ประกาศข่าวแผ่นดินไหว(&การคาดการณ์)

แผ่นดินไหวในเขตพม่า เส้นละติจูด 20 กว่าๆ

อาการแผ่นดินไหว ในแนวละติจูด 20 องศาขึ้นไป มีอย่างต่อเนื่อง และปรากฏไหวตื้นๆ 10 กว่า กม. สะท้อนให้เห็นว่าปลายแผ่น Sunda Plate ที่อินโดนีเซียตั้งอยู่ ซึ่งมี แผ่นดินไหวที่ปลายแผ่น แทบทุกวัน เปลือกโลกส่วนนี้ทรุดตัวลงโดยลำดับ ส่งผลสะท้อนมาที่ทาง โคนแผ่น แถวๆพม่า ที่แผ่นเปลือกโลกโก่งตัวเพิ่มขึ้น จนชั้นหินข้างใต้รับแรงดึงไม่ไหวจึงแตกหักเป็นระยะ...ขอให้ท่านที่สนใจลองจับตาการไหวในโซนนี้ต่อไป ความลึกจะค่อยๆเพิ่มขึ้นในขณะที่แผ่นดินไหวบริเวณปลายแผ่น Sunda Plate ยังคงดำเนินต่อไป

 

ขอบคุณในข้อมูลดีที่นำมาให้ศึกษา
ทุกท่านคะ

 

การเคลื่อนตัวของแผ่นแปซิฟิก

แผ่นดินไหวใกล้แนว ขอบประเทศฟิลิบปินส์ ยังมีต่อเนื่อง โดยทุเลาลงไปบ้าง แต่ย้อนกลับไปไหวที่ริมแผ่น มาเรียน่า ขึ้นอีกเมื่อ 10 ก.พ. 55 4.7 ริกเตอร์ ที่ความลึก 121.7 กม.และแผ่นแปซิฟิกยังมาเน้นกดดันปลายแผ่น Sunda Plate ทางทิศตะวันออกบริเวณเหนือประเทศออสเตรเลีย

บ่งชี้ให้เห็นว่าการเคลื่อนตัวของแผ่นแปซิฟิกมาทางด้านทิศตะวันออกอย่างต่อเนื่อง แต่จะรวดเร็วขนาดไหน บริเวณ มาเรียน่าจะเป็นตัวบอกเหตุให้เห็นชัดเจนแห่งหนึ่ง ที่ควรจับตาต่อไป ชั้นหินจะแตกลึกเพิ่มขึ้นหรือไม่ และความรุนแรงของการไหวจะยกระดับไปถึง 7-8 ริกเตอร์เมื่อใด ซึ่งจะส่งผลให้แผ่นมาเรียน่าเอียงและยกขอบทางด้านตะวันออกขึ้นเล็กน้อย และจะส่งผลให้แผ่นฟิลิบปินส์เอียง ผลักดันน้ำทะเลมาทางทิศตะวันตกเป็นสึนามิเข้าหมู่เกาะฟิลิบปินส์ ...ปรากฏการณ์แผ่นดินไหวทางด้านแปซิฟิก ก็จะคืบคลานมายังพื้นที่ประเทศไทยมากเข้าทุกที...เป็นการตีกระทบชิ่งส่งผลไปยังแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย ตีขนาบเข้ามาโดยทันที...เงียบๆ

ผู้ที่ไม่จับตาศึกษาตามอาการต่างๆไปในย่านนี้ จะตั้งหลักไม่ทัน อยู่ๆทำไมเกิดเรื่องขึ้นกับพื้นที่ประเทศไทยเงียบๆ พากัน ลงไปงง อยู่ใต้น้ำก็ได้

 

แผ่นดินไหวทั่วโลกแต่ละวัน

ที่ลิงค์นี้ ก็เอาไว้ดูภาพรวมทั้งโลกแต่ละวัน

 

ขอบคุณ คุณ somdul มากค่ะ ลิงค์ ที่แนะนำถูกใจค่ะ

 

สังเกตุมานานแล้ว ไปบอกใครเค้าก็ไม่เชื่อ ว่าเราเพ้อเจ้อค่ะ เราเห็นมานานไม่เคยเปลี่ยนทิศขึ้นลง เพราะพระอาทิตย์จะขึ้น และตกตรงซอยบ้านเราตลอด แต่ไม่กี่ปีมานี้มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ

 

การเอียงของแผ่น มาเรียน่า

เกี่ยวกับแผ่นมาเรียน่าเริ่มเอียง กรุณาศึกษาเพิ่มเติมที่ลิงค์นี้

 

ข่าวดีจาก Council of worlds

ข่าวดีจาก Council of Worlds อีกหน่อยทุกคนบนโลกจะมองเห็น PX ด้วยตาตนเองทั้งกลางวันและกลางคืน

SOZT
Has Planet X changed position, that it is now appearing at the 6 o’clock position for Europe and the eastern US? This is due to the tilt of the wobble, putting the viewer at a different angle than when Planet X was predominantly viewed at the 4 o’clock position. But visibility seems to have been remarkably improved! The issue of the continuing cover-up over the presence of Planet X has been brought repeatedly before the Council of Worlds, which wants a balance on Earth so that young souls can weight the reality of their and other’s situations. If life is NOT rosy, but is being portrayed that way, then those who are leaning toward becoming Service-to-Other become complacent, rather than taking action. It is taking action that develops the young soul, so it is taking action that is desired. Thus a decision was made to allow more visibility of Planet X, aka Nibiru, not only on film but also naked eye during the day, to shatter the cover-up over the presence of Planet X. Expect more of this!
EOZT.....ติดตามเพิ่มจาก ลิงค์นี้

 

กลัวมันจะเป็นเหมือนหนังเรื่องนี้ ดาวที่มาใหม่มันมีวงโคจรเดียวกับโลก แล้วก็เลยชนโลกเลยนะ

Melancholia

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=x_xsm46s2Gg&feature=player_embedded]Melancholia Trailer - YouTube[/ame]

<center></center>

 

กลัวดาวจะมาชนโลก

PlanetX โคจรรอบ Foci 2 ดวงเป็นวงรี มาวนรอบดวงอาทิตย์ 4 คราวแล้วคราวนี้เป็นคราวที่ 5 ทุกๆรอบ 3,657 ปี คราวนี้ใกล้โลกมากหน่อย เนื่องจากดวงอาทิตย์หดตัวเล็กลงกว่าเก่า

ดาวใหญ่ต่อใหญ่พอๆกัน มีทั้งแรงดูดและ แรงผลัก ช่วยรักษาระยะห่าง จึงไม่เกิดการชนกัน เช่นดวงเล็กๆ ที่อาศัยแรงดูดอย่างเดียวจึงชนกัน

 

Pacific Compression

หากติดตามความเคลื่อนไหวรอบๆแปซิฟิก และในท้องมหาสมุทรเอง จะเห็นว่าเกิดแผ่นดินไหวมากขึ้น เนื่องจากแผ่นเปลือกโลกของแปซิฟิกทุกแผ่น มีการเคลื่อนตัวต่อเนื่อง ระหว่าง Pacific Compression ก้นมหาสมุทรมีความลึกมาก มนุษย์ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวยาก คงอาศัยแต่ดาวเทียมเป็นส่วนใหญ่ตรวจจับแรงสั่นสะเทือน

ดังนั้นประเทศรอบๆแปซิฟิก จึงต้องได้รับผลกระทบไปด้วยถ้วนหน้ารวมทั้งประเทศไทยทั้งประเทศ ที่กำลังปรับตัวให้เห็นมาตลอด อยู่ที่ว่านำมาต่อกันเป็นภาพเดียวกันได้หรือไม่เท่านั้น

 

19 ธันวาคม 2010 เกิดอะไรขึ้น

ในวันนั้น มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น 3 จุดเกือบจะเป็นเวลาเดียวกัน และอยู่เกือบจะเป็นเส้นตรง เมื่อปลายแผ่น Sunda Plate ทรุดตัวลงได้ระดับหนึ่ง จึงเกิดแรงดึงมากพอ ทำให้ชั้นหินแตก ในแนวเกือบจะเป็น เ้ส้นตรง

