ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติจักรแก้วทั้ง ๔ (สุทธิธรรมฯ) ตอนที่ ๑๔ นาคเทวีออกจากสมาบัติ..

    2013-05-04 11.08.43.jpg

    ครั้นดาบสทั้งสองได้มายังถ้ำแก้วนาคราช ความจริงแล้วมนุษย์โดยทั่วไปไม่สามารถมองเห็นทางเข้าไปยังนาคพิภพได้ด้วยตาเปล่า เนื่องจากมีมนต์กำบังทางเข้านั้น จะเห็นเป็นเพียงผนังถ้ำหินธรรมดา แต่ดาบสทั้งสองได้อภิญญา ๕ และมีมนต์คลายม่านบังตาจึงมองเห็นทางเข้านั้นได้ไม่ยากนัก

    เมื่อเข้าไปด้านในเห็นพญานาคราช ๒ ตน คือ เมตตชีวกนาคราช และเวสภูนาคราช เฝ้าหน้าถ้ำอยู่ พญานาคราชเหล่านี้ได้รับการบัญชาจากษัตริย์ของเมืองในปัจจุบัน ซึ่งได้รับการมอบหมายจากท่านท้าววิรูปักษ์องค์ปัจจุบัน เนื่องจากท้าววิรูปักษ์องค์ก่อนได้เคลื่อนภพไปแล้ว


    ท่านดาบสทั้งสองได้แสดงตนว่า เป็นใคร จึงได้รับอนุญาตเข้าไปด้านใน เมื่อเข้าไปถึงถ้ำด้านชั้นนอกก็ทราบว่า นาคเทวีทั้งสองได้เข้าสมาบัติในถ้ำด้านใน ดาบสทั้งสองจึงได้เข้าสมาธิดูว่า พระนางทั้งสองจะออกจากสมาบัติเมื่อใด จึงทราบว่า อีก ๗ วัน นาคเทวีทั้งสองจะออกจากสมาบัติ ซึ่งตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีจอ จึงได้บอกกล่าวแก่พญานาคราช ผู้เป็นเสนาทั้งสองว่า..


    “ท่านนาคราชทั้งสอง อีก ๗ วันข้างหน้า มหาเทวีจะออกจากสมาบัติของท่านจึงไปแจ้งแก่กษัตริย์ของท่านด้วยเถิด”


    เวสภูนาคราชจึงรับอาสาไปกราบทูลแก่กษัตริย์ของตน ส่วนเมตตชีวกนาคราชนั้น รับอาสาการอุปัฏฐากแก่ดาบสทั้งสอง

    กาลนั้น สุตรมงคลเดิม เปลี่ยนเป็นเมืองโสตนคร โดยมีพญาโสตปุญญราชเป็นผู้ครองนคร มีพระมเหสีนามว่า “พระนางมันตราเทวี” เป็นผู้มีสิริโฉมงดงามยิ่งนัก เมื่อเวสภูนาคราชได้บอกเรื่องนี้ ทรงปิติยินดีอย่างยิ่ง

    ในนาคพิภพขณะนั้น เรื่องราวของพญานาคผู้เสียสละตนเข้าสมาบัตินานนับหลายสิบกัป เป็นตำนานเรื่องเล่าสืบต่อ ๆ กันมา หากผู้ใดได้พบเห็นผู้อธิษฐาน นับเป็นบุญญาธิการแห่งตนยิ่งนัก

    เมื่อเวสภูนาคราชได้แจ้งข่าวในเรื่องนี้ พญาโสตปุญญราชทรงปิติยินดีอย่างยิ่งได้จัดทิพยสมบัติต่าง ๆ เตรียมเป็นที่รองรับจักรแก้วที่จะปรากฏขึ้น เหล่านาคีนาคาทั้งหลายต่างปิติยินดีอย่างยิ่ง รอคอยการออกสมาบัติ

    ครั้น ๗ ราตรีผ่านไป เหล่าพญานาคราชทั้งเมืองนั้น และต่างเมืองต่างก็มาเฝ้ารออยู่นอกถ้ำ โดยภายในถ้ำชั้นนอก มีเพียงพระดาบสทั้งสองเข้าสมาบัติอยู่

    เมื่อถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ พระนางรัตนราศี และพระนางพิมมรัตนะได้ออกจากสมาบัติ จากนั้นต่างอธิษฐานรวมบุญบารมีแห่งตน อธิษฐานจักรแก้วสีชมพูขึ้นมา ๑ องค์ โดยผลบุญแห่งการเข้าสมาบัตินั้น ส่งผลให้พระนางทั้งสอง เป็นผู้มีฤทธิ์มาก มีญาณทัสสนะแจ่มใสยิ่งขึ้น

    จากนั้นนาคเทวีทั้งสอง จึงได้เสด็จมากราบพระอาจารย์ในอดีต คือ อิทธิสิทธิ์ดาบส อิทธิสิทธิ์ดาบสมีความปิติยินดีในความสำเร็จของศิษย์ทั้งสอง ท่านได้นำจักรแก้วสีชมพู ไปให้เหล่าพญานาคราชทั้งหลายเคารพสักการะ จากนั้นจึงได้บอกกล่าวจะต้องนำไปถวายแด่ท้าวสักกเทวราช เพื่อให้ท้าวสักกเทวราชให้พร ๘ ประการก่อนจึงจะสามารถนำมาประดิษฐานในพระเจดีย์ได้

    พญาโสตปุญญราชทรงใช้ดอกไม้แก้วมณีรัตนะ ๗ บูชาจักรแก้ว ส่วนพระนางมันตราเทวีนั้น นำดอกไม้แห่งนาคพิภพมาทำเป็นน้ำอบ แล้วบูชาจักรแก้วนั้น ส่วนนาคีนาคาทั้งหลายต่างนำดอกไม้ทั้งจากเมืองมนุษย์และนาคพิภพโปรย เพื่อบูชาจักรแก้วนั้น ก่อนที่ดาบสทั้งสอง และนาคเทวีทั้งสองจะเหาะไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ทันที
     
  2. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ...ประวัติจักรแก้วทั้ง ๔ (สุทธิธรรมฯ) ตอนที่ ๑๕ พร ๘ ประการ..

    2013-05-04 11.08.43.jpg

    เมื่อถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อิทธิสิทธิ์ดาบสได้นำจักรแก้วชมพูทั้งสองถวายแด่ท้าวสักกเทวราช(องค์เดิม) และได้กราบเรียนท้าวสักกเทวราชว่า เกิดจากอธิษฐานจิตของนาคเทวีทั้งสอง ท้าวสักกเทวราชกล่าวโมทนาและให้พร ๘ ประการว่า...

    “เราขอพรอันเป็นมงคลแก่เธอทั้งสองว่า..

