เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ตามหาคู่แท้ ให้หลวงพ่อท่าน ภาค ๒ ครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย coolsunny, 1 กรกฎาคม 2011.

แท็ก: เพิ่มแท็ก

หน้า 40 ของ 53

coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
พระปิดตาวัดบ่อวิน
หลังยันต์ห้า เนื้อผงเทา(น่าจะผสมผงใบลานเผา)

หลวงปู่ทิมประธานพิธีปลุกเสก

ปิดครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
- พระปิดตาวัดบ่อวิน-ยันต์ห้า.jpg
  
  ขนาดไฟล์:
  
  118.2 KB
  
  เปิดดู:
  
  896
- พระปิดตาวัดบ่อวิน-ยันต์ห้า-ขนาด.jpg
  
  ขนาดไฟล์:
  
  93.4 KB
  
  เปิดดู:
  
  1,896
แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2012

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 26 มิถุนายน 2012

#781
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
พระปิดตาวัดบ่อวิน
หลังแบบ เนื้อคลุกรัก

หลวงปู่ทิมประธานพิธีปลุกเสก

ปิดครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
- พระปิดตาวัดบ่อวิน-หลังแบบ.jpg
  
  ขนาดไฟล์:
  
  89.3 KB
  
  เปิดดู:
  
  587
- พระปิดตาวัดบ่อวิน-หลังแบบ-ขนาด.jpg
  
  ขนาดไฟล์:
  
  73.6 KB
  
  เปิดดู:
  
  1,897
แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2012

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 26 มิถุนายน 2012

#782
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
พระสมเด็จวัดบ่อวิน
หลังยันต์ ฝังทับทิมเสก เนื้อผง

หลวงปู่ทิมประธานพิธีปลุกเสก

ปิดครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
- พระสมเด็จวัดบ่อวิน-หลังฝังทับทิม.jpg
  
  ขนาดไฟล์:
  
  111.2 KB
  
  เปิดดู:
  
  2,043
แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2012

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 26 มิถุนายน 2012

#783
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
ลูกอมผงพรายกุมาร ชุบบรอนซ์ทอง
หลวงปู่ทิมเสกนานครับ

ลูกอมลูกนี้เลี่ยมพลาสติกมาแต่เดิมครับ
ดูจากอายุพลาสติกที่เลี่ยม ก็จะเห็นถึงความเก่าถึงยุคครับ

1,559.- บาท
(พร้อมค่าจัดส่งครับ)

มูลเหตุการสร้าง

[FONT=&quot]เนื่องจากในปลายปี พ.ศ. [/FONT][FONT=&quot]2517 หลวงพ่อบุญมี [/FONT]อดีตเจ้าอาสวัดโพธิสัมพันธ์ ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี[FONT=&quot] ได้อาพาธ และมรณภาพลงด้วยอาการสงบ รวมสิริอายุได้ 59 ปี พรรษาที่ 39 นำความเศร้าโศกเสียใจให้กับบรรดาลูกศิษย์ และผู้ที่เคารพศรัทธาใน วัตรปฏิบัติปฏิปทาของท่านเป็นอย่างยิ่ง[/FONT][FONT=&quot]

ในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2518 ทางวัดได้จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อบุญมี ณ วัดโพธิสัมพันธ์ และในการนี้ได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นที่ระลึกในงานด้านกล่าวด้วย โดยได้นิมินต์พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นมาร่วมพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคล หลายรูปด้วยกันคือ
1. หลวงปู่หิน วัดระฆัง กทม.
2. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
3. หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง
4. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
ฯลฯ

วัตถุมงคลที่จัดสร้างมีดังนี้

1. เหรียญที่ระลึกแบบกลม เนื้อทองแดง สร้างจำนวน 5,000 เหรียญ
2. เหรียญที่ระลึกรูปใบสาเก
3. กริ่งรูปเหมือนหลวงพ่อบุญมี เนื้อนวโลหะ สร้างจำนวน 1,000 องค์
4. ตะกรุดโทนสร้างจากเนื้อตะกั่วความยาว 11.7 เซนติเมตร จำนวนมีไม่ถึง 100 ดอก เพราะจำกัดด้วยแผ่นตะกั่วที่มีอยู่น้อย มีทั้งหุ้มด้วยผงลงบรอนซ์และไม่ลงบรอนซ์ ส่วนผงที่เหลือได้มาทำเป็นลูกอม แยกออกได้ 3 แบบเพื่อไม่ให้เหมือนกับทางวัดละหารไร่ คือลูกอมชุบบรอนซ์ธรรมดา,ลูกอมผสมเกศามีจำนวนน้อย,ลูกอมโค๊ตเลข 3 ซึ้งโค๊ตเลข 3 นี้ต่างจากวัดละหารไร่อย่างสิ้นเชิง
5. รูปถ่าย,ตะกรุดสามกษัตริย์มีทั้งทำมาจากทอง,เงิน,นาค แท้ และแบบเนื้อฝาบาตร,ตะกั่ว,และทองแดง จำนวนการสร้างประมาณ 500 ชุด
และหลวงปู่ทิมท่านได้เมตตาปลุกเสกเดี่ยวให้อีกเป็นเวลานานหลายเดือนก่อนนำ ออกแจกจ่ายในงานพระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อบุญมี

วิธีอาราธนาลูกอมผงพราย (จากปากหลวงปู่ทิม)

มีคนถามหลวงปูว่า " ลูกอมนี่ดีอย่างไร "
หลวงปู่ทิมตอบว่า " ไม่อยากจะบอก ตามแต่จะใช้ นี่ทำดีที่สุดแล้ว

"เวลานำติดตัวให้ว่า" นะโมฯ 3 จบ แล้วต่อด้วยคาถานี้

[/FONT]
[FONT=&quot]อิติสุคะโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ[/FONT]

[FONT=&quot]มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อะนัตตา พุทโธ พุทโธ (3จบ)[/FONT]

[FONT=&quot]แล้วต่อด้วย[/FONT]

[FONT=&quot] @@ สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ อานุภาเวนะ ๆ ๆ จงอยู่ใต้พุทธบารมี @@

ว่าดังนี้แล้วนำติดตัวไป ลูกอมจะมีอิทธิฤทธิ์แรง และเห็นผลเร็ว แต่จงศรัทธา เชื่อมั่นในองค์หลวงปู่ทิม และ ลูกอมประคำผงพรายฯ อย่าลังเลสงสัย อย่าไขว้เขว แล้วจะบังเกิดผลอย่างแน่นอน

[/FONT]
[FONT=&quot]ถ้าท่านอยากจะขอพรอะไรควรขอ "หลังเที่ยงคืน"[/FONT]

[FONT=&quot]
[/FONT]
ไฟล์ที่แนบมา:
- ลูกอมวัดโพธิสัมพันธ์.jpg
  
  ขนาดไฟล์:
  
  65.4 KB
  
  เปิดดู:
  
  416
- ลูกอมวัดโพธิสัมพันธ์-ขนาด.jpg
  
  ขนาดไฟล์:
  
  66.4 KB
  
  เปิดดู:
  
  1,955
แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2012

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 26 มิถุนายน 2012

#784
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
พระปิดตาซุ้มตัน ผงคลุกรัก วัดบ่อวิน
หลังยันต์นะกินไม่รู้สิ้น

ปิดครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
- -หล.jpg
  
  ขนาดไฟล์:
  
  116.5 KB
  
  เปิดดู:
  
  2,145
- -หล.jpg
  
  ขนาดไฟล์:
  
  87.4 KB
  
  เปิดดู:
  
  1,693
แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2012

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 26 มิถุนายน 2012

#785
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
เมตตาวิหารี เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

21 ธันวาคม 2008

โพสต์:

