พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    อืม...หนุ่มแบงค์น่ากัวจิงๆ โชคดีที่เราเป็นชาย เอ.""แล้วต้องระวังสาวแบงค์มั้ยเนี่ย????
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตกลงยังไงครับคุณเพชร

    <TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" bgColor=#7fb3ff border=1><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#d3f2fe height=22>ผลการออกรางวัล</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffcc height=30>งวดวันที่ 16 มกราคม 2552</TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#d3f2fe height=20>รางวัลที่ 1</TD></TR><TR><TD align=middle bgColor=#d3f2fe height=20>743212</TD></TR><!-- ***** รางวัลเลขท้าย 3 ตัว ***** --><TR><TD align=left bgColor=#d3f2fe height=20>รางวัลเลขท้าย 3 ตัว</TD></TR><TR><TD align=middle bgColor=#d3f2fe height=20>266 842 885 800 </TD></TR><!-- ***** End รางวัลเลขท้าย 3 ตัว ***** --><!-- ***** รางวัลเลขท้าย 2 ตัว ***** --><TR><TD align=left bgColor=#d3f2fe height=20>รางวัลเลขท้าย 2 ตัว</TD></TR><TR><TD align=middle bgColor=#d3f2fe height=20>25</TD></TR><!-- ***** End รางวัลเลขท้าย 2 ตัว ***** --><TR><TD align=left bgColor=#d3f2fe height=20>รางวัลที่ 1 พิเศษ</TD></TR><TR><TD align=middle bgColor=#d3f2fe height=20>สลากกินแบ่งรัฐบาล กลุ่มที่ 1 ชุดที่ 13 เลขที่ 743212</TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.posttoday.com/
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คงไม่ต้องระวังสาวแบงค์
    ระวังสาวที่บ้าน เกิดจับได้หล่ะก็ หุหุหุ
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เอ!! วันนี้ท่านสิทธิพงศ์มาแรงแซงโค้งนะครับ..

    รู้สึกว่า ๑๐๐ ล้านบาทนี่เป็นมาตรฐานของพระวังหน้านะครับ
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ตอนบรรจุลงไปนี่ไม่ได้สังเกตนะครับ ไหนขอดูหน่อย มาทักแบบนี้ ระวังนะครับ มีลุ้น มักจะออกแบบเหลือเชื่อ..ระวังพี่ไฟดูดโทรมาถามนะ..ฮี่...ฮี่...
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ต่อให้มีเงิน ก็หามาบูชาไม่ได้ครับ
    แค่รูปก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นเลย อย่าว่าแต่จะมีไว้บูชา

    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ครับ
     
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    วันนี้ผมได้อัญเชิญพระธาตุอนุรุทธะ และพระเครื่องวังหน้าในโครงการธนาคารความดีทั้งหมดของคุณ katicat ไปมอบให้คุณหนุ่มเพื่อบรรจุลงกรุภายในเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งในวันที่ ๑ ก.พ. ๒๕๕๒

    ขอโมทนาบุญด้วยครับ
     
  9. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    ขอโมทนาบุญด้วย ครับ
     
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พระเครื่องที่คุณ newcomer ได้สละให้เพื่อโครงการธนาคารความดี ผมก็ได้มอบให้คุณหนุ่มบรรจุกรุทั้งหมดเช่นกันครับ มีพระผงหลวงพ่อสิริ จำนวน ๑๐ องค์ด้วยฯลฯ เพื่อสืบศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี..

    ขอโมทนาด้วยครับ
     
  11. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    แหมตาลุงข้างบ้านฝากถามท่านปาทานมาครับ ว่าแม้ถ้าไม่มีโอกาสได้นิมนต์พอลงรูปให้ศึกษากันได้อ่ะเปล่าครับ หุ หุ
     
  12. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    อนุโมทนาครับ เพิ่งกลับจากค่าย ร.ด. ฝุ่นเยอะมาก เหนื่อยต้องขอพักผ่อนก่อนนะครับ
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ต่อให้มีเงิน ก็หามาบูชาไม่ได้ครับ
    แค่รูปก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นเลย อย่าว่าแต่จะมีไว้บูชา

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อย่าลงเลยครับ

    พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่ไม่ได้เห็น ในอนาคตก็ต้องได้เห็นแน่นอนครับ

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พูซั่วหมีหลี : ดีดขาตาปรือ
    http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9520000008917
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 มกราคม 2552 19:22 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพประกอบจากเว็บไซต์ hi.baidu.com</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> 扑朔 (pū shuò) อ่านว่า พูซั่ว แปลว่า ดีดขาเหมือนจะกระโดด
    迷离 (mí lí) อ่านว่า หมีหลี แปลว่า ตาปรือ


    เล่ากันมาว่าในสมัยโบราณ มีสตรีนางหนึ่ง นามว่า ฮวามู่หลัน นางเป็นผู้ที่มีความกตัญญูต่อบุพการีเป็นอันมาก

    วันหนึ่ง ฮวามู่หลันได้แต่เก็บตัวอยู่ในห้อง นั่งถอนใจอยู่ริมหน้าต่าง ทำให้บิดาของนางเกิดความสงสัยเป็นอันมาก จึงไตร่ถามถึงสาเหตุ

    เมื่อโดนรุกเร้ามากๆ ฮวามู่หลันจึงจำใจต้องบอกบิดาไปว่า“ข้าไม่ได้มีเรื่องในใจอันใด เพียงแต่เมื่อคืนวานข้าเห็นสาสน์เกณฑ์ทหารที่ฮ่องเต้ส่งมาถึงท่านพ่อ ทว่าท่านพ่ออายุมากแล้ว คงรับความลำบากในกองทหารไม่ไหว น้องชายข้าก็ยังเล็กนัก บุตรตรีอย่างข้าจึงจำต้องขบคิดเรื่องนี้แทนท่าน”

