ถึงลุงแมวค่ะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Pngtree, 22 กรกฎาคม 2019.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    นี่ ลองฟังแระ แต่ก่อนหน้า ผมฟังอีกไฟล์ของคนชื่อ มุ้ย

    คงจะทางใครทางเผือก อ่ะฮับ
     
  2. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    อ้อครับ ถ้าจะอุปโลกน์เรียกว่าเป็นจิตเดิมแท้ก็ได้ หมายถึงรู้เปล่าๆตัวนั้น อันนี้เอาเฉพาะลุงแมวกับผมสื่อพอเป็นที่เข้าใจกันนะครับ

    ทีนี้รู้เปล่าๆ ตัวนี้ มองไปถึงขั้นที่ว่าคืออสังขตธรรมคือนิพพานเลย อันนี้เป็นการสรุปที่กล้าหาญมากๆ นิพพานแบบนี้ง่ายมาก ผมแค่ไม่ไปหลงติดใจยึดมั่นถือมั่นในกริยาฝ่ายสังขาร แค่อยู่กับรู้ไปตามปกติ ไม่มีตัวมีตนอะไร ผมก็นิพพานทันทีเลยหรือเปล่าครับ ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจอื่นยิ่งไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว คือมันรู้สึกไม่แน่ใจครับ

    ปิติ สุข สงบ อิ่มใจ มันไม่มีเลยครับ มันแห้งแล้งมาก มันทื่อๆมากครับ แต่ถ้าผมกำหนดรู้ได้ว่า ความจริงกับสิ่งที่เราคิดมันอาจจะตรงหรือไม่ตรงกันก็ได้ แต่ความจริงจะไม่เดินตามหลังใคร ไม่เป็นไปตามใจใครทั้งนั้น และความจริงจะยังคงเป็นความจริงวันยังค่ำ แบบนี้ผมจะโล่งเลย เหมือนยกภูเขาออกจากอก หยุดการสาระวนยึดมั่นกับสังขารไปชั่วคราว ยกให้สัจธรรมความจริงเป็นใหญ่แต่ผู้เดียว เรียกว่ายอมรับความจริง แบบนี้ผมจะสัมผัสรสแห่งพระธรรม มีความปลอดโปร่งโล่งใจ ใจคลายการยึดไปชั่วคราว สองโมเมนต์มันต่างกันตรงนี้ครับ

    แต่ก็ไม่ได้ว่านั่นคือนิพพาน แต่ถ้านิพพานหมายถึงความดับกิเลส ก็น่าจะใช้คำนั้นได้คือดับคลายความยึดติดในทิฏฐิความเห็นของตนๆออกไปชั่วคราวเพราะอำนาจแห่งการเห็นสัจธรรมความจริงปรากฏ และได้สัมผัสรสแห่งพระธรรมนั้นครับ ส่วนตัวว่าพระธรรมมีรส และเป็นอาหารใจชั้นเลิศครับ
     
  3. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +470
    ลงไปมีแต่ขาดทุน ไม่ก็เท่าทุน หากำไรบ่ได้

    สู้ไปแทงหวยระบบใหม่ดีกว่าแยะ
    ถึงไม่ถูกก็ยังได้ช่วยราษฎร์ เสริมรัฐ ตามสโลแกนเขาอะเนอะ
     
  4. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    สี่โมงเย็นวันนี้ รู้แน่นวลฮับ กำไร หรือขาดทุน
     
  5. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    ลุงแมวครับ พอจะเล่าสภาวธรรมหลังจากที่ได้ศึกษาปฏิบัติตามแนวทางของ ลต.ให้ฟังได้บ้างไหมครับ เกิดผลยังไงบ้าง มีอึ๊กมีอั๊ก หยุดคิดหยุดปรุง ลมหายใจขัด หายใจไม่ผ่อนคลายตามระบบบ้างไหมครับ มีความรู้สึกเครียด คล้ายเกิดความรู้สึกขัดๆทางความคิดบ้างไหมครับ ตรงนี้อาจไม่ได้เป็นตลอดเวลา อาจเป็นแค่บางช่วง หรือเกิดบ่อย หรือผ่อนคลายดีครับ ถ้าหน้าไมค์ไม่สะดวก หลังไมค์ก็ได้ครับลุง
     