671

ค่าพลัง:

+437
แวะเวียนมาเยี่ยมชมครับคุณพี่ แ่ต่ละองค์ศิลปะงดงามครับ

เมตตาวิหารี, 26 มิถุนายน 2012

#786
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
พระสมเด็จปรกโพธิ์ พิมพ์ใหญ่ ฐานผ้าทิพย์
วัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิม ประธานพิธีเสกครับ

990.- บาท
ปิดครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
- -วัดไ.jpg
  
  ขนาดไฟล์:
  
  120.1 KB
  
  เปิดดู:
  
  1,813
แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2012

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 26 มิถุนายน 2012

#787
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
[FONT=&quot]พระเครื่องวัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิม ปลุกเสกปี [FONT=&quot]13 แจกงานผูกภัทสีมาปี 14[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]
พระเครื่องวัดไผ่ล้อม อ.บ้านค่าย จ.ระยอง หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ระยอง เป็นเจ้าพิธีปลุกเสก ปี พ.ศ.[/FONT][FONT=&quot]2513 เพื่อแจกเป็นที่ระลึกในงานผูกพัทธสีมาของวัดไผ่ล้อมในปี พ.ศ.2514

หลวงปู่ทิมมอบผงจินดามณีให้สำหรับจัดสร้าง 1 กระป๋อง และเมตตาปลุกเสกให้ถึง 2 ครั้ง ยอดการสร้างเริ่มแรกตั้งใจจะให้ได้ถึง 84,000 แต่พอทำจริงๆ ได้แค่ 50,000 กว่าองค์เท่านั้น)

ในครั้งเริ่มแรก พระอาจารย์จำปี วิปุโล(จำรัสแสง) ได้รับมอบหมายจาก พระอาจารย์พูน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ให้เริ่มทำการสะสมว่านนานาชนิด มีทั้งว่านประเภทคงกระพันชาตรี, เมตตามหานิยม, ป้องกันสัตว์ร้ายเขี้ยวงาทุกชนิด แร่ธาตุต่างๆหลายชนิด มีแร่บังขนิฏสีเขียว, สีดำ, สีมันปู, แร่ดอกมะขาม จ.กาญจนบุรี, แร่พลวงเงิน, แร่พลวงทอง, พลอยจันทบุรี สีนิล, ชินปรอทสังฆวานร, โมราท้องรุ้ง, เสาตะลุงช้างเผือก, กระดูกหัวกะโหลกช้างทรง, เพชรน้ำค้าง, ศิลาน้ำค้าง, เหล็กทรหด, เหล็กน้ำพี้,เหล็กยอดเจดีย์, สัมฤทธิ์, ข้าวตอกพระร่วง, ข้าวสุกลอยน้ำ, ข้าวสารดำ, ข้าวรอดเพชรหลีก, ไคลประตูเมือง,ไคลเจดีย์,ไคลเสมา9 แห่ง, ดินโป่ง 9 โป่ง 9 สี, ดินบริสุทธิ์ กลางมหาสมุทร, ดินกรุซุ้มกอทุ่งเศรษฐี เมืองกำแพงเพชร, ดินกรุสุโขทัย, ดินกรุอยุธยา, ดินท่า 9 ท่า, อีกทั้งยังได้เก็บรวบรวมผงพระเครื่องต่างๆทุกยุคทุกสมัยที่ชำรุด มีสมัยเชียงแสน, สุโขทัย, อู่ทอง, ลพบุรี, พิจิตร, พิษณุโลก, กำแพงเพชร, สุพรรณบุรี, อยุธยา,รัตนโกสินทร์, ผงพระ 25 พุทธศตวรรษ

ส่วนผงวิเศษต่างๆที่เก็บสะสมไว้อีกมากมาย เช่นผงปฐมอักขระ,ผงไตรสรณาคม, ผงพระพุทธคุณ, พระธรรมคุณ, พระสังฆคุณ, ผงพระเจ้า ห้าพระองค์, ผงพระเจ้า 16 พระองค์, ผงตรีนิสิงเห, ผงอิทธิเจ, ผงปถมัง, ผงมหาราช, ผงสังตโลก, ผงมหาอุตม์หลวงพ่อวงศ์, ผงพระเกสรหลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย, ผงพระสมเด็จวัดระฆังที่หลวงปู่นาคมอบให้, ผงเก่า และสีผึ้งเขียว ของหลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ระยอง, ผงหลวงพ่อเพ่ง วัดละหารใหญ่ ระยอง, ผงพญางิ้วดำ, กาฝาก, กาหลง, กาฝากรักซ้อน, กาฝากมะยม, กาฝากมะรุม, กาฝากมะขาม, กาฝากมะนาว, กาฝากลั่นทม, เถาวัลย์หลง, เครือสาวหลง, ว่านสาวหลง, ไม้รู้นอนเก้าอย่าง, ยอดรัก, ยอดสวาท, กัลปังหา, ทรายเงิน, ทรายทอง, ว่าน 108, เกสรดอกไม้108, น้ำมนต์บ่อขุนไกรอันศักดิ์สิทธิ์ จึงได้นำมาผสมสร้างเป็นองค์พระ

[/FONT]ก่อนที่จะเริ่มกด พิมพ์พระ ได้ทำพิธีบวงสรวงเทพเทวา ครูบาอาจารย์เสร็จแล้วจึงกดพิมพ์เป็นปฐมฤกษ์ โดยพระอาจารย์จำปี วิปุโล เมื่อวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีระกา ตรงกับวันที่ 22 มีนาคม 2512 เวลา 09.09 น.ในราศีเมษ มหัทธโนแห่งฤกษ์ คือฤกษ์ที่มั่งคั่งสมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สินเงินทองและเทพเทวารักษาดี

เมื่อพิมพ์พระเสร็จแล้ว ก็ได้ทำพิธีปลุกเสก โดยพระอาจารย์จำปี วิปุโล ได้นิมนต์พระภิกษุภายในวัดมาร่วมสวดบริกรรมพระปริต มีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณพระ 5 รูปสวดพระธรรมจักร 108 ตลอดคืน รวม 15 คืน เริ่มปลุกเสกเมื่อวันเสาร์แรม 5 ค่ำเดือน 9 อยู่ในพรรษา ตรงกับวันที่ 22 สิงหาคม 2513 จนถึงวันที่ 5 กันยายน 2513 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ รวม 15 คืน

เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก เพราะว่าการทำพิธีครั้งนี้ตรงกับวันเสาร์ 5 ทั้งหมด คือตั้งแต่เริ่มพิมพ์ เริ่มปลุกเสก และวันสุดท้ายที่ปลุกเสกเดี่ยว ก็ตรงกับวันเสาร์อีกเช่นกัน ที่น่าอัศจรรย์อีกอย่างก็คือเมื่อทำพิธีปลุกเสกถึงเวลาตีห้าดับเทียนชัย ได้มีฝนตกซู่ลงมาประมาณ 1 นาที แล้วก็หยุดตกซึ่งจะเป็นอย่างนี้ทุกคืน

[FONT=&quot]วัตถุมงคลที่จัดสร้างในครั้งนี้ได้ทำพิธีปลุกเสกใหญ่อีกครั้งหนึ่งโดยนิมนต์พระคณาจารย์ที่มีอาคมขลังขมังเวท[FONT=&quot] 9 รูป นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดคืน ดังมีรายนามดังต่อไปนี้
หลวงปู่ทิม(พระครูภาวนาภิรัติ) วัดละหารไร่ จ.ระยอง, หลวงพ่อลัด(พระวิจิตร) วัดหนองกระบอก จ.ระยอง, หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า จ.ระยอง, หลวงพ่อโต่ง วัดบ้านเพ จ.ระยอง, หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ จ.ระยอง, หลวงพ่อหอม วัดชากหมากป่าเรไร จ.ระยอง, หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี, หลวงพ่อสมชาย วัดแม่นางปลื้ม จ.อยุธยา, หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม จ.อยุธยา

