นู๋ฟ้า>ใหม่!แก้วขนเหล็ก,แก้วจอมขวัญ,แก้วโป่งข่ามเถินราคาถูกที่นี่ที่เดียว

วันนี้ อากาศดีมากกก....ไม่ร้อน ไม่มีฝน อึมครึม ครึ้มๆๆซะงั้นล่ะ...อิอิ ดี ไม่เปียก แต่เย็นสายดีค่ะ...ชอบ
- น้องดา ,พี่แก้ว,พี่เสาวรส,พี่คนสกล,พี่kit(ท่าทางยุ่งอยู่), ชายจันทร์(น่ะหายไปเรย),และ น้องอมรศิกานต์, และทุกๆท่าน....ขอให้พักผ่อนให้หายเหนื่อย เอ...บางท่านมีหยุดยาวไหมน้อ อาทิตย์หน้าน่ะค่ะ....(4,5,6,7,8) อิอิ ขอให้หายเหนื่อยนะคะ....
- ฟ้าเพิ่งเอาขันโตกไปถวายท่านพระครูที่วัดป่าซางมาค่ะ พอดีท่านไม่อยู่ ไปงานที่วัดศรีบุญเรือง ในเมือง...เลยให้หลวงพี่ที่ดูแล รับแทน....

 

โมทนาสาธุค่ะ
ป.ล.ตอนนี้เงินรายเดือนยังไม่มีเงินโอนเข้าบัญชีเลยค่ะ คุณฟ้า .. เพราะงั้้นแล้วถ้าเกินสิ้นเดือนไป ยังไงคงต้องยกเลิกการจองเพื่อให้สิทธิ์ท่านอื่นจองค่ะ

 

รับทราบค่ะ คุณอมรศิกานต์ บ่เป็นหยั๋งจ้า...

 

รวมภาพแก้วโป่งข่าม ที่มีอยู่ทั้งหมด
เชิญชมที่หน้า 123 ค่ะ
rabbit_jumpdenceedenceedencee

 

ดีจ้าน้องฟ้า ยังไม่นอนอีกเหรอก๊ะ แหม..น่ารักจังขยันไปไหว้พระไหว้เจ้าเผื่อพี่ๆน้องๆเป็นประจำเลย...อนุโมทนาบุญด้วยเน้อ

วันนี้พี่เข้าเวรอยู่ถานีอ่ะ ออกเวรเที่ยงคืนอีกแหละ...ปวดต้นคอมากๆ ตอนนี้เหลือข่าวทีต้องส่งตัดต่ออีก 3 ข่าว ก็เป็นอันเสร็จข่าวเที่ยงคืนแล้วจ้า แต่กว่าจะได้กลับบ้านก็โน่นแหละ เที่ยงคืนเป๊ะ....เฮ้อ...ง่วงแว้วอ่ะจ้า

น้องดาคงวุ่นๆกะงานเหมือนกัน น้องจันทร์ก็ไม่ต้องพูดถึง งานเข้าอย่างแรง ต้องไปตจว.ทุกเดือนเลย....คงไม่ค่อยมีเวลามาคุยกะพวกเราเหมือนก่อนแล้วหละ...(โทรคุยยังไม่ค่อยจะมีเวลาเลยเน้อ งานเข้าสุดๆกว่าใครเพื่อน)

ออ..วันนี้แก้วฯของน้องฟ้ามาถึงแล้ว แต่พี่ไม่อยู่บ้าน บุรุษไปรษณีย์เค้าโทรมาบอกว่าจะเอาไปส่งให้พรุ่งนี้จ้า....(ลูกสมุนส่วนตัว ก็ดีงี้แหละ อิอิ)

 

แอบย่องเข้ามาตอนตี 1 ถึงบ้านแล๊ะ...อิอิ ตะกี้ที่ทำงานพลังจิตก๊ะเดี้ยงซ้า...ไม่ได้คุยกะน้องฟ้าเลยอ่ะ ไว้ค่อยชะแว๊บ มาเป็นระยะ ระยะนะจ๊ะน้องสาว กาเดี๋ยวพี่แก้ว แววตาต้องรีบไปฟัง The Shock เล่าเรื่องผีซ้าหน่อย รายการโปรดเลย ขอบอก..

