เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

นี่คือเหตุผลที่หนูเคยบอกว่าทำไมคุณหนุ่มทิพย์ไม่ใช่หมอดู ดีว่าคุณหนุ่มทิพย์ ได้บอกเหตุผลด้วยตัวเอง ไม่อย่างงั้น จะหาว่าเชียร์คุณหนุ่มทิพย์หน้ากระทู้..ที่จริง หนูกับคุณหนุ่มทิพย์ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และไม่เคยเจอหน้ากันเลยค่ะ...ฝากคุณหนุ่มทิพย์ ถามพี่นิ่มด้วยว่า..เวลาพี่นิ่มสวดมนต์ พี่นิ่มใช้บทสวดมนต์บทไหน..แล้วจะมาบอกเหตุผลทีหลัง..ว่าทำไมถึงถามแบบนี้

 

เรื่องนี้จำได้ครับ
แต่อยากฟังเพิ่มเติมอีกครับ ^^
ปกติเวลาผมเดินทางผ่านโบสถ์ วิหาร ผมก็จะท่องสวด "อิติปิโส" (หลวงพ่อผมเคยบอกมา)
หากแต่เดินทางไปในสถานที่ไม่คุ้นเคย ผมจะตั้งสวดด้วย อิติปิโส พาหุง มหากาและมาต่อด้วย "กะระณี" เสมอ
ส่วนตัวผมชอบและรู้สึกอบอุ่นใจทุกที ที่ได้สวด "เมตตัญจะ สัพพะโลฯ "
โดยเฉพาะตอนก่อนนอน ยิ่งเมื่อไปพักค้างแรมต่างถิ่นที่อยู่ บทนี้จะต้องสวดเต็มบท แบบตั้งใจที่สุด
ตอนนี้ผมก็ทำตามคำแนะนำที่พี่บอกครับว่าผ่านศาลเจ้าก็กล่าวทักทาย โดยใช้ "เมตตัญจะ.."

ช่วงนี้ผมก็เริ่มสวดบทอื่น ๆ เพิ่มเติมบ้าง
ก็ได้อาศัยเก็บ ๆ เศษความรู้ที่พี่ ๆ เพื่อน ๆ นำมาแบ่งปันกันหน้ากระทู้
สำคัญที่สุดคือได้รับการขยายความรู้ กับการแก้ข้อสงสัยโดยใช้ข้อคิด ข้อความดีดี ที่พี่นำมาแบ่งปันให้อย่างสม่ำเสมอนี่ล่ะ
(ทำให้ทุกวันผมต้องเตือนให้ตัวเอง กลับมานั่งสมาธิอีก หลังจากหลุดไปหลายปี ฮะฮะ)

ปล.ผ้าป่าสองหมื่น ผมคงใช้เวลาหาถึงสิ้นปี.. ตอนนั้นผมอาจมีคำถามกับพี่ตั้งมากมาย (ถ้าไม่มีใครถามในกระทู้ก่อนน่ะครับ)

 

ขั้นรายการนะครับ "ใครเกิดทันมั่ง"

ผมไปมาหมดแล้วนะครับ ไม่ต้องเดาอายุผมบอกไปหลายทีแล้ว

 

แฮ่ะๆ ผมเกิดไม่ทันครับ

 

คุณเอาของผมไปฝากหลวงปู่นาม อธิฐานจิตให้ซัก 7 วัน แล้วขออนุญาตท่าน ปั๊มตราวัดเป็นที่ระฤก หลวงพ่อมี วัดม่วงคันซัก 7 วัน หลวงปู่สม ฯลฯ แล้วสายชลบุรี ผมจัดการเอง สายเชียงใหม่ ประเดี๋ยวผมก็จัดการเองอีก... สายใต้ จะขอให้คุณจุ๋มจัดการให้ แล้วให้ทำบุญตามศรัทธา เพื่อนสมาชิกของคุณของผม น่าจะได้ถึง 20,000 ... แค่นั้นก็จบ

คนอื่นหาเรื่องเปลี่ยนที่กินเหล้า เราหาเรื่องเปลี่ยนที่ทำบุญ สนุกออก...

