บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

จะบอกว่าทุกวันนี้สภาพจิตสงบนิ่งดีมาก หรือเป็นเพราะว่าจิตจดจ่อกับงานปั้นตลอด กลางคืนง่วงแค่ไหนก็ต้องสวดมนต์แผ่เมตตาและบริกรรมต่อไปจนหลับ สภาวะกำหนดง่ายมากขึ้น จะให้หลับหรือให้ตื่น...สั่งได้เลย จิตพัฒนาไปเรื่อยๆ ตามครรลอง

มีความรู้สึกว่าเวลาเหลือน้อยลงไปทุกวัน ได้เห็นความเบื่อหน่ายเป็นระยะๆ มันเกิดดับอยู่นะ ธรรมอันละเอียดลุ่มลึกแต่พูดอธิบายไม่ได้ หาสมมติยังไม่เจอ

ตอนสวดบทจักรพรรดิ์ทีไร พอขึ้นต้น "นะโมพุทธายะ" ปุ๊บ ร้อนปั๊บทันที พวกดวงจิตวิญญาณต่างๆ มารอกันเพียบ ก็สวดไปแบบไม่ได้นับว่ากี่จบ สวดจนจิตนิ่งดีแล้ว ขอรวมบารมีทั้งหมดเพื่อปรับภพภูมิ แล้วสัพเพฯ ออกไป จากนั้นก็หลับ เป็นอย่างนี้ทุกคืน หลับง่าย...ตื่นง่าย

...เล่าสภาวะในอดีตให้อ่านนะ ผ่านไปแล้ว

จิตที่เอาไปผูกไว้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างแน่นหนา เมื่อเวลาจะถอดถอนมันไม่ง่ายเลยนะ สู้กันจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่งเลยแหละ ระดมกำลังทั้งหมดที่มีมาสู้กันทีเดียว ทั้งสติสัมปชัญญะและธรรมคู่ปรับ กำลังของสมถะและวิปัสสนาควบกันไปเลย

มันเห็นทุกข์ ไม่ต้องการทุกข์ แต่มันทุกข์ไปแล้วต้องแก้กัน ทุรนทุรายจะให้หายทุกข์ด้วยตัณหาความทะยานอยาก เหมือนแมงเม่าที่มีสันดานชอบบินเข้ากองไฟ อย่างเดียวกันเลย
เราต้องแก้มันออกไม่งั้นมันจะทุกข์ซ้ำทุกข์ซาก เราไม่เอา เราไม่ต้องการ กิเลสกองหนุนโผล่ออกมาทีละตัวๆ เรียงหน้ากันมาเลย สาวไปเรื่อยๆ เจอต้นตอพอดี เจ้าตัวอัตตานุทิฏฐินี่เอง ตัวก่อเหตุ

เพราะมีเรา มีเขา มีราคะความผูกพันย้อมติดไว้แน่นหนา มันเริ่มจากอนุสัยที่สั่งสมไปในแต่ละวัน เรียงหน้ากันออกมาเลย ตั้งแต่ อัตตานุทิฏฐิ ตัณหา ราคะ นิวรณ์ (ความฟุ้งซ่าน) มโนทุจริต พยาปาทะ ร้อนเหมือนอยู่ในกองไฟ โดนกิเลสเผา มันร้อนจริงๆ จะตายซะให้ได้ สมถะก็เอาไม่อยู่ กดข่มไว้ไม่ได้เลย มันจะพุ่งทะยานอย่างเดียวเจ้าตัวพยาปาทะนี่นะ ก็ดูมัน สาวตามมันไปเรื่อยๆ เจอต้นตอปุ๊บก็ระลึกถึงความจริงของรูปนาม ระลึกถึงมรณานุสสติ สอนจิตไป เมื่อจิตยอมรับความจริงแล้ว แผ่เมตตา แต่เป็นเมตตาที่ปนพยาบาท ไม่คลายร้อนได้

รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการสู้รบกับกิเลสที่เกิดขึ้น ทำไงดี ไม่ถือสาแล้วกัน ให้อภัยทั้งหมด จิตที่แข็งกระด้างเพราะถูกกิเลสครอบงำ ปล่อยหมดเลย กลายเป็นจิตนุ่มขึ้นมาทันทีทันใด ความร้อนที่แผ่ออกมาทางกายหายเป็นปลิดทิ้ง มีแต่ความเยือกเย็นเข้ามาแทนที่ เกิดสภาวะปิติที่ไม่เหมือนกับทุกครั้ง สภาวะเหมือนพลิกฝ่ามือเลยทีเดียว เห็นความดับไปของพยาปาทะ...มันง่ายอย่างนี้เองหรือ ไม่น่าเชื่อว่าแค่อภัยทานก็เอาชนะกิเลสที่เรียงหน้าประดังเข้ามาพร้อมๆ กันในทีเดียวได้อย่างง่ายดาย พิจารณาทบทวนไปมาว่าอะไรทำให้รู้ถึงธรรมคู่ปรับนี้ "ปัญญาเจตสิก" ธรรมนี้โผล่ขึ้นมาในจิต เห็นด้วยจิตว่าเป็นปัญญาเจตสิก

