ตายแล้วไปไหน-พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ตุปั๊ดตุเป๋, 20 มีนาคม 2019.

  1. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๑๗.วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๓๑

    วันนี้วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๓๑ ทราบข่าวจากยามประจำวัด และเจ้าหน้าที่สายตรวจของสถานีตำรวจ ประจำอำเภอเมืองอุทัยฯ ว่า ที่บริเวณ ๑๐๐ ไร่ ยืนบนถนนนั้นน้ำเลยเข่า ทั้ง ๆ ที่เมื่อตอนเย็นน้ำยังไม่เข้าพื้นที่

    รุ่งเช้าจึงได้ออกไปดูบริเวณน้ำต้นทาง ถนนสายวัดสิงห์-อุทัยธานี เห็นน้ำไม่ล้นถนน แต่ในที่บางจุดที่ถนนต่ำก็มีกระสอบทรายของชลประทานขวางอยู่ มีรอยน้ำท่วมล้นถนน

    แต่เช้าวันที่ ๒๒ ก.ย. นี้ ลดลงไปมาก แสดงว่าต้นน้ำจากอำเภอบ้านไร่ลดตัวลงแล้ว เหลือแต่ปลายทางคือบริเวณริมแม่น้ำ เมื่อน้ำไหลลงสู่แม่น้ำไม่ทันก็ท่วมอยู่ก่อน

    เมื่อเห็นน้ำลดลงทางต้นทางน้ำอย่างนั้นก็สบายใจคิดว่าไม่เกิน ๑๐ วัน บริเวณวัดก็ทำงานได้ต่อไป กลับมาแวะดูที่ ๑๐๐ ไร่ เห็นที่วิหาร ๑๐๐ เมตร มีน้ำท่วมเกือบชนท้องคาน และบริเวณลานมีน้ำท่วมเจิ่งแต่ก็ดีใจที่คิดว่าน้ำจะลดเร็ว
     
  2. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๑๘.เรื่องของนักเรียน

    นักเรียนที่ โรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา เป็นเด็กที่มาจากบ้านไร่ ห้วยคต ลานสัก ทุ่งนา เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ มีเด็กที่อื่นบ้างเล็กน้อย คิดว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนสงเคราะห์ แต่ก็เก็บค่าอาหารนักเรียนหอพัก

    นอกนั้นทางมูลนิธิฯ และกองทุนจ่ายให้หมด ฐานะทางครอบครัวเธอยากจนอยู่แล้ว เมื่อน้ำมาล้างทุ่งแบบนี้ ทุนที่ลงไปแล้วก็เสียหายหมด ทุนใหม่ก็จะไม่มี ถ้าเก็บเงินค่าอาหารเธอคงไม่มีจ่าย เห็นอกคนจน เมื่อจนอยู่แล้วกลับถูกน้ำมาซ้ำเติมแบบนี้จะลำบากแค่ไหน

    ในฐานะที่เคยจนมาแล้วมันทุกข์เหลือทน จึงจะขอความเห็นจากกรรมการมูลนิธิฯ และกองทุน หาทุนสงเคราะห์เฉพาะปี ๑๕๓๒ โดยออกค่าอาหารให้เธออีก แต่ก็ต้องหาเงินฝาก มูลนิธิฯดอกเบี้ยก็น้อย กองทุนก็มีเงินไม่มาก แต่คิดว่าต้องทำ

    สำหรับนักเรียนเข้าใหม่ลดพิเศษ คือ ค่าเทอมปีแรกเก็บ ๕ ๐๐ บาท เมื่อปีที่สองไปแล้วถ้าตั้งใจเรียนจริงมีความประพฤติดี ทางกองทุนและมูลนิธิฯ จ่ายให้เธอฟรีทั้งหมด

    เว้นแว้แต่ถ้าเป็นนักเรียนประจำต้องจ่ายค่าอาหาร ครูผู้ควบคุม ครูคุมอาหารพร้อมพนักงานทำอาหาร ค่าไฟฟ้า ค่าประปา (หอพักอยู่ฟรีไม่ต้องเสียเงิน) วันละ ๒๐ บาท เก็บ ๑๐ เดือน ปีละ ๖,๐๐๐ บาท แต่ พ.ศ. ๒๕๓๒ ลดพิเศษเก็บเพียง ๓,๐๐๐ บาท แต่ต้องจ่ายคราวเดียวหมดเมื่อเข้าเรียน

    หากท่านที่มีจิตเมตตาประสงค์จะสงเคราะห์นักเรียนยากจนสงเคราะห์ตรงหรือธนาณัติก็ได้ส่งไปที่ พระสุธรรมยานเถระ วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี เมื่อรับแล้วจะส่งใบโมทนาไปให้ท่านทราบ

    วันนี้มีแขกมาจากกรุงเทพฯ มาก ถามใครก็มาจากกรุงเทพฯ มีนครสวรรค์มาสามคน เป็นผู้ใหญ่ ๒ เด็ก ๑ คน คุยกันเรื่อง ทิพจักขุญาณ หมดเวลาพรหมน้ำมนต์ให้พรเป็นเสร็จพิธี กลับ

    เมื่อวันที่ ๒๑ ก.ย. ๓๑ ทางบริษัทเอาเครื่องทำน้ำแข็งมาส่งให้ เขาแจ้งราคามาว่า ๖๕,๐๐๐ บาท สูงกว่าที่คุณแม่เธอบอกไว้ ๕,๐๐๐ บาท ผ่อนส่ง ๓ งวด ค่อยสบายใจหน่อย ไม่เร่งร้อนนัก

    วันนี้มีญาติโยมทำบุญไว้ ๕,๔๕๐ บาท และมีญาติโยมจากตลาดอยุธยา คือ คุณทองอยู่ จินดายะพานิช ค่าอาหารพระ ๖๒๐ บาท คุณชวลิต-วรนุช เลี้ยงสุขสันต์ ถวายค่าอาหารพระ ๖๙๐ บาท ถวายเพลพระทั้งวัด ขออนุโมทนา ท่านเจ้าของอาหารและท่านที่บำเพ็ญกุศลทุกท่าน จงร่ำรวยมีความสุขสมหวังตามที่ตั้งใจทุกประการเถิด
     
  3. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๑๙.วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๓๑

    วันนี้มีแขกมาจากกรุงเทพฯ นนทบุรี พัทยา พังงา พิษณุโลก ทำบุญไว้ ๒,๕๗๐ บาท เรื่องคุยกับแขกไม่มีอะไรมา คุยกันเรื่องกรรมฐานเบื้องต้น เพราะมีคนฝึกกรรมฐานที่อยู่ประจำมากกว่าแขกที่มา แต่ที่คุยกันมากและใช้เวลานานก็คือพระ

    วันนี้มีพระผู้ใหญ่ท่านมาเยี่ยม ๔ องค์ เป็นพระราชาคณะ ๒ องค์ เป็นพระครู ๒ องค์ เป็นพระราชาคณะที่เคยพบมาก่อน แต่ประสาทแย่มากนึกชื่อท่านไม่ออก ท่านอุตส่าห์ทบทวนให้จึงจำได้ ทั้งนี้ เพราะวันนี้อาการป่วยเครียดมา มันป่วยเป็นอาชีพประจำวัน ท่านบอกว่าท่านตั้งใจมาที่นี่ตรง ท่านใช้คำว่า มาชมบารมี

    ถ้อยคำอย่างนี้มีทุกวันฟังจนชินไปแล้ว เมื่อคุยกันสักครู่หนึ่ง ท่านหัวหน้าที่มาก็ปรารภเรื่องไปสอบเป็น พระอุปัชฌาย์ จึงเรียนท่านว่า ผมไม่ไปอบรมหรอกครับเสียเวลาทำงานของผม

    อีกประการหนึ่ง ผมป่วยอย่างนี้มาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ปี ๒๕๓๕ ทำอะไรก็ไม่ไหว ไปไหนก็ไม่สะดวก มารับแขกก็เหนื่อยจะเอาอุปัชฌาย์มาทำอะไร เมื่อสองปี ๒ คราวที่ผ่านมา ท่านบอกว่าให้ไปนั่งฟังเขาสักหน่อย แต่ผมไม่เห็นด้วย เป็นอันว่าเรื่องเรียนหรือสอบเป็นพระอุปัชฌาย์เลิกกัน

    อีกท่านหนึ่งแนะนำว่า ในฐานะที่เป็นพระราชาคณะ ขอให้ไปวันเปิด และขอให้นั่งฟังสมเด็จฯ กล่าวเปิดสักหนึ่งชั่วโมงแล้วไปวันปิดอีกครั้งหนึ่ง จึงรับปากท่านว่า ถ้าอย่างนั้นผมพอรับได้ แต่วันเปิดวันปิดต้องไม่ตรงกับวันงานที่สำคัญของผมก็แล้วกัน

    ท่านถามเรื่องการสร้างวัด ก็ถวายท่านไปตามความเป็นจริง ว่า วันนี้มีที่ดินเดิม ๖ ไร่ เวลานี้ซื้อเพิ่มอีก ๒๐๐ ไร่เศษ รายจ่ายค่าก่อสร้าง กิน ซื้อของใช้ เสียค่าไฟฟ้า ตั้งแต่ปี ๒๕๑๗ เป็นต้นมา ถึงวันนี้ ๒๓ ก.ย. ๓๑ รวมเป็นเงิน ๓๐๐ ล้านเศษ ๆ เมื่อคุยกันนานพอสมควร ท่านก็ลากลับเพื่อไปวัดพระนอนจักรสีห์ และไปหาหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
     
  4. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๒๐.อัตตโนปุพพกรรม

    ตอนนี้ ขึ้นต้นด้วยภาษาบาลีเล่นครึ้ม ๆ เพราะเรื่องเข้าจุดพอดี คำว่า อัตตโนปุพพกรรม แปลว่า กรรมของตนเอง เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา ๘.๓๐ น.เศษ เกือบถึง ๑๐.๐๐ น. ของวันนี้ ตอนเช้าอาการของร่างกายดี

    แต่ตอน ๗.๐๐ น. รู้สึกมึนศีรษะมาก เมื่อมาถึงที่ทำงานก็รีบทำเพราะไม่ไว้ใจร่างกาย ทำเฉพาะงานสำคัญประจำวัน งานที่ไม่หนักพักเอาไว้ก่อน เพราะมึนศีรษะมาก

    เมื่องานเสร็จเอนกายลงนอนพิจารณาแล้วภาวนา อารมณ์ก็ดีปกติทุกอย่าง แต่พอประมาณ ๙.๐๐ น. รู้สึกเคลิ้มแล้วมีความรู้สึกว่า นายดาบตระกูล และใครอีกคนไม่ทราบอยู่เป็นเพื่อน สถานที่นั้นเป็นตึกใหญ่มาก หน้าต่างกระอยู่เฉย ๆ มีลมพัดมาแรง มองไปดูเห็นหน้าต่างเปิด แต่ว่าผ้าม่านปลิวไสว

    สักประเดี๋ยวหนึ่งมีหญิงวันกลางคนสองคนมานั่งใกล้ ๆ คนหนึ่งเธอเปิดกระเป๋าเงินหยิบสร้อยทองคำออกมา ดูเหมือนว่าจะทำบุญหล่อพระในเวลาเดียวกัน เธอไวมาก คนหนึ่งมาจับขาสองข้างบีบจนเจ็บ อีกคนหนึ่งจับหัวเอามือบีบที่ขมับรู้สึกเจ็บ และเธอมีกำลังมาก ขยับตัวไม่ไหวพูดไม่ออก

    นึกถึงคาถาบทหนึ่งแต่ไม่ใช่พุทโธ เป่าเธอไป เธอทำเฉยไม่กลัว ทุลักทุเลอยู่พักหนึ่ง เธอทั้งสองจึงปล่อยแล้วก็หายไป

    เมื่อเธอหายไปแล้ว อาการปวดศีรษะมึนงงยังมีอยู่ จึงลุกจากที่นอน อาการต่าง ๆ คลายไป จึงถามท่านเวสสุวรรณว่า ทำไมจึงปล่อยให้ผีเข้ามารบกวนและทำอันตรายถึงตัว เมื่อฉันเองยังช่วยตัวเองไม่ได้ อย่างนี้ฉันจะช่วยใครได้

    ท่านเวสสุวรรณบอกว่า ไม่ใช่ผี ผีเข้ามาไม่ได้ อาการที่เกิดเป็นเรื่องของเลือดลมในร่างกายมันมีอาการผิดปกติทำให้ประสาทเฟือน มีความรู้สึก และเห็นเป็นผีมาทำร้าย เทวดากันได้ แต่ผีภายนอกเท่านั้น ผีเลือดลมหรือประสาทเทวดาป้องกันไม่ได้

    เมื่อเห็นสมเด็จฯ ท่าน ถามท่านก็บอกว่า เป็นเรื่องของเลือดลม วันนี้ร่างกายเลวมากต้องหยุดงานทุกอย่าง ไปรับแขกเดินนิดเดียวก็เหนื่อยเกือบตายแล้วท่านจะให้ไปอบรมเป็นพระอุปัชฌาย์ จะไปอบรมได้อย่าง และเมื่อท่านตั้งให้แล้ว จะนั่งบวชพระได้หรือไม่ก็ยังไม่ทราบ

    ถึงเวลากลางคืน ทนความมึนงง ต่อสู้อาการป่วย บันทึกประกาศเรื่องสงเคราะห์นักเรียน เพราะพ่อแม่ถูกน้ำท่วมไร่นาเสียหายหมด โรงเรียนงดไม่เก็บค่าอะไรทั้งหมดปีครึ่ง คือตั้งแต่เดือนกันยายน ๒๕๓๑ เป็นต้นไป จนถึงเดือนมีนาคม ๒๕๓๓

