พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    สาธุ ขออนุโมทนาบุญอย่างยิ่งค่ะ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ของเลี้ยงในวันงาน ตามประเพณีโบราณ

    ของเลี้ยงในวันงาน ตามประเพณีโบราณ

    ที่มา kapook

    [​IMG]

    ++ ก่อนอื่นขอพูดถึงของถวายพระก่อน เกี่ยวกับเรื่องทำบุญ สำหรับนำไปวัด ในสมัยโบราณเขาใช้ภาชนะเป็นกระบุงสานด้วยไม้ไผ่ ผูกขอบเป็นสันปลาช่อน กับมีฝาชีทาสีแดง พู่ยอดฝาชีใช้ด้ายดิบ ก้นกระบุง ใส่ข้าวสาร มะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำว้า ใส่ให้เต็ม จนถึงขอบปากกระบุง บนปากกระบุงใส่ขนม ซึ่งบรรจุในกระทงเจิม กล้วยที่ถวายพระสงฆ์นั้น ใช้แต่กล้วยน้ำว้าอย่างเดียว
    ต่อมาเมื่อมีกระถาง หรือโอ่งใช้ ก็ใช้กระถางหรือโอ่งแทนกระบุง ใช้ข้าวสารใส่ก้นกระถาง มะพร้าวอ่อน ก็เปลี่ยนเป็นมะพร้าวห้าว แล้วยังมีแถมกะปิ น้ำปลา พริก หอม กระเทียม เนื้อเค็ม ปลาเค็ม กระเทียมดองอีกด้วย ใส่จนเต็มพระถาง ปากกระถางใช้แต่ขนมกงอย่างเดียว ขนมอย่างอื่น เช่น ข้าวเหนียวแดง หน้าเหนียวแก้ว กะละแม ก็เปลี่ยนเป็นขนมจันอับ ใส่กระทงเจิมเหมือนกัน (ถ้าสมัยนี้เปลี่ยนเป็นขนมเค้ก) ส่วนฝาชีทาสีแดง เปลี่ยนเป็นหุ้มผ้าแดงยอด ด้านดิบเปลี่ยนเป็นผ้าขาวแดงตัดกลมๆผูกแทน เป็นเรื่องเปลี่ยนไปตามสมัย และในการเลี้ยงพระ อย่ามัวนึกแต่เรื่องพระฉันอิ่มหรือไม่อิ่ม ต้องนึกถึงเลี้ยงพวกลูกศิษย์ ที่ติดตามพระมาด้วย
    ++ กับข้าวที่ใช้เลี้ยงในงาน ห้ามไม่ให้มีแกงบวน ต้มยำ และผักยำ ตลอดจนแกงร้อน เพราะชื่อของมันไม่ดี เป็นบวนๆ ยำๆ กระเดียดใกล้เข้าไปว่า ระยำและร้อนๆ ที่ถือจัดจนกระทั่งหมี่กรอบก็ไม่ใช้ เพราะมันหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไม่ดี ลางร้าย แต่ถ้ามีกับข้าวที่มีถั่วงอกด้วยยิ่งดี เพราะเป็นเครื่องหมายของความงอกงาม จึงนิยมให้มีขนมจีนน้ำยา เป็นต้น เพราะมีถั่วงอกต้ม เป็นเหมือนผัก ทั้งขนมจีนก็เป็นเส้นยาว จะได้ยืดยาวอายุด้วย เพื่อให้ได้สะใจของผู้ปรารถนาอย่างนั้น
    ++ ขนมหวานในงาน ในการเลี้ยงนี้บางทีที่ยังไม่ใช่เวลารับประทานอาหาร ก็ใช้เลี้ยงของว่างแทนอาหารเช้า การกินเลี้ยงของว่างนี้ เมื่อก่อนเขาเรียกกันว่า กินสามถ้วย คือ ของหวาน 3 อย่าง ได้แก่ ข้าวเหนียวน้ำกะทิ, ข้าวตอกน้ำกะทิ และ ลอดช่องน้ำกะทิ หรือจะเปลี่ยนเป็นของอื่น เช่น มันน้ำกะทิ, เม็ดแมงลักกะทิ หรืออย่างอื่นก็ได้ แล้วแต่จะเตรียมหามาได้สะดวก
    ++ นอกจากนั้น ยังมีคติเรื่องทำบุญร่วมกัน เช่น การตักบาตรของบ่าวสาวที่กล่าวนี้ว่า เมื่อตายไปเกิดใหม่ชาติหน้า จะได้ร่วมชาติเป็นสุขด้วยกัน เป็นเรื่องนึกหวังก็สบายใจดี บางประเทศมีประเพณีบ่าวสาวกินข้าวร่วมกันในวันพิธีแต่งงาน ซึ่งคงจะมีความมุ่งหมายไปในทางที่ว่า ได้มาเป็นคู่ครองร่วมสุขร่วมทุกข์ ล่มหัวจมท้ายด้วยกันแล้ว จึงได้กินข้าวร่วมกัน ให้เป็นเครื่องแสดงให้เป็นด้วยตา เช่น ชาวแบงคาลี เจ้าบ่าวเจ้าสาว จะกินข้าวคลุกแกงร่วมภาชนะเดียวกัน พิธีชาวเยอรมัน เจ้าบ่าวสาวต้องกินซุป ในเวลาเช้าร่วมช้อนคันเดียวกัน พิธีของจีนหรือญี่ปุ่น บ่าวสาวต้องกินเหล้าร่วมกัน และต้องกินให้หมด 3 ถ้วยตามที่กำหนดไว้
    ++ ส่วนบ้านเรา ประเพณีทางอีสาน เขามีพิธีสู่ขวัญคู่บ่าวสาวที่เรือนของหญิง ให้คู่บ่าวสาวหันหน้าไปทางทิศใต้ แขนผู้ชายทับแขนผู้หญิง และเริ่มทำขวัญ คือเอาด้ายผูกข้อมือซ้ายเจ้าบ่าว และผูกข้อมือขวาเจ้าสาว เสร็จแล้วมีพิธีป้อนไข่ คือเอาไข่ไก่ ที่ฝ่ายชายจัดมา หรือผ่าไข่ขวัญในพิธีทำขวัญ ป้อนให้ฝ่ายหญิงกิน และเอาไข่ที่ฝ่ายหญิงจัด มาป้อนให้ฝ่ายชาย กินสับเปลี่ยนกัน ทางใต้ก็มีเรื่องผูกขวัญ และบ่าวสาวกินร่วมกัน หรือไม่กินน้ำมะพร้าวอ่อนในพิธีทำขวัญ
    สรุปไม่ว่าจะเป็นประเพณีที่ไหน การตักบาตร กินเหล้า กินข้าว กินขนม กินไข่ ร่วมกันนั้น ก็ล้วนแต่มีความหมาย ว่าให้ร่วมสามัคคี อยู่ด้วยกันแน่นแฟ้น เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนั่นเอง
    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    aromdee.com
    ขอขอบคุณภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
     