    จากนั้นมู่หลันยังกล่าวต่อไปว่า “ข้าติดตามท่านพ่อฝึกวิชาบู๊ตั้งแต่เล็ก สามารถเป็นตัวแทนของท่านไปร่วมกับกองทหารครั้งนี้ ส่วนปัญหาที่ว่าข้าเป็นหญิงนั้น มีวิธีแก้ไข”

    เมื่อถึงวันเกณฑ์ทหาร ฮวามู่หลันแต่งตัวเป็นชาย อำลาครอบครัวออกเดินทางไปร่วมกับกองทัพ

    ยามศึกสงคราม มู่หลันรบอย่างเข้มแข็ง กล้าหาญ ผ่าน 10 กว่าปีอยู่ในกองทัพและการสงคราม

    เมื่อการรบสิ้นสุดลง ฮวามู่หลันกลับบ้านพร้อมชัยชนะ ความห้าวหาญของนางได้ยินถึงหูฮ่องเต้ จึงต้องการมอบรางวัลเป็นเงินทอง และตำแหน่งเสนาบดีให้

    ทว่ามู่หลันกลับปฏิเสธว่า “ขอบพระทัยในความเมตตาของฮ่องเต้ยิ่งนัก ทว่าข้าไม่ต้องการรับตำแหน่งขุนนาง เพียงขอให้ฮ่องเต้ประทานอนุญาตให้ข้ากลับไปอยู่กับครอบครัวที่บ้านนอก” ซึ่งฮ่องเต้ก็ยินยอมตามนั้น

    มู่หลันกลับมาถึงบ้านเกิด จึงเปลี่ยนการแต่งตัวกลับมาเป็นหญิง ถักเปียเกล้าผม ประดับดอกไม้ กลับสู่สภาพปกติเมื่อครั้งก่อนออกไปรบ เมื่อถูกคู่หูร่วมรบในกองทัพที่มาด้วยกันพบเห็นถึงกับตะลึงเอ่ยว่า “อยู่ด้วยกันมา 12 ปี เหตุใดข้ากลับไม่รู้เลยว่าท่านเป็นหญิง!”

    ภายหลังมีผู้นำเหตุการณ์นี้มาประพันธ์เป็นบทกวีบทหนึ่ง ชื่อว่า บทกวีมู่หลัน โดยเนื้อหาในตอนท้ายของบทกวีมีดังนี้

    “กระต่ายตัวผู้เท้าดีดเด้ง
    กระต่ายตัวเมียตาหรี่ปรือ
    กระต่ายทั้งคู่วิ่งเคียงข้างกัน
    ผู้ใดแยกแยะได้ ไหนผู้-เมีย?”


    ความหมายของบทกวีบทนี้คือ กระต่ายตัวผู้นั้นยามเดินขึ้นหน้า เท้าจะกระดกขึ้นมา ส่วนกระต่ายตัวเมียตาจะปรือกว่าตัวผู้ แต่หากกระต่ายตัวผู้กับตัวเมียวิ่งอยู่คู่กัน ยากที่จะมีผู้แยกแยะได้ว่าตัวใดเป็นตัวผู้ ตัวใดเป็นตัวเมีย

    “พูซั่วหมีหลี” หรือ “ดีดขาตาปรือ” เดิมใช้ในความหมายว่ายากจะแยกแยะว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย และใช้เปรียบเทียบกับคนที่ดูไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิง ต่อมาใช้เปรียบเทียบกับเหตุการณ์ยุ่งยากซับซ้อนจนยากที่จะแยกข้อเท็จจริง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>5 คำถามก่อนมองหา"สัตว์เลี้ยง"ตัวโปรด
    http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9520000009878
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 มกราคม 2552 16:36 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เมื่อพูดถึง "สัตว์เลี้ยงแสนรัก" ของครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ที่เคยมีประสบการณ์การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเมื่อวัยเยาว์อาจมองเห็นถึงจุดดีนานาประการของการมีสัตว์เลี้ยงสักตัวไว้ในบ้าน และอาจต้องการให้ประสบการณ์อันมีค่านั้นเกิดกับลูก ๆ ด้วยเช่นกัน

    แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกสัตว์เลี้ยงสักตัว นอกจากเสียงรบเร้าของลูกแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจยังมีอีกหลายปัจจัยให้ต้องพิจารณาค่ะ

    1. เวลาของครอบครัว ว่าเพียงพอไหมต่อความต้องการของสัตว์ชนิดนั้น ๆ

    2. พื้นที่ในบ้านกับขนาดของตัวสัตว์เลี้ยงว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะเราคงเคยเห็นมาแล้วหลายกรณี กับการที่ผู้เลี้ยงชื่นชอบสัตว์เลี้ยงตัวใหญ่ ๆ แต่ไม่มีพื้นที่ สัตว์จึงมักถูกขังไว้ในกรง หรือพื้นที่แคบ ๆ จนขาเสีย เดินได้ไม่ปกติ ทั้ง ๆ ที่มันควรอยู่ในพื้นที่กว้าง ได้วิ่งเล่นออกกำลังกาย ดังนั้น บ้านมีขนาดแค่ไหน ก็เลือกสัตว์ที่จะอยู่ในบ้านได้อย่างสบายดีกว่านะคะ

