ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกิดแผ่นดินไหวระลอกใหม่ในเฮติ

    [​IMG]

    ปอร์โตแปรงซ์ 20 ม.ค. - สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6 ริกเตอร์ ในเฮติ เมื่อเช้าวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือเย็นวันนี้ ตามเวลาในไทย ส่งผลให้อาคารสั่นไหว และประชาชนพากันวิ่งออกมาที่ถนน

    เหตุแผ่นดินไหวล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.03 น. วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 18.03 น. ตามเวลาในไทย มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 56 กม. และลึกลงไป 22 กม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวล่าสุดทำให้ประชาชนจำนวนมากต่างวิ่งออกมาที่ถนน แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 18:49:19

    ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในเฮติพุ่งแตะ 75,000 คน

    [​IMG]

    ปอร์โตแปรงซ์ 20 ม.ค.-รัฐบาลเฮติเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อสัปดาห์ก่อนพุ่งแตะ 75,000 คน ขณะที่ยอดผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 250,000 คน และมีผู้ไร้ที่อยู่ 1 ล้านคน ด้านสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีมติเพิ่มกำลังทหารและตำรวจไปรักษาความเรียบร้อยในเฮติ

    ตัวเลขผู้เสียชีวิตครั้งนี้เปิดเผยโดยสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของเฮติ ที่ระบุว่าแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้สิ่งปลูกสร้างกว่าครึ่งในกรุงปอร์โตแปรงซ์ และพื้นที่รอบ ๆ พังถล่มเสียหาย ขณะนี้เฮติกำลังต้องการที่พักชั่วคราว น้ำดื่ม อาหาร และเวชภัณฑ์

    ด้านคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ส่งกำลังทหารและตำรวจอีก 3,500 นายเข้าไปเสริมความปลอดภัยในเฮติ พร้อมสร้างความมั่นใจว่า ความช่วยเหลือจำเป็นเร่งด่วนไปจะถึงมือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว โดยนายบัน คี มูน เลขาธิการยูเอ็น กล่าวว่า หน่วยงานด้านอาหารของยูเอ็นได้ปันส่วนอาหารให้ผู้ประสบภัยเกือบ 200,000 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของผู้ที่ยูเอ็นคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวจำนวน 3-3.5 ล้านคน นายบัน กล่าวว่า เป้าหมายของยูเอ็นคือการเพิ่มการปันส่วนอาหารให้ผู้ประสบภัย 1 ล้านคนในสัปดาห์นี้ ส่วนที่เหลืออีกอย่างน้อย 2 ล้านคน จะเร่งปันส่วนอาหารให้ภายใน 2 สัปดาห์หน้า

    ด้านนายเอ็ดมอนด์ มูเลท ผู้ช่วยเลขาธิการยูเอ็น และดำรงตำแหน่งรักษาการทูตยูเอ็นประจำเฮติ ระบุว่า สถานการณ์ทั่วไปยังคงเงียบสงบเป็นปกติ พร้อมชี้ว่าการขโมยอาหารจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายอาหารที่พังถล่ม เป็นเรื่องปกติในสถานการณ์เช่นนี้ อย่างไรก็ดี ยังไม่เห็นการกระทำที่รุนแรง หรือการปล้มสะดมครั้งใหญ่ ขณะที่ประชาชนหลายหมื่นคนยังต้องนอนอยู่ตามท้องถนน หรือใต้ผ้าพลาสติก

    นายจอห์น โฮล์มส หัวหน้าองค์กรด้านมนุษยธรรมของยูเอ็น ระบุว่า กองทัพสหรัฐจะใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปส่งยังพื้นที่มีการรักษาความปลอดภัย เพื่อสมทบกับสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่ขนส่งทางอากาศและรถยนต์จากสาธารณรัฐโดมินิกัน นอกจากนี้จะใช้เฮลิคอปเตอร์นำสิ่งของบรรเทาทุกข์อีกส่วนไปแจกจ่ายยังพื้นที่ที่เข้าถึงยากลำบากด้วย.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 07:21:36

    ยูเอ็นเผยนับแต่เกิดแผ่นดินไหวในเฮติ ช่วยชีวิตออกมาได้แล้ว 121 คน

    [​IMG]

    เจนีวา 20 ม.ค. - สหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงวันนี้ว่า หน่วยกู้ภัยนานาชาติสามารถช่วยชีวิตผู้คนออกมาได้แล้ว 121 คน จากซากปรักหักพังของอาคารที่พังถล่มในเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา

    โฆษกหญิงองค์การเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ กล่าวว่า การพบผู้รอดชีวิตทั้ง 121 คน นับเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอังคาร สหประชาชาติ แถลงว่า ช่วยเหลือประชาชนจากซากปรักหักพังไว้ได้ 90 คน และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ช่วยไว้ได้ 70 คน แต่รายงานไม่ได้ระบุว่า พบผู้รอดชีวิตอีก 31 คน เมื่อใด ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มีโอกาสน้อยมากที่จะพบผู้รอดชีวิต หลังจากผ่านพ้นเหตุแผ่นดินไหวไปแล้ว 3 วัน

    โฆษกสหประชาชาติ กล่าวด้วยว่า มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการบรรเทาทุกข์นานาชาติแห่งที่ 2 ขึ้นแล้วในกรุงซันโตโดมิงโกของสาธารณรัฐโดมินิกัน หลังจากจัดตั้งแห่งแรกขึ้นในกรุงปอร์โตแปรงซ์ของเฮติ รายงานระบุว่า ท่าอากาศยาน 3 แห่ง รวมทั้งท่าเรืออีกหลายแห่งของสาธารณรัฐโดมินิกัน กำลังถูกใช้เป็นที่ส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์จากนานาชาติ เพื่อบรรเทาปัญหาแออัดแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 18:06:01

    อียูขอให้เร่งจัดสรรความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเฮติ

    [​IMG]

    ลอนดอน 19 ม.ค. - นายแอร์มาน ฟาน รอมเปย ประธานสหภาพยุโรปหรืออียู กล่าวว่า กลุ่มสมาชิกอียู 27 ประเทศ ต้องจัดตั้งกองกำลังช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเหตุแผ่นดินไหวที่เฮติ

    ประธานอียูคนใหม่ กล่าวในการเยือนกรุงลอนดอนของอังกฤษ ว่า สมาชิกอียูควรพิจารณาจัดตั้งคณะทำงานจัดสรรความช่วยเหลือฉุกเฉินในเฮติ หลังจากที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ผู้นำอังกฤษแล้ว และเห็นว่าชาติสมาชิกอียูควรพิจารณาจัดตั้งคณะทำงานในอีกไม่กี่เดือนนี้ และเรียกร้องให้จัดการประชุมระหว่างประเทศเพื่อช่วยฟื้นฟูเฮติ .-สำนักข่าวไทย

    2010-01-19 18:25:16

    หย่อนอาหารและเวชภัณฑ์ทางอากาศเฮติต่อเนื่อง

    [​IMG]

    เฮติ 19 ม.ค.-กองกำลังสหรัฐยังคงใช้การหย่อนอาหารและเวชภัณฑ์จากทางอากาศให้แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติอย่างต่อเนื่อง

    จนถึงขณะนี้เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินซี-130 ของกองทัพสหรัฐได้หย่อนสิ่งของบรรเทาทุกข์ประกอบด้วยอาหารพร้อมรับประทาน 15,000 ชุด น้ำดื่ม 15,000 ลิตร และเวชภัณฑ์ให้กับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปอร์โตแปรงซ์ โดยระบุว่าเป็นมาตรการช่วยเหลือที่เข้าถึงผู้ประสบภัยได้รวดเร็วที่สุด เนื่องจากการลำเลียงอาหารและเวชภัณฑ์เป็นไปอย่างลำบากเพราะถนนเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง แม้จะมีความวิตกกังวลว่า การหย่อนสิ่งของบรรเทาทุกข์จากทางอากาศอาจทำให้เกิดจลาจลในหมู่ผู้ประสบภัย

    ด้านแพทย์ขององค์กรแพทย์ไร้พรมแดน ยอมรับว่าเหตุแผ่นดินไหวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บต้องถูกตัดแขนตัดขากลายเป็นผู้พิการจำนวนมาก รวมถึงยังพบปัญหาเรื่องผลติดเชื้อและโรคระบาดด้วย.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-19 23:08:37

    อากาศหนาวกระทบประชาชนหลายล้านคนทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 19 ม.ค.- โฆษกทางการเมืองอุรุมชีของจีนเปิดเผยว่า การปิดถนนและการเลื่อนเที่ยวบิน ทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องตกค้างในวันนี้ หลังเกิดพายุหิมะและอากาศหนาวจัด คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 4 คน และส่งผลกระทบต่อประชาชนอีก 1.6 ล้านคน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

    รายงานระบุว่า พายุหิมะทำให้ต้องเลื่อนเที่ยวบิน 122 เที่ยวในเมืองอุรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียง ส่งผลให้มีผู้โดยสารตกค้างมากกว่า 4,000 คน อีกทั้งหิมะถล่มที่กีดขวางการจราจรบนถนน ทำให้ประชาชนมากกว่า 1,000 คน ต้องติดค้างอยู่ในเขตซินเจียง นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศอันเลวร้ายแล้ว 4 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังอพยพประชาชนในพื้นที่ชนบทหลายพันคนไปสู่พื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากเผชิญพายุหิมะลูกล่าสุด ที่คาดว่าจะสงบลงในวันพรุ่งนี้ และทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงถึง -45 องศาเซลเซียส

    นายเว่ย หรงฉิง เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศของซินเจียงรายงานว่า พายุหิมะในเขตซินเจียงทำลายและสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนราว 100,000 หลัง และอากาศหนาวเย็นจัดที่เริ่มต้นขึ้นในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ปศุสัตว์ล้มตายมากกว่า 15,000 ตัว และว่าหิมะยังคงตกในเขตอัลไต ทำให้ในขณะนี้เขตดังกล่าวมีหิมะตกหนาถึง 3 ฟุตแล้ว และประชาชน 1.6 ล้านคนได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศอันหนาวเย็นจัดในจำนวนดังกล่าว รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสูญเสียทรัพย์สิน ขาดแคลนพลังงานและสิ่งของจำเป็น หรือตกค้างบนถนนที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง

    หลายพื้นที่ทางตอนเหนือของจีนเผชิญกับฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวจัดที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยกรุงปักกิ่งเผชิญกับวันที่มีหิมะตกหนักที่สุดในรอบ 59 ปีในเดือนนี้ คาดว่าอุณหภูมิในกรุงปักกิ่งจะเพิ่มขึ้นเหนือจุดเยือกแข็งในสัปดาห์นี้. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-19 15:47:35

    สหรัฐเตือนภัยทอร์นาโดในรัฐแคลิฟอร์เนีย

    [​IMG]

    ลอสแองเจลิส 20 ม.ค. - สหรัฐประกาศเตือนภัยพายุทอร์นาโดในนครลอสแองเจลิสเมื่อวานนี้ ขณะที่พายุเข้าพัดถล่มพื้นที่ตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำให้เกิดฝน และหิมะตกหนักทั่วพื้นที่ เป็นเหตุให้บ้านเรือนหลายหลังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้

    นักอุตุนิยมวิทยาประจำสำนักบริการด้านอากาศแห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า พายุกำลังแรงที่กำลังเคลื่อนตัวจากมหาสมุทรแปซิฟิก ด้วยความเร็วลม 60 ไมล์/ชม. ทำให้ต้องประกาศเตือนภัยพายุทอร์นาโด เนื่องจากเรดาร์ตรวจจับพายุกำลังเคลื่อนตัวด้วยความเร็วทำให้มีโอกาสทวีกำลังเป็นพายุทอร์นาโด แต่ยอมรับว่า การเตือนภัยทอร์นาโดในรัฐแคลิฟอร์เนียเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

    พายุที่พัดถล่มตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวานนี้ ทำให้เกิดฝนตกหนัก และน้ำท่วม ทางการประกาศเตือนน้ำท่วมฉับพลัน และโคลนถล่มในชุมชนที่ตั้งอยู่ตามไหล่เขา ด้านบริษัทไฟฟ้า รายงานว่า วิศวกรกำลังซ่อมแซมให้สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าแก่ลูกค้าเกือบ 17,000 รายที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้เพราะสภาพอากาศเลวร้าย -สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 08:52:45

    กาซาน้ำท่วมหนัก ชาวบ้านไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 100 ครอบครัว

    [​IMG]

    กาซา 20 ม.ค.-ฝนที่ตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ตอนใต้ของฉนวนกาซา ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไร้ที่อยู่อาศัยนับร้อยครอบครัว

    เจ้าหน้าที่กู้ภัยปาเลสไตน์นับร้อยคนต้องทำงานอย่างหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เพื่อช่วยอพยพชาวบ้านมากกว่า 100 ครอบครัว ออกจากบ้านเรือนที่จมน้ำท่วมสูงถึงเอวในพื้นที่ตอนใต้ของเมืองกาซา ซิตี้ เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันมา 2 วัน ยังทำให้พื้นที่เพาะปลูกรวมถึงคอกปศุสัตว์จมอยู่ใต้น้ำ ถนนเชื่อมระหว่างกาซา ซิตี้ กับพื้นที่ตอนใต้ของฉนวนกาซาถูกตัดขาด และมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 คน

    กลุ่มฮามาส ที่ควบคุมดูแลพื้นที่ฉนวนกาซา บอกว่า เหตุน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นภัยพิบัติครั้งรุนแรง และได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ พื้นที่ชายฝั่งทะเลแดงรอยต่อระหว่างอิสราเอล อียิปต์ และจอร์แดน ก็เผชิญเหตุน้ำท่วมรุนแรงเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 02:16:45

    เหตุนองเลือดในไนจีเรีย มีผู้เสียชีวิตราว 300 คนแล้ว

    [​IMG]

    คาโน 20 ม.ค.- การปะทะกันระหว่างชาวคริสต์กับชาวมุสลิม ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ในเมืองจอส ประเทศไนจีเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 300 คน รัฐบาลต้องส่งทหารเข้าไปในพื้นที่เพื่อควบคุมความไม่สงบ และประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ท่ามกลางรายงานหลายกระแสว่ายังคงมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง แม้ประกาศเคอร์ฟิว ประชาชนยังคงได้ยินเสียงปืนและเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งอยู่ทั่วเมือง

    รองประธานาธิบดีกู้ดลัค โจนาธานของไนจีเรีย ส่งทหารและสั่งการหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงให้นำความสงบกลับคืนมาโดยทันที ทางด้านผู้นำของฝ่ายมุสลิมและคริสต์ รวมถึงแพทย์สนาม รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตตั้งแต่เริ่มการปะทะเมื่อวันอาทิตย์จนถึงปัจจุบัน มีเกือบ 300 คน แต่ตัวเลขนี้ยังไม่ได้รับคำยืนยันอย่างเป็นทางการ

    การปะทะกันครั้งนี้เริ่มขึ้นจากความขัดแย้งเรื่องการก่อสร้างมัสยิดแห่งหนึ่ง เมืองจอส มีทั้งชาวคริสต์และมุสลิมอยู่อาศัย โดยที่ทางตอนเหนือเป็นเขตอิทธิพลของชาวมุสลิม ส่วนชาวคริสต์มีอิทธิพลอยู่ทางใต้ รองประธานาธิบดีไนจีเรีย กล่าวประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นล่าสุด และยืนยันว่ารัฐบาลจะตัดสินใจแก้ปัญหาวิกฤติในเมืองนี้อย่างถาวร

    ก่อนหน้านี้ในเดือน พ.ย. 2551 การปะทะกันระหว่างชาวคริสต์กับมุสลิมนาน 2 วัน ที่เมืองจอส ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน การปะทะกันเกิดขึ้นเพราะข่าวลือว่าพรรคการเมืองสำคัญของชาวมุสลิมพ่ายแพ้การเลือกตั้งท้องถิ่นต่อพรรคการเมืองของชาวมุสลิม.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 11:51:49

    กรุงเม็กซิโกซิตีให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน

    [​IMG]

    เม็กซิโกซิตี 20 ม.ค. – กรุงเม็กซิโกซิตีของเม็กซิโก เริ่มต้นการให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่สถานีรถไฟใต้ดิน เพื่อพยายามเข้าถึงประชาชนมากขึ้น

    นายอาร์แมนโด อาฮูเอด เลขาธิการสาธารณสุขของกรุงเม็กซิโกซิตี เปิดเผยว่า โครงการรณรงค์ดังกล่าวเริ่มต้นจากสถานีรถไฟ 26 แห่งที่มีผู้คนใช้บริการมากที่สุด และจะขยายสู่ตลาดภายในปลายสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ นายอาฮูเอด เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า กรุงเม็กซิโกซิตีมีวัคซีน 300,000 โดส และได้ให้บริการฉีดวัคซีนไปแล้ว 10,200 โดส ที่สถานีรถไฟใต้ดินเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

    เม็กซิโกเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เมื่อปีที่ผ่านมา โดยพบผู้ป่วย 69,535 คน ในจำนวนดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 931 คน และกรุงเม็กซิโกซิตีมีผู้ป่วยโรคดังกล่าวมากที่สุดถึง 7,929 คน

    รัฐบาลเม็กซิโกยังคงได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไม่ถึงครึ่งของจำนวน 30 ล้านโดสที่สั่งไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่หวังว่า ชาวเม็กซิโกจำนวน 24 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งหมดที่มีมากกว่า 105 ล้านคน จะได้รับวัคซีนภายในเดือนมีนาคมนี้ -สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 10:23:01

    เกาหลีเหนือมีนักโทษการเมือง 200,000 คน

    [​IMG]

    โซล 20 ม.ค. - คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยวันนี้ว่า เกาหลีเหนือมีค่ายนักโทษการเมือง 6 แห่ง ซึ่งคุมขังนักโทษจำนวน 200,000 คน โดยนักโทษเหล่านั้นต้องเผชิญกับการถูกทรมานและเฆี่ยนตี

    รายงานฉบับแรกกรณีนักโทษการเมืองของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกาหลีใต้ ระบุว่า นักโทษบางคนถูกประหารชีวิตโดยไม่มีการพิจารณาคดี ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเกาหลีใต้พยายามหลีกเลี่ยงประเด็นดังกล่าว เนื่องจากไม่ต้องการสร้างความไม่พอใจให้แก่เกาหลีเหนือ แต่ประธานาธิบดีลี มยอง-บัก ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปี 2551 กล่าวว่า เขาจะไม่หลีกเลี่ยงประเด็นดังกล่าว ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ประเมินว่า มีชาวเกาหลีเหนือราว 150,000-200,000 คน ถูกคุมขังในค่ายนักโทษการเมือง

    คณะกรรมาธิการฯ เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือมักละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่บ่อยครั้ง แม้ถูกบังคับให้ส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ ในฐานะประเทศสมาชิกของสหประชาชาติก็ตาม ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวได้รับข้อมูลจากประชาชนที่หลบหนีออกนอกประเทศเกาหลีเหนือ 371 คน ในจำนวนดังกล่าว 17 คน เคยถูกคุมขังที่ค่ายนักโทษการเมือง และว่า นักโทษในค่ายดังกล่าวไม่ได้มีเพียงผู้คัดค้านทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังมีผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ และผู้ลี้ภัยที่ถูกส่งตัวกลับจากประเทศจีน

    ศ.วิทิต มันตาภรณ์ ผู้เขียนรายงานพิเศษของสหประชาชาติในประเด็นสิทธิมนุษยชนเกาหลีเหนือ เปิดเผยในกรุงโซล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือยังคงเลวร้ายมาก และบทลงโทษต่อประชาชนที่พยายามหลบหนีออกนอกประเทศก็รุนแรงมากขึ้น. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 15:09:57

    อัล-กออิดะห์ยั่วยุสองมหาอำนาจเอเชียใต้ทำสงคราม

    [​IMG]

    นิวเดลี 20 ม.ค.-นายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ เปิดเผยว่า เครือข่ายอัล-กออิดะห์ พยายามสร้างความไร้เสถียรภาพขึ้นทั่วภูมิภาคเอเชียใต้ และปลุกปั่นให้เกิดสงครามครั้งใหม่ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน

    รมว.กลาโหมสหรัฐ กล่าวระหว่างเดินทางเยือนกรุงนิวเดลี ว่า กลุ่มต่าง ๆ ในอัฟกานิสถานและปากีสถานซึ่งอยู่ในเครือของอัล-กออิดะห์ พยายามสร้างความไร้เสถียรภาพขึ้นด้วยการกระทำบางสิ่งที่ยั่วยุ เพื่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสองมหาอำนาจในเอเชียใต้ เขาอ้างถึงกลุ่มสำคัญ 3 กลุ่มที่ปฏิบัติการอยู่ใต้ร่มเงาของอัล-กออิดะห์ คือ กลุ่มตอลีบานที่สู้รบอยู่ในอัฟกานิสถาน กลุ่มตอลีบานที่มีเป้าหมายล้มล้างรัฐบาลปากีสถาน และกลุ่มลัชการ์ อี ไทบา ในปากีสถาน ซึ่งเน้นปฏิบัติการที่อินเดีย

