ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

สวัสดีคะ อาจารย์ สุวิ ลูกสาวอายุ 14 เป็นสิว ที่หน้าและหลัง และมีภูมิแพ้คะ หอบก็มีบ้าง ส่วนลูกชาย 10 ขวบ แต่พุงออก ไม่ทราบว่า ต้องใช้ยาตัวไหนบ้าง และชอบมีเชื้อราตรง บริเวณ ขาส่วนใน ใกล้ และขึ้น ที่ลูกอัณทะ มีเกลื้อนที่หน้าออกแดง ทายา แล้ว หยุด หลังจากนั้น กลับมาเป็นอีก หาหมอ แล้ว ก็ยังไม่หาย
ส่วนข้าพเจ้าอายุ43 เริ่มเป็นไทรอยด์ เมื่อเดือนมกราคม แต่หลังจาก เรียนพลังจักรวาล ปฐมจักระ และจักระพัฒนา ไทรอยด์ เริ่มมีความสมดุลย์ แต่ก็มีความดันอยู่ 140/90 130/90 บางครั้ง ทานยาActapin 5mg ครึ่งเม็ด อยากขอสั่งยาคุณหมอ อยากทราบว่าควรทานยาชนิดใดบ้าง ตอนนี้ น้ำหนัก 73 kg รูปร่างอ้วน ท้วม อยากให้คุณหมอ แจมยาลดไขมันด้วย คะ ขอบพระคุณยิ่ง
สรุป ครอบครัวของเรา จะออกไปทางเจ้าเนื้อ อะคะ

 

ทั้งพ่อลูก ไม่มีเจ้ากรรมนายเวร ตัวจริง มาตามทวงหนี้
เป็นแต่มีวิบากกรรมที่ต้องชดใช้ จึงต้องลมเพลมพัด ให้เกิดโรคยากรักษา
ก็คงต้องหมั่นทำบุญ อุทิศ ให้ตัวเอง อุทิศให้จิตวิญญาน(มาจากลมเพลมพัด)ที่ชักนำให้เกิดโรค
ต้องหมั่นทำบ่อยๆ
การให้ทาน(รวมถึงทำบุญใส่บาตร) รักษาศีล ภาวนา(สวดมนต์ นั่งสมาธิ) นี่คือบุญ ที่ต้องทำเป็นนิจ เพื่อเปิดทางการรักษา

ตัวคุณพ่อคุณ มีสิ่งที่ คล้ายลิ่มเลือดเส้นเลือดขอด ไปอุดตันเส้นเลือดในสมองอยู่
และมีไวรัสตัวหนึ่ง เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดลิ่มเลือดนี้อย่างช้าๆ
การรักษา คงต้องหาทางยับยั้งการทำงานและขจัดไวรัสตัวนี้
ในแผนไทยเรา การขจัดไวรัส ก็คือการฟอกน้ำเหลือง(ยาแก้น้ำเหลืองเสีย)
ยาของหมอสุวิเพื่อการนี้ต้องใช้ยา สี่ตัวคือ
ประกายทอง ปลาหมอฟ้า วัชรมณี และโองการมหาธรณี
ยานี้ให้กินร่วมกับยาแผนปัจจุบัน(ตัวละลายลิ่มเลือด)

ส่วนตัวคุณเอง มีอาการของโรคกรดไหลย้อน อย่างมาก(จนเกิดแผลในกระเพาะอาหาร) อันเกิดจาก ไฟธาตุในตัวหย่อน(มาก)
การที่คุณกิน ใบย่านางคั้น หรือน้ำใบบัวบก ซึ่งเป็นยาเย็น มันจะยิ่งไปทำลายไฟธาตในตัวคุณให้น้อยลงไปอีก
เมื่อกิน ในชั่วโมงแรกจะรู้สึกดี แต่ผ่านไปอีกสักพัก อาการกรดไหลย้อน และอาการข้างเคียงต่างๆ จะแสดงอาการมากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น ไอของกรดที่ไหลย้อนขึ้นมาที่คอทุกเมื่อเชื่อวัน
จะทำลายเนื้อเยื่อที่หลอดลมและที่ไซนัสโพรงจมูกคุณ ทำให้เกิดการอักเสพเรื้อรัง มีเสมหะ และมีกลิ่นเหม็น

