ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    เมื่อไหร่ประเทศไทยเราถึงจะมีวาระแห่งชาติ "ในการป้องกันอุกทกภัย ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต" ทุกวันนี้เป็นแค่ระดับเตรียมการเท่านั้นเอง
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "การเตือนเรื่องภัยพิบัติ"
    โดย อ.อาชวิน จิรจินดา (ตาที่สาม)

    [​IMG]

    เจได แห่งกองทัพธรรม

    หลัง มหกรรม Episode I (ภัยพิบัติ) ระยะแรกจะมีปัญหาเรื่องคนตายนับแสน เรื่องไม่มีอาหาร การอดอยาก และ โรคระบาด จึงน่าจะมีหน่วยกองทัพธรรมเข้ามาช่วยเหลือในบางส่วน (คนที่ได้อภิญญา)​

    คนที่จะเป็นสมาชิกกองทัพธรรมได้จะต้องมี

    1. ความสามารถพลังจากตา(ที่สาม) เพื่อ ฆ่าเชื้อโรค มองเห็นเหล่าวิญญาณ คนที่ตาย และส่งพลังให้ไปเกิดใหม่
    2. ต้องมีมือที่มีพลัง ในการแตะต้องบาดแผล ความเจ็บปวด ที่เมื่อแตะ จะบรรเทาความเจ็บ หรือให้หายทันที​

    คนที่จะเป็น เจไดของกองทัพธรรมต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้

    1. มีศีล ครบห้าอย่างเคร่งครัด
    2. ปฎิบัติสมาธิ ดีมาตลอด จนที่จุดหว่างคิ้วเต้นตุบๆๆ
    3. เดินไปตามสถานที่ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามารถสัมผัสได้ ด้วยจิต หรือมือ แขนชา
    4. ออร่าสีสวยและแรง โดยเฉพาะสีแดงหรือ สีม่วง จะดีที่สุด
    5. กำลังภายใน(แบบเสียวลิ้มสี่ วัดเส้าหลิน) ไม่ต่ำกว่า 15 เมตร
    6. คนมีตาทิพย์/จิตทิพย์/หูทิพย์ อยู่แล้ว​

    จะเห็นว่าเริ่มมีคนพูดถึงการเปิดตาที่สามกันประปราย ซึ่งก็เป็นความจริงเพราะเมื่อผมพบ คนที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ก็จะทำให้เขาเป็น เจได แห่งกองทัพธรรม ทำโดย เปิดตาที่สามให้ ฝึกให้ สายตาที่เป็นแสง ส่องได้ไกลเกิน 100 เมตร เพื่อความสามารถได้กว้างไกล มีรัศมี 100 เมตร ผลพลอยได้ ของการมีตาที่สาม คือ การมองเห็นออร่า เห็นอดีต เห็นอนาคตเห็นโลกอีกมิติ​

    ติดพลังที่มือ ให้มือที่มีพลังเพื่อใช้ในการรักษาคนป่วยคนบาดเจ็บ เมื่อพลังเข้าที่มือ มือนั้น จะเรืองแสง มองเห้นได้ชัด เหมือนมีดาบในมือ ใน"สตาร์วอ" ต้องมีกล่องแล้วกด จึงจะมีดาบยืดออกมายาว แต่เจไดของกองทัพธรรม แค่คิด ดาบก็ออกมาแล้ว เรืองแสงยาว พอๆๆกับดาบใน สตาร์วอ มือดาบของ เจไดแห่งกองทัพธรรม ใช้ในการรักษาคน ไม่ใช่ใช้ฆ่าคน แบบในหนังสตาร์วอ จากฟ้ากำหนด เจไดแห่งกองทัพะรรม จะมีกำลังพลประมาณ 1000 (หนึ่งพันคน)​

    มหกรรมล้างแผ่นดิน
    โดย อ.อาชวิน จิรจินดา

    [​IMG]

    มหกรรม ภาค 1 Episode i

    วีดีโอ มือถือ โทรศัพท์ ธรรมดา มีมานานแล้ว ต่อมาก็มีมือถือ ถัดมาก็มีวีดีโอ และล่าสุดก็มีวีดีโอมือถือ ซึ่งคิดว่าไม่เหมือนใคร เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ขณะขับรถไปทำธุระแถว ลาดพร้าว ซอย 93 จะไปเอาหน้าปก หนังสือ "ตาที่สาม เล่ม 3" ไปให้เขาแก้ เฉดสีให้สดขึ้น เพราะหนังสือกำลังจัดพิมพ์

    ขณะขับไป ก็เห็นรูปของพระพุทธองค์ลอยมาบนฟ้าทางทิศเหนือ เป็นพระพุทธรูปสีทองเหลืองอร่าม ก็ตั้งจิต เพราะเป็นการส่งข่าวจากเบื้องบน ได้ความว่าให้ไปที่บ้านคนที่รู้จักดี คนหนึ่ง เราก็ไปเพราะคาดว่าต้องมีเรื่องสำคัญ

    เราก็ไป เจ้าของบ้าน ก็พอดีกลับมา จึงพากันเข้าไปในห้องพระ และได้เห็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญยิ่ง มีปาฏิหาริย์มากมายเกิดขึ้นที่ห้องพระนั้น วันหลังจะขยายให้ฟัง วันศุกร์ตอนบ่าย เจ้าของบ้านพระพุทธรูปก็แวะมาที่บูธ บอกว่า "พระท่านฝาก วีดีโอมาให้ผมดู ขณะนี้อยู่ในมือข้างขวาของผม ขอให้ดู จะได้หมดหน้าที่ของผู้ถือสาส์น

    เออ..เคยเจอวีดีโอ ที่เป็นแผ่นกลมๆๆเล็กๆๆ นี่มา เป็นมือของคน ก็แปลกดี..ก็ไม่คิดอะไร..อาจจะเป็นไปได้..จึงกำหนดจิต เพ่งไปที่มือ ของเขา..โอ้โฮ.เป็นวีดีโอ ภาพสีจริง แต่ภาพในมือ มันเล็กไป จึง กดคลิ๊กๆ แบบคุณ Freek ย้ายภาพ และขยายให้ไปอยู่บนฟ้า นั่งดู เหมือนอยู่ในโรงหนัง

    วีดีโอนั้น เป็นสามม้วน เป็น มหกรรมชนิด Star War มี 3 episode ม้วนแรกเริ่มด้วย มองเห็นโลก จากระยะไกล ประมาณ ครึ่งทาง โลก-ดวงจันทร์ เป็นโลก ขาว ปกคลุมไปด้วยไอน้ำ ภาพค่อยๆๆ ซูมลงมา พอใกล้ ก็จำได้ว่า เป็นภูมิภาคเอเซีย

    มองเห็นประเทศไทย ที่เป็นด้ามขวานทอง ภูมิทัศน์ทางภูมิศาสตร์ที่เคยเห็นจนชินตาเปลี่ยนไป ด้ามขวานแคบและแหว่งวิ่นเห็นได้ชัด ทั้งฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน ทำให้ขนาดเหลือประมาณ 70% เทียบกับของเดิม

    อ่าวไทย กว้างขึ้น ฝั่งตะวันออกหายไปแยะ หายลึกเข้าไปถึง แปดริ้ว ปลวกแดง ไม่มีชลบุรี ศรีราชา เหลือเกาะสัตตหีบเล็กๆๆ โรงไฟฟ้าบางปะกง กฟผ. ที่เราเคยสร้างก็หายไป หมายความว่า หลังการกวาดล้างและแก้ระบบนิเวศน์โดยเบื้องบน ภาพที่เห็นคือ ผลสุดท้ายของการปรับและกวาดล้าง

    จากนั้น ในวีดีโอได้แสดงให้เห็นว่า ขั้นตอนการปรับสภาพนิเวศน์ของอ่าวไทยเกิดขึ้นได้อย่างไร มีรายละเอียดมาก จะขอข้ามไปก่อน

    มหกรรม ภาค 2 Episode ii

    เริ่มด้วยมองเห็นท้องน้ำและฟ้ามืดมาก มองสลัวเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ฟ้ามืด อากาศมัวมาก เหมือนกรุงเทพฯ ตกอยู่ในหมอกแห่งความน่ากลัว..มองเห็นสิ่งหนึ่งสีทองล่องลอยมาตามลำน้ำ..พอเข้ามาใกล้ เห็นชัด นั่นคือ หัวพญานาค 7 เศียร ลอยมากับน้ำ พญานาคมาทำไม

    ทันใด ก็ชัดเจนขึ้นว่า เป็นหัวเรืออนันตนาคราช ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนเรือพระที่นั่ง ขนาดเรือ เท่าของจริง มองเห็นผู้ที่กำลังเป็นผู้ควบคุมเรือ ท่านคือองค์พิฆเนศวร กำลังให้สัญญาณในการบังคับเรือ มองเห็นว่า ด้านท้ายเรือ ผู้ที่ทำหน้าที่ถือหางเสือเรือ คือ พญาครุฑ ซึ่งเป็น สัตว์เทพพาหนะของพระเจ้าแผ่นดิน

    กลางลำ มองเห็นชัดเจน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ทรงประทับยืน ในพระหัตถ์ทรงถือ ธารพระกร หรือ คฑา ทรงค่อยๆๆ ชูคฑานั้นขึ้นสูงเหนือพระเศียร ทันใด พระคฑา ก็กลายเป็นคบเพลิงใหญ่ สว่างโรจน์เหมือน ภาพรูปปั้น อนุสาวรีย์เสรีภาพที่หน้าอ่าว แมนฮัตตันของอเมริกา

    ความสว่างและความร้อนของคบเพลิง ขับไล่ความมืดมัว ท้องฟ้าที่มีสีดำ เหมือนมนต์อาถรรพ์ เริ่มละลายเป็นช่องโหว่เหนือพระเศียร พอช่องโหว่ได้ที่ พระองค์ก็ทรงโยนพระคฑาขึ้งสูง เหมือนดรัมเมเดยอร์โยนคฑาขึ้นฟ้า

    คฑาที่ลอยขึ้น กลายเป็นเศวตฉัตร 9 ชั้นสีเงิน เศวตฉัตรนั้น ลอยขึ้นสูงอย่างช้าๆ เมื่อไปแตะเมฆดำทึบมืดมน ก็เกิดสายฟ้าแลบกว้างไกล...ท้องฟ้าทั้งหมด สว่างขึ้นทันตา..ความมืดมัวและอาถรรพ์นั้นหายไปจนหมดสิ้น..ฟ้าเปิดแล้ว

    ทั้งหมด แปลว่า ท่ามกลางความยุ่งยาก ของความวิปริตของธรรมชาตินั้น ในที่สุดก็คลี่คลาย ด้วยพระบารมีของในหลวงรัชกาลปัจจุบัน โดยการร่วมมือของ พญานาค องค์พิฆเนศวร (ฝ่ายเทพ) พญาครุฑ (จากฟ้า) และองค์มหาเทพ ในหลวงรัชกาลที่ 9..ที่ทรงเสด็จลงมาช่วยแก้ไขประเทศไทยไว้..อันเป็นบารมี สูงสุด

    ม้วนที่สาม Episode iii

    เป็นภาพท้องน้ำเจ้าพระยาอีกครั้ง มองเห็นลำน้ำใส มองเห็นทิวแม่น้ำและท้องทุ่ง สดเขียวขจี ทุกแห่งมีแต่ความสมบูรณ์ ผู้คนล้วนแต่งในชุดขาว หน้าตาสดใส เป็นผู้คนที่มาจากฟ้าหลังฝน มองเห็นแต่ความเจริญ ดังคำกล่าวที่ว่า เป็นการเริ่มยุคแห่งศรีอริยเมตไตรย

    ทางฝั่งขวาของแม่น้ำมองเห็น องค์พระพุทธรูปปางลีลาสูงเด่น มองเห็นแต่ไกล ซึ่งแสดงรหัสว่า พระพุทธศาสนาจะคงอยู่ในประเทศไทย เป็นหลักให้คนทำดี หลังจากที่ฝนพายุได้ผ่านไป มองเห็นพระพุทธคยา ตั้งเด่นซ้อนอยู่กับองค์พระพุทธรูปขนาดสูงใหญ่...ซึ่งเป็นนิมิตรหมายว่า ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ ศาสนาพุทธอันยิ่งใหญ่ในอนาคต

    เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว..พวกเราในวันนี้ เราควรจะทำเช่นใด...ผู้ที่มีวิจารณญาณที่ดี ก็คงจะรู้ว่าจะต้องทำอะไร มองดูทั่วโลก

    ยุโรป เปลี่ยนแปลงน้อยมาก อเมริกา เหมือนถูกทุบ มองเห็นร่องน้ำใหญ่ ที่เกิดจากถูกฝ่ามือกดลงไป กลายเป็นร่องน้ำกว้าง หลายร้อยไมล์ยาวกว่าพันไมล์ ห้าร่อง แปลว่า จะมีคนตายนับล้านที่นั่น​

    เอเซีย ไม่มีสิงค์โปร์ ไม่มีฟิลิปปินส์ ไม่มีเกาะญี่ปุ่น อินโดนีเซียเหลือเพียงบางส่วน ฯลฯ​

    เช้านี้เวลาตีห้ามีกระแส เข้ามาทางจิตว่า มีจานบินจากดาวต่างๆ เข้ามาวนอยู่รอบโลกในระดับสูง มากกว่า 200 ลำ เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ที่จะต้องเผชิญ กับ ภัยธรรมชาติ​

    ความสำคัญจึงอยู่ที่ว่า...พวกเราพร้อมหรือยัง..มหกรรมยกแรก Episode i กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว...ขอให้ทุกท่านจงปลอดภัย ตามแรงบุญและความดีที่ได้สะสมไว้ ..ตลอดหลายภพ หลายชาติที่ผ่านมา..สวัสดี

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    เมื่อวันก่อนได้เล่าเรื่องมหกรรมล้างแผ่นดิน ไว้เป็นสามภาค หรือ Episode i, ii, iii และมีคนพยายามที่จะรู้ว่า จะเริ่มเมื่อใด ได้สนทนากับผู้ที่มีหน้าที่กดปุ่มเริ่มต้นแล้วได้ความยาว ค่อนข้างยาวแต่จะขอย่อ มาไว้ดังนี้

    1. มหกรรมนั้น ที่จริง จะเริ่ม ตั้งแต่ปี 2547 แต่บรรดา หลวงปู่ หลวงพ่อ ศักดิ์สิทธิ์ของพวกคนไทย นับร่วมสิบ ได้ขอใช้บารมี เลื่อนออกไป

    2. เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ก็จะได้กำหนดอีกครั้ง ก็ถูกขอเลื่อนไปได้อีกครั้ง โดย หลวงปู่ หลวงพ่อ ทั้งหลาย

    การขอเลื่อนสองครั้ง ทำให้บารมี หมดลงไปมาก และเบื้องบนยินยอม แต่ในครั้งที่สามนี้ บารมีของหลวงปู่หลวงพ่อทั้งหลาย จะไม่มากพอที่จะเลื่อนการกวาดล้างออกไป ตามธรรมชาติกำหนด เพื่อล้างสิ่งที่เลวร้ายทั้งคน วิญญาณ และสภาพแผ่นดิน นิเวศน์วิทยาให้ลดลง สิ่งที่ตามมาก็คือ สภาพสังคม สภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าและชีวิตที่ดีกว่า

