-> ตีแผ่ --> สมเด็จวังหน้า + สมเด็จวัดพระแก้ว + สมเด็จพระธาตุพนม

นิยายเรื่องนี้คงต้องหาทางแก้ปํญหาเรื่องน้ำหนักให้ดู สมเหตุ สมผลหน่อยนะครับ

 

ถึงแม้จะอ้างว่าพระจะทยอยสร้างตั้งแต่รัชกาลที่ 3 4 5 จนถึงรัชกาลที่ 7
และอ้างว่าสร้างมากในสมัยรัชกาลที่ 5 นั้น

แต่ลืมอะไรไปหรือเปล่า ตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคลสิ้นสุดลง
เมื่อพระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ(กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ)ทิวงคตเมื่อปี 2428
สิริพระชนมายุ 47 พระวษา (หลังจากที่รัชกาลที่ 5 ครองราชย์ได้ 12 ปี)

หลังจากกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญทิวงคต 7 วัน วันที่ 4 กันยายน 2428
ได้มีประกาศพระบรมราชโองการยกเลิกตำแหน่งพระมหาอุปราช กรมพระราชวังบวรสถานมงคล

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการมานพระบัญฑูร
สุรสิงหนาท ให้สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าราชกุมารพระองค์ใหญ่ขึ้นเป็น

“สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ อดิศวรมหาจุฬาลงกรณ์
บดินทรเทพยวรางกูร บรมมกุฏนเรนทรสูริย์ขัตติยศสันตติวงศ์ อุกฤษฐพงศวโรภโตสุชาติ
ธัญญลักษณวิลาศวิบูลย์สวัสดิ์ สิริวัฒนวิสุทธิ์ สยามมกุฏราชกุมาร”

ทรงศักดินาแสนหนึ่ง เสมอสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ ซึ่งได้เฉลิมพระราชมณเฑียร
เป็นพระมหาอุปราชฝ่ายหน้าพระราชโอรสขึ้นเป็นสยามมงกุฎราชกุมารแทน

ดังนั้นพระราชวังของวังหน้าก็ไม่มีใครแตะต้องอีกนับแต่นั้นมา

เพราะในช่วงต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ประมาณ พ.ศ. 2417-2418 ทรงริเริ่มปฏิรูปปรับปรุงการปกครองประเทศให้ทันสมัย
โดยโยงอำนาจเข้าศูนย์กลาง ทรงตั้งหอรัษฎากรพิพัฒน์ (Auditing Office ปัจจุบันคือ กระทรวงการคลัง) เพื่อรวมรวมการเก็บภาษีมาอยู่ที่เดียวกัน ซึ่งกระทบกระเทือนต่อการเก็บรายได้ สร้างความไม่พอใจแก่เจ้านายและขุนนางเก่าแก่เป็นอันมาก โดยเฉพาะกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ซึ่งเดิมมีรายได้แผ่นดินถึง 1 ใน 3 มีทหารในสังกัดถึง 2000 นาย และมีข้าราชบริพารเป็นจำนวนมาก และเกิดปฏิกิริยาโต้ตอบ มีการสะสมอาวุธ มีความขัดแย้งระหว่างวังหลวงกับวังหน้า จนเกือบจะเกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งเรียกเหตุการณ์ขัดแย้งนี้ว่า วิกฤตการณ์วังหน้า

เหตุการณ์บาดหมางเกิดขึ้นเมื่อวันหนึ่ง เกิดระเบิดขึ้นที่ตึกดินในวังหลวง ไฟไหม้ลุกลามไปถึงพระบรมมหาราชวัง ทางวังหลวงเข้าใจว่าวังหน้าเป็นผู้วางระเบิด และไม่ส่งคนมาช่วยดับไฟ ส่วนกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ก็เสด็จหลบหนีไปอยู่ในสถานกงสุลอังกฤษไม่ยอมเสด็จออกมา เหตุการณ์ตึงเครียดนี้กินเวลาถึงสองสัปดาห์ จนกระทั่งสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์เดินทางกลับจากราชบุรี เข้ามาไกล่เกลี่ย

เมื่อมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น หากมีมหกรรมสร้างพระที่วังหน้าก็คงจะเป็นที่เพ่งเล็งว่าเตรียมก่อกบฎเป็นแน่แท้

เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วพระตั้งแต่หลังปี 2428 ไปจนถึงสมัยรัชการลที่ 7 ใครสร้าง ?
ใครเป็นผู้มีอำนาจวาสนาถึงขนาดอำนวยการสร้างพระและนำไปบรรจุไว้วัดพระแก้ววังหน้าได้ และระยะเวลา 12 ปี ที่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ดำรงพระชนมชีพอยู่ก็มิได้มีงานเฉลิมฉลองอะไรถึงขนาดโปรดให้บรรจุกรุพระอันมากมายมหาศาลขนาดนั้นได้

 

มโนเอาครับท่าน. มโนเอา.....
ทุกอย่างทั้งหมดทั้งสิ้น
นั่ง มโน เอา....

ไม่มีหลักฐานมาแสดง.... ที่เอามาแสดงโต้แย้งก็เป็นลักฐานปลอม....ไม่มีสาระอันใดเลย..

การลักลอบขนพระออกจากพระราชวัง หากตามที่คำนวณปริมาตร
ก็ต้องนั่ง จัดพระลงกล่องทีละองค์
จัดเรียงให้เป็นระเบียบเรียบร้อยทีละองค์ๆ ทุกครั้งๆ ละเป็น 100,000 องค์
กว่าจะขนออกมาครบ 2,000,000 กว่าองค์ จะต้องนั่งจัดเรียงกันกี่ครั้ง แล้วไปนั่งจัดเรียงกันที่ไหน
(คิดเฉพาะตอนขนออกช่วงบูรณะปฏิสังขรณ์วัดพระแก้วมรกต..นะครับ...ไม่ต้องคิดถึงตอนสร้างพระ)
จัดเรียงพระให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้กินเนื้อที่น้อยที่สุดตามที่นายมโนคำนวณ

มโน....เอ้ย...นายมโน....
หลักฐานอะไรก็ไม่มี....มีแต่..นั่งมโนเอา..

...มโน..เพื่อสร้างเรื่องราวให้เป็นไปตาม..นิยายปหลอกขายพระเวอร์ชั้นที่ 2..ที่กลุ่มของตัวเองแต่งขึ้นมาใหม่..เพราะ นิยายหลอกขายพระเวอร์ชั่นแรก โดนน๊อคไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์..

นิยายหลอกขายพระเวอร์ชั้นที่ 2..จึงบอกสถานที่แตกกรุออกมาไม่ได้ เพราะกลัวผมหาหลักฐานมาหักล้างได้อีก จึงแต่งนิยายบอกได้ แค่เป็นเรื่องเล่า ว่า มี นายทหารยศสูง ที่เป็น ผู้ควบคุมงาน ใช้รถขนพระเครื่องออกมาจากพระราชวัง ประมาณ 2,000,000 กว่าองค์...แต่แค่นี้ ความเป็นไปได้ ก็เท่ากับ 0 แล้วครับ อย่าลืมว่า ที่นั่นคือ พระบรมมหาราชวัง และ องค์ประธานคณะกรรมการฯ คือ สมเด็จพระเทพฯ นะครับ ระบบการรักษาความปลอดภัย ไม่ใช่ว่าใครๆ อยากขนอะไรเข้าๆ-ออกๆ กันได้ง่ายๆตามอำเภอใจ

มีอะไรจะ...มโน..ต่ออีกไหม?????

.

 

เรื่องคำนวณน้ำหนัก คำนวณพื้นที่ผมกระจ่างแล้ว แต่สงสัยเรื่องนี้

หนึ่งหีบ เก็บพระได้ 170,000 องค์
1 หีบ+น้ำหนักพระ เท่ากับ 1 ตันเศษ ๆ (1700 กิโลกรัม) โดยประมาณ