มีสิ่งที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมากในการปลุกเสกพระเครื่องครั้งนี้ คือ ขณะที่หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ นั่งบริกรรมภาวนาอยู่นั้น ช่างภาพถ่ายรูปไม่ติด คือแฟลชไม่ขึ้น ถ่ายอยู่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จผล ต้องขออนุญาตท่านก่อนจึงได้ถ่ายติด ในระหว่างที่หลวงปู่ทิม นั่งบริกรรมภาวนาอยู่นั้น ถ้าท่านหลับตาลงครั้งใด ไฟฟ้าจะดับทันที เป็นอย่างนี้ถึง 3 ครั้ง ดังนั้นท่านจึงต้องบริกรรมภาวนาลืมตาตลอดคืน ไม่ได้พักเลย จนกว่าเสร็จพิธีคือสว่าง (ในวันที่ทำพิธีปลุกเสกนั้นได้เริ่มพิธีตั้งแต่ 18.00 น.จนถึง 22.00 น. หลังจากนั้นพระเกจิอาจารย์ทั้งแปดรูปก็ได้กลับวัด เหลือแต่หลวงปู่ทิมที่ยังไม่ได้กลับ หลังจากนั่งพักผ่อนไม่นาน หลวงปู่ทิมจึงได้ก้าวขึ้นไปนั่งบนธรรมมาสน์อีกครั้ง ได้เริ่มนั่งปลุกเสกเดี่ยวต่อไป)

[/FONT][/FONT]

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 26 มิถุนายน 2012

#788
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
มนต์รักคำใต้ สัพเพชนา สุขิตาโหนตุ

วันที่สมัครสมาชิก:

3 กุมภาพันธ์ 2012

โพสต์:

1,072

ค่าพลัง:

+502
coolsunny said: ↑

พระสมเด็จปรกโพธิ์ พิมพ์ใหญ่ ฐานผ้าทิพย์

วัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิม ประธานพิธีเสกครับ

990.- บาท
(พร้อมค่าจัดส่งครับ)
Click to expand...

จององค์นี้ครับผม...

มนต์รักคำใต้, 4 กรกฎาคม 2012

#789
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
มนต์รักคำใต้ สัพเพชนา สุขิตาโหนตุ

วันที่สมัครสมาชิก:

3 กุมภาพันธ์ 2012

โพสต์:

1,072

ค่าพลัง:

+502
โอนให้แล้วครับ 990 บาท(ภาพไม่ค่อยชัดครับ)
ไฟล์ที่แนบมา:
- 111111.jpg
  
  ขนาดไฟล์:
  
  71.5 KB
  
  เปิดดู:
  
  185
มนต์รักคำใต้, 4 กรกฎาคม 2012

#790
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
coolsunny said: ↑

พระสมเด็จปรกโพธิ์ พิมพ์ใหญ่ ฐานผ้าทิพย์
วัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิม ประธานพิธีเสกครับ

990.- บาท
จองแล้วครับ

Click to expand...

รับทราบยอดโอน และ
ปิดแล้วครับ

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 5 กรกฎาคม 2012

#791
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
coolsunny said: ↑

พระสมเด็จปรกโพธิ์ พิมพ์ใหญ่ ฐานผ้าทิพย์
วัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิม ประธานพิธีเสกครับ

ปิดครับ

Click to expand...

จัดส่งให้แล้วครับ วันนี้ เวลา 14:29 น.

ระหัส EI108577225TH ครับ

สีผึ้งหลวงปู่ ผมหาไม่เจอครับ ไม่รู้ไปวางไว้ไหน เลยให้ของหลวงพ่อทาบไปแทนครับ
สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 5 กรกฎาคม 2012

#792
มนต์รักคำใต้ สัพเพชนา สุขิตาโหนตุ

วันที่สมัครสมาชิก:

3 กุมภาพันธ์ 2012

โพสต์:

1,072

ค่าพลัง:

+502
ขอบคุณมากครับ

มนต์รักคำใต้, 6 กรกฎาคม 2012

#793
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
ประวัติคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
(ขอบคุณข้อมูลจาก Mythland.org )

วัดอาวุธวิกสิตาราม บางพลัด กรุงเทพมหานคร

อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม เป็นนักบุญและผู้นำในการประกอบการบุญ ที่เข้มแข็งแกล้วกล้าสามารถทุกสาขา และเป็นผู้อบรมสั่งสอนบรรยายธรรม ให้บุคคลทั่วไปเข้าใจซาบซึ้งได้อย่างดีเลิศ

คนทั่วไปที่เคารพรักในตัวท่าน สมัครใจที่จะเรียกท่านว่า “คุณแม่บุญเรือน” มากกว่า เนื่องเพราะว่า ท่านกระทำตนเป็น “แม่” ของทุกคนที่บากหน้าไปหาท่านแล้ว ก็ได้รับความรักเมตตากรุณาจากท่าน อย่างที่แม่คนหนึ่ง พึงจะให้กับบุตรธิดาของตนนั่นเทียว

๒๐ ปียังมีการชุมนุมสวด

เป็นที่เชื่อกันว่า คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม สำเร็จจตุตถฌาน (ฌานที่ ๔) และทรงอภิญญา ท่านจึงเป็นผู้มีอิทธิ ปาฏิหาริย์เป็นที่เลื่องลือ

ถึงแม้ว่า คุณแม่บุญเรือนจะวายชนม์ทิ้งสังขารไปแล้ว เป็นเวลาถึง ๒๐ ปีแล้วก็ตาม แต่อิทธิปาฏิหาริย์ของคุณแม่บุญเรือน ก็ยังทรงความศักดิ์สิทธิ์อยู่ จนกระทั่งปัจจุบัน ดังจะเห็นได้ว่า ทุกวันนี้ จะมีผู้คนเดินทางไปกราบไหว้ สักการะบูชารูปหล่อของท่านอยู่เสมอมิได้ขาด ณ ที่ศาลาคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ในบริเวณวัดอาวุธวิกสิตาราม[๑] ตำบลบางพลัดนอก กรุงเทพมหานคร

ทุกวันอาทิตย์ เวลาเที่ยงไปแล้ว คณะศิษยานุศิษย์ของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม จะชุมนุมกันทำการสวดมนต์ต่อหน้ารูปหล่อของท่าน ณ ที่ศาลาคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธวิกสิตาราม

การชุมนุมสวดมนต์นี้ กระทำติดต่อกันมาทุกอาทิตย์ เป็นเวลาอันยาวนานยี่สิบปีแล้ว

หลังจากสวดมนต์แล้ว ก็จะมีการขอรับเอาสิ่งของที่อธิษฐานเป็นยา ต่อหน้ารูปหล่อของท่าน ไปรักษาโรคต่างๆ และก็หายขาดจากโรคนั้นๆ อย่างแปลกประหลาด

สิ่งของต่างๆ ที่จะขอรับในวันอาทิตย์ ณ ศาลาคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม สำหรับรักษาโรค เช่น ผลไม้ต่างๆ สำหรับรับประทาน น้ำตาลทราย เกลือ พริกไทย สาคู และปูนสีแดงๆ ที่ใช้กินกับหมาก

ปูนสีแดงนี้ ใช้ทาแก้โรคปอดบวม แก้โรคนานาชนิด เช่น มะเร็ง วัณโรค ไส้ติ่งอักเสบ โรคไต โรคเรื้อน บาดแผลทุกชนิด

