ติดตามสถานะการณ์

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล ได้แชร์ ลิงก์
2 ชั่วโมงที่แล้ว ·
นาซ่าโกหกเกี่ยวกับดาวหาง ISON Claims (ศาสตราจารย์ฟิสิกส์)

http://palungjit.org/attachments/a.2909780/

NASA IS LYING ABOUT COMET ISON CLAIMS PHYSICS PROFESSOR

October 11, 2013 - Latest News, Sci-Tech, Space, UFO News - Tagged: comet, ison, james mcCanney, nasa, new world order, nibiru, planet x, solar flare, space, strange, sun, ufos - 3 comments - 11367 Views
2849EmailSharedigg
Email
Maverick physicist James McCanney spoke about the coming of Comet ISON in 2013, which is predicted to be 15 times brighter than the full moon by November, and could be immense in size.

When something like this happens, one has to be very cautious, but after examining the data that I have seen…

I would say that it appears to be real. Furthermore one of the possible companions appears to be at about two lunar distances (half a million miles) and has not formed a coma for some odd reason.


If the object is orbiting the nucleus of the comet at that distance it implies that the nucleus of this comet is possibly as big or bigger than Earth.

Also, with companions we will be able to directly calculate the mass, and therefore the size of the comet nucleus using standard astronomical methods. NASA tier two scientists have already put their foot in their mouths with an estimate based on some geeee whiz bad science.

As I have said before one of the biggest open lies at NASA is concerning the size of comet nuclei, always minimizing them to almost nothing and then trying to promote their incorrect dirty snowball comet model.

We know they can directly measure comet nuclei with radio telescopes so why all the bad science and opiniated estimates?

Normally no one would be able to contradict them because they hold the reigns of the radio telescopes, and who is to contradict them? But with companions, we use a simple astronomical formula and wala we have the mass of the nucleus and there is nothing NASA can do about that.

With the recent interaction of this comet with Earth, while the comet was at the range of Jupiter’s orbit, this would be the second indication that this is a whopper of a comet.

NASA has been extremely active in damage control on this comet and just today issued a video clearly doing damage control. Why all the announcements, when the comet (according to NASA) will not even be visible until next November? James McCanney

- See more at: NASA Is Lying About Comet ISON Claims Physics Professor | The Viral Post


ข้อมูลจาก

NASA Is Lying About Comet ISON Claims Physics Professor
theviralpost.com

 

ศูนย์เตือนภัย พิบัติโลก
2 ชั่วโมงที่แล้ว · แก้ไขแล้ว
อินเดีย ประกาศ เตือน"super พายุไซโคลน " มันเป็น "พายุที่รุนแรงมากระดับ 5 " กับลม 130-135 ไมล์ต่อชั่วโมง
มากกว่า 250,000 คนต้องอพยพด่วน
ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็น พายุไพลินอยู่ห่าง 310 ไมล์ (500 กิโลเมตร) และมีแนวโน้มที่จะขึ้นฝั่งคืนนี้ (3:00-06:00 เวลา UK)

More than 250,000 villagers have fled their homes as a huge cyclone gathers strength and heads towards India's east coast.

Cyclone Phailin - which is already so large it has nearly filled the Bay of Bengal - is expected to be the fiercest storm to hit India since a devastating cyclone killed 10,000 people 14 years ago.

Large waves have already been pounding beaches in the state of Andhra Pradesh before the storm is due to hit.

Villagers along the coast were evacuated to schools in the north of the state and in neighbouring Odisha, while panic buying drove up food prices.

Authorities have been evacuating villagers along the coast to government-run shelters and schools in three districts of Andhra Pradesh state and five districts of Orissa state.

People in the coastal village of Podampata watch as waves gather force
But many villagers said they had not been told to evacuate, and others were refusing to leave their homes.

"Of course I'm scared, but where will I move with my family?" said Kuramayya, 38, a fisherman from the village of Bandharuvanipeta, while 12ft waves crashed behind him. "We can't leave our boats behind."

Satellite images showed Phailin some 310 miles (500km) off the coast and likely to make landfall on tonight (3pm-6pm UK time), with widespread flooding expected.

Some forecasters likened its size and intensity to hurricane Katrina, which devastated the US Gulf coast and New Orleans in 2005.

The Indian Meteorological Department said Phailin would hit between Kalingapatnam in Andhra Pradesh and the port of Paradip in Odisha state and predicted storm surges 10ft above normal tides.

The storm is due to hit Andhra Pradesh and Odisha Pic: Tropical Storm Risk
It described it as a "very severe cyclonic storm" with winds of 130-135 mph but resisted upgrading it to a stronger "super cyclone".

However, London-based storm tracking experts Tropical Storm Risk said Phailin was a super cyclone and placed it in the most powerful Category 5 of storms.

That was the same strength of storm that battered Odisha in 1999, killing thousands.

"Phailin will be no less than the 1999 super cyclone," said Odisha state's Special Relief Commissioner Pradeep Kumar Mohapatra.

He said half a million people were expected to move to shelters in the state.

Indian authorities warned of extensive damage to crops and buildings, and disruption to power, water and rail services.

 

Thanong Fanclub
เฉลยQUIZ

จีนเตรียมเปิด “ระบบเคลียริงหยวน” ในไทย หวังกระตุ้นการค้าทะลุ $1 แสนล้านในปี 58 คำถามคือในแง่ อาเซี่ยน หรือAEC จีนกำลังคิดอะไรหรือพยายามทำอะไรอยู่?

คำตอบสั้นๆ คือจีนกำลังเร่งเปลี่ยนเขตการค้าอาเซี่ยนจากดอลล่าร์บล๊อค dollar bloc เป็นหยวนบล๊อค yuan bloc

ถ้าจะให้ขยายความต่อ คือขณะนี้อาเซี่ยนเป็นเขตการค้า เขตเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่เวลาทำธุรกรรมการเงิน ยังใช้ดอลล่าร์อยู่ ทั้งๆที่ไม่ได้ค้าขายกับสหรัฐฯ และบทบาทหรือขนาดเศรษฐกิจสหรัฐฯก็ลดลงไปเรื่อยๆ ที่เป็นอย่างนี้ เพราะดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักของโลก ระบบการเงิน ระบบการค้า ระบบธุรกรรมการแลกเปลี่ยน ทุกอย่างถูกวางระบบมาให้ใช้ดอลล่าร์ จีนต้องการที่จะล้มระบบนี้ คือแทนที่จะใช้ดอลล่าร์ ให้มาใช้หยวนแทน เพราะจีนเริ่มมีบทบาทในเวทีโลกและภูมิภาคมากขึ้น การค้าจีนแซงหน้าอเมริกาเรียบร้อยแล้ว ใครก็ตามที่คุมการเงินของโลก หรือมีเงินของตัวเองเป็นเงินสกุลหลักของโลก ก็จะเป็นมหาอำนาจ เพราะจะคุมส่วนที่เป็นทุน จากฐานของทุนจะนำไปสู่ฐานของอำนาจในเวลาต่อมา ทั้งทุนและอำนาจเป็นของคู่กัน สหรัฐฯคุมเอเซียผ่านเงินดอลล่าร์ และผ่านระบบเศรษฐกิจและการเงินที่โยงใยกับสหรัฐฯและอังกฤษ ผ่านระบบประชาธิปไตยที่สหรัฐฯเป็นแม่แบบ ทั้งๆที่ความจริงแล้วเป็นระบบจักรวรรดินิยม ผ่านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและผ่านความร่วมมือทางทหารและความมั่นคง เกือบจะทุกมิติที่เอเซียโดนครอบจากสหรัฐฯ จีนต้องการลดมิติเหล่านี้ลงทีละอย่างสองอย่าง เริ่มต้นเอาที่การค้า การลงทุน ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และตอนนี้อยู่ในช่วงการเงินอยู่ ถ้าพัฒนาส่วนนี้ไปได้ จะนำไปสู่ความสัมพันธ์ระดับอื่นๆกับประเทศที่อยู่ในเอเซียในระดับที่ลึกซึ้งมากขึ้น

นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนที่กำลังอยู่ระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 11-13 ต.ค.พยายามที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าอยู่ในระดับที่มีแต่ทรงกับทรุด ทั้งนี้เพราะว่ารัฐบาลไทยไม่พยายามรักษาสมดุลของความสัมพันธ์กับมหาอำนาจอเมริกาและจีน กระทรวงการต่างประเทศก็อวยสหรัฐฯสุดๆ พอมาจีนก็ทำแบบงั้นๆ ขอไปที ที่ผ่านมาจีนเคืองไทยหลายอย่าง ลองไล่กันดู


1. คดี 13 ลูกเรือจีน ถูกกลุ่มกองโจร "สลัดแม่น้ำโขง" บุกปล้นและสังห
ารโหด ขณะขนสินค้าจากประเทศจีนมายังประเทศไทย
http://www.komchadluek.net/detail/20130210/151465/ไขคดี!จัดฉากสังหาร13ลูกเรือจีน(1).html

2. ไทยเซ็นสัญญาความร่วมมือทางทหารกับสหรัฐฯ ในขณะที่จีนรู้สึกว่า สหรัฐฯกำลังดำเนินนโยบายปิดล้อมจีนทางทหาร
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000139914

3. ไทยให้สหรัฐฯใช้อู่ตะเภาเป็นฐานทัพปิดล้อมจีน
http://www.thairath.co.th/content/pol/268013

4. ไทยและจีน และอาเซี่ยนร่วมมือกันเรื่องรถไฟอาเซียน ทำมาแต่สมัยประชาธิปัตย์ แต่พอถึงเวลา รัฐบาลไทยกลับเบี๊ยวจีน จะยกโครงการรถไฟให้กับญี่ปุ่นเป็นผู้ร่วมลงทุนหลัก ทั้งๆที่ญี่ปุ่นไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของอาเซี่ยนที่มีพื้นที่ติดกัน นายหลี๋เลยพยายามมาดักคอทวงรถไฟจากนายกปู

5. จีนเลยลังเลที่จะซื้อข้าวไทย เอ็มโอยูก็แล้ว แต่รัฐบาลไทยยังคงเก็บข้าวจนเน่าในโกดัง หายได้ประสบความสำเร็จในการส่งข้าวออกไปยังจีนไม่ จีทูจี กลายเป็นจีทูโกดัง มาคราวนี้เรื่องข้าวไม่ใช่ประเด็นหลัก ทั้งๆที่รัฐบาลไทยอยากจะขายข้าว เพราะว่ามีข้าวเน่าล้นสต๊อค และจะยังทำประกันราคาข้าวต่อไป

6. นายกหลี๋เซ็นความร่วมมือเพิ่มการค้าไทยจีนจาก $70,000 ล้านเป็น$100,000ล้าน

ึ7. จีนเซ็นสัญญากับอินโดเนเซีย หยวน/ รูเปี๊ยะ สว๊อป มีมูลค่า 100,000ล้านหยวน และพร้อมจะช่วยอินโดฯถ้ามีปัญหาเงินทุนไหลออกทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แต่เวลาหลี่มาไทยไม่ได้พูดเรื่องนี้มากเท่าที่ควร ขนาดไทยจีนหรือบาทหยวนสว๊อปอยู่ที่7,000ล้านเอง เทียบอินโดฯไม่ได้ พูดแต่เรื่องศูนย์เคลีริ่งหยวน ซึ่งบรรดาแบงค์ไทยเช่นธนาคารกรุงเทพฯและกสิการกำลังดำเนินการอยู่แล้ว

http://online.wsj.com/article/BT-CO-20131007-713078.html

http://english.peopledaily.com.cn/90883/7687595.html

สรุป

จีนต้องการเพิ่มบทบาทในไทยและอินโดฯ สองประเทศที่สำคัญสุดในอาเซี่ยน ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มบทบาทจีนในอาเซี่ยนมากขึ้น ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวการเงิน โดยจีนต้องการลดบทบาทของดอลล่าร์ผ่านหยวนสว๊อปที่ได้ทำกับบริกส์และนานาประเทศไม่ว่ายุโรป อังกฤษ ออสเตรเลีย พอได้จังหวะ จีนจะปิดก๊อกเลิกผูกหยวนกับดอลล่าร์ หลังจากนั้นจีนจะค่อยๆพยายามเพิ่มความสัมพันธืทางความมั่นคงและต่อไปทางทหารกับภูมิภาคนี้มากขึ้น เพราะว่าตอนนี้ จีนโดนสหรัฐฯปิดล้อมตั้งแต่เกาหลี ญี่ปุ่น ลงมาที่ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ไทย และออสเตรเลีย ของอย่างนี้ต้องใช้เวลา แต่พัฒนาการมันเป็นเช่นนี้

thanong
12/10/2013

 

Kaokala Fc
1 ชั่วโมงที่แล้ว ·
12 ต.ค. อินเดียเตือนภัยขั้นสูงสุด-อพยพกว่าสี่แสนหนีพายุไซโคลน "ไพลิน"

(จากภาพ..ชาวบ้านยืนมองคลื่นสูงที่ซัดเข้าสู่ชายฝั่งเมืองท่าวิสาขปัตนัม รัฐอานธรประเทศ ก่อนที่ไซโคลนไพลินจะขึ้นฝั่งอินเดีย วันนี้ 12 ต.ค.)