  3. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    แคล้วคลาดแบบนี้ทั้ง ๒ คน เป็นบุญแล้ว พรุ่งนี้ผมเดินทางไปกระบี่-นครศรีธรรมราช กลับวันที่ ๑๐ พ.ค. ยังไงคงจะผ่านไปทางเส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุนี้ ช่วงนี้มีฝนตกก็ต้องระมัดระวังกันหน่อยครับ...

    ต้นเดือนหน้ามีหลักสูตรล้างพิษ แถวสามพราน ๓ วัน หลังจบหลักสูตรเพื่อนท่านใดสนใจจะให้ช่วยเหลือก็เชิญนะครับ...
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า ฝากให้น้องรักครับ อิอิ

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เดินทางปลอดภัยทั้งไปและกลับนะครับคุณเพชร

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นิสัยไม่ดีที่พ่อแม่ไม่ควรทำ/ดร.แพง ชินพงศ์
    Life & Family - Manager Online

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 พฤษภาคม 2552 10:09 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>หน้าที่หลักของคนเป็นพ่อแม่คืออะไร? ในความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเห็นว่า หน้าที่หลักของพ่อแม่ก็คือการเลี้ยงดูลูกด้วยความรักและความเข้าใจ ดูแลเอาใจใส่ให้เขาเจริญเติบโตอย่างสมวัยทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญาและจิตวิญญาณ นอกจากนี้การที่พ่อแม่ประพฤติตนเป็นแบบแผนที่ดีในการดำเนินชีวิตให้แก่ลูกก็ถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่ละเลยไม่ได้เช่นเดียวกัน แต่คงมีพ่อแม่หลายคนที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในบางครั้งอาจประพฤติปฏิบัติตนในสิ่งที่ไม่ถูกต้องกับลูกบ้างเหมือนกัน ซึ่งพอจะยกตัวอย่างได้ดังนี้

    1.การนอกใจกันของสามีภรรยา เป็นหนึ่งในปัญหายอดฮิตของครอบครัวที่มีมาทุกยุคทุกสมัย ซึ่งพฤติกรรมการไม่ซื่อสัตย์ต่อกันระหว่างสามีภรรยา เช่น สามีมีเมียน้อย ภรรยามีชู้ การแอบมีกิ๊ก เป็นปัญหาที่นำครอบครัวไปสู่ความล่มสลายและสร้างความขมขื่นเป็นรอยแผลในจิตใจของลูกอย่างยิ่ง และสิ่งนี้อาจส่งผลให้แก่ลูกเมื่อเขาเติบโตขึ้น เขาอาจจะมีแนวโน้มเป็นคนที่มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อชีวิตครอบครัว และหลายคนอาจมีพฤติกรรมเป็นคนสำส่อน เจ้าชู้และไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่ครองเหมือนกับพ่อแม่ได้