    แต่ทว่าการสงเคราะห์ครั้งนี้ วัด กองทุน มูลนิธิฯ ยังไม่มีทุนส่วนนี้ ด้วยต้องใช้เงินถึง ๓,๒๒๑,๖๐๕ บาท (สามล้านสองแสนสองหมื่นหนึ่งพันหกร้อยห้าบาท) เมื่อเขียนเสร็จก็ออกไปจงกรม แล้วก็เข้าที่เพื่อนอน

    ก่อนนอนไปหาพระท่าน กราบเรียนว่า ถ้าโรคร้ายเบียดเบียนอย่างนี้ไม่มีทางดีขึ้น ก็ของดภาระต่าง ๆ คือ ไปให้พ้นจากร่างกายนี้ ที่มีทุกข์ก็เพราะอยู่กับร่างกาย พระท่านบอกว่า ท่านพยายามจะกำจัดเวทนาประเภทนี้ ให้ค่อย ๆ หาไปให้เร็วที่สุด พระสาวกผู้ใหญ่หลายท่านมา ท่านบอกว่า เดือนยี่จะให้ความรู้พิเศษ

    จึงกราบเรียนท่านว่า เรื่องความรู้ที่ต้องเกาะร่างกายไม่ได้สนใจเลย เพราะเบื่อร่างกายมาก ท่านบอกว่าความรู้ใหม่นี้ถ้ามีแล้วจะมีการคล่องตัวในการเคลื่อนไหว แต่ขอร้องให้ใช้เฉพาะในงานที่สมควร ฟังท่านแล้วใจมันเฉยไม่อยากได้อะไร อยากไปให้พ้นจากร่างกายดีกว่า เมื่อยังไม่ตาย ถ้าร่างกายไม่ดีอย่างนี้เรื่อย ๆ ก็จะงดทุกอย่าง

    เมื่อจะนอน เห็นเทวดาพรหมมาก ท่านรับรองว่า อาการอย่างนั้นจะไม่ให้มีอีก ท่านพ่อทั้งสององค์ก็มาด้วย เมื่อใกล้หลับเห็นหญิงสาวคนหนึ่งผิวขาวรูปสวยเนื้อเต็ม เธอซัดอะไรออกไปไม่ทันเห็นถนัด มีอาการคล้ายพุ่งหอกออกไป

    ถามท่านเวสสุวรรณว่า เธอทำอะไร ท่านตอบว่า นางฟ้าคนนี้อยู่ชั้นจาตุฯ มีฤทธิ์มาก เธอมีหน้าที่ปราบผี เธอซัดกับผีให้ออกไปไกล ๆ เมื่อท่านเวสสุวรรณพูดจบผู้เขียนก็เข้าสมาบัติหลับสนิท (นอนหลับสนิท) ตื่น ๔.๐๐ น. พอดี หลับเมื่อ ๒๓.๐๐ น. คืนนี้หลับดีมากหมดเรื่องกันแล้วขอลาก่อน
     
  5. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๒๑.วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๑

    วันนี้มีแขกมาจากกรุงเทพฯ พิษณุโลก ๒ คณะ สุโขทัย ๑ คณะ สากเหล็ก นนทบุรี นครสวรรค์ ท่านร่วมกันทำบุญไว้ ๑๑,๙๓๔๕๐ บาท แยกประเภท ดังนี้ ๑. ตามอัธยาศัย ๑,๒๙๔.๕๐ บาท ๒. สร้างรถทัวร์ธรรมทาน ๓,๒๔๒ บาท ๓. ซื้อที่ดิน ๗,๑๐๐ บาท ๔. ค่าน้ำ-ไฟฟ้า ชำระหนี้สงฆ์ เพราะมาค้างเจริญกรรมฐาน ๓๐๐ บาท

    วันนี้ตอนเช้าไม่มีพยากรณ์พิเศษ เพราะผู้เขียนป่วยไม่สนใจอย่างอื่น ใช้อารมณ์เกาะนิพพานอย่างเดียว ตอนรับแขกไม่มีอะไรพิเศษ แต่มีญาติโยมบางคนถามถึงคนตาย เมื่อไม่รู้หรือไม่อยากรู้จึงไม่ตอบ เพราะการพยากรณ์คนตายเอาเรื่องจบได้ยาก ท่านถามที่นี่แล้วก็ไปถามที่โน่น มีมาแล้วหลายราย ถามไปถามมา

    ท่านผู้ตอบบอกว่า ผู้ตายเป็นเทวดาแต่ไม่มีวิมานอยู่ลำบากมาก ขอให้เอาเงินมาสามหมื่นจะสร้างวิมานให้ สร้างให้ใครก็ไม่ทราบ ฉะนั้นท่านที่อยากรู้ว่าคนตายอยู่ที่ไหน จงฝึกกรรมฐานหมวดที่ ๒ หรือที่ ๓ แล้วจะคุยกับผู้ตายได้เอง อย่าเพลินถามคนอื่นอยู่เลย เดี๋ยวจะต้องสร้างวิมานให้เทวดาอีก ตอนเช้า และกลางวันหมดเท่านี้ ตอนกลางคืนมีอะไรบ้าง ถ้าจะมีเขียนต่อให้ทราบ ถ้าไม่ต่อแสดงว่าไม่มี

    ข่าวหรือเรื่องที่จะบอกกลางคืนไม่มีอะไรมากนัก เพราะอาการทางร่างกายเครียดมาก ก่อนหลับใช้อารมณ์สมาธิปกติ เอาอารมณ์ไปทรงอยู่ที่นิพพาน อยู่ต่อหน้าพระท่านสักครู่หนึ่ง แล้วก็มานั่งอยู่ที่สวรรค์ปล่อยให้ร่างกายหลับไปตื่นเวลา ๔.๐๐ น. เศษ ออกไปจงกรม เมื่อเสร็จจากจงกรมแล้วเข้าที่พัก ลืมบอกไปว่าก่อนนอนออกไปจงกรมครู่หนึ่งแล้วเข้านอน

    ตอนเช้ามืดเมื่อกลับจากจงกรมแล้ว รวบรวมกำลังใจเบา ๆ รวมเบา ๆ ถ้ารวมหนักออกไปไม่ได้ เมื่อไปถึงพระมนัสการท่านแล้ว ท่านบอกว่า วันพรุ่งนี้มีลาภใหญ่นะ เพราะ ๑. ประกาศไม่เก็บค่าอาหารนักเรียนและช่วย ๓ เทอม เป็นเงิน ๓,๒๐๐,๐๐๐ บาท และ ๒. ลงสังฆกรรม

    ทั้งสองรายการนี้เป็นลาภใหญ่มาก ฉะนั้นจึงขอแบ่งลาภมาให้ลูกหลานทั้งหลาย ถ้าอยากมีลาภใหญ่ให้ช่วยกันสงเคราะห์นักเรียนยากจนและทางบ้านเธอถูกน้ำท่วมใหญ่ ช่วยกันได้ตามกำลังทรัพย์และศรัทธาจะช่วยเป็นเงิน เสื้อผ้า อาหาร เช่น ข้าวสาร ข้าวเปลือก ปลา เนื้อ ผัก ได้ทุกอย่าง ฯลฯ

    เมื่อเวลาใกล้สว่างลาพระท่านลงมาแวะที่พรหมชั้น ๑๖ ไหว้พ่อแล้วแวะระหว่าง บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ และ พระจุฬามณี ที่ประชุมใหญ่ของท่านผู้มีพระคุณ

    เมื่อไหว้ขอบคุณแล้วถามท่านว่ามีบ้างไหมในที่ประชุมนี้ไม่เคยเป็นบิดามารดา เคยเป็นครูหรือผู้เกื้อกูล ไม่มีเลย ทุกท่านบอกว่า ท่านเคยเป็นพ่อแม่มาก่อนหน้าทั้งนั้น

    จึงกราบขอบพระคุณท่านอีกครั้งหนึ่ง กลับลงมาถึงที่พัก ๖.๐๐ น. พอดี เรื่องที่ท่านพยากรณ์ประจำวันตรงทุกอย่าง แต่ขออนุญาตไม่บอก จบ วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๓๑
     
  6. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๒๒.วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๓๑

    วันนี้มีเรื่องไม่มากแต่มีหลายเรื่อง แต่ละเรื่องไม่มากจริง แต่อาจจะต้องอ่านมาก เพราะมีหลายคน

    ตอนที่ ๑
    คุยกันเรื่องอาการป่วยก่อน ตื่นขึ้นเช้ามืดออกไปจงกรม เกือบเดินไม่ไหว เพราะขาขวาเส้นแข็งและปวดมาก ไม่ทราบว่าเป็นอะไร เมื่อก่อนหลับก็ยังดี เดินไปเดินมาทำท่าจะล้มเลยเลิกเดิน กลับไปนอน ก็นอนประเภทหาความสุขไม่ได้ เลยปล่อยให้ร่างกายนอนอยู่ตรงนั้น

    พูดกับร่างกายว่า เอ็งนอนอยู่ตรงนี้ ฉันจะไปหาพ่อแม่ของฉัน และฉันจะเลยไปหาพระแล้วไปพักที่บ้านฉัน พูดแล้วก็เข้าไปพบพระในอก ท่านแนะนำเล็กน้อย พระในอกมีสององค์ คือ พระพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้า เป็นภาพพระนิมิตของกรรมฐาน

    รับคำแนะนำจากท่านพอสมควรแล้วก็เลื่อนมาหาพระที่สมอง มีอีกสององค์ พระพุทธเจ้าทั้งคู่นมัสการท่านแล้ว ท่านแนะนำแล้ว ลาท่านออกมาข้างนอก เห็นเจ้าร่างกายมันนอนเหมือนผีตาย ไม่มีอะไรน่าห่วง ปล่อยมันเจ้าผีตายทุกข์ เพราะมัน

    ถ้าไม่มีมันก็ไม่มีทุกข์ แต่ทว่าความทุกข์ที่เกิดเพราะมัน มันอยู่ที่เรา เพราะเราเสือกเกาะ รัก โลภ โกรธ หลง จึงมีมัน ถ้าไม่มีอาการสี่อย่างนี้ มันก็มีให้เราทุกข์ไม่ได้ เป็นอันว่าเราเลวจึงมีมันที่เลว ทำให้เรามีความทุกข์ ทุกข์เพราะเราโง่ ใคร่ครวญนิดหน่อยแล้วก็ไหว้พระท่าน ที่ท่านครอบอยู่บนศีรษะ

    ท่านแนะนำให้ใช้สังขารุเปกขาญาณ แล้วเลยไปหากลุ่มเทวดาที่ท่านอารักขา มีท่านท้าวมหาราช ซึ่งมีท่านเวสสุวรรณ เป็นประธาน เห็นท่านอยู่ด้วยกันมาก ขอบคุณท่านแล้วเลยไปหาพ่อกับแม่ ที่นั่นท่านประชุมทันที ลืมไปว่าวันนี้ตอนสว่างเป็นวันพระกลางเดือน ๑๐ ทั้งพรหมและเทวดาท่านประชุมกันพร้อม เข้าไปไหว้ขอบคุณท่าน ท่านสหัมบดีพรหมท่านแนะนำเล็กน้อย หลวงพ่อปานเข้ามาแนะนำพอสมควร ก็ลาท่านไปหาพระ เพราะใกล้สว่าง

    เมื่อไปถึงพระท่านแนะนำพอสมควรแล้วจึงเลยไปบ้าน ไปอยู่เป็นสุขที่บ้านครู่หนึ่งจึงกลับ ลืมบอกไปว่าก่อนหลับร่างกายไม่สบายมากจึงไม่ไปไหน พิจารณานิดภาวนาหน่อย ขอบคุณเทพเจ้าผู้สงเคราะห์ แล้วไปหาพ่อและแม่ แล้วเลยไปหาพ่อที่ไม่มีแม่ ที่พรหมชั้น ๑๖ เสร็จแล้วไปมนัสการพระแล้ว ไปบ้านอยู่ที่บ้านถึงตี ๔ จึงกลับมา มันมีสุขกว่าอยู่ในร่างกาย

    หลังเที่ยงไปประชุมนักเรียนที่โรงเรียน มีคณะกรรมการการเงินของวัด คือ พระอนันต์ พระสมพงษ์ พระสุรจิต พระบัญชา และ พระวิรัช พร้อมครูและนักเรียน ไปแจ้งให้ทราบว่า น้ำท่วมใหญ่พ่อแม่เสียหายมาก งดเก็บค่าเล่าเรียนและค่าอาหารและอย่างอื่นทั้งหมด ๓ เทอม

    เป็นเงินที่ช่วยอยู่แล้วและเด็กใหม่ที่ต้องจ่ายรวม ๓,๒๒๑,๖๐๕ บาท เงินสำรองก็ไม่มีเลย แต่ต้องทำเพราะ ท่านย่า และท่านแม่ แนะนำให้ทำ ทำเถอะมันเป็นลาภใหญ่นั่นหมายถึง ทุนที่จะซื้อตั๋วไปนิพพาน จึงขอบอกบุญให้ทุกคนร่วมกันซื้อตั๋วด้วยกันจะได้ไปด้วยกัน

    เวลา ๑๕.๐๐ น. ลงฟังปาติโมกข์ วันนี้ร่างกายเลวร้ายมาก ขาขวาที่แข็งมันปวดมาก นั่งฟังปาติโมกข์ปกติได้ประมาณ ๕ นาที เห็นท่าไม่ดีเลยรวบรวมเข้าสมาธิ หูไม่ได้ยินเสียงปาติโมกข์ ใจอยู่กับพระมีความสุขมากเมื่อเลิกสวดแล้ว แนะนำให้พระใช้ญาณแปดให้เป็นปกติ และให้พระรู้เรื่องบุญ และบาปที่ปรากฏในบัญชี

    และเรื่องของพยานบุญ พยานบาป ตามในหนังสืออ่านเล่นเล่ม ๑ จบแล้วกลับที่อยู่ วันนี้ตามเวลาที่เคยอาเจียน ไม่อาเจียน แต่พอมาถึงที่พักมันอาเจียนออกมาเกือบเต็มกระโถน กินยาแล้วนอนไม่รู้ไปสองชั่วโมง เมื่อรู้เรื่องแล้วก็เขียนลงบัญชีตามปกติบันทึกนี้เขียนตอนสายของวันที่ ๒๖ ก.ย. ๓๑

    เมื่อบอกว่าจบแล้วแต่นึกขึ้นได้จึงเขียนใหม่ เพราะลืมบอกว่า วันที่ ๒๕ ก.ย.
     
