ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. NARASAWA

    NARASAWA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +408

    ภัยพิบัติเกิดขึ้นได้ทุกวัน รุนแรงเพิ่มขึ้น
    มันมีเหตุและผลของมันครับ
    โลกปรับสมดุลย์ ทุกคนน่าจะเคยได้ยิน
    ภูเขาไฟระเบิด แผ่นโลกเคลื่อนครับ เหมือนบีบสิว เค้นมากๆมันก็ปุดออก
    แผ่นดินไหว ก็แผ่นโลกเคลื่อนครับ มันชนกันมันก็สั่นพัง เท่านั้นเอง

    ทำไมมันบ่อยจัง ? คำตอบอย่างเดียว คือ ไม่รู้ ไม่มีใครรู้
    ประเทศไทย
    ประเทศไทยนั้นตั้งอยู่ในจุดภูมิศาสตร์ที่ดี และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

    จุดภูมิศาสตร์ที่ดี ? ดีเยี่ยงไรครับ สูงหรือ
    ที่ราบสูงทิเบต
    ความสูง โดยเฉลี่ย 4,600 เมตร เทือกเขาแอนดิส เทือกเขาแอลป์ นั่นไง ไปอยู่ที่นั่นปลอดภัยครับ
    ประเทศอื่นไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
    ? น่าคิด
    ....................
    ถ้าพูดแบบเหมารวม
    ปีนี้ไม่เกิด ปีหน้าก็เกิด ว่างั้นเหอะ
    ทุกสิ่งทุกอย่างมีเหตุและผลในตัวเอง
    ไม่ใช่เชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตา เชื่อไปเรื่อย
    ....................
    มีท่านนึงในเวปนี้กล่าวไว้ว่า

    หลังจาก ปีใหม่ 2013 ชีวิตก็ดำเนินต่อไป......ก็คงเป็นเยี่ยงนั้น (kiss)
    ผมจะรอดู เข้ามาแก้ตัวนะครับ ขอแบบแมนๆ อย่าหนีนะ
    หลังจาก ปีใหม่ 2013
    ชีวิตทุกท่านก็จะดำเนินต่อไป



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2012
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เมื่อพระเจ้าจักรพรรดิ์(พระศรีอาริย์)เสด็จมาปกครองโลก

    [​IMG]

    ในยุคที่โลกก้าวไปสู่เขตแห่งความศิวิไลซ์นั้น ก็เป็นสิ่งแสดงว่า โลกได้เข้าถึงลัทธิการปกครองระบบ"ธรรมาธิปไตย"ไปในตัวแล้ว ซึ่งมีหัวข้อที่น่าสนใจ และควรนำมาพิจารณาเพื่อเตรียมตัวก้าวหน้าดังนี้

    ๑.กองทัพในโลกจะถูกยุบ และเลิกล้มหมดทุกประเทศ

    ๒.เครื่องอาวุธยุทธภัณฑ์ทั้งหลาย ก็จะเลิกล้ม และถูกทำลายสิ้น

    ๓.เรือรบและเครื่องบินรบทุกชนิด ที่โลกได้สร้างกันไว้ ก็จะมาเปลี่ยนแปลงเป็นยานยนต์สำหรับโดยสาร

    ๔.สัญญาทางพระราชไมตรี ตลอดจนภาษีต่างๆระหว่างประเทศ ก็จะถูกยกเลิกทั้งหมด

    ๕.กระทรวงทบวงกรมที่ไม่จำเป็น ก็จะถูกล้มเลิก ขุนนางและข้าราชการก็จะมีเฉพาะแผนกที่จำเป็นเท่านั้น

    ๖.การเก็บภาษี หรือส่วยสรรพากรจากพลเมืองจะถูกยกเลิกเช่นกัน

    ๗.กฏหมายลักษณะอาญา ทั้งแพ่งและพาณิชย์ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ จะใช้ได้ในบางมาตรา นอกนั้นถูกเก็บรักษาไว้ในหอพระสมุดเสียสิ้น เพราะไม่มีคดีจะใช้กฏหมาย

    ๘.คัมภีร์พระไตรปิฏก ไบเบิ้ล โกหร่าน ไตรเพท ถ้าผิดเพี้ยน คลาดเคลื่อน(เป็นโทษแก่มนุษย์) ก็จะถูกทำลายจนสิ้น

    ๙.ลัทธิการปกครองแห่งโลกในระบอบต่างๆดังเช่นปัจจุบันนี้ จะเลิกล้มไปหมด เพราะเป็นลัทธิล้าสมัย เอาเปรียบผู้น้อย บีบคั้นราษฏร

    ๑๐.การถือดีด้วยชาติวรรณะ หรือที่เรียกว่า"ลัทธิชาตินิยม"(Nationnalism)ก็ะเลิกล้มไปหมดทั้งโลก เพราะเป็นลัทธิที่กีดแคบเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งยโส แต่แล้วก็เอาตัวไม่รอด เหยียดหยามกัน เบียดเบียนกัน เหมือนมิใช่มนุษย์ ชาติต่างๆจะร่วมเป็นชาติเดียวกันทั่วโลก

    ๑๑.ศาสนาต่างๆ ก็จะรวมเป็นศาสนาเดียวกัน มีศีลธรรมเดียวกัน มีนรกสวรรค์เหมือนกัน การแยกแยะพระเจ้าออกเป็นหลายองค์ หลายลัทธิ หลายนิกายนั้น ก็เนื่องจากความบกพร่อง และความอวดดื้อถือดีของมนุษย์ที่รู้เท่าไม่ถึงความจริง จึงได้หลงวิเศษไปตามความคิดของตน เป็นเหตุทำลายความสามัคคี และนำความเดือดร้อนมาสู่มนุษย์

    ๑๒.ด้านอักษรศาสตร์ต่างๆ ก็จะรวมเป็นอักษรเดียวกัน

    ๑๓.ภาษาต่างๆก็จะรวมเป็นภาษาเดียวกัน

    ๑๔.การนุ่งห่มแต่งกาย จะเป็นระเบียบเรียบร้อยทั่วโลก จัดเป็นสังคมๆไป จะดูงดงาม เป็นที่น่าปิติยินดียิ่งนัก

    ๑๕.ระบบการเงิน เหรียญต่างๆจะเป็นแบบเดียวกันทั้งโลก เป็นเฉพาะเหรียญเงิน เหรียญทองทั้งสิ้น ไม่ใช้ธนบัตรเหมือนในปัจจุบัน

    ๑๖.หนังสือเดินทาง (Passports) จะใช้เป็นสมุดพกเล็กประจำตัว มีทั้งรูปและประวัติย่อ และรายละเอียดที่สำคัญ

    ๑๗.มนุษย์ทั้งหลายจะไม่มีการถือเขาถือเรา ไม่มีชนชั้นวรรณะสูงต่ำ นอกจากวัยวุฒิ คุณวุฒิ และบุญวุฒิซึ่งเป็นมาตรฐานระหว่างสังคมเท่านั้น

    ๑๘.อาณาเขตระหว่างประเทศต่างๆ ก็จะถูกปรับปรุงใหม่ อาจยุบหรือเพิ่มเติมขึ้นตามสมควร ประเทศทั่วโลกจะถูกแบ่งให้เป็นรัฐๆ มีความกว้างใหญ่เท่าๆกัน ในยุคบรมจักรตามคัมภีร์กล่าวว่ามีนคร๘๔,๐๐๐นคร หรือ๘๔,๐๐๐ประเทศ

    ๑๙.การปกครองในแต่ละรัฐ แต่ละประเทศจะมีพ่อเมือง ซึ่งล้วนมีชีวิตเปิดเผยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพลเมืองทั่วไป ปกครองให้พลเมืองมีความเมตตา กรุณา และซื่อสัตย์ต่อกัน มีใจสุขุมเยือกเย็น บันดาลให้เกิดมีนักปราชญ์เกิดขึ้นหลายๆคน

    ๒๐.สภาต่างๆจะถูกเลิกล้มหมดทั้งโลก จะมีแต่อภิรัฐมนตรีและรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาของพ่อเมือง หรือประชุมเท่านั้น

    ๒๑.นักโทษต่างๆจะถูกปลดปล่อยให้มีอิสรภาพไปทั่วโลก แต่จะมีเจ้าหน้าที่ผู้ใจบุญคอยอบรม ควบคุมความประพฤติอยู่ จนกว่าจะกลับตัวเป็นพลเมืองที่ดีมีศีลธรรมอันดีงาม

    ๒๒.ฝูงมนุษย์ชั่วและดี จะถูกแบ่งเป็นสังคม คือพวกสัมมาทิฎฐิตั้งอยู่ในศีลธรรม และกฏหมาย ก็จะถูกจัดให้อยู่ในเขตอันหนึ่งซึ่งมีศีล ๕ ศีล ๘ เป็นมาตรฐาน ส่วนฝ่ายมิจฉาทิฎฐิ จะถูกจัดให้อยู่ในเขตสังคมหนึ่ง ไม่ได้อยู่ปะปน จนเป็นภัยต่อกัน จะมีเจ้าหน้าที่คอยพิทักษ์รักษาตามข้อ ๒๑

    ๒๓.ภิกษุณี สามเณรี(นักบวชหญิง) ก็จะมีขึ้นในพระพุทธศาสนาตามคัมภีรฺภิกขุนีวิภังค์ และภิกขุนีปาฎิโมกข์ตามความประสงค์ของบรรดาสตรีเพศทั้งหลายที่ใคร่บวช

    ๒๔.พระพุทธศาสนาจะถูกสังคายนาเป็นครั้งใหญ่ ให้ถูกต้องตรงตามพระธรรมวินัย ด้วยอำนาจของพระเจ้าบรมจักร ภิกษุ สามเณรที่ทุศีล หรือมีศีลอันมัวหมอง ประพฤติผิดต่อศาสนาพรหมจรรย์ และมรรคพรหมจรรย์(สัทธรรมปฎิรูป) ก็จะถูกอยู่ปริวาสกรรม บางพวกก็จะถูกจับสึกอย่างมากมาย และจะคัดเลือกภิกษุสามเณรที่เชี่ยวชาญในมรรคพรหมจรรย์ทั่วโลกเพียง๑๘๐รูปเท่านั้น

    ๒๕.พระศรีอาริย์บรมจักร กับพระอิศวรเจ้าฟ้าจะลงจุลศักราชเก่า แล้วตั้งจุลศักราชใหม่คือ ๑ เป็นต้นไป ส่วนศักราชอื่นที่ไม่จำเป็น จะถูกยกเลิกหมด

    ๒๖.สัตว์พาหนะต่างๆเช่น วัว ควาย ช้าง ม้า ก็จะถูกปลดปล่อยให้มีอิสรภาพ เพราะจะใช้เครื่องจักร หรือเครื่องยนต์ทดแทนให้ทุกครอบครัว