    ๑.จักรนี้เป็นสิ่งที่จะแสดงถึงความเป็นผู้สัมมาทิฐิ
    ๒. ผู้ที่ได้พบก็ตาม ได้สัมผัสจักรนี้ เมื่อก็ตามจะเป็นผู้ที่มีลาภสักการะเสมอ ๆ
    ๓. จงเป็นผู้ที่ผู้ใดไม่สามารถทำร้ายได้
    ๔. จงเป็นผู้มีความบริสุทธิ์แห่งจิตยิ่งขึ้นไป
    ๕. จงมีแต่ความเป็นสิริมงคลตลอดไป
    ๖. จงเป็นผู้ที่มีแต่ความเมตตาจากผู้ที่ได้พบเห็นทั้งหลาย
    ๗. ขอให้จักรนี้ เป็นเครื่องป้องกันภัยอันตรายทั้งหลาย

    ๘. หากวันใดที่มีผู้มีบุญญาธิการต้องการความช่วยเหลือ จักรนี้จะปรากฏขึ้นมาแก่ผู้นั้น ไม่ว่าผู้อธิษฐานจักรจะยังอยู่ หรือไม่ก็ตาม


    เมื่อพระอินทร์ได้ให้พร ๘ ประการแล้ว พระนางรัตนราศีได้กราบ และตรัสว่า..

    “ข้าฯแต่จอมเทพผู้เป็นใหญ่ หม่อมฉันขอพรจากพระองค์อีกสักข้อได้หรือไม่เพคะ”

    ท้าวสักกเทวราชตอบว่า.. “ได้สิ มหาเทวี”

    พระนางจึงตรัสว่า....

    “หม่อมฉันมีความรักและเคารพพระสวามียิ่งนัก หากปราศจากพระองค์แล้วก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ขอให้หม่อมฉันเข้าสมาบัติอีกครั้ง และออกจากสมาบัติพร้อมกับพระสวามีด้วยเถิด”


    ท้าวสักกเทวราช ได้ยกมือประทานพร และตรัสว่า..”พรนี้จงบังเกิดแก่พระนางเถิด”

    ส่วนพระนางพิมมรัตนะได้กล่าวว่า....

    ”ข้าฯแต่ท่านผู้มีศักดิ์ใหญ่ หม่อมฉันมิปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ต่อ แต่ปรารถนาที่จะจุติมาพบพระสวามีในอีก ๑๐ กัปเบื้องหน้าโน้น และขอให้พระองค์รักหม่อมฉันแต่เพียงผู้เดียวด้วยเถิด”

    ท้าวสักกเทวราช ทรงย้อนดูบุพกรรมของพระนาง จึงกล่าวว่า..

    “มหาเทวี เรื่องนี้เป็นเรื่องบุพกรรมของพระนางมาแต่กาลก่อน ดังนั้น จากชาตินี้ ไปขอให้ท่านจงอธิษฐานประพฤติพรหมจรรย์ ๕๐๐ ชาติ ในชาตินั้นจึงจะสำเร็จตามความปรารถนา”


    เมื่อพระนางพิมมรัตนะได้ฟังเช่นนั้น จึงกล่าวว่า .. .

    "จากนี้หม่อมฉันจะขอประพฤติพรหมจรรย์ไม่เหลียวแลชายใด กลับไปคราวนี้ หม่อมฉันจะเข้าสมาบัติจนสิ้นอายุขัย
    แม้เกิดในภพหน้า ขอให้ได้บวชในบวรพระศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งพระองค์ใดในอนาคตกาลเบื้องหน้าเทอญ..”


    เมื่อพระนางกล่าวจบ เทวดาและเทพธิดาทั้งหลายต่างโมทนาสาธุการในสัจจอธิษฐานของพระนาง ได้มีดอกไม้แก้วจากสวรรค์ชั้นดุสิตหล่นลงมา มีกลิ่นหอมไปทั่ว
    ท้าวสักกเทวราชตรัสว่า... “อีก ๑๐ กัป มหาเทวีจะสมหวังดังคำอธิษฐานนี้”..

    จากนั้นทั้งหมดได้กราบลาท้าวสักกเทวราช และกลับลงมายังภพบาดาล นำจักรแก้วทั้งสองไปประดิษฐานยังพระเจดีย์

    จากนั้นนาคเทวีทั้งสองได้กราบลาพระดาบสทั้งสอง และเข้าสมาบัติตามอธิษฐานแห่งตน เวลาผ่านไปถึง ๖ เดือนพอดี ดาบสทั้งสองก็กลับยังอาศรมของตน
     
  3. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติจักรแก้วทั้ง ๔ (สุทธิธรรมฯ) ตอนที่ ๑๖ อธิษฐานจักรคู่บารมี..

    P1120387.JPG


    ดาบสทั้งสองจึงได้กลับยังอาศรมของตน และได้เล่าเรื่องนี้แก่วารุณีดาบสินี ทำให้นางรู้สึกปิติยินดี และนึกว่า..

    “สตรีก็สามารถสร้างบุญใหญ่ได้ ขอให้เราได้เป็นอย่างนางด้วยเถิด และเรามีความศรัทธาในปฏิปทาของพระนางรัตนราศี ขอให้เรามีความมั่นคงในรักดังเช่นพระนางด้วยเถิด”

    เมื่ออธิษฐานแล้ว เทพเทวาที่อยู่บริเวณนั้น ต่างโมทนาสาธุการในสัจจอธิษฐานแห่งนาง แล้วต่างปรากฏกายให้เห็นนำดอกไม้ทิพย์ ข้าวทิพย์ และผลไม้ทิพย์มาถวายแด่ดาบสินี นางได้เห็นเช่นนั้นก็ได้นำดอกไม้ทิพย์ ข้าวทิพย์ และผลไม้ทิพย์ มาถวายแก่พระอาจารย์ และอิทธิสิทธิ์ดาบสก่อน

    สีหดาบสเห็นแก่ความกตัญญูของนาง และพิจารณาว่า หกเดือนผ่านไปอินทรีย์ของวารุณีดาบสีนีแก่กล้ามาก พอที่จะรองรับวิชาได้ จึงได้สอนวิชาอธิษฐานจักรแก้วให้ในที่สุด สร้างความปิติยินดีแก่นางยิ่งนัก นางได้ร่ำเรียนเป็นเวลา ๗ วันจึงสำเร็จวิชา สีหดาบสกล่าวว่า..

    “วารุณีเอ๋ย การอธิษฐานจักรแก้วนี้ หากเป็นพญานาคราชนั้นใช้เวลาถึง ๖๑ และ ๕๑ กัป แต่หากเป็นมนุษย์ และออกบวชเป็นพระฤาษี หรือดาบส จะใช้เวลาเพียง ๓๖ กัปเท่านั้น”

    วารุณีดาบสินีกล่าวว่า ....

    "ข้าฯแต่พระอาจารย์ ศิษย์ปรารถนาที่จะอธิษฐานจักรแก้ว ในภายภาคหน้ามิทราบว่าจะได้เรียนวิชาอีกหรือไม่ แต่ชาตินี้ศิษย์ได้รับวิชาจากพระอาจารย์แล้ว ศิษย์ขอใช้โอกาสนี้ ขอพระอาจารย์พิจารณาด้วยเถิด”

    สีหดาบส และอิทธิสิทธิ์ดาบส ผู้เป็นอดีตสามีนั้นได้อนุญาต แต่อิทธิสิทธิ์ดาบสเห็นควรกับนางจะเข้าสมาบัติ เพื่ออธิษฐานจักรแก้วพร้อมกัน

    ท่านดำริว่า ในโลกมนุษย์นี้ยากจะพ้นไฟบรรลัยกัลป์ ควรจะไปขอสถานที่เข้าสมาบัติในนาคพิภพจะดีกว่า ท่านจึงอธิษฐานถึงท้าววิรูปักษ์ ท้าววิรูปักษ์มาปรากฏและกล่าวว่า...