  7. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๒๓.วันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๓๑

    วันนี้มีเรื่องไม่มาก เพราะเป็นวันจันทร์ ปกติวันจันทร์เป็นวันที่มีแขกน้อย ตอนสายได้ยินเสียงหมอจากค่ายจิระประวัติ โทรศัพท์มาถามพระว่า ผู้เขียนอยู่ไหม เสียงพระตอบว่าอยู่ และอยู่ไปถึงวันที่ ๖ ตุลาคม วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๓๐ จะเข้ากรุงเทพฯ

    ขณะนี้รับแขกได้ชั่วโมงเดียว เพราะกำลังป่วยมาก เป็นอันว่า เวลาป่วยนี่ ถ้าพอจะลงพบแขกได้ก็ลงด้วยเห็นใจที่ท่านเดินทางมาไกล ต้องเสียค่าพาหนะ เสียเวลาจากการงาน ละความสุขจากบ้านเพื่อมาเยี่ยม วันนี้มีแขกมาจากกรุงเทพฯ นครสวรรค์ คณะเจ้ากรมการสัตว์จากนครปฐม รับเงินทำบุญไว้ทั้งหมด ๑,๙๖๐ บาท

    วันนี้มีข่าวดี ด้วยหมอที่มาจากนครสวรรค์ มีนายแพทย์คนหนึ่ง แพทย์หญิงคนหนึ่ง นายแพทย์ถามถึงอาการป่วย คุณหมอเอายาเคลือบผนังกระเพาะ และยาลดแก๊สมาให้ด้วย เมื่อคุยกันแล้ว คุณหมอก็บอกว่า ยานี้เป็นยาที่เพิ่งสั่งจากอเมริกามาใหม่

    เป็นยาเม็ดไม่ใช่ยาลดแก๊ส แต่เป็นยาระงับไม่ให้แก๊สเกิดขึ้น แพทย์หญิงบอกว่า หนูเองก็เป็นโรคนี้ แพทย์ชายผู้สามีบอกว่า เธอกินยาเป็นกระสอบแล้ว มันไม่ใคร่ดีขึ้นเลย แต่เมื่อได้ยาขนานนี้แล้ว ดีขึ้นมาก

    เมื่อหมอพูดก็มีความรู้สึกว่าตรงกับโรคปัจจุบัน เพราะอาการตามที่คุณหมอพูดเพิ่งจะเกิดขึ้นประมาณ ๔ วันแล้ว มันทรมานมากเหลือเกิน เวลารับแขกมันก็กวน แต่ว่าด้วยมารยาท ป่วยทำเหมือนไม่ป่วย รับแขกไปทั้ง ๆ ที่ แก๊สมันทำความปั่นป่วนและปวดท้อง

    คิดว่าถ้าได้ยาขนานนี้ประโยชน์จะใหญ่มาก และจะมีประโยชน์ไปถึงพระ และคนในวัด คนนอกวัด พร้อมเด็กนักเรียนและครูด้วย สำหรับเด็กนักเรียนคงซื้อยาแจก คนภายนอกคงแจกตำราหรือชื่อยา ไปให้ซื้อเองด้วยโรคนี้ทรมานมากมายนัก ใครเป็นคนนั้นรู้ ใครไม่เป็นก็ได้แต่พยักหน้า ไม่รู้ว่ามันทรมานแค่ไหน เรื่องอื่นไม่มีขอจบเพียงเท่านี้ เพราะปวดท้องมาก
     
  8. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๒๔.วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๓๑

    เวลาตอนสายของวันที่ ๒๗ เขียนเรื่องของเช้ามืดวันที่ ๒๖ ก่อน เดิมคิดว่าไม่มีอะไร เพราะเมื่อก่อนหลับท้องปั่นป่วนมากจนทนเขียนไม่ไหว แต่เวลานอนดีไม่รบกวนเลยหลับง่าย หลับตั้งแต่ ๒๒.๐๐ น. เศษ ก่อนหลับขอตื่น ๕.๐๐ น. ก็ตื่นได้ตามเวลา

    เมื่อตื่นขึ้นมาก็ซ้อมขา เพราะขาเส้นหลังแข็งมาก ขนาดก้มไม่ลงมันปวดมาก ก่อนนอนก้ม ๆ เงย ๆ อยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็เสี่ยง คิดว่ามันตายเสียได้ก็จะดีมากมีแต่ทุกขเวทนา

    แต่ในที่สุดเวลานอนจริง ๆ ไม่มีทุกขเวทนา เห็นจะเป็นเพราะ พระ พรหม เทวดา ท่านช่วย เมื่อก้ม ๆ เงยพอบรรเทาปวดนั่นเอง ออกไปดับไฟรอบตึกล้างหน้าแล้วเข้าที่ทำกรรมฐาน เห็นท่านท้าวมหาราช ขอบคุณท่าน วันนี้ท่านวิรุฬหก รายงานด้านทิศตะวันออก แล้วท่านเวสสุวรรณรายงานเหตุประจำวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๓๑

    หลังจากนั้นก็ขึ้นไปบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ที่นั่นท่านประชุมใหญ่ทันที มนัสการบิดามารดาผู้ทรงคุณใหญ่แล้ว คณะท่านแนะนำเรื่องอาการป่วยของร่างกาย

    หลังจากนั้นขึ้นไปมนัสการพระ พระท่านแนะนำว่า พระยายมต้องการพบ แต่เวลาใกล้ ๖.๐๐ น. แล้ว ฉันขอให้พระยายมรอ พอเวลาสาย ๘.๐๐ น. เศษ จะไปในที่สุดท่านก็ให้กลับ เมื่อกลับก็เลี้ยวเข้าไปตรวจสมบัติที่อยู่ในบ้านนั้นพอควรแล้วก็เดินทางกลับ

    พระท่านแนะนำว่า วันนี้ เซ็นชื่อสักร้อยชื่อก่อนนะ แล้วจึงทำกรรมฐานตอนสาย ตอนนี้เซ็นชื่อเสร็จรวบรวมกำลังใจตามแบบฉบับเดิมของพระพุทธศาสนา เมื่อครบแล้วก็กราบเรียนถามพระท่าน ท่านบอกว่า พระยายมกำลังรออยู่ขอให้ไปได้ ตกลงไปในภาพกายเนื้อ เพราะตามสัญญาของพระยายมท่านแนะนำไว้อย่างนั้น
     
  9. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๒๕.พบหญิงแก่

    เมื่อไปถึงท่านลุงทั้งสอบนั่งประจำที่ แต่ไม่มีการสอบสวนพบหญิงแก่ร่างใหญ่ ผิวเนื้อสองสีชื่อ.... บ้านอยู่รอบนอกของกรุงเทพฯ หน้าตามีกังวลมาก เธอเข้ามาหา เธอบรรยายเรื่องต่าง ๆ ตามแบบฉบับของคนมีกังวล ก็คิดว่าตายแล้วยังไม่ละกังวลอย่างนี้ก็แย่

    ถามท่านลุงว่า สอบสวนแล้วหรือ ท่านลุงบอกว่า ไม่มีการสอบสวนเพราะเป็นศิษย์ของคุณ เขาบอกให้ฉันเป็นพยาน เมื่อฉันเป็นพยานก็ไม่ต้องสอบสวน ฉันคอยตั้งแต่ ๔.๐๐ น. เห็นเธอหลับสนิทก็เลยให้คอยก่อน ต่อเมื่อพระท่านให้รอถึงเวลานี้ จึงรอเอาไว้ก่อน

    เมื่อถามลุงว่า แล้วเธอจะไปไหน

    ท่านลุงบอกว่า บุญของเธอมีแต่กังวลมากเหลือเกิน บุญบูชาพระ ทำบุญร่วมกับคุณ ถวายสังฆทานชุดเล็ก เจริญกรรมฐาน แต่เอาดีไม่ได้ เวลาทำอารมณ์ไม่เยือกเย็นเพราะมีกังวลมาก เป็นพวกวิตกจริตและโมหะจริตไม่มีเวลาจบ

    เคยรักษาศีลแปดเมื่อเวลามาเจริญกรรมฐาน เวลากลับบ้านก็เหลือ ๕ บ้าง ๓ บ้าง ศีลกระพร่องกระแพร่งเต็มที แต่ก็มั่นคงในการบูชาพระ พอใจในทาน และสังฆทาน ถ้าจิตมั่นคงมากจะได้ไปอยู่ชั้นปรนิมฯ จิตมีกังวลปานกลางจะไปดาวดึงส์ แต่นี่ตายแล้วยังกังวลถึงลูกหลานไม่หยุด จิตขุ่นมัวไปต้องเป็นรุกขเทวดา
     
  10. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๒๖.ก่อนตาย

    เมื่อเธอถามว่า ก่อนตายป่วยเป็นโรคอะไร

    เธอตอบว่า ก่อนตายท้องอืดแน่นหน้าอก นึกถึงบุญไม่ออก มันเสียดแทงมาก ร้อนใน อารมณ์ไม่แจ่มใส เมื่ออาการหนักมาก จิตก็ห่วงลูกหลานมาก เพราะจน เกรงว่าเธอจะหากินไม่พอกิน เมื่ออาการหนักที่สุดคืนวันที่ ๒๑ ก.ย. ๓๑ ประสาทททางร่างกายหยุดจิตออกจากร่างมีคนนุ่งเขียว ๒ คนไปรับ

    ตอนนี้พระยายมท่านบอกว่า เธอมีอารมณ์เป็นกุศลก่อนป่วยหนัก เมื่อไม่มีการสอบสวนจึงให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสวรรค์ไปรับ ชุดนี้นุ่งเขียวบ้างสีอื่นบ้าง แต่ไม่แต่งชุดสีแดง

    ถ้าเป็นอย่างนี้ เมื่อชุดนี้ไปรับจึงไม่ต้องสอบสวน เพราะมีสิทธิ์ไปสวรรค์แน่นอน ที่รับมาก็เพื่อเอามาแนะนำย้ำความจำถึงบุญที่ทำไว้แล้ว ให้จิตสะอาดพอที่จะไปสวรรค์ได้ ถ้าไม่ย้ำให้จิตสะอาดจะต้องเป็นสัมภเวสีชั่วคราว เมื่อครบกำหนดจึงไปสวรรค์ได้

    เมื่อถามถึงกำหนดเวลาที่เป็นสัมภเวสี ท่านบอกว่า เอาเวลาแน่นอนไม่ได้ สุดแท้แต่จิตเศร้ามากหรือน้อยขอลัดให้เร็วขึ้น ถามเธอว่า วิมานรุกขเทวดา หรือเทวธิดา ก็สวย มองเห็นแล้วพอใจไหม เธอตอบว่า พอใจมากงานน้อย ไปเยี่ยมลูกหลานได้สะดวก

    ถามเธอว่า วิมานอยู่ห่างจากบ้านลูกหลานเกิน ๕๐ กิโลเมตร ไม่ไกลหรือ
    เธอตอบว่า ไม่ไกลเวลาที่ไปไม่ถึงนาทีก็ถึงแล้ว

    เมื่อถามเธอว่า ตั้งแต่ตายมาแล้วไปบ้านหรือยัง
    เธอตอบว่า ยัง เพราะเพิ่งเป็นอิสระด้วยรอการปลดออก

    เมื่อถามว่า วันนี้จะไปวิมานก่อนหรือไปบ้านก่อน
    เธอตอบว่า ไปวิมานก่อนแต่ก็คงไปบ้านวันนี้

    เมื่อถามเธอว่า ลูกหลานทำบุญให้บ้างหรือยัง
    เธอตอบว่า ทำให้แล้วแต่จิตคนทำให้ไม่ผ่องใส พระที่รับทานก็มีจิตเศร้าหมองมาก ฉันเองก็ไม่เป็นอิสระเขาให้บุญก็ยังโมทนาไม่ได้

    วันนี้เป็นอิสระแล้วโมทนาได้แต่ผลไม่สมบูรณ์ รอวันที่ ๘-๑๐ ตุลาคม เขาจะถวายสังฆทานให้อีก วันนั้นมีหวังไปดาวดึงส์

    ถามท่านลุงว่า เธอไปได้หรือ ท่านบอกว่า อานิสงส์โมทนาสังฆทานไปดาวดึงส์ได้สบาย

    เมื่อคุยกันเสร็จเธอก็ไปวิมานเธอ ฉันก็กลับวิมานฉันคือบ้าน เรื่องวันที่ ๒๖ ก็จบเท่านี้แต่เล่าให้ฟังเมื่อตอนสายของวันที่ ๒๗ ก.ย. ๓๑

    คิดว่าจะจบมันก็ยังไม่จบ เพราะเวลา ๑๑.๐๐ น. พรนุช คืนคงดี เอาเงินที่รับจากธนาณัติที่ท่านสาธุชนส่งมาให้ รวมกันหลาย ๆ วันไปรับครั้งหนึ่ง วันนี้รับ ๓๙,๕๒๒ บาท

    เวลารับแขกวันนี้มีท่านพุทธศาสนิกชนทำบุญหลายรายการ ดังนี้

    คุณประจิตต์ คุณวัลลภา คุณศิริงพงษ์ ตงพิพัฒน์ แก้บนหลวงพ่อ ๔ พระองค์ ๕,๐๐๐ ดอลลาร์ จากอเมริกาเท่ากับเงินไทย ๑๒๖,๒๐๐ บาท

