พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เห็นคุณ Natachai เข้าไปคุ้ยๆดูกระทู้หยก 12 นักษัตร ซึ่งกระทู้หลบไปหลายหน้า ยังอุตส่าห์ไปขุดหาสมบัตินะ หุ..หุ..ว่าแต่ชุดหยกที่กองทุนหาพระฯไป 300 องค์ รวมชุดหยกนี้เข้าไปด้วยหรือเปล่าครับ?????
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า วันนี้วันแรก ห้อยแม่นางกวัก(ของวังหน้า)มา เหน็บใส่กระเป๋าเสื้อ

    กลางวันไปซื้อขนมเทียน จะไหว้หลวงปู่ฯ และ ไหว้เจ้าที่พรุ่งนี้ ผมซื้อแค่ 20 อันๆละ 5 บาท รวม 100 บาท แม่ค้าแถมให้อีก 1 อัน

    ตอนบ่าย มีไอศครีมมาขายหน้าที่ทำงาน ผมซื้อทาน ,เลี้ยงเพื่อน และเลี้ยงลูกค้าอีก 2 ท่าน ปรากฎว่า เจ้านายผมเดินออกมาจากห้อง มาหาคนขายไอศครีม บอกว่า หนุ่มๆ ไม่ต้อง เดี๋ยาผมจ่ายให้เอง ปกติแล้วไม่เคยเลี้ยงเลย ไปคุยกับเพื่อนๆ เพื่อนๆยังบอกว่า สงสัยฝนจะตกหนักแน่วันนี้

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไม่มีครับ

    ชุด 12 นักษัตร จะหาได้ยากในตอนนี้


    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 18 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 15 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+, psombat+ </TD></TR></TBODY></TABLE>



    เอ่อ คุณ:::เพชร::: นำมาให้ชมด้วยสิครับในวันงานผ้าป่ามหากุศล สนส.ผาผึ้ง ยังมีอีกหลายๆท่าน อยากเห็น รวมทั้งน้องpsombat ด้วย

    ท่านใดอยากชม ลองช่วยกันขอร้องคุณ:::เพชร::: กันครับ

    คุณ:::เพชร::: ใจดี นำมาให้ชมกันอยู่แล้วครับ


    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    น้ำมันพืช ข้าว เครื่องปรุงอาหาร เตรียมขึ้นราคา


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


    ภายหลังจากมาตรการตรึงราคาสินค้าตามนโยบาย นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายน 2553 ทางผู้ประกอบการผลิตสินค้าต่าง ๆ ก็มีทีท่าเตรียมขอปรับราคาสินค้านั้น

    ล่าสุดวันที่ 22 สิงหาคม กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ขณะนี้วงการผู้ค้าส่งอ้างว่าการอนุมัติปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ ทำให้ผู้ผลิตสินค้าบางรายการอาจปรับขึ้นราคาสินค้า โดยสินค้าที่เตรียมปรับราคารับปีใหม่ 2554 เช่น น้ำมันพืช ข้าวสาร เครื่องปรุงอาหาร อาหารบรรจุกระป๋อง

    ขณะที่ นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาข้าวในประเทศในอีก 3-4 เดือนนี้ หรือภายในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ อยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้ผู้ผลิตข้าวสารบรรจุถุงอาจต้องปรับขึ้นราคาข้าวถุงอีกกิโลกรัมละ 2-3 บาท หรือขนาดบรรจุถุง 5 กิโลกรัม ปรับอีกถุงละ 10-15 บาท จากปัจจุบันข้าวสารเจ้ากิโลกรัมละ 10-12 บาท ซึ่งที่ผ่านมาราคาข้าวถุงในประเทศถือว่าต่ำสุดแล้ว


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ไทยรัฐ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แฉ!อาชีพใหม่ถูกใจนักดื่ม" เด็กเสิร์ฟ"รับจ้างขับรถให้คนเมาฝ่าด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์รับคืนละ3-5พัน


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้เกิดอาชีพใหม่ที่ไม่ถูกใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ถูกใจนักดื่มนั่นคืออาชีพรับจ้างขับรถให้คนเมาฝ่าด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมักมาตั้งด่านรายรอบแหล่งบันเทิงยามราตรีชื่อดังทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในคืนวันศุกร์และเสาร์ ผู้ให้บริการก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเด็กเสิร์ฟและเด็กรับรถประจำผับบาร์นั่นเอง เมื่อขับผ่านด่านตรวจแล้วจึงขับรถเองต่อไป บางรายเมาหนักก็ให้เด็กขับรถไปส่งถึงที่บ้าน สนนราคาค่าจ้างครั้งละ 300-500 บาท โดยนักดื่มขาประจำจะรู้กันเป็นการภายในกับเด็กเสิร์ฟ และเด็กรับรถ


