ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

นำภาพมาฝากจร้า . . .

 

วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6987 ข่าวสดรายวัน


จีนเห่อพลังงานแดด-ลม



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>


</TD></TR></TBODY></TABLE>ช่างเทคนิคจัดเรียงแผงรับแสงอาทิตย์เป็นพรึ่ดบนหลังคาของโรงงานผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ในเมืองอู่ฮัน มณฑลหูเป่ยของจีน ขณะที่รัฐบาลจีนหวังว่าจะใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้น ภายในปี 2563 มีแผนจะผลิตไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์ให้ได้อย่างน้อย 10,000 เมกะวัตต์ และไฟฟ้าจากพลังลมอีก 20,000 เมกะวัตต์



เทียบไซซ์



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>


</TD></TR></TBODY></TABLE>นายเหอ ผิงผิง ชาวจีน เจ้าของสถิติบุคคลที่เตี้ยท <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>


</TD></TR></TBODY></TABLE>ี่สุดในโลก 73 เซนติเมตร ยืนเทียบกับนายสุลต่าน โกเซน ชาวตุรกี แชมป์สูงที่สุดในโลก 246.5 เซนติเมตร ในงานโชว์ตัวที่กรุงอิสตันบูล เมื่อ 14 ม.ค.

[FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]











นักวิทย์เลื่อนเข็มนาฬิกาวันสิ้นโลก



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>


</TD></TR></TBODY></TABLE>เดลี่เมล์รายงานวันที่ 14 ม.ค. ว่า คณะกรรมการนักวิทยา ศาสตร์อะตอม เลื่อนเข็มนาทีของนาฬิกาวันโลกาวินาศ หรือ "ดูมส์ เดย์" ในมหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐ ซึ่งสร้างขึ้นในปี 2490 โดยนักวิทยาศาสตร์สาขาอะตอมและปรมาณู ช่วง 2 ปีหลังจากสหรัฐโจมตีประเทศญี่ปุ่นด้วยการทิ้งระเบิดปรมาณู 2 ลูกที่จังหวัดฮิโร ชิม่าและนางาซากิ การเลื่อนเข็มนาทีครั้งนี้ถือฤกษ์ในเวลา 15.00 น. ของวันที่ 14 ม.ค. 2553 เลื่อนตำแหน่งเข็มนาฬิกาที่แรกเริ่มตั้งไว้ที่อีก 7 นาทีก่อนเที่ยงคืน จากนั้นค่อยๆ เลื่อนเข็มมาแล้ว 18 ครั้ง โดยหากถึงเที่ยงคืนเมื่อไหร่จะหมายถึงวันสิ้นโลก การขยับล่าสุดในปี 2550 เข็มไปอยู่ที่ตำแหน่ง 5 นาทีก่อนเที่ยงคืน เป็นผลมาจากการแก้ไขปัญหาการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ในประเทศต่างๆ ล้มเหลว โดยปัจจัยที่มีผลกระทบต่อเวลาของนาฬิกาโลกแตกนั้น เช่น การเจรจาด้านการครอบครองอาวุธ เทคโนโลยี การก่อการร้ายด้วยระเบิดนิวเคลียร์ และวิกฤตการณ์โลกร้อน เป็นต้น

"ดูไบ"โวได้อีก ที่ตั้งยูเอ็นแทนนิวยอร์ก



เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ทางการดูไบออกแถลงการณ์ขานรับแนวคิดของนิตยสารฟอร์บส์ สหรัฐ ว่า ดูไบพร้อมเต็มที่ที่จะเป็นที่ตั้งสำนักงานต่างๆ ของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น หากสหประชาชาติย้ายที่ทำการจากนครนิวยอร์กของสหรัฐ

ในแถลงการณ์ของดูไบระบุว่า ทางการของดูไบพร้อมแล้วที่จะเปิดการเจรจากับเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ เพื่อประโยชน์ด้านภูมิศาสตร์ การสื่อสาร สาธารณูปโภค ที่ทางดูไบให้บริการได้

ก่อนหน้านี้ ดูไบลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานไปมากมาย ไม่ว่าการก่อสร้างทางด่วน และเส้นทางรถไฟใต้ดิน แต่ปีที่แล้วเผชิญกับวิกฤตทางการเงินของโลกที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของดูไบ จนมีปัญหาพักชำระหนี้ที่อื้อฉาวไปทั่วโลก กระทั่งรัฐอาบูดาบี ดินแดนร่วมชาติเดียวกันของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วยมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 330,000 ล้านบาท กู้วิกฤตหนี้ให้บริษัทนักฮีลของดูไบไปได้ 4,100 ล้านดอลลาร์ หรือราว 137,350 ล้านบาท

นอกจากนี้ ดูไบยังพยายามกู้ชื่อเสียงใหม่ในการเปิดตึกบูร์จ คาลิฟา ที่สูงที่สุดในโลก หลังจากลงทุนก่อสร้างทั้งด้านตัวตึกและพื้นที่โดยรอบให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเทคโนโลยี ด้วยมูลค่าที่คาดว่าสูงถึง 80,000-120,000 ล้านดอลลาร์

บทความของฟอร์บส์นำเสนอว่า การลงทุนอย่างดุเดือดของดูไบอาจเป็นสัญญาณของศักยภาพที่จะเป็นชุมชนของโลก ทำให้สถานที่นี้เป็นสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติแทนที่นิวยอร์ก ซึ่งขยับขยายอะไรไม่ได้แล้ว เพราะดูไบได้สร้างสิ่งที่ดูจะเป็นเมืองหลวงของโลกในศตวรรษที่ 21

ลำปาง"เฝ้าระวังคุมโรคไข้หวัดนก



ลำปาง - นายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายอำนวยการ ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาการควบคุม ป้องกันและเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก จ.ลำปาง เปิดเผยว่า จ.ลำปางกำหนดมาตรการเพื่อติดตามเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในพื้นที่ ซึ่งได้ประกาศกำหนดให้ทุกพื้นที่เป็นเขตสงสัยว่ามีโรคระบาดชนิดไข้หวัดนกในสัตว์ปีกทุกชนิด โดยหากมีการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกออกจากพื้นที่ ผู้ประกอบการหรือเจ้าของสัตว์จะต้องมีใบอนุญาตที่ออกโดยเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ หรือสัตวแพทย์ในท้องที่ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก ตามมาตรการของทางจังหวัด รวมถึงไก่ชนตามบ่อนไก่ต่างๆ จะต้องมีสมุดพกประจำตัวที่ออกโดยสัตวแพทย์ จึงจะสามรถเข้าบ่อนไก่ชนได้ ตลอดจนการขออนุญาตเปิดบ่อนไก่ในแต่ละครั้งด้วย

นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือไปยัง อบต.หน่วยงานท้องถิ่น ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยป้องกันเฝ้าระวัง และเน้นย้ำขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจให้กำชับ กวดขันเข้มงวดในการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก หากมีผู้ที่ใช้อำนาจหน้าที่เข้ามาอ้างในการลักลอบขนย้าย ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวดต่อไป

สสส.หนุนชุมชนใช้พลังงาน"น้ำ-ลม"



สสส. - นายดิรก สาระวดี นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยถึงโครงการพัฒนาสาธิตการใช้พลังงานทางเลือกเพื่อส่งเสริมสุขภาวะชุมชนในเขตอำเภอภูหลวงจังหวัดเลย เพื่อสร้างฐานเรียนรู้ด้านพลังงานทางเลือกให้กับชุมชน โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า โครงการนี้มีเป้าหมายให้คนในชุมชนนำเอาศักยภาพในพื้นที่ที่มีอยู่ของตนเองมาใช้ สรรหาพลังงานทางเลือกให้กับชุมชน โดยเฉพาะเรื่องของกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าและเครื่องตะบันน้ำเพื่อสูบน้ำไปใช้บนไร่นา ซึ่งเกิดขึ้นจากภูมิปัญญาของชุมชน

ด้านนายอดิศร สุนทรารักษ์ รองเลขาธิการมูลนิธิเลยฯ เปิดเผยว่า กังหันลมชาวบ้านสามารถสร้างเองได้เกือบทั้งหมด ใบของกังหันก็ทำจากไม้ ยกเว้นอุปกรณ์บางอย่างที่ต้องซื้อมาประกอบ พลังงานไฟฟ้าที่ได้สามารถที่จะนำไปใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งไฟส่องสว่าง เครื่องสูบน้ำได้ตลอดทั้งวัน ส่วนเครื่องตะบันน้ำมีต้นทุนที่ถูกมากเพียง 2 พันบาทเท่านั้น ใช้กระสอบทรายทำ Check Dam ก็สามารถที่จะส่งน้ำขึ้นไปบนเขาที่สูงๆ ได้ไกลเป็นกิโลเมตร โดยสามารถสูบน้ำได้ชั่วโมงละประมาณ 200 ลิตร ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้นำไปใช้ได้จริง และแก้ปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่นี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในฤดูหนาวและร้อนไม่สามารถที่จะส่งน้ำขึ้นไปหล่อเลี้ยงพื้นที่บนเขาได้

จัดโครงการ"ข้าฯมากับพระ"



พล.ต.เยาวดนัย ภู่เจริญยศ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดทหารบกราชบุรี ได้จัดโครงการ "ข้าฯ มากับพระ" โดยจัดกำลังพล นายสิบ พลทหาร รวมกันวันละ 4-9 นาย ทำหน้าที่อุปัฏฐากรับใช้คอยช่วยเหลือดูแลพระภิกษุของวัดอมรินทราราม ทำหน้าที่ยกอาหารที่ประชาชนตักบาตร และเดินตามพระภิกษุที่ออกบิณฑบาตในตอนเช้าตั้งแต่เวลา 05.30-07.30 น. เป็นประจำทุกวันตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2552 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2554 ทั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษา 84 พรรษา รวมถึงสนองแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามโครงการ บ้าน วัดและโรงเรียน รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม การเอื้ออาทรต่อผู้อื่น ในการจรรโลง สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สำหรับเส้นทางที่พระสงฆ์จะออกบิณฑบาต คือ จากวัดอมรินทรารามไปตลาดราชบุรี จากวัดอมรินทรารามไปบ้านพักนายทหารศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จากวัดอมรินทรารามไปหมู่บ้านกิจวัฒนา และจากวัดอมรินทรารามไปหมู่บ้านราชพงศ์

ท่องแดนธรรม"วัดถ้ำเสือ" ไหว้พระ-ชมหุบเขาคีรีวงศ์



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>


</TD></TR></TBODY></TABLE>วัดถ้ำเสือ อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 9 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ บ้านถ้ำเสือ ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ พื้นที่บริเวณวัดประมาณ 200 ไร่ ประกอบไปด้วยพื้นที่ราบ หุบเขาและยอดเขา

สำหรับชื่อวัดนั้นมีข้อสันนิษฐานว่า เนื่องจากในอดีตเคยมีเสืออาศัยอยู่ และภายในถ้ำยังปรากฏหินธรรมชาติ เป็นรูปแบบของอุ้งเท้าเสือ ส่วนที่มาของวัดนี้น่าจะมาจากพระธุดงค์ที่เดินทางจาริกไป เพื่อหาสถานที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม มาอาศัยอยู่ตามถ้ำ และมีชาวบ้านที่ศรัทธาตามมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นวัดในเวลาต่อมา

ปัจจุบันมี "พระครูภาวนาธิคุณ" ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส และ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง "หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ" ประธานสงฆ์วัดถ้ำเสือ

สภาพทั่วไปของวัดถ้ำเสือมีลักษณะ เป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผาและแหล่งถ้ำธรรมชาติ เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำพระ เป็นต้น ถ้ำบางแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณวัด ยังสามารถใช้เป็นศูนย์กลางการนั่งฌานของพระภิกษุและเหล่าอุบาสก อุบาสิกาได้อีกด้วย ภายในบริเวณวัดทัศนียภาพร่มรื่น แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ อายุนับร้อยนับพันปี เนื่องจากมีเขาล้อมอยู่ทุกด้าน บริเวณนี้นอกจากเป็นสถานที่วิปัสสนาแล้ว ยังเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญถึงสองสมัย คือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ มีการขุดพบวัตถุโบราณหลายอย่าง เช่น เครื่องมือหิน เศษภาชนะดินเผา พระพิมพ์ดิบ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>


</TD></TR></TBODY></TABLE>

บริเวณพื้นที่ราบด้านหน้าเป็นที่ตั้งของอุโบสถ พระธาตุเจดีย์ระฆังใหญ่ หอประชุม รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ อีกมากมาย อาทิ พระพุทธรูปหยกขาว, ศาลาหลวงปู่ทวด, พระพุทธมงคล, พระสีวลี, พระพรหม, พระสังกัจจายน์, รอยพระพุทธบาท, พระธาตุเจดีย์, ยอดเขาแก้ว พระอรหันต์จี้กง เป็นต้น

พระธาตุเจดีย์ยอดเขาแก้ว ตั้งอยู่บนยอดเขาแก้ว มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 600 เมตร สามารถขึ้นไปสักการะได้โดยขึ้นบันได 1,200 ขั้น บนยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองกระบี่ได้รอบทิศ ทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทจำลองอีกด้วย พระธาตุเจดีย์ระฆังใหญ่ มีความสูง 90 เมตร ซึ่งอยู่ในช่วงดำเนินการก่อสร้าง หากแล้วเสร็จจะเป็นแหล่งที่ดึงดูดนักท่องแดนธรรมชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี

ธรรมชาติน่าสนใจ "หุบเขาคีรีวงศ์" ภายในหุบเขาแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปี และเนื่องจากมีเขาล้อมอยู่ทุกด้าน จึงมีถ้ำเล็กถ้ำน้อยอยู่มากมาย เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำพระ ฯลฯ สามารถเดินทางเข้าชมได้โดยการขึ้นและลงบันไดบริเวณพระตำหนักเจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่นิยมชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือการที่ได้มาแวะสักการะขอพร พระพุทธรูปหยกขาว ศิลปะพม่าอายุนับร้อยปี

เนื่องจากวัดถ้ำเสือมีลักษณะเป็นสวนป่า แวดล้อมด้วยแมกไม้ ถ้ำและต้นไม้น้อยใหญ่อายุนับร้อยปี จึงเป็นที่อยู่อาศัยของลิงป่าน้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก ถือเป็นมนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งของวัดถ้ำเสือ สามารถชมและสัมผัสความเป็นอยู่ของฝูงลิงป่าอย่างใกล้ชิด

การเดินทางจากตัวเมืองกระบี่ เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกตลาดเก่า ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เส้นทางอำเภอเหนือคลอง เลี้ยวซ้ายที่สามแยกถ้ำเสือไปตามถนนราษฎรพัฒนา (ทางหลวงหมายเลข 4037) ไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางอย่างชัดเจน

ถือเป็นแหล่งธรรมที่น่าท่องเที่ยวมาก!!

