ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics: พายุหิมะเจียเล่นงานแถบมิดเวสต์สหรัฐฯ ดับ 7 “รัฐมิสซูรี” เจอรถชนกันกลางถนน 800 ครั้ง ส่วนอีก 1,790 คันติดแหงกไปไหนไม่ได้
    เผยแพร่: 13 ม.ค. 2562 16:30 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000433701.jpg

    เอพี/เอเจนซีส์ - พายุฤดูหนาวเจีย (Winter Storm Gia )ขนาดใหญ่เข้าพื้นที่ไม่กี่รัฐทางแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ส่งผลทำให้เกิดการเสียชีวิตบนถนนไปแล้ว 7 ราย บาดเจ็บ57 ราย รัฐมิสซูรีโดนหนักสุด พบจราจรติดสาหัสนาน 8 ชั่วโมง เกิดอุบัติเหตุรถชนไม่ต่ำกว่า800 คดี และรถอีก 1,790 คันติดอยู่กลางถนน ส่วนท่าอากาศยานนานาชาติแลมเบิร์ต(Lambert International Airpor ) ในเมืองเซนต์ หลุยส์ พบว่าเที่ยวบินส่วนใหญ่ไม่ถูกยกเลิกก็ถูกเลื่อนออกไป

    เอพีรายงานวันนี้(13 ม.ค)ว่า เกิดพายุหิมะกลางฤดูหนาวเข้ารัฐแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ โดยพายุพัดเข้าสู่รัฐแคนซัสและรัฐเนแบลสกาจากเทือกเขาร็อกกี้ในวันศุกร์(11) และมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเข้ารัฐมิสซูรี รัฐไอโอวา รัฐอิลลินอยส์ และรัฐอินดีแอนา ทำให้หิมะปกคลุมถนนและการขับขี่สัญจรเป็นอันตราย โดยเดลีเมล สื่ออังกฤษชี้ว่า พายุหิมะลูกที่ว่านี้ชื่อ “พายุฤดูหนาวเจีย” (Winter Storm Gia )

    ซึ่งในจุดหนึ่งพบว่าตำรวจทางหลวงรัฐมิสซูรีเตือนถึงการจราจรอาจติดสาหัสนานถึง 8 ชั่วโมง

    ในขณะที่ในรัฐอินดีแอนา พบว่าเล่นมุ่งหน้าทางเหนือของถนนไฮเวย์ระหว่างรัฐ I-65 ถูกปิดเป็นเวลาหลายชั่วโมงในวันเสาร์(12) เกิดขึ้นหลังจากรถบรรทุกเทรลเลอร์เกิดอุบัติเหตุเกิดหักขวางทางตลอดแนวเส้นถนนไฮเวย์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะใกล้กับลาฟาแยตต์(Lafayette) ราว 65 ไมล์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองอินดีแอนาโปลิส

    เดลีเมล สื่ออังกฤษชี้ว่า พายุหิมะทำให้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถจำนวน 7 คน ที่รวมไปถึงหญิง 1 รายพร้อมกับบุตรบุญธรรมหญิงในวัย 14 ปีเมื่อรถที่กำลังขับอยู่เกิดไถลเข้าไปในเลนของรถเทรลเลอร์ในเมืองคลินตัน(Clinton ) ราว 80 ไมล์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองแคนซัส ซิตี รัฐแคนซัส เมื่อวันศุกร์(11) ตำรวจทางหลวงรัฐมิสซูรีแถลง

    ซึ่งพายุเริ่มแผ่ตัวไปทางทิศตะวันออกเข้าสู่เขตมิดแอตแลนติก พร้อมกับการคาดการณ์ว่าน่าจะได้เห็นหิมะสูงราว 5-10 นิ้วในเขตวอชิงตัน รวมไปถึงทางเหนือและทางตอนกลางของรัฐแมรีแลนด์ภายในวันอาทิตย์(13)

    ผู้เชี่ยวชาญทางสภาพอากาศชี้ว่า อาจเกิดหิมะตกหนักในเขตภูเขาทางเหนือของถนนไฮเวย์ระหว่างรัฐ I-64 เป็นต้นว่าเมืองชาร์ล็อตสวิล(Charlottesville) และเมืองสตอนตัน (Staunton)

    ด้านผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย ราล์ฟ นอร์ทแธม (Ralph Northam) ได้ออกประกาศภาวะฉุกเฉินวันเสาร์(12) เพื่อช่วยให้รัฐเตรียมความพร้อม

    แต่ทว่าภายในวันเสาร์(12) กลับพบว่ารัฐมิสซูรีต้องประสบกับวิกฤตพายุหิมะหนักที่สุด พร้อมกับสำนักงานบริการสภาพอากาศสหรัฐฯ รายงานว่า มีหิมะตกมากกว่า 1 ฟุตเกิดขึ้นในบางพื้นที่เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์(12)ที่เมืองเซนต์หลุยส์ (St. Louis) และเมืองเจฟเฟอร์สัน ซิตี (Jefferson City) ส่วนที่ในโคลัมเบีย (Columbia) มีหิมะตกไม่ต่ำกว่า 18 นิ้ว

    เอพีรายงานว่าตำรวจรัฐมิสซูรีพบมีการโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือไม่ต่ำกว่า 3,000 ครั้งตลอดช่วงเริ่มต้นยามบ่ายของวันเสาร์(12) โดยเดลีเมลชี้ว่า รวมไปถึงอุบัติเหตุรถชนอีก 800 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 57 ราย และมีรถยานยนต์ติดอยู่กลางถนนอีกราว 1,790 คัน

    ในขณะที่ท่าอากาศยานนานาชาติแลมเบิร์ต(Lambert International Airpor ) ในเมืองเซนต์ หลุยส์ พบว่าเที่ยวบินส่วนใหญ่ไม่ถูกยกเลิกก็ถูกเลื่อนออกไป ซึ่งสื่ออังกฤษรายงานว่า เครื่องบินสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส(American Airlines)ที่มีผู้โดยสารบนเครื่องทั้งหมด 80 คนในวันศุกร์(11) เกิดไถลออกนอกรันเวย์เนื่องมาจากสภาพน้ำแข็งจับบนพื้นผิวรันเวย์วิ่งที่ท่าอากาศยานในภูมิภาคโคลัมเบีย

    ทั้งนี้ไม่พบว่ามีผู้โดยสารสายการบินที่เดินทางมาจากเมืองดัลลัส รัฐเทกซัสได้รับบาดเจ็บ

    ส่วนภาคกลางของรัฐมิสซูรี เอพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่แถลงว่า มีบ้านเรือนและธุรกิจราว 12,000 แห่งอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ในโคลัมเบียและบริเวณโดยรอบ




    562000000433706.jpg


    562000000433703.jpg


    562000000433707.jpg


    562000000433705.jpg


    562000000433702.jpg


    562000000433704.jpg


    562000000433708.jpg


    562000000433709.jpg

    https://mgronline.com/around/detail/9620000004286
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ม็อบเสื้อกั๊กเหลืองยังไม่หมดฤทธิ์ ประท้วงสัปดาห์ที่ 9 คนเฉียดแสน
    เผยแพร่: 13 ม.ค. 2562 19:11 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000444401.jpg

    เอเจนซีส์ – ตำรวจปารีสยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำเพื่อผลักดันผู้ประท้วงกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองออกจากบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ อาร์ก เดอ ทริยงฟ์ เมื่อวันเสาร์ (12 ม.ค.) ซึ่งถือเป็นการประท้วงต่อต้านมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจของมาครงที่ยืดเยื้อเป็นสัปดาห์ที่ 9 อย่างไรก็ตาม ระดับความรุนแรงถือว่าน้อยลงแม้จำนวนผู้ประท้วงสูงกว่าสัปดาห์ก่อนๆ ก็ตาม

    ผู้ประท้วงหลายพันคนเดินขบวนอย่างสงบผ่าน กรองด์ บูเลอวาร์ ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งทางเหนือของกรุงปารีส แต่มีผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ แยกจากเส้นทางที่กำหนดและไปยังบริเวณรอบ อาร์ก เดอ ทริยงฟ์ ที่ปลายถนน ฌองส์ เอลิเซส์ ผู้ประท้วงเหล่านี้ยังขว้างปาขวด ก้อนหิน และวัตถุอื่นๆ ใส่ตำรวจ ทำให้ตำรวจปราบจลาจลต้องยิงแก๊ซน้ำตาและฉีดน้ำสกัด

    นอกจากนั้นยังมีผู้ประท้วงอีกหลายกลุ่มกระจัดกระจายอยู่บนถนน ฌองส์ เอชิเซส์ และบริเวณรอบๆ หลายคนตะโกนเรียกร้องให้ประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ลาออกจากตำแหน่ง

    กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสประเมินว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีผู้ชุมนุมทั่วประเทศราว 84,000 คน มากกว่าสัปดาห์ก่อน ที่มีกว่า 50,000 คน แต่ก็น้อยกว่าเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันแรกของการประท้วงและมีคนเข้าร่วมสูงสุดทำสถิติถึง 282,000 คน

    กระทรวงมหาดไทยระบุว่า เฉพาะในปารีส มีผู้ชุมนุม 8,000 คน มากกว่าเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ที่มีเพียง 3,500 คนในวันที่ 5 มกราคม และ 800 คนในวันที่ 29 ธันวาคม ขณะเดียวกัน มีผู้ถูกจับกุมในปารีส 156 คน และ 244 คนทั่วประเทศ 201 คนยังถูกควบคุมตัวอยู่

