ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

สร้างไม่ทันกับความต้องการ สำหรับหลุมหลบภัยในอเมริกา !!!​

http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=ii-7jhkp_zs​

สุกิจSukit สมาชิก

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล ได้แชร์ ลิงก์
1 ชั่วโมงที่แล้ว ·
สร้างไม่ทันกับความต้องการ สำหรับหลุมหลบภัยในอเมริกา

ใครอยากรวย นี่เป็นโอกาส!
Bunkers Sell As Doomsday Prepping Goes Mainstream
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=SptOUafCHzs"]Inside a Bomb Shelter with Atlas Survival Shelters by Equip 2 Endure - YouTube[/ame]
ที่มา http://palungjit.org/threads/ติดตามสถานะการณ์.497341/page-95

 

แผ่นดินไหวปาปัวนิวกินี 7.1 ริคเตอร์​

​

เกิดแผ่นดินไหว 7.1 ริคเตอร์ เขย่าปาปัวนิวกินี แต่ไม่มีรายงานคลื่นสึนามิ หรือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่า สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า เมื่อเวลา 20.31 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 17.31 น.ตามเวลาในไทยของวันพุธ เกิดแผ่นดินไหว 7.1 ริคเตอร์นอกชายฝั่งปาปัวนิวกินี โดยแผ่นไหวครั้งนี้อยู่ลึกลงไปใต้ทะเลราว 58 กิโลเมตร พร้อมกับห่างจากเมืองปันกูน่าของปาปัวนิวกินีไปทางตะวันตกราว 65 กิโลเมตร และห่างจากหมู่เกาะโซโลมอนไปทางตะวันตกราว 642 กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมทั้งไม่มีคำเตือนเกี่ยวกับคลื่นยักษ์สึนามิ

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา แผ่นดินไหว 8.0 ริคเตอร์ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิกระหน่ำเมืองลาต้าของหมู่เกาะโซโลมอน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 10 ศพ บ้านเรือนหลายร้อยหลังถูกทำลาย ประชาชนหลายหมื่นคนต้องไร้บ้าน ส่วนเมื่อปี 2550 มีคลื่นยักษ์สึนามิหลังแผ่นดินไหวรุนแรง 8.0 ริคเตอร์ คร่าชีวิตผู้คนไม่ต่ำกว่า 52 ศพในหมู่เกาะโซโลมอน และไร้ที่อยู่อาศัยหลายพันคน

เดลินิวส์ วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2556 เวลา 18:24 น.

จีนพบผู้ป่วยไข้หวัดนกพันธุ์เอช 7 เอ็น 9 รายใหม่​

​

พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช7เอ็น9 รายใหม่ในมณฑลเจ้อเจียง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่อาการน่าเป็นห่วงอยู่

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ว่า สำนักข่ายซินหัวของทางการจีน รายงานว่า จีนยืนยันพบผู้ป่วยไข้หวัดนกเอช7เอ็น9 รายใหม่ ซึ่งเป็นรายงานรายแรกของประเทศ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่พบเชื้อไวรัสชนิดนี้ในมนุษย์ ซึ่งทำให้มีผู้ป่วยแล้ว 135 ราย โดยนายหลิว วัย 35 ปี ในเมืองเส้าซิง มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเนื่องจากติดเชื้อไวรัสดังกล่าว และอาการน่าเป็นห่วง

ซินหัวรายงานว่า นายหลิว พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งจากเมืองเส้าซิง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติและวางแผนครอบครัวของจีน กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 45 คนจากไวรัสชนิดนี้ ซึ่งพบติดต่อในมนุษย์ครั้งแรกเมื่อต้นปีนี้ ทั้งนี้ มณฑลเจ้อเจียง มีผู้ป่วยด้วยเชื้อไวรัสเอช7เอ็น9 มากที่สุดในจีน

เดลินิวส์ วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2556 เวลา 20:46 น.

เหยื่อแผ่นดินไหวฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็น 151 ศพ​

​

แผ่นดินไหวรุนแรง 7.1 ริคเตอร์ในฟิลิปปินส์เมื่อวันอังคาร หน่วยกู้ภัยพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 151 ศพในวันนี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองลูน ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามเร่งเข้าถึงชุมชนต่างๆ บนเกาะโบฮอล แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ทางตอนกลางของประเทศ ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก หลังเกิดแผนดินไหว 7.1 ริคเตอร์เขย่าเกาะดังกล่าวเมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้ดินถล่มฝังกลบบ้านหลายหลัง สะพานหลายแห่งถูกตัดขาด และโบสถ์เก่าแก่อายุหลายร้อยปีได้รับความเสียหายอย่างหนัก

สำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปนส์รายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันบนเกาะโบฮอลและเกาะใกล้เคียงเพิ่มขึ้นจาก 93 ศพเมื่อวันอังคาร เป็นอย่างน้อย 151 ศพเมื่อคืนวันพุธ และคาดว่า ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีกมาก นายเรย์นัลโด บาลิโด โฆษกสภาการจัดการและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์กล่าวว่า ความพยายามของเราในขณะนี้คือเข้าถึงพื้นที่ที่ถูกโดดเดี่ยวให้ได้ เพราะเราเชื่อว่า ประชาชนติดค้างอยู่ที่นั่น ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องการดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือ นายบาลิโด กล่าวต่อไปว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ ทำให้สะพานหลายแห่งถูกทำลาย ถนนหนทางต่างๆ ถูกตัดขาด และไฟฟ้าดับ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนราว 1 ล้านคนที่อาศัยอยู่บนเกาะ อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ทางการยังไม่สามารถระบุระดับความเสียหายว่ามากมายแค่ไหนในบางพื้นที่.

เดลินิวส์ วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2556 เวลา 11:56 น.

พายุไต้ฝุ่นวิภาถล่มญี่ปุ่นตายสูญหายอื้อ​

​

พายุไต้ฝุ่นวิภากระหน่ำญี่ปุ่น โดยเฉพาะในกรุงโตเกียว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายหลายสิบราย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 13 ศพและสูญหาย 50 ราย หลังจากพายุไต้ฝุ่นวิภา ที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี พัดกระหน่ำกรุงโตเกียวเมื่อเช้าวันนี้

อิทธิพลของพายุทำให้ฝนตกหนักและดินถล่ม บ้าน 5 หลังถูกทำลาย และน้ำท่วมบนเกาะโอชิมะ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางใต้ราว 120 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งช่วยเหลือประชาชน 2 รายที่ติดอยู่ในบ้านที่ถูกทำลาย นอกจากนี้ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังไม่สามารถเข้าถึงอีกหลายพื้นที่ ตำรวจนครบาลกรุงโตเกียวประกาศพบศพผู้เสียชีวิต 2 รายในแม่น้ำที่เชี่ยวกราก และอีกหนึ่งรายถูกดึงออกจากบ้านที่พังทลาย ขณะที่สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคแพร่ภาพเกาะแห่งหนึ่งได้รับความเสียหายจากอิทธิพลของพายุทั้งโคลนถล่ม ต้นไม้หักโค่น ชาวบ้านจำนวนมากต้องอพยพไปยังที่ปลอดภัย

พายุไต้ฝุ่นวิภา แม้ยังไม่ได้ขึ้นฝั่งญี่ปุ่น แต่ทำให้พื้นที่รอบกรุงโตเกียวเกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรง พายุไต้ฝุ่นวิภา ที่มีความเร็วลม 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยังทำให้ญี่ปุ่นต้องปิดโรงเรียนหลายแห่งในเขตกรุงโตเกียว เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นคาดหมายว่า ตลอดวันพุธจะมีฝนตกหนักและลมแรงทั่วพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ นอกจากนี้ เที่ยวบินยกเลิกหลายร้อยเที่ยว และระบบขนส่งในกรุงโตเกียวยังเป็นอัมพาตในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนของวันนี้

เดลินิวส์ วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2556 เวลา 09:01 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

ด่วน! เครื่องบินลาวแอร์ไลน์ระเบิดร่วงน้ำโขงตายยกลำ​

​

ลาวแอร์ไลน์ระเบิดตกลงกลางแม่น้ำโขง นักบิน-แอร์โฮสเตส และ ผู้โดยสาร ตายยกลำ รวม 44 ศพ มีคนไทยเคราะห์ร้ายรวมด้วย

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินโดยสารแบบเอทีอาร์ 72 สายการบินลาว แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ คิววี 301 ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารประมาณ 40 คน ที่ออกเดินทางจากสนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อเวลา 14.45 น. มุ่งหน้าสู่สนามบินเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ทางใต้ของประเทศ โดยรายงานข่าวแจ้งว่าเครื่องบินลำดังกล่าวได้เกิดระเบิดขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะตกลงกลางลำน้ำโขง เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 39 คน รวมทั้งกัปตัน และแอร์โฮสเตส ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีคนไทยรวมอยู่ด้วย 2 คน ทราบว่า เป็นพนักงานของบริษัท ปตท.(มหาชน) นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าผู้โดยสารของเที่ยวบินนี้ มีรองเจ้าแขวงเซกอง ของ สปป.ลาว รวมอยู่ด้วย

ด้านนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) กำลังตรวจสอบรายละเอียดอยู่ โดยเท่าที่ทราบในเบื้องต้นพบว่ามีผู้อยู่บนเครื่องทั้งหมด 44 คน เป็นผู้โดยสาร 39 ในจำนวนนี้มีคนไทยจำนวน 5 คน ทราบชื่อนายยรรยง อาภานันท์ นายวีกิจ บุศราวุธานุสรณ์ นายภัครวัต อธิรัตนชัย นายนิพล เม่งสี หรือ ชัยชนะกุลดี และนายคะนึง ชาติเกษมชัย ซึ่งจะมีการประสานงานเพื่อนำศพมาไว้ที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อรอญาติมารับต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ว่า เดิมเที่ยวบินดังกล่าวมีกำหนดต้องออกเดินทางตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) แต่จำเป็นต้องเลื่อนเพราะสภาพอากาศแปรปวน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุตกบริเวณเกาะกลางลำน้ำโขง บ้านดอนขอ เขตติดต่อระหว่างเมืองชนะสมบูรณ์-ปากเซ

ด้านนายสรัญ รังคศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือพนักงานที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่ทุกราย เนื่องจากถือว่าเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ โดยเบื้องต้นทราบว่ามี 3 ราย เป็นวิศวกรประจำบริษัทและพนักงานจ้างซึ่งเป็นคนไทย ส่วนอีกรายเป็นวิศวกรที่เป็นชาวลาว ซึ่งทั้งหมดไปปฏิบัติภารกิจเรื่องการขยายปั๊มในพื้นที่

ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ของสายการบินลาวแอร์ไลน์ส ชี้แจงว่าบนเครื่องมีผู้อยู่ทั้งหมด 49 คน แยกเป็นผู้โดยสาร 44 คน กัปตัน 2 คน และลูกเรืออีก 3 คน สำหรับผู้โดยสารเป็นชาวลาว 17 คน ฝรั่งเศส 7 คน ไทย 5 คน ออสเตเลีย 5 คน เกาหลีใต้ 3 คน เวียดนาม 2 คน และ จีน สหรัฐอเมริกา แคนนาดา ไต้หวัน มาเลเซีย อีกชาติละ 1 คน.