ดูข่าวนี้แล้ว หลวงพ่อจำเนียรท่านเล่าว่าตอนท่านไปเมกาไปสอนกรรมฐานนานแล้ว
ท่านไปเจอนักวิทยาศาสตร์รัสเซียมือวางอันดับ2เขาจะทำให้เชื้อโรควัวบ้าให้ทนต่อความร้อนที่ 500 องศาท่านไม่ได้บอกหน่วยมานะว่าเป็นจังได เขาก็เตรียมการไว้ ทางเมกาก็จะบอมรังเซียด้วยระเบิดไฮโดรเจน ทางรัสเซียจะทำให้คนเป็นโรควัวบ้า 20 รัฐนะของเมกา
สมัยเรแกนนะ ท่านไปเจอก็ต่อรองกันท่านบอกว่าท่าเกิดตายห่ากันทั้งโลกเอาแค่เชื่อวัวบ้า
ท่านบอกทางแก้ของภาคใต้ไว้นะท่านบอกว่าถ้าทำตามท่านแก้ได้ภายใน 3 วัน
คือท่านให้เอาดาวเทียมของเมกามาส่องให้ลีกลงไป 7 เมตรจากพื้นดินว่าอาวุธเขาไป
เก็บไว้ที่ไหนแต่ทางกองทัพบกเขาไม่ทำเขาทำแบบนี้นะ ท่านเล่าให้ฟังว่าแม่ทัพไปถามท่านนะดูข่าวนี้เอาเองนะ
ขี้เกียจพิมพ์แล้วจะไปดูทู้อื่นบ้างคราวหลังจะมาเล่าใหม่นะ
ถ้าเขาใครได้อ่านหนังสือแซยิดของหลวงพ่อท่านนะจะเห็นว่าพระเจดีย์ที่ยังสร้างบ่เสร็จ
นะท่านเสริมเหล็กเข้าไปทำให้แข็งแรงตั้ง 3-4 เท่าพวกลูกศิษฐ์ไม่รู้ว่าเสริมไปทำมั้ยกันนะ
ไปแล้วนะแต่มีคนถามนะว่ามันจะเกิด7749นะตอนสิ้นปฎิทินของมายาริปะ
หลวงพ่อท่านตอบว่าท่านรับรองบ่เกิดนะอันนี้ของพระเกจิดังนะเป็นอันดับ 1ริ2ของ
ภาคใต้ที่จะถูกเก็บนะท่านมีค่าหัวอยู่นะ เราว่าตอนหนุ่มท่านชอบ สทร ไปหาเรื่องกับ
คนที่จะเก็บท่านนะท่านบอกว่าท่านไปหาทุกคนเลยไอ้คนที่จะฆ่าท่านนะ
แต่ปัญหาภาคใต้ท่านไม่แส่นะไปแก้กันเอาเองเพราะอดีตนายกไปไว้ไปแล้ว

http://www.bangkok-today.com/node/3645

ทบ.เล็งซื้อเพิ่ม ‘เรือเหาะตรวจการณ์’


<!-- /#content-header --><!-- CONTENT AREA -->วันจันทร์ที่ 21 December พ.ศ.2552 19:35 น. 35 Tags:

• การเมือง

เห็นภาพ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ลงพื้นที่โรงจอด “เรือเหาะ” ภายในหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีกองพลทหารราบที่ 15 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานีเมื่อเร็วๆนี้... พอจะอนุมานได้ว่า “เรือเหาะ 350 ล้าน”ใกล้จะถึงเวลาออกปฏิบัติการแล้วขณะที่ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนมีกระแสข่าว คนในกองทัพไม่ “ไม่แฮปปี้” ที่ไม่สามารถใช้เรือเหาะ ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้ตามกำหนดเนื่องจากบริษัทผู้ผลิตยังไม่ติดกล้องอินฟราเรดตามที่ได้สัญญาไว้ เนื่อง
จากมีปัญหาการเงินและการจัดซื้อกล้องจากบริษัทอื่น ทั้งที่ ทบ.ได้จ่ายงวดแรกไปแล้วกว่า 140 ล้านบาทนอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมายังมีนักสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ต่างออกมาคัดค้านว่า การสร้างเรือเหาะ จะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่แม้ว่าระหว่างลงพื้นที่ของ “บิ๊กป๊อก” ครั้งนี้จะไม่สนใจสื่อที่รอทำข่าว ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดที่ “เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกมาจี้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์
สุวรรณรมว.กลาโหม ให้เอาผิดบ้างแต่ถึงอย่างไร “เรือเหาะ” ที่กองทัพบกจะใช้ปฏิบัติการในพื้นที่ภาคใต้นั้น ถือเป็นอาวุธใหม่ ที่กองทัพได้รับงบสนับสนุนจากรัฐบาล “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”ซึ่งมีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมาอนุมัติงบประมาณจำนวน 350 ล้านบาท เพื่อดำเนินการจัดหา “เรือเหาะ” พร้อมกล้องตรวจการณ์ทั้งกลางวันและกลางคืนด้วยวิธีพิเศษเพื่อใช้ในกิจการของ กอ.รมน.ในภารกิจตรวจการณ์ทางอากาศอันเป็นหนึ่งในยุทธการแก้ไข
ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้สำหรับระบบเรือเหาะดังกล่าวนี้ จะเป็น “เรือบอลลูน”ขนาดใหญ่ ใช้สำหรับตรวจการณ์บนอากาศ โดยจัดซื้อจากบริษัทแอร์เรีย อินเตอร์เนชันแนล ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 1 ลำเฉพาะตัวเรือบอลลูนมีราคา 260 ล้านบาท!กล้องส่องกลางวันและกลางคืนรวม 2 ตัว ราคา 70 ล้านบาทส่วนอีก 20 ล้านบาท ใช้สำหรับจัดซื้ออุปกรณ์สื่อสารภาคพื้นซึ่งทั้งหมดจะรวมเป็นระบบเรือเหาะ 1 ชุดทั้งนี้ สมรรถนะของเรือเหาะจะ
ลอยอยู่ในอากาศในระยะสูงพ้นรัศมีทำการของปืนเอ็ม 16 บินได้ทั้งกลางวันและกลางคืนบันทึกภาพได้แบบเรียลไทม์ (เวลาจริง) มีความเร็ว 90กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถบินได้นาน 8 ชั่วโมงต่อครั้งโดยเรือเหาะจะสามารถอุดช่องโหว่ของ “เครื่องบินไร้คนขับ”หรือ “ยูเอวี” ได้...เพราะกล้องที่ติดตั้งอยู่บนยูเอวีจะไม่ให้ภาพที่คมชัดหรือเรียลไทม์ภารกิจหลักของเรือเหาะคือ ลาดตระเวนพื้นที่ตามแนวชายแดน การเฝ้าตรวจเส้นทางคมนาคม ทั้งถนนและทางรถไฟซึ่งกลุ่มผู้ก่อ
ความไม่สงบนิยมใช้ก่อเหตุรุนแรงกับเจ้าหน้าที่รัฐโดยสามารถบินเข้าไปบันทึกภาพเหตุการณ์เพื่อประโยชน์ในการบัญชาการ ซึ่งภาพที่บันทึกไว้สามารถส่งสัญญาณไปปรากฏที่ศูนย์บัญชาการได้ด้วยอย่างไรก็ตาม ทบ.มีแนวคิดจะซื้ออีก 2 ลำ เพื่อให้ครบทั้งจ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส“แนวคิดนี้เป็นของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. สมัยเป็นเสนาธิการทหารบก และเลขาธิการ กอ.รมน.” แหล่งข่าวระบุ 


<!-- /node-inner -->




ยูเอ็น"ปลุกสำนึกหยุดทำลายธรรมชาติ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>ก่อนระบบนิเวศโลกพังพินาศบีบีซีรายงานว่า สหประชา ชาติ (ยูเอ็น) ประกาศให้ปีค.ศ. 2010 หรือพ.ศ.2553 เป็น "ปีแห่งความหลากหลายทางชีวภาพนานาชาติ" ปลุกจิตสำนึกประชาคมโลก ร่วมมือรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นผืนป่า ผืนน้ำ ผืนดิน สัตว์ชนิดต่างๆ ฯลฯ เพื่อให้สังคมมนุษย์ยังดำรงอยู่ได้ต่อไปอย่างปกติสุข เพราะถ้าไม่รักษาธรรมชาติเอาไว้ผลสุดท้าย มนุษย์ย่อมเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบสูงสุด

ย้อนกลับไป 8 ปีก่อน ผู้แทนรัฐบาลทั่วโลกให้คำมั่นผ่านที่ประชุมนครโยฮันเนสเบิร์ก ปีค.ศ.2002 ว่า จะกำหนดมาตรการลดการทำลายความหลากหลายทางชีวภาพให้เสร็จสิ้นภายในปีค.ศ.2010 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าออกมาเป็นรูปธรรม อีกทั้งการขยายตัวของสังคมมนุษย์ เช่น การขยายตัวของเขตเมือง การทำเกษตรกรรม และรุกรานธรรมชาติเพื่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ยังทำลายธรรมชาติในอัตราเร็วขึ้น

นายบัน คี-มุน เลขาธิการยูเอ็น แถลงว่า ความล้มเหลวในการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพครั้งนี้ควรเป็นสัญญาณเตือนให้โลกตระหนักว่า ถึงเวลาต้องร่วมมือกันวางนโยบายคุ้มครองป่าไม้ แหล่งน้ำ ปะการัง รวมถึงระบบนิเวศวิทยาทั้งหลายอย่างจริงจัง

ยูเอ็นเตือนด้วยว่า ที่ผ่านมา ระบบการทำงานตามธรรมชาติ เช่น ป่าชายเลนและป่าไม้ คอยทำหน้าที่ดูแลมนุษย์ฟรีๆ โดยไม่คิดมูลค่า ทั้งช่วยกรองอากาศ ผลิตออกซิเจน และป้องกันพิบัติภัยต่างๆ แต่มนุษย์หลงลืมมองคุณค่าตรงนี้

"มนุษย์เรากำลังเผชิญหน้าวิกฤตการณŒซึ่งนำไปสู่การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่" เจน สมาร์ต ผอ.ไอยูซีเอ็น องค์กรพิทักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพชั้นนำของโลก กล่าว

พบ"ปู"คล้าย"สตรอว์เบอร์รี่"



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>ศาสตราจารย์โฮ ปิงโฮ นักชีววิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยสมุทรศาสตร์แห่งชาติไต้หวัน เปิดเผยว่า ค้นพบปูสายพันธุ์ใหม่ มีลักษณะกายภาพและสีสันภายนอกคล้ายผลสตรอว์เบอร์รี่ จึงตั้งชื่อว่า "ปูสตรอว์เบอร์รี่" หรือ Strawberry Crab"

ศ.โฮ ระบุว่า พบปูสตรอว์เบอร์รี่เพศเมีย 2 ตัวขณะเข้าไปสำรวจพื้นที่ชายฝั่งอุทยานแห่งชาติเกนติ้ง ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพมาก แต่หลังจากนั้นไม่นาน ปูทั้งสองตัวก็ตาย คาดว่าเพราะได้รับสารพิษที่ปล่อยออกมาจากเรือขนส่ง ซึ่งเกยตื้นอยู่ในพื้นที่

"ปูสตรอว์เบอร์รี่ มีกระดองสีแดงแต้มด้วยจุดสีขาว คล้ายๆ กับปูที่พบแถบฮาวาย โพลีนีเซีย และมอริเชียส" โฮ กล่าว