    อย่างไรก็ตาม ไม่มีการปล้นหรือเผาทำลายรถยนต์เหมือนสัปดาห์ก่อนๆ ขณะที่การจราจรรอบ อาร์ก เดอ ทริยงฟ์ เคลื่อนตัวได้ตามปกติในตอนค่ำ

    นอกจากนั้นยังมีการชุมนุมในอีกหลายเมือง เช่น บอร์โดซ์ ตูลง ลิลล์ สตาร์สบูร์ก และบูร์ช โดยเฉพาะในเมืองหลังสุดนั้นมีผู้ประท้วงเกือบ 5,000 คน และถูกจับกุมหลายสิบคน โดยทางการฝรั่งเศสจัดสรรตำรวจกว่า 80,000 นายดูแลความสงบเรียบร้อยทั่วประเทศ รวมถึง 5,000 นายในปารีส

    กลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองเริ่มต้นขึ้นจากการประท้วงต่อต้านการขึ้นภาษีเชื้อเพลิงและขยายผลกลายเป็นการต่อต้านมาครงและนโยบายของเขาที่ถูกมองว่า เอื้อประโยชน์ต่อคนรวยและเบียดเบียนกลุ่มรากหญ้าในชนบทและเมืองเล็กๆ

    มาครงพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยการประกาศแพ็คเกจความช่วยเหลือมูลค่า 11,500 ล้านดอลลาร์แก่ผู้มีรายได้ต่ำและยกเลิกการขึ้นภาษีเชื้อเพลิง รวมทั้งจะเริ่มเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นผ่านอินเทอร์เน็ตและการประชุมในท้องถิ่นทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 15 ที่จะถึง โดยประกอบด้วย 4 หัวข้อคือ ภาษี พลังงานสีเขียว การปฏิรูปสถาบัน และสิทธิพลเมือง แต่จะไม่รวมถึงมาตรการปฏิรูปของมาครงที่มีเป้าหมายเพื่อเปิดเสรีเศรษฐกิจ

    https://mgronline.com/around/detail/9620000004335
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทุกอย่างที่สหรัฐทำลงไปก็เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจของสหรัฐทั้งสิ้น

    คอลัมน์นอกหน้าต่าง: สหรัฐฯรณรงค์เรียกร้องให้คว่ำบาตรอุปกรณ์ 5 จีของ‘หัวเว่ย’ แต่พวกพันธมิตรในยุโรปใช่ว่าจะทำตาม
    เผยแพร่: 13 ม.ค. 2562 20:30 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000440501.jpg

    การรณรงค์ที่นำโดยสหรัฐฯซึ่งเรียกร้องให้คว่ำบาตรอุปกรณ์สื่อสารไร้สายยุค 5 จี ของหัวเว่ย กำลังได้รับการตอบรับอย่างผสมปนเปหลายหลากจากยุโรป โดยที่บางประเทศไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรนักแก่การกระพือความระแวงสงสัยยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมสัญชาติจีนรายนี้ ขณะที่บางรัฐบาลแสดงการหนุนหลังการบอยคอตต์

    หัวเว่ยเพิ่งประสบกรณีที่ดูเหมือนเป็นความเพลี่ยงพล้ำครั้งล่าสุดในยุโรป เมื่อมีพนักงานระดับผู้อำนวยการฝ่ายขายคนหนึ่งของบริษัทในโปแลนด์ ถูกจับกุมที่ประเทศนั้นในวันศุกร์ (11 ม.ค.) ด้วยข้อหาต้องสงสัยเป็นสายลับให้จีน ทางบริษัทแถลงกับเอเอฟพีในวันเสาร์ (12) ว่า ได้ไล่ออกพนักงานผู้นั้นแล้ว และย้ำว่า “พฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหาของเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับบริษัท”

    สแตนิสสลัฟ แซริน โฆษกของพวกหน่วยงานพิเศษของทางการโปแลนด์ ให้คำอธิบายในลักษณะเดียวกับบริษัทหัวเว่ย ทว่าสื่อมวลชนฝ่ายตะวันตกสนใจมากกว่าที่จะโยงกรณีนี้เข้ากับกระแสการที่แคนาดาจับกุมตัวบุตรสาวของผู้ก่อตั้งหัวเว่ยตามหมายจับของสหรัฐฯ ตลอดจนความพยายามของวอชิงตันในการขึ้นบัญชีดำบริษัทแห่งนี้ในระดับระหว่างประเทศ ด้วยข้ออ้างเรื่องความวิตกกังวลด้านความมั่นคง

    บางประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของอเมริกา อย่าง ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, และญี่ปุ่น ได้ขานรับเสียงเรียกร้องของสหรัฐฯที่ให้คว่ำบาตรหัวเว่ย ขณะที่ชาติอื่นๆ อย่างเช่นอินเดีย ยังคงเชื้อเชิญบริษัทจีนแห่งนี้ให้เข้าร่วมในการทดลองด้าน 5 จี สำหรับในยุโรปนั้น ภาพที่ออกมาดูจะมีความสับสนปนเปเช่นกัน เหตุผลสำคัญประการหนึ่งก็คือ สมรรถนะด้าน 5 จีของหัวเว่ยนั้นมีมนตร์ดึงดูดใจสูงมาก โดยพวกนักวิเคราะห์บอกว่า นำหน้าไปไกลทีเดียวไม่ว่าจะเปรียบเทียบกับของบริษัทอิริคสันแห่งสวีเดน, โนเกียแห่งฟินแลนด์, หรือซัมซุงแห่งเกาหลีใต้

    เทคโนโลยีสื่อสารไร้สายรุ่นเจเนอเรชั่นที่ 5 (5 จี) คือการก้าวกระโจนพรวดไปไกลยิ่งในเรื่องความเร็วของการสื่อสารไร้สาย และจะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนา “อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง” (internet of things) ซึ่งรวมถึงรถยนต์ที่สามารถขับเคลื่อนไปได้ด้วยตัวเอง นี่คือเหตุผลที่ยุโรปต้องการได้เทคโนโลยีนี้มาใช้งานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

    “พวกบริษัทผู้ให้บริการได้ศึกษาพิจารณาทางเลือกอื่นๆ แล้ว แต่ต่างก็ตระหนักว่าในเรื่อง 5 จีในปัจจุบัน หัวเว่ยคือคนที่มีนวัตกรรมมากกว่า และอาจจะดียิ่งกว่าใครๆ” นี่เป็นความเห็นของ เด็กซ์เตอร์ ธิลเลียน นักวิเคราะห์แห่ง ฟิตช์ โซลูชั่นส์

    “ความสามารถ” และ “ความสามารถพิเศษอันโดดเด่น”

    หัวเว่ยประสบกับการถูกตรวจสอบเจาะลึกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัทมีความเกี่ยวพันกับพวกหน่วยข่าวกรองจีน เวลานี้ไม่เพียงแค่สหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังชาติพันธมิตรของอเมริกันอย่างออสเตรเลียและญี่ปุ่นด้วย ต่างประกาศสกัดกั้นไม่ให้บริษัทได้มีส่วนร่วมสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 5 จีของประเทศตน

    แต่ในยุโรป เอ็มอีโอ ผู้ให้บริการการสื่อสารไร้สายรายหลักของโปรตุเกส ได้ลงนามในข้อตกลงกับหัวเว่ยเมื่อเดือนธันวาคม ระหว่างที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ไปเยือนประเทศนั้น โดยที่เอ็มอีโอกล่าวยกย่องสรรเสริญบริษัทแดนมังกรแห่งนี้ว่า “มีทั้งโนวฮาว, ความสามารถ, ความสามารถพิเศษอันโดดเด่น, และศักยภาพ ในการพัฒนาเทคโนโลยีและในการลงทุนในประเทศของพวกเรา”

    ตรงกับข้าม ที่นอร์เวย์ ซึ่งเครือข่ายในปัจจุบันแทบทุกส่วนใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย กลับกำลังขบคิดหาทางลดทอน “จุดอ่อน” ของตัวเอง ทั้งนี้ตามปากคำของรัฐมนตรีการขนส่งและคมนาคมของประเทศกลุ่มนอร์ดิกแห่งนี้ ซึ่งอ้างอิงอยู่ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น – โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดอ่อนที่เปิดแบแก่พวกประเทศซึ่งนอร์เวย์ “ไม่ได้มีความร่วมมือด้านความมั่นคงใดๆ ด้วย” อันเป็นการพูดพาดพิงอย่างอ้อมๆ ถึงจีนนั่นเอง

    เวลาเดียวกัน ทางด้านรัฐมนตรีกลาโหมสหราชอาณาจักร กาวิน วิลเลียมสัน กล่าวว่า เขา “มีความกังวลอย่างรุนแรงและลึกล้ำยิ่ง ในเรื่องที่หัวเว่ยกำลังเป็นผู้ส่งชิ้นส่วนต่างๆ ให้แก่เครือข่าย 5 จี ในสหราชอาณาจักร”

