บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nouk, 19 ตุลาคม 2014.

  1. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ถ้าจำไม่ผิด คืนวันที่ 12 เมษา ฝันว่าตนเองไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ไม่ได้นุ่งผ้า อ้าวแก้ผ้าอีกแล้ว 555 พอดีได้ยินว่าตอนนี้กำลังมีงาน ก็เลยไปหาผ้ามานุ่งห่ม ได้ผ้าสีแดงมาผืนหนึ่ง เป็นผ้าที่มีลวดลายในเนื้อผ้า ก็เอามาพันตัวแล้วสะพายเฉียงพาดบ่าข้างหนึ่ง จากนั้นก็ไปยังสถานที่จัดงาน บริเวณนั้นเหมือนเป็นมณฑปพิธี ทางเข้าเป็นประตูแบบโบราณ คือเปิดประตูจากด้านบนแล้วประตูจะพาดลงมาเป็นสะพาน (สองคืนก่อนหน้านั้น ตัวเองไปสนทนาธรรมเรื่องรูปนาม...ฝันนะ พูดได้เป็นฉากๆ 555)

    รอบๆ มณฑปพิธีนั้นเป็นกำแพงสูง ภายนอกเป็นคูน้ำล้อมรอบและกว้างออกไป พอประตูพาดลงมาก็เป็นสะพานพาดผ่านคูน้ำด้านหน้า ผู้ที่มาร่วมงานจะเดินเข้าทางนี้กัน ภายในมีผู้คนนั่งกันอยู่แออัด เราไปถึงกำลังมีการแสดงธรรม ได้ยินว่าแสดงธรรมปฐมเทศนาของพระพุทธเจ้า มองเข้าไปด้านในมองไม่เห็นเพราะว่าคนร่วมงานเยอะมาก ก็เลยนั่งสมาธิเพื่อกำหนดจิตฟังธรรมที่กลางสะพานนั้น ความรู้สึกบอกว่าเป็นสวรรค์นะ แต่ไม่รู้ว่าเป็นชั้นไหน ไม่กล้าฟันธง 555

    เมื่อวานไปเล่าให้เพื่อนคนหนึ่งฟัง ก็เลยมีนิทานมาฝากกันค่ะ

    ณ แม่น้ำหะละมุลา ดอกปทุมทองผุดโผล่ขึ้น พระศรีอาริย์กำลังแสดงธรรมโปรดท้าวสันตดุสิตกับบริวาร เมื่อพระอนิยตโพธิสัตโตแสดงธรรมเสร็จ จะลงมาอุบัติที่มนุษยโลก แต่ก่อนที่พระอนิยตโพธิสัตโตจะลงมาอุบัติ โลกจะเกิดภัยภิบัติครั้งใหญ่ พระอนิยตฯ จะลงมาช่วยสรรพสัตว์ พร้อมทั้งเหล่าบริวารที่ได้สดับฟังธรรมที่สระหะละมุลา จะลงตามเสด็จท่านด้วย อันนี้เป็นเหตุการณ์ของสวรรค์ชั้นดุสิตตอนนี้

    ตอนนี้มีการแสดงธรรมที่สวรรค์ชั้นยามา นิมมาน กับ ดุสิต

    ...จบนิทานไม่มีชื่อเรื่อง...
     
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    การอยู่ในสังคมโลก หรือสังคมไหน การกระทบกันย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
    ดังนั้น การเฝ้าระวังรักษาจิตจึงเป็นหน้าที่ของเรา ไม่ใช่หน้าที่ของใครที่จะมาเฝ้าระวังรักษาให้เรา
    หากเราดูแลระวังจิตไม่ให้ตกไปในฝ่ายอกุศลจิต ใจเราก็จะเบิกบานแจ่มใสดังเดิม โดยที่การกระทบต่างๆ
    ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลอะไรให้กับเราเลย เพราะเราคือผู้เลือกเสพ ไม่ใช่เป็นผู้ถูกเลือกให้เสพ ความหวังใดๆ
    เจตนาใดๆ ของตน ตัวเจ้าของเท่านั้นแหละที่รู้ดี จะไปโทษว่าผู้อื่นมองไม่เห็นไม่ได้หรอก
    เพราะไม่มีใครเข้ามานั่งอยู่ในใจตนได้