เดลินิวส์ วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2556 เวลา 21:29 น.

ฝนถล่มทั้งวันทั้งคืน ปทุมธานีน้ำท่วมขังทั่วเมือง​

​

ฝนถล่มทั้งวันทั้งคืน ส่งผลให้ปทุมธานีน้ำท่วมขังทั่วเมือง โดยเฉพาะถนนเลียบคลองรังสิตฯน้ำได้เอ่อท่วมขัง ตั้งแต่ซอยรังสิต-นครนายก 4 ไปจนถึงซอยรังสิต-นครนายก 26 รถเล็กเข้า-ออกไม่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำลงคลองรังสิตประยูรศักดิ์

วันที่ 16 ต.ค. จากกรณีที่อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นนารี ส่งผลให้พื้นที่ทางภาคอีสานมีฝนตกตลอดทั้งคืน และต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ ที่เขตเทศบาลนครรังสิต และในหลายพื้นที่ของ จ.ปทุมธานี ฝนที่ตกลงมา เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานในช่วงเช้า ต้องกางร่มและสวมเสื้อกันฝน ส่วนในปทุมธานีนั้นยังมีฝนตกลงมาและท้องฟ้ามืดครึ้ม ทำให้ประชาชนเดินทางไปทำงานด้วยความลำบาก

ส่วนที่บริเวณถนนรังสิต-นครนายก ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ริมเคลื่อนสะพานฟ้า-สะพานแดง ฝนที่ตกหนักตลอดเมื่อคืนนี้ และน้ำเหนือด้านคลองระพีพัฒน์ที่ไหลลงมาสมทบ ทำให้ปริมาณน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ถนนหลายสาย และถนนเลียบคลองรังสิตฯน้ำได้เอ่อท่วมขัง ตั้งแต่ซอยรังสิต-นครนายก 4 ไปจนถึงซอยรังสิต-นครนายก 26 น้ำได้เข้าท่วมตามถนนซอยต่าง ระดับน้ำสูงประมาณ 10-15 ซม. ด้านตลาดรังสิตก็มีน้ำท่วมขัง รถเล็กเข้า-ออกไม่ได้ ทางเทศบาลนครรังสิต นำเจ้าหน้าที่เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำลงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เช่นเดียวกัน

เดลินิวส์ วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2556 เวลา 18:23 น.

ฤทธิ์นารีกระหน่ำโคราชระทมน้ำมูลทะลักนาข้าวจมนับพันไร่​

​

พายุนารีกระหน่ำโคราช ลำน้ำมูลทะลักท่วมสะพานในอำเภอโชคชัย นาข้าวจมกว่าพันไร่

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายนำ ปลอดกระโทก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลละลมใหม่พัฒนา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา นำทีมออกตรวจสอบสถานการณ์น้ำมูลล้นตลิ่งในพื้นที่บ้านละลม หมู่ 6 เพื่อตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยพบว่าสะพานข้ามลำน้ำมูล ซึ่งเป็นทางเชื่อมระหว่างตำบลละลมใหม่พัฒนา และตำบลท่าอ่าง อ.โชคชัย ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ชาวบ้านไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรผ่านไปมาไดต้องหันไปใช้เส้นทางอื่นแทน ซึ่งต้องเสียเวลามากกว่าปกติเกือบ 1 ชั่วโมง

นายนำ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่หลังจากที่พายุนารีส่งอิทธิพลต่อจังหวัดนครราชสีมา จึงทำให้เกิดฝนตกบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำลำแชะ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง จนทำให้มีน้ำล้นออกจากทั้ง 2 อ่างลงสู่ลำน้ำมูล ประกอบกับพื้นที่โดยทั่วไปของลุ่มน้ำมูลมีฝนตกกระจาย ทำให้มีปริมาณน้ำหลากไหลลงมาสมทบกับลุ่มน้ำมูลมากขึ้น จนทำให้ลำน้ำมูลเอ่อล้นท่วมตัวสะพานช่วงรอยต่อระหว่างพื้นที่ตำบลละลมใหม่พัฒนากับตำบลท่าอ่าง รวมถึงพื้นที่การเกษตรที่อยู่ติดกับลำน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนาข้าวจมบาดาลไปแล้วนับพันไร่ และคาดว่าระดับน้ำน่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

ล่าสุดทางองค์การบริหารส่วนตำบลละลมใหม่พัฒนาได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่ใกล้กับลำน้ำมูลขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว.

เดลินิวส์ วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2556 เวลา 17:46 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

ผู้ที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก็จะกระเซอะกระเซิง เป็นที่น่าเวทนา !!!​

​

ข้อความส่วนหนึ่งของผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต ถ่ายทอดข้อความเป็นคลื่นเสียงไว้ ณ เขากะลา วันที่ 10 ตุลาคม 2541

สิ่งที่ข้าพเจ้าจะอยู่ช่วยเหลือพวกเจ้านั้น ได้เคยกล่าวไว้แล้วในกาลก่อน มีในบันทึกนะ ก็จะบอกอีกสักครั้งหนึ่งว่า ข้าพเจ้าจะมาช่วยทั้งเทคโนโลยี ซึ่งเป็นวัตถุที่เจ้าเห็นกัน และมาทั้งพระญาณ ซึ่งผ่านร่างที่เป็นมนุษย์เพื่อสื่อสาร

การอยู่ช่วยเหลือของข้าพเจ้า ก็จะช่วยเหลือตั้งแต่ก่อนเกิดภัยพิบัติ อย่างเช่นในขณะนี้ มาให้พวกเจ้าเห็น มาให้พวกเจ้าเชื่อตามแต่บารมี ท่านที่มีบารมีตามแต่วาระจิต ก็จะได้เห็นข้าพเจ้าในความชัดเจน เจ้าคนที่ถามครั้งก่อนนี้ ก็ไปถามเขาดู เขาได้เห็นความชัดเจนมาก และสำหรับการที่จะอยู่ช่วยเหลืออันดับแรกนอกจากในขั้นต้นนี่นะ.... มาให้พวกเจ้าเห็นกันนะ

สงครามโลกของพวกเจ้าก็ต้องได้รับความช่วยเหลือจากเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาว ไม่อย่างนั้นแล้ว โลกมนุษย์ของเจ้ามันคงพังพินาศกันไปมากกว่านี้ ถ้าไม่ได้รับการสกัดกั้นด้วยเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาว จากจักรวาลโลกุกะตาปากะดิกองและจักรวาล และจากพระญาณ และยานฯ อวกาศของข้าพเจ้า

ส่วนที่ 3 ก็คือ ช่วงในการเกิดภัยพิบัติ จะมีความโกลาหลวุ่นวายมากมายกันเหลือเกินในโลกมนุษย์ของพวกเจ้า ตอนนี้ก็ถือดีกันอยู่ แต่พอตอนนั้นจะเหมือนลูกหมาตกน้ำ... หมดแล้ว...ลาภยศ...ไอ้ที่มันลดยาก มันจะลดลงไป หลุดลงไปเลย มันไม่มีแล้ว เหลือแต่ตัว ตัวเองก็แทบจะมากันไม่ถึง เพราะฉะนั้น ผู้ที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก็จะกระเซอะกระเซิง เป็นที่น่าเวทนา เพราะว่าพวกข้าพเจ้า เมื่อหลังเกิดภัยพิบัติ และจะอยู่ช่วยเหลือพวกเจ้าจนสามารถตั้งตัวกันได้ แล้วก็จะต้องถอนทัพกลับไป เพราะไม่สามารถจะอยู่ได้เลยตามกฎธรรมชาติ

เพราะฉะนั้น การมาช่วยเหลือนั้น ตั้งแต่ก่อนเกิด จนเกิดภัยพิบัติ จะอยู่กับเจ้านี่แหละ..... และหลังจากเกิดภัยพิบัติ ก็จะอดอยาก ยากแค้น แร้นแค้นกันแล้ว เทคโนโลยีของข้าพเจ้า ก็จะนำมาให้พวกเจ้าในการดำรงชีวิตอยู่ในปัจจัย 4 มนุษย์ต่างดาวเคยบอกไว้นานแล้วว่า มนุษย์โลกมักจะเชื่อถือชาติที่มีเทคโนโลยีสูง ชาติที่เจริญทางด้านวัตถุ ชาติมหาอำนาจ มากกว่าชาติเล็ก ๆ หรือประเทศเล็ก ๆ ที่มีเทคโนโลยีน้อยกว่า

ดังนั้น หากข่าวสารใดที่ออกมาจากประเทศมหาอำนาจที่มีเทคโนโลยี ประเทศที่เจริญด้านวัตถุ เช่นอเมริกา อังกฤษ หรือประเทศอื่น ๆ แถบยุโรปเป็นต้น ข่าวสารนั้นจะเป็นที่น่าเชื่อถือ เป็นที่น่าสนใจ และทั่วโลกก็พลอยรับรู้ ทั้งให้น้ำหนักกับข่าวสารนั้น ๆ มากเป็นพิเศษ บุคคลต่าง ๆ ที่อยู่ในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ก็ย่อมให้ความสนใจในข้อมูลนั้น ๆ ตามข่าวสารที่ได้รับ และให้ความเชื่อถือตามไปด้วย

ซึ่งก็เป็นจริงเช่นนี้ แม้แต่เรื่องของจานบิน ufo หรือมนุษย์ต่างดาว ที่เป็นข่าวแพร่กระจายก็มาจากประเทศที่เจริญทางเทคโนโลยี ที่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารเหล่านี้ออกไปทั่วโลก และประเทศต่าง ๆ ก็เริ่มให้ความสนใจ และเมื่อมีการพบเจอ วัตถุลึกลับมากขึ้นหลังจากนั้น ก็จะเรียกว่าจานบิน ตามที่ผู้พบและตั้งชื่อไว้

เพราะผู้พบคนแรกและตั้งชื่อวัตถุลึกลับนั้นว่า จานบิน ก็คือ เคนเนธ อาร์โนลด์ เป็นนักธุรกิจและนักบินชาวอเมริกัน เห็นวัตถุลึกลับ จำนวน 9 ลำ มีลักษณะเหมือนกับจานสองใบประกบกัน อาร์โนลด์จึงเรียกมันว่าจานบิน ดังนั้น แม้แต่ในประเทศอเมริกาเอง ก็ยังมีทั้งผู้ที่เชื่อเรื่อง ufo และผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องของ ufo และมีทั้งผู้ที่ต้องการปกปิดเรื่องราวของ ufo จนได้มีการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อเท็จจริงกันอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศช่วงนี้

เรื่องของมนุษย์ต่างดาวในประเทศไทย เป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อได้ ถึงแม้จะได้เห็น จะได้พบ จะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีของเขาเองก็ตาม แต่ก็ยากที่คนทั่วไปจะเชื่อ ดังนั้น ผู้ทำงานกับมนุษย์ต่างดาว .... อย่าได้ไปกังวล อย่าได้ไปทุกข์ร้อนกับความไม่เชื่อของใคร ๆ หรืออย่าได้ไปท้อใจว่า...ทำไม...จึงมีคนเชื่อเรื่องนี้น้อยนัก