    นายเกตส์ ชื่นชมอินเดียที่อดทนอดกลั้นต่อเหตุการณ์โจมตีที่นครมุมไบ เมื่อปี 2551 ซึ่งรัฐบาลอินเดียอ้างว่าเป็นฝีมือของกลุ่มลัชการ์ อี ไทบา อย่างไรก็ดี รมว.กลาโหมสหรัฐ เกรงว่า อินเดียอาจจะไม่อดทนแบบนี้อีกถ้าถูกโจมตีอีกครั้ง เขาระบุด้วยว่ากลุ่มก่อการร้ายทำงานร่วมกันบริเวณชายแดนอัฟกานิสถานติดกับปากีสถาน และผลประโยชน์จะตกถึงกันเมื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งประสบความสำเร็จ กลุ่มที่เหลือก็จะมีความสามารถและชื่อเสียงตามไปด้วย

    ขณะเดียวกัน นายเกตส์ ได้แสดงความซาบซึ้ง ที่อินเดียให้ความช่วยเหลืออัฟกานิสถาน ซึ่งเขาเชื่อว่า แรงสนับสนุนของอินเดียต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในอัฟกานิสถานเป็นสิ่งสำคัญ และจะสามารถเป็นเสาหลักต่อการสร้างความมั่นคงทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 15:33:30

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    Section : สกู๊ปเด็ด
    หัวข้อข่าว : ถ้าธรณีพิโรธ 7 ริกเตอร์ที่ กทม. เมืองทั้งเมืองจะราพณาสูร วันที่ : 15 พฤษภาคม 2551
    ที่มา :http://www.komchadluek.net/2008/05/15/x_scoo_p001_202655.php?news_id=202655


    ถ้าธรณีพิโรธ 7 ริกเตอร์ที่ กทม. เมืองทั้งเมืองจะราพณาสูร !?!
    สมมติว่า.. ถ้าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทย ความรุนแรงแค่ 7 ริกเตอร์ อะไรจะบังเกิดขึ้น ผู้เชี่ยวชาญฟันธงว่า เมืองทั้งเมืองต้องราบเป็นหน้ากลองแน่ๆ เพราะ กทม.เป็นพื้นที่ดินอ่อน นี่เป็นแค่สมมติฐาน เพียงเพื่อให้เราเตรียมรับมือกับภัยพิบัตินี้เท่านั้น หาใช่ทำให้ใครแตกตื่นไม่ รายละเอียดหน้า 2
    ในขณะที่มหันตภัยทางธรรมชาติกำลังทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ พายุไซโคลนนาร์กีสถล่มพม่า ผู้คนล้มตายสูญหายนับแสนชีวิต ตามติดมาด้วยแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน วัดขนาดความรุนแรงได้ 7.8 ริกเตอร์ ประชาชนนับหมื่นถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง จนหลายฝ่ายต่างตื่นตัวหันมาให้ความสนใจกับมาตรการป้องกันและเตือนภัย เพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤติที่อาจจะเกิดขึ้น
    ประเทศไทยเองก็เช่นเดียวกัน นักวิชาการด้านธรณีวิทยา นักวิชาการด้านอุตุนิยมวิทยา ตลอดจนนักวิชาการที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ต่างก็หันมาให้ความสนใจกับวิกฤติทางธรรมชาติ เพื่อหาทางป้องกันและเยียวยาเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
    กระทั่งมีคำถามว่า ถ้าเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ ที่ กทม.จะมีสภาพอย่างไร ?

    "เมืองจะราพณาสูร !?!"

    คือคำตอบของ รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหวและธรณีแปรสัณฐาน ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    รศ.ดร.ปัญญาแจกแจงทำความเข้าใจว่า หากศูนย์กลางแผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่ กทม. เมืองทั้งเมืองจะพังพินาศจนราพณาสูร เนื่องจากใต้ กทม.และรอบๆ ปริมณฑลมีรอยเลื่อนอยู่ แต่ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเป็นรอยเลื่อนที่มีพลังหรือไม่ ?
    อย่างไรก็ตาม หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหวฯ บอกว่า ไม่จำเป็นต้องมากถึงขนาด 7 ริกเตอร์ หากศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ กทม. เพียงแค่ 5 ริกเตอร์ เมืองทั้งเมืองก็ราพณาสูรได้เช่นกัน

    แต่ถ้าเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ ที่ จ.กาญจนบุรี หรือชายแดนไทย-พม่า บริเวณ อ.ทองผาภูมิ ก็นับเป็นสิ่งน่ากลัวเช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับค่าของการสั่นว่าจะพอดีกับรอยเลื่อนใต้ กทม.หรือไม่ ด้วยดินใต้ กทม.เป็นดินอ่อน ดังนั้นการขยายคลื่นจะทำได้มาก 3-4 เท่า จากที่ควรจะเป็น และหากเป็นเช่นนั้นก็จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
    "เมื่อ 1,500-2,000 ปีก่อน เคยเกิดแผ่นดินไหวที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี วัดความสั่นสะเทือนได้ 7 ริกเตอร์ มาแล้วครั้งหนึ่ง สมัยนั้น กทม.ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ เลยไม่มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ว่าได้รับผลกระทบหรือไม่ ทว่าปัจจุบันนี้ กทม.เต็มไปด้วยเมืองและอาคารสูง ถ้าเกิดขึ้นจริงก็เป็นเรื่องน่าห่วง"
    และหากเกิดแผ่นดินไหวที่กาญจนบุรี หรือชายแดนไทย-พม่า ด้านตะวันตก จะส่งผลต่อเขื่อนศรีนครินทร์หรือไม่ ? โดยส่วนตัว รศ.ดร.ปัญญาเชื่อว่าวิศวกรของ กฟผ.ได้คำนวณโครงสร้างเอาไว้แล้วว่า น่าจะรองรับได้ เขื่อนไม่น่าจะแตก แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ว่าโอกาสที่เขื่อนจะแตกไม่มี
    รศ.ดร.ปัญญาอธิบายว่า โอกาสที่เขื่อนจะแตกหรือไม่ขึ้นอยู่กับเวลาของการสั่นสะเทือน หากเกิดแผ่นดินไหวนานๆ เขื่อนก็เปรียบไม่ต่างอะไรกับแก้วที่มีน้ำ เมื่อมีแรงสั่นน้ำก็จะกระฉอกออกมา อาจจะส่งผลให้ดินบริเวณนั้นถล่มก็เป็นได้ หากไม่เตรียมพร้อมอพยพประชาชนท้ายเขื่อนก็จะเป็นอันตราย
    "ไม่มีใครบอกได้หรอกว่าแผ่นดินจะไหว 4 วินาที หรือ 4 นาที ถ้า 4 นาทีก็แย่"
    ขณะเดียวกัน รศ.ดร.ปัญญาอธิบายด้วยว่า หลายคนนึกภาพเขื่อนแตกว่าเหมือนกับการยกกำแพงกั้นน้ำออก เขื่อนจะราพณาสูรลงอย่างรวดเร็ว น้ำจะไหลทะลักออกมาทั้งเขื่อน แท้ที่จริงแล้วจะไม่เป็นเช่นนั้น เขื่อนจะค่อยๆ แตกเป็นรอยร้าว เป็นรูปลดปล่อยน้ำออกมา น้ำก็จะไหลไปตามแม่น้ำ ชาวบ้านใกล้ริมน้ำและท้ายน้ำจะได้รับผลกระทบ แต่ถ้ามีการเตือนภัยที่ดีก็จะช่วยได้มาก
    ด้าน ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ แม้จะไม่อยากพูดถึงการเกิดแผ่นดินไหวใน กทม. เพราะเกรงประชาชนจะแตกตื่น ทว่าบนสมมติฐานหากเกิดแผ่นดินไหว 7 ริกเตอร์ ที่ กทม. ดร.สมิทธให้ความเห็นว่า เมืองหลวงของประเทศไทยคงไม่เป็นเมือง จะเห็นตึกหลายๆ ตึกถล่มลงมา เนื่องจาก กทม.ตั้งอยู่บนเลนหรือดินปากแม่น้ำ จะทำให้แผ่นดินทรุดตัวหากเกิดแผ่นดินไหวขึ้น ประกอบกับรัฐบาลและวิศวกรไทยไม่มีการคำนวณโครงสร้างตึกให้รองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง
    "เคยคุยกับวิศวกรหลายคนในเมืองไทย ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่า เป็นเรื่องน่าห่วงอย่างมาก หากผู้มีอำนาจไม่ยอมศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วออกเป็นพระราชบัญญัติหรือกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงของรากฐานและโครงสร้างตึก หากประเทศไทยเกิดแผ่นดินไหวก็คงเหมือนกับที่เกิดขึ้นที่ประเทศจีน ก็บอกแล้วว่าแผ่นดินไหวเกิดขึ้นทันที ไม่มีใครสามารถรู้ตัวได้ก่อน ทำได้เพียงข้อปฏิบัติหลังจากเกิดแผ่นดินไหวเท่านั้นเอง"
    อย่างไรก็ตาม ดร.สมิทธไม่อยากให้คนไทยวิตกกังวลเกี่ยวกับพิบัติภัยแผ่นดินไหว เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติ และประเด็นสำคัญคือ ประเทศไทยไม่ได้อยู่แนวเดียวกับประเทศญี่ปุ่นที่เป็นแนวภูเขาไฟ
    ขณะที่ รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย หัวหน้าโครงการลดภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวในประเทศไทย สถาบันพัฒนาเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ไม่ขอตอบคำถามจากสมมติฐานข้างต้น ด้วยเห็นว่าเป็นไปไม่ได้
    แต่ถ้าเกิดแผ่นดินไหวที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีรอยเลื่อนใหญ่พอสมควรและมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรงมากกว่า 7 ริกเตอร์ หรืออาจจะสูงถึง 7.3-7.5 ริกเตอร์ รศ.ดร.เป็นหนึ่งบอกว่า จะส่งผลกระทบต่อ กทม.อย่างรุนแรงมากกว่า จ.กาญจนบุรี
    สาเหตุที่ กทม.จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงมากกว่ากาญจนบุรี แม้ว่าจะอยู่ห่างกันกว่า 200 กิโลเมตร ในความเห็นของ รศ.ดร.เป็นหนึ่ง ก็เหมือนกับนักวิชาการข้างต้นให้ข้อสรุปไปแล้ว คือ สภาพดินใน กทม.เป็นดินอ่อน แรงสั่นสะเทือนที่ลดลงแล้วจะเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นได้ ประกอบกับ กทม.มีความเป็นเมืองมากกว่า จึงได้รับผลกระทบมากกว่า
    ส่วนผลกระทบจากความเสียหายใน กทม.นั้น รศ.ดร.เป็นหนึ่งไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องดำเนินการเก็บข้อมูลอาคารระดับต่างๆ ในพื้นที่และจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ จึงจะคำนวณผลกระทบที่เกิดขึ้นได้
    "ขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้ว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสถาบันพัฒนาเทคโนโลยีแห่งเอเชียเก็บข้อมูลอาคารต่างๆ ใน กทม. เพื่อเป็นฐานข้อมูลที่จะตอบคำถามถึงผลกระทบเหล่านี้ได้"
    อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.เป็นหนึ่งยกตัวอย่างผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเม็กซิโก ขนาดความรุนแรง 8 ริกเตอร์ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองหลวงไป 400 กิโลเมตร ยังทำความเสียหายแก่อาคารเล็กๆ ถึง 2% และอาคารสูง 20% บางตึกถล่มลงมาทั้งตึก มีผู้เสียหายเป็นหมื่นคน ในขณะที่ กทม.ยังมีอาคารที่อ่อนแออยู่เยอะ

    ทั้งหมดนี้อยู่บนสมมติฐาน "ถ้า" เกิดแผ่นดินไหว 7 ริกเตอร์ ที่ กทม.เท่านั้น !?!
     
  3. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    บ้านนิรภัยรับมือแผ่นดินไหวปลอดภัย

    [​IMG]
    บริษัท รับสร้างบ้านออกแบบบ้านนิรภัย ป้องกันแผ่นดินไหวด้วยโครงสร้างผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก เอไอทีร่วมวงวิเคราะห์ความแกร่ง ระบุรับมือแผ่นดินไหวได้เกินกว่ากฎหมายกำหนด

    นายนวพล สังเวียนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทออกแบบบ้านนิรภัยให้มีคุณสมบัติต้านภัยแผ่นดินไหว โดยเป็นบ้านคอนกรีตเสริมเหล็ก ต่างจากบ้านทั่วไปที่ใช้เสาคานรับน้ำหนัก และโครงสร้างส่วนใหญ่ทำจากก้อนอิฐ จึงเสี่ยงต่อการพังทลายสูง เมื่อได้รับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว

    นอกจากตัวบ้านจะรับมือแผ่น ดินไหวได้แล้ว กำแพงด้านในยังเสริมฉนวนกันความร้อนจากพลาสติกโพลิสไตร์ลิน เพื่อป้องกันเสียง ความชื้นและความร้อนจากภายนอก ช่วยประหยัดพลังงานได้ 60% เมื่อเทียบกับบ้านทั่วไป โดยค่าก่อสร้างบ้านนิรภัยประมาณ 13,000 บาทต่อตารางเมตร ไม่ต่างจากต้นทุนบ้านทั่วไป

    "แม้ค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างจะเพิ่มขึ้น 7-10% แต่เมื่อรวมกับระยะเวลาการก่อสร้างที่สั้นกว่า ทำให้ราคาไม่ต่างกันมาก” นายนวพล กล่าว

    รศ. ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย ภาควิชาวิศวกรรมโครงสร้าง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที) กล่าวว่า เอไอทีร่วมทดสอบบ้านนิรภัยของบริษัทคูลเฮ้าส์ เพื่อยืนยันประสิทธิภาพการต้านแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว และยืนยันได้ว่าบ้านที่ออกแบบใหม่นี้รับมือแรงกระทำได้สูงกว่าบ้านทั่วไป และสูงกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด 33%

    ทีมวิจัยได้พัฒนาวิธีการตรวจ สอบ และปรับปรุงจุดเสี่ยงในส่วนโครงสร้างกำแพงที่อาจเกิดการเสียหาย ด้วยโปรแกรมวิเคราะห์ทางคอมพิวเตอร์ หรือ ไฟไนต์อิลิเมนต์ โดยนำผลการทดสอบแรงดัด แรงกด แรงโยก แรงเหวี่ยงในแนวแกนและแรงเฉื่อย เพื่อหาค่าความต้านทานที่แท้จริงในการรับแรงแผ่นดินไหว แรงลม ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ

    ทั้งนี้ แม้จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว จะไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย แต่จากการสำรวจพบรอยเลื่อนเพิ่มขึ้นบริเวณภาคเหนือและตะวันตก ชี้ถึงโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ได้ในอนาคต และแม้แผ่นดินไหวจะมีศูนย์กลางในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็ส่งผลกระทบถึงประเทศไทย เนื่องจากเป็นพื้นที่เดียวกันในทางธรณีวิทยา

    การ ออกแบบกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็ก เป็นหนึ่งในการออกแบบบ้านเพื่อป้องกันแผ่นดินไหว นอกจากนี้ยังมีการออกแบบในรูปแบบอื่น เช่น แบบเสาคาน หรือเฟรม รวมถึงโครงสร้างที่อ่อนไหวต่อแรงลม และแรงสั่นสะเทือน ซึ่งปัจจุบันเอไอทีร่วมกับการเคหะแห่งชาติ ในการพัฒนาระบบเสาคานป้องกันแผ่นดินไหว ในโครงการบ้านเอื้ออาทรด้วย

    จุฑารัตน์ ทิพย์นำภา

    ที่มา:
     
  4. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td width="161" background="images_newsdetail/tab-red160x21.gif" height="21">
    </td> <td width="584"> หมายเหตุ *** ข่าวนี้เป็นข้อมูลเก่าค่ะ ***

    </td> </tr> </tbody></table> <table width="700" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="8"><tbody><tr> <td class="12a">เตรียมประกาศ 12 จังหวัดเสี่ยงภัยแผ่นดินไหว</td> </tr> <tr> <td class="12a" valign="top" height="115"><center>

    นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการรับมือเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่ กทม. หลังพบรอยเลื่อนใต้ กทม. ซึ่งเกิดจากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศอินโดนีเซียว่า ขณะ นี้ กทม.มีการตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ หลังจากเกิดเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อปี 2547 โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญ เช่น รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย คอยให้คำปรึกษา รวมถึงเชิญผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ประกอบการในพื้นที่สูงมาร่วมประชุม สัมมนา ซึ่งที่ประชุมมีการเสนอให้รวมพื้นที่ กทม.เข้าเป็นพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว และทราบว่าขณะนี้เรื่องอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย
    นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ขณะที่กฎกระทรวงแผ่นดินไหวยังไม่ประกาศใช้ ในส่วนของ กทม.โดยนางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าฯ กทม. ก็ได้จัดสัมมนาเรื่องการป้องกันภัยจากเหตุแผ่นดินไหวให้แก่ผู้ประกอบการและ ผู้ที่อยู่ในอาคารสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) ของ กทม. จะเข้าไปให้คำแนะนำในการป้องกันและปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว

    "อีก ทั้ง กทม.ยังมีศูนย์แจ้งเตือนภัย เพื่อสื่อสารให้ประชาชนรับทราบกรณีเกิดเหตุภัยพิบัติต่างๆ ด้วย แต่หากกฎกระทรวงประกาศใช้แล้ว ก็จะรวมพื้นที่ กทม.เข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว ซึ่งจะทำให้อาคารสูงตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไปที่จะขออนุญาตก่อสร้างต้องออกแบบโครงสร้างให้มีระบบรับแรงสั่น สะเทือนจากแผ่นดินไหวเพิ่ม" ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
    ทั้งนี้ พื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหวในประเทศไทยที่ได้กำหนดไว้เดิม มีทั้งสิ้น 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก กาญจนบุรี และ เชียงใหม่ ซึ่งกฎกระทรวงฉบับใหม่นี้ จะมีการเพิ่มพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวอีก 12 จังหวัด แบ่งเป็นจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ 7 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ชุมพร พังงา ภูเก็ต ระนอง สงขลา และสุราษฎร์ธานี ส่วนอีก 5 จังหวัด ได้แก่ กทม. ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และนครปฐม ซึ่งขณะนี้กระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างออกประกาศ คาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้เร็วๆ นี้

    หมายเหตุ ****ข่าวนี้เป็นข้อมูลเก่าค่ะ****




    </center></td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2010
  5. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    2ล้านหลังในกทม.สุ่มเสี่ยงทรุด เหตุออกแบบไม่ต้านแผ่นดินไหว

    <!-- Row 1 -->ผู้จัดการรายวัน-กรมโยธาฯสร้างเกาะป้องกันอาคารทรุดและ ถล่มในไทย หลังได้รับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวจากประเทศเพื่อนบ้านถี่ขึ้น เร่งผลักดันกฎกระทรวงควบคุมอาคารแก้ไขฉบับที่ 49 บังคับใช้ให้ทันรัฐบาลชุดนี้ ด้านรมช.มหาดไทยยอมรับ บ้าน-อาคารสูงในกรุงเทพฯเกือบ 2 ล้านหลังเสี่ยง เหตุไม่ได้ออกแบบไว้ต้านแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว นักวิชาการชี้แผ่นดินไหวในไทยไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกแล้ว แถมตึกสูงจำนวนไม่น้อยใช้เวลาออกแบบในเวลาสั้นมาก

    พลตำรวจโท ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในงานสัมมนาทางวิชาการเรื่อง "ประเทศไทยกับภาวะเสี่ยงภัยแผ่นดินไหว"วานนี้ (31 ต.ค.)ว่า แผ่นดินไหวมิใช่เรื่องใหม่ในประเทศไทย และเคยเกิดมาบ่อยครั้ง แต่สถานการณ์ปัจจุบัน การเกิดแผ่นดินไหวในประเทศเพื่อนบ้านบ่อยมากขึ้น จะมีผลต่อเนื่องมาถึงประเทศไทย อาคารตั้งแต่บ้านพักอาศัยจนถึงอาคารสูงขนาดใหญ่ตั้งแต่ 7 ชั้นขึ้นไปในกรุงเทพฯราว 2 ล้านหลัง เกือบทั้งหมด ไม่ได้ออกแบบไว้ต้านแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว ทั้งนี้ ยังไม่รวมถึงอาคารที่ก่อสร้างและต่อเติมอย่างผิดกฎหมายและไม่ได้มาตรฐานอีก จำนวนมาก ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มเสี่ยงหากเกิดแผ่นดินไหว แม้การเกิดแผ่นดินไหวระดับปานกลาง แต่ถ้าเกิดการสั่นสะเทือนติดต่อกันหลายครั้ง และครั้งละนานเกินหนึ่งนาที อาคารที่ไม่แข็งแรง อาจได้รับผลกระทบได้เช่นเดียวกัน