พยาปาทะหรือพยาบาท เป็นหนึ่งในสังโยชน์สิบ กิเลสที่ร้อยรัดสัตว์ไว้ให้ติดอยู่ในวัฏสงสาร เป็นสังโยชน์ที่ 5 ใน 10

สังโยชน์เบื้องต่ำ 5 ประการ ได้แก่
1. สักกายทิฏฐิ
2. วิจิกิจฉา
3. สีลัพพตปรามาส
4. กามฉันทะ
5. พยาบาท
ทั้ง 5 ประการนี้ รวมเรียกว่า โอรัมภาคิยสังโยชน์

สังโยชน์ข้อที่ 1-3 ข้างต้น ละได้ด้วยโสดาปัตติมรรค และเด็ดขาดที่โสดาปัตติผล
สังโยชน์ข้อที่ 4-5 ทำให้เบาบางลงไปด้วยสกิทาคามิมรรค และเด็ดขาดที่สกิทาคามิผล
สังโยชน์ข้อที่ 4-5 ละได้ด้วยอนาคามิมรรค และเด็ดขาดที่อนาคามิผล

 

องค์ที่ 4 ค่ะ เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ ยอมรับว่าองค์นี้ปั้นง่ายมาก ไม่มีอุปสรรค ไม่มีความรู้สึกว่าเบื่อในการปั้นเหมือนองค์ก่อน บ่งบอกถึงบารมีของผู้รับค่ะ

 

สวัสดีค่ะคุณ oldmanthai1948 กระทู้นี้ยินดีต้อนรับค่ะ ปกติคุยคนเดียว ไม่ใช่นักเขียนหรอกค่ะ ก็เขียนๆ ไปตามความรู้สึกและประสบการณ์ของตนเองซะเป็นส่วนใหญ่ เป็นคนธรรมดาๆ นี่แหละค่ะ เรื่องมีองค์นี่ ที่จริงทุกคนล้วนมีองค์รักษากันด้วยกันทั้งนั้นนะคะ ก็ไม่ได้แปลกพิศดารอะไร ผู้ที่มีศีลมีธรรมมุ่งปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น เทวดาท่านก็ติดตามดูแลรักษาและช่วยอำนวยผลเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติธรรมค่ะ

ช่วงนี้เป็นช่วงเห่องานปั้นค่ะ ยังไม่มีเรื่องราวอะไรใหม่ๆ ทุกสิ่งอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย ถ้าคุณ oldmanthai1948 มีเรื่องราวประสบการณ์จะมาเล่าสู่กันฟังบ้างก็ยินดีนะคะ รออ่านเหมือนกันค่ะ

 

ใช่ค่ะมีญาณพระแม่ฯ แต่ไม่ได้เป็นร่างทรง ตอนที่สมัครสมาชิกเวปพลังจิต ใช้อวาตาร์นี้ค่ะ



เป็นความชอบส่วนตัว คือชอบมหายาน และตัวเองมีปณิธานโปรดสัตว์ในอนาคตค่ะ ต่อมาเจอภาพเจ้าแม่กวนอิมภาพนี้ก็ชอบ เลยเปลี่ยนเป็นภาพปัจจุบันค่ะ

ยินดีด้วยนะคะ กับบารมีที่สั่งสมมาในอดีต

 

มีเรื่องราวเซอร์ไพรส์อีกแล้วจ้ะ...

