ติดตามสถานะการณ์

บีบีซีไทย - BBC Thai
กลุ่มไอเอสสังหารหญิง 4 คนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีทั้งแพทย์และนักรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน



สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองโมซุลในอิรัก ครอบครัวของผู้ถูกสังหารบอกกับทาง เอเอฟพีว่าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา กลุ่มไอเอสได้สังหารผู้หญิงสามคน สองในสามคนนี้เป็นหมอ ส่วนอีกคนคือนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนสังกัดองค์กรอัล-อามาล ชื่อของเธอคือ ฮานา อัดวาร์
แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ยืนยันว่าผู้ถูกสังหารอีกสองคนเป็นแพทย์หญิงชื่อ มาฮา ซาบาน และ ลาเมีย อิสมาอิล ส่วนผู้หญิงอีกคนเป็นนักศึกษาด้านกฏหมายที่เพิ่งจบใหม่
อาลี อัล-บายาติ เจ้าหน้าที่ศูนย์ที่หนึ่งในผู้ถูกสังหารเคยทำงานอยู่เล่าให้เอเอฟพีฟังว่า กลุ่มไอเอสจับตัวเธอไปจากบ้านเมื่อเดือนที่แล้ว และโทรศัพท์หาครอบครัวของเธออาทิตย์นี้เพียงเพื่อจะบอกพวกเขาว่าเธอถูกสังหารไปแล้ว หลังจากนั้นกลุ่มนี้จะทิ้งศพของเธอไว้นอกเมืองทัลอาฟา
ภาพ : ชาวยาซิดิสที่หนีออกจากเมืองโมซุล

 

Nui Nicha T ได้แชร์รูปภาพของ " A call for Animal Rights " Walk Rally
ผ่านแล้ว...



A CALL ข่าวดี!! >> ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ ผ่านวาระ1 แล้ว!!! + สรุป พร้อมอธิบายขั้นต่อไป (โปรดอ่าน และ แชร์)
10 ตค. 2557 - ที่ประชุม สนช. ลงมติในวาระที่ 1 รับหลักการแห่งร่างพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ เห็นด้วย 200 : 0 งดออกเสียง 3 เสียง (ประธาน และรองประธาน 2 ท่าน ต้องวางตัวเป็นกลางในการแสดงความคิดเห็น จึงงดออกเสียงในทุกกรณี) ดังนั้นแปลว่า ทุกท่านในที่ประชุม เห็นด้วย
โดยตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาจำนวน 15 คน กำหนดแปรญัตติภายใน 7 วัน กรอบงานระยะเวลาดำเนินงาน 30 วัน
ฉบับที่พูดถึงวันนี้เป็นฉบับกฤษฎีกา ซึ่งแย่มาก แทบไม่ได้ช่วยสัตว์
อย่างที่ท่านผู้อภิปรายท่านแรกติงไว้ คือ เหตุใดไม่รวมสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์เลี้ยง (นั่นแปลว่า ช้างขอทาน ลิง หรือสัตว์ป่าอื่นๆที่ถูกนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง และถูกเลี้ยงอย่างทารุณไม่มีสวัสดิภาพก็ไม่รวม)
การทรมานสัตว์หมวดที่ 4 มาตรา 17 ก็จะมีระบุเพียงค่า >> "ห้ามมิให้ผู้ใดทำการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร" เพียงแค่นั้น
การฆ่าสัตว์เพื่อพิธีกรรมอย่างโหดร้ายก็ไม่ผิด
และคำว่า >>โดยไม่มีเหคุอันสมควร<< .... ขึ้นกับดุลยพินิจใคร เชื่อถือได้หรือไม่ และ อะไรคือบรรทัดฐาน???
ขอบพระคุณ ท่านผู้อภิปรายท่านแรกที่มองว่า ขอโทษสูงเพิ่มขึ้นด้วย คุก 1 ปี ขอเป็น 2 ปี และจาก 20,000 ขอเพิ่มปรับเป็น 50,000บาท!
นอกจากนี้ยังมีผู้อภิปรายผญอีกท่าน ระบุเลยว่า ขอให้มีกม.จัดการเรื่องกระทำทารุณทางเพศกับสัตว์ แบบที่ประเทศอื่นๆมีกม.จัดการ เช่น รัฐอิลลินอยซ จำคุก 50 ปี 50,000 USD!
ทุกอย่างจะโอเคมาก หากไม่มีผู้นี้ กล่าวเช่นนี้
นางพิไรพรรณ สมบัติศิริ สมาชิกสนช. อภิปรายว่าตนเห็นด้วยในหลักการ แต่ต้องคิดถึงความสอดคล้องกับวัฒนธรรมไทยด้วย เช่น รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี เมื่อมีการนำสัตว์มาเลี้ยงในบ้าน ก็ควรมีการอบรมมิเช่นนั้นจะเป็นอันตรายต่อมนุษย์และทรัพย์สินได้ เช่น ช้างที่ต้องใช้ภูมิปัญญาไทยด้วยพิธีกรรมผ่าจ้าน ก็ไม่ควรเข้าข่ายเป็นการทารุณสัตว์ส่วนผู้รักษากฎหมายก็ต้องเข้มงวดและ ควรระบุโทษให้หนักมากกว่านี้
A CALL >> โปรดชมคลิบผ่าจ้าน [ame=http://www.youtube.com/watch?v=SVckvi_gWVo]Breaking the spirit of the elephant - YouTube[/ame]
นี่คือ "วิธีการพรากจิตวิญญานสัตว์ป่า" หรือ "ผ่าจ้าน" จะถูกกระทำลับๆในป่า หรือหลังปาง ไม่ให้คนเห็นเด็ดขาด ช้างน้อยจะถูกพรากจากอกแม่ อดอาหาร ขอสับ เฆี่ยน ตีทารุณ ทำให้กลัวจนถึงขีดสุด กลัวควาญ กลัวขอ จะได้ฟังคำสั่ง
เมื่อฝึกเสร็จ จะถูกส่งตัวไปตามปางช้าง หรือ สถานที่ที่โชว์การแสดงช้าง ขี่ช้างท่องเที่ยว ช้างวาดรูป ช้างเตะบอล ช้างขอทาน หรือการใช้ช้างหากินทุกประเภท
เนื้อข่าว >> ʹ

 

符淑慧 ได้แบ่งปัน อัพเดตสถานะ ของ การแพทย์แผนจีน
ผังผืดในมือและข้อมือ คือ อะไร ???



ในบริเวณมือและข้อมือมีปัญหาที่เกิดจากผังผืดทับเส้นเอ็นและเส้นประสาทอยู่หลายตำแหน่ง ตำแหน่งที่สำคัญและพบบ่อยๆ มีดังนี้
1. ผังผืดรัดเส้นประสาทที่ข้อมือ (Carpal tunnel syndrome)
เป็นกลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการกดทับของผังผืดบนเส้นประสาทที่บริเวณข้อมือ ทำให้มีอาการดังต่อไปนี้



