บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

เรื่องนี้ยังไม่เล่าค่ะ นำภาพมาให้ชมกัน ผลงานเมื่อปีที่แล้ว

 

บันไดออกแบบสวยดี อยากสนทนาด้วยจัง

 

วานอธิบายรายละเอียดให้สักสามข้อ
1.พึงเจริญ อสุภภาวนา เพื่อ ละราคะ
2. พึงเจริญ เมตตา เพื่อ ละพยาบาท
3. พึงเจริญ อานาปนสติ เพื่อ....
รอคำตอบอยู่นะ...

 

สวัสดีค่ะคุณธีรชัช ยินดีที่ได้รู้จัก ปกติไม่ค่อยได้คุยมีแต่โพสต์อย่างเดียวค่ะ ในเรื่องที่คุณสนใจมีให้อ่านอยู่หลายที่นะคะ ทั้งในเวปพลังจิตนี้ และธรรมเทศนาจากพระอริยเจ้าทางยูทูป และเวปวัดต่างๆ

ขอตอบแบบย่อๆ แล้วกันนะ พูดไม่ค่อยเก่งค่ะ ที่ผ่านมาเวิ่นเว้อ ฟุ้งไปเยอะแล้ว

1. พึงเจริญอสุภะเพื่อละราคะ ก่อนอื่นต้องรู้จักราคะก่อนค่ะ ราคะเกิดจากตัณหา ความทะยานอยากที่ผูกย้อมจิตไว้ให้มีความใคร่อยากได้เสพ(ย่อๆ) เมื่อเสพแล้วก็ติดอกติดใจ อยากเสพมากๆ บ่อยๆ (มีโลภะร่วม)

อสุภนิมิต เห็นว่ารูปกายนี้ไม่สวยไม่งาม ด้วยการแยกพิจารณาองค์ประกอบของกายแต่ละส่วนเป็นปฏิกูล ตั้งแต่ เส้นผม ขน เล็บ ฟัน หนัง น่ารังเกียจ ต้องชำระล้างให้สะอาดอยู่ทุกวัน ไม่มีส่วนใดเลยที่ไม่ต้องชำระล้าง มองลึกเข้าไปกลับด้านในออกมาไว้ด้านนอก ก็จะเป็นอวัยวะใหญ่น้อย มีน้ำเลือด น้ำหนอง น้ำเมือก เป็นต้น เคลือบฉาบไว้

แยกออกไปเป็นกายคตานุสสติก็ได้ จตุววัฏฐานก็ได้ (มหาภูตรูป 4)

2. พึงเจริญเมตตาเพื่อละพยาบาท
ความเมตตานี้ เป็นกระแสเย็น
ส่วนพยาบาท อาฆาต จองเวร เป็นกระแสร้อน
เมตตาเป็นธรรมคู่ปรับของพยาบาทค่ะ

3. พึงเจริญอานาปานสติ อานาปานสติเป็นยอดของกรรมฐาน กรรมฐาน 40 กอง มีครบในอานาปานสติ เป้าหมายการเจริญอานาปานสติเพื่อสร้างสมาธิให้เกิดแก่จิต จิตเมื้อเป็นสมาธิจะเกิดสติและปัญญา เจริญมากเข้าๆ เป็นฌานตามลำดับ จนถึงสัมมาสมาธิ สัมมาสติ เป็นองค์มรรคในมรรคแปดค่ะ

ทั้งอสุภภาวนา เมตตาภาวนา อานาปานสติภาวนา ก็คือการพิจารณาเห็นกายในลักษณะต่างๆ ตามความเป็นจริง เป็นได้ทั้งสมถะและวิปัสสนาค่ะ

หวังว่าจะพอมีประโยชน์บ้างนะคะ

ขอให้เจริญในธรรมค่ะ

 

น่าน อากาศเป็นไงบ้างนะ...เคยได้ยินว่า มีโบสถ์ มีภาพวาด กระซิบรักบันลือโลก...แสดงว่า ผู้คนที่นั่น ใจดี..,

 

น่าน อากาศดีค่ะ เป็นเมืองเล็กๆ สงบร่มเย็น เต็มไปด้วยวิถีทางธรรมชาติ ผู้คนที่รู้จักก็เป็นคนดีมีน้ำใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันดีค่ะ

ของดีเมืองน่านมีหลายอย่างนะ เป็นที่เลื่องลืออยู่แล้วตามสื่อต่างๆ ภาพวาดบอกเล่าเรื่องราววัฒนธรรมประเพณีในอดีตค่ะ

 