เครื่องสำอางยุค"คลีโอพัตรา"ป้องกันโรคตา



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>บีบีซีรายงานว่า นักวิจัยประจำพิพิธภัณฑ์ลูฟว์และศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ ฝรั่งเศส พบว่า เทคนิคการแต่งตาหรือเขียนตาจัดๆ ของชาวอียิปต์โบราณ เช่น การเขียนตาของ "คลีโอพัตรา" อาจทำไปเพราะมีผลดีทางการแพทย์ ช่วยป้องกันตาติดเชื้อแบคทีเรีย

ผลการทดลองสังเคราะห์เกลือตะกั่วด้วยวิธีการเดียวกับที่ชาวอียิปต์โบราณสังเคราะห์ขึ้นมาจากแร่ลอริโอไนต์ พบว่า สารที่ได้มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิต้านทาน จึงอาจสรุปได้ว่าชาวอียิปต์เจตนาปรุงเครื่องสำอางผสมเกลือตะกั่วขึ้นเพื่อป้องกันและรักษาโรคตาติดเชื้อด้วยการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน

สำหรับกรรมวิธีปรุงเครื่องสำอางดังกล่าวในอดีตนั้นใช้ระยะเวลานานเป็นเดือนกว่าจะสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ตามทฤษฎีทั่วไปที่รับรู้กันในปัจจุบัน สารตะกั่วมีอันตรายต่อสุขภาพ แต่คนอียิปต์โบราณรู้วิธีนำเกลือตะกั่วปริมาณเล็กน้อยมาผสมเครื่องสำอางเพื่อป้องกันโรค

ทั้งนี้ ในบันทึกชาวโรมันกับกรีกโบราณเคยอ้างถึงเครื่องสำอางที่ให้ผลทางการแพทย์ด้วยเช่นกัน

 

ตอบข้อความของคุณโชตนานะคะ
======================================

15 ม.ค.53

ปัญหาของรถตู้

มีสมาชิกใช้นามว่าโชตนา ถามมาว่า ปัญหาของรถตู้ สื่อถึงอุบัติเหตุใช่หรือไม่?

ถ้าตอบว่าใช่ก็จะเป็นการตอบเข้าข้างตัวเองเกินไป เพราะเมื่อผมได้ลงบทความ
ไปแล้ว ก็เกิดอุบัติเหตุกับรถตู้ ผมจึงอยากจะให้ติดตามดูไปสักพัก

ปัญหาของรถตู้ใช่ว่าจะเกิดแต่อุบัติเหตุ การตรวจจับรถตู้เถื่อนก็ถือว่าเป็นปัญหา
เหมือนกัน


องค์อินทร์ - ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>

 

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%">เรื่องความเสื่อมในอนาคต

หลวงตา : คนเราอีกหน่อยมันก็กลับไปสภาพเดิม ไม่มีอะไรเที่ยง ในสรรพสัตว์ในโลกนี้ มันก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เปลี่ยนมาก็เปลี่ยนไป ยุคนี้มันเป็นยุคที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง สภาพของสังคมมันกำลังจะเปลี่ยน จิตมันเสื่อมไปเรื่อยๆ มันก็เปลี่ยน

ศิษย์ : หลวงตาครับ... ถ้าน้ำท่วมจริงๆแล้ว ไทยก็ติดจีน พวกจีน ลาว พม่า นี่ไปไหนหมดครับ ?

หลวงตา : จีนแตกฮะ จีนก็จะมีความวุ่นวาย เพราะว่าวาตภัยก็เยอะกว่าประเทศอื่นนะจีนน่ะ เปลี่ยนไปหมดนะทั่วโลกน่ะ เกิดวาตภัยเกิดอุทกภัยเกิดอะไรพวกเนี้ย ต่อจานั้นก็เป็นสงครามโลก เนี่ยจากนี้ไป 10 ปีเนี่ย อยู่เฉยๆดีที่สุด หาที่เหมาะๆนะ 20-30ไร่ก็ปลูกกระท่อมอยู่ กินกล้วยกินเผือกดีกว่า กินมะละกอไป วงการทุกวงการน่ะเปลี่ยนแปลงหมด แม้แต่วงการพระก็ไม่มี นิกายไม่มี รวมหมด ไม่มีนิกาย มีแต่พระปริยัติกับพระปฎิบัติเท่านั้น จะเห็นว่ามันไม่เที่ยง ฮึๆๆ
หลวงตา : กำลังอธิษฐานอยู่เนี่ย... ถ้าเป็นอย่างอธิษฐานก็ไวหน่อยฮะ เอ้า...อยากให้มันเกิดไวๆไง จะเกิดก็เกิดไวๆ จะได้จบเรื่องหมดเรื่อง รับฟังไว้เทแล้วพพรหมทั้งหลาย จัดการให้เรียบร้อย ฮึๆๆ เรียบร้อยเป็นหน้ากลอง ฮึๆๆ

ศิษย์ : แล้วจะโดนมิสไซล์มั๊ยครับ ?

หลวงตา : มีฮะ ไม่มีประเทศไหนในโลกเขารักษาของมีพิษไว้ในประเทศเขาหรอก พออยู่นานๆมันก็เสื่อม แล้วก็ตายเอง ใช่ไหม ถ้างั้นก็ปล่อยไปที่อื่นไม่ดีกว่าเหรอ มันอยู่มากี่ปีแล้ว รักษาไว้กี่ปีแล้ว ถ้าเสื่อมเมื่อไหร่ ก็คนเฝ้านั่นแหละตาย ถ้างั้นก็ปล่อยก่อน มันก็จะปล่อยก่อน ปล่อยไปที่อื่นก่อน หมั่นไส้ที่ไหนก็ปล่อยไปที่นั่น


</TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_197 class=smalltext vAlign=bottom></TD><TD class=smalltext vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.watthummuangna.com/home/community/index.php/topic,96.0.html

 

ยูเอ็นเผยแผ่นดินไหวทำชาวเฮติไร้บ้าน 300,000 คน​

​

เจนีวา 15 ม.ค.-สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยวันนี้ว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเฮติทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยราว 300,000 คน ขณะที่ประชาคมโลกรับปากจะมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยมูลค่าราว 268.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8,860 ล้านบาท)

โฆษกสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมของยูเอ็นประเมินความเสียหายทางเฮลิคอปเตอร์ในเฮติ พบว่าบางพื้นที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวถึงร้อยละ 50 ของพื้นที่ และมีอาคารสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากพังถล่มลงมา การประเมินครั้งแรกคาดว่า บ้านเรือนราวร้อยละ 10 ในกรุงปอร์โตแปรงซ์พังเสียหาย ทำให้ประมาณการคร่าว ๆ ได้ว่าน่าจะมีผู้ไร้บ้านราว 300,000 คน ขณะเดียวกันมีข้อมูลว่า มีประชาชนราว 3.5 ล้านคน อาศัยในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์

ขณะนี้มีประเทศต่าง ๆ องค์กรและบริษัทราว 20 แห่ง ให้คำมั่นจะมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวมูลค่าราว 268.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8,860 ล้านบาท).-สำนักข่าวไทย

2010-01-15 17:29:01

คลังอาหารยูเอ็นในเฮติถูกปล้นสะดม​

​

เจนีวา 15 ม.ค.-โฆษกสำนักงานโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ (ดับเบิลยูเอฟพี) เผยวันนี้ว่า คนร้ายบุกปล้นสะดมคลังอาหารของสำนักงานในเฮติ หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ขณะที่ฝรั่งเศสเรียกร้องประเทศเจ้าหนี้ยกหนี้ให้เฮติ

โฆษกดับเบิลยูเอฟพี เน้นย้ำว่า เหตุปล้นสะดมเป็นเรื่องปกติในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ แต่เบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีอาหารเหลืออยู่เท่าใดในคลังอาหารที่กรุงปอร์โตแปรงซ์ ซึ่งสำรองอาหารไว้ 15,000 ตัน ในช่วงก่อนเกิดแผ่นดินไหว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ร้านอาหารทั่วไปในนครหลวงของเฮติก็ถูกปล้นสะดมเช่นกัน ขณะนี้ดับเบิลยูเอฟพีกำลังดำเนินการจัดหาอาหารพร้อมรับประทานให้เพียงพอสำหรับเลี้ยงชาวเฮติที่ประสบภัยราว 2 ล้านคนในช่วงเวลา 1 เดือน

ด้านนางคริสติน ลาการ์ด รัฐมนตรีเศรษฐกิจฝรั่งเศส เรียกร้องให้กลุ่มประเทศร่ำรวยที่เรียกว่า ปารีสคลับ ยกหนี้มูลค่าหลายล้านยูโรให้เฮติ พร้อมเผยว่า จะขอให้เวเนซุเอลาและไต้หวัน ซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่ม ทำเช่นกัน โดยฝรั่งเศสจะยกหนี้ให้เฮติมูลค่า 4 ล้านยูโร (ราว 191 ล้านบาท). -สำนักข่าวไทย

2010-01-15 19:44:01

ชาวต่างชาติจำนวนมากสูญหายจากแผ่นดินไหวเฮติ​

​

ปารีส 15 ม.ค. - นานาประเทศต่างเฝ้าติดตามข่าวพลเมืองของตนที่ยังคงสูญหายไปในเหตุแผ่นดินไหวที่เฮติด้วยความวิตกกังวล

ชาวต่างชาติหลายคนที่สูญหายไปอาจอยู่ในกลุ่มผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากแผ่นดินไหวที่เฮติ ซึ่งคาดว่ามีผู้เสียชีวิตราว 100,000 คน แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ไม่ได้มารายงานตัวกับทางสถานทูต เพราะระบบการสื่อสารคมนาคมยังไม่สะดวก รายงานของชาวต่างชาติที่ได้รับแจ้งว่าอาจเสียชีวิตในเฮติ ประกอบด้วย กองกำลังรักษาสันติภาพบราซิลอย่างน้อย 14 คน ส่วนกระทรวงต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ระบุว่า ประชาชนราว 9 คน อาจติดอยู่ในโรงแรมหลายแห่งที่พังถล่ม ด้านโฆษกต่างประเทศโปแลนด์แจ้งนักศึกษาสูญหาย 1 คน ขณะที่พลเมืองโปแลนด์ 2 คนยังติดต่อกันไม่ได้ ชาวฝรั่งเศส 2 คนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่สเปนในสังกัดคณะกรรมาธิการยุโรปในเฮติสูญหาย

นอกจากนี้ สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานอ้างคำกล่าวของกระทรวงต่างประเทศไทยแจ้งคนสูญหายเป็นมิชชันนารี 1 คน กระทรวงการต่างประเทศมอริเชียส แจ้งยังไม่สามารถติดต่อพลเมืองของตนได้ 2 คน และเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์สังกัดกองกำลังรักษาสันติภาพ 3 คนก็สูญหายเช่นกัน สหประชาชาติมีรายงานเจ้าหน้าที่ราว 150 คนสูญหายไปหลังเกิดแผ่นดินไหว โดยล่าสุดนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ยืนยันพบเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 36 คน.- สำนักข่าวไทย

2010-01-15 08:02:00

ชาวเฮติไม่พอใจทางการจัดส่งความช่วยเหลือล่าช้า



​

เฮติ 15 ม.ค. - ชาวเฮติแสดงความไม่พอใจที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ขณะที่ทางการเริ่มจัดพิธีฝังศพหมู่ผู้เสียชีวิตบางส่วนแล้ว

ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติพากันประท้วงด้วยการนำร่างผู้เสียชีวิตและก้อนหินมาวางขวางถนนในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เนื่องจากไม่พอใจที่การจัดส่งความช่วยเหลือเป็นไปอย่างล่าช้า

ช่างภาพนิตยสารไทม์ กล่าวว่า มีถนนอย่างน้อย 2 สาย ถูกปิดกั้น ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเรเน เพรวาล กล่าวว่า ทางการได้จัดการฝังศพหมู่เหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวไปแล้ว 7,000 คน

ขณะที่ประธานาธิบดีเลโอเนล เฟอร์นานเดซ ของโดมินิกัน ซึ่งเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรกที่เดินทางเยือนเฮติหลังเกิดแผ่นดินไหว ระบุว่าภารกิจที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในขณะนี้ก็คือการเร่งฝังร่างผู้เสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

2010-01-15 09:23:07

กลุ่มบรรเทาทุกข์เฮติขอให้บริจาคเงินแทนสิ่งของ​

​

ซานฟรานซิสโก 15 ม.ค.- กลุ่มบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติเผยว่า ขณะนี้ต้องการเงินบริจาคมากกว่าสิ่งของประเภทเสื้อผ้าหรือเต็นท์เพราะสภาพความเสียหายรุนแรงทำให้ไม่สามารถลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ได้ ขณะเดียวกันพยายามเร่งให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนเรื่องน้ำดื่มและให้น่านฟ้าสะดวกแก่การลำเลียงสิ่งของลงมาทางอากาศ