    ๒๗.ดาวพระเคราะห์ทั้ง๙ และดาวสำคัญบางดวง จะถูกพิสูจน์โดยจักรแก้ว ตลอดจนดาวพิภพที่เราอยู่นี้ ก็จะถูกสำรวจใหม่ว่ามีทวีป เกาะ ซ่อนเร้นอยู่ที่ใดบ้าง

    ๒๘.จะมีโรงพยาบาลเฉพาะสำหรับนักบวช หรือบรรพชิตอย่างใหญ่โตมโหฬาร มีทั้งแผนกนักบวชชายและหญิง จะตั้งอยู่คนละแห่งไม่ปะปนกัน นักบวชผู้อาพาธจักได้รับการรักษาพยาบาลฟรี

    ๒๙.จะมีโรงพยาบาลคนอนาถา หรือคนพิการไว้ทุกปห่งไม่ปพปนกับใคร ประกอบด้วยแพทย์ที่มีมรรยาท และเมตตากรุณาเป็นอย่างดี

    ๓๐.จะมีนิคมหรือนครคนชราภาพ ซึ่งไม่มีที่พึ่งพาอาศัย หรือผู้ที่ถูกลูกหลานทอดทิ้งไม่เอาใจใส่ สำหรับเป็นที่เลี้ยงดูอย่างไม่ต้องอนาทรร้อนใจ เหมือนได้อยู่ในวิมานสวรรค์

    ๓๑.จะมีนิคม หรือนครคนทุพลภาพ เช่น ง่อยเปลี้ยเสียขา หรือตาบอดหูหนวก

    ๓๒.จะมีโรงแรมพิเศษสำหรับเป็นที่พักอาศัยของบรรดานักปราชญ์ทั่วโลก เช่น นักปราชญ์จิตศาสตร์ ,เวชศาสตร์,ธรรมชาติศาสตร์,วิทยาศาสตร์,โหราศาสตร์,วิศวกรรมศาสตร์,สถาปัตยกรรมศาสตร์ บริการฟรีไม่เสียค่าที่พักและอาหาร

    ๓๓.จะมีโบสถ์สมรสขนาดมหึมา สำหรับเป็นที่ทำการสมรสของชายหญิงทั่วไป โดยไม่เลือกชาติ ภาษา และวรรณะสูงต่ำ เมื่อชายหญิงคู่ใดมีความพึงพอใจซึ่งกันและกัน และมีความประพฤติเรียบร้อย มีศีลธรรมดีงาม สมควรจะเป็นพ่อบ้านแม่เรือนได้ ก็สมรสกันได้โดยเสรีภาพ หากคู่สมรสใดไม่มีสินทรัพย์เดิมเป็นทุนสมรส ก็จะมีสมบัติก้อนหนึ่งสำหรับเป็รางวัลให้ทุกคู่สมรส

    ๓๔.บรรดานักจิตศาสตร์,วิทยาศาสตร์,เวชศาสตร์,ธรรมชาติศาสตร์ ฯลฯ และคนสำคัญๆซึ่งเกิดมาทำประโยชน์ให้แก่โลก ก็จะถูกบันทึกยกย่องสดุดีไว้ในอนุสาวรีย์ในมหาพิพิธภัณฑ์อันใหญ่โตมโหฬาร ซึ่งกลางคืนจะสว่างรุ่งโรจน์ด้วยไฟฟ้า และแสงนีออน แท่นที่ประดิษฐรูปปั้นคนสำคัญนั้นจักมีอักษรจารึกถึงคุณงามความดีตลอดทุกคน

    จากบทความนี้ได้รวบรวมมาจากหนังสือศรีอาริย์เจ้าโลก ซึ่งตัวผู้เขียนไม่ได้มีประสงค์จะให้ผู้อ่านหลงเชื่ออย่างงมงาย แต่ให้เชื่ออย่างมีเหตุผล

    ขอบคุณที่มา: คุณวสุธรรม เวปพลังจิต ห้องวิทยาศาสตร์ทางจิต เป็นข้อมูลที่มีการศึกษามานานมาก ซึ่งก็ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านกันนะครับ

    ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล วันที่ตอบ 2012-08-01 13:47:27

    ที่มา http://www.dhammathai.org/kaveedhamma/dbview.php?No=233
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2012
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตอบคำถามเรื่องของภัยพิบัติโดยคุณอา ZZ

    [​IMG]
    รูปคุณอาสนั่น (ZZ) ผู้ใจดี

    saychl anusonthi สมาชิก

    แสดงว่าทุกอย่างยังไม่สามารถยืนยันใช่ไหมคะ เป็นเพียงการเฝ้าดูเหมือนที่ทุกคนกำลังทำอยู่ แต่ทำไมประเทศนอร์เว ได้สร้างหลุมหลบภัยและมีการเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน หรือว่าเขามีความเชื่อมากกว่า แล้วทำไมบ้านเรายังเฉยอยู่นะ ทั้งที่หลายๆอย่างเริ่มปรากฎชัดมากขึ้นว่ารุนแรงขึ้น หรือว่าทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น(เราเอาอยู่) ขอบคุณ คุณอาที่ตอบคำถามให้เด็กช่างสงสัยค่ะ

    ZZ ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ครับ...ยังไม่ยืนยันครับ (ไม่มีใครมีหลักฐานแน่นหนาขนาดนั้น) ลองเอา...มิติด้านความเชื่อ...มาคุยกันบ้าง

    - เชื่อว่า Nibiru จะเข้าใกล้โลกช่วงปลายปี 2012 นี้
    - ตามข้อมูลของพระอาจารรัตน์ท่านบอกว่า...ดวงดวงนี้เ็ป็นดาวถ่วงดุลย์...เป็นผลดีมากกว่าผลร้าย (แต่ก็ทำให้เกิดภัยธรรมชาติขนาดใหญ่)
    - หมอดู ET แจ้งว่า...น้ำจะท่วมโลกในปี 2013...เข้าใจว่าท่วมเมืองชายฝั่งทั้งหมด...รวมถึง กทม.ซึ่งนายอัลกอร์ก็เคยทำ Simulation เรื่องนี้ไว้ในหนังสารคดีของเขาเช่นกัน (แต่ไม่ได้ระบุระยะเวลาที่แน่นอน)
    - จะปรากฏดวงอาทิตย์ดวงที่สอง...เนื่องจากผิวดาว Nibiru สะท้อนแสงอาทิตย์
    - บางท่านเตือนให้ออกจาก กทม. ภายใน..ธันวาคม 2012 (ก่อน 28 ธ.ค. 2012)...หากมองเห็น...ดวงอาทิตย์ดวงที่สอง...จริงๆ
    - บางท่านได้เตรียมบ้านหลังที่สอง...เพื่อการหลบภัย (สำหรับท่านที่มีกำลังทรัพย์)
    - สำหรับท่านที่ไม่มีกำลังทรัพย์...อย่างน้อยต้องเตรียมเสบียง...เป้ฉุกเฉิน...อุปกรณ์ต่างๆไว้บ้าง...และเตรียมเส้นทางหลบภัยไว้ด้วย แนะนำเส้นทาง...กทม..ภาคตะวันออก...ภาคอีสาน...เนื่องจากช่วงน้ำท่วมพบว่า...เส้นทางไปภาคเหนือถูกตัดขาด...ต้องอ้อมไปทางอีสาน...แต่ก็ติดหนึบที่บริเวณวังน้ำเขียวเป็นวันๆ...ดังนั้นต้องอ้อมไปทางตะวันออกก่อน....ครับ
    - การเตรียมตัวใดๆ...ไม่ค่อยมีใครเค้าออกมาบอกกัน...ครับ...กลัวถูกหาว่า...บ้า

    ตัวอย่าง เมื่อน้ำท่วมคราวที่แล้ว...เคยเตือนคนที่บริษัทและบริษัทของแฟน...ให้ซื้อเสบียงก่อนน้ำท่วม...คนพวกนั้นหัวเราะ...มันบอกมันไม่กลัว พอน้ำมาจริงๆ...คนพวกนี้น้ำท่วมทุกคน...บางคนออกจาก กทม. ก่อนเราเสียอีก...ตลกไม่ออก เราเองต่างหากที่ต้องเอาเรือไปช่วย...เล่าสู่กันฟังครับ


    saychl anusonthi สมาชิก

    ใช่คะคุณอา หนูเตือนแม่ที่อยู่กรุงเทพ(แถวสายไหมค่ะ) แม่ยังไม่เชื่อเลยแต่พอนํ้ามาแม่หนูไปอยู่วังนํ้าเขียวก่อนเขาเลย แถมยังบ่นอีกว่ารถติดมาก ออกจากบ้านแต่เช้ากว่าจะถึงเย็นเลยคะ และตอนนี้หนูก็เตือนให้แม่เอาของขึ้นบนสูงๆและก็เตรียมของกินไว้ด้วยสักเดือนสองเดือน แม่บอกไม่เตรียมแต่จะย้ายมาอยู่จ.สุรินทร์แทนค่ะ (เล่าสู่กันฟังนะคะ)

    ZZ ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ถือว่า...ซ้อมใหญ่...นะครับ พระอาจารย์รัตน์...ท่านพูดก่อนจะมีน้ำท่วมปี 2554 ว่า...จะมีน้ำท่วมเล็ก...ให้เราซ้อมอพยพ (หลังจากนั้นทุกคนจะกลับมา กทม.)...ก่อนจะมีน้ำท่วมใหญ่ ต่อมาปี 2554 ...เิกิดน้ำท่วม...ต้องมีการอพยพจริงๆ

    - บางคนไปโคราช
    - บางคนไปเพชรบุรี
    - บางคนย้ายที่อยู่หลายครั้ง (หนีน้ำ)...ก่อนออกจาก กทม.
    - ศปภ....หนีจากดอนเมืองแทบไม่ทัน...ทิ้งของบริจาคไว้ข้างหลัง

    เวลาผ่้านไป...ทุกคนกลับ...กทม. ....แล้วทำเป็นลืมๆมันไปซะ (เพื่อนผมเองที่บ้านมันน้ำท่วม)....เพราะเชื่อว่า...จะไม่มีแบบนี้อีก ส่วนตัวผม...เชื่อพระอาจารย์...ครับ (ก่อนน้ำท่วมก็...50-50...หลังจากน้ำท่วมก็เลยเชื่อ) ลูกศิษย์สายพระอาจารย์...ไม่มีใครไม่เตรียมตัว...ในรอบต่อไปเลย

