พระผงรูปเหมือนรุ่นแรกหลวงพ่อดีวัดหนองจอกพระปิดตาหลวงปู่หน่ายวัดบ้านแจ้งอยุธยา ปี๒๕๒๑

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,861
    ค่าพลัง:
    +21,359
    1740585523875.jpg 1740172896768.jpg

    หลวงตาสงค์โดนโจรใจบาปใช้ปืนยิง!!!!
    แม่ชี ลูกสาวหลวงตาที่อุปฐากหลวงตาเล่าไว้ว่า
    สมัยก่อนที่วัดมีพระรูปหนึ่งมาผูกคอเสียชีวิตที่ใต้ต้นไม้ ทางญาติพระรูปนั้นได้มากล่าวหาหลวงตาสงค์ ว่าท่านเป็นคนฆ่า จึงได้นำหมอพรทิพย์ที่กรุงเทพ ลงมาชันสูตรศพ และผลออกมาพบว่าเป็นการฆ่าตัวตายเอง ทางญาติยังคงแค้นหลวงตา จึงหวังเอาปืนมายิงหลวงตาที่กุฏิ ท่านก็บอกท่านบริสุทธิ์ ท่านนั่งให้ยิง ปรากฏว่ายิง 3 นัด ไม่ออก!!!! หลวงตาไม่เป็นไร โจรยิ่งแค้นว่าทำอะไรหลวงตาไม่ได้ จึงเตะแม่ชีทั้ง 5 คน เชื่อว่าหลวงปู่สรวงคุ้มครองหลวงตาอยู่เสมอ
    #หลวงตาสงค์มรณะแล้วฟื้นคืน
    หลวงปู่สงค์ ปสุโต ชาวบ้านรู้จักท่านในนามที่ชื่อว่า หลวงตาสงค์ ในเวลานี้ท่านคือครูอาจารย์องค์หนึ่งในสายศิษย์หลวงปู่สรวง ที่น่ากราบไว้ได้อย่างสนิทใจอย่างแท้จริง เราทั้งหลายอาจจะไม่เคยรู้จัก หรือรู้จักบ้างเล็กน้อย แต่ในแถบพื้นที่รู้จักเกียรติประวัติท่านเป็นอย่างดี ท่านมีชื่อเสียงมากในครั้งสมัยหลวงปู่สรวงยังมีชีวิต ในด้าน รดน้ำมนต์ เป่าเสกคาถา รักษาคนป่วย ด้วยว่านยาสมุนไพร รักษาคุณไสย์ ดูดวง สะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตา เสริมบารมีต่าง ๆ พักหลัง ๆ ท่านหายเงียบไปนานกว่าสิบปี อันเนื่องมาจาก ท่านถูกรถชนและมรณะ 5 วัน หลวงพ่อนรินทร์ (พระครูไพโรจน์อินทสาร) เจ้าอาวาสวัดขะยูง
    ในปัจจุบัน ท่านเล่าว่า ในระหว่างที่ทางวัดเตรียมงานทำบุญ อยู่ๆ ท่านฟื้นขึ้นมา ในขณะที่มรณะไปแล้ว
    5 วัน นั้นเอง พอท่านฟื้นขึ้นมาแล้วความจำ (สัญญา) เดิมหลาย ๆ อย่างของท่านเสื่อมไป แต่ตอนพักหลัง มานี้หลวงปู่ท่านฟื้นสัญญาเดิมได้มากเลยทีเดียว มีเพียงตัวยาสมุนไพรที่ท่านมองไม่ออกว่าเป็นยาอะไร เพราะตาของท่านมองไม่ชัด และเสีย (บอด) ข้างหนึ่งแล้ว ที่ท่านฟื้นขึ้นมาได้นั้นท่านบอกว่าหลวงปู่สรวงช่วยพาท่านกลับคืนมาเอง
    #พระมหาเถระที่ถือว่าใกล้ชิดหลวงปู่สรวงมากที่สุดในศรีสะเกษ ครูบาอาจารย์ที่ถ่ายทอดคาถามหามงคลของหลวงปู่สรวง ให้กับแม่ค้า
    หลวงปู่สงค์ ปสุโต วัดบ้านขะยูง เทวดาผู้รัตตัญญูแห่งวัดขะยูงอีสานใต้!!!