 

he llo _พี่ฟ้า
นู๋ดาได้รับของแล้วและได้เอาลูกแก้วให้เพื่อนที่ทำงานที่ร่วมบุญมา
ณ.ที่นี้ด้วย...
เมื่อวานฝนกระหนําตกหนักมาก งานก้อเข้า..วุ่นวายไปหมด
กว่าจะกลับมาก้อมืดแล้ว เห็นเวปพลังจิตช้า และติดขัดเลยขี้เกียดออนค่ะ
ปล.กำลังติดละครหยกลายเมฆ เห็นวิวฮ่องกง สวยมาก อยากไปๆๆๆ
ทำไงดีล่ะ คงต้องเก็บงบประมาณอีกสักหน่อยแล้ว;k03
ขนาดประเทศไทยมีหลายๆๆที่ที่น่าเที่ยวทั้งนั้นยังไปเที่ยวไม่หมดเลย
ค่อยๆๆ สะสมไปเรื่อยวันนึงคงครบทั้ง76จังหวัดแหล่ะค่ะ 5555(deejai)
-ถ้าพรุ่งนี้กลับมาเร็วอีก คงได้ป๊ะแหม่ะๆๆอกันอีกนะคะ
(คิดถึงพี่แก้วด้วยไม่ได้เห็นหน้าเห็นตากันกี่อาทิตย์แล้วหนอตอบได้ไหม...
ส่วนจันทร์ ช่วงนี้ไปตจว.บ่อย กลับมาถ้ามีเวลาว่างต้องนัดเจอกันซะหน่อยแล้ว เด๋วลืมหน้านะ);aa6

 

น่ากลัวนะคะพี่ เด๋วผีมาหลอกหรอก....
กุ๊กๆๆกู๋ตี1เริ่มมีลมพัดแรงณ.บ้านพี่แก้ว อิอิ
ตี2ลัคกี้หอนๆๆๆๆๆๆๆๆโฮ่งๆๆๆๆๆ
ตี3ได้ยินเสียงเคาะประตู ป็อกๆๆๆ
(พี่ๆๆๆปิดไฟได้แล้ว นอนไม่หลับเลย)
ตี4 แหว่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจ๊ากๆๆๆๆๆๆๆ(one-eye):boo:

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ขอให้พี่ฟ้ารวยๆๆ เซ็งลี้ฮ้อฮ่อนะคะ.........(rose):z8

 

ได้รับแล้วครับ
ถูกใจ 134 ที่สุดครับขนาดพอดีทำแหวนเลยครับ
ไม่ค่อยยุ่งแล้วครับ

 

hello6แอบย่องเข้ามาเงียบๆๆ กะจะมาตะเอ๋ซะหน่อย
พี่ฟ้า/พี่แก้วเราหายไปไหนหว่า แว๊บไปเที่ยวกันหมดแล้วคร้าบบบบ
ไม่รอน้องดาเลย....
พาน้องไปด้วยจิ....อยากไปมั่ง
ชอบๆๆ อยากไปเที่ยว อิอิ:z6;aa1

 