มูลนิธิศุภนิมิตร หรือเวิลด์วิชัน เผยว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาจัดส่งอิฐซีเมนต์หรือวัสดุก่อสร้างบ้านให้ผู้ประสบภัยเพราะต้องกู้ภัยก่อนเป็นการเร่งด่วน เงินบริจาคจะนำไปซื้อสิ่งของจำเป็นต่อสุขอนามัยของผู้ประสบได้สะดวกที่สุด ทางมูลนิธิระดมเงินบริจาคได้แล้ว 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 82.5 ล้านบาท) จากที่ตั้งเป้าไว้ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 660 ล้านบาท) บริษัทใหญ่หลายแห่งในสหรัฐประกาศบริจาคเงินแห่งละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33 ล้านบาท) ด้านเฟดเอ็กซ์ บริษัทจัดส่งรายใหญ่ขอให้ประชาชนบริจาคเงินแทนการส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เพราะเรือของบริษัทไม่สามารถเดินทางเข้าออกเฮติได้ในขณะนี้

บริษัทรับโอนเงินข้ามประเทศหลายแห่งประกาศว่าจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินไปยังเฮติเป็นการชั่วคราว กองทุนสหรัฐเพื่อยูนิเซฟระบุว่า เงินบริจาคเป็นสิ่งที่จะนำไปใช้บรรเทาทุกข์อย่างเร่งด่วนได้ง่ายที่สุด ขณะที่กลุ่มบรรเทาทุกข์ชี้ว่า การบริจาคสิ่งของประเภทเวชภัณฑ์และการดูแลสุขอนามัยถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในช่วงหลังเกิดเหตุใหม่ ๆ .-สำนักข่าวไทย

2010-01-15 11:34:30

กาชาดส่งยา 40 ตัน ช่วยเหยื่อแผ่นดินไหวเฮติ​

​

เจนีวา 14 ม.ค. - คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือไอซีอาร์ซี แถลงว่า กำลังส่งยารักษาโรค 40 ตัน ไปยังเฮติวันนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้คนนับหมื่นคนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวในสัปดาห์นี้

โฆษกไอซีอาร์ซี กล่าวว่า สิ่งของบรรเทาทุกข์ซึ่งจัดส่งไปกับเครื่องบินขนส่งสินค้า ประกอบด้วย อุปกรณ์ปฐมพยาบาลที่ใช้ในการรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ รวมถึงยารักษาที่จำเป็นสำหรับประชาชนจำนวน 10,000 คน ในระยะเวลา 3 เดือน ส่วนคณะเจ้าหน้าที่กาชาด 11 คน เดินทางออกจากนครเจนีวาแล้วในวันนี้ เพื่อเดินทางไปยังกรุงปอร์โตแปรงซ์ของเฮติ นอกจากนี้จะจัดส่งทีมผู้เชี่ยวชาญในการรักษา รวมทั้งพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลไปยังเฮติใน 2-3 วันนี้
ไอซีอาร์ซี แถลงว่า ได้จัดทำเว็บเพจขึ้นเป็นพิเศษเพื่อช่วยค้นหาญาติมิตรที่พลัดพรากกันจากแผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์ ที่เฮติ เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น .- สำนักข่าวไทย

2010-01-14 18:32:07

จีนยังเผชิญอากาศหนาวจัดและหิมะตกหนัก​

​

จีน 15 ม.ค. - สภาพอากาศหนาวจัดและพายุหิมะยังคงแผ่ปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันตกของจีน

ผู้คนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ กำลังเผชิญกับพายุหิมะที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี ปศุสัตว์ราว 2,220,000 ตัว ได้รับผลกระทบจากภัยหนาว ส่วนที่เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเก็บกวาดกองหิมะออกจากท้องถนนและทางรถไฟ เพื่อให้ใช้การได้ แต่ที่มณฑลจี๋หลิน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกลุ่มหนึ่งกลับฝึกหนัก เพื่อทดสอบความแข็งแกร่ง ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวจัด

สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี รายงานอ้างคำพยากรณ์ของนักอุตุนิยมวิทยาว่า อุณหภูมิกำลังจะลดลง โดยอาจต่ำถึงติดลบ 40 องศาเซลเซียส. - สำนักข่าวไทย

2010-01-15 16:17:29

ปูติน ชวนคนรัสเซียลดเหล้า​

​

มอสโก 15 ม.ค.-นายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นแกนนำรณรงค์โครงการลดการบริโภคสุราให้ได้เกินครึ่งใน 10 ปีข้างหน้า

เว็บไซต์นายกรัฐมนตรีรัสเซียระบุว่า นายปูติน ได้อนุมัติแผนการต่าง ๆ ของรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาการติดสุราของคนรัสเซีย ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามระดับชาติ โดยการจำกัดการขายและผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขึ้นภาษี และจำกัดการโฆษณา

ข้อมูลของทางการรัสเซียรายงานว่า ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิต 23,000 คน จากสุราเป็นพิษ และกว่า 75,000 คน เสียชีวิตด้วยโรคที่มีสาเหตุจากการดื่มสุราซึ่งเป็นปัญหาของรัสเซียมาตั้งแต่ทศวรรษปี 2503 และคนรัสเซียดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉลี่ยปีละ 18 ลิตร โครงการลดเหล้าในรัสเซียตั้งเป้าลดการบริโภคสุราลงร้อยละ 15 ภายในปี 2555 และร้อยละ 55 ภายในปี 2563 แต่ไม่ได้ระบุถึงแผนควบคุมการจำหน่ายหรือผลิตแอลกอฮอล์.-สำนักข่าวไทย

2010-01-15 16:25:14

จีนประกาศเตือนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ช่วงตรุษจีน​

​

ปักกิ่ง 14 ม.ค.-กระทรวงสาธารณสุขของจีนแนะนำให้กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสไข้หวัด ใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เข้ารับการฉีดวัคซีน หรือจำกัดการเดินทางในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

กระทรวงสาธารณสุขแถลงบนเว็บไซต์เมื่อค่ำวานนี้ว่า หญิงตั้งครรภ์ เด็ก คนชรา และคนอ้วน รวมทั้งผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพเรื้อรัง ควรจะหลีกเลี่ยงการเดินทางในที่สาธารณะ ระหว่างช่วงเทศกาลตรุษจีนที่มีการเดินทางคับคั่งมากที่สุด และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ควรจะเข้ารับการฉีดวัคซีน รวมทั้งหลีกเลี่ยงที่สาธารณะซึ่งมีฝูงชนแออัด และหลีกเลี่ยงผู้ที่มีอาการหวัดอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขยังได้ผลักดันให้เพิ่มมาตรการป้องกัน อันได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ และเข้ารับการตรวจสุขภาพแต่เนิ่น ๆ หากมีอาการไอหรือแสดงอาการหวัดอย่างอื่น

ประชาชนชาวจีนหลายสิบล้านคนจะเดินทางโดยรถไฟ เครื่องบิน และรถโดยสาร เพื่อกลับบ้านเกิดและพบครอบครัวอีกครั้งในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเริ่มจากวันที่ 30 ม.ค. ถึง 10 มี.ค. โดยวันตรุษจีนของปีนี้ตรงกับวันที่ 14 ก.พ.

กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั้งสิ้น 659 คนในปี 2552 โดยเกือบทั้งหมดเสียชีวิตในช่วงเดือน พ.ย.และ ธ.ค. และพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทั้งสิ้น 120,940 คน พร้อมออกคำเตือนว่า ยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวในบางพื้นที่ของประเทศ นอกจากนี้ รายงานนับจนถึงเมื่อวานนี้ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายใหม่ 2,173 คน และมีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว 51 คน ในระหว่างวันที่ 4 -10 ม.ค.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

2010-01-14 17:20:05

ที่มา http://news.mcot.net

 

ผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในเฮติอาจถึง 2 แสนคน​

​

ปอร์โตแปรงซ์ 16 ม.ค. - นายพอล อองตวน เบน-ไอเม่ รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในของเฮติ เปิดเผยว่า พบผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวแล้วประมาณ 50,000 ราย และคาดว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่าง 100,000-200,000 คน

เฮตินำผู้เสียชีวิตประมาณ 40,000 ราย ฝังในหลุมศพขนาดใหญ่ และถ้าการประเมินตัวเลขผู้เสียชีวิตเป็นไปอย่างถูกต้อง จะทำให้แผ่นดินไหวครั้งนี้เป็น 1 ใน 10 ของแผ่นดินไหวที่มีคนตายมากที่สุดที่มีการจดบันทึก

สถานการณ์ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ มีรายงานมิจฉาชีพออกปล้นสะดมผู้รอดชีวิตที่อาศัยอยู่ที่เพิงพักชั่วคราวริมถนน ด้านประธานาธิบดีเรเน่ พรีวาล และนายกรัฐมนตรีฌอง-แมกซ์ เบลเลรีฟ สั่งการตำรวจให้ลงไปในพื้นที่ซึ่งมีรายงานว่าโจรออกปล้นสะดม ผู้นำเฮติขอร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ หลังจากที่มีรายงานว่าประชาชนเริ่มโกรธแค้นและเสียใจที่ยังไม่ได้รับอาหารและความช่วยเหลือจากรัฐบาล

นางฮิลลารี คลินตัน รมต.ต่างประเทศสหรัฐ จะเดินทางเยือนเฮติในวันนี้ (16 ม.ค.) ขณะที่นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เตรียมลงพื้นที่ในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน ด้านชาติมหาอำนาจได้เร่งจัดส่งความช่วยเหลือโดยทางเรือและเครื่องบิน ซึ่งมีทั้งคณะค้นหากู้ภัย สุนัขดมกลิ่น อุปกรณ์จักรกลหนัก กระโจมที่พักชั่วคราว น้ำสะอาด อาหาร แพทย์ แต่จากสภาพท่าอากาศยานคับคั่ง อีกทั้งท่าเรือและถนนได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว ส่งผลให้ผู้เคราะห์ร้ายนับแสนชีวิตยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ

รมต.สาธารณสุขของเฮติ กล่าวว่า พื้นที่ 3 ใน 4 ของกรุงปอร์โตแปรซ์ จะต้องฟื้นฟูบูรณะขึ้นใหม่ ซึ่งไม่เพียงแต่พื้นที่ที่ถูกทำลายอย่างราบคาบ แต่รวมถึงพื้นที่ที่มีบ้านเรือนจำนวนมากได้รับความเสียหายที่โครงสร้างด้วย

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ให้คำมั่นว่าจะให้เงินช่วยเหลือเบื้องต้น 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่เฮติ และสัญญาว่าสหรัฐจะดำเนินการเพื่อรักษาชีวิตและนำประเทศนี้กลับมายืนบนลำแข้งของตนเองได้อีกครั้ง. - สำนักข่าวไทย

2010-01-16 08:02:46

เผยแผ่นดินไหวที่เฮติไม่อาจคาดการณ์ล่วงหน้าได้​

​

ลอสแองเจลิส 16 ม.ค. - ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวเปิดเผยว่า เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่เฮติไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการทางวิทยาศาสตร์และทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถคาดการณ์การเกิดแผ่นดินไหวได้

นักธรณีวิทยาตระหนักมานานแล้วว่าจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในบริเวณรอยเลื่อนของเปลือกโลกที่พาดผ่านกรุงปอร์โตแปรงซ์ นครหลวงของเฮติ แต่ประเด็นที่ยังไม่รู้คือจะเกิดขึ้นเมื่อไร นักธรณีวิทยาสหรัฐเคยเสนอรายงานเมื่อปีที่แล้วว่า นครหลวงของเฮติจะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.2 ริกเตอร์ ซึ่งเป็นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1751 เป็นต้นมา แต่ในรายงานก็ไม่ได้สามารถบอกได้ว่าแผ่นดินไหวดังกล่าวจะเกิดขึ้นวันพรุ่งนี้หรือในอีก 30 ปีข้างหน้า

นักธรณีวิทยาจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐยอมรับว่า การพัฒนาองค์ความรู้ในการคาดการณ์แผ่นดินไหวมีความก้าวหน้าน้อยมาก ทั้งในเรื่องวันเวลาที่ชัดเจนที่จะเกิดแผ่นดินไหว ขนาดความรุนแรง และสถานที่จะเกิด สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือ การคาดเดาพื้นที่ที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในหลายสิบปีข้างหน้า โดยการคาดการณ์อาศัยข้อมูลจากการวัดปริมาณแรงดันที่ถูกสร้างขึ้นที่รอยเลื่อนของเปลือกโลก เพื่อนำมาคำนวณเป็นพลังงานที่คาดว่าจะปลดปล่อยออกมา. - สำนักข่าวไทย

2010-01-16 07:32:56

เลขาธิการยูเอ็นจะเดินทางมาเฮติวันอาทิตย์นี้​

​

สหประชาชาติ 16 ม.ค.-นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติวันอาทิตย์นี้ (17 ม.ค.)