    ปล.ไม่ได้บังคับให้ใครเชื่อแบบผม..นะครับ...พิจารณากันเอง


    08-09-2012, 04:00 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%87-elenin-nibiru-planet-x-elenin-events.281795/page-64
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 100_4764 (1).JPG
      100_4764 (1).JPG
      ขนาดไฟล์:
      76.4 KB
      เปิดดู:
      873
    • 100_4972.JPG
      100_4972.JPG
      ขนาดไฟล์:
      43.9 KB
      เปิดดู:
      42
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2012
  4. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    เห็นด้วยนะที่ว่า เทวดาไม่อยู่คุ้มครองเมืองแล้ว เพราะสังเกตจากอุบัติเหตุเยอะมาก เมื่อก่อนไม่เห็นรถตกทางด่วนเลย แต่ตอนนี้ตกบ่อยมาก
     
  5. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    เทวดาไม่อยู่คุ้มครองเมืองก็แย่แล้ว
    สัมภเวสีเข้ามาครองเมืองแทน...นี่น่าคิด

    ปล. กรุณาอย่านำไปโยงการเมืองครับ

    10 ก.ย. 55 ด้านมืด

    เมื่อวานนี้ศิษย์สาย ฮ่มภะโคสีร์ได้มาซื้อของที่ร้าน ได้เล่าให้ฟังถึงขามากรุงเทพฯ เจออุบัติเหตุทางรถยนต์ตัวเองถึงกับบาดเจ็บ เขาเล่าให้ฟังว่าตามสี่แยกจะมีวิญญาณต่างๆเฝ้าคอยอยู่

    ดังนั้นการขับรถหรือการเคลื่อนย้ายต่างๆขอให้อย่าประมาทไปอย่างช้าๆให้มีสติอยู่ตลอดเวลา

    เคอิสรา
     
  6. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,232
    คำทำนาย " เรื่องโลกเสื่อม " ขององค์ หลวงปู่สาย เขมธัมโม
    วัดป่าพรหมวิหาร บ้านภูศรีทอง ต.โนนเมือง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู

    "โลกจะละลายในปลายปี พ.ศ.2575 การละลายของโลกนั้นได้เป็นไปตามกาล แต่มวลมนุษย์ไม่ได้เป็นไปตามความเสกสรรนั้นๆ ศาสนายังเคียงคู่อยู่ประจำผู้ปฏิบัติธรรมยังมีอยู่ ยุคนั้นเรียกยุคสมบูรณ์แบบสมัยโลกนิยม เพราะการปกครองต้องเป็นไปตามความต้องการของโลก พระราชาอยู่ใต้อำนาจ ราษฎรหาความสุขมาสู่ตัวเอง สมบัติเป็นของกลางสตางค์ไม่มีใช้ ต้นไม้สูญพันธ์ กรมราชทัณฑ์เปิดทาง คนตะรางมาอยู่ข้างนอก โลกเสื่อมนั้นเสื่อมจากภาวะการปกครอง ต่อไปอีกศาสนาจะคล้อยเหมือนคล้อยลงเหว พระก็ทำไม่ดีชีก็ทำไม่งาม เป็นเสี้ยนหนามของโลก ฝ่ายปกครองก็ไม่เอาใจใส่ทางศาสนา ต่อนั้นลงมาเป็นยุคไฟเผาโลกเพราะโลกขาดธรรมะ เมื่อพระสูญพันธ์พระอาทิตย์พระจันทร์มืดหมอก โลกร้อนเผากันเอง สัตว์ป่าในมนุษย์ก็สูญพันธ์ของมันไป "

    ที่มา: http://palungjit.org/threads/คำทำนายโลก-โดย-หลวงปู่สาย-เขมธัมโม-พระอรหันต์แห่งวัดป่าพรหมวิหาร.358280/
     
  7. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,632
    เพราะคนไร้ศิลธรรมมีมาก 80-90 % สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่รักษาแล้ว ภัยพิบัติจึงเกิดบ่อย มากและรุนแรงยิ่งขึ้น
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ดาวพลังงานดำ"
    ดาวเจ้ากรรมนายเวรของชาวโลก !!!

    [​IMG]

    สิ่งแวดล้อมต่างๆที่ คุณ Zeta กล่าวถึง ก่อนที่โลกจะหยุดหมุนรอบตนเองหลายสัปดาห์ อุปกรณ์อีเล็คโทรนิคทั้งหมดที่ชาวโลกสร้างขึ้นจะหยุดทำงาน....เนื่องจากเหตุใด?

    ดาวเทียมสื่อสารต่างๆรอบโลก จะแตกหักเสียหายหมดไปจากท้องฟ้า ด้วยการชนกับเศษขยะของดาวหาง และขยะจากวงแหวนขยะในอวกาศที่ลอยอยู่ระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี ที่ถูกดาวหางดูดมาด้วย...ส่วนเคเบิลใยแก้วบนเปลือกโลกก็ชำรุดเสียหาย เนื่องจากเปลือกโลกเคลื่อนตัวทั้งดึงกันแยกออกจมลง และเบียดบด มุดซ้อนกันแตกหักเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเช่นที่ญี่ปุ่น และสุมาตราเมื่อ 2547 แต่โซนที่เปลือกโลกยืดจะสังเกตอาการยากหน่อย จะนำไปเกิดการชนกันของขอบแผ่นนั้นๆที่มีการยืดตัวออก

    ปัญหาของการสื่อสารไม่ใช่มีเฉพาะขาดดาวเทียมสื่อสารเท่านั้น อุปกรณ์ที่ใช้ล้วน ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะเป็นปัญหาหลัก เนื่องจากชั้นหินเปลือกโลกภายใต้แรงกดดันสูงที่ปัจจุบันกำลังปรับตัวยิ่งยวดไปโดยลำดับ จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำออกมารบกวนสัญญาณของเครื่องมือสื่อสารต่างๆ รวมทั้งสัญญาณวิทยุ และดีเอสแอล ส่วนเซิร์ฟเวอร์ของอินเทอร์เน็ตก็จะขาดการดูแลซ่อมบำรุง หรือบางแห่งอาจสลับใช้เว็บส่งสัญญาณหลายช่อง ก็จะประสบปัญหาขัดข้องเช่นเดียวกัน และสถานีทวนสัญญาณกับดาวเทียมที่ยังเหลืออยู่ ก็จะหาดาวเทียมที่ถูกเลื่อนพิกัดออกไปไม่พบ ก็ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากดาวเทียมที่อาจมีเหลืออยู่ได้

    ดังนั้นการใช้สื่อทางอีเมล์ก็จะค่อยๆลดน้อยลง จนไม่สามารถใช้สื่อสารได้อีกต่อไป และไม่สามารถกู้คืนกลับมาใช้ได้ใหม่ . ส่วนรถยนต์ รถประจำทาง รถไฟ ที่ไม่ได้ใช้อุปกรณ์อีเล็คโทรนิค ก็ยังใช้ได้จนกว่าจะหมดน้ำมันเชื้อเพลิง ถนนหนทาง ทางรถไฟ สะพานต่างๆจะถูกทำลายจากการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ต่อเนื่องยาวนาน จึงเป็นอีกอุปสรรคต่อการเดินทาง เกิดขึ้นหลายสัปดาห์สุดท้ายก่อนที่โลกจะหยุดหมุนรอบตนเอง เตรียมตัวพลิกขั้ว 90 องศาในเวลา 1 ชั่วโมง......ก็ขอแสดงความเสียใจล่วงหน้ากับท่านเจ้าของรถที่ติดตั้งกล่องดำ สำหรับช่วยควบคุมรถอาจประสบปัญหาในระหว่างการเดินทางในชั่วโมงฉุกเฉิน ที่ไปพบกับคลื่นแม่เหล็กความถี่ต่ำเข้าพอดี

    ดังนั้นการวางแผนล่วงหน้า สำหรับแต่ละบุคคล จึงต้องแลกเอากับความปลอดภัยของตนเอง หรือว่าจะจมอยู่กับหน้าที่ประจำไปจนวินาทีสุดท้ายก็เป็นสิทธิของแต่ละคน ว่าทำไม่ต้องไปเสียเวลาอยู่กับเรื่องเหล่านั้นอยู่อีก ในเมื่อทุกอย่างที่กำลังทำอยู่มันจะไปถึงทางตันอยู่แล้ว และชาวโลกในบริเวณขั้วโลกเหนือ ยังจะประสบกับความมืดมิดอีก 3 วัน ระหว่างที่กำลังเกิดชุลมุนวุ่นวาย ระหว่างที่ดาวหางดวงใหญ่กำลังโคจรอยู่ในอีกฟากตรงกันข้ามกับดวงอาทิตย์เตรียมโคจรสวนทางกับโลกเข้ามาทุกทีในช่วงขาออก มีลูกสมุนดาวดำแฝด พระจันทร์และดาวศุกร์ เข้ามาร่วมสกัดกั้นโลก และร่วมกันเข้าบดขยี้ทำการปฏิวัติโลกใหม่ ทุกๆรอบ 3,657 ปีโดยประมาณ

    แม้ปัจจุบัน สนามแม่เหล็กและแรงดูดผลักของดาวหาง และดาวศุกร์ และดวงจันทร์ ก็ส่งผลมาถึงการเกิดแผ่นดินไหว อยู่ในโซนต่างๆทั่วโลกอยู่แล้ว จึงต้องถามตนเองว่าทำไม? กับหลายๆคำถาม หาคำตอบที่ชัดเจนแม่นยำให้แก่ชีวิตของตนเอง..สำหรับช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่อีกน้อยนิด ที่ต่างคนต่างต้องช่วยเหลือตนเองอย่างยิบตา...อ้อท่านผู้สันทัดกรณีบอกว่าหากใครมีเซลล์ดำอยู่ จะมีโอกาสรอดพ้นการร่อนตะแกรงเข้าไปโลกใหม่ค่อนข้างยากลำบาก

    ข้อความนี้ของคุณ Zeta พูดถึงดาวพลังงานดำดาวเจ้ากรรมนายเวรของชาวโลก ที่สะสมพลังงานความคั่งแค้นใจมา 6 หมื่นปี กำลังมาร่วมใช้ธรรมชาติคิดบัญชีคู่พันธะกรณีต่างๆ เพิ่มความรุนแรงของภัยธรรมชาติให้เร็วและรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งชาวโลกส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเหตุในอดีตเหล่านี้ ที่มันมีพลังงานอยู่จริง และปรากฏภาพให้เห็นในภาพถ่ายต่างๆ โครจรซ้อนทับไล่หลังโลกอยู่ ดาวดำคู่แฝดของโลก จะเข้ามาดันหลังโลก ให้หลบหนีวงจรของ Planet X ไปไหนไม่ได้ เมื่อดาวทั้ง 2 ดวงกำลังโคจรคู่ขนานสวนทางกัน ในระยะประชิดใกล้ ในช่วงเอ๊าท์บาวน์ของดาว Planet X ดึงโลกย้ายขั้วเหนือไป 90 องศา