    พระอริยสงฆ์แห่งดินแดนอีสานใต้ โดยเฉพาะหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน ชาวบ้านเรียก หลวงตาสงค์
    ท่านมีชื่อจริงว่า " สา " นามสกุลเดิม " โต๊ะทอง "
    เกิดเมื่อวันที่ ๑๔ มิ.ย. ๒๔๙๓ บิดา ชื่อ นายป้อม มารดา ชื่อ นางจันทร์ หลวงตาสงค์ (สา ปสุโต) ครูบาอาจารย์ใหญ่สายศิษย์หลวงปู่สรวงที่เก็บตัวเงียบ ซึ่งท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่น่าเคารพกราบไหว้บูชา มีความเป็นอยู่อย่างสมถะสันโดษ เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้าน เป็นที่พึ่งทางใจแก่ชาวบ้านมาโดยตลอด สมัยที่ท่านสุขภาพแข็งแรงใครป่วยไข้ไม่สบายก็ไปให้ท่านช่วยรักษาด้วยว่านยาสมุนไพร ใครโดนของไสยศาสตร์ก็ให้ท่านช่วยถอนของ ใครโชคลางไม่ดีก็มาให้ท่านรดน้ำมนต์ สะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตาเสริมบารมีต่าง ๆ บางคนได้โชคลาภถูกหวยรวยเบอร์มาสร้างกุฏิถวายท่านก็มี จึงพอกล่าวสรุป ๆ ได้ว่า ท่านเก่งทางด้านว่านยาสมุนไพร ถอนหรือแก้คุณไสยด้วยคาถาอาคม สวดสะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตา สวดเสริมบารมี ทำนายทายทัก เป็นการอนุเคราะห์ด้วยความเมตตาของท่านที่มีต่อเหล่าสานุศิษย์ทั้งหลายที่กำลังมีทุกข์ หลวงตาสงค์ เป็นครูบาอาจารย์ผู้รัตตัญญูต่อหลวงปู่สรวงอย่างแท้จริง เพราะหลวงปู่สงค์ท่านเป็นผู้สืบทอดคาถา วิชาอาคม พร้อมทั้งกับจดจำแนวปฏิบัติ กิจกรรมปริศนาธรรมต่าง ๆ เช่น การขึ้นว่าวปริศนาธรรม
    แม้หลวงปู่สรวงจะละสังขารไปนานกว่า ๑๔ ปี หลวงตาสงค์ท่านก็ยังคงจดจำคาถาที่หลวงปู่สรวงเคยสอน และนำคาถาเหล่านั้นมาใช้สวดโปรดอนุเคราะห์แก่เหล่าสานุศิษย์ทั้งหลาย ท่านได้กราบระลึกถึงบูชาหลวงปู่สรวงโดยมิได้ขาด ท่านจะทำพิธี ทำบายศรีบูชาครูหลวงปู่สรวง ในวันพฤหัสบดีเป็นประจำ โดยท่านให้เหตุผลว่า วันพฤหัสบดีเป็นวันครูจึงทำถวายบูชาหลวงปู่สรวงครูอาจารย์ของท่าน และนอกจากนั้นท่านก็จะทำพิธีขึ้นว่าวบูชาหลวงปู่สรวง ซึ่งหลวงปู่สรวงท่านเคยพาทำอย่างไรหลวงตาสงค์ท่านก็จดจำและยังคงปฏิบัติเพื่อระลึกถึง เพื่อบูชาหลวงปู่สรวงอย่างสม่ำเสมอ ณ วัดขะยูง ต.ห้วยตามอญ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
    #หลวงตาสงค์มรณะแล้วฟื้นคืน
    หลวงปู่สงค์ ปสุโต ชาวบ้านรู้จักท่านในนามที่ชื่อว่า หลวงตาสงค์ ในเวลานี้ท่านคือครูอาจารย์องค์หนึ่งในสายศิษย์หลวงปู่สรวง ที่น่ากราบไว้ได้อย่างสนิทใจอย่างแท้จริง เราทั้งหลายอาจจะไม่เคยรู้จัก หรือรู้จักบ้างเล็กน้อย แต่ในแถบพื้นที่รู้จักเกียรติประวัติท่านเป็นอย่างดี ท่านมีชื่อเสียงมากในครั้งสมัยหลวงปู่สรวงยังมีชีวิต ในด้าน รดน้ำมนต์ เป่าเสกคาถา รักษาคนป่วย ด้วยว่านยาสมุนไพร รักษาคุณไสย์ ดูดวง สะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตา เสริมบารมีต่าง ๆ พักหลัง ๆ ท่านหายเงียบไปนานกว่าสิบปี อันเนื่องมาจาก ท่านถูกรถชนและมรณะ 5 วัน หลวงพ่อนรินทร์ (พระครูไพโรจน์อินทสาร) เจ้าอาวาสวัดขะยูง