    "บาส" (ขอสงวนชื่อ นามสกุล) เด็กรับรถของร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งย่านเกษตร-นวมินทร์ เปิดเผยว่า รับจ้างขับรถให้ลูกค้าขาเมาผ่านด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์มาได้ 3 เดือนกว่า เพราะจะรู้ดีว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะตั้งด่านตรงจุดไหน อาชีพขับรถผ่านด่านตรวจเพิ่งมามีรายได้ดีอีกครั้งหลังจากบ้านเมืองสงบ ไม่มีการชุมนุม เหมือนกับนักเที่ยวอั้นไว้ พอเที่ยวได้ก็ดื่มกินกันอย่างเต็มที่ พอดีกับตอนนี้ด่านตรวจเยอะมาก จึงทำให้มีรายได้ดีกว่ารายได้เด็กรับรถหรือเด็กเสิร์ฟอีก


    " ที่ร้านพวกนักเที่ยวเขาจะรู้กันเลยว่ามีบริการแบบนี้ เขาก็ดื่มกันจนร้านปิด พอเมาจะกลับบ้านหรือจะไปต่อที่ไหน เขาจะเช็คจากที่ร้านก่อนว่าวันนี้มีด่านไหม ถ้ามีก็จ้างผมขับแล้วทำเหมือนเป็นเพื่อนมาเที่ยวด้วยกัน คืนหนึ่งได้ 2-3 ราย เฉลี่ยรายได้ตกคืนละ 1,000-2,000 บาท " บาสกล่าว


    อีกหนึ่งแหล่งสถานบันเทิงย่านพระราม 5 "บอย " เด็กรับรถที่หันมาเอาดีทางด้านขับรถผ่านด่านตรวจ กล่าวว่า รายได้วันธรรมดาต่อคืนอยู่ที่หลัก 2,000 บาท ส่วนช่วงวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ นักเที่ยวมามาก รายได้ดีคืนละ 3,000-5,000 บาท วิธีการขับรถรับจ้างผ่านด่านตำรวจก็ไม่ยาก หลังจากตกลงราคากับนักเที่ยวเรียบร้อย จะขับรถออกมาด้วยกัน โดยนักเที่ยวจะนั่งมาด้วย พอผ่านด่านตำรวจประมาณ 200 เมตร นักเที่ยวจะขับรถต่อไปตามปกติ ส่วนตนจะนั่งรถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนที่จอดรออยู่กลับมาที่ร้านอาหารรอนักเที่ยวคนอื่นต่อไป


    "ตำรวจเขารู้ แต่ไม่รู้จะเอาผิดอย่างไร เพราะคนขับไม่ได้เมา ตำรวจบางคนจำหน้าผมได้ว่าขับรถผ่านหลายรอบ เริ่มมีเขม่นๆ บ้าง ผมก็จะใช้วิธีการสลับกับเพื่อนในร้านเพื่อไม่ให้ตำรวจจำหน้าได้ " บอยระบุ



    ขณะที่ "เต็ม" เด็กเสิร์ฟประจำผับย่านถนนรัชดาภิเษก ที่หันมาทำอาชีพรับจ้างขับรถฝ่าด่านตรวจแอลกอฮอลล์ กล่าวว่า รู้ว่าเรื่องไม่ดี เพราะเหมือนกับการหลอกเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ต้องทำเพราะรายได้ดี บางคนมีอาการเมามากจนต้องไปส่งถึงบ้านแล้วนั่งมอเตอร์ไซค์กลับร้าน แต่บางคนแม้จะเมามากก็ไม่ยอมให้ไปส่งถึงบ้าน ให้ไปส่งเพียงแค่พ้นด่านตรวจ


    "ผมเคยเจอพี่คนหนึ่งเมามาก เพื่อนที่มาด้วยกันก็เมามาก ผมบอกว่าจะไปส่งให้ถึงที่บ้าน แต่เขาไม่ยอม บอกให้ไปส่งแค่พ้นด่าน พอเลยด่านตรวจได้ไม่กี่ร้อยเมตร เขาก็ขับรถเองต่อ แต่สภาพที่เมามากขับได้ไม่นานผมเห็นคาตาเลยว่า รถเขาเกิดอุบัติเหตุชนตรงโค้งรัชดาฯ สรุปตายทั้งคู่ " เต็มเล่าให้ฟัง



    ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ระบุว่า ผู้ขับขี่ยานพาหนะที่มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือศาลอาจสั่งให้ถูกคุมประพฤติ ทำงานบริการสังคม ซึ่งอยู่ในดุลพินิจของศาล