    น้ำหนักของกรรมนั้นบัดนี้เต็มตราชั่งแล้วแต่ ที่ยังกดปุ่มไม่ได้ เพราะน้ำหนักของกรรม (คนบาป คนเลว) ยังกระจายอยู่นอก Killing one หรือพื้นที่กำจัด ในไม่ช้าจะต้องมีการดลใจและชักนำทางอ้อมให้ เป้าหมาย เคลื่อนย้ายเข้าสู่ คิลลิ่งโซน เมื่อครบน้ำหนัก มหกรรมนั้นก็จะเริ่ม

    เหมือนปลาในบ่อใหญ่ หรือตามคลองหน้าวัด ธรรมดาจะกระจายกันอยู่ ทั่วท้องน้ำ วิธีที่ปลาจะมาออรวมกันก็คือ ต้องมีสิ่งล่อใจ เช่น ตามลานบุญ ในวัด ตามหน้าวัด ที่มีการให้อาหารปลา เมื่อมาเต็ม ก็โยนระเบิดใส่ปลา ก็จะจบเรื่อง..เรื่องนี้ก็จะทำนองเดียวกัน

    เมื่อรู้หลักนี้แล้วก็คงจะรู้ไม่ยากว่า การกดปุ่มจะเริ่มเมื่อใด ลองไล่ปฏิทินดู การตายของมนุษย์ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะเป็นการเปลี่ยนสภาพจากเดิม ไปเป็นรูปอื่นที่เป็นเหตุเป็นผลกับกรรมที่ได้ทำไว้ครับ

    อ.อาชวิน จิรจินดา (ตาที่สาม)

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • nl569.jpg
      nl569.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.2 KB
      เปิดดู:
      1,514
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2010
  3. deep listening

    deep listening เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +536
    "ในฐานะที่ไม่เป็นข้าราชการแล้วก็ขอบอกอย่างเต็<WBR>มที่ว่า...สำหรับประเทศไทยนั้น ไม่มีมาตรการเตรียมรับภัยพิบัติเลย"

    ดร.สมิทธิฯ งานเสวนาเตรียมกายใจรับภัยพิบัติ 2 ยุวพุทธฯ
     
  4. deep listening

    deep listening เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +536
    ขอบคุณคุณเกษมมากครับ ที่เอาเรื่องของอ.อาชวินมาลง
    กำลังอยู่ในช่วงทำใจ ยอมรับการจากไปอย่างกระทันของอ.อาชวิน ในช่วงที่สถานการณ์ภัยกำลังเริ่มมากขึ้นและใกล้ตัวมากขึ้นนี้ มันคงแสดงถึงอะไรบางอย่างแน่ๆ

    แม้ยังไม่มีบทสรุปที่ชัดเจนลงใจสำหรับความกระทันหันนี้
    แต่เริ่มเห็นทางออกในอนาคตแว้บ ๆ แล้วบ้างครับ
    ความรู้ที่อ.อาชวินเผยแพร่ ได้รับความสนใจมากขึ้น
    หวังว่าผู้คนจะหันมาใส่ใจ สนใจ เร่งฝึกปฏิบัติกันยิ่งๆขึ้นครับ
     
  5. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ระทึก! ตึกก่อสร้างใหม่ม.บูรพาถล่ม ติดใต้ซากตึก2ราย เร่งกู้ภัยช่วยชีวิต ดับแล้ว1 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดชลบุรีว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ค่ำวันที่ 15 สิงหาคม

    เกิดเหตุอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างใหม่ ของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี ได้ถล่มลงมา ขณะที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างชั้นที่ 2 ทำให้มีคนงานก่อสร้างเสียชีวิตทันที 1 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บนับสิบคน และยังมีคนงานก่อสร้างตึกอยู่ในซากตึกจำนวนหนึ่ง โดยมีรายงานว่า คนงานก่อสร้างในบริเวณดังกล่าวมีประมาณ 35 คน เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย ได้พยายามลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลชลบุรีแล้ว สำหรับผู้ติดอยู่ใต้ซากอาคารนั้น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ได้เร่งเข้าทำการช่วยเหลือ โดยได้พยายามใช้เครื่องขยายเสียง เพื่อให้ผู้ติดอยู่ในซากอาคารได้ส่งสัญญาณว่าอยู่จุดไหนเพื่อให้เข้าไปทำการช่วยเหลือได้ถูกจุด อย่างเร่งด่วนแล้ว

    ข่าวแจ้งว่า อาคารสร้างใหม่ดังกล่าว จะสร้างเป็นตึก 8 ชั้น ของคณะศึกษาศาสตร์ ซึ่งตั้งอยู่ ตรงข้ามกับหอสมุดของมหาวิทยาลัยบูรพา

    โดยก่อนช่วงตึกถล่ม คนงานที่รอดชีวิตบอกว่า อยู่ระหว่างการเทปูนซีเมนต์เพื่อทำชั้นที่ 3 โดยให้คนงานก่อสร้างทำการเกลี่ยปูนฯ ให้เสมอกัน แต่คานรับน้ำหนักไม่ไหวจึงถล่มลงมาทั้งหมด ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่ที่ใช้ก่อสร้างอาคารดังกล่าว ระบุว่า เคยเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ของมหาวิทยาลัย เมื่อมีการอนุมัติสร้างตึกดังกล่าวจึงมีการถมดินเพื่อทำการก่อสร้าง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้ตึกทรุดและถล่มลงมาระหว่างการก่อสร้างก็ได้



    ดร.บรรพต วิรุณราช รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดเผยว่า ยันยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย หรือนักศึกษาอยู่ในบริเวณก่อสร้างแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นเขตก่อสร้าง ได้ล้อมรั้วป้องกันเหตุร้ายไว้แล้ว สำหรับตัวอาคารที่ถล่มลงมานั้น เป็นอาคารหอประชุมของคณะศึกษาศาสตร์ ที่ถล่มลงมาเป็นคานในชั้นที่ 2 โดยหน่วยกู้ภัยอยู่ระหว่างยกวัตถุที่พังลงมา เพื่อช่วยเหลือคนงานที่ติดอยู่ในซากตึกออกมา


    คนงานก่อสร้างอาคารภายในมหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี คนหนึ่งซึ่งรอดตายจากเหตุตึกถล่มเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตึกถล่มดังกล่าว ในช่วงเย็นมีการเทปูนซีเมนต์ ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 500 ตัน เพื่อปูพื้นบริเวณชั้น 2 ของอาคารที่กำลังก่อสร้าง คาดว่า การเทปูนดังกล่าวที่มีน้ำหนักมาก ทำให้คานที่สร้างไว้แบกรับน้ำหนักไม่ไหว จึงพังถล่มลงมา


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ทั่วไทยมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ลักษณะอากาศเช้าวันนี้(16 ส.ค.)ทั่วประเทศมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือนปชช.ในพื้นที่เสี่ยงภัย 12 จังหวัด ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย....

    กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 16 ส.ค.เมื่อเวลา 04.00 น.

    มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเล อันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย อุดรธานี นครพนม และสกลนคร ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย อุดรธานี นครพนม สกลนคร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรานครนายก ปราจีนบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เมื่อวานไปปล่อยปลา ที่วัดเทวราชกุญชร ตรงเทเวศน์
    เห็นระดับน้ำปริมาณสูงมาก ถ้าฝนตกมาอีกเล็กน้อย คงท่วมบ้านเรือนคนแล้วอ่ะ
     
  7. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <table style="border-collapse: collapse;" align="center" border="0" bordercolor="#669933" cellpadding="3" cellspacing="0" width="600"><tbody><tr bgcolor="#669933"> <td width="130" nowrap="nowrap">วัน-เวลา</td> <td width="40" nowrap="nowrap">ขนาด</td> <td width="50" nowrap="nowrap">lat</td> <td width="50" nowrap="nowrap">long</td> <td width="120" nowrap="nowrap">บริเวณที่ เกิด</td> <td nowrap="nowrap">ข้อมูลอื่นๆ</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td valign="top">2553-08-16 08:41:00</td> <td valign="top">3.3</td> <td valign="top">14.46</td> <td valign="top">99.24</td> <td valign="top">อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี</td> <td valign="top"> - รู้สึกสั่นไหวทึ่ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี</td></tr></tbody></table>
     
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    10 อันดับวัตถุซึ่งไม่น่าจะมีในยุคโบราณ

    OOPARTS โอพาร์ทส หรือย่อมาจาก Out Of Place Artifacts นี้แปลตรงตัวแล้วหมายถึง"วัตถุเหนือยุค" หมายถึงวัตถุซึ่งไม่น่าจะมีปรากฏอยู่ในยุคนั้นๆซึ่งถูกสร้างขึ้น ที่มีชื่อเสียงได้แก่ เครื่องบินเจ็ตทองคำ(โคลัมเบีย) กะโหลกคริสตัล(แอสเทคและที่อื่นๆ) รูปวาดนักบิน(มายา) รูปเฮลิคอปเตอร์+รถถัง+เครื่องบินรบ(อียิปต์) ฯลฯ กล่าวกันว่าการค้นพบสิ่งเหล่านี้เป็นหลักฐานว่า ในสมัยโบราณ มนุษย์มีวัฒนธรรมซึ่งล้ำหน้ากว่าที่เราคาดคิดไว้มากนัก ถือเป็นการค้นพบที่พลิกประวัติศาสตร์โลกทีเดียว<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    ในช่วงหลายร้อยปีมานี้ มีการพบวัตถุลึกลับต่างๆ มากมายทั่วโลก(ไม่ยักมีไทย) ซึ่งวัตถุแต่ละอย่างไม่สอดคล้องกับทฤษฏีความเป็นไปของโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอารยธรรม, ความฉลาดของสมอง, ความคิดของมนุษย์ ฯลฯ และนี้คือ 10 วัตถุโบราณที่กำลังท้าทางคำตอบ ว่ามันคืออะไรกันแน่ และมันมีไว้เพื่ออะไร<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อันดับ 10 Klerksdorp sphere <O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    หรือ The Grooved Spheres เป็นโลหะลึกลับที่มีการค้นพบกว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยคนงานเหมืองใน Ottosdal เมืองเล็กๆ ในประเทศแอฟริกาใต้ได้ขุดค้นพบวัตถุโลหะทรงกลมลึกลับจำนวนหนึ่ง ขึ้นมาในชั้นหินแร่ไพโรฟิลไลท์ โดยไม่ทราบที่มาและแหล่งกำเนิดได้ว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่ มันเป็นวัตถุโลหะทรงกลมลึกลับนี้วัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางรอบวงได้ประมาณ 1 นิ้วกว่าๆ (0.5-10 ซม.) และมี 2 แบบ คือโลหะสีน้ำเงินอ่อน มีสีขาวเป็นจุดๆ อีกแบบเป็นทรงกลวง ข้างในบรรจุข้าวสาลี และจากการตรวจสอบหาอายุวัตถุลึกลับนี้จากชั้นของหินพบว่ามันมีอายุนานถึง 2,800 ล้านปี!!(ในวีพีมีเดียอังกฤษบอกว่า 3,000 ล้านปี) ซึ่งมันเป็นยุคพรีแคมเบรียน(Precambrian)หรือบรมยุคกำเนิดโลก ดูจากยุคแล้วก็บอกได้แน่นอนว่าไม่มีวิทยาการที่สามารถใช้ไฟหลอมโลหะเป็นทรงกลมได้แน่ๆ แถมเป็นยุคที่ไม่มีมนุษย์อีก ทำให้จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครทราบคำตอบว่าใครเป็นทำโลหะทรงกลมเหล่านั้น?? และทำเพื่ออะไร?? ทำให้ตั้งข้อสมมุติฐานว่าเกิดจากธรรมชาติเท่านั้น.....
    <O:p>
    อันดับ 9 The Dropa Stones<O:p></O:p></O:p>

    [​IMG] <O:p></O:p>
    ในปี 1938 นักโบราณคดีกลุ่มหนึ่งนำโดยดร.ชีปูเตย(Dr. Chi Pu) ได้เข้าไปสำรวจเทือกเขาเป่ยอัน-คารา-ยูลาBaian-Kara-Ula ในเมืองจีน ได้ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ในถ้ำแห่งหนึ่งเข้า สิ่งมหัศจรรย์นี้เป็นวัตถุอารยธรรมโบราณฝังรูปร่างเหมือนแผ่นศิลาทรงกลมหลายร้อยแผ่นฝังอยู่ฝุ่นตามพื้นถ้ำ ศิลาเหล่านี้วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 9 นิ้ว แต่ละแผ่นมี รอยสลักเป็นวงกลมที่ศูนย์กลาง แล้วแกะหมุนวนแบบลายก้นหอย ดูคล้ายแผ่นเสียง ทว่ามีอายุราว 10,000-12,000 ปี เมื่อเพ่งพินิจให้ดีก็จะพบว่า ที่จริงแล้ว เส้นสายเหล่านั้นเป็น อักษรภาพตัวเล็กจิ๋วที่บอกเล่าเรื่องราวที่เหลือเชื่อว่า ครั้งหนึ่งเคยมียานอวกาศบินมาตก ที่เทือกเขาแห่งนั้น ยานอวกาศที่ว่ามีนักบินเป็นเผ่าชนที่เรียกตัวเองว่า โดรปา ซึ่งมีการพบซากของมนุษย์ที่อาจเป็นลูกหลานของชนกลุ่มนี้ในถ้ำด้วย <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อันดับ 8 The Ica Stones<O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    ในช่วงทศวรรษ 1930 บิดาของดร.ฮาเวียร์ คาบรีบรา นักมานุษยวิทยาวัฒนธรรม ผู้ศึกษาเรื่องราวของชนพื้นเมืองในเปรู ได้พบหินหลายร้อยก้อนตามหลุมศพของชาวอินคาโบราณ ดร.คาบรีบราได้สานต่องานของพ่อ ด้วยการสะสมก้อนหิน ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟเหล่านี้ได้มากถึงกว่า 1,100 ก้อน ซึ่งประมาณว่ามีอายุราว 500-1,500 ปี และต่อมารู้จักกันในชื่อก้อนหินอิคา หินเหล่านี้มีรอยสลัก บางชิ้นเป็นเรื่องราวทางเการแพทย์ เช่นผ่าตัด ตัดหัวใจ และปลูกถ่ายสมอง แต่ที่น่าทึ่งที่สุดก็คือ ภาพสลักรูปไดโนเสาร์ ทั้งบรอนโตซอ รัส ไทรเซอราท็อป สเตโกซอรัส และเทอโรซอร์ รูปของคนขี่ไดโนเสาร์ รูปกล้องโทรทัศน์ แล้วก็แผนที่โลกที่มองลงมาจากทางอากาศ ปัจจุบัน ยังไม่มีนักโบราณคดีคนใดอธิบายเรื่องนี้ได้ แม้นักวิชาการบอกว่า หินอิคาเป็นของที่กุขึ้นมาเอง แต่ก็ไม่เคยมีการ วิจัยเพื่อพิสูจน์ความจริงหรือหักล้างในเรื่องนี้ หินอิคาจึงเป็นก้อนหินที่น่าพิศวงต่อไป<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อันดับ 7 Giant Stone Balls of Costa Rica<O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    เมื่อทศวรรษ 1930 ขณะกำลังหักร้างถางพงในป่าทึบของ ประเทศคอสตาริกาเพื่อทำสวนกล้วย พวกคนงานได้เจอลูกหินขนาดต่างๆ หลายสิบลูก หลายลูกมีรูปร่างกลมดิก ขนาดก็แตกต่างกันไป มีตั้งแต่เท่า ลูกเทนนิสไปจนถึงลูกที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 ฟุต หนักถึง 16 ตัน เห็นได้ชัดว่าลูกหินพวกนี้ไม่ได้เกิดเองตามธรรมชาติ แต่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ ปัญหาก็คือไม่ได้พบร่อยรอยมนุษย์ที่อยู่ใกล้เคียงแม้แต่น้อย แม้แต่เศษเครื่องปั้นดินเผาก็พบสักชิ้น มันไม่น่าจะเป็นฝีมือมนุษย์ เพราะว่าลูกบอลยักษ์กลมดิกมากจากข้อสันนิษฐานพบว่าลูกบอลยักษ์เหล่านี้เกิดขึ้นก่อนมนุษย์จะเกิดเสียอีก คือเกิดในยุคแทร์เซียรีพีเรีนดซึ่งนานกว่า 40 ล้านปีมาแล้ว<O:p></O:p> คนพวกไหนมาสร้างเอาไว้ ทำขึ้นมาด้วยจุดประ สงค์อันใด และที่สำคัญมีเครื่องไม้เครื่องมือหรือเทคโนโลยีอะไรจึงทำลูกหิน ได้กลมเกลี้ยงถึงปานนี้?<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อันดับ 6 Oera Linda Book<O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    (ปล. ขอบคุณคุณ Pongzynews ครับ)<O:p></O:p>
    "Oera Linda Book เป็นหนังสือของพวก รีสแลนด์(ฟรีสแลนด์เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเนเธอร์แลนด์) เป็นหนังสือที่เขียนด้วยมือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เทพนิยาย และศาสนา ที่ปรากฏออกมาเมื่อศตวรรษที่ 19 หนังสือนี้ประกอบด้วยเรื่องความหายนะ, ชาตินิยมที่ผู้หญิงเป็นผู้นำครอบครัว,เทพนิยาย พบว่ามีการภาษาที่ใช้เขียนเล่มเป็นภาษาของชนชาติยุโรปและของชนชาติอื่นๆ รวมอยู่ด้วย โดยเนื้อหาที่เขียนถูกรวบรวมและจัดเรียงโดย(เจ้า)แม่ผู้นำขนบธรรมเนียมท้องถิ่น ที่อุทิศตัวเป็นนักบวชหญิงของเฟรย่า ( Freya ) เทพีแห่งความรัก บุตรีแห่งมหาเทพ Wralda กับ Irtha มารดาแห่งปฐพี ด้วยเหตุนี้ภาษาที่ใช้จึงเป็นภาษากรีกโบราณและภาษาฟีนิเชี่ยน ฉบับปัจจุบันถูกพบว่าเขียนในปี 1260 ส่วนฉบับที่เก่าแก่กว่าถูกพบว่าเขียนในช่วงระหว่าง 2194 ปีก่อนคริสตศักราช ถึง ค.ศ.803 ซึ่งสมัยนั้นไม่มีทางที่เขียนภาษาแบบนี้ได้แน่ๆ แต่กระนั้นก็มีการโต้แย้งว่ามันอาจเขียนขึ้นก่อนหน้านั้นแล้วทำให้ดูเหมือนโบราณเท่านั้น<O:p></O:p>