    นายสมชาย ชุมรัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า ล่าสุดทางคณะกรรมการควบคุมอาคาร ได้แก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงฉบับที่ 49 (พ.ศ. 2540) โดยเพิ่มเติมพื้นที่ควบคุมและจัดแบ่งเขตพื้นที่ใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 12 จังหวัด ปัจจุบันกฎกระทรวงดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และนำเสนอเรื่องให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงนามเพื่อออกเป็นกฎ กระทรวง และมั่นใจว่า กฎกระทรวงฉบับที่แก้ไขจะทันรัฐบาลชุดนี้

    "หากมีการประกาศกฎกระทรวงควบคุมอาคารฉบับแก้ไขแล้ว เชื่อว่า ภาคเอกชนหรือนักลงทุนจะมีเวลาในการปรับตัว และไม่ใช่ว่าจะบังคับทันที เพราะมีระยะดำเนินการให้อาคารการก่อสร้างใหม่ดำเนินการได้" นายสมชายกล่าว

    นายปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์ ศาสตราจารย์, ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหวและการสั่นสะเทือนภาควิชา วิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯกล่าวยอมรับว่า อาคารที่ออกแบบและก่อสร้างโดยไม่ได้มาตรฐานที่ดีพอ มีโอกาสที่จะเสียหายหรือพังทลายได้ หากเกิดแผ่นดินไหวขนาดกลางประมาณ 5.5 หน่วยริคเตอร์ขึ้นไป ใกล้ที่ตั้งอาคาร และแผ่นดินไหวขนาดนี้ ก็ได้เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยแล้ว

    "เป็นที่ทราบกันดีว่า ในระยะเวลาหลายปีในอดีต ได้มีการก่อสร้างอาคารในอัตราที่เร่งด่วน การออกแบบมากมายกระทำโดยรีบเร่ง โดยเจ้าของโครงการหวังจะรีบได้รับใบอนุญาต เพื่อไม่ต้องใช้กฎหมายที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ที่จะออกมาในภายหลัง ตึกสูงจำนวนไม่น้อยได้รับการออกแบบในเวลาสั้นมาก ขาดการตรวจสอบที่เพียงพอ บางครั้งยังไขงานผูกเหล็กเสริมไม่แล้วเสร็จก็เริ่มเทคอนกรีต เป็นต้น"นายปณิธานกล่าว

    รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย กล่าวถึงผลกระทบของแผ่นดินไหวระยะไกลต่ออาคารสูงในกรุงเทพฯว่า นอกเหนือจากบริเวณภาคเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือแล้ว บริเวณอีกแห่งหนึ่งที่มีความเสี่ยงต่อภัยแผ่นดินไหว คือ บริเวณที่ราบภาคกลางตอนล่าง ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงเทพฯและปริมณฑล ความเสี่ยงของบริเวณนี้ มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากบริเวณอื่น เพราะตั้งอยู่นอกพื้นที่แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว

    ดังนั้น ความเสี่ยงจึงมิได้เกิดจากแผ่นดินไหวในระยะใกล้ แต่เป็นผลมาจากแผ่นดินไหวในระยะไกล เช่น แผ่นดินไหวในประเทศพม่า ในทะเลอันดามันหรือในจ.กาญจนบุรี เป็นต้น เช่น เหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวันที่ 22 ก.ย.พ.ศ. 2546 ที่จุดศูนย์กลางอยู่ในประเทศพม่า ห่างจากทม.ประมาณ 850 กม.ได้ส่งผลกระทบต่ออาคารสูงในกทม.ที่รุนแรง จนทำให้อาคารสูงบางอาคารเกิดความเสียเล็กน้อย เช่น กำแพงอิฐบางตำแหน่งแตกร้าว
    ที่มา ผู้จัดการ


    หมายเหตุ ****ข่าวนี้เป็นข้อมูลเก่าค่ะ****
     
  6. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    ขออนุญาติแนะนำเพื่อนสมาชิก เว็ปพลังจิต

    ให้เข้าไปอ่านข่าวสารต่างๆ ที่มีประโยชน์ จากเว็ปหนึ่งที่ได้รวบรวมเรื่องราว

    .... แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด กับภัยพิบัติอื่นๆ......


    คลิ๊กด้านล่างนี้เลยค่ะ มีข้อมูลข่าวจากแหล่งข่าวต่างๆที่มีประโยชน์และน่าสนใจอยู่ 14 หน้าค่ะ

    http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?topic=361.0;wap2
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำเตือนให้ระวังภัยจากเครื่องบินตก

    ความฝันของหมอนิด

    เมื่อคืนวันที่ 11 ติดต่อรุ่งเช้าวันที่ 12 ม.ค. 53 ผม “ฝัน” ว่าเห็น เครื่องบินตกไฟลุกท่วม ในฝันนั้นผมเห็นชัดเจนทั้งการตกของเครื่องบินและชื่อของสายการบิน!? นี่ผมจะบ้าไปแล้วหรือนี่ ขอให้ทุกอย่างเป็นเพียงความฝันเท่านั้นก็พอ และอยากจะให้ทุกท่านกรุณาใช้สติในการอ่านบทความวันนี้ อีกทั้งอยากจะให้ทุกๆท่านกรุณาอย่าด่าผมเลย ผมไม่รู้ว่าทำไม...? อะไร? แต่ผมยังไม่บ้าครับ...

    ที่มา www.mornid.com

    คำทำนายของโหรโสรัจจะ นวลอยู่

    มกราคม 2553 การเมืองของไทยอาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อาจมีผู้คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง จะเกิดการผ่าตัดปฏิรูปหรือปฏิวัติตัวเองเป็นการใหญ่แบบพลิกแผ่นดินขึ้นในเมืองไทย เป็นระยะที่นายกรัฐมนตรีจักเป็นอันตราย คนสำคัญจะล่วงลับไป

    กรุงเทพฯจะถูกก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ ผู้คนล้มตาย สถานทูตและตึกรามบ้านช่องถูกทำลาย มีการตายหมู่จากเครื่องบิน รถยนตร์ จะมีเครื่องบินภายในประเทศตก

    ที่มา http://www.matichon.co.th/webmobile/readnews.php?newsid=1262256768&grpid=00&catid=no

    สื่อจากจิตจักรวาล โดย อ.ปริญญา ตันสกุล

    อาจมีเครื่องบินตก อีกครั้งในไทย ถ้าเกิดเหตุบนดินตายเป็น 100 ถ้าเกิดบนน้ำตาย 3 คน เดือน ม.ค. อาจเกิดจราจลกลางเมืองอีกครั้ง

    ที่มาถอดรหัสวันสิ้นยุค” รับสื่อจากจิตจักรวาลโดย อ.ปริญญา ครั้งที่ 155 ที่โรงแรมมิโด วันที่ 13 ก.ย. 2552
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2010
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    จีนหนาวจัดเป็นประวัติการณ์ ประชาชนเดือดร้อนกว่า 1.6 ล้านคน

    [​IMG]

    จีน 21 ม.ค.-อุณหภูมิที่หนาวจัดเป็นประวัติการณ์และพายุหิมะที่พัดถล่มพื้นที่ภาค เหนือของจีนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนเดือดร้อนกว่า 1.6 ล้านคน และบ้านเรือนนับแสนหลังพังเสียหาย

    ในเขตปกครองตนเองซินเจียง พายุหิมะที่พัดถล่มตั้งแต่ต้นสัปดาห์ทำให้อุณหภูมิลดลงถึงระดับลบ 43 องศาเซลเซียส ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งคร่าชีวิตชาวบ้านไปแล้ว 5 คน ปศุสัตว์กว่า 100,000 ตัว ตายเพราะความหนาว และบ้านเรือนอีกกว่า 100,000 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหายบางส่วนจากพายุหิมะ

    ในเขตเทือกเขาอัลไต ชาวบ้าน 150,000 คน อพยพจากบ้านเรือนหลังหิมะตกหนักจนมีความหนาเกือบ 1 เมตร ที่มณฑลชานตงอุณหภูมิลดลงต่ำสุดในรอบ 30 ปี ทำให้น้ำในอ่าวโบไห่กลายเป็นน้ำแข็งเกือบทั้งหมด

    ด้านหน่วยงานกาชาดสากลเผยว่า สภาพอากาศหนาวจัดกำลังทำให้ชนเผ่าเร่ร่อนในเขตมองโกเลียในได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และอาจทำให้ปศุสัตว์ตายลงถึง 2 ล้านตัว.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-21 04:10:49

    พบเด็กวัย 11 ปีรอดชีวิตอยู่ใต้ซากปรักหักพังในเฮติ

    [​IMG]

    ปอร์โตแปรงซ์ 21 ม.ค.-ชาวเฮติช่วยกันนำเด็กหญิงวัย 11 ปี และเด็กชายวัย 5 ขวบที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังที่เกิดจากแผ่นดินไหวนาน 8 วันขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย เพิ่มความหวังให้กับทีมกู้ภัยว่าอาจจะมีผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

    แพทย์กล่าวว่าไตของเด็กหญิงที่โชคดีผู้นี้ยังทำงานอยู่ แพทย์ค่อย ๆให้น้ำเกลือและอาหารที่จำเป็น ล่าสุดเธอเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่แลมเบิร์ต คลินิกในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เด็กผู้หญิงคนนี้นับเป็นรายล่าสุดที่รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ แต่เธอยังมีอาการขวัญเสียและร้องเรียกหาแต่มารดา

    ส่วนเมื่อวันอังคารเจ้าหน้าที่ได้นำตัวหญิงวัย 25 ปี ออกมาจากซูเปอร์มาร์เกตที่พังถล่มลงมาได้สำเร็จ แต่ที่สร้างความประหลาดใจคือพบสตรีวัย 70 ปี และทารกเพศหญิงอายุเพียง 23 วันรอดชีวิตอยู่ใต้ซากปรักหักพังของโบสถ์กรุงปอร์โตแปรงซ์.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-21 08:02:50

    เจ้าหน้าที่ช่วยหญิงชราออกจากซากโบสถ์ในเฮติ

    [​IMG]

    ปอร์โตแปรงซ์ 20 ม.ค. - เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นปาฏิหาริย์ ทันทีที่พบหญิงชรารอดชีวิต และยังร้องเพลงออกมาได้ระหว่างได้รับการช่วยเหลือออกจากซากโบสถ์ในเฮติ หลังผ่านภัยพิบัติแผ่นดินไหวมานานถึง 1 สัปดาห์เต็ม

    หน่วยกู้ภัยต่างปรบมือและร้องกอดกันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเม็กซิโกสามารถช่วยนางแอนนา ซีซี หญิงชราอายุประมาณ 69-70 ปี ออกจากซากตึกและเต็มไปด้วยฝุ่นคลุ้ง และนำตัวขึ้นรถไปยังโรงพยาบาลเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่มูลนิธิคริสเตียน เอด ของอังกฤษ กล่าวว่า เป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก และไม่คาดว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่ได้ ขณะที่สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐ ได้สัมภาษณ์ลูกชายของหญิงชราคนนี้ทันทีภายหลังจากที่หน่วยกู้ภัยช่วยเหลือแม่ของเขาออกมาได้

    การช่วยเหลือหญิงชรารายนี้ทำให้หน่วยกู้ภัยนับร้อยมีหวังว่าจะยังคงพบผู้รอดชีวิตในซากหักพังต่อไป เจ้าหน้าที่เฮติ กล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวขณะนี้มีจำนวน 75,000 คน แต่คาดว่าอาจมีผู้เสียชีวิตถึง 200,000 คน .-สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 10:49:33

    ทอร์นาโดถล่มสหรัฐ ออสเตรเลียเตรียมเจอพายุไซโคลน

    [​IMG]

    วอชิงตัน 21 ม.ค.-พายุทอร์นาโดพัดถล่มเมืองแห่งหนึ่งทางตะวันออกของรัฐเท็กซัสในสหรัฐ สร้างความเสียหาย มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน และอีกหลายคนถูกทับอยู่ใต้บ้านเรือนที่พังถล่ม

    เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินรีบรุดไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองวาสคอมไปทางตะวันตกไม่กี่กิโลเมตร ล่าสุดกำลังประเมินความเสียหายและจำนวนผู้ได้รับเคราะห์จากทอร์นาโดลูกนี้ ซึ่งมีรายงานจากสำนักพยากรณ์อากาศแห่งชาติของสหรัฐ ว่ามีประชาชนหลายคนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของบ้านเรือน

    ขณะเดียวกันมีรายงานจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียว่าพายุไซโคลน 2 ลูกเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งทางเหนือของออสเตรเลีย โดยพายุไซโคลน “แมกดา” กำลังเคลื่อนตัวจากมหาสมุทรอินเดียเข้าสู่ชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ทำให้เกิดลมกระโชกแรงวัดความเร็วได้ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่พายุไซโคลน

    “เนวิลล์” กำลังทวีความรุนแรงขึ้นที่ทะเลโครัล คาดว่าจะทำให้เกิดลมแรงและฝนตกหนักในชุมชนขนาดเล็กหลายแห่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลียในวันพรุ่งนี้.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-21 09:07:35

    จนท.ยุติการค้นหาผู้รอดชีวิตเหตุ รพ.พังถล่มในยูเครน

    [​IMG]

    ยูเครน 21 ม.ค.-เจ้าหน้าที่กู้ภัยยูเครนยุติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุพื้นหลายชั้น ของโรงพยาบาลทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศพังถล่ม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 คน

    การค้นหาผู้สูญหายยุติลงเมื่อวานนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากใต้ซากปรักหักพังออกมาได้ 4 คน เจ้าหน้าที่กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินประจำท้องถิ่นกล่าวว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองลูกันสก์ ห่างจากกรุงเคียฟไปทางตะวันออก 800 กิโลเมตร

    ขณะเกิดเหตุระเบิด มีผู้ป่วย 261 คน และเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ 350 คน อยู่ในโรงพยาบาล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 16 คน ส่วนสาเหตุของการระเบิดเกิดจากถังออกซิเจนภายในห้องฉุกเฉินหลายถังระเบิด ทำให้พื้นชั้นที่ 3 และ 4 ของอาคารพังถล่มลงมาที่ชั้น 2 ของอาคาร.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-21 03:11:13

    พายุทำให้ผลผลิตข้าวของฟิลิปปินส์ลดลงในปี 2552

    [​IMG]

    มะนิลา 20 ม.ค. – กระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์เปิดเผยวันนี้ว่า ผลผลิตข้าวของฟิลิปปินส์ลดลงมากกว่าร้อยละ 3 ในปีที่ผ่านมา หลังพายุหลายระลอกพัดถล่มทำลายผลผลิตทางการเกษตร

    รายงานระบุว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ผลผลิตข้าวลดลงคือ พายุโซนร้อนกิสนา และพายุไต้ฝุ่นป้าหม่า ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนมากกว่า 1,100 คนในเดือนตุลาคม และพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ขณะพัดถล่มเกาะลูซอน รายงานประจำปีของกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ระบุว่า เมื่อปีที่แล้วฟิลิปปินส์สามารถผลิตข้าวเปลือกได้ 16.26 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 3.31จากปี 2551 ขณะที่ ผลผลิตพืชผลอื่น ๆ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 46.8 ของผลผลิตทางการเกษตรทั้งหมด ลดลงร้อยละ 1.42 ในปีที่ผ่านมา

    เนื่องจากสภาพอากาศอันเลวร้ายและราคาปุ๋ยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ผลผลิตจากปศุสัตว์ สัตว์ปีก และสัตว์น้ำ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้ภาคการเกษตรโดยรวมเติบโตขึ้นร้อยละ 0.37 ส่วนผลผลิตส่งออกที่สำคัญของประเทศอย่างมะพร้าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.20 และกล้วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.74 เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกสำคัญไม่ได้รับอิทธิพลจากพายุดังกล่าว -สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 14:46:49

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เชิญชายไทยร่วมอุปสมบทหมู่ 1 แสนรูป แก้ปัญหาวัดร้างทั่วประเทศ

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 20 ม.ค. - นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีตัดปอยผมและโกนผมนาค จำนวน 500 คน ที่บริเวณลานกิจกรรมหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยนายวิรุฬ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “อุปสมบทหมู่ 1 แสนรูปทุกหมู่บ้านทั่วไทย” ซึ่งคณะสงฆ์ทั่วประเทศ และภาคีเครือข่ายกว่า 20 องค์กร ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อฟื้นฟูประเพณีการบวชของชายไทย ถวายเป็นพุทธบูชา แทนคุณแผ่นดินและพ่อแม่ รวมถึงยังเป็นการแก้ปัญหาวัดร้าง

    ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ล่าสุดพบว่ามีวัดร้างจำนวนถึง 5,937 วัดทั่วประเทศ โดยรับสมัครชายไทยที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป จบการศึกษาไม่ต่ำกว่าชั้น ป.6 มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อหรือติดยาเสพติด เข้าบวชและจำพรรษาในวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศกว่า 1,000 วัด โดยจะมีพิธีบรรพชาพร้อมกันในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ ณ วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ผู้สนใจยังสามารถรายงานตัวเพื่อร่วมบวชได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ภายในวันที่ 30 มกราคมนี้ หรือสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-831-1234 หรือทาง www.dmycenter.com. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 19:07:34

    สธ.เร่งบุคลากรฉีดวัคซีนป้องกันหวัด 2009 หลังพบการระบาด

    [​IMG]

    สำนักข่าวไทย 20 ม.ค. - ปลัด สธ. เตือนบุคลากรทางการแพทย์ให้เร่งฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 หลังพบสัญญาณเริ่มป่วยไข้หวัดใหญ่เป็นกลุ่มที่ จ.ชุมพร เผยมีบุคลากรอีกกว่า 300,000 คน ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ส่วนตัวเลขเสียชีวิตด้วยไข้หวัดใหญ่ 2009 เพิ่มอีก 2 ราย

    นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสัญญาณการแพร่ระบาดระลอก 2 ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยพบผู้ป่วยตามอำเภอและตำบลมากขึ้น และมีผู้ป่วยที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นในโรงพยาบาลต่าง ๆ ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ก็เริ่มป่วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นผู้ที่มีโอกาสติดเชื้อโรคสูงจากการดูแลรักษาผู้ป่วย และมีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป

    ล่าสุดที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ มีแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ประจำแผนกผ่าตัด ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 27 ราย ทยอยป่วยตั้งแต่วันที่ 11-19 มกราคม 2553 เป็นแพทย์ผ่าตัด 1 ราย ทีมที่ร่วมผ่าตัด 5 ราย และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ 21 ราย ในจำนวนนี้ได้สุ่มเก็บตัวอย่างเสมหะจากโพรงจมูกและลำคอ ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ 1 ราย พบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ผู้ป่วย 5 ราย ให้นอนโรงพยาบาล ที่เหลือให้หยุดพักที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ และปิดห้องผ่าตัดทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค ขณะนี้ควบคุมโรคได้แล้ว ให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ และให้ทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วของโรงพยาบาลดูแลเจ้าหน้าที่ทั้งแผนกผ่าตัดเป็นเวลา 3-4 สัปดาห์

    นพ.ไพจิตร์ กล่าวด้วยว่า ขอให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้แก่ กลุ่มแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วย เป็นกลุ่มที่ต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 และขึ้นทะเบียนไว้ 371,424 คน ให้เร่งฉีดวัคซีนดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อป้องกันอาการป่วยและสามารถให้บริการผู้เจ็บป่วยได้ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่กันมาก จะกระทบต่อการให้บริการรักษาดูแลผู้เจ็บป่วย เนื่องจากขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขขาดแคลนอยู่แล้ว ข้อมูลล่าสุดตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2553 จนถึงวันนี้ มีแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 11,189 คน

    นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ในรอบวันที่ 11-17 มกราคม 2553 พบผู้ป่วยรายใหม่ยืนยัน 101 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย เป็นหญิง 1 ราย อายุ 37 ปี จาก จ.เชียงใหม่ ไปโรงพยาบาลช้า อีกรายเป็นชายอายุ 82 ปี จาก จ.พระนครศรีอยุธยา มีโรคประจำตัว คือ ถุงลมโป่งพอง ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ สรุปจนถึงขณะนี้ไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 สะสมทั้งหมด 198 ราย จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทุกคนรีบไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน และผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด 2 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล

    “สถานการณ์ที่มีโรคไข้หวัดใหญ่ระบาดเป็นกลุ่ม มีผู้ป่วยหลายคนพร้อมกัน เช่น การระบาดในโรงเรียน โรงพยาบาล โรงงาน สิ่งที่ต้องทำ คือ ให้รีบแยกผู้ป่วย ให้หยุดพักงาน ทำการเฝ้าระวังสอบสวนโรค ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสและเครื่องใช้ประจำวันโดยเร็ว สำหรับผู้ป่วยโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีอาการรุนแรง ให้สังเกตอาการและให้การรักษาอย่างรวดเร็ว รณรงค์ให้ใส่หน้ากากอนามัยและล้างมืออย่างสม่ำเสมอ ตรวจคัดกรองผู้ที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่อย่างต่อเนื่อง หากพบผู้ป่วยให้หยุดพักงานทันที” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 15:38:21