     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เตือนระวังพายุโซนร้อน“มินดอนเล”
    ที่มา เดลินิวส์

    [​IMG]

    อุตุฯ ออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 14 ระบุพายุโซนร้อน “มินดอนเล” ส่งผลทั่วทุกภาคฝนตกหนักหนาแน่น
    เมื่อวันที่ 23 ส.ค. กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัย “มินดอนเล (Mindulle)” ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 23 ส.ค.ระบุว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “มินดอนเล (Mindulle)” แล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 300 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนามหรือที่ละติจูด 16.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนประมาณวันที่ 24-25 ส.ค.นี้ ส่งผลให้ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ทั่วทุกภาคมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
    จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย ออกประกาศ เวลา 12.00 น.
    สำหรับการพยากรณ์อากาศทั่วไป มีดังนี้
    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 31 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหารร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
    มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 31 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ลพบุรีพร้อมรับมือน้ำเหนือไหลท่วม

    นายวัชระ ทิพย์พิลา รอง ผวจ.ลพบุรี เปิดเผยว่า จากที่ได้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งอีกไม่นานน้ำที่ไหลมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา และแยกมาตามลำน้ำสาขาที่ไหลผ่าน จ.ลพบุรี และส่งผลให้ได้รับผลกระทบ หากไม่มีการเตรียมการรับมือก็จะทำให้ประชาชนเดือดร้อน ทั้งนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมด้วยการตั้งศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธรณภัยในระดับจังหวัดและอำเภอแล้ว ซึ่งมีภารกิจในเรื่องของการเฝ้าระวังวาตภัย อุทกภัยและดินถล่ม นอกจากนี้ยังได้ให้มีการตรวจสอบในเรื่องของอุปกรณ์ในการให้การออกช่วยเหลือประชาชนกรณีที่เกิดภัยพิบัติขึ้น พร้อมมีการจัดเตรียมถุงยังชีพช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเบื้องต้น ขณะเดียวกันก็ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงสถานการณ์สภาพอากาศ ปริมาณน้ำในแม่น้ำ และในเขื่อนอย่างต่อเนื่องตามสื่อต่าง ๆ

    นอกจากนี้ยังได้ประสานการทำงานกับทางสำนักงานชลประทานที่ 10 เพื่อติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดต่าง ๆ ตามจุดเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมและเป็นจุดระบายน้ำกว่า 10 จุด โดยเฉพาะตามแนวคลองชลประทานสายชัยนาท-ป่าสัก ที่ถือว่าเป็นคลองชลประทานสายหลักของลพบุรีในการระบายน้ำ ทั้งนี้เชื่อว่าในปีนี้ประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมน้อยที่สุด หากพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อยสามารถแจ้งมายังสำนักงาน ปภ.จังหวัดลพบุรีได้ที่ 036-770197
    พ่อเมืองลำปางสั่งรับมือฝนตกหนัก

    นายศุภกิจ บุญญฤทธฺพงษ์ ผวจ.ลำปาง นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลำปาง และคณะได้ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ประสบอทกภัยใน 7 อำเภอ โดยพบว่าส่วนใหญ่สิ่งสาธารณูประโภค พืชสวนทางการเกษตร ปศุสัตว์ ได้รับความเสียหายมากที่สุดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เบื้องต้นให้ อบต. เทศบาล เร่งสำรวจความเสียหาย และจัดสรรงบประมาณในการช่วยเหลือราษฎร
    “ทั้งนี้ ได้สั่งให้ทุกพื้นที่ในจังหวัดลำปาง ที่หมู่บ้านติดกับทางน้ำไหลอยู่ใกล้เชิงเขาที่ลาดชัน เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำฝนและน้ำป่าอย่างต่อเนื่อง และให้มิสเตอร์เตือนภัยมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา”.
     
  8. sittiporn.s

    sittiporn.s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +748

    ผมได้นำไปถวายเรียบร้อยแล้วครับ พร้อมทั้งนำปัจจัยที่มีผู้ร่วมทำบุญรวมเป็นเงิน 29,000 บาท เพื่อใช้ในกิจของท่านในช่วงเข้าพรรษานี้

    โมทนาสาธุกับทุกๆท่านที่มีส่วนร่วมในการทำบุญในโอกาศนี้ครับ
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ


    ขอขอบพระคุณพี่สิทธิพร ที่ช่วยเป็นตัวแทนคณะกองทุนหาพระถวายวัด ในการถวายชุดหยก 300 องค์ และ ที่บอกบุญในเรื่องนี้ด้วยครับ