    หน่วยงานความมั่นคงทางไซเบอร์ของสาธารณรัฐเช็ก ก็แถลงว่า กฎหมายของจีนนั้น “บังคับพวกบริษัทเอกชนซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศจีน ต้องร่วมมือกับหน่วยงานข่าวกรอง” จึงทำให้บริษัทเหล่านี้อาจกลายเป็น “ภัยคุกคาม” ถ้าหากเกี่ยวข้องพัวพันกับเทคโนโลยีสำคัญๆ ของประเทศอื่นๆ

    562000000440502.jpg


    ราคาแพงแต่ก็ดีกว่า

    เยอรมนีกำลังถูกกดดันหนักจากวอชิงตันให้เดินตามอเมริกา แดร์ ชปีเกล นิตยสารข่าวชื่อดังของแดนดอยซ์รายงาน ทว่าหน่วยงานกำกับตรวจสอบด้านไอทีของประเทศนี้กลับยังคงแถลงว่า ไม่เห็นมีหลักฐานใดๆ เลยซึ่งแสดงว่าหัวเว่ยสามารถใช้อุปกรณ์ของตนเพื่อสอดแนมทำจารกรรมให้ปักกิ่ง

    ขณะเดียวกัน พวกบริษัทผู้ให้บริการด้านการสื่อสารทั่วทั้งยุโรป ที่ตกอยู่ใต้แรงบีบคั้นหนักหน่วงให้ต้องเสนอบริการ 5 จี ออกมาอย่างรวดเร็วนั้น ดูเหมือนต่างไม่ให้น้ำหนักเท่าใดนักแก่ความหวาดกลัวด้านความมั่นคง เนื่องจากการใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ของหัวเว่ยเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลในเชิงธุรกิจสำหรับพวกเขา

    “ทุกวันนี้หัวเว่ยมีราคาแพงกว่ามากเมื่อเทียบกับพวกคู่แข่ง แต่มันก็ดีกว่ามากเช่นเดียวกัน” เป็นคำกล่าวของโฆษกผู้หนึ่ง ของบริษัทผู้ให้บริการการสื่อสารยุโรปรายหนึ่ง ซึ่งขอให้สงวนนามเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องอ่อนไหว คุณภาพของอุปกรณ์ของหัวเว่ยนั้น “นำหน้ากว่าจริงๆ” เมื่อเทียบกับพวกคู่แข่งชาวยุโรป เขากล่าวต่อ

    ยิ่งไปกว่ากัน “ทุกหนทุกแห่งในยุโรป พวกบริษัทผู้ให้บริการต่างตกเป็นเป้าหมายของการควบคุมอย่างมหาศาลในแวดวงนี้อยู่แล้ว แต่ไม่เคยเลยที่อุปกรณ์ของหัวเว่ยถูกพบว่ามีปัญหามีข้อบกพร่อง”

    สิ่งที่ชวนให้รู้สึกสับสนวุ่นวายมากขึ้นไปอีกก็คือ พวกบริษัทผู้ให้บริการรายใหญ่ๆ อาจจะปฏิเสธไม่ยอมใช้อุปกรณ์หัวเว่ยในตลาดบางแห่งของพวกเขา ทว่ากลับยินดีต้อนรับเป็นอันดีในตลาดแห่งอื่นๆ

    “ออเรนจ์” ผู้ให้บริการรายเก่าแก่สัญชาติฝรั่งเศส เคยบอกว่าจะไม่ใช้เครือข่ายของหัวเว่ยในฝรั่งเศส แต่กลับพร้อมที่จะนำมาใช้เป็นอย่างอันดีในการให้บริการที่สเปนและโปแลนด์

    เดิมพันที่สูงลิ่วในยุโรป

    ดอยช์ เทเลคอม ของเยอรมนี ประกาศทำตกลงกับหัวเว่ยสำหรับเครือข่าย 5 จี ในอนาคตของตนในโปแลนด์ แต่ไม่ได้บอกว่าจะทำอย่างเดียวกันในเยอรมนีเอง

    ขณะเดียวกัน หัวเว่ยกำลังใช้ความพยายามอย่างมากมายเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าบริษัทเป็นผู้ทำธุรกิจที่สุจริตใจ โดยได้เปิดห้องแล็ปฯทดสอบขึ้นมาหลายแห่งสำหรับการพิสูจน์ตรวจสอบอุปกรณ์ของบริษัททั้งในเยอรมนีและสหราชอาณาจักร ด้วยการร่วมมือกับรัฐบาลของประเทศเหล่านั้น รวมทั้งมีแผนเปิดห้องแล็ปฯอีกแห่งหนึ่งในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ภายในสิ้นไตรมาสแรกของปีนี้

    เดิมพันถือว่าสูงลิ่วทีเดียว เนื่องจากยุโรปเป็นตลาดที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งสำหรับหัวเว่ย ซึ่งยอดขายโดยรวมที่ทำได้จากยุโรป, ตะวันออกกลาง, และแอฟริกานั้น เท่ากับ 27% ของยอดขายทั่วทั้งบริษทเมื่อปี 2017 โดยที่สำคัญที่สุดต้องขอบคุณการซื้อหาใช้จ่ายของพวกผู้ให้บริการในยุโรปนั่นเอง

    กว๋อ ผิง ประธานหมุนเวียนของหัวเว่ย บ่นร้องทุกข์เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า บริษัทของเขากำลังตกเป็นเหยื่อของ “การปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมชนิดเหลือเชื่อ”

    “หัวเว่ยนั้นไม่เคยและก็จะไม่มีทางกลายเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงไปได้” กว๋อเขียนเอาไว้เช่นนี้ในข้อความอวยพรปีใหม่ซึ่งส่งถึงพนักงานของบริษัท

    ยังมีนักวิเคราะห์บางรายตั้งข้อสงสัยว่า กระทั่งหากมีการสั่งห้ามใช้อุปกรณ์เครือข่ายโทรคมนาคมของจีนอย่างกว้างขวางขึ้นมาแล้วจริงๆ มันจะสามารถรับประกันได้ว่าจะมีความมั่นคงปลอดภัยอย่างรัดกุมไร้ช่องโหว่จริงๆ หรือ

    “เฉพาะแค่ในปารีสเท่านั้น ก็มีสมาร์ตโฟนของหัวเว่ยมากกว่า 1 ล้านเครื่อง ถ้าคุณต้องการที่จะดักฟังอะไรแล้ว นั่นคือโอกาสที่มากมายมหาศาลขนาดนั้นแหละที่คุณมีอยู่” ผู้ชำนาญการของแวดวงนี้ผู้นี้กล่าว

    (เก็บความและปรับปรุงเพิ่มเติมจากเรื่อง Calls for Huawei boycott get mixed response in Europe ของสำนักข่าวเอเอฟพี)

    https://mgronline.com/around/detail/9620000004352
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘ทรัมป์’โวยไม่จริง ข่าวเรื่องซุกรายละเอียดเจรจาหารือกับ‘ปูติน’ เลี่ยงไม่ตอบเมื่อถูกถาม “เคยทำงานให้รัสเซียหรือเปล่า?” เผยแพร่: 13 ม.ค. 2562 21:58 ปรับปรุง: 14 ม.ค. 2562 01:49 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000450801.jpg

    เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธรายงานข่าวในวอชิงตันโพสต์ที่ระบุว่า เขาซุกซ่อนไม่ยอมเปิดเผยแบ่งปันรายละเอียดการสนทนาของเขากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ให้พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงรัฐบาลสหรัฐฯได้ร่วมรับรู้ ขณะเดียวกันก็ไม่ตอบตรงๆ เมื่อถูกถามว่าเคยทำงานให้รัสเซียหรือไม่ โดยโต้กลับว่านั่นเป็นคำถามดูหมิ่นเหยียดหยามมากที่สุดที่เขาเคยถูกถามมา

    ทรัมป์ ซึ่งให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทีวีช่องข่าว “ฟอกซ์นิวส์” ในคืนวันเสาร์ (12 ม.ค.) ปฏิเสธข่าวของวอชิงตันโพสต์ซึ่งเขาระบุว่า “น่าหัวเราะเยาะ” จากการที่ข่าวดังกล่าวนี้ได้กล่าวหาว่า เขาใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อปกปิดซุกซ่อนเนื้อหาของการพูดคุยระหว่างเขากับปูติน ถึงขนาดยึดบันทึกข้อความต่างๆ ของล่ามแปลของเขา รวมทั้งออกคำสั่งห้ามบุคคลผู้นั้นเปิดเผยว่ามีการพูดอะไรกันบ้าง

    ทรัมป์บอกว่า เขา “สนทนาอย่างสำคัญยิ่งใหญ่มาก” กับปูติน ระหว่างการประชุมซัมมิตที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ในเดือนกรกฎาคม 2018

    เมื่อถูกฟอกซ์นิวส์ถามว่าทำไมเขาไม่เผยแพร่รายละเอียดของการสนทนาที่ดำเนินไปเกือบ 2 ชั่วโมงคราวนั้น ทรัมป์ก็ตอบว่า “ผมยินดี ผมไม่แคร์เรื่องการเปิดเผยหรอก”