วันอาสาฬหบูชา สำคัญอย่างไร
<DD>วันอาสาฬหบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญ เดือนอาสาฬหะ หรือ เดือน 8 เนื่องในโอกาสคล้ายวันที่ พระพุทธเจ้า ทรงประกาศ พระศาสนาครั้งแรก โดยแสดงปฐมเทศนา คือ ธรรมจักรกัปปวัตนสูตรเป็นผลให้ เกิดมีพระสาวกรูปแรกขึ้น ในพระพุทธศาสนา จนถือว่า เป็นวันแรกที่มี พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ครบเป็นองค์พระรัตนตรัย
<DD>พระพุทธเจ้า ทรงแสดงปฐมเทศนา (เทศน์กัณฑ์แรก) เนื้อหาว่าด้วย ทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) ที่นำไปสู่การบรรลุนิพพาน ฤาษีโกณฑัญญะ ได้บรรลุโสดาปัตติผล แล้วทูลขอบวชเป็นพระสาวกรูปแรก ที่เป็น ประจักษ์พยาน ในการตรัสรู้ ของพระพุทธเจ้า ประเทศไทยเป็นประเทศแรก ในบรรดาประเทศ ที่นับถือพระพุทธศาสนา ที่ประกาศให้มี วันอาฬหบูชา และถือปฏิบัติมา จนกระทั่งปัจจุบัน
<DD>วันอาสาฬหบูชาจัดเป็นวันที่สำคัญทางพุทธศาสนาวันหนึ่ง เพราะเป็นวันที่พระรัตนตรัยอุบัติขึ้นในโลก คือ พระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์ วันอาสาฬหบูชาตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ วันเพ็ญเดือน 8 (เดือนกรกฎาคม) อาสาฬหบุชา ย่อมาจากคำว่า อาสาฬหบูรณมีบูชา แปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญเดือน 8 ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 หลัง
<DD>วันนี้ในครั้งพุทธกาลกว่า 2500 ปีมาแล้ว เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนา โปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน กรุงพาราณสี ชื่อ ธรรมจักกัปปวัตนสูตร ซึ่งมีอริยสัจ 4 หรือความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ ได้แก่

• 1. ทุกข์ ความไม่สบาย ไม่สบายใจ
  2. สมุทัย เหตุให้เกิดทุกข์
  3. นิโรธ ความดับทุกข์
  4. มรรค ข้อปฎิบัติให้ถึงความดับทุกข์

<DD>เพื่อเป็นการระลึกนึกถึงวันอันเป็นมงคลนี้ ชาวพุทธทั่วทั้งประเทศจะทำบุญ และรักษาศีล บางคนก็ไปวัดเพื่อถวายอาหาร และจตุปัจจัยไทยธรรมแก่พระสงฆ์ และฟังพระธรรมเทศนา เพื่อขัดเกลาจิตใจ โดยปกติวันอาสาฬหบูชา จะมีขึ้นก่อนวันเข้าพรรษาหนึ่งวัน กล่าวคือ วันเข้าพรรษาจะตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8
<DD>กิจกรรมที่ควรปฏิบัติ

• 1. พุทธศาสนิกชนไปร่วมทำบุญ ใส่บาตรและฟังเทศน์ที่วัด ในตอนเช้า
  2. ในตอนเย็น และค่ำ พระภิกษุ สามเณร ฆราวาสประชุม ร่วมกันที่หน้าพระอุโบสถ หรือหน้าประสถูปเจดีย์ มือถือ ดอกไม้ธูปเทียน ยืนประนมมือสำรวมจิต พระสงฆ์เป็นผู้ กล่าวนำบูชา จบแล้วทำประทักษิณ หรือเดินเวียนขวา (เดินให้มือขวาเข้าหาสิ่งที่เราเคารพ ในกรณีนี้ก็คือเดินให้ มือขวาเข้าหาพระอุโบสถ หรือพระสถูปเจดีย์
  3. ประดับธงชาติที่อาคารบ้านเรือน
     
     ได้รับอนุญาตจาก : ธนพล จาดใจดี. (1994). เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประเทศไทย. กรุงเทพฯ : ห.จ.ก. ไทยเจริญการพิมพ์.