-ปวด ชาบริเวณฝ่ามือและนิ้วมือจะมีอาการข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้าง มักจะมีอาการเด่นชัดในมือข้างที่ถนัด โดยเฉพาะนิ้วโป้ง ชี้ กลาง และนิ้วนางครึ่งนิ้ว
-เมื่อย มือง่ายเมื่อทำงานออกแรง มีอาการอ่อนแรงของมือ และนิ้วมือ เช่น กำมือได้ไม่แน่น หยิบจับของแล้วหล่นง่าย ถ้าไม่รีบรักษา จะสังเกต เห็นกล้ามเนื้อในมือฝ่อลีบ อาจพบว่ามีอาการมากขึ้นในตอนกลางคืน บางครั้งผู้ป่วยอาจตื่นขึ้นมาเนื่องจากอาการปวด แต่เมื่อสะบัดข้อมือ แล้วมีอาการดีขึ้น
เพศหญิงพบได้บ่อยกว่าเพศชาย อายุที่พบบ่อยคือประมาณ 35-40 ปี
สตรีอาจมีอาการขณะตั้งครรภ์
ผู้ที่ใช้ข้อมือกระดกขึ้นลงบ่อยๆ หรือทำงานที่มีการสั่นสะเทือน ของมือและแขนอยู่เป็นเวลานาน ดังนั้นจะพบโรคนี้ได้บ่อยในกลุ่มแม่บ้านที่ทำกับข้าว ซักผ้า พนักงาน โรงงาน พนักงานขุด เจาะถนน
2. ผังผืดรัดเส้นเอ็นที่นิ้ว ( นิ้วล็อค )
ผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนนิ้วถูกล็อค นั่นคือ กำมืองอนิ้วได้ แต่เวลาเหยียดนิ้ว จะเหยียดไม่ออกเหมือนโดนล็อคไว้ จึงเป็นที่มาของคำว่า "นิ้วล็อค"ภาษาอังกฤษเรียกว่า "Trigger Finger" เป็น โรคที่เกิดจากการอักเสบของเยื่อหุ้มเส้นเอ็นงอนิ้วบริเวณฝ่ามือตรงตำแหน่ง โคนนิ้ว มีโอกาสเป็นได้ทุกนิ้ว ผู้ป่วยบางคนอาจจะเป็น 2 หรือ 3 นิ้วพร้อมกันได้ หรือเป็นที่มือทั้ง 2 ข้าง พบบ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อายุประมาณ 40 - 50 ปี โดยโรคนี้ทำให้ผู้ป่วยเกิดความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยมากจะเกิดกับผู้ที่ใช้งานมือในลักษณะเกร็งนิ้วบ่อยๆ เช่น การทำงานบ้านต่างๆ การหิ้วของหนักการใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้ ตัดผ้า การยกของหนักต่างๆ เป็นต้น
3. ผังผืดรัดเส้นเอ็นที่ข้อมือ ( Dequervain's syndrome)
เป็นการอักเสบและตีบแคบของปลอกหุ้มเอ็น (tenosynovitis) ที่ ใช้ในการกระดกนิ้วหัวแม่มือ แต่การตีบแคบและอาการแสดงจะเจ็บบริเวณที่ข้อมือ โครงสร้างเอ็นสองเส้นที่มาบังคับการทำงานของนิ้วหัวแม่มือจะวิ่งในปลอกหุ้ม เอ็น เอ็นจะมีเยื่อหุ้มเอ็นซึ่งจะทำหน้าที่ทำให้เอ็นเคลื่อนในปลอกลื่นไหล เมื่อปลอกหุ้มเอ็นอักเสบหรือบวมจะทำให้เกิดอาการปวด (ตามรูป) การ ตรวจผู้ป่วยจะเจ็บมากขึ้นเมื่อกระดกข้อมือขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีแรงต้านการกระดกข้อมือ หรือต้องบิดหมุนขวด สาเหตุมักจะเกิดเนื่องจากการใช้งานของข้อมือและนิ้วหัวแม่มือในลักษณะกระดก ข้อมือซ้ำๆ เช่น การหยิบสิ่งของต่าง การทำงานในโรงงาน การทำงานสวน งานหนัก บางรายเกิดในช่วงที่ต้องอุ้มเด็กเป็นเวลานานๆ
ภาวะโรคทั้งสามที่กล่าวมา การรักษามักเริ่มต้นด้วยการปรับรูปแบบการทำงาน ลดสาเหตุที่ทำให้เจ็บและเกิดการอักเสบมากขึ้น อาจจะทานยาต้านการอักเสบ ยาลดปวดและลดบวมร่วมด้วย เมื่ออาการเป็นมาก เป็นมานาน และได้รับการรักษาด้วยวิธีต่างๆข้างต้นแล้วไม่ดีขึ้นหรือไม่หายสนิท สามารถใช้วิธีการฉีดยาต้านการอักเสบเฉพาะที่ หรือจะเลือกวิธีการผ่าตัดเพื่อให้อาการหายและไม่กลับมาเป็นอีก การเลือกวิธีการรักษาโดยการผ่าตัดควรปรึกษาแพทย์เพื่อได้อธิบายข้อดีข้อเสีย และการปฎิบัติตัวก่อนและหลังผ่าตัดได้อย่างครบถ้วน
ขอบคุณข้อมูล นพ. สุขสันต์ ตั้งสถาพร ศัลยแพทย์ ออร์โธปิดิกส์ ศูนย์กล้ามเนื้อกระดูกและข้อโรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี
Credit by :https://www.facebook.com/FoodandHealthforyou?ref=stream
คลินิกจันทน์ ตรวจรักษาด้วยการแพทย์แผนจีน
https://www.facebook.com/ChinMed/app_137541772984354

 

นอนกลางคืนพร้อมโทรศัพท์ที่กำลังชาร์จ ทำให้อ้วนได้
10 ต.ค. 57 12.05 น.



นักวิทยาศาสตร์ชาวสเปน ค้นพบว่า ขณะที่เรานอนหลับและชาร์จโทรศัพท์ไว้ข้างตัว หรือเปิดโทรศัพท์เล่นยามค่ำคืน อาจทำให้เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้เจ้าของเครื่องโดยไม่รู้ตัว
เมื่อไม่นานมานี้มีการค้นพบใหม่เกี่ยวกับเหตุผลที่ทำไมคนเราถึงน้ำหนักขึ้นได้ง่าย ซึ่งผลการวิจัยใหม่นี้เป็นของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวสเปน พวกเขาค้นพบว่าลำแสงที่ปล่อยออกมาจากหน้าจอโทรศัพท์, แทปเลต, โทรทัศน์ และแล็ปท็อป นั้นมีผลทำให้ฮอร์โมนที่ทำให้เพิ่มน้ำหนักในร่างกายโดยไม่รู้ตัว
โดยเมลาโทนีน เป็นสารที่พบได้ในพืช, สัตว์, และมนุษย์ เป็นสารที่ช่วยควบคุมการนอนหลับ และช่วยในระบบการเผาผลาญของร่างกาย โดยเมื่อเรานอนหลับพร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ ลำแสงที่ปล่อยออกมาจะไปยับยั้งและหยุดกระบวนการเผาผลาญของเรา ทำให้อ้วนขึ้นโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้
ด้านศาสตราจารย์อาเหม็ด อากิล หัวหน้าในการวิจัยกล่าวว่า แสงไฟประดิษฐ์ที่เกิดขึ้นยามค่ำคืนนั้น เป็นตัวลดประสิทธิภาพการเผาผลาญ นั่นหมายถึงร่างกายไม่สามารถจัดระบบได้ดีเท่าที่ควรจะเป็น ซึ่งคำแนะนำที่ศาสตราจารย์ให้ไว้ก็คือ ถ้าเป้นไปได้ควรปิดหน้าจอโทรศัพท์ในช่วงที่ไม่ได้ใช้งาน หรือตอนชาร์จ
ที่มา : metro.co.uk
สนับสนุนเนื้อหา: Smart Voice - Voice TV
นอนกลางคืนพร้อมโทรศัพท์ที่กำลังชาร์จ ทำให้อ้วนได้

 

Maeban



“ไมโครเวฟ” เป็นอุปกรณ์เครื่องครัวที่ทุกบ้านจำเป็นต้องมี เพื่อใช้อุ่นอาหารและใช้ปรุงอาหาร แต่เมื่อใช้ไปนานๆอาจจะเกิดคราบสกปรกติดตามผนังไมโครเวฟ และมีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ติดอยู่ในไมโครเวฟ วันนี้แอดมินจึงมี “วิธีทำความสะอาดไมโครเวฟด้วยน้ำส้มสายชู” มาฝากเพื่อนๆค่ะ
**อุปกรณ์ : น้ำเปล่า 1 ถ้วย // น้ำส้มสายชู หรือน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
**วิธีทำ
1. ใส่น้ำเปล่า และน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวลงไปในถ้วย จากนั้นนำไปตั้งในไมโครเวฟ แล้วเปิดเป็นเวลา 5 นาที เพื่อให้ไอน้ำจับตัวบนเพดานและผนังเตาด้านใน เพราะไอน้ำจะช่วยคลายคาบสกปรกที่เกาะแน่นออก ส่วนน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวจะช่วยดับกลิ่นคาว และฆ่าเชื้อแบคทีเรียในไมโครเวฟได้ค่ะ
2. จากนั้นนำผ้าสะอาดหรือฟองน้ำ มาทำความสะอาดไมโครเวฟ (ควรระมัดระวังความร้อนด้วยนะคะ)
**แค่นี้คราบสกปรกในไมโครเวฟก็จะหลุดออกได้ง่ายแล้วค่ะ**

