พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    10 เครื่องมือตลาดที่ (SMEs) ควรรู้

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 สิงหาคม 2553 16:54 น.

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ในช่วงระยะเวลา 10ปีที่ผ่านมานั้น เครื่องมือการตลาดที่เข้ามาเป็น ‘ตัวช่วย’ให้ประสบความสำเร็จ หลักๆมี 10อย่างด้วยกันที่ควรรู้ ซึ่งแต่ละอย่างมีข้อดีแตกต่างกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการนำมาประยุกต์ใช้ให้ เกิดประโยชน์กับการทำธุรกิจนั้นๆ ลองดูซิว่าเครื่องมือไหนสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณมากที่สุด

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="185"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="185"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> <td width="5">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> 1. Digital marketing ได้ เข้ามามีบาทบาทกับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นอายุตั้งแต่ Per-teen ก่อน 13 ปี จนถึงวัยTeen ที่มีอายุ 13-18ปี เพราะ อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของพวกเขาไปเสียแล้ว ดังนั้นกิจกรรมออนไลน์ผ่านตามเวบไซต์ มือถือ ในรูปแบบแคมเปญต่างๆมักจะได้รับความสนใจจากกลุ่มวัยรุ่น ยกตัวอย่างเช่น ไอศกรีมวอลล์ ออกแคมเปญกระตุ้นยอดขายผ่านเวบไซต์ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ ของกลุ่มเป้าหมาย

    2. Word of Mouth เป็น กลยุทธ์ที่ใช้งบประมาณน้อย เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการสร้างกระแสความตื่นเต้นและสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างลูกค้ากับสินค้าหรือบริการได้ดีไม่แพ้สื่อหลักอย่างโทรทัศน์วิทยุ ซึ่งวิธีนี้จะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอเรื่องราวให้เป็นที่สนใจ กับสื่อมวลชน เชื่อว่า หลายคนคงรู้จัก ตัน โออิชิ กันเป็น อย่างดีในฐานะพรีเซ็นเตอร์ เพราะวิธีการนำเสนอสินค้า แคมเปญแต่ละครั้ง ที่แปลกและแตกต่างชนิดที่ไม่ต้องเสียเงินจ้างดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> 3. Sport Marketing เป็น การเชื่อมต่อ ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคให้มีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น โดยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีกับตัวแบรนด์ (Brand Experience) ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า แม้กระทั้งรถกระบะวีโก้ ของค่ายโตโยต้า ยังลงโดดลงมาทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกีฬาตระกร้อ ภายใต้ชื่อ วีโก้ คัพ เป็นครั้งแรก เพื่อต้องการใกล้ชิดกับกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการที่แข่งโฆษณาประสิทธิภาพเครื่องยนต์ เท่านั้น

    4. Music Marketing ถือ เป็นสูตรสำเร็จอย่างหนึ่งในการทำตลาดด้วยการใช้นักร้องมาดึงดูดความสนใจของ วัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาด ยกตัวอย่าง เช่น เครื่องดื่มเป๊ปซี่ ที่ใช้ดนตรีเข้ามาเป็นตัวกลางในการสื่อสารกับผู้บริโภคซึ่งในแต่ละปีจะมีการ เลือกนักร้องที่ได้รับความนิยมเข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ พร้อมเข้ามาสนับสนุนคอนเสิร์ตเพื่อเปิดโอกาสให้คนดื่มเป๊ปซี่ได้เข้าไปชม

    5. Out of Home Media หมาย ถึง สื่อนอกบ้าน ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของนักการตลาดมากขึ้นเมื่อสื่อหลักอย่าง ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ มีราคาสูง แต่กลับได้รับความสนใจจากผู้บริโภคในการรับสื่อลดน้อยลง เจ้าสินค้าจึงหันใช้สื่อนอกบ้านเพิ่มขึ้นอาทิ ทีวีในลิฟต์ ในเชลฟ์ขายของ Big Banner ในบริเวณที่เป็นจุดที่มีคนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก อย่างสยามเซ็นเตอร์ เซ็นเตอร์พ้อยท์ เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านมากขึ้น

    6. Premium Marketing คือ กลยุทธ์การแจกของพรีเมี่ยม ของสมนาคุณ ที่เจ้าของธุรกิจแจกจ่ายให้เป็นของแถมสำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าหรือเข้ามาใช้ บริการ ซึ่งเป็น ‘ลูกเล่น’ การตลาดที่ได้รับความนิยมทุกวงการ โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นเหล้านอก เหล้าไทย เบียร์ ส่วนหนึ่งเพราะข้อจำกัดเรื่องโฆษณาสินค้า แต่เชื่อหรือไม่ว่า สิ่งเหล่านี้สามารถดึงดูดความสนใจลูกค้าได้มหาศาล

    7. Personal Selling การ ใช้พนักงานขายช่วยแนะนำคนซื้อ ณ จุดขาย เริ่มกลับมาได้รับความนิยมมาก เพราะสามารถกระตุ้นยอดขายได้ตามเป้าหมาย ซึ่งจะเห็นภาพชัดในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ลูกค้าต้องการทราบข้อมูลสินค้า รวมทั้งวิธีการใช้งาน ซึ่งหัวใจสำคัญของวิธีนี้คือการฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้เชี่ยวชาญใน สินค้าและบริการนั้นๆ รวมถึงสามารถเปรียบข้อดีข้อเสียระหว่างสินค้าที่ขายกับสินค้าคู่แข่งได้ อย่างชัดเจน โดยอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง

    >

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> 8. Direct marketing คือ เครื่องมือ ประกอบการขายสินค้าที่จะมี ‘สื่อ’ เข้ามาเกี่ยวข้องที่เห็นบ่อยๆ เช่น ไดเร็กเมล์ ช้อบปิ้ง แค็ตตาล็อก รวมไปถึงการขายสินค้าทางทีวีต่างๆ ที่คุ้นเคยกันดี ซึ่งสินค้าทุกประเภทสามารถใช้ได้เครื่องมือการตลาดนี้ได้ด้วยการทำเอง หรือเข้าร่วมกับตัวกลางที่มีสื่อ ไดเร็กเมล์ อยู่แล้ว อย่างเช่นบัตรเครดิตการ์ด หรือ บริษัทขายตรง ที่มีแค็ตตาล็อกเซลล์ เป็นต้น

