พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    2 มกราคม 2552 06:38 PM
    #26354
    วันนี้( 2 มกราคม 2552) ผมมีงานบุญมาบอกกับชาววังหน้าทุกๆท่าน

    เนื่องในวันปีใหม่ของไทยเรา คือวันที่ 13 เมษายน 2552 ที่จะมาถึงนี้ ผมจะจัดงานสรงน้ำพระ บรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 5 พระองค์ ( องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมเด็จพระพุทธสิกขีที่1(สมเด็จองค์ปฐม) , องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกกุสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม โกนาคมนะ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม กัสสปะ และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ) ,พระ อรหันต์ ไม่น้อยกว่า 30 พระองค์ (มีพระธาตุพระอรหันต์สมัยพุทธกาล ,หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า และพระธาตุหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด) ,พระบูชา (พระพุทธรูป ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี)

    การจัดงาน ผมจะแจ้งวันและเวลาอีกครั้ง(ผมจะแจ้งโดยตรงถึงพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่านเอง) ในงานสรงน้ำครั้งนี้ ผมจะนิมนต์พระอาจารย์นิล และพระอาจารย์ผม มาฉันเพล เมื่อเสร็จสิ้นการถวายเพล และการสรงน้าแล้ว ผมจะมีการแจกพระสมเด็จให้กับทุกๆท่านที่มาร่วมงาน ผมจึงมาบอกบุญกับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่าน

    การร่วมทำบุญมีหลักเกณฑ์ดังนี้
    1.ร่วมทำบุญ 100 บาท พระสมเด็จจำนวน 1 ชุด(ขอไม่แจ้งจำนวนองค์) แต่รับพระสมเด็จ 1 องค์
    2.ส่วนที่เหลือผมจะแบ่งไปสำหรับการมอบพระสมเด็จให้กับท่านที่ไปร่วมงานสรงน้ำ
    3.ในส่วนที่แจกทุกๆท่านที่ไปร่วมงาน หากยังมีเหลือ ผมจะนำไปมอบให้กับพี่ใหญ่ เพื่อมอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญกับทุนนิธิท่านอาจารย์ประถม อาจสาครครับ
    4.จะนำไปบรรจุที่พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
    5.จะนำไปบรรจุที่พระเจดีย์ที่พระอาจารย์ผมจะดำเนินการสร้างขึ้น

    หากผมนำไปบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งไม่ทัน ผมจะขอนำไปบรรจุที่พระเจดีย์ที่พระอาจารย์ผมจะดำเนินการสร้างขึ้นนะครับ

    แต่หากว่ามีท่านที่ร่วมทำบุญมากกว่าพระสมเด็จที่มี อยู่ ผมจะนำพระพิมพ์อื่นๆมาเพิ่มเติม ในส่วนนี้ผมจะนำไปบรรจุในพระเจดีย์เพียงอย่างเดียว จะไม่มีการนำมามอบให้นะครับ

    ระยะเวลาในการร่วมทำบุญ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2552
    สิ้นสุดวันที่ 15 มกราคม 2552 เวลา 18.00 น.

    สำหรับท่านที่มีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญ ผมขอพิจารณาเป็นรายท่านนะครับ เนื่องจากการโอนเงินร่วมทำบุญ จะต้องโอนเงินเข้าบัญชีผมเอง เมื่อผมตอบตกลงแล้ว ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้อีกครั้งครับ

    หมายเหตุ ท่านที่ร่วมทำบุญทุกๆท่าน เมื่อผมตอบตกลงแล้ว ให้แจ้ง ชื่อ - นามสกุล ของท่าน และบุคคลในครอบครัวของท่าน ที่ท่านประสงค์จะเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ให้ผมทราบด้วย ผมจะได้นำรายชื่อไปแจ้งในงานสรงน้ำ ,มอบให้กับพี่ใหญ่(ในกรณีที่มอบพระให้กับทางทุนนิธิ) ,ถวายพระอาจารย์นิล และพระอาจารย์ผมครับ

    โมทนาสาธุครับ
    http://palungjit.org/showthrea...24#post1771424

    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1318

    รายนามท่านที่ร่วมบุญ
    1.คุณพุทธันดร ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    2.คุณชวภณ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    3.คุณพิมพาภรณ์ ร่วมทำบุญ 100 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    4.คุณtawatd ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    5.คุณnewcomer ร่วมทำบุญ 300.72 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    6.คุณnarin96 ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
    7.คุณเพชร ร่วมทำบุญ 300 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    8.คุณkwok ร่วมทำบุญ 500 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    9.คุณdrmetta ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
    10.คุณgnip ร่วมทำบุญ 300 บาท
    11.คุณพรสว่าง_2008 ร่วมทำบุญ 300 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    12.คุณake7440 ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    13.คุณkaticat ร่วมทำบุญ 1,000.11 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    14.คุณnongnooo ร่วมทำบุญ 500 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    15.คุณdragonlord ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    16.คุณaries2947 ร่วมทำบุญ 200 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    17.คุณ นายคัง ร่วมทำบุญ 200 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    18.คุณคีตา ร่วมทำบุญ 500 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    19.คุณ นายสติ ร่วมทำบุญ 300 บาท (จะนำไปฝากที่พี่ใหญ่)
    20.คุณhongsanart ร่วมทำบุญ 500 บาท
    21.คุณตั้งจิต ร่วมทำบุญ 300 บาท

    รวมจำนวนเงินที่ร่วมทำบุญกัน 12,300.83 บาท

    หากผมแจ้งผิดพลาด กรุณาช่วยเตือนด้วยนะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    ผมมาขอความเห็นครับ