    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โมทนาบุญกับคุณหนุ่ม และคุณเฉลิมพลด้วยครับ ตำราการดูพระสมเด็จสามารถหาดูได้ทั่วไป ทั้งของอ.ตรียัมปวาย ของอ.อรรถพล ของอ.พน และอื่นๆอีกมากมาย ทั้งไปตัดต่อ เรียบเรียง รวบรวม ทำกันได้ทั้งนั้นในโลก cyber แห่งนี้ แต่หากต้องการความรู้ในการวิเคราะห์เจาะลึก แบบไม่มีปกปิด ซ่อนเร้น แอบแฝง ผลประโยชน์ใดๆ ก็ต้องเป็นตำราเล่มนี้ วิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯ และพระสมเด็จท่านเจ้าคุณกรมท่า อยากได้ตำราเก่าของอ.ตรีฯก็ลองไปที่บูธหนังสือเก่าในงานสัปดาห์หนังสือแห่ง ชาติ หรืองานมหกรรมหนังสือ เล่มหนึ่งก็ 70,000 บาทเป็นขั้นต่ำ แต่ลองได้ศึกษาเล่มนี้แล้วก็ลองนำไปประเมินกันว่า ได้ความครบถ้วนแบบที่ใจอยากได้หรือไม่ เมื่อได้อ่านจบแล้ว หากเกิดมีความศรัทธา และหากมีคุณสมบัติครบถ้วนก็ อาจจะได้รับการพิจารณาจากคุณหนุ่มพาไปกราบอ.ปู่ผู้ขียนตำราเล่มนี้ ได้ไปสอบถามกันตรงๆ ได้ความรู้เพิ่มเติมจากสิ่งที่ตำราไม่ได้บันทึกไว้ อย่างที่ผมได้เคย post ไว้ มูลค่าตำราเล่มนี้น่าจะ ๓๐๐,๐๐๐ บาท เพราะปัจจุบันยังไม่เคยได้เห็นตำราเล่มใดที่ทรงคุณค่าแบบเล่มนี้มาก่อน

    พระพิมพ์ก็มีให้ศึกษา ตำราก็มีให้อ่าน แถมยังได้สอบถามพูดคุยกับบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปเก็บซ่อนสงสัยในใจไว้

    ใช้ศรัทธามาก ก่อให้เกิดความหลงเชื่อ และหลอกลวง

    ใช้ปัญญามาก ก่อให้เกิดความสงสัย

    ---------------------------

    ผมเปลี่ยนแบบตัวอักษรให้แล้วครับ จะได้อ่านได้ไม่ลำบาก


    .
     
  11. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 25 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 21 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat, :::เพชร:::+, sithiphong+, sittiporn.s+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีท่านพี่ผู้อาวุโสทั้งสาม ... ข้าน้อยขอคารวะ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอเป็นผู้อาวุโสน้อยที่สุดนะครับ

    ขอคารวะท่านอาวุโสพี่sittiporn.sเป็นลำดับแรก และท่านอาวุโสคุณ:::เพชร::: เป็นลำดับที่สองครับ

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 18 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 13 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, Natachai, nongnooo+, psombat+, sittiporn.s+</td></tr></tbody></table>
    อ๊ะ ขอคารวะท่านอาวุโสคุณnongnoooเป็นลำดับสาม อิอิ


    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องต้องรู้ ก่อนเข้าสมรภูมิทองคำ


    ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์
    เรื่อง : สรวิศ อิ่มบำรุง


    “ทองคำ” ได้ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในการลงทุนทางเลือก ที่นักลงทุนทั่วโลกให้การยอมรับ รวมทั้งนักลงทุนไทยในปัจจุบัน


    กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : แต่การจะลงทุนในทองคำแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ก็อาจจะพาให้เจ็บตัวได้เช่นเดียวกัน


    ในสภาวะที่ทองคำ ได้กลับมาอยู่ในโฟกัสของถนนสายการลงทุนอีกรอบ อย่างน้อยถ้าเล็งเป้าเข้าไปลงทุนในทองคำ มีเรื่องอะไรบ้างที่นักลงทุนควรรู้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับการลงทุนของตัวเอง


    การลงทุนในทองคำมีเรื่องอะไรที่นักลงทุนควรจะรู้บ้าง เราลองมาฟังคำแนะนำจากผู้รู้ที่เชี่ยวชาญกับการลงทุนในทองคำแนะนำกัน