นำภาพการดำเนินงานก่อสร้างบันไดหน้าพระอุโบสถ วัดภูเพียง จังหวัดน่าน มาให้ชมค่ะ

เป็นงานที่เคยดำริไว้กับญาติโยมที่มาร่วมปฏิบัติธรรมและช่าง รู้สึกอิ่มเอิบใจที่ได้เห็นการพัฒนาของพุทธศาสนสถานอีกแห่งหนึ่ง

ส่วนปรับปรุงงานปูกระเบื้องด้านหน้าพระอุโบสถ เดิมพื้นเป็นคอนกรีต

 

ชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่จะเหมือนกันได้เมื่อเป็นความชอบในทางสัมมา

ชอบโดยกิเลสหรือชอบโดยมรรค สิ่งนี้ต้องพิจารณากันเอง

มรรคปฏิปทา คือ กาย เวทนา จิต ธรรม

มรรคจิต คือ ศีล สมาธิ ปัญญา สัมปยุตต์เข้ากับจิต

ขี้เถ้าในกองไฟ ยังไงก็ยังร้อนและคุขึ้นเป็นไฟได้อีก ต้องดับที่เชื้อ จึงไม่ต้องวนเวียนกับเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
✴✴✴✴✴✴✴✴✴✴✴✴✴✴✴✴

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ

หากข้าพระพุทธเจ้าได้ประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์
พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี

ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท้าเข้าสู่นิพพานด้วยเทอญ

 

น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง รอให้น้ำหายเชี่ยวก่อนแล้วค่อยพายเรือต่อไป

เคยเอาเรือไปขวางน้ำเชี่ยวบ่อยๆ เรือก็คว่ำบ่อยๆ จนเกิดความเชี่ยวชาญในเหตุเรือคว่ำ เกิดความเชี่ยวชาญในโทษ เรียกว่ามีประสบการณ์ในความล้มเหลว

ความเข็ดในโทษนั้นๆ ประทับลงไปที่จิต ที่ใจ ปัญญาเกิดเมื่อทิฏฐิการเอาชนะลดลง

รอเป็น...เย็นได้

นิพพานัง ปัจจโย โหตุ

ปล. ภาพพระพุทธรูปที่กำลังปั้นค่ะ

 

ลูกแก้วนาคา ขนาด 11 เซน
สีม่วงเข้ม กับสีเหลืองอำพัน
สำหรับประดับสร้อยสังวาลย์องค์พญานาคที่ราวบันได หน้าพระอุโบสถ วัดภูเพียง จังหวัดน่านค่ะ

 

นิมิตใกล้รุ่ง เช้าวันที่ 28/8/61 เวลาประมาณตี 4-5 เห็นตัวเองนอนตะแคงอยู่บนเตียง ทอดสายตามองพระพุทธรูปที่ยังปั้นไม่เสร็จ ทันใดนั้นก็มีผู้ชายใส่ชุดขาว แทรกซ้อนเข้าไปที่องค์พระพุทธรูป จากนั้นพระพุทธรูปก็พูดเล่าเรื่องราว ดูเหมือนจะเป็นเรื่องในอดีตชาติของจิตญานที่มาซ้อน บอกเล่าเรื่องการหมั้นหมาย

เรางง 2 งงเลย งงแรกพระพุทธรูปพูดได้เพราะมีญานมาซ้อนสถิตย์ งงที่ 2 มาพูดเรื่องหมั้นอะไรกับเรา เห็นพูดอยู่นาน เราก็ไม่เข้าใจเพราะมัวแต่งง เลยถามไปว่า...แล้วแหวนหมั้นนั้นอยู่ที่ไหน ถ้าหมั้นกันจริง เราต้องมีแหวนหมั้นซิ ไม่มีคำตอบ พระไม่ตอบคำถาม แต่กลับบอกว่าต้องรีบไปแล้ว ต้องไปช่วยคนอีกหลายที่ ส่วนเรานี้ท่านไม่ห่วงเพราะมีกระแสเข้มข้น คราวนี้เป็น 3 งงเลย

จากนั้นก็เห็นญานผู้ชายชุดขาวลอยออกจากองค์พระ เรายังคงนอนหลับตาทบทวนเรื่องที่งง จากนั้นก็กำหนดลมหายใจเข้าพุท ออกโธ ประมาณ 3-5 คู่ แล้วลืมตาตื่น

อยากเล่าเรื่องนี้ให้ใครสักคนฟัง เผื่อว่าจะมีคำตอบถึงสิ่งที่เราได้เห็น ได้ฟังนั้น...ว่าคืออะไร แต่ดูเหมือนเราจะไม่มีเพื่อนที่จะรับฟังเรื่องนี้ได้ ก็เลยวางลงไป จนลืมไปแล้ว