    ในปัจจุบัน ท่านเล่าว่า ในระหว่างที่ทางวัดเตรียมงานทำบุญ อยู่ๆ ท่านฟื้นขึ้นมา ในขณะที่มรณะไปแล้ว
    5 วัน นั้นเอง พอท่านฟื้นขึ้นมาแล้วความจำ (สัญญา) เดิมหลาย ๆ อย่างของท่านเสื่อมไป แต่ตอนพักหลัง มานี้หลวงปู่ท่านฟื้นสัญญาเดิมได้มากเลยทีเดียว มีเพียงตัวยาสมุนไพรที่ท่านมองไม่ออกว่าเป็นยาอะไร เพราะตาของท่านมองไม่ชัด และเสีย (บอด) ข้างหนึ่งแล้ว ที่ท่านฟื้นขึ้นมาได้นั้นท่านบอกว่าหลวงปู่สรวงช่วยพาท่านกลับคืนมาเอง
    ......" ออมพุทโธ ยอมมงคล จะลอ จะนัง จะสะ "........
    เป็นคาถาหลวงปู่สรวง ที่แม่ค้าได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงปู่สงค์ ปสุโต สวนธรรมโพลวพลือ
    บ้านขะยูง ดีทางโชคลาภ หาเงินหาทอง คล่องมือ
    .......ของดีที่เคยได้จากหลวงตา

    ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้วครับ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ


    เหรียญรุ่น๑ สมประสงค์ หลวงตาสงค์ วัดบ้านขะยูง
    ให้บูชา 800 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250226_224717.jpg IMG_20250226_224811.jpg
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,861
    ค่าพลัง:
    +21,359
    FB_IMG_1740504952539.jpg
    ตะกรุดคู่เหรียญลป.ฤทธิ์
    อัตชีวประวัติ หลวงปู่ฤทธิ์ รตุนโชโต วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์
    กิตติศัพท์หลวงปู่ฤทธิ์เป็นที่เลื่องลือมานานหลายสิบปีในจังหวัดแถบอีสาน แต่ในปัจจุบันชื่อเสียงของท่านได้ไปไกล ไม่แค่เพียงทั่วประเทศไทยตั้งแต่เหนือจรดใต้เท่านั้น ยังแผ่ขยายออกไปประเทศต่างๆ อาทิเช่น ลาว ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และสหรัฐฯ เป็นต้น อันเป็นการบอกเล่าและถ่ายทอดประสบการณ์ของวัตถุมงคลหลวงปู่ฤทธิ์ สู่กันและกันจากปากสู่ปากมากกว่าการเกิดจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในหนังสือต่างๆ
    ประวัติ หลวงปู่ฤทธิ์ รตุนโชโต วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์
    หลวงปู่ฤทธิ์เกิดวันอาทิตย์ที่ 13 เดือน 6 (พฤษภาคม) แรม 8 ค่ำ ปีมะเส็ง พ.ศ. 2460 ณ ตำบลทุ่งมน อำเภอประสาท จังหวัดสุรินทร์ ท่านบวชเณรเมื่อปี 2482 และบวชเป็นพระที่วัดเพชรบุรี ต.ทุ่งมน จ.สุรินทร์ เมื่อปี 2483 โดยมีหลวงพ่อแปะ วัดปราสาทธนาพร(บ้านพลวง) อำเภอประสาท เป็นพระอุปปัชฌาย์
    หลังจากนั้นท่านมาจำพรรษาที่วัดปราสาทธนาพร เพื่อศึกษาพระธรรมกับหลวงพ่อแปะอยู่ 3 ปี ฃลจึงได้ย้ายไปจำวัดอยู่ที่วัดพลับ ตำบลทุ่งมน อีก 4 ปี หลวงปู่ฤทธิ์ย้ายไปอยู่ วัดบ้านกระนัง ตำบลปรือ อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์