เอเอฟพี – รัฐบาลอินเดียสั่งอพยพชาวบ้านกว่า 440,000 คน พร้อมประกาศเตือนภัยระดับแดงซึ่งเป็นขั้นสูงสุด ก่อนที่พายุไซโคลนไพลิน (Phailin) จะพัดขึ้นสู่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศในช่วงเย็นวันนี้(12) ขณะที่ศูนย์ประเมินความเสี่ยงพายุประกาศให้ไพลินมีความรุนแรงถึงขั้น “ซูเปอร์ไซโคลน” แล้ว

ไซโคลนไพลินซึ่งมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจเป็นพายุไซโคลนรุนแรงที่สุดในรอบ 14 ปีที่พัดเข้าสู่อินเดีย และคาดว่าส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นถึง 3 เมตร

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินเดียออกประกาศเตือนภัยระดับแดงก่อนที่พายุจะซัดเข้าฝั่ง ขณะที่ศูนย์พายุไต้ฝุ่นร่วมของกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุว่า กระแสลมวนของไซโคลนลูกนี้อาจทวีกำลังแรงขึ้นจนถึง 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Around the World - Manager Online -

 

Kaokala Fc
50 นาทีที่แล้ว ·
12 ต.ค. ไต้ฝุ่น'นารี'ถล่มทางเหนือฟิลิปปินส์กระทบ2ล้านคน-ดับแล้ว5

พายุไต้ฝุ่นนารี ที่พัดเข้าทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา(11 ต.ค.) ทำให้ไฟดับในหลายจังหวัด กระทบประชาชนมากกว่า 2 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย

อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นนารี ที่พัดเข้าชายฝั่งตะวันออกทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทำให้ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น ขวางกั้นทางหลวงที่สำคัญ ไฟดับในอย่างน้อย 3 จังหวัด กระทบประชาชนมากว่า 2 ล้านคน บ้านเรือนและไร่นาได้รับความเสียหายจากฝนตกหนักและลมแรง ขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย สาเหตุจากดินถล่ม ต้นไม้หักโค่น และไฟดูด

ขณะนี้พายุได้พัดออกจากฟิลิปปินส์ ไปทางทะเลจีนใต้ ด้วยกำลังลม 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมุ่งหน้าไปทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนามแล้ว และศูนย์อุตุนิยมวิทยาฮ่องกง กำลังเฝ้าระวังไต้ฝุ่นลูกนี้ เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า

 

ศูนย์กลางข่าวสารแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น โดย สนญ. และ สนทญ. ได้แชร์ ลิงก์
วันพุธ เวลา 18:11 น. ใกล้กับ Bangkok ·

คนงานฟูกุชิมะได้รับสารพิษจากน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสี 6 คน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ตุลาคม 2556 15:24 น.

วิกฤตไฟฟ้าของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะของญี่ปุ่น ยังคงส่งผลเสียอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีคนงานได้รับสารพิษจากน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสี 6 คน โดยอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างคนงานกำลังรื้อท่อ ที่เชื่อมต่อกับระบบกรองน้ำเค็มให้เป็นน้ำจืด เพื่อใช้กับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่น้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากระบบดังกล่าว เกิดกระเด็นเข้าใส่ โชคดีที่ไม่กระเด็นเข้าใส่หน้าตรงๆ จึงมีความเป็นไปได้น้อยมาก ที่สารพิษจะซึมเข้าสู่ร่างกาย

บริษัทเทปโก เจ้าของโรงไฟฟ้าฟูกุชิมะ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุภายใน 1 ชั่วโมง ท่อก็ถูกต่อเข้ากับระบบเหมือนเดิม น้ำปนเปื้อนจึงหยุดรั่ว อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ยิ่งทำให้ความพยายามของเทปโก ที่กำลังเร่งกู้ภาพลักษณ์จากอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นเรื่องที่เชื่อได้ยากในสายตาสาธารณชน ทั้งนี้เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ก็มีการเปิดเผยว่า คนงานโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ปิดสวิตช์ เครื่องปั๊มน้ำเข้าเตาปฏิกรณ์ โดยไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย


คนงานฟูกุชิมะได้รับสารพิษจากน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสี 6 คน
Manager Online -

 

ศูนย์กลางข่าวสารแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น โดย สนญ. และ สนทญ. ได้แชร์ ลิงก์
วันพุธ เวลา 18:11 น. ใกล้กับ Bangkok ·

คนงานฟูกุชิมะได้รับสารพิษจากน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสี 6 คน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ตุลาคม 2556 15:24 น.

วิกฤตไฟฟ้าของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะของญี่ปุ่น ยังคงส่งผลเสียอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีคนงานได้รับสารพิษจากน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสี 6 คน โดยอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างคนงานกำลังรื้อท่อ ที่เชื่อมต่อกับระบบกรองน้ำเค็มให้เป็นน้ำจืด เพื่อใช้กับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่น้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากระบบดังกล่าว เกิดกระเด็นเข้าใส่ โชคดีที่ไม่กระเด็นเข้าใส่หน้าตรงๆ จึงมีความเป็นไปได้น้อยมาก ที่สารพิษจะซึมเข้าสู่ร่างกาย

บริษัทเทปโก เจ้าของโรงไฟฟ้าฟูกุชิมะ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุภายใน 1 ชั่วโมง ท่อก็ถูกต่อเข้ากับระบบเหมือนเดิม น้ำปนเปื้อนจึงหยุดรั่ว อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ยิ่งทำให้ความพยายามของเทปโก ที่กำลังเร่งกู้ภาพลักษณ์จากอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นเรื่องที่เชื่อได้ยากในสายตาสาธารณชน ทั้งนี้เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ก็มีการเปิดเผยว่า คนงานโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ปิดสวิตช์ เครื่องปั๊มน้ำเข้าเตาปฏิกรณ์ โดยไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย


คนงานฟูกุชิมะได้รับสารพิษจากน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสี 6 คน
Manager Online -

 

อุ๊ย! วันนี้แอบเห็น 3 สาว ไพลิน นาริ วิภา ลงเล่นน้ำกันจ้าละหวั่น ขอเวลาตั้งตัวแป๊บ...อย่าเพิ่งขึ้นฝั่งนะตัวเอง

 

Adepto Perfectus = dutchsinse

A cyclone, a Typhoon, and a ?

เปรียบเทียบซุปเปอร์พายุไพลินกับพายุพายุลูกถัดไปในแปซิฟิก.... ในขณะนี้ยังเรียกว่า พายุโซนร้อนวิภา

Compare Super Storm Phailin to the next storm out in the Pacific.. currently STILL called ("tropical storm Wipha".)

วิภากำลังมาเป็นพายุลูกที่สามในแปซิฟิกตะวันตก

"Wipha" is coming together .. making it the THIRD storm in the west Pacific..

ซุปเปอร์ ไซโคนไพลิน ไต้ฝุ่นนารี และพายุโชนร้อนวิภา ในขณะนี้กำลังกลายเป็น เมก้าซุปเปอร์พายุวิภา

Super Cyclone Phailin, Typhoon Nari, and Tropical storm , now becoming a MEGA-superstorm Wipha.

หวังว่าซุปเปอร์เมก้า ซุปเปอร์พายุจะสลายตัว และหวังว่าจะได้รับข้อมูลใหม่ในไม่ช้า

Lets hope the mega-super dies down, and lets hope we get new data on Wipha pronto!

CIMSS Tropical Cyclones

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
21-10-2013 การทำนายสึนามิยักษ์ที่น่ากลัว

ทำนายผ่านกระดานข่าวสารสมรู้ร่วมคิดของผู้ใช้บอร์ดท่านหนึ่ง เขาอ้างว่าได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2013 ของภัยพิบัติยักษ์
http://www.godlikeproductions.com/forum1/message2327543/pg1

USA East Coast wiped out by Tsunami - Remote View prediction
the date: October 21, 2013

70 Million people will die

22 million injured or displaced

275K will die in the aftermath due
to no food or drinking water and
looting/riots

Cities affected:

New York
Washington, DC
Boston
Philadelphia
Norfolk
Wilmington
Charleston
Jacksonville
Orlando
Miami

1.5 mile high Tsunami will reach
35-70 miles inland due to tectonic
plate realignment

inland rivers will rise 20 ft above flood stage

Mississippi river basin will flood upwards
of 30 ft.

parts of the Atlantic ocean floor will rise out
of the water revealing shipwrecks and new land masses

Hundreds of Navy vessels in the Atlantic
from many governments will capsize and crews
lost at sea

the Atlantic ocean will have to be recharted
for coastlines and new land masses

it starts off as a 9.6 magnitude earthquake
off the east coast of the US which triggers
the land mass slide. 6 mins from time of shift
til the wave hits the beaches. the wave ends
21 mins later submerging most of the US East Coast.
Any coastline 50 feet or less ASL will be
underwater.