    “ผมหมายความว่า ผมน่ะได้สนทนาเหมือนกับประธานาธิบดีทุกๆ คนทำกันนั่นแหละ คุณนั่งคุยกับประธานาธิบดีของประเทศต่างๆ เยอะแยะ ... เรามีการคุยกันเกี่ยวกับอิสราเอล เกี่ยวกับการสร้างความมั่นคงให้อิสราเอล และอะไรอื่นๆ อีกเยอะแยะ ... ผมไม่ได้กำลังปิดบังซุกซ่อนอะไรทั้งนั้น ผมนะไม่ได้แคร์เรื่อง (การเปิดเผย) นี้หรอก มันเป็นเรื่องน่าหัวเราะเยาะเหลือเกิน”

    เขากล่าวต่อไปว่า “ใครๆ ก็สามารถรับฟังสิ่งที่คุยกันในการพบปะหารือนั่นได้ การพบปะหารือนั่นเป็นสิ่งที่สามารถเรียกหามาฟังกันได้”

    ตามรายงานของวอชิงตันโพสต์ ไม่มีบันทึกรายละเอียดใดๆ ของการพูดคุยเป็นการส่วนตัวระหว่างทรัมป์กับปูตินตามสถานที่ต่างๆ 5 แห่งในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา

    วอชิงตันโพสต์อ้างอิงเจ้าหน้าที่รัฐบาลทั้งในปัจจุบันและในอดีตหลายๆ คนโดยไม่มีการระบุชื่อ ว่าเป็นแหล่งข่าวของข่าวชิ้นนี้

    เมื่อถูกฟอกซ์นิวส์ซักถาม ทรัมป์ยังแจกแจงว่า ไม่มีการค้นพบใดๆ ว่ามีการสมคบกันระหว่างทีมรณรงค์หาเสียงในปี 2016 ของเขากับรัสเซีย นอกจากนั้นเขาคุยว่าเขาเป็นผู้สมัครที่ดีเด่นกว่า ฮิลลารี คลินตัน ของพรรคเดโมแครต ตลอดจนอวดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯนั้น “แข็งแกร่งที่สุดในโลก” รวมทั้งโจมตีว่าวอชิงตันโพสต์ “โดยพื้นฐานแล้วคือนักล็อบบี้ให้แก่แอมะซอน” โดยที่ทั้งวอชิงตันโพสต์และแอมะซอนต่างเป็นของอภิมหาเศรษฐี เจฟฟ์ เบซอส

    562000000450802.jpg


    เคยทำงานให้รัสเซีย?

    ทรัมป์ยังใช้การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ย้ำตอบโต้เล่นงานรายงานข่าวอีกชิ้นหนึ่งซึ่งเผยแพร่ทางนิวยอร์กไทมส์ก่อนหน้านี้ ที่มีเนื้อหาระบุว่าสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ได้เปิดการสอบสวนลักษณะต่อต้านการจารกรรม เพื่อวินิจฉัยว่าเขามีท่าทางจะกลายเป็นภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติหรือไม่ ทั้งนี้การสอบสวนนี้ไม่เคยมีการเปิดเผยปรากฏเป็นข่าวมาก่อนเลย ขณะเดียวกัน เอฟบีไอยังเปิดการสอบสวนลักษณะคดีอาญาเพื่อสืบเสาะว่าทรัมป์กระทำการในลักษณะขัดขวางความยุติธรรมหรือไม่

    รายงานข่าวของนิวยอร์กไทมส์นี้ ซึ่งเผยแพร่ในวันศุกร์ (11) กล่าวว่า การสอบสวนของเอฟบีไอนี้ในเวลาต่อมาได้ถูกรวมเข้าไปอยู่ในการสืบสวนสอบสวนที่มีขอบเขตกว้างขวางยิ่งขึ้น ซึ่งดำเนินการโดย โรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพิเศษ หรือก็คืออัยการพิเศษ ของกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้มุลเลอร์ได้รับมอบหมายให้สอบสวนทั้งเรื่องที่รัสเซียมีการก้าวก่ายแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯปี 2016 หรือไม่ และเรื่องทีมรณรงค์หาเสียงของทรัมป์มีการสมคบร่วมมือกับรัสเซียหรือเปล่า

    เมื่อถูกฟอกซ์นิวส์ถามว่า เขาเคยทำงานให้รัสเซียหรือเปล่า ทรัมป์ตอบว่า “ผมคิดว่านั่นเป็นคำถามดูหมิ่นเหยียดหยามกันมากที่สุดเท่าที่ผมเคยถูกถามมาทีเดียว” เขากล่าว โดยที่ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าวตรงๆ

    เขาโจมตีข่าวของนิวยอร์กไทมส์ว่า เป็น “รายงานข่าวมุ่งดูหมิ่นเหยียดหยามกันมากที่สุดเท่าที่ผมได้เคยถูกเขียนถึง และถ้าหากคุณอ่านข้อเขียนนี้ คุณก็จะพบว่ามันไม่ได้มีการพบอะไรเลยอย่างสิ้นเชิง”

    ทั้งนี้ ข่าวของนิวยอร์กไทมส์ระบุว่า ไม่มีหลักฐานใดๆ ปรากฏสู่สาธารณชนเลยว่า ทรัมป์มีการติดต่ออย่างลับๆ หรือรับการชี้แนะกำหนดทิศทางทางจากพวกเจ้าหน้าที่รัสเซีย

    นิวยอร์กไทมส์บอกด้วยว่า เอฟบีไอมีความสงสัยเรื่องความผูกพันระหว่างทรัมป์กับรัสเซียในช่วงการรณรงค์หาเสียงปี 2016 แต่ได้ชะลอการเปิดการสอบสวนเอาไว้ก่อน จวบจนกระทั่งประธานาธิบดีทรัมป์ปลด เจมส์ โคมีย์ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการเอฟบีไอ โดยที่โคมีย์เป็นผู้ที่ปฏิเสธไม่ยอมยุติการสอบสวนเรื่องรัสเซีย

    เท่าที่ผ่านมา จากการสอบสวนของทีมงานของเขา มุลเลอร์ได้ยื่นฟ้องร้องบุคคลต่างๆ รวม 33 คน โดยมีทั้งชาวอเมริกันและชาวรัสเซีย และมีผู้ใกล้ชิดกับทรัมป์บางคนถูกศาลพิพากษาลงโทษว่ากระทำความผิดจริง

    ไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ได้ยอมรับสารภาพว่าให้การเท็จแก่คณะผู้สอบสวนเกี่ยวกับสายสัมพันธ์ระหว่างเขากับรัสเซีย

    ขณะที่ ไมเคิล โคเฮน อดีตนักกฎหมายส่วนตัวของทรัมป์ ได้ถูกลงโทษจำคุก 3 ปีด้วยข้อหาความผิดอาญาหลายๆ กระทง รวมทั้งการละเมิดอย่างชนิดถือเป็นความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ต่อกฎหมายด้านการเงินของการรณรงค์หาเสียง ซึ่งทางอัยการกล่าวหาว่าเขากระทำไปโดยการชี้แนะของทรัมป์

    นอกจากนั้น พอล มานาฟอร์ต อดีตประธานทีมรณรงค์หาเสียงเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์ ก็ถูกพิพากษาว่ากระทำผิดจริงในคดีหนึ่งซึ่งฟ้องร้องโดยทีมของมุลเลอร์ และยอมรับสารภาพในอีกคดีหนึ่ง เกี่ยวกับอาชญากรรมทางการเงินซึ่งพัวพันกับการทำงานของเขาในประเทศยูเครนก่อนการรณรงค์หาเสียงปี 2016 , และความผิดเกี่ยวกับการโน้มน้าวพยาน

    https://mgronline.com/around/detail/9620000004367
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มีอึ้ง! ‘ซาอุดีอาระเบีย’เนรเทศ‘ชาวโรฮิงญา’ที่ถือพาสปอร์ตบังกลาเทศ
    เผยแพร่: 12 ม.ค. 2562 16:03 โดย: เบอร์ทิล ลินต์เนอร์
    562000000425101.jpg

    ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 21 ก.ค. 2018 ขณะผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาใช้ไม้ไผ่ซ่อมหลังคาที่พักอาศัย ในช่วมรสุม ณ ค่ายพักผู้ลี้ภัยแห่งหนึ่งในพื้นที่ ค็อกซ์บาซาร์
    (เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

    Saudi Arabia deports Rohingya with Bangladesh passports
    By Bertil Lintner
    10/01/2019

    มีชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 13 คนแล้วที่ถูกนำตัวขึ้นเที่ยวบินของสายการบินซาอุดีอาระเบีย และถูกส่งตัวกลับมายังบังกลาเทศ รวมทั้งยังอาจมีการเนรเทศเช่นนี้เพิ่มมากขึ้นอีกในเร็วๆ นี้

    เชียงใหม่ - ทางการผู้รับผิดชอบในซาอุดีอาระเบียได้เนรเทศชาวโรฮิงญาออกนอกประเทศอย่างน้อย 13 คน เดลี่สตาร์ (Daily Star) หนังสือพิมพ์ในบังกลาเทศรายงานเมื่อวันที่ 9 มกราคม ชาวโรฮิงญาเหล่านี้ซึ่งถูกเนรเทศในวันที่ 8 มกราคม เดินทางเข้าซาอุดีอาระเบียโดยใช้หนังสือเดินทางของบังกลาเทศ ตั้งแต่“เมื่อหลายๆ ปีก่อนหน้านี้” รายงานข่าวชิ้นนี้ระบุ