  6. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ตรงนี้ "เหมือนกัน"
    +++ ใช่ "ทุกองค์ที่เป็น พระธาตุ" อาจเทศน์ต่างสำนวน
    +++ แต่ผลลัพธ์ เหมือนกัน ลงที่เดียวกัน
    +++ ส่วนใหญ่ สายพระป่าหลวงปู่มั่น เหมือน ๆ กัน
    +++ คำพูดในเรื่อง สภาวะธรรม ลงที่เดียวกัน
    +++ ส่วนในจิต ท่านที่ทำได้ตามที่เทศน์
    +++ อัฐิ ก็ออกมาเป็น "พระธาตุ" เหมือน ๆ กัน
    +++ ประวัติ หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย ก็อยู่ในสายนี้เช่นกัน
    +++ ต่างกันที่ "สำนวน ตามจริต" เท่านั้น นะครับ
     
  7. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ขอแจงให้ "เล็กน้อย" ก็แล้วกัน ตรงเฉพาะคำว่า "ธรรมธาตุ" นะ
    +++ เอาตรง "ดำรงค์สติมั่น รู้ ธรรมเฉพาะหน้า" ตรงนี้นะ

    +++ ในยามที่ "ดำรงค์สติ จนเป็นสมาธิ (สติมั่นคง สัมโพชฌงค์)"
    +++ ในยามนั้น "นิวรณ์ 5 ไม่กำเริบ มโน/ฟุ้งซ่าน/เพ้อเจ้อ เกิดไม่ได้"
    +++ แม้แต่ "อาการนึก" ก็ไม่เกิด ดังนั้น "ไม่มีภวังค์นิมิต ไม่มี จิต ใต้/ไร้ สำนึก"
    +++ อาการ เด่น ในขณนั้น คือ "รู้สึก/รู้" ทุกสภาวะ ที่มี ที่เป็น (ปรากฏ)
    +++ ตรงนี้เป็น "รู้ธรรมเฉพาะหน้า"

    +++ สภาวะธรรมที่ปรากฏในขณะนั้น ๆ "ไม่ใช่รูป"
    +++ เป็นสภาวะ "นาม" ที่เป็นสภาวะเฉพาะของ "ธาตุ"
    +++ รวมทั้งสภาวะของ "ฌานทุกชนิด" ที่เป็น "ความรู้สึก"
    +++ และ "ความรู้สึก ทุกชนิด" ล้วนปรากฏมาเป็น "สภาวะธาตุ" ทั้งหมด

    +++ แม้กระทั่ง "ความรู้สึกที่ เป็นตน" ก็ไม่พ้นจากความเป็น "สภาวะธาตุ"
    +++ ตรงอาการ จาก "รู้ธรรมเฉพาะหน้า" ตรงนี้ คืออาการ "รู้ ธาตุเฉพาะหน้า" ก็ได้
    +++ จนกว่าจะรู้ได้เองว่า "ธาตุต่าง ๆ ไม่ใช่ตน" ก็จะเกิด "การวางธาตุ" ลงไปเอง
    +++ ตรงนี้ จะเหลือแต่ "อาการของ สภาวะรู้ ที่ไม่ใช่ธาตุ ไม่มีความเป็นธาตุ"

    +++ บางท่าน อาจติดภาษา เลยใช้คำว่า "ธาตุรู้" ก็ได้ แต่มันก็แค่ภาษา เท่านั้น
    +++ บางท่านก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ก็เรียกว่า "ธรรมธาตุ" ก็ได้ เพื่อแยกออกจาก ธาตุ อื่น
    +++ ท่านใช้คำว่า "ธาตุ" เพื่อเน้นชัดเจนในเรื่องที่มัน "ไม่ใช่/ไม่มี รูป"
    +++ บางท่านใช้คำว่า "จิตเดิมแท้ (รู้)" เพื่อเน้นชัดเจนในเรื่องที่มัน "ไม่ใช่/ไม่มี นาม"