    ผมได้กราบเรียนพระอาจารย์ผม เรื่องของการสร้างพระเจดีย์ ท่านบอกผมว่า การสร้างพระเจดีย์ในช่วงนี้ ยังคงไม่ได้สร้าง ต้องรอดูเหตุและปัจจัยต่างๆก่อน ท่านบอกว่า ให้เร่งปฎิบัติกันให้มาก

    หากว่า พระสมเด็จที่ทุกๆท่าน ได้ร่วมกันทำบุญนี้ หากพระอาจารย์ผมยังไม่ได้สร้างพระเจดีย์ ผมขออนุญาตนำไปบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแทน ได้หรือเปล่าครับ หรือว่าจะให้ทำอย่างไร

    ขอความเห็นทุกๆท่านนะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    หรือว่าให้ผมทำตามความประสงค์ของท่าน
    เฉพาะองค์เดิมที่จะไปบรรจุที่พระเจดีย์ที่พระอาจารย์ผม จะสร้างขึ้น โดยแจ้งความประสงค์มาได้ ผมจะได้ดำเนินการให้ตามความประสงค์

    เหตุที่ต้องเปลี่ยนแปลง เนื่องจากเดิมผมทราบข่าวมาว่าจะสร้างพระเจดีย์ แต่ปัจจุบัน พระอาจารย์ท่านขอดูเหตุและปัจจัยต่างๆก่อน (น่าจะอีกนาน) ผมจึงไม่อยากเก็บไว้กับตัวผมเองนานนัก
    เนื่องจาก หากผมตายไปก่อน (คนเราไม่รู้วันตายของตนเอง) แล้วภรรยาผมไม่ดำเนินการให้ ผมจะติดหนี้ทุกๆท่านไปอีกนาน

    ผมจึงอยากทำอะไรให้เสร็จโดยรวดเร็วครับ

    ขอบคุณครับ

    อีกประเด็น ผมเองไม่อยากติดหนี้ เพราะติดหนี้ต้องตามไปใช้หนี้อีกเยอะ และอีกนาน

    หรือเปิดกว้างว่า แล้วแต่ผมครับ

    ผมรบกวนทุกๆท่านด้วยนะครับ

    ---------------------------------------

    เรียนทุกท่านที่ร่วมทำบุญครับ

    ผมรบกวนขอคำตอบภายในวันเสาร์นี้ด้วยนะครับ หากท่านใดไม่ได้แจ้งผมมา ก็ให้แล้วแต่ผมนะครับ

    และขอขอบคุณสำหรับท่านที่แจ้งผมมาแล้วครับ

    ขอบคุณครับ

    โมทนาสาธุครับ<!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  2. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ปัจจุบันนี้ใกล้จะสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว คงเหลือการตกแต่งภายใน ,ภายนอก อีกบางส่วน งบประมาณเท่าที่ผมทราบมายังคงค้างอยู่อีก ประมาณ 1-1.5 ล้านบาท

    ร่วมด้วยช่วยกันนะครับ ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้วครับ

    โมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมกันสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ มาโดยตลอดครับ

    .
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    นำไปด้วยครับ ...
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับการเปิดกว้างให้ผมนั้น ผมคิดว่า ผมจะได้คิดหาทางทำบุญให้ได้หลายๆทางครับ

    คุณเพชรแจ้งมาว่า ที่วัดธรรมมงคล จะมีการสร้างพระพุทธรูป และแนะนำว่า ให้บรรจุไว้ใต้ฐานพระพุทธรูปองค์นั้น

    อีกทางที่คิดไว้ก็คือ ถวายหลวงพ่อแผน ที่สนส.บ่อเงินบ่อทอง เพื่อมอบให้กับผู้ที่มาทำบุญที่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง

    หรือ ผมอาจจะหาพระเจดีย์ที่อื่น เพื่อนำไปบรรจุครับ

    หรือ กรณีอื่นๆครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  7. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    แต่ถ้ามีที่อื่นที่สามารถบรรจุได้ ก็ตามแต่ท่านปาทานครับ
     
  8. คีตา

    คีตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +4,309

    โอ้โห.... มีแต่ project มหากุศลทั้งนั้นเลย ดีใจมากๆครับ ได้ร่วมบุญแบบนี้ [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ส่วนของผมแล้วแต่ พี่ sithiphong ขอรับ
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    2 มกราคม 2552 06:38 PM
    #26354
    วันนี้( 2 มกราคม 2552) ผมมีงานบุญมาบอกกับชาววังหน้าทุกๆท่าน

    เนื่องในวันปีใหม่ของไทยเรา คือวันที่ 13 เมษายน 2552 ที่จะมาถึงนี้ ผมจะจัดงานสรงน้ำพระ บรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 5 พระองค์ ( องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมเด็จพระพุทธสิกขีที่1(สมเด็จองค์ปฐม) , องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกกุสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม โกนาคมนะ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม กัสสปะ และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ) ,พระ อรหันต์ ไม่น้อยกว่า 30 พระองค์ (มีพระธาตุพระอรหันต์สมัยพุทธกาล ,หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า และพระธาตุหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด) ,พระบูชา (พระพุทธรูป ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี)

    การจัดงาน ผมจะแจ้งวันและเวลาอีกครั้ง(ผมจะแจ้งโดยตรงถึงพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่านเอง) ในงานสรงน้ำครั้งนี้ ผมจะนิมนต์พระอาจารย์นิล และพระอาจารย์ผม มาฉันเพล เมื่อเสร็จสิ้นการถวายเพล และการสรงน้าแล้ว ผมจะมีการแจกพระสมเด็จให้กับทุกๆท่านที่มาร่วมงาน ผมจึงมาบอกบุญกับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่าน