    2.การใช้ความรุนแรงภายในครอบครัว ทั้งความรุนแรงที่พ่อแม่กระทำต่อกัน เช่น พ่อแม่ทะเลาะตบตีลงไม้ลงมือกัน ด่าว่ากันด้วยถ้อยคำหยาบคาย หรือการที่พ่อแม่ใช้ความรุนแรงกับลูก ล้วนส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อจิตใจของลูกโดยตรง ความรุนแรงในครอบครัวเป็นพฤติกรรมที่ถ่ายทอดได้ โดยส่วนใหญ่พบว่าเด็กที่มีพฤติกรรมเป็นนักเลง ก้าวร้าว ชอบความรุนแรง มักเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวที่พ่อแม่นิยมใช้ความรุนแรงแทบทั้งสิ้น

    3.การเป็นทาสของสิ่งเสพติดและการพนัน เด็กที่มีพ่อแม่เป็นทาสของสิ่งเสพติดและการพนันเป็นเด็กที่น่าสงสารมาก เพราะพ่อแม่ที่ตกเป็นทาสของสิ่งเหล่านี้มักจะเป็นคนที่ขาดความรับผิดชอบและขาดความยับยั้งชั่งใจ มีหลายครอบครัวที่ต้องหมดเนื้อหมดตัวและหมดอนาคตเพราะติดยาและผีพนันเข้าสิง ทำให้ลูกได้รับความยากลำบากไปด้วย หรือในบางกรณีพ่อแม่ได้ทำร้ายร่างกายหรือจิตใจของลูกโดยที่ไม่ได้ตั้งใจเนื่องจากควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่มีสติสัมปชัญญะเพราะอยู่ในอาการมึนเมา นอกจากนี้การติดสิ่งเสพติดทั้งหลายยังเป็นการทำลายสุขภาพทั้งตัวของตัวพ่อแม่เองและของลูกด้วย
    นอกจากกรณีที่กล่าวมาแล้ว ยังมีนิสัยไม่ดีอื่นๆอีกที่พ่อแม่ไม่ควรทำเพราะเป็นสิ่งที่ลูกอาจเอาเยี่ยงอย่างได้ เช่น พูดโกหก ไม่รู้จักกาลเทศะ อกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เจ้าอารมณ์ เกียจคร้าน สุรุ่ยสุร่าย

    นิสัยดีๆที่พ่อแม่ควรทำ

    1.มอบความรักแก่กัน ความรัก ความเอาใจใส่และความใกล้ชิดของคนในครอบครัว ไม่ว่าพ่อให้แม่ แม่ให้พ่อ พ่อแม่ให้ลูก จะทำให้ครอบครัวมีความสุขทั้งใจและกาย และมีภูมิคุ้มกันที่จะไม่เป็นครอบครัวที่แตกแยก

    2.ดูแลกันให้มีสุขภาพที่ดี พ่อแม่ควรดูแลกันและดูแลลูกให้ได้รับอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ช่วยดูแลความสะอาดของเสื้อผ้าเนื้อตัวร่างกาย จัดให้ครอบครัวได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี รวมทั้งส่งเสริมให้มีการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของทั้งพ่อแม่และลูกจะได้แข็งแรงและมีอารมณ์ที่แจ่มใส

    3.ทำความดีไม่ขาด พ่อแม่ต้องอบรมสั่งสอน ประพฤติดีและทำความดีให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง เช่น พูดจาดี คิดดี กิริยาดี การกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ การแสดงความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น การให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และรักผู้อื่นเหมือนที่เรารักตนเอง

    4.สนับสนุนส่งเสริมในทุกทาง พ่อแม่เป็นผู้ส่งเสริมสนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของลูก ทั้งด้านการศึกษาและการเรียนรู้ต่างๆ ให้ลูกได้มีอิสระในความคิด เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความคิดเห็นในมุมมองของเขา และให้เขาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวด้วยตนเอง อย่าปิดกั้นแต่ต้องคอยดูแล ให้กำลังใจและไม่ซ้ำเติมเมื่อลูกทำสิ่งผิดพลาด นอกจากนี้พ่อแม่ควรสนับสนุนให้ลูกได้ศึกษาในสิ่งที่เขาชอบและถนัด พ่อแม่บางคนคาดหวังว่าลูกจะต้องเก่งและประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่พ่อแม่ตั้งไว้โดยไม่คำนึงถึงความพอใจและความรู้สึกของลูก ผู้เขียนรู้จักเด็ก ๆ หลายคนที่ไม่อยากเรียนบัลเล่ต์ ไม่อยากเรียนเปียโน ไม่อยากเรียนกวดวิชา แต่จำใจต้องเรียนเพราะถูกพ่อแม่บังคับ ผลเสียที่อาจเกิดกับลูกคือลูกจะเป็นคนที่มีสุขภาพจิตไม่ดี เก็บกด เครียดง่าย มีความวิตกกังวลสูงและยืดหยุ่นกับชีวิตไม่เป็น