    +++ แต่ทุกท่านก็ "ชี้" ไปที่ สภาวะเดียวกัน เพียงแต่ สำนวนการใช้ภาษา ต่างกันไป เท่านั้น
    +++ ก็เพียงแค่ "แจงเฉพาะกรณี" เท่านั้น สิ่งใดที่มีประโยชน์ สำหรับคุณ ปราบ ก็รับไว้
    +++ หากเห็นว่า "ไร้ประโยชน์ ก็ทิ้งไป" เท่านั้น นะครับ
     
  8. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ตรงสรุปว่า เปน อาหาร แค่นั้น
    ก้ควรเอะใจแล้วว่า ชาติยังมี
    ภพยังมี ความเปนสัตว์ตัวเบ้อ
    เร้อ ยังกินอาหาร ( สังขตธรรม )

    ปล่อยคสามจริงเปนความจริง
    วันยันค่ำนี่ผลิกเปน กามสุขขัล
    กลีมัตถลา ไปแล้ว

    แค่อยู้กับรู้ รู้ซื่อๆ ก้ คลี่ลอยน้ำ(ลพ.ราชรี)

    ดูจิตก้เปนสมถะได้(ลพ.ชลบุรี) ....

    วิญญาน เกืดพร้อม เวทนา
    เหมือนไม้กระดาน พิงกัน.....

    ทันทีที่รู้ ก้ เปนภพทันที "เอา
    คลี่ไปแสวงหานิพพาน ก้ได้
    คลี่(ลพ.ราชรี)"

    "รู้ลงไปจิตไม่เที่ยงจิตผู้รู้ก้ไม่
    เที่ยง(ลพ.ชลบุรี)"

    โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง

    ศาสดากล่าวว่า

    วิญญาน เกืดพร้อม เวทนา
    เหมือนไม้กระดาน พิงกัน


    ดังนั้น อุบาย! เน้นว่า อุบาย
    เน้นอีกทีว่าอุบาย คือ รู้ "......."
    ว่าไม่เที่ยง.แค่นี้ก้เพียงพอแล้วใน
    อุบายนำออก กิจอื่นไม่มี มรรค
    มีหนึ่งเดียว ตั้งแต่ ปุถุชน-->
    -->กัลยาณปุถุชน-->กัลยานชน


    วิปัสสนาแห้งแล้ง ....เปนคำชั้น
    หลัง .....ส่วน คำสอนศาสดา
    เมื่อ " สมถที่เกิดด้วยอำนาจ
    วิปัสสนาย่อมมี "

    "เธออาสัยวิหารธรรมนั้นเพื่อ
    อยู่สุข อิทธิบาท ญานทัสนะ
    และ แทงตลอด"
     
  9. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    จิตเดิมแท้ หลวงปู่มั่น ท่านใช้เรียก
    จิตที่หมดจากอวิชาอาสวะแล้ว

    ท่านใช้คำบาลีว่า ฐิติภูตัง

    ส่วนครูอาจารย์อี่นไปใช้กับจิตแบบไหนก็อีกเรื่อง..
     
  10. เพื่อนผู้รอนาน

    เพื่อนผู้รอนาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +824
    คนที่ไม่เคยกินมะนาวคุยกัน.?
    เคยได้ยินกันว่ามะนาวมีรดเปรี้ยว
    แล้วสนทนากันว่า.มะนาวมันมีรดเปรี้ยว.
    ตอบได้แต่ไม่เคยกิน.?
    แม้แต่รดเปรี้ยวก็มีหลายเปรี้ยว.
    เปรี้ยวแบบมะนาว.เปรี้ยวแบบมะขาม.เปรี้ยวแบบมะม่วง.เป็นต้น.
     