วันนี้
Pen 13:03...เจ้ค่ะ วันอาทิตย์ สัก23.15 ได้สวดมนต์เสร็จเดินเสร็จก็นั่ง สักพักก็เห็นเจ้ใส่ชุดขาวทั้งชุดยืนยิ้มผมยุ่งเหยิงเหมียนเดิม แต่แปลก ตัวเจ้สามารถมองทะลุเห็นของข้างหลังเจ้ได้ทุกอย่าง เจ้มีไรสอนก็สอนตรงๆนะ เค้าไม่ค่อยฉลาดหรอก จะบอกให้ อย่าทำเป็นปริศนาอะไรเอ่ย เขางงงง
Nou 13:06...มองอะไรให้ทะลุซิ
Pen 13:08...มองไงค่ะ เอาธรรมเข้าข่มหรือวางเฉยค่ะ
Nou 13:08...อย่ามองแค่เปลือก นั่นคือคำสอน เอาไปพิจารณาเอง กำลังทำอะไรอยู่ล่ะ
Pen 13:10...อย่าส่งจิตออกนอก ไหมค่ะ แสดงว่าตอนนี้ ฟุ้งมากเลยจิต
Nou 13:10...อย่ามัวแต่มองคนอื่น ให้มองกายมองจิตตน หาเหตุ แก้เหตุ ละเหตุ
Pen 13:12...หาเหต=เหตสามีมีกิ้ก, แก้เหต=เก็บทั้งคู่, ละเหต=จบ ไม่มีเรื่องให้ฟุ้ง 555 ค่ะจะพยายามดูจิตตนให้มาก
Nou 13:13...โยมันทิ้งไปได้แล้วเรื่องสามีอ่ะ ได้มันแล้ว ฟันแล้วทิ้ง 555
Pen 13:14...ยกตัวอย่างเฉยๆ ว่าแต่ เจ้มามีไรไหมค่ะ หรือแค่สอนเฉยๆ
Nou 13:15...อืม มัวแต่สวดมนต์นั่งหลับตาแต่เข้าไม่ถึงธรรมภายใน แตะอยู่แต่เปลือก
Pen 13:15...ควรทำไงค่ะ
Nou 13:16...ยกจิตขึ้นจากสมถะสมาธิ แล้วเดินปัญญา พิจารณาให้เห็นไตรลัษณ์ของสรรพสิ่ง
Pen 13:17...ขอบคุณค่ะ ว่าแต่เพชรเขาคงไม่ให้ตุ๊กแล้ว เงียบเลยไม่ติดต่อมาเลย ว่าจะดูสีเพชรให้เจ้ช่วยบอกถึงเจ้าของสี อดเลย
Nou 13:19...ยินดีจ้ะ อย่าติดสมาธิ ไม่เอาแล้วเพชร
Pen 13:20...ไม่มีให้แย้ว เขาไม่ติดต่อมา ดูจิ วาสนาไม่มี 555
Nou 13:20...55555555

.......จบบทสนทนา.......

 

ยามฟ้าสางอรุโณทัยเสียงไก่ขัน
หมู่นกพลันออกจากรังหวังวันใหม่
รุ่งอรุณเบิกฟ้ามาแต่ไกล
ด้วยดวงใจสายใยสายสัมพันธ์
เมื่อชีพเริ่มดำเนินไปตามความชอบ
เมื่อจิตกอปรคุณงามตามฝั่งฝัน
สุริโยหมุนเวียนเปลี่ยนคืนวัน
ลุฉับพลันวันสิ้นโลกหายโศกครวญ

 

แผ่พลังจนแทบมองไม่เห็นองค์
เพิ่งสังเกตว่าท่านขดลำตัวเป็นรูปโอม
ก็เลยจะถ่ายรูปโอม พอเอากล้องจับภาพ ก็มีกระแสขาวๆ คลุมองค์
ภาพที่สองลองขยับองค์แล้วถ่ายใหม่ ก็ยังมีกระแสที่เป็นเหมือนควันขาวๆ คลุมองค์ นี่ยังปั้นไม่เสร็จนะ กำลังปั้นเกล็ด

ปล. เป็นความเชื่อส่วนบุคคล

 

มีงานเข้า...