เลขาธิการจะเยือนกรุงปอร์โตแปรงซ์เป็นเวลา 1 วัน เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวเฮติและเจ้าหน้าที่สหประชาชาติในพื้นที่ ก่อนหน้านี้ นายจอห์น โฮล์ม หัวหน้าองค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของยูเอ็น เรียกร้องขอเงินบริจาค 562 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (19,100 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือฉุกเฉินเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งเงินครึ่งหนึ่งหรือราว 246 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะใช้ซื้ออาหาร อีกราว 59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะใช้จัดหาน้ำสะอาดและบริการด้านสุขอนามัย ส่วนที่เหลือจะใช้จัดหายาและอุปกรณ์การแพทย์ กระโจมพักชั่วคราว ผ้าห่ม การขนส่งและการศึกษา

เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ ประเมินว่า มีประชาชนราว 3 แสนคนในเฮติไร้ที่อยู่อาศัย บ้านเรือน 1 ใน 10 หลังในกรุงปอร์โตแปรงซ์ถูกทำลาย สำนักงานของยูเอ็นในเฮติได้รับความเสียหายอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ 37 คนจากจำนวน 12,000 คนได้รับคำยืนยันว่าเสียชีวิต และอีก 330 คนสูญหาย ในจำนวนนี้มีนายเฮดี อันนาบี หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนของยูเอ็นในเฮติ และนายลุยส์ คาร์ลอส ดา คอสตา ผู้ช่วยชาวบราซิลรวมอยู่ด้วย ทางด้านประธานาธิบดีเรเน พรีวาล ของเฮติ กล่าวว่า นายเฮดี เสียชีวิตแล้ว แต่ยูเอ็นกล่าวว่ายังไม่สามารถยืนยันได้.-สำนักข่าวไทย

2010-01-16 09:40:33

คนดังเรียกร้องช่วยเหยื่อแผ่นดินไหวเฮติ​

​

16 ม.ค. - บรรดานักการเมืองและบุคคลชื่อดังในแวดวงต่าง ๆ ออกมาเรียกร้องให้ทั่วโลกร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติ

อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ของสหรัฐ ในฐานะทูตพิเศษประจำเฮติ เรียกร้องให้ประชาชนบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่กำลังต้องการอาหารและน้ำดื่มอย่างมาก ขณะที่นางมิเชล โอบามา สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ เรียกร้องให้ประชาชนบริจาคเงินคนละ 10 ดอลลาร์สหรัฐ ระบุว่าแม้จะเป็นจำนวนเงินน้อยนิด แต่สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติได้
เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ผู้นำอังกฤษ ได้ออกมากล่าวขอบคุณชาวอังกฤษที่ให้ความช่วยเหลือบริจาคเงินและสิ่งของให้กับผู้ประสบภัยในเฮติ และเรียกร้องให้ผู้คนทั่วโลกร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือชาวเฮติด้วย ทั้งนี้ กาชาดสากลระบุว่า ชาวเฮติกว่า 2 ล้านคน ได้รับความเดือดร้อนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้. - สำนักข่าวไทย

2010-01-16 05:07:03

เร่งค้นหา จนท.ยูเอ็นนับร้อยใต้ซากแผ่นดินไหวเฮติ​

​

เฮติ 16 ม.ค. - เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งค้นหาร่างของเจ้าหน้าที่สหประชาชาตินับร้อยคน ที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารสำนักงานที่พังถล่มเพราะแผ่นดินไหวในเฮติ

โฆษกหน่วยงานด้านรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเฮติ เผยว่า จนถึงขณะนี้พบศพเจ้าหน้าที่ยูเอ็นที่เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมื่อวันอังคารแล้วอย่างน้อย 36 ราย มีอยู่ 8 รายที่ได้รับการช่วยเหลือจากซากอาคารหลายหลังที่พังถล่ม แต่ยังมีเจ้าหน้าที่ยูเอ็นอีกเกือบ 200 คนหายสาบสูญ และยังไม่ทราบชะตากรรม ซึ่งรวมถึงนายเฮดี อันนาบี หัวหน้าเจ้าหน้าที่สหประชาชาติประจำเฮติชาวตูนิเซีย

ขณะที่ความช่วยเหลือจากประชาคมโลกเริ่มทยอยหลั่งไหลมายังเฮติ โดยล่าสุด ทหารและนาวิกโยธินของสหรัฐพร้อมสิ่งของบรรเทาทุกข์จำนวนมากเดินทางมาถึงกรุงปอร์โตแปรงซ์แล้ว และพร้อมปฏิบัติหน้าที่ลำเลียงความช่วยเหลือต่าง ๆ ให้กับผู้ประสบภัยทันที. - สำนักข่าวไทย

2010-01-16 03:02:42

เหล่าดาราฮอลีวูดร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือแผ่นดินไหวที่เฮติ​

​

ไมอามี 16 ม.ค. - ดารานักร้อง นักแสดงในฮอลีวูด นำโดยวินเชฟ จีน ศิลปินเพลงฮิปฮอปชาวเฮติ ร่วมกันรณรงค์บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ

แบรด พิตต์ และแองเจลินา โจลี เป็นศิลปินดาราคนแรกที่ให้ความช่วยเหลือเฮติ โดยจะบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34 ล้านบาท) จากมูลนิธิของตนเองให้แก่องค์กรแพทย์ไร้พรมแดน เช่นเดียวกับซานดรา บูลล็อก ก็บริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่องค์กรแพทย์แห่งนี้เช่นกัน ขณะที่ดารานักร้องอย่างมาดอนนา บริจาคเงิน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่องค์กรพาร์ทเนอร์ อิน เฮลท์ เธอออกแถลงการณ์ว่าได้สวดมนต์ให้แก่ชาวเฮติด้วย

วินเชฟ จีน ศิลปินเพลงฮิปฮอปชาวเฮติ รณรงค์ขอเงินบริจาคด้วยการเรียกร้องแฟนเพลงบริจาคเงินคนละ 5 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 170 บาท) ให้กับกองทุนของเขาที่ตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เฮติ ล่าสุดสามารถระดมเงินบริจาคได้แล้วกว่า 1.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จอร์จ คลูนีย์ ดารานักแสดงฮอลีวูด จะเป็นพิธีกรรายการ “โฮป ออฟ เฮติ” ในสัปดาห์หน้า เพื่อระดมเงินบริจาคให้กับเหยื่อแผ่นดินไหว รายการนี้จะจัดขึ้นที่นครลอสแองเจลิสและนครนิวยอร์ก ถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์เอบีซี ซีบีเอส เอ็นบีซี ฟอกซ์ ซีเอ็นเอ็น เอชบีโอ และเครือข่ายเอ็มทีวีทุกช่องในวันศุกร์หน้า โดยจะมีศิลปินดารานักร้องมากมายมาร่วมงาน ด้านชากิร่า นักร้องเพลงป็อปสไตล์ละติน เรียกร้องให้แฟนเพลงร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือเฮติโดยผ่านทางยูนิเซฟและมูลนิธิของวินเชฟ จีน.- สำนักข่าวไทย

2010-01-16 08:48:05

ที่มา http://news.mcot.net

 

ให้ทุกคนคล้อยสิ่งที่มีพลังงานเป็นบวกเอาไว้ที่คอ

วัตถุเหล่านี้ที่มีพลังงานบวก จะปรับพลังงานความคิดของเราให้กลายเป็นบวกด้วย

เมื่อทุกคนถูกปรับด้วยสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็จะมีพลังงานพอที่จะยับยั้งภัยพิบัติได้

(มันเป็นกลไกทางจิต ผมรู้!!!)

ส่วนใครที่ไม่ต้องการสิ่งที่เป็นบวกห้อยคอ

ด้วยความไม่สะดวกในทุกประการ ให้คิดในแง่บวกเข้าไว้

 

เด็ดดอกไม้ สะเืทือนถึงดวงดาว!!!

 

*** ธรรมเที่ยง ****

การกระทำเที่ยง....ย่อมส่งผลเที่ยง
เกิดเมื่อ...ปากกระทำ ใจกระทำ กายกระทำ ตรงกัน
สิ่งที่ติดตัวไป ไม่สูญสลาย....เรียกว่า "ตัวกระทำเที่ยง"
ตัวกระทำเที่ยง....ย่อมส่งผลเที่ยง แน่นอน
เป็นไปตาม...สัจจะธรรม
หลักเดียว ที่ปักไว้มั่นคง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

มีสิทธิ์เกิดภัยได้ มีสิทธิ์ที่จะล่วงรู้ภัยล่วงหน้าจากใครบางคนได้

ก็มีสิทธิ์ที่จะเลื่อนได้เช่นเดียวกัน!!!

 

*** คนแรกของยุค ****

ผู้ที่ค้นพบสัจจะธรรม...ตัวกระทำเที่ยง
คือ พระพุทธเจ้าในแต่ละยุค

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อุเบกขาไป ไม่ต้องไปสนใจมันแต่อย่างใด

 

ห้อยพระไงครับ รำลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์และความดี ความบริสุทธิ์ของท่าน

เป็นเครื่องคุ้มครองเราให้ปลอดภัยได้ครับ

ของดีใกล้ตัวที่เราอย่าได้ลืม พระคุณแห่งพระพุทธศาสนา

 

ทำบุญวันครูแห่งชาติ หลายจังหวัดเนืองแน่น​

​

ภูมิภาค 16 ม.ค.- ครูหลายจังหวัดพร้อมเพรียงกันทำบุญเป็นสิริมงคลในวันครูแห่งชาติ 16 ม.ค. รวมถึงพื้นที่ชายแดนใต้อุทิศส่วนกุศลให้กับครูและผู้ประสบเหตุไม่สงบ เผยตั้งแต่ปี 47 มีผู้เสียชีวิตแล้ว 115 ราย โรงเรียนถูกเผาเกือบ 300 แห่ง

บรรยากาศเนื่องในวันครูแห่งชาติ 16 มกราคม 2553 ที่โรงเรียนวัดโคกสมานคุณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอมรเศรษฐ์ สุวรรณมาศ นายอำเภอหาดใหญ่ พร้อมผู้บริหารสถานศึกษาและครูกว่า 1,000 คน ร่วมประกอบพิธีทำบุญตักบาตรเพื่อความเป็นสิริมงคล และร่วมสวดมนต์ ฟังธรรม ถวายสังฆทานและกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ครูที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยขอให้พื้นที่กลับคืนสู่ความสงบสุขโดยเร็ว เพื่อให้ครูได้ทำหน้าที่อย่างเต็มประสิทธิภาพในการอบรมเยาวชนเป็นดีของสังคม

ด้าน ผศ.สิทธิชัย หาญสมบัติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ พร้อมคณะครูจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุตรดิตถ์เขต 1 เขต 2 ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 199 รูป หลังจากนักศึกษาคณะครุศาสตร์ทุกวิชาทำพิธีบวงสรวงพระพฤหัสบดี เทพแห่งศาสตร์วิชาความรู้ เพื่อรำลึกถึงพระคุณครูที่ให้ความรู้ ให้เกิดปัญหาด้านการเรียนรู้ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการประกอบอาชีพหลังจากสำเร็จการศึกษา พร้อมปฏิญาณตนจะประพฤติปฏิบัติตนเป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ที่ดี นอกจากนี้ ยังอุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณของเพื่อนครูที่ประสบเหตุถึงชีวิตในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ส่วนจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมข้าราชการประชาชนร่วมทำบุญถวายสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์จาก 266 วัด ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ เพื่ออุทิศส่วนกุศลผู้ประสบเหตุความไม่สงบ นอกจากนี้ ยังมอบทุนหนุนแรงใจช่วยครูใต้ 1,000 ทุน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ครูผู้เสียสละในโอกาสวันครูด้วย

เช่นเดียวกันนายวิทยา พานิชพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานพิธีตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 35 รูป ที่ลานหน้าหอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา โดยมีข้าราชการครูเข้าร่วมกว่า 500 คน เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบ ทั้งนี้ ศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุ ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2547 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2553 มีโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอ จ.สงขลา ถูกลอบวางเพลิง 325 ครั้ง จำนวน 287 โรงเรียน โดยมีโรงเรียนถูกลอบวางเพลิงซ้ำ 38 แห่ง ส่วนครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับบาดเจ็บ 115 คน เสียชีวิต 124 คน.-สำนักข่าวไทย

2010-01-16 12:09:14

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

ร่ายสุภาษิตพระร่วง
โดยครูภาทิพ​

<TABLE borderColor=#ffccff width="96%" border=1><TBODY><TR><TD width="44%">

สุภาษิต​

</TD><TD width="56%">

ความหมาย​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

เมื่อน้อยให้เรียนวิชา​

</TD><TD width="56%">

ทำอะไรให้เหมาะสมกับวัย จึงจะสำเร็จประโยชน์ มีความเจริญรุ่งเรือง คนจะพัฒนาได้ง่ายต้องเริ่มตั้งแต่ยังเล็ก​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=22>

เป็นคนเรียนความรู้​

</TD><TD width="56%" height=22>

เกิดเป็นคนต้องศึกษาหาความรู้ไว้อยู่กับตัวเสมอ เพราะความรู้ ช่วยเราได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าในยามปกติหรือคับขัน ดังที่สุนทรภู่ กล่าวไว้ว่า "รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ปลูกไมตรีอย่ารู้ร้าง ​