    9. Promotion กิจกรรม ส่งเสริมการขาย กลายเป็นตัวช่วยสำคัญ ในการจูงใจผู้บริโภคให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอย หลักๆคงหนีไม่พ้นการลดราคา และกิจกรรมชิงโชค ซึ่งสามารถกระตุ้นต่อมการซื้อได้ง่ายกว่าวิธีการอื่นๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่มักจะเห็นกิจกรรมเหล่านี้เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ยอดขาย สินค้าไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

    10. Innovation หรือ นวัตกรรม ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต่อให้ทำตลาดดี แต่ถ้าสินค้าไม่ดี ก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จ เพราะลูกค้าจะไม่มีวันซื้อซ้ำ ยิ่งยุคสมัยนี้ การพัฒนาสินค้าใหม่ ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะคงไม่มีสินค้าไหนที่สามารถอยู่ได้ในทุกยุคสมัยโดยมี ได้มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตลอด เวลา ยกตัวอย่าง กระแสผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ รักษาสิ่งแวดล้อมจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคไทย ล่าสุดทาง ไอ.ซี.ซี. บริษัทในเครือสหพัฒน ได้ร่วมกับสำนักนวัตกรรมแห่งชาติ การผลิตกระเป๋าผ้านาโนบีเอสซี เพื่อร่วมรณรงค์ให้คนไทยหันมาใช้กระเป๋าผ้าแทนถุงพลาสติก เป็นต้น

    ****ข้อมูลจาก www.smethailandclub.com****</td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2010
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    "มังคุด" ผลไม้ไทยสารพัดประโยชน์
    [​IMG]


    "มังคุด" ถือเป็นราชินีแห่งผลไม้ เพราะนอกจากจะรสชาติอร่อยหอมหวานกลมกล่อมแล้ว ผลไม้ไทยชนิดนี้ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายสารพัด

    คน ไทยสมัยโบราณรู้จักนำ "มังคุด" มาแปรรูปเป็นยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรค ไม่ว่าจะเป็น "เปลือกมังคุด" ใช้ฝนกับน้ำปูนใส เพื่อทาแผลให้หายเร็วขึ้น และช่วยรักษาโรคน้ำกัดเท้า หรือ ถ้านำไปต้ม ก็สามารถดื่มแก้อาการท้องร่วง ขณะที่เนื้อมังคุดมีกากใยช่วยเรื่องขับถ่าย และยังอุดมด้วยสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่นับไม่ถ้วน ไล่ตั้งแต่ น้ำตาล กรดอินทรีย์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก

    จนถึงปัจจุบันมีการนำ "มังคุด" ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ทั้งมังคุดอบแห้ง น้ำมังคุด ไวน์มังคุด อาหารเสริมจากมังคุด ยาสระผม ครีมนวดผม สบู่ โลชั่น โดยผลจากการศึกษาของศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย ภายใต้การนำของ ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา, รศ.ดร.วิลาวัลย์ มหาบุษราคัม, รศ.ดร.เสาวลักษณ์ พงษ์ไพจิตร และ รศ.ดร.อำไพ ปั้นทอง ซึ่งทำการวิจัยเรื่องคุณประโยชน์ ของมังคุดมานานกว่า 3 ทศวรรษ ค้นพบว่า มังคุดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์สูงมากในเชิงสุขภาพ โดยสามารถปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุล ด้วยการลดการหลั่งสาร "Interleukin I" และ "Tumor Necrosis Factor" ซึ่งตามหลักวิชาของศาสตร์ภูมิคุ้มกัน จะช่วยลดอาการที่เกี่ยวกับการแพ้ภูมิตัวเอง และการอักเสบ พบในผู้ป่วยโรคเบาหวาน, ตับเสื่อม, ไตวาย, ข้อเข่าอักเสบ, ความดันโลหิต, โรคพาร์กินสัน, ไทรอยด์เป็นพิษ และความผิดปกติของสมอง อันเกิดจากการอักเสบ ขณะเดียวกัน มังคุดก็สามารถเพิ่มการหลั่งสาร "Interleukin II" ของเม็ดเลือดขาว ช่วยให้ร่างกายสามารถต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น ไวรัส เชื้อรา แบคทีเรีย หรือเซลล์มะเร็ง

    จากการร่วมวิจัยกับค่าย Henkel KGa ของประเทศเยอรมนี ทางคณะวิจัยจากศูนย์วิจัย และพัฒนามังคุดไทย ยังค้นพบด้วยว่า สารจากมังคุดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือสาร GM-1 ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโต และฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และระงับปวด โดยมีความแรงกว่ายาแอสไพรินถึง 3 เท่า จากจุดนี้เองได้มีการต่อยอดการวิจัยพัฒนาไปสู่การทำเครื่องสำอางต่างๆจาก สารสกัดเปลือกมังคุดเป็นครั้งแรกของโลก เพื่อช่วยเหลือคนที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง และอาการแพ้

    ขณะที่ใน ปัจจุบัน ทางคณะวิจัยดังกล่าวได้ร่วมมือกับเครือข่ายทางการแพทย์ในระดับนานาชาติ ทำการศึกษาถึงคุณประโยชน์ของการดื่มน้ำมังคุดสกัดเข้มข้น เพื่อช่วยเยียวยาอาการป่วยของผู้ป่วยมะเร็งขั้นสุดท้าย ซึ่งหากงานวิจัยชิ้นนี้บรรลุผลสำเร็จจริงๆ ก็น่าจะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยไปทั่วโลก

    "มังคุด" ยังมีคุณประโยชน์ดีๆอีกนับไม่ถ้วน สามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mangosteenrd.com


    ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • mungkud.JPG
      mungkud.JPG
      ขนาดไฟล์:
      41.3 KB
      เปิดดู:
      1,130
    • 1.JPG
      1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 KB
      เปิดดู:
      742
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    "สมิทธ" ชี้อีก 8 ปีกทม.ท่วมหนัก - เตือนจังหวัดอันดามันอาจเจอสึนามิอีก <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">14 สิงหาคม 2553 18:07 น.</td></tr></tbody></table>
    [​IMG]
    นายสมิทธ ธรรมสโรช


    "สมิทธ" ชี้อีก 8 ปี กทม.ท่วมแน่ เหตุระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ระบุไทยยังขาดการป้องกันภัย เตือนจังหวัดอันดามันมีโอกาสเจอสึนามิอีก แนะเตรียมใจ เตรียมสติรับภัยพิบัตินอนาคต

    นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวในงานเสวนาธรรม "เตรียมกาย เตือนใจ รับภัยพิบัติ" ครั้งที่ 2 จัดโดย ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ว่า ภาวะ โลกร้อนซึ่งทำให้หิมะละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ซึ่งจะกระทบทำให้เกิดน้ำท่วม ในพื้นที่ชายฝั่งและปากแม่น้ำของประเทศไทย รวมทั้งกรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นนทบุรี นครนายก โดยตนคาดว่า ภายใน 8 ปีเท่านั้น กรุงเทพฯ จะน้ำท่วมอย่างแน่นอน ที่น่าเป็นห่วงคือ หากน้ำทะเลท่วมเข้าไปถึงคลองประปา จะทำให้ไม่มีน้ำประปาใช้ เมื่อมองที่การแก้ปัญหา พูดได้ว่าไทยยังไม่มีมาตรการป้องกันภัยเหล่านี้ ในขณะที่เขื่อนป้องกันน้ำทะเลของประเทศเวียดนามความยาว 30 กิโลเมตร สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศก็มีการเตรียมการไว้แล้ว

    นายสมิทธ กล่าวด้วยว่า ส่วนการคาดการณ์ภัยธรรมชาติที่มาจากแผ่นดินไหว ยังไม่มีเครื่องมือใดสามารถคาดการณ์ได้ อาจเกิดได้บ่อยครั้งหรือนานครั้งก็ได้ และมีโอกาสสร้างความเสียหายได้สูง แต่เชื่อว่า 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จะต้องเกิดสึนามิอีกอย่างแน่นอน แต่ยังไม่รู้ช่วงเวลาที่จะเกิดอีก เนื่องจากมีการวิเคราะห์แล้วว่ายังมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลตามรอย เลื่อนเดิม ที่เคยเป็นต้นเหตุให้เกิดสึนามิซึ่งครั้งนั้นห่างจากประเทศไทย 1,200 กิโลเมตร แต่ครั้งนี้ที่คาดว่าจะมีโอกาสเกิดนั้น ห่างเพียง 400 กิโลเมตร เท่านั้น แต่ที่สำคัญคือต้องมีการเตรียมการเรียนรู้ที่จะอยู่กับภัยธรรมชาติ เช่นเดียวกับบรรพบุรุษของมนุษย์ที่สามารถเอาตัวรอดจากภัยพิบัติมาได้

    ด้าน พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวว่า ปัจจุบันมีภัยพิบัติทั้งทางกายภาพและทางจิตใจ ซึ่งทุกคนควรตระหนักรู้ เตรียมรับอย่างมีสติ ไม่ใช่การหลับตาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่ก็ไม่ใช่การตื่นตระหนก ดังนั้น เราควรเตรียมสติรับภัยพิบัติ และตระหนักถึงการเผชิญความทุกข์ของมนุษย์ที่เราก็มีส่วนทำให้เกิดภัยพิบัติ เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ควรมีการสร้างองค์ความรู้ให้เกิดขึ้นเพื่อถ่ายทอดต่อคนทุกกลุ่มให้เอาตัวรอด จากภัยพิบัติต่าง ๆ ได้
     
  4. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เพื่อนของเพื่อนได้โอนเงินร่วมทำบุญกับผมมา 1,000 บาท รายละเอียด...

    นายบุญช่วย หาญฟ้าเขียว ทำบุญเพื่ออุทิศแด่..คุณพ่อป้อง-คุณแม่อำนวย หาญฟ้าเขียว

    เดี๋ยวผมจะรวบรวมร่วมทำบุญปิดงานสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งกับกองทุนหาพระถวายวัดนะครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  5. ชวภณ ศ.

    ชวภณ ศ. สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +19
    คำปู่ว่าไว้"หากจะหาพระเครื่องที่มีอิทธิคุณสูสีกันกับพระกริ่งป...ที่ว่ากัน ก็มีพระกรุศรีเทพ..." อาจารย์ปู่มอบพระเครื่องกรุศรีเทพให้กับพี่แอ๊วจำนวนหนึ่งเพียง ๓๐ องค์ มอบให้ผู้ร่วมบุญปิดพระเจดีย์องค์ละ ๕๐๐ บาท หมดแล้วหมดเลย ไม่ต้องบอก หรือพรรณามากความ สนใจก็ลงชื่อตามลำดับกันไว้ ขอสงวนสิทธิ์ให้กับสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า สมาชิกคณะพระวังหน้า และ สมาชิกคณะกองทุนหาพระถวายวัด ก่อนครับ เพียงท่านละองค์เท่านั้น เผื่อคนอื่นได้รับกันทั่วๆ ผมเองก็ไม่ทราบว่าพี่แอ๊วได้บอกผู้อื่นไปมากน้อยเท่าไหร่แล้ว หากเหลือน้อยกว่าที่ลงชื่อกันตามลำดับก็ขอพิจารณาตัดลำดับท้ายๆออก วันอาทิตย์ที่ ๒๙ นี้อาจจะได้พบพี่แอ๊วที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ก็จะแจ้งให้พี่แอ๊วได้ทราบครับ ช่วงนี้พี่แอ๊วติดงานที่เซี่ยงไฮ้ expo. อาทิตย์หน้าคงกลับครับ

    ผมขอร่วมบุญด้วยครับ 1 องค์
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระกริ่งปวเรศ กับ พระกรุศรีเทพ มีความแตกต่างกันในรายละเอียดครับ


    .