 

คนตรึมเลย....


ตอนเป็นเด็ก เคยเห็นโรงหนังคล้ายๆกันแบบนี้ที่เกาะสมุย ไม่น่าเชื่อว่าเกาะที่คิดว่ามีแต่มะพร้าว จะมีโรงหนังด้วย....

ผมทันดูอินทรีแดง ตอนโชว์โดดจากเฮลิคอปเตอร์ลงพื้น สมัยนั้นเค้าไม่มีสตันแมนรับจ้าง น่าจะมามีภายหลัง ตอนที่พระเอกรุ่นหลังกลัวตาย หรือเสียดายชีวิตมากกว่าค่าตัว (แต่ดาวยั่ว ก็ไม่มีสตัน...เป็นการคืนกำไรให้ผู้ชมได้คุ้มค่ามาก)

โรงหนังสมัยก่อน นั่งสบายกว่าสมัยนี้มากเลยครับ เมื่อเช้าไปนั่งดูหนังเรื่องไดโนเสาร์ เห็นแล้วคิดถึงเมีย แต่นั่งไม่สบายเลย ขนาดเราตัวเล็กยังนังเบียด แล้วถ้าฝรั่งมานั่ง สงสัยต้องนั่งยองๆ....

เสียตังค์แล้ว ต้องทนดูโฆษณาอีก...เซ็งมาก แล้วยังมาเจอพวกหิวระหว่างดูหนังอีก กินจุ๊บจิ๊บ กร๊อบแกร๊บๆ ...... นึงถึงบรรยากาศเก่าๆจังเลย...

เออ.. หนังกลางแปลงก็พากษ์สดครับ สนุกดี กินอ้อยควัน... พอลุกจากที่นั่งกันหมดแล้ว ทั้งชานอ้อยเปลือกถั่ว...เกลื่อน......

 

วันนี้ พี่นิ่ม ได้รับการต้อนรับอันอบอุ่นจากพี่หนู(ทนายเอก)
จากท่านสารวัตรอ้วน (ขออภัยจำชื่อจริงท่านไม่ได้)

โดยพี่หนู เป็นเนวิเกเตอร์ พาไปขอบารมีครูบาน้อย วัดดอนมูล, ครูบาอินถา วัดยางเมิน, หลวงปู่เปลี่ยน วัดป่าอรัญญวิเวก (องค์นี้สำคัญ ทนายเอก เจออภินิหารคาตามาแล้ว)

และถ้ามีคิวเหลือ จะแวะกราบหลวงปู่ฯของผม ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน...("ถูกหวยบ่อยๆนะ..." เข้าวินไป 8 งวดติด แฟนเลยบ้าหวยถึงทุกวันนี้...)

 

ไม่ชอบหนังแขกหรือครับ ไม่เห็นมี"เท็กซัส"ผมก็ไม่ได้ชอบหนังแขกนัก แต่

ถูกบังคับให้ต้องไปดูเพราะไม่มีใครไปดูเป็นเพื่อนป้า

ผมชอบเรื่อง"เห่าดง"มีจุดที่ชอบอยู่ ๒ อย่าง คือ ๑ พระเอกหล่อ,นางเอกสวย

เพราะ"อมราฯ เพิ่งประกวดนางงามจักรวาล ติด ๑ ใน ๑๕ และ ๒ ชอบเจ้าของ

บทประพันธ์"พนมเทียน" เขียนเรื่องนี้ตั้งแต่เรียน ม.ต้น พอๆ กับเรื่องศิวาราตรี

ผมชอบการใช้ภาษา และเรื่องคาถาอาคมที่ท่านพนมเทียนเขียน ดูเป็นวิทยา

ศาสตร์ดี และไม่โอ้อวด โรงหนังเก่าๆ ผมเข้าครั้งสุดท้ายคือ"กรุงเกษม"

เรื่องขุนดาบอยากดัง...ขอบคุณมากครับกับรูปประวัติศาสตร์

 