Nou 15/6/2016 14:43....เจ้ค่ะ วันอาทิตย์สัก23.15 ได้สวดมนต์เสร็จเดินเสร็จก็นั่ง สักพักก็เหนเจ้ใส่ชุดขาวทั้งชุดยืนยิ้มผมยุ่งเหยิงเหมียรเดิม แต่แปลก ตัวเจ้สามารถมองทะลุเห็นของข้างหลังเจ้ได้ทุกอย่าง เจ้มีไรสอนก็สอนตรงๆนะ เค้าไม่ค่อยฉลาดหรอก จะบอกให้ อย่าทำเป็นปริศนาอะไรเอ่ย เขางงงง
ปาง 15/6/2016 14:44...ข่่อยงงคือกัน
Nou15/6/2016 14:44...เพิ่นมีฌานนาคี แล้วเพิ่นมาเห็นข้อยได้ไง งงคือกัน 555
ปาง 15/6/2016 14:51...เจ้าคือบ่บอกว่าเจ้าเป็นแม่เพิ่น55555
Nou15/6/2016 14:51...มังกรทองทำไมชื่ออัศวเทพนาคินทร์ เล่ามาแมะ
ปาง 15/6/2016 14:53...ก็มังกรคือนาคสวรรค์คือปู่ผาสุข ข้อยสิปั้นไปไว้ที่บ้าน ข้อยพยายามหาคนปั้นมาปีกว่าแล้ว
Nou15/6/2016 14:54...องค์ใหญ่บ่ ป๊าดดดด หาคนปั้น
ปาง 15/6/2016 14:54...บ่เอาเท่านาคที่เจ้ปั้นนั่นล่ะ จริงๆ
Nou15/6/2016 14:54...แล้วรู้ได้ไงว่าข้อยปั้นได้
ปาง 15/6/2016 14:55...ก็เจ้าปั้นตัวเองเนาะ ก็ปั้นได้สิ
Nou15/6/2016 14:55...พุ้นน่ะ เป็นหลายอย่างแท้ข้อย
ปาง 15/6/2016 14:55...เป็นทุกอย่างในชีวิตข้อยแมะ พันกันยุ
Nou15/6/2016 14:56...ข้อยว่าจะปั้นพญานาคคาบดอกบัวให้อยู่ เปลี่ยนซะแระ
ปาง 15/6/2016 14:57...พญานาคที่มีดอกบัวบานที่ตาที่ 3 กลางหน้าผากคือข้อย ข้อยแค่คิดว่านะ
Nou15/6/2016 14:57...เอ๋ากะคือเจ้า เพิ่งฮู้ติ
ปาง 15/6/2016 14:57...อุปทานหรือปรุงกะว่าไป อ้าวจิงดิ
Nou15/6/2016 14:58...ป๊าดดดดโธ่
ปาง 15/6/2016 14:58...ห๊ะ ข้อยแค่สงสัยบ่กล้าฟังธงแมะ เพราะข้อยเห็นอดีตผู้อื่นได้ ข้อยบ่กล้าว่าเป็นตัวเอง แต่ถ้าข้อยปั้นมังกรผาสุขไปไว้ที่บ้านๆข้อยจะสงบสุขขึ้น ข้อยรู้แค่นั้น ข้อยตามหาคนปั้นมาเป็นปีแล้ว คิดว่าพี่M กะบ่แม่น
ปาง 15/6/2016 15:00...สิวาดภาพเพิ่นกะบ่ให้วาดสิให้ปั้น สิซื้อองค์มาวางเพิ่นกะบ่เอา
Nou15/6/2016 15:01...บ่เคยเห็นข้อยอยู่ในสายตา
ปาง 15/6/2016 15:01...เอ๋าข้อยบ่รู้เนาะว่าเป็นเจ้555 ไปก่อนเด้อ
Nou15/6/2016 15:01...เอ๋า
...........จบ............

งานต่อไป...ปั้นมังกรทองค่ะ

 

อีกหนึ่งความภาคภูมิใจค่ะ

 

เรื่องจริงไม่ใช่ความฝันค่ะ

มีผู้มาเซ่นให้ปั้นมังกรทองด้วยอัญมณีศรีปางตาล

"นี่ของเจ้ อัญมณีศรีปางตาลพ่ะนะ 12เม็ดนะ ข้อยมีมากกว่านั้นแต่เพิ่นให้ข้อยเอาให้เจ้12อัน มาจากจันทบุรี มีเด็กสาวหน้าแขกให้ข้อยบูชามา / ข้อยบ่รู้ข้อยได้ยิน พุ้นน่ะ พ่อปู่ภุชงค์ ไผสิพูดถึงศรีปางตาลเนาะเจ้า"

 

ศ. 19:20
ขึ้นโครงแล้ว ทำไมไม่ให้แอนปั้นให้
โครงไผของแอนติ
บ่ ของหน่อย บักกีเกี้ยม มังกรเนี่ย ที่จริงเลยข้อยจะปั้นเก็บไว้เอง นี่คือความตั้งใจว่าหลังจบการปั้นพญานาคแล้ว ข้อยจึงจะปั้นมังกร
ผิดแผนติ
แมนนนนนนนนนน ข้อยบ่มีความคิดที่จะปั้นให้ไผ ข้อยจะปั้นองค์อมิตดาทรงมังกรขาว
ปั้นให้เจ้หน่อยไปเถาะ
หน่อยขอร้อง ข้อยกะจะปั้นให้หน่อยแค่ผู้เดียว
พุ่นหน่ะ
ผู้ใดบ่มีศรัทธา ข้อยกะบ่ปั้นให้ ผู้ใดบ่มีความเกี่ยวข้อง ข้อยกะบ่ปั้นให้ การปั้นของข้อยๆ ทุ่มเทเด้อ บ่แม่นมานั่งปั้นขาย ข้อยฮักข้อยจึงปั้น ผู้ที่บ่ฮู้จักองค์กฤษณาฯ บ่ฮู้จักองค์อัศวเทพนาคินทร์ฯ จะเอาไปเฮ็ดหยัง เอาไปกะบ่ได้มีใจฮักหรือมีใจศรัทธา เฮ็ดให้ไปก็ไปเป็นกรรมกับเพิ่นอีก
กะแมน
เข้าใจบ่ เห็นแค่เป็นของสวยๆ งามๆ ประดับตกแต่งบ้านซื่อๆ