    ผู้เขียนเคยเปรียบว่าลูกเป็นเหมือนผ้าขาวที่สะอาดและบริสุทธิ์ และลูกเป็นเหมือนสำเนาของพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่ประพฤติดีลูกก็จะซึมซับในสิ่งที่ดี และประพฤติปฏิบัติดีเช่นพ่อแม่ แต่หากพ่อแม่เป็นแบบแผนที่ไม่ดีให้แก่ลูกแล้ว เขาก็ไม่ต่างอะไรกับผ้าขาวที่ต้องแปดเปื้อนและยากที่จะซักล้างออกได้ หากคุณพร้อมที่จะอยู่ในฐานะพ่อแม่แล้ว ทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่นี้ของคุณให้ดีที่สุดเพื่อลูกที่น่ารักของคุณเอง


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    5 พฤษภาคม วันฉัตรมงคล

    �ѹ�ѵ����� 5 ����Ҥ� ��ҹ ����ѵ��ѹ�ѵ����� ��ԡ���

    ที่มา กระปุก
    [​IMG]



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก aco.psru.ac.th

    วันที่ 5 พฤษภาคม เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของปวงชนชาวไทย ที่อยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ควรระลึกถึง วันนี้กระปุกจึงมีเรื่องราวความสำคัญของวันฉัตรมงคลมาฝากค่ะ

    ความหมายของวันฉัตรมงคล

    วันฉัตรมงคล (อ่านว่า ฉัด-ตระ-มง-คล) มีความหมายตามพจนานุกรมว่า พระราชพิธี ฉลองพระเศวตฉัตร ทำในวันซึ่งตรงกับวันบรมราชาภิเษก

    ความสำคัญของวันฉัตรมงคล

    วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 และดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช"เนื่องจากยังมิได้ทรงผ่านพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะ จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย

    ดังนั้นรัฐบาลไทยและ พสกนิกร จึงได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม จัดงานพระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร หรือรัฐพิธีฉัตรมงคล หรืออาจเรียกว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซึ่งกระทำในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"

    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พสกนิกรชาวไทยจึงได้ถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันฉัตรมงคล เพื่อน้อมรำลึกถึงวันสำคัญนี้

    ความเป็นมาของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

    การจัดพระราชพิธีบรม ราชาภิเษกนั้น มีหลักฐานปรากฎในหลักศิลาจารึก วัดศรีชุมของพญาลิไทว่า เริ่มต้นมาตั้งแต่ครั้งพ่อขุนผาเมืองได้อภิเษกพ่อขุนบางกลางหาว หรือ พ่อขุนบางกลางท่าว ให้เป็นผู้ปกครองเมืองสุโขทัย

    จากนั้นในสมัยกรุง รัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงฟื้นฟูพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ถูกต้องสมบูรณ์ โดยพระมหากษัตริย์ที่ยังมิได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะไม่ใช้คำว่า "พระบาท" นำหน้า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และคำสั่งของพระองค์ก็ไม่เรียกว่า "พระบรมราชโองการ" และอีกประการหนึ่งคือ จะยังไม่มีการใช้ นพปฎลเศวตฉัตร หรือฉัตร 9 ชั้น

    ความเป็นมาของพระราชพิธีฉัตรมงคล

    ก่อนหน้ารัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชพิธีฉัตรมงคลถือเป็นพิธีของเจ้าพนักงานในพระราชฐาน ที่มีหน้าที่รักษาเครื่องราชูปโภคและพระทวารประตูวัง ได้จัดการสมโภชสังเวยเครื่องราชูปโภคที่ตนรักษาทุกปีในเดือนหก และเป็นงานส่วนตัว ไม่ถือเป็นงานหลวง

    จนกระทั่ง สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชย์ ได้ทรงกระทำพิธีฉัตรมงคลขึ้นเป็นครั้งแรก ในวันบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2393 โดยมีพระราชดำริว่า วันบรมราชาภิเษกเป็นมหามงคลสมัยที่ควรแก่การเฉลิมฉลองในประเทศที่มีพระเจ้า แผ่นดิน จึงถือให้วันนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคลกาล และควรที่จะมีการสมโภชพระมหาเศวตฉัตรให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ แต่เนื่องจากเป็นธรรมเนียมใหม่ ยากต่อการเข้าใจ อีกทั้งเผอิญที่วันบรมราชาภิเษกไปตรงกับวันสมโภชเครื่องราชูปโภคที่มีแต่ เดิม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงอธิบายว่า วันฉัตรมงคลเป็นวันสมโภชเครื่องราชูปโภค จึงไม่มีใครติดใจสงสัย