    ผู้ที่มีความสำรวมอินทรีย์ ตา หู จมูก ลิ้น กายใจ จึงไม่หวั่นไหวไปตามสื่อข้อมูลต่างๆ อย่างง่ายๆ
    การกระทบกันจนก่อให้เกิดอกุศลกรรมทางกาย วาจา ใจ ก็คงไม่เกิดขึ้นแก่ตัวเราเอง ความขุ่นข้องหมองใจก็จะไม่มี

    พยายามอย่าตกเป็นทาสอารมณ์ ยอมให้อารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาชักจูงไปให้ก่อกรรม กรรมเล็กกรรมน้อย
    ส่งผลเป็นวิบากกรรมทั้งสิ้น อย่าดูเบากับคำพูดเล็กๆ น้อยๆ ที่สนองอารมณ์ตนเองแต่ไปทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน

    เจริญกุศลจิตให้มากๆ ลดทอนอกุศลจิตให้มากๆ

    เกิดมาแล้วเมื่อตั้งใจทำดี ก็อย่าให้สิ่งที่ไม่ดีมาบั่นทอนตนเอง
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ....ไม่รู้อะไรมันไหลออกมา...

    ไม่มีใครนิพพานทั้งนั้น มีแต่ธาตุนิพพาน หรือนิพพานธาตุ
    อย่าไปยึดมั่นถือมั่นว่าฉันเป็น ฉันคือ
    ถ้ายิ่งเรียนแล้วยิ่งมั่ว ก็ให้หยุดพักการเรียนไว้ก่อน
    บารมี 10 ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมะบารมี ปัญญาบารมี วิริยะบารมี ขันติบารมี สัจจะบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี อุเบกขาบารมี
    ทาน การให้ เป็นการตัดความโลภ
    ศีล เรามีก็ตัดความโกรธ
    เนกขัมมะ เป็นการตัดอารมณ์ของกามคุณ
    ปัญญา ตัดความโง่
    วิริยะ ตัดความขี้เกียจ
    ขันติ ตัดความไม่รู้จักอดทน
    สัจจะ ตัดความไม่จริงใจ มีอารมณ์กลับกลอก
    อธิษฐาน ทรงกำลังไว้ให้สมบูรณ์
    เมตตา สร้างความเยือกเย็นของใจ
    อุเบกขา วางเฉยเข้าไว้ในเรื่องของกายเรา
    ทีนี้ เมื่อยังไม่เข้าใจเรื่องบารมี 10 จึงตู่กันไปเองว่าสิ่งที่ตนคิด สิ่งที่ตนทำนั้นคือบารมี
    ทำมาตั้งนานแล้ว ทำไมบารมียังไม่ครบ ยังไม่เต็มสักที
    เพราะใจไม่เป็นบารมี
    ใจไม่มีที่ตั้ง โอนเอนอ่อนไหวไปตามสิ่งยั่วยุอยู่ตลอดเวลา
    สอนตัวเองให้นิ่งต่อสิ่งเร้ายังไม่ได้
    ย่อมแพ้ภัยมารตลอด
    มารเอารักมาล่อ มารเอาโลภมาล่อ มารเอาโกรธมาล่อ มารเอาหลงมาล่อ
    อิ่มแล้วก็ไม่หิว เป็นธรรมดา