    หากท่านใดที่มีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญและรับพระ ต้องไปในวันงาน คือวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม 2553 นี้ จะได้ไปรับจากมือท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร หรือ รับจากมือ พระอาจารย์นิล ครับ

    หมายเหตุ ผมจะไม่เก็บให้ใครครับ


    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [FONT=Tahoma,]เดือนพิบัติภัยไฟ-น้ำ ตรงคำพยากรณ์โลกร้อน

    ข่าวสดออนไลน์

    <table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>หายนภัยธรรมชาติทั้งจาก ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ กลับมาเล่นงานหลายๆ ประ เทศอยู่ในตอนนี้

    โดยเฉพาะในปากีสถานและจีนที่เจอกระแสน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม ส่วนรัสเซีย ไฟป่าโหมกินพื้นที่ขยายอาณาเขตออกไป

    สถานการณ์ ร้ายแรงที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิน ความคาดหมายของนักวิทยาศาสตร์ ประจำองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ในนครเจนีวา ซึ่งพยากรณ์ไว้แล้วว่า ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมเป็นช่วงที่อากาศแปรปรวนอย่างหนัก และหนักกว่าเดิม จะเกิดภัยพิบัติใหญ่หลวงตามมา

    แม้ว่า เหล่านักวิทยาศาสตร์จะไม่ชี้ชัดว่า ภัยธรรมชาติร้ายแรงนี้เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อนโดยตรง แต่ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพยากรณ์ภัยธรรมชาติร้ายแรง เพื่อบรรเทาความเสียหายให้ลดลง

    กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นัดประชุมกันใน เดือนนี้และเดือนหน้าที่ยุโรปและสหรัฐ ในเวที IPCC ที่ประชุมของสหประชาชาติ ที่มีรัฐบาลสหรัฐและอังกฤษสนับสนุน

    "จะเสียเวลาไม่ได้อีกแล้ว" เป็นคำพูดตอกย้ำจากนายปีเตอร์ สต็อต นักอากาศวิทยาของรัฐบาลอังกฤษ ว่า นานาประ เทศจะต้องมีอุปกรณ์ที่รับมือกับภัยของภาวะโลกร้อน

    สถานการณ์ ในปากีสถานตอนนี้ จากพื้นที่หุบเขาสว็อต ในภาคเหนือถึงจังหวัดสินธ์ในภาคใต้ มีชาวปากีสถานได้รับผลกระทบจากอุทกภัยแล้ว 15 ล้านคน

    สำนักงานพิบัติภัยแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตราว 1,343 ราย บาดเจ็บ 1,588 ราย ทางการ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ 352,291 ราย
    <table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>

    บ้านเรือนเสียหายไปมากกว่า 722,600 หลัง คิดเป็น 4,600 หมู่บ้านเสียหายและถูกทำลาย

    แม้ ยอดผู้เสียชีวิตจะต่ำกว่าหายนภัยอื่นๆ แต่จำนวนที่ชาวปากีสถานได้รับผลกระทบกว่า 15 ล้านรายนั้น มากพอๆ กับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปี 2548 สึนามิ เมื่อปี 2544 และแผ่นดินไหวที่เฮติ เมื่อต้นปี 2553 นี้รวมกัน

    ขณะที่ฝนยังคงตก หนักต่อไป แม่น้ำอินดัสมีระดับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทะลักล้นฝั่งในจังหวัดสินธ์ ซ้ำเติมพื้นที่ประสบภัยให้ร้ายแรงไปกว่าเดิม และอาจขยายพื้นที่ท่วมมากกว่าเดิม ทำลายพืชผลการเกษตรและสิ่งปลูกสร้างมากมาย

    กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ระดับน้ำในแม่น้ำที่ท่วมนั้นท่วมสูงมาก และสูงเป็นพิเศษ

    สิ่งที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหวั่นใจว่าจะตามมา คือการเสียชีวิตระลอกที่สอง จากน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค หากการกู้ภัยเป็นไปไม่ทันการณ์

    ตอนนี้มีประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้อง การน้ำสะอาด

    โม ริซิโอ จูเลียโน่ โฆษกฝ่ายปฏิบัติการมนุษยธรรมของสหประ ชาชาติ กล่าวว่า ชาวบ้านจำเป็นต้องอาศัยน้ำดื่มน้ำใช้จากบ่อ สายน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคจากศพและซากสัตว์ต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วมตาย



    ไม่ต้องพูดถึงความเสียหายในไร่นา ที่แม้ยังเร็วเกินไปที่จะดีดลูกคิด แต่คาดว่าอยู่ที่หลักพันล้านดอลลาร์
    <table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>

    จาก ความเสียหายทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร ที่ทางสหประชาชาติเปิดขอความช่วยเหลือจากนานาประเทศแล้ว เป็นค่าบรรเทาทุกข์ 460 ล้านดอลลาร์

    สหรัฐประกาศเพิ่มให้อีก 20 ล้านดอล ลาร์ จากที่สัญญาไว้ 35 ล้านดอลลาร์

    อังกฤษ อดีตเจ้าอาณานิคมของปากี สถาน ให้ 50 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึง เต็นท์ ภาชนะ บรรจุน้ำ และผ้าห่ม

    จอห์น โฮล์มส์ ปลัดกิจกรรมบรรเทา ทุกข์สหประชาชาติ กล่าวว่า ภัยพิบัติครั้งนี้ร้ายแรงมากที่สุดที่ประเทศหนึ่งเผชิญในช่วงไม่กี่ปีที่ ผ่านมา

    ด�าน นายไซเอ็ด ยูซุฟ ราซา กิลานี นายกรัฐมนตรีปากี สถาน ที่เดินทางไปเยือนจังหวัดบาโลจิสถาน กล่าวว่า รัฐบาลจะหมุนเงินด้านโครงการพัฒนาต่างๆ มาใช้ช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยแทน

    "ชาวปากีสถานต้องอดทนเพื่อเอา ชนะปัญหา แม้ว่าครั้งนี้เป็นหายนะทางธรรม ชาติที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 80 ปี จากผลกระทบที่กว้างขวาง แต่ชาวปากีสถานต้องเผชิญกับมันอย่างกล้าหาญ"

    ขณะ ที่กองทัพปากีสถานใช้เฮลิคอป เตอร์ 55 ลำ เรือ 621 ลำ สำหรับการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์ สถานการณ์ดังกล่าวถูกโยงไปเป็นประเด็นทางการเมืองด้วย

    ประธานาธิบดี อาซีฟ อาลี ซาร์ดารี ถูกวิจารณ์อย่างหนักที่ไม่รีบกลับจากอังกฤษและฝรั่งเศสมาดูแลสถานการณ์ใน ประเทศปล่อยให้ผู้ประสบภัยทุกข์ร้อนสาหัสสา กรรจ์จากภัยธรรมชาติร้ายแรง

    สุดท้ายประธานาธิบดีซาร์ดารีเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยที่เมืองสุกกูร์ ริมแม่น้ำอินดัส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา



    สําหรับจีน หลังจากพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้เผชิญอุทกภัยไปถ้วนหน้า ภาคตะวันตกเฉียงเหนือก็ถูกฤทธิ์เดชพายุฝนฟ้าคะนองตามมา