  11. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ถือว่าอ่านประดับความรู้ผ่านๆ แล้วกันนะครับ

    ........................
    (ในเทศน์หลวงปู่พุธ ฐานิโย )

    โอวาทของหลวงปู่มั่น
    ฐีติภูตัง

    ฐีติภูตัง มีพระเถระผู้หลักผู้ใหญ่เคยถาม
    ฐีจิภูตังของพระอาจารย์มั่นมายความว่าอย่างไร
    สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันนี่แหล่ะ

    ก็ทูลตอบท่านว่า สวดมนต์ถวายท่าน
    ธัมมัตถิ ตัตตา ธัมมะนิยามะตา เพราะความที่จิต ตั้งมั่น นิ่ง เด่น สว่างไสว
    ธัมมะนิยามะตา เพราะความ ที่สภาวะธรรมทั้งหลาย มาหมุนรอบจิต
    คือ

    จิต สงบ นิ่ง อยู่ในท่ามกลาง แห่ง กิเลสและอารมณ์

    แต่

    ไม่มีความหวั่นไหวตามกิเลสและอารมณ์นั้นๆ
    จึงได้ชื่อว่า ฐีติ ภูตัง

    ฐีติ ความตั้งมั่นของจิตโดยธรรมชาติของสมาธิ
    ภูตัง ความไหลไป ความเปลี่ยนแปลงไป ความวิ่งไป
    ของสภาวะธรรมที่ เกิด-ดับ กับจิตอยู่ตลอดเวลา
    อันนี่คือโอวาท ของหลวงปู่มั่น

    .......................................................


    โอวาทของหลวงปู่มหาบัว
    ปัญญาอบรมสมาธิ
    ลักษณะปัญญาอบรมสมาธิ
    ตามความหมายของหลวงปู่องค์นี้มันเป็นอย่างไร
    มันเป็นอย่างนี้ เมื่อจิตสงบนิ่งลงไปได้นิดนึง
    ความคิด ความรู้ มันผุด ขึ้นมา
    เหมือนกับสมาธิ ในอริยะมรรคของหลวงปู่เทศก์

    ทีนี้ความคิดอันใดที่มี สติ สัมปชัญญะ รู้ทันกันอยู่ โดยอัตโนมัติ
    มันเป็นจิตเดินวิปัสนา

    ทีนี้ จิตดวงนี้ เอาความคิดที่เกิดขึ้นมาเองเป็นอารมณ์จิต
    เป็นสิ่งระลึกของสติ เมื่อความคิด ความรู้ มันเกิดขึ้นมา
    สติ สัมปชัญญะ ก็ กำหนดรู้เองโดยอัตโนมัติ
    ความตั้งใจหรือเจตนาจะให้จิตเป็นไปนั้น อย่างไรนั้นไม่มี
    มีแต่ความเป็นเองของจิตโดยธรรมชาติของสมาธิและปัญญา

    ทีนี้

    ในเมื่อเกิดความคิดขึ้นมา ผู้ปฏิบัติมีสติ สติรู้พร้อมอยู่โดยอัตโนมัติ
    สมาธิมันก็ค่อยเด่นขึ้น เด่นขึ้น เด่นขึ้น เด่นขึ้น เด่นขึ้น
    คือ จิตมันสงบละเอียดลงไปนั้นเอง
    แล้วในที่สุด อารมณ์กับจิต มันจะแยกออกจากกัน
    กลายเป็น สามมิติ ดังที่กล่าวมาแล้ว

    อันนี้ คือ ลักษณะของ ปัญญาอบรมสมาธิ

    ทีนี้

    ความหมาย
    และความเป็นไปของมติของครูบาอาจารย์ที่กล่าวมาแล้วนี้
    จุดมุ่งหมาย อยู่ที่จุดเดียว คือ ความเป็นตรงกัน
    แต่เมื่อท่านพูด ท่านใช้ โวหาร คนละอย่าง

    หลวงปู่เสาร์ว่า จิตข้าไม่สงบมีแต่ความคิด
    หลวงปู่มั่น ฐีติภูตัง
    หลวงปู่ฝั่้น อย่าปล่อยให้จิตว่าง
    หลวงปู่เทศก์ สมาธิในฌานมันโง่ สมาธิในอริยะมรรคมันฉลาด
    หลวงปู่มหาบัว ปัญญาอบรมสมาธิ