    คุณละเมียด เขมาสวิน (นิโกร) ถวายส่วนตัว ๕,๐๐๐ บาท

    คุณวงศ์จิตร วงศ์สุ สร้างห้องกรรมฐาน ๑,๐๐๐ บาท

    คุณเมตตา โอบายวาทย์ สร้างห้องกรรมฐาน ๑,๐๐๐ บาท

    คุณฉวีวรรณ บุษยานนท์ ถวายสร้อยทองคำหล่อพระปัจเจกพุทธเจ้า ๑ เส้น

    ท่านที่ไม่ประสงค์ออกนามทำบุญ ๑,๒๐๐ บาท

    รวมรับเงินทุกประเภทวันนี้ ๑๗๔,๓๗๒ บาท

    แขกที่มาวันนี้มีไม่กี่คน จากที่ต่าง ๆ ดังนี้ กรุงเทพฯ อเมริกา สงขลา ชุมพร นครสวรรค์ หมอที่ค่ายจิรประวัติ นำยามาถวายสองขนาน ทันตแพทย์หญิง เตือนใจ กลั่นสุภา บอกว่าเธอเป็นโรคนี้ รับประทานครั้งเดียวอาการหายไปเลย หมอบอกว่า เป็นยาที่สั่งใหม่จากอเมริกา เพิ่งมีในประเทศไทย

    ตอนกลางคืน พ.อ.สถาพร-ศิริพร พงษ์พิทักษ์ เอาลูกชายมาบวชเณร ๒ องค์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ห้าเสือสงครามโลกครั้งที่ ๒ และร่วมทำบุญ ๑,๐๐๐ บาท พ.อ.สถาพร ช่วยนวดให้เพราะขาแข็ง และปวดมาก เธอนวดให้บรรเทาอาการปวดไปมาก
     
  11. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๒๗.วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๓๑

    วันนี้เส้นทางร่างกายที่แข็งมากนั้นแข็งน้อยลง เพราะเมื่อคืนวันที่ ๒๗ พ.อ. สถาพร มานวดให้ เช้าวันนี้ วิวัฒน์ โกศล มาจากกรุงเทพฯ มานวดให้อีก บรรเทาลงมาก เงินที่รับเมื่อวานนี้ส่วนใหญ่เป็นเช็คจึงให้ธนาคารมารับไป

    เรื่องการเงินปกติไม่เก็บที่วัด รับมากหรือรับน้อยก็เข้าธนาคารเลย จะได้ไม่อีลุ่ยฉุยแฉกเอาไปใช้อย่างอื่น เพราะปลายเดือนก็ต้องจ่ายใหญ่ แต่ตอนนี้คงจ่ายประมาณ ๓๐% ของจำนวนที่จ่ายทุกเดือน เพราะกลางเดือนเคยจ่าย ๗ แสนเศษ เดือนนี้จ่ายเพียง ๓ แสนเศษ ปลายเดือนเคยจ่าย ๓ ล้านเศษ

    เดือนนี้อาจน้อยลงไปมาก เพราะฝนตกมากน้ำท่วมทำงานไม่ใคร่ได้ จึงจ่ายไม่มาก แต่จะจ่ายเท่าไรนั้นต้องรออีก ๒-๓ วัน ฝ่ายจัดซื้อ และคุมผลงานคงแจ้งมาให้ทราบ เพื่อจ่ายค่าแรงงานและวัตถุก่อสร้าง

    วันนี้เรื่องเมืองผียังไม่มี เพราะเมื่อเวลา ๓.๐๐ น. ตื่นนอนไปห้องน้ำแล้วกลับมาเติมน้ำให้ร่างกาย (กินน้ำ) เมื่อเสร็จแล้วก็เอนกายลงนอน คว้าอานาปาใช้คาถาภาวนาบทสุดท้าย

    แต่วันนี้อารมณ์แน่นไปไม่พอดีกับอารมณ์รู้ อารมณ์เลยทรงตัวตัดความรู้สึกภายนอก มีแต่ความรู้สึกภายในเขาเรียกว่าอะไร ก็ถามตัวเองเอาก็แล้วกัน เวลา ๖.๐๐ น. ตรงตามที่คิดไว้ก่อนจับอานาปา ก็มีความรู้สึกทั้งตัว

    ต่อไปนั้นเป็นเวลาอาหาร ไม่ใช่วิชารู้เรื่องเมืองผี จึงทำงานตามหน้าที่ ไปกินข้าวเสร็จแล้วให้หมอนวด ขณะที่หมอกำลังนวด ธนาคารมารับเช็ค และนำเช็คอัมพาตมาให้ ๑ ใบ เป็นเช็คออสเตรเลีย ๙๐ เหรียญ ปรากฏว่า เจ้าของปิดบัญชีไปแล้วเรื่องเช็คนี้มีแก้อาถรรพณ์ทุกปี มีเด้งปีละใบสองใบจนได้

    เวลา ๑๓.๓๐ น. ลงรับแขก วันนี้มีแขกกระจุ๋มกระจิ๋มมากจากหลายที่ แต่ละที่มาไม่มาก เช่น กรุงเทพฯ นอกจากที่มาเจริญกรรมฐานประจำอยู่แล้ว วันนี้มา ๓ คน นนทบุรี มา ๓ คน ราชบุรี มา ๓ คน ปราณบุรี ๕ คน ท่านทำบุญไว้วันนี้ รวมทั้งสิ้น ๒,๔๖๕ บาท การเปิดฉากสงเคราะห์นักเรียนน้ำท่วมใหญ่ เริ่มจ่ายครั้งแรกค่าอาหารและอุปกรณ์อาหาร ๖๗,๐๐๐ บาท เป็นการเปิดรายจ่ายเดือนตุลาคม ๒๕๓๑

    วันนี้ยาของแพทย์หญิงเตือนใจที่ให้ไว้เริ่มมีผล อาการปั่นป่วนบรรเทาลงมาก พ.อ.สถาพร มานวดให้ตอนกลางคืนดูดีขึ้นมาก
     
  12. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๒๘.วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๓๑

    วันนี้มีข่าวดีจะบอกให้ทราบ ข่าวนี้ก็คือเจ้าหน้าที่ส่งรายการหนี้มาน้อยกว่าทุกเดือน เพราะน้ำท่วมช่างทำงานได้น้อยวัน ค่าแรงงานน้อยลงวัตถุก่อสร้างใช้น้อยลง คงจ่ายจริง ๆ ปลายเดือนนี้ (ไม่ร่วมที่จ่ายไปแล้วตอนกลางเดือน) เฉพาะจ่ายวันนี้ ๒,๑๖๕,๐๐๗ บาท

    เป็นรายจ่ายที่ยังไม่ครบ เพราะรายจ่ายภายในที่จ่ายไปแล้วทางฝ่ายการเงินยังไม่แจ้งมา ที่บอกมานี้เพราะรายการก่อสร้างเท่านั้น เป็นอันว่าเบาใจไปนิดหนึ่ง สำหรับรายจ่ายตามความเป็นจริงของเดือนนี้ ถ้าฝ่ายการเงินรายงานขึ้นมาเมื่อไรจะแจ้งให้ทราบใหม่ เอากันแค่เบาะ ๆ ก็หลังแอ้แล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับรายรับที่รับเขียนให้ทราบ ท่านคงคิดว่า อ้อ เท่านั้น แต่คนหาเงินจะบอกว่า แอ้

    ขอคุยกันเรื่องวันที่ ๒๗ อีกสักหน่อย เมื่อคืนวันที่ ๒๗ ยิ่งดึกยิ่งร้อน ตอนออกไปจงกรมเห็นท้องฟ้ามืดฟ้าแลบ ทางทิศตะวันตก เสียงฟ้าร้องสะเทือน เพราะเสียงดังหนัก ๆ เหมือนเสียงปืนใหญ่ก่อน แล้วจึงมีเสียงคราง

    คิดในใจว่า ถ้าฝนตกด้านนั้นน้ำที่มีอยู่แล้วจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องขอบคุณฝ่ายชลประทานที่ระบายน้ำไปเรื่อย ๆ ไม่กักน้ำไว้เหมือนบางคราว เข้าใจว่าน้ำคงไม่ท่วมนานนัก

    เมื่อร้อนมากก็นอนไม่หลับ จึงภาวนาบ้างพิจารณาบาง มันก็ไม่หลับ จึงเอาหนังสือมาอ่านมันก็ไม่หลับ เมื่อมันไม่หลับก็ไปเที่ยวดีกว่า เมื่อตัดสินใจแล้วก็จัดแจงแต่งกายแบบสบายใจชอบ แล้วเตรียมออกเดินทางพบพระท่านก่อน

    พบหลายองค์ท่านแนะนำเล็กน้อย แล้วก็พบท่านมหาราชทั้ง ๔ หลังจากนั้น ท่านแม่ และแม่ของลูกมากันครบชุด ท่านพ่อ และพ่อทั้งหมด ท่านเมตตามาเยี่ยมถึงที่ ไหว้ท่านแล้วคุยกับท่านตามสมควรแก่เวลา

    พอดีลุงทั้งสองท่านมา เห็นท่านนุ่งโสร่งตามเดิม จึงถามเพื่อความแน่ใจว่า ลุงนุ่งผ้าพื้นหรือโสร่งกันแน่ ท่านบอกว่า เรียกว่าโสร่งไม่ถูกและลักษณะปล่อยชายเหมือนโสร่ง แต่ก็เป็นผ้าไหมสีเคลือบทอง ควรเรียกว่า ผ้าปล่อยชาย

    แล้วท่านก็บอกว่า ปกติผมนุ่งผ้าพื้นโจงกระเบน แต่ที่มาหาคุณนุ่งแบบนี้ เพื่อให้คุณจำสะดวก เพราะนุ่งผ้าพื้นเหมือนกันมากจะจำยาก เมื่อถามว่ามีธุระอะไรไหม ท่านบอกว่า ไม่มี หลังจากนั้นก็พากันไปมนัสการพระ พระท่านเมตตาแนะนำแล้วก็พากันกลับมาส่ง และคุยกันเล็กน้อย
     
  13. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๒๙.ยักษ์ครึ่งตัว

    เห็นยักษ์ตนหนึ่งมีครึ่งตัว เขี้ยวใหญ่ยาวปากใหญ่ มองแล้วเหมือนราหูอมจันทร์ เมื่อเห็นก็ติดว่าเจอยักษ์ปลอมอีกแล้ว เมื่อมองไปอีกครั้งปรากฏว่า ภาพยักษ์หายไป กลายเป็นเทวดาสูงโปร่ง เครื่องประดับเต็มตัวสวยงามมาก

    จึงถามท่านว่า เมื่อกี้ยักษ์อะไร ท่านบอกว่า ยักษ์ราหู ถามท่านว่า เขาเขียนไว้ว่า ราหูตัวใหญ่มากหรือ ท่านบอกว่า ถ้ามนุษย์เห็นเทวดาตามจริงก็ใหญ่เหมือนกับทุกองค์

    สำหรับผมก็ใหญ่เท่าเทวดาธรรมดา แต่ไม่มีเทวดาองค์ไหนใหญ่เท่าท่านพ่อคือ พระอินทร์ ถามท่านว่า เคยอมจันทร์ไหม ท่านหัวเราะ แล้วบอกว่า ผมไม่รู้จะอมก้อนดินไปทำไม ถามท่านว่า ฉันจะเรียกชื่อแทนท่านว่าอย่างไรจึงควร ท่านบอกว่า เรียกว่า พี่ ก็แล้วกัน

    เป็นอันรู้กันว่าควรเรียกท่านว่า พี่ ถามท่านว่า ท่านปรากฏตัวเพื่ออะไร ท่านบอกว่า น้องมีงานหนักร่างกายก็ไม่ดี จึงจะมาช่วยงานเพื่อเสริมบารมี เพื่อพระนิพพาน ถามท่านว่า ท่านจะช่วยอย่างไร

    ท่านบอกว่า ช่วยทุกอย่างตามความสามารถ แต่คงช่วยแบบราหูเทวดา ไม่ใช่ราหูยักษ์ ถามท่านว่า เมื่อฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้าแล้วท่านบรรลุอะไร ท่านบอกว่า ท่านเป็นพระโสดาบัน เวลานี้เป็นสกิทาคามีผล คุยกันเพียงเท่านี้แล้วท่านก็บอกว่า หลับเถอะก็เลยหลับไป ตื่น ๓.๐๐ น. หลับต่อมาตื่นเอา ๕.๓๐ น.