นั่นเพราะ...หน้าที่การให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่หน้าที่ของเรา เป็นหน้าที่ของมนุษย์ต่างดาว เขาต้องมีการเตรียมการหลายอย่างเพื่อให้การช่วยเหลือได้ทันเวลา และถึงแม้ใครจะเชื่อ หรือจะไม่เชื่อ มนุษย์ต่างดาวก็ยังคงเตรียมการเพื่อให้ความช่วยเหลืออยู่ดี อยู่ที่ว่า มนุษย์โลก...จะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้น

เพราะความช่วยเหลือ....เทคโนโลยีที่มนุษย์ต่างดาวได้เตรียมไว้เพื่อช่วยเหลือมนุษย์นั้น เป็นเทคโนโลยีที่ไฮเทคเกินกว่าที่มนุษย์จะคาดเดา เกินกว่าที่มนุษย์โลกจะเชื่อได้ หรือเข้าใจได้....นั่นเอง เพราะสิ่งที่มนุษย์ต่างดาวบอกไว้นั้น มันเป็น .... เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย ที่เกินกว่ามนุษย์จะจินตนาการจริง ๆ

หมายเหตุ...(มนุษย์ต่างดาวที่มาติดต่อกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) มี 2 ดวงดาว คือ ดาวโลกุกะตาปากะดิกอง(อยู่คนละจักรวาล) และดาวพลูโต (ในจักรวาลเดียวกัน)

ที่มา UFOKAOKALA: เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย ของมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา

 

เวลาเปลี่ยนได้..แต่เหตุการณ์ไม่เปลี่ยน !!!​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=vKhazYRsFoc]ภัยพิบัติ 2555 part1 - YouTube[/ame]

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=YEw1XlYaf8E"]????????? 2555 part2 - YouTube[/ame]​

เผยแพร่เมื่อ 7 ก.ค. 2012
ดร.ปชา ภาณุบุญ บรรยายเรื่องภัยพิบัติ
ณ.วัดแม่คือ อ.ดอยสะเก็ด เชียงใหม่
วันที่ 6 กรกฎาคม 2555​

 

โอบามาลงนามเปิดหน่วยงานรัฐ-เพิ่มเพดานหนี้ ลูกจ้างเฮกลับทำงาน​

​

ลูกจ้างภาครัฐเฮ ได้กลับเข้าทำงานอีกครั้งแล้วในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หลังประธานาธิบดีโอบามา ลงนามในร่างกฎหมายเปิดหน่วยงานรัฐและขยายเพดานหนี้ พ้นวิกฤติหวุดหวิด และสั่งให้ลูกจ้างรัฐกลับเข้าทำงานทันที

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ตวัดปากกาลงนามร่างกฎหมายเปิดหน่วยงานรัฐบาลครั้งใหม่ และขยายเพดานหนี้เพิ่มอำนาจการกู้ยืมให้กระทรวงการคลัง บังคับใช้เป็นกฎหมายไปเรียบร้อยเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี ยุติปัญหาที่คาราคาซังกันมานานกว่า 2 สัปดาห์ โดยการประกาศดังกล่าวของทำเนียบ ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในละครการเมือง ที่สุ่มเสี่ยงกับการผิดนัดชำระหนี้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสหรัฐ และเขย่าตลาดเงินทั่วโลก ผู้นำสหรัฐลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายหลังจากวุฒิสภาเห็นชอบร่างกฎหมายสำคัญดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 81-18 เสียง จากนั้น สภาผู้แทนราษฎร ที่ครองเสียงข้างมากโดยพรรครีพับลิกัน ก็ผ่านความเห็นชอบสนับสนุนมาตรการดังกล่าว ด้วยคะแนนเสียง 285-144 เสียง

ประธานาธิบดีโอบามา ได้สั่งให้ลูกจ้างรัฐทั้งหมดกลับมาทำงานอีกครั้งในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หลังร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของ 2 สภา

ด้านนางคริสติน ลาร์การ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ แสดงความยินดีต่อการลงมติในรัฐสภาในนาทีสุดท้าย เพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐและขยายเพดาหนี้ของรัฐ โดยนางลาร์การ์ด ระบุว่า การตัดสินใจดังกลาว เป็น “ความสำคัญและจำเป็น” แต่ไม่ได้พาดพิงโดยตรงถึงความหวาดหวั่นว่า ความล้มเหลวในการผ่านมาตรการดังกล่าว จะนำไปสู่การการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ

ส่วนสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า นักการเมืองสหรัฐจับโลกเป็นตัวประกันในวิกฤติเพดานหนี้ ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นในบทวิเคราะห์ภาษาอังกฤษ ที่เผยแพร่ไม่ถึงชั่วโมง หลังจากประธานาธิบดีโอบามา ลงนามในข้อตกลงดังกล่าว “ผู้ก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ก่อกำเนิดรัฐสภาเพื่อผลประโยชน์ของดุลอำนาจ แม้ว่าจะรู้ทั้งรู้ว่าจะเกิดภาวะเลวร้ายต่อเศรษฐกิจสหรัฐและโลก ในกรณีที่ผิดนัดชำระหนี้ พรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ยังเล่นบทเสี่ยงอันตรายจนถึงนาทีสุดท้ายเพื่อประโยชน์ของพรรคพวก

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2556 เวลา 16:37 น.

ญี่ปุ่นค้นหาเหยื่อไต้ฝุ่นวิภา ยอดตายอยู่ที่ 18 ศพ​

​

เจ้าหน้าที่กู้ภัยญี่ปุ่นค้นหาผู้รอดชีวิตจากกองโคลนตั้งแต่คืนวานจนถึงเช้าวันนี้ หลังไต้ฝุ่นวิภาพัดผ่าน ทิ้งไว้แต่ร่องรอยความเสียหาย สรุปยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 18 ศพ และยังสูญหาย 39 คน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยในญี่ปุ่น ทำงานกันอย่างหามรุ่งหามค่ำตั้งแต่คืนวานนี้จนถึงเช้าวันนี้ เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตจากพายุไต้ฝุ่น “วิภา” ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไปอย่างน้อย 18 ศพ โดยยังมีผู้สูญหายประมาณ 39 คน บนเกาะอิซูโอชิมา ทางตอนใต้ของกรุงโตเกียว หลังจากไต้ฝุ่น “วิภา” ทำให้เกิดฝนตกหนักและดินถล่มเมื่อวานนี้

ส่วนในกรุงโตเกียว เมืองหลวงญี่ปุ่น ไต้ฝุ่นลูกนี้ ก็ทำให้ทางการต้องสั่งปิดโรงเรียน และยกเลิกเที่ยวบินประมาณ 400 เที่ยว

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยหลายร้อยคนที่เกาะอิซูโอชิมา ทำการค้นหาศพผู้เสียชีวิตตามกองโคลน บ้านเรือนที่พังถล่มและกองเศษซากปรักหักพังต่าง ๆ นายโยชิโนริ ซาโนะ โฆษกของเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย กล่าวว่า พวกเขายังมีความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิต

ส่วนนายมาซาฟูมิ คาวาชิมา นายกเทศมนตรีเกาะอิซูโอชิมา ออกมากล่าวคำขอโทษที่ไม่ได้สั่งอพยพประชาชนหนีไต้ฝุ่น หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2556 เวลา 12:44 น.

เครื่องบินตกในลาว พบแล้ว 8 ศพ คาดตายทั้งลำ 49 ศพ​

​

ความคืบหน้าเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารตกในแม่น้ำโขง ประเทศลาว ยังไม่พบผู้รอดชีวิตแม้แต่รายเดียว คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตทั้งลำน่าจะอยู่ที่ 49 ศพ แต่พบแล้ว 8 ศพ สื่อจีนรายงานว่า มีชาวจีน 2 คน และฝรั่งเศส 7 คน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ว่า ไม่มีรายงานข่าวของผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินโดยสาร เที่ยวบินคิววี 301 ของสายการบินลาว แอร์ไลน์ส ประสบอุบัติเหตุตกในแขวงจำปาสัก ประเทศลาวเมื่อวานนี้ พร้อมผู้โดยสาร 44 คน และลูกเรือ 5 คน จากตัวเลขของกระทรวงโยธาธิการและขนส่งของลาว และสายการบินลาว โดยสถานทูตจีน ยืนยันว่า มีชาวจีน 2 คน 1 คนจากแผ่นดินใหญ่ และอีก 1 คนจากไต้หวัน โดยสารไปกับเครื่องบินลำดังกล่าว

สำนักข่าวเคพีแอลของลาว รายงานว่า เครื่องบินโดยสารเที่ยวบิน คิววี301 จากกรุงเวียงจันทน์ ประสบอุบัติเหตุตกในแม่น้ำโขงที่เกาะดอนโค ห่างจากสนามบินนานาชาติเมืองปากเซ ในจำปาสัก ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเครื่องบินลำนี้ ประมาณ 2 กิโลเมตร หลังจากทะยานขึ้นจากกรุงเวียงจันทน์เมื่อเวลาประมาณ 14.45 น.ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวานนี้ และมีกำหนดถึงเมืองปากเซในเวลา 15.55 น. ขณะพยายามร่อนลงจอดในสภาพอากาศเลวร้าย

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของลาว ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสำนักข่าวซินหัวขณะเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ และยืนยันว่า พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ศพ และนำออกจากซากเครื่องบินได้แล้ว

ด้านสื่อมวลชนท้องถิ่นในฝรั่งเศส รายงานอ้างคำกล่าวของนายโลรองต์ ฟาเปอุส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ที่ระบุวา มีชาวฝรั่งเศสอย่างน้อย 7 คนเป็นผู้โดยสารที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เครื่องบินลาว แอร์ไลน์ส ตกในแม่น้ำโขงเมื่อวานนี้ โดยนายฟาบิอุส กล่าวว่า รู้สึกช็อกอย่างมาก พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต

แหล่งข่าวจากหน่วยงานการบิน ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ ยืนยันกับซินหัวว่า เที่ยวบินที่คิววี301 เป็นเครื่องบินแบบเออาร์ที ทวินเทอร์โบ มีผู้โดยสาร 40 คนขณะเกิดเหตุ

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2556 เวลา 20:03 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ ได้มาปรากฏพระองค์ที่ประเทศไทยแล้ว !!!​

(ขณะนี้มีอายุ 19 ปี เป็นหนุ่มแล้ว)​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=7FTRn-x23js]ดร.ปชา ภาณุบุญ ตามรอย"พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์" - YouTube[/ame]​

สุกิจSukit สมาชิก

ธนาวุฒิ ตาละอุปละ ได้แชร์ลิงก์ เมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้ว ขอให้ทำใจว่างแล้วฟังให้จบ เพราะตอนนี้ อาตมาอยู่ในการอุปัฐถากจาก ดร.ปชา ที่เหลือก็พิจารณาตามบุญของท่านต่อไป

ที่มา http://palungjit.org/threads/ติดตามสถานะการณ์.497341/page-98

พระโอวาทพระบิดา ครั้งที่ 17 เรื่อง"พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ"

ประทานเมื่อวันที่ 6 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2543เวลา 14.00 น.- 18.00 น. สื่อการถ่ายทอดพระโอวาทโดย อ.ปริญญา ตันสกุล ณ. ห้องประชุมโรงพยาบาลสำโรง จ.สมุทรปราการ (คัดลอกมาเพียงบางส่วนโปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้)