พวกเนื้องอก หูด ตาปลา คอพอก ถ้าอยากให้หาย ให้ท่านที่เป็นเอาไพลไปถวายต่อหน้ารูปหล่อคุณแม่บุญเรือน แล้วจุดธูปเทียนกราบไหว้บูชาท่าน อธิษฐานจิต ขอให้ท่านดลบันดาล ให้ไพลเป็นยารักษาโรค จากนั้นให้นำเอาไพลมาทา โรคเนื้องอก หูด ตาปลา คอพอกก็จะหายได้ในเร็ววัน

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 6 กรกฎาคม 2012

#794
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
อธิษฐานจิต

คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นผู้มีพลังจิตสูงมหัศจรรย์ยิ่ง ที่ท่านโด่งดังที่สุด ก็คือ การใช้พลังจิตรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้คนทั่วไป และนวดเส้นจับเส้น

การใช้พลังจิต ของคุณแม่บุญเรือนนี้ ท่านเรียกวิธีของท่านว่า “อธิษฐานจิต” คือท่านจะเข้าสมาธิให้จิตนิ่งสงบเสียก่อน ต่อจากนั้น จึงจะอธิษฐานจิตขอให้เป็นไปตามที่จิตท่านปรารถนา

การอธิษฐานจิต ของคุณแม่บุญเรือน แยกออกเป็นลักษณะใหญ่ๆ ได้ ๓ ลักษณะคือ

๑.อธิษฐานด้วยสัจวาจา ด้วยเหตุที่คุณแม่บุญเรือน เป็นผู้รักษาศีลมั่นคง (ศีล ๕ และศีล ๘) และเป็นผู้ประกอบงานบุญกุศลอยู่เป็นประจำ แก่กล้าในการเจริญสมาธิภาวนา ทรงอภิญญา ทำให้วาจาของท่านศักดิ์สิทธิ์ จะพูดและสั่งการสิ่งใดให้เกิดผลได้อย่างแปลกประหลาด เช่น อธิษฐานให้โรคภัยไข้เจ็บหายไป ให้ร่ำรวยในทางที่ชอบ ให้ปลอดภัยจากอันตราย ให้ศัตรูทำร้ายไม่ได้ ให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ อธิษฐานให้มะม่วงออกช่อ มีผลผิดเวลาฤดูกาลได้ อธิษฐานให้ฝนตก ให้ฝนหยุด ให้ฝนตกแล้วไม่เปียก เป็นต้น

๒.อธิษฐานสิ่งของทั่วไป ได้แก่ การนำสิ่งของมาให้คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม แล้วขอให้ท่านอธิษฐานให้เป็นยารักษาโรคต่างๆ หรือบางทีท่านก็อธิษฐานเองโดยไม่ต้องให้ใครขอร้อง สิ่งที่ท่านอธิษฐาน เช่น น้ำ ปูน ไพล สาคู ผลไม้ต่างๆ ทุกชนิด น้ำตาลทราย เกลือ พริกไทย อาหาร ต่างๆ โดยเฉพาะสาคู ท่านว่าเป็นยาบำรุงกำลังอย่างล้ำเลิศ

๓.อธิษฐานของพิเศษเป็นครั้งคราว เช่น อธิษฐานกรวด ทราย ป้องกันไฟไหม้ อธิษฐานตะกั่วถ้ำชาป้องกันอุบัติเหตุ อธิษฐานก้อนหิน ศิลาน้ำ เพื่อใช้ป้องกันภัยบางประการ โดยเฉพาะศิลาน้ำใช้แทนของอธิษฐาน สำหรับใช้แทนของท่านเวลาวายชนม์ไปแล้ว เมื่อใช้ศิลาน้ำใส่ในน้ำและในปูน ก็กลายเป็นน้ำอธิษฐาน และปูนอธิษฐานสำหรับใช้รับประทาน และทาป้องกันโรคได้ ทั้งใช้ป้องกันอันตรายต่างๆ ได้ด้วย อธิษฐานจิตประจุพระพุทธรูปให้ศักดิ์สิทธิ์ อธิษฐานเทียนแนวชีวิต อธิษฐานหนังสือต่างๆ ให้ศักดิ์สิทธิ์ เช่น หนังสือธรรมะ เป็นต้น

คุณแม่บุญเรือนกล่าวว่า ครั้งพระร่วงเจ้าสมัยกรุงสุโขทัย ได้ทำพิธีอธิษฐานข้าวตอกพระร่วงไว้ สำหรับป้องกันข้าศึกศัตรู โดยโปรยข้าวตอกพระร่วงไว้ในกรุงสุโขทัย เมื่อคุณแม่บุญเรือนทราบด้วยกระแสญาณว่า มีข้าวตอกพระร่วงไปรวมอยู่ที่ใด ท่านจะอธิษฐานจิตให้ศิษย์ไปเอามา แล้ว แจกจ่ายกันในหมู่ศิษยานุศิษย์ของท่าน ปรากฏว่า ข้าวตอกพระร่วงที่คุณแม่บุญเรือนได้อธิษฐานจิตแล้วนี้ ใช้ป้องกันอันตราย และรักษาพิษต่างๆ ได้ยอดเยี่ยม

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 6 กรกฎาคม 2012

#795
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
แผ่คุ้มครองผองภัย

นอกจาก การอธิษฐานจิตด้วยสัจวาจาให้เป็นไปได้ ตามปรารถนาทุกอย่างแล้ว คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ยังสามารถปกแผ่คุ้นครองผองภัย ให้แก่บรรดาลูกศิษย์ของท่านได้อย่างน่าพิศวงอีกด้วย เช่น ในบางเวลาลูกศิษย์ตกอยู่ในที่คับขัน อันตราย เป็นต้นว่า อยู่บนเครื่องบินกำลังเกิดวิกฤตกาลทางอากาศ หรือนั่งรถยนต์ไปกำลังจะเกิดอุปัทวเหตุ หากระลึกถึงคุณแม่บุญเรือน ขอให้ท่านช่วยด้วย และด้วยความที่มีหูทิพย์ ตาทิพย์ของท่าน ท่านก็จะช่วยด้วยปาฏิหาริย์ให้ปลอดภัยได้อย่างมหัศจรรย์

ศิษย์ของท่านคนหนึ่งเล่าว่า ได้โดยสารเครื่องบินไปฮ่องกง ตอนก่อนจะลงที่สนามบินอากาศเกิดวิปริต มืดทั้งบนและใต้เครื่องบิน ผู้โดยสารขวัญเสียกันทั้งหมด เพราะมรณภัยกำลังจะมาถึง ลูกศิษย์คนนั้นกลัวตาย รีบนึกอธิษฐานขอให้คุณแม่บุญเรือนช่วยลูกด้วย

การอธิษฐานนี้ ทำไปด้วยอำนาจความกลัวอย่างรุนแรงสูงสุด

แน่ละว่า อำนาจจิตที่เกิดขึ้น ขณะมีความกลัวสูงสุด ย่อมเป็นอำนาจจิตที่รุนแรงตามธรรมชาติ

ปรากฏว่า คุณแม่บุญเรือนซึ่งอยู่ทางเมืองไทย สามารถรับกระแสจิตได้ด้วยอำนาจหูทิพย์ ตาทิพย์ของท่าน

ท่านได้ดลบันดาล ให้ท้องฟ้าเกิดสว่างเป็นช่องใต้เครื่องบินขึ้นฉับพลัน ทำให้เครื่องบินร่อนลงสู่สนามได้อย่างปลอดภัย

พฤติการณ์ของคุณแม่บุญเรือน ที่ช่วยเหลือลูกศิษย์ ในยามคับขันอันตรายนี้ ทำให้ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) นึกถึงท่านเซียนสูแห่งชลบุรีขึ้นมาได้