    3. ความรับผิดชอบ ถึงแม้จะบอกว่าให้ลูกดูแล เพราะเป็นลูกขอเลี้ยงสัตว์ชนิดนั้น ๆ แต่สุดท้ายแล้ว คนที่จะดูแลสัตว์เหล่านั้นจริง ๆ ก็คือคุณพ่อคุณแม่ค่ะ

    4. สัตว์เหล่านั้นต้องการการดูแลพิเศษไหม สัตว์บางชนิด แม้ภายนอกจะสวยงาม แต่อาจต้องการการดูแลพิเศษ หรือเลี้ยงยากนั่นเอง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น พาเขามาอยู่ที่บ้านแล้วดูแลไม่เป็น สุดท้ายปล่อยให้เขาตาย คงไม่ใช่จุดประสงค์ของการมองหาสัตว์เลี้ยงให้ลูก หรือครอบครัวเป็นแน่

    5. สอบถามข้อมูลจากคนที่เคยเลี้ยงสัตว์ชนิดนั้นอยู่ หรือเคยเลี้ยงมาก่อน ว่าเป็นอย่างไรบ้าง พบปัญหาอะไร หรือมีข้อควรระวังในด้านใดบ้าง

    อย่างไรก็ดี เมื่อได้สัตว์เลี้ยงที่ต้องการแล้ว คงไม่จบลงแค่การใส่ปลอกคอและเก็บมันไว้ในบ้าน แต่ยังต้องหมายรวมถึงการดูแลทุกข์สุขของสัตว์ให้ดี และทุกคนในครอบครัวควรมีส่วนร่วมในการเลี้ยงสัตว์ด้วยกัน ซึ่งในจุดนี้ นอกจากจะทำให้เด็ก ๆ มีจิตใจที่อ่อนโยน ไม่เติบโตขึ้นเป็นคนที่ชอบรังแกสัตว์ในอนาคตแล้ว ยังอาจช่วยฝึกความรับผิดชอบของเด็กได้อีกด้วย

    การมองหาสัตว์เลี้ยงสักตัวมาเลี้ยงที่บ้านนั้น นอกจากการซื้อแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่แสนง่ายและได้ช่วยเหลือสังคม นั่นก็คือ การรับสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง หรือกำลังจะถูกทิ้งมาเลี้ยง ซึ่งถ้าหากเลี้ยงดี ๆ แล้ว คุณและครอบครัวไม่เพียงแต่ได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก แต่จะได้รับประสบการณ์ดี ๆ จากความรักที่ไม่มีวันหมดของสัตว์ชนิดนั้น ๆ แถมให้อีกชุดใหญ่เลยทีเดียวค่ะ เพราะคงมีคนไม่มากนักที่จะดีใจ "ทุกครั้ง" ที่เรากลับถึงบ้าน คงมีคนไม่มากนักที่จะมารอรับถึงหน้าประตู กระโดดโลดเต้นกับการปรากฏกายของเรา และคงมีน้อยคนด้วยเช่นกัน ที่แม้ในเวลาจะหมดลมหายใจ ก็ยังรอจนได้เห็นว่า "เจ้าของ" กลับมาหา เรื่องเหล่านี้จะมีและจะเกิดกับครอบครัวที่รักและดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดีเท่านั้น เราขอยืนยันค่ะ ^^
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ธปท.ยันแบงก์ฟันส่วนต่าง ดบ.ฝาก-กู้ 6% เป็นมาตรฐานแบงก์อาเซียน
    http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9520000010164
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 มกราคม 2552 16:12 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ธปท.แจงการฟันกำไรส่วนต่าง ดบ.ฝาก-กู้ 6% ของธนาคารพาณิชย์ ในขณะที่ ดบ.นโยบายต่ำแค่ 2% ถือว่าไม่สูงมากนัก หากเทียบกับประเทศกลุ่มอาเซียน เพราะเมื่อหักต้นทุนแล้ว จะมีกำไรประมาณ 3.2% โดยไม่พูดถึงการผลักต้นทุนความเสี่ยง และกันสำรองไปที่ลูกค้าให้แบกภาระแทน

    นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีมีเสียงวิจารณ์ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (สเปรด) ระหว่างเงินฝากและเงินกู้ ของระบบธนาคารพาณิชย์ อยู่ในระดับสูงถึง 6% และต้องการให้ธนาคารพาณิชย์ลดส่วนต่างดังกล่าวลง เพราะขณะนี้ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำร้อยละ 2 นางธาริษา ยืนยันว่า ปัจจุบันรายได้ดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ร้อยละ 3.2 ซึ่งเป็นระดับกลางหากเทียบกับประเทศในอาเซียน

    นางธาริษา กล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์ก็มีต้นทุนทั้งกันสำรองหนี้สูญ ต้นทุนด้านพนักงาน ด้านไอที และต้องส่งเงินให้กับสถาบันคุ้มครองเงินฝาก รวมเป็นร้อยละ 2.2 ดังนั้น หากลบต้นทุนออกผลตอบแทนต่อสินทรัพย์จะเหลือเพียงร้อยละ 1 เท่านั้น ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุด หากเทียบกับประเทศอาเซียน 5 ประเทศ

    ปัจจัยดังกล่าว สะท้อนว่า ธนาคารพาณิชย์จะต้องมีการปรับปรุงประสิทธิภาพและต้องพยายามลดต้นทุนให้มากกว่านี้ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนต่อทรัพย์สิน ดังนั้น การคิดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไม่ใช่การนำอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หักดอกเบี้ยเงินฝาก จะต้องดูต้นทุนด้านอื่นๆ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการผลักภาระต้นทุนไปที่ลูกค้า ธปท.กลับยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนในเรื่องนี้