    “มีเมืองหนึ่งนามว่า สัตตรัตนมณี ขณะนี้ปกครองโดยพญาสุริยรัตนนาคราช ขอให้จงไปถามเถิด”

    อิทธิสิทธิ์ดาบสได้โมทนาแก่ท้าววิรูปักษ์ จากนั้นได้กราบลาสีหดาบส ผู้เป็นพระอาจารย์ และพาวารุณีดาบสินีเหาะไปยังนครสัตตรัตนมณีทันที

    สัตตรัตนมณีนครนี้ เป็นสถานที่รวมสมบัติจักรพรรดิในภาคผืนน้ำ และสมบัติที่ไม่มีเจ้าของ ตลอดทั้งดวงแก้วมณีรัตนะต่าง ๆ ที่พระดาบส หรือพระฤาษีผู้มีฤทธิ์อธิษฐานไว้แต่อดีต รวมทั้งธาตุกายสิทธิ์อื่น ๆ ก็อยู่ที่แห่งนี้เช่นกัน

    ครั้นอิทธิสิทธิ์ดาบสไปถึงก็เข้าพบพญาสุริยรัตนนาคราชทันที พญาสุริยฯนั้นได้ทราบเทวดาที่เป็นอินทกะของท้าววิรูปักษ์ก่อนหน้านั้น ก็รู้สึกยินดียิ่งนัก จึงได้ทำการต้อนรับดาบส และดาบสินีทั้งสอง จากนั้นดาบสและดาบสินีได้เข้าสมาบัติเป็นเวลา ๓๖ กัป


    ยังมีต่อ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2013
  4. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    พี่หม่อนขา....

    ขอเปลี่ยนจากกรรมกร เอ้ย กรรมการ เป็นเจ้่าภาพด้วยค่ะ
    เป็นคุณชวลิต คุณสำราญ คุณนันทพร วรรัตน์ และ คุณวรารัตน์ พลยะมาตย์พร้อมครอบครัวนะคะ ^^



    อิอิ เป็นปณิธานที่มุ่งมั่นมากค่ะ
    ขอโมทนาด้วยนะคะ
     
  5. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376


    โหย พี่เอ๋ เราได้จับแล้ว ....
    สาธุ ลาภสักการะ จงมา จงมา และจงมา ตามที่ท่านท้าวสักกะเทวราชให้พรด้วยเถิ้ด อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2013
  6. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,349
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,301
    อันนี้ ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะครับ ผมก็กลัวกรรมตามทันครับ
    บางทีชีวิตวุ่นวายจะขาดใจตายก็หลายทีแล้ว
    ดีว่ายังยังมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งทางใจครับ ทุกคน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2013
  7. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    ท้าวสักกเทวราชกล่าวโมทนาและให้พร ๘ ประการว่า...

    “เราขอพรอันเป็นมงคลแก่เธอทั้งสองว่า..“

    ๑.จักรนี้เป็นสิ่งที่จะแสดงถึงความเป็นผู้สัมมาทิฐิ
    ๒. ผู้ที่ได้พบก็ตาม ได้สัมผัสจักรนี้ เมื่อก็ตามจะเป็นผู้ที่มีลาภสักการะเสมอ ๆ
    ๓. จงเป็นผู้ที่ผู้ใดไม่สามารถทำร้ายได้
    ๔. จงเป็นผู้มีความบริสุทธิ์แห่งจิตยิ่งขึ้นไป
    ๕. จงมีแต่ความเป็นสิริมงคลตลอดไป
    ๖. จงเป็นผู้ที่มีแต่ความเมตตาจากผู้ที่ได้พบเห็นทั้งหลาย
    ๗. ขอให้จักรนี้ เป็นเครื่องป้องกันภัยอันตรายทั้งหลาย

    ๘. หากวันใดที่มีผู้มีบุญญาธิการต้องการความช่วยเหลือ จักรนี้จะปรากฏขึ้นมาแก่ผู้นั้น ไม่ว่าผู้อธิษฐานจักรจะยังอยู่ หรือไม่ก็ตาม



    สาธุ สาธุ สาธุ ดังๆ ลาภสักการะ จงมา จงมา และจงมา ณ บัดนาว
    ค่ะน้องตาล เราจะได้ลืมตา อ้าปากได้ซะที อิอิ (จะได้ทำบุญให้กระจายไปเล้ย)


    ที่ลืมไม่ได้เลย ขอขอบคุณ พี่น้ำใส ที่มีความกรุณาให้เราได้ชมนะค่ะ
    จักรแก้ว ทั้ง 2 สี ทั้ง 2 ชุด สวย และ ใส มากๆ ค่ะ ขออนุโมทนาสาธุ ค่ะ

    จันทรกาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 พฤษภาคม 2013
  8. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966

    จัดให้เลยค่ะน้องตาล

    ประธานดำเนินการฝ่ายฆราวาส

    1. กองบุญสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร
    2. คุณภูริชญา-คุณศักดิ์ดา – ด.ช. ณัฐนนท์ เหมรา
    3. คุณพุทธารา-ด.ญ.รัศมิ์ณิชา โรจนฤทธิกร
    4. ร.อ.ไพรสิทธิ์- คุณเดือนฉาย พิมพ์อ่ำ พร้อมครอบครัว
    5. คุณพักตราวดี-คุณวรวุฒิ ถมกลาง พร้อมครอบครัว
    6. คุณณิชกานต์ – คุณภาณุพงศ์ กรองทอง
    7. คุณสมบูรณ์-คุณนาวี-ด.ช.จิรายุ หงส์บิ
    8. คุณชวลิต คุณสำราญ คุณนันทพร วรรัตน์ และ คุณวรารัตน์ พลยะมาตย์ พร้อมครอบครัว

    *** ผ้าป่ากองเล็กๆ กองนี้ จะร่วมสร้างหน้าบรรณ ประตู, หน้าต่าง เป็นลวดลายไทย ที่โบสถ์ วัดโพธิญาณรังสี จังหวัดสุรินทร์
    ___ หลังจากถวายผ้าป่าวันที่ 16/6/56 แล้ว วิมานน้องตาลนอกจากจะเป็นแก้วที่ประดับ ประดาด้วยรัตนชาติแล้ว ยังมีลวดลายที่วิจิตร
    ตระการตาชัวร์ ยังงัยก็บอกกล่าวพวกเราชาวเมืองบ้างน้าาาา เพื่อเป็นกำลังใจ

    *** ว่าแต่ภาระกิจที่พี่ฝากไป เรียบร้อยไหมคะ วัตถุประสงค์คือพี่อยากส่งคืนฝ่ายซ่อมบำรุง หลังจากนั้นพี่จะอธิษฐานขอใหม่ อิอิ ***

    เพื่อเป็นกำลังใจอีกแล้ว ครับท่าน chearr
    อนุโมทนาบุญกับน้องตาลด้วยจ้า
     
  9. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376

    ภาระกิจสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีค่ะ
    ตอนนี้ฝนกำลังมา น้ำโขงจึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    และนายช่างฝ่ายซ่อมบำรุงได้รับของที่แตกเรียบร้อยค่ะ อิอิ...
    คาดว่า ของจะซ่อมเสร็จในไม่ช้านี้...