ต้องนับเป็นบุญของผม ที่ได้มีโอกาสทำบางอย่างเพื่อหลวงปู่ และขอบคุณคุณทิพย์ที่เป็นสะพานบุญให้ครับ

 

ได้รับแล้วคร้าบ ขอบคุณครับ

 

เรื่อง : หลวงพ่อเต่า วัดน้ำพุฯ (ต่อ)

ต้องรีบให้จบ เพราะยังเป็นหนี้เรื่องหลวงพ่อกร่ายอยู่ ใครอยากมีวาจาสิทธิ์ เหมือนหลวง

พ่อกร่ายต้องตามอ่าน เพราะมีคำตอบที่หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ตอบญาติโยมที่ไปถาม

ว่า"ทำไมหลวงพ่อกร่าย...ถึงมีวาจาสิทธิ์" (วิธีทำไม่ยากอย่างที่คิด...ไม่มีคาถาด้วย)

มาต่อกันเรื่องของหลวงพ่อเต่า ที่หนุ่มทิพย์ บอกว่าเหรียญของท่านเชียร์ยังไงก็ไม่แพง

ผมเห็นด้วยและเป็นเหตุผลส่วนตัวหรือความคิดส่วนตัวของผม หลวงพ่อท่านเป็นที่กล่าว

ขานกันในเรื่อง"ให้คนเจ็บท้องแทนเมีย"มาก่อนแล้ว ส่วนเรื่องการรักษาคนผมก็รู้เฉพาะที่

ผมเห็น ส่วนจะเกิดตอนไหน,เมื่อไร,ผมไม่ทราบ รู้แต่ว่าทำได้อยู่ไม่นานนัก เล่าเรื่องการ

รักษาคนเป็นอัมภาตไปแล้ว วิธีการรักษาโรคอย่างอื่นๆ ผมอยากจะใช้คำว่าได้ผล ๑๐๐ %

แต่ไม่กล้า วิธีรักษาคือ เมื่อถึงเวลาหลวงพ่อก็จะลงมานั่งที่ศาลา บนที่นั่งของท่าน ใครที่

ป่วยมาจากที่ไหนๆ ก็ตาม ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเป็นจำนวนมาก จะมานั่งที่ศาลาพูดจาคุยกับหลวง

พ่อ โดยที่ข้างหน้าของตัวเองจะมีถาด,จาน หรือพาน ใส่ผลไม้ที่ตัวเองนำมา เมื่อถึงเวลา

หลวงพ่อก็จะให้ทุกคนนำเอาผลไม้ที่ตัวเองนำมาเอากลับไปกิน แค่นี้โรคภัยไข้เจ็บก็หายไป

เรื่องถูกคุณถูกของก็ทำเหมือนๆกัน ถ้าหนักมากก็จะเป็นแบบพี่ผู้หญิงที่ผมยังนึกชื่อไม่ออก

คือเจ้าตัวจะจุดเทียนเองแล้วเอาหน้าเข้าไปลนกับเปลวเทียนฯลฯ ที่ท่านเก่งอีกเรื่องหนึ่ง

คือ"ด่าเก่ง" ควายใครหลุดเข้ามาในเขตต์วัดเป็นโดน...

ผมเคยถามหลวงปู่หลวงตาที่เคยใกล้ชิดกับหลวงพ่อเต่า ว่าเป็นไปได้อย่างไร ได้รับคำ

ตอบว่า ก่อนที่ท่านจะทำการรักษาคนอย่างที่กล่าว ท่านได้ไปเรียนให้กับเจ้าคณะจังหวัด

ในสมัยนั้นว่า "ท่านไม่ได้เป็นผู้ทำเอง...แต่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์...ที่อยู่ในวัดมาบอกให้ทำ" ผม

ถามว่า"สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ว่าคืออะไร"คำตอบที่ได้ต้องเอาไปพิจารณากันเอง เพราะผมเป็นได้

แค่จำเอามาเล่าให้อ่านกัน "เอ..เขาว่ากันว่า...เป็นหลวงพ่อเพ็ชร...ที่อยู่ในวัดนั่นแหละมา