</DD>

 

ประวัติวันเข้าพรรษา
วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์อธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดช่วงฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น

"เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่นๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เว้นแต่มีกิจธุระคือเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืน เรียกว่า "สัตตาหะ" หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด

ระหว่างเดินทางก่อนหยุดเข้าพรรษา หากพระภิกษุสงฆ์เข้ามาทันในหมู่บ้านหรือในเมืองก็พอจะหาที่พักพิงได้ตามสมควร แต่ถ้ามาไม่ทันก็ต้องพึ่งโคนไม้ใหญ่เป็นที่พักแรม ชาวบ้านเห็นพระได้รับความลำบากเช่นนี้ จึงช่วยกันปลูกเพิง เพื่อให้ท่านได้อาศัยพักฝน รวมกันหลายๆ องค์ ที่พักดังกล่าวนี้เรียกว่า "วิหาร" แปลว่า ที่อยู่สงฆ์ เมื่อหมดแล้ว พระสงฆ์ท่านออกจาริกตามกิจของท่านครั้ง ถึงหน้าฝนใหม่ท่านก็กลับมาพักอีก เพราะสะดวกดี แต่บางท่านอยู่ประจำเลย บางทีเศรษฐีมีจิตศัรทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ก็เลือกหาสถานที่สงบเงียบไม่ห่างไกลจากชุมชนนัก สร้างที่พัก เรียกว่า "อาราม" ให้เป็นที่อยู่ของสงฆ์ดังเช่นปัจจุบันนี้

ทั้งนี้ โดยปกติเครื่องใช้สอยของพระตามพุทธานุญาตให้มีประจำตัวนั้น มีเพียงอัฏฐบริขาร อันได้แก่ สบง จีวร สังฆาฏิ เข็ม บาตร รัดประคด หม้อกรองน้ำ และมีดโกน และกว่าพระท่านจะหาที่พักแรมได้ บางทีก็ถูกฝนต้นฤดูเปียกปอนมา ชาวบ้านที่ใจบุญจึงถวายผ้าอาบน้ำฝนสำหรับให้ท่านได้ผลัดเปลี่ยน และถวายของจำเป็นแก่กิจประจำวันของท่านเป็นพิเศษในเข้าพรรษา นับเป็นเหตุให้มีประเพณีทำบุญเนื่องในวันนี้สืบมา...

อย่างไรก็ตาม แม้การเข้าพรรษาจะเป็นเรื่องของพระภิกษุ แต่พุทธศาสนิกชนก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำบุญรักษาศีล และชำระจิตใจให้ผ่องใส ก่อนวันเข้าพรรษาชาวบ้านก็จะไปช่วยพระทำความสะอาดเสนาสนะ ซ่อมแซมกุฏิวิหารและอื่นๆ พอถึงวันเข้าพรรษาก็จะไปร่วมทำบุญตักบาตร ถวายเครื่องสักการะบูชา ดอกไม้ ธูปเทียน และเครื่องใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน เป็นต้น พร้อมฟังเทศน์ ฟังธรรม และรักษาอุโบสถศีลกันที่วัด บางคนอาจตั้งใจงดเว้นอบายมุขต่างๆ เป็นกรณีพิเศษ เช่น งดเสพสุรา งดฆ่าสัตว์ เป็นต้น อนึ่ง บิดามารดามักจะจัดพิธีอุปสมบทให้บุตรหลานของตน โดยถือกันว่าการเข้าบวชเรียนและอยู่จำพรรษาในระหว่างนี้จะได้รับอานิสงส์อย่างสูง