 

นักกีฬาที่ใช้โด๊ป เครื่องร้อนเกินไป
โดย ทีมข่าวการศึกษา 13 ต.ค. 2557 08:01



มหาวิทยาลัยคาวิโล โฮเซ่ ของสเปน ศึกษาหาข้อดีและข้อเสียของนักกีฬาประเภทต่างๆ ที่โด๊ปด้วยเครื่องดื่ม โฆษณาอ้างว่าช่วยชูกำลัง พบว่าแม้จะช่วยให้นักกีฬามีสมรรถภาพดีขึ้นบ้าง แต่ก็มีข้อเสียทำให้นอนไม่หลับ เกิดความร้อนรน ตื่นเต้นมากเกินไป
อาจารย์ฮวน เดล โคโซ การิกัส ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ เปิดเผยว่า “นักกีฬายอมรับว่า รู้สึกแข็งแรง มีความทรหดอดทนจากการดื่มเครื่องดื่มพวกนี้เพิ่มขึ้นยิ่งกว่าน้ำธรรมดา แต่มันก็ทำให้รู้สึกนอนไม่หลับ ร้อนรน และยังรู้สึกถูกกระตุ้นอยู่อีก แม้ว่าการแข่งขันจะเลิกราไปตั้งนานหลายชั่วโมงแล้ว”
นักวิจัยพบว่า นักกีฬาอย่างนักฟุตบอล บาสเกตบอล รักบี้ วอลเลย์บอล เทนนิส และฮอกกี้ มักจะพากันดื่มเครื่องดื่มพวกนี้กันคนละ 3 กระป๋อง พวกเขาจะรู้สึกเหมือนกับว่า ทำให้มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นอีกได้ระหว่างร้อยละ 3-7 แต่ในเวลาเดียวกันก็ต้องได้รับผลข้างเคียงเช่นเดียวกันกับการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างอื่น
เครื่องดื่มเหล่านี้ มักจะมีส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรต คาเฟอีน ทอรีน อันเป็นกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ชนิดหนึ่ง ที่พบในน้ำดีและพบเล็กน้อยในเนื้อเยื่อของปอดและกล้ามเนื้อกับวิตามินบี.
นักกีฬาที่ใช้โด๊ป เครื่องร้อนเกินไป - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

แปลงเป็นกบจำศีล เพื่อไปดาวอังคาร
โดย ทีมข่าวการศึกษา 13 ต.ค. 2557 12:01



องค์การอวกาศสหรัฐฯกำลังคิดหาวิธีลัดในการส่งมนุษย์เดินทางไปยังดาวอังคาร โดยทำให้พวกเขาเหล่านั้นอยู่ในสภาพเหมือนกบจำศีลไปตลอดการเดินทางอันยาวนาน ซึ่งจะไม่ต้องกินอะไรเลย
วิศวกรอวกาศผู้เชี่ยวชาญ นายมาร์ค เชฟเฟอร์ ได้แจ้งว่า ความคิดเรื่องนี้ได้คิดกันมาตั้ง 20-30 ปีมาแล้ว เพียงแต่ว่าการทำให้คนเราไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าตามปกติยังทำได้อย่างจำกัด อยู่ได้อย่างมากนานไม่เกิน 1 อาทิตย์เท่านั้น
ความคิดในเรื่องนี้คิดไว้ว่า อาจใช้การวางยาทำให้มนุษย์อวกาศตกอยู่ในสภาวะของกบจำศีล รวมทั้งการให้อาหารทางเส้นสายตลอดเวลาการเดินทางไปยังดาวอังคาร ซึ่งประมาณว่ากินเวลานานถึง 180 วัน หรือไม่ก็ให้ลูกเรือผลัดกันอยู่ในภาวะกบจำศีลคนละนาน 14 วัน โดยคนที่เหลือคอยอยู่เวรกันคนละนาน 2-3 วัน.
แปลงเป็นกบจำศีล เพื่อไปดาวอังคาร - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

หญิงขี้หึงเสี่ยงเป็น โรคสมองเสื่อม
โดย ทีมข่าวการศึกษา 13 ต.ค. 2557 10:01



นักวิทยาศาสตร์เปิดหน้าการศึกษาเรื่องใหม่ พบว่าผู้หญิงวัยกลางคน คนที่ขี้หึง เจ้าอารมณ์และซึมเศร้า จะเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมยามแก่ตัว
นักวิจัยลีนา โจฮานน์สัน มหาวิทยาลัยกอเทนเบิร์กของสวีเดน ผู้ค้นคว้าพูดให้ฟังว่าบุคลิกภาพของบุคคลอาจมีอิทธิพลทำให้ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมขึ้นสูง จากพฤติกรรม สภาพความเป็นอยู่ หรือปฏิกิริยาที่มีต่อความเครียดของตนเองได้
อาจารย์โจฮานน์สันเพิ่งได้ศึกษาจากสตรี 800 คน อายุเฉลี่ย 46 ปี ติดตามต่อเนื่องมา 38 ปี ทั้งยังได้ทดสอบทางบุคลิกภาพ เพื่อดูระดับความผิดปกติเกี่ยวกับโรคประสาท โดยระหว่างนี้มีผู้ป่วยเป็นสมองเสื่อมไปร้อยละ 19
ผลจากการศึกษาได้พบว่า คนที่มีคะแนนการทดสอบแสดงอาการของโรค ประสาทสูงสุด เสี่ยงกับการเป็นโรคสมองเสื่อมสูงกว่าผู้ที่มีคะแนนการทดสอบต่ำสุดกว่ากันถึง 2 เท่า เนื่องจากอิทธิพลของความเครียดที่เป็นอยู่นาน.
หญิงขี้หึงเสี่ยงเป็น โรคสมองเสื่อม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

คาดผู้ติดเชื้ออีโบลารายที่2ในสหรัฐฯ พลาดระหว่างปฏิบัติหน้าที่
โดย ข่าวต่างประเทศ 13 ต.ค. 2557 11:39



ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ ยืนยัน เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยรายแรกในสหรัฐฯ ติดอีโบลาเป็นรายที่ 2 คาดเกิดจากความผิดพลาดระหว่างปฏิบัติหน้าที่...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่านายทอม ฟรีเดน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (ซีดีซี) แถลงยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เพศหญิงของโรงพยาบาล 'เทกซัส เฮลธ์ เพรสไบเทอเรียน' ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ซึ่งดูแล นายโธมัส อีริค ดันแคน ผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกบนแผ่นดินสหรัฐฯ มีผลการตรวจเลือดเป็นบวก นับเป็นคนไข้ติดเชื้อไวรัสอีโบลารายที่ 2 ในสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ถูกกักตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการแล้ว และมีอาการทรงตัว อีกทั้งยังมีการเฝ้าดูอาการบุคคลที่ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวอีก 48 คน

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า มีความเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่รายนี้จะติดเชื้อจากกระบวนการกรองของเสียออกจากเลือด หรือกระบวนการใส่ท่อช่วยหายใจ ซึ่งป็นกระบวนการที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ ในระหว่างการดูแลนายดันแคน ทั้งที่ได้รับการเตือนให้ใส่อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อทุกครั้งที่ปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ นายฟรีเดนยังกล่าวว่า จะต้องมีการยกระดับการให้ความรู้และการฝึกอบรมเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลา รวมถึงวิธีป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อแก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และจะพยายามลดจำนวนเจ้าหน้าที่ทางแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ



@เจ้าหน้าที่เข้าทำความสะอาดอพาร์ตเมนท์ของผู้ป่วย

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อมอพาร์ตเมนต์ของผู้ติดเชื้อรายที่ 2 เพื่อทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคบริเวณพื้นที่โดยรอบที่พักของผู้ป่วยแล้ว

ทั้งนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอีโบลาแล้วกว่า 8,300 ราย และมีผู้เสียชีวิตอีกกว่า 4,033 ศพ.