การรักษา จะต้องเน้นไปที่สร้าไฟธาตุ ปรับธาตุสี่ให้สมดุล พร้อมกับรักษาแผลในกระเพาะ และขจัดเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการอักเสพในโพรงไซนัสและหลอดลม
และต้องทำการรักษาไปพร้อมๆกัน จึงจะหายขาดได้
ยาของผมที่ต้องใช้มี
ยาปลูกเตโช, ขมิ้นทอง2, มณี ๒๐๑๑, ปลาหมอทอง
และยาแก้อักเสพแผนปัจจุบัน ตะกูลที่ใช้แก้ไซนัสอักเสพ(ยาแก้คอเจ็บหรือแก้หลอดลมอักเสพ ทั่วไป จะใช้ไม่ได้ผล เพราะเชื้อดื้อยาแล้ว)

 

ขอบพระคุณ อาจารย์มากครับ รบกวนอาจารย์เช็ค PM ด้วยครับ

 

ขอถามอาจารย์ นอกเรื่องอะคะ คือเราได้รับพระบรมสารีริกธาตุ ทั้งส่วนพระศรีษะ และ หัวใจ และ ส่วนช่วงไหล่ด้านหลัง ก้มกราบทุกครั้งจะรู้สึกเย็นมากกก ที่จักระ 7 4 และช่วงกระดูกสันหลัง บางทีก็รู้สึก ไปถึง1 แต่บางทีรู้สึกเย็นเกินไป รบกวนให้อาจารย์แนะนำว่าควรไล่ขึ้นลง อย่างไร ถ้าอาจารย์ไม่สะดวก รบกวนพีเอ็ม ก็ได้คะ เพราะอยากขจัดความสงสัย และบูธของอาจารย์ อยู่ที่เดียวกับอาจารย์ตาที่สามหรือเปล่าคะ กราบสาธุ อาจารย์ คะ

 

สวัสดีครับ อ.สุวิ ผมได้ติดตามอ่านกระทู้นี้ได้ 2-3 วัน แต่ยังไม่จบครับ ได้ความรู้มากมายครับ พอดีที่ น้าที่บ้านเป็นเบาหวาน ขึ้นตา แทบมองไม่เห็นจากคนปกติ ไม่รู้จะใช้ยาตัวไหนพอบรรเทาไม่ให้อาการเป็นมากถึงขั้นมองไม่เห็นบ้างไหมครับ แล้วตัวยาที่อาจารย์บอกแต่ละตัวอย่าง แบบสำเร็จรูป มีจัดจำหน่ายไหมครับผม เพราะบางตัวต้องหาตามร้านยาแผนโบราณไม่สะดวกที่จะจัดทำขึ้นเองตาม ที่อาจารย์ได้สอนบอกไว้ครับ ขอบพระคุณอย่างสูงครับผม

 

ตอบ
๑. ลูกสาวอายุ ๑๔ ปี
เด็กผู้นี้ไม่ได้เป็นภูมิแพ้มาแต่กำเนิด แต่ติดเชื้อไวรัสตัวหนึ่งในช่วงวัยเด็ก
ไวรัสตัวนี้ ทำให้ตับทำงานไม่สมบูรณ์ ไฟธาตุในตัวเธอ(ตับเป็นตัวควบคุม)จึงหย่อน ภูมิต้านทานจึงลดลง
เธอจึงเป็นคนขี้หนาว (นานๆครั้งก็จะขี้ร้อนกระวนกระวาย-เกิดธาตุไฟแปรปรวน)
การรักษา จึงต้องปรับไฟธาตุ และขจัดไวรัสในตัวพร้อมกัน ต้องใช้ยา
ปลูกเตโช, ภูมิแพ้เบอร์ 5, ปลาหมอทอง, มหาธรณี