เพราะฉะนั้น ขั้วโลกเหนือที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าน้ำแข็งละลาย ถูกต้องครับ ต่อไปอุณหภูมิของขั้วโลกเหนือจะไม่ติดลบต่ำกว่าศูนย์ครับ แต่มันจะเป็น 25.4 องศาเซลเซียส ขั้วโลกใต้จะกลายเป็นหนาแน่นด้วยน้ำแข็ง จะเย็นจัดแทนขั้วโลกเหนือ ต่อไปโลกเราจะหนาวอยู่ด้านเดียว คือ ด้านขั้วโลกใต้ ประเทศไทยประเทศญี่ปุ่นของเรา ประเทศญี่ปุ่นขณะนี้ที่ยังอยู่นะ แต่เราบอกแล้วว่ามันจะไม่อยู่ พูดอีกแล้วนะ จะร้อนขึ้นเพราะเราอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรถูกต้องหรือไม่ พอโลกก้มหัวลงให้กับดวงอาทิตย์มากขึ้น แน่นอนครับก็บริเวณของเราอยู่แถวหน้าผากโลก ใช่หรือเปล่าครับ พอก้มลงมาเป็นไงครับ หันหาดวงอาทิตย์เลยร้อนขึ้น เพราะฉะนั้นต่อไปดาวเคราะห์โลกเราจะหนาวครับ ปีหนึ่งแค่ครั้งเดียว เพราะต้องเวลาหมุนไปอยู่ตรงข้ามดวงอาทิตย์เท่านั้น ถึงจะเป็นฤดูหนาว

เพราะฉะนั้นต่อไปประเทศไทยของเราจะได้ฤดูหนาวกลับคืนมา แถวยุโรปตอนกลางๆ แถวอังกฤษเดนมาร์กแถวนั้น ต่อไปจะมีแค่สองฤดูเท่านั้นก็คือ ฤดูร้อนกับฤดูหนาว จะไม่มีสปริงจะไม่มีอ็อดท่อมอีกต่อไป อุณหภูมิจะเริ่มเปลี่ยนเข้าสู่ระบบที่กล่าวนี้ และประเทศไทยเราจะไม่มีฤดูประหลาดๆ เช่นนี้เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ฤดูสลับร้อนสลับหนาวเรามี ต่อไปจะสมดุลแล้วนะ จะคืนความสมดุลกลับมาให้ ขณะเดียวกันพวกคุณก็ต้องช่วยกัน จิตสำนึกต้องดีด้วย อากาศวิปริตแปรปรวนเพราะจิตมนุษย์มัน "แปรปรวน"

พระบิดาทรงเตือนผ่านธรรมชาติ แต่มนุษย์เราไม่รู้จักสังเกต ไม่รู้จักพิจารณาเองเพราะฉะนั้นตอนนี้โลกเรา ก้มหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้น เพราะฉะนั้นใครบอกว่าระนาบการโคจรตามแกนหมุนของโลกทำมุมกับระนาบวงโคจร 66.5 องศาอยู่ดังเดิม แสดงว่าคนนั้นคิดผิด มันจะเป็น 32 องศาเหลือแค่ 32 องศา

สิ่งดีงามที่จะเกิดขึ้นเมื่อสิ้นยุคพลังงานเก่า รหัส 11-11 คือ 11 พฤศจิกายน แล้วไปถามนักวิทยาศาสตร์โลกดูว่า เดี๋ยวนี้เขาค้นพบจุดดับบนดวงอาทิตย์กี่จุดครับ 11 จุด จริงๆ แล้วจุดดับบนดวงอาทิตย์ไม่ใช่จุดดับ พระบิดาบอกเอาเป็นว่าเรียกตามนักวิทยาศาสตร์โลกก่อน ไม่เช่นนั้นอธิบายแล้วยาว จริงๆ แล้วครั้งหนึ่งมีแค่ 6 จุดแค่นั้นเองครับ แต่ตอนนี้มีพิเศษต้องเพิ่มอีก 5 ครับเป็น 11 เพื่อกระทำต่อดาวเคราะห์โลก ชำระนะไม่ใช่ชำเรา ชำระโลกอย่าคิดผิดนะครับ

ภายหลังจากการชำระโลก

1. มนุษย์จะมีจิตใจดีงาม เปี่ยมด้วยคุณธรรม และมีเมตตาต่อกัน

2. มนุษย์จะเลิกทานเนื้อสัตว์ จะเลิกเบียดเบียนกันโดยอัตโนมัติ

3. มนุษย์จะใช้สมองซีกขวาสู่การหยั่งรู้ ได้ด้วยปัญญาญาณง่ายขึ้น

4. ประเทศไทยจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของโลก

5. ประเทศไทยจะสร้างยูเอฟโอท่องจักรวาล ได้เป็นชาติเดียวในโลก

6. ศาสดาศรีอาริยะเมตไตรย จะปรากฎพระองค์ขึ้นบนแผ่นดินไทยในไม่เกิน 6 ปี หลังวันสิ้นยุคพลังงานเก่า

ไม่เกิน 6 ปี ณ วันนี้ ( 6 สิงหาคม พ.ศ.2543 ) ถึงวันนั้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะวันสิ้นยุคพลังงานเก่าก็เปลี่ยนมาเรื่อย เพราะว่างานด้านเทคนิคด้านพลังงานของพระบิดาเยอะมาก บางครั้งกำหนดไว้มนุษย์นั่นแหละเป็นตัวทำให้เปลี่ยนแปลง มันก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ณ วันนี้ถือว่า 6 ปีแต่ถึงวันสิ้นสุดของวันนั้น อาจจะบวกไปอีกเล็กน้อยก็ได้ อย่าหาว่าอาจารย์กล่าวผิดสัจจะก็แล้วกัน เป็นสิ่งที่อยากจะบอกเครื่องยนต์แห่งกรรมของพวกคุณ ให้เห็นเป็นรูปธรรมเท่านั้น เพราะฉะนั้นใครที่บอกว่าอยากเกิดเป็นศิษย์ของพระศาสดาศรีอาริยะเมตไตรย ต้องทำบุญบารมีสูงๆ โอกาสดีมาถึงแล้ว รีบทำเสียครับพระองค์จะปรากฎพระองค์ขึ้น

ในแผ่นดินไทยนี้และขณะนี้(พ.ศ.2543) พระองค์ก็มาจุติอยู่บนแผ่นดินไทยเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ใช่ผมนะครับรีบบอกก่อนเดี๋ยวหาว่าผมพูดเข้าตัว มนุษย์ชอบคิดอุตริ พระองค์จุติ ตอนนี้(พ.ศ.2543)เป็นเณรอยู่ครับ

เพราะฉะนั้น ถ้าไม่บอกอย่างนี้แล้วเดี๋ยวบอกว่า อาจารย์รู้ได้อย่างไร? ว่าอีก 6 ปี ไม่รู้มาเกิดหรือยังก็ไม่รู้หลายคนคิด บอกแล้วเกิดแล้วเป็นเณรอยู่อีก 6 ปีพระองค์ก็เป็นหนุ่มแล้ว ใช่ไหมครับ แต่ถึงแม้พระศาสดาศรีอาริยะเมตไตรย จะมาโปรดพวกเรามาเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำ จากการที่ถูกชำระพี่ๆ น้องๆ ของเราที่เหลวไหลไม่เอาถ่านของเราถูกชำระก็จริง แต่พระศาสดาศรีอาริยะเมตไตรย พระองค์ท่านก็ต้องใช้คัมภีร์จักรวาลของพระบิดาเป็นแกนกลางหรือเป็นสื่อนำ ที่จะสื่อสอนมนุษย์ชาติต่อไป พระองค์จะไม่มาสร้างสิ่งอะไรใหม่ๆ นอกเหนือไปจากคัมภีร์ของพระบิดาทั้งสิ้น

7. หน้าที่การบันทึกคัมภีร์เป็นหน้าที่ของผม หน้าที่ในการเยียวยาปลุกปลอบหัวใจของเพื่อนมนุษย์คือ พระศาสดาศรีอาริยะเมตไตรย โปรดรับทราบไว้ตามนี้ด้วย

8. มนุษย์จะมีอายุยืนยาวมากขึ้นกว่าเดิม อำนาจแม่เหล็กโลกเพิ่มขึ้นจาก 14 เก๊าส์ เป็น 22 เก๊าส์ ร่างกายคุณแข็งแรง สุขภาพพลานามัยดีขึ้นโดยอัตโนมัติ

คัดลอกมาจาก หนังสือพระโอวาทแห่งองค์จิตจักรวาล ครั้งที่ 17 เรื่องพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ สื่อการถ่ายทอดพระโอวาทโดย อ.ปริญญา ตันสกุล MBA.,M.S. PARINYA TANSAKUL

 

ไอ้จิตรจักรวาลเนี่ยมันบ้าบวกเพี้ยนครับ พระบิดาของมันเป็นไครก็ไม้รู้ ไม่มีสังกัด ลองอ่านนี่ดูแล้วจะฮามาก
จิตบ้าข้ามจักรวาล
ส่วนพระศรีอารย์มาเกิดนี่เท่าที่รู้ท่านยังอยู่บนสรรค์นา ส่วนมากชอบเอามาหลอกกันหวังเรี่ยไรเงินทองกันมากกว่าต้องอ่านนี่จะใด้ตาสว่าง
พระศรีอริยเมตไตรย์: พระศรีอาริย์มาเร็ว
พระศรีอริยเมตไตรย์: พระศรีอาริย์เขียนอีเมล์ถึงผม
พระศรีอริยเมตไตรย์
พระศรีอริยเมตไตรย์: พระศรีอาริย์จากวิกิพีเดีย

 

ข่าว ด.ช. ปลาบู่ ทำนายเขื่อนแตก...​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=oKewRGwpT5k]ข่าว ดช. ปลาบู่ ทำนายเขื่อนแตก - YouTube[/ame]
ข่าว ดช. ปลาบู่ ทำนายเขื่อนแตก อัปโหลดเมื่อ 26 ธ.ค. 2011​

 

การถูกรับขึ้นไปกลางอากาศ !!!​

​

เหตุการณ์หนึ่งใน 12 เหตุการณ์ในปฏิทินของพระเจ้า ตามการเผยแสดงจากเซนต์คาเบรียลที่ผมได้นำเสนอในบทความที่แล้วนั้น เป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่ค่อยเคยได้ยินบ่อยนัก หรืออาจยังเป็นเรื่องที่นักเทวศาสตร์ยังหาคำอธิบายที่กระจ่างนักไม่ได้ เหตุการณ์นั้นก็คือ ประชากรของพระเจ้าถูกรับขึ้นไปจากโลกเพื่อให้ปลอดจากภยันตราย จำเป็นต้องขยายความ อาศัยผู้ทรงศีลบางท่านซึ่งได้รับการเผยสำแดงจากเบื้องบน นำมาถ่ายทอดให้พวกเราอีกทีหนึ่ง