    ก.เกษตรฯ สั่งทำลายนาข้าว 500,000 ไร่เพื่อกำจัดเพลี้ยกระโดด

    [​IMG]

    กระทรวงเกษตรฯ 18 ม.ค.- กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งทำลายนาข้าว 500,000 ไร่ เพื่อกำจัดเพลี้ยกระโดด และโรคใหม่ที่เพลี้ยเป็นพาหะ เพราะไม่มียากำจัดได้

    นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการระบาดของเพลี้ยกระโดดว่า ล่าสุดได้มีความพยายามพ่นยาทำลายไปแล้ว 2 รอบ พื้นที่ 2.3 ล้านไร่ แต่มีพื้นที่ประมาณ 500,000 ไร่ ที่ยังวิกฤติอยู่ เช่น พิษณุโลก อุทัยธานี กำแพงเพชร และสุพรรณบุรี เนื่องจากพบโรคที่เพลี้ยเป็นพาหะ (คือโรคเขียวเตี้ยและโรคจู๋) กลับมาระบาดใหม่อีกครั้งในรอบ 20 ปี และไม่มียากำจัดได้ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการทำลายต้นข้าวในแปลงนา และไถกลบเพื่อหยุดปลูกข้าวอย่างน้อย 30 วัน

    ซึ่งจะสามารถตัดวงจรระบาดของเพลี้ยได้ โดยให้เกษตรกรปลูกพืชตระกูลถั่วทดแทน ก่อนปลูกข้าวพันธุ์ต้านทานเพลี้ย เช่น สุพรรณบุรี 60 ส่วนการรับเงินชดเชยจะได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 600 บาทต่อไร่ ใช้งบประมาณราว 320 ล้านบาท ซึ่งจะนำเรื่องเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-18 14:02:10

    ยันเบอร์มือถือลึกลับเป็นเพียงข่าวลือ-ไม่มีผู้เสียชีวิต

    [​IMG]

    ลำปาง, เชียงใหม่ 20 ม.ค. – เจ้าหน้าที่วอนประชาชนใช้วิจารณญาณ อย่าหลงเชื่อข่าวลือรับสายเบอร์มือถือลึกลับแล้วเสียชีวิต ยันตรวจสอบแล้ว คาดเป็นแผนปล่อยข่าวตัดคู่แข่งทางการค้า

    นายชำนาญ เลียบโลก นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หัวเมือง อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เปิดเผยกรณีมีข่าวสร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชนที่ใช้โทรศัพท์มือถืออย่างมากทั่วทั้งภาคเหนือมานานเกือบ 2 สัปดาห์ ว่า ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.หัวเมือง เข้าพื้นที่สำรวจ 10 หมู่บ้าน โดยเฉพาะบ้านไร่ ม.4 ต.หัวเมือง เพราะมีข่าวสะพัดอย่างมากว่ามีผู้เสียชีวิตกว่า 5 ราย หลังจากรับหมายเลขลึกลับในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดแล้ว พบว่า เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น จึงขอให้ประชาชนควรใช้วิจารณญาณในการรับฟัง อย่าหลงเชื่อโดยไม่รู้ที่มาที่ไป ซึ่งเรื่องนี้จะรายงานไปยังฝ่ายปกครองของอำเภอเมืองปานว่าไม่มีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ เพื่อที่ทางอำเภอจะได้รายงานไปยังจังหวัด

    ด้านทันตแพทย์สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ กล่าวว่า ไม่น่าเป็นความจริงที่มีผู้เสียชีวิตจากการใช้โทรศัพท์มือถือ จากการตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลชุมชนต่าง ๆ ทั่วทั้งจังหวัด ไม่มีรายงานการเสียชีวิตที่ผิดปกติ หากมี ต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบสวนโรคให้ชัดเจน ดังนั้น ประชาชนควรใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลข่าวสาร สิ่งที่เกิดขึ้นที่อาจเป็นไปได้ว่าผู้ตายอาจมีโรคประจำตัวแล้วเสียชีวิตขณะใช้โทรศัพท์ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นการปล่อยข่าว เพื่อหวังทำลายคู่แข่งทางการค้า.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 17:20:27

    ทหารราชบุรียึดคืนผืนป่านายทุนบุกรุกกว่า 100 ไร่

    [​IMG]

    ราชบุรี 20 ม.ค.- พ.อ.ทนงศักดิ์ มหาวงษ์ รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารราบค่ายทัพพระยาเสือ อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี พร้อม ร.ต.สงวน ศรีหาคำ ผู้บังคับหมวดราชบุรีที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจทหารราบค่ายทัพพระยาเสือ นำกำลังเข้าตรวจสอบภูเขาบ้านท่ามะขาม หมู่ 2 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง

    หลังได้รับเบาะแสนายทุนเข้าบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อทำการเกษตร และว่ามีเครื่องจักรขนาดใหญ่ทั้งรถไถ รถแทรกเตอร์ และรถแบกโฮ เข้าไปปรับพื้นที่ป่าสงวนฝั่งซ้ายแม่น้ำลำภาชี ซึ่งเป็นป่าไม้ที่สมบูรณ์ และมีต้นไม้ใหญ่ถูกตัดโค่นเป็นบริเวณกว้าง นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ติดกันคาดว่าเป็นนายทุนคนเดียวกันเข้ามาบุกรุกเสียหายกว่า 100 ไร่ ทางหน่วยเฉพาะกิจทหารราบค่ายทัพพระยาเสือได้แจ้งให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งหมดเข้ามาตรวจสอบ เพื่อตรวจยึดไว้ก่อน และตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ถือครองอีกครั้งว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-20 15:47:19

    สุเทพ ระบุกรณียิงปืนใส่ห้อง ผบ.ทบ.เป็นความพยายามแสดงศักยภาพ

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 21 ม.ค. - รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีมีผู้ยิงปืนเอ็ม 79 ใส่ห้องผู้บัญชาการทหารบก เป็นความพยายามของคนบางกลุ่มที่ต้องการแสดงศักยภาพว่าอยู่เหนือกฎหมาย

    นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงเหตุผู้ไม่หวังดียิงปืนใส่ห้อง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก มั่นใจการทำงานของกองทัพมีเอกภาพ และจะไม่ยอมให้ใครใช้อำนาจอยู่เหนือกฎหมาย ขอให้ประชาชนอย่างวิตกกังวล รัฐบาลดูแลความปลอดภัยได้

    ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะไปชุมนุมที่ต่าง ๆ ควรทบทวนท่าที หากทำอะไรไม่เหมาะสม ประชาชนจะไม่ยอมรับ และผลลัพธ์จะย้อนกลับมาที่กลุ่มคนเสื้อแดง และอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-21 10:13:33

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    19 ม.ค. 53

    กฏเหล็ก

    ผมมีเพื่อนบ้านที่เคยขึ้นไปช่วยทำรางน้ำที่วัดบนภูเขา ในอำเภอเชียงคาน
    จังหวัดเลย เพื่อนคนนี้ ตอนแรกคิดจะซื้อที่ดินพร้อมผม โดยซื้อ 1ไร่ แล้วแบ่ง
    คนละครึ่ง ต่อมาก็คิดว่าจะซื้อเอง 1ไร่ แล้วก็ 2ไร่ สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อสักไร่

    ผมจึงชวนมาอยู่ในที่ผม โดยช่วยออกเงินค่าของของครอบครัวตัวเองและ
    ส่วนรวม เพื่อนคนนี้ก็คิดเหมือนปุถุชนทั่วๆไป คิดว่าซื้อของเข้าที่ดินผม เขาจะ
    เสียเปรียบ ทั้งที่ผมเคยพูดเสมอว่า เมื่อปลอดภัยแล้วใครอยากจะย้ายออกไป
    อยู่ที่อื่น ก็นำเอาของเหล่านี้ไปได้ เพราะเป็นเงินของท่าน

    เมื่อเพื่อนผมคิดเช่นนี้ ก็ไปเสาะหาพื้นที่ใหม่ ไปได้วัดแถวจังหวัดอุทัยธานีแล้วก็
    มาเล่าให้ผมฟัง ผมก็แสดงความยินดีด้วย และได้พูดทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าหาที่อยู่ไม่
    ได้ก็กลับมาหาผมได้ ผมยินดีต้อนรับเสมอ ปรากฏว่า ใครที่จะอยู่วัดนี้ ต้องช่วย
    ออกเงินสร้างห้องน้ำหรือศาลาให้กับวัด ห้ามถาม ห้ามไปอยู่ก่อน

    ที่ผมเขียนมาให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบ มิใช่จะประจานเพื่อนคนนี้ ผมเขียนมา
    เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบว่า ท่านที่จะไปหลบภัยอยู่กับสายไหนก็แล้วแต่ ท่าน
    ต้องไปช่วยเขาออกเงิน ซื้อหรือสร้างในสิ่งจำเป็นในที่นั้นๆที่ยังขาดอยู่ ท่านไป
    ตัวเปล่าไม่ได้ ถ้าท่านไปท่านและครอบครัวก็จะลำบาก อีกทั้งยังไปสร้างปัญหา
    ให้กับคนในพื้นที่

    หลังจากที่เพื่อนคนนี้ได้รู้จากผมว่า ช่วงสงกรานต์ที่จะถึง ผมจะขึ้นไปทำงานที่
    ฐานฯต่อ ก็อยากจะตามไปเที่ยวด้วย แสดงว่าเพื่อนคนนี้กำลังจะกลับใจมาหา
    ผมอีก ผมก็ไม่ว่าอะไร

    ในตอนแรกคิดว่าช่วงสงกรานต์ ผมจะขึ้นไป เดินท่อน้ำเชื่อมระหว่างโอ่งน้ำ
    12ใบ ที่ได้ซื้อวางไว้แล้ว ทำหลังคารองรับน้ำฝนไว้เหนือโอ่ง 12ใบ ส่วนบ่อ
    เก็บมูลคน 12บ่อ ที่ผมได้ฝากเงินกับเจ้าของที่ดินที่ผมซื้อไว้ให้ช่วยดูแลให้ คง
    ทำเสร็จแล้ว และขึ้นไปครั้งนี้ก็จะไปซื้อแผ่นอิฐหล่อสำเร็จรูปไปวางไว้ตาม
    ตำแหน่งสำหรับผู้ที่จะตามไปอยู่ได้วางเต็นท์นอน เที่ยวนี้ขึ้นไปผมจะถ่ายรูป
    มาลงให้ดูในเว็บฯ

    ผมได้คุยกับผู้ที่จะอาสาขับรถส่วนตัวของตัวผู้อาสาเองขึ้นไปในเที่ยวนี้ ว่าผม
    ยังต้องหาเงินมาซื้อท่อน้ำประปา เดินจากหมู่บ้านมาที่ฐาน ความยาวเป็น
    กิโลเมตร จะต้องใช้เงินอีกหลายหมื่น ผู้อาสาก็เสนอแนะให้ผมจ้างคนมาขุด
    เจาะน้ำบาดาลแทนการเดินท่อ ผมคิดว่าเป็นข้อเสนอที่ดีมาก ผมจึงได้เปลี่ยน
    แผนการทำงานโดยเอาเงินที่จะสร้างหลังคาและซื้อแผ่นอิฐมาทำตรงนี้ก่อน

    ผมได้แจ้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงการทำงานครั้งนี้ไปยังท่านสมาชิกที่ได้เข้าร่วม
    กับผมได้ทราบพร้อมกับขอความเห็นและขออนุญาต ท่านสมาชิกทุกท่านก็เห็น
    ดีด้วยทุกท่าน ดังนั้น ถ้าผมติดต่อช่างขุดเจาะน้ำบาดาลได้ก่อน ผมอาจจะต้อง
    ขึ้นที่ฐานฯ ก่อนเดือนเมษายน ถ้าช่วงนั้นมีสมาชิกอยากจะขึ้นไปดูความก้าว
    หน้าของฐานก่อน ผมก็จะขึ้นไปเชื่อมระบบน้ำและจะเตรียมเครื่องปั่นไฟ ที่ผม
    ได้ซื้อมาใช้ราว 3ปีมาแล้ว ถังแก็สที่เป็นเชื้อเพลิงของเครื่องปั่นไฟและปั้มน้ำ
    ผมจะนำขึ้นไปต่อเข้าระบบ ดึงน้ำเข้าโอ่ง 12ใบ เก็บกักน้ำเพื่อเที่ยวต่อไปจะได้
    ทำความสะอาดโอ่ง




    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>
     
  11. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================

    20 ม.ค. 53

    น่าเศร้าจัง--------เฮติยัง----------โกลาหล
    หมู่มวลชน--------ปล้นจี้ฆ่า--------น่าอดสู
    เป็นเพราะขาด-----น้ำ อาหาร-------มาค้ำชู
    รอเอ็นดู----------จากชาวโลก------ผู้ใจบุญ



    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2010
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    Bible Code ปี 2010 จุดเริ่มต้นสู่จุดสิ้นสุด?

    [​IMG]

    ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า Bible Code นั้น ไม่ใช่หลักคำสอนในพระคัมภีร์ หรือไม่ใช่ประเด็นหลักในทางศาสนศาสตร์ หรือหลักวิชาเชิงศาสนา ไม่ใช่ปรัชญา และไ่ม่ใช่ข้อมูลอ้างอิง เป็นการตีความพระคัมภีร์จากบางกลุ่ม ที่เชื่อว่า สิ่งที่ดาเนียลได้กล่าวไว้นั้นได้ถูกนำมาเปิดเผย

    ในยุคปัจจุบันซึ่งก้าวหน้า้ด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ที่หาคำและเงื่อนไขบางอย่างออกมา
    นำมาเสนอแล้วแต่ว่าใครจะเชื่อหรือไม่ ในทางคณิตศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า Bible code นั้นไม่มีทางเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะความน่าจะเป็นของโค้ดคำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น น้อยเสียยิ่งกว่าโอกาสถูกรางวัลที่หนึ่งด้วยซ้ำไป แต่ก็ไม่ได้หมายความมันถูกหรือเป็นจริง ที่เหลือจึงเป็นความเชื่อหรือไม่เชื่อแค่นั้น ก็จะนำเสนอให้ท่าน ๆ ได้รับรู้กัน เชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ ไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียด

    เพราะหากมันเกิดจริงนั่น ก็หมายความคือจุดเริ่มต้นของวาระสิ้นสุด 2010-2017 อย่างที่หลายคนคาดกัน หนึ่งในการคาดการณ์นั้นมาจากหนังสือ "สวรรค์นั้นเป็นจริง" ของ ชู โทมัส ที่ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ Rapture ก่อนที่พระเยซูจะกลับมาหรือสิ้นโลก โดยเธอได้เห็นภาพเหตุการณ์อนาคตซึ่งเกิดตอนที่หลานสาวของเธอเป็นวัยรุ่น

    ซึ่งขณะที่เริ่มเขียนหนังสือในปี 1998 หลานสาวยังเด็กอยู่อายุไม่ึถึง 10 ขวบ ก็ได้่่ว่านับจากเวลานั้นมาก็ประมาณอีก 10 ปีเศษ ๆ หรืออยู่ช่วง 2010-2017 และเกิดความวุ่นวาย และภาพของความวุ่นวาย เอะอะโวยวายของพวกคริสเตียน อาจารย์ ที่ไม่ถูกรับไปเพราะพวกเขาคิดว่าคงอีกนาน "หลายสิบปี" กว่าพระเยซูจะกลับมาจึงไม่เตรียมตัว และนักพยากรณ์คำทำนายส่วนใหญ่วันนี้ก็คาดกันว่าคงอีกอย่างน้อย 20-30 ปีขึ้นไปนับจากปี 2010 ที่พระเยซูจะกลับมา ก็น่าจะคาดได้ว่า หรืออาจเป็นได้ว่า โลกจะสิ้นสุดในช่วงนี้จริง ๆ แต่ไม่รู้เวลาเจาะจงแน่นอน แต่โดยส่วนตัวไม่เชื่อ Bible code มาดูกันเล่น ๆ

    1. เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ช่วงปลายปี ค.ศ. 2010-2011

    2. อุกกาบาตตกที่มหาสมุทรแอตแลนติก เกิดคลื่นยักษ์ 1,000 ฟุตถล่มชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก และตกที่ California , Utah และ western Nevada. ทำให้แกนโลกเึคลื่อนไป 5 องศา

    3. แผ่นดินไหวใหญ่ ที่ LA California จนเปลือกโลกแตก และแอ่งภูเขาไฟยักษ์เยลโล่สโตนระเบิด

    4. อาจเกิดการ Rapture คริสเตียนหายไปในช่วงระหว่าง 2010-2011


    จากคุณ 1p2m เขียนเมื่อ 26 ธ.ค. 52 05:50:28

    ที่มา http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y8698517/Y8698517.html<!--MsgIP=0--><!--MsgFile=0-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ป้ายโฆษณาที่ตรงใจคนไทยหลายๆคน

    [​IMG]

    สังคมไทย หยุดนิ่งไม่พัฒนามา 2-3 ปี แล้ว เพราะติดไฟเหลืองกับไฟแดง จนเพื่อนบ้านแซงหน้าประเทศไทยไปหมดแล้ว นับเป็นความโชคร้ายของประเทศไทยโดยแท้ คนไทยส่วนใหญ่ อยากเห็นไฟเขียว ที่จะเปลี่ยนผ่านบ้านเราไปสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง

    เป็นที่รับรู้ของคนในแวดวงการตลาดและโฆษณาว่า ป้ายโฆษณายักษ์ที่ตั้งอยู่อยู่ ข้างๆกับตึกของ "ประกิต โฮลดิ้ง" ริมทางด่วน บางนา (สุขุมวิท 62 ) นั้นเป็นป้ายโฆษณาที่มีไว้สำหรับโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในเชิงสร้างสรรค์สังคมในโอกาสต่างๆ

    และที่ฮือฮาจนกลายเป็นที่รับรู้ของสังคมคือ โฆษณาชุดเมาไม่ขับ ที่ทำเป็นรูปป้ายทางด่วน ใช้ตัวอักษรคล้ายของจริง เปลี่ยนชื่อ "ยมราช" เป็น "ยมโลก" จาก "ดาวคะนอง" เป็น "เมาคะนอง" จาก "แจ้งวัฒนะ" เป็น "แจ้งมรณะ"

    ล่าสุด ได้นำเสนอป้ายโฆษณาสร้างสรรค์สังคมในอีกโอกาสหนึ่ง ด้วยการนำเสนอป้ายโฆษณาที่มีไฟสัญญาณจราจรเพียง 2 สีเท่านั้น คือ "ไฟสีแดง" และ "ไฟสีเหลือง" พร้อมระบุข้อความว่า "ชาตินี้ไม่ต้องไปไหน" พร้อมคำขอร้องต่อว่า...เพื่อพ่อ ให้ชาติไปต่อเถอะครับ

    เพราะถ้าสัญญาณไฟของประเทศไทยมีแค่ไฟ 2 สี ประเทศชาติก็จะไปไหนไม่ได้สักที ติดอยู่กับ "2 สี" นี้แหละ

    โฆษณาชิ้นนี้ "ประกิต อภิสารธนรักษ์" บอสใหญ่ค่ายประกิตฯ นักโฆษณารุ่นเก๋า และต้นฉบับโฆษณาเพื่อสังคมในยุคแรกๆ บอกว่า ได้ติดตั้งมาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งคนที่ผ่านไปผ่านมาก็โทรเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเยอะมาก โดยเฉพาะคนที่รู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ทางการเมืองไทยมานาน

    เป็นการสื่อความหมายที่เชื่อว่าตรงใจคนไทยหลายๆคน รวมทั้งผมด้วย..หวังว่าทุกคนที่นี่คงจะเห็นด้วยนะครับ !!!

    โพสต์โดย Hotdevilmean วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2010, 10:04 น

    ที่มาhttp://webboard.news.sanook.com/forum/3022151.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2010
  14. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    **ถ้าข้อความไม่เหมาะสมช่วยแจ้งให้ทราบด้วยนะคะ**
    ======================================

    21 ม.ค. 53

    ฝันดี...ฝันร้าย

    จะดีใจ-----------หรือเสียใจ----------อะไรแน่?
    เมื่อแม้วแห่-------จากเมืองเหนือ------ลงเมืองหลวง
    เที่ยวประกาศ-----ผมมาแล้ว----------มิได้ลวง
    ดูช่วงช่วง--------ที่บ้านเกิด-----------เพลิดเพลินใจ

    ผมถามว่า--------ท่านมาดี--------หรือมาร้าย
    มาค้าขาย--------สินค้าใด--------อะไรบ้าง?
    ดูโป้งป้าง--------ไม่เข้าท่า--------ไม่น่าซื้อ
    ต้องรีบตื่น--------ลุกขึ้นมา--------ปิดฉากดู


    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2010
  15. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6994 ข่าวสดรายวัน


    สึนามิยักษ์ ถล่มไทยอีกครั้ง!?!