ครั้งหนึ่ง ศิษย์ของท่านเซียนสูขับรถออกจากบางแสน มาตามถนนเลียบชายทะเล เกือบจะถึงอ่างศิลาอยู่แล้ว

พลันทันใด มีเด็กคนหนึ่งเดินพรวดพราดออกมากลางถนน เป็นการตัดหน้ารถอย่างกระชั้นชิด รถกำลังแล่นมาด้วยความ เร็วสูง ถึงจะเบรคอย่างไรก็ต้องชนอยู่ดี ลูกศิษย์ที่เป็นคนขับพยายามเบรครถไว้

แต่ปรากฏอัศจรรย์ว่า เด็กคนนั้นกระเด็นถอยหลังออกจากกลางถนน ไปฟุบอยู่ริมถนน โดยที่รถยังไม่ได้ชนเลย

รถยังอยู่ห่างประมาณหนึ่งวาเห็นจะได้ เด็กคนนั้นรีบลุกขึ้น ทำหน้าเหรอหราอย่างงงๆ

ลูกศิษย์คนนั้น อกสั่นขวัญแขวน เพราะเกือบขับรถชนคนตาย

พอไปถึงชลบุรี จึงแวะไปกราบไหว้เซียนสู เพื่อจะเล่าเรื่องให้ฟัง แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากพูด ท่านเซียนสูก็พูดขึ้นเสียก่อนว่า เมื่อสักครู่นี้ ลื้อขับรถจะชนเด็กแถวอ่างศิลา อั๊วเลยเอื้อมแขนไปดึงเด็กคนนั้น ให้ถอยหลังกลับออกมาที่ริมถนนเด็กเลยรอดตาย ลื้อก็ไม่ต้องติดคุกเพราะขับรถชนคนตาย

ลูกศิษย์ได้ฟังดังนั้น ก็ตกตะลึกขนพองสยองเกล้า เซียนสูอยู่ถึงชลบุรีสามารถรู้เห็นได้อย่างไร เอื้อมมือไปช่วยได้อย่างไร

ท่านเซียนสูรู้ได้ และสามารถช่วยเหลือได้ เพราะท่านเซียนสูมีหูทิพย์ ตาทิพย์ เป็นผู้ทรงอภิญญา เช่นเดียวกันกับคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม นั่นเอง

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 6 กรกฎาคม 2012

#796
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
เป็นชาวกรุง

อัตโนประวัติ ของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ท่านมีกำเนิดในครอบครัวคนไทยซึ่งมีฐานะค่อนข้างยากจน
เกิดวันอาทิตย์ เดือน ๔ ปีมะเมีย ขึ้น ๑๕ ค่ำ เวลา ๑๑.๒๐ น. ตรงกับวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๗
มีนายยิ้ม กลิ่นผกา เป็นบิดา นางสงวน กลิ่นผกา เป็นมารดา สถานที่เกิดอยู่ในคลองสามวา อำเภอมีนบุรี กรุงเทพฯ
ต่อมาบิดามารดาของท่าน ได้ย้ายมาอยู่ตำบลบางปะกอก อำเภอราษฎร์บูรณะ ธนบุรี อยู่ในละแวกบ้านชาวสวน และมีฐานะเป็นชาวสวนต่อมา
ชีวิตยามเยาว์วัย ของคุณแม่บุญเรือน ปรากฏตามคำบอกเล่าของผู้ที่ใกล้ชิด และผู้รู้เรื่องเก่าแก่ว่า ท่านเป็นผู้ได้รับความรัก ความทะนุถนอม จากบิดามารดาเป็นอันมาก ท่านได้รับการศึกษา ให้รู้ภาษาไทยพออ่านออกเขียนได้ พอเหมาะสมกับชีวิตชาวสวนในยุคสมัยนั้น ท่านได้รับการอบรมบ่มนิสัยให้เป็นผู้มีความรอบรู้ และสามารถในการทำหน้าที่แม่บ้าน แม่เรือนได้อย่างดี
นวดรักษาโรคภัย
เมื่อคุณแม่บุญเรือนอายุได้ ๑๕ ขวบเศษ ซึ่งเป็นวัยรุ่นสาว บิดามารดาได้สนับสนุนให้ท่านรู้จักการ “นวด” อันหมายถึง การรักษาโรคภัยไข้เจ็บบางประการ ด้วยการใช้มือ บีบ กด จับ ขยำ คลำ คลึง แล้วแต่กรณี ตามอวัยวะภายนอกของร่างกายตามชนิด และประเภทของโรคภัยไข้เจ็บที่ได้เกิดขึ้น เพื่อบำบัดให้หาย
ปรากฏว่าคุณแม่บุญเรือนมีความสนใจในวิชาหมอนวดนี้มาก จนผลที่สุดท่าน ก็ได้รับ “ครอบวิชาหมอนวด” จากปู่ของท่านมีชื่อว่า “อาจารย์กลิ่น” ผู้มีอายุมากแล้ว
อาจารย์กลิ่น ได้มอบตำราหมอนวดให้เป็นสมบัติสืบทอดแก่คุณแม่บุญเรือน
จากนั้น อาจารย์กลิ่นก็ได้แยกนิวาสถาน ไปบำเพ็ญภาวนาอยู่ในที่วิเวกแห่งหนึ่ง ในสวนตำบลบางปะกอกนั่นเอง อาจารย์กลิ่นผู้นี้ เป็นหมอนวดผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยนั้น
คุณแม่บุญเรือน ได้ตั้งใจศึกษาวิธีนวด จากตำราของอาจารย์กลิ่น จนมีความชำนิชำนาญ และในสมัยต่อมา เมื่อคุณแม่บุญเรือนเติบใหญ่ผ่านชีวิตสมรสกับสิบตำรวจโทจ้อย โตงบุญเติม แล้ว คุณแม่บุญเรือนได้ใช้วิชาหมอนวดของท่าน ช่วยบำบัดโรคภัยไข้เจ็บให้ชาวบ้างทุกชั้นวรรณะ โดยไม่ยอมรับเงินค่าจ้าง หรือสิ่งของตอบแทนแต่อย่างใด ทำให้ด้วยจิตใจอันเปี่ยมเมตตากรุณา เป็นที่ตั้ง
จึงปรากฏว่า คุณแม่บุญเรือนกลายเป็นหมอนวด ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว และนวดด้วยวิธีถูกต้อง แม่นยำตามตำรา ไม่ผิดพลาด ทำให้ผู้ถูกนวดหายจากโรคภัยไข้เจ็บ เป็นที่ปลาบปลื้มปีติกันทั่วหน้า
การนวดทุกครั้ง คุณแม่บุญเรือน จะแนะนำให้ผู้รับการนวด ให้ทำบุญตักบาตร อุทิศส่วนกุศลให้แก่อาจารย์กลิ่นปู่ของท่านเสมอ
นักธรรม-นักบุญ
เมื่อคุณแม่บุญเรือนบวชชี จนสำเร็จจตุตถฌาน (ฌาน ๔) และทรงอภิญญา มีอิทธิวิธี หูทิพย์ ตาทิพย์ เป็นต้น
ครั้นภายหลัง เมื่อท่านสึกจากชีแล้ว เมื่อท่านทำการนวดให้ผู้ใด ท่านจะใช้วิธีนวดโดยกำหนดจิตเป็นสมาธิ ให้เกิดอภิญญาจิต แล้วอธิษฐานจิต ขออานุภาพพระธรรมให้ช่วยการนวดควบคู่ไปด้วย
ดังนั้น ผลการนวดของท่าน จึงสามารถบำบัดโรคภัยไข้เจ็บให้หายขาด เป็นที่น่าอัศจรรย์เลื่องลือ
ในสมัยที่คุณแม่บุญเรือน ยังอยู่ในวัยสาวรุ่น ท่านได้ไปทำบุญถวายอาหารหลวงตาพริ้ง วัดบางปะกอกอยู่บ่อยๆ
หลวงตาพริ้ง เป็นพระสมถวิปัสสนาจารย์มีชื่อเสียงในสมัยนั้น
หลวงตาพริ้งมีเมตตา ได้สั่งสอนให้คุณแม่บุญเรือนได้รู้จักธรรมะ และคุณธรรมในการดำเนินชีวิต ตามแนวคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้คุณแม่บุญเรือนเกิดความเลื่อมใสศรัทธา และรักงานบุญงานกุศลมากขึ้นเป็นลำดับตามวัยสืบต่อมา
จึงน่าจะถือได้ว่า หลวงตาพริ้งเป็นปฐมเหตุสำคัญยิ่ง ที่ได้ปลูกฝังพระธรรมลงในดวงใจ คุณแม่บุญเรือน ทำให้คุณแม่บุญเรือนได้บำเพ็ญกรณียกิจ จนกลายเป็น “นักบุญ” ในพระพุทธศาสนาในสมัยต่อมา