City buildings crumble and snap like
toothpicks.

river flooding crests at 36 hrs later

safe location: 100 miles west of the
Mississippi River

Cuba, Bahamas and the Caribbean Island chain
will be wiped out within 10 mins and parts
of Mexico will be affected as well. Canada's
east coast will heavily affected.

This will be the greatest disaster in modern
history comparable to the loss of Atlantis.

and I hate to be the bearer of bad news
to good people

best wishes

remote view

ไม่มีใครรู้เขาคนนี้คือใคร แต่สิ่งที่เขาทำนายมันน่ากลัว!
สึนามียักษ์จะกลืน New York Washington, DC Boston Philadelphia Norfolk Wilmington Charleston Jacksonville Orlando Miami เป็นเหตุให้ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิต หลายล้านคนรับผลกระทบ เกิดความอดยากขาดอาหารและน้ำดื่ม มีการปล้นสะดม ก่อจราจล ฯลฯ

ไม่มีใครรู้คนทำนายเป็นใคร อาจเป็นคนวงในที่รู้เรื่องสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือคนวงในออกมาแง้มสิ่งที่กลุ่มลัทธิของตนกำลังจะทำ หรือ การทำนายที่มองเห็นจริงของตาวิเศษ

ปอรปกับอีกกระทู้ใกล้กัน : 2013/10/21 วันที่น่ากลัว?
http://www.godlikeproductions.com/forum1/message2381409/pg1
seems to round up to sixes and thirteens.
10/21/2013 1+0+2+1+2+0 = 6/13
10/21/2013 2+1+2+0+1 = 6 then 10+3 = 13
10/21 10+2+1 = 13
2013 2+0+1+3 = 6

..การทำนายจาากเวปอื่น เราอ่านเพื่อให้รู้ว่าพวกเขารับรู้ติดตามภัยพิบัติกันยังไง ผู้สนใจจึงอ่านทำนายแนวนี้กอรปกับข่าวการเตรียมตั้งรับของมะกันทั้งหมด เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่อาจเป็นจริงในเร็วๆนี้.

 

'โอบามา'ปัดแผนขยายเพดานหนี้ฝ่ายค้าน-สภาสูงมะกันเร่งคุยผ่าทางตัน

ประธานาธิบดีโอบามา ปฏิเสธข้อเสนอขยายเพดานหนี้ 6 สัปดาห์ของรีพับลิกัน ขณะที่เดโมแครตและรีพับลิกันในวุฒิสภา พยายามเจรจาหาทางออกจากวิกฤติชัตดาวน์ และเพดานหนี้...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดีโอบามา ปฏิเสธข้อเสนอขยายเพดานหนี้ 6 สัปดาห์ของรีพับลิกันในการเจรจาที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ โดยให้เหตุผลว่า การขยายเพดานหนี้ออกไปเพียง 1-2 สองเดือน อาจนำไปสู่การเผชิญหน้ากันอย่างรุนแรงในสภาคองเกรส และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นคงของผู้บริโภคในการจับจ่ายซื้อของในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

ต่อมาในเช้าวันเสาร์ (12 ต.ค.) จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน กล่าวในที่ประชุมพรรครีพับลิกันว่า การหารือกับโอบามาหยุดชะงัก เนื่องจากโอบามาปฏิเสธข้อเสนอของรีพับลิกัน และส.ส.รีพับลิกันไม่มีแผนขยายเพดานจะเสนอให้โอบามาอีก ขณะที่ส.ส.หลายคนเริ่มเดินทางกลับรัฐของตัวเอง หลังได้รับแจ้งว่าจะไม่มีการโหวตจนกระทั่งเย็นวันที่ 14 ต.ค.

ทั้งนี้ ความล้มเหลวในการเจรจาระหว่างโอบามาและสภาล่าง ทำให้ แฮร์รี รีด และ มิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างน้อยแห่งวุฒิสภาสังกัดพรรครีพับลิกัน ตัดสินใจพาแกนนำของทั้งสองฝ่ายประชุมที่สำนักงานของนายรีดในวันเสาร์ เพื่อแสวงหามาตรการกู้วิกฤติของสหรัฐฯ ที่ผ่านความเห็นชอบของทั้งสองพรรคเองโดยไม่รอสภาผู้แทนฯ

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอร่วมครั้งแรกระหว่าง ซูซาน คอลลินส์ ส.ว.รีพับลิกัน และโจ แมนชิน ส.ว.เดโมแครต ที่เสนอให้ขยายเพดานหนี้สหรัฐฯออกไปจนถึง 31 ม.ค. และออกงบประมาณให้รัฐบาลเป็นเวลา 6 เดือน ถูกนายรีดปฏิเสธ เพราะรับไม่ได้กับเงื่อนไขบางประการ

และไม่กี่ชั่วโมงต่อมา วุฒิสภาโหวตไม่รับพิจารณาร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2014 ของแฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากฝ่ายเดโมแครต เนื่องจากมีส.ว.โหวตเห็นชอบเพียง 53 เสียง ไม่ถึง 60 เสียงตามที่กำหนด ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯต้องปิดหน่วยงานบางส่วนเป็นเวลา 12 วันแล้ว และเส้นตายผิดชำระหนี้วันที่ 17 ต.ค.ก็ใกล้เข้ามาทุกที

หลังการโหวต นายรีดบอกต่อผู้สื่อข่าวว่า เขาไม่มีความมั่นใจว่าพวกวุฒิสภาจะสามารถเข้าถึงข้อตกลงใดๆ ได้ แต่เขาจะทำอย่างเต็มที่ที่สุด และจะไม่ทำตามเส้นทางที่รีพับลิกันเคยได้ทำมา.

ข้อมูลจาก 'โอบามา'ปัดแผนขยายเพดานหนี้ฝ่ายค้าน-สภาสูงมะกันเร่งคุยผ่าทางตัน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

"ไม่เห็นมีใครวิเคราะห์ผลกระทบเกี่ยวกับบ้านเราเลย(เมืองไทย)"
ท่านใดมีความรู้ช่วยบอกหน่อยเด้อ ... หากเกิดขึ้นน่ะ จะได้เตรียมตัวบ้างนิดหน่อยก็ยังดี ...