    พวกเขาถูกควบคุมตัวและถูกเนรเทศภายหลังพวกเขายอมรับว่า จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นชาวโรฮิงญาจากพม่า ไม่ได้เป็นชาวบังกลาเทศ พวกเขาถูกส่งตัวกลับบังกลาเทศโดยเที่ยวบินของสายการบินซาอุดีอาระเบีย และยังอาจจะมีอีกจำนวนมากที่จะถูกเนรเทศต่อไปในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ตามรายงานของเดลี่สตาร์

    มีชาวโรฮิงญามากกว่า 1,000 คนพำนักอาศัยในค่ายกักกันหลายแห่งในซาอุดีอาระเบีย ด้วยข้อหาละเมิดกฎระเบียบการอพยพเข้าเมือง ก่อนหน้าปี 2011 พวกที่ระบุตัวเองเป็นชาวโรฮิงญาผู้ไร้รัฐเมื่ออยู่ในซาอุดีอาระเบียแล้ว จะได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้พำนักอาศัยในราชอาณาจักร

    อย่างไรก็ตาม หลังจากปี 2011 ซาอุดีอาระเบียได้เริ่มดำเนินการจดทะเบียนบุคคลเหล่านี้โดยให้พิมพ์ลายนิ้วมือและระบุว่าเป็นชาวอินเดีย, ปากีสถาน, บังกลาเทศ, หรือ เนปาล แต่ไม่มีการระบุให้เป็นชาวโรฮิงญา รายงานข่าวของเดลี่สตาร์อ้างอิงคำพูดของนักเคลื่อนไหวชาวโรฮิงญาผู้หนึ่ง

    นักเคลื่อนไหวผู้นี้บอกกับหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ด้วยว่า เขาได้ขอร้องทางการซาอุดีอาระเบียอย่าได้เนรเทศชาวโรฮิงญา รวมทั้งเขาจะพยายามติดต่อกับพวกประเทศแถบยุโรป เพื่อขอให้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือระงับการเนรเทศเช่นนี้

    ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขาสามารถจัดหาหนังสือเดินทางบังกลาเทศมาใช้ได้อย่างไร ขณะที่นักการทูตชาวบังกลาเทศผู้หนึ่งในกรุงริยาด เมืองหลวงซาอุดีอาระเบีย บอกว่า นี่แหละคือเรื่องน่าวิตกกังวลเรื่องใหญ่ ด้านเดลี่สตาร์ชี้ว่า การเนรเทศเช่นนี้ก่อให้เกิด “ความวิตกเพิ่มมากขึ้นสำหรับบังกลาเทศ ซึ่งต้องรับแบกรับภาระผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาจำนวนกว่า 1 ล้านคนอยู่แล้ว”

    โดยที่ในเวลานี้มีรายงานข่าวเรื่องที่ชาวโรฮิงญากำลังออกจากค่ายพักในบังกลาเทศ และกำลังเดินทางไปอาศัยอยู่ตามส่วนอื่นๆ ของประเทศ ขณะเดียวกันชาวบ้านผู้คนท้องถิ่นในพื้นที่ ค็อกซ์บาซาร์ (Cox’s Bazar) อันเป็นที่ตั้งของค่ายเหล่านี้ ต่างมีความขุ่นเคืองมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากรู้สึกว่าชาวโรฮิงญากำลังแย่งงาน โดยที่ชาวโรฮิงญานั้นมีความยินที่จะทำงานโดยรับค่าจ้างค่าแรงต่ำกว่า

    https://mgronline.com/around/detail/9620000004107
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics: กัวเตมาลาหลายพันเดินขบวนประท้วง “รัฐบาลโมราเลส” ปิดหน่วยงานต่อต้านคอร์รัปชันยูเอ็น เผยแพร่: 13 ม.ค. 2562 14:34 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000436901.jpg

    เอเอฟพี - เมื่อวานนี้(12 ม.ค) ประชาชนชาวกัวเตมาลาเดินขบวนคัดค้านคำสั่งของผู้นำประเทศที่ได้ให้ปิดหน่วยงานต่อต้านการคอร์รัปชันของสหประชาชาติ คณะกรรมาธิการระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านการงดเว้นการลงโทษในกัวเตมาลา ( International Commission Against Impunity in Guatemala) หรือ CICIG หลังจากเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2007

    เอเอฟพีรายงานวันนี้(13 ม.ค)ว่า กลุ่มผู้ประท้วงต่างตะโกนพร้อมกับโบกป้ายข้อความที่กล่าวว่า “เราขอปฎิเสธต่อรัฐบาลแห่งการคอร์รัปชัน” และ “พวกเราขอต่อต้านการงดเว้นการลงโทษ” ท่ามกลางความวิตกมากขึ้นจากนานาชาติ

    ทั้งนี้ในวันจันทร์(7)เมื่อต้นสัปดาห์ ประธานาธิบดีกัวเตมาลา จิมมี โมราเลส (Jimmy Morales) ได้ยื่นจดหมายแจ้งไปยังองค์การสหประชาชาติว่า ขอให้หน่วยงาน คณะกรรมาธิการระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านการงดเว้นการถูกลงโทษในกัวเตมาลา ( International Commission Against Impunity in Guatemala) หรือ CICIG ปิดตัวก่อนกำหนด หลังจากที่เริ่มต้นทำงานตั้งแต่ปี 2007

    ซึ่งพบว่าทางCICIG ที่เป็นหน่วยงานต่อต้านการคอร์รัปชันของยูเอ็นนั้นเคยทำงานร่วมมือกับสำนักงานอัยการกัวเตมาลามาก่อนในคดีสินบนและคดีอาชญากรรมองค์กร

    แต่ทว่าโมราเลสได้ออกมาตัดสินว่า ทางหน่วยงานทำงานเกินกว่าหน้าที่ เอเอฟพีชี้ว่า ในวันพุธ(9) ศาลสูงสุดของกัวเตมาลาได้ออกคำพิพากษาระงับคำสั่งประธานาธิบดี

    ซึ่งทางศาลรัฐธรรมนูญกัวเตมาลาออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทำงานและข้าราชการพลเรือนกัวเตมาลาให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของสหประชาชาติ

    กลายเป็นเรื่องหักมุมจากมหากาพย์ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาเมื่อทาง CICIG ได้ทำคำร้องร่วมกับสำนักงานอัยการกัวเตมาลาในการขอให้ทำการระงับภูมิคุ้มกันทางประธานาธิบดีของโมราเลสเป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบการให้เงินหาเสียงผิดกฎหมายของพรรครัฐบาล FCN-Nacion ของเขา

    ส่งผลทำให้ผู้นำกัวเตมาลาตอบโต้ด้วยการประกาศว่า เขาจะไม่ต่ออายุการทำหน้าที่ของ CICIG ในกัวเตมาลา หลังจากที่มีระยะเวลาการทำหน้าที่อย่างเป็นทางการได้สิ้นสุดลงในเดือนกันยายน และในภายหลังพยายามสั่งห้ามไม่ให้ อีวาน เวลากูซ(Ivan Velasquez) หัวหน้าของหน่วยงาน CICIG กลับเข้าประเทศแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

    เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ออกมายืนยันว่า กัวเตมาลามีความรับผิดชอบทางกฎหมายต้องทำให้หน่วยงานยังคงอยู่ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2006

    ทั้งนี้ CICIG และสำนักงานอัยการกัวเตมาลาได้แสดงหลักฐานว่า พรรค FCN-Nacion ไม่ได้รายงานเงินจำนวนเกือบ 1 ล้านดอลลาร์ในการให้เงินแก่เจ้าหน้าที่การเลือกตั้ง

    ซึ่งไม่เพียงแต่โมราเลสที่ตกอยู่ในการเฝ้าจับตาของทาง CICIG แต่บุตรชายและน้องชายของเขาต่างถูกตั้งข้อหาเลี่ยงภาษีและการฟอกเงินในปี 2016 เช่นกัน


    562000000436902.jpg


    562000000436903.jpg


    562000000436904.jpg


    562000000436905.jpg


    562000000436906.jpg


    562000000436907.jpg

    https://mgronline.com/around/detail/9620000004251
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวต่างประเทศ
    co.uk%2Fimg%2Fmedia%2Fa5e7ae280d58849b4b2aaa93480935123c809580%2F0_230_3648_2189%2Fmaster%2F3648.jpg
    ทรัมป์ประกาศว่า ถ้าตุรกีลงมือโจมตีกองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรีย เค้าจะดำเนินนโยบายลงโทษทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงต่อตุรกี

    จากการที่ทรัมป์ประกาศถอนกำลังทหารจากซีเรีย ทำให้เกิดความกังวลว่า อเมริกาทอดทิ้งกองกำลังชาวเคิร์ดที่อเมริกาให้การหนุนหลังเพื่อปราบปรามกลุ่ม ISIS แล้วกลุ่มเคิร์ดจะโดนตุรกีที่มองกลุ่มเคิร์ดว่า เป็นกองกำลังก่อการร้ายในสายตาของตุรกีจะลงมือปราบปรามอย่างรุนแรง

    ทางตุรกีก็ไม่พอใจอเมริกาอย่างมากเช่นกัน ที่จะทำการปกป้องกองกำลังก่อการร้ายอย่างออกหน้าออกตาเช่นนี้

    The Guardian รายงาน

    https://www.theguardian.com/us-news...K_zAaRJ8yebv10YghVFbIcNrNGKl8BKVseE5eUT2YwtCo
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภูเขาไฟ Anak Krakatoa. อินโดนีเซีย