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 8 กรกฎาคม 2012

#797
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474

สมรส

เมื่อคุณแม่บุญเรือนมีอายุพอสมควรในวัยสาว ก็ได้ทำการสมรสกับสิบตำรวจโทจ้อย โตงบุญเติม

เข้าใจว่า ตอนสมรสนั้น สิบตำรวจโทจ้อย คงจะมีฐานะเป็นเพียงพลตำรวจหรือนายสิบตำรวจตรีเป็นอย่างมาก และได้อยู่กินกันฉันท์สามีภริยาที่ดีตลอดมา

สิบตำรวจโทจ้อยเป็นตำรวจ ประจำสถานีนครบาลสัมพันธวงศ์ แต่ไม่มีบุตรธิดาด้วยกัน เล่ากันว่า สิบตำรวจโทจ้อย เอาอกเอาใจคุณแม่บุญเรือนเป็นอย่างดี

เนื่องจากไม่มีบุตรธิดา คุณแม่บุญเรือน จึงได้ขอรับอุปการะทารกเพศหญิงวัย ๖ เดือน มาเป็นบุตรบุญธรรม ได้เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ชื่อ นางสาวอุไร

เมื่อนางสาวอุไรอายุได้ ๑๙ ปี ก็ได้เข้าสู่ชีวิตสมรสกับร้อยตำรวจโทเต็ม คำวิเทียน

ท่านพระมหารัชชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ผู้เป็นพระอาจารย์สอนสมถะวิปัสสนากรรมฐาน ให้แก่คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ได้เล่าว่า

อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม เป็นมีศรัทธาหาโอกาสบริจาคทาน รักษาศีล ฟังธรรม ในวันธรรมสวนะอุโบสถ และฟังพระธรรมเทศนาที่ศาลาสัมพันธวงศ์ ซึ่งมีประจำวันตลอดมา

ครั้นเมื่ออุบาสิกาบุญเรือน เข้าใจธรรมวินัยกว้างขวางขึ้น ก็พยายามศึกษาปฏิบัติถึงขั้นสมถวิปัสสนา ร่วมกับคณะอุบาสิกาที่มาฟังธรรมเวลาค่ำ คือ นอกจากชาวบ้านที่มาฟังธรรมแล้ว ก็มีสตรีที่มีศรัทธามาถือบวชชีเป็นชีนุ่งขาวอยู่หลายคน

เมื่อแสดงเทศนาจบแล้ว ก็เริ่มถามความเข้าใจและความกำหนดจดจำ ตลอดถึงแนะอุบาย ที่จะเป็นอุปการะแก่การปฏิบัติธรรมทั่วๆ ไป

เมื่อแนะนำสั่งสอนนานเข้า ก็เลื่อนไปแสดงธรรมะที่ละเอียดขึ้นไปโดยลำดับ นับว่า เป็นชั้นสมถภาวนา อุบายทำให้ใจสงบเลื่อนไปถึงขั้นวิปัสสนาภาวนา อุบายที่จะทำใจให้เกิดความรู้แจ้งเห็นจริง ตามพระธรรมวินัยหรือตามพุทธประสงค์ที่แท้จริงบ้าง วันละประมาณครึ่งชั่วโมง หรือชั่วโมงเศษบ้าง

ในบรรดานักศึกษาธรรม ที่ประชุมในยุคนั้น ท่านมหารัชชมังคลาจารย์ เล่าว่า อุบาสิกาบุญเรือน เป็นผู้ที่เข้าใจเนื้อความของธรรมะได้ดี เป็นผู้กล้าหาญ กล้าตอบ กล้าพูด มีปฏิภาณได้ถ้อยได้ความ ถือเอาอรรถรสได้

เมื่อพูดจาแนะนำ ปรับความเข้าใจทางทฤษฎีพอควรแก่เวลาแล้ว ก็เริ่มนำบูชาอาราธนากรรมฐานประกอบภาคปฏิบัติต่อไป โดยปกติก็ใช้เวลาประมาณชั่วเล่มธูป แล้วกรวดน้ำ เป็นอันเสร็จการปฏิบัติธรรม

ระยะต่อมา พ.ศ. ๒๔๗๐ อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม มีศรัทธาแก่กล้าขึ้น ก็ลาสามี มาบวชชีอยู่ที่ศาลาวัดสัมพันธวงศ์ ได้ทราบว่า เธอทำความเพียรมาก ฝึกอบรมจิตให้อยู่ในอำนาจได้ จนได้ผลในทางอภิญญาหลายอย่าง

เธอบวชชีจะเป็นเวลากี่เดือน อาตมาจำไม่ได้ ต่อมา เธอก็ลาจากนุ่งขาวกลับไปอยู่บ้านพักตำรวจกับสิบตำรวจโทจ้อย ผู้สามี แต่ก็ยังบำเพ็ญกุศลธรรมอยู่เนืองๆ

ล่องหน

การปฏิบัติของอุบาสิกาบุญเรือน ได้ผลทางอภิญญานั้น เช่น เมื่อวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ พ.ศ. ๒๔๗๐ เธอกลับไปอยู่ที่สถานีตำรวจกับสามีแล้ว

ในคืนวันนั้นไม่หลับจนดึก สามีและบุตรบุญธรรมนอนหลับ มีอาการกัดฟันและกรน ทำให้เธอรู้สึกเกิดธรรมสังเวช และนึกเบื่อหน่ายชีวิตครอบครัว

เธอจึงกำหนดจิต อธิษฐานขอกลับไปอยู่ในศาลาวัดสัมพันธวงศ์ รู้สึกว่า พอสิ้นอธิษฐาน ร่างก็เข้าไปปรากฏอยู่ในศาลาวัดสัมพันธวงศ์ ไม่ทราบว่าออกไปจาห้องทางไหน และเข้าไปในศาลาทางไหน

ต่อมาอาตมาได้ทราบว่า อุบาสิกาฟักผู้ชอบพอกับอุบาสิกาบุญเรือน ทราบเรื่อง “การล่องหน” นี้ จึงขอให้อุบาสิกาบุญเรือนแสดงอิทธิวิธี ด้วยการล่องหนเข้าไปในศาลาวัดสัมพันธวงศ์อีก ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ โดยทางอุบาสิกาฟักจะใส่กลอนประตูหน้าต่างศาลาให้แน่นหนาแข็งแรง และให้แม่เล็ก แม่คำ แม่เทียบ ช่วยดูเป็นพยาน แต่อุบาสิกาบุญเรือนบอกว่า จะสามารถล่องหนได้อีกหรือไม่นั้น สุดแท้แต่พระธรรมจะ บันดาล

