บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 19 ตุลาคม 2014.

  1. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    นี่อันนี้ท่านทั้งหลายจะพึงเห็นว่า จิตถ้าบริสุทธิ์มากเพียงใด ลาภสักการะมันก็เกิดมากเพียงนั้น เมื่อลาภสักการะเกิด ก็จงอย่าคิดว่าทุกคนท่านจะติดลาภสักการะ ความจริงเปล่าหัวใจท่านไม่ติดตอนนี้แหละเราจะต้องคิด

    อันดับแรก เราก็ไปจำจุดตัดกามราคะเสียก่อน เห็นว่ามันไม่เป็นประโยชน์ นี่ผมพูดตั้งแต่เริ่มปฏิบัติครั้งแรกนะครับ และต่อมาก็มองดูทรัพย์สินทั้งหลายว่า คนที่แบกทรัพย์สินทั้งหลายมากเท่าไรก็ตามที เขาก็ตาย มีทรัพย์มากก็ตาย มีทรัพย์น้อยก็ตาย จนก็ตาย รวยก็ตาย แล้วจิตใจจะไปนั่งมัวเมาอยู่ในทรัพย์เพื่ออะไร ทรัพย์มีดีมีประโยชน์ ได้ทรัพย์มากเท่าไร ทำทรัพย์นั้นให้เป็นสาธารณะประโยชน์ให้มากขึ้น จงอย่าเอาจิตเข้าไปติดในทรัพย์ เป็นแต่เพียงว่ารับมาแล้ว เพื่อทำประโยชน์ใหม่ให้เป็นสาธารณะให้มากขึ้น ใจไม่เกาะ

    ต่อมาอำนาจของความโกรธก็มานั่งดูสักกายทิฏฐิ เราโกรธแล้วเราอยากจะฆ่ากายของเรา เราอยากจะประทุษร้ายร่างกายของเรา ไอ้ร่างกายนี่เขาเองเขาก็ทรงตัวไว้ไม่ได้ เขาห้ามความแก่ไม่ได้ เขาห้ามความป่วยไม่ได้ เขาห้ามความตายไม่ได้ แล้วจะไปนั่งโกรธร่างกายของเขาด้วยเรื่องอะไร อยากประทุษร้ายเขามันก็สร้างความชั่วให้แก่เรา เราไม่ต้องทรมานเขา เขาก็ทุกข์ เราไม่ต้องฆ่าเขา เขาก็ตาย ยกล้อมันไปไม่ดีกว่าหรือ เขาชั่วปล่อยเขาชั่วไปแต่ผู้เดียว เขาด่าเรา เราไม่ด่าเขา เขาเลวคนเดียว เขาแกล้งเรา เราไม่แกล้งเขา เขาเลวคนเดียวเราไม่เลว ทำอารมณ์จิตให้เป็นสุข คิดว่านั่นเขาเป็นทาส กิเลส และตัณหา

    โมหะ สำหรับโมหะความหลงตัวนี้เป็นตัวสำคัญ อันดับแรกเราก็มาตัดความหลง มานั่งมองร่างกายเรา นั่งมองร่างกายของบุคคลอื่น มองดูความสกปรกของร่างกาย มองดูความเสื่อมไปของร่างกาย มองดูร่างกายที่มันใช้เราคือ จิต ให้แสวงหาอาหารมาให้กินให้มันกิน แล้วมันก็ถ่าย ถ่ายแล้วมันก็กิน แต่ทว่ามันก็ทรุดโทรมลงไปทุกวัน มันดีหรือมันชั่ว แสดงว่าร่างกายนี้มันชั่ว เราควรจะมีร่างกายต่อไปไหม ก็เชื่อว่าเราไม่ควรจะมี
     