    QlbvzHxH8JlkrkybjR_6tEoifjGvqi1hjZo5q-UCkf5RLUjuWBYefqlN-Jm0SzGZebLf_dkA&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Great Shift
    _i1cX4cuSoam19rF9WGERXK4Tp5TM89vN37K85XDzuOy5QjHOnKWCUSu3cwrC4ybjdeOx5DQ&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
    กระแสน้ำขั้วโลกเหนือตอนนี้แข็งแกร่งที่สุดในแอฟริกาแล้ว! การหยุดชะงักที่สำคัญและรายละเอียด คาดว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายลง

    RmJ1hNfxGjsUI_S0aZQD8lPJyvA2zxDttNLPhhYpW5z-Uo3559i1I8za516l3P8S4dFK9BBw&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    zr6y0jnBTzNOxeq_9F1BZcTiDHGud2mbFiQPDd85tmWAKuVn6ReluT3oTnFldamFv_D7PnUw&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    1LqfSq51P3x5L91hOcNtu0csJpQDnywlOQmLvZ9_dGGSr_fnbmoL8YfpZAslTOImoOR0HJ5g&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
    The Northern polar vortex is strongest right now over Africa?! Major disruption and breakdown underway. Expect weather to get worse.
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตอนนี้ ทุกคนรู้ความจริงแล้ว ไม่ต้อง "สักวันทุกคนจะรู้ความจริง เมียใครบ้างไม่รัก" ว่านายนายธนภัทร สงวนเขียว เป็นซาดิสต์ แต่ฆ่าเมียโดยซ้อมจนตาย โหดกว่ายิงเมียตายเยอะเลยน่ะ

    ผู้การสั่ง ตร.ทุกโรงพัก ล่าตัว ‘ไอ้ธน’ ผัวโหดซ้อมเมียตาย! แช็ตหาเพื่อน เมียใครบ้างไม่รัก
    วันที่ 12 มกราคม 2562 - 11:21 น.

    %E0%B8%98%E0%B8%99-696x392.jpg
    ผู้การฯ สั่ง ตร.ทุกโรงพัก ล่าตัว ‘ไอ้ธน’ ผัวโหดซ้อมเมียตาย! แช็ตหาเพื่อน เมียใครบ้างไม่รัก

    ผัวโหด / จากกรณีเหตุสลด น.ส.สุกัญญา บิลหมัดอาด หรือน้องเมย์ อายุ 30 ปี ถูกสามีคือ นายธนภัทร สงวนเขียว อายุ 28 ปี ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยผลชันสูตรเบื้องต้นของแพทย์ รพ.สตูล ลงความเห็นว่า เสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ หลังพบรอยช้ำที่คอ ขณะที สภ.เมืองสตูล ขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับนายธนภัทร ส่วนญาติพี่น้องและคนรอบตัวของผู้เสียชีวิตระบุว่า นายธนภัทรมีพฤติกรรมติดยาเสพติดและชอบซ้อมทุบตีน.ส.สุกัญญา เป็นประจำ ตามที่เสนอไปแล้วนั้น

    ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 12 ม.ค. พล.ต.ต.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว ผบก.ภ.จว.สตูล กล่าวว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุ เร่งตามล่าตัวนายธนภัทร มาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากมีพฤติกรรมโหดเหี้ยม พร้อมจัดชุดตำรวจฝีมือดีช่วยกันตามหาพร้อมสั่งการทุกโรงพักในพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอ ช่วยสอดส่องพื้นที่หาเบาะแสคนร้าย

    ด้านพ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.เมืองสตูล เปิดเผยว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าขณะนี้ผู้ต้องหายังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.สตูล โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งตามล่าตัวมาดำเนินคดีหลังศาลอนุมัติออกหมายจับ ขณะเดียวกันได้เชิญพ่อแม่ของนายธนภัทร มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ ส่วนศพของ น.ส.สุกัญญา เจ้าหน้าที่ส่งไปผ่าพิสูจน์ที่รพ.มอ.หาดใหญ่ เพื่อตรวจพิสูจน์ว่าถูกผู้ต้องหาซ้อมและทรมานก่อนเสียชีวิตหรือไม่ เพื่อรวบรวมหลักฐานในการเอาผิดผู้ต้องหาเพิ่มเติม

    พ.ต.อ.พชรพล กล่าวอีกว่า สำหรับใครที่รู้เบาะแส สามารถแจ้งตำรวจได้ทุกโรงพักในพื้นที่ จ.สตูล หากถ้าใครให้ที่หลบซ่อนผู้ต้องหา ถือว่ามีความผิด หากประชาชนพบเห็นการทารุณทำร้ายกันภายในครอบครัวสามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ทุกสถานีตำรวจ ไม่จำเป็นต้องเป็นบุคคลในครอบครัว เพื่อนบ้านหรือผู้พบเห็นสามารถร้องให้ตำรวจเข้ามาร่วมดูแลความปลอดภัยได้

    [​IMG]
    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เฟซบุ๊กของผู้ต้องหามีการแช็ตคุยกับกลุ่มเพื่อน โดยผู้ต้องหาระบุข้อความว่า สักวันทุกคนจะรู้ความจริง เมียใครบ้างไม่รัก


    https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2077225
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจนจิรา จันทรเสนา


    พิกัด : บอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส
    จากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง ครั้งที่ 9 ที่เรียกร้องให้ ปธน.ลาออก

    ตำรวจยิงเสร็จก็จากไป แพทย์พร้อมพยาบาลอาสาของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองจะต้องวิ่งชูมือเข้ามา เพื่อจะขอเข้าไปดูอาการคนเจ็บ

    ต่อจากนั้นจึงจะมีเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินของทางการเข้ามารับตัวต่อไป
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คัดข่าว



    ภาพมุมสูงของกำแพงทรัมป์
    .
    ภาพมุมสูงของกำแพงกันชายแดน อเมริกา เม็กซิโก ของ ปธน ทรัมป์ นี้คือส่วนต้นกำแพงที่ Tijuana โดยมีการยื่นลงทะเลราวๆ 100 เมตร
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สิทธิสตรีในซาอุดีอาระเบีย: 'ฉันหนีออกมาหาชีวิตที่ดีกว่า'
    _105135348_whatsappimage2019-01-09at15.54.57-3.jpg Image copyrightSALWA
    คำบรรยายภาพซัลวา วัย 24 ปี หนีออกจากครอบครัวของเธอเมื่อ 8 เดือนก่อน และบอกว่า กำลังลี้ภัยอยู่ในแคนาดา
    [​IMG]
    เรื่องราวดราม่าเกี่ยวกับข้อจำกัดที่ผู้หญิงในซาอุดีอาระเบียเผชิญ กลับมาอยู่ในความสนใจของผู้คนอีกครั้ง

    ราฮาฟ โมฮาเหม็ด แอล-เคนูน วัย 18 ปี ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเธอขังตัวเองไว้ในห้องพักของโรงแรม และปฏิเสธที่จะขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน

    เธอกำลังหนีออกจากครอบครัวในซาอุดีอาระเบีย และขณะนี้เธอได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยในแคนาดาแล้ว หลังจากมีการรณรงค์ช่วยเหลือเธอผ่านทางทวิตเตอร์

    ขณะที่ผู้คนกำลังถกเถียงกันเรื่องสิทธิสตรีในซาอุฯ กันอย่างต่อเนื่อง มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่หนีออกจากซาอุฯ ไปแคนาดา ได้เปิดเผยเรื่องราวของเธอกับบีบีซี

    ซัลวา วัย 24 ปี หนีออกจากบ้านพร้อมกับน้องสาววัย 19 ปี ของเธอ เมื่อ 8 เดือนก่อน และขณะนี้อาศัยอยู่ในเมืองมอนทรีออล นี่คือเรื่องเล่าจากปากของเธอเอง

    _90021446_grey_line_new.jpg
    การเตรียมตัว
    เราวางแผนหนีประมาณ 6 ปี เราจำเป็นต้องมีหนังสือเดินทาง และบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อที่จะหนีออกมาได้

    ฉันต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของฉันเพื่อทำเอกสารเหล่านี้ (ผู้หญิงในซาอุดีอาระเบีย จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากญาติที่เป็นผู้ชายในการทำสิ่งต่าง ๆ หลายเรื่อง)

    โชคดี ฉันมีบัตรประชาชนแล้ว เพราะครอบครัวยอมให้ฉันทำ ตอนที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัย

    แล้วฉันก็มีหนังสือเดินทางแล้ว เพราะฉันจำเป็นต้องใช้ในการเข้าสอบภาษาอังกฤษเมื่อ 2 ปีก่อน

    แต่ทางครอบครัวเก็บหนังสือเดินทางของฉันไว้ ฉันต้องหาวิธีในการเอามันกลับมา

    ฉันขโมยกุญแจเข้าบ้านจากพี่ชาย จากนั้นก็เอาไปปั๊มที่ร้าน ฉันออกจากบ้านไม่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต แต่ฉันแอบออกไป ตอนที่พวกเขากำลังนอนอยู่