๒.ลูกชาย อายุ ๑๐ ปี
เด็กผู้นี้ติดเชื้อผื่นคันอันเกิดจากการหมักหมม จากเหงื่อไคร
ปกติชายไทยเกือบทุกคน ที่มีเหงื่อมาก และไม่ค่อยชอบอาบน้ำมักเป็นโรคนี้กันทุกคน
มันมีเชื้อสะสมในกายด้ว เมื่อภูมิต้านทานต่ำ มันก็จะแสดงตัวออกมา
การรักษา ต้องกินยา และทายาจึงจะหายขาด
แต่บางคนที่มีภูมิต้านทานดี แค่ทายา ซีมาโลชั่น สองสามครั้ง พอโรคสงบ ภูมิคุ้มกันในตัวก็จัดการต่อเอง และไม่เป็นอีก
ยากินของหมอสุวิมี
ประกายทอง ปลาหมอทอง และกาญจน์มณี
ยาทา๑. ให้ทำเอง น้ำมันมะพร้าว ข่าแก่ กระเทียม ดอกปีป นำมาต้ม(ทอด)ด้วยไฟอ่อนๆ แล้วเอามาทา
ยาทา ๒. ให้ทาซีม่าโลชั่นสักครั้งก่อน แล้วทายา๑ จะทำให้หายเร็วขึ้น

๓. กรณีในตัวคุณ พบไวรัสชนิดหนึ่ง ที่เข้าทำลายงานระบบในตัวคุณ อย่างช้าๆ เริ่มที่ต่อมไธรอยด์ก่อน
ทำให้การทำงานของระบบค่อยๆช้าลง โบราณเรียก โรคลมบาดทะจิต

ปกติโรคนี้เท่าที่หมอสุวิเคยพบ เกิดในคนที่กระทบกระเทือนในระบบลมปราณ(พลังชีวิต) ทำให้เลือดลมเดินผิด
คนพวกนี้เป็นพวกที่ฝึกลมปราณ ฝึกมวย ฝึกการต่อสู้ ฯลฯ
และเคยพบในคนธรรมดาอีกพวกหนึ่งคือพวกที่ป่วยเป็นโรค Panic
การรักษาทั่วไปของหมอสุวิ ก็ใช้ยา
ทองบาดทะจิตและยาลมบาดทะจิต เพื่อแก้อาการเลือดลมไม่หมุนเวียน
และยาฟอกน้ำเหลืองเพื่อขจัดไวรัสที่มีอยู่
ไม่นานก็หายขาด

แต่ในกรณีของคุณ ยาดังกล่าวเพียงทำให้ค่อยยังชั่วขึ้นเท่านั้น
พอหมดยาอาการก็จะค่อยไเริ่มเป็นอีก

ได้ทดลองยาดอกบัว สูตรหนึ่งดู พบว่ายาตัวนี้สามารถรักษาคุณได้
แต่ยาตัวนี้ค่อนข้างแพง ด้วยทำจากดอกบัวหายาก และโสมเกาหลี
ราคาขวดละ ๓๐๐๐ กินได้ประมาณ ๑-๒ เดือน
จะลองหรือไม่แล้วแต่คุณ


ยาดอกบัว (ปัทมาคืนชีพ)
บัวหนึ่งนามxx ดอกบานได้สองราตรี เก็บดอกพร้อมก้านติดมา
อีกหนึ่งรากไม้เร่งหา มีรูปลักษณ์กายา ดูไปคล้ายดังหุ่นพยนต์
ครบถ้วนหัวกายแขนขาดั่งคน กำเนิดอยู่บน เขาสูงเสียดฟ้าหนาวเย็น
เสมอภาคบดผสมปนเป็น ผึ้งรวงเคี่ยวคร่ำจวบเย็น ปั้นก้อนเท่าเม็ดในพุทรา
กินวันละสองครา เมื่ออรุณเบิกฟ้า แลก่อนนิทราคำคืน
ช่วยที่จักตายให้ฟื้น จากนิทราพลันตื่น คืนชีพกลับมา
นับเป็นวาสนา แล้วเร่งจัดหา จินดามณี
หายสิ้นโรคภัยที่มี กายาแข็งแรงพ่วงพี ดุจดังมานพอ่อนวัย