ครั้นแล้วดึก อุบาสิกาบุญเรือนพักอยู่ที่สถานีตำรวจ ก็ได้อธิษฐานจิตให้ตัวเองล่องหนเข้าไปในศาลา เช่นเดียวกับคราวก่อนได้สำเร็จ สร้างความแปลกใจให้กับอุบาสิกาฟัก แม่เล็ก แม่คำ แม่เทียบเป็นอย่างยิ่ง

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 8 กรกฎาคม 2012

#798
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474
อิทธิวิธี

ต่อมาอีกไม่นาน อาตมาได้ทราบว่า อุบาสิกาบุญเรือน ได้ตั้งอธิษฐานด้วยอิทธิวิธีไปยังเขาวงพระจันทร์

ปรากฏว่า เธอได้ไปพบพระผู้วิเศษ เธอได้ขอพระธาตุ พระผู้วิเศษนั้นก็ได้ให้พระธาตุ ๑ องค์ อุบาสิกาบุญเรือนเล่าว่า ไม่ทราบว่า เธอออกจากศาลาทางไหน และไม่ทราบว่ากลับเข้ามาทางไหน

พออธิษฐานก็รู้สึกว่า ตัวไปอยู่ที่เขาวงพระจันทร์ทีเดียว เธอว่าไม่ใช่ความฝัน เพราะพระธาตุ ที่ขอมาจากพระผู้วิเศษที่เขาวงพระจันทร์ยังอยู่ในมือ

นอกจากนี้ อุบาสิกาบุญเรือนยังมีเรื่องเห็นภาพในที่ห่างไกล และเรื่องระลึกชาติได้ อาตมาเห็นว่า เหตุผลพยานที่จะพิสูจน์ยังไม่พอ

ฉะนั้น อาตมาจึงบอกกับอุบาสิกาบุญเรือนว่า อย่าไปเล่าให้ใครฟัง เขาอาจจะหาความเอาได้หลายอย่าง เมื่อเราทำได้จริง แต่เขาไม่เชื่อ เขาหาความเรา ก็จะเป็นบาปแก่ผู้หาความนั้น

อนึ่ง อิทธิปาฏิหาริย์ เป็นวิชชาพิเศษฝ่ายโลกิยธรรม สำเร็จได้ด้วยอำนาจสมาธิ ถ้าทำสมาธิยังไม่ชำนาญ ญาณความรู้ยังไม่สมบูรณ์ บางคราวอาจทำไม่ได้จึงควรระวัง

หมั่นฝึกกายฝึกวาจา

ต่อมา เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๗๙ สิบตำรวจโทจ้อย สามีของอุบาสิกาบุญเรือน ได้ทราบว่า ได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นในท้องที่โรงพักสัมพันธวงศ์

สิบตำรวจโทจ้อย ได้รับวิ่งไปช่วยเหลือราษฎรที่ถูกเพลิงไหม้ แล้วเกิดเป็นลมหมดสติหัวใจวายถึงแก่ความตาย

สิบตำรวจโทจ้อยผู้นี้ เป็นผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เคยลาราชการอุปสมบทที่วัดสัมพันธวงศ์ ๑ พรรษา

เมื่อลาสิกขาออกมาแล้ว ก็เป็นผู้ถือมั่นในทางธรรม ถือศีลห้าเคร่งครัด นายสิบพลตำรวจทุกนายในโรงพัก พากันนิยมชมชื่นในการปฏิบัติของสิบตำรวจโทจ้อยมาก

ภายหลังสิบตำรวจโทจ้อย ผู้สามีถึงแก่กรรมไปแล้ว ครั้นต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๘๒ อุบาสิกาบุญเรือน ก็ศรัทธาเข้าบวชชีอยู่ที่ศาลาวัดสัมพันธวงศ์อีก

เธอบวชชีอยู่ระยะหนึ่ง ก็มีเหตุให้ต้องลาสึกจากชีไปอีก แต่อาศัยธรรมะที่เธอได้ปฏิบัติศึกษา มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นผู้มั่นในสัจจะอย่างเด็ดขาด แม้แต่เรื่องเล็กน้อยเธอก็ไม่ยอมพูดผิด พูดแล้วต้องทำอย่างพูด

ประกอบกับเธอหมั่นฝึกกาย ฝึกวาจาจิตให้มีอำนาจ ประกอบด้วยมีเมตตาธรรม เธอได้ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ให้ชาวบ้านด้วยการนวดจับเส้นตามหลักวิชาหมอนวด

ทำให้ชาวบ้านหายจากป่วยไข้ บังเกิดความนิยมเลื่อมใสในตัวเธอมากขึ้น และมีผู้เอื้อเฟื้อมากขึ้น บางท่านก็นัดเธอให้ไปสอนธรรมและอ่านหนังสือธรรมะให้ฟัง

คนศรัทธาช่วยสร้างสถาน

เมื่ออุบาสิกาบุญเรือนมีอายุมากขึ้น ก็มีความเพียรพยายามยิ่งขึ้น ไม่ละทิ้งการปฏิบัติกรรมฐาน จึงมีความรู้ความสามารถทางอภิญญากว้างขวาง เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไปมากยิ่งขึ้นตามลำดับ

ถึงกับมีผู้พอใจร่วมกันปลูกสร้างบ้านพักให้เธอ ที่ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ในที่ดินของคุณสม คุณพันธนี พรพิบูลย์ สร้างบ้านพักให้ในที่ดินของนางสาววาย วิทยานุกรณ์ ที่บ้านนาซา ตำบลปากน้ำประแส อำเภอ แกลง จังหวัดระยอง และแห่งที่สาม คุณหลวงแจ่มวิชาสอน และคุณนาย ได้สร้างบ้านให้อยู่ ในที่ดินของคุณหลวงแจ่มวิชาสอนเจ้าของยาสีฟันวิเศษนิยมที่ท้องที่พระโขนง

มีผู้เคารพนับถือ ไปฟังและสนทนาธรรม และขอให้เธอช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บอยู่เนืองๆ ตลอดถึงไปประชุมไหว้พระสวดมนต์เวลาบ่ายวันอาทิตย์วันละมากๆ

อุบาสิกาบุญเรือนอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ เผยแพร่พระศาสนา และรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้ประชาชนด้วยเมตตาต่อมาก จนถึงแก่กรรม

เพื่อประโยชน์มวลมนุษย์

พระมหารัชชมังคลาจารย์ ได้เล่าต่อไปว่า อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม แม้จะย้ายไปยู่ที่อื่น เธอก็หาโอกาสมาบำเพ็ญกุศลมีการรักษาศีล ฟังธรรมที่วัดสัมพันธวงศ์อยู่บ่อยๆ ได้ช่วยขวนขวายในกิจการที่ควรทำตามสามารถ ตลอดถึงชักชวนผู้มีศรัทธาที่คุ้นเคยไปบำเพ็ญกุศล มีทอดกฐิน ทอดผ้าป่า เป็นต้น ตามวัดต่างๆ อีกหลายแห่งหลายจังหวัด เช่น ที่วัดสารนาถธรรมาราม จังหวัดระยอง และที่วัดอาวุธวิกสิตาราม เป็นต้น

อุบาสิกาบุญเรือน นับเป็นผู้สามารถชักนำในการกุศล เป็นกำลังแก่การพระศาสนาเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังสามารถได้แนะนำให้คนสนใจ ในพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก เพราะได้ช่วยรักษาการป่วยไข้ ให้หายจากโรคภัย มีผู้รู้จักนับถือมาก ทั้งภาคอีสานและภาคพายับ มีเชียงใหม่ เป็นต้น

ประมาณ พ.ศ. ๒๔๗๒ อาตมาภาพได้ไปช่วยทะนุบำรุงก่อสร้างวัด ทางจังหวัดระยองหลายวัด โดยเฉพาะเป็นประธานก่อสร้างอุโบสถวัดสารนาถธรมาราม อำเภอ แกลง จังหวัดระยอง