    ความหมาย มันก็คือ อันเดียวกันนั้นเอง แต่ท่านใช้ภาษาคนละภาษา

    อันนี้ โอวาท ของครูบาอาจารย์ ดังที่กล่าวมานี่

    นักปฏิบัติ ควรจะได้นำไปพิจารณาได้จดจำดำเนิน ตามปฏิปทาของท่าน


    โอวาทของหลวงปู่มหาบัว
    ปัญญาอบรมสมาธิ
    ลักษณะปัญญาอบรมสมาธิ
    ตามความหมายของหลวงปู่องค์นี้มันเป็นอย่างไร
    มันเป็นอย่างนี้ เมื่อจิตสงบนิ่งลงไปได้นิดนึง
    ความคิด ความรู้ มันผุด ขึ้นมา
    เหมือนกับสมาธิ ในอริยะมรรคของหลวงปู่เทศก์

    ทีนี้ความคิดอันใดที่มี สติ สัมปชัญญะ รู้ทันกันอยู่ โดยอัตโนมัติ
    มันเป็นจิตเดินวิปัสนา

    ทีนี้ จิตดวงนี้ เอาความคิดที่เกิดขึ้นมาเองเป็นอารมณ์จิต
    เป็นสิ่งระลึกของสติ เมื่อความคิด ความรู้ มันเกิดขึ้นมา
    สติ สัมปชัญญะ ก็ กำหนดรู้เองโดยอัตโนมัติ
    ความตั้งใจหรือเจตนาจะให้จิตเป็นไปนั้น อย่างไรนั้นไม่มี
    มีแต่ความเป็นเองของจิตโดยธรรมชาติของสมาธิและปัญญา

    ทีนี้

    ในเมื่อเกิดความคิดขึ้นมา ผู้ปฏิบัติมีสติ สติรู้พร้อมอยู่โดยอัตโนมัติ
    สมาธิมันก็ค่อยเด่นขึ้น เด่นขึ้น เด่นขึ้น เด่นขึ้น เด่นขึ้น
    คือ จิตมันสงบละเอียดลงไปนั้นเอง
    แล้วในที่สุด อารมณ์กับจิต มันจะแยกออกจากกัน
    กลายเป็น สามมิติ ดังที่กล่าวมาแล้ว

    อันนี้ คือ ลักษณะของ ปัญญาอบรมสมาธิ

    ทีนี้

    ความหมาย
    และความเป็นไปของมติของครูบาอาจารย์ที่กล่าวมาแล้วนี้
    จุดมุ่งหมาย อยู่ที่จุดเดียว คือ ความเป็นตรงกัน
    แต่เมื่อท่านพูด ท่านใช้ โวหาร คนละอย่าง

    หลวงปู่เสาร์ว่า จิตข้าไม่สงบมีแต่ความคิด
    หลวงปู่มั่น ฐีติภูตัง
    หลวงปู่ฝั่้น อย่าปล่อยให้จิตว่าง
    หลวงปู่เทศก์ สมาธิในฌานมันโง่ สมาธิในอริยะมรรคมันฉลาด
    หลวงปู่มหาบัว ปัญญาอบรมสมาธิ

    ความหมาย มันก็คือ อันเดียวกันนั้นเอง แต่ท่านใช้ภาษาคนละภาษา

    อันนี้ โอวาท ของครูบาอาจารย์ ดังที่กล่าวมานี่

    นักปฏิบัติ ควรจะได้นำไปพิจารณาได้จดจำดำเนิน ตามปฏิปทาของท่าน


    อ่านต่อที่นี่

    https://palungjit.org/threads/การปฏิบัติภาวนาจิต-หลวงปู่พุธ-ฐานิโย.522295/
     
  12. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ถ้า พอเข้าใจ

    ลองสังเกตเลย....

    อาการกระซิบ เออะทางนี้ใช่
    ทางนี้ไม่ใช่ ทุกการกระซิบ
    บอกบท รู้แบบมีเสียง...มีการ
    บัญญัติ .....อะไรพวกนี้ มัน
    หลอกเอา ร้อยสัน พันคม.....
    หลอกให้ภาวนาถูก ......ไปเชื่อมัน
    .....จะเหมือนจะใช่..อยู่นั่นแหละ
    พอ สิ่งแวดล้อมสบช่อง แอแฮ่...