    และขอบคุณพี่หม่อนมากค่ะ ที่เป็นธุระจัดการเรื่องประธานผ้าป่าให้
    ขอโมทนาบุญเป็นอย่างสูงค่ะ
     
  10. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    [​IMG]

    ฝากภาพนี้ให้ ท่าน ธรรมวิวัฒน์ค่ะ
    โมทนาบุญด้วยค่ะที่มี พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งทางใจ ขอมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งทางใจด้วยอีกคน นะคะ


    " ความคิดก็เหมือนน้ำ...ยิ่งกวน ก็ยิ่งขุ่น...ยิ่งวุ่นก็ยิ่งทุกข์...ยิ่งนิ่ง ก็ยิ่งใส...ยิ่งสงบได้ ก็ยิ่งสุข "​
     
  11. naron

    naron เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    2,515
    ค่าพลัง:
    +3,573
    อนุโมทนาสาธุบุญกับทุกๆท่านทุกๆกองบุญกองกุศลครับผม สาธุ
     
  12. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905



    น่ารัก อะ chearr
    ดวงจิต ดวงนี้ ก็ขอมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งทางใจด้วยอีกคน นะคะ catt26

    จันทรกาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 พฤษภาคม 2013
  13. Paktawadee

    Paktawadee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2012
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,570
    สาธุ _/\_ หนูดีขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านทุกประการด้วยค่ะ
    ขอขอบคุณพี่เอ๋ค่ะที่เมตตาน้องหนูดีโทรมาบอกบุญทำให้
    ได้อนิสงค์ผลบุญเสมอๆ ขอบคุณค่ะพี่เอ๋


    ช่วงนี้มีประชุมบ่อยมากๆทุกอาทิตย์ ต้องทำรายงานเพื่อประชุมถ้ามีบุญด่วน
    รบกวนพี่เอ๋โทรมาได้ทุกเวลาค่ะ เพราะหลายวันแล้วไม่ได้เข้ากะทู้เลย
    น้องหนูดีไม่อยากพลาดบุญอิอิ


    ส่วนงานผ้าป่าวัดโพธิญาณรังสี รายชื่อผู้ร่วมบุญจะพิมพ์ส่งไปให้ค่ะ
    หนูดี:)
     
  14. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,349
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,301
    รูปน่ารักมากครับ พี่หม่อน ขอบใจครับ
     
  15. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติจักรแก้วทั้ง ๔ (สุทธิธรรมฯ) ตอนที่ ๑๗ เจ้าหญิงศิรมณี นาคเทวีกลับชาติมาเกิด..

    2013-05-04 11.05.33.jpg


    กล่าวถึงนครบาดาลผ่านมาอีก ๑๐ กัป กาลนั้นไม่ปรากฏมีเมืองสุตรมงคล หรือโสตนครแต่อย่างใด เนื่องจากพญานาคราชทั้งหลายต่างเคลื่อนภพไปยังภพภูมิอื่น เหลือเพียงถ้ำแก้วที่เป็นสถานที่พญานาคราชทั้งสอง พร้อมพระนางรัตนราศีได้เข้าสมาบัติอยู่

    กาลนั้นพระนางพิมมรัตนะได้จุติจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นพระธิดาของพระเจ้ามณฑลราช แห่งมณฑลนคร นามว่า..เจ้าหญิงศิรมณี เจ้าหญิงศิรมณีนั้น มีความนิสัยแปลกจากสตรีอื่น ๆ คือ จะไม่สัมผัสต้องชายใด แม้แต่พระบิดา นางพูดคุยได้ แต่ไม่สัมผัสกาย ปุโรหิตของเมืองได้ทำนายว่า..



    “นางเป็นผู้มีบุญบารมีมากเกิด หากวันใดนางสัมผัสชายใด ชายผู้นั้นจะเป็นเนื้อคู่ของนางเท่านั้น”


    พระเจ้ามณฑลราชเมื่อทราบดังนั้น จึงเบาพระทัย และเลี้ยงดูเจ้าหญิงดุจพระโอรส เจ้าหญิงนั้นมีนิสัยร่าเริง ชอบเข้าป่า ออกแสวงหาพระอาจารย์ให้สอนวิชา จนกระทั่งได้พบกับพระฤาษีตนหนึ่งนามว่า..

    “สุวรรณฤาษี” ได้สอนวิชาต่าง ๆ ให้แก่นาง ใช้เวลา ๖ เดือนจึงสำเร็จวิชา นางได้กราบลาพระอาจารย์กลับเมือง ทำให้นางมีความเชี่ยวชาญเรื่องการรู้ภาษาสัตว์ต่าง ๆ การกำบังกาย และมีทิพยจักขุญาณ

    ขณะนางได้เดินทางกลับเมืองวพร้อมนางกำนัล ซึ่งคัดเลือกจากความกล้าหาญ มีความเก่งกล้าดุจชาย เมื่อเหน็ดเหนื่อยจากการประพาสป่าทรงบรรทม และตื่นขึ้นมาได้ยินนก ๒ ตัวกำลังคุยกันว่า..

    “เจ้ารู้หรือเปล่า ห่างจากนี้ไป ๑ โยชน์จะมีถ้ำที่สวยงามมากถ้ำหนึ่ง ยากที่ผู้ใดจะเข้าไปได้ เดิมทีถ้ำนี้อยู่ใต้ภพบาดาล แต่ต่อมากาลเวลาเปลี่ยนไป น้ำแห้งหาย กลายเป็นถ้ำบกเสียนี่ ที่สำคัญภายในถ้ำนี้มีพญานาคราช ๓ ตน บำเพ็ญเพียรอยู่ด้วยนะ”


    นกอีกตัวหนึ่งถามว่า ..”แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไร”

    นกตัวแรกตอบว่า.. “รู้ซิ เพราะข้าไปหาอาหารแถวอาศรมพระฤาษีฝั่งโน้น ข้าฯได้ยินพระฤาษีพูดกันว่า พญานาคราชที่จะออกจากสมาบัตินั้นมี เพศผู้ ๒ ตน เพศเมีย ๑ ตน จะทำกิจใหญ่ เหล่าพระฤาษีได้รอคอยการออกจากสมาบัติของพญานาคราช ๒ ตนนี้ ว่ากันว่านานนับ ๖๑ กัป เชียวนา ท่านว่าอีก ๗ วันก็จะถึงเวลาแล้ว”

    นกตัวที่สองกล่าวว่า.. “ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปรอดีมั๊ย ข้าก็อยากเห็นฤทธานุภาพของพญานาคราชทั้ง ๒ เผื่อจะเป็นบุญตาของเรานะ”

    เมื่อนกทั้งสองพูดจบ เจ้าหญิงศิรมณีได้ฟังเช่นนั้นก็ กล่าวกับนกทั้งสองว่า..