    “การที่ธนาคารคิดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระดับปัจจุบันไม่เป็นผลจากการขาดทุนของธนาคารพาณิชย์ที่ไปลงทุนในต่างประเทศ เป็นเรื่องของการดำเนินธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะต้องบริหารสภาพคล่องของแต่ละธนาคาร และธนาคารพาณิชย์จะต้องดูแลลูกหนี้ให้ดีที่สุด โดยขณะนี้ตัวเลขหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ยังลดลงอย่างต่อเนื่อง”

    สำหรับกรณีมีการร้องเรียนดอกเบี้ยบัตรเครดิตและเบี้ยปรับผิดนัดชำระหนี้มีเพดานสูงเกินไปนั้น นางธาริษา กล่าวว่า ธปท.เห็นว่า ธนาคารพาณิชย์สามารถลดอัตราดอกเบี้ยลงได้ หากต้นทุนลดลง แต่เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) สูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

    ดังนั้น คงต้องเป็นหน้าที่ของธนาคารพาณิชย์ที่จะพิจารณาเอง และที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งคิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้าไม่ชนเพดาน ซึ่งจะต้องพิจารณาตามคุณสมบัติและความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละราย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รู้ไว้เพลงแบบไหน ห้ามร้องงาน แต่งงาน

    http://hilight.kapook.com/view/33274

    [​IMG]


    รู้ไว้เพลงแบบไหน ห้ามร้องงาน แต่งงาน (คมชัดลึก)

    ใกล้เดือนแห่งความรักเข้ามาทุกวันๆ ช่วงนี้หมุนไปคลื่นไหน ก็เจอแต่เพลงรักหวานซึ้ง ประหนึ่งว่าเปิดให้เข้ากับบรรยากาศ แต่แหม...คนที่หัวใจปิ๊งปั๊งฟังแล้วก็คงจะเคลิ้บเคลิ้ม แต่สำหรับคนที่หัวใจแห้งเหี่ยวไร้รักฟังไปก็คงเกิดอาการอิจฉาตาร้อนผ่าวเอาง่ายๆ

    เช่นเดียวกันใครที่มีคู่ต่างก็เดินจูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์เป็นว่าเล่น ให้สมกับเป็นเดือนแห่งความรักซะ เรียกว่าเพลงรักหวานซึ้งทั้งใหม่และเก่าถูกเรียกมาใช้งานในเดือนนี้จนช้ำเชียว ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงานไหนเพลงรักเดิมๆ ก็ถูกเซตมาเปิดเป็นสูตรกันเลย เอ...แต่ถ้ามาคิดในทางกลับกันแบบสนุกๆ เคยนึกเล่นๆ หรือไม่ว่ามีเพลงอะไรบ้างที่เป็นเพลงต้องห้าม ห้ามนำไปร้องในงานแต่งแบบเด็ดขาด

    ถ้ายังนึกไม่ออก มาลองไล่เรียงไปพร้อมๆ กัน เริ่มกันที่เพลงต้องห้ามเพลงแรก เพลงนี้ถ้าใครเอาไปร้องในงานแต่ง ก็คงวงแตกตั้งแต่ขึ้นอินโทร ก็แหม...ใครจะกล้าเลือกร้องเพลง "ฉันรักผัวเขา" ต่อหน้าว่าที่ภรรยาในงานล่ะ เพลงนี้ไม่ต้องร่ายเนื้อแค่ชื่อเพลงก็ไม่ผ่านละ​

    เพลงที่ความแรงไม่แพ้กัน ก็เป็นเพลงประเภทที่มีคำว่า ชู้ อยู่ในเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงอมตะอย่าง "ชู้" ของหลง ลงลาย หรือเพลง "ชู้ทางใจ" ของ วินัย พันธุรักษ์ ไปจนถึงเพลงร่วมสมัยอย่างเพลง "ชู้ในใจ" ของ "เป๊ก" ผลิตโชค อายนบุตร เพลงไหนๆ ถ้าร้องไป ได้เจอหมัด หรือ ...ของว่าที่สามีของเจ้าสาวเป็นแน่

    คล้ายๆ จะแปลความหมายไปในทางเดียวกับชู้ แต่อาจไม่แรงเท่า แต่ยังงั้ย...ยังงัย เพลงประเภทที่มีคำว่า มือที่สาม ก็ควรที่จะนำมาร้องในงานแต่งเช่นเดียวกัน ทั้งพลง "เราสามคน" อิทธิ พลางกูร เพลง "มือที่สาม" ปุยฝ้าย เอเอฟ เพลง "มือที่สามโดยไม่ตั้งใจ" ของหวิว หรือแม้แต่เพลง "มือที่สามก็มีความรู้สึก" ของวงเพียวก็ไม่ควร ไม่ควร

    "รู้ รู้ เธอนั้นมีคู่ใจ ไยถึงไม่ลืมเธอ เพราะด้วยเหตุใด ใจฉันยังพร่ำเพ้อ เฝ้าละเมอ ไม่ลืม แม้วัน คืนเดือนผ่าน ใจฉันยังรำพึงถึงเธอ สิ่งที่เคย สัมผัส ยังจำ ยึดมั่น ตราตรึง ยังฝังอยู่กลางใจ..." อ้าวๆๆ...รู้ว่าเขามีเจ้าของแล้วจะเอาไปร้องในงานแต่งก็ใช่เรื่อง แบบว่าเพลง "ทั้งรู้ก็รัก" ของ ชรัส เฟื่องอารมย์ เนี่ย...ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งที่เก็บไว้ไปร้องที่บ้านคนเดียวจะดีกว่า ว่าป่ะ