    ผู้ที่ยังไม่อิ่ม มักจะโหยหาเพื่อให้หายจากหิว นี่ก็เป็นธรรมดาอีกเช่นกัน
    บารมี 10 เกื้อกูล ศีล สมาธิ ปัญญา
    กินอย่างหมู อยู่อย่างควาย ตายอย่างหมา สมคุณค่าที่ได้เกิดมาเป็นคน
    เนอะ สุดแต่ใจจะไขว่คว้า
    ผิดตรงไหน
    ไปดูหมาตายกับคนตายซิ
    ต่างกันตรงไหน
    ต่างที่คนตายมีการอาบน้ำศพ แต่หมาไม่มี
    จะว่าไปเดี๋ยวนี้หมาก็มีเมรุแล้วนะ
    เสียตังค์ค่าเผาศพเหมือนคนเลย
    เรื่องตายเป็นเรื่องของสัจจะ
    เกิด แก่ เจ็บ ตาย คือสัจธรรม
    หาสมุนไพรทั่วราชอาณาจักรมากินเพื่อให้มีชีวิตเป็นอมตะ ก็ยังเห็นตายกันอยู่ดี
    ฝึกพลังสารพัดอย่าง เพื่อความเป็นอมตะ ก็ยังตายอยู่ดี
    ดูแลปรนเปรอไม่ให้สังขารร่วงโรยไปตามวัย หน้าเด้งดึ๋งๆ ก็ยังตายอยู่ดี
    สำเร็จอรหันต์ ก็ยังตายอยู่ดี
    มีความตายเป็นลมหายใจเข้าออก
    คนทุกวันนี้ไม่เอาธรรม จะเอาแต่กระดูกของผู้สำเร็จ
    พระอรหันต์ละสังขาร พากันไปหา
    ไปกราบสังขาร ไม่ได้ไปกราบธรรม
    ลืมธรรมที่มีอยู่ ดั้นด้นกันไป ไกลแค่ไหนชั้นก็ไปถึง แต่ไม่ถึงธรรมสักที
    ธรรมอะไรอยู่ในป่า ธรรมอะไรอยู่ในวัด ธรรมอะไรอยู่บนภูเขา ธรรมอะไรอยู่ในถ้ำ
    ก็ธรรมชาติน่ะซิ
    ขนตาอยู่เหนือลูกกะตาฉันใด ธรรมก็อยู่เหนือฟากตายฉันนั้น
    ลืมตาก็มองไม่เห็นขนตา หลับตาก็มองไม่เห็นขนตา ต้องใช้กระจกมาส่องดู
    เวลาส่องกระจก เรามองดูอะไรกัน
    เราเห็นอะไรในกระจก เราเคยพิจารณาอะไรในกระจก
    ข้อยเห็นแต่ขี้ฝุ่นเกาะกระจก 555
    ฝุ่นหนาตึ้บ ไม่เคยเช็ดกระจก
    ใจเป็นกระจกส่องกาย
    กายเป็นกระจกส่องใจ
    กายและใจจึงอิงอาศัยซึ่งกันและกัน
    เหมือนเป็นเพื่อนร่วมทางกัน แค่เพื่อนร่วมทางเท่านั้น ไม่ใช่ผัวเมีย
    แล้วเมื่อวันหนึ่งมาถึง กายและใจก็ต้องโบกมือลากัน
    พอกายเน่า เคลื่อนไหวไม่ได้แล้ว ใจก็บอกว่าลาก่อน ชั้นไม่คบเธออีกต่อไปแล้ว
    เพราะเธอไม่สามารถสนองความต้องการให้ฉันได้อีก
    บ๊ายบาย ทางใครทางมันนะจ๊ะ กายจ๋าาาาาาาาาาาาาา
    ฉันจะไปหาสิงกายใหม่ต่อไป 555
     