 

เวลาผ่านไปได้ประมาณ 7 วัน น้องที่สั่งปั้นงานไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว 2 ชิ้นงานด้วยกัน งานเสร็จตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เธอก็ไม่มารับสักที อ้างว่ายังไม่มีวาระที่จะมารับงาน อยู่ดีๆ เธอก็ติดต่อมาและเข้ามารับเมื่อวาน

เธอตื่นเต้นดีใจกับผลงานที่เราปั้นให้ เป็นผลงานที่งดงามและสดใส องค์ประกอบของงานบริบูรณ์ หลังจากรับงานก็พากันไปหาอะไรทาน และสนทนากันถึงเรื่องราวต่างๆ จนสมควรแก่เวลาที่ต้องแยกย้าย

เธอหยิบแหวนประดับพลอยสีม่วงล้อมเพชร พร้อมจี้พญานาคคู่บารมีฝังพลอยสีม่วง. ยื่นส่งให้ และบอกเล่าว่าแหวนนี้ทำเสร็จเป็นปีแล้ว ขายไม่ออก วงอื่นๆ ขายไปจนหมด เหลือแค่วงนี้ ไม่รู้ทำไมเหมือนมีเหตุให้ขายไม่ได้ ตัวเองก็ใส่ไม่ได้ เธอบอกให้เราลองสวมนิ้ว ถ้าสวมได้ก็สวมไปเลย ถ้าสวมไม่ได้ก็ไม่ต้องรับไป รับแค่จี้อย่างเดียว

เรายิ้ม แล้วบอกว่าจะให้ใส่ไปไหน ปกติไม่ใส่เครื่องประดับ ชีวิตอยู่แต่บ้านกับวัด เธอก็บอกให้ลองสวมให้เธอดู.....เราสวมได้พอดีเลบ

หรือนี่จะคือแหวนหมั้นที่เราถามหา

 

ฟังเรื่องราวหวานๆ แล้วดีไหมล่ะ

แล้ว พอใจ หรือว่า ไม่พอใจ

หรือว่า ไม่ได้พอใจ และ ไม่ได้ไม่พอใจ

พิมพ์ 3 บรรทัดไม่ได้ช่วยอะไรเลย 555555555


ช่วงนี้เราโดนสอบ อย่างโรย เจอให้ภาวนาวันละ 5000 20 วัน

ทำทั้งวัน จนดึก ยังไม่ได้จำนวนเลย

 

555 ใช่เลยค่ะ สามบรรทัดของคุณมันคือความหมายเดียวกัน จะพิมพ์ทำไมเยอะแยะ มีความรู้สึกเดียวในตอนนั้นคือ....งง ค่ะ พอใจหรือไม่พอใจ ไม่มี งงแล้วก็วาง

โหดแท้กับการฝึกของคุณนะ แต่น่าจะเป็นผลดีกับกำลังจิตที่จะเกิดขึ้นตามมาในภายหลัง

ใกล้ออกพรรษาแล้วนะ พรรษานี้เราไม่ได้อะไรเลย เหมือนคนหลักลอย ยกให้ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทำอะไรตามใจ 555

เพราะใจก็เชื่อไม่ได้ แปรปรวนจากตั้งมั่น กลายเป็นทอดทิ้งธุระ หวานเย็น ขาดความกระตือรือร้น เห็นนะแต่ปล่อย ไม่มีความคิดใดๆ ในการที่จะแก้ไขปรับปรุง เรามองว่ามันเป็นสภาวะ ก็เลยไม่สนใจ แล้วมันก็คงดับไปเองเหมือนสภาวะอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และดับไปแล้ว

สู้ๆ นะคะ คุณhastin

 