    แต่ถ้า พ้นกิเลส เงียบๆ(มันไม่พาก
    ไม่บัญญัติ ไม่อื้อฮือ อ้าหา) แล้ว
    ชีวิตตามีตามสมควรแก่ธรรม ไม่
    เปนตอไม้ ......ว่างๆ ....นี่น่าสังเกต
    กว่า...แต่อย่าเอารสชาติ...(อาหาร)

    นะ

    พูดยาก ....จะบอกว่า ธรรมนิรุตติ
    ปัญญานิรุตติ เปนของ ศาสดาผู้เดียว
    หาก เหน ตนเจื้อยแจ้ว เออะอย่างงี้
    ใช อย่างงี้ไม่ใช่ ....เผลอนิดเดียว
    เสร็จมัน....

    ปล. เว้นแต่ จะ สมาทาน ปัญญา
    วรรคธาตุใดธาตุหนึ่ง แล้ว วิจัย
    ของมันเองไม่ได้เจตนา อันนี้อีก
    เรื่อง........................... แต่ถ้าตั้ง
    จิต ที่ "เหนความสิ้นกิเลส...ฯ"
    ผู้ภาวนาจะทราบเองในความ
    ประมาท หรือไม่ประมาทใน
    ธรรม แม้นธรรม ( อาหารนั่น
    แหละ )


    ปล.2 ความแห้งแล้ง ความชุ่มชื้น
    รุ่นหลังก้ต่างชอบพูดกาน...แต่ถ้า
    เปน ศาสดา หาก วิตก วิจาร มีปรากฏ
    แล้วมี ปัสสัทธิ .... แค่นี้ มารก้ไม่สบ
    ช่อง ..เปนช้างที่ลงมากินผลไม้ของ
    เจ้าของไร่ โดยที่ เจ้าของก้ไม่เหนว่า
    ช้างมาทางไหน ไปทางไหน.....( อนึ่ง
    ...ถ้าเปน พระมีชื่อ ส่วนใหญ่ จะ นัด
    พบที่ ปิติ ขึ้นไป ...ก้ว่ากันไป พินา
    เอาฮับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2019
  13. เพื่อนผู้รอนาน

    เพื่อนผู้รอนาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +824
    ท่านเล่าปังกล่าวใว้ดีแล้ว
    แม้รู้แจ้ง.แต่ยัง.แทงไม่ตลอด.
    คือยังไม่จบนั่นเอง.
     
  14. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +470
    4E2123E4-57FB-4415-978C-769C14CE60D9.jpeg
     
  15. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ฐีติภูตํ อวิชฺชา ปจฺจยา สงฺขารา อุปาทานํ ภโว ชาติ
    คนเราทุกรูปนามที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นมนุษย์ล้วนแล้วแต่มีที่เกิดทั้งสิ้น กล่าวคือมีบิดามารดาเป็นแดนเกิด ก็แลเหตุใดท่านจึงบัญญัติปัจจยาการแต่เพียงว่า อวิชฺชา ปจฺจยา ฯลฯ เท่านั้น อวิชชา เกิดมาจากอะไรฯ ท่านหาได้บัญญัติไว้ไม่ พวกเราก็ยังมีบิดามารดาอวิชชาก็ต้องมีพ่อแม่เหมือนกัน ได้ความตามบาทพระคาถาเบื้องต้นว่า ฐีติภูตํ นั่นเองเป็นพ่อแม่ของอวิชชา ฐีติภูตํ ได้แก่ จิตดั้งเดิม เมื่อฐีติภูตํ ประกอบไปด้วยความหลง จึงมีเครื่องต่อ กล่าวคือ อาการของอวิชชาเกิดขึ้น เมื่อมีอวิชชาแล้วจึงเป็นปัจจัยให้ปรุงแต่งเป็นสังขารพร้อมกับความเข้าไปยึดถือ จึงเป็นภพชาติคือต้องเกิดก่อต่อกันไป ท่านเรียก ปัจจยาการ เพราะเป็นอาการสืบต่อกัน วิชชาและอวิชชาก็ต้องมาจากฐีติภูตํเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อฐีติภูตํกอปรด้วยวิชชาจึงรู้เท่าอาการทั้งหลายตามความเป็นจริง นี่พิจารณาด้วยวุฏฐานคามินี วิปัสสนา รวมใจความว่า ฐีติภูตํ เป็นตัวการดั้งเดิมของสังสารวัฏฏ์ (การเวียนว่ายตายเกิด) ท่านจึงเรียกชื่อว่า "มูลตันไตร" (หมายถึงไตรลักษณ์) เพราะฉะนั้นเมื่อจะตัดสังสารวัฏฏ์ให้ขาดสูญ จึงต้องอบรมบ่มตัวการดั้งเดิมให้มีวิชชารู้เท่าทันอาการทั้งหลายตามความเป็นจริง ก็จะหายหลงแล้วไม่ก่ออาการทั้งหลายใดๆ อีก ฐีติภูตํ อันเป็นมูลการก็หยุดหมุน หมดการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์ด้วยประการฉะนี้