    อันดับ 5 Impossible Fossils<O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    อย่างที่เราเคยเรียนกันสมัยมัธยม ซากฟอสซิลที่ปรากฏอยู่ตาม ก้อนหินนั้น ต้องใช้เวลาก่อตัวนานนับล้านปี แต่ก็มีฟอสซิลจำนวนหนึ่งซึ่งดูจะ ขัดกับหลักธรณีวิทยาหรือประวัติศาสตร์ ชนิดผิดฝาผิดตัวอย่างสุดๆ เช่น ฟอสซิลรูปมือประทับของมนุษย์ที่พบในชั้นหินปูน ซึ่งประมาณว่ามีอายุ 110 ล้านปี เป็นต้น แล้วยังมีสิ่งที่เชื่อว่าเป็นฟอสซิลนิ้วมือของมนุษย์ ที่พบในเขต อาร์กติกของแคนาดาอีก ชิ้นนี้มีอายุราว 100-110 ล้านปี ไม่แต่เท่านั้น ยังมีการพบรอยเท้ามนุษย์ ซึ่งมองเหมือนสวม รองเท้าแตะ ที่เมืองเดลตา มลรัฐยูทาห์ ในชั้นหินดินดาน อายุราว 300-600 ล้านปีด้วย <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อันดับ 4 Out-of-Place Metal Objects<O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG] </O:p>
    เมื่อ 65 ล้านปีก่อน ตามตำราบอกว่ามนุษย์ยังไม่เกิด และแน่นอนเรื่องช่างโลหะย่อมไม่มีแน่ แต่แล้วในฝรั่งเศสดันมีการค้นพบท่อโลหะ ทรงกึ่งรูปไข่ ที่ขุดพบในหินชอล์ก ยุคครีเตเชียส(Cretaceous) ซึ่งเป็นยุคสุดท้ายของยุคเมโสโซอิค หรือ "ยุคไดโนเสาร์" ก่อนทวีปต่างๆ ก็ได้แยกออกจากกันเช่นในปัจจุบันได้อย่างไรกัน? ...นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างกรณีทำนองนี้มีมากมาย เช่น...เมื่อปี 1885 มีการพบท่อ โลหะในก้อนถ่านหิน ซึ่งเห็นได้ว่าทำขึ้นด้วยฝีมือของมนุษย์ ...เมื่อปี 1912 คนงานของโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งก็เจอกาน้ำโลหะใน ถ่านหินก้อนใหญ่ จากยุคหิน(Mesozoic)<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อันดับ 3 Ark Of The Covenant<O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    หรือหีบพันธะสัญญานั้นเองครับ ที่จริงยังไม่มีใครเจอมันหรอก แต่เรื่องราวที่เกี่ยวกับมันนั้นช่างน่าพิศวงเหลือเกิน<O:p></O:p>
    ลักษณะของหีบพันธะสัญญาคร่าวๆ ตามตำนาน เล่าว่า เป็นหีบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำด้วยไม้ชิดติม (Shittim) ยาว 2.5 คิวบิท กว้าง และสูงเท่ากัน คือ 1.5 คิวบิท (เทียบหน่วยคิวบิทของอียิปต์ ซึ่ง 1 คิวบิทเท่ากับ 525 ซ.ม. หีบก็จะยาว 1.3 เมตร กว้างและสูง 76 ซ.ม. )บุด้านนอกและด้านในด้วยแผ่นทองคำ โดยรอบหีบด้านบนยกเป็นขอบสูงขึ้นเล็กน้อย ที่มุมสี่ด้านมีห่วงทองคำสำหรับสอดไม้คาน เพื่อแบกหามเวลาเดินทาง และไม้คานทำจากไม้ชนิดเดียวกันหุ้มด้วยแผ่นทอง(มีคำสั่งห้ามถอดไม้คานออกด้วย) ส่วนฝาหีบ เรียกว่า Mercy Seat หรือ “การุณอาสน์” มีขนาดรับกับตัวหีบ และบุแผ่นทองเช่นเดียวกัน ด้านบนมีเทวดาสององค์สยายปีก หันหน้าเข้าหากัน ปีกทั้งสองโอบคล้ายซุ้มโค้งเหนือหีบ <O:p></O:p>
    มีเรื่องเล่ากันว่า หีบพันธะสัญญาเป็นหีบที่สร้างขึ้นตามพระบัญชาของพระเจ้า(??) เพื่อเป็นที่บรรจุแผ่นหินจารึกบัญญัติ 10 ประการของพระองค์ ที่ประทานแก่ โมเสส ในระหว่างที่เขาพาพวกฮีบรูเร่ร่อนอยู่กลางทะเลทราย อันกันดาร โดยชนชาวฮีบรูจะแบกหีบแห่งพันธสัญญาตลอดการเดินทางในพระคัมภีร์ไบเบิลเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิฤทธิ์ของหีบ ที่มีพลังมากมายมหาศาลถึงขั้นสามารถทำลายล้างผู้บังอาจเข้าไปแตะต้อง และถูกพระเพลิงเผาวอดตาย<O:p></O:p>
    แน่นอนหลายคนที่ได้รู้เรื่องราวหีบพันธะสัญญานี้ได้บอกว่ามันน่าเหลือเชื่อและหากเป็นเรื่องจริงละก็มันน่าจะเป็นวิทยาการอะไรสักอย่างที่ไม่มีในยุคนั้น ดังนั้นจึงมีข้อสันนิฐานตามมาว่า หีบพันธะสัญญาน่าจะ ขวดแก้วไลเดน (Leyden Jar) ซึ่ง ปีเตอร์ แวน มุสเซนโบรค ได้คิดค้นขึ้น เมื่อปี ค.ศ. 1745 (เป็น อุปกรณ์เก็บสะสมประจุไฟฟ้า แบบง่าย) ซึ่งอุปกรณ์ทั้งสองอย่างนี้เกี่ยวกับไฟฟ้าทั้งสิ้น สมัยก่อนนั้นมีการใช้ไฟฟ้าได้อย่างไรกัน?? และจนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครพบหีบพันธะสัญญาที่แท้จริง ทำให้ไม่สามารถรู้ว่าหีบพันธะสัญญาคืออุปกรณ์อะไรกันแน่<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อันดับ 2. The Coso Artifact<O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    ขณะออกไปหาเก็บก้อนแร่และหินสวยงามบนเทือกเขาโอ ลัน คา ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ในช่วงฤดูหนาวของปี 1961 วอลเลซ เลน(Wallace Lane), เวอร์จิเนีย แม็กซี(Virginia Maxey) และไมค์ ไมค์เซล(Mike Mikesell) ได้เจอหินที่เข้าใจว่าเป็นแก้วผลึก ก้อนหนึ่ง ทั้งสามชอบใจมาก เพราะคิดว่าถ้าเอากลับไปขายที่ร้านอัญมณี ของตัวเอง คงได้ราคาพอควร แต่เมื่อกะเทาะออกดู ไมค์เซลก็เจอวัตถุชิ้นหนึ่งอยู่ข้างใน มองเหมือนเครื่องเคลือบสีขาว ตรงกลางมีแท่งโลหะแวววาว ผู้เชี่ยวชาญประมาณว่า ต้องใช้เวลาร่วม 500,000 ปี กว่าที่เจ้าก้อนผลึกนี้จะก่อตัวห่อหุ้มวัตถุนี้ไว้ภายในได้เช่นนี้ ทั้งๆ ที่วัตถุดังกล่าวมองเหมือนเป็นผลงานจากน้ำมือของมนุษย์ เมื่อตรวจสอบเจ้าแท่งโลหะดังกล่าวอย่างละเอียดด้วยการ เอกซเรย์ ก็พบว่ามันมีสปริงเล็กๆ ติดอยู่ที่ปลายข้างหนึ่ง บางคนที่ได้เห็น บอกว่ามันมองเหมือนหัวเทียนของเครื่องยนต์ แล้วหัวเทียนเข้าไปอยู่<O:p></O:p>
    ในก้อนหินอายุ 5 แสนปีได้อย่างไร? <O:p></O:p>


    อันดับ 1 Piri Reis<O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    ในปี ค.ศ. 1979 ในระหว่างที่มีการซ่อมแซมมหาราชวังคอนสแตนทิโนเปิล (Constantinople) ในอิสตันบูล ประเทศตรุกี ก็ได้มีการค้นพบภาพวาดแผนที่ที่ถูกวาดลงบนหนังกวาง ซึ่งถูกวาดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1513 แผนที่ดังกล่าวมีการลงชื่อแสดงความเป็นเจ้าของโดยของนายทหารเรือชาวเติร์กชื่อ Piri Haji Memmed ทำให้มีการเรียกแผนที่นี้ว่า Piri Reis คาดว่ามันถูกทำขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1513 <O:p></O:p>
    แผนที่ของ Piri Reis เป็นสิ่งที่ท้าทายนักประวัติศาสตร์อย่างมาก เนื่องด้วยแผนที่นี้มันแสดงภูมิศาสตร์สมบูร์แบบเกินกว่าแผนที่ธรรมดาทั่วไป อีกทั้งยังมีเส้นรุ้งเส้นแวงที่ชัดเจน ซึ่งเป็นไปตามหลักวิชาการแผนที่สมัยใหม่ทุกประการ มันแสดงถึงพิ้นที่ของทวีปอาฟริกาใต้อย่างละเอียดละออเป็นพิเศษ รวมไปถึงทวีปอื่นๆอย่างคร่าวๆ ซึ่งนับว่าเหลือเชื่อที่สุด เพราะถูกทำขึ้นหลังจากโคลัมบัสคนเก่ง ค้นพบโลกใหม่ เพียง 21 ปีเท่านั้น เวลาสั้นๆแค่นี้ไม่น่า จะมีใครสำรวจจนทำแผนที่ที่แทบจะครอบคลุมโลกแบบนี้ออกมาได้ ยิ่งน่าทึ่งกว่านี้อีกคือมันมีทวีปแอนตาร์กติก้าด้วย ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีการค้นพบทวีปดังกล่าวนี้เลย ( แอนตาร์กติก้าค้นพบราวๆ ปี 1800) เขาสามารถแสดงชายฝั่งของทวีปที่อยู่ภายใต้น้ำแข็งหนาเป็นกิโลได้อย่างไรหากไม่ใช้กรรมวิธีสมัยใหม่ทางภูมิศาสตร์ที่เรียกกันว่าการสำรวจจากทางอากาศ <O:p></O:p>
    จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครอธิบายได้ว่าคนวาดแผน Piri Reis นี้มีวิธีการวาดอย่างไรถึงทำให้มีความสอดคล้องกับข้อมูลทางธรณีในยุคปัจจุบัน ทั้งๆที่มันถูกวาดขึ้นในปี 1513

    เครดิต DEK-D.com <O:p></O:p>
     
  9. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    สุดระทึก! อพยพหนีภัยบนเรือกู้ชีวิต ผจญวิกฤติโลกร้อน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 สิงหาคม 2553 04:07 น.

    [​IMG] <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table width="550" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="550" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">"วิกฤติโลก" เป็นเช่นไร รุนแรงและน่ากลัวขนาดไหน "งานมหกรรมวิทย์ 53" พร้อมพาเยาวชนไปสัมผัสประสบการณ์ 4 มิติเสมือนจริงสุดตื่นเต้นของโลกในยุควิกฤติการณ์ครั้งใหญ่หลวง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> โลก กำลังเข้าสู่ยุควิกฤติเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากน้ำมือ ของมนุษย์ มหันตภัยหลากหลายรูปแบบกำลังจ่อคิวเล่นงานสรรพชีวิต การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่อาจหวนกลับได้กำลังจะมาเยือนมนุษย์ ทว่าปลายทางแห่งวิกฤติโลกจะเป็นเช่นไร เผ่าพันธุ์มนุษย์จะอยู่รอดไปจนถึงศตวรรษหน้าได้หรือไม่ "มหกรรมวิทย์" ปีนี้พร้อมพาน้องๆ อพยพหนีภัยไปบนเรือกู้ชีวิต พร้อมผจญภัยไปกับวิกฤติโลกในอนาคตอันใกล้ผ่านอุโมงค์ 4 มิติเสมือนจริงสุดระทึก

    น้องๆ หลายคนอาจเคยได้ยินได้ฟังนักวิชาการพูดกันบ่อยๆ ถึงเรื่อง "ภาวะโลกร้อน" (Global Warming) และ "การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ" (Climate Change) หรืออาจเคยเห็นข่าวความร้ายกาจของภัยธรรมชาติในหลายๆ ประเทศ ขณะที่หลายคนยังไม่เคยประสบพบเจอกับตัวเอง (และคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น) แต่หากใครอยากรู้ว่ามหันตภัยจากภาวะโลกร้อนมันรุนแรงและร้ายกาจขนาดไหน ต้องลองไปสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริง 4 มิติ (4D Simulator) สุดระทึกและเร้าใจในนิทรรศการ "วิกฤติโลก" ภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2553 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table width="550" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="550" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ลงเรือกู้ชีวิต พร้อมออกเดินทางผจญภัยไปในอุโมงค์แห่งวิกฤติโลก (ภาพจาก อพวช.)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว เราไปลงเรือ(กู้ชีวิต)ลำเดียวกันเลย!