    การร่วมทำบุญมีหลักเกณฑ์ดังนี้
    1.ร่วมทำบุญ 100 บาท พระสมเด็จจำนวน 1 ชุด(ขอไม่แจ้งจำนวนองค์) แต่รับพระสมเด็จ 1 องค์
    2.ส่วนที่เหลือผมจะแบ่งไปสำหรับการมอบพระสมเด็จให้กับท่านที่ไปร่วมงานสรงน้ำ
    3.ในส่วนที่แจกทุกๆท่านที่ไปร่วมงาน หากยังมีเหลือ ผมจะนำไปมอบให้กับพี่ใหญ่ เพื่อมอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญกับทุนนิธิท่านอาจารย์ประถม อาจสาครครับ
    4.จะนำไปบรรจุที่พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
    5.จะนำไปบรรจุที่พระเจดีย์ที่พระอาจารย์ผมจะดำเนินการสร้างขึ้น

    หากผมนำไปบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งไม่ทัน ผมจะขอนำไปบรรจุที่พระเจดีย์ที่พระอาจารย์ผมจะดำเนินการสร้างขึ้นนะครับ

    แต่หากว่ามีท่านที่ร่วมทำบุญมากกว่าพระสมเด็จที่มี อยู่ ผมจะนำพระพิมพ์อื่นๆมาเพิ่มเติม ในส่วนนี้ผมจะนำไปบรรจุในพระเจดีย์เพียงอย่างเดียว จะไม่มีการนำมามอบให้นะครับ

    ระยะเวลาในการร่วมทำบุญ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2552
    สิ้นสุดวันที่ 15 มกราคม 2552 เวลา 18.00 น.

    สำหรับท่านที่มีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญ ผมขอพิจารณาเป็นรายท่านนะครับ เนื่องจากการโอนเงินร่วมทำบุญ จะต้องโอนเงินเข้าบัญชีผมเอง เมื่อผมตอบตกลงแล้ว ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้อีกครั้งครับ

    หมายเหตุ ท่านที่ร่วมทำบุญทุกๆท่าน เมื่อผมตอบตกลงแล้ว ให้แจ้ง ชื่อ - นามสกุล ของท่าน และบุคคลในครอบครัวของท่าน ที่ท่านประสงค์จะเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ให้ผมทราบด้วย ผมจะได้นำรายชื่อไปแจ้งในงานสรงน้ำ ,มอบให้กับพี่ใหญ่(ในกรณีที่มอบพระให้กับทางทุนนิธิ) ,ถวายพระอาจารย์นิล และพระอาจารย์ผมครับ

    โมทนาสาธุครับ
    http://palungjit.org/showthrea...24#post1771424

    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1318

    รายนามท่านที่ร่วมบุญ
    1.คุณพุทธันดร ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    2.คุณชวภณ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    3.คุณพิมพาภรณ์ ร่วมทำบุญ 100 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    4.คุณtawatd ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    5.คุณnewcomer ร่วมทำบุญ 300.72 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    6.คุณnarin96 ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
    7.คุณเพชร ร่วมทำบุญ 300 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    8.คุณkwok ร่วมทำบุญ 500 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    9.คุณdrmetta ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
    10.คุณgnip ร่วมทำบุญ 300 บาท
    11.คุณพรสว่าง_2008 ร่วมทำบุญ 300 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    12.คุณake7440 ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    13.คุณkaticat ร่วมทำบุญ 1,000.11 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    14.คุณnongnooo ร่วมทำบุญ 500 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    15.คุณdragonlord ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    16.คุณaries2947 ร่วมทำบุญ 200 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    17.คุณ นายคัง ร่วมทำบุญ 200 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    18.คุณคีตา ร่วมทำบุญ 500 บาท (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)
    19.คุณ นายสติ ร่วมทำบุญ 300 บาท (จะนำไปฝากที่พี่ใหญ่)
    20.คุณhongsanart ร่วมทำบุญ 500 บาท
    21.คุณตั้งจิต ร่วมทำบุญ 300 บาท

    รวมจำนวนเงินที่ร่วมทำบุญกัน 12,300.83 บาท

    หากผมแจ้งผิดพลาด กรุณาช่วยเตือนด้วยนะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    ผมมาขอความเห็นครับ

    ผมได้กราบเรียนพระอาจารย์ผม เรื่องของการสร้างพระเจดีย์ ท่านบอกผมว่า การสร้างพระเจดีย์ในช่วงนี้ ยังคงไม่ได้สร้าง ต้องรอดูเหตุและปัจจัยต่างๆก่อน ท่านบอกว่า ให้เร่งปฎิบัติกันให้มาก

    หากว่า พระสมเด็จที่ทุกๆท่าน ได้ร่วมกันทำบุญนี้ หากพระอาจารย์ผมยังไม่ได้สร้างพระเจดีย์ ผมขออนุญาตนำไปบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแทน ได้หรือเปล่าครับ หรือว่าจะให้ทำอย่างไร

    ขอความเห็นทุกๆท่านนะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    หรือว่าให้ผมทำตามความประสงค์ของท่าน
    เฉพาะองค์เดิมที่จะไปบรรจุที่พระเจดีย์ที่พระอาจารย์ผม จะสร้างขึ้น โดยแจ้งความประสงค์มาได้ ผมจะได้ดำเนินการให้ตามความประสงค์

    เหตุที่ต้องเปลี่ยนแปลง เนื่องจากเดิมผมทราบข่าวมาว่าจะสร้างพระเจดีย์ แต่ปัจจุบัน พระอาจารย์ท่านขอดูเหตุและปัจจัยต่างๆก่อน (น่าจะอีกนาน) ผมจึงไม่อยากเก็บไว้กับตัวผมเองนานนัก
    เนื่องจาก หากผมตายไปก่อน (คนเราไม่รู้วันตายของตนเอง) แล้วภรรยาผมไม่ดำเนินการให้ ผมจะติดหนี้ทุกๆท่านไปอีกนาน