    การเกิดแผ่นดินไหวจากแรงดึงเข้าผลักออก ของดาวหางที่กำลังโคจรใกล้โลกเข้ามาอยู่ใกล้ๆดาวศุกร์นี่เอง ร่วมกับดาวศุกร์ดาวอังคาร ดวงจันทร์ และดาวดำคู่แฝดขนาดเท่าๆกับโลก ที่แทบจะซ้อนวงโคจรของโลก ซ่อนตัวอยู่หลังดวงอาทิตย์ นักจิตศาสตร์เรียกดาวดำนี้ว่าเป็นกลุ่มพลังงานลบ ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของมนุษย์มา 6 หมื่นปี รอใช้โอกาสสะสางความคับแค้นในใจ ในกรณีนี้ถ้ามนุษย์รู้วิธีใช้กุศโลบาย เพิ่มกำลังให้แก่วิญญาณทุกดวงทั่วทั้ง 3 โลกพลังลบที่จะมาช่วยดาวหางทำงานปฏิวัติโลก ก็น่าจะลดดีกรีลงไปได้บ้าง เมื่อดาวพลังดำคู่แฝดค่อยๆเปลี่ยนสีเป็นใสสว่างขึ้น

    นั่นคือเขาได้เปลี่ยนมิติไปสู่ถิ่นที่ดีกว่าเก่า เลยอโหสิกรรมคู่กรณีกันไป จะปฏิบัติตรงนี้ได้อย่างไรนั้น ท่านที่สนใจลองแวะที่ลิงค์นี้ หากช่วยกันในจำนวนผู้ปฏิบัติมากเข้า การผสานคลื่นความถี่แม่เหล็กของดาวหางที่ดึงโลกเข้าไปใกล้มากในช่วงขาออกของดาวหางที่โคจรผ่านดวงอาทิตย์ออกมา สร้างสนามแม่เหล็กที่แปรปรวน และดูดแผ่นเปลือกโลกแอนตาร์คติกให้เคลื่อนตัวออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สนามแม่เหล็กคลื่นความถี่ต่ำเหล่านี้ จะลงไปกระตุ้นพลังงานแม่เหล็กใต้แผ่นเปลือกโลก ที่ได้ทะลุทะลวงเข้าเปลือกโลกมา 10 กว่าปี เมื่อคนบนโลกรู้สึกว่าแดดร้อนขึ้นผิดปกติ และการเกิดแผ่นดินไหว ยังจะได้รับการกระตุ้นจากคลื่นแม่เหล็กความถี่ต่ำ ของพายุสุริยะที่เกิดจากดวงอาทิตย์อีกด้วย

    นอกจากนั้นความถี่คลื่นแม่เหล็กต่ำ ยังไปมีผลลดแรงโน้มถ่วงของโลกลงด้วย จนมีผู้มองเห็นภาพอนาคตที่คนจะลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ ในโซนที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นสุริยะเป็นคราวๆได้อีกด้วย

    หลายสัปดาห์ก่อนที่โลกจะหยุดหมุนรอบตนเอง มีผู้ข้องใจและติดอยู่กับการเรียนและงานในหน้าที่ ส่งคำถามถึงคุณ Zeta ว่า การคมนาคมและเครื่องมือสื่อสารต่างๆ และรถยนตร์ รถไฟจะยังใช้การได้ดีอยู่ไหม จะได้ช่วยให้ตนเองอยู่กับภาระกิจประจำจนวินาทีสุดท้าย จึงจะเคลื่อนย้ายไปสู่ที่ปลอดภัย...คลื่นความถี่แม่เหล็กไฟฟ้าต่ำ ได้แสดงให้เห็นขณะที่เกิดแผ่นดินไหว ที่ชายแดนใกล้เชียงราย โทรศัพท์และวิทยุและอุปกรณ์อีเลคโทรนิคต่างๆ จะใช้การไม่ได้ ตรงกับที่คุณ Zeta ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

    ที่มา http://ainews1.com/article567.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2012
  9. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    จระเข้ในนานกิงพร้อมใจขึ้นฝั่ง ลางบอกเหตุแผ่นดินไหว?

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพน่ารักปนสยองของเหล่าจระเข้ที่พากันลอยคอเหนือผิวน้ำพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ซึ่งเป็นภาพที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก (ภาพ-เอเยนซี่) </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เอเยนซี่ - ภาพจระเข้สายพันธุ์จีน (Chinese Alligator) ในเมืองหนันจิงกว่าพันตัวพากันโผล่หัวขึ้นเหนือน้ำ สร้างความตื่นตกใจให้กับชาวเน็ตไม่น้อย บางคนเชื่อว่าอาจเป็นลางบอกเหตุแผ่นดินไหว

    เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ (8 ก.ย.) นายสวี่กับเพื่อน 6 คนมาเที่ยวที่ฟาร์มจระเข้เชิงนิเวศวิทยาในภูเขาเจียงหนิงทัง เมืองหนันจิง (นานกิง) มณฑลเจียงซู ขณะกำลังเดินดูจระเข้เพลินๆ ไม่ทันไรก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นฝูงจระเข้นับพันพร้อมใจกันลอยคอขึ้นเหนือน้ำ บ้างก็รีบคลานขึ้นบก แต่พอขยับเข้าไปดู พวกมันก็พากันตื่นตกใจกรูกันกลับลงไปในน้ำ รอจนเขากับเพื่อนจากไปสักพัก พวกมันจึงพากันทยอยโผล่ขึ้นเหนือน้ำอีก​

    พอนายสวี่นำภาพเหล่านี้ไปโพสต์ลงในเว็บบอร์ด ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย บ้างก็ว่า “สงสัยพวกมันจะรีบไปประชุม” หรือ "โอ้ว..แม่เจ้า ในน้ำขาดออกซิเจน" แต่ก็มีไม่น้อยที่สงสัยว่านี่เป็นลางบอกเหตุแผ่นดินไหว “พวกมันยกพวกตีกัน หรือว่านี่คือ...ลางแห่งภัยพิบัติของโลก”

    ผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์ถามเจ้าหน้าที่ในสำนักแผ่นดินไหวประจำเมืองหนันกิง ซึ่งให้คำตอบว่า “เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนมักตั้งข้อสังเกตต่างๆ นานา เวลาเห็นคางคก ผีเสื้อ แมลงปอ หรือมดมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลของสำนักแผ่นดินไหว ไม่พบข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเมืองหนันจิงจะเกิดแผ่นดินไหว"​

    “หากพบปรากฎการณ์สัตว์ต่างๆ ดังกล่าวรวมตัวกันในทุกพื้นที่ของเมือง อาจสันนิษฐานได้ว่าเป็นลางบอกเหตุแผ่นดินไหว แต่ถ้าพบเฉพาะที่ฟาร์มจระเข้ ก็น่าจะเป็นเพราะปัจจัยทางสภาพอากาศในวันนั้น (8 ก.ย.) ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน ทำให้สัตว์ที่อยู่ในน้ำเกิดปฏิกิริยาตอบสนองและทำการปรับตัวดังที่เห็น”​

    ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งเจ้าหน้าที่เผยว่า ปัจจุบันเมืองหนันจิงอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดู จากฤดูร้อนเป็นฤดูใบไม้ร่วง สภาพอากาศมักแปรปรวน เมื่อวันที่ 8 ก.ย. จากอากาศที่รอ้นอบอ้าว จู่ๆ ก็มีฝนเทลงมา วัดปริมาณน้ำฝนได้ในระดับปานกลาง ซึ่งมีบางพื้นที่ฝนตกหนัก อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 28—29℃​

    นับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ประเทศจีนเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 3 ก.ย.เกิดแผ่นดินไหวเพียง 1.9 ริกเตอร์ที่เมืองซูโจว แต่รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน หลังจากนั้นอีก 2 วัน (5 ก.ย.) เมืองจี้หนิง เมืองจ่าวจวง เมืองเถิงโจว ในอำเภอเวยซัน มณฑลซานตง และเมืองสวีโจว อำเภอซื่อเพ่ย มณฑลเจียงซู เกิดแผ่นดินไหว 3.2 ริกเตอร์ และเมื่อวันที่ 7 ก.ย. ก็เกิดแผ่นดินไหวระดับ 5.7 ริกเตอร์สองครั้งซ้อนในมณฑลอวิ๋นหนัน (ยูนนาน) และกุ้ยโจว ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายขึ้นมากมาย

    รองผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉินของสำนักแผ่นดินไหวประจำเมืองหนันจิง ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า “พื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวล่าสุดนั้น อยู่ในเขตเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว แต่แผ่นดินไหวที่เกิดในเมืองซูโจว เป็นแผ่นดินไหวในระดับพื้นผิว ทุกคนอย่าตกใจไป”​

    “โดยความเป็นจริง โลกของเราจะเกิดแผ่นดินไหวในระดับ 5 ริกเตอร์ขึ้นไปปีละประมาณกว่าพันครั้ง อย่างสถิติเมื่อปีกลาย (2554) เกิดแผ่นดินไหวระดับ 5 ริกเตอร์ขึ้นไป 2,600 กว่าครั้ง ดังนั้นความถี่ของการเกิดแผ่นดินไหวที่ผ่านๆ มาในปีนี้ (2555) ถือว่าเป็นเรื่องปกติ” ท่านรองฯ กล่าว​

    ทั้งนี้ ฟาร์มจระเข้เชิงนิเวศวิทยาในภูเขาเจียงหนิงทัง เมืองหนันจิง เริ่มสร้างตั้งแต่ปลายปีพ.ศ.2549 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตแหล่งท่องเที่ยเชิงนิเวศวิทยาบริเวณทะเลสาบจื่อชิง ซึ่งมีทั้งบ่อน้ำร้อน และบ้านพักตากอากาศ โดยฟาร์มจระเข้นี้ยังเป็นศูนย์อนุรักษ์ วิจัยและเพาะพันธุ์จระเข้สายพันธุ์จีน และซาลาแมนเดอร์ยักษ์จีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีพื้นที่กว่า130,000 ตรม. ปัจจุบันมีจระเข้ทั้งสิ้นถึง 5,000ตัว​

    ภาพปรากฎการณ์จระเข้แย่งกันขึ้นฝั่งที่นายสวี่ นักท่องเที่ยวชาวจีนคนหนึ่งบันทึกไว้ได้ (ภาพ-เอเยนซี่)

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300><TBODY><TR><TD vAlign=top width=300 align=middle>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300><TBODY><TR><TD vAlign=top width=300 align=middle>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>จระเข้สายพันธุ์จีนหรืออัลลิเกเตอร์ชนิดนี้เป็นจระเข้ที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดของโลก ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าพวกมันหลงเหลืออยู่ใน ป่าเพียง 150-200 ตัวเท่านั้น โดยยากที่จะพบตัวที่มีความยาวเมื่อโตเต็มที่เกิน 2 เมตรหรือน้ำหนักมากกว่า 40 กิโลกรัม มันอาศัยอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำ แถบแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายเดียวกับโลมาแม่น้ำพันธุ์จีน (Chinese river dolphin) ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว

    จระเข้ชนิดนี้ เป็นสัตว์เลือดเย็นที่มีอุณหภูมิของร่างกายไม่คงที่คือจะเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิของสภาพแวดล้อม นี่เป็นเหตุผลที่พวกมันมักอาศัยอยู่ตามบึงหรือแหล่งน้ำที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27 องศาเซลเซียสเพราะอุณหภูมิดังกล่าวจะทำให้มันสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเหมาะสม​

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=254><TBODY><TR><TD vAlign=top width=254 align=middle>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ความแตกต่างระหว่าง alligator และ crocodile คือลักษณะของปากและขากรรไกรโดยปากของ alligator จะมีลักษณะกว้างคล้ายรูปตัว U ในขณะที่ crocodile จะมีลักษณะปากที่ยาวกว่าคล้ายรูปตัว V</TD></TR></TBODY></TABLE>​

     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เตือนภัยแม่น้ำโขง
    จะไหลทะลักเข้าไทยที่อำเภอเชียงแสน !!!