ยกหีบใส่พระหนักราว ๆ 1700 กิโลกรัมขึ้นรถ GMC ได้อย่างสบาย ๆ 5 ลัง

อุ๊แม่เจ้า เฮคิวลิสกลับชาติมาเกิดหรือเปล่าเนี่ย ใช้คนยกกี่คนครับ
จากลักษณะหีบไม่ได้มีหูห่วงให้จับได้ถนัดเลยแม้แต่น้อย
ครั้นจะใช้ไม้งัดช้อนขึ้นใช้มือคนยก ก็คงจะดูเหลือเชื่อไปหน่อย
สิบคนยกคงจะแออัดยัดเยียดเพราะหีบกว้างแค่ เมตรXเมตร
ในกรุกว้างพอที่จะลงไปแออัดยัดเยียดได้มากขนาดนั้นเชียว
ใช้รถเครนยก ในสมัยนั้นคงเป็นที่แตกตื่นเพราะอยู่ในเขตพระราชฐาน
ตั้งเสาใช้รอกชักขึ้น อุปกรณ์และคนมากมายขนาดนั้นไม่มีคนเห็น

เอาแค่ยกหีบลงบรรจุกรุ หรือยกขึ้นไว้เพดานโบสถ์ก็เรื่องใหญ่น่าดู
แถมยกใส่รถทั้งขาขึ้นขาลง ไม่ใช่รถดัมพ์จะได้เทโครมทีเดียว

ผมตกวิชากลศาสตร์ครับ คำนวณไม่ได้นึกไม่ออก
แต่ในเรื่องเล่ากลับบอกว่ายกได้อย่างสบายไม่ยากเย็น นับว่ามหัศจรรย์จริง ๆ

 

ตามนี้.....

 

ด้วยความเคารพ Webmaster นะครับ

เสียดายนะครับ
Webmaster ไม่น่าจะแบน คนๆนี้เลย
น่าจะเพียงแต่เตือนให้เขา รักษามารยาทกฏเกณฑ์ในการตอบกระทู้ พสมช ท่านอื่นสักหน่อยก็พอ

ตอบก็ตอบโดยใช้เหตุและผล ไม่ต้องใช้สำนวนแถๆๆ กระแนะกะแหน ดูหมิ่น ดูถูกเหยียดหยามคนอื่น อวดร่ำอวดรวย อวดใหญ่อวดโต มาใช้เป็นสร้อยในการตอบกระทู้เท่านั้นก็พอ

ลองพิจารณาดูใหม่อีกทีนะครับ
เวบพลังจิต เป็นเวบสาธารณะ นะครับ
เพียงแต่ปรามให้ พสมช ตอบท่านอื่นแบบอยู่ในร่องในรอย อยู่ในกรอบ ก็น่าจะพอ

ด้วยความเคารพครับ

.

 

บอกแล้วไงว่าก่อนที่คุณจะเขียนตอบอะไรไป ขอให้คุณตั้งสติดีๆ สมัยนั้นเขาทำปูนเป็นถุงๆล่ะ๒๕ โล กระสอบล่ะ๑๐๐โลมาขายกันแล้วหรือ แหม๋อยากรู้จริงๆว่าเป็นปูนเปลือกหอยยี่ห้ออะไรกันหว๋า.555555555555(deejai)(deejai)(deejai)(deejai)

 

พูดตามที่ มโน เอา
ไม่มีเอกสารอ้างอิง ไม่มีหลักฐานอะไรเลย
แม้แต่
สถานที่ วัน เวลา ที่สร้าง
สถานที่ วัน เวลา ที่แตกกรุ

เพราะ มโน เอา

แล้วเอาไปแต่งนิยายให้ใกล้เคียงกับประวัติศาสตร์มากที่สุด
แต่ไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆ มาอ้างอิง
เพราะเป็นแค่เรื่อง มโน


.

 

555++ ยินดีที่กลับมานะครับ สีสันของเวปครับ

 

การหาค่า carbon ที่ชัดเจนต้องเป็นห้องที่ ออกแบบ มาเฉพาะทาง เพื่อให้ค่าคำนวนของ Carbon ชัดเจน ถ้าพี่บอกว่า มีแบบมือถือ ผมว่า คงไม่น่าใช่



คงมีมิจฉาชีพ เต็มเมือง บอกเครื่องนี้ สามารถ แสกน ค่า Carbon โดยที่ วัตถุไม่ กระทบกระเทีอน แล้ว หาค่า ได้ชัดเจน เต็มร้อย

เชิญพี่ดำน้ำเลยครับ

 

เท่าที่นั่งๆอ่านดู รู้สึกเขาจะมีบุญญาธิการครับผม แหะๆ ผมเลยไม่อยากเข้าไปเกลือกกลั้วด้วย อืม... ขอเป็นผู้ชมที่ดีละกันครับพี่ๆและอาจารย์ทุกท่าน