    ผมจึงอยากทำอะไรให้เสร็จโดยรวดเร็วครับ

    ขอบคุณครับ

    อีกประเด็น ผมเองไม่อยากติดหนี้ เพราะติดหนี้ต้องตามไปใช้หนี้อีกเยอะ และอีกนาน

    หรือเปิดกว้างว่า แล้วแต่ผมครับ

    ผมรบกวนทุกๆท่านด้วยนะครับ

    ---------------------------------------

    เรียนทุกท่านที่ร่วมทำบุญครับ

    ผมรบกวนขอคำตอบภายในวันเสาร์นี้ด้วยนะครับ หากท่านใดไม่ได้แจ้งผมมา ก็ให้แล้วแต่ผมนะครับ

    และขอขอบคุณสำหรับท่านที่แจ้งผมมาแล้วครับ

    ขอบคุณครับ

    โมทนาสาธุครับ<!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig -->

    <!-- / message -->
    สำหรับการเปิดกว้างให้ผมนั้น ผมคิดว่า ผมจะได้คิดหาทางทำบุญให้ได้หลายๆทางครับ

    คุณเพชรแจ้งมาว่า ที่วัดธรรมมงคล จะมีการสร้างพระพุทธรูป และแนะนำว่า ให้บรรจุไว้ใต้ฐานพระพุทธรูปองค์นั้น

    อีกทางที่คิดไว้ก็คือ ถวายหลวงพ่อแผน ที่สนส.บ่อเงินบ่อทอง เพื่อมอบให้กับผู้ที่มาทำบุญที่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง

    หรือ ผมอาจจะหาพระเจดีย์ที่อื่น เพื่อนำไปบรรจุครับ

    หรือ กรณีอื่นๆครับ

    โมทนาสาธุครับ
    <!-- sig -->
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เด็กต่ำกว่า 18 ตรวจ HIV ได้ไม่ต้องผ่านผู้ปกครอง?
    http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9520000001937
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 มกราคม 2552 08:50 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจาก www.raksthai.org</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ในเวทีประชาพิจารณ์แพทยสภา ร่วมกับองค์การแพธ (PATH) และเครือข่ายเยาวชนYouth Net รายงานว่า ปัจจุบันเชื้อเอชไอวีกำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในกลุ่มประชากรวัยเจริญพันธุ์ ข้อมูลจากสำนักวิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ระบุว่าเมืองไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ปีละเกือบ 20,000 คน ยอดรวมของผู้ติดเชื้อสูงถึง 400,000 คน โดยที่ 2 ใน 3 ของจำนวนดังกล่าวยังไม่รู้ว่าตนเองติดเชื้อ หากยังปล่อยให้สถานการณ์การแพร่เชื้อดำเนินต่อไปเช่นนี้ ก็จะส่งผลกระทบทั้งต่อระดับบุคคล และต่อสังคมเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า หากตรวจพบเอชไอวีและมีการดูแลรักษาสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยควบคุมเชื้อในร่างกายมิให้แพร่กระจายได้และได้ผลดีกว่าการรักษาเมื่อเจ็บป่วยแล้ว ขณะนี้กรุงเทพมหานครกำลังระดมให้มีการตรวจเชื้อเอชไอวีร่วมกับการตรวจสุขภาพประจำปี โดยให้ศูนย์บริการสาธารณสุขประมาณ 60 แห่งของ กทม. เป็นสถานบริการตัวอย่าง

    ขณะเดียวกันยังมีเด็กที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน พวกเขาอาจไม่ได้รับโอกาสแม้กระทั่งจะเข้าเรียนในโรงเรียนที่อยากเรียน หรือประกอบอาชีพที่ใฝ่ฝัน ทั้งที่มีศักยภาพและสิทธิที่จะทำได้ ทั้งนี้เป็นเพราะสังคมวงกว้างยังมีความรู้ความเข้าใจไม่เพียงพอเกี่ยวกับเอดส์ จึงยังไม่พร้อมที่จะเปิดโอกาสให้เด็กๆเหล่านี้อย่างทั่วถึง แม้ว่ารัฐบาลพยายามส่งเสริมความรู้เรื่องเอดส์ให้กับประชาชนตลอดมา อาจเป็นเพราะความแตกต่างด้านระดับความรู้ ความเข้าใจเรื่องเอชไอวี ทัศนคติ ฐานะทางเศรษฐกิจสังคม รวมทั้งวัฒนธรรมความเป็นอยู่

    อย่างไรก็ตาม ผลกระทบดังกล่าวอาจป้องกันแก้ไขได้ที่ต้นเหตุ คือ การลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ วิธีหนึ่งที่ทำได้คือ ส่งเสริมการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีกับประชาชนทุกคนที่มีโอกาสเสี่ยง ทั้งนี้ เด็กและเยาวชนก็ถือเป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเช่นกัน จากแนวโน้มการมีเพศสัมพันธ์ในอายุน้อยลงเรื่อยๆ ได้แก่ 11-12 ปีขึ้นไปก็เริ่มมีความเสี่ยงแล้วเนื่องจากพัฒนาการทางเพศที่เร็วขึ้น รวมทั้งสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