    การรับแขกวันนี้แขกไม่มาก มาจากกรุงเทพฯ ตราด ปราณบุรี นนทบุรี มีญาติโยมทำบุญ ดังนี้

    คุณอารีย์ ชื่นมีเชาวน์ เอาขนมจีนและผลไม้มาถวายพระทั้งวัด คุณบุญมา ประทุมมิตร ถวายก๋วยเตี๋ยว พระทั้งวัด ทั้งสองรายนี้ จ่ายอาหารและผลไม้รวม ๙๐๐ บาท โยมละม้าย เกิดกัน ถวายเงินสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้า ๒,๐๐๐ บาท ถวายส่วนองค์ ๒,๐๐๐ บาท รวม ๔,๐๐๐ บาท

    พรนุช คืนคงดี ได้รับเงินเดือนในฐานะเป็นครูใหญ่โรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา ๓,๐๐๐ บาท เธอถวายเป็นส่วนองค์หมดทั้ง ๓,๐๐๐ บาท

    คนนี้ตั้งแต่เป็นครูมาเงินเดือนของเธอถวายวัดหมดทุกเดือน และเธอถวายเป็นค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า ชำระหนี้สงฆ์ ๑,๐๐๐ บาท ถวายสังฆทาน ๑,๐๐๐ บาท รวมทั้งหมดเธอถวาย ๕,๐๐๐ บาท เกินเงินเดือนไป ๒,๐๐๐ บาท

    คณะปราจีนบุรี จ.ประจวบฯ วราภรณ์ (เกียว) แซ่ลิ้ม และน้อง ๆ ถวายค่าอาหารและค่ายารักษาโรค ๕๐๐ บาท คณะสร้างโคมไฟช่อในวิหาร ๑๐๐ เมตร มีนายจ่ายต๋อย แซ่ลิ้ม บิดา นางซิมหงษ์ แซ่ตั้ง มารดา และลูก ๆ มีเกียว จวง เค็ง เตียง หุย เฮียง เก่ง หลีเค็ง นามสกุล แซ่ลิ้ม ๘ พี่น้อง ร่วมกันสร้างโคมไฟช่อ ๑ ช่อ ให้เงินไว้ ๕๐,๕๐๐ บาท รับเงินคืนจากการไฟฟ้าฯ อุทัยธานี ค่ามิเตอร์ ๑๑,๑๓๓ บาท และท่านที่ถวายแต่ไม่แจ้งนามอีก รวมวันนี้รับเงินทั้งสิ้น ๖๕,๗๖๐ บาท

    มีแขกพิเศษอยู่หนึ่งมา ๒ คน เธอมาขอร้องให้จ่ายเงินช่วยกิจการสงเคราะห์เยาวชน อ้างใครต่อใครเป็นประธานบ้าง เป็นผู้อุปถัมภ์บ้าง อ่านรายการแล้วงานนิดเดียวมีเด็กร้อยคนเศษ ๆ เลี้ยงแบบง่าย ๆ ไม่เหมือนที่ฉันกำลังที่อยู่ เด็กหลายร้อยคนเลี้ยงง่ายแต่ต้องจ่ายตามระเบียบ

    แต่ถึงกระไรก็ดีเรื่องการเงินเธอกล้ามากไป เพราะถ้าผู้รับหนังสือเรี่ยไรเกิดสงสัยนิดเดียวเธอจะลำบากมาก เมตตาในเธอ จึงเขียนหนังสือให้เธอทราบว่า ฉันกำลังป่วย (ความจริงเธอไม่น่าขอร้องคนกำลังป่วยให้ช่วยเธอ เพียงเท่านี้ก็เห็นแล้วว่าสมองของเธอบกพร่องมาก)

    นอกจากนี้กำลังมีการสร้างวัดอยู่ด้วยมีหนี้เป็นล้าน (ความจริงเธอก็เห็นงานกำลังก่อสร้าง ถ้ามีมันสมองปกติสักนิดเดียวจะไม่เอ่ยปากขอร้อง เพราะงานการก่อสร้างเป็นภาระอันหนัก) ได้แจ้งให้เธอทราบว่า

    เวลานี้น้ำท่วมล้างทุ่งพ่อแม่เด็กไม่มีทรัพย์สินส่งลูกเรียน วัดรับภาระหมดทั้งโรงเรียน (คนมีปัญญาเขาต้องสืบก่อน เมื่อเห็นมีภาระหนักเขาจะไม่ขอ) และเธอลืมไปว่าเรื่องการเงิน การขอจะสะดวกหรือ ในรายการที่อีกคนหนึ่งมาย่ออ้างชื่อพระผู้ใหญ่ มาตั้งให้ผู้เขียนเป็นกรรมการ ทำเหมือนเด็กเล่นขายของน่าสลดใจ และไม่มีอะไรน่าเชื่อเลย จึงไม่ให้อะไร
     
  14. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๓๐.วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๓๑

    วันนี้ขอพูดเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมาเล็กน้อย เพราะไม่มีเรื่องผีผสม ทั้งนี้ ก็เพราะไม่มีเวลาไปหาผี เหนื่อย และมีเรื่องจุกจิกใจเพราะแก็สเกิดขึ้นในท้อง เลยสู้กับแก๊ส

    เมื่อยามดึกออกไปจงกรม ความจริงก็ไม่ดึกมาก มันดึกสำหรับเด็กเล็กเด็กใหญ่ยังไม่ดึก เพราะเป็นเวลา ๒๑.๐๐ น. เศษ เดินจงกรมภาวนาคาถาพักจนของท่านไปสักครู่หนึ่ง ประมาณชั่วโมงเศษ ๆ ก็เข้ามารมยาด้วยเครื่องรมยาของหมดวัฒนะ

    วันนี้มีผลดีมาก เพราะว่าวันนี้เสมหะค่อนข้างแข็ง ถ้าแข็งอีกหน่อยเดียว เป็นพังผืดออกมา ๔-๕ ชิ้น เอาไปใส่น้ำร้อนแช่นาน เขย่ายังไม่ละลายเลยเททิ้งไป

    เวลา ๒๓.๐๐ น. เศษ เข้านอน เริ่มจับอานาปา เห็นพระหลายองค์ไหว้พระแล้วก็หลับไป ตื่นเวลา ๑ น. พอดี เสร็จภารกิจแล้วหลับต่อ ตื่น ๔.๓๐ น. เป็นเสร็จพิธีนอน ภาวนาพิจารณาต่อไป พอสว่างเด็กขึ้นมาขนของลงไปกินข้าว แล้วก็ไปที่ทำงาน

    ก่อนไปทำงาน จำปี คืนคงดี เอาเงินมาทำบุญ สร้างห้องกรรมฐาน ๕๐๐ บาท ค่าน้ำค่าไฟ ๓๐๐ ชำระหนี้สงฆ์ ๒๐๐ รวม ๑,๐๐๐ บาท พอได้สตางค์แล้วก็ไปทำงาน เอาฤกษ์เช้า ได้หรือไม่ได้ นักเรียนหอพักที่นักเรียนค่างชำระในเทอมต้น มาให้ ๔,๖๐๐ บาท เงินจำนวนนี้ของนักเรียน วัดยุ่งด้วยไม่ได้

    วันนี้รับแขกมีคนกรุงเทพฯ นนทบุรี สระบุรี แม่ชีวัดต้นสน จังหวัดอ่างทอง คนอำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ปราณบุรี จ.ประจวบฯ ท่านร่วมกันทำบุญรวมกันทั้งหมด ๑,๑๙๗ บาท

    เมื่อกลับที่พัก อาจารย์บุปผาชาติ (โอ๋) มาถามอาการป่วย และถามผลของยาที่หมอเตือนใจมอบไว้ยาสองขนานนี้มีผลมาก เพราะเวลานี้ตั้งแต่ฉีดยาควินนินมาแล้ว ไม่ต้องฉีดยาแก้ไขอีกเลย และเว้นการล้างท้องมาเกือบเดือนแล้ว ซึ่งในระยะก่อนฉีดยาควินนินต้องล้างท้องทุกอาทิตย์ และฉีดยาแก้ไขทุกวัน

    อาการที่อุจจาระค้างมาก ๆ อย่างนี้มีอาการแปลก คือ อุจจาระมันหนา และแข็งมากล้างท้องด้วยน้ำสบู่มันไม่ออก ท่านย่าให้ใช้ยาดำผสมตอนแรก พอมีผล ต่อมาไม่มีผล ท่านให้ใช้ดีจระเข้ผสมน้ำสบู่พอมีผล แต่ไม่สามารถชนะมันได้ ระยะแรกท่านให้ล้างติด ๆ กัน ๘ วัน คนที่ไม่เคยเป็นโรคนี้บอกว่า ทนไม่ไหว แต่ทว่าน้ำล้างอุจจาระลงไปไม่ถึงเนื้อลำไส้

    มีหลายคนที่เป็นโรคอย่างนี้ผู้รักษาบอกว่าเป็นมะเร็ง แต่ท่านโกมารภัจจ์ท่านค้าน ท่านเรียกว่า มะเร็งอุจจาระ คือ ขี้แห้งติดลำไส้มาก หมอประจำมี หมอจรูญ เห็นหัวหน้าคณะ ได้ช่วยกันทุกทาง และหายามาให้ทุกรูปแบบก็เอาชนะไม่ได้

    ต่อเมื่อหายาผสมควินนินได้จึงค่อย ๆ ดีขึ้น แต่เรื่องแก๊สหรือลมยังไม่ยอมลด ต่อมาเมื่อ พ.พ.นพพร และพ.ญ. เตือนใจ กลั่นสุภา เอายาสองขนานมาให้จนถึงวันนี้กินยาได้ ๓ วัน อาการบรรเทาขึ้นเยอะ จะหายหรือไม่ รอให้ถึงคำพยากรณ์ของพระเสียก่อน เป็นอันว่าเวลานี้ มีหมอช่วยกันรักษา ๙ หมอ เรื่องหยุดไว้ก่อน พูดมากคนรำคาญมาก มาคุยกันเรื่องผีดีกว่า

    เวลา ๑๗.๓๐ น. เข้าที่พักนั่งอยู่คนเดียวนอนคนเดียวเปลี่ยวอุรา ไม่รู้ว่าจะทำอะไรเลยภาวนาแก้รำคาญ ภาวนาได้สัก ๒ นาที อาจจะไม่ถึง เห็นขาหญิงสาว ๔ ขา เธอเดินมาสองคนเห็นเพียงแค่ดคนขาผิวขาวนวลผิวเรียบไม่ย่นไม่มีตำหนิเนื้อเต็ม ลักษณะทรวดทรงงามมาก เธอนุ่งกางเกง ขากางเกงสั้นเลยเห็นขาคนยาว กางเกงสีเขียวอ่อน ขากางเกงครึ่งโคนขา จากเข่าถึงโคนขามีครึ่งส่วน

    ส่วนท่อนขานี่ถ้าจะราคาแพงจึงชอบโชว์นัก เลยขอดูทั้งตัวเธอให้เห็นและนั่งลงใกล้ ๆ ตอนนี้อยู่คนเดียวสาวเล่นมาชุดละสอง เล่นเอาตั้งท่าไม่ติดเลย คุยเล่นโก้ ๆ เมื่อเธอนั่งและให้เห็นตัวก็เห็นส่วนของร่างกายทั้งหมด เธอสวยเรียบ ๆ จริง ๆ ผิวเธอหาที่ตำหนิไม่ได้เลย ส่วนของร่างกายเหมาะสมมาก อิ่มทั้งตัวและหน้า

    ถามเธอว่า เธอมาเฝ้าเพื่อความปลอดภัยหรือ เธอรับว่าใช่ ถามเธอว่าอยู่ชั้นไหน เธอตอบว่า ชั้นปรนิมฯ เจ้าคะ สาวชั้นนี้สวยจริง ๆ เห็นเธอสองคนนี้แล้ว รู้สึกว่า ความสวยของสาวในโลกแห้งหมด ภาพที่เห็นนี้แลเห็นเป็นเหมือนเนื้ออย่างคนธรรมดา ไม่ใช่เห็นเป็นเงาโทรทัศน์

    เมื่อถามว่า ใครเป็นหัวหน้าส่งเธอให้มา เธอบอกว่า เธอเป็นเทวธิดาของ ท่านพัว หรือ ท่านอุบล เป็นชื่อเมื่ออยู่เมืองมนุษย์ ท่านผู้นี้เป็นน้องสาวคนเล็กของผู้เขียน

    เธอตายเมื่ออายุ ๖ ปี เป็นนักบุญ ชอบให้ทาน ชอบฟังเทศน์ และชอบภาวนาตั้งแต่ยังพูดไม่ชัด ทั้งสองเธอบอกว่า ท่านพัว เป็นเหมือนมารดา เพราะเธอไปเกิดบนตักของท่าน จึงบอกเธอว่า ขอบใจลูกรักที่เมตตาพ่อ เพราะพ่อและป่วยผีหรือไสยศาสตร์อาจทำร้ายได้ เมื่อลูกมาช่วยระวังให้ความปลอดภัยจากสองประการก็มีได้แน่นอน

    เธอบอกว่า เธอเป็นหลานเพราะท่าน พัว เป็นน้องสาว เธอต้องเรียกผู้เขียนว่า ลุง จึงบอกเธอว่า ไม่จำเป็นเพราะคำว่าหลานห่างไปจากความรู้สึก ถ้าลูก จะมีความใกล้ชิดมา เธอทั้งสองดีใจก้มลงกราบพอดีท่านย่ามา

    ท่านย่าถามว่า รู้เรื่องแล้วใช่ไหม เรียนท่านว่า รู้เรื่องแล้ว ได้ปรารภกับท่านว่า นางฟ้าชั้นปรนิมนี่สวยงามมากทำเอานางฟ้าชั้นดาวดึงส์ซีดเลย ท่านย่ายอมรับว่าจริง

    เมื่อถามถึงเรื่องการทำบุญของเธอว่า ทำบุญอะไรจึงมีบุญอย่างนี้ เธอบอกว่า ชอบก่อสร้าง ชอบบูชาพระ รักพระพุทธรูปมาก พระองค์ใหญ่ (พระประธาน) จิตเกาะตลอดเวลา (เป็นฌาน) มีศีลและกรรมบทครบถ้วน

    เธอบอกว่า ที่สร้างวัดอย่างนี้ และตั้งใจสร้างปล่อยไม่ติดวัด เธอบอกว่า เทวดาและพรหมชอบมาก ท่านมาร่วมเป็นไวยาวัจจักรมากช่วยด้านที่ไม่เห็นตัว เพราะได้ต่อบารมีกันทั่วไป โดยเฉพาะงานเจริญภาวนาอีกอย่างหนึ่งที่เขาชอบกันมา จึงมาช่วยกันมาก

    เมื่อเธอกล่าวจบ ท่านย่าถามว่า ท่านพัว ไม่มาหรือ พอท่านย่ากล่าวจบ ท่านพัวมาถึงพอดี ท่านพัวมาในรูปนางฟ้าแต่งกายปกติมีชฎา ทุกคนเลยเป็นนางฟ้ากันหมด สองสาวที่คุยกันอยู่เดิมเธอมีเนื้อหนังเหมือนคน