บอกให้ทำ...เท็จจริงยังไงก็ไม่รู้นะ" แต่ที่แน่ๆ รักษาคนได้จริงๆ ถึงมีการนิมนต์ท่านไป

ให้ช่วยตามวัดอื่นๆ ในจังหวัดใกล้เคียงเพื่อหาเงินเข้าวัด และนี่เองที่เป็นเหตุให้ท่านต้อง

ไปละสังขารที่จังหวัดสุพรรณบุรี

ท่านเป็นพระมหาเปรียญ มองการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ จึงได้ก่อตั้งโรงเรียนที่มีชั้นมัธยม

ให้ลูกหลานได้เรียนกัน สมัยก่อนนั้นโรงเรียนมัธยมตามบ้านนอกจะมีก็อยู่ที่"ที่ตั้งอำเภอ"

เท่านั้นแหละ โดยท่านได้ก่อตั้งโรงเรียนชื่อว่า"โรงเรียนมัธยมพิริยะวิทยา"และให้ทุนการ

ศึกษาไว้ด้วย จึงทำให้ผมลูกคนจนที่แทบจะไม่มีกินได้ร่ำเรียนจนจบมัธยม โดยเข้าสอบ

ชิงทุนได้ที่ ๑ และรักษาตำแหน่งไว้จนจบจากโรงเรียนฯ

ที่ผมคิดของผมเองว่า เหรียญหลวงพ่ออย่างไรก็ไม่แพง แม้จะหายากเพราะ ๑ ท่านไม่ใช่

พระเกจิดัง(สมัยนั้นยังไม่มีวิธีการปลุกกระแสเพื่อสร้างพระเกจิเหมือนสมัยนี้) ๒ ขนาดการ

รักษาคนของท่านในสมัยนั้นต้องถือว่ายอดเยี่ยมมาก(ถึงมีรูปปั้นของท่านอยู่ที่หน้าโบสถ์)

แต่ท่านไม่อมพนำทำเสมือนว่าเป็นตัวท่านเอง แต่กลับไปบอกว่า"ไม่ใช่ตัวของท่านทำ

แต่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาบอกให้ทำ" ถ้าเป็นองค์อื่นๆ จะบอกแบบนี้ไหม๊เนี่ย..

Hanada 9 ไม่ว่ากันะ ต้องรอหน่อย "กะระณี"น่ะของจริง แต่มันมีตัวผมเองเข้าไปเกี่ยว

ข้อง จึงต้องคิดและหาทางหลีกเลี่ยงอยู่ เพราะถ้าเล่าก็ต้องเล่าเรื่องจริง"คนโกหกไม่ทำ

ชั่วเป็นไม่มี" ถึงจะเป็นเรื่องเล่าผมก็ต้องระมัดระวัง....ขอบคุณมากครับ

 

คุณหนุ่มทิพย์ วันนี้หนูซื้อหนังสือนะโมมาอ่าน ฉบับที่ 1038 พอดีเห็นโฆษณาของศูนย์พระเครื่อง เรื่องหนุมานกายทิพย์ และสมิงบูรพา เลยโพสมาให้เพื่อนสมาชิกรับทราบ

 

แต่ที่หนูสงสัยในหน้าโฆษณา (องค์พระที่อยู่ในกรอบสีเขียว) มีพระปิดตาเหล็กไหลเงินยวงด้วย..องค์นี้น่าสนใจคะ แต่ไม่ทราบที่มาเลย

 

จากในรูป มีพระปิดตาทรงเมตตา, มงคลมหาอุจจ์, แก้วเพชรหลีก, หนุมานฯ,เสือสมิงฯ, จันทร์ลอยพระเจ้าตากเท่านั้นครับที่เป็นของพี่นิ่ม

พระฯของพี่นิ่มทุกชิ้น เพื่อนสมาชิกจะได้เห็นและทราบจำนวนทั้งหมดจากผม

เท่าที่นึกได้มีเพียงนี้ (ยังไม่นับที่แจกทหารเพียวๆ จำชื่อไม่ได้ จะหารูปให้ดูภายหลัง) ส่วนจำนวน ต้องเอาให้แม่น รอแกกลับจากเชียงใหม่ก่อนครับ

 

"คุณนิ่ม...พระเครื่องชุดนี้ ท่านท้าวสักกะเทวะราชมาเองเลยนะ...ท่านมาร่วมโมทนากับคุณด้วย..."