    ภายในสัปดาห์เดียว ยอดผู้เสียชีวิตในมณฑลกานซู พุ่งไปแล้วเกิน 1,100 ราย สูญหายอีก 600 ราย

    หลังจากฝนชะเอาดินโคลนบนเทือกเขาไหลลงมาพร้อมกระแสน้ำทับหมู่บ้านราบเป็นหน้ากลองไปอย่างน้อย 3 หมู่บ้าน

    ทั้ง ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาและนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ต้องลงมาสั่งการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์ด้วยตนเอง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีเหวินที่รีบรุดเข้าไปในพื้นที่เขตโจวฉู

    จากรายงานของ IPCC เมื่อปี 2550 ฝนที่ตกในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เพิ่มขึ้นแล้วร้อยละ 33 จากปี 2504

    ส่วนปากีสถาน พื้นที่ภาคเหนือมีฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา

    ดังนั้น จึงคาดไว้แล้วว่า ภูมิภาคเอเชีย จะเกิดอุทกภัยมากขึ้นในศตวรรษนี้

    แต่คำพยากรณ์ที่แม่นยำ ยังไม่ได้ช่วยบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นในตอนนี้

    ˹ѧ��;������ʴ�͹�Ź� : �ú�ء�� ʴ�ء����ͧ

    ˹ѧ��;������ʴ�͹�Ź� : �ú�ء�� ʴ�ء����ͧ
    .

    [/FONT]
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รู้เท่าทันป้องกันลุกลาม 'ข้อไหล่ติด' โรคใกล้ตัวพึงระวัง!!


    อวัยวะ ทุกส่วนใน ร่างกายต่างมีความสำคัญ ข้อไหล่ติด เป็นอีกอาการความเจ็บป่วยที่ ส่งผลต่อการดำเนินชีวิต อีกทั้งยังสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจซึ่งในอาการดังกล่าวหากมองข้ามอาจลุกลาม กลายเป็นปัญหาใหญ่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย!!

    อาการข้อ ไหล่ติดหรือโรคข้อไหล่ยึดติด ลักษณะดังกล่าวเป็นอาการที่รองลงมาจากการปวดคอ ปวดหลัง ดังนั้นการรู้หลักสังเกตตนเองนับแต่เริ่ม มีอาการเจ็บหัวไหล่ช่วงแรก การดูแลสุขภาพปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนสำคัญที่จะช่วยป้องกันก่อนต้องเผชิญกับอาการข้อไหล่ ติด

    ดร.มนต์ทณัฐ โรจนาศรีรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ไคโรเมด สหคลินิกและโฆษกสมาคมการแพทย์ไคโรแพรคติกแห่งประเทศไทย ให้ความรู้ว่า อาการข้อไหล่ติดมักพบหลังจากมีการเจ็บของข้อไหล่ซึ่งอาจเจ็บอยู่เป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือนและเมื่ออาการทุเลาลงจะตามมาด้วยอาการยกแขนไม่ขึ้นหรือยกแขน แต่ละครั้งจะรู้สึกติดขัดการใช้ชีวิตประจำวันอาจไม่เหมือนเดิม

    ไหล่ ติด ถึงแม้จะเป็นอาการที่รองลงมาจากการปวดคอปวดหลัง แต่ในแง่ของการดูแลหรือสาเหตุของปัญหามาจากสิ่งเดียวกันคือ ลักษณะโครงสร้างที่อาจจะผิดรูป ลักษณะการใช้งานที่ผิดวิธี ซึ่งลักษณะของอาการในเบื้องต้น การขยับของไหล่จะค่อนข้างลำบาก มีอาการเจ็บโดยแรก ๆ อาจจะเจ็บไม่มากเท่าไหร่มีความรู้สึกเหมือนกับไหล่ขัด ลักษณะการเคลื่อนไหวก็จะน้อยลงกว่าปกติ

    แต่ หากปล่อยทิ้งไว้ 2-3 เดือนอาการก็อาจกำเริบมากขึ้น อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นและด้วยอาการปวดที่รุนแรงอาจทำให้ไม่อยากขยับซึ่งการ ไม่ขยับเคลื่อนไหวจะทำให้เกิดการเชื่อมติดแข็งยิ่งขึ้นซึ่งผู้ที่กำลังเผชิญ กับภาวะไหล่ติดเบื้องต้นอาจจะยกแขนได้อยู่บ้างหากมี ผู้ช่วยให้ขยับ แต่ก็จะมีอาการเจ็บค่อนข้างรุนแรง

    เมื่อเป็นเช่นนี้คนไข้ก็จะไม่ อยากยกแขนขยับเคลื่อนไหว พอไม่ขยับก็จะเกิดอาการเชื่อมติดของไหล่ยิ่งขึ้นเพราะ เป็นลักษณะอาการอักเสบของเยื่อหุ้มข้อไหล่หรือบริเวณกล้ามเนื้อที่หุ้มข้อ ไหล่อยู่และเมื่อเกิดลักษณะการอักเสบขึ้น ก็พัฒนากลายเป็นเยื่อพังผืด แนวกล้ามเนื้อก็จะสูญเสียการ เคลื่อนไหวหรือการยืดหยุ่นที่ถูกต้องไป พอกล้ามเนื้อไม่ขยับหรือไม่ยืดหยุ่นก็จะขยับไม่ได้ก็จะมีอาการของการติดขัด ในส่วนนั้น

    “แต่อย่างไรก็ตามถ้าปล่อยทิ้งไว้อาการปวดจะค่อย ๆ ลดลงได้เอง แต่คงต้องใช้ระยะเวลาซึ่งก็แล้วแต่สาเหตุ ไหล่ติดเกิดได้จากหลายปัจจัยนับแต่เรื่องของการเล่นกีฬาผิดวิธี อุบัติเหตุ รวมถึงลักษณะอาการที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บเนื้อเยื่อรอบข้อไหล่และอีกสิ่ง หนึ่งที่เป็นต้นเหตุ แต่อาจมองข้ามกันนั่นก็คือ ลักษณะโครงสร้างที่ผิดรูป”

    ลักษณะ โครงสร้างสามารถมีผลกระทบได้นับแต่ฝ่าเท้า ข้อเท้า เข่า ตะโพก หลัง ต้นคอ ไหล่ไปแทบทุกส่วนเรียกว่า ถ้าหากไม่ปรับเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมก็จะส่งผล ลักษณะไหล่ติดก็มีความเชื่อมโยงกับการ ที่มีโครงสร้างผิดสมดุลและใน โครงสร้างที่ผิดสมดุลก็ทำให้เกิดอาการในหลายส่วนได้