    “พี่นกจ๋า ๆ ข้าฯอยากจะไปกับพวกท่านด้วย ข้าฯเองก็อยากเห็นพญานาคราชทั้งสองเหมือนกัน ขอข้าฯไปกับพวกท่านด้วยนะ”

    นกทั้งสองก็รู้สึกแปลกใจที่มนุษย์ธรรมดาสามารถพูดกับตนได้ แต่ก็ยอมให้เจ้าหญิง และนางกำนัลทั้ง ๒ เดินทางไปด้วย จากนั้นเจ้าหญิงก็ได้ปลุกนางกำนัลออกเดินทางตามนกน้อยทั้ง ๒ ไป จนใกล้ถ้ำแห่งนั้น


    พบว่า บริเวณรอบ ๆ ถ้ำมีพระฤาษีอยู่ประมาณ ๑๐ ตน ต่างนั่งสมาธิรอการออกจากสมาบัติของพญานาคราชทั้ง ๒ เมื่อเจ้าหญิงและนางกำนัลไปถึงต่างก็รออยู่ด้วยความสงบ


    ยังมีต่อ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2013
  16. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905

    ไม่อยากให้น้องต้องพลาดบุญใหญ่ นะค่ะ
    ได้ข่าวว่า มัวแต่ไปบอกบุญต่อ ขอรายชื่อ ผ้าป่าเหรอจ้า
    พี่ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยจ้า


    จันทรกาล
     
  17. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติจักรแก้วทั้ง ๔ (สุทธิธรรมฯ) ตอนที่ ๑๘ สุวรรณฤาษีปรากฏตัว..

    2013-05-04 11.04.07.jpg

    ครั้นเวลาผ่านไป ๒ ราตรี เช้าตรู่เกิดแสงสว่างจ้าขึ้นทางทิศตะวันออกของถ้ำ ปรากฏพระฤาษีตนหนึ่ง ลักษณะมีความสง่าผ่าเผย มีผิวกายสีเหลืองทอง ผมขาว หนวดขาวยาวถึงเข่า เมื่อพระฤาษีตนนี้ปรากฏขึ้น เหล่าฤาษีทั้ง ๑๐ ต่างก็พนมมือไหว้

    เจ้าหญิงศิรมณี และนางกำนัล(หรือพระพี่เลี้ยง) นามว่า จันดา และสิจิตรี ต่างก็พนมตามไป เมื่อนั้นก็พบว่า พระฤาษีที่ปรากฏคือ สุวรรณฤาษี พระอาจารย์ของตน นั่นเอง เจ้าหญิงศิรมณีรู้สึกยินดียิ่งนักที่ได้พบพระอาจารย์อีกครั้ง นางและพระพี่เลี้ยงจึงได้เข้าไปกราบแทบเท้าท่านสุวรรณฤาษี ท่านได้กล่าวว่า..

    “ท่านทั้งหลาย อีก ๕ วันก็จะถึงวันที่พวกเรารอคอยแล้ว เราจะเตรียมเครื่องไหว้สักการะแก่จักรแก้วทั้งสอง เราได้ทราบจากท้าวสักกเทวราชว่า..

    แท้จริงแล้วพญานาคทั้งสองนั้น เป็นพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีแก่กล้า จึงมีกำลังใจเด็ดเดี่ยวที่จะเข้าสมาบัติถึง ๖๑ กัป การที่พวกเราได้ต้อนรับการออกจากสมาบัติครั้งนี้นับเป็นบุญอันใหญ่หลวง


    ระหว่างการรอคอย ใครจะเข้าสมาบัติต่อก็ทำได้ แต่เราต้องมีผู้เตรียมเสบียงอาหารไว้ให้พร้อม เผื่อผู้ที่เข้าสมาบัติด้วย”เจ้าหญิงศิรมณีได้กล่าวว่า..

    “ข้าฯแต่พระอาจารย์ และท่านผู้มีฤทธิ์ทั้งหลาย หม่อมฉันเป็นสตรี อีกทั้งไม่ได้อยู่ในเพศนักบวช อาจสร้างบุญกุศลใหญ่ได้

    การหาอาหารขบฉัน น้ำดื่มน้ำใช้ และเครื่องสักการะต่าง ๆ ขอเป็นภาระแก่หม่อมฉัน และพระพี่เลี้ยงเถิดเจ้าข้าฯ ขอพระอาจารย์และท่านทั้งหลายจงเข้าสมาบัติเถิด”


    พระฤาษีทั้ง ๑๑ ต่างก็เห็นด้วย จึงเข้าสมาบัติเป็นเวลา ๕ วัน จากนั้นนางก็ได้มอบหมายนางสิจิตรีให้ไปส่งข่าวแก่พระบิดา ว่า..

    “อีก ๕ วันจะมีพระฤาษีทั้งหลายจะออกจากสมาบัติ ขอให้ท่านจงมาช่วยอุปัฏฐากพระอาจารย์ทั้งหลาย ตลอดทั้งเตรียมเครื่องสักการบูชาแก่พญานาคราชทั้งสอง พร้อมจักรแก้ว
    เครื่องบูชาจักรแก้วนั้น ประกอบด้วยรัตนะทั้ง ๗ คือ ทอง เงิน ไพฑูรณ์ ผลึก บุษราคัม มรกต ทับทิม แลมวลดอกไม้หอมนั้น ขอให้ชาวเมืองทั้งหลายต่างนำมาร่วมบุญครั้งนี้

    อีกทั้งวันนั้น ขอให้เตรียมผลไม้อย่างดี และน้ำดื่มน้ำใช้ ถวายแด่พระฤาษีทั้ง ๑๑ ตนด้วย ส่วนเราและจันดา ขออยู่อุปัฏฐากพระอาจารย์ และพระฤาษีทั้ง ๑๐ ที่นี่ ขอเจ้าจงรีบไปเถิด..”


    สิจิตรี พระพี่เลี้ยงรับคำ ก็รีบเดินทางไปกราบทูลพระเจ้ามลฑลราช เมื่อถึงเมืองมณฑลนคร(ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากป่าแห่งนั้น) พรเจ้ามลฑลราชได้ฟังนั้น ก็ปิติยินดีที่จะได้สร้างบุญใหญ่ ทรงสั่งให้เตรียมการตามที่พระธิดาบอกทุกประการ ทรงคิดว่า การที่จะรองรับกุศลใหญ่นี้ได้ เราทั้งหลายควรรักษาอุโบสถศีล เพื่อรองรับบุญใหญ่ครั้งนี้

    จากนั้นทรงสั่งการ ในช่วง ๕ วันนี้ให้ทุกคนในเมือง ไม่เว้นแม้ทารก รักษาอุโบสถศีล และทุกคืนให้มีการให้ข้อธรรมจากบัณฑิตในเมืองนั้น เพื่อสั่งสอนให้ชาวเมืองอยู่ร่มเย็นเป็นสุข

    แท้จริงแล้วพระเจ้ามณฑลราชนั้น ก็คืออดีตท้าววิรูปักษ์เมื่อ ๖๑ กัปที่ผ่านมานั่นเอง ชาวเมืองนั้นส่วนใหญ่ก็คือ นาคีนาคาทั้งหลายที่เคยเกิดในเมืองสุตรมงคล ด้วยสัญญาเก่าและบุญกุศลส่งผลให้นาคราชเหล่านั้นมาจุติเป็นมนุษย์ มีศีล ศรัทธา ปัญญา และจาคะใกล้เคียงกัน เมื่อพระเจ้ามณฑลราชนั้นสั่งการออกไป ทำให้ทุกคนปฏิบัติตาม ต่างตั้งใจถืออุโบสถศีลด้วยความเคารพศรัทธา
     
  18. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติจักรแก้วทั้ง ๔ (สุทธิธรรมฯ) ตอนที่ ๑๙ พญานาคราชออกจากสมาบัติ..