ตามการบอกเล่าของผู้เห็นนิมิตหลายท่านกล่าวว่า ณ ช่วงเวลาแห่งมหาวิปโยค คือ ช่วงที่แอนตีไครสต์เป็นประมุข จะเกิดความทุกข์ยากไปทั้งโลก พระเจ้าจะทรงแสดงปาฏิหาริย์ครั้งยิ่งใหญ่ โดยรับคนชอบธรรมขึ้นไปไว้ในที่ปลอดภัย ณ ที่นั้น ทุกคนจะถูกแปลงโฉมให้มีกายทิพย์ โดยอาศัยพลังของพระจิตเพื่อจะกลับลงมาสู่แผ่นดินดังเดิม และพร้อมที่จะไปประกาศข่าวดีด้วยความกระตือรือร้นและมีประสิทธิภาพเต็มร้อย

พระเยซูได้ทรงกล่าวยืนยันแก่ Enzo Alocci ผู้มีรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ (Stigmata) แห่ง Porto San Stefano กรอสเซโต อิตาลีว่า : เด็กๆ ผู้ไร้เดียงสาจะถูกรับขึ้นไปบนฟ้าภายใต้เสื้อคลุมของพระแม่มารีย์"

ผู้นั่งทางในอีกท่านหนึ่งชื่อ Veronica Lueken แห่ง Bayside นิวยอร์ก ได้รับสารเมื่อวันที่ 31 มกราคม 1976 จากพระเยซูผู้ทรงเผยความลึกลับว่า "เป็นแผนของพระบิดาว่าคนมากมายในระหว่างพวกเธอจะถูกรับขึ้นไป ความลึกลับนี้ท้าทายมนุษย์เป็นอย่างยิ่ง เราขอสัญญาว่า บุคคลที่รอดเหลือในช่วงนั้น จะรวมตัวกันกับเรา เพื่อสถาปนาอาณาจักรของเราเป็นอาณาจักรแห่งสันติสุข และเพื่อความชื่นชมยินดีบนแผ่นดิน เราจะกลับมาพร้อมด้วยขบวนมหึมาของชาวสวรรค์ ด้วยความรุ่งโรจน์โชติช่วงแห่งชัยชนะ.....เป็นอวสานของยุคของพวกเธอ.....เราขอบอกความจริงแก่พวกเธอว่า ทุกสิ่งที่มีเขียนไว้ในคัมภีร์จะต้องเกิดขึ้นตามนั้นอย่างแน่นอน พวกเธอซึ่งได้รับแสงสว่าง จงอ่านพระธรรมวิวรณ์ซึ่งระบุว่า พวกเธอกำลังมาถึงจุดอวสานแล้ว...ดวงหทัยนิรมลของพระมารดาของเราคือโล่ของพวกเธอ

ณ เบย์ไซด์ นิวยอร์ก พระแม่มารีย์ยังได้เผยแก่เวโรนิกาเช่นกันว่า : จะมี

1.การรับขึ้นไปสำหรับผู้ได้รับเลือกสรร (คือมนุษย์ผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรม) และจะมี
2.การฟื้นขึ้นมาใหม่ของชาวสวรรค์ ผู้จะกลับมีร่างกายทิพย์ ทั้งสองกลุ่มนี้จะร่วมขบวนกับพระบุตรของแม่ เมื่อพระองค์จะเสด็จมาในเร็ววันนี้" (สารของวันที่ 2 ตุลาคม 1976)...

"ในระหว่างนั้น คนมากมายจะหายไปจากโลก จะเป็นการลึกลับครั้งมโหฬารของมนุษย์" ที่ถูกรับขึ้นไปเพื่อเฝ้าแหนการเสด็จกลับมาพระบุตรของแม่ จะเป็นความยินดีอันยิ่งใหญ่สำหรับอภิสิทธิ์ชนเหล่านี้ที่จะได้พบเมื่อพระองค์จะเสด็จกลับมา (สาส์นของแม่ วันที่ 2 ตุลาคม 1976)....

"ในระหว่างนั้นคนมากมายจะหายไปจากโลก จะเป็นเรื่องลึกลับครั้งมโหฬารของมนุษย์" ที่ถูกรับขึ้นไปเพื่อเฝ้าการเสด็จกลับมาของพระบุตรของแม่ จะเป็นความยินดีอันยิ่งใหญ่สำหรับอภิสิทธิ์ชนหล่านี้ที่จะได้พบ เมื่อพระองค์จะเสด็จกลับมา (สารของวันที่ 6 ตุลาคม 1976)....

คนมากมายจะถูกรับขึ้นไปจากโลก ก่อนที่จะมีการลงทัณฑ์ครั้งใหญ่....ท่ามกลางความตื่นตระหนก และความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน เมื่อลูกๆ อันเป็นที่รักอันตรธานไปจากแผ่นดิน สื่อมวลชนต่างประโคมข่าวกันว่า คนเหล่านี้ถูกนำไปยังอาณาจักรเหนือธรรมชาติของพระบิดาเจ้าสวรรค์ เพื่อรอรับการเสด็จมาของพระบุตรของแม่สู่แผ่นดินอีกครั้งหนึ่ง"

"ลำดับเหตุการณ์ การรับขึ้นไป หลังการลงทัณฑ์ ตามตารางลำดับเหตุการณ์ของเหตุการณ์ต่างๆ ตอนสิ้นยุคในปฏิทินพระเจ้าเปิดเผยโดย มาร์การิตา ซัมปาอีร์ นั้น ไม่ถือเป็นการขัดกับการเปิดเผยของเวโรนิกา แห่งเบย์ไซด์ ที่วางลำดับเหตุการณ์ "การลงทัณฑ์" หลัง "การรับขึ้นไป" ทั้งนี้ เพราะยังมีการเปิดเผยจากผู้นั่งทางในอื่นๆ อีก (ซึ่งมีการรายงานในหนังสือ FRANCATEOLOGIA ในความดูแล "ศูนย์ศึกษาเกี่ยวกับพระพรพิเศษที่ไม่ธรรมดาแห่งอัสซีซี) มีบันทึกไว้ว่า : การรับขึ้นไป จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ จะมี การรับขึ้นไป 3 ครั้ง

ครั้งที่ 1 ผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรมขั้นนักบุญของเรา
ครั้งที่ 2 คนบาปที่สำนึกผิดและยอมขอสมาโทษแล้ว
ครั้งที่ 3 ในช่วงสุดท้ายพวกที่ร่ำร้องหาเรา คนทั้งสามกลุ่มนี้จะขึ้นมาพบเจ้าบ่าว (พระเยซู) ผู้กำลังมา (13 มีนาคม 1974)

ทำไมถึงอัศจรรย์ใจเกี่ยวกับการรับขึ้นไป? บางทีเราจะไม่ได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญของประชาชน ของผู้บริสุทธิ์ของเราที่กำลังทนทุกข์ทรมานทุกหัวระแหงในโลกกระนั้นหรือ? และเราไม่ได้ช่วยพวกเขาเอาไว้หรือ? บัดนี้เราทุกคนกำลังอยู่ในสภาพเดียวกัน ประชาชนทนทุกข์ทรมานกันทุกหย่อมหญ้าทั่วทั้งโลก

".....และพวกเขาจะเข้าไปบนดาวเคราะห์ที่มีชื่อพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของเรา ในวันเหล่านั้นที่จะมืดทั้งวันทั้งคืน ขณะเกิดการฆ่าฟันครั้งมโหฬาร แล้วพวกเขาจะออกมาด้วยร่างกายสดใสรุ่งเรืองเหมือนกับว่าได้ฟื้นขึ้นมาจากความตาย พวกเขาจะไม่เห็นภัยพิบัติ เพราะว่าพวกเขาจะถูกยกขึ้นไปยังเราเอง ทั้งกายและวิญญาณ และในทันใดนั้น พวกเขาจะเต็มเปี่ยมไปด้วยพระพรของเรา และการเปลี่ยนโฉมให้เป็นกายทิพย์ (จากนิตยสาร "เครื่องหมายเหนือธรรมชาติ" พฤศจิกายน 1969)

เกี่ยวกับเหตุการณ์ "การรับขึ้นไป" ในระหว่างมหาภัยพิบัติ โป๊ปจอห์น ปอล ที่ 2 ได้ทรงหยิบยกข้อความจากพระคัมภีร์ 2 ฉบับ ซึ่งบ่งบอกถึงการเข้ามาแทรกแซงครั้งใหม่และครั้งสำคัญของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อความรอดพ้นของพวกเราดังนี้ :

"ตามพระวาจาของพระผู้เป็นเจ้า เราขอบอกท่านว่า เราผู้ยังมีชีวิต และรออยู่จนถึงวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา จะไม่ได้เสียเปรียบบรรดาผู้ล่วงลับ (ตามความเชื่อของคริสตชน "ความตาย" คือ "การนอนหลับ" ในทำนองเดียวกัน "การ กลับคืนชีพ" จึงเปรียบได้กับ "การตื่นจากหลับ") ไปแล้ว ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาจากสวรรค์ตามพระบัญชาด้วยเสียงกึกก้องและเสียงกู่ร้องของอัครเทพ และเสียงกัมปนาทของพระเจ้า บรรดาผู้ตายในพระคริสตเจ้า (แปลว่าวิญญาณที่อยู่ในสวรรค์) จะกลับคืนชีพก่อน (แปลว่าวิญญาณจะกลับคืนสู่ร่างกายใหม่เป็นกายทิพย์)

ต่อจากนี้เรายังมีชีวิตอยู่ จะถูกรับขึ้นไปในนภากาศ และเราจะได้อยู่กับพระองค์ตลอดไป (1 ธส 4 : 16-17) และแล้ววันของพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่และล้ำลึกก็จะฉายแสงเจิดจ้าด้วยการมาถึงวันของพระเจ้า ในวันนั้นท้องฟ้าจะถูกไฟเผาผลาญ และโลกธาตุจะถูกไฟเผาละลายไป (2 เปโตร 3 : 12) รูปแบบปัจจุบันของพระศาสนจักรจะผ่านไปเป็นรูปแบบที่เก่าแก่โรยราไปเสียแล้ว และเป็นรูปแบบที่ยับยู่ยี่จากบาปและการแตกแยกมากมาย

หัวใจที่เป็นหินของมนุษย์ก็จะต้องหลอมด้วยพระจิตอันศักดิ์สิทธิ์ จะได้แปลงโฉมให้เป็นหัวใจที่เป็นเนื้อ โดยอาศัย การอพยพครั้งใหม่ และครั้งยิ่งใหญ่ ก็จะเกิดฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่ ในที่ซึ่งจะเป็นที่อยู่ถาวร ของความชอบธรรมตาม พระสัญญา (2 เปโตร 3 : 13) การอพยพครั้งใหม่ และครั้งยิ่งใหญ่ จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากการรับขึ้นไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อนจะลงมาสู่แผ่นดินโลกที่จะถูกเนรมิตขึ้นมาใหม่ที่เรียกว่า ฟ้าใหม่แผ่นดินใหม่นั่นเอง

เหตุการณ์ การรับขึ้นไป กับ การเสด็จมาครั้งที่ 2 ของพระเยซู เป็นสองเหตุการณ์ที่มีความเชื่อมโยงกันแบบต่อเนื่อง ลองมาฟังการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ บาทหลวง มาร์ติโน เปนาซา พระอธิการมหาวิหารเซนต์ แอนโทนี ปาดัว อิตาลี ท่านก็หยิบยกจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวเชสะโล นิกา ฉบับที่ 1 บทที่ 4 : 13-18 เช่นกัน