    มันเสี่ยงมาก เพราะถ้าฉันถูกจับได้ตอนนั้น พวกเขาคงจะทำร้ายฉัน

    เมื่อฉันได้กุญแจมาแล้ว ฉันก็เอาหนังสือเดินทางของฉันและน้องสาวกลับมาได้ ฉันยังเอาโทรศัพท์ของพ่อไปด้วยตอนเขาหลับ

    ฉันแอบใช้โทรศัพท์ของพ่อ ล็อกอินเข้าบัญชีของเขาบนเว็บไซต์ของกระทรวงมหาดไทย แล้วก็เปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียนมาเป็นหมายเลขของฉันแทน

    ฉันยังใช้บัญชีของเขาในการยินยอมให้เราทั้งสองคนเดินทางออกนอกประเทศด้วย

    การหลบหนี
    _105135351_gettyimages-893984626.jpg Image copyrightGETTY IMAGES
    คำบรรยายภาพทั้งคู่หนีออกจากบ้าน และขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติสมเด็จพระราชาธิบดีคาลิด บินไปยังเยอรมนี
    เราออกจากบ้านตอนกลางคืน ขณะที่ทุกคนกำลังหลับอยู่ สถานการณ์ตึงเครียดมาก

    เราขับรถไม่ได้ เราเลยเรียกแท็กซี่ โชคดีที่คนขับแท็กซี่ในซาอุฯ เกือบทุกคนมาจากต่างประเทศ พวกเขาก็เลยไม่ได้เห็นว่า การเดินทางโดยลำพังของเราเป็นเรื่องแปลกอะไร

    เรามุ่งหน้าไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติสมเด็จพระราชาธิบดีคาลิด (King Khalid International Airport) ใกล้กับกรุงริยาด ถ้ามีคนจับได้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ตอนนั้น ฉันคิดว่า เราคงถูกฆ่าไปแล้ว

    ตอนฉันเรียนปีสุดท้าย ฉันได้ทำงานในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และเก็บเงินได้มากพอที่จะใช้ซื้อตั๋วเครื่องบินและทำวีซ่าสำหรับเดินทางผ่าน (Transit Visa) ของเยอรมนี ฉันยังเก็บเงินได้จากผลประโยชน์ที่ได้รับจากการว่างงานด้วย

    ฉันขึ้นเครื่องบินไปเยอรมนีกับน้องสาวได้สำเร็จ เป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของฉัน มันยอดเยี่ยมมาก ฉันรู้สึกมีความสุข รู้สึกกลัว รู้สึกต่าง ๆ นานาเต็มไปหมด

    พ่อของฉันเรียกตำรวจ ตอนที่เขารู้ว่า เราไม่อยู่บ้าน แต่ตอนนั้นก็สายเกินไปเสียแล้ว

    เพราะฉันได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ในบัญชีกระทรวงมหาดไทยของพ่อแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ทางการพยายามจะโทรหาเขา ก็กลับกลายเป็นโทรเข้าเบอร์ของฉันแทน

    ตอนที่ฉันเดินทางมาถึงเยอรมนี ฉันได้รับข้อความจากตำรวจที่ส่งหาพ่อของฉัน

    การเดินทางมาถึง
    ในซาอุดีอาระเบีย ฉันไม่มีชีวิตที่นั่น ฉันแค่ไปมหาวิทยาลัยแล้วก็กลับมาบ้าน ทั้งวันไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย

    พวกเขาทำร้ายฉัน และพร่ำบอกเรื่องแย่ ๆ กับฉัน อย่างเช่น ผู้ชายมีความยอดเยี่ยมกว่า เหนือกว่า ฉันถูกบังคับให้ทำละหมาดและถือศีลอดในเดือนรอมฎอนด้วย

    ตอนที่มาถึงเยอรมนี ฉันขอความช่วยเหลือทางกฎหมายเพื่อให้ช่วยหาทนายความดำเนินการเรื่องขอลี้ภัยให้ฉัน ฉันกรอกเอกสารบางอย่าง และบอกเล่าเรื่องราวของฉัน

    ฉันเลือกแคนาดา เพราะเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงที่ดีในด้านสิทธิมนุษยชน ฉันติดตามข่าวเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่ถูกส่งตัวไปอยู่ที่นั่น และตัดสินใจว่า แคนาดาน่าจะเป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับฉัน

    คำขอของฉันได้รับการตอบรับ และตอนที่ฉันเดินทางไปถึงนครโทรอนโต ฉันเห็นธงชาติแคนาดาที่สนามบิน และสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของการบรรลุเป้าหมายที่ฉันต้องการ

    _105135353_gettyimages-955073674.jpg Image copyrightGETTY IMAGES
    ตอนนี้ ฉันอยู่ในมอนทรีออล ไม่มีความกังวลใด ๆ อีกต่อไป ไม่มีใครมาบังคับให้ฉันทำอะไรได้ที่นี่

    ในซาอุฯ พวกเขาอาจจะมีเงินมากกว่า แต่ที่นี่ดีกว่า เพราะเมื่อฉันต้องการออกจากอะพาร์ตเมนต์ไปไหน ฉันก็ไปได้เลย ไม่ต้องขออนุญาตใคร

    ฉันมีความสุขมากจริง ๆ ฉันรู้สึกเหมือนเป็นอิสระ ฉันใส่ชุดอะไรก็ได้ที่ฉันอยากใส่

    ฉันชอบสีสันในฤดูใบไม้ร่วง และชอบหิมะที่นี่มาก ฉันเรียนภาษาฝรั่งเศส แต่มันยากมากเลย ฉันกำลังเรียนขี่จักรยานอยู่ด้วย และกำลังพยายามฝึกว่ายน้ำและเล่นสเก็ตน้ำแข็ง

    ฉันรู้สึกเหมือนกับ ฉันได้ทำอะไรจริง ๆ ในชีวิตของฉัน

    ฉันไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวเลย แต่ฉันคิดว่า นั่นเป็นเรื่องดีแล้วสำหรับฉันเองและสำหรับพวกเขาด้วย ฉันรู้สึกว่า ที่นี่คือบ้านของฉันแล้วตอนนี้ ที่นี่ดีกว่ามาก

    จากการบอกเล่าให้กับ กาเรธ อีวานส์ และเอาต์ไซด์ ซอร์ส (Outside Source) ของบีบีซี ฟังผ่านทางรายการวิทยุของเวิลด์ เซอร์วิส

    https://www.bbc.com/thai/international-46855938?ocid=socialflow_facebook
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คัดข่าว

    วิกฤตอากาศ กทม จาก กัมพูชา
    fNnd3dXJfD2xDogk0JDLPIHj6q8Iz6TeLakupa_xEOXJln3e2bm6KN_ZHMYXviLSkKlRHk0Q&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    VM-chT9EP2ejev88tAjzJ5RVuBfy_GBfZfy1CbyKo9rBCS6oHSvz3udM8hW7gYUeWBXpOSYA&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    MwSZh9HQ-HDM18NvoCczg_UsAvgOIJwM3K6jZiJZGaj2J6YiU8GzyFSwpGUBBFneM_kawumg&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
    ฝุ่น PM2.5 ในอากาศ กทม. ตอนนี้ จากข้อมูลที่พบ พบว่าส่วนหนึ่งมาจากกัมพูชา ซึ่งเกิดจากการเผานาไร่ในพื้นที่ จ.อุดรมีชัย จ.พระวิหาร จ.เสียมราฐ(สังเกตจุดส้ม สีแดง บนแผนที่) ซึ่งเผากันหนักมาก แล้วลมหอบมารวมกับฝุ่นที่เกิดใน กทม.
    โดยสิ่งที่ยืนยันได้อย่างคือกลุ่มจังหวัดชายแดน ไทย กัมพูชา สระแก้ว ปราจีน สระบุรี ก็อ่วมมลพิษพอกับ กทม ทั้งๆที่รถไม่มากเท่าและไม่มีการก่อสร้าง

    ลมหนาวแผ่วผิดปกติ อากาศนิ่ง พัดจากเหนือลงใต้ ปะทะกับลมจากอันดามัน ทำให้มลพิษเป็นฝุ่นใน กทม ไม่ไปไหน

    เรื่องนี้เป็นปัญหาอาเซี่ยนแบบไฟป่า อินโดฯ
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    49899734_2344317668921045_6616020790158557184_n.png?_nc_cat=108&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.png

    (Jan 14) รายงาน: ปีหน้าเศรษฐกิจจีน แซงสหรัฐฯ : ขนาดเศรษฐกิจของประเทศที่เชื่อว่าน่าจะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก 10 ประเทศแรกในระยะ 11 ปีข้างหน้า หรือภายในปี ค.ศ. 2030 จัดทำโดยฝ่ายวิจัยของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดพบว่ามีถึง 7 ประเทศในอันดับ Top 10 ดังกล่าว ที่ปัจจุบันยังอยู่ในสถานะประเทศกำลังพัฒนาที่มีศักยภาพเศรษฐกิจขยายตัวสูง ทั้งในเอเชียและลาตินอเมริกา ส่วนประเทศที่คาดว่าจะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ภายในระยะเวลาดังกล่าวแซงหน้าสหรัฐอเมริกา ซึ่งครองที่ 1 อยู่ในปัจจุบันนั้น ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นประเทศคู่พิพาททางการค้าของสหรัฐฯที่เพิ่งตกลงคลี่คลายปัญหากันได้ระดับหนึ่งเมื่อต้นสัปดาห์นี้เอง นั่นก็คือ จีน