    [​IMG]

    สำหรับประเทศไทย อยู่ทางตอนใต้ประเทศจีน ที่มีการสร้างเขื่อนจำนวนมากกั้นต้นทางของแม่น้ำโขง และส่วนใหญ่ได้กักเก็บน้ำเต็มอ่างขนาดใหญ่แล้ว ระหว่างที่โลกย้ายขั้ว ทั่วโลกจะมีแผ่นดินไหวต่อเนื่องขนาด 9-10 ริกเตอร์ และพื้นที่ประเทศจีนก็อยู่ในโซนแผ่นดินไหวอยู่แล้ว เขื่อนต่างๆที่ทางประเทศจีนลงทุนสร้างเอาไว้ทั้งหมด ก็จะต้านทานแรงแผ่นดินไหวไม่ได้ และพังลงในที่สุด

    แม่น้ำโขงที่ไหลลงมาที่เชียงแสน จะมีปริมาณน้ำมากกว่าปกติเป็น 10 เป็น 100 เท่า แทนที่จะเลี้ยวหักศอกไปทางประเทศลาวที่บริเวณ อำเภอเชียงแสน น้ำมหาศาลในแม่น้ำโขงในเวลานั้นก็จะไหลทะลักพุ่งตรงเข้ามาในเขตประเทศไทย กัดเซาะเกิดแม่น้ำใหม่ สร้างความเสียหายแก่พื้นที่ประเทศไทย ตลอดแนวภาคกลางลงสู่ทะเล

    และจะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางจากภาคอิสานขึ้นมาภาคเหนือ เนื่องจากแม่น้ำใหม่นี้จะกว้างมาก และลึกเนื่องจากปริมาณน้ำที่ประเทศจีนกักเก็บไว้มีจำนวนหลายเขื่อน โดยคำนึงเฉพาะเขื่อนต่างๆที่อยู่ต้นแม่น้ำโขงเท่านั้น สำหรับผู้ที่เห็นความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศไทยล่วงหน้า จะมากกว่า 26,700 ล้านๆบาททีเดียว

    สำหรับโลกใหม่บรรยากาศใหม่นั้น ทราบจากรายงานของท่านผู้เชี่ยวชาญกาแลกซี่ ที่เกี่ยวข้องกับสุริยจักรวาลและโลกนุษย์ ได้ปรับเปลี่ยนไปสู่พลังงานยุคใหม่กันเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งพระอาทิตย์ของสุริยจักรวาลด้วย เปลี่ยนมาหมุนจากซ้ายไปขวา หรือตามเข็มนาฬิกา ตั้งแต่ 8 สิงหาคม 2554 ยังเหลือแต่โลกที่คอยวาระการปรับเปลี่ยนต่อไป ซึ่งจะมีตัวช่วยคือ Planet X ดาวผู้พี่ของโลกที่กำลังโคจรเข้ามาใกล้โลกและดวงอาทิตย์ในปัจจุบัน

    ส่วนโลกหลังจากที่หยุดหมุนรอบตนเอง ด้วยอิทธิพลของสนามแม่เหล็กของ PX นั้น เมื่อ PX โคจรจากไปแล้ว โลกกลับมาหมุนรอบตนเองใหม่เนื่องจาก Sweeping arm ของดวงอาทิตย์นั้น น่าจะกลับมาหมุนรอบตนเองตามเข็มนาฬิกา คล้องจองกับการหมุนรอบตนเองของดวงอาทิตย์ และกาแลกซี่ทั้ง 3 ที่ครอบโลกและสุริยจักรวาลอยู่ ทั้งนี้ขอให้ติดตามข่าวต่อเนื่อง จากรายงานของดาวเทียมต่างๆที่ยังปฏิบัติการอยู่

    ที่มา http://ainews1.com/article707.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2012
  11. รพินทร์นาถ

    รพินทร์นาถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +844
    สวัสดีครับพี่เกษม ติดตามอ่านในนี้มานาน ขอบคุณข้อมูลดีๆ วันนี้เข้ามาทักทาย เนื่องจากไปเห็นเวลา ที่โพส 11:11 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ผมเห็นบ่อยด้วยความบังเอิญ เมื่อวานตอนกับจากวันอาทิต กราบหลวงตาดู่ ออกจากวัดขึ้นรถก็เห็นตัวเลขนี้ แต่เป็น am นะครับ
     
  12. NARASAWA

    NARASAWA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +408
    วันนีั้คิดอะไรไม่ออก เมางาน ลองคิดดูแค่นิดๆก็พอ
    พรุ่งนี้ ว่ากัน โลกจะแตก บ่ายโมง
    มาบตาพุดระเบิด ตอนสองโมงเช้า เย้ๆ ไม่ต้องไปทำงาน
    ถ้าทายผิด พรุ่งนี้ทายใหม่

    พูดให้มันคลุมเคลือเข้าไว้มันจะถูกเอง เช่น
    - ภายในปีนี้จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง มีคนตาย
    - ภายในเดือนหน้าจะมีพายุหมุนเข้าไทย
    - ภายในปีหน้าจะมีน้ำท่วม
    - อีกสิบปีข้างหน้าจะมีผู้มีบุญมาเกิด
    ตอบๆๆๆๆ
    - ภายในปีนี้จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง มีคนตาย
    แหงล่ะถ้ามีแผ่นดินไหว ก็มีคนตาย
    - ภายในเดือนหน้าจะมีพายุหมุนเข้าไทย
    ตุลา ความกดอากาศสูงเข้ามา พายุหมุนเกิด ดูได้ที่เวปกรมอุดตูด
    - ภายในปีหน้าจะมีน้ำท่วม
    มันท่วมสักที่ล่ะนา
    - อีกสิบปีข้างหน้าจะมีผู้มีบุญมาเกิด
    ใครคือผู้มีบุญ เกิดที่ไหน อย่่างไร
    อย่าพูดไปเรื่อยเปื่อย มีคนมากมายที่ไม่รู้เรื่อง มันตื่นตระหนก
    เพื่อนผมมาอ่านข้อมูลเวปนี้ มันเก็บเสื้อผ้าเตรียมขึ้นจรวดหนีไปดาวอังคารแล้ว
    (สงสัยไปแล้วตอนสองโมงเช้า เห็นถ่ายรูปลง facebook )
    อย่าเอาเวปลิงค์มาโพสต์ถ้าคุณ Copy ข้อมูลมา โดยไม่กลั่นกรอง
    พวกคุณเป็นผู้รู้
    ผู้รู้ย่อมฉลาด
    ฉลาดที่จะคิด
    ฉลาดที่จะฟัง
    ฉลาดที่จะดู
    ฝากผู้รู้ทุกท่านไว้ด้วยครับ
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ถ้าท่านเชื่อว่าจะเกิดภัยพิบัติ
    ควรพิมพ์ข้อมูลนี้เก็บเอาไว้ช่วยชีวิตท่านนะครับ

    [​IMG]

    Aunyasit สมาชิก

    ผมจะเรียงลำดับการเกิดมหาภัยพิบัติแบบคร่าวๆให้นะครับ
    เหตุการณ์บางอย่างจะเกิดขึ้นแทบจะพร้อมๆกันครับ

    อันดับแรกเกิดระเบิดใต้น้ำ จากลาวาร้อนจัดใต้พื้นโลก
    ขึ้นมากระทบกับความเย็นจัดใต้มหาสมุทร ใกล้ประเทศใต้หวัน

    ต่อมาจะ เกิดแผ่นดินไหวแรงมากๆ จะกระทบและทำลายหลายๆประเทศ
    พร้อมทั้งเกิดคลื่นยักษ์ตามมาติดๆพร้อมกับน้ำมหาศาลยกตัวมีระดับสูงขึ้น
    แล้วก่อตัวเป็นมหาพายุ ประเทศที่เป็นเกาะหลายประเทศจะทะยอยทรุดตัว
    จมลงใต้มหาสมุทรเป็นโดมิโน่ จากแถวใต้หวัน ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น จีน(ชายทะเล)
    ฮ่องกง ไล่ลงมาถึงเวียดนาม กัมพูชา ลาว ไทย ฯลฯ
    พื้นที่ ที่คลื่นยักษ์ผ่านและแผ่นดินทรุด ล้วนจะวายวอดหมดครับ

    และ การทรุดตัวจมลงของเกาะใหญ่ๆกระแทกกับพื้นด้านล่างจะทำให้เกิดคลื่นยักษ์ตาม มาถล่มแถบชายฝั่งของประเทศต่างๆเป็นระลอกๆ ครับ คลื่นขนาดใหญ่ยักษ์และมีจำนวนถี่ๆ สามารถเข้าไปทำลายลึกเข้าไปในแผ่นดินร่วมร้อยกิโลเมตร ครับ