นานๆ ฟุ้ง

เข้าทางประตู ออกทางประตู เข้าทางหน้าต่าง ออกทางหน้าต่าง
เรียนผูก ก็ต้องเรียนแก้ เรียนแล้วไม่แก้ ก็ต้องแย่เอง
กิเลสมี 3 กอง แต่พิษของกิเลสแทรกซึมไปทุกส่วน
ธาตุ 4 อายตนะ 6 ขันธ์ 5 กิเลสควบคุมได้หมด
พูดไปตามเหตุ ตามธรรม เป็นอุเบกขา
พูดด้วยความหวังดี เป็นเมตตา
เมตตา กรุณา แค่สองข้อของพรหมวิหาร 4 เวลาผิดหวังมันจะเป็นทุกข์
พระท่านบอกให้มีอุเบกขาเป็นยาดำทุกครั้งในการทำ พูด คิด
คนมีธรรม พูดอะไรก็เป็นธรรม คิดสิ่งใดก็เป็นธรรม ทำสิ่งใดก็เป็นธรรม มีธรรมเป็นเครื่องอยู่
ไม่ผูก
เมตตาธรรมค้ำจุนโลก เคยได้ยินมั้ย
แต่เราต้องการละออก
เพราะเมตตาจึงต้องเวียนว่ายตายเกิดในภพต่างๆ
ตกลงเธอจะละ หรือเธอจะอยู่ ถามตัวเองให้แน่ใจ
นิพพานไม่ใช่ต้องมี ต้องเป็นอะไรๆ ทั้งนั้น
นิพพาน คือดับสนิท เย็น
ตัดบัวอย่าให้เหลือใย
ใจดำนะ
เมื่อใดที่มองเห็นว่าสรรพสิ่งล้วนเป็นธรรม มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และแปรปรวน บังคับบัญชาไม่ได้
เมื่อนั้นก็จะเข้าใจธรรมได้อย่างลึกซึ้ง ถึงแก่นธรรมทั้งปวง
จะไม่มีความคิดว่าพูดธรรม หรือไม่พูดธรรม เพราะทุกสิ่งอย่าง อาการต่างๆ ลักษณะต่างๆ คือการแสดงของธรรม
ไม่ใช่ตัวตน บุคคลใดๆ เป็นเพียงธรรมหนึ่งๆ ที่เกิดขึ้นไปตามเหตุ และดับไปตามเหตุ
เพราะเป็นทุกข์ จึงดิ้นรนที่จะดับมัน จริงมั้ย
จิตที่ยึดอัตตา จึงเป็นมหาเหตุแห่งทุกข์
❇❇❇❇❇❇❇❇❇❇❇❇❇❇❇

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเรื่องค่ะ เป็นพระบรมสารีริกธาตุที่จะนำไปบรรจุลงที่พระเกศ ของพระพุทธรูปที่กำลังปั้น

 

ถ้าไม่หาก็ไม่มี
ถ้าไม่ไปก็ไม่ถึง
ทำเหตุมีผล
ถึงผลหมดเหตุ
อวิชชานำไปสู่วิชชา

 

อวิชชานำไปสู่วิชชา...ขอค้านแล้วกัน...
เกลือรักษาความเค็ม...ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานะใด...คนคิดดี ย่อมทำแต่สิ่งดีๆ...
ถึงแม้ สังคมรอบข้างจะเป็นเช่นไรก็ตาม...

 

เหมือนร้อนตัวยังไงชอบกลนะคะ 555 พิจารณาให้ดีค่ะ
คนเราทุกคนล้วนมีความไม่รู้มาก่อนทั้งนั้น เพราะไม่รู้จึงขวนขวายที่จะรู้

ความไม่รู้ก็คืออวิชชา
ส่วนความรู้ก็คือวิชชา

ความไม่รู้ตามหลักพระพุทธศาสนา เรียกว่าอวิชชา
ส่วนความรู้ เรียกว่าวิชชา คงไม่ต้องสาธยายให้ยืดเยื้อ มีแหล่งข้อมูลให้ศึกษาเรื่องนี้อยู่

ทีนี้ถ้าวิชชาลงใจแล้ว อวิชชาในเรื่องนั้นๆ ก็ดับไป

 

ยอมรับว่า...ถ้าอารมณ์ดี ไม่เคยมาเล่นเวป..ต้องอารมณ์ไม่นิ่ง....เพราะเล่นทีไร ตบะแตกอยู่เรื่อย...อาจจะมีความอดทนต่ำ...และตอนนี้สิ่งยากๆก็จะไม่ทำ...(เช่นเข้าถึงฌานสี่)...

 

อ้าว...ใครทำให้ตบะแตก ป่วยหรือเปล่าคะ
ภาวนาเนืองๆ นะ ทุกปัญหามีทางออกด้วยตัวของมันเองค่ะ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

เราไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ที่นี่นานๆ เราจะเข้ามาสักครั้งนึง เพราะไม่ค่อยจะมีเรื่องอะไรมาเล่าแล้ว. ที่ผ่านมาเราว่าเราฟุ้ง พอมาอยู่กับกายจิต เห็นความจริงของกายจิต ฟุ้งก็ดับ ความคิดถูกควบคุมด้วยสติ ถ้าจะไหลต้องเอากิเลสใส่ลงไป ไหลเพลินเลยแหละ