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ถ้าเราจะไม่มีร่างกายต่อไปเราจะทำยังไง เราก็ต้องเป็นคนใช้ปัญญา ปัญญาของเราจะเอาอะไรมาใช้ ปัญญามันมีอยู่แล้ว แต่เหตุที่จะต้องใช้ ต้องใช้ตามแนวที่องค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงแนะนำ นั่นก็คือ พิจารณาคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่ต้นจนอวสาน ในที่สุดองค์สมเด็จพระพิชิตมาร ว่าเราสามารถเข้าใจเสียในอริยสัจด้วยปัญญา เราเป็นอรหันต์อริยสัจมองเห็นทุกข์ของตน ทุกข์ของคนอื่น ทุกข์ของสัตว์โลกทั้งหมด ทุกข์มาจากไหน มาจากตัณหา ตัณหาคืออะไร คือความยาก เราจะตัดตัณหาเราจะตัดตรงไหน ตัดที่ศีล สมาธิ ปัญญา อันนี้เป็นคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ผมขอกล่าวโดยย่อ ๆ เราก็ทรงศีล สมาธิ ปัญญาให้ครบถ้วน เมื่อศีล สมาธิ ปัญญาครบถ้วน จิตทรงตัวดีอันดับแรกเป็นฌานโลกีย์ ต่อมาก็มานั่งดูว่าพระโสดาบันทรงอะไร พระโสดาบันทรงอธิศีล และไม่ข้องในกาย เราเป็นพระโสดาบัน อนาคามีมีอะไร สกิทาคามีผมไม่พูด อนาคามีตัดกามฉันทะ โดยกายคตานุสสติ อสุภกรรมฐาน และสักกายทิฏฐิควบกัน กายคตานุสสติ เห็นว่าร่างกายเป็นชิ้นเป็นท่อนเป็นตอน อสุภกรรมฐานเห็นว่าร่างกายสกปรก สักกายทิฏฐิไอ้สิ่งที่มันสกปรกอย่างนี้ มันไม่ใช่เรา มันไม่ใช่ของเรา เราอาศัยมัน พอใจมันทำไมสำหรับความสวยงามในร่างกาย เป็นอันว่าไม่สนใจ อย่าลืมนะตรงนี้ก็สู้กับอารมณ์

    ถ้าเราตัดกามฉันทะเราก็หาคนสวย ถ้าชนหน้ากันเมื่อไร หรือลับหลังเขา เราเห็นว่าไม่สวยเมื่อไหร่ เมื่อนั้นใช้ได้จิตใจไม่ผูกพัน

    มาด้านโทสะความโกรธ พออนาคามีตัดได้ด้วยอาศัยพรหมวิหาร 4 กับสักกายทิฏฐิควบกัน ตามที่อธิบายมาแล้ว นี่ต้องใช้ปัญญานะ จะไปนั่งภาวนาอยู่เฉย ๆ มันไม่ไป มองดูโทษของความโกรธ มองดูโทษอารมณ์ที่โกรธ มันไม่ได้เกิดประโยชน์ตามที่กล่าวมา
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เมื่อถึงอนาคามีแล้ว ความจริงอรหันต์เก็บเล็ก เก็บน้อยเป็นของสบาย ๆ ใช้ปัญญา ว่า รูปฌาน และอรูปฌาน เป็นบันได สำหรับก้าวเข้าไปสู่พระนิพพาน เราจะไม่หยุดอยู่แค่นี้

    มานะ การถือตัวถือตนไปถืออะไรกันตรงไหน ถือนี่มันถือกาย หรือ ถือความเลว ถือชาติตระกูล ถือฐานะ ถือวิชชาความรู้ ไอ้สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ มันไม่ทรงตัวจะไปถืออะไรกัน คนกับสัตว์มีสภาวะเท่ากัน ถ้าเราเป็นเพื่อนกับสัตว์ได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้น ชื่อว่าจิตเราปลดมานะได้ ถ้าเรายังเห็นสัตว์เดรัจฉาน สัตว์ขี้เรื้อนเป็นที่น่ารังเกียจ เวลานั้น ชื่อว่า เราตัดมานะไม่ได้ จำให้ดีเท่านี้นะ ทำให้มันลงตัว

    และอุทธัจจะ อารมณ์ฟุ้งซ่านนี่ หมายความว่า อารมณ์เราจับพระนิพพานตรงหรือเปล่า โลภะความโลภมีในจิตหรือเปล่า ราคะความกำหนัด ติดกันยินดี มีในอารมณ์หรือเปล่า โทสะ พยาบาท ความโกรธมีในใจหรือเปล่า จิตเรายังนึกถึงว่านั่นเป็นเรา นี่เป็นของเราอยู่หรือเปล่า ถ้ายังมีอยู่ ยังตัดไม่ได้ อารมณ์ต้องเบาในสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ทั้งหมดจิตกำหนดเฉพาะพระนิพพานเป็นอารมณ์ อย่างนี้ชื่อว่าตัดอุทธัจจะ คือ อารมณ์ฟุ้งซ่านได้
     