    # กรุงเทพมหานคร
    • แถวพุทธมณฑลสายสี่ เมื่อถึงกาลของภัยพิบัติ จะจมอยู่ใต้น้ำครับ
    • เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ถึงเวลาจะจมน้ำมิดเลยครับ
    • โรงพยาบาลเซ็นหลุยส์ (สาทร) ถึงตอนนั้นตึกส่วนใหญ่จะจมอยู่ใต้น้ำหมด ตึกสูงก็จะล้มลงมาครับ คลื่นน้ำประกอบกับแรงจากแผ่นดินไหวเขย่าไม่นานจะพังพาบหมดครับ
    • บางนา-กม4.5 อยู่ในเขตอันตรายครับ คลื่นจะมาทางนั้นด้วยครับและรวมไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิด้วย ถ้าถึงเวลานั้นจะไม่สามารถใช้สนามบินได้ครับ วันที่ฟ้ามืดเครื่องบินทุกชนิดไม่สามารถบินได้ครับ
    • ถ้าอยู่กรุงเทพจะไปเขาใหญ่ ไปทางปราจีนได้ครับ สะดวกเส้นทางไหน ไปเส้นทางนั้นเลยครับ
    • กทม. ส่วนที่ท่วมนั้นประมาณตึก 4 ชั้นครับ และค่อยๆทยอยท่วมจนเต็มพื้นที่ครับกทม. หรือปริมณฑล ไม่สามารถหนีภัยได้ทันในวันที่เปลี่ยนเป็นฟ้ามืด นั้นผมไม่สามารถตอบได้ครับว่าจะต้องทำอย่างไร เพราะเท่าที่ทราบมาก็คือถ้าไม่หนี ก็คงจะรอดยาก ถึงตอนนั้นตึกสูงๆคงเหลือน้อยมากครับ ตึกส่วนใหญ่ก็จะนอนลงในน้ำครับ
    • กทม. พื้นที่ชั้นในจะอันตรายสุด(จมหาย) ส่วนพื้นที่รองๆลงมาก็ค่อยๆจม ในกาลต่อมา สรุปว่า กทม.จะหายไปในที่สุดครับ
    • กรุงเทพและปริมณฑล รวมทั้งอยุธยา จมมิดไม่มีเหลือครับ
    จ.เชียงใหม่
    • ให้หาที่หลบภัยห่างจากชุมชนเมือง ที่ราบใกล้แม่น้ำ และไหล่เขาสูงชันครับ หลายพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่ยังปลอดภัยแต่หลายพื้นที่ก็อันตรายมากจากแผ่นดินไหวครับ
    • ต.ท่าเดื่อ อ.ดอยเต่า หากอยู่ใต้เขื่อนก็อันตรายแน่นอนครับ ปริมาณน้ำมหาศาลที่จะลงมานั้นไม่มีเขื่อนใดในประเทศนี้ที่จะรองรับได้ครับ ถ้าเขื่อนไม่พังน้ำก็จะล้นเขื่อน ผมเข้าใจว่าเมื่อเกิดแผ่นดินเคลื่อน แผ่นดินแยก จะทำให้เขื่อนเหล่านี้แตกหมดครับ
    • วัดป่าดาราภิรมย์ จะเจอภัยจากน้ำและแผ่นดินไหวครับ ส่วนพระพุทธบาทสี่รอย ค่อนข้างปลอดภัยจะเสียหายไม่มากครับ
    • แถววัดเกตุ ต่อไปแถวนั้นจมมิดอยู่ใต้น้ำครับ สำหรับพระธาตุนั้นท่านเสด็จไปมาได้ครับ
    • ดอยสุเทพ ตรงวัดพระธาตุดอยสุเทพ กับพระตำหนักภูพิง และดอยอ่างขาง และดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ โดยรวมจะค่อนข้างปลอดภัยครับ ยก เว้นภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว ที่สิ่งก่อสร้างใหญ่ๆหลายที่จะโค่นล้มลงมา ดังนั้นถ้าจะไปอยู่ใกล้สถานที่นั้นก็ให้ห่างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ไว้ครับ
    • แถวโป่งแยง และสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีความชันไม่มากนักจะค่อนข้างปลอดภัย แต่ให้เตรียมตัว เตรียมพร้อมสำหรับภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวด้วยครับ เช่น ไม่ไปอยู่ใกล้สิ่งก่อสร้างใหญ่ๆที่เสี่ยงต่อการพังทะลายหากเกิดแผ่นดินไหว มีที่โล่งใกล้ๆที่พอจะไปอาศัยได้ ในกรณีเกิดแผ่นดินไหว ครับ
    • อ.ฝาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ไม่ค่อยปลอดภัยเนื่องจากอยู่ใกล้แนวแผ่นดินไหวรุนแรง ระวังน้ำป่าจากฝนตกหนัก และดินถล่มครับ
    • อ. เชียงดาว เชียงใหม่ ตามที่ราบสูงค่อนข้างปลอดภัยครับ
    • อ.สันทรายและ อ.เมือง จ. เชียงใหม่ ในช่วงแรกของภัยพิบัติน้ำจะท่วมบ่าและไหลแรง (ไม่เกิน 1 เดือน)
    • อ.แม่วางจะกระทบจากน้ำน้อยหน่อยปลอดภัยกว่า อ.สันทรายและ อ.เมือง แต่โดยรวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่จะเกิดแผ่นดินไหว ดินไหล่เขาพังทลายและแผ่นดินแยกหลายที่และจะตามมาด้วยโรคระบาด และบางพื้นที่(ที่สูง)จะหนาวจัดด้วยครับ ช่วงแผ่นดินไหวควรหาเต็นท์อยู่ในที่โล่งๆครับ
    • อ. ดอยสะเก็ต จ.เชียงใหม่ จะมีปัญหากับน้ำท่วมและแผ่นดินไหวค่อนข้างมากครับ ถ้ามีที่อยู่ที่สูงและสามารถรองรับแผ่นดินไหวได้ ก็สามารถอาศัยอยู่ได้ ครับ
    • อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ค่อนข้างปลอดภัย แต่ต้องระวังปัญหาจากแผ่นดินไหวครับ และถ้ำตามภูเขาในพื้นที่ใกล้เคียงก็ค่อนข้างปลอดภัยครับ
    • วัดป่าไม้แดง ไชยปราการ เชียงใหม่ จะมีผลกระทบจากแผ่นดินไหว แผ่นดินแยกและ ที่ดอยผาตั้งก็เช่นเดียวกันครับ ถ้าจะอยู่อาศัยให้เตรียมสถานที่เพื่อรองรับแผ่นดินไหวไว้ด้วยครับ
    จังหวัดอื่นๆ อยู่ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/กระทู้...ธิ์-ขอเชิญเข้ามาสอบถามได้ที่นี่.344425/page-7
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • knowing2.jpg
      knowing2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.6 KB
      เปิดดู:
      740
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2012
  14. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    เมื่อวานนี้ศิษย์สาย ฮ่มภะโคสีร์ได้มาซื้อของที่ร้าน ได้เล่าให้ฟังถึงขามากรุงเทพฯ เจออุบัติเหตุทางรถยนต์ตัวเองถึงกับบาดเจ็บ เขาเล่าให้ฟังว่าตามสี่แยกจะมีวิญญาณต่างๆเฝ้าคอยอยู่

    ดังนั้นการขับรถหรือการเคลื่อนย้ายต่างๆขอให้อย่าประมาทไปอย่างช้าๆให้มีสติอยู่ตลอดเวลา

    เคอิสรา[/QUOTE]
    รถทุกวันนี้เยอะมาก แรง ขับเร็ว คนใช้ถนนบางคนประมาท ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ไม่ใช่เทวดาฟ้าดินลงโทษมั่ง ผมว่าเขาลงโทษตัวเองมากกว่า
     
  15. gijjij

    gijjij เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +346
    เดี๊ยวก็เลื่อนอีกตามเดิม เนื่องจากมีผู้มีบุญหรือพบก x-men มาขอไว้
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อานิสงส์ของการรักษาศีล ๘

    [​IMG]

    การรักษาอุโบสถศีล มีผลมาก มีอานิสงส์มาก แม้ความสุขของพระราชาผู้ทรงเป็นใหญ่ใน ๑๖ แคว้น ก็ยังไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ ของอุโบสถที่ประกอบด้วยองค์ ๘ เพราะศีลนั้นทำให้เกิดในสวรรค์”

    อุโบสถศีล เป็นกุศลวิธีที่นำพามนุษย์ไปสู่สวรรค์มาตั้งแต่มนุษย์ยุคต้นกัป ถ้าเป็นอุโบสถในพระพุทธศาสนา เรียกว่า อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ซึ่งก็หมายถึงรักษาศีล ๘ ในวันพระนั่นเอง ในยุคสมัยที่ยังไม่มีพระพุทธศาสนา ผู้ปรารถนาสวรรค์จะชักชวนกันรักษาอุโบสถศีล เพราะถือว่าเป็นอริยประเพณีที่มีมาช้านาน

    แม้กระทั่งพระเจ้าจักรพรรดิราช ก่อนจะทรงครองความเป็นใหญ่ในทวีปทั้ง ๔ ก็ต้องสมาทานอุโบสถศีลอย่างเคร่งครัดทุกๆ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ อานิสงส์ของอุโบสถศีล ทำให้ รัตนะทั้ง ๗ ประการ มีจักรแก้ว เป็นต้น บังเกิดขึ้น เป็นของคู่บุญ ทำให้พระองค์ทรงสามารถปกครองโลกให้เกิดสันติสุข ครั้นละโลกแล้วก็ได้ไปเสวยสุขในสุคติโลกสวรรค์

    อุโบสถศีล แปลว่า การเข้าอยู่จำโดยถือศีล ๘ ข้อ วันอุโบสถหรือวันพระนั้น เป็นวันที่เราจะต้อง อยู่เยี่ยงพระ คือบำเพ็ญเนกขัมมะนั่นเอง ศีลแปดที่รักษากันในวันพระ เรียกว่า อุโบสถศีล ผู้ครองเรือนทั่วไปไม่สะดวกถือศีล ๘ ได้ทุกวัน ก็จะหาโอกาสมาถือศีลกันเฉพาะวันพระเช่นนี้จึงเรียกว่า รักษาอุโบสถศีล

    ระยะเวลาของการรักษาอุโบสถศีล

    การรักษาอุโบสถ มี ๓ อย่าง สามารถเลือกรักษาได้ตามความพร้อมของแต่ละบุคคล คือ

    ๑. ปกติอุโบสถ คือ อุโบสถที่รักษากันเฉพาะวันที่กำหนดไว้ ในปัจจุบันนี้กำหนดเอาวันพระ คือ วัน ๘ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ ทั้งข้างขึ้นและข้างแรม
    ๒. ปฏิชาครอุโบสถ คืออุโบสถที่รักษากันครั้งละ ๓ วัน โดยการถือเพิ่มการรักษาก่อนกำหนด ๑ วัน เรียกว่า วันรับ และหลังวันกำหนดอีก ๑ วัน เรียกว่า วันส่ง จึงรวมเป็นรักษาคราวละ ๓ วัน คือ วันรับ วันรักษา และวันส่ง รวม ๓ วัน ๓ คืน
    ๓. ปาฏิหาริยปักขอุโบสถ คือ อุโบสถที่รักษาครั้งละหลายๆ วัน เช่น ตลอดพรรษา ๓ เดือนบ้าง ตลอด ๑ เดือนบ้าง หรือครึ่งเดือนจำนวน ๑๕ วันบ้าง