ส่วนตัวเป็นลูกค้า Citibank เมืองไทย คาดการณ์ว่าคงไม่เกี่ยวกันเพราะระบบมันน่าจะแยกกันครับ
ถึงจะเป็นบริษัทลูก มีแม่อยู่อเมริกาแต่ระบบมันคงแยกส่วนกัน ก็ต้องทำงานใช้หนี้ต่อๆไปครับ กำลังพิจารณาผลกระทบบ้านเราน่ะ
เกิดไม่เกิดก็จะได้เตรียมตัวครับ เผื่อจะย้าย หางานใหม่ไปอยู่ภาคส่วนในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่นการเกษตรแบบนี้น่ะ
เพราะตอนนี้อยู่กับบริษัทพวกเทรดดิ้ง (ซื้อมาขายไป)เป็นลูกจ้างจนๆของเขาน่ะครับ บริษัทสัญชาติญี่ปุ่น ... 555 ...

สหรัฐวัดดวงกัน 17 ต.ค. 56, ส่วนเศรษฐกิจส่วนตัวของผมวัดดวง 16 ต.ค. 56 ครับ ... ถ้างวดนี้เขาจังๆ ก็ออกจากโหมด Shutdown ได้แล้ว ...


... T_T ...

 

Thanong Fanclub
เฟดทุบทองเพื่อปกป้องดอลล่าร์ ยามหน้าสิ่วหน้าขวานเรื่องเพดานหนี้

Andrew Maguire เทรดเดอร์โลหะที่ลอนดอนให้สัมภาษณ์ว่า เฟดเดอรัล รีเซร์ฟ หรือธนาคารกลางของสหรัฐฯอยู่เบื้องหลังการทุบราคาทองลงมาในวันศุกร์ หรือ11 ตุลาคมที่ผ่านมา (11 อีกแล้ว ) เพราะว่าเฟดต้องการปกป้องค่าเงินดอลล่าร์ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานนี้

สถานการณ์ตอนนี้ทองน่าจะเป็นขากระทิง เนื่องจากปัญหาปิดรัฐบาลและเพดานหนี้ในสหรัฐฯ แต่การทุบทองในวันศุกร์เป็นการสร้างบรรยาการภาวะหมีให้ตลาดทองทั้งๆที่ไม่มีเหตุผลพื้นฐานอะไรรองรับ ในวันนั้น ราคาทองโดนทุบให้ต่ำลงไปในรอบ3เดือนในตลาดCOMEX ที่นิวยอร์ค หายไป$25ต่อออนซ์ใน1-2นาทีเท่านั้น จากการทุบราคาทองของไอ้โม่งเจ้าเดียว ด้วยการขายทองฟิวเจอรส์หรือทองกระดาษโครม!!ทีเดียวเลยถึง5,000สัญญาส่งมอบเดือนธันวาคม ราคาทองฟิวเจอรส์กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคมตก 2.2%อยู่ระดับ$1,268.90 ต่อออนซ์ในตลาดCOMEXที่นิวยอร์ค หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ3เดือนที่$1,259.60 ต่อออนซ์

แมคไควร์บอกว่าเฟดกำลังตั้งรับดอลล่าร์ ด้วยการเข้าไปในตลาดทองกระดาษเพื่อทุบราคาทอง โดยมีสื่อกระแสหลักช่วยกระพือข่าวว่า นักลงทุนทองหมดหวังกับราคาทองแล้ว นับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ในระดับหนึ่ง แล้วทำไมเฟดต้องทุบทองแบบนี้ เพราะว่าดอลล่ารกำลังถูกโจมตี และตัววัดเสถียรภาพของดอลล่าร์คือทอง เมื่อเฟดขายทองเพื่อแลกดอลล่าร์ด้วยขนาดที่ใหญ่ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน นับว่าเป็นการซื้อดอลล่าร์long dollarและขายทองshort gold แม้ว่าดอลล่าร์จะลง แต่ทองก็ลงเหมือนกันแสดงว่าเฟดกำลังปกป้องดอลล่าร์ในสถานการณ์ที่ล่อแหลม

เฟดไม่เข้าไปในตลาดทองโดยตรอง แต่ดำเนินการเทรดผ่านเอเยนท์สองเจ้า พวกเอเยนท์จะขายทองกระดาษโดยไม่มีทองในมือ naked shortsในตลาดซื้อขายล่วงหน้า โดยทำในจังหวะที่สอดคล้องกับปฏิบัติการของเฟดในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนที่คลุมเคลือเพื่อดูแลดอลล่าร์

เราจะไม่เห็นอะไรในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน แต่เราเห็นภาพชัดในตลาดทอง ผ่านปฏิบัติการของธนาคารที่เป็นเอเยนท์ของเฟด พวกนี้มีข้อมูลวงในเพิ่มซับพลายเทียมเข้าไปในตลาดโดยไม่มีทองphysicalเลย แล้วทำกำไร โดยลากเอาผู้เล่นอื่นๆเข้าไปซอร์ตทองด้วย เราเห็นรอยเท้าที่ชัดเจนของเฟดผ่านGoldman Sachsหรือเอเยนท์เบอร์1 ของเฟด ซึ่งให้ข่าวผ่านสื่อกระแสหลักว่าถึงว่าขายทองได้แล้ว ทุบให้แหลกคามือเลย slam dunk sell.

แต่ตอนนี้เป็นสัญญานกระทิงของทองเพราะว่า พวกนี้ขายทองล่วงหน้าหมดแล้ว ได้เวลาที่พวกเขาจะซื้อทองเข้ามาเก็บเพื่อส่งมอบในอนาคต

แมคไควร์โจมตีGoldman Sachsว่าเป็นแบงค์ที่มีความสุขในการทำลายบริษัท และเมื่อเจ้าหน้าที่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ พวกนี้ก็ทำลายทั้งประเทศต่อ พวกที่บริหารGoldman Sachsเป็นพวกคนเลว

thanong
13/10/2013

My Blog

Thanong Fanclub
บังเอิญประชุมครบองค์ (ร้ายๆ)

เหตุการณ์สำคัญคือวันจาตุรงคสันนิบาตมีท่าว่ากำลังจะอุบัติขึ้นที่สหรัฐฯในเดือนตุลาคมนี้ แต่เป็นแบบกลับลำ คือมีองค์ประชุมพร้อมเพรียงกันของเหตุที่ไม่เป็นมงคล

1. วันศุกร์ เฟดทุบทองให้ต่ำระดับในรอบ3ปี เพื่อเชฟดอลล่าร์ ที่ควรจะต้องถูกเทขาย เพราะความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ
Gold’s plunge blamed on one massive sell order

2. วันเสาร์เมื่อวาน เกิดเหตุประชาชนคนจนรูดบัตรคูปองอาหาร Electronic Benefit Transferไม่ผ่านที่ห้างซุปเปอ๋ร์ ซื้ออาหารไม่ได้ แม่ร้องไห้ระงม เพราะลูกหิวที่บ้านอยู่ ระบบคอมฯล่มใน15 รัฐ ข่าวเอพีอ้างว่าเจ้าหน้าที่ของXerox Corpตรวจสอบระบบ บังเอิญทำให้มันล่ม

Nationwide Electronic Food Stamp Shutdown Reported, Computer System Upgrade Blamed (UPDATE: AP Reports Vendor Check Crashed System) | TheBlaze.com

3. แบงค์สหรัฐฯ เตรียมสำรองเงินสด เผื่อประชาชนแห่ถอนเงิน
http://dealbook.nytimes.com/2013/10...hile-preparing-for-trouble/?ref=business&_r=4