    นายแพทย์ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า แนวปฏิบัติเกี่ยวกับโรคเอดส์ของแพทยสภา (2545) ทำให้แพทย์ไม่สามารถให้บริการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีให้กับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี หากไม่ได้รับการยินยอมจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง เพราะเห็นว่าเด็กๆ อาจยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ แพทยสภาเล็งเห็นถึงอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากแนวปฏิบัติดังกล่าว จึงได้ร่วมกับ องค์การแพธ (PATH) และเครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ประเทศไทย (YouthNet) ในการเชิญเครือข่ายต่างๆ เข้าร่วมประชุมเพื่อทำประชาพิจารณ์ภายใต้ประเด็นคำถาม ท่านเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร กับประเด็นที่ว่า “เด็กทุกคนควรมีสิทธิเข้ารับบริการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีด้วยความสมัครใจ โดยไม่จำเป็นต้องขอคำยินยอมจากผู้ใหญ่”

    นายแพทย์ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการสำนักวิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่าการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี ผู้สนใจตรวจต้องรับรู้ทั้งข้อดีและข้อเสียของการตรวจ เพราะมีความสำคัญ และต้องมีบริการปรึกษาที่ดีทั้งก่อนและหลังตรวจเลือดเพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และประโยคที่ว่า “เอดส์รักษาได้” นั้นเป็นความจริง เพราะเมื่อผู้ติดเชื้อรู้ตัวแต่เนิ่นๆ และกินยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอ เขาจะไม่ป่วยหรือเสียชีวิตจากเอดส์

    นายแพทย์วัชระ พุ่มประดิษฐ์ ที่ปรึกษาโครงการเลิฟแคร์ “กล้ารัก กล้าเช็ค” องค์การแพธ (PATH) กล่าวว่า มีประชากรทั่วไปเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่ไปรับบริการตรวจเลือดหาเอชไอวี ส่วนพนักงานบริการทางเพศที่มักถูกมองว่าเป็น “กลุ่มเสี่ยง” สามารถเข้าถึงบริการดังกล่าวและดูแลสุขภาพตัวเองได้ดีกว่ากลุ่มอื่นๆ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นพ.สุริยเดว ทรีปาตี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ขณะที่เยาวชนนั้นแทบไม่มีข้อมูลและไม่มีโอกาสเข้าถึงบริการเกี่ยวกับเอดส์หรือสุขภาพทางเพศอื่นๆเลย ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง จึงจำเป็นต้องมีบริการสุขภาพที่เป็นมิตรที่เยาวชนต้องการเดินเข้ามาตรวจด้วยความสมัครใจ โดยมีการรักษาความลับที่ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีเพียงตัวเขาและผู้ให้บริการเท่านั้นที่รู้

    นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่าประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรักษาความลับที่สามารถคุ้มครองถึงสิทธิเยาวชน ทั้งที่มีการศึกษาพบว่าวุฒิภาวะของวัยรุ่นอายุ 14 ปีขึ้นไป มีการตัดสินใจที่ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่แล้ว นอกจากนี้พัฒนาการทางเพศของวัยรุ่นไทยมีอัตราเร็วขึ้น การขอคำยินยอมจากผู้ปกครองอาจทำให้เยาวชนเข้าถึงบริการได้ยากขึ้น

    กิตติพันธ์ กันจินะ ตัวแทนจากเครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ประเทศไทย (YouthNet) เปิดเผยถึงผลสำรวจความคิดเห็นของเยาวชนทั่วประเทศประมาณ 2,000 คน ซึ่งพบว่า ร้อยละ 80 เห็นว่าการตรวจเลือดเป็นเรื่องใกล้ตัว ร้อยละ 78 เห็นด้วยกับการที่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีสามารถตรวจเลือดได้ตามความสมัครใจโดยไม่ต้องขออนุญาตผู้ปกครอง ขณะที่มากกว่าร้อยละ 90 ต้องการให้มีบริการที่เป็นมิตรสำหรับเยาวชน และร้อยละ 90 มองว่าบริการนั้นต้องรักษาความลับด้วย

    กิตติพันธ์ กล่าวว่า การขอตรวจเอชไอวีน่าจะเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่เด็กทำได้ อย่างไรก็ตาม ผลที่ออกมานั้นต้องมาพูดคุยเป็นรายๆ ไป กรณีที่ผลเลือดเป็นบวก การจะแจ้งผู้ปกครองหรือไม่นั้นให้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ โดยต้องมีกระบวนการเตรียมความพร้อม และมีเครือข่ายด้านความปลอดภัย (Safety Net) เข้ามาช่วยดูแล เพราะเด็กบางกลุ่มไม่ได้อยู่กับผู้ปกครอง

    สุภัทรา นาคะผิว ผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ กล่าวว่าประเทศไทยมีคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ (เรียกสั้นๆว่า คณะกรรมการฯ เอดส์ชาติ) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แผนเอดส์ชาติฉบับปัจจุบันระบุกลุ่มเป้าหมายที่ต้องดำเนินการป้องกันโดยมีกลุ่มเยาวชนอายุ 15-25 ปีเป็นกลุ่มหนึ่งในนั้น ทั้งนี้ประเทศไทยได้รับงบประมาณจากกองทุนโลกตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งได้ส่งเสริมการป้องกันเอดส์กับเยาวชนทั้งระบบการศึกษาและในชุมชน แต่ปัญหาคือ เมื่อมีโครงการที่ทำงานกับเยาวชนแล้ว ทำให้เยาวชนเริ่มตระหนักและประเมินโอกาสเสี่ยงของตัวเองได้ แต่เมื่อจะเข้าไปรับบริการกลับติดข้อบังคับของแพทยสภาที่ต้องขออนุญาตผู้ปกครองก่อน ทำให้เกิดอุปสรรคที่จะเข้าถึงบริการ และเมื่อเขาไม่สามารถเข้าสู่บริการอาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัวได้ การตรวจเลือดโดยสมัครใจไม่ว่าอายุเท่าไหร่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะเด็กและเยาวชนที่ติดเชื้อและขาดโอกาสเข้าถึงข้อมูลหรือบริการสุขภาพที่เกี่ยวข้องจะมีโอกาสป่วยด้วยโรคแทรกซ้อนและเสียชีวิตสูง และมีผลต่อการดูแลรักษาในระยะยาว