  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แล้วก็อวิชชา มันไม่มีอะไร อวิชชานี่แปลว่า ไม่รู้ เหลือนิดเดียวอวิชชา ที่อารมณ์จิตคิดว่า การทรงเป็นพระอนาคามียังดี เกิดเป็นเทวดาหรือพรหมก็หมดกัน อย่างนี้เราต้องทิ้งมันไป ตั้งใจเฉพาะพระนิพพานเป็นอารมณ์ พอจิตเข้าถึงอรหัตตผล จิตใจของเราจะมีอาการของความเบา ไม่มีความรู้สึกหนักในกรณีทั้งปวง จะมีอารมณ์โปร่ง มีใจเป็นสุข เขาจะมาในด้านไหน

    กามฉันทะมาก็เหลว
    โลภะความโลภเขาจะนำมาก็เหลว
    โทสะความโกรธมายั่วเย้าเข้าก็เหลว
    โมหะเข้ามายั่วเพียงใดก็เหลวใจเราไม่ติด

    อารมณ์มันสบาย ๆ คล้ายกับว่า มือไม่เกาะอะไรทั้งหมด จิตมันโปร่งมีอารมณ์เป็นสุข เห็นคนสวยก็เหมือนกับเห็นเปรต เห็นทรัพย์สินทั้งหลายก็เหมือนกับเห็นก้อนดินเหนียว เห็นบุคคลทำให้โกรธเรานึกว่า เขาเป็นคนบ้า เห็นร่างกาย ทรัพย์สินทั้งหลาย เห็นวัตถุเหมือนว่าไร้ค่า จิตใจเป็นสุข อารมณ์โปร่ง

    เท่านี้แหละบรรดาท่านทั้งหลาย เป็นอาการที่การปฏิบัติตนให้เข้าถึงอรหัตตผล ผมพูดมาน่ะมันยาวเกินไป แต่ความจริงการปฏิบัติ เขาปฏิบัติกันแบบนี้ เขาลัด ๆ ประเดี๋ยวหนึ่งก็ถึง เอาล่ะท่านทั้งหลายมองดูเวลา แต่ความจริงเรื่องนี้เราย้ำกันมาเป็นปี เห็นว่าเท่านี้ก็พอ เวลาก็หมดเสียแล้ว ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ สำหรับด้านอนุสสติ 5 ประการ ที่เริ่มต้นด้วยพระโสดาบันก็ขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้

    ขอความสุขสวัสดิ์จงมีแต่ท่านทั้งหลาย ต่อไปนี้ขอให้ทุกท่านตั้งกายให้ตรง ดำรงจิตให้มั่น กำหนดรู้ลมหายใจเข้าหายใจออก อยู่ในอิริยาบถที่ท่านต้องการ จนกว่าจะถึงเวลานั้นที่ท่านเห็นว่าสมควร

    Webboard - Manager Online
     
  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    พระมหาโพธิสัตว์ ท่านแบ่งภาคจิตได้หลายๆ จิตเพื่อลงมาสร้างบารมีและโปรดสัตว์ เป็นการช่วยเหลือสรรพสัตว์
    และบำเพ็ญบารมีเพิ่มเพื่อพระโพธิญาณ พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์จะทรงมีปณิธานในการโปรดสัตว์ให้พ้นทุกข์เหมือนกัน ต่างกันที่บารมีที่บำเพ็ญ

    บารมีมากเมื่อสำเร็จพระโพธิญาณแล้ว ก็จะโปรดสัตว์ได้ง่าย ช่วยให้สัตว์พ้นทุกข์ได้ง่าย
    ได้เป็นจำนวนมากๆ เรียกว่ารื้อขนสัตว์ออกจากวัฏสงสารได้เป็นจำนวนมหาศาล

    จงปล่อยวางเรื่องราวในอดีตและอนาคต รู้แล้ววาง อย่าไปยึด การยึดไว้
    ทำให้เรามีตัวตน แต่ในความจริงแล้ว เราทุกคนล้วนไม่มีตัวตนที่แท้จริง