  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    พอดีไม่ได้สะกดเหมือนกันค่ะ อ่านแบบผ่านๆ เพิ่งเห็นนะ
    แต่ยังไงก็ยังยืนยันคำเดิมค่ะ ว่าการรู้กายรู้จิตตนถือว่าเยี่ยมแล้วค่ะ:cool:
     
  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ส่วนใหญ่เราดูเจตนาเป็นหลักนะ ไม่ได้ยึดตัวอักษรสักเท่าไหร่เพราะบางทีก็มีการพิมพ์ผิด ตกหล่นกันได้แบบไม่ได้เจตนา
    "สิบเท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง" ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรนะ สบายใจได้ค่ะ คุณห้าศูนย์:cool:

    ผิดก็แก้ไข ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    คุณห้าศูนย์คงประทับใจมากนะคะ
     
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อากาศร้อน...มาเล่นน้ำกันเถอะ:cool:

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2016
  8. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เมื่อเช้าก่อนลืมตาตื่น จิตพูดขึ้นว่า พุทธะรัตนะ ธัมมะรัตนะ สังฆะรัตนะ อ่า....ต้องมีความหมายซิ

    พุทธะรัตนะ ธัมมะรัตนะ สังฆะรัตนะ หมายถึง อานุภาพแห่งพระรัตนตรัย

    ด้วยสภาวจิต สภาวธรรมในปัจจุบันนี้ เกิดดับเร็วมาก จนไม่รู้สึกอะไร เวลาจะพิมพ์เรื่องอะไรขึ้นมาสักเรื่อง พอเห็นเหตุก็พิมพ์ๆ ไม่ทันไรมันดับปุ๊บลงไป ลืมทันที 555

    จึงมีแต่เรื่องราวในอดีตที่เคยบันทึกไว้มาลงให้อ่านกันเล่นๆ ยกเว้นวันไหนที่ธรรมไหลก็ได้อ่านกันยาวๆ

    อานุภาพแห่งพระรัตนตรัย มีแสดงไว้ในบทสวดมงคลจักรวาล

    มงคลจักรวาล น้อมเอาความจริงที่ว่าพระรัตนตรัยมีแต่ในจักรวาลนี้เท่านั้นเป็นสัจกิริยา โดยอ้างเอาอานุภาพของพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ตลอดจนอานุภาพแห่งพระคุณทั้งหลายของพระพุทธองค์ มาขจัดปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัย และอันตรายทั้งหลายทั้งปวงให้ สูญหาย มลายไปสิ้น ในบทสุดท้ายยังได้ตั้งความปรารถนาให้ผู้ฟัง การเจริญมงคลจักรวาลได้ถึงความเป็นผู้มีอายุยืน ตลอดจนขอให้เทวดา ทั้งหลาย ตามรักษา
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เอารูปมาให้ชมกันก่อนนะคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 275_n.jpg
      275_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.7 KB
      เปิดดู:
      69
    • 636_n.jpg
      636_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.7 KB
      เปิดดู:
      68
    • 604_n.jpg
      604_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.6 KB
      เปิดดู:
      91
    • 398_n.jpg
      398_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116.7 KB
      เปิดดู:
      85
    • 502_n.jpg
      502_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.2 KB
      เปิดดู:
      86
  10. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    วันนี้ไปร่วมงานบวชกับเพื่อนแม่ชีที่วัดส้าน อำเภอปัวค่ะ
    เห็นพญานาคสวยดีก็เลยถ่ายภาพมาอวดกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 682_n.jpg
      682_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      96.7 KB
      เปิดดู:
      62
    • 218_n.jpg
      218_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.5 KB
      เปิดดู:
      72
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ปุถุชนคนธรรมดา กิเลสหนา ปัญญาเบา
    จะไปห้ามเขาไม่ให้อิงโลกธรรมเป็นเครื่องอยู่อาศัยคงไม่ได้ แต่เราห้ามใจเราได้

    ในโลกสมมติของคนดี ก็มักจะมีการแข่งดี เพราะยังยึดมั่นถือมั่นสำคัญมั่นหมายในความดีที่โลกสรรเสริญ
    ยังมีตัวมีตนเป็นคนดีอยู่ ริษยาในลาภของผู้อื่นที่ทำดีเกินตน เมื่อคิดไปว่าเขาจะดีกว่าตน

    โลกกว้างเพราะส่งจิตออกนอก โลกแคบก็จะเห็นแต่ตัวเอง ถ้าไม่มีตนเองก็ไม่มีโลกทั้งกว้างและแคบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2016
  12. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    นิทานเรื่องญาณนาคราชผ่านดวงจิตนางอันเป็นที่รัก