    2013-05-04 11.10.44.jpg

    พระเจ้ามณฑลราช พระมเหสีได้สวรรคตไปตั้งแต่พระธิดายังทรงพระเยาว์แล้ว พระองค์ได้ครองความเป็นโสดตลอดมา จึงรักเจ้าหญิงศิรมณีมากยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ อีกทั้งเจ้าหญิงประสงค์อะไรก็ไม่เคยขัด แต่ที่ผ่านมาเจ้าหญิงมิเคยทำความเสียหาย ทำให้พระองค์สบายพระทัยยิ่งนัก เมื่อเจ้าหญิงนำข่าวบุญมาบอก พระองค์ก็ยิ่งรักพระธิดามากยิ่งขึ้น เฝ้ารอคอยวันที่จะได้สร้างบุญใหญ่ด้วยความใจจดจ่อ

    ครั้นผ่านไปอีก ๕ ราตรี ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีจอ พระเจ้ามณฑลราช เจ้าหญิงศิรมณี พร้อมเหล่าข้าราชบริพาร และประชาชนทั้งหลาย ต่างก็ไปรอยังหน้าถ้ำ โดยไม่ส่งเสียงรบกวนพระฤาษีที่กำลังเข้าสมาบัติอยู่แต่อย่างใด


    ครั้นถึงเวลา สุวรรณฤาษี และเหล่าฤาษีทั้ง ๑๐ ก็ได้คลายจากกำลังฌาณออกจากสมาบัติ พระเจ้ามณฑลราช และพระธิดา เหล่าเสนาอำมาตย์ทั้งหลาย ต่างอุปัฏฐากพระฤาษีทุกตนเป็นอย่างดี เมื่อรับน้ำล้างหน้า น้ำดื่ม และได้อาบน้ำท่าแล้ว เหล่าฤาษีทั้งหลายก็ได้ขบฉันอาหาร มีผลไม้ต่าง ๆ มากมายหลายชนิด เป็นที่เรียบร้อย
    สุวรรณฤาษีได้กล่าวว่า..

    “ขอท่านทั้งหลายจงอยู่ในความสงบ หากได้ยินเสียงใด ๆ อย่าได้หวาดกลัว ทำจิตน้อมโมทนาสาธุการกันนะ”


    หลังสุวรรณฤาษีกล่าวได้ไม่นาน เสียงคล้ายฟ้าผ่าดังออกจากในถ้ำ และมีแสงสว่างเกิดขึ้นสามารถมองได้ด้วยตาเปล่า ประชาชนทั้งหลายต่างทำเสียงอื้ออึงสักพักก็อยู่ในความสงบ

    จากนั้น เหล่าพระฤาษีทั้งหลายก็เข้าไปในถ้ำ และกลับมาพร้อมทั้งพญานาคราชทั้ง ๒ คือ พญาสุทธิธรรมนาคราช และพญาสุทธิมงคลนาคราช ในกายมนุษย์ทรงเครื่องกษัตริย์ พร้อมพระนางรัตนราศี

    เมื่อพระนางรัตนราศีได้เห็นเจ้าหญิงศิรมณีก็จำได้ว่า นางคืออดีตพระนางพิมมรัตนะนั่นเอง พระนางจึงเข้าไปทักทายว่า..

    “น้องหญิง พี่ยินดียิ่งนักที่น้องจำคำมั่นสัญญาเดิมได้ น้องจะมาพบพวกเราอีก จำพระสวามีของน้องได้มั๊ย นั่นงัย พระพี่ยา “สุทธิมงคล” นั่นงัย จำได้หรือไม่”


    เจ้าหญิงศิรมณีนั้น รู้สึกคุ้นเคยกับพระนางรัตนราศี แต่หาจำเรื่องราวใด ๆ ได้ไม่ แต่นางก็จำพญาสุทธิมงคล อดีตพระสวามีได้ พร้อมเดินไปจับพระหัตถ์ของพระองค์ พร้อมกล่าวด้วยความใจลอยว่า...

    “ข้าฯ แต่พระองค์ หม่อมฉันได้ทำตามสัญญาแล้วเพคะ ว่าจะกลับมาพบพระองค์ หม่อมฉันคิดถึงพระองค์เหลือเกิน”


    ด้วยสัญญารักผูกพันเดิมอย่างท่วมท้น ทำให้เจ้าหญิงศิรมณีเกิดความปิติจนสลบไป ฝ่ายพญาสุทธิมงคลนาคราชนั้น เมื่อได้พบเจ้าหญิงศิรมณีก็เกิดความรักขึ้นมาด้วยบุพเพสันนิวาสแต่เดิม ทรงพยายามระงับใจไว้ เนื่องจากอยู่ต่อหน้าชนทั้งหลาย อีกทั้งต้องมีหน้าที่ไปเฝ้าพระอินทร์ เพื่อขอพร จึงระงับคำไม่กล่าวใด ๆ

    พระเจ้ามณฑลราชก็ตกพระทัยยิ่งนัก คิดไม่ถึงจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น และชาวเมือง ได้เห็นดังนั้น ต่างก็โจษจันไปต่าง ๆ นานา และต่างก็คิดว่า นี้คงเป็นคู่พระธิดาเป็นแน่ เพราะที่ผ่านมานางไม่ต้องต้องสัมผัสชายใดเลย สุวรรณฤาษีได้กล่าวว่า..

    “มหาบพิตร..อย่าได้ตกพระทัย พระธิดาของพระองค์ไม่เป็นไรหรอก ขอพระองค์อยู่ที่นี่รอก่อนนะ พระอาจารย์ และฤาษีทั้งหลายจะขึ้นไป ขอพรบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ก่อน แล้วจะกลับมา และจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง”

    จากนั้นพระฤาษีทั้ง ๑๑ พญาสุทธิธรรมนาคราช และพระมเหสี พร้อมพญาสุทธิมงคลนาคราช ก็หายไป ปรากฏยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ทันที
     
  19. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักรแก้วทั้ง ๔ (สุทธิธรรมฯ) ตอนจบ พร ๘ ประการจากท้าวสักกเทวราช..