คาดผู้ติดเชื้ออีโบลารายที่2ในสหรัฐฯ พลาดระหว่างปฏิบัติหน้าที่ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เผย จนท.รพ.สหรัฐที่ติดอีโบลารายที่ 2 ใส่ชุดป้องกันเต็มที่แล้ว
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 12 ต.ค. 2557 23:48



เจ้าหน้าที่การแพทย์ของ 'เทกซัส เฮลธ์ เพรสไบเทอเรียน' ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ติดเชื้อทั้งที่ใส่เครื่องป้องกัน ระหว่างที่ดูแล นายโธมัส อีริค ดันแคน ผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกในสหรัฐฯ ขณะที่อาการของผู้ป่วยรายที่ 2 ยังคงที่...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่การแพทย์ของ 'เทกซัส เฮลธ์ เพรสไบเทอเรียน' ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ติดเชื้อทั้งที่ใส่เครื่องป้องกัน ในระหว่างที่ดูแล นายโธมัส อีริค ดันแคน ผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา ที่ล่าสุดเพิ่งเสียชีวิตไป โดยขณะนี้ คนไข้รายที่ 2 ยังมีอาการคงที่ หากผลการตรวจเป็นที่ยืนยันนี่จะเป็นการติดต่อของโรคอีโบลาครั้งแรกในแผ่นดินสหรัฐอเมริกา



@โรงพยาบาล เทกซัส เฮลธ์ เพรสไบเทอเรียน

นพ.แดเนียล วาร์กา แห่ง Texas Health Resources กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ผู้ปฏบัติงานได้ใส่เสื้อกาวน์ ถุงมือ และหน้ากาก ที่เป้นเรื่องป้องกันระหว่างที่ดูแลนักษานายโธมัส อีริค ดันแคน ระหว่างที่เขามารับการรักษาตัวครั้งที่ 2 ที่โรงพยาบาล เทกซัส เฮลธ์ เพรสไบเทอเรียน โดยไม่ได้ระบุตัวตนของผู้ติดเชื่อเนื่องจากทางครอบครัวขอสงวนสิทธิ์ความเป็นส่วนตัว



@ผู้ป่วยอีโบลารายที่ 2 ติดเชื้อทั้งที่ใส่ชุดป้องกัน

จนท.รายดังกล่าวรายงานว่ามีอาการไข้เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา และในการเป็นหนึ่งในขั้นตอนการตรวจสอบด้วยตัวเอง ตามขันตอนของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคในแอตแลนตา เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ จะถูกคัดแยก และทางโรงพยาบาลก็ได้หยุดรับคนไข้ฉุกเฉินรายใหม่เข้ามาแล้ว
นพ.เดวิด เลคคี กรรมาธิการฝ่ายบริการทางการแพทย์ของรัฐเทคซัส กล่าวว่า เรารู้ว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีผู้ติดเชื่อรายที่ 2 และเราก้ได้มีการเตรียมการเพื่อรับมือกับความเป็นไปได้อันนี้แล้ว เราได้รัดมทีมในเมืองดัลลัส เข้ามาเพื่อรับมือ และทำงานอย่างรอบคอบมากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายออกไป



@ทีม HAZMAT เข้าทำความสะอาดอพาร์ตเมนต์ของผู้ป่วย
จนท.สาธารณสุขได้มีการสัมภาษณ์ผู้ป่วย เพื่อสอบถามรายชื่อคนที่มีโอกาสได้รับเชื้อจากการติดต่อ โดยผู้ที่ถูกระบุชื่อจะได้รับการเฝ้าระวังอาการ เพราะมีโอกาสที่จะได้รับเชื้อไวรัส นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่า มีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านของผู้ป่วย ซึ่งทางภาครัฐแผนในการนำสัตว์ไปดูแลในสถานที่ที่มีการควบคุม และไม่เชื่อว่า สัตว์เลี้ยงมีสัญญาณใดๆ ที่บอกว่าได้รับเชื้ออีโบลา
ทั้งนี้ ทีมรับมือกับวัตถุอันตรายของ ดัลลัส หรือ Dallas hazmat unit ได้เข้าไปยังอพาร์ตเมนท์ของผู้ติดเชื้อรายที่ 2 เพื่อทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคพื้นที่โดยรอบที่อยู่อาศัยของผู้ป่วย.
ที่มา : mashable
เผย จนท.รพ.สหรัฐที่ติดอีโบลารายที่ 2 ใส่ชุดป้องกันเต็มที่แล้ว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

จนท.การแพทย์เทกซัสติดเชื้ออีโบลา รายที่ 2 ในสหรัฐฯ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 ต.ค. 2557 17:55



ผลการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้ออีโบลาขั้นต้น ของเจ้าหน้าที่การแพทย์คนหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอีโบลารายแรกในสหรัฐฯ พบว่าได้ผลเป็นบวก...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผลการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้ออีโบลาขั้นต้น ของเจ้าหน้าที่การแพทย์คนหนึ่งของโรงพยาบาล 'เทกซัส เฮลธ์ เพรสไบเทอเรียน' ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ซึ่งดูแล นายโธมัส อีริค ดันแคน ผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่าได้ผลเป็นบวก
สำนักงานสาธารณสุขรัฐเทกซัสระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า เจ้าหน้าที่การแพทย์รายนี้มีไข้ระดับต่ำในช่วงคืนวันศุกร์ และถูกแยกเดี่ยวเพื่อตรวจเลือดหาเชื้ออีโบลา โดย ดร. เดวิด เลกคี คณะกรรมการของสำนักงานสาธารณสุขรัฐเทกซัสกล่าวว่า พวกเขาเตรียมการรับมือสำหรับการพบผู้ติดเชื้ออีโบลารายที่ 2 เอาไว้แล้ว



@โธมัส อีริค ดันแคน

ทั้งนี้ โธมัส อีริค ดันแคน ชายชาวไลบีเรียเป็นคนแรกในสหรัฐฯ ที่ถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้ออีโบลา โดยเขาเริ่มแสดงอาการป่วยของโรคไข้เลือดออกอีโบลาเป็นครั้งแรกในวันที่ 24 ก.ย. และเข้ารับการตรวจเป็นครั้งแรกในวันที่ 26 ก.ย. และแอดมิทเข้าโรงพยาบาลในวันที่ 28 ก.ย. ก่อนจะเสียชีวิตลงในวันที่ 8 ต.ค.
จนท.การแพทย์เทกซัสติดเชื้ออีโบลา รายที่ 2 ในสหรัฐฯ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

หวั่นระเบิด! ภูเขาไฟ 'มายอน' พ่นลาวาอีก รบ.อพยพคนหลายหมื่น
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 ต.ค. 2557 15:38