    นรา: รักกันๆๆๆๆๆๆๆๆ
    สษี : รักนะตะเอง...คิดถึงที่ซู๊ด...อยู่ที่ไหนคะคุณนรา
    นรา: ตอนนี้อยู่น่านค่ะ คิดถึงคุณสษีมากๆ
    สษี :...555555.....มีอารายหรือเปล่าคะคุณนรา...คิดถึงมากเลยเหรอออออ..อิ..อิ..
    นรา: นั่นๆ ธรรมดานะ คิดถึงคุณสษี เพราะว่ามาทำกุศลก็เลยอยากให้คุณสษีได้มาร่วมทำด้วย
    สษี : สาธุคร๊าาาา.....
    นรา: คุณสษีเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ยินดีด้วยนะคะ สาธุ
    สษี : รู้สึกแปลก ๆ นะคุณนรา เหมือนจะประมาณว่าตอนนี้เราต้องห่างกันไปก่อนแต่อีกไม่นานเราจะได้ร่วมในกิจที่เป็นกุศลค่ะ
    นรา: ไม่ได้คิดอะไรหรอกค่ะ นอกจากคิดถึงเป็นธรรมดา ต่างคนต่างมา ต่างคนต่างไปนะ จะให้มาตัวติดกันคงเป็นไปไม่ได้หรอก
    สษี :คนที่อยู่รอบตัวสษีก็เหมือนหนังสือที่สษีมีหน้าที่ต้องเปิดอ่านในทุกหน้าเพื่อคัดกรอง..บางคนเข้ามาเพื่อชดใช้กรรมที่มีร่วมกัน บางคนเข้ามาเพราะมีกิจที่ต้องทำร่วมกันเมื่อเสร็จกิจนั้นแล้วก็ต้องแยกย้ายกันไป ต้องรับรู้และเห็นในทุกสภาวะอารมณ์ของแต่ละคนค่ะ...บางคนโพสต์ธรรมมีสาระแก่นสารเพื่อบอกกล่าวผู้อื่นแต่ในความเป็นจริงของเขาแล้วมันไม่ใช่เลย สษีพยายามแยกแยะนะคะคุณนราว่าควรจะเดินทางร่วมกันในฐานะมิตรสหายหรือควรแยกจากกันเมื่อสิ้นภาระกิจ แต่กับคุณนราต่อให้ห่างกันแค่ไหน ไม่ได้คุยหรือทักทายกัน แต่ความรู้สึกของสษีไม่เคยเปลี่ยนสักนิด..
    นรา: สาธุ ขึ้นชื่อว่าคนก็มีแต่คนนะ อย่าเสียเวลาไปศึกษาคนอื่นเลย ศึกษากายจิตตนดีกว่า จิตมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง มันลึกลับซับซ้อนเพราะปนเปื้อนด้วยกิเลสตัณหาและอุปาทาน
    สษี :ขอบคุณค่ะสำหรับคำชี้แนะ......สษีจะน้อมนำมาปฏิบัตินะคะ....คำตอบที่คุณนรามีให้สษีเหมือนกับที่ปู่องค์นิลท่านมาประทานให้เลยค่ะ...ท่านให้ละ เลิก วาง ในทุกสิ่งที่มีผลกระทบต่อดวงจิต ให้มุ่งพิจารณาจิตตนเอง เพื่อนำพาให้เข้าถึงธรรมโดยแท้จริง...
    นรา: สาธุ คำสอนของพระพุทธองค์ทั้งหมดก็มาจากกายและจิตค่ะ
    สษี :เมื่อวานนี้มีตัวป่วนมาเล่นด้วยเหรอคะคุณนรา....5555.
    นรา: คำสอนใครก็ไม่เที่ยงแท้และเป็นสัจจะเท่าพระพุทธองค์ เพราะทรงหมดจดจากกิเลสทั้งปวง เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งสาม
    ใช่ค่ะ คุณสษี น่ารักดีนะ เด็กน้อยซนกำลังน่ารัก