    เพราะมีตัวตนจึงมีขันธ์ห้า เพราะมีขันธ์ห้าจึงมีอุปาทานขันธ์ เพราะมีอุปาทานขันธ์จึงมีสังขารขันธ์
    เพราะมีสังขารขันธ์จึงมีสัญญาขันธ์ เพราะมีสัญญาขันธ์จึงมีวิญญาณขันธ์...ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาล้วนไม่เที่ยง
    ตั้งอยู่ไม่นานก็ดับไป ล้วนเป็นไปตามเหตุปัจจัยนั้นๆ และจะดับไปเมื่อหมดเหตุปัจจัยนั้นๆ

    เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ดังคำกล่าวที่ว่า "สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ"
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    หอบสังขารเนิ่นนานการเรียนรู้
    สว่างมืดมีอยู่ทุกแห่งหน
    ขึ้นอยู่กับการวางใจของผู้คน
    สว่างมืดอีกกี่หนจึงพ้นภัย
    ละวิถีพลีกุศลดลจิตมั่น
    ไม่ไหวหวั่นโลกธรรมคำทั้งหลาย
    สรรพสัตว์มองเห็นเป็นรูปกาย
    แตกสลายลงได้ในพริบตา
    เพราะยึดมั่่นถือมั่นว่าฉันแน่
    แต่จริงแท้ไม่มีมั่นฉันทั้งหลาย
    มีเพียงขันธ์ก่อกำเนิดมาจากกาย
    อย่าขวนขวายยึดมั่นบั่นตนเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2015
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    นิทาน เรื่อง เสี้ยวหนึ่งของความทรงจำในอดีต

    นิทานต้องขึ้นต้นด้วยคำว่า "กาลครั้งหนึ่ง" จึงจะเป็นนิทาน 555 เป็นเรื่องเล่าเรื่องราวความหลังย้อนไปหลายหมื่นชาติ
    จากน้องที่ผูกพันกันในชาติภพนั้น ดลบันดาลให้ได้พบเจอกันอีกครั้งบนโลกออนไลน์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้ว

    พี่เห็นรูปน้องแล้วพี่รู้สึกอะไรบ้างหรือเปล่า พี่เห็นอะไรบ้างหรือเปล่า

    ไม่เห็นค่ะ ไม่รู้ซิ แต่พี่รู้สึกว่าน้องคือพญานาค จิตของพี่บอกอย่างนั้นค่ะ
    แววตาคู่นั้นช่างคุ้นตาเหลือเกิน แววตาของน้องคล้ายๆ กับพี่ เจิดจ้า
    เล่าเรื่องราวของเราเมื่อครั้งอดีตให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะ


    เราเคยเป็นพี่น้องกันค่ะ เป็นนาคราชที่เกิดกับเจ้าพ่อพญานาคและเจ้าแม่พญานาค
    ผู้เป็นใหญ่แห่งลำน้ำโขง พ่อกับแม่เป็นเจ้าเมืองพาราณในโขงสามสาย คือ ไทย ลาว จีน
     
  8. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เรามีพี่น้องด้วยกัน 18 ตน พี่เป็นตนที่ 4 เราสนิทกันมาก พี่ชอบออกหาปลาเวลากลางวัน ตัวเองจะกินคนสุดท้าย เวลางานบุญบั้งไฟ พี่จะเอาเทียนบูชาเจ้าพ่อ แล้วเก็บกวาดทุกครั้งที่เทียนธูปหล่นตามพื้น เจ้าพ่อคือผู้เป็นพ่อพญานาค บางครั้งน้องก็เก็บกวาด แต่พี่จะชอบทำเองมากกว่า ยกเว้นไม่ว่าง

    พี่เป็นที่ยำเกรงของครุท เพราะพี่มีบารมี ถือศีล ประพฤติพรหมจรรย์ ชอบพาน้องไปเล่นลูกไฟไกลๆ โดยเฉพาะใกล้ๆ ประเทศจีน ไม่ชอบเอาเรื่องนาคานาคีที่ทำผิด ชอบเอาของสวยๆ งามๆ มาแจกพี่น้อง จะผูกพันกับน้องมากกว่าทุกคน เพราะชอบทำทานถวายพญานาคด้วยกัน บางครั้งก็นั่งทำบายสีด้วยกัน ชอบเสียสละเหมือนกัน
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ชอบเล่านิทานให้น้องฟังก่อนนอนแต่ไม่มีใครฟังเพราะคิดว่าเชย ยกเว้นน้องชอบฟัง
    เวลาครุทมา จะก้มกราบพี่ก่อนทุกครั้งเพราะแสงสีสวยเด่นเป็นเอกลักษณ์
    พี่มีลำตัวยาว 15 ศอก ยืดได้ หดได้ แปลงเป็นคนได้ หล่อมาก คม เข้ม
    ไม่ยอมมีคู่ เราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด

    พี่ชอบเก็บดอกบัวทิพย์ ในถ้ำแก้ว พี่ชอบว่ายทวนน้ำตกภูผาใหญ่ จะมีลูกแก้วเต็มไปหมด
    เราพากันไปชมลูกแก้วที่นั่นทุกวันพระ จะมีเกจิ ไทย ลาว จีน มาเทศน์ให้ฟังแล้วเราก็จะเกิดอาการเย็นไปทั้งตัว
    เราเล่นฤทธิ์กันเป็นประจำ น้องชอบว่ายตามน้ำเพราะไปได้เรื่อยๆ ส่วนพี่ ชอบว่ายทวนน้ำเพราะกำลังดี

    พี่ชอบรองเท้าแก้วมาก ชอบให้น้องใส่ แต่น้องชอบรองเท้าสาน รองเท้าแก้วนั้น ล่องหนได้
     
  10. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    พี่จะคอยหาคู่ให้น้องเสมอๆ แทนที่เค้าจะชอบน้องของพี่เค้ากลับชอบพี่เอง
    คนมีศีลก็งี้แหละเป็นที่ต้องตาต้องใจกับคนทั่วไป

    พี่ชอบเอาลูกแก้วมาให้น้องส่วนมากสีแดง เพราะหมายถึงฤทธิ์ เวลาพี่มีลูกแก้วพี่ชอบเอาไปให้เจ้าเมืองแต่ละหัวเมืองชม
    บางทีก็ให้เลย ลูกแก้วมาจากวังใหญ่ของพญานาค ชื่อวังปารุต อยู่ฝั่งใต้ของแม่น้ำโขงฝั่งลาว
    พี่กับน้อง ไม่เคยหวงของ เราไปไหนมาไหนจนชิน ลูกแก้วส่วนใหญ่จะตกใส่หลังพี่ประจำ น้องจะคอยเก็บไว้ให้
    ลูกแก้วเกิดจากธาตุพระอรหันต์ เกิดจากน้ำลายนาค เกิดจากน้ำตานาค ถ้าเป็นหยดน้ำนะ
    พี่ชอบใช้หงอนดึงผลไม้ป่า ส่วนน้องชอบใช้ขาถีบ พี่ก็จะตีน้องประจำในเรื่องนี้

    ชอบเอาถาดทองคำของน้องไปเก็บผลไม้ ทั้งๆ ที่ถาดเงินก็มี

    แอบถอนเกร็ดน้องด้วย เอาไปวางไว้ใต้หิ้งพระ เป็นความเชื่อว่าจะว่านอนสอนง่าย

    555555 ช่างเป็นพี่ที่แสนดีจริงๆ จนน้องจดจำข้ามภพข้ามชาติ
     
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ระยะนี้ได้พบเจอแต่เรื่องราวของอดีตชาติตนเอง ซึ่งแต่ละชาติล้วนมีแต่เรื่องราวของการบำเพ็ญเพียร ไม่ว่าจะไปอยู่ภพไหนภูมิไหนก็มีแต่เรื่องทรงศีลบำเพ็ญเพียร หรือไม่ก็ตายเพื่อชาติทำคุณแก่แผ่นดิน

    เมื่อคืนน้อมมาพิจารณาถึงการตายเกิด การได้ไปเกิดแต่ละภูมิล้วนเป็นการเรียนรู้และสอบด้านการสร้างบารมี แต่ละภูมิเราละได้หมด เพราะจดจำอดีตชาติด้วยตนเองไม่ได้ มีนิมิตสั้นๆ ก็ไม่ได้สนใจอีก เมื่อทบทวนไปมา จึงได้เห็นเหตุของการไม่จดจำอดีตและคนในอดีตของแต่ละชาติ มาสิ้นสุดที่การปล่อยวาง ไม่ยึด

    หลายๆ ชาติที่ผ่านมาเราไม่ได้ยึดอะไรไว้เลย แล้วชาตินี้ล่ะ เรากำลังยึดอะไรอยู่หรือเปล่า หาข้อที่ตนเองยังไม่ได้ปลดออก แต่มั่นใจมากหลายๆ ชาติทำข้อสอบผ่านได้มาแล้ว แค่ชาตินี้ทำไมจะทำไม่ได้