    กีรติกา แพงลาด ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานเครือข่ายครอบครัวในสถานศึกษา มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ให้ความเห็นว่า บางครั้งบอกว่าเด็กมีความพร้อม ไม่ต้องการขอรับคำยินยอมจากผู้ปกครอง แต่ติดอยู่ที่ผู้ปกครองไม่ยอมรับ ซึ่งในส่วนของผู้ปกครองมองว่าการตรวจเลือดโดยไม่ขอความยินยอมสามารถทำได้ แต่ต้องคำนึงถึงกระบวนการรองรับ อย่างการให้คำปรึกษาในเบื้องต้น ทั้งนี้การตรวจเลือดมีความสำคัญ ทำให้เยาวชนไม่แพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่น แต่จะทำอย่างไรให้ครอบครัวเป็นที่ปรึกษาลำดับแรกของเยาวชนด้วย เพราะปัจจุบันนี้พ่อแม่ผู้ปกครองไม่มีเวลาที่จะอยู่กับลูกและให้คำปรึกษาเรื่องเพศกับลูกได้

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจาก www.g-frog.com</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ดล บุนนาค ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น ประจำสำนักประธานศาลฎีกา กล่าวว่าเรื่องของการตรวจหาเชื้อเอชไอวีนั้น แยกออกเป็น 2 กระบวนการคือ 1.การตรวจ ต้องอาศัยการยินยอมหรือไม่ และมีเกณฑ์อย่างไร 2. การแจ้งผล จะแจ้งหรือไม่แจ้งผู้ปกครองอย่างไร ตามกฎหมายอาญา หากเราเป็นผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ กฎหมายไม่ได้บอกว่าต้องมีอายุเท่าไร หรือต้องขอความยินยอมจากใคร ในกรณีใช้สิทธิตรวจเอชไอวีนี้ นับเป็นสิทธิเฉพาะตัว ไม่ต้องขอผู้ปกครอง เกณฑ์ที่เขียนอาจไม่ต้องกำหนดอายุ แต่อาจมีเงื่อนไขที่ชัดเจนว่าแพทย์พิจารณาแล้วว่ามีวุฒิภาวะพอที่จะเข้าใจสภาวะของตัวเองได้ หรือโตเป็นผู้ใหญ่เพียงพอในการดูแลตัวเอง หากตัวเองยินยอมก็ไม่ขัดกฎหมาย สำหรับขั้นตอนของการแจ้งผลการตรวจว่าเป็นอย่างไรนั้น ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ระบุชัดเจนว่าข้อมูลเรื่องสุขภาพเป็นความลับส่วนบุคคล

    นอกจากนี้ กลุ่มครูอาจารย์ เสนอความเห็นว่าควรมีการสอนเพศศึกษาที่ปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ปัจจุบันเพศศึกษาไม่ใช่สิ่งที่จับต้องไม่ได้เหมือนอดีต วัยรุ่นปัจจุบันโตเร็วกว่าเมื่อก่อนมาก ความคิดความอ่านรวดเร็วตามกัน เราจะปิดบังความรู้เรื่องเพศไม่ได้อีกต่อไป แม้เราไม่สอน เขาก็มีลู่ทางที่จะเรียนรู้จากทางอื่นๆ เช่น อินเทอร์เน็ต เป็นต้น ซึ่งไม่สามารถทราบได้เลยว่าความรู้ที่พวกเขาได้รับนั้นถูกหรือผิด อาจเป็นสาเหตุให้เด็กๆ ไม่เข้าใจ และกระทำผิดเกี่ยวกับเรื่องเพศอย่างต่อเนื่อง เครือข่ายครูอาจารย์จึงอยากให้รัฐบาลสนับสนุนให้มีการอบรมครูเกี่ยวกับวิธีการสอนเรื่องเพศศึกษากับวัยรุ่นอย่างถูกวิธี เพื่อให้การสอนเป็นไปอย่างชัดเจนและถูกต้อง

    โดยภาพรวมของการทำประชาพิจารณ์ครั้งนี้ ผู้แทนจาก ทุกเครือข่าย เห็นด้วยกับการปรับปรุงแนวปฏิบัติเกี่ยวกับโรคเอดส์ของแพทยสภา โดยเห็นว่าไม่ควรกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับอายุของผู้รับการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี และที่สำคัญต้องมีกระบวนการให้คำปรึกษาที่มีมาตรฐานและคุณภาพอย่างมาก ทั้งก่อนตรวจและหลังทราบผลการตรวจ โดยยึดหลักประโยชน์สูงสุดสำหรับเยาวชน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการจัดบริการที่เป็นมิตรเพื่อให้กลุ่มวัยรุ่นสามารถเข้าถึงบริการได้มากยิ่งขึ้น เด็กหรือเยาวชนที่ตัดสินใจมาขอตรวจเชื้อเอชไอวีได้นั้น ต้องผ่านกระบวนการคิดและพิจารณาก่อนแล้วว่าตนเองมีความเสี่ยง สมควรที่จะได้รับการตรวจ