อุบาสิกาบุญเรือน ได้ช่วยบอกบุญญาติมิตร ศิษยานุษิศย์ พวกพ้องมาช่วยร่วมการกุศล เพื่อช่วยการก่อสร้างอุโบสถเป็นอันมาก และหล่อพระประธาน ก็ได้ช่วยจัดการตกลงกับช่างและหาทุนด้วย

พระประธานที่หล่อนี้ ชื่อว่า “พระพุทโธ” องค์ใหญ่ เป็นพระพุทธปฏิมากรองค์ใหญ่ในโบสถ์วัดสารนาถธรรมาราม ที่อุบาสิกาบุญเรือน ได้อธิษฐานจิตให้ศักดิ์สิทธิ์

อำนาจจิตมหัศจรรย์ ของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ที่แสดงออกแก่สาธารณชนนั้น เป็นการแสดงออกในทางเป็นประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์เป็นส่วนใหญ่

นั่นคือ การรักษาโรคภัยไข้เจ็บธรรมดาไปจนถึงโรคที่รุนแรงเรื้อรัง ชนิดที่แพทย์แผนปัจจุบันหมดหวังที่จะรักษาแล้ว แต่คุณแม่บุญเรือน ก็สามารถรักษาโรคร้ายแรงนั้นให้หายขาดได้อย่างน่าอัศจรรย์

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 8 กรกฎาคม 2012

#799
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1,237

ค่าพลัง:

+1,474

รักษาด้วยวาจาสิทธิ์

นายจำรัส สุขประเสริฐ บ้านสุขประเสริฐ ถนนนเรศ จังหวัดอุดรธานี ได้บันทึกไว้เป็นเอกสารในหนังสือ “คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม อนุสรณ์” มีใจความว่า

อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม เดินทางโดยขบวนรถไฟด่วน ถึงจังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๖ เวลา ๗.๑๕ น.

ก่อนหน้ารถไฟด่วนจะเขาเทียบชานสถานี ประมาณ ๒๐ นาที ได้มีหมอกลงที่สถานีรถไฟ และบริเวณตัวเมืองอุดรธานีหนามืดไปหมด อยู่ห่างกันประมาณ ๑๐ วา ยังแลไม่เห็นกันเลย

รถยนต์วิ่งตามถนนต้องเปิดไฟ มิฉะนั้นจะชนกัน หมอกหนามืดเช่นนี้ ไม่เคยมีมาก่อนเลย พอรถไฟถึงสถานีประมาณ ๑๐ นาที หมอกก็ค่อยๆ จากหายไป ชาวอุดรธานีต่างพิศวงงงงวยต่างโจษจันกันต่างๆ นานา

เมื่ออุบาสิกาบุญเรือนลงรถไฟแล้ว มีผู้คนไปรับเป็นจำนวนมาก

วันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. เศษ หลวงวิฑิตกลชัยและคุณนาย นางสุดใจ สุขประเสริฐ ได้ไปจังหวัดหนองคาย เพื่อนำ “ศิลากรวดอธิษฐาน” ของอุบาสิกาบุญเรือนไปทิ้งลงลำแม่น้ำโขง แล้วเดินทางกลับจังหวัดอุดรธานี ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. เศษ

อุบาสิกาบุญเรือน ได้พักที่บ้านผม (นายจำรัส สุขประเสริฐ) ค่ำของวันนี้ ได้มีผู้มาหาเป็นจำนวนมาก

นายครรชิต สกลคลัง พนักงานธนาคารกสิกรไทย ได้มาหาและบอกกับอุบาสิกาบุญเรือนว่า ตัวเขาป่วยเป็นโรคปวดท้องมาเป็นเวลานานเวลานี้ก็ยังปวดอยู่ ได้รักษาตัวหมดเงินมากมายแล้ว ขอให้อุบาสิกาบุญเรือนรักษาให้

อุบาสิกาบุญเรือนได้ฟังแล้ว จึงได้สั่งในขณะนั้นว่า “อย่าปวด ให้หายปวดเดี๋ยวนี้!” แล้วอุบสิกาบุญเรือนก็ถามนายครรชิตว่า “หายปวดหรือยัง?”

นายครรชิตตอบว่า “หายปวดแล้ว”

อุบาสิกาบุญเรือนจึงสั่งว่า “คืนวันนี้อย่าปวด” (เพราะนายครรชิต บอกว่า กลางคืนปวดแทบไม่ได้นอนทุกคืน)

ครั้นเช้าวันรุ่งขึ้น นายครรชิตมาบอกอุบาสิกาบุญเรือนว่า เมื่อคืนนี้ไม่ปวดเลยนอนได้สบายตลอดคืน

ในระหว่างที่ อุบาสิกาบุญเรือนพักอยู่ที่จังหวัดอุดรธานีนี้ ตอนเช้าอุบาสิกาบุญเรือนได้ไปอธิษฐานจิตให้พลังจิตให้แก่ประชาชนที่วัดโพธิสมภรณ์ทุกวัน มีประชาชนนำน้ำ ปูน ไพล พริกไทย สาคู มาให้อุบาสิกาบุญเรือนอธิฐานจิตอย่างคับคั่งทุกวัน

มีคนหลังโกงคนหนึ่ง เวลาเดินต้องใช้ไม่เท้าค้ำ ได้มาหาอุบาสิกาบุญเรือนขอให้รักษา อุบาสิกาบุญเรือนได้ออกคำสั่งต่อหน้าประชาชนเป็นจำนวนมากว่า “ให้ทิ้งไม้เท้า!”

ชายหลังโกงคนนั้น ก็ขว้างไม้เท้าทิ้ง

อุบาสิกาบุญเรือน จึงสั่งต่อไปให้ยืนตรงๆ ชายหลังโกงคนนั้นก็ค่อยๆ ยืดตัวแล้วยืนตัวตรงได้

อุบาสิกาบุญเรือนสั่งให้ออกเดิน ชายคนนั้นก็เดินตัวตรงได้ อุบาสิกาบุญเรือนจึงสั่งให้วิ่ง ชายคนนั้นก็วิ่งได้ เลยหายเป็นปกติเดินกลับบ้านได้เช่นคนดีๆ นับเป็นเรื่องอัศจรรย์

มีหญิงจีนคนหนึ่ง เป็นภรรยาจีนร้านขายทองอยู่ในตลาดจังหวัดอุดร ได้มาหาอุบาสิกาบุญเรือน บอกว่า เป็นโรคปวดศีรษะมาหลายปีแล้ว ตอนบ่ายๆ ปวดมากทุกวัน

อุบาสิกาบุญเรือนจึงถามว่า “เวลานี้ปวดไหม?” จีนคนนั้นบอกว่าปวดมาก

อุบาสิกาบุญเรือนจึงชี้มือสั่งว่า “ให้หยุดปวดเดี๋ยวนี้!”

แล้วบอกว่า ให้ตั้งใจนึกให้หายปวด หญิงจีนบอกในขณะนั้นว่า หายปวดแล้ว อุบาสิกาบุญเรือนจึงสั่งว่า “ต่อไปก็ไม่ให้ปวด” หญิงจีนคนนั้นก็หายปวดหัวเป็นคนดีกลับบ้าน

สนใจ สอบถาม 086 312 7366 ธนาคารทหารไทย สาขาสะพานกรุงธน เลขบัญชี 0662117811 นายอาทิตย์ โลหะชาละ

coolsunny, 8 กรกฎาคม 2012

#800

(คุณต้องเข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน เพื่อที่จะโพสต์)

หน้า 40 ของ 53

แชร์หน้านี้

Loading...