    “ถ้ามีโครง สร้างที่ผิดรูป อย่างหลังค่อมซึ่งหลังค่อมจะหมายถึงลักษณะศีรษะมีการทิ้งถ่วงมาทางด้านหน้า มาก น้ำหนักของศีรษะที่ทิ้งมาทางด้านหน้าจะทำให้เกิดการแบกรับน้ำหนักที่ก้านคอ ในจุดนี้มากกว่าปกติ การทำงานของกล้ามเนื้อที่ช่วยพยุงโครงสร้างจะมีการหดเกร็งมากเกินไป

    สังเกต ได้ว่าคนที่มีลักษณะอาการดังกล่าวกล้ามเนื้อต้นคอ บ่าไหล่จะเกร็งแข็ง นานวันเข้าจากเรื่องของอาการปวดกล้ามเนื้อธรรมดาก็ส่งผลทำให้เกิดการเสื่อม สภาพของแนวกระดูกและข้อ ท้ายที่สุดเมื่อเกิดการเสื่อมสภาพเกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบในแนวของเส้นประสาท ซึ่งแนวกระดูกสันหลัง มีสามส่วนคือ กระดูกและข้อ เนื้อเยื่ออ่อนเส้นเอ็นยึดกล้ามเนื้อและแนวเส้นประสาท ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นก็สามารถกระทบได้ทั้งสามส่วนเพราะอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ เคียงกัน”

    ส่วนถ้าช่วงลำตัวมีลักษณะการแอ่นผิดรูป ลักษณะเท้าแบน การลงน้ำหนักของฝ่าเท้าก็จะผิดตำแหน่ง พอการรับน้ำหนักไม่สมดุลก็ส่งผลทำให้เกิดการสึกกร่อนของหมอนรองกระดูกบริเวณ ข้อเข่าได้ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพและก้าวไปสู่ ข้อเข่าเสื่อม ในที่สุด ดังนั้นในเรื่องนี้อย่ามองเพียงแค่ว่าเป็นข้อเข่าเสื่อม แต่ ควรมองถึงสาเหตุที่แท้จริงและควรต้องแก้ไขรักษาในส่วนนั้นร่วมด้วย

    สัญญาณ เตือนในเรื่อง ของไหล่ติดอย่าง ที่กล่าว อาการเริ่มต้นคือ อาการปวด ขยับแล้วเจ็บและอาจจะมีอาการของการยืดเหยียดแขนได้ไม่สุดหรือไม่ดีเท่าที่ ควร มีอาการเจ็บ แปลบ ๆ ที่หัวไหล่ ฯลฯ ซึ่งก็จะเป็นสัญญาณแรก ที่แจ้งว่าอาจกำลังเผชิญภาวะไหล่ติด เหยียดไหล่ไม่สุด

    การดูแล ป้องกันเพื่อให้หลีกไกลจากภาวะไหล่ติดก็คงต้องแบ่งเป็นในเรื่องของ โครงสร้าง หากทราบว่าหลังค่อมก็ ต้องพยายามอย่าให้หลังค่อม หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ ไหล่บิด การยกของหนัก ที่สำคัญ ไม่ควรละเลยการออกกำลังกายสม่ำเสมอในท่วงท่าที่ช่วยพยุงหัวไหล่

    อีก ทั้งควรหลีกเลี่ยงการสะพายของหนัก หิ้วของหนักตลอดเวลา หรือนอนเท้าแขน ฯลฯ ซึ่งก็อาจทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ได้ แต่อย่างไรแล้ว หากมีอาการปวดเพิ่มมากขึ้นไม่ควรนิ่งนอนใจควรได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่าง ละเอียดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

    ขณะที่ไหล่ติดเป็นโรคที่อยู่ใกล้ชิด เกิดขึ้นกับเราได้ตลอดเวลา หากรู้อย่างเท่าทันดูแลสุขภาพ แต่เนิ่น ๆ ก็จะช่วยให้ไกลห่างจากความเจ็บป่วยดังกล่าวได้.

    สรรหามาบอก

    - สมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทย เชิญชวนประชาชนและผู้สนใจทั่วไปเข้าฟังบรรยายพิเศษภาคประชาชนเรื่อง “ร่วมพลังเอาชนะมะเร็งเต้านม” จากคณะแพทย์ผู้ เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเต้านม ใน วันพุธที่ 18 สิงหาคม 2553 เวลา 16.30-18.30 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมเจ้า พระยาปาร์ค ถนนรัชดาภิเษก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ สนใจสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 08-5243-3500

    - ไคโรเมด สหคลินิก ขอเชิญผู้สนใจร่วมสัมมนา “Active Therapy แนวคิดใหม่ในการรักษาอาการปวดคอ ปวดหลังแบบไม่ผ่าตัด” พร้อมตรวจโครงสร้างร่างกายและ ตรวจ InBody ในวันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2553 เวลา 13.00-16.00 น. ณ ไคโรเมด สหคลินิก ชั้น 3 อาคารแบงคอลเมดิ เพล็กซ์ (BTS เอกมัย) สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูล โทร. 0-2713-6745-6

    - โรงพยาบาลมนารมย์ ขอเชิญพ่อแม่ผู้ปกครองที่สนใจรับฟังบรรยายและร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปใน “หลักสูตร พ่อแม่รับมือเด็กดื้อ เด็กซน เด็กสมาธิสั้น ได้อย่างถูกวิธี” ระหว่างวันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม ถึง เสาร์ที่ 11 กันยายน 2553 เวลา 09.00-12.00 น. จำนวน 4 ครั้ง ผู้ปกครองท่านใดสนใจต้องการเข้าร่วมอบรมสอบถามข้อมูล โทร. 0-2725-9595, 0-2399-2822 ต่อ 544 (ด่วน! รับจำนวนจำกัด)