'มายอน' ภูเขาไฟที่ยังมีพลังมากที่สุดในประเทศฟิลิปปินส์ เริ่มปล่อยลาวาไหลออกจากปากปล่องภูเขาไฟอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ (12 ต.ค.) ทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่า ภูเขาไฟลูกนี้อาจจะระเบิดในไม่ช้า...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเรนาโต โซลิดัม หัวหน้าสถาบันแผ่นดินไหววิทยาและภูเขาไฟวิทยา กล่าวในวันอาทิตย์ว่า ภูเขาไฟมายอนเริ่มมีความเคลื่อนไหวเมื่อ 15 ก.ย. โดยเคลื่อนไหวติดต่อกันนาน 2-3 วัน หลังจากนั้นก็ค่อยสงบลง แต่ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ นักภูเขาไฟวิทยาของสถาบันฯ พบเห็นลาวาไหลออกมา โดยลาวาเคลื่อนที่อย่างช้าๆ เป็นระยะทางประมาณ 350 จากยอดเขา
นายโซลิดัมเตือนด้วยว่า การไหลของลาวาจากภูเขาไฟมายอน มักตามมาด้วยการระเบิด แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าการระเบิดจะเกิดขึ้นในเวลาใด โดยขณะนี้แม็กมาภายในภูเขาไฟกำลังเพิ่มสูงขึ้นจนถึงปากปล่องอย่างช้าๆ แต่ความเร็วอาจเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวและการระเบิดเล็กๆ และเป็นไปได้ที่จะเกิดการระเบิดที่รุนแรงกว่าตามมา
ทั้งนี้ ภูเขาไฟมายอนมีความสูง 2,460 เมตร ตั้งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 330 กิโลเมตร มีประวัติการระเบิดซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายครั้ง
นายเบร์นาร์โด อเลฮันโดร หัวหน้าชุดปฏิบัติการป้องกันพลเรือนในพื้นที่รอบภูเขาไฟมายอน กล่าวว่า รัฐบาลได้สำรวจพื้นที่ทางอากาศแล้ว และยกระดับการเตือนภัยภูเขาไฟระเบิดขึ้นสู่ระดับ 3 และจนถึงขณะนี้ รัฐบาลได้ออกคำสั่งอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตอันตรายรัศมี 6 กิโลเมตรรอบภูเขาไฟมายอนแล้ว 63,000 คน
นายอเลฮันโดร เผยด้วยว่า คณะรัฐมนตรีกำลังพิจารณาว่า ควรจะยกระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 4 ซึ่งหมายถึงมีความเป็นไปได้ที่ภูเขาไฟจะระเบิดภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่
หวั่นระเบิด! ภูเขาไฟ 'มายอน' พ่นลาวาอีก รบ.อพยพคนหลายหมื่น - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ยืนยัน′อีโบลา′ ไม่ติดต่อทางอากาศ
วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10:05:14 น.



แม้ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาและระบาดวิทยาเห็นตรงกันว่า ไวรัสอีโบลาที่กำลังระบาดหนักอยู่ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกของทวีปแอฟริกาใน เวลานี้ เป็นไวรัสที่ร้ายแรง แต่ทุกคนก็ไม่เชื่อว่า ไวรัสร้ายแรงนี้จะสามารถกลายพันธุ์จนติดต่อผ่านลมหายใจ หรือแพร่ระบาดผ่านอากาศได้ เหมือนไวรัส ซาร์ส หรือไวรัสไข้หวัดนก
ศ.เดวิด เฮย์แมนน์ ประธานสภาสาธารณสุขแห่งอังกฤษ และผู้สอนวิชาโรคติดเชื้อและระบาดวิทยา ที่ลอนดอน สคูล ออฟ ไฮยีน แอนด์ ทรอปิคอล เมดิซีน ระบุว่า ไม่เคยมีประวัติว่ามีไวรัสใดที่แพร่เชื้อผ่านของเหลวจากร่างกายเหมือนกับอี โบลา จะสามารถกลายพันธุ์แล้วกลายเป็นไวรัสที่มีความสามารถในการแพร่ระบาดทางอากาศ ได้
ศ.เฮย์แมนระบุว่า ไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าไวรัสซึ่งแพร่ระบาดในแบบเดียวกับอีโบลา เคยกลายพันธุ์เป็นไวรัสในระบบทางเดินหายใจมาก่อนไม่ว่าจะระบาดอยู่ในกลุ่มคน ยาวนานขนาดไหน โดยยกตัวอย่างที่ชัดเจนว่า เช่น เอชไอวี ไวรัส และไวรัสตับอักเสบบี ก็เป็นไวรัสที่แพร่ผ่านของเหลวจากภายในร่างกายเช่นเดียวกัน และไม่เคยกลายพันธุ์เป็นไวรัสในระบบทางเดินหายใจ หรือไวรัสที่สามารถติดต่อผ่านระบบทางเดินหายใจมาก่อน
ทางด้าน นพ.เจเรมี ฟาร์ราร์ ผู้อำนวยการกองทุนเวลคัมทรัสต์ ยืนยันเช่นเดียวกันว่า เมื่อพูดถึงการกลายพันธุ์เป็นไวรัสที่ติดต่อทางอากาศ ต้องพูดให้ชัดเจนด้วยว่า มีโอกาสแต่น้อยมาก และย้ำเช่นกันว่า เท่าที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ยินว่ามีการกลายพันธุ์ในลักษณะนี้ หรือแม้กระทั่งไวรัสที่แพร่ระบาดในทางหนึ่ง กลายพันธุ์เป็นไวรัสที่แพร่ระบาดในอีกทางก็ไม่เคยมีเช่นเดียวกัน
"เมื่อพูดว่ามีโอกาสกลายพันธุ์เป็นอีโบลาที่แพร่ระบาดทางอากาศได้อยู่บ้าง ก็ต้องพูดควบคู่ไปกับสัดส่วนของการเกิดเช่นนี้ด้วยว่า มีอยู่น้อยอย่างยิ่ง เพื่อไม่ให้เป็นการขยายความหวาดกลัวให้มากเกินจริงไป เท่าที่เป็นอยู่อีโบลาก็สร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นมากแล้ว" นายแพทย์ผู้นี้กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายแอนโธนี บันบิวรี ตัวแทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติว่าด้วยภารกิจอีโบลา เตือนว่า การที่ไวรัสอีโบลาระบาดอยู่ในผู้คนเป็นเวลานานมากเท่าใด ยิ่งเปิดโอกาสให้มีการกลายพันธุ์มากขึ้นเท่านั้น
และแม้การกลายพันธุ์เป็นการแพร่ระบาดทางอากาศจะถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่จะเกิดขึ้นได้และไม่น่าจะเกิดขึ้น
แต่ก็ไม่ควรคิดว่าไม่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นโดยสิ้นเชิงในยามที่ต้องระวังอย่างรอบคอบเช่นเวลานี้
ยืนยัน′อีโบลา′ ไม่ติดต่อทางอากาศ : มติชนออนไลน์

 

สหรัฐยอมรับมีช่องโหว่ในระบบป้องกันอีโบลา



ทางการสหรัฐเผยมีความผิดพลาดในมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังเชื้อไวรัสอีโบลา หลังพบผู้ป่วยคนที่ 2 ในประเทศ เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลชายชาวไลบีเรีย ซึ่งเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