    จากนั้นกัปตันเรือจะพาเราผ่านเข้าสู่อุโมงค์แห่งวิกฤติโลกเพื่อข้าม เวลาไปยังในอนาคตอันใกล้ ที่ซึ่งเราจะต้องเผชิญกับวิกฤติการณ์ต่างๆ ที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือยของมนุษย์ ทั้งด้านพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม น้ำ และสุขอนามัย

    ในขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงในธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการกระทำของ มนุษย์ยังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างเลวร้าย และทำให้เกิดมหันตภัยครั้งใหญ่หลากหลายรูปแบบตามมาอีกนับไม่ถ้วนตลอดเส้นทาง การเดินทางบนเรือกู้ภัยสุดระทึก ที่ทั้งตื่นเต้น ตื่นตา และเร้าใจไปกับการฝ่าด่านม่านน้ำตกขนาดใหญ่ ดินแดนแห้งแล้งราวกับทะเลทราย หมอกควันแห่งโลกมลพิษ พายุไต้ฝุ่นอันน่าหวาดผวา และการเลี้ยวลดเพื่อการอยู่รอดของเรือกู้ภัย

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table width="550" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="550" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">สัมผัสประสบการณ์สุดระทึกท่ามกลางมหันตภัยสุดร้ายกาจภายในอุโมงค์วิกฤติโลก (ภาพจาก อพวช.)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ด.ช.รัตนพงษ์ คำผัด นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านแม่ทราย จ.แพร่ เปิดเผยต่อทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ภายหลังร่วมสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงในอุโมงค์วิกฤติโลกว่า เป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นมาก และรู้สึกกลัวบ้างในบางช่วงที่เรือแล่นผ่าน และเล่าว่าวิกฤติโลกที่ได้เผชิญมาในอุโมงค์นั้นน่ากลัวมาก หากมนุษย์ต้องการรอดจากวิกฤติเหล่านั้นต้องช่วยกันปลูกต้นไม้และใช้พลังงาน อย่างประหยัด

    เผ่าพันธุ์มนุษย์ของเราจะฝ่าวิกฤติโลกครั้งนี้ไปได้หรือไม่ ไปหาคำตอบกันได้ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2553 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ตั้งแต่วันที่ 7-22 ส.ค.53 เวลา 09.00-20.00 น. หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nsm.or.th ซึ่งฝ่ายจัดงานได้เตรียมรถรับ-ส่งฟรีจากสถานีรถไฟฟ้า อ่อนนุช ตั้งแต่ 8.30-20.30 น. รถออกทุกๆ 30 นาที

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table width="550" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="550" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">การใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือยของมนุษย์ คือจุดเริ่มต้นของวิกฤติโลก (ภาพจาก อพวช.)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table width="413" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="413" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ด.ช.รัตนพงษ์ คำผัด</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table width="550" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="550" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">นิทรรศการวิกฤติโลก หลากหลายรูปแบบที่เป็นการ "ย้ำ" ให้เห็นผลของการกระทำของมนุษย์ และ "เตือน" ให้มนุษย์เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table width="550" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="550" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">"โรคอุบัติใหม่" มฤตยูตัวร้ายที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  10. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ลิฟต์ในโรงพยาบาลที่จีนร่วม คนในลิฟต์ตายหมด 11 คน

    <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="100%"><tbody><tr><td valign="top"><table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td width="25%">EDIS Code:</td> <td>AC-20100816-27431-CHN</td> </tr> <tr> <td>Date&Time:</td> <td>2010-08-16 09:22:26 [UTC]</td> </tr> <tr> <td>Continent:</td> <td>Asia</td> </tr> <tr> <td>Country:</td> <td>China</td> </tr> <tr> <td>State/Prov.:</td> <td>Province of Jilin, </td> </tr> <tr> <td>Location:</td> <td>Aimin Hospital, </td> </tr> <tr> <td>City:</td> <td>Meihekou City</td> </tr> <tr> <td colspan="2"> Number of dead people: 11
    Damage level: Moderate (Level 2)

    Not confirmed information!
    </td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="right" width="440"> [​IMG] </td> </tr> <tr> <td colspan="2" valign="top"> Description: </td> </tr><tr> <td colspan="2" valign="top"> Eleven people were killed on early Monday morning when an elevator at a hospital construction site in northeast China plunged to the ground, according to state media. The accident happened around 6.35 a.m. local time at the Aimin Hospital construction site in Meihekou City, in the country’s Jilin Province, when anelevator carrying 11 people crashed into the ground. The elevator plunged down from the sixth floor. It cited local authorities as saying that 11 people died after failing to respond to medical treatment.
    </td></tr></tbody></table>
     
  11. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7200 ข่าวสดรายวัน


    โลกร้อนทำข้าวโตช้า

    เจ๊าะแจ๊ะวิทยาศาสตร์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]





    </TD></TR></TBODY></TABLE>หลายคนอาจมองปัญหาโลกร้อนเป็นเรื่องไกลตัว แต่ผลวิจัยล่าสุดจากสหรัฐ ระบุว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นมีผลต่อการเจริญเติบโตของข้าว

    จาร์ร็อด เวลช์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เมืองซานดิเอโก เก็บข้อมูลอุณหภูมินาข้าวแบบทดน้ำของเกษตรกรในภูมิภาคเอเชียจำนวน 6 ประเทศ เป็นเวลา 25 ปี พบว่าอุณหภูมิของนาข้าวทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนเพิ่มสูงขึ้นทุกขณะ ทำให้ข้าวโตช้าลงโดยเฉลี่ยร้อยละ 10-20 สาเหตุเกิดจากความแปรปรวนของอากาศที่ทำให้ต้นข้าวปรับตัวไม่ทัน และต้องดึงสารอาหารไปใช้ในการอยู่รอดมากกว่าผลิตรวงข้าว

    รำลึก147ศพโศกนาฏกรรม"น้ำก้อ" เพชรบูรณ์จัดเสวนาใหญ่รับมือ"น้ำป่า-ดินถล่ม"



    เพชรบูรณ์ - นายเดชอนันต์ ธนานันท์ ผอ.สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ย้อนหลังไปในปี 2544 จังหวัดเพชรบูรณ์เกิดเหตุอุทกภัยน้ำป่าดินโคลนถล่มพื้นที่หมู่บ้านในต.น้ำก้อ และต.น้ำชุน สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างยิ่ง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจึงได้จัดเสวนาเพื่อสร้างจิตสำนึกในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสลดใจซ้ำเป็นรอบที่สองเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เชิงรุกและเปิดโอกาสให้ผู้นำท้องถิ่นและชุมชนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและเผยแพร่ผลงานของหมู่บ้านผ่านสื่อวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่หลายอำเภอของจังหวัดเพชรบูรณ์และได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นจำนวนมาก

    ผอ.สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ในโอกาสที่ช่วงนี้มีฝนฟ้าตกลงมาเป็นจำนวนมากและพื้นที่บางแห่งของเพชรบูรณ์เคยได้รับผลกระทบจากดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก สร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก จึงได้จัดเวทีเสวนา 9 ปี น้ำป่าที่บ้านน้ำก้อ น้ำชุน เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ ศาลาการเปรียญวัดศรีชมชื่น ต.น้ำก้อ อ.หล่มสัก เวลา 14.00-16.00 น. พร้อมถ่ายทอดสดรายการดังกล่าวทางสถานีวิทยุทั้งสองระบบด้วย

    นายเดชอนันต์ เปิดเผยต่อว่า การจัดเวทีเสวนาในครั้งนี้ตรงกับช่วงเวลาที่เหตุการณ์โศกนาฏกรรมน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม เกิดขึ้นที่ ต.น้ำก้อ ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก 11 สิงหาคม 2544 ซึ่งครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 147 ศพ และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากที่หมู่บ้าน ต.ท่าพล และ ต.บุ่งน้ำเต้า ในปี พ.ศ.2543 รวมระยะเวลากว่า 9-10 ปี กับการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ชลประทานจังหวัดเพชรบูรณ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายก อบต.น้ำก้อ นายก อบต.บุ่งน้ำเต้า และนายก อบต.ท่าพล รวมทั้งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวร่วมเสวนาให้ความรู้ในการเตรียมป้องกัน เพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยต้องระวังเป็นพิเศษ

    หมอเผยสุขภาพพระสงฆ์แย่



    พ.ญ.วราภรณ์ ภูมิสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ กล่าวว่า จากการสำรวจสุขภาพพระสงฆ์ทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2549 โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 และ 2 ทำการสำรวจในเขตกรุงเทพฯ ส่วนระยะที่ 3 สำรวจในวัดทุกวัดทั่วประเทศ รวมพระสงฆ์ที่สำรวจทั้งหมด 90,250 รูป จากการสำรวจพบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของพระสงฆ์ไทยอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมาก คือเฉลี่ยร้อยละ 41.3 ขณะที่เฉลี่ยประชาชนไทยสูบบุหรี่อยู่ที่ร้อยละ 20.2 และเมื่อเทียบข้อมูลการสูบบุหรี่ของพระสงฆ์กับข้อมูลการสูบบุหรี่ของประชาชนไทย พบว่าการสูบบุหรี่ของพระสงฆ์สูงกว่า ประชาชนไทยในทุกภาค ยกเว้นภาคเหนือ

    พ.ญ.วราภรณ์ กล่าวด้วยว่า มีพระสงฆ์ไม่ถึงร้อยละ 50 ที่สุขภาพปกติ ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้อยละ 24.3 และมีพระสงฆ์ที่เป็นโรคร้อยละ 29.5 โดยในภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีพระสงฆ์เป็นโรคมากที่สุด ซึ่งโรคส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นโรคที่ไม่ติดต่อ เช่น ความดัน เบาหวาน หลอดเลือด ไขมันในเลือดสูง สาเหตุเกิดจากการฉันอาหาร จึงอยากให้เวลาใส่บาตรพระสงฆ์ หรือนำอาหารไปถวายควรเป็นประเภทผักในปริมาณครึ่งหนึ่งของอาหารที่ถวายทั้งหมด

    ชลประทานแนะ ภาคกลางทำนา



    นายสาทร เรืองจิระอุไร ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท กล่าวว่า สำนักชลประทานที่ 12 รับผิดชอบระบบชลประทาน 5 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี และชัยนาท ช่วงนี้ น้ำกำลังมาเนื่องจากมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง น้ำจากทางเหนือไหลมา จากนครสวรรค์ และจากพื้นที่ตอนบนไหลลงสู่หน้าเขื่อนเจ้าพระยา ขณะนี้จึงต้องทำการเปิดประตูเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำสู่ท้ายน้ำ ขอให้ประชาชนทางท้ายน้ำ ตั้งแต่อำเภอสรรพยา จ.ชัยนาท อำเภออินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เป็นต้นไป ให้ระวังน้ำอาจขึ้นเร็วกว่าปกติ ส่วนทางด้านเหนือเขื่อน จะได้รับน้ำอย่างทั่วถึง ทั้งฝั่งซ้าย ฝั่งขวาของลุ่มน้ำเจ้าพระยา แนะชาวนาสามารถปลูกข้าวกันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะเก็บเกี่ยวในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. สำหรับหน้าฝนนี้น่าจะไม่มีปัญหา อะไร ขณะนี้น้ำในเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในสภาพปกติ อย่างไรก็ตามหากมีฝนตก หนักอย่างต่อเนื่องหลายวันทางภาคเหนือ ทางสำนักชลประทานที่ 12 ยังได้เตรียมการรองรับสภาพน้ำหลากในช่วงนี้ด้วยแล้ว

    ดร.โกร่งชี้กรณีพระวิหาร ทำไมโอกาสไทยแพ้มากกว่าชนะ

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อ 16 ส.ค. ดร.โกร่ง นายวีรพงษ์ รามางกูร เขียนบทความในหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ กล่าวถึงกรณีเขาพระวิหาร ย้อนเหตุการณ์ตั้งแต่ปี2505 ด้วยการตั้งคำถามว่า "ทำไมโอกาสไทยแพ้มากกว่าชนะ" มีใจความว่า

    "เมื่อปี พ.ศ. 2505 ขณะนั้นยังเป็นนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ดูจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ออกปราศรัยทางโทรทัศน์เรื่อง คำพิพากษาของศาลโลก จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ พูดไปควักผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำตาว่าเราจำเป็นต้องปฏิบัติตาม คำพิพากษาของศาลโลกโดยการถอนกำลังออกจากพระวิหาร และต้องคืนโบราณวัตถุกลับไปให้กัมพูชา พร้อมกันนั้นก็ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาและมอบหมายให้สหภาพพม่าเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของทางราชการไทยในพนมเปญและที่เมืองอื่น ๆ

    ทางรถไฟที่ทอดยาวจากหัวลำโพงไปถึงกรุงพนมเปญก็เป็นอันต้องหยุด ประเทศไทยประกาศปิดชายแดน ตั้งแต่นั้นมาทั้ง 2 ประเทศก็หมดความเป็นมิตรต่อกัน แต่ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศตามชายแดน ซึ่งเป็นญาติพี่น้องกันต่างก็ยังไปมาหาสู่ติดต่อค้าขายกันตามปกติ จนนายพลลอนนอลรัฐประหารขับไล่ สมเด็จพระเจ้าสีหนุออกไปร่วมกับฝ่ายเขมรแดง เราจึงรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศกัมพูชาขึ้นมาใหม่ แล้วข่าวคราวเรื่องเขาพระวิหารก็เงียบหายไป

    เมื่อปี 2506 พวกเรานิสิตรัฐศาสตร์ วิชาการปกครอง ต้องเรียนวิชากฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 และบรรพ 6 ว่าด้วยครอบครัวและมรดกกับท่านศาสตราจารย์ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ซึ่งท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ร่วมอยู่ในคณะทนายของฝ่ายไทย หัวหน้าคณะทนายความของไทยเป็นฝรั่งเข้าใจว่าเป็นอเมริกัน ส่วนหัวหน้าทนายความของฝ่ายกัมพูชาเป็นชาวฝรั่งเศส

    พวกเราก็กราบเรียนถามท่านอาจารย์ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ว่า ประเด็นที่ต่อสู้กันนั้นว่าอย่างไร ท่านก็บอกให้พวกเรากลับไปอ่านคำพิพากษาของศาลโลกเสียก่อนแล้วท่านจะอธิบายให้ฟัง