    สษี : ....555555....งงเหมือนกันค่ะคุณนราเพราะไม่เคยคิดว่ามีอยู่...แต่พอกลับมาจากทำวาระกิจที่แถบลุ่มน้ำเค็มและได้เอ่ยวาจาขออโหสิกรรม และปลดปล่อยการจองจำกับผู้ที่มีวิบากกรรมร่วมกัน กลับมาถึงบ้านเขาก็เริ่มเข้ามาปรากฎให้รับรู้ถึงการมีอยู่ของเขาค่ะ
    นรา: สาธุ ยินดีด้วยค่ะ นราไม่มีความเป็นพญานาคเลย ไม่อาจรับรู้และสัมผัสได้ อยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบัน บางครั้งก็รู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียว มีใครอยู่ด้วยใกล้ๆ
    สษี : ....5555555....คุณนราน่ะไม่เคยได้อยู่คนเดียวหรอกนะคะ เพียงแต่ว่าเขาจะแสดงให้เห็นหรือรับรู้หรือเปล่าเท่านั้นแหละ
    นรา: เป็นเด็กนะ คุณสษีเห็นหรอ
    สษี : ......555555....ไม่เห็นหรอกค่ะ..แค่รับรู้ได้นิดหน่อยนะคะ..
    นรา: รับรู้อะไรก็บอกกันบ้างซิคะ
    สษี : ....555555555555555555555.....
    นรา: อย่าเอาแต่หัวเราะซิ
    สษี : ...555555....บางสิ่งสามารถรับรู้ได้แต่มิอาจเอ่ยวาจา...
    นรา: มาแนวนี้ทุกที
    สษี : .....55555....ยินดีที่ได้พบพระเทวีผู้ทรงศักดิ์....
    นรา: สาธุการ ท่านคือผู้ใดรึ
    สษี : ความงดงามของท่านมิเคยเลือน...งามทั้งกายแลดวงจิตที่สว่างไสวด้วยพุทธะ...
    นรา: สาธุ
    สษี : เราผู้สถิตย์ ณ นคราแห่งบาดาลนามว่า "อินทรนาคานาคราช"....
    นรา: สาธุยินดีที่ได้พบท่าน ท่านสุขสำราญดีรึ
    สษี : เราย่อมสำราญในทุกหนที่มีนางอันเป็นที่รัก เรามาเพื่อนำพานางให้เข้าถึงการปฏิบัติธรรมบำเพ็ญญาณ..แม้ในความเป็นมนุษย์จะก่อให้เกิดอุปสรรคเพียงใดแต่เราก็มิย่อท้อเพราะธรรมเท่านั้นจะทำให้เราพบความสันติที่แท้จริง
    นรา: สาธุ ขอให้ท่านสำเร็จสมความปรารถนา
    สษี : รัศมีรอบกายท่านช่างงดงามสมศักติแห่งพระเทวีผู้ทรงคุณ...เรายินดีกับการบำเพ็ญของท่านเช่นกัน
    นรา: สาธุ ท่านมีสิ่งใดจะแนะนำเราบ้างหรือไม่
    สษี : ทุกสิ่งที่ท่านปฏิบัติถูกต้องแล้ว งดงามแล้ว ยินดียิ่งนักที่ได้พบ
    นรา: สาธุๆๆ เมื่อวานไม่ทราบว่าเป็นโอรสหรือธิดาของท่านที่มาสนทนากับเรา
    สษี : .....555555555555.....ธิดาน้อยจอมซน
    นรา: น่ารักดีนะ นางมีนามว่าอะไรรึ
    สษี : บางเหตุเรามิอาจห้ามวาระแห่งการพบพานระหว่างแม่แลลูกได้ หากแต่ต้องให้ผู้เป็นแม่รับรู้ด้วยจิตแห่งนางเอง....นามนั้นฤาย่อมเป็นสิ่งที่ผู้เป็นแม่เอ่ยวาจา...ท่านจะได้รับรู้โดยผ่านนาง
    นรา: สาธุ เราจะรอฟังจากนาง