    เมื่อปี 2490 ระหว่างที่อยู่วัดนี้หลวงปู่ฤทธิ์ได้ออกธุดงค์ไปเสาะแสวงหา ความรู้ทั้งทางธรรมและทางไสยศาสตร์ทั่วเขตอีสานจนตลอดเข้าไปในประเทศลาวและเขมร ท่านได้พัฒนาวัดบ้านกระนังจนเจริญ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย
    ในปี พ.ศ.2535 หลวงปู่ฤทธิ์ จึงได้ย้ายมาสร้างวัดชลประทานราชดำริที่บ้านกระทุ่ม ตำบลสูงเนิน อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ตามพระราชดำริและได้จำพรรษาอยู่ที่นี่มาจนถึงปัจจุบัน
    เนื่องจากวัดชลประธานราชดำริเพิ่งเริ่มก่อตั้งมาไม่นาน ยังขาดถาวรวัตถุในวัดอยู่เป็นอันมาก ซึ่งในขณะนี้หลวงปู่ฤทธิ์ได้กำลังก่อสร้างศาลาการเปรียญเพื่อใช้เป็นที่อบรมพระสงฆ์และสามเณร รวมทั้งกุฏิสงฆ์ 2 ชั้น ก็กำลังก่อสร้างอยู่เช่นกัน ซึ่งปัจจัยในการก่อสร้างนั้นได้จากการให้บูชาวัตถุมงคล รวมถึงการที่บรรดา ลูกศิษย์ร่วมทำบุญในการทอดกฐินและการทอดผ้าป่า
    หลวงปู่ฤทธิ์เป็นพระเกจิดังเชื้อสายเขมรที่มีความเชี่ยวชาญด้านคาถาอาคมทั้งของไทย ลาว และเขมร อย่างหาผู้เทียบเคียงได้ยากท่านนึง หลวงปู่ฤทธิ์เป็นพระสงฆ์ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหนฐานะ เป็นอย่างไร หลวงปู่ท่านจะให้การต้อนรับพูดคุยด้วยเป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องนั่งรถยนต์ราคาแพงๆ ไปกราบท่านแล้วถึงจะได้พบหลวงปู่ นอกจากจะได้รับการต้อนรับที่ดีจากท่านแล้ว หลวงปู่ฤทธิ์ยังจะปลุกเสกวัตถุมงคลในมือของท่านอีกอย่างดีก่อนมอบให้
    บางครั้งท่านก็จะจารเป็นยันต์ให้ บางครั้งท่านก็จะพรมน้ำมนต์ให้ วัตถุมงคลของท่านถือว่าเป็นสุดยอดไม่ว่าจะได้โดยตรงจากมือหรือที่ศูนย์พระเครื่องต่างๆ ก็ตาม ยังไม่พบว่าวัตถุมงคลของท่านมีของปลอมหรือเสริมโดยที่หลวงปู่ยังไม่ได้ปลุกเสก
    บรรดาผู้ที่บูชาวัตถุมงคลของท่าน ต่างก็พบกับอภินิหารแบบพลิกชะตาชีวิตให้อย่างทันตาเห็น ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน เมตตา มหานิยม โชคลาภ ค้าขาย เรียกเงินเรียกทอง เป็นต้น
    แม้ว่าทุกวันนี้จะเป็นยุค ที่เศรษฐกิจฝืดเคือง ทำมาหากินลำบากกันถ้วนหน้า แต่คนที่บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ฤทธิ์มักจะได้พบกับสิ่งแปลกประหลาด เช่น ค้าขายดีขึ้นอย่างผิดปกติ มีโชคได้ลาภ ลองปืนไม่ออก เป็นต้น
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ตะกรุดคู่พร้อมเหรียญ หลวงปู่ฤทธิ์
    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    FB_IMG_1740504955208.jpg FB_IMG_1740504962112.jpg FB_IMG_1740504958995.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2025 at 09:36
  3. Chayot

    Chayot สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2020
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +62
    ตะกรุดคู่พร้อมเหรียญ หลวงปู่ฤทธิ์
    ขอจองค่ะ