    เมื่ออ่านจบแล้วเราก็เข้าใจขึ้นเป็นอันมาก เพราะคำพิพากษาเขียนเหตุผลไว้อย่างละเอียด ทั้งคำฟ้องร้องของกัมพูชาและคำแก้คดีของฝ่ายไทย รวมทั้งเอกสารสนธิสัญญาแผนที่แนบท้ายสัญญา ลายพระหัตถ์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ทรงมีไปถึงข้าหลวงฝรั่งเศสประจำกัมพูชา เรื่องขออนุญาตเสด็จไปเยี่ยมชมเขาพระวิหาร ภาพถ่ายสมเด็จกับ ม.จ.พูนพิศมัยพระธิดาเสด็จเขาพระวิหาร

    ประเด็นที่ต่อสู้กันก็คือ แผนที่แนบท้ายสนธิสัญญาฉบับปี 1904 ที่ให้เอาสันปันน้ำเป็นเขตแดน แต่แผนที่แนบท้ายใช้มาตราส่วน 1 : 200,000 ขีดมาตามสันปันน้ำ แล้วมาวกเอาปราสาทเขาวิหารไปเป็นของกัมพูชา แล้วจึงวกกลับมาบนสันปันน้ำอีกทีหนึ่ง

    เรารู้ว่าแผนที่นั้นผิดไม่ตรงกับตัวหนังสือในสนธิสัญญาปักปันเขตแดน ค.ศ. 1904 อีกทั้งไทยไม่เคยยอมรับแผนที่ที่ฝรั่งเศส ทำฝ่ายเดียวแล้วส่งมาให้ไทย ไทยรับรองให้ความเห็นชอบเพราะฝ่ายไทยไม่ได้ส่งตัวแทนไปร่วมคณะปักปันเขตแดนตามที่ระบุไว้ในสนธิสัญญา

    แต่ในที่สุดศาลโลกตัดสินว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา เพราะแผนที่ แนบท้าย ค.ศ. 1904 เป็นส่วนหนึ่งของ สนธิสัญญาทั้งในแง่เอกสารและข้อเท็จจริงที่ทางไทยไม่ได้ทักท้วงภายใน 10 ปี อีกทั้งหัวหน้าคณะปักปันเขตแดนของฝ่ายไทยจะเสด็จเยี่ยมปราสาทพระวิหารก็ทรงมีลายพระหัตถ์ขออนุญาตข้าหลวงฝรั่งเศส ข้าหลวงฝรั่งเศสก็ออกมารับเสด็จพร้อมกับชักธงชาติฝรั่งเศสขึ้นสู่ยอดเสา มีการถ่ายรูปร่วมกัน

    อาจารย์ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ท่านเล่าให้พวกเราลูกศิษย์ฟังว่า ท่านรู้แต่แรกแล้วว่าเราคงจะแพ้คดี แต่โดยหน้าที่ที่เป็น คนไทยและจรรยาบรรณของทนายความก็ต้องทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างถึงที่สุด
    ท่านเล่าว่าทางที่ถูกเราไม่ควรตกลงให้กัมพูชานำคดีขึ้นศาลโลก เพราะคดีที่จะขึ้นสู่ศาลโลกได้ทั้งสองฝ่ายต้องยินยอมให้ศาลโลกพิจารณา

    แต่จอมพลสฤษดิ์ท่านต้องการรักษาเกียรติภูมิของชาติว่าเราเป็นชาติอารยะ เป็นสมาชิกที่ดีขององค์การสหประชาชาติ และทนายฝรั่งเชื่อว่าฝ่ายเราจะเป็นฝ่ายชนะ อาจารย์ ม.ร.ว.เสนีย์ท่านเป็นเสียงข้างน้อย เมื่อนายกรัฐมนตรีตัดสินใจแล้วท่านก็ต้องทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ในฐานะที่มีอาชีพทนายความและเป็นคนไทย
    เมื่อฝ่ายเราแพ้คดีแล้ว ก็แปลว่าเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับว่า แผนที่แนบท้ายสนธิสัญญาเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญา มีผลบังคับใช้เหมือนกับกรณีเจดีย์สามองค์ ที่ด่านเจดีย์สามองค์ที่อังกฤษขีดวกเข้ามาทางฝ่ายไทยเป็นปากนกแก้วให้เป็นของพม่า

    ปัญหาก็คือ ความชัดเจนว่าขอบเขตปราสาทพระวิหารนั้นกินขอบเขตพื้นที่ไปถึงไหน เพราะแผนที่ที่ฝรั่งเศสส่งมาให้ไทยเรารับรองหรือทักท้วงนั้นใช้มาตราส่วนย่อมาก ดูได้ไม่ชัด

    คณะรัฐมนตรีในสมัยจอมพลสฤษดิ์จึงตีความคำพิพากษาว่า ขอบเขตของปราสาทพระวิหาร หรือ ′The Temple of Pra Vihar′ (สื่อมวลชนไทย สะกดภาษาอังกฤษตามสำเนียงเขมรว่า The Temple of Preach Vihear ซึ่งไม่ควรสะกดอย่างฝรั่ง ควรสะกดตามสำเนียงไทย หรือสำเนียงแขกเจ้าของภาษาสันสกฤตว่า The Temple of Pra Vihar อาจจะเพราะความไม่รู้หรือไม่ก็เพราะเห่อฝรั่ง)มีขอบเขตแค่ไหน

    ทางฝ่ายกัมพูชาก็ว่า ′สระตาล′ห่างออกมาไกลสองสระที่เป็นที่สรงน้ำของกษัตริย์ขอมข้างหนึ่ง และเป็นที่อาบน้ำชำระร่างกายของพราหมณ์ข้างหนึ่งก่อนขึ้นไปเฝ้าพระอิศวรที่ปราสาท เป็นส่วนหนึ่งของเทวสถานแห่งนี้
    นอกจากนั้น ไกลออกมาถึงสถูปคู่ ซึ่งคงจะหมายถึงประตูทางเข้าพระวิหาร ซึ่งไกลออกมาถึง 2 ก.ม. เป็นเครื่องหมายแสดงขอบเขตของพระวิหาร
    รวมทั้งหมดจึงจะเป็นเทวสถานหรือ พระวิหารแห่งพระอิศวรเจ้าที่สมบูรณ์ เหมือนกับอาณาเขตของวัดคงไม่ใช่เฉพาะพระอุโบสถภายในเขตที่ลงลูกนิมิตและใบเสมา คงเริ่มจากซุ้มประตูภายในกำแพงทั้งหมด ซึ่งอาจจะมีศาลาราย วิหารคต ศาลา กุฏิพระ ฯลฯ ด้วยประกอบเข้าจึงเป็นวัด หรือ ′พุทธสถาน′ หรือ ′พระวิหาร′

    ทางเราก็ตีความว่า คำพิพากษาหมายถึงเฉพาะตัวพระวิหารสิ้นสุดที่บันไดขึ้นวิหารเท่านั้น ดังนั้นพื้นที่รอบพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตรจึงยังเป็นของไทย เขมรบอกไม่ใช่ของไทย กัมพูชาไม่เคยรับรู้ ดังนั้นต่างคนต่างอ้างอธิปไตยเหนือพื้นที่ ดังกล่าวจนทางฝ่ายกัมพูชาต้องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ทางยูเนสโกจึงขอให้เขมรเจรจากับไทยว่าจะร่วมกันพัฒนาอย่างไรให้เป็นเทวสถานที่สมบูรณ์ เพราะทางขึ้นอยู่ทางฝั่งไทย

    หนังสือช่วยจำที่ลงนามโดย รมต. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ปี 2543 ก็ถูกต้องแล้ว หนังสือช่วยจำลงนามโดย รมต.นพดล ปัทมะ ที่ทำให้เขมรยอมรับว่าพื้นที่ 4.6 ตร.ก.ม เป็นพื้นที่ทับซ้อนก็ถูกต้อง หนังสือของ รมต. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์เพื่อปูทางไปในการปักปันเขตแดน ส่วนของ รมต.นพดล ปัทมะ ก็เพื่อนำไปสู่การขึ้นทะเบียนมรดกโลก และร่วมกันพัฒนาให้เป็นมรดกโลก ทั้ง 2 บันทึกมีประโยชน์กับทั้ง 2 ประเทศและของโลกในแง่สันติภาพและวัฒนธรรมร่วมกัน

    ปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นเพราะนักการเมืองที่ไม่รับผิดชอบใช้ประเด็นความขัดแย้งกับเพื่อนบ้านมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองใช้ประหัตประหารกันทางการเมือง โดยอ้างว่าเพื่อประโยชน์ของชาติ แท้จริงแล้วก็เพื่อประโยชน์ของตนเอง เมื่อฝ่ายหนึ่งทำเรื่องให้ง่ายให้เป็นประโยชน์ร่วมกัน อีกฝ่ายต้องการให้เป็นเรื่องยากให้เป็นโทษกับประเทศชาติ อีกฝ่ายหนึ่งก็เป็นนักการเมืองเหมือนกัน มีพรรคฝ่ายค้านเหมือนกัน ก็ใช้กรณีนี้เล่นงานผู้นำของตน เอาอย่างประเทศไทยเรื่องก็เลยทำท่าจะบานปลายไปกันใหญ่

    ดีที่ทหารทั้ง 2 ฝ่ายมีความเป็นอารยะพอ ไม่เถื่อนกระโจนไปตามการเมือง ซึ่งต้องชมเชยกองทัพของทั้ง 2 ประเทศ มิฉะนั้นก็ต้องรบกัน พาลูกหลานชาวบ้านไปตายโดยเปล่าประโยชน์

    สื่อมวลชนของทั้ง 2 ประเทศก็พลอยไปเล่นการเมืองกับเขาด้วย ไม่ทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ ไม่เคยศึกษา ไม่อ่านบันทึกของอาจารย์ ดร.บวรศักดิ์ ดร.ชาญวิทย์ คำพิพากษาของศาลโลกก็คงไม่อ่านอยู่แล้ว

    ถ้าเรื่องไปถึงคณะมนตรีความมั่นคง คณะมนตรีความมั่นคงไม่มีทางเลือกต้องกลับไปที่ศาลโลกให้ตัดสินให้ชัดเจนว่าพื้นที่ 4.6 ตร.ก.ม.เป็นส่วนหนึ่งของปราสาทหรือไม่ เราก็ไม่มีทางเลือกเพราะได้เคยตกลงให้ศาลโลกพิจารณามาแล้ว

    คิดอย่างสามัญสำนึก โอกาสที่เราจะแพ้น่าจะสูงกว่าโอกาสที่จะชนะ ทางที่ดีปล่อยให้คลุมเครือดีกว่าให้ศาลโลกตัดสินอีกครั้ง โดยถือว่าเป็นประโยชน์ร่วมกัน น่าเสียใจที่เราไปเล่นการเมืองกันจนวิถีทางการแก้ปัญหาที่พัฒนามาด้วยดีนั้นกำลังพังทลายลง พอรัฐบาลจะลงก็ต้องหาบันไดลง
    แต่ก็มีคนกำลังจะชักบันไดออกไม่ให้ลง"

    หมอผงะถั่วงอกในปอด



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]



    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 12 ส.ค. บีบีซีรายงานว่า หมอโรงพยาบาลในรัฐแมสซาชูเส็ตส์ สหรัฐ ตกตะลึงหลังเอกซเรย์พบว่า นายรอน ซีฟเดน วัย 75 ปี มีต้นถั่วสูงครึ่งนิ้วงอกในปอดข้างซ้ายหลังจากที่ไออย่างหนักมานานหลายเดือนและหมอวินิจฉัยว่าเป็นถุงลมโป่งพองแต่ตรวจไม่พบมะเร็ง ดร.เจฟฟ์ สปีลเลน หมอที่รักษา กล่าวว่า คาดว่าผู้ป่วยกินถั่วเข้าไปในช่วงไม่กี่เดือนก่อนแต่ถั่วลงไปอยู่ผิดที่และเริ่มงอก หมอผ่าตัดเอาต้นถั่วออกจากปอดให้แล้ว






    ตำรวจอินเดียช็อกสารวัตรสาวแตก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]



    </TD></TR></TBODY></TABLE>สำนักข่าวออเรนจ์นิวส์รายงานว่า เมื่อ 12 ส.ค. เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอินเดียสร้างความแตกตื่นให้กับเพื่อนตำรวจหลังประกาศว่าตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นผู้หญิงและแต่งตัวเป็นผู้หญิงมาทำงาน เรื่องอื้อฉาวถูกกรมตำรวจปิดเป็นความลับ แต่เรื่องมาแดงเมื่อสารวัตรสาวแตกตัดสินใจไปยื่นเรื่องต่อศาลจะขอรับภรรยาเป็นลูกบุญธรรม

    สารวัตรดิกกี้ แพนด้า มือปราบชื่อดังของกรมตำรวจเมืองลักเนา รัฐอุตตรประเทศ สร้างความตกใจให้กับเพื่อนร่วมงานเมื่ออยู่ๆ ลุกขึ้นมาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าผู้หญิงและประกาศกับทุกคนว่าตอนนี้ตนเป็นผู้หญิงแล้วและเตรียมรับภรรยาเป็นลูกบุญธรรม โดยสัญญาว่าจะให้ค่าเลี้ยงดูเดือนละ 15,000 บาท

    "นางวีนา ภรรยาของฉันไม่ควรต้องได้รับความเดือดร้อนที่ฉันเป็นผู้หญิงแล้ว แต่เราอยู่กันในฐานะคู่สามีภรรยาไม่ได้อีกต่อไปเพราะเราเป็นผู้หญิงกันทั้งคู่ ฉันจึงตัดสินใจจะรับเธอเป็นลูกสาวแทน" สารวัตรแพนด้ากล่าว

    [FONT=Tahoma,]แฉจีนจับ4ขวบฝึกยิมนาสติกโหด[/FONT]



    [FONT=Tahoma,]<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG][/FONT]
    [FONT=Tahoma,]ฝึกโหด - นักเรียนยิมนาสติกของโรงเรียนกีฬาในมณฑลเจ้อเจียงของจีนอายุเพียง 4 ขวบต้องโหนบาร์และตีลังกาใช้มือยันร่างเพื่อฝึกความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อแขน ในการฝึกที่เข้มงวดและจริงจังซึ่งทำให้จีนเป็นแชมป์ยิมนาสติกของโลก (เดลี่เมล์)[/FONT]



    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 12 ส.ค. เดลี่เมล์เปิดรายงานเคล็ดลับการฝึกยิมนาสติกสุดโหดของโรงเรียนกีฬาในจีนที่ทำให้จีนครองแชมป์เป็นประเทศที่นักกีฬาคว้าเหรียญทองการแข่งขันยิมนาสติกได้มากที่สุดในโลก โดยจีนฝึกเด็กอายุน้อยตั้งแต่ 4 ขวบ บังคับให้ยืดตัวห้อยโหนที่สูงและดัดตัวอย่างเอาเป็นเอาตาย ขณะที่ทางการจีนยืนยันว่า กฎการคัดตัวเข้าเป็นนักยิมนาสติกที่ปรับปรุงใหม่จะขจัดปัญหาการโกงอายุนักกีฬาที่สร้างความอื้อฉาวให้จีนจากกรณีนักกีฬายิมนาสติกสาวจีนอายุไม่ถึงจนต้องชวดเหรียญจากการแข่งขันโอลิมปิก