    ดังนั้นจึงได้มีพระราชดำริจัดงานพระราชกุศลพระราชทานชื่อว่า "ฉัตรมงคล" นี้ ขึ้น โดยได้มีการเฉลิมฉลองด้วยการนิมนต์พระสงฆ์มาสวดเจริญพุทธมนต์ ในวันขึ้น 13 ค่ำเดือน 6 รุ่งขึ้นมีการถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ด้วยเหตุนี้จึงถือว่าการเฉลิมฉลองพระราชพิธีฉัตรมงคล เริ่มมีในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นครั้งแรก

    ต่อมาในสมัยรัชกาล ที่ 5 วันบรมราชาภิเษกตรงกับเดือน 12 จึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานฉัตรมงคลในเดือน 12 แต่ไม่ได้รับการยินยอม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงแก้ไขด้วยการออกพระราชบัญญัติว่าด้วยตราจุลจอมเกล้าสำหรับตระกูลขึ้น ให้มีพระราชทานตรานี้ตรงกับวันคล้ายบรมราชาภิเษก ท่านผู้หลักผู้ใหญ่จึงยินยอมให้เลื่อนงานฉัตรมงคลมาตรงกับวันบรมราชาภิเษก แต่ยังให้รักษาประเพณีสมโภชเครื่องราชูปโภคอยู่ตามเดิม รูปแบบงานวันฉัตรมงคลจึงเป็นเช่นนี้จนถึงปัจจุบัน

    พระราชพิธีฉัตรมงคลในรัชกาลปัจจุบัน

    ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงาน 3 วัน นั่นคือ

    [​IMG] วันแรก ตรงกับวันที่ 3 พฤษภาคม เป็นงานพระราชกุศลทักษิณานุประทาน ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เพื่ออุทิศส่วนกุศลถวายแด่พระบรมราชบุพการี เป็นพิธีสงฆ์สดัปกรณ์ พระบรมอัฐิ สมเด็จสวดพระพุทธมนต์ แล้วพระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนา ซึ่งในวันนี้ได้เพิ่มพระราชพิธีตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพล ที่จะพระราชทานแก่หน่วยทหารบางหน่วยเข้าไว้ด้วย

    [​IMG] วันที่ 4 พฤษภาคม เป็นวันเริ่มพระราชพิธีฉัตรมงคล เจ้าพนักงานจะได้อัญเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ขึ้นประดิษฐานบนแท่นใต้พระมหาปฎลเศวตฉัตร พระครูหัวหน้าพราหมณ์อ่านประกาศพระราชพิธีฉัตรมงคล แล้วทรงสดับพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เวลาเที่ยง ทหารบก ทหารเรือ จะยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด

    [​IMG] ส่วนวันที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ทรงบูชาเครื่องกกุธภัณฑ์ พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตรและราชกกุธภัณฑ์ ตอนเย็นพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าแก่ผู้ที่มีความดีความชอบ แล้วเสด็จนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ที่ปราสาทพระเทพบิดร เป็นเสร็จพระราชพิธี

    ทั้งนี้ในวันฉัตรมงคล สำนักพระราชวังได้เปิดปราสาทหลายแห่งให้ประชาชนได้เข้าชมและถวายบังคมอีกด้วย

    กิจกรรมที่ควรปฏิบัติในวันฉัตรมงคล

    [​IMG] 1. ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการ

    [​IMG] 2. ร่วมทำบุญตักบาตร ประกอบพิธีทางศาสนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

    [​IMG] 3. น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยพร้อมเพรียงกัน กล่าวคำถวายอาศิรวาทราชสดุดี ถวายชัยมงคลให้ทรงพระเกษมสำราญ ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นมหามิ่งขวัญแก่พสกนิกรชาวไทยไปชั่วกาลยิ่งยืนนาน

    เมื่อวันฉัตรมงคลเวียนมาบรรจบครบรอบอีกหนึ่งครา ในวันที่ 5 พฤษภาคม พสกนิกรชาวไทยทั้งหลาย จึงควรระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอันมีคุณอนันต์แก่ปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุด มิได้


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
    - sunsite.au.ac.th
    - lib.ru.ac.th
    - tungsong.com
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นำโปรแกรมท่องนรก สวรรค์มาฝากค่ะ<!-- google_ad_section_end -->
    โพสโดยคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sesonsam

    พอดีเคยโหลดไว้นานแล้วค่ะ แต่จำไม่ได้แล้วล่ะค่ะว่าโหลดมาจากไหน
    เพิ่งหาเจอ เลยเอามาฝากๆไว้ให้ชมกันค่ะ