State Health Officials: 2nd Ebola Case in Texas - YouTube
วันจันทร์ 13 ตุลาคม 2557 เวลา 08:45 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ว่านพ.ทอม ฟรีเดน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐ ( ซีดีซี ) แถลงยืนยันการพบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาคนที่ 2 ในประเทศ เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหญิงซึ่งรับหน้าที่ดูแลนายโธมัส เอริค ดันแคน ชายชาวไลบีเรียซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะคนแรกที่แสดงอาการในสหรัฐ และเสียชีวิตเมื่อวันพุธที่แล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่หญิงคนดังกล่าวเข้ารับการกักบริเวณอยู่ภายในศูนย์การแพทย์เทกซัส เฮลธ์ เพรสบิเทียเรียนแล้ว และอาการเบื้องต้นยัง "ทรงตัว" อย่างไรก็ตาม ซีดีซีสั่งเฝ้าระวังบุคคลใกล้ชิดผู้ป่วยรายนี้อีกอย่างน้อย 48 คน เป็นเวลา 21 วัน ซึ่งอยู่ในระยะการฟักตัวของเชื้อไวรัสอีโบลา รวมถึงตั้งคณะกรรมการสืบสวนอย่างละเอียดและเร่งด่วนที่สุด เพื่อหาความผิดพลาดว่าการติดเชื้อเกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่เจ้าหน้าที่หญิงสวมเครื่องป้องกันอย่างรัดกุม
การเสียชีวิตของดันแคนและการได้รับเชื้อของเจ้าหน้าที่หญิงรายนี้ก่อให้เกิดความกังวลอย่างหนักในสังคมอเมริกันทันที ว่าสหรัฐมีความพร้อมรับรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาจริงหรือไม่ และจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไม่ให้ลุกลามออกสู่วงกว้างได้มากน้อยเพียงใด
ขณะที่ท่าอากาศยานเจเอฟเคในนครนิวยอร์ก เริ่มมาตรการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าอย่างเข้มงวดเมื่อวันเสาร์ โดยผู้โดยสารที่เดินทางมาจากไลบีเรีย กินี และเซียร์ราลีโอน ซึ่งเป็น 3 ประเทศในภูมิภาคตะวันตกของทวีปแอฟริกา ซึ่งมีอัตราการระบาดของโรคอย่างหนักจะได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ โดยนับตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมา เชื้อไวรัสมรณะคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 4,000 ศพ จากจำนวนผู้ป่วยสะสมกว่า 8,400 คน
สหรัฐยอมรับมีช่องโหว่ในระบบป้องกันอีโบลา | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

อีโบลาลามไปบอสตันกักตัวผู้ต้องสงสัยติดไวรัสมรณะ



ศูนย์การแพทย์ชานเมืองบอสตัน สหรัฐ ทำการกักตัวผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสมรณะอีโบลาไว้บริเวณด้านนอกของโรงพยาบาล
วันจันทร์ 13 ตุลาคม 2557 เวลา 05:32 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่13ต.ค.ว่า ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยดับเพลิง พร้อมด้วยหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเดินทางมายังศูนย์การแพทย์ฮาร์วาร์ด แวนการ์ด ในเมืองเบรนทรี รัฐแมสซาชูเซตส์ เพื่อนำตัวชายต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสอีโบลาเข้ารับการกักตัวไว้บริเวณด้านนอกของโรงพยาบาล หลังมีอาการปวดศีรษะและกล้ามเนื้อ ซึ่งเข้าข่ายอาการของโรค
อย่างไรก็ตามโรงพยาบาล และหน่วยดับเพลิงเมืองเบรนทรียังไม่ได้ให้ความเห็นใดๆกับเรื่องนี้ ทั้งนี้การแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาในพื้นที่แอฟริกาตะวันตกคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า4,000ศพ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และกินี
การการกักตัวผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีโบลาในรัฐแมสซาชูเซสต์นี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการประกาศว่า มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐเทกซัสที่ดูแลชายชาวไลบีเรียที่ติดเชื้ออีโบลาและเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ติดเชื้ออีโบลาเพิ่มเป็นรายที่2ของสหรัฐ
สหรัฐพบอีกเหยื่ออีโบลารายที่ 2 | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

สหรัฐพบอีกเหยื่ออีโบลารายที่ 2



สหรัฐพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดเชื้อไวรัสอีโบลาเป็นรายที่ 2 แล้วที่ติดเชื้อในแผ่นดินสหรัฐ ต่อจากชายไลบีเรียที่เสียชีวิตไปก่อนหน้า
วันอาทิตย์ 12 ตุลาคม 2557 เวลา 18:52 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองดัลลัส สหรัฐเมื่อวันที่ 12ต.ค.ว่าดร.เดวิดลาคี กรรมาธิการสำนักงานบริการด้านสาธารณสุขของรัฐเทกซัสเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในรัฐเทกซัสอีกคนซึ่งเคยรักษานายโทมัส เอริกดันแคน ชายชาวไลบีเรียที่เสียชีวิตจากอีโบลาเมื่อวันพุธที่ผ่านมาติดเชื้อไวรัสอีโบลาจากผลการตรวจเบื้องต้นทำให้เขากลายเป็นคนที่ 2แล้วที่ติดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้ในแผ่นดินสหรัฐ “เรารู้ว่าต้องมีรายที่ 2เกิดขึ้นแน่และเราก็เตรียมความพร้อมรับมือสำหรับความเป็นไปได้อยู่แล้ว”
แถลงการณ์ฉบับหนึ่งที่โพสต์ลงในเว็บไซต์ของสำนักงานบริการด้านสาธารณสุขของรัฐเทกซัสเมื่อวันอาทิตย์ระบุว่าผลตรวจที่ได้รับการยืนยันแล้วจะดำเนินการโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคในแอตแลนตา
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขคนดังกล่าวมีไข้ลดต่ำลงเมื่อคืนวันศุกร์และถูกแยกตัวไปกักกันโรคส่วนผลตรวจร่างกายเบื้องต้นได้รับมาเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบุชื่อของเหยื่อรายนี้และไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเขาติดเชื้อได้อย่างไร
สหรัฐพบอีกเหยื่ออีโบลารายที่ 2 | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

Kunakorn Kay
มาแล้ว ยางที่ไม่ต้องเติมลมยาง



ที่ผมห่วงไม่ใช่ว่า จะผลิตทันไม่ทัน แพงหรือไม่ แต่ดูจากรูปร่างแล้ว กลัวว่า ปริมาณความต้องการยางพาราของโลก จะทยอยลดลงหน่ะสิครับ หรือว่า จะมีสินค้าอื่นยางพาราเป็นวัตถุดิบทดแทน อาจเป็นเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ เช่น ถุงมือยาง เป็นต้น แบบเชื้อโรคเริ่มเยอะขึ้น เลยต้องใช้ถุงมือยางกันมากขึ้นก็เป็นได้ ^__^
มาแล้ว…ยางรถที่ไม่ต้องเติมลม
Bridgestone ผู้ผลิตยางยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นเปิดตัวยางต้นแบบโมเดลใหม่ล่าสุดที่ไม่จำเป็นต้องสูบลมในงาน 2014 Paris Auto Show
ยางที่ไม่จำเป็นต้องสูบลมนี้เผยโฉมครั้งแรกเมื่อปี 2011 ซึ่งทาง Bridgestone พยายามคิดค้นพัฒนาอย่างหนักเพื่อนำมาใช้ทดแทนยางแบบเติมลมที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ยางรุ่นใหม่นี้มีลักษณะเป็นสายยางรัดกับล้อที่มีแกนเป็นซี่ๆทำจากซีเรซิ่นคล้ายล้อของจักรยาน สำหรับลดแรงกระแทกและรับน้ำหนักของตัวรถ
ประโยชน์ของยางนี้ก็คือ จะไม่มีปัญหายางแบน ยางแตก ยางระเบิดมากวนใจอีกต่อไปเพราะไม่จำเป็นต้องสูบลมเข้าไป ที่สำคัญทุกส่วนของยางตัวนี้สามารถนำมารีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้จึงช่วยลดปัญหาขยะทั้งในกระบวนการผลิตและยางที่ไม่ได้ใช้แล้ว คุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นแรกนั้นก็คือ การลดแรงกระแทกที่ทำได้ดีขึ้น การออกแบบใหม่ที่ช่วยลดความร้อนขณะวิ่ง เป้าหมายต่อไปของการพัฒนาก็คือ พยายามลดแรงตึงขณะเลี้ยวที่เกิดจากด้านข้างของยาง ทาง Bridgestone วางแผนที่จะพัฒนายางต้นแบบตัวใหม่ให้เสร็จภายในเวลา 4 ปีข้างหน้า หลังจากนั้นจะนำไปทดสอบเป็นเวลาหนึ่งปีกับรถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งที่นั่งของโตโยต้าบนท้องถนนของโตเกียว
ทางฟากคู่แข่งอย่าง Michelin และ Britek Tire ก็พยายามพัฒนายางรถยนต์ที่ไม่ต้องเติมลมอยู่เช่นกัน แต่ก็ยังไม่เผยโฉมออกมาให้เห็น แน่นอนยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องปรับปรุง เราจึงยังไม่ได้เห็นมันวางขายในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน
VIA Slashgear
มาแล้ว…ยางรถที่ไม่ต้องเติมลม — DailyGizmo – iPhone, iPad, Gadgets, Games, Toys & Viral VDO