    รู้จักรูปแบบและต้นทุนการลงทุน


    เกี่ยวกับเรื่องนี้ "ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์" ผู้จัดการกองทุน ฝ่ายจัดการกองทุนตราสารหนี้ บลจ.กสิกรไทย แนะนำว่า นักลงทุนควรจะต้องรู้จักรูปแบบการลงทุนในทองคำว่ามีอะไรบ้าง ทองคำแท่ง 99.99% ทองคำแท่ง 96.5% ทองรูปพรรณ กองทุนรวม หรือตั๋วสัญญา ซึ่งการลงทุนแต่ละรูปแบบจะมีต้นทุนที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหากจะมองในแง่ของการลงทุนแล้วทองรูปพรรณอาจจะไม่ค่อยเหมาะสมนัก เพราะมีต้นทุนค่ากำเน็จ ทำให้แพงกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น


    ในขณะที่การลงทุนในทองคำแท่ง หรือลงทุนผ่านกองทุนรวมน่าจะเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับการลงทุนมากกว่า


    “ในแง่ของต้นทุนการลงทุนในทองคำกองทุนรวมถือว่าค่อนข้างถูกกว่าการลงทุนใน รูปแบบอื่นๆ แม้ทองคำแท่งจะมีส่วนต่างของการซื้อเข้าขายออกประมาณ 100 บาท ก็ตาม แต่ถ้าไม่ใช่ทองคำแท่งขนาดมาตรฐานในบางครั้งก็จะมีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่ม เข้าไปอีกต่างหาก ตรงนี้ผู้ลงทุนก็ต้องพิจารณาประกอบการลงทุนด้วยในเรื่องของต้นทุน”



    รู้จักปัจจัยที่กระทบราคาทองคำ


    นอกจากผู้ลงทุนควรจะรู้จักรูปแบบของการลงทุนในทองคำแล้ว ยังควรจะรู้จักปัจจัยที่มีผลกระทบต่อทิศทางราคาทองคำด้วย


    - ค่าเงินดอลลาร์
    โดย “โชติกา สวนานนท์” กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทยบอกว่า ราคาทองจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะทองคำซื้อขายเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลดลง ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อไรที่ค่าเงินดอลลาร์เพิ่มค่าขึ้น ราคาทองจะปรับตัวลดลง

    ดังจะเห็นได้จากราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา (สิ้นปี 2550-11 พ.ย.2551) ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 13.36% ในขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลงไปประมาณ 12.16% และในปี 2007 ที่ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นมา 30.94% นั้น ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงไป 8.41%


    “เป็นเรื่องยากที่จะวัดว่าค่าของทองควรจะอยู่ที่เท่าไร อยู่ที่คนให้ค่า แต่เมื่อคนมองว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงราคาทองจึงวิ่งขึ้นมา อยู่ที่มุมมองของคนที่มีต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐด้วย”


    - ดีมานด์ซัพพลาย
    ดร.วิน บอกว่า ในแง่ของดีมานด์และซัพพลายในตลาดโลกจะมีอยู่ 2 มิติ คือ มิติที่ 1 เป็นความต้องการบริโภคทองคำจริงๆ ในยามที่เศรษฐกิจโลกดี คนจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ทำให้มีปริมาณความต้องการบริโภคทองคำมากขึ้น ในขณะที่ยามที่เศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อของคนจะลดน้อยลงไป ความต้องการบริโภคทองคำก็จะลดลงไปด้วยเช่นเดียวกัน

    และในมิติที่ 2 เป็นความต้องการบริโภคทองคำในแง่ของการลงทุน ซึ่งดูจะตรงข้ามกับมุมมองแรก คือ ในยามที่เศรษฐกิจแย่ คนมีแนวโน้มจะหันมาถือครองทองคำมากขึ้นในฐานะที่ทองคำมีคุณลักษณะของ สินทรัพย์ที่มีความมั่นคงปลอดภัยสูง แต่ถ้าเศรษฐกิจดี คนก็จะถือครองทองคำลดลง


    "จะเห็นว่าราคาทองคำในมิติที่ 2 นี้ จะเคลื่อนไหวขึ้นลงตามกระแสเงินลงทุนที่ไหลเข้าออกในตลาดทองคำในลักษณะของ การลงทุน ต่างจากมุมมองในมิติแรกที่เป็นความต้องการใช้จริงๆ ของโลก ส่วนซัพพลายของทองในตลาดโลกค่อนข้างที่จะตึงตัว อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำไม่ควรจะต่ำกว่าต้นทุนการผลิตที่มีการประเมินกันว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 500-600 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ดังนั้น ราคาทองคำที่ระดับนี้จึงเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งสำหรับทองคำ”