 

เม้าท์แอนด์เม้นท์จากเฟสบุค

ปาง.....ปั้นมังกร (อัศวเทพนาคินทร์ชัยบดินทร์ฤทธิรณ) ให้ข่อยเด้อ เพิ่มขาอีก 4 ขา ลดราคาด้วยสิบ่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิกิ— รู้สึกอ้อนวอน



Nou....55555555 ห้าพัน งามเนาะ
ปาง.... หูยยยยยยยยยยยยย ปั้นนาค 500 มังกรเพิ่มขามาสี่ขา กะ 1000 เดียวกะพอเถาะลูกข่อยสิกินน้ำต้มเข่าเด้
Nou......เอ๋างานปั้นฝีมือขั้นเทพแมะ 555555 มังกรเอาเกล็ดนำบ่ ถ้าบ่เอาลดราคาให้ 555
เพิร์ล.....มีขาด้วย
Tep.....ชอบมังกร
คนธรรมดา...สวยจังมังกรทอง
ยุทธ์......สี งามมมม
ปาง......แม๊น งามขนาดสีทองผ่องอำไพ
Ban...แสงสีทองผ่องอำไพ ดูสดใสยามรุ่งเช้า นั่นคือแสงจากตัวเรา ส่องนำเจ้าถึงนิพพาน
ปาง..... สาธุการค่ะ
Ban.....สิ่งหวังสมปราถนา ถึงเวลาต้องหลุุดพ้น ขอเพียงความอดทน เจ้าจะพ้นไม่ช้านาน สาธุการดวงตาเห็นธรรมนำพวกพ้องสู่พระสัมมา
Rath....สวยมาก ถ้าพี่นางฟ้าปั้น นะ ขอซื้อเลย ตน นี้
Nou.....เสียใจเด้อ บ่ขายให้ไผ
Rath.....จะอาว ๆ
Nou......เป็นญาติกับองค์อัศวเทพนาคินทร์ชัยบดินทร์ฤทธิรณบ่
Rath.....ไม่รู้คับ ทำไมหรอครับ ขนลุกเลย

เขียนข้อความตอบกลับ...

Ban....แล้ว มณฑาเทพแก้วเนตรนพรัตน์ล่ะคือใครอะ
Nou.....ไม่รู้ค่ะ ต้องถามหน่อย เป็นหน่อยแน่ๆ เลย ชิมิ
Ban.....อิอิไม่รู้เหมือนกันค่ะ
Nou......แล้วไปเอานามนี้มาจากไหนคะ
ปาง.......ชื่อข้อยบ่
Nou......ป๊าดดดด ข้อยกะว่าซั่น 555 เล่าเรื่องราวมาแมะ ข้อยจะเอาไปลงกระทู้ 555
Ban.....ได้ยินมามะคืนค่ะ ตอนที่อ่านโพสต์คุณปางอ้อนวอนพี่Nou มองไปที่ตาขององค์อัศวเทพนาคินทร์ชัยบดินทร์ฤทธิรณ เห็นหญิงงามท่านหนึ่งผิวขาวดั่งแสงสว่างจากหลอดไฟนีออน ไม่ใส่เสื้อสวมเพียง....เขาเรียกอะไรเนี่ยสีทองปิดหน้าอกยาวลงมาถึงสะดือ อีกครึ่งจากเอวลงมามีลำตัวยาว มีขาสองข้างเหมือนมังกร แต่เป็นสีขาวแล้วก็ได้ยินชื่อนี้แหละค่ะ มณฑาเทพแก้วเนตรนพรัตน์นี่คือที่มาของชื่ิอนี้ค่ะ รู้แล้วเล่าให้ฟังด้วยนะคะ ตอนที่ได้ยินกะว่าต้องเป็นอาหน่อยคือจ้า
Nou......องค์อัศวเทพฯ ทรงมีฤทธิ์มาก แปลงเป็นอะไรก็ได้

 