ครูบาอินถา วัดยั้งเมิน
หลวงพ่อไพบูลย์ วัดอนาลโย
ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล
พระอาจารย์เปลี่ยน วัดอรัญญวิเวก

รอพี่ไพรัชเก็บบันทึกมาเติมข้อมูล ผมใช้จำเอา เลยเพี้ยนๆ...

 

เรื่อง : หลวงพ่อกร่าย...วาจาสิทธิ์

ตอน : อยากรีบให้จบ

จากหลวงปู่,หลวงลุง และหลวงตาเล่าให้ฟัง ขณะที่ผมบวชเป็นพระที่วัดโพธิ์เอน อย่างย่อๆ

มีอยู่ว่า"พระพุทธรูปของวัดโพธิ์ศรีหายไป" ชาวบ้านก็เพ่งไปที่คนที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นผู้ที่

เอาไปไม่กี่คนหรอก เพราะคิดกันว่าคนที่กล้าขนาดนั้น"ต้องเป็นพวกติดยา"ยุคนั้นฝิ่นเพิ่ง

จะค่อยๆหมดไป แต่"เฮโรอีน"เข้ามาแทนที่และดูว่าจะหนักกว่าฝิ่นเสียอีก และไม่นานนักก็

มีคนไปพบพระจมอยู่บริเวณแพท่าหน้าตลาดคลองขนากซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดมากนัก เมื่อมี

คนเอาพระมาคืนวัดและเล่าให้หลวงพ่อฟังว่า"คนที่ขโมยพระวัดไป เอาพระไปจมน้ำไว้ที่

แถวแพท่าหน้าตลาดฯ "หลวงพ่อก็ว่า"มันเอาพระไปจมน้ำไว้ ไอ้นี่คงต้องตายในน้ำ" อยู่มา

ไม่นานก็มีข่าวว่ามีคนถูกฟ้าผ่าตาย คือคนที่ตายกำลังอาบน้ำอยู่ในคลองหน้าบ้านและที่ริม

ตลิ่งหน้าบ้านมีต้นไม้ใหญ่อยู่ ปรากฎว่าฟ้าผ่าต้นไม้และสายฟ้าได้ผ่านมาถึงคนที่อาบน้ำอยู่

จึงเสียชีวิตลง ก็ลือกันไปว่าคนๆนั้นคือคนที่เอาพระไปจมน้ำ เพราะเป็นคนที่ชาวบ้านเชื่อ