    พอท่านแม่มาในรูปนางฟ้า เธอก็เลยเป็นนางฟ้าไปด้วย สวยกว่ารูปเดิมมาก เครื่องประดับแพรวพราวไม่ทราบว่านุ่งกางเกงในหรือเปล่า เมื่อคุยกับท่านพัว ท่านย่าพูดว่า คุยแบบคุ้นเคยกันมากนะ ได้บอกท่านว่าเป็นน้องคนเล็กเลี้ยงมาเอง นอนด้วย เที่ยวด้วย กินด้วย ไปโรงเรียนก็ต้องเอาไปด้วย เพราะเธอไม่ชอบอยู่กับแม่ เธอใกล้ชิดมากกว่าเมีย ท่านย่าบอกว่า คุณพูดแบบนี้ประเดี๋ยวเมียเขาหึงน้องเอานะ พอท่านย่าพูดจบ กองทัพเมียก็ลอยละลิ่วมาเป็นร้อย

    พอมาถึงเธอไหว้ย่า แล้วเธอก็พูดพร้อมกันว่า ไม่หึงเจ้าคะ เพราะเธอเป็นน้อง ท่านย่าพูดว่า ถ้าเธอไม่เป็นผีไม่ก็ไม่แน่ใจนัก เธอก็ตอบว่า หึงไม่ไหวเจ้าคะ ถ้าหึงประเดี๋ยวไปหาเมียเพิ่มอีก ขนาดไม่หึงยังมีจำนวนเกินร้อยแล้ว ไม่รู้ว่าเอาแรงที่ไหนมาสู้เมีย

    เมื่อเธอพูดจบ ท่านลุงทั้งสองก็มา ท่านนุ่งผ้าปล่อยชายตามเดิม ท่านย่าพูดว่า ใหญ่ เธอน่ะชอบแต่งตัวแบบนี้ทุกชาตินะ เวลานี้เป็นผีแล้วยังไม่เลิกนุ่งผ้าปล่อยชายอีกหรือ

    ท่านลุงตอบว่า ปกติผมชอบนุ่งผ้าพื้น โจงกระเบน เพื่อให้น้องไม่สงสัยจึงนุ่งผ้าปล่อยชายมา เพื่อน้องสังเกตง่าย ท่านย่า พูดว่า เวลานี้เขาใช้เครื่องแบบปกติกันแล้ว เธอไม่แต่งปกติหรือ ท่านลุงบอกว่า ได้ครับ ท่านเลยมีภาพปกติเป็นพรหมทันที ความอ้วนหายไป ท่านโปร่งมีเครื่องประดับสวยมาก หน้าตาก็สวย

    เมื่อคุยกัน พอสมควรทุกท่านก็ลาไปเหลือแต่สองสาวนุ่งกางเกงในตัวเดียว มีเสื้อไม่มีแขนรัดทรงและเพิ่มจำนวนอีกสิบคน เธออยู่ยามต่อไป ผู้เขียนปวดท้องขี้ ลุกไปเข้าส้วม จบเรื่องตอนนี้ ของวันที่ ๓๐ ก.ย. ๓๑ เพียงเท่านี้ ถ้ามีอะไรอีกจะเขียนต่อตอนวันรุ่งขึ้น

    มีเรื่องคุยกันต่ออีกหน่อย ก่อนหลับเวลาประมาณ ๒๓.๐๐ น. เศษ ปวดท้องมาก จึงเอายาที่หมอนพพร และหมอเตือนใจ สองสามีภรรยาให้ไว้ สองหมอนี้เป็นหมอประจำโรงพยาบาลทหารที่นครสวรรค์ ค่ายจิรประวัติ หมอเตือนใจ

    บังเอิญเป็นโรคเหมือนผู้เขียน เธอกินยานี้หายจึงเอามาให้กินบ้าง พอกินเข้าไปครู่เดียว ก็หายปวดท้องจึงนอนรวบรวมกำลังใจ แล้วออกไปพบท่านท้าวมหาราช มีท่านเวสสุวรรณเป็นหัวหน้า วันนี้ท่านธตรฐก็เด่น

    ขอบคุณท่านและขอบคุณเทพเจ้าและเทพธิดาทั้งหมดที่ท่านอยู่ใกล้ให้กำลังใจและช่วยอารักขา กันเผลอไปอบายภูมิ เพราะถ้าจิตมีกังวล ถ้าเห็นพระ เทวดา หรือพรหมแล้ว จิตจะมีความสุข ขอบคุณท่านแล้วก็ไปเวชยันตวิมาน ไปหาพ่อแม่และญาติ

    แล้วไปที่ประชุมใหญ่ ไหว้ท่านผู้มีคุณทั้งหมดแล้ว ไปหาพระ ฟังโอวาทจากพระท่านแล้วไปบ้านอยู่สุขสำราญบนบ้านเวลา ๓.๐๐ น. ร่างกายมันจะขี้ เลยลงมา พามันไปขี้ เมื่อขี้แล้วก็กลับไปใหม่เวลา ๖.๐๐ น. กลับไปดับไฟ ล้างหน้า กินยา แล้วเตรียมรอเด็กขึ้นไปรับ

    ก่อนหลับหรือก่อนพักผ่อนที่บ้าน เห็นท่านไปเยี่ยมกันมา แม่บอกว่า อาการปวดท้องมากอย่างนี้ เป็นอาการที่แสดงว่ามีการคลายตัวของโรค เพราะขี้ที่จับแน่นอยู่มันขยายตัวแก๊สจึงมาก ต่อไปมันจะค่อย ๆ หาย

    เมื่อแม่พูดจบก็มีแก้วยาน้ำมาจ่อที่ปากเหมือนยาคูณธาตุ เหมือนมีคนดึงให้ดื่มยา แต่ไม่เห็นใคร เห็นแต่แก้วกับยา เมื่อดื่มหมดแล้วแก้วถอยไป มีช้อนใหญ่ใส่ยาประเภทยาผงละลายเหลวมาให้กิน ไม่เห็นตัว ไม่เห็นมือผู้ส่ง จึงกินยานั้น จึงกินยานั้นแล้วท่านทั้งหมดก็หายไป จึงพักเงียบ ๆ อย่างเป็นสุข รอเวลาสว่างจะลงมา
     
  15. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๓๑.พระยายม

    คำว่า พระยายม มีคนแนะนำว่าเขาเขียน พญายม เรื่องนี้ขอให้เป็นเรื่องของแต่ละคน ความจริงพระยายมท่านเป็นพรหมเป็นพระอริยเจ้า คำว่า พระ พรหม เทวดา ท่านแปลว่า ประเสริฐ เหมือนกับ พระอริยะ แปลว่า ผู้บริสุทธิ์ที่ประเสริฐ คำว่า พญา ไม่ทราบว่า หมายความว่าอย่างไร

    จำได้เมื่อสมัย ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม ท่านกำหนดให้มีบรรดาศักดิ์ใหม่ ท่านเรียกว่า พญา เจ้าพญา สมเด็จเจ้าพญา หนังสือพิมพ์ลงบทความคำว่า พญา เขาใช้กับพญาแร้ง ไม่ใช่กับคนผู้เป็นใหญ่ที่ประเสริฐ บรรดาศักดิ์สมัยนั้นเลยสลายตัวไป

    เรื่องลงผลรับเงินลงเฉพาะท่านที่ให้ประจำวัน มีชื่อบนซอง ก็ลงชื่อให้ด้วย ไม่มีชื่อก็ไม่ลงชื่อแต่ลงจำนวนเงินให้ ไม่ได้ลงชื่อท่านที่ส่งทางธนาณัติ ต่อไปจะให้เจ้าหน้าที่การเงิน บันทึกชื่อท่านที่ส่งทางธนาณัติมาให้เพื่อลงรายการและชื่อของท่านในบันทึกประจำวันนี้

    วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๑

    วันนี้ตอนเช้าไม่ว่างมีภารกิจในห้องมาก เกี่ยวกับบัญชีและหนังสือ ต้องเซ็นชื่อเป็นร้อยชื่อ และคำนึงถึงเรื่องกระแสไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอยู่ ราคาแพงขึ้นทุกวัน ต้องจ่ายเดือนละประมาณแปดหมื่นบาทเศษ เมื่อติดตั้งหม้อแปลงให้โรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา เดือนแรกเธอเก็บค่าไฟ ๘๐๐ บาทเศษ เดือนที่สองเธอเก็บ ๙,๐๐๐ บาทเศษ ติดว่าเดือนต่อไปคงเก็บส่งเดชมากกว่านี้

    เท่าที่เป็นอยู่ ดูเหมือนว่า เจ้าหน้าที่จดเลขไฟฟ้าที่ใช้ เธอไม่ได้อ่านตามความจริง ยืนอยู่ไกลแสนไกล เขียนเลขลงในกระดาษเลย คนหนุ่มที่อยู่ใกล้ ๆ มองตามเธอไม่เห็นเลขที่มิเตอร์วัดไฟ แสดงว่ายกเมฆเอาตามชอบใจ ทำอย่างนี้มาเป็นเวลาแรมปี เราก็จ่ายให้

    แต่เมื่อมาพบเรื่องของโรงเรียนเข้า เด็กใช้ไฟเล็กน้อย ถ้าเก็บค่าไฟถึงพันบาทยังคิดว่าแพง แต่เธอเล่นเข้าเก้าพันบาทเศษ คิดว่าสงเคราะห์ผู้ยากจนไปก็แล้วกัน จึงหาทางทำไฟฟ้าใช้เอง ต้องจ่ายมากหรือน้อยจะได้ไม่สงสัย เครื่องกำเนิดไฟฟ้าของเรามี เพียงให้คนที่ไว้ใจคุมก็ทำได้แล้ว

    จึงเรียกเจ้าหน้าที่ปั๊มน้ำมันมาพบ ให้หาทางจัดหาน้ำมันให้พอใช้ เรียกช่างกลและช่างไฟฟ้ามาพบ เพื่อควบคุมเครื่อง ต่อเมื่อพร้อมแล้วจะเดินเครื่อง คิดว่าคงเดินเครื่องได้ภายในเดือนตุลาคม ๒๕๓๑ นี้ มีหลายรายบอกว่า

    ปั่นไฟใช้เองถูกกว่าซื้อไฟฟ้าองค์การฯ มาก จะถูกหรือแพงไม่ใช่ของแปลก ขอให้ทำตรงไปตรงมา แต่เท่าที่เป็นมาแล้วเขาทำตามใจชอบของตนเอง ผู้เขียนเองก็ป่วยหนักทำอะไรไม่ได้ แต่เวลานี้เริ่มเป็นคนพ้นจากผีประมาณ ๒๐% ก็เริ่มหาทางประหยัดต่อไป

    เมื่อเวลา ๑๐.๔๕ น. เสร็จงานที่ต้องรีบทำ พอจะพักเริ่มจับอานาปา เห็นท่านลุงท่านยืนอยู่ใกล้ ๆ ท่านบอกว่า ไปบ้านผมหน่อยซิ เมื่อท่านชวนก็มองดูนาฬิกา เห็นเวลาจะ ๑๑.๐๐ น. จึงบอกท่านว่า ใกล้เวลาอาหารแล้วขออนุญาตไม่ไปได้ไหม

    ท่านบอกว่าไปสัก ๕ นาทีก็พอ ท่านพูดแล้วท่านก็ออกเดิน จึงตามท่านไป เมื่อถึงเขตบ้านท่าน ท่านเข้าไปในสำนักงาน ผู้เขียนเดินไปห่างจากท่าน พอเข้าเขตก็เห็นท่านที่เคยรู้จักยืนอยู่มาก เป็นแถวกั้นทางเดิน พอเดินเข้าไปใกล้ ท่านหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าท่านกลายเป็นยักษ์ เขี้ยวโง้งเง้ง หน้าใหญ่

    พอเห็นก็ทราบว่า ยักษ์ปลอม จึงบอกท่านว่า การเป็นยักษ์ไม่ควรจะเป็นท่าน ควรจะเป็นท่านเวสสุวรรณ ส่วนท่านเวสสุวรรณท่านยืนชิดติดด้านขวาของยักษ์ปลอม พอพูดจบ หน้ายักษ์ปลอมก็หายไป กลายเป็นท่านสหัมบดีพรหม

    ส่วนหน้าท่านเวสสุวรรณกลายเป็นยักษ์ไปเลย จึงพูดว่า พอทีเถอะบรรดายักษ์กระดาษทั้งหลาย ยักษ์เลยสลายตัวไป เมื่อถามท่านสหัมบดีพรหมว่า ทำไมท่านจึงกลายเป็นยักษ์ได้ ท่านบอกว่า ผมเคยเป็นเวสสุวรรณมาก่อน มัวทะเลาะกับยักษ์ปลอมเสียเวลาไป เหลือเวลาอีกประมาณ ๕ นาที จึงเข้าไปในสำนักงานท่านลุง

    วันนี้แปลกใจที่สำนักงานนี้ เท่าที่เคยเห็นรูปร่างเจ้าหน้าที่ทุกคน แม้แต่ท่านลุงทั้งสองเคยเป็นคนธรรมดา แต่วันนี้เป็นเทวดาและพรหมหมด ใส่ชฎากันเง้งงั้ง รูปร่างสวยชะโอดชะองมาก ถามท่านสหัมบดีพรหมว่า เป็นเพราะอะไร