(ก่อนบรรยายต่อไป ขอชี้แจงถึงความเชื่อของชาวคาทอลิก 3 ข้อ
1.สวรรค์ คือ สภาพของวิญญาณหลังความตาย มีความสุขกับพระเจ้าบนสวรรค์ตลอดนิรันดร
2.นรก คือ สภาพของวิญญาณที่ทนทุกข์ทรมานในนรก เพราะไม่ได้อยู่กับพระเจ้า แต่อยู่กับปีศาจตลอดนิรันดร
3.ไฟชำระ คือ สภาพของวิญญาณหลังความตายยังไม่บริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องชำระไฟชั่วระยะหนึ่งเพื่อชดเชยบาปเล็กน้อย จนกว่าจะบริสุทธิ์แล้วจึงจะได้ไปสวรรค์)

เมื่อพระเยซูเสด็จมาครั้งที่ 2 นี้ จะเสด็จมาพร้อมกับขบวนของบรรดาชาวสวรรค์ (วิญญาณมนุษย์ผู้ชอบธรรม) จะทรงยับยั้งอยู่บนหมู่เมฆเพื่อรอรับ

1.วิญญาณที่กำลังถูกชำระในไฟชำระ (Purgatory) พระเจ้าจะทรงชำระวิญญาณเหล่านี้อย่างเข้มข้นและรวดเร็วเพื่อโอกาสสำคัญนี้
2.ทรงรอรับบรรดาวิญญาณที่อยู่ในที่มืด (Limbo) คือ สถานที่รวมของวิญญาณผู้ชอบธรรมของทุกศาสนาที่ยังไม่ได้รับศีลล้างบาป เมื่อตายไปวิญญาณจะถูกชำระจนบริสุทธิ์ แล้วจึงมารวมตัวกันในที่มืดนี้ ซึ่งจะไม่มีความทุกข์ แต่จะยังไม่ได้รับความสุขอย่างเต็มเปี่ยม เพราะยังไม่ได้เห็นพระเจ้า) พระเยซูจะเป็นผู้มารับพวกเขาร่วมขบวนชาวสวรรค์ด้วย วิญญาณเหล่านี้เป็นวิญญาณล้วนๆ แต่จะมองเห็นได้เมื่อมาปรากฏบนโลก (อาจเป็นกายทิพย์)
3.ทรงมาพบบรรดามนุษย์ที่ยังรอด เหลือบนโลก เป็นคริสตชนที่ได้รับศีลล้างบาปแล้วหรือศาสนิกของศาสนาอื่นๆ แต่กลับใจยอมรับศีลล้างบาป

เมื่อขบวนของชาวสวรรค์ สมทบกับ วิญญาณจากไฟชำระ และ วิญญาณจากที่มืด ดังกล่าว ยังยับยั้งอยู่บนฟ้านภากาศกับพระเยซูอยู่นั้น บรรดาเทวดาก็จะรับ มนุษย์ผู้ชอบธรรมที่ยังมีเนื้อหนังมังสา แล้ว รับขึ้นไป พบพระเยซูบนกลุ่มเมฆ ในขณะเดียวกันทูตสวรรค์ของพระเจ้าอีกหน่วยหนึ่งก็จะจัดการกับมนุษย์ชั่วช้า ที่ไม่ยอมกลับใจให้เป็นเหยื่อของแร้งและกาต่อไป แล้วพระเจ้าจะทรงเนรมิตพื้นแผ่นดินขึ้นมาใหม่ แล้วพระเยซูจะทรงนำกองทัพมนุษย์ที่ยังมีเนื้อมีกระดูกครบลงมายังแผ่นดินที่ถูกเนรมิตให้งามตระการตา เป็นฟ้าใหม่แผ่นดินใหม่ หรือ สวรรค์ ณ แผ่นดิน นั่นเอง.

เป็นแผนของพระบิดาว่าคนมากมายในระหว่างพวกเธอจะถูกรับขึ้นไปความลึกลับนี้ท้าทายมนุษย์เป็นอย่างยิ่งเราขอสัญญาว่า บุคคลที่รอดเหลือในช่วงนั้นจะรวมตัวกันกับเรา เพื่อสถาปนาอาณาจักรของเราเป็นอาณาจักรแห่งสันติสุข และเพื่อความชื่นชมยินดีบนแผ่นดิน เราจะกลับมาพร้อมด้วยขบวนมหึมาของชาวสวรรค์ด้วยความรุ่งโรจน์โชติช่วงแห่งชัยชนะ.....เป็นอวสานของยุคของพวกเธอ

หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- เสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2556 00:00:57 น.
สนธิ สารธรรม การรับขึ้นไป

ที่มา คอลัมน์: สู่ฟ้าใหม่ แผ่นดินใหม่: ปี 2012-13-14 แค่โหมโรง (12...

 

พวกเขาจะไม่เห็นภัยพิบัติ !!!​

​

".....และพวกเขาจะเข้าไปบนดาวเคราะห์ที่มีชื่อพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของเรา ในวันเหล่านั้นที่จะมืดทั้งวันทั้งคืน ขณะเกิดการฆ่าฟันครั้งมโหฬาร แล้วพวกเขาจะออกมาด้วยร่างกายสดใสรุ่งเรืองเหมือนกับว่าได้ฟื้นขึ้นมาจากความตาย พวกเขาจะไม่เห็นภัยพิบัติ เพราะว่าพวกเขาจะถูกยกขึ้นไปยังเราเอง ทั้งกายและวิญญาณ และในทันใดนั้น พวกเขาจะเต็มเปี่ยมไปด้วยพระพรของเรา และการเปลี่ยนโฉมให้เป็นกายทิพย์ (จากนิตยสาร "เครื่องหมายเหนือธรรมชาติ" พฤศจิกายน 1969)

เคยมีเพื่อนๆสมาชิก สอบถามเข้ามาว่า ทำไมข่าวสารจากเพื่อนต่างดาว ของกระทู้ข้างล่างนี้ จึงบอกว่าเมื่อโลกจะเปลี่ยนเข้าสู่มิติที่ 5 แล้วพวกเธอจะไม่ได้รับภัยพิบัติใดๆทั้งสิ้น เพราะภัยพิบัติเป็นเรื่องของโลกในมิติที่ 3 เท่านั้น พวกเธอเพียงทำอารมณ์ให้เป็นบวก สดใส ร่าเริง และไม่ให้คิดถึงเรื่องของภัยพิบัติใดๆอีก คำตอบก็คือเพื่อนจากต่างดาว พวกเขาจะมาย้ายมนุษย์ที่มีพันธะสัญญากับพระเจ้า ไปไว้ในยานอวกาศในช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบ้ตินั่นเองครับ

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/page-397

 

เฝ้าระวังพื้นที่ท้ายเขื่อนโคราช หวั่นน้ำทะลักท่วมซ้ำ​

​

โคราชระทมซ้ำ หลังอิทธิพลจากพายุ “นารี” ทำให้เกิดน้ำท่วมกระจายหลายพื้นที่ เขื่อนขนาดใหญ่รองรับน้ำเต็มความจุเกิน 100% สถานการณ์เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งไหลท่วมซ้ำรอบสอง

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม จ.นครราชสีมา หลังได้รับผลกระทบจากพายุนารี ทำให้มีฝนตกหนักและต่อเนื่อง ส่งผลให้มีน้ำท่วมกระจายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ตอนท้ายที่เคยรองรับน้ำจากเขื่อนลำพระเพลิง ที่มีระดับน้ำเกินความจุ ไหลสู่พื้นที่ลุ่มน้ำมูลเขต อ.โชคชัย อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.จักราช อ.พิมาย และอ.ชุมพวง ซึ่งเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนมีน้ำท่วมบ้านเรือนชุมชนและพื้นที่เกษตรกรบริเวณลุ่มน้ำได้รับความเสียหาย ซึ่งระดับน้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่ล่าสุดได้รับอิทธิพลจากฝนที่ตกอย่างหนัก ทำให้มีมวลน้ำจำนวนมากไหลท่วมซ้ำอีกรอบ ระดับน้ำสูงเกิน 50-80 ซม. ประชาชนเดือดร้อนระทมซ้ำ

ขณะที่สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา รายงานสถานการณ์ลุ่มน้ำในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พบว่า ลุ่มน้ำลำตะคองตอนล่าง พื้นที่รับน้ำ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ สถานการณ์ฝนอยู่ในเกณฑ์“เฝ้าระวัง” มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ที่ฝนตกหนัก รวมทั้ง ลุ่มน้ำลำพระเพลิงตอนล่าง พื้นที่รับน้ำ อ.ปักธงชัย สถานการณ์น้ำท่าอยู่ในเกณฑ์“เฝ้าระวัง” และมีสภาวะน้ำล้นตลิ่งที่เกิดจากน้ำล้นอ่างลำพระเพลิงรอบสอง ขณะที่ ลุ่มน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง พื้นที่รับน้ำ อ.พระทองคำ อ.โนนไทย อ.โนนสูง อาจมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ สถานการณ์น้ำท่า“เฝ้าระวัง” น้ำล้นตลิ่งต่อไปอีก และคาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ในอีก 3-4 วัน

สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ 6 แห่งของ จ.นครราชสีมา และ จ.บุรีรัมย์ พบว่า 5 เขื่อนมีน้ำเต็มเกิน 100% ยกเว้นเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ที่มีน้ำ 243 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 77 ของความจุ 314 ล้าน ลบ.ม. ยังไม่มีการระบายน้ำ ขณะที่เขื่อนมูลบน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา มีน้ำ 144 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อย 101 ของความจุ 141 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำออกวันละ 6.1 แสน ลบ.ม. เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา มีน้ำ 318 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 116 ของความจุ 275 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำออกวันละ 4.9 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา มีน้ำ 120 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 109 ของความจุ 109 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำออกวันละ 6.7 ล้าน ลบ.ม. รวมทั้งเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา มีน้ำ 99 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อย 101 ของความจุ 98 ล้าน ลบ.ม. ไม่มีการระบายน้ำออก และเขื่อนลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ มีน้ำ 127 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 105 ของความจุ 121 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำออกวันละ 2 ล้าน ลบ.ม.

ขณะเดียวกัน ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้บินออกสำรวจสภาพน้ำท่วมเหนือพื้นที่ ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา พบว่ามีพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะนาข้าวของเกษตรกรที่อยู่ในระยะออกรวงอ่อนต้องจมอยู่ใต้บาดาล เสียหายมากกว่า 5,000 ไร่.

เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2556 เวลา 13:17 น.