    เป็นโปรแกรมที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ เรื่องบาปบุญคุณโทษ จะพาคุณท่องเที่ยวไปยังเมืองนรก
    และท่องสวรรค์ตามจินตนาการที่แสดงทางภาพในโปรแกรม กล่าวกันว่าการที่คนเราสมัยนี้มี
    ความประพฤติย่อหย่อนทางศีลธรรมกันมาก ก็เพราะว่าไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ ไม่กลัวโลกหน้า
    เนื่องจากยุคนี้เป็นยุควิทยาศาสตร์ อันเป็นยุคที่นักวิทยาศาสตร์ได้สอนไว้ว่า ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่เรา
    ไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ หรือไม่สามารถตรวจวัดได้ สิ่งนั้นล้วนย่อมเป็นเรื่องที่งมงายทั้งนั้น
    คนเราสมัยนี้ก็เลยไม่กลัว "นรก" บอกว่าเป็นเรื่องที่เหลวไหล เป็นเรื่องที่ไม่ สามารถพิสูจน์ให้เห็นจริงๆ
    ได้ "นรก"คงเอาไว้สำหรับหลอกคนปัญญาอ่อนเล่นเท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้เองคนเราสมัยนี้เลยชอบทำผิด
    ศีลธรรมกันตามใจชอบ ทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน สับสนวุ่นวายไปหมด ถึงตรงนี้ก็เลยอยากจะถามว่าใน
    ทางพุทธศาสนายืนยันได้หรือไม่ว่า นรกมีจริง

    credit : สุขี สิงห์บรบือ
    โรงเรียนบาลีสาธิตศึกษา (หมวดคอมพิวเตอร์)
    1167ถ.มีชัย ต.ในเมือง
    อ.เมือง จ.หนองคาย 43000
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • helltour20.zip
      ขนาดไฟล์:
      3.3 MB
      เปิดดู:
      64
    • sukee.JPG
      sukee.JPG
      ขนาดไฟล์:
      63.8 KB
      เปิดดู:
      29
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  13. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,309
    มาร่วมทำบุญกับวัดพระบาทน้ำพุกันครับ ทำง่ายๆแค่"คลิก"เดียว

    ขอเชิญร่วมคลิกกับโครงการที่ต้องการร่วมอนุโมทนาบุญครับ.
    http://sookjai.kapook.com/ ตามลิ้งค์เลยนะครับ

    ฝากคลิกทุกวันหน่อยนะครับวันล่ะบาทแล้วฝากส่งต่อให้ท่านอื่นช่วยหน่อยนะครับ

    อนุโมทนา
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ยืนยันครับ

    พระสมเด็จ รุ่น Top of the top 4
    [​IMG]

    สุดยอดในแผ่นดินครับ

    เนื่องจากสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านขอพระเมตตา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม อธิษฐานจิตครับ

    และเราสามารถใช้คำว่า พระสมเด็จ มีพุทธคุณ ได้ เนื่องจาก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม ทรงมีพระเมตตาอธิษฐานจิต

    หรือเราจะใช้ พลังอิทธิคุณก็ได้ครับ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    และยืนยันว่า คณะพระวังหน้า ต้องมีทุกท่าน

    ย้ำ คณะพระวังหน้า ต้องมีทุกท่าน

    ผมตั้งใจจะมอบให้ในงานใหญ่ปลายปีนี้แน่นอน ผมจะแจกกับมือผมเองครับ

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มะระหวาน อาหารมากคุณค่า

    http://hilight.kapook.com/view/36562

    ที่มา กระปุก




    [​IMG]

    มะระหวานอาหารมากคุณค่า (สยามดารา)

    มะระหวาน หรือฟักแม้ว บ้างก็เรียก มะเขือเครือ มะเขือแม้ว แตงกะเหรี่ยง นี้มีวิตามินซีป้องกันเลือดออกตามไรฟัน มีแคลเซียม บำรุงกระดูกและฟัน และฟอสฟอรัส ก็ดีต่อกระดูกและฟันเช่นเดียวกัน และยังมีใยอาหารที่ย่อยง่ายช่วยให้ขับถ่ายสะดวก มะระหวาน นอกจากผลที่กินได้แล้ว ยอดอ่อนก็สามารถกินได้ด้วย

    ก่อนหน้านี้มะระหวานหากินไม่ได้ง่ายๆ เพราะว่าเป็นพืชที่ปลูกอยู่ทางเหนือแถบเชียงราย เพชรบูรณ์ เพราะเป็นพืชที่ชอบอากาศหนาวเย็น และดินร่วนระบายน้ำได้ดี แต่ตอนนี้เนื่องจากมะระหวานเป็นพืชที่ได้รับความนิยมมาก เพราะรสชาติหวานอร่อย
    ไม่ว่านำไปผัดเปล่าๆ ใส่น้ำมันหอย ผัดใส่ไข่ แกงจืด แกงแค หรือต้มกินกับน้ำพริกได้ทุกชนิด มะระหวานจึงหาซื้อได้ง่ายขึ้น