 

เรื่องนี้ คงต้องโต้ตอบสอบสอบถามกันแบบ เผชิญหน้าดีกว่าครับ
กันผลาด และเข้าใจบางอย่างผิด ซึ่งจะเกิดผลเสียมากกว่าได้ ครับ

 

วิธีสั่งซื้อยา และ เจอ อาจารย์ได้ที่ไหน คะ พีเอ็ม ก็ดีอะคะ จะได้มีเวลาเตรียมตัวเพราะตัวเองไม่ได้อยู่ประเทศไทย

ลูกสาวจะเป็นคนขีร้อน ผื่นแดงที่ข้อพับ และปวดท้องเวลามีรอบเดือน ส่วนน้ำมันมะพร้าว ข่าแก่ กระเทียม มี แต่ดอกปีป ไม่มี คะ ส่วน ตัวข้าพเจ้าอยากขอลองทาน ยาฟอกน้ำเหลืองเพื่อขจัดไวรัสที่มีอยู่ ทองบาดทะจิตและยาลมบาดทะจิต

ขอบพระคุณอาจารย์ล่วงหน้า ส่วนอาการเย็นตอนนี้ ไล่ ให้อยู่แค่ 7 กับ 6 5 คะและยังรู้สึก เย็น เพิ่งเรียนจบพัฒนาจักระจากคุณย่าเยาวเรศ และอยู่ในระหว่างทำโยคะ และ ชารจักระ 21วัน รบกวนอาจารย์แนะนำ เผื่อทำไม่ถูกต้อง

 

เหตุที่ผู้เป็นเบาหวานแล้ว มีปัญหากับระบบต่างๆของร่างกายมากมาย
จะเกิดจาก คราบน้ำตาลในเลือด และไขมัน จับตัวกัน ทำให้ปลายเสนเลือดฝอยตีบ(อุดตันเร็วกว่าคราบไขมันธรรมดา)

เมื่อปลายเส้นเลือดฝอยที่ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆตีบตัน
การทำงานของอวัยวะเหล่านั้น ก็จะค่อยๆลดตำลง และไม่ทำานในที่สุด(เช่นไตวาย ตับวาย)
ถ้าไปตีบตันที่ระบบการมองเห็น(เรียกเบาหวานขึ้นตา) สายตาก็จะฝ่าฟางไป ในที่สุดก็จะมองไม่เห็น

การรักษาของหมอสุวิ ใช้ยา
มณีปรเมท แก้ เบาหวาน ไขมัน หัวใจ ความดัน เส้นเลือดตีบ
และยาชำระน้ำเหลือเสีย(ประมาณ ๑-๒ ตัว)เพื่อทำให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนได้สะดวก
ในบางคนอาจต้องมีการปรับธาตุด้วย(ไม่ทุกคน)

อ้อ...ยาที่ผมทำขึ้น เป็นยาสำเร็จรูปแล้วครับ
ทำใส่แคปซูล หรือเป็นลูกกลอน เรียบร้อย พกติดตัวไปกินง่าย

 

ผมมีแผนที่บ้าน อยู่ในกระทู้นี้ครับ หน้า 103 โพสที่ #3043
ติดต่อผ่าน e-mail ก็ได้ครับ
suwinand@gmail.com

 

ขอบพระคุณ อาจารย์ สุวิ อย่างสูงครับ ผมจะติดต่อรายละเอียด อาจารย์ ทางเมล์ในการสั่งซื้อยาครับผม

 