ขอนแก่นเตรียมพร้อมรับน้ำท่วมตลอด 24 ชั่วโมง​

​

นายก อบต.ท่าพระนำชาวบ้านทำพนังกั้นน้ำชีไหลทะลักเข้าท่วมไร่นา 3 ตำบล ด้านผู้ว่าฯขอนแก่นตั้งมิเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันในเขตเมืองตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงษ์ทัศน์ เลิศรุ้งพร นายก อบต.ท่าพระ จ.ขอนแก่น พร้อมนายสุทธิพงษ์ แสนสุทธวิจิตร ผญบ.หมู่ 3 บ้านสวนมอน ต.ท่าพระ และชาวบ้านหมู่ 5 บ้านวังหิน หมู่ 3 บ้านสวนมอน และ หมู่ 4 บ้านหนองไคร่นุ่น ต.ท่าพระ ประมาณ 200 คน ได้ช่วยกันนำถุงปู๋ยขนาด 50 กิโลกรัม บรรจุทราย วางซ้อนเป็นแนวเพื่อทำพนังกั้นน้ำชี บริเวณใต้สะพานห้วยซัน หมู่ 5 บ้านวังหิน และถนนข้ามลำห้วยในหมู่บ้านสวนมอน หมู่ 3 เพื่อไม่ให้นำชีที่เอ่อล้นเข้ามาในหมู่บ้านทั้งสามหมู่บ้านเอ่อล้นเข้าไร่นาเกษตรกรที่มีข้าวอุ้มท้องมากกว่า 8,000 ไร่

นายพงษ์ทัศน์ เลิศรุ้งพร นายก อบต.ท่าพระ กล่าวว่า ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายบริเวณ หมู่ 3 หมู่ 4 และ หมู่ 5 ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังระดับน้ำในแม่น้ำชีได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากมวลน้ำหนุนจาก จ.ชัยภูมิได้ไหลเข้าพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น อย่างรวดเร็วเกินกว่าที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันยังคงพบว่า มีพนังกั้นน้ำที่ทำจากดินพังทลายลงหลายจุด โดยเฉพาะที่บ้านโต้น บ้านพระบุ อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ยาวกว่า 50 เมตร มวลน้ำหนุนได้ไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่ ต.ท่าพระ อย่างรวดเร็ว ทำให้สามหมู่บ้านดังกล่าว ที่มีพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำชีประสบกับปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน ชาวบ้านสามหมู่บ้านจึงได้มาช่วยกันเสริมแนวคันดินบริเวณถนนข้ามลำห้วยในหมู่บ้านสวนมอน หมู่ 3 และ พนังกั้นน้ำชีตรงบริเวณใต้สะพานห้วยซัน หมู่ 5 บ้านวังหิน เพื่อป้องกันน้ำท่วมบ้านเรือนของประชาชนและเขตพื้นที่ทางการเกษตร ดังกล่าว

ในส่วน นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า อิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่นนารีที่เริ่มส่งผลให้ขอนแก่น ทั้ง 26 อำเภอ ของจังหวัดมีพายุฝนฟ้าคะนองตกลงมาตลอดทั้งวันและมีลมกรรโชกแรงในบางพื้นที่ ซึ่งหากฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ก็จะส่งผลให้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะมีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องคงมาตรการการระบายน้ำในภาพรวมทั้งหมดเพื่อให้น้ำเดินทางไปในทิศทางเดียวกันและป้องกันกับสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชนเมืองชั้นใน ทั้งนี้ พื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำชีทั้งในเขต ต.ท่าพระ พระลับ และ ต.ดอนหัน จะส่งผลถึงน้ำท่วมในบางพื้นที่ซึ่งนอกจากจะเร่งสร้างพนังกั้นนำด้วยการเสริมแนวคันดินแล้วยังคงมีการวางกระสอบทรายและการเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่แอ่งกระทะได้กำชับให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวังกับภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มโดยเฉพาะมิสเตอร์เตือนภัยของแต่ละหมู่บ้านที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมงรวมไปถึงการเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่จะต้องสรุปทุก 1 ชม.เพื่อรับมือกับมวลน้ำหนุนที่ไหลเข้าพื้นที่ จ.ขอนแก่น อย่างต่อเนื่อง.

เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2556 เวลา 14:12 น.

"วังชิ้น" น้ำป่าทะลักซัดถนนขาด​

​

ฝนกระหน่ำวังชิ้นทั้งคืน น้ำป่าทะลักซัดถนนขาด ทางอำเภอเร่งสำรวจความเสียหาย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ ( 18 ต.ค.) หลังจากที่เกิดฝนตกอย่างหนักที่อำเภอวังชิ้น จ.แพร่ ทั้งคืนเป็นเหตุให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในหลายตำบลของอำเภอวังชิ้น เช่น ตำบลแม่พุง เกิดน้ำไหลเข้าล้นลำห้วยแม่พุงเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรประมาณสิบหลังคาเรือน ชาวบ้านต้องรีบกันนำข้าวของไว้ในที่สูงเพื่อป้องกันน้ำ นอกจากนี้น้ำในลำห้วยเพิ่มสูงทำให้เกิดมีขยะลอยมาติดที่ราวสะพานชาวบ้านต้องช่วยกันนำขยะออก นอกจากนี้ที่ ต.แม่เกิ๋ง อ.วังชิ้น ระดับน้ำในลำห้วยสลก ห้วยแม่ ห้วยแม่เกิ๋ง เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นเหตุให้ถนนในหมู่บ้านถูกตัดขาดซึ่งมีถนนหลายสายในหมู่8,4,6,2 และ 7 ได้รับความเสียหาย รวมถึงไร่นา,สัตว์เลี้ยงของชาวบ้านอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีฝายในหมู่บ้านได้รับความเสียหายอีก 2 แห่ง

ต่อมา นายณัฐวุฒิ เต็มเขียว นายก อบต.แม่เกิ๋ง ได้ออกสำรวจความเสียหายเพื่อรายงานให้ทางจังหวัดทราบ โดยทางนายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้สั่งการให้ออกสำรวจเพื่อจะได้เร่งช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว

เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2556 เวลา 16:08 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

แม้จะไม่เกิดขึ้นปลายปี(2554)แต่อาจจะเกิดขึ้นปลายปี(2556) !!!​

​

ประชาชนแห่ขึ้นสำนักสงฆ์ลับแล พิสูจน์คำทำนายเด็กชายปลาบู่

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประชาชนจากทุกสารทิศแห่เดินทางพิสูจน์คำทำนายเด็กชายปลาบู่ ที่ทำนายไว้ว่า จะเกิดอาเพศรุนแรงแผ่นดินไหวและเขื่อนพัง ขณะที่สำนักสงฆ์ลับแลปรับพื้นถนนทางขึ้นรอต้อนรับแล้ว

วันนี้ ( 30 ธ.ค.54) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจที่สำนักสงฆ์ลับแล หมู่ที่ 1 บ้านตามูน ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ซึ่งก็พบว่า มีพระภิกษุสงฆ์ และประชาชนจากทุกสารทิศทยอยนำรถยนต์เดินทางมาจับจองพื้นที่ และเข้าดูภาพเด็กชายปลาบู่ พร้อมพูดคุยกับ นายทองใบ คำสี บิดาของเด็กชายปลาบู่

ทั้งนี้ เพื่อพิสูจน์คำทำนายที่ว่า ปลายปี 2554 จะเกิดอาเพศรุนแรง แผ่นดินไหวเกือบทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยและพม่า ขณะที่กรุงเทพมหานคร จะจมน้ำและจมดิน ส่วนเขื่อนภูมิพล ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดตากพัง และในเวลายามสองของคืนปีใหม่ที่คนไทยฉลองกันอย่างสนุกสนาน จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและมีคนตายจำนวนมาก โดยมีการตีความกันเวลายามสองจะตรงกับเวลาประมาณ 22.00 น.-24.00 น.

จากคำทำนายดังกล่าว ทำให้สำนักสงฆ์ลับแล ต้องว่าจ้างรถแบ็กโฮ รถไถ เข้ามาปรับพื้นที่รองรับประชาชนที่เดินทางมาจากทุกสารทิศ เนื่องจากปัจจุบันทางขึ้นสำนักสงฆ์แห่งนี้เป็นเส้นทางขึ้นเขา รถยนต์ไม่สามารถวิ่งสวนทางกันได้ และเมื่อสำนักสงฆ์ลับแลเห็นว่าประชาชนจำนวนต้องการขึ้นมาพิสูจน์คำทำนายของเด็กชายปลาบู่ จึงว่าจ้างเอกชนเข้าปรับพื้นที่ถนนเพื่ออำนวยความสะดวก และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นแก่ประชาชน

นางไอลดา คุมกาง ชาวจังหวัดระยอง 1 ในผู้ที่เดินทางมาพิสูจน์คำทำนายของเด็กชายปลาบู่ กล่าวว่า ตนเชื่อในคำทำนายของเด็กชายปลาบู่ เพราะเท่าที่ติดตามข่าวและคำทำนายที่เด็กชายปลาบู่ให้ไว้กับบิดาที่ผ่านมาเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินชนตึก การเกิดสึนามิ และการเกิดน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งเหลือเชื่อ

การทำนายของเด็กชายปลาบู่ที่ทำนายว่าเขื่อนจะพัง และเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงตรงนี้ตนเองก็เชื่อ แม้จะไม่เกิดขึ้นปลายปีนี้แต่อาจจะเกิดขึ้นปลายปีหน้า ซึ่งการทำนายดังกล่าวจะทำให้ประชาชนมีการระวังตัวมากขึ้น ซึ่งตนเองก็เดินทางมาพร้อมครอบครัว เพราะต้องการเห็นภาพเขียนและภาพวาดของเด็กชายปลาบู่

โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 30 ธันวาคม 2554 20:47 น.

ที่มา www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000166547

 

น้ำตกเขาสอยดาว..แหล่งน้ำสะอาดในอนาคต !!!​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=5gEz_gxcAgc]น้ำตกเขาสอยดาว.mpg - YouTube[/ame]
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=LEdB6FssBSc&feature=player_embedded#t=146"]???????????? ???????? ??? 1 ??? 4 - YouTube[/ame]​

 

เรียน คุณเกษมครับ
รบกวนอย่าลงข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริงนะครับ ข่าวมันเป็นข่าวปี 2554 คำว่า "แม้จะไม่เกิดขึ้นปลายปีนี้แต่อาจจะเกิดขึ้นปลายปีหน้า" ปลายปีหน้าควรจะต้องเป็น 2555 ซึ่งผ่านมาแล้วครับ เอาปี 2556 ออกไปเถอะครับ เดี๋ยวผู้อ่าน อ่านไม่ครบถ้วนกระบวนความ จะเข้าใจผิดกันครับ

 

ระวังนะครับเดี๋ยวเขาจะตอบว่า"เวลาเปลี่ยนได้...แต่เหตุการณ์เปลี่ยนไม่ได้"

 

ผมไม่อาจทำตามที่ร้องขอมาได้ครับ เพราะเป็นความเชื่อส่วนตัวของผมเอง ว่าคุณไอลดา คุมกาง หมายถึงว่าถ้าไม่เกิดขึ้นในปี 2554 ก็อาจจะเกิดขึ้นในปีต่อๆไปได้ครับ...