    หลวงปุ่มั่น ภูริทัตโต
     
  16. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    กั๊กๆ

    อวิชชา มี อาหาร ไม่ใช่ ไม่มี

    อาหารของ อวิชชา ศาสดา
    กล่าวไว้ ....มิใช่ ไม่กล่าวเอาไว้


    สันติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2019
  17. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,962
    ค่าพลัง:
    +1,481
    อย่าทำแค่เพียงคิด เพราะมันไม่ใช่เรื่องของการคิด มันเป็นทางที่มีไว้เดินแค่เฉพาะ เพราะคนโง่มันจะบอกว่า ถ้าไม่คิดแล้วจะรู้หรือ แต่คนฉลาดเขาไม่ตอบโต้หรอก เพราะเขารู้ว่าสื่งที่รู้โดยไม่จำเป็นต้องคิดนั้นมี เอาแค่เรื่องโลกธรรมดาพูดไปแค่นี้น่าจะรู้ ถ้าอยากรู้จริงๆ ว่าพระศาสดาโคดมสอนอะไรกันแน่ และอะำรคือที่สุด ไม่ใช่เอาสวรรค์มาอวด เอาฌานมาอวด ขออภัยถ้าท่านที่กล่าวเรื่องฌานเพียงเพราะเปฺ็นแค่เครื่องมือหรืออุปกรณ์อย่างนึง แต่ท่านที่ว่ามันเป็นสิ่งที่ชาติที่แล้วมันก็มีชาตินี้มันก็มีชาติหน้ามันก็ยังจะมี ขอสมน้ำหน้าไว้ล่วงหน้า ไม่ต้องมาถามว่าผมมีหรือไม่ เพราะถ้ามีหรือไม่มี มันคงไม่เดือดร้อนท่านแน่นอน แต่ดููไปหากท่านยังคิดเอาแบบที่ว่าท่านเดือดร้อนแน่ เพราะอาการของพรหมโลกเบื้องต้น ท่านไม่มี ขอโทษอีกทีเพราะบังเอิญผมไม่ได้สถิตย์ที่พรหมโลกเลยไม่รู้ ต้องขออภัยท่านนะ ที่ต้องสมน้ำหน้าไว้ล่วงหน้า...อย่างจริงใจ
     
  18. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,962
    ค่าพลัง:
    +1,481
    อีกอย่างถ้าผมทำจะแรงกว่าคุณพี่นิวรณ์เยอะ ถึงเยอะมากๆ เว้นเสียว่าจะมีอีกที่ท่านเวียนมา แต่ท่านไม่ค่อยมา ภาระงานท่านเยอะเกินกว่าจะมามั่ว กับเรื่องแบบนี้
     
  19. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,962
    ค่าพลัง:
    +1,481
    สงบ2522จิตเภท ไม่สบายก็บอกนะ จะช่วยรักษา แต่ยาเบาไม่มีนะ มีแต่ยาแรง แบบกระชากเรตติ้งได้เลย
     
  20. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    อ๋อ พอเข้าใจละ ความจริงมันจบไปๆ ในแต่ละขณะที่รู้ตัวอยู่นั้นเอง ถ้าวางได้จริงมันก็จบตรงนั้น แต่ถ้ายังวางไม่ได้จริง มันก็จะมีการลากหางออกไปเป็นธรรมดา บางท่านเรียกว่าเฝือ อันนี้คือสิ่งที่จะต้องรู้เท่าทันอยู่เหมือนกัน
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...