ถาม-ตอบ ณ ลานธรรมฯ ของเช้าวันนี้ (18/6/58)

ถาม-ท่านรู้สึกเหมือนผมมัยว่าเราจ้องอะไรอยู่ตลอดเวลา มีมัยที่ที่ไม่มีรูปนามเล็กกว้างแคบไม่สวยไม่งามไม่มีทุกขไม่มีสุขไม่มีอะไรแล้วไม่มีอะไรเลย
ตอบ-สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งใดสิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา มีเพียงเกิดกับดับ ถ้าเห็นความจริงในข้อนี้แล้ว ย่อมไม่สงสัยในทุกสิ่งที่มีเกิดมีดับ
ถาม-คนตายมีปัญญามัยครับ
ตอบ-ตอนเป็นๆ ยังไม่มีปัญญาเลย แล้วตอนตายจะเอาปัญญามาจากไหน
ถาม-5555ถามตามปะสาคนโง่นะครับอย่าถือสาอิออิ
ตอบ-เราก็ตอบแบบโง่ๆ เหมือนกัน อย่าถือสา
ถาม-เข้าเรื่องนะครับถามเอาจริงช่วยวิเคราะที
ตอบ-เราได้เห็นความทะยานอยากที่ต้องการความพ้นออกจากทุกข์เพื่อแล่นไปหาสุข ตั้งแต่ถือกำเนิดไปจนเติบโตและแก่ชรา เพราะโลกนี้มีแต่ทุกข์ มีเพียงทุกข์เท่านั้น หามีสุขที่แท้จริงไม่ เมื่อมีความทะยานอยากเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว วงล้อแห่งกรรมจึงหมุนวนไปอย่างไม่จบไม่สิ้น จวบจนหมดอายุขัยของอัตภาพแห่งความเป็นคน
ถาม-ที่ว่าท่านสิ้นอาสวะแล้วทำมัยยังต้องกำจัดออกอยู่เรื่อยวิเคราะห์ที
ตอบ-หากเธอยืนอยู่เฉยๆ เธอคิดว่าฝุ่นละอองจะลอยมาเกาะร่างกายเธอได้หรือไม่ ทำไมเธอต้องอาบน้ำทุกวัน
ถาม-แสดงว่ากิเลสมีมาเรื่อยแต่ไม่ไปเกาะเกี่ยวกับท่าน ร่างกายชำระล้าง ด้วยน้ำ แล้ว อาสวะกิเลส ที่จรมา โปรย มา ทับถมใจไว้ จะ ชำระด้วยอะไร
ตอบ-ศีล สมาธิ ปัญญา
ถาม-ชำระ โดย ศีล คือ?
ตอบ-ศีลเป็นเครื่องป้องกันกิเลสหยาบ สมาธิสร้างสติและเป็นฐานให้จิตเดินไปสู่ปัญญา ปัญญาเป็นเครื่องขจัดกิเลส สามสิ่งนี้จึงต้องมี ต้องใช้ เพราะล้วนเป็นปัจจัยของกันและกัน

 

คนไม่ถึงธรรม ธรรมก็ไม่ถึงคน เรียนรู้ธรรมแต่ไม่ได้ธรรม เพราะกำแพงโมหะ-อวิชชามันปิดกั้นไว้ ธรรมไม่เข้าไปสู่ใจคน ใจถูกกั้นไว้ด้วยขันธ์ห้า ความรู้ใดๆ จึงเป็นได้แค่เพียงสัญญาความทรงจำ แล้วต่างก็ไปทึกทักกันว่าที่รู้อยู่นั้นคือธรรม จะให้ธรรมไหลเข้าไปสู่ใจ หรือให้ใจรับธรรมได้ จึงต้องมีการฝึกฝน มีการขัดเกลา มีการสละละออก มีการเพาะบ่มปัญญาอันเป็นธรรมคู่ปรับของโมหะ-อวิชชา

 

เอามาอวดอีกแล้วค่ะ ยังปั้นไม่เสร็จนะ แต่ภูมิใจที่เหมือนแระ อิอิ

 

...เม้าท์เพื่อนนะ...