    2013-05-04 11.08.43.jpg

    กาลนั้น ท้าวสักกเทวราช เปลี่ยนพระองค์ใหม่ แต่เรื่องราวต่าง ๆ พระองค์ทราบด้วยญาณทัสสนะอันประมาณมิได้ พระองค์ให้สั่งให้เทวบุตร เทพธิดาทั้งหลายนำดอกไม้แก้ว ดอกบัวแก้วมารอรับ เพื่อบูชาจักรแก้วนี้

    เมื่อพระฤาษีทั้ง ๑๑ และพญานาคราชทั้ง ๒ พร้อมพระมเหสีขึ้นมายังเทวสภา เหล่าเทพบุตรเทพธิดาต่างก็เห็นฤทธานุภาพแห่งจักรแก้ว ท้าวสักกเทวราชนั่งบนบัลลังก์แก้วรัตนะ ๗ พร้อมตรัสว่า..


    “พระคุณเจ้าทั้งหลายเชิญประทับที่สมควรก่อนเถิด..”


    เมื่อพระองค์ตรัสเสร็จก็มีแท่นแก้วรัตนะ ๗ ปรากฏขึ้น ๑๑ แท่น เหล่าฤาษีทั้งหลายก็นั่งประทับบนนั้น ท่านสุวรรณฤาษีในฐานะหัวหน้าได้กล่าวว่า...

    “มหาบพิตร ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา ท่านจะเป็นผู้ให้พร ๘ ประการแก่พญานาคราชทั้งหลาย เพื่อประโยชน์แก่เหล่านาคราช และผู้ที่มีความเกี่ยวข้องแก่จักรแก้วทั้ง ๒ นี้ด้วยเถิด”


    เมื่อสุวรรณฤาษีได้กล่าวเช่นนั้น ท้าวสักกเทวราชได้เข้าสมาบัติแล้วน้อมรวบรวมบุญแต่อดีตที่มาปรากฏขึ้น ทรงลืมพระเนตรขึ้นมาพร้อมตรัสว่า...

    “พร ๘ ประการอันเป็นอุดมมงคลนั้น เราน้อมนำบุญบารมีแห่งเราตั้งแต่ต้นชาติ ขอจงปรากฏแก่ผู้ที่อธิษฐานจิต ทั้งผู้ที่ให้การสนับสนุน ผู้ที่ร่วมบุญ พร้อมกับผู้ที่ได้พบเห็นจักรนี้ พร้อมผู้ที่บูชาจักรแก้วนี้ด้วยความเคารพยิ่ง..

    พรข้อที่ ๑ ขอให้ผู้นั้นจงมีสัมมาทิฐินับแต่บัดนี้เป็นต้นไปทุกภพชาติ

    พรที่ ๒ ขอให้ผู้นั้นได้มาพบพระศาสนาที่เป็นเลิศ เป็นเหตุให้หาหนทางดับทุกข์ได้

    พรที่ ๓ เกิดมาในทุกภพชาติ จะมีผู้ให้ความช่วยเหลือสนับสนุน จนกิจนั้นสำเร็จลุล่วงด้วยดี

    พรที่ ๔ ขอให้เป็นผู้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวงไม่ว่า ภัยนั้นจะเกิดจากไฟ อัสนีบาต จากดิน หรือภัยจากน้ำก็ตาม

    พรที่ ๕ ขอให้เป็นผู้ที่ความทุกข์ครอบงำมิได้ เป็นผู้ที่มีความสว่างในจิตอยู่เสมอในทุกภพชาติ

    พรที่ ๖ ขอให้เป็นผู้ที่ได้รับความรักเมตตาจากมนุษย์ เทวาดและผู้ที่อยู่ในภพภูมิเดียวกันเสมอ..

    พรที่ ๗ ขอให้เป็นผู้ที่มาร หรือศัตรุครอบงำมิได้ ผู้ที่เป็นศัตรูให้กลับมาเป็นมิตร
    พรที่ ๘ แม้ปรารถนาสิ่งใดที่ไม่เกินกรรมหนัก จะสำเร็จตามความปรารถนานั้นโดยฉับพลัน


    เราแลเหล่าเทพยดาทั้งหลาย ขอโมทนาสาธุการในมหากุศลครั้งนี้ ขอท่านจงนำไปเพื่อประโยชน์แก่ภพภูมิของท่านเถิด”

    เมื่อท้าวสักกเทวราชกล่าวจบ เทพยดาต่างโมทนาสาธุการ และโปรยดอกไม้ทิพย์นานา เพื่อเป็นการบูชาแก่จักรแก้วทั้ง ๒ เหล่าพระฤาษีทั้งหลายต่างภาวนาและให้พร จากนั้นทั้งหมดก็มาปรากฏยังโลกมนุษย์

    นับจากวันที่เหล่าฤาษีทั้งหลาย พร้อมพญานาคราชทั้ง ๒ ขึ้นไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นับเป็นเวลา ๗ วันในโลกมนุษย์

    ฝ่ายพระเจ้ามณฑลราช ทรงให้จัดงานเฉลิมฉลองเป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืน เมื่อเหล่าพระฤาษีทั้ง ๑๑ กลับมา พญานาคราชก็ให้นำจักรแก้วมาให้ชม วางไว้ในสถานที่พระเจ้ามณฑลราชจัดเตรียมไว้ พร้อมฉลองอีกเป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืน โดยทรงจัดเตรียมที่พำนักของเหล่าพระฤาษีต่างหาก

    ส่วนพญานาคราชทั้ง ๒ พร้อมพระมเหสีนั้น ทรงให้พักในพระราชวังในห้องที่จัดเตรียมเป็นพิเศษ ระหว่างนั้นพระเจ้ามณฑลราชก็ได้ทราบความเป็นมาของจักรแก้วทั้งหมด จึงกล่าวว่า..

    “หากแม้พระธิดาของเราเคยเป็นเนื้อคู่กับพญาสุทธิมงคลมาก่อน เราจะขอยกสมบัตินี้ให้แก่ท่านครองราชย์แทนเราต่อไป ท่านจะขัดข้องหรือไม่ ส่วนพญาสุทธิธรรมนั้น เราก็จะให้ที่พำนักแก่ท่านและพระมเหสีให้อยู่จนสิ้นอายุขัย ท่านจะขัดข้องหรือไม่”

    พญาสุทธิธรรม ทราบว่า ในปัจจุบันไม่มีเมืองบาดาลเดิมปรากฏอยู่แล้ว อีกทั้งมีเวลาอีกไม่นานนัก พระองค์และพระมเหสีคิดว่า จะอาศัยเมืองนี้เป็นที่หลบภัยจากครุฑทั้งหลาย และจะได้บำเพ็ญเพียรต่อไป จึงตอบตกลง

    ส่วนพญาสุทธิมงคลนาคราชก็มิได้ปฏิเสธ เนื่องจากทรงรักพระธิดาศิรมณีอยู่แล้ว จึงรับจะครองราชย์ต่อจากพระเจ้ามณฑลราช จากนั้นพระเจ้ามณฑลราช จึงประกาศยกพระธิดาให้อภิเษกสมรสแก่พญาสุทธิมงคลนาคราช และหลังอภิเษกสมรส ๗ วันก็ทรงประกาศสละราชสมบัติ เพื่อออกผนวชติดตามท่านสุวรรณฤาษีแสวงหาโมกขธรรมต่อไป

    ส่วนพญาสุทธิธรรมนาคราชนั้น ได้นำจักรแก้วทั้ง ๒ ประดิษฐาน ณ.เมืองมณฑลนคร เป็นการชั่วคราว จากนั้นทรงเข้าเฝ้าแก่ท้าววิรูปักษ์ และตรัสว่า..