    - มูลนิธิรามาธิบดี ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดย ศ.พญ. สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ รองประธานบริหารมูลนิธิรามา ธิบดีฯ และประธานโครงการหน่วยจัดการความรู้เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพผู้บริหาร มูลนิธิรามาธิบดีฯ ร่วมกับ มูลนิธิเผยแผ่ศาสนาและพัฒนาคุณภาพชีวิต กระทรวงวัฒนธรรม โดย สมาน คุณากรไพบูลย์ศิริ เลขานุการมูลนิธิเผยแผ่ศาสนาฯ จัด “โครงการเผยแผ่ศาสนาและพัฒนาคุณภาพชีวิต” ขึ้น โดยลักษณะของโครงการเป็นกิจกรรมฝึกอบรมด้านศาสนา คุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม มารยาทชาวพุทธและค่ายวิทยาศาสตร์แนวพุทธศาสตร์ นิทรรศการวิทยาศาสตร์ รวมทั้งจัดอบรมความรู้เรื่องเพศศึกษาและยาเสพติดให้แก่นักเรียน เพื่อให้เยาวชนปลอดจากการติดยาเสพติด มีความประพฤติและค่านิยมในการดำรงชีวิตที่เหมาะสม สร้างจิตสำนึก สร้างภูมิต้านทานให้กับตนเองด้วยคุณธรรม ทั้งนี้เพื่อเผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปสู่เยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ห่างไกลความเจริญ มีระยะเวลาการดำเนินการ ตั้งแต่ พ.ศ. 2553-พ.ศ. 2554.

    กินขนมไทยตามธาตุหลังอาหาร...ช่วยระบบย่อยทำงานดี

    ขนม ไทยที่เรารู้จักมีมากมายหลากหลายชนิด ซึ่งส่วนใหญ่มีส่วนผสมหลัก ได้แก่ น้ำตาล แป้ง และกะทิ ที่สาว ๆ บางคนเห็นแล้วต้องเบือนหน้าหนี แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน และหากเราเพิ่มความใส่ใจในการเลือกรับประทานขนมไทยสักนิด นอกเหนือจากรสชาติที่หวานอร่อยแล้วทราบหรือไม่ว่าการรับประทานขนมไทยหลัง อาหารและตามธาตุเกิดก็ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพได้เช่นกัน

    ความหวาน ของน้ำตาลนอกจากจะเป็นตัวเสริมช่วยเพิ่มรสชาติให้ ขนมไทยมีรสชาติดีแล้วยังสามารถช่วยถนอมอาหารได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ที่สำคัญคนโบราณนิยมรับประทานขนมไทยหลังอาหาร เนื่องจากน้ำตาลซึ่งเป็นแป้งโมเลกุลเดี่ยวจะสามารถช่วยย่อยอาหารที่รับ ประทานเข้าไปได้เป็นอย่างดีและหากเราเลือกรับประทานตามธาตุของตนเองด้วยยิ่ง เป็นการเสริมธาตุในร่างกายให้ดียิ่งขึ้นด้วย ซึ่งธาตุของแต่ละคนจะแตกต่างกันและแบ่งออกมาตามลักษณะเด่นของร่างกาย ตลอดจนนิสัยใจคอของคนเราที่แตกต่างกัน

    การเลือกขนมไทยที่อิ่ม อร่อยและมีสุขภาพดีตามธาตุ แบ่งออกได้ดังนี้ ธาตุดิน (ผู้ที่เกิดเดือน ม.ค.,พ.ค. และ ก.ย.) มักมีปัญหาเกี่ยวกับระบบน้ำย่อย เนื่องจากเป็นธาตุที่หนักแน่น จึงควรเลือกรับประทานอาหารที่มีเส้นใยและไฟเบอร์สูง โดยขนมไทยที่เหมาะกับคนธาตุดิน ได้แก่ สาคูไส้หมู,ข้าวเกรียบปากหม้อ ที่รับประทานคู่กับผักสด ๆ เป็นการเพิ่มเส้นใยให้ร่างกาย หรืออาจจะเลือกรับประทานขนมไทยที่มีส่วนผสมของผลไม้และธัญ พืชด้วย เช่น ถั่วเขียวหรือถั่วแดงต้มน้ำตาล

    ธาตุลม (ผู้ที่เกิดเดือน ก.พ., มิ.ย. และ ต.ค.) ระบบภายในร่างกายมีความเป็นกรดมาก ทำให้ร่างกายมีช่องว่างของอากาศ ควรเลี่ยงรับประทานอาหารหรือขนมที่มีส่วนผสมของกะทิ เช่น บัวลอย, ปลากริมไข่เต่า และขนมหวานประเภท แกงบวดต่าง ๆ ที่มักใช้กะทิในปริมาณ มาก ๆ ส่วนธาตุน้ำ (ผู้ที่เกิดเดือน มี.ค., ก.ค., พ.ย.และ ธ.ค.) ร่างกายจะมีความชื้นและเย็น ควรเลือกรับประทานขนมจำพวกให้ความหวานและร้อนแก่ร่างกาย โดยขนมไทยที่เหมาะกับคนธาตุน้ำ ได้แก่ มันเทศต้มน้ำขิง, ไข่ต้มน้ำขิง ฯลฯ หรือขนมไทยที่ให้รสชาติเผ็ดร้อน เพราะความเผ็ดร้อนในขนมจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ช่วยขับเหงื่อ ขับลม ในกระเพาะอาหารและสำไส้ แก้อาการจุก เสียด แน่น เฟ้อ ได้ด้วย

    ธาตุไฟ (ผู้ที่เกิดเดือน เม.ย. และ ส.ค.) ร่างกายจะมีระบบเผาผลาญในร่างกายดีมาก สามารถเลือกอร่อยกับขนมไทยได้หลากหลาย แต่ถ้าจะเลือกรับประทานขนมไทยเพื่อช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายสามารถรับประทาน ขนม ไทยคู่กับน้ำแข็งได้ เช่น ขนมลอดช่อง, กระท้อนลอยแก้ว ฯลฯ

    การ ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงนั้นจำเป็นที่ต้องดูแลจากภายในสู่ภายนอก ดังนั้นการเลือกรับประทานขนมไทยให้ถูกกับธาตุ นอกจากจะอิ่มอร่อยแล้วยังสามารถช่วยส่งเสริมธาตุในร่างกายให้สมบูรณ์ยิ่ง ขึ้นเพื่อสุขภาพที่ดีอีกด้วยค่ะ.

    ทีมวาไรตี้

    Daily News Online > หน้าวาไรตี้ > รู้เท่าทันป้องกันลุกลาม 'ข้อไหล่ติด' โรคใกล้ตัวพึงระวัง!!

    .


    .
     