    ต้นมะระหวานมีลักษณะเป็นไม้เลื้อย มีหนวดหรือมือจับ งอกออกมาข้างก้านใบหย่อมละ 2-4 เส้น รากขยายออกตามอายุ เพื่อเก็บสะสมอาหาร ใบมี 5 แฉก คล้ายใบตำลึงแต่ใหญ่กว่า และผิวขรุขระ ภายในมีเนื้อและมีเมล็ดเพียง 1 เมล็ด ขยายพันธุ์โดยใช้ผล และเก็บเกี่ยวส่วนขยายพันธุ์ในฤดูหนาว ฤดูกาลที่เก็บเกี่ยวได้มากคือ ระหว่างเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ ส่วนที่ให้ประโยชน์ทางยาคือส่วนผลนี่เอง ที่มีทั้งวิตามินซี แคลเซียม และฟอสฟอรัส


    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก สยามดารา
    [​IMG]
    <!-- google_ad_section_end -->

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++

    หากสนใจเรื่องของอาหารการกิน เรื่องของสุขภาพที่เกี่ยวกับอาหาร

    ลองเข้าไปอ่านในกระทู้ "108 เคล็ดกิน"
    "108
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันฉัตรมงคล : วันมหามงคลของชาติ
    ˹ѧ��;������Ԫ�����ѹ : ˹ѧ��;�����س�Ҿ ����ͤس�Ҿ�ͧ������
    ที่มา มติชน
    โดย วสิษฐ เดชกุญชร



    วันนี้เป็นวันสำคัญของชาติ เป็นวันฉัตรมงคล คือวันครบรอบปีของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หรือพิธีเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จริงวันทรงครองราชย์หรือเริ่มรัชกาลนั้น คือวันที่ 9 มิถุนายน 2499 แต่ขณะนั้นยังทรงพระเยาว์และกำลังทรงศึกษาอยู่ในต่างประเทศ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกจึงมิได้มีจนกระทั่งถึงวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493

    ทุกประเทศมีวันสำคัญปีหนึ่งๆ หลายวัน ที่เรียกหรือถือว่าเป็นวันสำคัญก็เพราะว่าในวันนั้นมีเหตุการณ์ที่คนในประเทศถือว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์บ้าง ทางวัฒนธรรมบ้าง ที่คนในประเทศนั้นควรจดจำหรือระลึกถึง วันสำคัญของประเทศไหนก็ถือเป็นเอกลักษณ์ของประเทศนั้นและคนชาตินั้น เมื่อถึงวันสำคัญนั้นๆ ก็มีกิจกรรมเพื่อเป็นเครื่องหมายของวันนั้น เช่นการเฉลิมฉลอง เป็นต้น

    ที่ว่า "วันสำคัญ" นั้น บางทีเราก็สักแต่ถือตามๆ กันไปโดยไม่ได้นึกถึงจริงๆ ถึงความสำคัญของวันนั้น ทั้งๆ ที่การนึกหรือระลึกถึงอาจทำให้เราเกิดความภาคภูมิใจ ที่นำไปสู่ความรักความกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการธำรงสังคมหรือชาติ

    วันฉัตรมงคลในรัชกาลใดก็เป็นวันที่เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลนั้นโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้น วันนี้จึงเป็นวันที่คนไทยควรจะทบทวนความจำและระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ว่าตั้งแต่เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอะไรและอย่างใดบ้าง ในฐานะที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ของราชอาณาจักรไทยหรือประเทศไทย

    ถ้าทบทวนความจำกัน ก็จะระลึกได้ว่า ในรัชกาลนี้ พระราชกรณียกิจมีมากมายล้นเหลือในหลายสิบด้าน พระราชกรณียกิจที่ต้องทรงทำในฐานะที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นั้นก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่ต้องยอมรับว่ามีประโยชน์ด้วยอย่างมหาศาลแก่ชีวิตของคนไทยนั้น คือพระราชกรณียกิจที่อาจเรียกได้ว่าพระราชกรณียกิจพิเศษ ที่ทรงทำด้วยความสมัครพระทัย

    พระราชกรณียกิจพิเศษเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมประชาชนทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด ทำให้ได้ทรงเห็นและตระหนักในทุกข์ของประชาชน และกลายเป็นความผูกพันและห่วงใยอันลึกซึ้งและยืนยาวที่ทรงมีต่อประชาชน ความผูกพันและห่วงใยนี้เองที่ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องทรงทุ่มเทพระวรกายและพระราชหฤทัยคิดค้นหาทางอยู่ตลอดเวลาที่จะทำให้ประชาชนคลายทุกข์และอยู่ดีกินดี

    เพราะประชาชนคนไทยส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงสนพระทัยโดยเฉพาะในเรื่องดินและน้ำ อันเป็นปัจจัยสำคัญของเกษตรกรรม ทรงศึกษาด้วยพระองค์เองจนทรงมีความรู้แตกฉาน ทรงสามารถที่จะร่วมกับเจ้าหน้าที่และนักวิชาการ พิจารณาแก้ปัญหา และพระราชทานความคิดเห็น ที่นำไปสู่โครงการตามพระราชดำริที่มีอยู่ประมาณ 3,000 โครงการทั่วประเทศ