    หมุนก่อนโลก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]




    </TD></TR></TBODY></TABLE>จันทร์ที่ผ่านมา หน้าต่างประเทศ "ข่าวสด" รายงานข่าวเกี่ยวกับภัยคลื่นยักษ์ "สึนามิ" ไว้ว่า

    ศ.จอห์น แม็กคลอสกี จากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยอัลสเตอร์ ไอร์แลนด์เหนือ เตือนว่า

    ในอนาคตอันใกล้ มีโอกาสเกิดเหตุสึนามิครั้งใหญ่อีกครั้งใน "ทะเลอันดามัน" ซ้ำรอยโศกนาฏกรรมสึนามิ 26 ธันวาคม 2547

    จุดที่อาจโดนถล่มหนักสุด คือ "เมืองปาดัง" บนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย

    ถัดมาไม่กี่วัน ก็มีสื่อบางสำนักพาดหัวตัวไม้บนเว็บไซต์ ว่า ดร. สมิทธ ธรรมสโรช อดีตผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ฟันธง...

    กลางปีนี้ไทยจะโดนสึนามิซัดอีกระลอก ทำให้คนอ่านข่าวตกอกตกใจยกใหญ่!

    จากการโทรศัพท์ไปสอบถามย้ำกับดร.สมิทธให้ชัดๆ ว่า ตกลงข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่...ท่านยืนยัน...

    ไม่เคยพูดว่าสึนามิจะถล่มไทยช่วงกลางปี!

    แต่บอกไปแค่ "งานวิจัย" ของ ศ.แม็กคลอสกี กับนักวิจัยญี่ปุ่นออกมาตรงกัน ดังนั้น จึงเป็นไปได้ที่จะเกิดสึนามิครั้งใหญ่ในทะเลอันดามัน และส่งผลกระทบต่อ "6 จังหวัดภาคใต้" ของไทยเหมือนเมื่อปี 2547

    จุดอันตรายยิ่งขึ้นก็คือ การเกิดพิบัติภัยระลอกใหม่นี้ จะมีจุดกำเนิดห่างจากไทยแค่ 300-400 กิโลเมตร!

    ต่อข้อสงสัย "กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี" ซึ่งตั้งอยู่ตรงจุดรอยเลื่อนแผ่นดิน วันข้างหน้าจะต้องเผชิญธรณีพิโรธรุนแรงโดยไม่คาดฝันเหมือน "เฮติ" หรือไม่

    ดร.สมิทธ อธิบายว่า การเกิดแผ่นดินไหว ไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนในโลกคาดการณ์วันเวลาถูกต้อง

    สิ่งที่พอทำได้มากที่สุด คือ คาดการณ์ความน่าจะเป็น ส่วนจะถูก-ผิดแค่ไหน ยังไม่มีใครรู้ล่วงหน้าได้

    "การเกิดแผ่นดินไหวนั้นไม่มีใครรู้ล่วงหน้า ยกตัวอย่างแผ่นดินไหวเฮติ มีการวิเคราะห์ว่าจะเกิดในอีก 10-100 ปีข้างหน้า แต่กลับเกิดตอนนี้ ผมเห็นด้วยกับคำทำนายของนักวิจัยม.อัลสเตอร์และญี่ปุ่น เพราะมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีก แต่ผมบอกไม่ได้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่และรุนแรงเพียงใด

    "ที่สำคัญผมไม่เคยบอกว่าจะเกิดสึนามิซัดภาคใต้ของไทยกลางปีนี้ เพราะปรากฏการณ์ธรรมชาติเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ที่เราสามารถทำได้คือเตรียมตัวว่า ถ้าเกิดเหตุขึ้นจริงๆ เราจะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร" ดร.สมิทธ ท่านสรุปไว้อย่างนั้น

    ทึ่ง!พบ"นกพงปากยาว" ครั้งที่3ในโลกโผล่อัฟกาฯ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]



    </TD></TR></TBODY></TABLE>วงการนักดูนกตื่นตะลึงกับการพบ นกพงปากยาว (Large-billed reed warber) เจ้าของฉายา "นกซึ่งเป็นที่รู้จักน้อยที่สุดในโลก" ที่อัฟกานิสถาน หลังมีผู้พบเห็นครั้งแรกที่อินเดียเมื่อปี 2410 หรือเมื่อ 143 ปีก่อน และพบครั้งที่ 2 ในปี 2549 ที่แหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี ในไทยนี่เอง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ของโลก ซึ่งทำให้มีความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับนกชนิดนี้อีกมาก เพราะก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับนกนี้เลย

    นักวิจัยจากสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (ดับเบิลยูซีเอส) และมหาวิทยาลัยโกเตนเบิร์กของสวีเดนร่วมกันสำรวจนกและพื้นที่ผสมพันธุ์ที่ "วาคาน" อันเป็นพื้นที่ห่างไกล เต็มไปด้วยหินทางตะวันออกเฉียงเหนือของอัฟกานิสถานและอยู่ห่างไกลจากพื้นที่สู้รบ โดยนายโรเบิร์ต ทิมมินส์ จากดับเบิลยูซีเอส สำรวจนกในบริเวณดังกล่าวและได้ยินเสียงนกร้องที่เป็นเอกลักษณ์จึงบันทึกเสียงไว้และตรวจสอบกับตัวอย่างในพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งอนุกรมดีเอ็นเอจึงพบว่า เป็นนกพงปากยาว จากนั้น คณะวิจัยจึงกลับไปที่เดิมอีกและเปิดเสียงนกที่เคยบันทึกไว้ล่อให้นกออกมาและจับไปตรวจสอบได้ถึง 20 ตัว ซึ่งมากที่สุดในประวัติการณ์

    สำหรับวาคานเป็นพื้นที่ปลอดสงครามในอัฟกานิสถาน ซึ่งยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2522 หลังสหภาพโซเวียตบุกรุกและยังเป็นที่อยู่อาศัยของเสือดาวหิมะและแกะมาร์โคโปโลด้วย

    ค้าสัตว์ป่าทางเน็ตเฟื่อง มะกันสูงสุด 15 ล.บาท/ปี



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]



    </TD></TR></TBODY></TABLE>อินเตอร์เน็ตมีประโยชน์มากในการติดต่อสื่อสารของโลก แต่ขณะเดียวกันกลายเป็นช่องทางสำคัญที่ปลุกธุรกิจค้าสัตว์ป่าเถื่อนให้เฟื่องฟู เพราะผู้ค้าใช้หลีกเลี่ยงกฎหมาย และการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ได้

    เกรซ กี ผู้อำนวยการกองทุนเพื่อสวัสดิการสัตว์ป่าภูมิภาคเอเชีย (ไอเอฟเอดับเบิลยู) กล่าวในการประชุมเอเชียเพื่อสัตว์ 2553 ที่สิงคโปร์ ว่า เว็บไซต์ต่างๆ โฆษณาขายของต่างๆ เช่น นอแรด หนังเสือดาว ลูกเสือและการลักลอบขายสัตว์ป่าเถื่อนทำได้รวดเร็วและไร้ร่องรอยโดยมีอินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญ ผลการเก็บข้อมูลของกองทุนเป็นเวลา 3 เดือนในปี 2551 ใน 11 ประเทศ รวมทั้ง สหรัฐ จีน ออสเตรเลีย และหลายประเทศในสหภาพยุโรป พบว่าการค้าสัตว์ป่าและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าเถื่อนบนอินเตอร์เน็ตในปี 2551 มีจำนวนมหาศาล มีโฆษณาขายสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์บนอินเตอร์เน็ตหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าหายากถึง 7,122 แห่ง โดยสหรัฐ มีผู้กระทำผิดมากที่สุดเพราะมีโฆษณาเหล่านี้ถึงร้อยละ 70.5 ตามมาด้วยอังกฤษ ร้อยละ 7.7 และจีนร้อยละ 7.6 ส่วนมูลค่าการค้าคาดว่าสูงกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าที่แท้จริงคงสูงกว่านี้มากอย่างแน่นอน

    สีกาตีหัวพระยับ-ทำอนาจารโชว์ลูกสาว

    เย็บ30เข็ม แฉบุกบ้าน หื่นใส่ดญ.



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    อนาจาร - พระประทวน ชัยมี อายุ 57 ปี พระวัดสามบัณฑิต อ.อุทัย จ.พระนครศรี อยุธยา แอบเข้าไปทำอนาจารด.ญ.วัย 12 ปีในบ้านพักจนโดนแม่ของเหยื่อใช้กระบองฟาดหัวจนเลือดอาบต้องหามส่งโรงพยาบาล




    </TD></TR></TBODY></TABLE>สาวใหญ่ต้องเป็นผู้ต้องหาทำร้ายพระบาดเจ็บสาหัส ได้ส.อบจ.รุดมาช่วยประกันตัวให้ ออกมาเปิดฉากแฉ ยอมรับทำร้ายพระจริง ใช้กระบองตีหัว 3 ทีจนเลือดอาบหน้า เพราะบุกเข้าไปบ้านตอนค่ำ สำเร็จความใคร่ให้ลูกสาวอายุ 12 ดูต่อหน้า ระบุก่อนหน้านี้แค่เดือนเดียวก็เพิ่งมาชวนลูกสาวไปร่วมเพศ พอไม่เล่นด้วยก็งัดเจ้าโลกออกมาสำเร็จความใคร่เช่นเดียวกัน ทางด้านพระคนเจ็บหมอเย็บไปถึง 30 เข็ม อ้างปวดหัว จำเหตุการณ์ไม่ได้

    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ม.ค. นายชีวิน ปิยะทัศน์ศรี ส.อบจ.พระนครศรีอยุธยา เขต อ.อุทัย เข้ายื่นหลักทรัพย์จำนวน 30,000 บาท ต่อ ร.ต.อ.พุฒิพงศ์ อินธาระ พนักงานสอบสวน สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อขอประกันตัวนางบุญธรรม ทรัพย์เย็น อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/3 ม.8 ต.สามบัณฑิต อ.อุทัย หลังถูกตำรวจจับกุม ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็น เหตุอันตรายแก่ร่างกาย โดยนางบุญธรรมใช้ไม้กระบองยาว 1 ฟุต ตีหัวพระประทวน ชัยมี อายุ 57 ปี พระลูกวัดวัดสามบัณฑิต จนบาดเจ็บ เหตุ เกิดเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 20.00 น. ภายในบ้านเลขที่ 33/2 ม.8 ต.สามบัณฑิต ของนางบุญธรรมเอง หลังตรวจสอบเอกสารเจ้าหน้า ที่ตำรวจอนุญาตให้ประกันตัวออกไป

    นางบุญธรรมเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงเวลา 20.00 น. วันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา พระประทวนเดินออกมาจากวัด เพื่อมาซื้อบุหรี่ที่ร้านค้าริมถนน ข้างบ้านตนและพี่สาวที่ปลูกติดกัน โดยลูกสาวชื่อ ด.ญ.เปิ้ล (นามสมมติ) อายุ 12 ปี นอนเล่นอยู่ในบ้านของพี่สาวเพียงลำพัง ระหว่างนั้นมีคนมาบอกว่าเห็นพระประทวนเดินเข้าไปในบ้านของพี่สาว ตนตกใจมาก เพราะไม่ไว้ใจพระประทวนอยู่แล้ว เนื่องจากเมื่อประ มาณ 1 เดือนที่ผ่านมาพระประทวนเคยเข้ามาลวนลามลูกสาวและหลานสาว ด้วยการชวน ไปร่วมเพศ แต่ลูกสาวไม่ยอมเล่นด้วย พระประ ทวนจึงสำเร็จความใคร่ต่อหน้าลูกสาว ทำให้ชาวบ้านที่รู้พฤติกรรมต่างไม่พอใจ พยายามขับไล่พระรูปนี้ให้ออกไปจำพรรษาที่อื่น

    นางบุญธรรมกล่าวว่า พอมีคนแจ้งว่าเห็นพระประทวนบุกบ้านพี่สาว ตนจึงรีบวิ่งตามเข้าไป พบว่าพระประทวนถอดจีวรออกหมดแล้ว กำลังสำเร็จความใคร่ต่อหน้าด.ญ.เปิ้ล ตนสุดทนจึงกระโดดเตะพระประทวนเข้าที่ปลายคาง แล้วคว้ากระบองตีเข้าที่หัวพระประทวน 3 ครั้ง จนหัวแตกเลือดอาบใบหน้า วิ่งหนีออกมาอยู่ข้างถนน ชาวบ้านผ่านมาเห็นเหตุการณ์จึงช่วยเหลือพระประทวนนำส่งร.พ.อุทัย ส่วนตนไม่หนีไปไหน รอมอบตัวกับตำรวจที่บ้านเกิดเหตุ ที่ตนทำไปก็เพื่อปกป้องลูกสาวเท่านั้น

    ทางด้านด.ญ.เปิ้ลกล่าวว่า เมื่อเดือนที่แล้วพระรูปนี้เคยเข้ามาลวนลามตน แต่ร้องให้ช่วยจนรอดมาได้ มาครั้งนี้พระรูปเดิมเข้ามาหาอีก พร้อมยื่นข้อเสนอว่าขอร่วมเพศ จะให้เงิน 200 บาทเป็นค่าตอบแทน ตนจึงร้องโวยวาย แล้วแม่ก็เข้ามาช่วยได้ทันเวลา

    จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่ ร.พ.อุทัย พบว่าพระประทวนยังนอนพักรักษาตัวอยู่ เนื่องจากอาการสาหัส หัวแตกเป็นแผลยาว ต้องเย็บถึง 30 เข็ม พระประทวนเล่าว่า ตนเองบวชเป็นพระมานาน 20 พรรษาแล้ว เดิมจำพรรษาที่วัดบ้านเกิด ต.ป่าพุทรา อ.ขาณุวร ลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เพิ่งจะย้ายมาจำพรรษาที่วัดสามบัณฑิตได้เพียง 1 พรรษาเท่านั้น เหตุ การณ์ที่เกิดขึ้นไม่ขอพูดอะไร เพราะจำอะไรไม่ได้ ยังปวดหัวอยู่มาก จำได้แค่ว่าเดินออกมาจากวัดเพื่อมาซื้อบุหรี่ที่ร้านค้าริมถนน มีคนมาขอ เงิน แต่ไม่ได้ให้ไป จากนั้นโดนตีที่หัวหลายครั้ง จนสลบไป มารู้สึกตัวตอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว

    "อาตมาเองไม่อยากเอาความอะไรกับแม่ของ เด็ก ไม่อยากอยู่ที่ชุมชนนี้แล้ว หากหมอให้กลับบ้านออกจากโรงพยาบาลเมื่อใดจะย้ายกลับวัดบ้านเกิดทันที" พระประทวนกล่าว

    ขณะที่ญาติที่มาเฝ้าไข้ กล่าวว่า ไม่เชื่อพระประทวนจะมีนิสัยแบบที่คู่กรณีกล่าวอ้าง เพราะพระประทวนบวชมานาน หากมีใครมาขอยืมเงินก็จะให้จนไม่เหลือเงินติดย่ามแล้ว อีกอย่างพระก็แก่แล้ว จะไปทำอะไรอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง คงไม่จริง

    ด้านพ.ต.ท.ธีระยุทธ์ ทองสาริ รอง ผกก. สอบสวน สภ.อุทัย กล่าวว่า สำหรับคดีทำร้ายพระนั้นต้องว่าไปตามกฎหมาย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสอบปากคำพระประทวนได้ เพราะยังบาดเจ็บสาหัส และจะต้องเรียกคู่กรณีมาสอบปากคำต่อไป

    นักศึกษามะกันคิด "หุ่นจิ๋ว" หาเหยื่อแผ่นดินไหว



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>หลังเกิดแผ่นดินไหว คนแรกที่เข้าไปถึงคือหน่วยกู้ภัยซึ่งต้องเสี่ยงอันตรายมากเพราะต้องค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร นายพอล เบิร์กเมเยอร์ นักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยยูซี เบิร์กเลย์ สหรัฐอเมริกา จึงประดิษฐ์ "หุ่นจิ๋ว" ขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ เคลื่อนที่ได้คล่องแคล่วทุกสภาพพื้นผิวเหมือนแมลงสาบซึ่งสามารถซอกซอนและไต่เข้าไปในรูเล็กๆ เพื่อหาผู้รอดชีวิตที่ถูกซากปรักหักพังทับได้โดยใช้เทคโนโลยีไร้สายและส่งสัญญาณกลับมาเบื้องบนว่ามีคนติดอยู่ตรงไหน

    หุ่นจิ๋วแต่แจ๋วสนนราคาไม่ถึง 1 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 34 บาท ประกอบจากเศษชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือและของเล่นใช้แล้ว กล้องจากโทรศัพท์มือถือ ไว-ไฟจากวงจรบลูทูธ รีโมตคอนโทรลและแบตเตอรี่ขนาดเท่าแสตมป์ แต่กุญแจสำคัญ คือโครงสร้างสำหรับให้หุ่นยนต์วิ่งเหมือนแมลงสาบ

    นอกจากนี้ ยังสามารถประกอบได้รวดเร็วโดยใช้มีดเลเซอร์ ถ้ายังไม่ประกอบแผงวงจรจะประดิษฐ์ได้ชั่วโมงละหนึ่งตัวซึ่งหุ่นทนต่อแรงกระแทก ตกจากตึก 10 ชั้นได้และเคลื่อนที่ได้ 5 ฟุตต่อวินาที

    วิจัยพบชายหลงกลิ่นหญิง



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>คุณผู้หญิงทั้งหลายอาจทิ้งน้ำหอมไปเลยถ้าได้อ่านวิจัยของนักจิตวิทยา ซอล แอล. มิลเลอร์ และจอน เค. มาเนอร์ แห่งมหาวิทยาลัยรัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ซึ่งทดลองล้อการวิจัยก่อนหน้านี้ที่ศึกษากับสัตว์และพบว่าสัญญาณกลิ่นที่เพศหญิงปล่อยออกมามีผลต่อระดับฮอร์โมนเทสโทส เทอโรนหรือฮอร์โมนเพศชาย

    นักวิจัยทั้งสองจึงทดลองกับคนดูบ้างโดยให้ผู้หญิง 2 กลุ่ม สวมเสื้อยืด 3 คืน กลุ่มหนึ่งกำลังอยู่ในช่วงมีประจำเดือน ส่วนอีกกลุ่มไม่มี แล้วให้อาสาสมัครชาย 2 กลุ่มดมเสื้อยืดที่ผู้หญิงทั้ง 2 กลุ่มสวมใส่ จากการตรวจสอบตัวอย่างน้ำลายของอาสาสมัครชายเพื่อวิจัยฮอร์โมนเพศชายที่เก็บได้ก่อนและหลังดมเสื้อยืด ปรากฏว่าผู้ชายที่ดมเสื้อของผู้หญิงที่มีประจำเดือนมีระดับฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าผู้ชายที่ดมเสื้อของผู้หญิงที่ไม่ได้มีประจำเดือนและผู้ชายยังมีความพึงพอใจกลิ่นเสื้อที่ได้ดมโดยยกให้เป็นกลิ่นที่พึงพอใจที่สุดอีกด้วย

    อินเดียแปร"พลาสติก"เป็นถนน



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ธุรกิจแดนภารตะแปรรูปขยะพลาสติกจำนวนมากในเมืองบังกาลอว์ ให้กลายเป็นวัสดุสำหรับก่อ สร้างถนน

    นายอาเหม็ดและราซูล ข่าน สองพี่น้องผู้บริหารบริษัท เค.เค. พลาสติก เวสต์ แมเนจเมนต์ รวบ รวมขยะพลาสติกนับพันตันจากถังขยะทั่วเมืองบังกาลอร์ ศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีไอทีของอินเดีย ด้วยความร่วมมือจากคนงานเทศบาล คนเก็บขยะ และพนักงานบริษัทของพวกเขา จากนั้นนำไปผ่านกระบวนการทำให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนผสมเข้ากับยางมะตอย เป็นสารประกอบเรียกว่า polymerized bitumen เมื่อนำมาปูถนนแล้วจะมีคุณสมบัติทนทานต่อสภาพอากาศในฤดูมรสุมและการใช้งานประจำวันมากกว่าถนนทั่วไป อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการเกิดหลุมบนผิวถนนได้อีกด้วย

    "ความคิดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อองค์การต่างๆ เริ่มรณรงค์ต่อต้านการใช้พลาสติก และบอกว่า ทุกๆ วันจะมีขยะพลาสติก 10,000 ตัน ซึ่งจะไม่ย่อยสลายตามธรรมชาติ และในที่สุดขยะเหล่านั้นจะกลายเป็นปัญหา ดังนั้น วิธีการดังกล่าวจึงเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด" อาเหม็ด กล่าว

    ทั้งนี้ พลาสติกย่อยสลายเองตามธรรมชาติไม่ได้ และจะตกค้างอยู่บนโลกใบนี้เป็นเวลาหลายปี ทั้งยังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อปลา นกทะเล และปศุสัตว์ ซึ่งมักตายหลังกลืนถุงพลาสติกเข้าไป

    รวมกันเราอุ่น

    เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ถึงเราไม่ได้ลง "เรือ"ลำเดียวกัน..