 

นารายาณะ พุทธะ



ในขณะที่ดาวพฤหัส๕เดินเป็นกาลีจร ถึงเดือนเมย. 58 และประตูดาวเปิด พระเกตุทับคุมดวงเมืองถึง9พย. 57 เป็นโอกาสเหมาะที่จะช่วยกันสร้างบุญสวดมนต์อธิษฐานจิตด้วยอำนาจบุญใช้กรรมเก่าให้กับบ้านเมืองและล้างสิ่งร้ายทั้งหลายให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดิน
เมื่อดาวพฤหัส๕เดินเป็นกาลีจร คนส่วนใหญ่จะถูกพิพากษากรรม โดยเฉพาะคนชั่วจะได้รับการพิพากษาเป็นพิเศษ ใครอยากมีผลงานในแผ่นดินพระพุทธศาสนา ก็ตั้งใจช่วยให้เต็มที่

 

ผมว่าแม่นดีน่ะครับ แต่ผลวรุปคือดวงเมืองจะหยุดแตกขั้นที่ 2
อุปราคา2ครั้งซ้อน [2] มองท้ายปี ต.ค.เกิด จะมีอะไร
การเกิด ’อุปราคา“ สุริยะคราส-สุริยุปราคา จันทรคราส-จันทรุปราคา ในปี 2557 นี้ ณ ที่นี้ได้เคยนำเสนอไปแล้วว่า ในทางหลักโหร ที่มิใช่การยึดที่การมองเห็นในเมืองไทย จะเกิดขึ้นรวม 4 ครั้ง
วันพฤหัสบดี 18 กันยายน 2557 เวลา 00:00 น.
การเกิด ’อุปราคา“ สุริยะคราส-สุริยุปราคา จันทรคราส-จันทรุปราคา ในปี 2557 นี้ ณ ที่นี้ได้เคยนำเสนอไปแล้วว่า ในทางหลักโหร ที่มิใช่การยึดที่การมองเห็นในเมืองไทย จะเกิดขึ้นรวม 4 ครั้ง เป็นสุริยุปราคา 2 ครั้ง และจันทรุปราคา 2 ครั้ง ซึ่ง ณ ที่นี้ก็ได้พลิกย้อนเรื่องนี้ กับ “คำทำนายทางโหร” มาเสนอไปเมื่อวันก่อน...
เป็นคำทำนาย ’อุปราคา 2 ครั้งในเดือนเดียว“
’เกิดเดือน เม.ย.“ แล้ว พ.ค. ก็มี ’รัฐประหาร“
’เดือน ต.ค. จะเกิดอีก“ ก็น่าคิดว่าจะยังไง??
ทั้งนี้ จากอุปราคา 4 ครั้งในปี 2557 จากที่เคยเกิดอุปราคาครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 รวม 2 ครั้งในเดือนเดียวช่วงต้นปี ในเดือน เม.ย. คือครั้งที่ 1 เกิด 15 เม.ย. ครั้งที่ 2 เกิด 29 เม.ย. พอถึงช่วงท้ายปี
อุปราคาครั้งที่ 3 และครั้งที่ 4 ก็จะเกิดซ้อนในเดือนเดียวกันอีก ในเดือน ต.ค. คือ ครั้งที่ 3 จะเกิด 8 ต.ค. ครั้งที่ 4 จะเกิด 24 ต.ค.
ครั้งที่ 3 ในทางโหรระบุว่า...เกิดจุดจันทร์เพ็ญ ในวันที่ 8 ต.ค. 2557 เวลา 17.30 น. บังเกิด “จันทรุปราคาเต็มดวง” เวลา 17.54 น. ศูนย์กลางคราสอยู่ในราศีมีน อาโปธาตุ (ธาตุน้ำ) ระยะ 21 องศา 19 ลิปดา รัศมีคราสพาดผ่านสัตตมนวางศ์ 7 ตติยตรียางศ์ 3 เสวยเรวดีนักษัตรฤกษ์ที่ 27 ในอาณาเขตของสมโณแห่งฤกษ์ ซึ่ง อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ได้ทายทักในทางโหรไว้ โดยสังเขปคือ...
อิทธิพลจากอุปราคาหรือ “คราส” ที่เกิดเพราะ “ราหู” ซึ่งในทางโหรถือเป็นเทวดา “พระเคราะห์” ธาตุลมพายุ ที่พัดเอาแตก-หัก ทำลาย รุนแรงโครมคราม ทำให้เกิดความเสียหาย ส่งอิทธิพลในทางที่ ’ทำให้เกิดปัญหา“ กับอุปราคาครั้งที่ 3 นี้ เป็นห้วงเวลาที่จะเกิดคดีอาชญากรรมมากขึ้น เกิดโรคภัยไข้เจ็บในคนและสัตว์ระบาดหนัก มีความยุ่งยากในวงการศาสนา การศึกษา กฎหมาย การแพทย์ และนอกจากนี้ยังมีผลตามหลังอุปราคาด้วยอุบัติเหตุที่จะเกิดเพิ่มขึ้น ระวังอุบัติเหตุทั้งทางน้ำ ทางพื้นดิน ทางอากาศ โดยเฉพาะการเดินทางไกล
นอกจากนี้ อิทธิพลจากอุปราคาครั้งที่ 3 นี้ยังมีเรื่องการเกิดอุทกภัยและวาตภัยรุนแรง พายุหมุนและฝนฟ้าคะนองรุนแรง สร้างความเสียหายให้ประชาชนจำนวนมาก ต้องระวังการสูญเสียบุคคลสำคัญ การค้าและการเกษตรเสียหาย เกิดการชุมนุมของผู้ใช้แรงงาน รัฐบาลประสบปัญหารุนแรงเรื่องการแก้ปัญหาเกี่ยวกับน้ำ
สำหรับด้านการเมืองการปกครอง จะก่อเกิดเรื่องไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง ที่ส่งผลยุ่งยากสลับซับซ้อนยากแก่การสอบสวน เกิดความยุ่งยากเกี่ยวกับเรื่องของการชุมนุมประท้วงทางการเมือง
และนายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ยังระบุถึงอุปราคาครั้งที่ 3 ไว้อีกว่า...ดวงดาวที่เข้ามาสมาคมกับแนวอุปราคา ยังมีดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวมฤตยู จะทำให้เกิดปัญหาตามความหมายของดาว ดาวศุกร์หมายถึงเศรษฐกิจการเงินการคลังของประเทศ กิจการต่างประเทศ รวมถึงบุคคลที่มีอาชีพทางด้านศิลปะ ขณะที่ดาวมฤตยูแสดงถึงการเป็นผู้มีอำนาจในการบริหาร แวดวงอาชีพ บุคคล ตามความหมายดาว จะสูญเสีย มีปัญหา
หลังเกิดอุปราคาครั้งที่ 3 แค่ 10 กว่าวัน อุปราคาครั้งที่ 4 ก็จะเกิดขึ้นตามมา โดยเกิดจุดจันทร์ดับ ในวันที่ 24 ต.ค. 2557 เวลา 04.48 น.
จะบังเกิด “สุริยุปราคาวงแหวน” ขึ้นอีกครั้งเป็นครั้งสองของปี 2557 (ครั้งแรกเกิดวันที่ 29 เม.ย. 2557) ศูนย์กลางคราสอยู่ในราศีตุล ระยะ 6 องศา 20 ลิปดา รัศมีคราสพาดผ่านทุติยนวางศ์ 3 ปฐมตรียางศ์ 6 เสวยจิตรานักษัตรฤกษ์ที่ 14 ในอาณาเขตของเทศาตรีแห่งฤกษ์ ซึ่งแม้ว่าอุปราคาครั้งที่ 4 นี้จะเป็นสุริยุปราคา แต่กับคำทำนายในทางโหร อ.ภิญโญ ระบุไว้ว่า...จะเป็นไปทำนองเดียวกับจันทรุปราคา-อุปราคาครั้งที่ 1 เพียงแต่แตกต่างกันเรื่องชนิดอุปราคา และตำแหน่งพื้นที่ที่เกิด ซึ่งคำทำนายโดยสรุปคือ...
อิทธิพลจากการเกิดอุปราคาครั้งที่ 4 ในทางที่ทำให้เกิดปัญหา จะเกี่ยวกับวงการกฎหมาย วงการยุติธรรม การเมืองของประเทศ การใช้อำนาจปกครอง ผู้ปกครอง รัฐบาล นายกรัฐมนตรี
ส่วนดวงดาวที่เข้ามาสมาคมกับแนวอุปราคาครั้งที่ 4 นี้ นอก
จากอาทิตย์ จันทร์ และราหูแล้ว ก็ยังมีดาวศุกร์ และดาวเสาร์ ซึ่งดาวเสาร์เป็นตัวแทนภพที่ 10 หมายถึง รัฐบาล ผู้บริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้น นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี รัฐบาล จะต้องรับบทหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะเกิดปัญหารุนแรง
ทั้งนี้ คำทำนาย ’อุปราคา“ เหล่านี้ ทางนายกสมาคมโหรา
ศาสตร์นานาชาติได้จัดทำตั้งแต่ก่อนปลายปี 2556 ก่อนที่เมืองไทยจะ “เปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ” ในรูปแบบ “รัฐประหาร” อีกครั้ง ในวันที่ 22 พ.ค. 2557 หรือ 22 วันหลังเดือน เม.ย. 2557 ที่มีการ ’เกิดอุปราคา 2 ครั้งซ้อนในเดือนเดียว“ ซึ่งปรากฏการณ์นี้อีกไม่นานก็จะเกิดซ้ำ คือ ’ในเดือน ต.ค. 2557 ก็จะเกิดขึ้นอีก“ และว่ากันในทางโหรก็น่าจับตา?? แม้ว่าในทางโหรเช่นกัน จะมีการชี้ไว้ว่า...ตั้งแต่ 27 พ.ย. 2557 เป็นต้นไป ดวงเมืองไทยที่เคยดวงแตกจะเริ่มหยุดแตกในขั้นที่ 2 แล้ว...
ย้อนมองต้นปี แล้วเล็งช่วงท้ายปี ก็น่าคิด??
ก่อนที่ดวงเมืองไทยจะฟื้นตัวจากดวงแตก
หลังอุปราคา 2 ครั้งท้ายปี...จะมีอะไร??.
อุปราคา2ครั้งซ้อน(2) 'มองท้ายปี' ต.ค.เกิด 'จะมีอะไร?' | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