    - เงินเฟ้อ
    ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ต่อสู้กับเงินเฟ้อได้ดี (Inflation Hedge) ในยามที่อัตราเงินเฟ้อสูง ราคาทองคำก็จะปรับตัวสูงขึ้น และในยามที่อัตราเงินเฟ้อต่ำ ราคาทองคำก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังจะมีความต้องการถือครองทองคำมากขึ้นในช่วงที่มีภาวะสงครามเกิดขึ้น เหล่านี้เป็นปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่ผู้ลงทุน ควรจะต้องรู้


    เป็นนักลงทุนสไตล์ไหน


    เกี่ยวกับเรื่องนี้ "ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร" ประธานชมรมคนออมเงิน แนะนำว่าผู้ลงทุนในทองคำ ควรจะค้นหาตัวเองให้เจอว่าตัวเองเป็นนักลงทุนสไตล์ไหนเป็น "นักลงทุนระยะยาว (Investor)" หรือ "นักลงทุนแบบซื้อมาขายไป (Trader)" ถ้าเป็นนักลงทุนแล้วปัจจุบันยังไม่มีทองคำในพอร์ตที่ราคาทองคำบาทละ 12,400-12,500 บาท สามารถที่จะเข้ามาซื้อเพื่อลงทุนได้เป็นลักษณะซื้อเก็บไป


    ส่วนตัวเองก็ซื้อเก็บไปเรื่อยๆ ไม่ได้ขายอะไร เป็นส่วนที่คงจะส่งมอบความมั่งคั่งให้กับลูกหลานต่อไปในอนาคต แต่ถ้าเป็นนักลงทุนควรจะซื้อแล้วถือยาว 6 เดือนขึ้นไปแล้วค่อยมาดุว่าตอนนั้นราคาทองคำเป็นอย่างไรก่อนที่จะตัดสินใจ ขายก็ได้


    แต่ถ้าเป็นเทรดเดอร์ซื้อมาขายไป ราคาทองคำขึ้นมาบาทละ 300-400 บาท กำไร 2-3% ก็ต้องขายทิ้งแล้วค่อยมารับกลับไปใหม่ที่ราคาต่ำกว่าเดิมในลักษณะของการเล่น รอบ ถ้าทำได้แบบนี้ทุกเดือนคุณจะมีกำไร 24-36% ดีกว่าผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝากที่ 3-4% ค่อนข้างมากทีเดียว


    "ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ที่ลงทุนโดยตรงในทองคำคงจะเหมาะกับผู้ ที่มีความรู้ ชอบศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล มีเวลาที่จะติดตามภาวะตลาด สามารถที่จะดูแลการลงทุนด้วยตัวเองได้ แต่การลงทุนผ่านกองทุนรวมอาจจะเหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาที่จะติดตามการลงทุน มากนัก การซื้อขายก็ง่ายสะดวกคล่องตัวกว่าด้วย"



    ใช้เงินเย็นลงยาว-ไม่ควรกู้มาลงทุน


    โดย "จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี" นายกสมาคมค้าทองคำ แนะนำว่า การลงทุนในทองคำควรจะเป็นการลงทุนระยะยาวและใช้เงินเย็นลงทุน ไม่ควรจะกู้เงินมาลงทุน เพราะถึงจะมีกำไรก็ไม่คุ้มกัน แต่ถ้าเป็นเงินเย็นเมื่อนำมาลงทุนในกรณีที่ผิดพลาดขึ้นมาก็ยังมีทองคำอยู่ใน มือเก็บเอาไว้ได้ ไม่เป็นศูนย์แน่นอน


    โดยถ้ามองในแง่ของการลงทุนควรจะเป็นการลงทุนใน “ทองคำแท่ง” ซึ่งสามารถลงทุนได้ทั้งทอง 99.99% และ 96.5% เพราะไม่มีความแตกต่างกันลงทุนได้ทั้งคู่ เพราะเนื้อทองคำได้สะท้อนอยู่ในราคาแล้วทำให้ราคาทองคำ 96.5% ซึ่งเป็นทองคำมาตรฐานของไทยมีราคาที่ถูกกว่าทองคำ 99.99% ดังนั้นจะลงทุนทองคำ 99.99% หรือ 96.5% ก็ไม่ต่างกัน และควรจะแบ่งเงินมาลงทุนในทองคำประมาณ 30% ของพอร์ตการลงทุนโดยรวมเท่านั้น


    “แต่ในแง่ของจำนวนในการซื้อลงทุน ทองคำแท่ง 99.99% น้ำหนักมาตรฐานที่ลงทุนกันจะมีน้ำหนัก 1 ก.ก. ขึ้นไป หรือคิดเป็นน้ำหนักทองไทยประมาณ 65.6 บาท ส่วนทองคำแท่ง 96.5% จะลงทุนตั้งแต่ 10 บาท ขึ้นไป”