    จากนั้นย้อนกลับไปมองหมู่สัตว์ อะไรเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวสัตว์ไว้ให้เวียนว่ายไปมา ชัดเจนมากๆ เลย เห็นอัตตาเด่นมาก เพราะมีเขา มีเรา มีตัว มีตน ผูกมัดขึ้นมาเป็นปมในใจ ทำให้ไม่หลุดพ้นจากวังวนของเธอและเขา เขาและเรา ตัวต้นเรื่องอยู่ที่นี่เอง "อัตตา" ภูมิมนุษย์คือสนามทดสอบอัตตานี่เอง (ความเห็นส่วนตัวอีกนั่นแหละ)
     
  12. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ....ใจเบา....

    ย้อนหลังไปเมื่อปลายปี 2556 ได้ไปทอดกฐินที่จังหวัดน่าน หลังงานกฐินจะมีงานปฏิบัติธรรม ปริวาสกรรมเป็นเวลา 10 วัน จึงอยู่ต่อเพื่อร่วมงานปฏิบัติธรรมและช่วยแม่ครัวทำอาหารเลี้ยงพระที่มาร่วมงานนั้น หลวงพี่ท่านก็ชวนให้อยู่ที่วัดเลย เพราะเราไม่ได้ทำงานแล้ว ลาออกจากงานและไม่คิดจะทำงานต่อไปอีก บ้านก็ไม่อยากอยู่ อยากจะออกบวชเพื่อปฏิบัติให้ได้เต็มที่

    หลวงพี่ท่านก็บอกว่าบวชชีไปเลย อยู่ที่วัดนี่แหละ ถ้าบวชชีท่านจะสร้างกุฏิชีให้โดยอยู่อีกเขตหนึ่งของวัด เพราะว่าวัดนี้ยังไม่มีแม่ชีค่ะ แต่เราก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ จึงบอกกับหลวงพี่ไปว่าขอทดลองอยู่ก่อน ยังไม่แน่ใจตนเองว่าตัดทางโลกได้อย่างเด็ดขาดหรือยัง ขอบวชชีพราห์มไปก่อนแล้วกัน หลวงพี่ก็บอกว่าได้...บวชชีพราห์มตลอดชีวิตก็ได้ ก็ยังไม่รับปากกับหลวงพี่ในตอนนั้น ขอทดลองอยู่สักสองปีก่อน ถ้าอยู่ได้ถึงสองปีจะโกนหัวและอยู่วัดตลอดชีวิตไปเลย
     
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    การไปอยู่วัดด้วยการทรงศีลปฏิบัติธรรม และทำกิจให้กับพระและศาสนสถานเป็นหน้าที่ๆ เราปฏิบัติทุกวัน จากที่ไม่ชอบสวดมนต์ยาวๆ นานๆ หลวงพี่ท่านก็นำสวดมนต์ทุกวันๆ ละหนึ่งชั่วโมง นั่งกรรมฐานประมาณสามสิบนาที ท่านจะไม่ได้ให้นั่งนาน เพราะว่ามีพระอาพาธเกี่ยวกับกระดูกนั่งนานไม่ได้ค่ะ ออกจากโบสถ์เราก็ไปปฏิบัติต่อเองที่ห้องพัก

    กิจวัตรประจำวันของเราก็คือ ตื่นเช้าตีสี่ไปโรงครัว กวาดถูโรงครัว หุงข้าว ต้มน้ำชงกาแฟถวายหลวงพี่ ปูเสื่อ จัดอาสนะสำหรับให้พระฉันเพล จัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการฉันเพล พวกจานชามช้อน น้ำดื่มและกระดาษทิชชู และจัดวางถาดสำหรับใส่ของที่พระบิณฑบาตรมาได้