 

กระทู้นี้ดีนะ วิเคราะห์เจาะลึกกันถึงพริก ถึงขิง จริงๆ

 

ขอบคุณท่านอาจารย์ศนิวารครับ เห็นข้อมูลนี้แล้วแน่นหน้าอกแทนคนบางคนจุงครับ เหอะๆๆขอยาลมยาดมยาหม่องหนึ่งชุดด่วนๆครับผม555555555

 

ไม่ต้องห่วงครับเดี๋ยวก็เขาหาช่องได้เอง
ทีนี้ก็คอยพิจารณาเรื่องความสมเหตุสมผลครับ

ว่าแต่เรื่องยกหีบพระหรือตุ่มบรรจุพระหนัก 1700 กิโลกรัม
ขึ้นจากกรุนี่ผมยังไม่กระจ่างครับ สงสัยมีซุปเปอร์แมนมาช่วยยก
ดูอะไร ๆ ก็เลยสะดวกไปหมด ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครสงสัย

 

ขนาดพลังพุทธคุณ..ท่านว่าของท่านยังจับได้..ใครสร้างพระเท่าไหร่..ยุคนั้นเท่านี้..ยุคนี้เท่านั้น..ใครสร้างมากกว่าใคร..สมัยไหนมากกว่ากัน..ยังใช้ตาทิพย์เพ่งดูได้

นับประสาอะไรกั บจะใช่วิชาพรางตัวไม่ให้ใครเห็นเเละกำลังภายในใช้จิตอันกล้าแกร่งยกยกพระหลายแสนองค์หลายตันได้ในคร่าวเดียวได้ครับ....

นี้แหล่ะครับ..ถ้าทุกท่าน .ใช้หลักเหตุและผลกันชักนีสสสจะได้ไม่เป็นเยื่ออันโอชะกันครับ

ด้วยความหวังดีกะเพื่อนสมาชิกนะครับ..แค่เล่านิทานให้คนสนใจ..จงเชื่อทุกท่านที่หวังดีเถอะครับเพราะท่านเล่านี้น่าจะมีแต่เสียไม่มีได้นะครับ..ความคิดเห็นส่วนตัวผมนะครับ

 

เอาง่ายๆนะครับ...แค่ข่าวที่เราเห็นและทราบกันที่ผ่านมาไม่ว่า..พระแตกกรุที่ไหนคนแห่ไปกันมืดฟ้ามัวดิน..เรื่องไทยมุงมันมีตั่งแต่สมัยไหนแล้ววว..ถ้ามีจิง..อะไทยมุงคุ่ยกันตั้งนานแล้วครับพี่น้องพระเยอะขนาดนั้นอะปิดไม่มิดหรอกครับพี่น้อง

 

ผมมานั่งพิจารณา นี้หรือ คนที่ ฝึกจิตที่ดีแล้ว นี้หรือ คนที่ได้ เจโตปริยญาน มานั่งพิจารณาตรองดูละเอียด แล้ว กิเลส ตัณหา อุปาทาน เข้ามาครอบงำ จิตตนเอง จิต มันเร็วกว่าแสง มันชอบ กิเลส นั้น เอง

 

ตรงใหนกระทู้ใหนที่คุณเอาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มาหักล้างน่ะ ที่ทุกคนเห็นคือคุณเข้ามาหูหลับตาแถตลอด คุณตอบคุณอธิบายไม่ได้ก็บอกมาตรงๆแค่นั้นจบ

 

หา....อะไรนะ ???

พระ 400,000-500,000 องค์เก็บในหีบโบราณก็ใช้ประมาณ 3 หีบเอง

ผมว่าบางทีการศึกษา ก็ไม่ได้ช่วยบางคนได้จริงฯครับ..

 

ท่าน จั่วน้อยครับ..

เกรงว่า ท่าน Peet คงหมายถึงว่า ..ที่คัดคน ตอนจะไปดู

ต้องผ่านการได้รับ อนญาติจากหมอก่อน อะครับ.. เพราะ จะเป็นอันตราย

ได้หากคนป่วยคลุ้มคลั่ง ..!!