    การลงทุนทางเลือกในพอร์ต


    โชติกา บอกว่า ทองเป็นหนึ่งในประเภททรัพย์สิน (Aseet Class) ที่สำคัญที่ควรจะมีอยู่ในพอร์ตการลงทุนแต่ไม่ควรจะเยอะ อยู่ในส่วนที่เรียกว่าการลงทุนทางเลือก (Alternative Investment) ส่วนการลงทุนพื้นฐานทั่วไปที่มีอยู่ในพอร์ตก็จะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ หรืออสังหาริมทรัพย์ ส่วนทางเลือกการลงทุนอื่นก็จะเป็นทอง หรือสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งไม่ควรจะเป็น 50% ของพอร์ต เพราะไม่ใช่หุ้นหรือตราสารหนี้ที่จะมาจัดสรรเงินทุนในลักษณะนั้น


    ทองควรจะมี 5-10% ในพอร์ต แต่จะมีเท่าไรขึ้นกับความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้ ถ้าชอบทองมากๆ อาจจะ 15% ของพอร์ตก็ได้ แต่เป็นสินทรัพย์ที่ควรจะมีอยู่ในพอร์ตเพราะมีความสัมพันธ์กับหุ้นและตราสาร หนี้น้อยคือมีค่าสหสัมพันธ์ระหว่างหุ้นและตราสารหนี้ที่ต่ำ


    “นอกจากนี้ ทองยังมีดีมานด์ซัพพลายของตัวเอง ไม่เพียงเท่านี้ทองยังเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีค่าในตัวเองโดยไม่ต้องมีดี มานด์ซัพพลายจึงเป็นสินทรัพย์ที่ดีมากเพราะเป็นของที่มีค่าเป็นแร่ธาตุที่มี ค่า เพราะฉะนั้นทองจึงมีค่าในตัวเอง ไม่ใช่ดิน หรือทองแดงที่อาจจะมีประโยชน์ทางอุตสาหกรรมที่จะต้องไปดูดีมานด์ซัพพลาย แต่ทองเป็นแร่ธาตุที่มีค่าเหมือนเพชร จึงเป็นสินทรัพย์ที่ควรจะให้ความสนใจแต่ไม่ควรจะมากเกินไปเท่าไร”



    ความสะดวกสบายในการลงทุน


    โชติกามองว่า สำหรับการลงทุนนั้น ความสะดวกสบายก็เป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนตัวถ้าอยากซื้อทองจะไม่ไปเยาวราช เพื่อซื้อทองถ้ามองเป็นเรื่องลงทุน อาจจะไปซื้อแต่เวลาขายขึ้นมา เอาทองไปขายก็ไม่สะดวก แต่ขายทองผ่านกองทุนทำได้ง่ายเหมือนขายหุ้น


    สมมติซื้อไว้ 10 บาท ขึ้นมาเป็น 13 บาท จะขายเอากำไรออกมา สามารถทำได้ทำที ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางนั่งรถไปที่ร้านทอง ในมุมนี้การลงทุนในทองคำผ่านกองทุนรวมน่าจะตอบโจทย์นักลงทุนได้ดีกว่าไม่ว่า จะเป็นนักลงทุนระยะยาวหรือนักลงทุนในลักษณะเก็งกำไรก็ตาม


    “ทุกอย่างในการลงทุนผู้ลงทุนควรจะต้องพิจารณาในเรื่องของต้นทุนและค่าใช้ จ่ายในการลงทุน ซื้อกองทุนรวมเป็นอีกทางเลือกที่มีค่าใช้จ่ายต่ำและมีความสะดวกในการซื้อขาย สามารถที่จะซื้อขายได้ทันทีเหมือนหุ้น”


    เช่นเดียวกับ ดร.วิน ที่มองว่า การพิจารณาในเรื่องของความสะดวกในการซื้อขายเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นเดียวกัน ทองคำของบางร้านเขาซื้อเฉพาะทองคำร้านตัวเองเท่านั้น ถ้าซื้อทองคำจากต่างจังหวัดจะมาขายที่ร้านทองในเยาวราช บางครั้งเขาก็ไม่รับซื้อ ตรงนี้ก็เป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องคิดถึงด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนทองเยาวราชไปขายที่ไหนก็คงจะมีคนซื้อ แต่ราคาที่ได้ก็คงจะไม่ได้เต็มราคาแน่นอน เพราะร้านที่รับซื้อเขาก็ต้องคิดถึงกำไรที่จะได้รับเช่นเดียวกัน