4. เฟดพิมพ์แบงค์ใหม่$100ออกมา เพื่อสดุดีพ่อมดเบน แต่ที่จริงอาจจะสำรองเงินให้พอ เพราะเกรงว่าจะมีการแห่ถอนเงินจากปัญหาเพดานหนี้ แม้จะมีรูปเบนจามิน แฟรงคลินบนธนบัตร แต่ชื่อเหมือนกัน ทั้งสองเบนชอบเล่นกับไฟเหมือนกัน เบนโบราณชอบเล่นว่าวกับไฟฟ้า เบนปัจจุบันชอบเล่นกับไฟเงินเฟ้อ เบนในDark Knight Rises ชอบระเบิดทั้งเมืองให้พังพินาศไปเลย
These New $100 Bills Are Going to Be Huge Overseas - Businessweek

https://www.google.co.th/search?q=b...YPMSPrQfltYD4Cg&ved=0CDoQsAQ&biw=1052&bih=483

5. วันที่17 ตุลาเป็นวันเส้นตาย เพดานหนี้ สภาไม่ผ่านก็จะผิดชำระหนี้
แต่ Jim Rickardsบอกว่าเป็นวันลวง เพราะคลังยังเล่นแร่แปรธาตุถูไถได้อีกหลายเดือน

Oct. 17 Is a Phony Deadline for Default: Rickards: Video - Bloomberg

6. วันที่ 1 ตุลาคมก็ปิดรัฐบาลสหรัฐฯเพราะงบไม่ผ่าน

https://www.google.co.th/search?q=b...w=1052&bih=483#q=government+shutdown&tbm=isch


7. วันที่16-17 และ 23-24 ตุลาคม: Homeland Securityซ้อมรับการโจมตีทางไซเบอร์

8. วันที่ 17 ตุลาคม: Homeland Securityซ้อมรับมือแผ่นดินไหว

9. วันที่ 11-13 ตุลาคม สิงห์รถบรรทุกปิด ดีซี
Wake up America: Truckers Ride On DC - Video Update Oct. 12 - Freedom Over Fear #T2SDA (Vid)

10.Alan Greyson สสจากฟลอริด้าคู่ปรับเฟด ถอดหน้ากากแล้ว เสนอให้เฟดเป็นฮีโร่ ยกหนี้ให้รัฐบาล

The Fed Could Simply CANCEL $2 Trillion of Government Debt | Washington's Blog

11. นายแบงค์ระดับบิกออกมาเตือน ว่าถ้าเบี้ยวหนี้ ระบบการเงินพังแน่
The World's Most Powerful Bankers Warn Of Dire Consequences If The US Defaults - Business Insider

12. สสเดโมแครทพูดในคอนเกรซว่า ใช้martial law หรือกฎหมายภาวะฉุกเฉิน เพื่อเปิดรัฐบาลใหม่
» Dem Congresswoman Suggests “Martial Law” to End Government Shutdown Alex Jones' Infowars: There's a war on for your mind!

13. Ron Paul เตือน martial law

» Ron Paul Warns of Martial Law and Economic Collapse Alex Jones' Infowars: There's a war on for your mind!

จาตุรงคสันนิบาตจริงๆ เดือนนี้

thanong
13/10/2013

 

คุณ iamprateep สมาชิก ครับ อาจารย์ทนงบอกในเฟสว่าท่านจะเขียนมาให้พวกเราอ่านครับ เดี๋ยวท่านนำมาลงในเฟสผมจะนำมาให้อ่านครับ ตอนนี้ท่านกำลังเขียนปัญหาในอเมริกาที่แรงขึ้นเรื่อยๆ

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
เมื่อวานนี้ เวลา 19:13 น. ·
ดาวหาง ISON ตามคำทำนายของ Nostradamus!

ตราดามุสเขียนว่าดาวหางจะมาจากกราศีกรกฏ และสิ่งที่เห็นประมาณว่า "สว่างกว่าดวงจันทร์เต็มดวง"
..ดาวที่ใหญ่ที่สุดของ 2013 ... อาจจะ ISON C/2012 S1

Comet ISON Predicted by Nostradamus!!!
YouTube

feature=player_embedded&v=7mfB0sjaQOM
“Mabus” will soon die, then will come,
A horrible undoing of people and animals,
At once one will see vengeance,
One hundred hands (powers) thirst, famine, when the comet will pass.”

Nostradamus Quatrains

Nostradamus and the Mabus Comet
By JOHN HOGUE | Published: 30 JANUARY 2007

Who is Mabus, the Third and Final Antichrist foreseen by Nostradamus?
Friends,
“Disaster” is a word derived from the Old French desastre meaning “from an ill-favored star.” It used to describe “bearded stars” or comets as portends heralding the death of great leaders and kings, such as Julius Caesar, the fall of empires–such as the great comet of 1812 that signified to many Napoleon’s “disastrous” decision to invade Russia later that year. The great 16th-century prophet Nostradamus believed the appearance of comets were stellar torches shining prescient light upon coming great changes in history. In particular, he believed a comet could portend the fall of a tyrant whose death would mark or even could trigger in some way the next world war.

A comet sighting in our times is key to identifying the third of three Antichrists foreseen by the prophet. In each case, Nostradamus provided clues that reverberated in similar phrases in a number of quatrains scattered throughout his book of prophecies for the fleet sooth-sleuth-sayer to decant for debate and discussion. He introduced the first Antichrist in bold letters in the opening quatrain poem of Century (volume) 8 of his book of prophecy as PAUNAYLORON. Le Peletier, chief among the 19th century’s finest Nostradamus scholars, decoded in hindsight this anagram to mean Napaulon Roy (King Napoleon). In the 1920s, the German Nostradamian, Von Loog, identified with clever foresight the second antichrist–Hister–as none other than Adolf “Hitler.” Though Napoleon’s anagram only came up once, hints in the same prophecy identify character and life details unique to him as a leader of France. Nostradamus is more generous with his mention of “Hister.” This code name for the second antichrist appears five times in the prophecies with numerous hints that it is Adolf Hitler. For instance, “Hister” is the ancient name for the River Danube. Hitler grew up in Linz, Austria, “on” the Danube.

Nostradamus’ third antichrist called “Mabus” is only mentioned once in the prophecies by code name in (Century) 2 Quatrain 62. An echo of that prophecy elaborating further details is indexed under 8 Q77. Some believes it qualifies Mabus as “the Third Antichrist.” Whether Mabus is the Third Antichrist or his victim is a subject of hot debate among Nostradamians. In either case, both Mabus as Third Antichrist or as separate entities, do not see the disastrous end of the new world war. They are killed at the beginning.

Nostradamus predicts the war of the Third Antichrist will be the longest of the three. Napoleon’s war, as Nostradamus accurately predicted in 7 Q13, lasted 14 years (1799–1814), followed by another famous time prediction in 10 Q90 for Napoleon’s escape from exile on Elba in 1815 to lead France for a hundred days until his final defeat at Waterloo. Nostradamus did not tag a specific length to Hitler’s war but he left powerful clues accurately framing the war in time. In his Epistle prophecies he earmarked the years “(19)37″, “(19)41″ and “(19)45″ as the beginning, middle and end of the conflict. He was only slightly off on the beginning year–it was 1939–but 1941 did see the turning of the tide with the Second Antichrist’s disastrous invasion of Russia, started on the same day of the 129 year anniversary of the First Antichrist’s invasion, no less. Hitler’s war did end in 1945.