    หรือแม้แต่เพลง "ปาฏิหาริย์" ของ "กบ" ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี เพลงนี้ "น่าจะเจอกันมาตั้งนาน ก่อนที่เธอจะเป็นของใคร อยากให้มันมีปาฏิหาริย์ให้ตัวฉันย้อนเวลากับไป จะไม่ยอมให้เราคลาดกัน ฉันคงจะพบรักเธอก่อนใคร มันน่าเสียดาย ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง..." ก็รู้อยู่ว่าปาฏิหาริย์ไม่มีจริง แล้วจะเอาไปร้องให้คนอื่นเขาบ้านแตกทำไมกันเล่า

    ยังไม่หมดนะ เพลงนี้ก็เหมือนกัน ก็ดูเนื้อเพลงสิ "ความจริงก็รู้กันอยู่ ว่าเธอรักคนใหม่ มันจึงไม่ค่อยเข้าใจที่เธอยังเหมือนเคย ยังคงให้ความสนิทที่ดูเหมือนเกินเลย และยังทำตัวคุ้นเคยตลอดเวลา ใจจริงจริง ก็ซึ้งอยู่ที่เธอยังดีกับฉัน แต่ก็หวั่นกลัวเธอมีปัญหา จึงเตือนเอาไว้ว่าอย่าให้เขารับรู้ ว่าฉันเคยเป็นใคร อย่าให้เขาสงสัยเรื่องที่ผ่านมา เพราะเขาอาจหวาดหวั่นไม่ไว้ใจในที่สุด แล้วจะพาลหมดรักและจากลา..." ถ้าจำกันได้ก็เพลง "อย่าให้เขารู้" ของหนุ่มมิคกี้ไง เพลงนี้ถ้าหนุ่มคนไหนเอาไปร้องในงานแต่งล่ะก็ ก็คงเป็นประเภทโกรธแค้น...อยากแฉเจ้าสาวเป็นแน่ เช่นเดียวกันถ้าผู้หญิงเอาเพลง "ผู้ชายคนนั้นฉันให้เธอ" ของ "นัท" มีเรีย เบเนเดทตี้ หรือ "ฝากดูแลแทนฉัน" ของ "มิ้นท์" มาลีวัลย์ เจมีน่า ซึ่งหากนำไปร้อง ก็คงไม่ต่างกัน

    แล้วถ้าเจ๋งจริง เอาแบบแตกหักไปเลย ใครกล้าเอาเพลง "คนเลวที่รักเธอ" ของ ปนัดดา เรืองวุฒิ ไปร้องก็ลองดู แค่อ่านเนื้อยังหนาว "โมโหตัวเอง ที่มาถึงช้าไป ก็ฉันแค่คนมาทีหลัง แล้วยังมีสิทธิอะไร ที่ไปทำให้ใครเขาเลิกกัน ก็รู้ว่าผิด เธอเป็นของคนอื่น ก็ของๆ ใคร ใครก็รัก ถ้าเอามาก็ต้องคืน แต่ฉันเป็นคนก็มีหัวใจ จะขอเป็นคนเลวที่รักเธอที่สุด ถึงใครจะมองแบบไหน ไม่ขอเป็นคนดีที่รักเธอไม่ได้ ไม่อยากเป็นคนดีที่ไม่มีความสุข..." เอาซี่...​

    แต่เพลงแบบหยิกแกมหยอกร้องขำก็มีนะ แต่แบบว่าก็ไม่รู้บ่าวสาว แล้วก็คนในงานจะขำด้วยหรือเปล่า ก็เพลงประเภท "รักคนมีเจ้าของ" ของวงไอน้ำ หรือไม่ก็เพลง "แฟนใครไม่รู้" ของ "บีม กวี ตันจรารักษ์ ไง

    ยังมีอีกหลายๆ เพลงที่คงไม่เหมาะถ้าจะเอาไปร้องในงานแต่งงาน จะว่าไปงานอะไรก็แล้วแต่ ต้องดูกาลเทศะเป็นสำคัญ เพราะเพลงแม้จะเป็นความบันเทิง แต่ถ้าเลือกใช้ผิดที่ ก็เป็นชนวนให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดได้เหมือนกัน เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน...อิอิ​

    เอ...แล้วงานต่อไปจะเอาเพลงอะไรไปร้องดีล่ะนี่ เอ้า...เพลงนี้ดีกว่า "ทางใดที่เธอจะมีความสุขกับเขา ทางนั้นจะมีฉันคอยกั้นกลาง เธอเป็นดอกไม้ ฉันจะเป็นขวากหนาม ทิ่มแทง ที่เขาจงปวดใจ ที่เขาทิ้งเธอไป ที่เขาไม่รักเธอ" แป่วววว....​

    เอ้า!!! ยังไงก็ขอให้ทุกคู่รัก สุข สมหวัง จ้า


    [​IMG]


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก คมชัดลึก
    [​IMG]
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2009
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    8 วินัยใหม่ เพิ่มเงินเก็บทั้งปี
    http://women.kapook.com/work00128/

    [​IMG]
    คนที่มีฐานะมั่นคงไม่ได้หมายความว่าเป็นคนหาเงินได้เยอะ แต่กลับเป็นคนที่มีวินัยในการเก็บเงิน และไม่เสียเงินไปกับเรื่องจุกจิกจนทำให้เงินเก็บสูญไป ปีใหม่นี้ตั้งต้นเก็บเงินกันใหม่ดีกว่า