    ท่านตอบว่า วันนี้มีจำเลยเหลืองมาก ที่ไปตามคุณมาเพื่ออยากจะให้รู้ว่า พวกเหลือง ถ้าทำชั่วมีผลตามนี้เป็นการเตือนคุณด้วยการให้ดูของจริง และเมื่อสอบสวนเหลือง จึงทรงเครื่องและรูปร่างตามความเป็นจริง แต่แต่งเครื่องแบบปกติสวมมงกุฎไม่ถึงเต็มอัตรา เวลาเดียวกันนี้ก็ได้ยินเจ้าหน้าที่โจทก์คณะเหลืองทั้งหลาย คำว่า เหลือง ไม่ได้หมายถึงพระสงฆ์ เป็นนักบวชอีกพวกหนึ่งที่ไม่มีธรรมวินัย ทำตนแบบชาวบ้านหลอกลวงเขากิน

    สรุปคำสอบสวน และเธอสารภาพตามนั้นว่า หัวหน้าที่ถูกสอบสวนนุ่งเหลือตั้งแต่อายุ ๑๐ ปีเศษ ตายเมื่อ ๗๐ ปีเศษ ตายมาแล้วไม่เกินหนึ่งปี รอการสอบสวนอยู่นาน แต่ว่าที่สำนักงานนี้ เวลาของเขาหนึ่งวันเท่ากับเวลาของเรา ๕๐ ปี เมื่อรอเกือบปีจึงยังไม่ถึงชั่วโมงของเขา รอไม่นานเลย
     
  16. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๓๒.ความประพฤติ

    ๑. ไม่เคารพพระธรรมวินัย

    ๒. สะสมทรัพย์สิน ชอบเอาของสงฆ์ (เงินสงฆ์) มาเป็นของตน เขาให้มาสร้าง ๑๐๐ บาท สร้างเพียง ๒๕ บาท นอกนั้นเก็บไว้เป็นของตนเอง (ขโมยเงินสงฆ์)

    ๓. ไม่เคยให้ใครกู้เงิน แต่ชอบซื้อที่ดินเก็บไว้ขายเมื่อมีราคาแพง

    ๔. ทำตนเคร่งครัดเรียบร้อยเจริญศรัทธาดี (หน้าเนื้อใจเสือ) คนหลงในมายา (เจ้าเล่ห์) ติดใจทำบุญให้มาก ๆ ที่อยู่สวยงาม เพราะความเป็นคนเจ้าเล่ห์

    ๕. เป็นนักเทศน์ประกาศธรรม แต่ตนเองไม่เคยทำตามนั้นเลย ประพฤติตัวชั่วช้า ตรงข้ามกับคำสอนที่สอนชาวบ้าน เป็นต้น

    เป็นอันว่าหัวหน้ารับเรียบร้อย เลยไม่ฟังลูกน้องหรืออาจเป็นคนละสำนัก แต่มีเกรดขนาดเดียวกัน ฟังลุงบอกว่า ทั้งหมดนี้ไปอเวจีหมด เพราะทำกรรมชั่วเป็นอาจิณกรรม เมื่อหมดเวลาท่านสอบสวนยังไม่เสร็จก็ลาท่านกลับ ด้วยคิดว่ากลับมากินข้าวดีกว่าฟังเรื่องคนเลวอย่างนั้น

    วันนี้แขกมามาก คณะที่มาส่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีคนใหม่ มากันมาก เมื่อถามแล้วเป็นคนกรุงเทพฯ บ้าง ชลบุรีบ้าง ถวายสังฆทานกันมาก สังฆทานชุดเล็กคล่องตัวมาก

    ท่านผู้ว่าฯ อุทัย ท่านชื่อเหมือนเมือง ท่านมาอยู่อุทัย ท่าทางท่านคล่องงานดีมาก คิดว่างคงไม่แพ้คนเก่า คือ คุณพจน์ ภู่อารีย์ ผู้ว่าคนเก่าที่อายุ ๖๐ ปี ท่านไปทำงานที่บ้านท่านแล้ว เพราะ ผ.บ.ท.บ. ท่านผู้บัญชาการที่บ้าน ท่านหางานไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

    คือ งานสร้างอาคารขายต่อให้คนอื่น งานของท่านดีมา คนดีซะอย่างอยู่ไหนก็ดี รับราชการ งานก็ดี สร้างความเจริญดีเข้าถึงประชาชนดี เข้าทางพระศาสนาได้ดีมาก ฉลาดในการชนะใจคนเก่งมาก

    นอกจากคณะท่านผู้ว่าฯ แล้ว ก็มีชาวนครปฐม ชาวบางแวก ชาวนนทบุรี เพชรบุรี ตาก ท่าน ถวายเงินไว้แล้วทั้งหมดวันนี้ ๘,๕๖๐ บาท แยกประเภทดังนี้

    ๑. สะเดาะเคราะห์รายย่อย ๑๓๐ บาท

    ๒. สังวาล เก้าลิ้ม นครปฐม ถวายมะพร้าว ๑๐๐ ต้น

    ๓. ถวายกฐิน ปี ๒๕๓๑ ๒๐๐ บาท

    ๔. ปทุมมาส เดียร์น่า เกียกกาย บางซื้อ ถวายกฐิน ๒๐๐ บาท

    ๕. สร้างรถทัวร์ธรรมทาน ๒๕๐ บาท

    ๖. บำเพ็ญ โพธิเรียง สร้างรถทัวร์ธรรมทาน ๑๐๐ บาท

    ๗. สำรวย ธรรมวิชัย นครปฐม ๑๐๐ บาท

    ๘. น.ส. สุพิศ พงษ์ประพันธ์ ๑๐๐ บาท

    ๙. พรรณี กำเหนิดมงคล ๑๐๐ บาท

    เหลือนอกนั้น ถวายส่วนองค์ไม่แจ้งชื่อ รวมเงินทั้งหมดวันนี้ ๘,๕๖๐ บาท

    ส่งมาจากชิคาโก้ อเมริกา คือ คุณจอมนัทธี คุณวิโรจน์ วรวรรณธนะชัย ทำบุญแยกประเภทดังนี้

    ๑. ให้ทุนนักเรียน ร.ร. พระสุธรรมฯ ๗๕ เหรียญ

    ๒. ให้รางวัลนักเรียนที่ดี ๕๐ เหรียญ

    ๓. สร้างปากกาเป็นรางวัลแก่นักเรียนที่เรียนเก่ง ๓๐ เหรียญ

    รวมเป็นเงิน ๑๕๕ เหรียญ คิดเป็นเงินไทย ๓,๘๗๕ บาท

    ต่อไปโปรดดูรายรับ รายจ่ายประจำเดือน กันยายน ๒๕๓๑

    รวมรับทั้งสิ้น ๓,๔๔๗,๖๕๓.๒๕ บาท
    รวมจ่ายทั้งสิ้น ๒,๖๓๗,๗๖๓.๕๒ บาท
    เหลือ ๘๐๙,๘๘๙.๗๓ บาท

    หมายเหตุ น้ำท่วมช่างต้องหยุดงาน เดือนนี้จ่ายช่างเพียงเล็กน้อย ถ้าน้ำไม่ท่วมเงินที่เหลือนี้ซื้อวัตถุก่อสร้างไม่พอ

    รายรับแยกประเภท

    รับเงินสงฆ์ ๑,๔๘๐,๕๖๙.๒๕ บาท
    ส่วนองค์ ๔๕๒,๔๕๐.๒๕ บาท
    ผาติกรรมสังฆทาน ๙๒๓,๘๐๐ บาท
    ธรรมทาน ๒๔,๗๓๓.๗๕ บาท
    วัตถุมงคล ๑๙๕,๐๘๙ บาท
    องค์แก้ว ๒๓๓,๐๖๐ บาท
    แหวนจักรพรรดิ์ ๑๓๗,๙๕๑ บาท

    รายจ่ายแยกประเภท

    จ่ายส่วนสงฆ์ ๒,๔๒๑,๒๔๕.๕๒ บาท
    จ่ายวัตถุมงคล ๒๑๖,๕๑๘ บาท

    สรุปแล้วเงินถวายส่วนตัวก็รวมจ่ายเป็นสังฆทาน ธรรมทาน วิหารทาน สร้างพระพุทธรูปด้วย

    หมายเหตุ ค่าไฟฟ้าเดือนกันยายน ๒๕๓๑ การไฟฟ้าเก็บเงิน ๘๙,๕๔๖.๐๒ บาท ทนใช้ต่อไปไม่ไหวอาจจะต้องใช้เดือนตุลาคมเพียงครึ่งเดือน เมื่อพร้อมแล้วจะเดินเครื่องใช้เอง
     
  17. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๓๓.วันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๓๑

    วันนี้มีเรื่องคุยน้อยเพราะป่วย คุยมากไม่ได้ อาการทางร่างกายไม่ดีเอามาก ๆ ตอนเช้าออกไปดูงานสร้างวิหาร ๑๐๐ เมตร และวิหารคต มึนศีรษะมากเดินเกือบไม่ไหว ขาไม่มีแรงเดินต้องกลับมาที่พัก นอนปล่อยอารมณ์

    เพราะป่วยขนาดนี้ไม่ต้องการรู้เรื่องอะไรทั้งหมด ปล่อยอารมณ์โปร่งสบาย พอถึงเวลาอาหารกลางวันมีอาการมากหลายอย่าง เหลือบไปเห็นปลาร้ากระป๋องเขาทำขายที่อยุธยา พ.ต.พงษ์เทพ กับ ภรรยา นำมาถวาย พรนุช กับ จำปี ปรุงเพิ่มเติมเอาน้ำปลาเติมนิดพริกขี้หนูใส่หน่อย

    ความจริงพริกถ้าป่นใส่จะดีมาเลยล่อข้าวเสียหลายทัพพี โดยเอาปลาร้ากระป๋องของอยุธยาคลุกข้าว แล้วกินร่วมกับสายบัวดิบ กินลืมญาติเลย อร่อยมากตามภาษาชาวบ้าน ถ้าพูดตามภาษาคนแก่ที่เอาเปรียบเด็กเขาพูดว่า เจริญอาหารมาก

    แต่หันไปหาเด็กกลับพูดว่า เอ็งตะกละมาก รวมความว่ากินมากเหมือนกัน คิดว่าถ้าเอามะนาวบีบน้ำใส่นิดหนึ่ง พอเปรี้ยวนิดหน่อยอย่าให้เปรี้ยวมาก ถ้าเปรี้ยวมากมันไม่เป็นเรื่อง มะนาวจะตัดคาวให้มีคาวน้อยลง และรสท่านปลาร้าจะเด่นมาก

    ใครไม่เชื่อก็ลองซื้อปลาร้ากระป๋องเขามาลองดู เมื่อปรุงแล้วตั้งไฟพอร้อน แต่มะนาวต้องบีบ หลังจากเอาลงจากเตาแล้ว ปล่อยให้เย็นเล็กน้อยถึงบีบมะนาวจะพอดีดับความต้องการของลิ้น

    พอดีกับ คุณนิรัตน์ เลาหสุรโยธิน กับภรรยา ชื่อ สุรัตนา เธอผัดถั่วฝักยาวมา มีรสหวานหน่อยเอาเป็นอาหารตัดคาวของปลาร้าดีมาก วันนี้ไม่มีเรื่องผีเลยพูดเรื่องกินเล่นโก้ ๆ ปลาร้ากระป๋องอยุธยานี้ ผู้เขียนไม่ทราบว่าเขาขายที่ไหน ไม่มีหุ้นส่วนกับเขา แต่เห็นว่าเขาทำดีรสก็ดีเลยช่วยบอกให้ทราบ จะได้ไม่เอาเงินไปจ่ายนอกบ้านซึ่งสิ้นเปลืองมากกว่า

    เลิกพูดเรื่องกินกันดีกว่า วันนี้เป็นวันอาทิตย์แขกมาก ชุดที่มามากก็เห็นจะเป็น กรุงเทพฯ เจ้าเก่า มี ท่านเจ้าคุณสุธีฯ เป็นผู้นำ ชุดรองลงมาก็นครราชสีมา พระมหาถวัลย์ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ เมืองปัก อ.ปักธงไชย จ.นครราชสีมา เป็นผู้นำมา นำคณะมา ๔๗ คน ถวายสังฆทานชุดใหญ่ ชุดใหญ่นี้มีค่า ๑,๐๐๐ บาท และถวายเงินสังฆทานไว้ ๙,๗๒๐ บาท มีคุณสมพงษ์ คุณชไมพร และครอบครัว เป็นเจ้าภาพ

    นอกจากนี้ก็ถวายเป็นส่วนตัวกันทุกคน ส่วนใหญ่ของผู้ที่มาจะทำบุญถวายสังฆทานมาก เห็นแล้วก็ปลื้มใจ ด้วยสังฆทานชุดเล็ก ชุดละ ๑๐๐ บาท พอทำกันได้ บางรายก็หุ้นกันหลายคน อย่างนี้ก็ได้ มีรายหนึ่งชุดเดียวหุ้นกัน ๑๐ คนกว่า คงเฉลี่ยกันคนละประมาณ ๑๐ บาท

    ที่พูดนี้ไม่ใช่คณะราชสีมานะ สำหรับคณะราชสีมาเขาทำกันคนละชุด เป็นอันว่า หุ้นกันหรือไม่หุ้นอานิสงส์เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนกัน

    คนที่มาวันนี้เท่าที่ถาม แต่บางคณะไม่ได้ถามดังนี้ กรุงเทพฯ สองคณะ ๆ ละหลายคน ราชสีมา สุพรรณบุรี เพรชบุรี ลพบุรี นนทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และที่อื่นอีกไม่ได้ถาม เพราะถามไม่ทัน พรมน้ำมนต์กัน ๔ รุ่น
     
  18. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๓๔.ตัดสินใจพิเศษ

    วันนี้เรียกพระที่มีความชำนาญช่างกล ช่างไฟฟ้า และนายช่างไพบูลย์ เจ้าของอู่มาสั่งงาน เพราะทนเสียค่าไฟฟ้าองค์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไม่ไหว เธอขึ้นราคาอัตราค่ากระแสไฟฟ้ามาเรื่อย ๆ จากเดือนละหนึ่งหมื่นบาท เมื่อ ๔ ปีมาแล้ว