Nostradamus gives two predictions for the length of the war of the Third Antichrist. In a passage written in 1558 about the three Antichrists in his Epistle to Henry II, he said the following:

“Finally the third [Antichrist] will cause an inundation of human blood, and one will not find Mars [the God of War] fasting for a long time… After that, the Antichrist will be the infernal prince again for the (third and) last time. All the Kingdoms of Christianity, and even those of the infidels [Muslims], will tremble for the space of twenty-five years…”

He wrote the Epistle dedicating a serialization of the final three Centuries (volumes 8, 9 and 10) of his book of prophecies to the king of France after setting down with his pen the following well-known prophecy giving what appears to be a longer timeline:

8 Q77
The Third Antichrist very soon annihilated,
Twenty-seven years his bloody war will last…

The play of the two timelines, as we will soon see, could be another clue to exactly who Nostradamus intended to be “Mabus.” He is either the Third Antichrist himself, or a key figure killed by the Third Antichrist. His death marks the beginning of the Third Antichrist’s war.

Here is the complete Mabus prophecy in original French and translated into English:

2 Q62
Mabus puis tost alors mourra, viendra,
De gens & bestes vne horrible defaite:
Puis tout à coup la vengeance on verra,
Cent, main, soif, faim, quand courra la comete.



Mabus will soon die, then will come,
A horrible undoing of people and animals,
At once one will see vengeance,
One hundred hands [powers], thirst, famine, when the comet will pass.



Mabus soon dies when a comet will pass. What then follows is expressed in a Renaissance French euphemism: horrible defaite–in other words, the most terrible undoing imaginable, a destruction and mass killing that spares neither animals or people. Already the war in Iraq and rumors of war planned by the US and Israel against Iran has led to leaks suggesting that both have considered factoring in weapons of mass destruction powerful enough to bore into subterranean Iranian nuclear facilities. Israeli and US sources have already drawn up plans for hypothetical air strikes on Iranian nuclear installations with tactical nuclear weapons. Iran in turn has threatened to use any weapons it possesses in a counterstrike including regional ballistic missiles possibly tipped with chemical or biological weapons falling from the sky on US bases in Iraq, the Gulf States and Israeli cities.

A “horrible undoing of people and animals” sounds ever more like something that could happen in the next war in the Middle East, and perhaps soon, because Mabus may have quickly died, falling through a trap door on a long rope that snapped his neck, when a comet did pass, just a few weeks later.

Nostradamus could have framed the emergence, the death of Mabus and the war of the Third Antichrist with a comet sighting. The challenge left to prophecy scholars is to accurately anticipate which comet Nostradamus intended. Over the years I have received hundreds of letters asking if this comet or that appearing around the time of what was considered prophetically linked current events was the “Mabus comet.” I have replied regularly that nothing short of a massive and bright comet easily viewed by the naked eye would suffice, because Nostradamus, without means of a telescope only factored truly large and easily seen comets into his prophecies. A potential “advent” dating for the Third Antichrist appears in 10 Q72. It says that “1999 and September month” (a code for 9-11-1 September month) will see a “great king of terror” descend from the skies. The timeframe therefore reduces the “Mabus” comet candidates to three: Comet Hyakutake in 1996, Hale-Bopp in 1997 and the brightest and most dramatic of them all, the sudden flare up of Comet McNaught in mid-January 2007.

Many of you already know that for 20 years in counting I have declared Saddam Hussein to be my personal choice as the man who would be Nostradamus’ Mabus. In brief, for the uninitiated, the reason being that the law of anagram allows one to reverse in lower case the name “mabus” into “subam.” You can reverse again any letters, such as getting “d” out of “b” and get “sudam.” Phonetics play in the rules. If a similar vowel can be derived, for instance changing “u” to the long, Arabic “a”–sounding like “uhh” or “awh”= (Suh’dam, Sawh’dam) you get “Sadam.” In anagramming, you can add or subtract redundant letters. In this case, add a “d” and you get: “Saddam.”

Saddam Hussein was executed by hanging at dawn of 30 December (Iraqi Time) 2006. Roughly a week later, Comet McNaught passing close to the sun, suddenly and unexpectedly began bursting into a brightness that by the middle of January 2007 competed with the sunset’s afterglow. The comet core and tail rivaled the brightness of the planet Venus. I bear personal witness to its brightness, as I had the opportunity to see it, on 11 January, on a rare clear winter evening in the Pacific Northwest floating above a stand of pine trees. It rivaled the afterglow of sunset behind my house. A few days later it appeared over evening skies of the Southern Hemisphere stretching an arched, hoary rooster comet tail millions of miles into space that drew a line in the sky of comet gas and dust reminiscent of a ghostly ribbon of aurora lights.

The synchronicity of Saddam’s death and the emerging comet engendered an avalanche of letters from all over the world asking if this comet augured Saddam Hussein as “Mabus.” Moreover, did his death and the comet’s transit mean we were about the endure a widening war in the Middle East, if not the onset of the 25 or 27 year conflict of the Third Antichrist in just a few short days or months.

I can say this. Never in over three decades of prophecy watching have I seen a better heavenly portend match the death of a key figure–a prime candidate for the Third Antichrist–as catalyst for the next world war.

At the time of this writing, this comet stands as the best candidate. It would take a stellar visitation of singularly rare and vast proportions to better it. I do not rule that out. Still, Comet McNaught captures the subtleties of Nostradamus’ language like no other before it. Consider the last phrase of the prophecy: “when the comet will pass”–or, “will run.” The French word courra also means, “will run quickly.” McNaught did just that. Although the Australian astronomer Robert McNaught had discovered it in August 2006, no one at that time expected it would blossom from a modest smudge only seen by telescope and binoculars to a sudden brilliance in our skies around dawn or sunset of the new year when it passed close around the Sun. Indeed, from 12 to 16 January 2007, a little more than two weeks after the death of Saddam Hussein, it flared bright enough to be seen in broad daylight as the third brightest object in the skies behind only the Sun and the Moon. Those who could block out the sun and gaze about a fist’s width on an outstretched arm to the left of the sun’s position could see it without binoculars.

Comet McNaught’s passing was quick and dramatic. It flared to full magnitude while running around the sun within the orbit of Mercury in less than a fortnight. It became three times brighter than the next candidate for the Mabus Comet, Hale-Bopp in 1997. It is only bested by the 20th century’s most luminous comet, Ikeya-Seki, appearing 42 years ago in 1965.

It is highly likely that Saddam is Nostradamus’ Mabus and McNaught is the comet running at the end of the Mabus prophecy.

The death of Saddam Hussein followed by the days of the comet may unravel a mystery. Why did Nostradamus give two time lines for the war of his third and final antichrist. Thanks to your letters it has come to my attention that if you count the years Saddam Hussein became dictator of Iraq in 1979 to the year of his death (the end of 2006) you get 27 years–the same count of years in 8 Q77′s prophecy about the Third Antichrist:

8 Q77
The Third Antichrist very soon annihilated,
Twenty-seven years his bloody war will last.
The heretics (are) dead, captives exiled,
Blood-soaked human bodies, and a reddened, icy hail covering the earth.