​

นอกจากนี้ ยังมีประเพณีสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย คือ "ประเพณีหล่อเทียนเข้าพรรษา" ประเพณีที่กระทำกันเมื่อใกล้ถึงฤดูเข้าพรรษา ซึ่งมีมาตั้งแต่โบราณกาล การหล่อเทียนเข้าพรรษานี้ มีอยู่เป็นประจำทุกปี เพราะในระยะเข้าพรรษา พระภิกษุจะต้องมีการสวดมนต์ทำวัตรทุกเช้า – เย็น และในการนี้จะต้องมีธูป - เทียนจุดบูชาด้วย พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จึงพร้อมใจกันหล่อเทียนเข้าพรรษาสำหรับให้พระภิกษุจุดเป็นการกุศลทานอย่างหนึ่ง เพราะเชื่อกันว่าในการให้ทานด้วยแสงสว่าง จะมีอานิสงฆ์เพิ่มพูนปัญญาหูตาสว่างไสว ตามชนบทนั้น การหล่อเทียนเข้าพรรษาทำกันอย่างเอิกเกริกสนุกสนานมาก เมื่อหล่อเสร็จแล้ ก็จะมีการแห่แหน รอบพระอุโบสถ 3 รอบ แล้วนำไปบูชาพระตลอดระยะเวลา 3 เดือน บางแห่งก็มีการประกวดการตกแต่ง มีการแห่แหนรอบเมืองด้วยริ้วขบวนที่สวยงาม โดยถือว่าเป็นงานประจำปีเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ "วันเข้าพรรษา" จะตรงกับวันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เดลินิวส์ และ กระปุกดอทคอม​

 

เวียนเทียนทำไมต้องเวียนขวา<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>
<O> </O>
สงสัยกันไหมค่ะเวลามีกิจกรรมทางศาสนาที่ต้องเวียนเทียนหรือวันสำคัญทางศาสนาเมื่อไปเวียนเทียนที่วัด เอ...สงสัยมั้ยว่า ทำไมต้องเวียนขวา ได้คำตอบมาบอกเล่ากันล่ะค่ะ<O></O>
<O> </O>
ความจริงการเวียนเทียนนั้น มีทั้งการเวียนขวาซึ่งเรียกว่า ทักษิณาวรรต หรือ ประทักษิณ และการเวียนซ้ายซึ่งเรียกว่า อุตราวรรต แต่เป็นคติความเชื่อแต่โบราณว่าขวาเป็นมงคล ซ้ายเป็นอวมงคล ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวกันกับเรื่องทิศด้วย โดยสมัยโบราณแบ่งทิศเป็นเพศ และจำแนกเป็นขวา และซ้าย คือ ทิศตะวันออกกับทิศใต้เป็นทิศฝ่ายขวาเป็นเพศชาย ส่วนทิศตะวันตกและทิศเหนือเป็นทิศฝ่ายซ้าย เป็นเพศหญิง คนโบราณจึงนิยมนอนหันศีรษะไปทางทิศใต้อันเป็นทิศฝ่ายขวาซึ่งในศิลาจารึกสมัยสุโขทัยและในหนังสือไตรภูมิพระร่วงได้กล่าวถึงหัวนอนคือทิศใต้ ส่วนทิศปลายตีนคือทิศเหนือ เมื่อคนเป็น ๆ นอนหันหัวไปทางทิศใต้ จึงจำเป็นอยู่เองที่คนตายจะต้องหันหัวสู่ทิศเหนือเวลาฝังศพจึงต้องเอาหัวคนตายไปทางทิศเหนือ<O></O>
<O> </O>
เมื่อทิศใต้เป็นทิศมงคลและเป็นทิศหัวนอนของคนโบราณมีชื่อว่าทักษิณ ซึ่งแปลว่า ขวาหรือความเจริญ ทานอันเป็นผลบุญอุทิศให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว จึงเรียกว่า ทักษิณานุประทาน การแสดงความเคารพองค์สถูปเจดีย์จึงนิยมการเดินเวียนขวารอบองค์เจดีย์ หรือการเวียนเทียนสมโภชก็เวียนขวา เรียกว่า ทักษิณาวรรต พระระเบียงที่มีอยู่รอบพระสถูปเจดีย์หรือพระอุโบสถ พระวิหาร จึงมีไว้เพื่อพุทธศาสนิกชนเดินทักษิณาวรรตบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น ๆ ส่วนบนฐานชั้นล่างขององค์พระเจดีย์หรือพระปรางค์ที่มีทางเดินโดยรอบเรียกว่าฐานประทักษิณ คือ ฐานที่มีไว้สำหรับผู้ไปบูชาเดินเวียนขวาโดยรอบ<O></O>
<O> </O>
การเวียนซ้าย หรืออุตราวรรต นิยมใช้ในงานอวมงคล เช่นการนำโลงศพเวียนซ้ายรอบจิตกาธานอันเป็นการลาลับโลกนี้ไป หรือใช้ในพิธีถอนในวิชาไสยศาสตร์ เช่น การถอนฝี ผู้ทำการรักษาจะเอานิ้วมือชี้ลากวนซ้ายไปรอบ ๆ ฝีจึงจะหายนั่นเอง