วันนี้ช่วงบ่ายๆ ขณะที่กำลังขยำกาวเพื่อทำวัสดุปั้นอยู่ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น จำเป็นต้องละมือจากงานปั้นแล้วไปรับโทรศัพท์ มือซ้ายก็ยังเลอะกาวเหนียวเหนอะหนะ
"ฮัลโหล ว่าไงเพื่อน"
"ทำอะไรอยู่หรือเปล่า ชั้นขอคุยได้มั้ย"
"กำลังปั้นมังกร"
"อ๋อ พญานาคเรียกเป็นมังกรเหรอ"
"ไม่ใช่กำลังปั้นมังกร พญานาคปั้นเสร็จไปแล้ว"
"เพื่อน อีกแล้วอ่ะ ช่วยพูดเป็นกำลังใจให้ชั้นหน่อยซิ ตอนนี้ชั้นจิตตกมากเลย"
"เรื่องเดิมๆ อีกแระ เมื่อไหร่จะเลิกคิดซะที"
"ชั้นทำใจไม่ได้อ่ะ พอเผลอมันก็คิด" แล้วเธอก็บรรยาย.........................
"ใจมันไม่ดีก็ทิ้งไปซิ จะเก็บไว้ทำไม ใจมันไม่เชื่อฟังใช่มั้ย ใช้ไม่ได้ก็ทิ้งไป"
"ชั้นรู้แต่ชั้นก็ยังทำใจไม่ได้ มันอดคิดไม่ได้"
"นั่นเห็นมั้ย ก็ไม่อยู่กับปัจจุบัน ส่งจิตออกนอกไปในอดีต ไปในอนาคต ซึ่งเป็นอนัตตา รู้ทุกอย่างแต่แก้ทุกข์ไม่ได้ เพราะอะไร เพราะไม่มีสติ ฝึกแต่สมาธิ สมาธิก็ได้แค่กดข่มเอาไว้ พอออกจากสมาธิก็๋เป็นเหมือนเดิม"
"ใช่เพื่อน ชั้นต้องทำยังไง"
"เค้าไม่ดีแล้วก็ทิ้งไปซิ ของไม่ดี ทิ้งไป คุณแม่จันดี โลหิตดี ท่านบอกไว้ ของไม่ดีให้ทิ้งไป ไม่ต้องเสียดาย แล้วเธอจะเก็บเอาไว้ทำไม"
"ชั้นรู้แต่เผลอทีไรก็คิดทุกที"
"เหมือนแมลงวันหัวเขียวที่ชอบตอมขี้เลย รู้ว่าขี้เหม็นแต่ก็ยังไปตอม เธอเป็นแมลงวันหัวเขียวเหรอ เมื่อไหร่เธอจะเลิกคิดเรื่องนี้ซะทีนะ เธอขาดอะไร ทุกวันนี้เธอออกจะสุขสบาย หน้าที่การงานก็ดี มีชื่อเสียง มีเกียรติ มีเงิน มีบ้านอยู่ มีข้าวกิน อยากจะได้อะไรก็ได้ อยากทำบุญทำกุศลที่ไหนก็ได้ทำ อยากจะไปเที่ยวต่างประเทศก็ไป เธอยังต้องการอะไรอีก ไอ้นั่นน่ะมันทุกข์ เธอจะไปเอามันทำไม ทิ้งไป สิ่งที่เธอคิดอ่ะมันเป็นอกุศล ทำไมไม่คิดถึงกุศล ทำไมไม่นึกคิดถึงบุญที่เธอทำมา เธอเป็นคนมีบุญนะ นึกให้ดีๆ เธอทำบุญมาตั้งแต่เด็ก ชั้นยังจำได้เลยที่เธอพาพวกเราไปทำเม็ดขนุนเลี้ยงพระที่วัดกัน ลำพังชั้นคงไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนั้นถ้าไม่มีเธอชวนและชักนำไป เธอไม่ใช่เพิ่งมาทำบุญตอนนี้ เธอเป็นนางฟ้า แต่พวกเค้าอ่ะตกนรก ปีนต้นงิ้วเพราะทำผิดศีล แล้วเธอจะไปลงนรกกับพวกเค้าทำไม นึกคิดในสิ่งที่ทำให้ใจแจ่มใสเบิกบานซิ ไปนึกคิดในสิ่งที่ทำให้ใจเศร้าหมองทำไม"
"จริงด้วย ชั้นน่าจะนึกถึงแต่บุญ"
"ใช่ บุญที่ทำไว้ดีแล้วนึกเข้าไปซิ ถ้าเธอตายตอนที่จิตตกตอนนี้เธอจะไปที่ไหน คิดดู จะไปลงนรกรึ อยู่บนสวรรค์ของเธอไป ไม่ต้องไปสนใจพวกเค้า ปิดรับข่าวสารของพวกเค้าไปเลย"
"ขอบใจมากเพื่อนที่ช่วยเตือนสติ ชั้นจะระลึกถึงแต่บุญ เอาไว้เรานัดกินข้าวกันนะ"
"ได้ ไม่มีปัญหา เดือนหน้าแล้วกันนะ"
"จ้ะเพื่อน ขอบใจมากๆ เลย"