    แล้วจึงไปรดน้ำต้นไม้ทั้งวัด โดยลากสายยางไปรดต้นไม้ตามจุดต่างๆ จากนั้นก็ไปกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมาตามข้างโบสถ์และวิหาร เมื่อพระกลับมาจากบิณฑบาตร ท่านจะนำของที่บิณฑบาตรมาได้มาเทรวมลงในถาดที่เราจัดเตรียมไว้ จากนั้นท่านก็จะกลับไปที่กุฏิ รอเพลจึงจะออกมาฉันภัตตาหาร
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ตอนนี้เราก็ต้องไปคัดแยกข้าว กับข้าวและของหวาน แยกเป็นแต่ละถาด ข้าวจะมีข้าวหนียวและข้าวสวย กับข้าวพวกแกง ผัด ทอด ย่าง เราก็พิจารณาเองว่าพระท่านจะฉันอาหารประเภทไหน แล้วนำกับข้าวชนิดนั้นๆ ไปอุ่นเทใส่ถ้วยชามที่เหมาะสม หากวันไหนกับข้าวดูแล้วไม่เพียงพอ หรือว่ามีกับข้าวที่เหมือนๆ กัน เช่นน้ำพริกอย่างเดียวกัน แกงอย่างเดียวกันหรือผัดอย่างเดียวกัน ทำนองชาวบ้านใจตรงกันอยากใส่กับข้าวชนิดนี้ในวันนี้ เราก็จะทำอย่างอื่นเพิ่มอีกอย่างหรือสองอย่าง

    ของหวานจะมีพวกขนมสดและขนมแห้ง นมกล่อง มาม่า ของพวกนี้ก็ต้องนำมาแยกจัดเป็นหมวดๆ จัดใส่เป็นถาดๆ

    จัดเป็นสำรับคาวหวานค่ะ เมื่อจัดวางของทั้งหมดที่จะถวายเพลครบแล้ว ก็จะไปนิมนต์พระให้ท่านมารับประเคนของ
     
  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ประเคนของเสร็จแล้ว เราก็กลับมายังศาลาปฏิบัติธรรมที่เราพักอยู่คนเดียว กวาดถูศาลาค่ะ ล้างห้องน้ำ ซักผ้า ทำเสร็จพระท่านก็ฉันเพลเสร็จพอดี หลวงพี่จะเดินมาเรียกให้ไปทานข้าวได้ เราก็ต้องไปโรงครัวอีกครั้ง เพื่อเก็บสำรับอาหารและอุปกรณ์ที่ใช้แล้วไปล้างและคว่ำตากแดด แบ่งอาหารส่วนหนึ่งที่เราจะทานไว้จานหนึ่ง มีอะไรที่พระท่านฉันเหลือไว้ ก็ใส่รวมๆ กันไปในจานเดียว

    ข้าวและกับข้าวขนมนมที่พระท่านไม่ฉันแล้ว เราจะจัดใส่ถุงหิ้ว ประมาณสี่ห้าถุง แล้วหิ้วไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ให้ผู้ใหญ่บ้านนำไปแจกลูกบ้านที่ไม่ค่อยมีอะไรกิน

    จากนั้นเราจึงนำจานอาหารของเรากลับมาทานที่ห้องพักคนเดียว ทานอาหารเสร็จก็ออกไปเดินๆ อยู่ข้างๆ โบสถ์นั่นแหละค่ะ บางครั้งก็ออนเน็ตนั่งเล่นอยู่ในห้อง
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    นั่งกรรมฐานในห้องตอนบ่ายประมาณหนึ่งชั่วโมง เดินออกมากวาดเศษใบไม้บ้าง เพราะที่วัดนี้จะมีพวกใบสักร่วงทั้งวัน ก็กวาดใบไม้ไปพิจารณาธรรมไป บ่ายสี่โมงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมขึ้นโบสถ์เพื่อสวดมนต์ทำวัตรเย็น ลืมไปว่าสวดมนต์ทำวัตรเช้าตอนตีสี่ครึ่งค่ะ ใช้เวลาสวดมนต์ทำวัตรครั้งละสองชั่วโมง หลังจากนั้นก็ลงโบสถ์กลับเข้าห้องไปนั่งกรรมฐานต่อ กว่าจะนอนก็ประมาณสี่ทุ่มค่ะ ตื่นตีสี่โดยไม่ต้องมีนาฬิกาปลุก
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    บางครั้งพระท่านก็ไม่ได้อยู่วัด ไปปฏิบัติธรรมที่วัดจังหวัดอื่นเป็นเวลาหลายๆ วัน เราก็อยู่ที่วัดคนเดียว อาหารที่ทานตอนที่พระไม่อยู่วัดคือนมกล่องกับน้ำผลไม้ ที่เราคัดแยกเก็บไว้เป็นลัง ดื่มนมอย่างเดียว ตั้งใจปวารณาดื่มแต่นมกับน้ำค่ะ นมกล่องวันละ 3 กล่องถ้าเป็นกล่องใหญ่ ถ้าเป็นกล่องเล็กก็ 6 กล่องหรือไม่ก็มีน้ำผลไม้สลับกัน ก็อยู่ได้เหมือนกันนะ ไม่หิว ไม่อยากทานอาหาร