    ทั้งนี้ การขออนุญาตผู้ปกครองอาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงบริการด้านเอดส์ที่จำเป็นสำหรับเยาวชน เช่น เมื่อไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง หรือเด็กต้องตอบคำถามในประเด็นที่ไม่อยากตอบ หรือเด็กบางกลุ่มที่ต้องดูแลตนเองโดยไม่มีผู้ปกครอง เป็นต้น จึงอาจส่งผลให้เด็กบางคนแพร่เชื้อเอชไอวีสู่คนอื่นโดยไม่รู้ตัว ในทางกลับกันหากยินยอมให้เยาวชนได้รับการตรวจด้วยความสะดวกใจและสมัครใจ จะทำให้เขาเข้าถึงบริการปรึกษาและการดูแลสุขภาพที่สอดคล้องกับสภาวะสุขภาพ รวมทั้ง จะช่วยยับยั้งการแพร่เชื้อเอชไอวีได้ สำหรับขั้นตอนหลังจากการทำประชาพิจารณ์ ทางแพทยสภาจะนำแนวทางที่ได้ไปพิจารณาจัดทำร่างข้อบังคับและประกาศให้แพทย์ได้รับทราบโดยทั่วกันเพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติต่อไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    สมบัติอันล้ำค่า..


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    สมบัติอันล้ำค่า..


    มีเงิน..เขาเรียกว่า..น้อง..
    มีทอง..เขาเรียกว่า..พี่..

    >>>
     
  12. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    วันนี้เพิ่งดูสารคดีเลือด สารEpo กระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดแดง เขาบอกว่าคนที่หลังบริจาคเลือด หรือโลหิตจาก จากการทดลองไปออกกำลังการในที่มีอากาศเบาบางจะทำให้ร่างการปรับเปลี่ยนการเผาผลาญร่างการและหลายๆอย่างอีกทั่งยังเร่งให้ร่างการผลิตสาร Epo ทำให้เส้นเลือดพัฒนา ไม่รู้จริงปาวนะครับไปดูมา แบบว่าถ้าออกกำลังในอากาศเบาบางทำให้อัตรความมเข้มข้นของเลือดเพิ่มได้ สุดยอดเลยผมนั่งดู แฮะแฮะ
     
  13. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    คงต้องรอคุณหมอเอก มาช่วยคอนเฟิร์ม ครับ
    ช่วงนี้แฟนผม ติดซีรีย์ เรื่อง คุณหมอหัวใจแกร่ง ครับ
    เป็นเรื่องของคุณหมอที่เก่งในการผ่าตัดหัวใจ มีจรรยาแพทย์แต่ต้องสู้
    กับอิทธิพลมืดในแง่ธุรกิจ ครับ
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524

    รุ้แต่มีเพื่อนผู้ชายคนนึงหลังบริจาคเลือดแล้วไปวิ่งลู่ที่ฟิตเนสแล้วเป็นลมคาลู่เลยค่ะ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เย็นนี้ ผมจะไปงานเลี้ยงที่ทำงาน เลี้ยงปีใหม่ครับ

    ผมจะไปทานเผื่อทุกๆท่านนะครับ

    เมื่อก่อน เพื่อนผมนำบัตรบุฟเฟต์ของโรงแรมแม่น้ำมาให้ ไปกัน 4 ท่าน มีอยู่ 2 ท่านทานกันได้คนละนิดหน่อย ผมกับเพื่อนอีกท่านนึง เวียนตัก 8 รอบ 4 รอบหลัง รอบละ 2 จานครับ บัตรราคาท่านละ 350 บาท กินกันไปคุ้มแสนคุ้มครับ

    ตอนนี้ทานไม่ได้เยอะแบบนั้นแล้ว สงสัยว่า อายุจะเยอะขึ้น

    .
     
  17. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    คุณหนุ่มบรรยายเห็นภาพเลย ครับ
    นานมาแล้ว เคยไปทานบุฟเฟต์ของโรงแรมแม่น้ำ
    จะมีเมนูพิเศษ ตรงซุ้มอาหารจีน คือ เป็ดปักกิ่ง ครับ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เพื่อนๆที่ทำงานบอกว่า ถ้าไอ้สองคนนี้นั่งโต๊ะไหน อย่าไปนั่งด้วย เดี๋ยวกินไม่ทันครับ
     
  19. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524

    เดี๋ยวหาคู่ดวลให้นะคะ ไปกัน6คน กินบาร์บีคิวพลาซ่าชุดครอบครัว16ชุดค่ะ ไม่รวมข้าวและอาหารอื่นๆนะคะ
     
  20. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    สวัสดีครับ ช่วงนี้ประชุมค่อนข้างบ่อย ไม่ได้เข้ากระทู้ตอนช่วงกลางวันเลยครับ
    เข้ามาตอนเย็นก็กระทู้วิ่งไปไกลทุกที เดี๋ยวมีเวลาจะไปนั่งย้อนอ่านกระทู้เช่นเคย

    ก่อนอื่นขอขอบพระคุณคณะกรรมการ และ ชาววังหน้าทุกๆท่านที่เมตตาสำหรับโครงการธนาคารความดี
    และก็ขอโมทนาบุญ กับทุกๆท่านอีกครั้งครับ

    สำหรับการเดินทางของคุณเพชร เมื่อเห็นว่าเตรียมการไปเสียขนาดนั้นก็ชวนให้รู้สึกอยู่ว่าคงต้องมีอะไรพิเศษ ก็ขออาราธนาให้พระรัตนตรัยคุ้มครองครับ