Perhaps now we can at least theorize why Nostradamus talked about a war lasting 27 years in this prophecy and later in the Epistle wrote about a 25-year war. They could be subsequent events. One follows the other.

In the above prophecy, he may be describing Saddam Hussein’s 27-year rule as a war. Not an unfair assessment. Saddam Hussein as vice president of Iraq took power in a bloodless coup 16 July 1979. A little over one year and two months later, he launched a war with Iran that lasted from 22 September 1980 to August 1988. Barely a respite passed when exactly two short years later he invaded Kuwait in August 1990. That led to the military buildup of a US-Coalition alliance and the Gulf War to liberate Kuwait in early 1991. Forthwith, Saddam’s surviving Republican Guard divisions suppressed a large uprising inside his borders of ethnic Iraqi Kurds and Shia in 1991 costing the lives of at least 350,000 Iraqis. Isolated by sanctions, a no-fly zone, Saddam continued to play cat and mouse games with weapons inspectors under the jet and missile shadows of coalition air forces waging a low grade air war up to the US invasion of Iraq in March 2003.

Saddam fell from power by May 2003, just when the current and destabilizing Iraqi insurrection began. He groveled in a spider hole until caught by US forces in December 2003 and “very soon” was “annihilated” by hanging three years later to the month in 2006–the year the escalating insurrection turned into a civil war poised to break up what only kings and dictators could sustain–a nation called “Iraq.”

Twenty-four violent years of dictatorship plus three more years as prisoner during an insurrection and civil war that has effectively put a wrecking ball to his statues, the political and military institutions of his police state equals Saddam’s 27-year war. The heretics “are” dead, if you count Saddam and his henchmen along with al-Qaeda operatives in Iraq, like Abu Musab al-Zarqawi on the list. Many more Iraqi Baathists and Saddam sympathizers are “captives”–some internally “exiled” at Abu Ghraib prison and other Iraqi Gulags. The final line of the above prophecy could describe a vision of thousands of Iranian soldiers gassed during phases of Saddam’s 27 year war with his neighbors, or the Kurdish corpses of civilians stained red and spotty white, sprayed by chemical weapons Saddam used to gas 5,000 civilians in the town of Halabja in 1988.

Saddam’s 27-year war may be a precursor to the beginning of a world war of the Third Antichrist, lasting another 25 years.

Nostradamus in the Epistle warns of much worse to come in the new war. The wording may pose that Mabus is not an Antichrist, but a victim of such:

“After that the Antichrist will be the infernal prince again for the [third and] last time. All the Kingdoms of Christianity, and even those of the infidels [Muslims], will tremble for the space of twenty-five years… so many evils shall be committed by the means of, Satan, the infernal Prince, that almost the entire world will be found undone and desolate.”

I predict that in the coming nine months, perhaps even much sooner, we will know for sure if Comet McNaught should be renamed Comet Mabus. Events soon to be set in motion will most likely confirm this desastre portend from the stars as the sign of death for the Third Antichrist and the onset of a Third World War.

Much more will be revealed to you about the true nature of the Antichrist and his war in my forthcoming eBook: Mabus. If events do not overwhelm my workload–such as the coming attack on Iran–I may have Mabus Code ready for you to read by the end of February.

John Hogue
(30 January 2007)

Read my Predictions for 2012:

This entry was posted in MABUS Code and tagged 2 Q62, 27-year war, 8 Q77, Abu Musab al-Zarqawi, antichrist, Comet McNaught, Comets, desastre, Hogue, Israel, John Hogue, Mabus, Mabus Comet, Middle East, Nostradamus, PauNayLoron, prediction, predictions, Saddam, Third Antichrist, US. Bookmark the permalink. Post a comment or leave a trackback: Trackback URL.

 

ศูนย์เตือนภัย พิบัติโลก
3 ชั่วโมงที่แล้ว ·
ภูเขาไฟนิวซีแลนด์ ปะทุขึ้น ยกระดับการแจ้งเตือนเป็นสีขาว
October 12, 2013 - NEW ZEALAND – New Zealand’s geological agency GNS Science said on Saturday that it’s raised the alert level for White Island after the volcano erupted. The agency said a moderate explosion eruption, lasting about a minute, happened just after 8 p.m. Friday night. GNS Science said the volcanic alert level has been raised from one to two which indicates minor activity. The aviation color code has been upgraded to orange, the second- highest alert level. GNS volcanologist Arthur Jolly said the eruption was about the same size as the previous one in August 2012, Radio New Zealand reported. Jolly said the eruption threw mostly mud, rather than ash, into the air. He said bad weather on Saturday prevented GNS volcanologists from flying over the island to observe the volcano. –Global Times

 

ศูนย์เตือนภัย พิบัติโลก
ภูเขาไฟ Veniaminof อลาสก้าปะทุพ่นเถ้าภูเขาไฟออกมา
October 12, 2013 – ANCHORAGE, Alaska — A volcano on the Alaska Peninsula has again become active during a months-long eruption, with a trace of ash falling on communities up to 35 miles away. The Alaska Volcano Observatory says in a release that Veniaminof Volcano resumed its 2013 eruption on Saturday after being quiet for about a month. It’s been marked by lava flows, fountaining and intermittent but small ash, steam and gas plumes. The plumes usually only travel a few miles from the volcano, but the communities of Chignik Lake and Chignik Lagoon, about 35 miles away, reported trace ash on Friday. The observatory says ash fall from the volcano 480 miles southwest of Anchorage is not considered to be significant. The eruption started in June. –News Miner

​

 

สมัยก่อน ที่หน้าคอนโซลของรถยนต์ผมจะติดเข็มทิศไว้ดูทิศทางเวลาขับรถไปต่างจังหวัดเสมอ แต่สามปีมานี้ ผมเลิกใช้เข็มทิศแม่เหล็กแล้ว เพราะว่ามันมักจะชี้ผิดทิศทาง เนื่องจากเข็มค้าง ซึ่งผมคิดดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะสนามแม่เหล็กโลกอ่อนตัวลงไปมาก มันก็เลยไม่ค่อยหมุน

 

การทุบราคาทอง ชาวอเมริกันซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ในตลาดโลหะมีค่า (ทองคำ และ เงิน) บอกว่า ปริมาณที่ขายทองระยะหลังมีมากกว่าปริมาณทองคำแท่งที่พวกนั้นมีอยู่จริงมาก และตอนนี้ บริษัทใหญ่ในยุโรปที่เคยให้เช่าทอง(ไปขายชั่วคราว) ก็เลิกให้เช่าแล้ว เพราะกลัวว่าจะไม่ได้ทองคืน นั่นหมายความว่า เมื่อถึงเวลาครบกำหนด ก็จะไม่มีทองคำแท่งส่งมอบตามกระดาษ

 

*** สงสัยเรื่องราคาทองคำ ***

ทองคำแท่ง หนัก 2,500 เมกะตัน
มูลค่าเท่าไหร่ ?

- " หนุมาน ผู้นำสาร "