    เกี่ยวกับการเมืองนั้น ทรงถือพระองค์ว่าอยู่เหนือการเมือง และเป็นหน้าที่ของรัฐสภาแต่ละสมัยและรัฐบาลแต่ละชุด แต่เพราะเมืองไทยมีวิกฤตการณ์ทางการเมืองหลายครั้ง บางครั้งก็รุนแรงจนกลายเป็นการปะทะกันด้วยกำลังระหว่างฝ่ายที่ขัดแย้งกัน มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ในกรณีเช่นนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงต้องทรงระงับเหตุ แต่การระงับเหตุก็เป็นไปแต่ในรูปของการพระราชทานพระราชดำรัสพระราชทานสติ แนะนำผู้เกี่ยวข้อง ให้ยุติความรุนแรง หันหน้าเข้าหากัน และกลับไปสู่ความเป็นปกติดังเดิม

    วิกฤตการณ์ทางการเมืองทำให้เกิดรัฐประหารและยึดอำนาจการบริหารบ้านเมืองหลายครั้ง แต่ทุกครั้งผู้ยึดอำนาจได้ก็ไม่มีทางเลือก ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นเหตุให้เมืองไทยมีรัฐธรรมนูญมากถึง 17 ฉบับ ที่อาจจะนึกไม่ถึงกันก็คือ ทุกฉบับยอมรับความเป็นประมุขของพระมหากษัตริย์ในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย หรือยอมรับระบอบที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า constitutional monarchy (ราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ) เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลกันอย่างไรเพียงใด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ยังคงดำรงฐานะเป็นพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ พระราชอำนาจถูกกำหนดและจำกัดโดยรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด

    ระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ได้รับการพิสูจน์ด้วยกาลเวลา ว่าเป็นระบอบที่ประชาชนคนไทยยอมรับ แม้บางยุคบางสมัยจะมีผู้พยายามนำระบอบอื่นเข้ามาใช้กับเมืองไทย แต่ประชาชนก็ปฏิเสธ และถ้าผู้นิยมระบอบอื่นนั้นใช้กำลังบังคับ ประชาชนก็ต่อสู้ ในการต่อสู้ที่เคยเกิดขึ้นแล้วนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่เคยทรงทิ้งประชาชน และประทับอยู่กับประชาชนตลอดจนพ้นวิกฤตกาล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่เคยทรงตั้งพระองค์เป็นเจ้าระบอบใดๆ ทั้งนั้น เคยตรัสว่า หากเมืองไทยเปลี่ยนระบอบการปกครองไปเป็นแบบที่ไม่มีพระมหากษัตริย์ เมืองไทยก็จะมีพลเมืองใหม่อีกคนหนึ่ง ชื่อ "ภูมิพลอดุลยเดช"

    วันฉัตรมงคลปีนี้ คนไทยจึงควรถือเป็นวันมงคลของชาติ และทำแต่สิ่งที่เป็นมงคลแก่ตนเองและแก่บ้านเมือง ด้วยการน้อมรำลึกถึงการอุทิศพระวรกายและพระราชหฤทัยอันใหญ่หลวงและยาวนานที่พระราชทานแก่คนไทยและเมืองไทย หากนึกไม่ออกว่า ในวันมหามงคลวันนี้ จะสนองพระมหาเมตตาธิคุณและพระมหากรุณาธิคุณอย่างไร ก็ควรทำด้วยการงดเว้นไม่ทำความชั่ว ทำแต่สิ่งที่เชื่อว่าเป็นความดี และทำใจของตนให้สงบและสะอาด ไม่ยอมให้มัวหมองเพราะกิเลส แล้วน้อมเกล้าฯ อุทิศผลบุญที่ได้ถวายเป็นพระราชกุศล

    ทำวันฉัตรมงคลให้เป็นมงคล จะป้องกันและไล่สิ่งที่เป็นอัปมงคลแก่ชาติบ้านเมืองได้อย่างแน่นอน
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 14 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 11 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, visutto, nongnooo+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    คุณnongnoooครับ

    ผมเองคิดว่า จะนำพระสมเด็จ top of the top , พระสมเด็จ top of the top 4 และ พิมพ์พุทธประวัติ เลี่ยมแล้วห้อยคอครับ

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ ผมได้นำซองผ้าป่า ไปให้พี่จิ๋ว

    [​IMG]

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่าน

    ได้คุยกับท่านอาจารย์ประถม และพี่ใหญ่ อีกทั้งพี่สุทธิพร และอีกท่าน

    เรื่องเก่าที่ผมโดนคน นำเรื่องที่ผมมีปัญหากับเขาในเว็บ ซึ่งคนนี้เคยบวชเป็นพระ แต่ปัจจุบันได้สึกแล้ว

    และก็ได้คุยในเรื่องพระพิมพ์อีกพอสมควร ได้ความรู้มาพอสมควรสำหรับวันนี้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...