    [​IMG]1. เคลียร์ให้จบสิ้นก่อน</PRE>
    เป็นกฎทองของการเก็บเงินที่คุณควรจะเคลียร์หนี้สินที่ติดไว้กับบัตรเครดิตให้จบ ลงเสียก่อน เพราะแม้ว่าเครดิตการ์ดจะเป็นช่องทางจ่ายเงินที่สะดวกสบาย แต่ถ้าบิลที่เรียกเก็บทำให้การเงินของคุณไม่สมดุลกันระหว่างเดือน รับรองว่าคุณจะไม่มีเงินเหลือเก็บแน่นอน ทางแก้ก็คือ ค่อยๆ ผ่อนชำระหรือหาเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยถูกกว่า โปะทับไปก่อนที่ดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะบานเป็นดอกเห็ด

    [​IMG]2. ทำช้อปปิ้งลิสต์</PRE>
    คงไม่มีสาวคนไหนจะมานั่งทำช้อปปิ้งลิสต์เวลาไปซื้อของ แต่คุณรู้ไหมว่าลิสต์นี้จะทำให้คุณประหยัดได้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเวลาในการ ช้อปปิ้ง การซื้อของตรงวัตถุประสงค์ และกำหนดเงินในกระเป๋าได้ว่าจะต้องใช้จ่ายเท่าไรบ้างในการซื้อของครั้งนี้ จะได้งดซื้อของที่ไม่จำเป็นออกไป รวมทั้งกำหนดเลยว่าในหนึ่งเดือนจะต้องออกไปซื้อของกี่ครั้ง จะได้ประหยัดค่ารถไปในตัว

    [​IMG]3.อย่าติดชื่อแบรนด์</PRE>แม้คนดังจะใส่เสื้อผ้าแพงระยับอย่างไร แต่คุณไม่จำเป็นจะต้องซื้อแบรนด์ดังๆ อย่างพวกเขาก็ได้ เพียงคุณดูแฟชั่น และแต่งตัวให้เป็นก็เพียงพอแล้ว อย่าไปเสียเงินให้แบรนด์ต่างๆ จะต้องมานั่งกลุ้มใจเอง

    [​IMG]4.ใช้พรสรรค์สร้างเงิน</PRE>ไม่ว่าคุณมีพรสวรรค์ทางด้านไหน ก็สามารถขุดขึ้นมาทำเงินได้แน่นอน บางคนนิยมถักตุ๊กตา ทำอาหาร ทำบล็อกเว็บไซต์ รับสอนหนังสือ และอื่นๆ อีกมากมาย คุณควรนำความสามารถเหล่านี้มาเป็นจุดขายในการสร้างเงิน เพิ่มรายได้พิเศษได้เดือนละหลายพันบาททีเดียว

    [​IMG]5.ทำของใช้เองบ้าง</PRE>ไม่ต้องเสียเงินทองไปซื้อของ ลองใช้วิธี Do lf Your self ลองประดิษฐ์ของใช้ในบ้านเอา เช่น แท่นวางของ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน นอกจากจะได้โชว์ฝีมือแล้ว ยังไม่เปลืองเงินอีกด้วย

    [​IMG]6.วางแผนการท่องเที่ยว</PRE>คุณทราบไหมว่า ถ้าจองตั๋วเครื่องบินหรือที่พักก่อนเทศกาลท่องเที่ยว ราคาจะถูกมากกว่าถึง 30% ให้คุณแพลนกิจกรรมท่องเที่ยวเอาไว้ทั้งปี และฉลาดในการจัดทริป เพราะเงินจะเหลือจนคุณช้อปปิ้งซื้อของฝากได้สบายๆ หรือพยายามหาตั๋วที่มีส่วนลด ราคาจะได้ไม่บานปลายเหมือนปีที่ผ่านมา

    [​IMG]7. หัดปฏิเสธเสียบ้าง</PRE>สาวสังคมทั้งหลายยิ่งช่วงปีใหม่ เรื่องกินเรื่องเที่ยวกระหน่ำเข้ามาแทบทุกวัน หัดปฏิเสธและเลือกไปเฉพาะบางงาน เพราะคุณต้องเสียค่าดริ๊งก์ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ฯลฯ รวมแล้วนำมาเป็นเงินเก็บหรือใช้หนี้ได้อย่างสบายๆ

    [​IMG]8. ฉลาดเป็นสมาชิก</PRE>คุณเคยนับยอดไหมว่าเดือนหนึ่งคุณจะต้องเสียค่าสมาชิกยิม เคเบิลทีวี อินเทอร์เน็ตไร้สาย ฯลฯ เป็นจำนวนเท่าไร ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดภาระรายจ่ายจุดนี้ลงบ้าง เพราะคุณสามารถออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมแนวเดียวกันโดยเสียเงินน้อยกว่าได้
    [​IMG]
    ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa

    [​IMG]</PRE>ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
    ประจำวันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2552


    -----------------------------------------------

    นำมาให้อ่านกันอีกรอบครับ

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กรรม

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    http://th.wikipedia.org/wiki/กรรม

    บทความนี้เกี่ยวกับคำศัพท์พุทธศาสนา สำหรับหลักไวยากรณ์ ดูที่ กรรมวาจก


    กรรม (ภาษาสันสกฤต : กรฺม, ภาษาบาลี : กมฺม) แปลว่า "การกระทำ" ได้แก่ กระทำทางกาย เรียก กายกรรม ทางวาจา เรียก วจีกรรม และทางใจ เรียก มโนกรรม
    • กรรม แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
    1. กรรมดี เรียกว่า กุศลกรรม หรือ บุญกรรม
    2. กรรมชั่ว เรียกว่า อกุศลกรรม หรือ บาปกรรม
    กรรม 2