    ศีลอุโบสถนั้น มีองค์ประกอบทั้งหมด ๘ ข้อ ถ้าขาดไปข้อใดข้อหนึ่ง ก็ไม่เรียกว่าศีลอุโบสถตาม พุทธบัญญัติ เพราะฉะนั้นการล่วงศีลอุโบสถเพียงข้อใดข้อเดียว ก็ถือว่าขาดศีลอุโบสถ พูดง่ายๆ ว่า ขาดศีลข้อเดียวก็ขาดหมดทั้ง ๘ ข้อ ผู้ที่รักษาอุโบสถศีลจึงต้องสำรวมระวัง กาย วาจา เป็นพิเศษ

    อุโบสถศีล มี ๘ ประการ

    อุโบสถศีลประกอบด้วยองค์ ๘ มีดังนี้ คือ

    ๑. ปาณาติปาตา เวรมณี งดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
    ๒. อทินนาทานา เวรมณี งดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้
    ๓. อพรหมจริยา เวรมณี งดเว้นจากกรรมอันเป็นข้าศึกต่อการประพฤติผิดพรหมจรรย์
    ๔. มุสาวาทา เวรมณี งดเว้นจากการกล่าวเท็จ รวมถึงวจีกรรมในรูปแบบต่างๆ
    ๕. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี งดเว้น จากการดื่มสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
    ๖. วิกาลโภชนา เวรมณี งดเว้นจากการบริโภค อาหารในเวลาวิกาล
    ๗. นัจจคีตวาทิตวิสูกทัสสนมาลาคันธวิเลปน-ธารณมัณฑนวิภูสนัฏฐานา เวรมณี งดเว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี และดูการละเล่นอันเป็นข้าศึกต่อกุศล ลูบทาทัดทรงประดับตกแต่งร่างกายด้วยพวงดอกไม้ ของหอม เครื่องย้อม เครื่องทา อันจัดว่าเป็นการแต่งตัว
    ๘. อุจจาสยนมหาสยนา เวรมณี งดเว้นจากการนั่ง และการนอนบนที่นอนสูงใหญ่

    เป้าหมายหลักในการรักษาอุโบสถศีลนั้น ก็เพื่อทำให้จิตใจสงบ ไม่กวัดแกว่งฟุ้งซ่านไปในเรื่องกามารมณ์ แต่ยึดเอาพระนิพพานเป็นอารมณ์ ถือ เป็นการประพฤติพรหมจรรย์ของคฤหัสถ์ผู้ที่ยังไม่ปรารถนาออกบวช โดยปกติวันพระ พุทธศาสนิกชน ที่สะดวกก็จะพากันแต่งชุดขาวไปสมาทานอุโบสถศีล และฟังธรรมที่วัด แล้วพักอาศัยอยู่ที่วัด จนกว่าจะครบกำหนด ถ้าไม่ได้ไปวัด ก็จะตั้งใจสมาทานศีล ด้วยตนเอง จะเปล่งวาจาสมาทานหรือเพียงแต่ตั้งเจตนาไว้ก็ได้ทั้งนั้น

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัส อุปมาถึงอานิสงส์ ของการรักษาอุโบสถศีลไว้ว่า ถ้าจะนำมาเปรียบกับสมบัติของพระราชา ที่แม้จะครองความเป็นใหญ่ถึง ๑๖ แคว้น ก็ยังไม่ถึงเสี้ยวของผลบุญอันเกิดจากการ รักษาอุโบสถเลย เพราะสมบัติมนุษย์ เป็นสมบัติ หยาบเหมือนสมบัติของคนกำพร้า มีความสุขได้ไม่กี่ร้อยปีก็ต้องพลัดพรากซึ่งเทียบไม่ได้กับการได้เสวยทิพยสมบัติอันยาวนานในสวรรค์ที่เกิดจากอานิสงส์ของการรักษาอุโบสถ การรักษาอุโบสถศีลนี้ แม้ว่าจะมีโอกาสรักษาได้ไม่นาน แต่กลับสามารถส่งผลให้มีอานิสงส์มากมายเกินควรเกินคาดได้

    อานิสงส์ของการรักษาอุโบสถศีล

    จะเห็นได้ว่า เพียงการรักษาอุโบสถศีล และทำด้วยความเต็มใจ ยังได้อานิสงส์ขนาดนี้ แล้วถ้าหากใครได้รักษาอยู่เนืองนิตย์อานิสงส์นั้นพรรณนา อย่างไรก็ไม่หมด เป็นบุญใหญ่ที่จะนำพาให้ได้สวรรค์สมบัติ เวียนวนอยู่แต่ในสุคติภูมิเท่านั้น เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ จะถึงพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ในที่สุดจะได้นิพพานสมบัติ เข้าถึงความสุขอันเป็นอมตะ ผู้ที่รักษาอุโบสถศีลจะได้รับอานิสงส์มากมายเกินควรเกินคาด อย่างน้อยๆ ก็สามารถแบ่งออกเป็น ๕ ข้อ คือ

    ๑. ย่อมได้รับโภคทรัพย์ใหญ่ เพราะความไม่ประมาทเป็นเหตุ
    ๒. เกียรติศัพท์อันงามของผู้มีศีล ย่อมฟุ้งขจรไปไกล
    ๓. ผู้มีศีลเข้าไปสู่สมาคมใดๆ ย่อมเข้าไปอย่างองอาจไม่เก้อเขิน
    ๔. ผู้มีศีลย่อมไม่หลงทำกาละ คือ ไม่หลงเผลอสติในเวลาตาย
    ๕. ผู้มีศีล ตายแล้วย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทพ

    นอกจากนี้ ศีล ยังเป็นบาทเบื้องต้นแห่งสมาธิ ทำให้ใกล้ต่อมรรคผลนิพพาน ดังนั้นคนที่ตั้งใจรักษาศีลได้บริสุทธิ์ก็จะมีผลต่อการนั่งสมาธิไปด้วย ดังนั้น พุทธศาสนิกชนที่ดีก็ควรที่จะตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ทั้งยังต้องเป็นกัลยาณมิตรชักชวนคนรอบข้างมาสั่งสมบุญใหญ่ ที่เกิดจากการรักษาอุโบสถศีล เพื่อฟื้นฟูวัฒนธรรมชาวพุทธให้แข็งแรงยิ่งขึ้นไป

    บุคคลแม้จะงดงามด้วยเครื่องประดับอันมีค่า ก็ยังไม่งามเท่าผู้มีศีลเป็นอาภรณ์ ผู้มีศีลย่อมติเตียนตนเองไม่ได้ เมื่อพิจารณาถึงศีลที่บริสุทธิ์ ย่อมเกิดปีติทุกเมื่อ ศีลจึงเป็นรากฐานแห่งความดีทุกอย่างและกำจัดความชั่วทั้งปวง

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • K541018p4.jpg
      K541018p4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.4 KB
      เปิดดู:
      384
    • nimman4.jpg
      nimman4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69 KB
      เปิดดู:
      29
    • B541031p8.jpg
      B541031p8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      354.9 KB
      เปิดดู:
      26
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2012
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นี่สิของจริง ไม่เป็นตุเป็นตะแน่นอนครับ !!!

    <TABLE class=tborder id=post6034180 style="BORDER-RIGHT: rgb(239,239,239) 1px solid; BORDER-TOP: rgb(239,239,239) 1px solid; WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px arial, verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; BORDER-LEFT: rgb(239,239,239) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; BORDER-BOTTOM: rgb(239,239,239) 1px solid; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: rgb(255,255,255) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247)" width=175>karan20
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Sep 2010
    ข้อความ: 1,349
    Groans: 0
    Groaned at 8 Times in 8 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 23
    ได้รับอนุโมทนา 1,913 ครั้ง ใน 421 โพส
    พลังการให้คะแนน: 389[​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_6034180 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239)">ท่านที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญ ย่อมทราบดีว่าหลวงพ่อเป็นพระสุปฏิปันโนที่น่าเคารพกราบไหว้ และท่านไม่กล่าวอะไรเพ้อเจ้อเลื่อนลอย ไม่กล่าวอะไรที่เป็นไปในทางงมงายไร้สาระ แต่เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2555 ท่านได้มอบคาถาไว้บทหนึ่ง...

    คาถาป้องกันภัยโดย หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน

    "แม่ธรณีเจ้าเอ๋ย อยู่แล้วหรือยัง สังขาตัง โลกัง กะวิทู"

    คาถาป้องกันภัยที่หลวงพ่อท่านให้ไว้<WBR>ในวันทำบุญแผ่นดิน ใช้ท่องก่อนออกจากบ้าน ขึ้นรถ ลงเรือ กลั้นหายใจว่าคาถาแล้วจึงก้าว..<WBR>.

    ขอเชิญสาธุชนเก็บไปคิดพิจารณา
    นี่อาจเป็นคำเตือนจากหลวงพ่อหรือไม่ ?

    คัดลอกบางส่วนจาก
    คาถาป้องกันภัยและการสร้างพระเข้าตัว โดย หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://palungjit.org/threads/การเดินทางและความคิดของกาขาว-เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ.335895/
     
  18. NARASAWA

    NARASAWA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +408
    ผมถ่ายติดอาทิตย์สองดวง

    เกี่ยวอะไรกับคำทำนายไหมครับ ถ่ายเองกะมือที่หลังบ้าน
    บนและกึ่งกลางภาพ 1+1=2
    รูปไม่ได้ตกแต่งใดใดทั้งสิ้น เว้นเสียแต่เพิ่มแสง +1 Stop
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1 (2).jpg
      1 (2).jpg
      ขนาดไฟล์:
      224 KB
      เปิดดู:
      68
    • 1 (3).jpg
      1 (3).jpg
      ขนาดไฟล์:
      208.9 KB
      เปิดดู:
      61
    • 1 (4).jpg
      1 (4).jpg
      ขนาดไฟล์:
      214.2 KB
      เปิดดู:
      44
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ในที่สุดธรรมะก็ชนะอธรรม !!!