ข้อมูลทางสถิติการระเบิดของภูเขาไฟนับตั้งแต่ปี 1600-2014 พบว่า มีอัตราความถี่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ



ข้อมูลทางสถิติที่ได้รับการบันทึกโดยเว็บ Smithsonian Institution - Global Volcanism Program: Worldwide Holocene Volcano and Eruption Information ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการระเบิดของภูเขาไฟทั่วโลกจากอดีตจนถึงปัจจุบันกว่า 400 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 1900 เป็นต้นมาก็เริ่มมีเครื่องมืออุปกรณ์ตรวจวัดที่ทันสมัยเพิ่มขึ้น จึงทำให้การเก็บสถิติเมื่อปี 1900-2014 มีความคลาดเคลื่อนน้อยมาก ทั้งนี้ถ้าเทียบกับในอดีตนับตั้งแต่ปี 1600-1899 การบันทึกข้อมูลถือว่ายังทำได้ลำบากและมีอัตราการผิดพลาดสูง อย่างไรก็ตามจากกราฟดังกล่าวตั้งแต่ปี 1900 - 2014 ก็ได้แสดงให้เห็นว่า ภูเขาไฟมันระเบิดเยอะขึ้น และมีแนวโน้มว่าในอนาคตต่อไปนี้ การปะทุของภูเขาไฟ , การเกิดแผ่นดินไหว , และสภาพอากาศแปรปรวน จะมีความถี่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าการสลับขั้วของแม่เหล็กโลกจะเสร็จสิ้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ



โลกมีสนามแม่เหล็กล้อมรอบอยู่ คล้ายกับว่าโลกทั้งใบเป็นแม่เหล็กแท่งยักษ์แท่งหนึ่ง ขั้วเหนือแม่เหล็กโลกอยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ ขั้วใต้แม่เหล็กโลกอยู่ใกล้ขั้วโลกใต้ แต่ทิศของแม่เหล็กมิได้เป็นเช่นนี้เสมอไป ในอดีต ขั้วแม่เหล็กโลกเคยสลับจากใต้เป็นเหนือ เหนือเป็นใต้มาแล้วหลายครั้ง ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นคือเมื่อ 780,000 ปีก่อน



อดีต เกือบ 400 ปีก่อนครั้งแรกที่เก็บข้อมูลสนามแม่เหล็กโลก ขั้วโลกเหนือ มีกำลังสูงถึงราว 0.88 เกาส์ และขั้วใต้ 1.04 เกาส์ และขั้วทั้ง 2 ค่อนข้างตรง ทำมุมประมาณ 11 องศาจากแกนหมุนของโลก แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่แบบนั้น เพราะกำลังของสนามแม่เหล็กเริ่มอ่อนลง โดยขั้วโลกเหนือลดกำลังลงเหลือ 0.6-0.53 เกาส์ และที่ขั้วโลกใต้เหลือ 0.66 เกาส์ ส่งผลทำให้สนามแม่เหล็กโลกปัจจุบันเบี้ยว และดูงอ ตำแหน่งองศาเปลี่ยนไป

- แบบจำลองที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ แสดงความยุ่งเหยิงอลหม่านของสนามแม่เหล็กโลกในช่วงของการสลับขั้ว

- รูปภาพการพล็อตสนามแม่เหล็กโลกปัจจุบันช่วงกลางปี 2557 ที่ผ่านมา จนถึง 6 ต.ค.57 เป็นอย่างไร แผนที่นี้แสดงให้เห็นถึง แรงพุ่งออกของสนามแม่เหล็กโลก หรือ แรงในแนวดิ่ง (แกน z หรือ vertical component)

- สนามแม่เหล็กโลกตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 - 23 ม.ค.2557 มีรูปลักษณ์เปลี่ยนไปดังภาพที่พล็อตออกมาโดยประมาณ จากการเลื่อนของขั้วแม่เหล็ก (Pole shift) ทำให้สนามแม่เหล็กโลกปัจจุบันเบี้ยว และดูงอ จากการที่ขั้วโลกเหนือ ตำแหน่งเดิมบริเวณตอนเหนือของแคนาดา ได้แยกออกเป็น 2 ขั้ว คือที่ไซบีเรีย เป็นขั้วที่ 2 กำลัง (เมื่อปี 2010) 0.6 เกาส์ ที่แคนาดา หรือ ขั้วเดิม มีกำลัง 0.53 เกาส์ ..........ส่วนขั้วโลกใต้สนามแม่เหล็กเหนือ ได้เบนออกจากขั้วหมุนมายังตอนใต้ของออสเตรเลียและ นิวซีแลนด์ ตลอด 400 ปีที่ผ่านมา มีกำลัง 0.66 เกาส์

- สนามแม่เหล็กโลกตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 - 23 ม.ค.2557 หันมาด้าน ยุโรป แอฟริกา ให้เห็นชัดๆ ที่ขั้วโลกเหนือ ให้เห็นขั้วสนามแม่เหล็กโลก ขั้วใต้ แยกเป็น 2 ส่วน ชัดขึ้น



ข้อมูลทางสถิติการระเบิดของภูเขาไฟนับตั้งแต่ปี 1600-2014 พบว่า มีอัตราความถี่เพิ่มสูงขึ้นอย่