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,861
    ค่าพลัง:
    +21,359
    FB_IMG_1740796551102.jpg
    ๑ ในครูบาอาจารย์ที่อธิษฐานจิตปลุกเสกพิธีเหรียญจตุรพิธพรชัย
    ประวัติหลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อยุธยา ปัจจุบันนี้มีหลวงพ่อดี ๆ ดังๆ อยู่หลายองค์ด้วยกัน ที่อำเภอบางปะหัน จ. พระนครศรีอยุธยา ยังมีคณาจารย์อยู่รูปหนึ่งทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ ในเรื่องวิชาไสยศาสตร์เครื่องรางของขลัง เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสอย่างยิ่ง คณาจารย์ที่จะกล่าวถึงรูปนี้คือหลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง ต.หันสังข์ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วยกิตติศัพท์ในด้านพุทธาคมของท่านอาจารย์หน่าย อินฺทสีโล วัดบ้านแจ้ง ต.หันสังข์ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ดังขจรขจายไปทั้งใกล้และไกลทุกทิศานุทิศมาเนิ่นนานแล้วแต่ของท่านดังแบบไฟสุมขอน ค่อยเป็นค่อยไป ผู้ประสบพบเห็นเหตุการณ์อันเต็มไปด้วยอภินิหารนานาประการ ต่างโจทย์จรรย์กันไปแบบปากต่อปาก ไม่มีการประชาสัมพันธ์แต่อย่างใด ดังนั้น คณะผู้จัดทำหนังสือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ – พระพุทธรูปพระเครื่อง จึงได้เดินทางไปหาประวัติความเป็นมาแต่ภูมิหลังของท่าน ท่านเป็นอาจารย์ ที่มีศีลจริยาวัตรงดงาม ตั้งอยู่ในสมณรูปโดยครบถ้วน ไม่ด่างพร้อยแต่ประการใด หลวงพ่อหน่าย อินฺทสิโล นามเดิมชื่อ หน่าย มีความดี วันที่เกิดจำไม่ได้จำได้แต่ พ.ศ. 2446 เกิดที่ตำบลหันสังข์ อำเภอบางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อ นายหลาบ มารดาชื่อ นางพลอย จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนวัด ในสมัยนั้นการศึกษายังไม่ค่อยเจริญ พออ่านออกเขียนได้ เมื่อหลวงพ่อจบการศึกษาแล้ว ได้ช่วยพ่อแม่ทำงานอยู่กับบ้าน หลวงพ่อบวชเณรเมื่ออายุ 12 ปี ที่วัดบ้านแจ้ง มีพระครูพัด เป็นพระอุปัชฌายะ ในขณะที่เป็นเณรได้ศึกษาธรรมวินัยและวิชาไสยศาสตร์บ้างเล็กน้อยเพราะตอนนั้นอายุยังน้อยอยู่ เมื่ออายุครบ 22 ปี ได้อุปสมบทที่วัดบ้างแจ้ง โดยมีพระครูพัด เป็นพระอุปัชฌายะ ได้ฉายาว่า อินฺทสิโล พอหลวงพ่อบวชเป็นพระหลังพรรษาแรก ก็เริ่มออกเดินธุดงค์ไปในป่า ในเขาตามภาคต่าง ๆ ซึ่งมีสัตว์ดุร้ายที่ชุกชุม หลวงพ่อหามีความเกรงกลัวกับสัตว์ร้ายเหล่านั้นไม่ หลวงพ่อเล่าว่ามีอยู่วันหนึ่งขณะที่เดินธุดงค์เข้าไปในป่าได้พบช้างยืนขวางหน้าอยู่ เมื่อหลวงพ่อเดินเข้าไปใกล้มันได้ใช้งวงของมันมาเกี่ยวจีวรที่หลวงพ่อครองอยู่ไปพันกับงวงมันหลวงพ่อจึงก้มลงแล้วหยิบดินขึ้นมาก้อนหนึ่งเสกแล้วโยนไปที่ช้าง ช้างจึงได้วางจีวรลงแล้วได้เดินหายเข้าไปในป่า มิได้ทำร้ายหลวงพ่อเลย เมื่อหลวงพ่อเดินธุดงค์อยู่ในป่าเป็นที่พอใจแล้ว จึงได้กลับมายังวัดแจ้ง