เป็นผื่นสีคล้ำๆคล้ายคนเป็นฝ้าบริเวณข้อมือซ้ายตั้งแต่18/6/54 ตอนแรกไม่คัน ไม่เจ็บ ไม่อะไรเลย พอ 27/6/54 รู้สึกคัน และคล้ำมากขื้น ปกติขายของอยู่ที่บ้าน บางเวลาก็ไปนาบ้าง รู้สึกกังวล แต่ยังไม่ไปหาหมอครับ อ่านเจอหมอสุวิก่อน กรุณาช่วยวินิจฉัยให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

 

คุณต้องพิษของสัตวชนิดหนึ่ง
คุณอาจจะเอื้มมือไปหยิบสิ่งของ และไม่ทันระวัง
ข้อมือจึงไปถูกพิษที่เขาบังเอิญทิ้งไว้

อาการของคุณจะเหมืนถูกไวรัส ในที่สุดจะเป็นผื่นตกสะเก็ด เหมือนสะเก็ดเงิน
ลามไปทั่ว
สิ่งนี้ถือเป็นลมเพลมพัดชนิดหนึ่ง นอกจากใช้ยามหาจินดาแล้ว ยังต้องทำบุญอุทิศให้โรคด้วย จึงจะหายขาดได้

 

อาจารย์สุวิครับ แล้วผมจะหายามหาจินดาได้จากที่ไหนครับ แล้วก็วิธีใช้ด้วยครับ บ้านอยู่เชียงรายครับ ขอบคุณครับ ขอให้อาจารย์สุวิมีความสุขครับ

 

ยามหาจินดาที่ผมทำ เป็นยาที่มีส่วนผสมของจินดามณี
คุณคงต้องเอาจากผมแล้ว

จะตั้งยาให้และส่งไปให้ทาง PM

 

อ.สุวิ ค่ะ
หนูเป็นคนที่ผมมันเร็วมาก สระผม 2 วัน ผมก็มันแล้วและมีผิวหน้ามันด้วย อาจารย์มียาที่ลดความมันบ้างใหมค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

เรียน อ.สุวิ
หนูได้รับยาที่ อาจารย์ส่งให้แล้วนะค่ะ หนูจะโอนเงินให้ในวันเสาร์ที่ 2 ก.ค.54 เนื่องจากที่หนูอยู่นั้นไกลจากตัวอำเภอมาก ต้องเป็นวันหยุดถึงจะออกมาโอนได้
ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ

 

คุณมีอาการของไฟธาตุเกินบ่อยๆ แต่ไม่ถึงกับเป็นร้อนใน

คุณกินยาปรับตรีธาตุตระกลูตรีผลา(ผลาธิกะ11,กาญจน์-มณี,วัชรมณี ตัวใดตัวหนึ่ง)
หรือกินตรีผลามื้อละ ๒ เม็ด วันละ สองมื้อ เช้าเย็นก่อนอาหาร
กินติดต่อกันประมาณ ๒-๓ เดือน อาการทุกอย่างก็หายแล้ว

แถมมีผลทำให้ผมดกดำ มีสายตาดีขึ้นด้วย

 

อ. สุวิคะ ถ้า อ. สะดวก รบกวนช่วยตอบคำถามให้หน่อยนะคะ
ยังรอคำตอบอยู่ค่ะ ขอบพระคุณนะคะ

ปล. อ. รู้จักสมุนไพรที่ชื่อว่า ปอกะบิด ไหมคะ ตอนนี้พ่อหนูต้มดื่มอยู่ค่ะ
ไปซื้อมาจากงานมหกรรมสมุนไพร เห็นเขาเขียนสรรพคุณไว้เยอะมาก
ไม่รู้ว่าจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า

 

คำถามนี้ จำได้คลับคล้ายคลับคราว่า ตอบไปแล้ว
แต่เปิดย้อนกลับไปดู เพื่อความแน่ใจ กลับไม่พบ คำตอบที่เป็นรูปธรรม
สงสัย คงตอบเธอไปในใจกระมังหว่า