    ก็อยู่ปฏิบัติอย่างนี้มาเรื่อยจนวันเวลาผ่านไป วันหนึ่งขณะที่เดินจงกรมที่สนามข้างโบสถ์ ก็พิจารณาว่าเออหนอ เรานี่ช่างตัวคนเดียวจริงๆ หนอ อยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว ปฏิบัติคนเดียว ไม่มีใครสอนอะไร ปฏิบัติเอง พิจารณาเห็นว่ากายนี้ไม่ใช่เรา กายนี้เป็นธาตุ มองเห็นธาตุภายในกายกับธาตุภายนอกกายเป็นธรรมชาติเดียวกัน อย่างเดียวกัน ดิน น้ำ ลม ไฟ เหมือนกัน เราคือธรรมชาตินะ กลมกลืนกันไปเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีญาติมิตรที่แท้จริง ทุกสิ่งคือสมมติ เราไม่ข้องเกี่ยวกาย ไม่ยึดกาย เพราะอีกหน่อยกายนี้ก็ต้องคืนสู่ธาตุ ไม่มีเรา ไม่มีกาย ไม่มีจิต เราไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างเป็นสมบัติของโลก
     
  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เกิดสภาวะใจเบาขึ้นมาทันที เหมือนเราปล่อยมือออกจากทุกสิ่งที่เราเคยยึดไว้อย่างแน่นหนา มันปล่อยออกไปหมดเลย จะตายเวลานี้หรือเวลาไหนก็ไม่ใยดีทั้งนั้น เป็นสภาวะของความเบาที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เออหนอ...เวลาที่ใจปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างออกไป มันดีอย่างนี้นี่เอง ในใจร้องขึ้นว่าไม่เอาอะไรอีกแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ไม่เอาสมมติแล้ว

    มีความสุขมาก ใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา จนโยมที่มาทำบุญมาทักว่าแม่...หน้าตาดีขึ้นกว่าตอนที่มาอยู่วัดใหม่ๆ นะ เค้าเชื่อแล้วว่าศีลทำให้คนสวยขึ้น (555) และทุกคนมักจะชวนให้บวชชีอยู่ที่วัดเลยไม่ต้องกลับบ้านอีก แต่เราก็ยังไม่รับปากอยู่ดี
     
  19. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เมื่อคืนนอนเที่ยงคืนกว่าๆ ค่ะ ไปเปิดเจอบันทึกเรื่องที่ตัวเองบันทึกไว้เมื่อวันที่ 1/2/2558 เช้าวันหนึ่งเป็นเวลาใกล้จะตื่นได้ยินเสียงตัวเองพูดว่า "หลวงปู่ถ้วยกับหลวงน้าหลอกลวง" ก็เลยมาค้นหาว่าหลวงปู่ถ้วยกับหลวงน้าคือใคร เพราะไม่เคยได้ยินชื่อ ไม่รู้จักมาก่อนแน่นอน ไปเสิร์ทหาใน google เจอแต่รูปภาพของพระอริยสงฆ์ที่ละสังขารไปแล้ว ก็เปิดดูทีละรูป แต่ไม่เจอหลวงปู่ถ้วย
     
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    แต่ละรูปที่คลิ๊กเข้าไปคือพระอริยสงฆ์ที่ชราภาพมากแล้ว มีทั้งภาพอาพาธ ภาพมรณภาพ ก็คลิ๊กดูไปเรื่อย เกิดธรรมสังเวชขึ้นในใจค่ะ เพราะน้อมเข้ามาดูกายตน ชาติ ชรา มรณะ หากเราแก่มากๆ ขนาดนี้เราจะเป็นอย่างไรนะ หากแก่แล้วป่วยจะเป็นอย่างไรนะ ป่วยแต่ว่ายังไม่ตายคงจะทุกข์มากแน่ๆ เลยนะ เพราะอิริยาบถต่างๆ ก็คงไม่คล่องแคล่วแล้ว ฟันก็หัก หนังก็เหี่ยว ฯลฯ
     

แชร์หน้านี้

Loading...