    รายงานคาดการณ์ของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดครั้งนี้ เป็นการจัดอันดับขนาดเศรษฐกิจของประเทศ ที่วัดจากมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในระยะยาว โดยใช้ทฤษฎีความเสมอภาคของอำนาจซื้อ (Purchasing Power Parity : PPP) และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเบื้องต้น (Nominal GDP) มาใช้เป็นฐานในการคำนวณและคาดการณ์ โดยรายงานระบุว่า ขนาดเศรษฐกิจของจีนจะขยายตัวและแซงหน้าสหรัฐฯขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลกได้ตั้งแต่ปี 2020 หรือพ.ศ. 2563 ซึ่งก็คือปีหน้า และหลังจากนั้นภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573) ก็คาดว่า แม้แต่ "อินเดีย" ก็จะแซงหน้าสหรัฐอเมริกา ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 รองจากจีน โดยสหรัฐฯคาดว่าจะตกไปเป็นอันดับ 3

    เดวิด แมนน์ นักเศรษฐศาสตร์ หัวหน้าทีมผู้จัดทำรายงานฉบับนี้ อธิบายเพิ่มเติมว่า จากการคาดหมายตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาวของประเทศต่างๆ ในโลก ทำให้เห็นหลักการสำคัญประการหนึ่งที่ว่า สัดส่วนจีดีพีของประเทศหนึ่งๆ ที่มีต่อจีดีพีรวมของ

    โลกนั้นจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับสัดส่วนประชากรของประเทศนั้นๆที่มีต่อตัวเลขประชากรรวมของโลก ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มที่ตัวเลขรายได้ประชากร (GDP per capita) ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่าประชากรในประเทศนั้นๆมีฐานะทางเศรษฐกิจอย่างไร เริ่มขยับเข้ามาใกล้เคียงกันมากขึ้นระหว่างประเทศอุตสาหกรรมพัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนาดาวรุ่งที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

    เห็นได้ชัดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนจะมีอัตราการขยายตัวที่ชะลอลง จากที่เคยร้อนแรงในระดับ 2 หลักเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 6.5-6.7% ในช่วงเร็วๆ นี้ แต่หลังจากนั้นก็จะค่อยๆ ปรับสมดุลแล้วจะลดลงมาอยู่ที่เฉลี่ย 5% ในราวปี 2030 ซึ่งเป็นปกติของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ขึ้น ขณะที่อินเดีย คาดว่าจะยังคงขยายตัวอย่างร้อนแรงที่ประมาณ 7.8% ในระยะไม่กี่ปีข้างหน้านี้ (2020)

    แนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ท่ามกลางพัฒนาการดังกล่าว ซึ่งระบุไว้ในรายงานคาดการณ์ครั้งนี้ ยังได้แก่แนวโน้มที่ว่าการที่หลายประเทศรวมทั้งสหรัฐ อเมริกาและสหภาพยุโรป (อียู) ได้เริ่มแตะเบรก และหยุดใช้มาตรการทางการเงินแบบผ่อนปรน (QE) จะเป็นตัวแปรที่ทำให้หลายๆ ประเทศจำเป็นต้องปรับตัวรับมือด้วยการเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจของตัวเองในมิติต่างๆและต้องเร่งเพิ่มประสิทธิผลในการผลิตทั้งในภาคอุตสาหกรรมและบริการ ประเทศกำลังพัฒนารายใดที่รามือ ไม่เร่งกระบวนการปฏิรูป จะไม่สามารถผลักดันตัวเองให้ขยายตัวไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

    นอกจากนี้ ยังคาดการณ์แนวโน้มที่ว่าประชากรโลกในกลุ่ม "ชนชั้นกลาง" (the middle-class) หรือผู้มีรายได้ระดับกลาง จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นกลุ่มคน(ที่แยกตามรายได้) ที่มีสัดส่วนมากที่สุดในบรรดาประชากรโลกทั้งหมดภายในปี 2020 (พ.ศ. 2563) และการขยายตัวของกลุ่มชนชั้นกลางนี้ จะเกิดขึ้นควบคู่ไปกับการขยายตัวของชุมชนเมืองและการกระจายช่องทางเข้าถึงในการศึกษาของประชากร คลื่นความก้าวหน้าในเรื่องดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยชดเชยหรือผ่อนบรรเทาผลกระทบทางลบที่เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ "สังคมสูงวัย" หรือการขยายตัวของกลุ่มประชากรสูงวัยในหลายๆประเทศ รวมทั้งหัวจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกอย่างจีน

    Source: ฐานเศรษฐกิจ
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    &h=249&url=https%3A%2F%2Fwww.atlanticcouncil.org%2Fimages%2Fnewatlanticist%2F2019%2FVienna_large.jpg
    (Jan 14) รัฐมนตรีพลังงานชี้ ซาอุฯทำตามคำมั่นสัญญาในการลดการผลิตและส่งออกน้ำมัน : รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบียยืนยัน ประเทศได้ทำตามคำมั่นสัญญาในการลดการผลิตและส่งออกน้ำมันในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา

    สถานีโทรทัศน์อาราบิยาทีวี รายงานว่า ในระหว่างการประชุมพลังงานโลก Atlantic Council Global Energy Forum ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองอาบูดาบี นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน อุตสาหกรรม และทรัพยากรแร่ กล่าวว่า "แหล่งข้อมูลทุติยภูมิชี้ให้เห็นว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกในเดือนธ.ค.นั้น น้อยลงกว่าเดือนพ.ย. 600,000 บาร์เรลต่อวัน"

    "เนื่องจากมีการปรับลดน้ำมันถึง 1.2 ล้านบาร์เรล เราจึงควรเริ่มเห็นผลเชิงบวกที่สะท้อนในปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง" เขากล่าวเสริม พร้อมกล่าวเกี่ยวกับความกังวลของตลาดว่า ตลาดน้ำมันมาถูกทางแล้ว และจะกลับมาสู่ภาวะสมดุลในอีกไม่นาน

    สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายอัล-ฟาลีห์ ยังเผยด้วยว่า ซาอุดีอาระเบียวางแผนที่จะก้าวขึ้นเป็นอันดับสองในด้านการผลิตฟอสเฟต เป็นผู้ผลิตอะลูมิเนียมชั้นนำ รวมถึงเป็นผู้ผลิตทองคำอันดับที่สิบของโลก

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรวิชญ์ สิทธิวัง/ปนัยดา

    - OPEC Production Cuts Defended
    https://www.atlanticcouncil.org/blo...N_Qn1m0QYWUbJ8rGH3s4lG_EYTbJxKqWqTjBVzTG2B-dU
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    (Jan 14) บทความ เรื่อง “มาตรการ Loan to Value กับ การให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์ไทย” ได้นำเสนอผลการวัดประสิทธิผลของมาตรการ LTV และผลกระทบต่อพฤติกรรมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์ไทยในภาพรวมและเป็นรายกลุ่ม

    ผลการศึกษาได้ชี้ให้เห็นว่า มาตรการ LTV สามารถช่วยชะลอการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยตามกลุ่มเป้าหมายได้ แม้ว่าไม่ได้มีผลต่อการชะลอตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยของระบบธนาคารพาณิชย์ในภาพรวม แต่มีผลให้ธนาคารพาณิชย์เปลี่ยนแปลงรูปแบบการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยไปในทิศทางที่มีความเสี่ยงลดลง

    ท่านสามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pier.or.th/wp-content/u...DGCasDssN4hcaJNiFJu3rT2b6Zstxj0PwAd2s3rsEaEL4
    1.jpg
    2.JPG
    3.JPG 4.JPG 5.JPG 6.JPG 7.JPG
    Source: PIER FB
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เตือนภัยทุกสถานการณ์

    49261886_284682422194449_3504563794502221824_n.jpg?_nc_cat=110&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
    49842953_284682435527781_33159728800464896_n.jpg?_nc_cat=111&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    50247539_284682448861113_4162323733643526144_n.jpg?_nc_cat=102&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    วันที่ 14 ม.ค. 62 เวลา 14.25 น. ด่วน ซ.วัดศรีวารีน้อย เข้าจาก บางนาตราด 2 กม. หน้าหมู่บ้านนิรันดร์วิว10 แก๊สรถยนต์บาดเจ็บ 3 ราย #ระเบิดเกิดเหตุรถนั่งสาธารณะ NGV ระเบิดภายในซอยวัดศรีวารีน้อยผู้ได้บาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย
    สาหัสเป็นชาย 1 รายโดนสะเก็ดเป็นร่างกาย
    อีก 2 รายบาดเจ็บคนละเล็กละน้อยรับบาดเจ็บ 3 รายเจ้าหน้าที่รอนำส่งโรงพยาบาบาล
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ImpactoVisión Noticias


    ไม่ใช่ทั้งรัสเซีย และสหรัฐอเมริกา แต่เป็นเลบานอนประเทศที่ไม่ได้พบกับหิมะมากนัก จากตะวันออกกลาง
    10.01.2019

    Kike90...
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ImpactoVisión Noticias

    แสงไฟแปลกๆบนท้องฟ้าในเมืองเม็กซิโก สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อนาทีที่แล้ว
    13.01.2019

    Kike90...
     

แชร์หน้านี้

Loading...