เพื่อเยี่ยมญาติโยม กลับมาอยู่วัดบ้างแจ้งได้ 3 เดือน หลวงพ่อได้เดินทางไปศึกษาวิชาไสยศาสตร์กับหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ขณะที่หลวงพ่อเรียนวิชาไสยศาสตร์ อยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้พบกับท่านกรมหลวงชุมพร ได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์กับท่านบ้างพอควร ส่วนมากหลวงพ่อจะได้วิชาจากหลวงพ่อศุข เป็นส่วนใหญ่ ยังไม่ทันที่หลวงพ่อหน่ายจะได้วิชาแขนงสุดท้าย จากหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อท่านก็ได้มรณภาพไปเสียก่อน หลวงพ่อหน่าย จึงไปศึกษาวิชาเครื่องรางของขลัง และวิชาไสยศาสตร์ต่อ กับอาจารย์ย่ามแดง อาจารย์ย่ามแดงองค์นี้ ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ขณะที่หลวงพ่อศุข ยังมีชีวิตอยู่ หลวงพ่อศุข ได้ถ่ายทอดวิชาให้อาจารย์ย่ามแดงจนหมดสิ้นเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่อหลวงพ่อหน่ายเรียนวิชาไสยศาสตร์เครื่องรางของขลังจากอาจารย์ย่ามแดง จนแก่กล้าดีแล้ว จึงได้กลับมาจำพรรษาอยู่ยังวัดบ้านแจ้ง เมื่อตอนที่หลวงพ่อหน่ายมาอยู่ ที่วัดบ้านแจ้งในขณะนั้นได้มี พระครูอนุวัติสังฆกิจ(เคลือบ) เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อหน่ายได้ไปจำพรรษาอยู่ ในป่าช้านานถึง 20 ปี ไม่ยอมขึ้นมาจำพรรษาอยู่บนกุฏิ หลวงพ่อบอกว่าในป่าช้าเงียบและสงบดี เหมาะแก่การวิปัสสนากัมมัฎฐาน ขณะที่หลวงพ่อบวชเป็นพระอยู่ ได้ช่วยพระครูสังฆกิจ(เคลือบ) พัฒนาวัดได้สร้างอุโบสถ กุฏิ ศาลาการเปรียญที่วัดบ้านแจ้ง เมื่อพระครูสังฆกิจมรณภาพแล้ว ญาติโยมมีศรัทธาในตัวหลวงพ่อ จึงได้นิมนต์หลวงพ่อหน้ายขึ้นเป็นเจ้าอาวาส แทนเจ้าอาวาสองค์ที่มรณภาพไป เมื่อ พ.ศ. 2512 ปัจจุบันนี้หลวงพ่อมีอายุได้ 71 ปี พรรษาที่ 59 หลวงพ่อไม่ยอมรับสมณศักดิ์ใดๆ ทั้งสิ้น ขออยู่อย่างพระธรรมดา หลวงพ่อหน่ายท่านได้สร้างเครื่องรางของขลังไว้หลายอย่างด้วยกัน อาทิ เช่นมีตะกรุดโทน ตะกรุดมหาอุด พระโมคคัลลา มีแบบใหญ่ แบบเล็ก พระพุทธโคดมแบบใหญ่ แบบเล็ก และเหรียญรุ่นต่างๆ อีกหลายรุ่น ถ้าท่านผ่านไปทางวัดบ้านแจ้ง ลองแวะคุยกับหลวงพ่อดูบ้างท่านจะได้รับแจกวัตถุมงคลต่าง ๆ จาหลวงพ่อ ถึงแม้หลวงพ่อจะชราภาพมากแล้ว แต่ท่านยังแข็งแรงดี ท่านจะนั่งคุยกับโยม ที่ไปเยี่ยมท่านได้ตลอดทั้งวันโดยไม่รู้สึกเหนื่อย มีอารมณ์ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ บางท่านที่ยังไม่เคยได้พบหลวงพ่อ ได้ยินแต่เพียงเกียรติศัพท์ของหลวงพ่อเท่านั้น ยังเกิดศรัทธาเลื่อมใสหลวงพ่ออย่างมากมาย ถ้าท่านได้พบพูดคุยกับหลวงพ่อ ท่านจะเกิดศรัทธาเลื่อมใสหลวงพ่อมากยิ่งขึ้น วัตถุมงคลของหลวงพ่อที่ลูกศิษย์ลูกหานำไปใช้มักจะเจอกับประสบการณ์ต่าง ๆ หลายรายด้วยกัน เช่น รายที่หนึ่ง นายอุบล อยู่ที่แปดริ้ว เขาเองได้ถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 