แนวนี้ต่อไปจะแยกพื้นที่ของ Sunda Plate ออกไปเป็นเอกเทศ จากแผ่นเดิม และการแยกส่วนที่แนวนี้จะช่วยพื้นที่ส่วนเหนือขึ้นไปได้มากทีเดียว ช่วยลดการโก่งตัวลง แม้กระนั้นก็ดี ก็ยังปรากฏการโก่งตัวของแผ่นเปลือกโลกในบริเวณเส้นละติจูด 19-22 ในพม่า ลาว และส่วนใต้ประเทศจีนอยู่ตลอดมา จากตื้นไล่ลงลึกไปเรื่อยๆ ตามแรงดึงของปลายแผ่นที่มีประเทศอินโดนีเซียตั้่งอยู่ และกำลังทรุดตัวลงใต้น้ำทะเลถาวรมาได้ครึ่งทางแล้ว

 

Pacific Compression

Pacific Compression
The Pacific will compress by 250 miles at the Equator during the 7 of 10 S American roll. This 250 mile compression is the sum total of 47 miles due to the tilting of the Philippine Plate, and 78 miles due to the folding of the Mariana Plate and Mariana Trench. An additional 125 miles of compression comes from the overlapping of the Pacific Plate parts in the center of the Pacific.
Zeta talk

ตัวเลข 47 และ 78 ไมล์ น่าจะส่งผลกระทบดังนี้ แผ่นมาเรียน่าเคลื่อนที่และเอียงตัวถึง 47 ไมล์ นั้นน่าจะเกิดขึ้นตอนแผ่นดินไหวบริเวณนี้ไต่ระดับไปถึง 7-8 ริกเตอร์ ส่วนหุบเหวที่ลึกที่สุดใต้ทะเลด้านทิศตะวันออกของมาเรียน่า ได้ถูกกลบไปเรียบร้อยแล้วเมื่อ 13 ธ.ค. 2011 ยังไม่เกิดสึนามิ...จึงอาจมีสึนามิน้อยๆเมื่อแผ่นมาเรียน่าถูกดันจนเอียงมาทางด้านทิศตะวันตก

ส่วน 78 ไมล์ของแผ่นฟิลิบปินส์เคลื่อนที่และเอียงขนานกันกับแผ่นมาเรียน่านี้ เกิดเรื่องใหญ่ทีเดียว สึนามิถล่มหมู่เกาะฟิลิบปินส์แทบทั้งหมด แล้วส่งต่อมาทางด้านทิศตะวันตกสู่อ่าวไทย

แผ่นนี้เอียงแล้วยังเคลื่อนขึ้นไปกระทุ้งเกาะใต้ของญี่ปุ่นจนทะลุใกล้เขาฟูจี เกิดเขาลูกใหม่มาโชว์คู่กับฟูจี ไม่ให้เป็นหนึ่งเดียวอีกต่อไป ทั้งแผ่นดินไหว 7-8 ริกเตอร์ พร้อมสึนามิให้แก่ชาวเกาะญี่ปุ่นแล้ว ขาดแต่ภูเขาไฟที่บริเวณเกาะนี้ไม่มี

แผ่นฟิลิบปินส์ไม่เอียงอย่างเดียวมุดเข้าใต้แผ่น Sunda Plate อีกด้วย ยกขอบทางด้านทิศตะวันออกขึ้นเล็กน้อย แล้วช่วยกดทางขอบด้านทิศตะวันตกลง เปิดโอกาสให้แผ่น อินโด-ออสเตรเลีย เลื่อนมาข่มทับได้สะดวกโยธินมากขึ้น นับว่า แผ่นเปลือกโลกในย่านนี้ทำงานกันอย่างสอดคล้อง เป็นทอดๆไป แม้สั่นไหวอยู่ถึงญี่ปุ่น ยังส่งคลื่นสั่นสะเทือนมาปลดเบรคให้แก่แผ่น อินโด-ออสเตรเลีย อีกด้วย จะได้ช่วยให้เคลื่อนตัวได้รวดเร็วขึ้น ขจัดจุดติดขัดต่างๆที่คุณ Zeta ใช้คำว่าปลดเบรค นั่นเอง...