    [FONT=Tahoma,]โรงเรียนกีฬาแห่งหนึ่งในเมืองเจียงซิง มณฑลเจ้อเจียง รับเด็กอายุระหว่าง 4-7 ขวบ เข้าฝึกยิมนาสติก ในชั่วโมงการเรียนอาจารย์จะสั่งให้เด็กทำท่าทางต่างๆ ซึ่งฝืนธรรมชาติเพื่อให้ตัวอ่อน[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ทั้งนี้ สหพันธ์ยิมนาสติกสากลและคณะกรรมการโอลิมปิกสากลสั่งยกเลิกผลการแข่งขันของ น.ส.ตง ฟางเซี่ยว นักกีฬายิมนาสติกเหรียญทองของจีนจากการแข่งขันโอลิมปิกซิดนีย์ ออสเตรเลียเมื่อปี 2543 หลังสอบสวนพบว่า อายุเพียง 14 ปี ทั้งที่กฎกำหนดให้นักกีฬาต้องอายุ 16 ปี[/FONT]



    เลขายูเอ็นช็อก หายนะปากีฯจมบาดาล ไม่เคยเจอแรงอย่างนี้

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เอพีรายงานวันที่ 15 ส.ค. ว่า นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ระหว่างเยือนพื้นที่ประสบอุทกภัยร้ายแรงในปากีสถาน ว่า ไม่เคยเจอความเสียหายรุนแรงจากน้ำท่วมเท่ากับที่เห็นในปากีสถานอย่างนี้มาก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ นายบันเคยไปเยือนพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างที่พม่า สมัยโดนพายุนาร์กีส ถล่มเมื่อปี 2551 มีผู้เสียชีวิตราว 138,000 รายและแผ่นดินไหวที่เสฉวนของจีนปีเดียวกันนั้น ที่มีผู้เสียชีวิตเกือบ 90,000 คนมาแล้ว

    นายบันกล่าวเรียกร้องขอให้นานาชาติเร่งส่งความช่วยเหลือปากีสถานโดยด่วน เพราะตอนนี้มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมแล้ว 20 ล้านคน

    "วันนี้เป็นวันที่สะเทือนใจผมมาก ผมจะไม่มีทางลืมความเสียหายและความทุกข์ทรมานที่ได้เห็นอย่างในวันนี้ ผมไปเห็นความเสียหายจากภัยธรรมชาติมานักต่อนัก แต่ไม่เคยเหมือนครั้งนี้" นายบัน กล่าว

    [​IMG]

    [​IMG]


    ดูหนังกันหน่อย http://www.avistaz.com/movies/2010/aftershock-chinese-2010.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2010
  12. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ลิฟท์ร่วง อะป่าว อิอิ
     
  13. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    <CENTER>ตารางสรุปสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ <TABLE border=0 width="100%"><FORM method=post name=form1 action=/DATA/REPORT/php/rid_bigcm.php><TBODY><TR><TD align=right>วันที่ก่อนหน้านี้ <TD align=middle>ข้อมูลล่าสุดวันที่ <INPUT id=sdate class=text value=2010-08-16 size=10 name=sdate> [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> Calendar.setup({ inputField : 'sdate', ifFormat : '%Y-%m-%d', // format of the input field showsTime : false, // will display a time selector button : 'sdate_c' // trigger for the calendar (button ID) }); </SCRIPT> <INPUT class=button value=แสดงข้อมูล type=submit name=submit> <TD>วันที่ถัดไป </FORM></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; mso-border-alt: solid windowtext .5pt; mso-padding-alt: 0pt 5.4pt 0pt 5.4pt" border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR bgColor=lightblue><TD class=td rowSpan=3 align=middle>ภาค
    อ่างเก็บน้ำ เขื่อน </TD><TD class=td rowSpan=3 align=middle>ความจุ
    ที่
    รนก.
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>) </TD><TD class=td colSpan=5 align=middle>ปริมาตรน้ำในอ่างฯ</TD><TD class=td colSpan=4 align=middle>ปริมาตรน้ำไหลลงอ่างฯ</TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>ปริมาณน้ำระบาย</TD></TR><TR bgColor=lightblue><TD class=td rowSpan=2 align=middle>ปี 2552

    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>ปัจจุบัน</TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>ใช้การได้จริง</TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>ค่าเฉลี่ย
    รวมทั้งปี
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>ปริมาตรน้ำ
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td colSpan=2 align=middle>สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 53 </TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>วันนี้
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td rowSpan=2 align=middle>สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. 53
    ม.(ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD></TR><TR bgColor=lightblue><TD class=td align=middle>ปริมาตรน้ำ

    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle>% เทียบ
    รนก.
    </TD><TD class=td align=middle>ปริมาตรน้ำ
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle>% เทียบกับ
    ใช้ได้ทั้งอ่างฯ
    </TD><TD class=td align=middle>ปริมาตร
    (ล้าน ม.<SUP>3</SUP>)
    </TD><TD class=td align=middle>% เทียบกับ
    ค่าเฉลี่ยทั้งปี
    </TD></TR><TR><TD class=td>ภาคเหนือ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ภูมิพล (2) <TD class=td align=right> 13,462 <TD class=td align=right> 6,164 <TD class=td align=right> 4,279 <TD class=td align=right> 32 <TD class=td align=right> 479 <TD class=td align=right> 4 <TD class=td align=right> 5,602 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 589 <TD class=td align=right> 11 <TD class=td align=right> 3.00 <TD class=td align=right> 4,263 <TR><TD class=td>สิริกิติ์ (2) <TD class=td align=right> 9,510 <TD class=td align=right> 5,152 <TD class=td align=right> 4,387 <TD class=td align=right> 46 <TD class=td align=right> 1,537 <TD class=td align=right> 16 <TD class=td align=right> 5,391 <TD class=td align=right> 63 <TD class=td align=right> 2,202 <TD class=td align=right> 41 <TD class=td align=right> 5.49 <TD class=td align=right> 3,046 <TR><TD class=td>แม่งัด <TD class=td align=right> 265 <TD class=td align=right> 125 <TD class=td align=right> 125 <TD class=td align=right> 47 <TD class=td align=right> 103 <TD class=td align=right> 39 <TD class=td align=right> 332 <TD class=td align=right> 14 <TD class=td align=right> 106 <TD class=td align=right> 32 <TD class=td align=right> 0.08 <TD class=td align=right> 87 <TR><TD class=td>กิ่วลม <TD class=td align=right> 112 <TD class=td align=right> 64 <TD class=td align=right> 82 <TD class=td align=right> 73 <TD class=td align=right> 78 <TD class=td align=right> 70 <TD class=td align=right> 281 <TD class=td align=right> 12 <TD class=td align=right> 244 <TD class=td align=right> 87 <TD class=td align=right> 23.45 <TD class=td align=right> 247 <TR><TD class=td>แม่กวง <TD class=td align=right> 263 <TD class=td align=right> 30 <TD class=td align=right> 52 <TD class=td align=right> 20 <TD class=td align=right> 38 <TD class=td align=right> 14 <TD class=td align=right> 186 <TD class=td align=right> 2 <TD class=td align=right> 56 <TD class=td align=right> 30 <TD class=td align=right> 0.05 <TD class=td align=right> 76 <TR><TD class=td>กิ่วคอหมา <TD class=td align=right> 170 <TD class=td align=right> 134 <TD class=td align=right> 61 <TD class=td align=right> 36 <TD class=td align=right> 55 <TD class=td align=right> 32 <TD class=td align=right> 297 <TD class=td align=right> 3 <TD class=td align=right> 43 <TD class=td align=right> 15 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 89 <TR><TD class=td>แควน้อย <TD class=td align=right> 769 <TD class=td align=right> 154 <TD class=td align=right> 243 <TD class=td align=right> 32 <TD class=td align=right> 207 <TD class=td align=right> 27 <TD class=td align=right> 1,653 <TD class=td align=right> 6 <TD class=td align=right> 311 <TD class=td align=right> 19 <TD class=td align=right> 0.43 <TD class=td align=right> 671 <TR><TD class=td_gray>รวมภาคเหนือ <TD class=td_gray align=right> 24,551 <TD class=td_gray align=right> 11,823 <TD class=td_gray align=right> 9,229 <TD class=td_gray align=right> 38 <TD class=td_gray align=right> 2,497 <TD class=td_gray align=right> 29 <TD class=td_gray align=right> 13,742 <TD class=td_gray align=right> 148 <TD class=td_gray align=right> 3,551 <TD class=td_gray align=right> 26 <TD class=td_gray align=right> 32.50 <TD class=td_gray align=right> 8,479 <TR><TD class=td>ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ลำปาว <TD class=td align=right> 1,430 <TD class=td align=right> 899 <TD class=td align=right> 461 <TD class=td align=right> 32 <TD class=td align=right> 376 <TD class=td align=right> 26 <TD class=td align=right> 1,985 <TD class=td align=right> 20 <TD class=td align=right> 405 <TD class=td align=right> 20 <TD class=td align=right> 4.66 <TD class=td align=right> 1,006 <TR><TD class=td>ลำตะคอง <TD class=td align=right> 314 <TD class=td align=right> 133 <TD class=td align=right> 91 <TD class=td align=right> 29 <TD class=td align=right> 64 <TD class=td align=right> 20 <TD class=td align=right> 270 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 65 <TD class=td align=right> 24 <TD class=td align=right> 0.35 <TD class=td align=right> 119 <TR><TD class=td>ลำพระเพลิง <TD class=td align=right> 110 <TD class=td align=right> 26 <TD class=td align=right> 53 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 52 <TD class=td align=right> 47 <TD class=td align=right> 184 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 35 <TD class=td align=right> 19 <TD class=td align=right> 0.35 <TD class=td align=right> 34 <TR><TD class=td>น้ำอูน <TD class=td align=right> 520 <TD class=td align=right> 265 <TD class=td align=right> 148 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 105 <TD class=td align=right> 20 <TD class=td align=right> 443 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 40 <TD class=td align=right> 9 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 75 <TR><TD class=td>อุบลรัตน์ (2) <TD class=td align=right> 2,432 <TD class=td align=right> 659 <TD class=td align=right> 975 <TD class=td align=right> 40 <TD class=td align=right> 394 <TD class=td align=right> 16 <TD class=td align=right> 2,271 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 636 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 10.31 <TD class=td align=right> 653 <TR><TD class=td>สิรินธร (2) <TD class=td align=right> 1,966 <TD class=td align=right> 1,291 <TD class=td align=right> 946 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 115 <TD class=td align=right> 6 <TD class=td align=right> 1,664 <TD class=td align=right> 6 <TD class=td align=right> 302 <TD class=td align=right> 18 <TD class=td align=right> 1.79 <TD class=td align=right> 494 <TR><TD class=td>จุฬาภรณ์ (2) <TD class=td align=right> 164 <TD class=td align=right> 58 <TD class=td align=right> 78 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 34 <TD class=td align=right> 21 <TD class=td align=right> 165 <TD class=td align=right> 0 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 29 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 76 <TR><TD class=td>ห้วยหลวง <TD class=td align=right> 118 <TD class=td align=right> 66 <TD class=td align=right> 60 <TD class=td align=right> 51 <TD class=td align=right> 55 <TD class=td align=right> 47 <TD class=td align=right> 161 <TD class=td align=right> 4 <TD class=td align=right> 47 <TD class=td align=right> 29 <TD class=td align=right> 0.05 <TD class=td align=right> 28 <TR><TD class=td>ลำนางรอง <TD class=td align=right> 121 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 46 <TD class=td align=right> 38 <TD class=td align=right> 43 <TD class=td align=right> 36 <TD class=td align=right> 30 <TD class=td align=right> 0 <TD class=td align=right> 13 <TD class=td align=right> 43 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 13 <TR><TD class=td>มูลบน <TD class=td align=right> 141 <TD class=td align=right> 76 <TD class=td align=right> 37 <TD class=td align=right> 26 <TD class=td align=right> 30 <TD class=td align=right> 21 <TD class=td align=right> 82 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 11 <TD class=td align=right> 14 <TD class=td align=right> 0.04 <TD class=td align=right> 49 <TR><TD class=td>น้ำพุง (2) <TD class=td align=right> 165 <TD class=td align=right> 59 <TD class=td align=right> 74 <TD class=td align=right> 45 <TD class=td align=right> 65 <TD class=td align=right> 39 <TD class=td align=right> 103 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 46 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 0.57 <TD class=td align=right> 19 <TR><TD class=td>ลำแซะ <TD class=td align=right> 275 <TD class=td align=right> 179 <TD class=td align=right> 119 <TD class=td align=right> 43 <TD class=td align=right> 112 <TD class=td align=right> 41 <TD class=td align=right> 193 <TD class=td align=right> 3 <TD class=td align=right> 46 <TD class=td align=right> 24 <TD class=td align=right> 0.13 <TD class=td align=right> 118 <TR><TD class=td_gray>รวมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ <TD class=td_gray align=right> 7,756 <TD class=td_gray align=right> 3,755 <TD class=td_gray align=right> 3,088 <TD class=td_gray align=right> 40 <TD class=td_gray align=right> 1,445 <TD class=td_gray align=right> 54 <TD class=td_gray align=right> 7,551 <TD class=td_gray align=right> 82 <TD class=td_gray align=right> 1,693 <TD class=td_gray align=right> 22 <TD class=td_gray align=right> 18.25 <TD class=td_gray align=right> 2,685 <TR><TD class=td>ภาคกลาง <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ป่าสักฯ <TD class=td align=right> 960 <TD class=td align=right> 289 <TD class=td align=right> 148 <TD class=td align=right> 15 <TD class=td align=right> 145 <TD class=td align=right> 15 <TD class=td align=right> 2,200 <TD class=td align=right> 11 <TD class=td align=right> 211 <TD class=td align=right> 10 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 714 <TR><TD class=td>กระเสียว <TD class=td align=right> 240 <TD class=td align=right> 106 <TD class=td align=right> 115 <TD class=td align=right> 48 <TD class=td align=right> 75 <TD class=td align=right> 31 <TD class=td align=right> 256 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 126 <TD class=td align=right> 49 <TD class=td align=right> 0.06 <TD class=td align=right> 181 <TR><TD class=td>ทับเสลา <TD class=td align=right> 160 <TD class=td align=right> 26 <TD class=td align=right> 41 <TD class=td align=right> 26 <TD class=td align=right> 33 <TD class=td align=right> 21 <TD class=td align=right> 124 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 19 <TD class=td align=right> 15 <TD class=td align=right> <TD class=td align=right> 45 <TR><TD class=td_gray>รวมภาคกลาง <TD class=td_gray align=right> 1,360 <TD class=td_gray align=right> 421 <TD class=td_gray align=right> 304 <TD class=td_gray align=right> 22 <TD class=td_gray align=right> 253 <TD class=td_gray align=right> 27 <TD class=td_gray align=right> 2,580 <TD class=td_gray align=right> 13 <TD class=td_gray align=right> 355 <TD class=td_gray align=right> 14 <TD class=td_gray align=right> 0.06 <TD class=td_gray align=right> 940 <TR><TD class=td>ภาคตะวันตก <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>ศรีนครินทร์ (2) <TD class=td align=right> 17,745 <TD class=td align=right> 14,630 <TD class=td align=right> 12,810 <TD class=td align=right> 72 <TD class=td align=right> 2,545 <TD class=td align=right> 14 <TD class=td align=right> 4,339 <TD class=td align=right> 20 <TD class=td align=right> 914 <TD class=td align=right> 21 <TD class=td align=right> 19.15 <TD class=td align=right> 3,550 <TR><TD class=td>วชิราลงกรณ (2) <TD class=td align=right> 8,860 <TD class=td align=right> 7,205 <TD class=td align=right> 3,711 <TD class=td align=right> 42 <TD class=td align=right> 699 <TD class=td align=right> 8 <TD class=td align=right> 5,369 <TD class=td align=right> 22 <TD class=td align=right> 805 <TD class=td align=right> 15 <TD class=td align=right> 3.04 <TD class=td align=right> 3,722 <TR><TD class=td_gray>รวมภาคตะวันตก <TD class=td_gray align=right> 26,605 <TD class=td_gray align=right> 21,835 <TD class=td_gray align=right> 16,521 <TD class=td_gray align=right> 62 <TD class=td_gray align=right> 3,244 <TD class=td_gray align=right> 45 <TD class=td_gray align=right> 9,708 <TD class=td_gray align=right> 42 <TD class=td_gray align=right> 1,719 <TD class=td_gray align=right> 18 <TD class=td_gray align=right> 22.19 <TD class=td_gray align=right> 7,272 <TR><TD class=td>ภาคตะวันออก <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>บางพระ <TD class=td align=right> 117 <TD class=td align=right> 40 <TD class=td align=right> 49 <TD class=td align=right> 42 <TD class=td align=right> 37 <TD class=td align=right> 32 <TD class=td align=right> 44 <TD class=td align=right> 0 <TD class=td align=right> 16 <TD class=td align=right> 36 <TD class=td align=right> 0.12 <TD class=td align=right> 28 <TR><TD class=td>หนองปลาไหล <TD class=td align=right> 164 <TD class=td align=right> 118 <TD class=td align=right> 134 <TD class=td align=right> 82 <TD class=td align=right> 120 <TD class=td align=right> 73 <TD class=td align=right> 203 <TD class=td align=right> 0 <TD class=td align=right> 64 <TD class=td align=right> 31 <TD class=td align=right> 0.35 <TD class=td align=right> 110 <TR><TD class=td>คลองสียัด <TD class=td align=right> 420 <TD class=td align=right> 179 <TD class=td align=right> 172 <TD class=td align=right> 41 <TD class=td align=right> 142 <TD class=td align=right> 34 <TD class=td align=right> 204 <TD class=td align=right> 5 <TD class=td align=right> 114 <TD class=td align=right> 56 <TD class=td align=right> 0.11 <TD class=td align=right> 167 <TR><TD class=td>คลองท่าด่าน <TD class=td align=right> 224 <TD class=td align=right> 106 <TD class=td align=right> 84 <TD class=td align=right> 38 <TD class=td align=right> 79 <TD class=td align=right> 35 <TD class=td align=right> 337 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 99 <TD class=td align=right> 29 <TD class=td align=right> 0.22 <TD class=td align=right> 183 <TR><TD class=td>ประแสร์ <TD class=td align=right> 248 <TD class=td align=right> 149 <TD class=td align=right> 175 <TD class=td align=right> 71 <TD class=td align=right> 155 <TD class=td align=right> 63 <TD class=td align=right> 295 <TD class=td align=right> 3 <TD class=td align=right> 104 <TD class=td align=right> 35 <TD class=td align=right> 0.12 <TD class=td align=right> 106 <TR><TD class=td_gray>รวมภาคตะวันออก <TD class=td_gray align=right> 1,173 <TD class=td_gray align=right> 592 <TD class=td_gray align=right> 614 <TD class=td_gray align=right> 52 <TD class=td_gray align=right> 533 <TD class=td_gray align=right> 90 <TD class=td_gray align=right> 1,083 <TD class=td_gray align=right> 10 <TD class=td_gray align=right> 396 <TD class=td_gray align=right> 37 <TD class=td_gray align=right> 0.92 <TD class=td_gray align=right> 593 <TR><TD class=td>ภาคใต้ <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TD class=td> <TR><TD class=td>แก่งกระจาน <TD class=td align=right> 710 <TD class=td align=right> 559 <TD class=td align=right> 196 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 129 <TD class=td align=right> 18 <TD class=td align=right> 929 <TD class=td align=right> 3 <TD class=td align=right> 259 <TD class=td align=right> 28 <TD class=td align=right> 1.67 <TD class=td align=right> 437 <TR><TD class=td>ปราณบุรี <TD class=td align=right> 347 <TD class=td align=right> 285 <TD class=td align=right> 93 <TD class=td align=right> 27 <TD class=td align=right> 33 <TD class=td align=right> 10 <TD class=td align=right> 436 <TD class=td align=right> 1 <TD class=td align=right> 55 <TD class=td align=right> 13 <TD class=td align=right> 1.56 <TD class=td align=right> 248 <TR><TD class=td>รัชชประภา (2) <TD class=td align=right> 5,639 <TD class=td align=right> 4,772 <TD class=td align=right> 3,489 <TD class=td align=right> 62 <TD class=td align=right> 2,137 <TD class=td align=right> 38 <TD class=td align=right> 2,598 <TD class=td align=right> 7 <TD class=td align=right> 940 <TD class=td align=right> 36 <TD class=td align=right> 4.38 <TD class=td align=right> 2,124 <TR><TD class=td>บางลาง (2) <TD class=td align=right> 1,454 <TD class=td align=right> 965 <TD class=td align=right> 632 <TD class=td align=right> 43 <TD class=td align=right> 372 <TD class=td align=right> 26 <TD class=td align=right> 1,545 <TD class=td align=right> 5 <TD class=td align=right> 545 <TD class=td align=right> 35 <TD class=td align=right> 3.21 <TD class=td align=right> 1,063 <TR><TD class=td_gray>รวมภาคใต้ <TD class=td_gray align=right> 8,150 <TD class=td_gray align=right> 6,581 <TD class=td_gray align=right> 4,410 <TD class=td_gray align=right> 54 <TD class=td_gray align=right> 2,671 <TD class=td_gray align=right> 69 <TD class=td_gray align=right> 5,508 <TD class=td_gray align=right> 16 <TD class=td_gray align=right> 1,798 <TD class=td_gray align=right> 33 <TD class=td_gray align=right> 10.82 <TD class=td_gray align=right> 3,873 <TR class=td_gray><TD class=td>รวมทั้งประเทศ <TD class=td_gray align=right> 69,595 <TD class=td_gray align=right> 45,007 <TD class=td_gray align=right> 34,166 <TD class=td_gray align=right> 49 <TD class=td_gray align=right> 10,643 <TD class=td_gray align=right> 45 <TD class=td_gray align=right> 40,172 <TD class=td_gray align=right> 312 <TD class=td_gray align=right> 9,512 <TD class=td_gray align=right> 24 <TD class=td_gray align=right> 84.74 <TD class=td_gray align=right> 23,842</TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD>หมายเหตุ</TD><TD>รนก. หมายถึง ระดับน้ำเก็บกักของอ่างฯ </TD><TD>ศูนย์ประสานและติดตามสภานการณ์น้ำ กรมชลประทาน </TD></TR><TR><TD> </TD><TD>อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีความจุ 960 ล้านลูกบาศก์เมตรที่ระดับน้ำสูงสุด </TD><TD>โทร./โทรสาร 0-2243-6956,0-2241-3350 </TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD><TD>www.rid.go.th</TD><TR><TD>จัดทำโดย : </TD><TD colSpan=2>สถาบันสารสนเทศทร้ัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ไข้หวัด 2009 ยังระบาด ที่นิวซีแลนด์ ตายแล้ว 6 ราย