เอ้าตอบอีกทีให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย

ถาม
๑.ขมิ้นผงที่เป็นแคปซูล ถ้ากินติดต่อกันเป็นเวลานาน
มีผลเสียต่อร่างกายหรือไม่คะ พี่ที่รู้จักกันเล่าว่าให้อากงกินตลอด ตอนนี้อากงตัวเหลืองค่ะ
ต้องหยุดกินก่อน หรือว่ากินต่อได้คะ
ตอบ
สมุนไพรเดียวทุกชนิด ไม่ว่าสรรพคุณดีเพียงใดก็ตาม หากกินด้วยความสม่ำเสมอ ไปนานๆ แทนที่จะได้ประโยชน์ กลับเป็นโทษทั้งสิ้น
ยกตัวอย่าง
ใบหญ้านาง คั้นสด(ปัจจุบันชอบกินกันมาก) สมุนไพรตัวนี้เป็นยาเย็น
เมื่อเริ่มกินใหม่ๆ จะรู้สึกดี ด้วยร่างกายมีการสะสมโรคร้อนอยู่(เกิดจากการกินอาหาร ทอดมากเกิน)
เมื่อกินไปสักพัก โรคร้อน(ปิตะเกิน)หมดไป ฤทธิ์ของใบหญ้านางก็จะเริ่มไปทำลายไฟธาตุในกาย
ทำให้ภูมิคุ้มกัน อันได้จากไฟธาตุลดลง ในช่วงนี้ก็จะเริ่มไม่สบายตัว
เมื่อยังกินต่อไปอีก ไม่หยุด อาการโรคก็จะเพิ่มขึ้น เช่นโรคกรดไหลย้อน นอนหลับไม่สนิท ปัสสาวะบ่อย ฯลฯ
ฟ้าทะลายโจรก็เป็นเช่นเดียวกัน
อาการทั้งหมด ล้วนเกิดจากธาตุในกายไม่สมดุลย์

แต่จะมีสมุนไพรบางอย่าง ถ้ากินทุกวัน แต่กินไม่มากนัก จะกินได้นานขึ้น เช่นพวกขมิ้น กระชาย พริกไทย
อย่างไรก็ตามเมื่อกินสะสมนานขึ้น อาการของธาตุไม่สมดุลย์ก็อาจเกิดขึ้นได้ เช่นกัน
ในตำหรับยา(ไม่ว่าของไทย-จีน) จะไม่มีการใช้สมุนไพรเดียว แต่จะใช้สมุนไพรตั้งแต่สองตัวขึ้นไปประกอบกัน เพื่อการจัดธาตุในตัวยาให้สมดุลย์
ยานั้นจึงจะกินได้นาน ไม่มีโทษ

บางครั้งร่างกายเสียสมดุลย์จากสภาพแวดล้อมและอาหารการกิน เช่นกินอาหารรสร้อนมากเกิน ทำให้ธาตุไฟกำเริบ
การกินสมุนไพรเดี่ยวสักพัก เช่น น้ำใบบัวบก น้ำใบหญ้านาง
กินไปสักพักพอร่างกายปรับสมดุลย์ได้ก็เลิกกิน(แต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากัน ประมาณการก็สัก ๓ วัน ๗ วัน)
กินแบบนี้จึงเป็นประโยชน์

ขมิ้นชันก็เช่นกัน การกินปริมาณสูงสักพักแล้วเลิกกิน จะเป็นประโยชน์(กินๆแล้วหยุดสักพัก จึงกินใหม่)
การกินติดต่อกันนานจะเป็นโทษมากกว่า

แต่ทำใมชาวใต้บ้านเรากินกันเป็นประจำ ไม่มีปัญหา
เป็นเพราะเขาไม่ได้กินในปริมาณมากเป็นประจำทุกวันและเวลาเดิม(แบบกินยา)
แต่เขากินเป็นช่วงๆ เป็นพักๆ แล้วหยุดตามมื้ออาหาร
และเมื่อกินนานไปร่างกายก็จะปรับความสมดุลย์ให้เข้ากับสถานที่อยู่อาศัยและอาหารการกิน พวกเขาจึงไม่มีปัญหา