...วางสาย...เป็นปัญหาเรื้อรังมาเป็นปี สามีไปมีเมียน้อยค่ะ แยกบ้านกันอยู่ เพื่อนอยู่กับลูกชาย ส่วนสามีไปพักอยู่ที่บริษัทของตัวเอง

ปล. เป็นที่ปรึกษาปัญหาครอบครัวไปซะแล้ว

 

มาอัพความคืบหน้างานปั้นมังกรทอง คริคริ
สีทองเพี้ยนเนื่องจากแสงไฟที่บ้านนะ

 

วันนี้น้องเล่าถึงเหตุของการขอให้ปั้นมังกรทอง นำมาให้อ่านกันเล่นๆ นะคะ
(ขออนุญาตนำมาลงกระทู้)

เหตุที่ขอให้ปั้นมังกรทอง

จากฝันของพี่สะใภ้ เธอเล่าว่าฝันถึงอา(คนอีสานจะเรียกน้องสาวสามีว่าอา) เห็นอาหน่อยยืนพูดภาษานาคอยู่หน้าบ้าน(ที่ขอนแก่น) จากนั้นมี วิญญาณสัตว์จำนวนมากลอยขึ้นไปบนฟ้า จากนั้นมีมังกรทองปรากฏกายขึ้น มาถามอาหน่อยว่า ผ้าสีขาวที่ให้ไว้ยังอยู่ไหม อาหน่อยวิ่งไปเอาผ้าขาวผืนนั้นมาให้มังกรทองดูแล้วพูดว่านี่ไงยังเก็บไว้อย่างดี มังกรทองบอกว่าให้หาป้ายมาปักไว้หน้าบ้านว่าผาสุข

หลังจากนั้น ก็สงสัยเรื่องนาคกับมังกรมาตลอดนึกอยากจะจ้างคนปั้นพญานาคไว้หน้าบ้านแล้วจะเอาป้ายมาติดว่าผาสุข (ที่รู้จากการสื่อสารนั้นรู้ว่าเป็นพ่อลูกจากอดีตชาติ)

จนแล้วจนรอดก็มีเหตุให้ไม่ปั้น เมื่อปีใหม่จึงตั้งใจจะซื้อรูปปั้นเชิญญาณสถิต แต่ก็มีเหตุให้พื้นที่ตรงนั้นยังไม่ว่าง เลยอธิษฐานไปว่าหากจะให้ปั้นองค์ให้หาคนปั้นมาให้นะคะ เพราะลูกจะไม่ดิ้นรนทำในสิ่งที่ไม่ใช่ บางครั้งมนุษย์ก็ไม่เข้าใจโลกทิพย์ จะรอหากถึงเวลาก็มีเหตุให้ได้ทำเอง (ผ่านมาปีกว่า)

แต่วันที่ได้ปั้นวันนี้ เห็นนิมิตของพญานาคลอยอยู่ในแม่น้ำโขง ตัวใหญ่มหึมานาคนั่นลอยตัวขึ้นเหนือผิวน้ำ ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับกลางหน้าผากมีแสงสว่างสีเหลืองสาดออกมาพิจารณาว่าเป็นดวงตาที่สาม จากนั้นเห็น ส่วนขา(อ้าวไม่ใช่นาคแต่เป็นมังกร) และดวงตาที่สามมีดอกบัวสีครีมผุดขึ้นมาแล้วบานออก มีผู้หญิงใส่ชุดขาวเหมือนพระแม่กวนอิมยืนอยู่กลางดอกบัว

...........ไม่ต้องเม้นท์นะคะแค่อยากเล่าให้ฟังสิ่งใดทำแล้วไม่ทำร้ายผู้อื่นไม่ได้ทำให้ตนแย่ลงก็จะทำ เชื่อเสมอค่ะว่าครูบาอาจารย์ ท่านเมตตาแต่สิ่งดีดีเสมอ........................


ปล...น้องเค้าก็แค่ต้องการทำความฝันให้เป็นจริงเท่านั้นเองค่ะ ก็เป็นเรื่องราวที่แปลกดี

 

จัดส่งองค์พญานาคไปถึงมือผู้รับแล้วค่ะ
ผู้รับนำไปบูชาและส่งภาพมาให้ดู เห็นแล้วปลื้มมมมม ก็เลยอดที่จะนำมาให้ชมกันไม่ได้

 

เสร็จแต่ไม่สมบูรณ์ค่ะ รอลูกแก้วสีน้ำเงิน ตอนนี้ยังตกค้างอยู่ที่ไปรษณีย์....เซงรุย