    แต่เราก็ลง "ล้อ" เดียวกันแล้ว... ห้ามใครดิ้นนะ...เจี๊ยกๆ

    (คิดแทนลิงในสวนสัตว์ซัปโปโร มารุยามะ ทางเหนือของญี่ปุ่นน่ะจ้ะ)







    ซ้อมวันชาติอินเดีย



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ทหารอินเดียฝึกซ้อมลีลาผาดโผน ต่อตัวเป็นพีระมิดมนุษย์ อยู่บนมอเตอร์ไซค์เพื่อเตรียมร่วมแสดงในขบวนพาเหรดวันกˆอตั้งสาธารณรัฐ หรือวันชาติ ในกรุงนิวเดลี วันที่ 26 ม.ค.นี้
















    เปิดตำรานิวตัน



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>สถาบันราชบัณฑิตย สถานของอังกฤษเอาบันทึกของเซอร์ไอแซก นิวตัน นักวิทยาศาสตร์ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 18 เจ้าของกฎนิวตัน ผู้ค้นพบทฤษฎีว่าด้วยแรงโน้มถ่วงของโลกที่ได้มาจากการเฝ้าสังเกตผลแอปเปิ้ลหลุด ร่วงลงสู่พื้นดิน ที่นิวตันเขียนบรรยายเองกับมือ โพสต์ลงในเว็บไซต์ให้ประชาชนได้ชมเป็นครั้งแรก (ภาพ-เอพี)





    "เจแปนแอร์ไลนส์"ยื่นล้มละลายแล้ว



    เอพีรายงานว่า เมื่อ 19 ม.ค. สายการบินเจแปนแอร์ไลนส์ หรือ เจเอแอล ยักษ์ใหญ่การบินหมายเลขหนึ่งแห่งเอเชียจากญี่ปุ่น ยื่นเรื่องล้มละลายต่อศาลแขวงกรุงโตเกียว เพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์แล้วและเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อฟื้นฟูกิจการภายใต้การกำกับดูแลของบรรษัทจากรัฐบาลญี่ปุ่น อีทีไอซี ซึ่งจะอัดฉีดเงินเพิ่มให้แจล และจะขอให้บรรดาเจ้าหนี้ยกหนี้ให้ด้วย โดยเจเอแอลอาจจะต้องปลดพนักงานถึง 15,000 คน

    คณะกรรมการบริหารทั้งหมดของแจลลงมติลาออกเพื่อรับผิดชอบการบริหารงานที่นำไปสู่หนี้สินมากถึง 560,000 ล้านบาท โดยอีทีไอซีจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เจเอแอลอีกราว 1.05 ล้านล้านบาท หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นอัดฉีดเงินพยุงสถานการณ์ไปแล้วก่อนหน้านี้ถึง 4 ครั้ง โดยจะขอให้เจ้าหนี้ยกหนี้ให้อีก 1.26 แสนล้านบาทด้วย พร้อมยืนยันว่าแจลจะให้บริการด้านการบินต่อไปตามปกติ สยบข่าวที่ว่าเจเอแอลอาจต้องยุบเที่ยวบินถึง 50 เที่ยว ด้านตลาดหุ้นโตเกียวประกาศถอดหุ้นของแจลออกจากตลาดแล้ว ซึ่งจะเป็นผลในอีกหนึ่งเดือนนับจากนี้ หรือตรงกับวันที่ 20 ก.พ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2010
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นาซาระบุอุณหภูมิโลกร้อนที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

    [​IMG]

    วอชิงตัน 22 ม.ค. - องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ (นาซา) เผยผลวิเคราะห์ล่าสุดที่บ่งชี้ว่า อุณหภูมิบริเวณพื้นผิวโลกร้อนมากที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

    นาซา ยังพบว่าปี 2552 เป็นปีที่อุณภูมิร้อนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของข้อมูลที่บันทึกไว้นับแต่เริ่มวัดอุณหภูมิอากาศยุคปัจจุบันในปี 2423 โดยปีก่อนมีอุณหภูมิเย็นกว่าอุณหภูมิในปี 2548 เพียงเล็กน้อย

    นายเจมส์ ฮานเซน หัวหน้าสถาบันก็อดดาร์ดเพื่อการศึกษาอวกาศ กล่าวว่า อุณหภูมิโลกเปลี่ยนเนื่องจากความแปรปรวนของการอุ่นขึ้นและการเย็นตัวลงของน้ำทะเล และเมื่อนาซาเฉลี่ยอุณหภูมิในช่วง 5-10 ปีก็พบว่า ปัญหาโลกร้อนไม่ลดลงเลย

    ขณะที่ปรากฏการณ์ลานีญา ที่ทำให้มหาสมุทรแปซิฟิกเย็นลง ส่งผลให้ปี 2551 เป็นปีที่มีอุณหภูมิเย็นที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์นาซา พบแนวโน้มอากาศร้อนขึ้นอย่างชัดเจน โดยข้อมูลแสดงให้เห็นว่า แนวโน้มอุณหภูมิเพิ่มขึ้นราว 0.2 องศาเซลเซียส/ 10 ปี ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ทำให้อุณหภูมิโลกเฉลี่ยเพิ่มขึ้นราว 0.8 องศาเซลเซียส นับแต่ปี 2423

    ผลวิเคราะห์ชิ้นนี้มาจากฐานข้อมูลด้านอากาศของสถานีอุตุนิยมวิทยาหลายพันแห่งทั่วโลก การสำรวจอุณหภูมิพื้นผิวทะเลทางดาวเทียม และการคำนวณของสถานีวิจัยบริเวณขั้วโลกใต้. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 13:47:02

    แคลิฟอร์เนียประกาศเตือนน้ำท่วมและดินถล่มซ้ำในพื้นที่ไฟป่า

    [​IMG]

    ลอสแอนเจลิส 22 ม.ค. - รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเผชิญกับพายุฝนและลมกระโชกแรงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อวันพฤหัสบดี ขณะทางการประกาศเตือนน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในพื้นที่ไฟป่าเมื่อปีที่แล้ว

    เจ้าหน้าที่สั่งอพยพประชาชนตามบ้านเรือนราว 800 หลังบริเวณเนินเขารอบนครลอสแอนเจลิส เนื่องจากมีพายุลูกที่สี่เคลื่อนตัวเข้าถล่มในสัปดาห์นี้ ทำให้ไฟฟ้าดับและการจราจรโกลาหล ศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวว่า พายุอาจทำให้เกิดฝนตก 1-2 นิ้วตามแนวชายฝั่งและหุบเขา และ 2-4 นิ้ว ในเขตเชิงเขาและภูเขา เจ้าหน้าที่ประกาศว่า จะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและอาจรุนแรงในบ่ายวันนี้ ซึ่งอาจทำให้มีน้ำท่วม ทอร์นาโดขนาดเล็ก และกระแสลมแรง

    บ้านเรือนราว 3,000 หลัง ในนครลอสแองเจลิสไม่มีไฟฟ้าใช้ภายหลังไฟดับเมื่อค่ำวันพุธ ขณะที่ประกาศเตือนน้ำท่วมฉับพลันมีผลไปจนถึงค่ำวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น โดยประชาชนตามบ้านเรือน 800 หลังใกล้ไหล่เขาที่ประสบไฟป่าครั้งรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว ได้รับคำเตือนให้อพยพออกจากพื้นที่ แต่มีอยู่ร้อยละ 25 ที่ไม่ยอมอพยพออก.- สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 09:29:02

    โคลนถล่มในบราซิล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน

    [​IMG]

    บราซิล 22 ม.ค. - เหตุการณ์โคลนถล่มจากฝนที่ตกหนักในบราซิลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน

    เหตุการณ์โคลนถล่มในบราซิล ล่าสุดเกิดขึ้นในนครเซา เปาโล หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันตลอดทั้งคืน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้สูญหายไปอีก 1 คน ขณะที่พื้นที่หลายส่วนในนครเซา เปาโล ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของบราซิลต้องจมอยู่ใต้น้ำ ส่งผลให้การจราจรกลายเป็นอัมพาต

    นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นมา เหตุการณ์โคลนถล่มที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ของบราซิลได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 90 คน โดยเหตุโคลนถล่มครั้งใหญ่เกิดขึ้นในช่วงวันปีใหม่ที่เมืองท่องเที่ยวบนเกาะอิสลา แกรนด์ มีผู้เสียชีวิตถึง 29 คน.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 09:18:14

    เฮติอพยพคนไร้บ้านนับแสนออกจากเมืองหลวง

    [​IMG]

    ปอร์โตแปรงซ์ 22 ม.ค. - เจ้าหน้าที่เฮติเริ่มปฏิบัติภารกิจโยกย้ายผู้ไร้บ้านจากแผ่นดินไหวหลายแสนคนออกจากกรุงปอร์โตแปรงซ์เมื่อวานนี้ ขณะที่ความหวังจะพบผู้รอดชีวิตจากใต้ซากปรักหักพังเริ่มเลือนราง

    รัฐบาลเฮติ ระบุว่า จะพยายามโยกย้ายผู้ไร้ที่อยู่ราว 500,000 คนไปอยู่ในที่พักชั่วคราวนอกกรุงปอร์โตแปรงซ์ โดยทางการจะเช่ารถบัส 34 คัน ไปรับผู้ประสบภัยไปอยู่ทางตอนใต้ และตอนเหนือของเฮติ ไปเร่งสร้างหมู่บ้านเพื่อรองรับผู้ไร้ที่อยู่ให้ได้แห่งละ 10,000 คน โดยจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในการหาสถานที่สร้างหมู่บ้าน

    ขณะเดียวกัน บรรดาเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากทั่วโลกยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตตามซากปรักหักพังทั้งในและรอบกรุงปอร์โตแปรงซ์ หลังพบเด็ก 2 คนรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์เมื่อวันพุธ แต่เมื่อวานนี้ กลับไม่พบสัญญาณผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร ส่วนผู้ได้รับการช่วยเหลือออกมายังคงต้องต่อสู้เพื่อมีชีวิตรอด โดยชาวเฮติหลายหมื่นคนที่บาดเจ็บสาหัสยังคงพักรักษาตัวในโรงพยาบาลชั่วคราวที่สร้างขึ้นจากเต็นท์ ขณะที่แพทย์จากนานาชาติซึ่งประสบความยากลำบากเพราะไม่มีเครื่องมือการแพทย์ที่ทันสมัย ต้องตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บภายใน

    ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยของฝรั่งเศส และสหรัฐเริ่มงานเก็บกวาดซากปรักหักพัง และซากศพออกจากพื้นที่รอบจัตุรัสฌองป์ เดอ มารส์ ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ซึ่งถูกใช้เป็นค่ายผู้ประสบภัย ด้านกองทัพสหรัฐกำลังซ่อมแซมท่าคมนาคมขนส่งหลัก เพื่อให้นำความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยทั่วประเทศ

    เด็กกำพร้าราว 24 คน ซึ่งครอบครัวชาวฝรั่งเศสรับอุปการะไปเลี้ยงออกเดินทางจากกรุงปอร์โตแปรงซ์เมื่อวานนี้ แม้กลุ่มช่วยเหลือเด็กจะวิตกว่า กระบวนการรับอุปการะที่รวดเร็วอาจทำให้เด็กถูกตัดขาดจากครอบครัวที่แท้จริงไปตลอดกาล

    ด้านธนาคารโลก ระบุว่า จะยกหนี้ที่เฮติต้องชำระในช่วง 5 ปีข้างหน้า และจะพิจารณาว่าจะยกหนี้ที่เหลืออีกประมาณ 38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,254 ล้นบาท) หรือไม่ เมื่อวานนี้มีการปิดถนนสายหนึ่งในกรุงปอร์โตแปรงซ์เพื่อให้ประชาชนทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น ฝาก และถอนจากพนักงานธนาคารที่ธนาคารกลางเฮติตั้งขึ้นเฉพาะกิจ -สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 10:31:22

    จนท.กู้ภัยจีนช่วย 14 ชีวิตถูกหิมะถล่มทับในซินเจียง

    [​IMG]

    จีน 22 ม.ค.-เจ้าหน้าที่กู้ภัยจีนช่วยชีวิตชาวบ้าน 14 คน ที่ถูกหิมะถล่มทับในเขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งกำลังเผชิญสภาพอากาศหนาวเหน็บเป็นประวัติการณ์

    สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีรายงานว่า ชาวบ้าน 14 คนได้รับการช่วยเหลือหลังถูกหิมะถล่มทับในเขตปกครองตนเองซินเจียงเมื่อวานนี้ แต่ทั้งหมดไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง พื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบจากพายุหิมะรุนแรง ทำให้อุณหภูมิลดลงถึงระดับลบ 43 องศาเซลเซียส ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งคร่าชีวิตชาวบ้านไปแล้ว 5 คน ปศุสัตว์กว่า 100,000 ตัว ตายเพราะความหนาว และบ้านเรือนอีกกว่า 100,000 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหายบางส่วนจากพายุหิมะ

    ทางการท้องถิ่นต้องส่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ คอยช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ท่ามกลางหิมะ ในเขตเทือกเขาอัลไต ชาวบ้าน 150,000 คน อพยพจากบ้านเรือนหลังหิมะตกหนักจนมีความหนาเกินกว่า 1 เมตร.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 03:14:47

    จีนตอนเหนือหนาวรุนแรง เสียชีวิตแล้ว 5 ราย

    [​IMG]

    จีน 21 ม.ค. - พื้นที่ตอนเหนือของจีนยังคงเผชิญสภาพอากาศเลวร้าย อุณหภูมิติดลบกว่า 40 องศาฯ ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 1,500,000 คน

    กรมอุตุนิยมวิทยาของจีน เผยว่า ประชาชนราว 1,600,000 คน ทางตอนเหนือของประเทศกำลังเผชิญภัยหนาวครั้งรุนแรงที่สุด ที่มณฑลซินเจียง พายุหิมะและคลื่นความหนาวเย็นที่คาดว่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ถึงติดลบ 43 องศาเซลเซียส ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย ปศุสัตว์ตายนับแสนตัว

    ขณะที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายราว 100,000 หลัง ทางการต้องอพยพประชาชนกว่า 150,000 คน ออกจากเขตอัลเตย์ ซึ่งมีหิมะตกหนักวัดความหนาได้เกือบ 1 เมตร ชาวประมงในมณฑลชานตงไม่สามารถออกเรือได้ เพราะผิวน้ำทะเลโป๋ไห่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี คาดกันว่าเขตมองโกเลียในจะเผชิญกับอุณหภูมิต่ำกว่าติดลบ 40 องศาฯ ในวันนี้. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-21 14:11:37

    ชาวจีนอีก 300,000 คน ต้องอพยพย้ายถิ่นจากโครงการเขื่อนสามผา

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 21 ม.ค. – หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ ของทางการจีนรายงานวันนี้ว่า จีนจะอพยพประชาชนอีก 300,000 คน ออกจากบ้านเรือน อันเนื่องมาจากโครงการก่อสร้างเขื่อนสามผาและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่

    รายงานอ้างเจ้าหน้าที่เทศบาลนครฉงชิ่งว่า การย้ายที่อยู่อาศัยดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้มลพิษจากชุมชนใกล้เคียงปนเปื้อนอ่างเก็บน้ำ และป้องกันพลเรือนจากอันตรายของแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ เขื่อนดังกล่าวตั้งอยู่ในมณฑลหูเป่ย์ ทางภาคกลางของประเทศ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของอ่างเก็บน้ำตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ สำนักข่าวซินหัวรายงานก่อนหน้านี้ว่า มีการอพยพประชาชนไปแล้ว 1.27 ล้านคน ในเดือน ก.ย.ปีที่ผ่านมา เพื่อเตรียมพื้นที่ก่อสร้างโครงการดังกล่าว โดยคาดว่า เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ราวปีละ 100,000 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง

    เจ้าหน้าที่ของทางการจีนเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ประชาชน 1.4 ล้านคน จะต้องถูกบังคับให้อพยพออกจากพื้นที่ ซึ่งในขณะนี้จมอยู่ใต้น้ำเพราะอ่างเก็บน้ำดังกล่าว ด้านนักวิจารณ์ได้วิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดถึงต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมและมนุษย์อย่างมหาศาลที่ต้องสูญเสียไปเพราะเขื่อนดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีรายงานกล่าวหาว่า เกิดการทุจริตขนาดใหญ่ในโครงการย้ายที่อยู่อาศัย ขณะที่ประชาชนซึ่งถูกบังคับให้ย้ายที่อยู่ร้องเรียนว่า ถูกรัฐบาลปฏิเสธเงินชดเชยและผลประโยชน์ตามที่เคยให้สัญญา

    ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่ของทางการจีนกล่าวเมื่อปี 2550 ว่า น้ำหนักของอ่างเก็บน้ำดังกล่าว อาจทำให้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและแผ่นดินถล่มเพิ่มขึ้น และเจ้าหน้าที่ของทางการจีนยังกล่าวในปีเดียวกันว่า ประชาชนอีก 4 ล้านคนจะต้องย้ายที่อยู่อาศัยภายในปี 2563 แม้ยืนยันว่า การย้ายที่อยู่อาศัยดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างเขื่อนสามผาก็ตาม. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-21 15:22:22

    พบคนไข้ใน รพ.จีนอย่างน้อย 80 คน ติดเชื้อเอชไอวีจากการถ่ายเลือด

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 21 ม.ค. - หนังสือพิมพ์หวู่ฮั่น มอร์นิง โพสต์ ของทางการจีน รายงานวานนี้ว่า คนไข้ในโรงพยาบาลอย่างน้อย 80 คน ทางภาคกลางของจีน ติดเชื้อเอชไอวีจากการได้รับเลือดปนเปื้อนเชื้อไวรัสชนิดดังกล่าว

    รายงานระบุว่า คนไข้ของโรงพยาบาลหมายเลข 2 ในเมืองต้าเย่ มณฑลหูเป่ย์ ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี หลังได้รับการถ่ายเลือดที่ถูกขายจากประชาชนท้องถิ่นหลายคน ซึ่งต่อมาพบว่าติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ทั้งนี้ เชื่อกันว่า ผู้ขายเลือดติดเชื้อเอชไอวีในมณฑลเหอหนาน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง โดยมณฑลเหอหนานถือเป็นพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุดจากคดีอื้อฉาวเกี่ยวกับโรคเอดส์ ในช่วงคริสต์ศตวรรษหลังปี 1990

    นอกจากนี้ ยังมีประชาชนจำนวนมากทางภาคกลางของประเทศติดเชื้อเอชไอวี หลังขายเลือดของตนเองหลายครั้งให้แก่สำนักงานเก็บเลือด ซึ่งจะนำเลือดที่ได้เทรวมกันในถัง และหลังจากแยกพลาสมาออกมาแล้ว จะนำเลือดที่เหลือฉีดกลับเข้าไปในร่างกายของผู้ค้าเลือด

    การติดเชื้อดังกล่าวในเมืองต้าเย่ กลายเป็นที่สนใจอย่างมาก หลังจากมีคนไข้ 1 คน ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ในเดือน ก.ย.ปีที่ผ่านมา โดยคนไข้ดังกล่าวออกมาเรียกร้องเงินชดเชยจากทางโรงพยาบาลหมายเลข 2 รายงานอ้างว่า ขณะทำการถ่ายเลือดให้แก่คนไข้ แพทย์ของโรงพยาบาลดังกล่าวไม่ทราบมาก่อนว่ามีเชื้อเอชไอวีปนเปื้อน นอกจากนี้ ผู้เคราะห์ร้าย 80 คน ยังแพร่เชื้อดังกล่าวให้แก่ภรรยาหรือลูกของพวกเขา ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นราว 100 คน ด้านนายซู ชุนหยาง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าว เปิดเผยว่า ยังคงไม่สามารถระบุจำนวนผู้ติดเชื้อที่แน่ชัดได้ และปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติม

    เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการค้าเลือดถูกปกปิดข้อมูลโดยเจ้าหน้าที่ของทางการ เนื่องจากเจ้าหน้าที่บางส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนเปิดเผยเมื่อปี 2544 ว่า อาจมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีผ่านวิธีการดังกล่าวราว 30,000-50,000 คน ส่วนผู้เชี่ยวชาญอ้างว่า อาจมีผู้ติดเชื้อถึง 100,000 คน และตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขของมณฑลหูเป่ย์ เปิดเผยในปี 2547 ว่า มีประชาชนของมณฑลหูเป่ย์มากกว่า 100,000 คน ขายเลือดของตนในช่วงคริสต์ศตวรรษหลังปี 1990

    ทางการจีนคาดการณ์ว่า อาจมีประชาชนมากกว่า 740,000 คน ติดเชื้อเอชไอวี แต่ผู้เชี่ยวชาญอิสระเชื่อว่า ตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่านั้น. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-21 17:13:50

    ชาเวซ สั่งยึดซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ต่างชาติ

    [​IMG]

    เวเนซุเอลา 22 ม.ค.-ผู้นำเวเนซุเอลาสั่งยึดกิจการซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของต่างชาติ กล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายควบคุมราคาสินค้าของรัฐบาล