ถึงเวลานั้นตัวใครตัวมันล่ะนะ...ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ดูฉากต่อไป ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด ก็ต้องเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูงกว่า 50 เมตรจากน้ำทะเลให้ทันเวลาปลดเบรค

เมื่อยังพอมีเวลาช่วยชาติ ก็ตั้งสติทำหน้าที่ต่อไปให้ถึงที่สุด รีบติดตั้ง กระเป๋าเศรษฐี ให้แก่ตนเอง ครอบครัว และเพื่อนๆทั่วประเทศโดยรีบด่วน สู้พลางพร้อมเตรียมทางถอยพลาง มีเงินติดกระเป๋าไปด้วย ก็ดูดีนะ

 

ออสเตรเลียน้ำท่วม เซบูเกิดแผ่นดินไหวใหญ่

ทั้ง 2 แห่งมาเกี่ยวพันกันได้อย่างไร ลองมาฟังการรายงานข่าวและการวิเคราะห์ของคุณ Zeta

Australia Awash Again

At the start of the 7 of 10 scenarios, the Indo-Australian Plate rose on the eastern end, allowing the Sunda Plate to slip under the curve beneath Sumatra and Java. This caused horrific flooding in eastern Australia as waters from the Coral Sea sought to seek its level, backwashing up the rivers in Australia that drain into the Coral Sea. This was reported on January 2, 2011 in Issue 218 of this newsletter, when rivers draining the coastline on Queensland above Brisbane were backwashing. And again on January 12, 2011 in Issue 222 when the floodwaters were not draining but sloshing about in a tsunami fashion. And again on January 30, 2011 in Issue 226 when the "inland sea", unable to drain toward the east, headed south to drain at Melbourne. Now the term "inland sea" has returned as the plate once again is aggressively tilting, this time pouring water into New South Wales from the Tasman Sea as well as into Queensland from the Coral Sea.

ลงในรายละเอียดเชิญที่ ลิงค์นี้

 

เซบูแตกหัก

เซบูตั้งอยู่ในแผ่น Sunda Plate หากติดตามรายละเอียดการวิเคราะห์ปลายแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย ยกตัว พร้อมกับถอนเบรคขึ้นบางส่วน ทำให้แผ่นนี้เลื่อนมาทางทิศตะวันออก ผลักดันแผ่น Sunda Plate และมีจุดอ่อนของแผ่นนี้ ที่บริเวณเกาะเซบู ชั้นหินข้างใต้ทนแรงอัดจากแผ่นอินโด-ออสเตรเลีย อัดกับแผ่นฟิลิบปินส์ทางทิศตะวันออกของ Sunda Plate ไม่ไหว จึงออกอาการตามที่เห็นมาแล้วเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 55

ถ้าเป็นอย่างนี้ แผ่นอินโด-ออสเตรเลีย ยังจะเกิดอาการถอนเบรคอีก ในอนาคต จุดอ่อนแอของเปลือกโลก ในบริเวณเกาะเซบู ก็จะได้รับแรงกดดันจนกระทั่งเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นอีก และภูเขาไฟใกล้ๆนั้นอาจมีลาวาทะลักออกมา เมื่อปลายแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย ยกตัวเพิ่มขึ้นอีก พร้อมทั้งเลื่อนตัวมาทางทิศตะวันออก อัดกับแผ่น Sunda Plate ที่ประเทศอินโดนีเซีย และหมู่เกาะฟิลิบปินส์ตั้งอยู่

สิ่งที่เกิดขึ้นและประเทศไทยในขณะนี้ ได้รับสัญญานแวดล้อมมากขึ้น ว่าแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย ไม่อยู่นิ่งเฉย เริ่มส่ออาการปลดเบรค ให้เห็นแล้ว โดยหวยไปออกที่ เกาะเซบู ปลายแผ่น Sunda Plate ยังมีปัจจัยแวดล้อมไม่เพียงพอ ที่จะทรุดตัวลง

อาการถอนเบรคของปลายแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย น่าจะยังมีอยู่ต่อไป ให้คอยจับตาแผ่นดินไหว ที่ ปลายแผ่นนี้ต่อไป จะค่อยๆเห็นผลกระทบที่จะมาถึงประเทศไทยไปโดยลำดับ จนกระทั่งปลายแผ่นนี้ยกตัวได้ที่แล้ว การปลดเบรคครั้งสุดท้าย ก็คือแรงสั่นสะเทือนของ ซีรี่ย์แผ่นดินไหวที่เกาะใต้ และเกาะเหนือของญี่ปุ่น เป็นการปิดฉากแรก ของข่าวช๊อคโลกรอบแรกกระมัง

 

อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมครับ ว่าเปลี่ยนไปแบบไหนครับ

ส่ายกลับไปกลับมา มากขึ้นเรื่อย ๆ หรือว่าเอียงไปทางใดทางหนึ่งครับ