มาแต่แรกแล้ว "ฟ้าผ่าตาย...ตายในน้ำ...ตามคำหลวงพ่อ..." ก็ว่ากันไป

กับตัวของผมเอง ผมได้พาพรรคพวกไปหาหลวงพ่อก่อนท่านละสังขารไม่นานนัก เมื่อไป

ถึงเป็นช่วงบ่ายแล้ว มีคนมาบอกว่าสงสัยจะไม่ได้พบเพราะหลวงพ่ออาพาธเป็นเบาหวาน

บังเอิญมีครูโรงเรียนวัดโพธิ์ศรี ศิษย์โปรดของหลวงพ่อผ่านมาเห็นผม และจำผมได้ท่าน

ได้เข้ามาหาและบอกว่าหลวงพ่อไม่พบใครในช่วงนี้เพราะท่านระมัดระวังตัวมากเนื่องจาก

นอนไม่ค่อยหลับหงุดหงิดง่าย และท่านก็เข้ากุฏิไปพูดอะไรผมไม่ทราบแต่หลวงพ่อท่านก็

ออกมาให้คณะของผมได้กราบกัน ครูวชิร เพ็งสุข ก็เรียนกับหลวงพ่อว่า"เจ้าคนนี้มันเป็น

ทหารเรือ ลูกศิษย์คนโปรดผมตอนเรียนมัธยม" เพราะเป็นทหารหลวงพ่อเลยชอบ ได้ผ้า

ยันต์และได้รับการประพรมน้ำมนต์จากหลวงพ่อ เมื่อพวกผมลากลับหลวงพ่อท่านหันมาบอก

กับพวกผมว่า ที่ไม่อยากพบใครเพราะต้องระวังตัว กลัวจะไปพูดอะไรๆ เข้า เมื่อพ้นจากกุฏิ

หลวงพ่อผมถามครูผมว่ามีอะไรหรือครู หลวงพ่อถึงไม่อยากพบใคร ครูผมท่านบอกผมว่า

เธอสังเกตหรือเปล่าว่าไก่วัดไม่มีเลยสักตัว ผมจึงเพิ่งมีความรู้สึกได้ตอนนั้น จึงถามท่านว่า

ทำไมหรือ ครูบอกว่าเมื่อไม่กี่วันนี้หลวงพ่อท่านนอนไม่ค่อยหลับต้องเฝ้าดูแลกันไกล้ชิด มี

อยู่คืนหนึ่งหลวงพ่อเพิ่งจะหลับได้สักชั่วโมงเห็นจะได้ ประมาณตีสามกว่าๆ ไก่ก็ขันตามปกติ

ไก่มันมากเสียงขันมันก็ดัง หลวงพ่อท่านก็ตื่นขึ้นเพราะเสียงไก่ขัน ท่านก็บ่นว่า"ไอ้พวกนี้

มันจะขันทำไมของมันนะนอนไม่ได้...เมื่อไหร่มันจะตายๆไปให้หมดเสียที" รุ่งขึ้นเช้าไม่มี

ไก่เหลือสักตัว ที่เกาะอยู่ตามคอนไม้ไผ่ไต้ถุนกุฏิตายตกลงมาลอยน้ำเป็นแพ ไอ้ที่นอนอยู่

ตามพื้นก็ตายหมดเลย ไม่เหลือเลยสักตัว หลวงพ่อท่านเสียใจมากและระวังตัวมากจึงไม่

อยากพบใคร (ความจริงหลวงพ่อท่านระวังมาตลอดนานแล้วเรื่องที่เล่าๆกันมาน่าจะเป็น

เพราะเผลอ)

หลวงน้าไล้ สิริจันโท อดีตเจ้าอาวาส วัดโพธิ์เอน ที่ผมทั้งรักและเคารพเล่าว่า"เออนี่เฮ้ย

มีคนบ้านเราเขาไปหาหลวงพ่อแพ,วัดพิกุลทอง แล้วได้ถามหลวงพ่อแพว่าทำไมหลวงพ่อ

กร่ายถึงมีวาจาสิทธิ์ ที่เขากล้าถามเพราะรูว่าท่านเป็นเพื่อนกัน หลวงพ่อแพตอบพวกที่ถาม

ว่า"..ก็กร่าย..เขาบวชตั้งแต่เป็นเด็ก..บวชเณร...จนบวชพระ...เขาไม่เคยพูดโกหก...ดังนั้น

ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร...ก็เป็นจริงไปหมด" ถึงตอนนี้ท่านที่ติดตามมาตั้งแต่ต้นคงทราบแล้วนะ

ครับว่า...ทำยังไงถึงจะมี...วาจาสิทธิ์ ใครที่อยากมีวาจาสิทธิ์....เอ้า....เริ่มได้...

(อาจจะขาดอรรถรสไปบ้างต้องขออภัย...เพราะอยากให้จบ....ขอบคุณมากครับ)

 

ลำดับที่ 22 ศนิวาร

โอนเงินให้แล้วครับวันนี้(28/08/55) ทาง ATM ธ.กรุงไทย เวลา 17.52 น.
เข้าบัญชีเลขที่ 6042333032 จำนวน 1900.09 บาท-สตางค์