    และคำถามเรื่องการแพทย์นั้น สำหรับสาร EPO ชื่อเต็มๆคือ Erythropoietin ผู้สนใจเพิ่มตามสามารถ search จากชื่อเต็มได้ครับ
    เล่าคร่าวๆว่า สารนี้ เป็น hormone ชนิดหนึ่ง ซึ่งผลิตจากไต ไปกระตุ้นไขสันหลัง ให้ทำการสร้างเม็ดเลือดแดง (แดงอย่างเดียวนะครับ ไม่เกี่ยวกับสารในองค์ประกอบเลือดอย่างอื่น)
    โดยปกติร่างกายจะมีกลไกในการดักจับความเข้มข้นของเลือด เมื่อปริมาณเม็ดเลือดแดงลดลง
    ไม่ว่าจะจากสาเหตใดก็ตาม เช่น เลือดออก บริจาคเลือด เม็ดเลือดเก่าสลายเนื่องจากหมดอายุ ฯลฯ ร่างกายก็จะหลั่ง hormone ชนิดนี้ออกมาเพื่อกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดเลือดใหม่ขึ้นมา

    ทีนี้เมื่อเราไปบริจาคเลือด ก็เท่ากับเราเสียเลือด ดังนั้นร่างกายก็จะทำการสร้างสารนี้ขึ้นมาเป็นปกติครับ และการสร้างเม็ดเลือดใหม่นี้ก็ต้องใช้เวลา ดังนั้นหากไปออกกำลังกายทันที
    ผลที่ได้รับก็เหมือนที่พี่ katicat บอก คือเลือดแดงเนี่ยมีหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆตามร่างกาย เมื่อมันน้อย ก็ส่งได้น้อย
    ผลคือกล้ามเนื้อเป็นตะคริว ล้าได้ง่าย หายใจเหนื่อยเร็ว หน้ามืดเป็นลม ฯลฯ คิดง่ายๆเหมือนจับคนป่วยไปเล่นฟิตเนสนั่นแหละครับ
    ถามว่ามีอะไรดีไหม ไม่มีอะไรดีเลยครับ มีแต่โทษ เพราะนี่เป็นการฝืนร่างกายตนเองโดยเปล่าประโยชน์ครับ
    ส่วนเรื่องการออกกำลังกายในที่อากาศเบาบางเช่น พื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากๆนั้น เป็นอีกประเด็นครับ
    การที่อาศัยอยู่บริเวณอากาศเบาบางนานๆ ร่างกายจะปรับสภาพเนื่องจากประมาณออกซิเจนที่ได้รับจากการหายใจแต่ละครั้งนั้นน้อยลง
    จึงต้องมีตัวมารับ ซึ่งก็คือเม็ดเลือดแดงมากขึ้นเพื่อให้ส่วนต่างๆของร่างกายได้รับออกซิเจนที่เพียงพอ
    เพราะปกติในระดับบรรยากาศปกติ การหายใจออกของเราก็จะมีออกซิเจนเหลือออกมาด้วย ไม่ใช่มีแต่คาร์บอนไดออกไซด์ ร่างกายเราก็ปรับสภาพเพื่อให้เก็บออกซิเจนส่วนนี้ให้ได้มากที่สุด
    ดังนั้นคนที่อาศัยอยู่บนที่สูงจะมีความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงในเลือดสูงกว่าที่อยู่บริเวณระดับน้ำทะเล
    ถามว่าคนธรรมดาอยากให้เป็นอย่างนี้ได้ไหมตอบว่าได้ แต่ต้องอยู่สัก 1-2 ปีเป็นอย่างน้อย ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บจะทำได้ถ้าหากให้เป็นไปอย่างธรรมชาติ
    แต่ถ้าถามว่าเมื่อกลับมาอยู่ที่บรรยากาศปกติแล้ว แน่นอนช่วงแรกคุณอาจจะเหมือนมียาโด๊ป เหนื่อยยากกว่าคนอื่นที่สมรรถภาพร่างกายเท่ากัน แต่เมื่อร่างกายปรับตัวเข้าสภาวะปกติ สิ่งเหล่านี้ก็จะหายไปด้วยครับ

    ถามว่าอยากให้เม็ดเลือดแดงเพิ่มอย่างรวดเร็วทำได้ไหม ก็ทำได้ครับคือการใช้ยาที่เป็นสารสังเคราะห์เหมือน Erythropoietin ซึ่งปกติจะใช้ฉีดให้ผู้ป่วยไตวายที่ฟอกไต
    เพราะ hormone นี้ผลิตจากไต เมื่อไตเสียไปมากๆก็จะสร้างได้น้อย หรือไม่ได้เลยจึงต้องให้ยานี้ทดแทน

    ก็เลยมีการเอามาใช้ในนักกีฬา แต่จับได้ครับ เพราะสารสังเคราะห์ยังไงก็ไม่มีวันเหมือนของธรรมชาติ ถ้ายังจำที่ผมเคยพูดไว้ในเรื่องวิตามิน และ ยาบำรุงทั้งหลายที่โฆษณากัน นั่นก็เรื่องเดียวกันครับ
    ดังนั้นเขาตรวจได้เพราะมันไม่เหมือนกันครับ
    เล่ามาถึงตรงนี้ ก็จะขอเสริมว่านักกีฬาก็เลยมีวิธีโด๊ปแบบใหม่เรียกว่า blood doping คือจะดูดเลือดตัวเองเก็บไว้ก่อน แล้วก็ออกกำลังพักฟื้นจนร่างกายสมบูรณ์ พอใกล้แข่งก็ฉีดเลือดตัวเองกลับเข้าไป ผลที่ได้คือเม็ดเลือดแดงมากขึ้น เหนื่อยยากขึ้น คล้ายๆได้ยา Erythropoietin เข้าไป แต่ตรวจไม่มีสารนี้เพราะไม่ได้ใช้
    แต่ยังจับได้ครับ ส่วนวิธีอันนี้ผมไม่ทราบครับ

    โดยสรุปสารนี้เป็นสารที่มีตามธรรมชาติร่างกายเรา มีประโยชน์เฉพาะผู้ป่วยเท่านั้นครับ เช่นโรคซีด โรคไต โรคทางระบบประสาทบางชนิดครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...