ หมู่ที่ 6 ต.กายูบอเกาะ บ้านถูกน้ำท่วม 10 ครัวเรือน บ้านกำปงบาโง บ้านบูเกะซืองอ และบ้านปายอแง หมู่ที่ 5 ต.อาซ่อง น้ำท่วมเส้นทางเข้าหมู่บ้าน ต้องใช้เรือเป็นพาหนะในเดินทางออกจากหมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 100 กว่าครัวเรือน บ้านบูเกะลาโม๊ะ หมู่ที่ 6 ต.อาซ่อง น้ำท่วมถนน บริเวณหัวสะพาน ทำให้รถจักรยานยนต์ไม่สามารถวิ่งได้ ในวันนี้ฝนได้หยุดตกแล้ว ระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรีลดระดับลงเล็กน้อย ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ระดับน้ำได้ลดลงไปด้วย ยังเหลือพื้นที่บ้านกำปงบาโง หมู่ที่ 5 ต.อาซ่อง ยังคงท่วมเส้นทางเข้าหมู่บ้าน ลึกประมาณ 1 เมตร ยังต้องใช้เรือในการเดินทางไปมาอยู่ สำหรับสวนยางพาราในหลายพื้นที่ยังท่วมอยู่ คาดว่าอีกประมาณ 15 วัน หากฝนหยุดตก จะสามารถเข้าไปทำการกรีดยางได้ แต่ชาวบ้านเป็นห่วงในเรื่องของรากต้นยางเน่า หากจมอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน

ที่มาจาก เดลินิวส์

สถานการณ์น้ำท่วมนราธิวาสยังทรงตัว

สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุดฝนได้หยุดตกติดต่อกันเป็นเวลา 2 วันแล้ว แต่สภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนพื้นที่ทางการเกษตรและที่ราบลุ่มยังคงอยู่ในระดับที่ทรงตัว โดยจุดที่วิกฤติที่สุดเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากอยู่ในพื้นที่ 6 ชุมชนของเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งมีราษฏรอาศัยอยู่ 54 ครัวเรือน จำนวน 224 คน ต่างต้องอพยพครัวเรือนไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพโรงเรียนเทศบาล 4 เป็นการชั่วคราวรอบ 2
โดยมีระดับน้ำท่วมขังสูงเฉลี่ย 60-120 ซ.ม.ซึ่งเป็นระดับน้ำท่วมขังที่สุดกว่าระลอกแรกที่ผ่านมา เนื่องจากอิทธิพลของน้ำป่าบนเทือกเขาในพื้นที่ อ.สุคิริน ได้ไหลทะลักลงมาสมทบกับปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่ล้นตลิ่งอยู่แล้ว และผลพวงจากน้ำท่วมในครั้งนี้ ทำให้ราษฏรเป็นจำนวนมากต่างพากันจับปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาดุก ปลาซ่อน และปลาไหล ที่มากับกระแสน้ำไปขายเป็นรายได้เสริมตกแล้ววันละ 200-300 บาทต่อคน หลังจากที่ไม่สามารถประกอบอาชีพกรีดยางพาราได้เป็นเวลาเกือบ 1 เดือนแล้ว

ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารภายใต้การนำของ พ.ท.วุทธยา จันทมาศ ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 ได้นำถุงยังชีพและแพทย์ทหารเดินทางไปที่ศูนย์อพยพโรงเรียนเทศบาล 4 เพื่อไปแจกจ่ายและรักษาชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและหญิงชราที่เริ่มป่วยด้วยโรคน้ำกัดเท้า และไข้หวัด หลังจากต้องคราบตรำกับสภาวะน้ำท่วมถึง 2 ละลอก

 

ข่าวค่ำนี้


น้ำท่วมนราธิวาสยังทรงตัว บางจุดสูงกว่าเมตร


สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสยังทรงตัว โดยจุดวิกฤติสุดอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ที่ยังคงมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ขณะชาวบ้านเริมป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้าและไข้หวัด

วันนี้(5 ม.ค.) ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส ล่าสุดฝนได้หยุดตกติดต่อกันเป็นเวลา 2 วันแล้ว แต่น้ำที่ท่วมขังบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร และที่ราบลุ่ม ยังคงอยู่ในระดับทรงตัว โดยจุดที่วิกฤติที่สุดเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากอยู่ในพื้นที่ 6 ชุมชนของเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งมีราษฏรอาศัยอยู่ 54 ครัวเรือน จำนวน 224 คน ต่างต้องอพยพครัวเรือนไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพโรงเรียนเทศบาล 4 เป็นการชั่วคราวรอบ 2 เนื่องจากระดับน้ำยังสูงเฉลี่ย 60-120 ซม. จากอิทธิพลของน้ำป่าบนเทือกเขาในพื้นที่ อ.สุคิริน ไหลทะลักลงมาสมทบกับปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่ล้นตลิ่งอยู่แล้ว
โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้นำถุงยังชีพและแพทย์ทหารไปแจกจ่ายและรักษาชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและหญิงชราที่เริ่มป่วยด้วยโรคน้ำกัดเท้าและไข้หวัด ขณะที่ชาวบ้านต่างพากันจับปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาดุก ปลาซ่อน และปลาไหล ที่มากับน้ำไปขายเป็นรายได้เสริม ตกวันละ 200-300 บาท หลังจากไม่สามารถประกอบอาชีพกรีดยางพาราได้เป็นเวลาเกือบ 1 เดือนแล้ว