 

คนแห่จองที่ริมโขงชมบั้งไฟพญานาค​

​

คนแห่จองที่ริมโขงชมบั้งไฟพญานาค พ่อเมืองหนองคายลั่นพร้อมอำนวยความสะดวก

วันนี้ (19 ต.ค.) ผู้สื่อข่าว จ.หนองคาย รายงานว่า มีประชาชนและนักท่องเที่ยวแห่เดินทางมาชมปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาค ซึ่งจะผุดขึ้นจากกลางลำน้ำโขงเป็นประจำทุกปีในวันออกพรรษา โดยเฉพาะใน อ.โพนพิสัย และ อ.รัตนวาปี ซึ่งพื้นที่ริมแม่น้ำต่างถูกจับจองเพื่อเฝ้าดูลูกไฟพญานาคที่จะขึ้นในช่วงค่ำ ส่งผลให้การจราจรในพื้นที่ติดขัดอย่างมาก

ด้าน นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผวจ.หนองคาย กล่าวว่า ทางจังหวัดได้เตรียมการไว้เป็นอย่างดี เพราะคาดไว้แล้วว่าจะมีผู้สนใจเข้าชมจำนวนมาก โดยตลอดเส้นทางจะมีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครคอยแนะนำและอำนวยความสะดวกให้ พร้อมแจกแผ่นพับใบปลิวที่มีรายละเอียดของเส้นทาง จุดชมและสถิติของจำนวนบั้งไฟพญานาค ที่สำคัญยังมีหมายเลขโทรศัพท์ของหน่วยงานต่าง ๆ.

เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2556 เวลา 18:02 น.

ชาวบ้านผวาหลุมน้ำผุดท้ายเขื่อนลำแชะ​

​

ชาวบ้านผวาหลุมน้ำผุดท้ายเขื่อนลำแชะ หวั่นเขื่อนรั่ว ผู้ว่าฯรุดตรวจสอบ แจงเป็นเพียงน้ำต้ดินท้ายสันเขื่อนหาทางไป ยันทุกเขื่อนยังปกติมั่นคงแข็งแรงดี

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เข้าตรวจสอบจุดที่เกิดปรากฏการณ์น้ำผุดขึ้นมาจากท้ายสันเขื่อนลำแชะ ตั้งอยู่ที่ ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา หลังรับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ที่ต่างพากันหวาดกลัวว่าอาจจะเป็นน้ำที่หลุดรอดออกมาจากสันเขื่อน จากการตรวจสอบพบว่าจุดที่มีน้ำผุดขึ้นอยู่เยื้องมาทางสันเขื่อนด้านซ้าย จากอาคารระบายน้ำฉุกเฉินประมาณ 300 เมตร ห่างจากตัวเขื่อนประมาณ 5 เมตร มีลักษณะเป็นหลุมเส้นผ่านศูนย์กลางปากหลุมกว้างประมาณ 20 เซนติเมตร ลึกประมาณ 1 เมตร ข้างในหลุ่มมีลักษณะเป็นโพรงเล็กน้อย เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นเพียงน้ำที่ขังอยู่ใต้แนวสันเขื่อนที่อยู่สูงกว่าระดับพื้นดินบริเวณดังกล่าวประกอบกับพื้นที่ในจุดที่มีน้ำผุดเป็นดินร่วนปนทรายจึงทำให้มวลน้ำที่อยู่ใต้ดินหาที่ว่างผุดขึ้นมาเหนือพื้นดินเท่านั้น ไม่ใช่เป็นมวลน้ำที่รั่วออกมาจากแนวสันเขื่อนหรือลอดท้ายตัวเขื่อนแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายชยาวุธ จันทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอครบุรี ได้เดินทางไปตรวจสอบสถานการณ์น้ำภายในเขื่อนลำแชะ พร้อมรับฟังการรายงานสรุปสถานการณ์จากนายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ที่ที่ทำการโคราชการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำมูลบน – ลำแชะ ที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่เหนือเขื่อนลำแชะ เพื่อประมวลสถานการณ์ภาพรวมของน้ำที่ล้นออกจากเขื่อนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

นายวินัย เปิดเผยว่าภายหลังจากที่รับฟังบรรยายสรุปและตรวจพื้นที่ว่า น้ำที่ผำดขึ้นมาท้ายสันเขื่อนลำแชะนั้นเป็นมวลน้ำที่อยู่ใต้ดินซึ่งมาจากพื้นที่ท้ายตัวเขื่อนซึ่งอยู่สูงกว่าระดับพื้นดินและไม่มีที่ไปดันขึ้นมาผุดเหนือดินเท่านั้น ไม่ได้รั่วซึมออกมาจากตัวเขื่อนลำแชะ ฉะนั้นประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล ยืนยันว่าทุกเขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรงทุกประการ

ส่วนสถานการณ์น้ำภายในเขื่อนลำแชะนั้นล่าสุดมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 320 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมดที่ 275 ล้าน ลบ.ม. และยังคงมีน้ำล้นออกจากเขื่อนพร้อมกับการพร่องน้ำรวมวันละประมาณ 6 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนที่อยู่ริมตลิ่งตั้งแต่อำเภอครบุรี อ.โชคชัย อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.พิมาย และ อ.ชุมพวง นอกจากนี้ยังมีเขื่อนแหล่งต้นน้ำมูลตอนบนอีก 2 เขื่อนคือเขื่อนลำพระเพลิง และเขื่อนลำมูลบน มีปริมาณน้ำเกินความจุล้นออกจากอาคารระบายน้ำฉุกเฉินอีกเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้สถานการณ์อุทกภัยโดยภาพรวมของจังหวัดนครราชสีมา ทางจังหวัดนครราชสีมา ได้ประกาศให้ 29 อำเภอจากทั้งหมด 29 จังหวัด เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัยแล้ว ซึ่งขณะนี้ตนเองได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างอย่างเต็มที่

เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2556 เวลา 17:40 น.

โคราชระทมท่วมหนักมิดสนามกีฬารถจมมิดอื้อ​

​

โคราชน้ำเอ่อท่วมสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ฯ รถยนต์แฟนคลับสวาทแคทกว่า16 คัน พร้อมรถจักรยายนต์ถูกน้ำท่วมมิด รองประทานชมรมประสานรถยกเก็บกู้ลดความเสียหาย

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 ต.ค. ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อ.เมือง จ.นคราชสีมา นายวิชาญ สดแสงจันทร์ รองประธานแฟนคลับสวาทแคท กองเชียร์สโมสรฟุตบอลจังหวัดนครราชสีมา หรือสวาทแคท พร้อมสมาชิกได้ประสานรถยกเข้าชวยยกรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมขณะจอดอยู่ลานจอดรถข้างสนามเทนนิส ซึ่งรถที่ถูกน้ำท่วมทั้งหมดเป็นของกลุ่มแฟนคลับสวาทแคทที่เดินทางไปเชียร์ทีมฟุตบอลของตัวเองที่เดินทางไปแข่งที่ จ.กระบี่ โดยจะลงทำกาแข่งขันกับ ทีมกระบี่ เอฟซี ในช่วงเย็นนี้

นายวิชาญ เปิดเผยว่า จะที่ทีมสวาทแคทมีกำหนดเดินทางไปแข่งฟุตบอลดิวิชั่น 1 พบกับทีมกระบี่ เอฟซี ในเย็นนี้ โดยใช้รถโดยสารเดินทางตามไปเชียร์ทีมรักในครั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการเดินทางจึงนัดหมายกันมาขึ้นรถทัวร์กันที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ฯ รวมกันจอดรถไว้บริเวณลานจอดรถข้างสนามเทนนิส เพื่อออกเดินทางไปตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (18 ต.ค.) โดยมีรถยนต์ของแฟนคลับ 13 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 6 คัน จอดไว้บริเวณดังกล่าวโดยยังไม่มีน้ำท่วมขับแต่อย่างใด

หลังจากที่ออกเดินทางไปในช่วงเย็น ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนเกิดน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งบริเวณที่จอดรถไว้ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 70 ซม. เป็นเหตุให้รถของกลุ่มแฟนคลับถูกน้ำทั้งหมด บางคันที่จอดอยู่ที่ลุ่มถูกน้ำท่วมเกือบมิดคัน โดยน้ำได้เอ่อท่วมช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมาจึงไม่มีใครทราบก่อนที่จะมีคนมาพบในตอนเช้าจึงประสานกลุ่มแฟนคลับมาช่วยนำรถยกมายกขึ้นให้พ้นน้ำ เพื่อรอให้เจ้าของที่เดินทางไหเชียร์บอลที่กระบี่เดินทางกลับมารับรถไปดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้หลังจากที่ทราบข่าว กลุ่มแฟนคลับสวาทแคท ที่ไม่ได้เดินทางไปด้วยต้องรีบประสานงาน เข้ามาให้ความช่วยเหลือนำยกรถออกมาให้พ้นน้ำเนื่องจากหากปล่อยแช่น้ำไว้รอจนเจ้าของรถกลับมาซึ่งคาดว่าจะกลับมาถึงบ่ายวันที่ 20 ต.ค.จะทำให้รถแชร์น้ำอยู่หลายวัน ทำให้ได้รับความเสียหายมากขึ้น ทางชมรมแฟนคลับสวาทแคท จึงได้จ้างรถยกมาช่วยยกรถออกจากจุดน้ำท่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนลดความเสียหายลงได้บ้างไม่มากก็น้อย.

เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2556 เวลา 15:29 น.

ฝนถล่มเชียงใหม่ดินสไลด์ปิดถนนหลายจุด​

​

เชียงใหม่ ฝนถล่ม นานหลายวัน หลายพื้นที่ กระทบ ดินสไลด์ น้ำเอ่อล้น เสาไฟฟ้า ต้นไม้ล้ม ทับเส้นทาง กีดขวางการสัญจร เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 ต.ค. นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร พยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคเหนือตอนบนมีอากาศเย็นโดยทั่วไป กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยมีฝนและฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อุณหภูมิต่ำสุดเช้านี้ วัดได้ 17.3 องศาเซลเซียส ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และในช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ 24 ต.ค. มีบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณภาคเหนือ จะมีอุณหภูมิลดลงได้อีก 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาเซลเซียส

สำหรับผลกระทบต่อการเกษตรนั้น ระยะนี้เป็นช่วงต้นฤดูหนาวสภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันมิให้เจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นช่วงฤดูแล้ง ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดน้อยลง พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรเก็บกักน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตร และวางแผนการจัดการน้ำให้เหมาะสม เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ในระยะนี้ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อให้สัตว์ปรับตัวได้ รวมทั้งไม่ปล่อยให้ลมโกรกบริเวณโรงเรือน เพราะจะทำให้สัตว์หนาวเย็นจนอ่อนแอและเป็นโรคได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่ฝนตกลงมาติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 3 วัน ทำให้เกิดดินสไลด์และน้ำเอ่อล้นขึ้นสูงหลายพื้นที่ ซึ่งล่าสุดได้ทราบว่า เส้นทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เกิดดินสไลด์ 3 จุด แต่ไม่ได้กระทบเรื่องของการสัญจร และมีเสาไฟฟ้า รวมถึงต้นไม้ กิ่งไม้ล้มทับเส้นทาง หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 6 ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งทางการไฟฟ้า และเจ้าหน้าที่กู้ภัยตำบลโป่งแยง ได้เข้าแก้ไขให้เส้นทางดังกล่าวกลับคืนสู่ปกติแล้ว ส่วนที่บ้านทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ที่มีปริมาณน้ำแม่วางเอ่อล้นตลิ่งและเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎร ในช่วงกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะนี้ปริมาณน้ำได้เริ่มลดลง และใกล้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งทางอำเภอ และ อบต. ในพื้นที่ ได้ร่วมกันออกตรวจสอบความเสียหาย และเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว

เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2556 เวลา 11:47 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์