    ด่วนมาก ระหว่างวันที่ ๙ – ๑๔ ต.ค. ๕๔ ข้าพเจ้า, อ.ศํกดาและคณะเดินทางไปนครต้าลี่(อาณาจักรน่านเจ้าของไทยในอดีต) ประเทศจีน เพื่อหาทางหยุดยั้งภัยพิบัติ อุทกภัยที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย เราเดินทางไปนครต้าลี่ด้วยความทุกข์อย่างใหญ่หลวง ที่เกิดขึ้นกับพี่น้องชาวไทยและบ้านเมืองของเรา กี่ร้อย กี่พัน กี่หมื่น กี่ล้านชีวิตที่ต้องสูญสิ้นเพราะอุทกภัยที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่ต้องการจะครองโลก

    ก่อนเดินทางไปมณฑลยูนนาน นครต้าลี่ ประเทศจีน เรากำลังพูดคุยกันว่า เราอยากไปช่วยผู้ที่กำลังประสบกับภัยพิบัติ เราจะเริ่มจากจังหวัดไหนก่อน ที่ไหนที่ขาดแคลนมากที่สุดที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ที่ผ่านมา อ.ศักดาและข้าพเจ้า พยายามแจ้งข่าวเตือนภัยแก่ญาติธรรมและพี่น้องชาวไทยมาโดยตลอด ทั้งภาพแผนที่ประเทศไทยที่แสดงพื้นที่ส่วนที่จมและส่วนที่เหลือรอดจากอุทกภัยและการตระเตรียมทั้งสถานที่อยู่ที่จะปลอดภัย และสิ่งที่ควรตระเตรียมไว้เมื่อเกิดภัยพิบัติทั้งอาหาร, ยารักษาโรค, ไฟฉาย, เตาแก๊ส, เตาถ่าน, น้ำมันเชื้อเพลง เป็นต้น

    แต่บ้านเมืองเราทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปรกติ ทำให้ท่านคิดว่ามันไม่มีอะไรและดำรงชีวิตอยู่ในความประมาท ไม่มีการสำรองทั้งที่พัก (บ้านหลังที่ ๒ ทางภาคเหนือหรืออีสาน) และอาหาร แต่ก็มีญาติธรรมจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่เชื่อ ได้ขายบ้านที่อยู่ในภาคกลาง, ภาคใต้และภาคตะวันออก มาซื้อที่ดินและปลูกบ้านทางภาคเหนือ เพื่อเตรียมรับกับภัยพิบัติและภัยจากสงครามโลก เพราะพวกเรารู้ดีว่าหลังจากภัยพิบัติ น้ำไป ไฟจะมา สงครามจะเกิด ทั้งสงครามกลางเมืองและสงครามโลก ข้าวปลาอาหารจะขาดแคลน ที่มีก็จะราคาแพงมาก แย่งกันอยู่ แย่งกันกิน ไม่ว่าจนหรือรวย ถึงเวลามีเงิน ก็หาซื้ออาหารไม่ได้ ไม่มีใครต้องการเงินมากกว่าอาหาร

    เบื้องบนบอกว่า...การเข้าไปช่วยเหลือชาวสยามที่กำลังประสบภัยนั้น มีผู้ที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว แค่เธอทั้ง ๒ ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายเหตุ ท่านบอกว่า...

    “โพธิ์สัตว์น้อย จงฟังเรา! ทุกข์ของแผ่นดินน่าเวทนานัก หากเป็นกรรมเราจะนิ่งเฉย แต่นี่เกินจากกรรมอันกำหนดแล้ว จำเป็นต้องลงมาช่วยแก้ไข ถ้าหากเป็นกรรมที่ชาวสยามทำกับพระโพธิสัตว์(คิดร้าย มุ่งร้ายต่อพระเจ้าอยู่หัวฯ) เราต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรม แต่นี่เกินจากกรรมนั้นแล้ว มีทางเดียวที่ยุติอุทกภัยครั้งนี้ได้ คณะของโพธิสัตว์น้อยต้องเดินทางไปยังทะเลสาบเอ๋อไห่ ไปกราบพระแม่กวนอิม ขอมังกรดำให้มาจัดการพญาอินทรีย์ ไม่เช่นนั้นหยุดไม่อยู่ แผ่นดินสุวรรณภูมิ(ไทย-ลาว-พม่า-จีน-เวียดนาม-มาเลเซียและสิงค์โปร์) จะกลายเป็นทะเล ชีวิตนับล้านจะสูญสิ้น ให้ทำภารกิจครั้งนี้ให้สำเร็จจงได้ ถึงลำบากก็ต้องทำ ๕ ชีวิตเดินทางไปยังทะเลสาบเอ๋อไห่ให้เร็วที่สุดไม่เช่นนั้นจะหยุดภัยครั้งนี้ไม่ได้เลย

    พรุ่งนี้ อัญเชิญ “พระสยามเทวาธิราช” ไปไว้ที่ริมโขง เขื่อนจีนจะแตกในไม่ช้า มีแต่พระสยามเทวาธิราชเท่านั้นที่จะหยุดภัยพิบัติได้ และไปให้ถึงชายแดนไทย ไปให้ถึงเอ๋อไห่ให้เร็วที่สุด เร่งทำภารกิจให้เร็วที่สุด อัญเชิญพญามังกรดำมาปราบพญาอินทรีย์ให้จงได้ เขาเท่านั้นจะหยุดพญาอินทรีย์อยู่ ซาตาน, พญามาร, อสูรเป็นผู้กระทำ ห้ามก้าวล่วงวิบากกรรมของมนุษย์ เราจะหยุดยั้งกรรมนั้นไม่ให้เกินกฎสวรรค์ เราจำเป็นต้องหยุด หยุดยั้งให้ได้!”

    “อัญเชิญพญามังกรดำแล้ว เอาน้ำจากทะเลสาบเอ๋อไห่กลับมาผสมกับน้ำมนต์ของเรา แล้วเทลงไปยังแม่น้ำสำคัญ ปิง, วัง, ยม, น่านและแม่น้ำโขง แต่เหตุที่เกินขึ้นจะยังไม่จบลงง่ายๆ ใช้เวลาอีกหลายเดือน ภารกิจครั้งนี้! จะช่วยบรรเทาความเสียหายของประเทศเหลือเพียง ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่เช่นนั้นจะเสียหายถึง ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ของประเทศ กรุงเทพฯ จะเสียหาย ๓๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่ทำ ไม่แก้กรุงเทพฯ จะเสียหาย ๗๐ เปอร์เซ็นต์ พระแม่กวนอิมจะนำทหารกองทัพธรรมของท่าน ๑.๕ ล้านคนมาด้วย จะลงมาแฝงในร่างของทหารไทยและประชาชนไทยในการทำกำแพงกั้นน้ำ ช่วยกันบรรจุสิ่งของไปแจกคนที่ถูกน้ำท่วมและแฝงในร่างของเศรษฐี คนมีเงินให้ช่วยบริจาคทรัพย์ ช่วยคนถูกน้ำท่วม ในที่สุด ธรรมะจะต้องชนะอธรรม”

    พี่น้องชาวไทยทุกท่าน! ข้าพเจ้า, อ.ศักดาและคณะ ได้ทำภารกิจตามบัญชาเบื้องบนครบถ้วนทุกประการแล้ว และความหมายที่เบื้องบนบอกคือ อุทกภัยที่เกิดขึ้น เกิดจากภัยธรรมชาติเพียงเล็กน้อย แต่มนุษย์ซ้ำ และเป็นผู้ที่ก่อให้เกิดขึ้น ซาตาน มาร พญามาร หมายถึงชาวต่างชาติที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงในการทำให้เกิดภัยธรรมชาติ พวกเขามีกำลังเงินและกำลังคน และประเทศไหน? ที่สัญลักษณ์ของประเทศคือ พญาอินทรีย์ ท่านลองคิดดูเอง นี่แหละ! ซาตานตัวจริง หน้าฉากทำรักษ์โลก รักพี่น้องร่วมโลก หลังฉาก คือ ซาตานลวงโลก ศาลโลกตัวจริง! ตัดสินชีวิตมนุษย์โลก เพื่อกอบโกยทรัพยากรในแผ่นดินของเขา

    เบื้องบนอีกพระองค์ ได้บอกกับข้าพเจ้าว่า... พญามารเขาว่าเขาคิดดี เขาคิดถูก เขาบำเพ็ญมาไม่น้อย แต่เขาคิดแตกต่างจากเรา เรานับถือพระพุทธเจ้า ปฏิบัติตามคำสอนขององค์พระศาสดา พญามารก็เช่นกัน เข้าก็มีคนของเขาที่ลงมาเกิดและเชื่อในสิ่งที่เขาคิดและทำ เขาคิดว่าตัวเองคือ ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก มีสมองที่ดีแต่มุ่งทำลายสรรพชีวิต เขามีเทคโนโลยีชั้นสูง

    เขาคิดว่าประชากรในโลกนี้มีมากเกินไปและมีแต่คนไร้ประโยชน์ เพราะอย่างนั้นทำให้ประชากรโลกเหลือให้น้อยที่สุด และสร้างโลกใหม่ขึ้นมาคือ โลกของซาตาน ไม่มีประเทศ ไม่มีศาสนา คัดเลือกไว้เฉพาะคนที่มีประโยชน์กับเขาและคนที่เก่งที่สุดในแต่ละสาขาอาชีพ เก่งที่สุดทางด้านวิชาการ เขาต้องการครองโลกควบคุมและเป็นเจ้าของโลกมนุษย์ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกฏแห่งกรรม ผู้ใดทำกรรมใดไว้จะต้องรับผลแห่งกรรมนั้นการเบียดเบียนชีวิตไม่ว่าคนหรือสัตว์เป็นบาป คนเราฆ่าก็ตาย ไม่ฆ่าก็ตาย เกินขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นสิ่งที่แน่นอนและเป็นไปตามกฎแห่งกรรม

    พี่น้องชาวไทยและญาติธรรมที่รักทุกท่าน! พวกนี้เขาเกลียดคนผิวเหลืองและพวกอาหรับมากที่สุดและเขาคิดว่าไร้ประโยชน์มากกว่ามีปะโยชน์ ประชากรในโลกนี้มีมากเกินไป เพราะฉะนั้นต้องล้างโลก โดยใช้น้ำ ตามด้วยไฟ และก่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๓ แต่เขาต้องเข้ายึดประเทศไทยให้ได้ก่อน เพราะมีอาหารอุดมสมบูรณ์ เขาเลือกประเทศไทยเป็นเมืองหลวงของรัฐโลกใหม่ เป็นพื้นที่ๆ เอื้อต่อการทำสงครามต่อเนื่องทั้งกับจีน, อาหรับและทุกประเทศที่ไม่ร่วมมือกับเขา ใช้ภาคใต้ของไทยเป็นที่ตั้งฐานทัพและเลือกประเทศไทยเป็นที่อยู่ของพวกเขา เพราะเป็นเขตอบอุ่น มีอาหารสมบูรณ์
     
  20. k8132

    k8132 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2012
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +285
    haarp แน่ๆเลยถ้างั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...