    (การกระทำ, การกระทำที่ประกอบดวยเจตนา ทางกายก็ตาม ทางวาจาก็ตาม ทางใจก็ตาม - Kamma: action; deed)
    1. อกุศลกรรม (กรรมที่เปนอกุศล, กรรมชั่ว, การกระทำที่ไมดี ไมฉลาด ไมเกิดจากปัญญา ทำใหเสื่อมเสียคุณภาพชีวิต หมายถึง การกระทำที่เกิดจากอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ หรือโมหะ - Akusala-kamma: unwholesome action; evil deed; bad deed)
    2. กุศลกรรม (กรรมที่เปนกุศล, กรรมดี, การกระทำที่ดี ฉลาด เกิดจากปญญา สงเสริมคุณภาพของชีวิตจิตใจ หมายถึง การกระทำที่เกิดจากกุศลมูล คืออโลภะ อโทสะ หรืออโมหะ -Kusala-kamma: wholesome action; good deed)

    องฺ.ติก.20/445/131,551/338; ขุ.อิติ.25/208/248;242/272.

    การจำแนกประเภทของกรรม

    กรรมดี หรือ กรรมชั่วก็ตาม กระทำทางกาย วาจา หรือทางใจก็ตาม สามารถจำแนกอีก เป็นประเภทต่าง ๆ ได้หลายแบบ ดังนี้
    • กรรมจำแนกตามเวลาการให้ผลของกรรม (ปากกาลจตุกะ) 4 อย่าง
    • กรรมจำแนกตามหน้าที่ของกรรม (กิจจตุกะ) 4 อย่าง
    • กรรมจำแนกตามลำดับการให้ผลของกรรม (ปากทานปริยายจตุกะ) 4 อย่าง
    • กรรมจำแนกตามฐานที่ให้เกิดผลของกรรม (ปากฐานจตุกะ) 4 อย่าง
    [แก้] จำแนกตามเวลาการให้ผลของกรรม


    การกระทำทางกาย วาจา ใจ ทั้งที่เป็นฝ่ายดีหรือไม่ดีก็ตาม ย่อมตอบสนองแก่ผู้กระทำ ไม่เร็วก็ช้า เวลาใดเวลาหนึ่ง กรรมจำแนกตามเวลาการให้ผลของกรรม (ปากกาลจตุกะ) แสดงกำหนดเวลา แห่งการให้ผลของกรรม มี 4 อย่าง คือ
    1. ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม หมายถึง กรรมที่ให้ผลในปัจจุบัน คือในภพนี้
    2. อุปปัชชเวทนียกรรม หมายถึง กรรมที่ให้ผลในภพที่จะไปเกิด คือในภพหน้า
    3. อปราปริเวทนียกรรม หมายถึง กรรมที่ให้ผลในภพต่อๆไป
    4. อโหสิกรรม หมายถึง กรรมเลิกให้ผล ไม่มีผลอีก
    [แก้] จำแนกตามหน้าที่ของกรรม


    กรรมจำแนกตามหน้าที่การงานของกรรม (กิจจตุกะ) กรรมมีหน้าที่ ที่จะต้องกระทำสี่อย่าง คือ
    1. ชนกกรรม หมายถึง กรรมที่เป็นตัวนำไปเกิด กรรมแต่งให้เกิด
    2. อุปัตถัมภกกรรม หมายถึง กรรมสนับสนุน กรรมที่ช่วยสนับสนุนหรือซ้ำเติม ต่อจากชนกกรรม
    3. อุปปีฬิกกรรม หมายถึง กรรมบีบคั้น กรรมที่มาให้ผล บีบคั้นผลแห่งชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรมนั้น ให้แปรเปลี่ยนทุเลาลงไป บั่นทอนวิบากมิให้เป็นไปได้นาน
    4. อุปฆาตกกรรม หมายถึง กรรมตัดรอน กรรมที่แรงฝ่ายตรงข้ามกับชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรม เข้าตัดรอนการให้ผลของกรรมทั้งสองอย่างนั้น ให้ขาดไปเสียทีเดียว
    [แก้] จำแนกลำดับการให้ผลของกรรม


    กรรมจำแนกตามลำดับการให้ผลของกรรม(ปากทานปริยายจตุกะ) จำแนกตามความยักเยื้อง หรือ ลำดับความแรงในการให้ผล 4 อย่าง
    1. ครุกกรรม <SMALL>(หนังสือพุทธธรรมสะกดครุกกรรม หนังสือกรรมทีปนีสะกดครุกรรม)</SMALL> หมายถึง กรรมหนัก ให้ผลก่อน เช่น ฌานสมาบัติ 8 หรือ อนันตริยกรรม
    2. พหุลกรรม หรือ อาจิณกรรม หมายถึง กรรมที่ทำมาก หรือ ทำจนเคยชิน ให้ผลรองจากครุกรรม
    3. อาสันนกรรม หมายถึง กรรมจวนเจียน หรือ กรรมใกล้ตาย คือกรรมที่ทำเมื่อจวนจะตาย จับใจอยู่ใหม่ๆ ถ้าไม่มีสองข้อก่อน ก็จะให้ผลก่อนอื่น
    4. กตัตตากรรม หรือ กตัตตาวาปนกรรม หมายถึง กรรมสักแต่ว่าทำ กรรมที่ทำไว้ด้วยเจตนาอันอ่อน หรือมิใช่เจตนาอย่างนั้นโดยตรง ต่อเมื่อไม่มีกรรมอันอื่นให้ผลแล้ว กรรมนี้จึงจะให้ผล
    [แก้] จำแนกตามฐานที่ให้เกิดผลของกรรม