ในการเดินเวียนเทียนรอบโบสถ์ จะกระทำ 3 รอบ โดยเวียนไปทางขวา เรียกว่า เวียนแบบทักขิณาวัฏ <O></O>
<O> </O>
ในรอบที่ 1 ให้รำลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า โดยภาวนาคาถา บทอิติปิโส ภควาฯ ไปจนจบ เพื่อให้จิตใจมีสมาธิ <O></O>
<O> </O>
ในรอบที่ 2 ให้รำลึกถึงคุณพระธรรม โดยภาวนาคาถา บทสวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโมฯ ไปจนจบ<O></O>
<O> </O>
ในรอบที่ 3 ให้รำลึกถึงคุณพระสงฆ์ โดยภาวนาคาถา บทสุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆฯ ไปจนจบ
ที่มา : Team Content www.thaihealth.or.th

 

ขอจองแก้ว

เม็ดที่๑๕.แก้วปวกแดง+ปวกน้ำตาลเม็ดละ 300 บาท
<O>เม็ดที่๒๗.แก้วปวกน้ำตาลเม็ดละ 300 บาท
<O>เม็ดที่ ๓๓.แก้วสามกษัตริย์ =แก้วเข้าแก้ว,พิรุณแสนห่า,ขนเหล็กเม็ดละ 300 บาท</O>
<O>เม็ดที่๔๖.แก้วปวกน้ำตาล กินบ่เสี้ยงเม็ดละ 300 บาท
<O>เม็ดที่๕๐.แก้วปวกเขียว,ปวกน้ำตาล น้ำใสเม็ดละ 300 บาท
<O>เม็ดที่๗๙.แก้วหมอกมุงเมือง(ออกโทนสีเทา)เต็มเม็ดเม็ดละ 300 บาท
<O>เม็ดที่ 131 มูนสโตน (Moonstone) หรือ มุกดาหารราคาเม็ดละ 300 บาท
<O>เม็ดที่๑๐๐.แก้วโป่งข่ามน้ำตัน..สีออกโทนเทาอมเขียว(คล้ายหยก)เม็ดละ 200 บาท
<O>เม็ดที่๑๑๔.แก้วสีฟ้าอ่อนๆ (ตระกูลแก้วสีฟ้า) [FONT=Angsana New]เม็ดละ [/FONT][FONT=Verdana]200 [/FONT][FONT=Angsana New]บาท[/FONT]