ถาม
๒.การทำน้ำตรีผลา ถ้าหาวัตถุดิบสดๆ ไม่ได้ ใช้เป็นของแห้งที่ซื้อจากร้านขายยามาต้ม ในอัตราส่วนอย่างละเท่าๆ กัน จะมีประโยชน์เหมือนกันไหมคะ
ตอบ
การทำน้ำตรีผลา สามารถใช้สมุนไพรแห้งได้ แต่สรรพคุณจะด้อยกว่าสมุนไพรสดบ้างที่รสชาด(ของสดอร่อยกว่า ชื่นใจกว่า)
แต่ในสรรพคุณทางยาถึอว่าใช้ได้

สรรพคุณของตรีผลาที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย หลังจากหมอได้คุยกับตัวยาแล้ว อยู่ที่อัตราส่วนดังนี้

มะขามป้อม ๑ ส่วน
สมอพิเภก ๑ ส่วน
สมอไทย ๑.๕ - ๒ ส่วน (คนทั่วไปใช้ ๑.๕ ส่วน คนท้องผูกเป็นประจำใช้ ๒ ส่วน)

สรรพคุณ บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม ปรับตรีธาต(ปิตะ เสมหะ วาตะ)

ถาม
๓.อ่านเจอว่าถ้าดื่มชาเก๋ากี้บ่อยๆ จะช่วยบำรุงสายตา รักษาเลือดจาง
ถ้ากินบ่อยๆ ติดต่อกัน มีโทษไหมคะ
ตอบ
จากคำตอบแรก กินได้ แต่อย่ากินนาน จักเป็นประโยชน์

เก้ากี๋ เป็นตัวยาจีน ใช้บำรุงสายตาได้ดี แต่การรักษาเรื่องโลหิตจางนี่ ไถ่ถามอีแล้ว อีว่าอีรักษาไม่ได้

มีตำหรับยาสุดอร่อยให้สูตรหนึ่งคือ
เก้ากี๋ ๑ ส่วน (ขอแก้ตรงนี้หน่อยจ้า เขียนเพลินไปหน่อย ที่ถูกต้องคือ ลำไยแห้ง ๑ ส่วน)
พุทราจีน(ชนิดลูกเล็ก) ๒ ส่วน
เก้ากี๋ ๕ ส่วน

ต้มกินทั้งเนื้อและน้ำ บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม ปรับธาตุให้สมดุลย์

ถาม
๔ อ. รู้จักสมุนไพรที่ชื่อว่า ปอกะบิด ไหมคะ ตอนนี้พ่อหนูต้มดื่มอยู่ค่ะ
ไปซื้อมาจากงานมหกรรมสมุนไพร เห็นเขาเขียนสรรพคุณไว้เยอะมาก
ไม่รู้ว่าจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า
ตอบ
ปอกะบิด ผมไม่รู้จักครับ อาจเป็นภาษาท้องถิ่น
รู้จัก แต่ ปอบิด ลูกมันยาวสัก ๑-๒นิ้ว บิดเป็นเกลียว เหมือยเชือกที่ฝั่นเป็นเกลียว

ปอบิด
ต้มกิน แก้ อาการกระเพาะอาหารเป็นแผล อักเสพเรื้อรัง แก้เสมหะพิการ
ตำพอก แก้ปวด เคล็ดขัดยอก บวม

เป็นสมุนไพรเดี่ยวที่มีปัญหาน้อย กินได้นานพอควร
แต่เป็นสมุนไพรที่บำรุงเสมหะธาตุ โดยเฉพาะ คูตเสมหะ(ทำให้เกิดการถ่าย)
หากกินนานไป จะทำให้ระบบการขับถ่ายผิดปกติได้