    เจ้าหน้าที่เวเนซุเอลายังคงเดินหน้ายึดกิจการซูเปอร์มาร์เก็ตเอ็กซิโตสาขาต่าง ๆ ในกรุงการากัสและทั่วประเทศมาเป็นของรัฐ หลังประธานาธิบดีฮิวโก ชาเวซ สั่งยึดกิจการซูเปอร์มาร์เก็ตดังกล่าว โดยกล่าวหาว่าซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ขึ้นราคาสินค้า ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายควบคุมราคาสินค้าของรัฐบาล โดยซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโคเมอร์โซ จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคประจำวันให้ประชาชนในราคาถูก

    ผู้นำเวเนซุเอลายังเตือนบริษัทค้าปลีกและร้านค้าอื่น ๆ อีกกว่า 200 แห่ง ที่ถูกกล่าวหาว่าขึ้นราคาสินค้า ว่าอาจถูกยึดกิจการมาเป็นของรัฐ สำหรับซูเปอร์มาร์เก็ตเอ็กซิโตเป็นกิจการร่วมทุนระหว่างฝรั่งเศสกับโคลอมเบีย.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 02:16:22

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ดูกันให้ชัดๆอีกทีว่า 7 ปี ต่อไปนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง !!!
    (ได้เวลาที่แน่ชัดแล้ว ไม่มีการเลื่อนอีกต่อไปแล้ว)

    [​IMG]

    พระคัมภีร์ไบเบิ้ลทำนายไว้ว่า ในอนาตคโลกจะมีช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยความทุกขเวทนายากลำบาก ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ ช่วงระยะเวลา 7 ปี ที่เรียกว่า "กลียุค 7 ปี" (ค.ศ.2010-2017)

    ในครั้งนั้น มีคาเอล เทพผู้พิทักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้คุ้มกันชนชาติของท่านจะลุกขึ้น และจะมีความยากลำบากอย่างไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่ครั้งมีประชาชาติจนถึงสมัยนั้น แต่ในครั้งนั้นชนชาติของท่านจะรับการช่วยกู้ คือทุกคนที่มีชื่อไว้ในหนังสือ และคนเป็นอันมากในพวกที่หลับในผงคลีแห่งแผ่นดินโลกจะตื่นขึ้น บ้างก็เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บ้างก็เข้าสู่ความอับอายขายหน้านิรันดร์ (ดาเนียล 12:1-2)

    พระคัมภีร์กล่าวว่า ในช่วงนี้ปรปักษ์พระคริสต์จะปรากฎโฉม ชาวโลกจำนวนมากจะมองดูผู้นำคนใหม่อย่างมีความหวัง เขาอาจจะมีส่วนในการนำชาติอิสราแอล และอาหรับเข้าหากัน และอนุญาตให้ยิวสร้างวิหารขึ้นใหม่ จะมีการตกลงสันติภาพกับอิสราแอล ต่อจากนั้นสามปีครึ่ง ปรปักษ์พระคริสต์จะฉีกสัญญานั้น แล้วเข้าไปนั่งในพระวิหาร และประกาศตัวเองเป็นพระเจ้า

    ใน 7 ปี แห่งกลียุคนี้ จะเป็นเหตุการณ์โหดร้ายทารุณสยดสยอง พรั่นพรึงอย่างน่ากลัวที่สุด จะไม่มีช่วงใดเลยในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน ที่จะน่ากลัวและสยองขวัญเท่ากลียุค 7 ปี พระเยซูตรัสว่า จงอธิษฐานขอ เพื่อการที่ท่านต้องหนีนั้นจะไม่ตกในฤดูหนาว หรือวันสะบาโต ด้วยว่าในคราวนั้นจะเกิดความทุกข์ยากใหญ่ยิ่ง อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาจนทุกวันนี้และเบื้องหน้า จะไม่มีอีกต่อไป... ถ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า จะไม่มีมนุษย์รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้เลือกสรร จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า (มัทธิว 24:20-22)

    จะเกิดอะไรขึ้นแก่มนุษย์โลกในระหว่างกลียุค 7 ปี พระวิวรณ์กล่าวถึง ตราเจ็ดดวง แตรทั้งเจ็ด ขันทั้งเจ็ด ทั้งหมดนี้หมายถึงหายนะภัยทั้งหลายดังต่อไปนี้

    ความหมายของตราทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 6-8)

    ตราที่ 1 วิวรณ์ 6:1 หมายถึงปรปักษ์พระคริสต์ ซึ่งจะบันดาลสิ่งสารพัดเลวร้ายให้เกิดขึ้น
    ตราที่ 2 วิวรณ์ 6:3 สันติภาพสูญหายไปจากโลก เกิดสงคราม การรบราฆ่าฟันแผ่ขยายไปทั่วทั้งโลก
    ตราที่ 3 วิวรณ์ 6:5 ความอดอยากมีอยู่ทั่วไป
    ตราที่ 4 วิวรณ์ 6:7 มนุษย์ชาติตาย 1 ใน 4 ด้วยคมดาบ โรคระบาด
    ตราที่ 5 วิวรณ์ 6:9 ผู้ที่มีความเชื่อในพระคริสต์ จะถูกสังหารผลาญชีวิต แต่ในที่สุดจะได้ชีวิต
    ตราที่ 6 วิวรณ์ 6:12 เกิดแผ่นดินไหว ดวงอาทิตย์อับแสง พระจันทร์สีเลือด ดาวตกลงบนแผ่นดิน (บางคนเชื่อว่าเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ เนื่องจากการยิงระเบิดนิวเคลียร์เข้าหากัน)
    ตราที่ 7 วิวรณ์ 8:1 ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์นานครึ่งชั่งโมง ตราดวงนี้จะขยายให้เห็นแตรอีก 7 อันข้างหน้า

    ความหมายของแตรทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 8-11)

    แตรที่ 1 ลูกเห็บและไฟตก เกิดความเสียหายมากมาย ต้นไม้ 1 ใน 3 ของโลกไหม้ หญ้าเขียวสดไหม้หมดสิ้น
    แตรที่ 2 ทะเลถูกทำลายลง 1 ใน 3 ของสัตว์น้ำตาย เรือสินค้าทั่วโลกถูกทำลาย 1 ใน 3
    แตรที่ 3 คนจำนวนมากตายเนื่องจากน้ำมีสารพิษเจือปน
    แตรที่ 4 ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ถูกทำลาย 1 ใน 3 เป็นเหตุให้อุณภูมิผันแปรอย่างหนัก
    แตรที่ 5 ซาตานซึ่งจะใช้อำนาจของมันทรมานคนที่ไม่มีเครื่องหมายของพระเจ้า หรือคนที่ไม่ได้รับความรอด
    แตรที่ 6 มนุษย์ชาติ 1 ใน 3 จะต้องตายลงอีก ในจำนวนนั้นเป็นทหารถึง 200 ล้านคน
    แตรที่ 7 ราชอาณาจักรในโลกนี้จะกลับเป็นอาณาจักรของพระเยซูคริสต์ (พระเจ้าจักรพรรดิ์)แล้วพระองค์จะครอบครอง เป็นนิจนิรันดร์

    ในระหว่างนี้ ปรปักษ์พระคริสต์จะก้าวขึ้นมาแสดงตัวมีบทบาทสำคัญยิ่ง มนุษย์ชาติต่างเกรงกลัวฤทธิ์เดชานุภาพของมัน และยอมตัวเป็นบริวาร เป็นทาสรับใช้ มนุษย์ที่เหลือต่างปล่อยตัวมัวเมาในกามกิเลสตัณหา และความชั่วร้าย สุดที่จะพรรณนา จนกระทั่งทูตสวรรค์ต้องนำขันแห่งพระพิโรธ 7 ใบ เทบนโลก

    ความหมายของขันทั้งเจ็ด มีดังนี้ (วิวรณ์บทที่ 16)

    ขันที่ 1 เกิดโรคระบาด เป็นแผลร้ายที่ร้ายกาจเสียยิ่งกว่ามะเร็ง แผลหนองทั่วไป
    ขันที่ 2 สิ่งมีชีวิตในทะเลตายหมด เพราะน้ำทะเลเน่าเหม็นเหมือนเลือดของคนตาย
    ขันที่ 3 น้ำจืดกลายเป็นเลือด และมนุษย์ต้องดื่มเลือดแทนน้ำ
    ขันที่ 4 ความร้อนแรงของแสงอาทิตย์แผดเผาแผ่นดินโลกจนแห้งกรอบ มนุษย์กลับยิ่งแช่งด่าพระเจ้า
    ขันที่ 5 มนุษย์ได้รับการทรมานอย่างแสนสาหัส ขนาดต้องกัดลิ้นตัวเอง เพราะบาดแผลร้ายทั่วตัว แต่พวกเขาก็ยังไม่สำนึกผิด
    ขันที่ 6 การเตรียมตัวของซาตานมารร้าย เพื่อทำสงครามโลกครั้งสุดท้าย คือสงครามอาร์มาเกดโดน มันจะเข้าหาผู้นำประเทศต่างๆ เพื่อบังคับแกมขอร้องให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตร
    ขันที่ 7 เกิดวิบัตินานาชนิด แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยประสบ ลูกเห็บก้อนใหญ่ขนาดก้อนละ 50 กิโลกรัม คนจำนวนมากจะตาย ทรัพย์สินเสียหายเหลือคณา เกาะทั้งเกาะจะจมหาย

    ที่มาwww.baanjomyut.com/library/7year.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2010
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ศูนย์อุตุฯ เหนือ เตือนอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ย้ำทุกอำเภอรับมือ

    [​IMG]

    เชียงใหม่ 22 ม.ค.- นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงนามหนังสือแจ้งเตือนถึงทุกอำเภอ และเทศบาลนครเชียงใหม่ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เตรียมป้องกันผลกระทบจากภาวะอากาศแปรปรวน

    ตามที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือเชียงใหม่ ประกาศเตือนสภาพอากาศช่วงวันที่ 20-23 ม.ค. บริเวณตอนบนของประเทศไทย จะมีลักษณะอากาศแปรปรวน ฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง จากนั้น อุณหภูมิจะลดลงอีก อาจส่งผลกระทบต่อความเสียหายในทรัพย์สินและพืชผลการเกษตร โดยให้เจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วหากเกิดเหตุฉับพลัน รวมทั้งให้รายงานมายังจังหวัดทุกระยะจนกว่าสถานการณ์สู่ภาวะปกติ สำหรับสภาพอากาศวันนี้ (22 ม.ค.) ที่ จ.เชียงใหม่ มีเมฆปกคลุม บางแห่งมีหมอกลง ทัศนวิสัยมองเห็น 300-500 เมตร.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 14:07:59

    ขอนแก่นฝนตกตลอดคืน-หมอกลงจัด เครื่องบินลงจอดไม่ได้

    [​IMG]

    ขอนแก่น 22 ม.ค. - ระยะนี้ สภาพอากาศบ้านเราค่อนข้างแปรปรวน โดยที่จังหวัดขอนแก่นฝนตกหนักตลอดทั้งคืน และหมอกลงจัดทำให้เกิดปัญหาเครื่องบินลงจอดไม่ได้

    สภาพอากาศในจังหวัดขอนแก่น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีหมอกหนา ท้องฟ้ามืดครึ้ม ประกอบกับละอองฝนส่งผลต่อทัศนวิสัยในการบิน ทำให้เครื่องบินไม่สามารถลงจอดที่ท่าอากาศยานขอนแก่นได้ตามกำหนดเวลา 07.15 น. โดยนักบินทดลองบิน 2 รอบ แต่ทัศนวิสัยไม่ดีขึ้น จึงต้องนำเครื่องไปลงจอดพักที่ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี นานประมาณ 2 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทัศนวิสัยดีขึ้นทำให้เครื่องบินลำดังกล่าวสามารถนำผู้โดยสารไปลงที่ขอนแก่นได้แล้ว ก่อนที่จะรับผู้โดยสารกลุ่มใหม่บินเข้ากรุงเทพฯ แล้ว เมื่อเวลา 10.30 น. ช้ากว่ากำหนด 2 ชั่วโมง

    สภาพอากาศที่แปรปรวน ในช่วง 2 – 3 วันนี้ ทำให้ชาวขอนแก่นมีอาการป่วยกันมากขึ้น โดยโรงพยาบาลต่างๆ รับผู้ป่วยเข้ารักษาเฉลี่ยวันละ 1,000 คน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งแพทย์ได้เตือนชาวบ้านดูแลร่างกายให้อบอุ่น และล้างมือบ่อย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ด้วย
    ขณะที่สาธารณสุขจังหวัดลำพูน สั่งการให้ทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่อนามัย และ อสม. ระดมกำลังลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน ดูแลสุขภาพประชาชนเพื่อลดจำนวนผู้ป่วย เนื่องจากสภาพอากาศในระยะนี้หนาวเย็นลงเรื่อย ๆ และมีหมอกหนาในตอนเช้าทำให้ชาวบ้านป่วยกันมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 12:07:59

    เขื่อนแม่กวงน่าห่วงสุดน้ำน้อยมากหวั่นแล้งนี้เดือดร้อน

    [​IMG]

    เชียงใหม่ 22 ม.ค. - น.ส.ลินจง คงตั้งมั่น ฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ แจ้งสถานการณ์น้ำว่า เขื่อนและอ่างเก็บน้ำสำคัญในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ยังน่าเป็นห่วง แม้เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลมีปริมาณน้ำร้อยละ 82 ของความจุ แต่ยังน้อยกว่าปีก่อน ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธารามีน้ำน้อยมากเพียง 73.19 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 27 ของความจุอ่างทั้งหมด ซึ่งน้อยกว่าปีก่อนถึง 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดกลางในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ปริมาณน้ำโดยรวม 52 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 60 ของความจุ น้อยกว่าปีก่อนเช่นกัน รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดกลางใน จ.ลำพูน มีน้ำอยู่ร้อยละ 36 ของความจุ ยกเว้น จ.แม่ฮ่องสอน ปริมาณน้ำกักเก็บเต็ม 100%

    ดังนั้น จึงต้องจัดระบบการให้น้ำแก่ประชาชนเป็นเวลาตั้งแต่บัดนี้ไปถึงวันที่ 15 เม.ย.นี้ ไม่เช่นนั้นจะกระทบกับประชาชนในช่วงฤดูแล้ง พร้อมกันนี้ จะประกาศเตือนและขอความร่วมมือจากประชาชนเรื่องการใช้น้ำเป็นระยะ ๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหนัก พร้อมเตรียมเครื่องสูบน้ำไว้รองรับอีก 95 เครื่อง เพื่อบริการประชาชนในพื้นที่ประสบภัย. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 17:36:13
    ลำปางกำหนดพื้นที่เสี่ยงคุมไฟป่า

    [​IMG]

    ลำปาง 22 ม.ค. - นายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูแล้งของทุกปี จ.ลำปาง มักจะเกิดสถานการณ์หมอกควันไฟปกคลุมพื้นที่ ซึ่งถือว่าค่าของฝุ่นละอองขนาดเล็กต่ำกว่า 10 ไมครอน เกินค่ามาตรฐานในเกณฑ์ที่สูงมาก สาเหตุหลักมาจากการเกิดไฟป่า โดยเฉพาะเขตป่าอนุรักษ์ เช่น อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือบริเวณรอยต่อพื้นที่ป่าอนุรักษ์กับป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเดือน ก.พ.-มี.ค.ปีที่ผ่านมา พบไฟป่าเกิดขึ้นกว่า 180 จุด

    ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาระบบนิเวศและผลต่อสิ่งแวดล้อม ทางจังหวัดจึงกำหนดพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง โดยให้ทั้ง 2 หน่วยงานบูรณาการกับระดับจังหวัดและท้องถิ่น เพื่อช่วยกันดูแลป่าให้ครอบคลุมที่สุด ส่วนป่ารุกขชาติ แม้เสี่ยงเกิดไฟป่าน้อย แต่ควรป้องกันเช่นเดียวกัน. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 18:17:18

    ภูเก็ตพบป่าบางขนุนถูกรุกเพิ่ม-ตัดโค่นไม้ใหญ่

    [​IMG]

    ภูเก็ต 22 ม.ค.- นายภานุเมศ ดำอ่อน หัวหน้าหน่วยประสานงานป้องกันรักษาป่าภูเก็ต เปิดเผยถึงการเข้าตรวจสอบร่วมกับผู้เกี่ยวข้องในป่าบางขนุน อ.ถลาง วันนี้ (22 ม.ค.) ว่า พบพื้นที่โซนเอ จำนวน 1,300 ไร่ ถูกบุกรุกเสียหายเพิ่มอีก 60 ไร่ เพื่อปลูกต้นยางและปาล์มน้ำมัน ซึ่งความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้ และสามารถจับกุมผู้ทำความผิดได้ 1 คน นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการตัดโค่นไม้ใหญ่และใช้ยาทาบริเวณรอยบากเพื่อให้ยืนต้นตายจำนวนมาก มีทั้งไม้เทพทาโร และไม้จันทน์หอม

    สำหรับการลักลอบแผ้วถางป่าบางขนุนนั้น ส่วนใหญ่นายทุนจะจ้างให้แรงงานต่างด้าวเข้าไปแผ้วถางช่วงกลางคืนและจะใช้วิธีการให้ต้นไม้ยืนตาย ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาหน่วยประสานงานรักษาป่าดำเนินคดีผู้บุกรุกป่าไปแล้ว 14 คดี จับกุมผู้ทำผิดได้ 10 คน ตรวจยึดป่ากลับคืนมากว่า 200 ไร่ หลังจากนี้จะเร่งรวบรวมข้อมูลส่งให้กับนายอำเภอผ่านไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และส่งหนังสือให้กับอธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย รวมทั้งการปลูกป่าทดแทน.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 19:05:35

    เชียงรายทำลายไร่ฝิ่นลอบปลูกกลางหุบเขา

    [​IMG]

    เชียงราย 22 ม.ค. - เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (22 ม.ค.) พ.อ.ธำรงค์ ถาวร รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเชียงราย พ.ต.อ.ประทักษ์ เจริญศิลป์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย นายพินิจ แก้วจิตคงทอง ป้องกันจังหวัดเชียงราย และนายบุญยัง เรือนกุล นายอำเภอแม่สรวย นำกำลังกว่า 100 นาย เข้าตรวจหุบเขาบ้านห้วยชมพู หมู่ 17 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย

    พบไร่ฝิ่นลักลอบปลูกเนื้อที่กว่า 5 ไร่ ซึ่งเป็นฝิ่นดิบแก่จัดและมีร่องรอยเพิ่งถูกกรีดยางไปแล้วบางส่วน คาดว่าผู้ปลูกไร่ฝิ่นอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปก่อน เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตัดทำลายและนำไฟมาเผาต้นฝิ่นทิ้งทั้งหมด พร้อมเร่งขยายผลหาตัวการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 16:48:56

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    วัดเจติยาคีรีวิหาร ( วัดภูทอก )


    เพื่อนๆคนไหนที่ไม่กลัวความสูง และชอบทำบุญเข้ามาชมเลยครับ วันนี้จะพาไปเที่ยวหนองคายกัน โดยจุดหมายอยู่ที่วัดเจติยาคีรีวิหาร(วัดภูทอก)........
    เป็นวัดของท่านพระอาจารย์จวน วิศวะยังยอมแพ้ในการก่อสร้างว่าท่านพระอาจารย์จวนสร้างได้อย่างไร
    โดยใช้เพียงแรงงานคนสร้างบรรไดเวียนไปมารอบภูทอกที่เป็นผาสูงชันถึง 7 ชั้น.................เราไปดูความมหัศจรรย์กันครับ


    ภูทอก อยู่ห่างจากตัวเมืองหนองคายประมาณ 163 กิโลเมตร จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 212 ผ่านอำเภอโพธิ์ชัย อำเภอปากคาด และอำเภอบึงกาฬ
    แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 222 ถึงอำเภอศรีวิไล จากอำเภอศรีวิไลมีทางแยกซ้ายผ่านบ้านนาสิงห์ บ้านสันทรายงาม สู่บ้านนาคำแคน ถึงภูทอกเป็นระยะทางอีก 30 กิโลเมตร



    ภูทอกใน ภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว อยู่ในเขตบ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง เป็นภูเขาหินทรายโดดเด่นมองเห็นได้แต่ไกล
    ประกอบด้วย ภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย แต่ก่อนบริเวณนี้เคยเป็นป่าทึบ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย
    พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ได้เริ่มเข้ามาจัดตั้งเป็นแหล่งบำเพ็ญเพียร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนปฏิบัติธรรม เนื่องจากเป็นสถานที่เงียบสงบ



    การเดิน เท้าขึ้นสู่ยอดภูทอก ต้องเดินไปตามสะพานไม้เวียนวนรอบเขาสูงชันจนถึงยอด สะพานไม้สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาจากเหล่าพระ เณร และชาวบ้าน
    เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2512 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปี บันไดขึ้นภูทอกแบ่งออกเป็น 7 ชั้น แตกต่างกันดังนี้



    ก่อนขึ้นภูทอกทราบกฎกันก่อนนะครับ ขึ้นไปด้านบนห้ามถ่มน้ำลาย สุภาพสตรี สายเดี่ยวและกระโปรงห้ามนะครับ ส่วนสุภาพบุรุษก็ห้ามส่งเสียงดังโปรดสำรวมครับ


    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]




    [​IMG]



    [​IMG]
    มองจากไกลๆ เหมือนแกรนแคนย่อนเลยครับ





    [​IMG]
    ด้านล่างเป็นศาลาการเปรียญครับ



    [​IMG]
    ทางขึ้นภูทอกครับ .....