ที่มาจาก ทีนิวส์ออนไลน์

อุตุฯ เตือนพายุ “โซนามุ” ฉบับ 5 ใต้ตอนล่าฝนเพิ่มมากขึ้น



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 5 มกราคม 2556 ระบุ เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (5 ม.ค.) พายุโซนร้อน โซนามุ (SONAMU) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 8.2 องศาเหนือ ลองจิจูดที่ 112.0 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 85 กม./ชม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 18 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้ มีแนวโน้มอ่อนกำลังลงเมื่อเคลื่อนเข้าใกล้ปลายแหลมญวน และจะเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางประเทศมาเลเซีย ในช่วงวันที่ 7-8 มกราคม 2556 ซึ่งผลกระทบจากพายุนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไปจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 7-9 มกราคม 2556
อนึ่ง บริเวณกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ ประเทศไทยตอนบน มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ยังคงมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างให้ระวังคลื่นลมแรงพัด เข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณดังกล่าวให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ —ISN 08

สหรัฐฯแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 ริกเตอร์

แผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 ริกเตอร์ ในมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งรัฐอแลสกาของสหรัฐฯ เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย
วันนี้ (5 ม.ค.) กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ใต้มหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งรัฐอแลสกาของสหรัฐอเมริกาเมื่อเช้าวันเสาร์ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย โดยสำงานธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.58 น. ตามเวลามาตรฐานสากล (15.38 น. ของวันเสาร์ ตามเวลาในประเทศไทย) จุดศูนย์กลางอยู่ลึกใต้ทะเล 9 กม. ห่างชายฝั่งเมืองเครก รัฐอแลสกา ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 102 กม. เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือมีผู้บาดเจ็บล้มตาย
ทางด้านศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก ที่เกาะฮาวาย รายงานว่า จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้นคาดว่า แผ่นดินไหวใต้ทะเลครั้งนี้ไม่น่าจะก่อให้เกิดคลื่นสึนามิในวงกว้าง แต่ได้ออกประกาศเตือนประชาชน ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งรัฐอแลสกา โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ให้ใช้ความระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เดือน ต.ค. ที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.7 ริกเตอร์เท่ากัน เขย่าหมู่เกาะควีน ชาร์ล็อตต์ ของแคนาดา ซึ่งอยุ่ใกล้ทางใต้ของแผ่นดินไหวครั้งนี้ และทำให้เกิดคลี่นสึนามิขนาดย่อม พัดไปไกลถึงชายฝั่งรัฐฮาวายของสหรัฐฯ แต่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ —ISN 02

เชฟร่อนอพยพจนท.เข้าฝั่งหนีพายุโซนามุ



"เชฟรอน"ทยอยอพยพเจ้าหน้าที่ในแท่นขุดเจาะน้ำมันขึ้นฝั่ง หลังอุตุฯเตือนพายุโซนร้อน "โซนามุ" อาจเคลื่อนเข้าอ่าวไทย

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนเรื่องพายุโซนร้อน "โซนามุ" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 85 กม./ชม.กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 18กม./ชม.คาดว่าพายุนี้มีแนวโน้มอ่อนกำลังลงเมื่อเคลื่อนเข้าใกล้ปลายแหลมญวน และจะเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางประเทศมาเลเซียช่วงวันที่ 7-8 ม.ค. ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปจะมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 7-9 ม.ค.

นอกจากนี้กรมอุตุนิยมวิทยายังแจ้งเตือนถึงพายุโซนร้อนโซนามุอาจมีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทยในระยะนี้ ส่งผลให้บริษัทเจ้าของแท่นขุดเจาะผลิตปิโตรเลียมกลางอ่าวไทย ทั้งบริษัท ปตท.สผ.และบริษัทเชฟร่อนสำรวจและผลิต ได้มีการแจ้งเตือนภัยบนแท่นขุดเจาะ และมีการเตรียมใช้แผนการอพยพกำลังคนที่อยู่บนแท่นออกมาตามลำดับหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง เพื่อเป็นการป้องกันภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้

ศูนย์การขนส่งทางอากาศของบริษัทเชฟรอนสำรวจและผลิตประเทศไทยจำกัด ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของบริเวณท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีการเริ่มแผนอพยพโดยการลำเลียงพนักงานส่วนหนึ่งกลับเข้าฝั่งด้วยเฮลิคอปเตอร์ โดยพนักงานที่ทำงานอยู่กลางทะเลอ่าวไทยทั้งหมดกว่า 1,200 คนจะอพยพมาพักบนแผ่นดิน

ที่มาจาก โพสทูเดย์


พายุโซนร้อนโซนามุ เคลื่อนออกมาทางตะวันตกอีกเล็กน้อย แนวทางเดินพายุปรับล่าสุดจากทาง TSR ยังคงไปขึ้นฝั่งที่นราธิวาส



ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

"พายุ “โซนามุ”"
ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 05 มกราคม 2556

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (5 ม.ค.56) พายุโซนร้อน “โซนามุ” (SONAMU) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง
มีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 8.0 องศาเหนือ ลองจิจูดที่ 111.4 องศาตะวันออก ความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 85 กม./ชม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 18 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้

มีแนวโน้มอ่อนกำลังลงเมื่อเคลื่อนเข้าใกล้ปลายแหลมญวน และจะเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางประเทศมาเลเซียในช่วงวันที่ 7-8 มกราคม 2556 ผลกระทบจากพายุนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 7-9 มกราคม 2556

อนึ่ง บริเวณกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและ

ทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ยังคงมีคลื่นสูงประมาณ

2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างให้ระวังคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณดังกล่าวให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้



ประกาศ ณ วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.30 น.

 

ไม่เคยเบื่อเลยครับท่าน อย่าถอยนะครับ เดินหน้าต่อครับผม เป็นกำลังใจให้ครับ