    [​IMG]

    ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในนิวซีแลนด์ เพิ่มเป็น 6 ราย ทั้งๆ ที่องค์การอนามัยโลกเพิ่งประกาศลดระดับการระบาดรุนแรงของโรคร้ายลง...

    ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในนิวซีแลนด์ เพิ่มเป็น 6 ราย ทั้งๆ ที่องค์การอนามัยโลกเพิ่งประกาศลดระดับการระบาดรุนแรงของโรคร้ายลง

    ทั้งนี้ ผู้ป่วย 2 ราย เพิ่งเสียชีวิตในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งยังมีผู้ป่วยเฉพาะปีนี้แล้ว 389 ราย ในจำนวนนั้น 59 ราย อยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก

    ขณะเดียวกัน วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในนิวซีแลนด์เหลืออยู่เพียง 6,400 ชุด ทั้งๆที่ประชากรทั้งประเทศ 4.4 ล้านคน

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2553

    เตือนเด็ก 3.5 ล้านคน เสี่ยงโรคระบาด จากน้ำท่วมปากีสถาน

    [​IMG]

    ยูเอ็นเรียกร้องให้ทั่วโลกเร่งระดมทุนช่วยเหลือเหยื่อน้ำท่วมในปากีสถาน หลังไปเยี่ยมผู้ประสบภัย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุ 1,600 คน และเด็กอีก 3.5 ล้านคนเสี่ยงติดโรคระบาด...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายบัน คี มูน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้ทั่วโลกเร่งระดมทุนช่วยเหลือเหยื่อน้ำท่วมในปากีสถานเมื่อวันที่ 16 ส.ค. หลังไปเยี่ยมผู้ประสบภัยในรัฐปัญจาบ และระบุว่าไม่เคยพบเห็นภัยพิบัติร้ายแรงเท่านี้มาก่อน

    ส่วนยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุ 1,600 คน มีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 20 ล้านคน เด็กกว่า 3.5 ล้านคนเสี่ยงติดโรคระบาด ทางการยังเตือนว่าน้ำจะท่วมหนักกว่าเดิม ขณะท่ีความช่วยเหลือล่าช้ามาก บางพื้นท่ีต้องใช้ลาขนเครื่องบรรเทาทุกข์

    ส่วนที่รัสเซียซึ่งเผชิญไฟป่าครั้งร้ายแรง ก็มีพายุพัดถล่มภาคตะวันตกเฉียงเหนือซ้ำอีก ทำให้ไฟฟ้าดับและเกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2553

    รัสเซียห้ามส่งออกธัญพืชถึงสิ้นปี หวั่นไม่พอบริโภค

    [​IMG]

    รัฐบาลรัสเซียออกมาตรการห้ามส่งออกเมล็ดธัญพืชจนถึงส้ินปีนี้ ชี้ภัยแล้งและวิกฤติไฟป่าทำประชาชนขาดแคลนธัญพืชสำหรับบริโภคภายในประเทศ...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ว่า รัสเซียสั่งห้ามการส่งเมล็ดธัญพืชออกนอกประเทศจนกว่าจะถึงสิ้นปีนี้ หลังจากที่ประเทศกำลังประสบปัญหาภัยแล้งและการลุกลามของไฟป่าทั่วประเทศหลายร้อยจุด

    รายงานข่าวระบุว่า กระทรวงเกษตรรัสเซียออกมาแถลงที่กรุงมอสโก โดยระบุว่ามาตรการห้ามส่งออกเมล็ดธัญพืชดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นเนื่องจากการประเมินล่าสุดของทางกระทวงพบว่าภัยแล้งและสถานการณ์ไฟป่า ที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบหลายปีอาจทำให้รัสเซียซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศ ผู้ผลิตข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และข้าวไรย์รายใหญ่ที่สุดของโลก อาจมีธัญพืชไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศในปีนี้

    แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลรัสเซียออกมาเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟต้องการให้มาตรการห้ามส่งเมล็ดพืชดังกล่าวมีผลบังคับใช้ถึงสิ้นปีนี้เท่านั้น เนื่องจากเกรงว่ามาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของประเทศ

    อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่านายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน กลับเตรียมเสนอให้มีการห้ามส่งออกเมล็ดธัญพืชเช่นนี้ต่อไปจนถึงปี 2011 เนื่องจากปูตินเชื่อว่าถึงแม้รัฐบาลจะห้ามการส่งออกเมล็ดธัญพืชออกนอกประเทศ จนถึงช่วงปลายปีนี้ แต่รัสเซียก็ยังจะมีปริมาณธัญพืชสำหรับบริโภคภายในประเทศน้อยกว่าความ ต้องการที่แท้จริงอยู่อีกถึงเกือบ 20 ล้านตัน

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2553

    โรงงานดอกไม้ไฟของจีนระเบิด ตายแล้ว 13 ศพ เจ็บเกือบ 150 คน

    [​IMG]

    เกิดเหตุโรงงานผลิตดอกไม้ไฟที่จีนระเบิด คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อยกว่า 13 ศพ เจ็บเกือบ 150 คน แรงระเบิดทำให้เศษกระจกหน้าต่างโรงงานแตกกระเด็นไปไกลถึง 1 กม. ชาวบ้านกว่า 2,000 คน เร่งอพยพหนีตาย...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 16 ส.ค. เกิดเหตุโรงงานผลิตดอกไม้ไฟระเบิดในมลฑลเหอหลงเจียง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 13 ราย บาดเจ็บมากกว่า 148 คน

    เหตุระเบิดเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า แรงระเบิดทำให้เศษกระจกหน้าต่างโรงงานแตกกระเด็นไกลจากโรงงานถึง 1 กม. ชาวบ้านบริเวณใกล้โรงงานถูกอพยพออกนอกพื้นที่อันตรายมากกว่า 2,000 คน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมกำลังดับเพลิงมากกว่า 1,700 นาย

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 648.jpg
      648.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.1 KB
      เปิดดู:
      1,649
    • 649.jpg
      649.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.7 KB
      เปิดดู:
      1,894
    • 650.jpg
      650.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.2 KB
      เปิดดู:
      1,719
    • 651.jpg
      651.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.3 KB
      เปิดดู:
      1,727
  15. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    สอบถามหน่อยครับ

    คำว่า "ธรรมะ" ภาษาอังกฤษ เขียนอย่างไรครับ (หมายถึงว่าฝรั่งเขาเรียกอย่างไรครับ) หรือว่า ทับศัพท์ ครับ
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตอนนี้คือยุดสุดท้ายเริ่มแล้ว !!!
    (บทความนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาน)

    [​IMG]

    [​IMG]

    ข้อความจาก โรเบิร์ต์จี บาร์บาเรีย

    หลังจากได้มีประสบการณ์ ครั้งแรกกับพระเจ้าในปี 1997, ข้าพเจ้าได้พูดกับพระเจ้าทุกวัน และการสนทนาของพวกเรานั้น พระเจ้าได้เตือนข้าพเจ้าในความทรงจำเกี่ยวกับ เหตุการณ์การรอคอย การถูกรับไปกลางอากาศจะเกิดขึ้นในไม่ช้า หมายสำคัญ เกือบทั้งหมดได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับยุคสุดท้าย ในพระคำภีร์ไบเบิ้ลได้บันทึกไว้ ดังนั้นมีคำถามเกิดขึ้นว่า เป็นวันและ เวลาไหน ที่จะมีการถูกรับไปกลางอากาศจะมาถึง เพราะว่าแน่นอนที่สุดว่าไกล้เข้ามา จนถึงกับกำลังเคาะประตู

    พระเจ้าได้บอกข้าพเจ้าเกี่ยวกับจำนวน ของคนที่ได้ถูกรับไปในกลางอากาศ รอบแรก ซึ่งการถูกรับไปกลางอากาศ สมาชิกในโบสถ์ มีจำนวนน้อยมาก(อยู่นอกโบสถ์จะถูกรับไปมากกว่า) และพระคำภีร์ไบเบิ้ลได้เรียกว่า เจ้าสาวของพระคริสต์ ซึ่งประกอบด้วย ผู้ใหญ่ เพียง 800,000 คน และเด็ก(ต่ำกว่ายี่สิบ) 9,600,000 คน เมื่อรวมเปรียบเทียบ 10,400,000 คน( 800,000 + 9,600,000 = 10,400,000 ) กับจำนวนผู้คนในโลกทั้งหมดมากกว่า 6,000,000,000 คน ซึ่งจำนวนนี้เป็นแสดงให้เห็นว่า น้อยกว่าหนึ่งในสิบ ของหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก

    สำหรับจำนวนประชากรที่เหลือในโลก ยังคงหลงอยู่ภายในโลก ที่ต้องเข้าสู่ 21 เดือน ของการทุกข์ยากลำบากในโลก( Great Tribulation ) ขณะที่รอคอยรอบสอง ของการถูกรับไปกลางอากาศ (จะมาถึง) ซึ่งเรียกว่าการถูกรับไปกลางอากาศกับธรรมมิกชนผู้บริสุทธิ์(ไม่มีมลทินใดๆ) 144,000 คน

    ร่วมกับ 389,600,000 คน ในพระคำไบเบิ้ล เรียกว่า แขกรับเชิญมางานเลี้ยง(ที่ถูกเลือก) นี้คือคนทั้งหมดที่จะถูกรับไปจากโลก ขณะมีชีวิตอยู่ ผู้ซึ่งที่ได้เข้าอาณาจักรสวรรค์ หลังจากที่ มิลลิเนียม (หนึ่งพันปีได้เสร็จสิ้น ) ดังนั้นตรงกันข้ามกับสิ่งที่ได้สอนจากที่โบสถ์ เพราะผู้คนที่ได้เข้าสวรรค์ ท่ามกลางคนที่มีชีวิตอยู่ในระหว่างยุคสุดท้าย ประมาณ 400,000,000 จากประชากรโลกมากกว่าขณะนี้ 6,000,000,000 คน

    ผู้ที่เหลืออยู่บนโลก หลังจากไม่การถูกรับไปกลางอากาศรอบสอง กับธรรมิกชนที่ไร้มลทิน ประมาณ 2,000,000,000, หนึ่งในสามของประชากรโลก รอการฟื้นคืนชีพ จากความตายและมีชีวิตอีกครั้ง และพระเยซูคริสต์จะได้ปกครองในระหว่างหนึ่งพันปี สวรรค์บนโลกซึ่งเรียกว่า มิลลิเนียม คนเหล่านี้ เรียกจากพระคำภีร์ไบเบิ้ลว่า ผู้ที่วิญญาณถูกตัดหัว และพวกเขาไม่ได้เข้าสวรรค์ หลังจากหนึ่งพันปี ที่ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขาจะกลายเป็นผงคลีดิน

    ในโลก ผู้คนเหล่านี้ที่ถูกตัดหัว เพราะปฎิเสธการรับ เครื่องหมายของสัตว์ร้าย (หก - หก - หก ( 666 ) ที่มือขวา และที่หน้าฝาก) ที่จะมีชีวิต และได้ร่วมเห็นการปกครองของพระเยซูคริสต์ 1,000 ปี ซึ่งเป็นรางวัลที่เขาไม่ได้ปฎิเสธพระนามของพระเจ้าจึงได้ถูกฆ่า และเห็นการปรากฏของพระเยซูคริสต์ (เสด็จมากลางอากาศที่ทุกคนเห็นว่าเป็นพระเจ้า)

    และหนังสือ 3 เล่ม ที่ข้าพเจ้าได้เขียน สำหรับพระเจ้า คือกุญแจของพวกท่านที่จะไม่พลาดการถูกรับกลางอากาศ เพราะหนังสื่อสามเล่มเป็นการช่วยเหลือ ที่ท่านสามารถจะได้รับ น้ำแห่งชีวิต ซึ่งประกอบด้วยพระคำของเจ้า ซึ่งเป็นน้ำแห่งชีวิต จำเป็นสำหรับ การบัพติสมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ของท่านและความรอดด้วยพระคุณ เรียกตามพระเยซูคริสต์ ในพระคำภีร์ไบเบิ้ลว่า คำสัญญาของพระบิดา

    โรเบิร์ต์จี บาร์บาเรีย (ผู้เขียนข้อความ)

    ที่มา http://purifysoul.com

    การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ

    [​IMG]</O>

    คำบรรยายภาพ:

    ชาวจักรวาลได้มีการเตรียมการอพยพชาวโลกมาอย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่อาจจะมีกระบวนการที่ซับซ้อนในการชำระโลกเกิดขึ้น การอพยพสัตว์ต่างๆ ได้เริ่มดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปบ้างแล้ว เพื่อให้เสร็จสิ้นในเวลาไม่กี่ปี

    ท่านได้ถามเราใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ ท่านรู้แล้วนี่ที่มีผู้เขียนไว้ว่า “ลูกไฟจะตกจากฟากฟ้า” นั่นแหละคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นตอนนั้น ชั้นบรรยากาศของโลกจะถูกเผาไหม้ เพราะที่นั่นเต็มไปด้วยเมฆสีดำของความคิดด้านลบที่พวกท่านสร้างขึ้นมา

    แกนของโลกจะถูกกลับด้าน และแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงจะทำให้แผ่นทวีปต่างๆเคลื่อนตัว ไฟจะเผาไหม้กระแสพลังความคิดด้านลบทั้งหลายให้หมดไป และเมื่อนั้นโลกก็จะสามารถเข้าสู่ยุกต์ของมิติที่สูงขึ้นได้

    ชาวโลกที่ถูกช่วยชีวิตจะถูกย้ายให้ไปอยู่ดาวเคราะห์ดวงอื่น ที่ถูกเตรียมไว้ แล้วเป็นการชั่วคราว ซึ่งที่นั่นชาวโลกจะถูกสอน จากนั้นพวกเขาก็จะถูกพากลับลงมาอยู่บนโลกอีกครั้งหนึ่ง จิตวิญญาณของพระคริสต์จะนำพาพวกเขาลงมาสู่โลกยุกต์ใหม่แห่งดาว Aquarius

    เราขออวยพรให้แก่ท่านทุกคน<O></O>
    Ashtar Sheran

    ที่มา http://palungjit.org/threads/การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก-เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก-ของมิตรจากต่างพิภพ-และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก.193101/page-4
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • author_small.jpg
      author_small.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.8 KB
      เปิดดู:
      4,087
    • key-Heaven.jpg
      key-Heaven.jpg
      ขนาดไฟล์:
      142.7 KB
      เปิดดู:
      2,531
    • obr1088.jpg
      obr1088.jpg
      ขนาดไฟล์:
      315.8 KB
      เปิดดู:
      4,260
    • pozadi_05_en.jpg
      pozadi_05_en.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103.7 KB
      เปิดดู:
      109
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2010
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    Dhamma = ธรรมะ
    Dhamma teachings = พระธรรมคำสอน

     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    Knowing ภาพยนต์ทำนายอนาคตโลก?

    [​IMG]

    การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ ?

    เนื้อเรื่องย่อ

    ในงานฉลองเปิดโรงเรียนประถมแห่งใหม่ เด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งได้วาดภาพอะไรก็ได้ตามแต่ใจ แล้วนำไปฝังดินเอาไว้ ในกลุ่มนักเรียนดังกล่าวนั้นมีเด็กหญิงปริศนาคนหนึ่ง ที่เขียนตัวเลขจำนวนมากลงบนกระดาษ แทนที่จะวาดรูปเหมือนกับเพื่อนๆของเธอ

    50 ปีต่อมา เด็กนักเรียนกลุ่มใหม่ได้รับคำสั่งให้ขุดเอาภาพวาดเหล่านั้นขึ้นมาศึกษา กระดาษปริศนาของเด็กหญิงคนนั้นตกอยู่ในมือของ คาเลบ โคเอสต์เลอร์ (แชนด์เลอร์ แคนเตอร์เบอรี) จากนั้นคุณครู จอห์น โคเอสต์เลอร์ (นิโคลัส เคจ) พ่อของ คาเลบ ก็พบว่า ตัวเลขเหล่านั้นเป็นรหัสลับที่ทำนายมหันตภัยที่เกิดขึ้นมา 50 ปีที่แล้วได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ วันเดือนปีที่เกิดเหตุ และยอดผู้เสียชีวิต

    จอห์น ตั้งใจศึกษากระดาษและตัวเลขเหล่านั้นอย่างจริงจัง เขาจึงรู้ว่าเอกสารนั้นยังได้ทำนายเหตุการณ์ไว้อีก 3 เหตุการณ์ และเหตุการณ์สุดท้ายนั้นอาจเป็นมหันตภัยร้ายแรงถึงขั้นสามารถล้างโลกใบนี้ จอห์น พยายามส่งเรื่องนี้ไปถึงรัฐบาล แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ เขาจึงตัดสินใจที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

    จอห์น ได้รับความช่วยเหลืออย่างไม่เต็มใจนักจาก ไดอานา เวย์แลนด์ (โรส เบิร์น) และ แอบบี เวย์แลนด์ (ลารา โรบินสัน) ลูกสาวและหลานสาวของผู้เขียนคำทำนาย ขณะที่ จอห์น จำต้องลงมือปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายที่ต้องแข่งกับเวลา และต้องเผชิญหน้ากับหายนะที่รุนแรงที่สุดและการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่สุด


    ที่มา http://www.showded.com/movie/detailmovie.php?id=493
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือน'เหนือ-อีสาน-กลาง'ฝนตกหนัก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ลักษณะอากาศเช้าวันนี้(17 ส.ค.)ประเทศไทยตอนบนมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนกระจาย"เหนือ-อีสาน-กลาง"ระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก......

    กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 17 ส.ค.เมื่อเวลา 04.00 น. ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศพม่าและลาว ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนกระจาย ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุทกภัยได้ในระยะ นี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึง 06.00 น.วันพรุ่งนี้


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง
    มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัด สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณ จังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สีน้ำทะเลเปลี่ยนอาจมีผลอย่างมากต่อเฮอริเคน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วอชิงตัน 16 ส.ค.- นักวิจัยในสหรัฐระบุว่า น้ำทะเลที่เปลี่ยนสีอาจส่งผลอย่างมากต่อจำนวนและความรุนแรงของเฮอริเคน

    นักวิจัยสำนักงานบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐได้ใช้คอมพิวเตอร์จำลองการเกิดน้ำทะเลเปลี่ยนสีในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ

    ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเฮอริเคนมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั่วโลก ปัจจัยหลักคือ สีเขียวในน้ำทะเลที่เกิดจากคลอโรฟิลปริมาณมาก คลอโรฟิลเป็นสารที่แพลงก์ตอนพืชใช้สังเคราะห์แสงให้เป็นอาหารสำหรับระบบนิเวศทางทะเล เมื่อใดที่น้ำทะเลไม่มีคลอโรฟิลหรือไม่เป็นสีเขียว แสงอาทิตย์จะส่องผ่านลึกลงไปในมหาสมุทร ทำให้ผิวน้ำเย็นลง ส่งผลให้รูปแบบการไหลเวียนของอากาศเปลี่ยนแปลง กระแสลมแรงถูกพัดสูงขึ้น ทำให้พายุเมฆไม่สามารถรวมตัวกันจนกลายเป็นพายุเฮอริเคน นักวิจัยเตือนว่า ผลการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่าแพลงก์ตอนพืชทั่วโลกมีปริมาณลดลงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>.

    ครม.เห็นชอบ!! ปรับเงินเดือนข้าราชการใหม่ เท่าเอกชน


    [​IMG]
    หลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) เสนอเรื่อง การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการพลเรือนสามัญ เข้าในที่ประชุม ครม. โดย ก.พ. ให้เหตุผล ในการเสนอเรื่องนี้ว่า

    “จากสภาพปัญหาปัจจุบัน การดึงดูดและรักษาคนเก่งคนดีในราชการลดน้อยถอยลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของภาคราชการต่ำกว่าภาคเอกชน การขาดความยืดหยุ่น และความหลากหลายของอัตราเงินเดือนแรกบรรจุประกอบกับการเพิ่มขึ้นทั้งจำนวน และขีดความสามารถในการสรรหาของสถานประกอบการขนาดใหญ่ อีกทั้งเมื่อเทียบเคียงเงินเดือนแรกบรรจุกับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของ ภาคราชการแล้ว ค่าตอบแทนแรกบรรจุของภาคราชการก็ยังต่ำกว่าภาคเอกชน ยกเว้นค่าตอบแทนของผู้บรรจุในสายงานที่ใช้วุฒิต่ำกว่าปริญญาในสาขาพาณิชย์”

    ตามเป้าหมายของ กพ. ที่เสนอ ครม. ระบุว่า ให้ปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของภาคราชการให้ใกล้เคียงกับภาคเอกชนภายใน 5 ปี และนำระบบเงินเดือนแรกบรรจุที่ยืดหยุ่น หลากหลาย มาใช้กับข้าราชการพลเรือนสามัญภายในปีงบประมาณ 2554

    ล่าสุด ที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ผ่านความเห็นชอบเรื่องดังกล่าว โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาเรื่องของข้าราชการนอกเหนือจากการอนุมัติการขึ้นเงินเดือน หรือปรับบัญชีเงินเดือนคือปรับค่าครองชีพ ให้มีผลในเดือนเมษายนแล้ว ยังมีเรื่องการปรับระบบการให้เงินเดือนข้าราชการที่ได้บรรจุเป็นครั้งแรก โดยเพิ่มความยืดหยุ่นให้สามารถให้ค่าตอบแทนไล่ หรือเทียบเคียงทางภาคเอกชนได้ และกรณีของคนที่มีความสามารถพิเศษ มีประสบการณ์ หรือเข้ามาในตำแหน่งวิชาชีพที่มีความขาดแคลน จะได้เงินเดือนเริ่มต้นที่สูงกว่าเงินเดือนขั้นต่ำ

    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news

    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  20. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <table border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"> <tbody><tr><th>
    </th> <th align="center">MAG </th> <th align="center">UTC DATE-TIME
    y/m/d h:m:s
    </th> <th align="center">LAT
    deg
    </th> <th align="center">LON
    deg
    </th> <th align="center">DEPTH
    km
    </th> <th> Region</th> </tr> <tr><td align="center" valign="top" nowrap="nowrap">MAP</td><td align="center" valign="top" nowrap="nowrap"> 3.3 </td><td align="center" valign="top" nowrap="nowrap">2010/08/17 02:14:08 </td><td align="right" valign="top" nowrap="nowrap"> 31.981 </td><td align="right" valign="top" nowrap="nowrap"> -115.187 </td><td align="right" valign="top" nowrap="nowrap"> 10.2 </td><td valign="top"> BAJA CALIFORNIA, MEXICO</td></tr> <tr><td align="center" valign="top" nowrap="nowrap">MAP</td><td align="center" valign="top" nowrap="nowrap"> 5.3 </td><td align="center" valign="top" nowrap="nowrap">2010/08/17 01:39:32 </td><td align="right" valign="top" nowrap="nowrap"> 11.594 </td><td align="right" valign="top" nowrap="nowrap"> 95.034 </td><td align="right" valign="top" nowrap="nowrap"> 35.0 </td><td valign="top"> ANDAMAN ISLANDS, INDIA REGION</td></tr></tbody> </table>
    10-degree Map Centered at 10°N,95°E

    Skip to earthquake lists [​IMG] [​IMG]
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...