</TD><TD width="56%">

สร้างมิตรภาพกับผู้อื่นอยู่เสมอ วิธีที่ผูกไมตรีได้ผลก็คือ การปฏิบัติตามหลักธรรม ๔ ประการคือ ทาน(แบ่งปัน) ปิยวาจา (พูดสุภาพ) อัตถจริยา(ทำประโยชน์แก่เขา) และสมานัตตา (วางตัวเสมอต้นเสมอปลาย)​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

สร้างกุศลอย่ารู้โรย ​

</TD><TD width="56%">

การสร้างบุญ สร้างกุศล ช่วยทำให้กิเลสถูกขัดเกลาเบาบางลง คนมีกิเลสน้อย ชีวิตจะมีแต่ความสุข ความร่มเย็น​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=30>

โอบอ้อมเอาใจคน ​

</TD><TD width="56%" height=30>

ให้มีเมตตาต่อคนทั้งหลาย ไม่เฉพาะแก่พี่น้องเท่านั้น​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ปลูกไมตรีทั่วชน ​

</TD><TD width="56%">

หมั่นผูกไมตรีกับคนทุกคน มีมิตรดีกว่ามีศัตรู​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ตระกูลตนจงคำนับ ​

</TD><TD width="56%">

ให้ความเคารพวงศ์ตระกูล​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าอวดหาญแก่เพื่อน ​

</TD><TD width="56%">

อย่าทำตัวเก่งกว่าเพื่อน​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=22>

เป็นคนอย่าทำใหญ่ ​

</TD><TD width="56%" height=22>

อย่าอวดเบ่งคุยโตหรือมีอิทธิพลเหนือใครต่อใคร​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าเบียดเสียดแก่มิตร​

</TD><TD width="56%">

ไม่ควรเบียดเบียนหรือเอาเปรียบเพื่อน ควรให้ความรักความจริงใจกับเพื่อน ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ที่ผิดช่วยเตือนตอบ​

</TD><TD width="56%">

สิ่งใดที่เพื่อนทำผิดก็ช่วยบอกกล่าวตักเตือน​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ที่ชอบช่วยยกยอ​

</TD><TD width="56%">

สิ่งใดที่เพื่อนทำดีอยู่แล้วก็ควรยกย่องชมเชย​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าขอของรักมิตร ชอบชิดมักจางจาก​

</TD><TD width="56%">

ไม่ควรสร้างความลำบากใจให้กับเพื่อน เช่น การขอในสิ่งที่เพื่อนรักและหวงโดยไม่เกรงใจอาจทำให้เสียเพื่อนไปก็ได้ ​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=24>

ยอมิตรเมื่อลับหลัง ​

</TD><TD width="56%" height=24>

การชมมิตรเมื่อลับหลังเป็นการชมอย่างจริงใจ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าประกอบกิจเป็นพาล​

</TD><TD width="56%">

อย่าประกอบอาชีพที่ทุจริต ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

พึงผันเผื่อต่อญาติ​

</TD><TD width="56%">

ให้รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ญาติพี่น้อง ​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=71>

พรรคพวกพึงทำนุก ปลุกเอาแรงทั่วชน ยลเยี่ยงไก่นกกระทา พาลูกหลานมากิน




​

</TD><TD width="56%" height=71>

คนที่เป็นพวกกับเรา เราควรเลี้ยงดูเขาให้มีความสุข เพราะเขาอาจสามารถช่วยเหลือเราได้ ให้ดูตัวอย่างไก่หรือนกกระทาที่หาอาหารมาได้ก็เผื่อแผ่ลูกๆ คนเราก็เช่นกัน เมื่อมีลาภหรือของกินของใช้ ควรเรียกลูกหลาน มิตรสหาย​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่ารักถ้ำกว่าเรือน อย่ารักเดือนกว่าตะวัน​

</TD><TD width="56%">

อย่าเห็นของมีประโยชน์น้อยดีกว่าของมีประโยชน์มาก ​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=23>

อย่าตื่นยกยอตน ​

</TD><TD width="56%" height=23>

ไม่ควรพูดยกยอตนเอง​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าชังครูชังมิตร​

</TD><TD width="56%">

อย่าเกลียดครูผู้เป็นกัลยาณมิตร​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าผูกมิตรคนจร ​

</TD><TD width="56%">

อย่าคบหากับคนเร่ร่อนพเนจร ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

เมตตาตอบต่อมิตร​

</TD><TD width="56%">

ควรมีความรักความจริงใจตอบต่อเพื่อน​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

คนขำอย่าร่วมรัก​

</TD><TD width="56%">

ไม่ควรคบหาสมาคมกับคนมีลับลมคมในหรือคนเจ้าเล่ห์ ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

คนทรยศอย่าเชื่อ อย่าเผื่อแผ่ความคิด​

</TD><TD width="56%">

ไม่ควรให้ความเคารพเชื่อถือคนชั่ว และไม่ควรโยนความผิดให้กับผู้อื่น​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

สุวานขบอย่าขบตอบ​

</TD><TD width="56%">

ไม่ควรยุ่งเกี่ยวหรือต่อล้อต่อเถียงกับคนชั่ว​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=27>

เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า ​

</TD><TD width="56%" height=27>

ให้มีความรอบคอบเมื่อจะปฏิบัติภารกิจอะไรควรนำเครื่องมือเครื่องใช้ให้ครบครัน ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

หน้าศึกอย่านอนใจ ​

</TD><TD width="56%">

ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นเสมอ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

เดินทางอย่าเดินเปลี่ยว ​

</TD><TD width="56%">

ไม่ควรไปไหนมาไหนโดยลำพังเพราะภัยอันตรายอยู่รอบด้าน​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ที่ขวากหนามอย่าเสียเกือก ​

</TD><TD width="56%">

อย่าได้ขาดเครื่องป้องกันยามเข้าไปอยู่ในสถานที่ลำบากหรือที่ ที่มีภัย ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ทำรั้วเรือกไว้กับตน​

</TD><TD width="56%">

จงหมั่นทำความดีไว้เสมอเพื่อเป็นเครื่องกำบังตน​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

จงเร่งระมัดฟืนไฟ ​

</TD><TD width="56%">

ให้รู้จักระมัดระวังในการใช้ฟืนไฟอาจจะเกิดอันตรายได้ ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ที่ทับจงมีไฟ​

</TD><TD width="56%">

ที่อยู่อาศัยควรมีไฟยามค่ำคืน​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ที่ไปจงมีเพื่อน ทางแถวเถื่อนไคลคลา​

</TD><TD width="56%">

ไปไหนมาไหนควรมีเพื่อนร่วมทางไปด้วย ยามอันตรายจะได้ช่วยเหลือกัน​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=33>

เข้าออกอย่าวางใจ ระวังระไวหน้าหลัง เยียวผู้ชังจะคอยโทษ



​

</TD><TD width="56%" height=33>

ต้องรู้จักระมัดระวังตัวในการเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ควร ประมาทเพราะอาจจะมีคนคอยปองร้ายเราได้​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ข้างตนไว้อาวุธ สรรพยุทธอย่าวางจิต​

</TD><TD width="56%">

ภัยอันตรายมีได้ทุกเมื่อ ควรรู้จักตระเตรียมตัวป้องกันเอาไว้ก่อน ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ข้าคนไพร่อย่าไฟฟุน​

</TD><TD width="56%">

อย่าแสดงความโกรธต่อคนรับใช้หรือผู้ใต้บังคับบัญชา​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ภักดีอย่าด่วนเคียด ​

</TD><TD width="56%">

ให้เป็นคนที่ซื่อสัตย์จงรักภักดี อย่าหุนหันตัดใจ ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่ากริ้วโกรธเนืองนิตย์​

</TD><TD width="56%">

อย่าเป็นคนโมโหอยู่ตลอดเวลา​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่ามีปากว่าคน​

</TD><TD width="56%">

ไม่ควรนินทาหรือว่าคนอื่นให้ได้รับความเสียหาย ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

พบศัตรูปากปราศรัย ความในอย่าไขเขา​

</TD><TD width="56%">

ควรพูดจาปกติแม้ว่าจะเป็นศัตรูกัน แต่ไม่ควรเผยความในใจ ให้เขารู้ ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

เจรจาตามคดี ​

</TD><TD width="56%">

ควรพูดตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าขุดคนด้วยปาก​

</TD><TD width="56%">

ไม่ควรพูดค่อนขอดหรือกล่าวหาว่าร้ายใคร​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าจับลิ้นแก่คน​

</TD><TD width="56%">

อย่าคอยจับผิดคำพูดผู้อื่น ​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=21>

เมื่อพาทีพึงตอบ ​

</TD><TD width="56%" height=21>

ควรพูดเมื่อจำเป็นต้องพูด ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าริกล่าวคำคด ​

</TD><TD width="56%">

อย่าพูดโกหก ให้พูดแต่ความจริง​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

โต้ตอบอย่าเสียคำ ​

</TD><TD width="56%">

ในการสนทนาหรือโต้คารมไม่ควรกล่าวคำพูดให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

คิดแล้วจึงเจรจา​

</TD><TD width="56%">

ควรคิดให้ดีก่อนพูด ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่านินทาผู้อื่น​

</TD><TD width="56%">

ไม่นินทาว่าร้ายผู้อื่น หรือกล่าวคำให้ผู้อื่นเสียหาย​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=24>

อย่าจับลิ้นแก่คน ​

</TD><TD width="56%" height=24>

อย่าคอยจับผิดคำพูดผู้อื่น​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=25>

โต้ตอบอย่าเสียคำ ​

</TD><TD width="56%" height=25>

ในการสนทนาหรือโต้คารมไม่ควรกล่าวคำพูดให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=22>

คิดแล้วจึงเจรจา​

</TD><TD width="56%" height=22>

ควรคิดให้ดีก่อนพูด​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่านินทาผู้อื่น​

</TD><TD width="56%">

ไม่นินทาว่าร้ายผู้อื่น หรือกล่าวคำให้ผู้อื่นเสียหาย​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่านั่งชิดผู้ใหญ่ ​

</TD><TD width="56%">

ให้รู้จักที่ต่ำที่สูง อย่าตีตนเสมอท่าน​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=30>

อย่าขัดแข็งผู้ใหญ่ ​

</TD><TD width="56%" height=30>

ไม่ควรขัดแย้งหรืองัดข้อหรือแสดงอำนาจกับผู้ใหญ่หรือผู้ที่ มีอำนาจมากกว่าเพราะอาจจะมีภัย​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

จงนบนอบผู้ใหญ่ ​

</TD><TD width="56%">

ต้องมีความอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=26>

ผู้เฒ่าสั่งจงจำความ



​

</TD><TD width="56%" height=26>

ควรจำคำที่ผู้ใหญ่อบรมสั่งสอนมาใช้ปฏิบัติเพราะจะเป็นประโยชน์กับตนภายหลัง​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ครูบาสอนอย่าโกรธ ​

</TD><TD width="56%">

เมื่อครูอบรมสั่งสอนไม่ควรโกรธเพราะครูเป็นผู้ที่มีความปรารถนาที่ดีต่อศิษย์​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=22>

ท่านไท้อย่าหมายโทษ​

</TD><TD width="56%" height=22>

อย่าจับผิดผู้ใหญ่ ​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=24>

นอบตนต่อผู้เฒ่า



​

</TD><TD width="56%" height=24>

มีความอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ทดแทนคุณท่านเมื่อยาก ​

</TD><TD width="56%">

ต้องแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณยามแก่เฒ่าหรือขณะท่านมีความยากลำบาก​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=30>

อย่าเลียนครูเตือนด่า ​

</TD><TD width="56%" height=30>

อย่านำพฤติกรรมของครูขณะอบรมสั่งสอนเรามาล้อเลียน​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ท่านสอนอย่าสอนตอบ ​

</TD><TD width="56%">

เมื่อผู้ใหญ่ตักเตือนสั่งสอนควรตั้งใจฟังด้วยความเคารพ ไม่กล่าวคำยอกย้อนต่อผู้ใหญ่​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=20>

ท่านรักตนจงรักตอบ



​

</TD><TD width="56%" height=20>

เมื่อผู้ใหญ่มีความปรารถนาดีต่อเราเราควรแสดงความกตัญญู ต่อท่าน​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=14>

ท่านนอบตนจงนอบแทน​

</TD><TD width="56%" height=14>

ผู้ที่อ่อนน้อมต่อเราเราควรอ่อนน้อมตอบ​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=21>

ให้หาสินเมื่อใหญ่ ​

</TD><TD width="56%" height=21>

เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ต้องรู้จักทำงานประกอบอาชีพมาเลี้ยงตนและครอบครัว​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=14>

อย่าริร่านแก่ความ​

</TD><TD width="56%" height=14>

อย่าด่วนหาเรื่อง​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=14>

ประพฤติตามบูรพระบอบ ​

</TD><TD width="56%" height=14>

ประพฤติตนตามขนบธรรมเนียมระเบียบประเพณีที่กำหนด​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=14>

อย่าใฝ่สูงให้พ้นศักดิ์ ​

</TD><TD width="56%" height=14>

อย่าทะเยอทะยานเกินความสามารถของตน​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

เข็นเรือทอดกลางถนน ​

</TD><TD width="56%">

เตือนไม่ให้ทำอะไรผิดปกติวิสัยหรือผิดกาลเทศะ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