    [​IMG]
    จากด้านล่างสู่ด้านบนครับ




    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]
    ลองดูทางเดินครับซึ่งถูกแบ่งเป็นเจ็ดชั้น
    มองจากด้านล่างขึ้นไป หลวงพ่อท่านสร้างได้อย่างไร ใช้เพียงแรงงานคน?




    ชั้นที่ 1-2 เป็นบันไดสู่ชั้นที่ 3 ซึ่งเริ่มเป็นสะพานเวียนรอบเขา สภาพเป็นป่าเขามืดครึ้ม มีโขดหิน ลานหิน สุดทางชั้นที่ 3 มีทางแยกสองทาง
    ทางซ้ายมือเป็นทางลัดไปสู่ชั้นที่ 5 ได้เลย ซึ่งเป็นทางชันมาก ผ่านหลืบหินที่มีลักษณะเหมือนอุโมงค์ ทางขวามือเป็นทางขึ้นสู่ชั้นที่ 4



    ชั้นที่ 4 เป็นสะพานลอยไต่เวียนรอบเขา มองไปเบื้องล่างจะเห็นเนินเขาเตี้ยๆ สลับกัน เรียกว่า “ดงชมพู” ทิศตะวันออกจดกับภูลังกา
    เขตอำเภอเซกา ซึ่งมีสภาพเป็นป่าดงดิบ บนชั้นที่ 4 นี้ จะเป็นที่พักของแม่ชี รอบชั้นมีระยะทางประมาณ 400 เมตร มีที่พักผ่อนระหว่างทางเป็นระยะๆ






    [​IMG]
    บนภูทอกจะมุมปฎิบัติธรรมสร้า้งหลบอยู่ตามซอกหินครับ


    ภายมีพระพุทธรูป และรูปพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่ขาว หลวงตาบัว หลวงปู่แหวน หลวงปู่คำพอง ติดอยู่ผนังถ้ำ อย่าลืมไปนมัสการกันนะครับ

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]



    [​IMG]
    มองจากด้านบนลงไปครับ


    จะเห็นเจดีย์พิพิธภัณฑ์ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ที่บรรจุอัฐบริขาร ในสมัยบำเพ็ญสมณธรรม และเก็บอัฐิธาตุท่านและรูปปั้นขนาดเท่าองค์จริงของท่าน




    [​IMG]
    เดินกันต่อครับ หมดแรงกันยัง




    [​IMG]
    อีกมุมครับ



    [​IMG]
    ที่เห็นเป็นก้อนหินใหญ่ๆด้านบน คือ ศาลาปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์จวนครับ



    ชั้นที่ 5 มีศาลาและกุฏิที่อาศัยของพระ ตามช่องทางเดินจะมีถ้ำอยู่หลายถ้ำ ตลอดเส้นทางสู่ชั้นที่ 6 มีที่พักเป็นลานกว้างหลายแห่ง
    มีหน้าผาชื่อต่าง ๆ กัน เช่น ผาเทพนิมิตร ผาหัวช้าง ผาเทพสถิต เป็นต้น ถ้ามาทางด้านเหนือจะเห็นสะพานหินธรรมชาติทอดสู่พระวิหาร
    อันเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วย มองออกไปจะเห็นแนวของภูทอกใหญ่อย่างชัดเจน ผู้คนส่วนใหญ่มักหยุดการเดินทางเพียงแค่นี้
    เพราะจากชั้นที่ 6 สู่ชั้นที่ 7 เป็นสะพานไม้เวียนรอบเขายาว 400 เมตร เกาะติดอยู่ริมหน้าผาสูงชันดูน่าหวาดเสียวอันตราย มีความยาว 400 เมตร สุดทางที่ชั้น 7 เป็นป่าไม้ร่มครึ้ม



    [​IMG]
    ทางเข้าครับ ศาลาปฎิบัติธรรมครับ



    [​IMG]

    [​IMG]



    ตามแผนที่เลยนะครับเพื่อนๆ จบไปอีกหนึ่งทริป ก็อย่างที่บอกทุกครั้งครับ เมืองไทยเรายังมีอะไรที่เยี่ยมๆอีกมากครับ
    สุดท้ายขอฝากเหมือนเดิมทุกครั้งครับ เที่ยวเมืองไทยกันให้หมดก่อนนะครับ แล้วเราค่อยไปลุยต่อกันเมืองนอก รักเมืองไทยครับ









    [​IMG][​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG][​IMG]

    <TABLE style="MARGIN: 10px 0px 0px; FONT-SIZE: 10pt" width="100%"><TBODY><TR><TD>[​IMG]
    โพสท์โดย Jean The little road [​IMG] 13:53 - 18 มกราคม 2553 (แก้ไขล่าสุด: 01:04 วันนี้)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ยืนยันผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเฮติ มีกว่า 110,000 คนแล้ว

    [​IMG]

    ปอร์โตแปรงซ์ 23 ม.ค.-กระทรวงกิจการภายในของเฮติออกแถลงการณ์ว่า ได้รับคำยืนยันมีผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเป็นจำนวนกว่า 110,000 คนแล้ว โดยตัวเลขล่าสุดจำนวนผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 12 ม.ค.เป็นต้นมา คือ 111,499 คน

    ตัวเลขผู้เสียชีวิตดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากที่เคยประเมินไว้ว่ามีอย่างน้อย 75,000 คน ส่วนผู้บาดเจ็บจากแผ่นดินไหวมี 193,891 คน และอีกกว่า 609,000 คน ต้องอาศัยอยู่ในค่ายพักชั่วคราว 500 แห่ง เจ้าหน้าที่เฮติแสดงความวิตกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจทะลุ 200,000 คน

    ขณะเดียวกันหน่วยกู้ภัยของอิสราเอลสามารถช่วยชีวิตชายวัย 22 ปี ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังนาน 10 วัน ออกมาได้สำเร็จ หลังจากที่พยายามอยู่นานประมาณครึ่งชั่วโมง และได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสนามของกองทัพอิสราเอลแล้ว ชายคนนี้ถูกทับอยู่ใต้ซากอาคารสูง 3 ชั้นใกล้ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ล่าสุดเขามีอาการทรงตัว

    ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยผู้หญิงวัย 84 ปี ออกมาจากบ้านของเธอในกรุงปอร์โตแปรงซ์ที่พังถล่มลงมา และว่าขณะนี้แพทย์พยายามช่วยชีวิตเธออยู่ที่โรงพยาบาล.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-23 07:49:09

    เตือนเฮติจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกหลายระลอกช่วง 30 วันข้างหน้า

    [​IMG]

    วอชิงตัน 23 ม.ค.-สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐรายงานว่า เฮติมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับความเสียหายจากอาฟเตอร์ช็อกหรือแรงสั่นสะเทือนที่ตามมาหลังเกิดแผ่นดินไหวในช่วง 30 วันข้างหน้า และว่าแรงสั่นสะเทือนจะยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องอีกนานหลายเดือนหรือหลายปี

    กรุงปอร์โตแปรงซ์เกิดอาฟเตอร์ช็อก 2 ครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) วัดความรุนแรงได้ 4.4 ริกเตอร์ และตั้งแต่ผ่านพ้นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาได้ 10 วัน เกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นแล้วเกือบ 50 ครั้ง ความรุนแรงสูงสุดคือ 5.9 ริกเตอร์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

    รายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ระบุไว้บนเว็บไซต์ว่า อาฟเตอร์ช็อกจะยังมีอยู่นานหลายเดือนหรืออาจจะหลายปี แต่ความถี่ของการเกิดจะค่อย ๆ ลดลงไปตามกาลเวลา ส่วนแผ่นดินไหวที่จะมีความรุนแรง 7 ริกเตอร์ในช่วง 30 วันข้างหน้ามีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 3% แต่มีโอกาสถึง 25% ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6 ริกเตอร์ และมีโอกาสถึง 90% ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5 ริกเตอร์อย่างน้อย 1 ครั้ง

    หน่วยงานของสหรัฐเตือนว่า อาฟเตอร์ช็อกที่มีความรุนแรง 5 ริกเตอร์ขึ้นไป สามารถสร้างความเสียหายเพิ่มเติมให้แก่เฮติ โดยเฉพาะโครงสร้างของอาคารสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหายอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-23 08:56:00

    เด็กกำพร้าชาวเฮติชุดแรกเดินทางถึงฝรั่งเศสแล้ว

    [​IMG]

    ฝรั่งเศส 23 ม.ค. - เด็กกำพร้าชาวเฮติชุดแรก เดินทางสู่อ้อมกอดของพ่อแม่ใหม่ในฝรั่งเศสแล้ว

    เด็กเฮติ 33 คน ที่ต้องกลายเป็นกำพร้าเพราะภัยแผ่นดินไหว เดินทางถึงสนามบินรัวซีย์ ชาร์ลส์ เดอ โกลส์ ของฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ โดยนางคาร์ลา บรูนี ซาร์โกซี สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศส ไปรอรับถึงสนามบิน ก่อนที่เด็กๆ เหล่านี้จะผ่านกระบวนการอย่างเป็นทางการ เพื่อนำไปสู่อ้อมอกของครอบครัวใหม่ ตามข้อมูลของกองทุนเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ เผยว่า ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหว เฮติมีเด็กกำพร้าที่สูญเสียพ่อแม่ไปในภัยพิบัติอื่นๆ ซึ่งต้องการได้ที่พักพิงใหม่มากถึงราว 380,000 คน ขณะเดียวกันก็มีเสียงเตือนจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญให้ระวังการลักลอบนำเด็กกำพร้ารายใหม่ออกนอกประเทศ หรือการเร่งรัดกระบวนการรับเลี้ยงเด็กกำพร้า. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-23 11:21:24

    เฮติเตรียมอพยพออกจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ครั้งใหญ่

    [​IMG]

    ปอร์โตแปรงซ์ 22 ม.ค.-ผู้ประสบภัยชาวเฮติจำนวนมากอพยพออกจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ที่ได้รับความเสียหายหนักจากเหตุแผ่นดินไหว

    เจ้าหน้าที่หน่วยงานบรรเทาทุกข์ต่างชาติบอกว่า จนถึงขณะนี้มีชาวบ้านอพยพออกจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งขึ้นรถโดยสาร เรือข้ามฟาก รวมถึงเดินเท้ามากกว่า 2 แสนคน ด้านรัฐบาลเฮติเตรียมอพยพผู้คน 4 แสนคนออกไปตั้งถิ่นฐานใหม่นอกกรุงปอร์โตแปรงซ์ เนื่องจากกังวลปัญหาด้านสุขอนามัยและโรคระบาดที่จะเกิดตามมา โดยคาดว่าการอพยพครั้งใหญ่จะเริ่มได้ภายในสิ้นเดือนนี้ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงปอร์โตแปรงซ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันหามาตรการรับมือและป้องกันเหตุปล้นสะดมและขโมยทรัพย์สินฝีมือนักโทษที่หลบหนีออกจากเรือนจำโดยเฉพาะในเขตชุมชนแออัด ระบุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อการส่งสิ่งของช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 23:05:15

    ทีมค้นหาผู้รอดชีวิตในเฮติเริ่มทยอยกลับบ้าน

    [​IMG]

    เจนีวา 22 ม.ค. - สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยวันนี้ว่า ทีมกู้ภัยที่นำโดยยูเอ็น เปลี่ยนเป้าหมายการปฏิบัติภารกิจจากการค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคารไปเป็นการบรรเทาทุกข์ และทีมค้นหาบางทีมเริ่มทยอยกลับบ้านแล้ว

    โฆษกสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมของยูเอ็น ระบุว่า ทีมกู้ภัยหันเหเป้าหมายไปให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ต้องการความช่วยเหลือ ขณะที่บางทีมซึ่งปฏิบัติงานมาอย่างเหนื่อยล้า เริ่มทยอยกลับบ้านแล้ว ส่วนทีมที่มีอุปกรณ์หนักยังคงเดินหน้าขุดศพออกจากใต้ซากอาคาร

    ข้อมูลของยูเอ็น ระบุว่า จนถึงต้นสัปดาห์นี้ ทีมค้นหาและกู้ภัยจากนานาชาติที่ยูเอ็นช่วยประสานงาน สามารถช่วยผู้รอดชีวิตออกจากใต้ซากปรักหักพัง จำนวน 121 คน ถือเป็นสถิติสูงในเหตุภัยพิบัติเช่นนี้

    รัฐบาลเฮติประเมินว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บราว 200,000 คน และไร้ที่อยู่ 1 ล้านคน ในจำนวนนั้นราว 500,0000-700,000 คน อยู่ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ขณะที่อีก 2 ล้านคน ต้องการความช่วยเหลือด้านอาหาร. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 17:45:26

    ผู้บริจาคให้เฮติจะจัดประชุมฉุกเฉินในแคนาดาวันจันทร์

    [​IMG]

    มอนทรีออล 22 ม.ค. - สหรัฐ ฝรั่งเศส บราซิล และผู้บริจาครายอื่นในกลุ่ม “เฟรนด์ส ออฟ เฮติ” จะจัดการประชุมฉุกเฉินในเมืองมอนทรีออลของแคนาดาวันจันทร์นี้ เพื่อประสานความช่วยเหลือไปยังเฮติ และเตรียมจัดการประชุมสุดยอดว่าด้วยการฟื้นฟูเฮติ

    การประชุมครั้งนี้จะมีบุคคลสำคัญเข้าร่วม อาทิ นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายแบร์นาร์ด คุชแน รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ซึ่งคาดว่าจะให้การยอมรับบทบาทสำคัญของสหรัฐในการช่วยเหลือเฮติหลังแผ่นดินไหว ด้วยการระดมกำลังทหารจำนวนมากไปปฏิบัติภารกิจบรรเทาทุกข์ หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนเกิดความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลสองประเทศเรื่องที่สหรัฐเข้าไปควบคุม และจัดการการจราจรทางอากาศที่ท่าอากาศยานปอร์โตแปรงซ์ แต่ภายหลังฝรั่งเศสเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว

    นอกจากนี้ จะมีผู้แทนจากประเทศอื่นเข้าร่วมการประชุม อาทิ อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี เปรู อุรุกวัย เม็กซิโก คอสตาริกา และสเปน คาดว่าสหรัฐและแคนาดาจะประสานความร่วมมือช่วยเหลือเหตุภัยพิบัติอย่างแน่นแฟ้นระหว่างที่นายลอเรนซ์ แคนนอน รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา เข้าพบหารือกับนางคลินตัน ในกรุงวอชิงตันวันนี้

    รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดาจะเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งนี้ที่สำนักงานใหญ่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศในเมืองมอนทรีออล ซึ่งถูกขนานนามเป็นเมืองหลวงแห่งที่ 2 ของเฮติ เพราะมีชาวเฮติอาศัยอยู่กว่า 100,000 คน โดยศิลปินและนักวิชาการชาวเฮติจำนวนมากอาศัยในแคนาดา. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 11:18:20

    บรรดาคนดังของสหรัฐร่วมระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเฮติ

    [​IMG]

    เฮติ 23 ม.ค. - บรรดาคนดังจากทั่วทุกสาขาอาชีพของสหรัฐ ร่วมปรากฏตัวในงานระดมทุนบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ

    งานระดมทุนครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อ “Help for Haiti Now” มีจอร์จ คลูนีย์ ร่วมเป็นแม่งาน จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อระดมเงินบริจาคช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ ที่คาดกันว่ามีผู้เสียชีวิตมากถึงกว่า 2 แสนคน และอีกกว่าล้านคนต้องกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ภายในงานนี้ มีคนดังจากทั่วทุกสาขาอาชีพทั้งจากวงการเพลง และภาพยนตร์ เช่น บียอนเซ่ มาดอนน่า โบโน่แห่งยูทู รวมทั้งคนมีชื่อเสียงในวงการกีฬา และการเมือง มาร่วมร้องเพลง และรับโทรศัพท์รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา รายการระดมทุนครั้งนี้ถ่ายทอดสดแพร่ภาพจากนิวยอร์ก ลอนดอน ลอสแองเจลิส และเฮติ โดยได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ เช่น MTV, BET, PBS และ CNN. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-23 10:17:31

    อากาศหนาวเย็นในจีนทำนักเดินทางตกค้างจำนวนมาก

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 22 ม.ค.- เจ้าหน้าที่จีนเผยวันนี้ว่า สภาพอากาศเย็นจัดทุบสถิติในจีนสัปดาห์นี้ทำให้ต้องปิดท่าเรือประมงหลายแห่งทางภาคตะวันออก ขณะที่กระแสลมแรงในภาคตะวันตกเฉียงเหนือทำให้นักเดินทางตกค้างจำนวนมาก

    สภาพอากาศที่หนาวเย็นจัดอย่างต่อเนื่องเป็นอุปสรรคในการช่วยเหลือประชาชนราว 1.6 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากพายุหิมะครั้งรุนแรงหลายลูกที่พัดถล่มเขตปกครองตนเองซินเจียงทางภาคตะวันตกของจีน โดยพายุหิมะ 4 ลูกในเดือนนี้ คร่าชีวิตผู้คนในพื้นที่ดังกล่าวไปแล้วอย่างน้อย 5 คน บาดเจ็บอีกกว่า 600 คน และทำให้บ้านเรือนเสียหาย 100,000 หลัง

    โฆษกเขตปกครองตนเองซินเจียง ระบุว่า เมื่อวานนี้มีนักเดินทางราว 4,000 คนตกค้างเพราะกระแสลมกระโชกแรงทำให้ต้องปิดทางหลวงหลายสายในเขตอาสั่วไท้ และเขตจี๋ถ่าเฉิง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเขตปกครองซินเจียง คาดว่าถนนหนทางจะสามารถเปิดใช้การได้อย่างปลอดภัยอีกครั้งเมื่ออากาศอบอุ่นขึ้นภายในปลายสัปดาห์นี้ โดยอุณหภูมิในบางพื้นที่ตอนเหนือของเขตปกครองตนเองซินเจียงซึ่งเผชิญหิมะตกหนักที่สุดในรอบ 60 ปี ในสัปดาห์นี้ลดต่ำถึง -43 องศาเซลเซียส

    สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งตามแนวชายฝั่งมณฑลเหอเป่ย์ และมณฑลชานตง ยังทำให้บริการขนส่ง และประมงหยุดชะงัก ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งสิ้น 146 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,818 ล้านบาท) นอกจากนี้ บางพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนยังเผชิญฤดูหนาวรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยเมื่อช่วงต้นเดือน กรุงปักกิ่งมีหิมะตกหนักที่สุดในรอบ 59 ปี. -สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 18:38:26

    จราจรทางเหนือของอินเดียชะงักเพราะหมอกลงจัด

    [​IMG]

    นิวเดลี 22 ม.ค. - เจ้าหน้าที่อินเดีย แจ้งว่า การจราจรทั้งทางบกและทางอากาศทั่วตอนเหนือของประเทศประสบปัญหาล่าช้า หรือต้องยกเลิกการเดินทาง เพราะหมอกลงจัด

    โฆษกการท่าอากาศยานกรุงนิวเดลี เผยว่า ต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศ 22 เที่ยวบิน เปลี่ยนตารางบิน 33 เที่ยวบิน ขณะที่โฆษกการรถไฟทางเหนือ แจ้งว่า ตารางเดินรถปั่นป่วนไปหมด ต้องยกเลิกเที่ยวเดินรถไฟจำนวนมาก และเที่ยวเดินรถทางไกลล่าช้า 25 เที่ยว ในวันนี้ ทัศนวิสัยเกือบเป็นศูนย์ ต้องขอให้คนขับชะลอความเร็ว เพื่อความปลอดภัย หมอกลงจัดทำให้เกิดอุบัติเหตุรถไฟ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 คน ตั้งแต่ต้นเดือนนี้ ส่วนการจราจรทางถนนและทางหลวงก็ติดขัด ยวดยานเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ เพราะคนขับมองไม่เห็นทาง

    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาสำหรับพื้นที่ตอนเหนือของอินเดีย พยากรณ์ว่า หมอกจะลงจัดต่อเนื่องไปอีกหลายวัน ครอบคลุมพื้นที่ทางเหนือทั้งหมด เป็นหมอกลงจัดมากที่สุดตั้งแต่ปี 2546 ปกติเดือน ม.ค. ทางเหนือของอินเดียมีหมอกหนาเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว แต่ปีนี้รุนแรง เพราะได้รับอิทธิพลจากสภาพอากาศหนาวเย็นผิดปกติมาตั้งแต่ปีใหม่. - สำนักข่าวไทย

    2010-01-22 16:18:01

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...