    ขึ้นเป็น ๓ หมื่น ๔ หมื่น ๖ หมื่น ๗ หมื่น ๘ หมื่น มาเมื่อเดือนกันยายน ตั้งหม้อแปลงและมิเตอร์ให้โรงเรียน เธอเก็บเมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๓๑ จำนวนเงิน ๘๐๐ บาทเศษ พอถึงเดือนกันยายนเธอเก็บ ๙ พันบาทเศษ

    เมื่อสอบถามเข้าก็อ้างว่าอัตราค่าไฟฟ้าราคาหน่วยต่างกัน เป็นอันว่าเธอโมเมมากกว่า จึงตัดสินใจว่าตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๓๑ เป็นต้นไป ทำไฟฟ้าใช้เอง เครื่อง ๒๐๐ กิโลวัตต์มีแล้ว ๓ เครื่อง ๗๕ กิโลวัตต์ ๑ เครื่อง ๕๐ กิโลวัตต์ มี ๒ เครื่อง มีพอใช้ตามความจำเป็น ยามปกติใช้เครื่อง ๒๐๐ กิโลวัตต์ เดินเครื่องเดียวพอใช้ ใช้สับเปลี่ยนกัน ๓ เครื่อง ถ้าบังเอิญวัดมีงานก็เพิ่มตามความจำเป็น

    ขอบอกบุญท่านผู้มีคุณ ช่วยค่าน้ำมันคนละลิตรสองลิตรต่อหนึ่งเดือนคิดว่าหลายคนก็หลายลิตร คงพอใช้และจ่ายไม่มากเท่าที่เสียให้องค์การฯ ที่บอกมานั้นชี้ให้เห็นว่าเธอเก็บเกินพอดี คนใช้ไฟฟ้าไม่ถึงร้อยคน แสงไฟจำกัดให้ใช้คนละ ๑๐ วัตต์ มีไฟสาธารณะเล็กน้อย

    ถ้าเฉลี่ยคนละ ๑๐ บาท ตามปกติที่ชาวบ้านเขาใช้กันก็เกินกว่าที่เขาใช้กันแล้ว แต่เมื่อเธอเก็บอย่างนี้เราก็ต้องเลิกใช้และพึ่งตนเอง เสียดายเงินค่าติดตั้งหม้อแปลงและมิเตอร์ ค่าแรงงานจ่ายไปเกือบล้านบาท เพราะมีหม้อแปลงขนาดใหญ่ ๓ ลูก ค่าไฟฟ้าเดือนกันยายน เธอเก็บเงินแล้วรวมทั้งสิ้น ๘๙,๕๔๖.๐๒ บาท

    ถ้าท่านจะช่วยทำบุญเองก็ได้ ส่งธนาณัติหรือตั๋วแลกเงินของไปรษณีย์ก็ได้จ่าหน้าซองถึงพระสุธรรมยานเถระ วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ๖๑๐๐๐ เท่านี้ถึงเลยสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วราคาลิตรละเท่าไร เวลานี้ไม่ทราบเหมือนกัน ขอให้ถามตามที่เขาขายก็แล้วกัน ที่ไหน ๆ ก็ราคาเท่ากันทั้งนั้น

    สรุปรายรับวันนี้

    รวมรับเงินที่รับแขกทั้งหมด ๑๖,๓๒๐ บาท แยกประเภทดังนี้

    ๑. คุณพระมหาถวัลย์ มีคุณสมพง์ คุณชไมพร ปราบภัย เป็นเจ้าภาพถวายสังฆทาน ๙,๗๒๐ บาท
    ๒. คณะเชียงเฉี่ย สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ๓๖๐ บาท
    ๓. คุณพรรณี บุนนาค สร้างพระปัจเจกพุทธเจ้า ๕๐๐ บาท
    ๔. คุณลักขณา จันทร์สูงเนิน สร้างพระปัจเจกพุทธเจ้า ๑,๐๐๐ บาท
    ๕. คุณประนอม อังกระโทก ซื้อรถทัวร์ธรรมทาน ๒๐๐ บาท
    ๖. นางเล็ก สิงโต ซื้อพานถวายสังฆทาน ๒๐๐ บาท
    ๗. คุณเซียงเฉีย ร่วมทำบุญทุกอย่าง ๔๔๐ บาท
    ๘. คุณพรรณี-ภาวนุช ทุนการศึกษานักเรียน ๑๐๐ บาท
    ๙. คุณรวมพร ชยะสฤษดิ์ สร้างพระปัจเจกพุทธเจ้า ๒๓๐ บาท

    เหลือนอกนั้นถวายส่วนตัว ขอนำไปใช้ในสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน สร้างพระพุทธรูป และค่าไฟฟ้า

    รายการช่วยนักเรียนภาวะฉุกเฉินน้ำท่วม
    ๑. คุณปรุง ตุงคเศรณี ๑,๙๐๐ บาท
    ๒. คุณพรรณี บุนนาค และ คุณภาวนุช ศิลปชัยเดช ๑๐๐ บาท
    ๓ คุณระเบียบ ชูรัตน์ ๕๐ บาท

    รายการรับทางธนาณัติ วันที่ ๒ ต.ค. ๓๑
    ๑. น.ส.สุเบ็ญจาภา และคณะ ถวายสังฆทาน ๓๐๐ บาท
    ๒. คุณพินิจ อู่ทองมาก ซื้อรถทัวร์ธรรมทาน ๕๐๐ บาท
    ๓. คุณปิยะพันธ์ จารุศิริพัฒน์ ชำระหนี้สงฆ์ ๑๐๐ บาท
    ๔. คุณประสาน ศีตะโกเศส ถวายส่วนองค์ ๒๐๐ บาท
    ๕. คุณวิจิตร เพ็ชรอุดม ถวายส่วนองค์ ๒๐๐ บาท
    ๖. ร.ท.สุนทร พลอยรัตน์ ซื้อรถทัวร์ธรรมทาน ๑๐๐ บาท
    ๗. คุณสุพจน์ ชัยดารา ซื้อรถทัวร์ธรรมทาน ๕๕๐ บาท
    ๘. คุณนิภา เบ็จทิพาพร ซื้อรถทัวร์ธรรมทาน ๑๐๐ บาท
    ๙. คุณสมศรี อภิวาณิชย์ ซื้อรถทัวร์ธรรมทาน ๑๐๐ บาท
    ๑๐. คุณเบญจมาศ เกตุแก้ว ซื้อเทปต้นแบบและรถ ๒๐๐ บาท
    ๑๑. คุณสุวิทย์ ปิยะคณาติวงศ์ ถวายกฐิน ๑๐๐ บาท
    รวมเงินถวายทางธนาณัติ ๒,๔๕๐ บาท

    เวลา ๓ น. หลังจากจงกรมแล้ว เห็นเวลาเหลือน้อยจะหลับก็เกรงว่าจะตื่นสาย ดังนั้น เพื่อฆ่าเวลาที่ว่าง เมื่อเวลาจงกรมก็ไปไหนต่อไหนมาแล้ว มีหลายเรื่องที่จะคุยกัน แต่คิดว่าไม่ควรจะกลายเป็นเล่านิยายเฟ้อไป

    จึงหยิบหนังสือพระไตรปิฏกที่อยู่ใกล้มือที่สุดมาอ่าน พอเปิดก็พบวิมานวัตถุพอดี อ่านดูแล้วคิดว่าดีจึงเอาเขียนแก้ว่าง ลองอ่านดูสักนิดนะ ท่านอ้างว่าเป็นปฏิปทาของพระโมคคัลลาน์ เรื่องการเที่ยวสวรรค์ นรกนี้

    เป็นปกติธรรมดาของทุกท่านที่ปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา ถ้ามุ่งเอาจริงตามอิทธิบาทแล้ว ไม่พ้นความสามารถ ท่านเขียนว่าอย่างนี้

    ท่านว่า พระโมคคัลลาน์ ท่านไปสวรรค์ ท่านถามนางเทพธิดาองค์หนึ่ง ว่า สวนมะม่วงของเธอนี้น่ารื่นรมย์ ในสวนมีปราสาทใหญ่ (ปราสาทคือวิมาน) มีเสียงดนตรีและนางเทพอัปสรมากมีโคมดวงใหญ่สว่างไสวมาก

    ร่างกายเธอเองก็แสงสว่างไปทั่วจักรวาล ปราสาทของเธอมีสวนมะม่วงสงบ เป็นสวนที่มีต้นมะม่วงแพรวพราวสว่างไสวมากเหมือนเอาเพชรมาประดับไว้ อยากทราบว่าเมื่อเป็นมนุษย์เธอทำบุญอะไรไว้จึงมีทิพยสมบัติประเสริฐอย่างนี้ (ย่อความให้สั้นเข้า เพราะในพระไตรปิฏกท่านพรรณนาไว้ยาวมาก)

    เธอตอบว่า เมื่อสมัยเป็นมนุษย์ทำบุญไว้อย่างนี้เจ้าค่ะ (ตอนนี้ขอลอกสำนวนในพระไตรปิฏก) เมื่ออยู่เมืองมนุษย์ฉันมีจิตเลื่อมใสได้สร้างวิหารถวายสงฆ์แล้วปลูกต้นมะม่วงล้อมวิหารนั้น (วิหารคือกุฏิใหม่) เมื่อสร้างเสร็จจึงฉลอง ล้อมต้นมะม่วงด้วยผ้า เอาผ้าทำเป็นผลมะม่วงแล้วประดับด้วยโคมไฟไว้ที่ต้นมะม่วง

    นิมนต์พระมาฉันภัตตาหาร แล้วถวายวิหารแด่พระสงฆ์ ด้วยบุญเพียงเท่านี้จึงมีสวนมะม่วงน่ารื่นรมย์ มีประสาทใหญ่กว้างขวางในสวยมะม่วงนั้นมีเสียงกึกก้องด้วยเสียงดนตรี และเกลื่อนกล่นด้วยนางเทพอัปสร และปราสาทนี้มีประทีปดวงใหญ่ประจำแสงสว่างไสวมาก เพราะถวายแสงสว่างด้วยบุญแบบนี้ ดิฉันจึงมีวรรณะคือผิวงาม และแสงสว่างออกจากกายไปทั่วทุกทิศ

    ที่เอาเรื่องนี้มาเขียนแก้ว่าง เพราะเห็นว่าทุกท่านทำบุญอย่างนี้แล้ว จึงต้องการให้ทราบอานิสงส์ที่จะพึงได้ เมื่อยังไปนิพพานไม่ได้ จะได้ทราบว่ามีที่พักบนสวรรค์น่ารื่นรมย์ใจอย่างนี้ วันนี้ขอพักทีปวดแขนตาลาย
     
  19. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๓๕.วันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๓๑

    วันนี้ของดพูดเรื่องก่อนหลับเพราะไม่มีข่าวพิเศษ คงปฏิบัติตามปกติที่เขียนมาแล้ว ในขั้นแรกขอเอาข่าวทำบุญมาพูดก่อน ต่อไปจะพูดเรื่องผีชั้นสูงไม่ใช่ผีก่อนหลับ แต่เป็นประวัติเรื่องผีที่ชาวบ้านชอบนับถือ มาเล่าสู่กันฟัง

    เรื่องทำบุญมีดังนี้
    คุณอภิชัย อัฉรา สาธุ กรุงเทพฯ มาถวายอาหารเพลพระลงทุนประมาณ ๓๐๐ บาท คุณโทน สระทองมอญ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ถวายอาหารเพลพระ ลงประมาณ ๒๐๐ บาท ญาติโยมที่มาวัดนี้มี ๒-๓ คน ถวายไว้ ๕๖๐ บาท

    ท่านที่ทำบุญทางธนาณัติวันนี้
    ๑. คุณคลาย พุ่มน้อย จ.สุราษฏาร์ธานี ถวายกฐิน และธรรมทาน ๕๐๐ บาท
    ๒. คุณพิไลพรรณ พงษ์พูล จ.ชลบุรี ช่วยกิจการโรงเรียนพระสุธรรมฯ ๑๐๐ บาท
    ๓. คุณนพปฎล สุนทรนนท์ กรุงเทพฯ ให้ทุนการศึกษานักเรียน ๑๐๐ บาท
    ๔. จ.ส.ต.ประยูร จันทเลิศ จ.ยะลา สร้างรถธรรมทาน ๕๐๐ บาท
    ๕. คุณจิตตินันท์ สุขพละ จ.ชลบุรี ถวายสังฆทาน ๑๐๐ บาท

    ขออนุโมทนาทุกท่านที่บำเพ็ญกุศลแล้ว จงมีความสุขสมหวังตามที่ทุกท่านตั้งใจจงทุกประการเถิด
     
  20. ตุปั๊ดตุเป๋

    ตุปั๊ดตุเป๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +107
    ๓๖.เรื่องผี

    เมื่อจบเรื่องทำบุญแล้ว ก็มาคุยกันเรื่องผีต่อไป คำว่า ผี หมายถึงท่านที่เรามองไม่เห็นตัว แต่ในกาลบางครั้งท่านแสดงให้เราเห็นได้ ถ้าเราอยากเห็นท่านฝ่ายเดียว โดยที่ท่านไม่ต้องการให้เราเห็น เราก็จะเห็นท่านไม่ได้

    ท่านทั้งหลายที่พูดถึงคนเราโมเมเรียกท่านว่า ผี แต่อาจจะเป็น เปรต อสุรกาย สัมภเวสี เทวดา พรหม วิสุทธิเทพ ก็ได้ทั้งนั้น แต่พวกเราใช้ชื่อย่อท่านว่า ผี เลยชักไม่แน่ใจว่าท่านเป็นผี หรือพวกเราเป็นคนผีผีกันแน่
     

แชร์หน้านี้

Loading...