หว่านพืชจักเอาผล เลี้ยงคนจักกินแรง​

</TD><TD width="56%">

ทำอะไรไม่ควรหวังผลประโยชน์​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าใฝ่ตนให้เกิน​

</TD><TD width="56%">

อย่าทำตัวเกินฐานะของตน​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ตนเป็นไทอย่าคบทาส ​

</TD><TD width="56%">

เมื่อพ้นสภาพจากการเป็นทาสแล้วไม่ควรมาคบกับทาสอีก​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

มีสินอย่าอวดมั่ง ​

</TD><TD width="56%">

อย่าอวดความมั่งมีทรัพย์สินเงินทองเพราะอาจเป็นอันตรายต่อตนเองได้​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

รักตนกว่ารักทรัพย์​

</TD><TD width="56%">

ให้รักเกียรติ นักชื่อเสียงวงศ์ตระกูลยิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทอง​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

สู้เสียสินกว่าเสียศักดิ์ ​

</TD><TD width="56%">

เกียรติยศ ชื่อเสียง เป็นสิ่งที่หามาได้ยากลำบาก เมื่อมีแล้วก็ควรรักษาให้ดี ถ้าเสียไปคงหามาใหม่ได้ยาก ผิดกับทรัพย์สินเงินทองเมื่อเสียไปแล้วหาใหม่มาทดแทนได้​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

คิดตรองตรึกทุกเมื่อ ​

</TD><TD width="56%">

ควรคิดไตร่ตรองใคร่ครวญให้ดีก่อนก่อนที่จะทำอะไร​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

เยียวสะเทินจะอดสู​

</TD><TD width="56%">

ทำสิ่งใดขาดๆ เกินๆ ก้ำกึ่งจะเป็นที่อับอาย​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าใฝ่เอาทรัพย์ท่าน​

</TD><TD width="56%">

ควรทำมาหากินด้วยตนเอง ไม่ควรหวังพึ่งผู้อื่นในการเลี้ยงตน​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=21>

ไปเรือนท่านอย่านั่งนาน​

</TD><TD width="56%" height=21>

ยามไปธุระปะปังที่ไหนไม่ควรนั่งนานเพราะจะทำให้เสียเวลาทั้งสองฝ่าย​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ที่รักอย่าดูถูก ​

</TD><TD width="56%">

ควรให้ความรักความเกรงใจแม้คนใกล้ชิดสนิทสนมไม่ควรมองข้าม​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ ​

</TD><TD width="56%">

ในขณะที่เหตุการณ์รุนแรงยังดำเนินอยู่อย่างร้อนรนเราไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ช้างไล่แล่นเลี่ยงหลบ ​

</TD><TD width="56%">

ถ้าถูกคุกคามจากผู้มีอำนาจให้หลบหลีกไม่ควรต่อสู้​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

เข้าออกอย่าวางใจ ระวังระไวหน้าหลัง เยียวผู้ชังจะคอยโทษ​

</TD><TD width="56%">

ต้องรู้จักระมัดระวังตัวในการเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ควร ประมาทเพราะอาจมีคนคอยปองร้ายเราได้​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

ข้างตนไว้อาวุธ สรรพยุทธอย่าวางจิต​

</TD><TD width="56%">

ภัยอันตรายมีได้ทุกเมื่อ ควรรู้จักตระเตรียมตัวป้องกันเอาไว้ก่อน​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=70>

ความแหนให้ประหยัด ​

</TD><TD width="56%" height=70>

สิ่งที่รักและหวงแหนก็ให้ระมักระวังรักษาไว้ให้ดี โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นความลับก็ควรรักษาไว้ให้ดี โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นความลับก็ควรรักษาไว้อย่าแพร่งพราย​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

เผ่ากษัตริย์เพลิงงู ​

</TD><TD width="56%">

ไม่ควรไว้ใจในสิ่งต้องห้าม ห้าประการคือ กษัตริย์ เด็ก ผู้หญิง งูและไฟ เพราะอาจนำความเดือดร้อนมาสู่เราได​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าตีงูให้แก่กา ​

</TD><TD width="56%">

อย่าทำสิ่งไร้ประโยชน์อาจเกิดโทษแก่ตนได้​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าตีปลาหน้าไซ​

</TD><TD width="56%">

อย่าขัดขวางผลประโยชน์ที่กำลังจะเกิดขึ้น​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าดีสุนัขห้ามเห่า​

</TD><TD width="56%">

อย่าทำสิ่งที่สวนทางกับธรรมชาติ หรืออย่าขัดขวางผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ของตน ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าเข้าแบกงาช้าง ​

</TD><TD width="56%">

อย่าทำการใดเสี่ยงอันตรายและไม่เกิดประโยชน์แก่ตน​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=23>

อย่าโดยคำคนพลอด​

</TD><TD width="56%" height=23>

อย่าเชื่อคำพูดอันหวานหู​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่ามัวเมาเนืองนิตย์ ​

</TD><TD width="56%">

อย่าหลงใหลในสิ่งไร้สาระตลอดเวลา​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าได้รับของเข็ญ​

</TD><TD width="56%">

อย่ารับของร้อนหรือของโจร​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

โทษตนผิดพึงรู้ ​

</TD><TD width="56%">

สอนให้พิจารณาตนเอง ให้หาความผิดของตน เมื่อพบแล้วให้หาหนทางแก้ไขเสีย ​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

การเรือนตนเร่งคิด​

</TD><TD width="56%">

ควรปฏิบัติงานบ้านงานเรือนอยู่เสมออย่าให้บกพร่อง​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

โทษตนผิดรำพึง อย่าคะนึงถึงโทษท่าน ​

</TD><TD width="56%">

ให้มองเห็นโทษของการทำความผิดหรือความชั่วไม่ควรไป เสียเวลาจับผิดคนอื่น​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

เห็นงามตาอย่าปอง​

</TD><TD width="56%">

สิ่งที่มองเห็นว่าสวยงาม อย่าเพิ่งหมายปองเพราะของสวยงามมักมาพร้อมกับภัยอันตราย​

</TD></TR><TR><TD width="44%">

อย่าตื่นยกยอตน​

</TD><TD width="56%">

ไม่ควรพูดยกยอตนเองเปรียบเทียบเหมือนกลองจะดังต้องมีคนตี ถ้ากลองดังโดยไม่มีคนตีเรียกว่ากลองจัญไร​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=21>

ของฝากท่านอย่ารับ​

</TD><TD width="56%" height=21>

อย่ามักง่ายหรือเห็นแก่ได้​

</TD></TR><TR><TD width="44%" height=26>

อย่ากอรปจิตริษยา ​

</TD><TD width="56%" height=26>

ไม่ควรริษยาผู้อื่นเพราะการริษยาเป็นบ่อนทำลายสามัคคี​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

คุณค่าและความดีงามใด ๆ ในเว็บนี้ ขอมอบเป็นเครื่องบูชาพระคุณครู-อาจารย์ ตั้งแต่คุณพ่อคุณแม่ ครู-อาจารย์ที่ได้อบรมสั่งสอน ให้ความรู้ และผู้เขียนตำราทุกท่าน

ครูภาทิพ
๗ มกราคม ๒๕๕๑​

ที่มา http://www.st.ac.th/bhatips/rai_explain51.htm​

 

เกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงเขย่าเมืองหลวงเฮติ​

​

วอชิงตัน 17 ม.ค. - ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า เกิดแรงสั่นสะเทือนหรืออาฟเตอร์ช็อกขนาดรุนแรงตามมา 4.5 ริกเตอร์ ที่กรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ ในวันเสาร์ หลังเกิดแผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์เมื่อวันอังคาร จนพังราบเกือบทั้งเมือง

อาฟเตอร์ช็อกครั้งนี้อยู่ลึกใต้พื้นดิน 10 กิโลเมตร และห่างจากเมืองหลวงของเฮติไปเพียง 25 กิโลเมตร หลังจากเพิ่งเผชิญแผ่นดินไหวที่ใจกลางเมืองเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน และทำให้กรุงปอร์โตแปรงซ์ รวมทั้งพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกของเฮติ กลายเป็นเขตภัยพิบัติ นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวที่เฮติมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกกว่า 30 ครั้ง ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่โดยรอบซากปรักหักพังพากันแตกตื่นเพราะแรงสั่นสะเทือน.- สำนักข่าวไทย

2010-01-17 08:39:35

เมืองแห่งหนึ่งในเฮติพังถึง 90% จากเหตุแผ่นดินไหว​

​

เจนีวา 16 ม.ค. – โฆษกสำนักงานประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ กล่าวในวันนี้ว่าเมืองเลโอกาน ทางตะวันตกของกรุงปอร์โตแปรงซ์ นครหลวงของเฮติ มีอาคารถึงร้อยละ 90 ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในสัปดาห์นี้

คณะประเมินความเสียหายของสหประชาชาติพบว่า เมืองเลโอกาน ซึ่งมีประชากร 134,000 คน เป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด โดยมีอาคารถึงร้อยละ 80-90 ได้รับความเสียหาย และจากรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า มีประชาชน 5,000-10,000 คนเสียชีวิต และศพส่วนใหญ่ยังคงติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่ม

นอกจากนี้ จากการสำรวจในอีก 2 เมืองทางตะวันตกของกรุงปอร์โตแปรงซ์เช่นกัน พบว่า มีอาคารร้อยละ 40-50 ถูกทำลาย โฆษกสหประชาชาติย้ำว่า กำลังต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม ทีมหน่วยกู้ภัยสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตออกมาจากซากปรักหักพังแล้ว 58 คน ในจำนวนนี้ 34 คนได้รับการช่วยเหลือเมื่อวันศุกร์ สามวันหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ .-สำนักข่าวไทย

2010-01-16 18:59:59

เฮติเข้าสู่ความวุ่นวาย เหตุรุนแรงและปล้นสะดม​

​

ปอร์โตแปรงซ์ 17 ม.ค. - ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า วันนี้สถานการณ์ปล้นสะดมกลายเป็นเหตุรุนแรงหนักขึ้นในเฮติ หลังเผชิญแผ่นดินไหวที่กรุงปอร์โตแปรงซ์เมื่อวันอังคาร โดยฝูงชนราว 1,000 คน จับอาวุธแย่งชิงสินค้าตามร้านค้าบนท้องถนน

กลุ่มชายพร้อมด้วยหิน มีด ที่เจาะน้ำแข็งและฆ้อน ต่างแย่งชิงกันเพื่อเอาเสื้อผ้า ถุง ของเล่น และสิ่งของอื่น ๆ เท่าที่จะหามาได้ไว้เป็นของตนขณะที่ทุบทำลายบ้านเรือนและร้านค้าต่าง ๆ โดยไร้เงาตำรวจรักษาการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นสภาวะไร้ขื่อแป ทุกอย่างเข้าสู่จลาจลและตำรวจละทิ้งหน้าที่ไปแล้ว ชาวบ้านต่างต่อสู้ ทุบตีและขว้างปาก้อนหินใส่กันเอง

เหตุแผ่นดินไหวที่เฮติเมื่อวันอังคาร ที่มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคนและอาคารบ้านเรือนพังถล่มทั่วเมืองหลวง ทำให้มีรายงานเหตุปล้นสะดมเกิดขึ้นใน 2-3 วันแรก และดูเหมือนว่าจะขยายวงกว้างมาเรื่อย ๆ จนถึงวันเสาร์ โดยมีรายงานเหตุจลาจลในทำนองเดียวกันตามเมืองต่าง ๆ ขณะที่ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยควบคุม และผู้ไร้ที่อยู่อาศัยต่างรอคอยความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง .- สำนักข่าวไทย

2010-01-17 10:00:13

ยูเอ็นแถลงยืนยันหัวหน้าและผู้ช่วยศูนย์ในเฮติเสียชีวิตแล้ว​

​

สหประชาชาติ 17 ม.ค. - เลขาธิการสหประชาชาติ ยืนยัน ผบ.กองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติในเฮติ และผู้ช่วยเสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว

นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ แถลงยืนยันการเสียชีวิตของนายเฮดี อันนาบี ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติในเฮติ และนายลูอิซ คาร์ลอส ดา คอสตา ผู้ช่วย รวมทั้งรักษาการผู้บัญชาการตำรวจยูเอ็นที่เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในเฮติ ซึ่งทำให้อาคารสำนักงานสหประชาชาติพังราบเมื่อวันอังคาร

รายงานเจ้าหน้าที่ยูเอ็นเสียชีวิต 3 คนล่าสุด ทำให้ตัวเลขอย่างเป็นทางการของเจ้าหน้าที่ยูเอ็นที่เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเฮติมีจำนวน 40 คน โดยมีเจ้าหน้าที่ยูเอ็นเกือบ 330 คน จากทั้งหมด 12,000 คน ที่ปฏิบัติการในเฮติยังคงสูญหาย ขณะที่ทางการเฮติรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีอย่างน้อย 50,000 คน เลขาธิการสหประชาชาติได้กล่าวสดุดีการทำงานของนายอันนาบี ชาวตูนีเซีย วัย 65 ปี ที่เข้าร่วมงานกับสหประชาชาติมาตั้งแต่เมื่อปี 2524 และดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติตั้งแต่ปี 2536 .- สำนักข่าวไทย