    กรรมจำแนกตามฐานที่ให้เกิดผลของกรรม(ปากฐานจตุกะ) แสดงที่ตั้งแห่งผลของกรรมสี่อย่าง เป็นการแสดงกรรมโดยอภิธรรมนัย(ข้ออื่นๆข้างต้นเป็นการแสดงกรรมโดยสุตตันตนัย)
    1. อกุศลกรรม
    2. กามาวจรกุศลกรรม
    3. รูปาวจรกุศลกรรม
    4. อรูปาวจรกุศลกรรม
    [แก้] กรรมดำ กรรมขาว


    นอกจากเรื่องของกรรมดีกรรมชั่วแล้ว ยังมีการอธิบายกรรมอีกนัยหนึ่ง โดยอธิบายถึงกรรมดำกรรมขาว จำแนกเป็นกรรม 4 ประการ คือ
    1. กรรมดำมีวิบากดำ ได้แก่ บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกาย วาจา ใจ อันมีความเบียดเบียนบุคคลอื่น ย่อมได้เสวยเวทนาที่มีความเบียดเบียน เป็นทุกข์โดยส่วนเดียว เช่น เป็นผู้ฆ่ามารดา ฆ่าบิดา ฆ่าพระอรหันต์ มีจิตประทุษร้ายต่อพระตถาคต ยังพระโลหิตให้ห้อขึ้น ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ ดื่มน้ำเมา
    2. กรรมขาวมีวิบากขาว ได้แก่ บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกาย วาจา ใจ อันมีไม่ความเบียดเบียนบุคคลอื่น ย่อมได้เสวยเวทนาที่ไม่มีความเบียดเบียน เป็นสุขโดยส่วนเดียว เช่น เป็นผู้งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ จากการลักทรัพย์ จากการประพฤติผิดในกาม จากการพูดเท็จ จากการพูดส่อเสียด จากการพูดคำหยาบ จากการพูดเพ้อเจ้อ ไม่มากไปด้วยความเพ่งเล็งอยากได้ มีจิตไม่พยาบาท มีความเห็นชอบ
    3. กรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาว ได้แก่ บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมปรุงแต่งกาย วาจา ใจ อันมีความเบียดเบียนบุคคลอื่นบ้าง ไม่ความเบียดเบียนบุคคลอื่นบ้าง ย่อมได้เสวยเวทนาที่มีความเบียดเบียนบ้าง ไม่ความเบียดเบียนบ้าง มีทั้งสุขและทั้งทุกข์ระคนกัน
    4. กรรมไม่ดำไม่ขาวมีวิบากไม่ดำไม่ขาว ได้แก่ เจตนาใดเพื่อละกรรมดำอันมีวิบากดำ เจตนาใดเพื่อละกรรมขาวอันมีวิบากขาว และเจตนาใดเพื่อละกรรมทั้งดำทั้งขาวมีวิบากทั้งดำทั้งขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรม เช่น ผู้ปฏิบัติตามมรรคมีองค์แปด โพชฌงค์เจ็ด
    [แก้] กฏแห่งกรรม


    กฎแห่งกรรม คือ กฎธรรมชาติ ข้อหนึ่ง ที่ว่าด้วยการกระทำ และผลแห่งการกระทำ ซึ่ง การกระทำและ ผลแห่งการกระทำนั้น ย่อมสมเหตุ สมผลกัน เช่น ทำดี ย่อมได้รับผลดี ทำชั่ว ย่อมได้รับผลชั่ว เป็นต้น
    • กรรมใดใครก่อ ตนเองเท่านั้นที่จะได้รับผลของสิ่งที่กระทำ
    • กรรมในปัจจุบันเป็นผลมาจากการกระทำในอดีต และกรรมที่ก่อไว้ในปัจจุบันเป็นเหตุที่จะส่งผลสืบเนื่องต่อไปยังอนาคต
    • กรรมดี-กรรมชั่ว ลบล้างซึ่งกันและกันไม่ได้
    • ถึงแม้ว่าการทำกรรมดีจะลบล้างกรรมชั่วเก่าที่มีอยู่เดิมไม่ได้ แต่มีส่วนช่วยให้ผลจากกรรมชั่วที่มีอยู่เดิมผ่อนลง คือ การผ่อนหนักให้เป็นเบา(ข้อนี้ อุปมาได้กับ การที่เรามีน้ำขุ่นข้นอยู่แก้วหนึ่ง หากเติมน้ำบริสุทธิ์ลงไปแล้ว มิสามารถทำให้น้ำขุ่นกลับบริสุทธิ์ได้ แต่ทำให้น้ำขุ่นข้นนั้นกลับเจือจางลงและใสยิ่งขึ้นกว่าเดิม)
    สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้ <SUP class=reference id=cite_ref-0>[1]</SUP> <SMALL>พุทธพจน์ จากพระไตรปิฎก</SMALL>

    [แก้] อ้างอิง

    1. ^ (จูฬกัมมวิภังคสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔)
    [แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

    [แก้] อ้างอิง

    <!-- NewPP limit reportPreprocessor node count: 114/1000000Post-expand include size: 6421/2048000 bytesTemplate argument size: 773/2048000 bytesExpensive parser function count: 0/500--><!-- Saved in parser cache with key thwiki:pcache:idhash:13761-0!1!0!!th!2 and timestamp 20090124185705 -->ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/กรรม".
    หมวดหมู่: กรรม | อภิธานศัพท์พุทธศาสนา
    หมวดหมู่ที่ซ่อนอยู่: บทความที่รอการตรวจสอบรูปแบบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...