ที่สัตหีบ ซึ่งคนร้ายจะปล้นเอาทรัพย์สิน แต่คนร้ายไม่อาจที่จะเอาทรัพย์สินของเขาไปได้ เกิดการต่อสู้กันเขาไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด โดยมีเหรียญ หลวงพ่อหน่าย ติดตัวเพียงเหรียญเดียว รายที่สอง นายตี๋ อยู่บ้านที่ตำบลบ้านบึงถูกยิงด้วยปืนจุด 38แต่ไม่เข้า เพราะมีเครื่องรางของขลัง ของหลวงพ่อติดตัวอยู่ ผู้ใดต้องการพระเครื่องไว้บูชา ติดต่อได้ที่ หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางประหัน จ.พระนครศรีอยุธยา (ข้อมูลจากหนังสือเก่าสมัยหลวงพ่อหน่ายยังมีชีวิตอยู่ หลวงปู่ได้มรณภาพ ในปี พ.ศ. 2531) หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้งได้รับการ คัดเลือกและยกย่อง จากหลวงปู่ดู่ วัดสะแกให้ท่านเป็นหนึ่งในพระเกจิ จตุรพิธพรชัย ตามคำปรึกษาของ ท่านเรียน นุ่มดี จึงเป็นที่มาของเหรียญ จตุรพิธพรชัย หลวงปู่หน่ายวัดบ้านแจ้ง จะสังเกตุว่าเนื่องจากท่านเป็น ศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลอง ท่านจึงได้รับการนิมนต์มาปลุกเสกวัตถุมงคล หลวงปู่ศุข ในหลายๆรุ่น

    1740791833448.jpg
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระปิดตาเนื้อผงใบลานไม้พญางิ้วดำ ปี๒๕๒๑ หลวงปู่หน่ายวัดบ้านแจ้ง ออกวัดถ้ำตะเพียนทองลพบุรี
    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20250301_093024.jpg IMG_20250301_093045.jpg
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,861
    ค่าพลัง:
    +21,359
    FB_IMG_1740842489200.jpg

    ครั้งหนึ่งในงานพิธี
    พุทธาภิเษกเกิดปาฎิหารย์เทียนชัยในพิธีลุกไหม้คล้ายเทียนชัยระเบิด
    ประวัติ
    1740843739416.jpg
    พระครูไพศาลสมณกิจ(หลวงปู่ดี อัตตะทันโต) ท่านเกิดเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 ที่บ้านเลขที่ 51ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นคราชสีมา บิดาของท่านชื่อ นาย อินทร์ มุ่งนากลาง มารดาของท่านชื่อ นาง มุข มุ่งนากลาง ท่านมีพี่น้องรวมกัน 5 คน ท่านเป็นคนแรก ในวัยเด็กของท่านได้ช่วยบิดาและมารดาของท่านประกอบอาชีพทำนา และได้เล่าเรียนหนังสือจนในปีพ.ศ. 2481 ท่านสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดลองตอง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2493 อายุ 24 ปี ท่านได้ทำการอุปสมบท ที่วัดลองตอง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นคราชสีมา โดยมีพระอุปัชฌาย์นามว่า พระครูพนมวนาภิรัต (หลวงพ่อบุญ) วัดพนมวันท์ พระกรรมวาจาจารย์นามว่า พระอธิการอ๊อต โอภาโส พระอนุสาวนาจารย์นามว่า พระอธิการวัน โชตโก เมื่อท่านบวชเป็นพระภิกษุแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัด ลองตอง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นคราชสีมา ในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2498 ท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองจอก ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นคราชสีมา ในปีพ.