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มีข้อมูลบางอย่างคลาดเคลื่อนครับ

    1) ไม่ทราบว่า ทางชมรมฯไปบ้านอ.จ.ปู่วันเสาร์ 28 หรืออาทิตย์ 29ครับ (ปกติเคยเป็นอาทิตย์ แต่เลื่อนมาเสาร์ เนื่องจากสมาชิกที่มีจิตศรัทธาแรงกล้าบางท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด คุณหนุ่มเลยเห็นใจในเรื่องของการเดินทางเลยเลื่อนมาเป็นวันเสาร์แทน) ครั้งนี้เห็นคุณหนุ่ม post ว่าวันอาทิตย์ไปรับพระจากมืออ.จ.ปู่ เลยขอยืนยันอีกครั้งครับ

    2) พระกรุศรีเทพ เท่าที่คุยกับพี่แอ๊วเมื่อวันจันทร์ที่ 9 ก่อนเดินทางไปงานเซี่ยงไฮ้ expo. วันที่ 10 อ.จ.ปู่ได้มอบพระกรุศรีเทพให้พี่แอ๊วมาแล้วไม่ใช่หรือครับ

    3) พี่แอ๊วมีกำหนดการเลี้ยงพระที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ บางเขน วันอาทิตย์ที่ 29 จึงไม่น่าจะมีโอกาสเดินทางไปที่บ้านอ.จ.ปู่

    ขอยืนยันอีกครั้งครับคุณหนุ่ม เพื่อให้เพื่อนๆสมาชิกได้ทราบทั่วกันว่าจะไปทำบุญรับพระเพื่อโครงการปิดพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งได้ที่ไหน และเมื่อไหร่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2010
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    รวม 8 หรือ9 องค์ตามอ้างอิงข้างบน คุณpsombat ขอรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยครับ ส่วนรายละเอียดอื่นรอคุณหนุ่มมาบอกเล่าให้ฟังเพิ่ม
    เติมเกี่ยวกับการรับพระ

    1 ) คุณNatachai 1 องค์
    2 ) คุณchantasakuldecha 1 องค์
    3 ) คุณpsombat 1 องค์
    4 ) คุณnongnooo 1 องค์
    5 ) คุณแหน่ง+พี่เบิ้ม 2 องค์
    6 ) คุณjirautes 1 องค์
    7 ) บุญช่วย หาญฟ้าเขียว (เพื่อนของเพื่อนของคุณpsombat) ทำบุญเพื่ออุทิศแด่..คุณพ่อป้อง-คุณแม่อำนวย หาญฟ้าเขียว ไม่ได้บอกว่าจองหรือไม่ได้จอง และกี่องค์
    8 ) คุณชวภณ ศ.1 องค์
     
  11. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เรียนพี่เพชร

    ไม่ได้จองเพิ่มครับ คิดว่าจะให้เป็นไปตามกติกาคือคนละองค์ก่อน ถ้าพระเหลือถึงจะพิจารณาอีกทีครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    งานของกองทุนหาพระถวายวัด จะจัดขึ้นวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2553

    ส่วนงานผ้าป่าของ สนส.ผาผึ้ง จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม 2553

    พระกรุศรีเทพ ท่านอาจารย์ประถม ท่านถวายพระอาจารย์นิลแ้ล้วครับ น่าจะอยู่กับพระอาจารย์นิล หรือพี่แอ๊ว

    วันนี้ ผมได้ไปชลบุรี ไปสอบถามท่านอาจารย์ประถมว่า ในวันงานผ้าป่า ท่านจะเดินทางมาหรือไม่ ท่านบอกว่า สุขภาพไม่ค่อยดี ท่านว่าจะไม่มาครับ

    สำหรับท่านที่จองพระกรุศรีเทพไว้ ขอให้เดินทางไปร่วมงานผ้าป่าที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน ด้วย เพราะว่าทำบุญแล้วจะได้รับพระไปเลย ผมขอไม่รับแทนใครครับ

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มีเรื่องมาเล่า

    วันนี้ ผมได้เป็นผู้ที่นั่งโม้ เรื่องของพระวังหน้า ให้กับ Dr. 2 ท่านฟัง

    วันนี้ ได้เห็นพระวังหน้าและหยก กี่รุ่น กี่องค์กันครับ

    อ่า ท่านDr. ครับ ตกลงว่า ดีป่าวครับ แรงป่าวครับ อิอิ


    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 28 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 23 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, :::เพชร:::+, chantasakuldecha+, nongnooo+, psombat+</td></tr></tbody></table>
    สวัสดีทุกๆท่านครับ

    .
     
  15. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หุ..หุ..Dr. แอบไปพบเจออ.จ.ปู่ด้วยหรือ ปกติคุณวุฒิ Dr. นี่เชื่อคนยากครับ อย่าว่าแต่เรื่องคนเลย เรื่องลี้ลับยิ่งไปกันใหญ่ ดีป่าว แรงป่าวนี่ น่าจะได้รับของดีจากคุณหนุ่มไปมั่งละ...
     
  16. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ใกล้ครบเลยนะครับ หุ หุ
     
  17. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผมหายสับสนแล้วครับ ตอนแรกคิดว่าทางชมรมเลื่อนมาพบกันวันอาทิตย์ จะได้พบกัน เนื่องจากว่าตารางเรียนเทอมนี้วันเสาร์เรียนเต็มวัน ส่วนวันอาทิตย์เรียนเต็มวัน แต่สลับอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ค่อนข้างมึนงงครับ อาทิตย์ที่ 29 นี้เลยว่าง กอปร์กับมีธุระย่านงามวงศ์วาน พงษ์เพชรก็เลยพลอยฟ้าพลอยฝนไปร่วมงานผ้าป่าสนส.ผาผึ้งกันได้
     
  18. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ขาดน้องรักหรือครับ รายนี้เขาตะรอนตามกระทู้ต่างๆ สนุกดี..555555
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    วันนี้ ผมไม่ได้นำพระไปให้ชม

    ผมนำไปฝากท่านอาจารย์ประถม และส่วนของพี่เปี๊ยกครับ

    .
     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนได้บอกคุณน้องนู๋ไปว่า จากนี้ไปพระกรุ...น่าจะออกมาเยอะ เพราะสาเหตุน้ำลดตอผุด...

    วันนี้พี่ไฟดูดโทรมาคุยเรื่องนี้ แปลกดีครับ..อะไรจะ hot ขนาดนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...