    “ข้าฯ ขอนำจักรแก้วนี้ประดิษฐาน ณ.เมืองมนุษย์เป็นการชั่วคราว ด้วยเห็นแก่ชาวเมืองนี้ในอดีตเคยเป็นบริวารที่ติดตามเกล้ากระผม และน้องสุทธิมงคลมาแต่อดีต หากวันใดถึงกาลที่ผู้ปกครองเมืองนี้ ประพฤติมิชอบ ขอจักรแก้วนี้ จงไปปรากฏ ณ.พระเจดีย์แห่งนาคพิภพด้วยเถิด”

    ท้าววิรูปักษ์นั้นได้กล่าวโมทนาสาธุการ และประทานอนุญาตให้เป็นไปตามนั้น จากนั้นพญาสุทธิธรรมนาคราช ได้นำทรัพย์จากนครบาดาลเดิม มายังท้องพระคลังของเมือง ส่วนหนึ่งได้นำมาแจกจ่ายแก่เสนาอำมาตย์ ข้าทาสบริพารทั้งหลาย และแจกจ่ายแก่ชาวเมือง ทำให้ชาวเมืองนี้มีแต่ความร่ำรวย มิมีผู้ใดยากจน อีกทั้งเป็นเมืองที่มีศีล ๕ บริสุทธิ์


    พญาสุทธิมงคลนาคราชนั้น หลังจากครองราชย์ไม่นาน ก็มีพระโอรส-ธิดาเป็นมนุษย์ นามว่า “เจ้าชายสุทธิโสม และเจ้าหญิงศิรนาถเทวี” พระองค์ทรงซาบซึ้งในความเมตตาของพระเชษฐายิ่งนัก ที่ทำเพื่อพระองค์ตลอดมา

    ต่อมาพระองค์ทรงได้แต่งตั้งพญาสุทธิธรรมนาคราช และพระนางรัตนราศีในตำแหน่งปูชนียบุคคลแห่งเมือง ชาวเมืองทั้งหลายต่างเห็นดีด้วย จึงได้ทำความดีถวายแด่ทั้งสองด้วยความเคารพดุจเดียวกับบิดามารดาของตน

    พญาสุทธิธรรม และพระนางรัตนราศี ต่างก็รักษาอุโบสถศีลและคอยให้พรแก่ชาวเมืองเหล่านั้นให้ร่มเย็นเป็นสุขจนสิ้นอายุขัย จากนั้นทั้งสองพระองค์ไปจุติบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นท้าวสักกเทวราชองค์ต่อมา

    พญาสุทธิมงคล และพระนางศิรมณีนั้นได้สร้างกุศลตลอดมา เมื่อละโลกแล้ว บังเกิดบนสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี

    พระเจ้ามณฑลราช หลังจากออกบวชแล้วได้ร่ำเรียนวิชา เนื่องจากชาตินั้นพระองค์บวชเมื่อชรา จึงได้เพียงฌาน ๔ แต่ไม่ได้ทรงอภิญญาสมาบัติ เมื่อละโลกไปเกิดบนพรหมโลกชั้น ๑๑ ฝ่ายสุวรรณฤาษี และเหล่าฤาษีทั้ง ๑๐ ไปเกิดเป็นมนุษย์ตามคำอธิษฐานของตน

    จบประวัติจักรทั้ง ๔ เพียงเท่านี้ค่ะ (สำหรับจักรคู่บารมีนั้น ของดการนำเสนอจนกว่าจะปรากฏจักรทั้งคู่ขึ้นมาค่ะ)

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
    Numsai
     
  20. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ผู้ที่เกี่ยวเนื่องในประวัติจักรแก้วทั้ง ๔ ค่ะ..

    ก่อนอื่นขอน้อมถวายบุญแห่งการให้ธรรมทานครั้งนี้ แด่...

    ๑. ท้าวสักกเทวราชองค์ ๕๑ กัปแรก -สมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า

    ๒. ท้าวสักกเทวราชองค์ใน ๑๐ กัปหลัง-สมเด็จพระพุทธสมณโคมพุทธเจ้า

    ๓. พญาสุทธิธรรม/ท้าวสักกฯองค์ต่อมา = พระสุทธิธรรมวิสุทธิเทพ

    ๔. พญาสุทธิมงคล = พระสุทธิมงคลวิสุทธิเทพ

    ๕. พระนางรัตนราศี = พระรัตนปฏิทินนาวิสุทธิเทพ

    ๖. พระนางพิมมรัตนะ = พระมัณฑนวิสุทธิเทพ

    ๗. โฆษกเทพบุตร/ สีหดาบส/สุวรรณฤาษี - ท่านเกษรีฤาษี(ทรงอิทธิบาท ๔ )

    ๘. พญาวิษณุราชฯ /อิทธิสิทธิ์ดาบส = พระอัคคีตาปะโพธิสัตว์(สวรรค์ชั้นดุสิต)

    ๙. พญาสุทธิสัตตนาคราช/ ๑ ใน ๑๐ ฤาษี = ท่านสิทธิสัตตโพธิสัตว์

    ๑๐. พญาสุริยรัตนนาคราช = ท่านโภคเทวบุตร

    ๑๑. ท้าววิรูปักษ์องค์แรก /พระเจ้ามณฑลราช = ท่าน widya

    ๑๒. พญาสุตรมงคลนาคราช/ สุมนตฤาษี ๑ ใน ๑๐ ฤาษี = คุณ sun2555

    ๑๓. สิริรัตนเทพธิดา/วารุณีดาบสินี = Numsai

    ๑๔. โชติสิริมานพ/ สุเมณฑฤาษี ๑ใน ๑๐ ฤาษี = คุณ mooom

    ๑๕. พสุธินทรนาคราช/เจ้าหญิงศิรนาถเทวี = น้อง Miss Brown

    ๑๖. เมตตชีวกนาคราช/นกตัวแรก = น้อง ID_Idea แฝดผู้พี่

    ๑๗. เวสภูนาคราช/นกตัวที่ ๒ = น้อง ID_Idea แฝดผู้น้อง

    ๑๘. พญาโสตปุญญราช / โสติยฤาษี ๑ ใน ๑๐ ฤาษี = คุณ half wave

    ๑๙. พระนางมันตราเทวี = สุทธิมนตราเทพธิดา (สวรรค์ชั้นดาวดึงส์)

    ๒๐. สิจิตรี (พระพี่เลี้ยงเจ้าหญิงศิรมณี)= น้อง Paktrawadee(หนูดี)



    ๒๑. เจ้าชายสุทธิโสม = น้องธรรมวิวัฒน์

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...