[SIZE=5][U][COLOR=#c00000][FONT=Angsana New]เม็ดที่[/FONT][/COLOR][/U][U][COLOR=#c00000][FONT=Angsana New]๑๒๖.แก้วปวกน้ำตาล[/FONT][/COLOR][/U][COLOR=#c00000][FONT=Angsana New]เม็ดละ [/FONT][/COLOR][COLOR=#c00000][FONT=Verdana]300 [/FONT][/COLOR][COLOR=#c00000][FONT=Angsana New]บาท[/FONT][/COLOR][/SIZE]
[FONT=Angsana New][SIZE=5][COLOR=#c00000][/COLOR][/SIZE][/FONT]
[SIZE=5][/SIZE]
[COLOR=#c00000][FONT=Angsana New][SIZE=5][COLOR=black][B]และอยากขอดูรูปแก้วต่อไปนี้เพิ่มครับ (อยากดูแบบยกแล้วถ่ายอ่ะครับ)[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/COLOR]
[COLOR=#c00000][FONT=Verdana]<O[SIZE=5]>[U][COLOR=blue][FONT=Angsana New]เม็ดที่[/FONT][/COLOR][COLOR=blue][FONT=Angsana New]๒๖.แก้วหมอกมุงเมืองเต็มเม็ด[/FONT][/COLOR][/U]</O>[/SIZE][/FONT][/COLOR]
[COLOR=#c00000][FONT=Verdana]<O[SIZE=5]>[COLOR=black][FONT=Verdana][U][COLOR=blue][FONT=Angsana New]เม็ดที่ ๘๗.แก้วหมอกมุงเมือง[/FONT][/COLOR][COLOR=blue][FONT=Angsana New]ทั้งเม็ด[/FONT][/COLOR][/U][/FONT][/COLOR]</O>[/SIZE][/FONT][/COLOR]
[COLOR=#c00000][FONT=Verdana]<O[SIZE=5]>[COLOR=black][FONT=Verdana][COLOR=black][FONT=Verdana][U][COLOR=blue][FONT=Angsana New]เม็ดที่ ๙๖.แก้วหมอกมุงเมือง[/FONT][/COLOR][/U][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]</O>[/SIZE][/FONT][/COLOR]
[COLOR=#c00000][FONT=Verdana]<O[SIZE=5]>[COLOR=black][FONT=Verdana][COLOR=black][FONT=Verdana][COLOR=blue][FONT=Verdana][U][COLOR=blue][FONT=Angsana New]เม็ดที่[/FONT][/COLOR][COLOR=blue][FONT=Angsana New]๑๑๖.แก้วหมอกมุงเมือง[/FONT][/COLOR][/U][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]</O>[/SIZE][/FONT][/COLOR]
[SIZE=5][/SIZE]</O

 

ขอโทษจริงๆค่ะ ที่หายหน้าหายตาไปซะหลายวัน..อิอิ...
- เห็นพี่แก้วแอบบ่นกะปอดกะแปดมาเรยอ่ะคร้าบบบบ....หุหุ
- ขอบคุณน้องดาที่มาช่วยรักษาสถานการณ์ให้คงที่ อิอิ พี่ฟ้าคอมพ์เจ๊ง ไวรัสกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ เครื่องเปิดวินโดว์บ่ได้ ต้องเข้าซ่อม ที่ร้านซ่อมเสร็จตั้งกะอาทิตย์ที่แล้ว ก็ไม่โทรมาแจ้ง ไอ้เราก็มัวไป ตจว. ตะลอนทัวร์ คิดว่ายังไม่เสร็จ ที่ไหนได้ วันนี้ลองโทรถาม น้องโอเปอเรเตอร์บอกว่าส่งมาให้ที่สาขาแม่จันแย้ววว...ว๊าก แล้วตูไยไม่รู้เรื่องเรย ไม่มีแมวท่านไหนโตรมาบอกเรยนิ...ฮึ่ม...แฮ่...อุ๊ย....(ระบายๆๆๆความอัดอั้น)
- คุณ anuchang เดี๋ยวฟ้าจะถ่ายเพิ่มให้ดูนะคะ...
- ขอบพระคุณพี่คนสกลค่ะ ส่งแหวนไปให้เรียบร้อยแล้ว เสาร์นี้น่าจะได้รับนะคะ
-

 

สวัสดีค่ะคุณสุรพล...สบายดีนะคะ
- อิอิ ฟ้าเพิ่งได้มาออนนี่ล่ะค่ะ โดนไวรัสยึดคอมพ์ (เอาไปซ่อมเป็นเดือนเลยค่ะ)

 

แก้วโป่งข่ามชุดล่าสุด เชิญเลือกชม เลือกซื้อ
...... ได้ที่หน้า 123 ค่ะ;aa50

 

สบายดีครับ อนุโมทนาบุญกับคุณฟ้า ที่ตะเวนทำบุญด้วยครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณนพพร ที่ร่วมทำบุญกับฟ้า ผ่านทางเว็บพลังจิตค่ะ
พรุ่งนี้จะรีบออกไปส่งให้นะคะ