ศ. 2500 ท่านสอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักศาสนศึกษา วัดลองตอง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นคราชสีมา ในปีพ.ศ. 2501 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมประจำสำนักศาสนศึกษา วัดลองตอง ในปีพ.ศ. 2510 ท่านได้สร้างพระอุโบสถวัดหนองจอก ในปีพ.ศ. 2514 ท่านได้สร้างกุฏิสงฆ์ที่วัดหนองจอก ในปีพ.ศ. 2519 ท่านได้สร้างกุฏิกัมมัฏฐานและหอฉันที่วัดหนองจอก ในปีพ.ศ. 2521 ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ให้เป็นพระครูชั้นประทวน ในปีพ.ศ. 2523 ได้ทำการขุดลอกสระน้ำที่วัดหนองจอก ในปีพ.ศ. 2524 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระธรรมทูตอบรมศีลธรรมวัฒนธรรม ในเขตตำบลบ้านโพธิ์ ในปีพ.ศ. 2525 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบล บ้านโพธิ์ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นคราชสีมา และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษาวัดหนองจอก ในปีพ.ศ. 2526 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ในปีพ.ศ. 2527 ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ให้เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นตรีในราชทินนาม พระครูไพศาลสมณกิจ ในปีพ.ศ. 2528 ท่านได้สร้างศาลาการเปรียญที่วัดหนองจอก ในปีพ.ศ. 2530 ท่านได้สร้างห้องสมุดที่วัดหนองจอก ในปีพ.ศ. 2532 ท่านเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดหนองจอกและได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะชั้นโท ในราชทินนามเดิม(พระครูไพศาลสมณกิจ) ในปีพ.ศ. 2536 ท่านได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร ในด้านการส่งเสริมศึกษาสงเคราะห์ ในปีพ.ศ. 2540 ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ให้เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นเอกในราชทินนามเดิม (พระครูไพศาลสมณกิจ) ท่านเป็นที่พึ่งทางการศึกษา กายและใจ ของประชาชน พระ เณร ตลอดจนการที่ท่านเป็นนักพัฒนา นอกจากนี้มีประชาชนจำนวนมากที่มาหาท่านขอให้ท่านช่วยรดน้ำมนต์ให้ท่านได้ทุ่มเทกายและใจของท่านให้กับพระพุทธศาสนาเรื่อยมา จนกระทั่งท่านได้มรณภาพเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2546 รวมอายุ 78 ปี 54 พรรษา
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระผงรูปเหมือนรุ่นแรกหลวงพ่อดีวัดหนองจอก ปี๒๕๒๒
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20250301_222741.jpg IMG_20250301_222808.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...