    ..............จบตอน..............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2016
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    " มารดาเจ้าคือผู้ทรงปัญญา
    ไฉนเจ้าลูกยาจึงอ่อนด้อย
    อันกิเลสตัณหาพารอคอย
    อย่ามัวคอยเรียนรู้ใครให้เนิ่นนาน
    กายและจิตของเจ้าได้มาแล้ว
    เหมือนดวงแก้วอัญมณีอันมีค่า
    เรียนรู้ไปให้ถึงซึ่งมรรคา
    สุดปรารถนาสุดใจจึงได้ธรรม
    บารมีสิบหยิบมาดูให้รู้แจ้ง
    สภาวะสำแดงทุกแห่งหน
    จิตเกิดดับกับใจของตัวตน
    แสดงผลทางกายจงใคร่ครวญ
    อารมณ์รัก อารมณ์โลภ โกรธและหลง
    ยังดำรงอยู่หรือไม่ใคร่ครวญถาม
    กับตัวเองหาใช่กับใครพาล
    หลงสังขารเนิ่นนานพาลก่อเวร
    อย่าประมาทขาดสติดำริหลง
    จงปลดปลงเลิกละกับสงสาร
    ใครจะเป็นอย่างไรขอให้วาง
    โลกสงสารเกิดมีที่ตัวตน
    ละตัวตน อัตตา ละทิฏฐิ
    มีสติดำริชอบกอปรเหตุผล
    สัมมาตั้งทั้งแปดบันดาลดล
    เข้ามรรคผลดลจิตนิพพานเอย. "
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ฝนมาแล้วกับเช้านี้ที่ภูเพียง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 341_n.jpg
      341_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.2 KB
      เปิดดู:
      71
    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      96.9 KB
      เปิดดู:
      45
    • 5.jpg
      5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.2 KB
      เปิดดู:
      69
    • 183_n.jpg
      183_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.1 KB
      เปิดดู:
      63
    • 442_n.jpg
      442_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.2 KB
      เปิดดู:
      93
    • 665_n.jpg
      665_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.1 KB
      เปิดดู:
      53
    • 455_n.jpg
      455_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      132.2 KB
      เปิดดู:
      55
    • 374_n.jpg
      374_n.jpg
      ขนาดไฟล์:
      141.4 KB
      เปิดดู:
      83
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.8 KB
      เปิดดู:
      66
  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    สาระหรือไม่สาระอยู่ที่เราพิจารณา
    ไม่จำเป็นที่ผู้อื่นต้องเห็นเหมือนเรา
    มาคนเดียว ไปคนเดียว
    บ้า บอด ใบ้ คือวิชาขั้นสุดยอดที่ครูบาอาจารย์ถ่ายทอดให้
    (เป็นวิชารักษาจิต)
    ที่ไหนมีสรรเสริญ ที่นั่นมีนินทา ที่ไหนมีคำชม ที่นั่นมีคำด่า ที่ไหนมีรัก ที่นั่นมีชังฯ ธรรมดาโลก
    มีกุศลก็มีอกุศล คู่กัน เหมือนฉันและเธอ
    เมื่อใดมีฉัน เมื่อนั้นก็มีเธอ เพราะเราคู่กัน
    เหมือนเนสกาแฟกับคอฟฟี่เมท
    คนหนึ่งมีอัตตา คนหนึ่งก็ต้องเอาอัตตามาวัดกัน ใครจะใหญ่กว่ากันโดยอีโก้
    สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก จึงเป็นดังนี้แล เอวังฯ
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เกิดกับตายเป็นอย่างเดียวกัน ตายเพราะเปลือกมันพัง เกิดก็ได้เปลือกใหม่ จิตดวงเดิม แต่เปลือกเปลี่ยนไปตามการสั่งสมของกุศลและอกุศลของจิต จึงยึดเปลือกว่าเป็นเรา เป็นของเราไม่ได้