2010-01-17 08:18:02

คณะมนตรีความมั่นคงจะหารือวิกฤติเฮติ​

​

เม็กซิโกซิตี้ 17 ม.ค. – คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะเปิดประชุม วันพรุ่งนี้ (18 ม.ค.) เพื่อหารือแผนประสานการให้ความช่วยเหลือจากนานาประเทศแก่เฮติหลังภัยพิบัติแผ่นดินไหว

กระทรวงต่างประเทศเม็กซิโก ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกไม่ถาวร 15 ชาติ แถลงว่า การประชุมในครั้งนี้เกิดขึ้นโดยการริเริ่มของเม็กซิโกและจีน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีความมั่นคง โดยเม็กซิโกนั้นเล็งเห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่คณะมนตรีความมั่นคงจะต้องเข้ามาให้การสนับสนุนความช่วยเหลือแก่รัฐบาลเฮติ ทั้งนี้ คาดว่า นายบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งมีกำหนดเดินทางไปตรวจสภาพความเสียหายที่เฮติวันนี้ จะเข้าร่วมประชุมด้วย.- สำนักข่าวไทย

2010-01-17 09:47:06

ช่วยเหลือเฮติต่อเนื่อง ​

​

เฮติ 17 ม.ค. - ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากต่างชาติ ทยอยนำส่งช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติอย่างต่อเนื่อง

อาหาร น้ำดื่ม และเวชภัณฑ์ ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากนานาประเทศ ทยอยเดินทางถึงเฮติอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวรุนแรงในพื้นที่กรุงปอร์โตแปรงซ์ โดยกองทัพสหรัฐใช้เฮลิคอปเตอร์ถึง 24 ลำ ช่วยลำเลียงสิ่งของนำส่งถึงผู้ประสบภัยโดยตรงเป็นจุด ๆ ขณะเดียวกันก็ใช้ทหารภาคพื้นดินอีกราว 4,200 นาย เร่งจัดตั้งศูนย์แพทย์เคลื่อนที่ช่วยเหลือเยียวยาผู้บาดเจ็บ

ส่วนประธานาธิบดีเรอเน พรีวาล แห่งเฮติ ประกาศภารกิจสำคัญของรัฐบาลคือ ต้องเร่งฟื้นศักยภาพการบริหารประเทศให้คืนมาโดยเร็วที่สุด ส่วนยอดผู้เสียชีวิตท้ายที่สุดแล้วอาจมากถึง 2 แสนคน. - สำนักข่าวไทย

2010-01-17 05:00:48

ผลพวงหิมะตกหนักทำให้อ่าวโบไห่กลายเป็นน้ำแข็ง ​

​

จีน 17 ม.ค. - สภาพอากาศหิมะตกหนักทำให้ผิวน้ำทะเลในอ่าวโบไห่ ทางภาคเหนือของจีน กลายเป็นน้ำแข็งเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์

ผลพวงจากสภาพอากาศหนาวจัด หิมะตกหนักมาตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่ารุนแรงมากที่สุดในรอบ 30 ปี ทำให้ผิวหน้าน้ำทะเลในอ่าวโบไห่ ทางภาคเหนือของจีน กลายเป็นน้ำแข็งเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้เรือประมงหลายลำจอดติดค้างน้ำแข็งอยู่กลางทะเล ท่าเรือหลายแห่งเป็นอัมพาต เรือเข้าจอดเทียบท่าไม่ได้

นอกจากนี้ หิมะตกที่ตกหนักยังกระทบถึงการคมนาคมขนส่งบนทางหลวงสายหลักหลายแห่งต้องหยุดชะงัก เพราะทางการต้องคอยใช้รถไถหิมะออกจากเส้นทางเกือบตลอดเวลา ไม่นับรวมถึงอุบัติทางรถยนต์เพราะถนนลื่น คร่าชีวิตชาวบ้านหลายราย. - สำนักข่าวไทย

2010-01-17 04:03:45

โบสถ์คริสต์ในมาเลเซียยังคงถูกทำลาย​

​

กัวลาลัมเปอร์ 16 ม.ค. – โบสถ์คริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ในมาเลเซียถูกทำลายในวันนี้ นับเป็นการโจมตีโบสถ์คริสต์ล่าสุดหลังเกิดกรณีพิพาทเรื่องการใช้คำว่า “อัลเลาะห์”

โฆษกของโบสถ์เกรซ โกลบอล เพรเยอร์ กล่าวว่าหน้าต่างของโบสถ์ 2 ชั้นในรัฐเนกรีเซมบีลัน ทางตอนใต้ของประเทศ ถูกทำลายเมื่อคืนที่ผ่านมา และเชื่อว่าเป็นการโจมตีโบสถ์คริสต์แบบเดียวกับที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง พร้อมยืนยันว่าทางโบสถ์ไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร ตำรวจกำลังดำเนินการสอบสวนเหตุดังกล่าว

นับเป็นการโจมตีโบสถ์คริสต์ครั้งที่ 11 หลังจากศาลสูงตัดสินอนุญาตให้หนังสือพิมพ์เฮรัลด์ของคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกใช้คำว่า “อัลเลาะห์” ในฉบับภาษามาเลย์ โดยหมายถึง “พระเจ้า”

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าตำรวจบนเกาะบอร์เนียวยืนยันรายงานพบกระจกแตกด้านนอกมัสยิดในรัฐซาราวัก แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นหลักฐานของการโจมตี .-สำนักข่าวไทย

2010-01-16 18:45:02

เกิดแผ่นดินไหว 5.0 ริกเตอร์ ที่อิหร่าน​

​

วอชิงตัน 17 ม.ค. - ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.0 ริกเตอร์ ใกล้เมืองเดซฟุลทางตะวันตกของอิหร่าน ในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น

แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.53 น.ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 03.23 น.เช้าวันนี้ตามเวลาในไทย โดยมีศูนย์กลางห่างไปทางเหนือของเมืองเดซฟุล ราว 25 กิโลเมตร บริเวณเขตชายแดนติดกับอิรัก และอยู่ลึกใต้พื้นดิน 10 กิโลเมตร สำหรับเมืองเดซฟุลมีประชากรราว 235,819 คน ตามสถิติปี 2549 ส่วนแผ่นดินไหวขนาด 5.0 ริกเตอร์ นับว่าเป็นระดับปานกลาง และอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ . - สำนักข่าวไทย

2010-01-17 08:29:27

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

มนุษย์ส่วนใหญ่ยังคิดว่า ตัวเราเก่งนักหนา ตัวเรายิ่งใหญ่กว่า เจริญกว่าทุกๆ สรรพสิ่งทั้งหลายบนพื้นโลก โดยที่ใช้คำว่าความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เป็นตัวตัดสินทุกสิ่งทุกอย่างว่า ต้องสามารถพิสูจน์ได้ ต้องมองเห็นได้ ต้องจับต้องได้ ต้องทำให้มีความสุขได้ จนทำให้ตัวเองลืมไปว่ายังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถบอกเราได้ รู้สึกได้ ทราบได้ ช่วยเหลือได้ และทำให้เรามีความสุขได้ เช่นเดียวกัน นอกเหนือจากหลักการณ์ทางวิทยาศาสตร์ และยังสามารถบอกให้เรารับรู้รับทราบได้อย่างแท้จริง แม่นยำ ยิ่งกว่าวิทยาศาสตร์ แต่มนุษย์ก็หาไม่เจอ ทั้งๆที่ พวกเขาเหล่านั้นอยู่ใกล้กับมนุษย์มานานมาก แล้วเป็นอย่างไรหละ ทำไมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่มีเครื่องมือชิ้นไหน เลยของมนุษย์บนโลกนี้ ที่จะสามารถบอก สามารถเตือน สามารถให้รู้ก่อนได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว แล้วอย่างนี้มนุษย์ยังทนงตัวกันอีกหรือเปล่า รู้สึกตัวกันหรือยัง

 

บัญชีกองทุนคนไทยช่วยผู้ประสบภัยเฮติ​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต (คนละวันกับที่ขอรับบริจาคช่วยชาวเฮตี)​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->khomeraya<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2856330", true); </SCRIPT> สมาชิกเว็บพลังจิต

วันนี้ผมดูรายการเรื่องเล่าเสาร์ - อาทิตย์นี้ คุณสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา แจ้งในรายการว่า หลังจากเปิดบัญชีออมทรัพย์ไปแล้ว มีผู้โอนเงินเข้าบัญชีมาก บัญชีออมทรัพย์ไม่สะดวกสำหรับการรองรับธุรกรรมที่มีจำนวนมากอย่างนี้ คุณสุรยุทธจึงขอให้โอนเข้าบัญชีกระแสรายวันแทน ดังนี้ครับ​

บัญชีกระแสรายวัน ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาคาร์ฟูร์พระราม 4 หมายเลขบัญชี 468 - 0067379 ชื่อบัญชี " กองทุนคนไทยช่วยผู้ประสบภัยเฮติ โดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา" ​

นอกจากนี้ผู้ประกาศข่าวยังแจ้งอีกว่า เนื่องจากมีการ forward mail รวมทั้งบอกข้อมูลเกี่ยวกับหมายเลขบัญชีต่อๆไปกันมาก ดังนั้นก่อนโอน โปรดเช็คชื่อบัญชีก่อนว่า เปิดไว้ในชื่อนี้หรือไม่ ​

ก็อยากให้พวกเราทุกคนช่วยอุทิศส่วนกุศลให้กับทั้งคนและสัตว์ทั้งหลายที่เสียชีวิตจากภัยพิบัติที่เฮติด้วยนะครับ แม้ว่าเค้าเหล่านั้นไม่ได้เป็นคนไทยและนับถือศาสนาพุทธเหมือนกับพวกเรา แต่เราในฐานะเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายและในฐานะชาวพุทธนอกจากจะช่วยเหลือชาวเฮติด้วยการแบ่งปันทรัพย์สินให้พวกเค้าเหล่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ เรายังสามารถช่วยเหลือคนตายได้ด้วยการอุทิศส่วนกุศลนะครับ​

เงินสำหรับคนเป็น บุญสำหรับคนตาย ​

ที่มา <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Nakamura<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2856443", true); </SCRIPT> สมาชิกเว็บพลังจิต

</EMBED><!-- google_ad_section_end --><EMBED src=http://www.youtube.com/v/ecoZX-y7ufU&color1=0xb1b1b1&color2=0xcfcfcf&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1 width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always">​

สำหรับช่องทางอื่นๆ​

สภากาชาดไทย
http://www.redcross.or.th/pr/pr_news.php?db=1&nsid=4885​

Goolge Crisis Response
http://www.google.com/relief/haitiearthquake/index.html​

ช่วยกันคนละเล็กละน้อย เพื่อเพื่อนร่วมโลกของเราครับ<!-- google_ad_section_end --> ​

17-01-2010, 07:55 AM ​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->marine24<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2859224", true); </SCRIPT> สมาชิกเว็บพลังจิต​

ผมกับภรรยาก็กำลังจะรวบรวมเงินจากเพื่อนๆ และจะโอนไปเข้าบัญชี กองทุนคนไทยช่วยภัยเฮติ ช่วยเขาให้พ้นเคราะห์กรรมในครั้งนี้ ก็คล้ายการทำบุญสะเดาะเคราะห์ให้ตนเองและประเทศไทยให้พ้นภัยพิบัติ​

"ขอบุญกุศลนี้ขอให้ชาวเฮติพ้นเคราะห์กรรม และขออุทิศบุญกุศลนี้ให้กับทุกดวงวิญญาณที่ล่วงลับไปและขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรของประเทศไทย ขอให้มีความสุข และขอให้ประเทศไทยและประชาชนชาวไทยพ้นภัยพิบัติทั้งปวงเทอญสาธุ"<!-- google_ad_section_end --> ​

17-01-2010, 12:10 AM​

ที่มา http://palungjit.org/threads/บัญชีกองทุนคนไทยช่วยผู้ประสบภัยเฮติ.223009/​

 

======================================

17 ม.ค. 53

ถึงวันหนึ่ง-------เมืองไทยเรา----ได้ผู้นำ
เป็นคนทำ-------นำประเทศ------พ้นเขตภัย
ทั้งเป็นกลาง-----เก่งการเงิน------เดินสะพัด
ให้ระมัด---------ระวังภัย---------อันใหญ่หลวง

พสุธา------------จะเลื่อนลั่น-----ทั่วเขตเมือง
จึงขอเตือน-------มาล่วงหน้า-----ให้ระวัง
อีกต้องเตรียม-----น้ำและยา------ให้พร้อมสรรพ
ทั้งสำรับ----------อาหารกิน------ถิ่นอาศัย
จะไม่ต้อง---------ทุกข์ยาก-------ลำบากกาย
เตรียมเอาไว้------ไม่ขัดสน-------ยามภัยมา



องค์อินทร์ - ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>

 

คำทำนายการเมืองไทย ปี พ.ศ.2553
โดยนายกิจจา ทวีกุลกิจ (หมอนิด)​

​

คำพยากรณ์ดวงเมืองปี พ.ศ.2553​

ชะตาคนดัง ปี พ.ศ.2553​

ที่มา http://www.mornid.com/home.php​