    เมื่อพิจารณาเห็นอนิจจัง ก็เห็นทุกขังและเหตุของทุกขังในรูปนาม ล้วนเกิดขึ้นมาจากอุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่น สำคัญมั่นหมายว่าเป็นเรา เป็นของเรา สรรพสิ่งต้องเที่ยง กลายเป็นมานะทิฏฐิ ถือตัวถือตนว่าเป็นนั่นเป็นนี่ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วแค่ธาตุทั้งสี่ที่มาประชุมรวมกันก่อเกิดเป็นรูปร่างกาย พอมีร่างกายก็มีเรื่องราวของกิเลสตัณหาและอุปาทานปรุงแต่งกันไปในโลกของสงสาร วนเวียนอยู่กับอารมณ์พอใจ ไม่พอใจ รัก โลภ โกรธ หลง ริษยาอาฆาตฯ แข่งดีแข่งชั่วไปตามโลกสมมติ ทะยานอยากไปตามความต้องการของใจ สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไร คืนโลกทั้งหมด

    สิ่งที่เหลือคือตะกอนที่ตกค้างในใจนำไปสู่ภพใหม่ภูมิใหม่ซึ่งก็ยังไม่พ้นทุกข์ เวียนว่ายกันต่อไปอีก............
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ท้องฟ้าวันวิสาขบูชา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • วิ1.jpg
      วิ1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.9 KB
      เปิดดู:
      65
    • วิ2.jpg
      วิ2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.4 KB
      เปิดดู:
      67
    • วิ3.jpg
      วิ3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.4 KB
      เปิดดู:
      56
    • วิ4.jpg
      วิ4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61 KB
      เปิดดู:
      62
    • วิ5.jpg
      วิ5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.9 KB
      เปิดดู:
      72
    • วิ6.jpg
      วิ6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.9 KB
      เปิดดู:
      61
  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ธรรมชาติ...ต้นไม้เหี่ยวๆ แห้งๆ มองยังไงก็ยังดูงาม
    แต่คนนี่ซิ เหี่ยวแห้งแล้วดูไม่ได้เลย เนอะๆๆๆ อิอิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • t1.jpg
      t1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.2 KB
      เปิดดู:
      41
    • t2.jpg
      t2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.6 KB
      เปิดดู:
      61
  19. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    นิทานเรื่องคืนวันโกน

    วันที่ 19 พฤษภาคม 2559 ขึ้น 14 ค่ำเดือน 6 หลังจากสวดมนต์ทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว ก็กลับเข้ามาในห้องออนเน็ต ออนเฟส สนทนากับเพื่อน เกิดลมพายุพัดแรงเหมือนฝนจะตก ฟ้าคะนอง เกรงว่าไฟจะดับ จึงปิดเน็ต ปิดคอม เป็นเวลาประมาณสามทุ่มกว่า ปิดไฟแล้วนอนภาวนา

    เสียงฟ้าคำรามน่ากลัวมาก เสียงลมพัดแรงมาก ก็พลิกตัวนอนตะแคงซ้ายแล้วก็พุทโธไป เอาผ้ามาห่ม ขณะที่จิตดำเนินไปก็รู้สึกเจ็บจี๊ดและร้อนผ่าวบริเวณชายผมด้านซ้ายของหน้าผาก สัญชาติญาณบอกว่าตะขาบกัด มือที่อยู่ใต้ผ้าห่มยกขึ้นมาจับบริเวณที่โดนกัดแล้วก็เหวี่ยงผ้าห่มออกไปจากตัว จากนั้นก็ลุกไปเปิดไฟ มองทางด้านซ้ายของที่นอน มีแต่ความว่างเปล่า ไม่เห็นตะขาบ จับผ้าห่มที่โยนออกไปมาสะบัดๆ ก็ไม่มีตะขาบ จึงนั่งพิจารณาไป มือก็คลึงบริเวณที่เจ็บจี๊ดนั้นพร้อมกับสวดองค์เพื่อรักษาแผลโดนกัดนั้น
     
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    สักพักจึงลุกขึ้นจากเสื่อเพื่อจะไปปิดไฟนอนต่อ แค่นั้นเอง เจ้าตะขาบที่มองหาอยู่ มันก็เลื้อยออกมาจากใต้โต๊ะที่วางโน๊ตบุค มันคงกระเด็นไปตามแรงเหวี่ยงผ้าห่มของเรา พอเห็นมันเลื้อยมาก็คิดทันทีว่าจะให้มันออกไปจากห้องได้อย่างไร เพราะประตูวงกบอยู่สูงกว่าพื้นห้อง เรื่องที่ว่ามันเข้ามาทางไหนไม่ต้องไปคิด เพราะที่แน่ๆ คือมันเลื้อยมากัดเราไปแล้ว เร็วเท่าความคิดผ้าห่มในมือก็ใช้สะบัดตัวมันให้ออกห่างจากเรา มันกระเด็นไปประมาณ 1 ฟุตแล้วมันก็เลื้อยปรี่มาหาเราอีก เราก็สะบัดมันออกไปอีก มันก็ไม่ถอยยังคงเลื้อยปรี่มาหาเรา....

    เราจึงหยุดใช้ผ้าห่มสะบัดมัน หยุดยืนดูมัน มันก็ไม่เลื้อยเข้ามาหาอีก...แปลกค่ะ จึงได้เห็นความกลัวของมัน เสียงฟ้าฝนข้างนอกยังคงดังอยู่ เนื้อตัวที่สั่นเทาของมันตอนที่เลื้อยปรี่เข้ามาหาเรา เหมือนเลื้อยเข้ามาและร้องขอความช่วยเหลือ (สงสัยปรุงไปเอง)
     

แชร์หน้านี้

Loading...