    "อย่างไรก็ตาม การลงทุนในทองคำผ่านกองทุนรวมค่อนข้างสะดวกสบาย ราคารับซื้อและขายคืนก็มีชัดเจนแน่นอน เหมือนกันทั่วประเทศ ซื้อขายได้ทันที ไม่ว่าจะมากหรือน้อย จึงน่าจะเป็นรูปแบบการลงทุนในทองคำที่เหมาะกับการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง”


    6 เรื่องที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนในทองคำ อาจจะพอเป็นไกด์ไลน์การลงทุน ก่อนกระโจนเข้าสมรภูมิทองคำ


    --------------------------------


    การลงทุนคือการเสี่ยง การวิเคราะห์ไม่ใช่ข้อเท็จจริง สภาพการเก็งกำไรทองคำมีความผันผวนสูง โปรดใช้ข้อมูลและวิจารณญาณของตนเองในการตัดสินใจ

    Goldhips Board :: ��ҹ - ����ͧ��ͧ��� ��͹���������Էͧ��
    .



    .



    .

     
  15. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    คุณหนุ่ม จะผ่านวันเวลาไปนานเท่าไหร่ก็ตาม ใครๆเขาก็เรียกพี่หนุ่มตลอด..อิ..อิ...

    เรื่องหนุ่มเรื่องอาวุโสนี่ เพียงคนเขาทราบว่าเรียนแผนโบราณ เขาก็เห็นภาพว่า ต้องเดินถือไม้เท้า คาบใบยาสูบ แล้วสักยันต์เต็มตัว 5555555 ขลังไปอีกแบบ!!!
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รายละเอียดสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า Gold Futures

    ที่มา : TFEX

    ลักษณะของสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า Gold Futures

    Gold Futures เปิดซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552 โดยมีลักษณะของสัญญาสรุปได้ดังนี้

    + สินค้าอ้างอิง
    ทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ 96.5%

    + ขนาดของสัญญา
    1 สัญญามีขนาดเท่ากับ ทองคำน้ำหนัก 50 บาท
    หรือ 762.2 กรัม (ทองคำน้ำหนัก 1 บาท = 15.244 กรัม)

    + เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ
    เดือนคู่ (กุมภาพันธ์ เมษายน มิถุนายน สิงหาคม ตุลาคม และธันวาคม) ใกล้ที่สุด 3 ลำดับ

    + ช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำ
    10 บาท ต่อ 1 สัญญา

    + ช่วงการเปลี่ยนแปลงของราคาสูงสุดแต่ละวัน
    ไม่เกิน + 20 % ของราคาที่ใช้ชำระราคาในวันทำการก่อนหน้า

    + เวลาซื้อขาย
    Pre-open: 9.15 - 9.45
    Morning session: 9.45 - 12.30
    Pre-open: 14.00 - 14.30
    Afternoon session: 14.30 - 16.55

    + การจำกัดฐานะ
    ตลาดอนุพันธ์อาจประกาศกำหนดจำนวนการถือครองสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสูงสุดได้ตามที่เห็นสมควร

    + วันซื้อขายวันสุดท้าย
    วันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ โดยในวันนั้น สัญญาที่จะหมดอายุจะซื้อขายได้ถึงเวลา 16.30 น.

    + ราคาที่ใช้ชำระราคาในวันซื้อขายวันสุดท้าย
    ใช้ ราคา London Gold AM Fixing เป็นราคาอ้างอิงในการคำนวณ Final Settlement Price โดยการคำนวณจะปรับอัตราแลกเปลี่ยน น้ำหนักและความบริสุทธิ์ของทองคำตามสูตรการคำนวณ ดังนี้

    อ้างอิงจาก:
    ราคาต่อน้ำหนักทองคำ 1 บาท =
    London Gold AM Fixing x (15.244/31.1035) x (0.965/0.995) x (THB/USD)

    อ้างอิงจาก:
    โดยที่

    - London Gold AM Fixing เป็นราคาต่อ 1 troy ounce ของทองคำที่มีความบริสุทธิ์ 99.5% ซึ่งมีน้ำหนักเท่ากับ 31.1035 กรัม โดยสามารถตรวจสอบราคาได้จาก http://www.lbma.org.uk/stats/goldfixg

    - ทองคำหนัก 1 บาท เท่ากับ 15.244 กรัม

    - 0.965 คือ ตัวแปรที่ใช้ปรับค่าความบริสุทธิ์ของทองคำให้เป็น 96.5%

    - อัตราแลกเปลี่ยน (THB/USD) เป็นอัตรา Thai Baht PM Fixing โดยคำนวณมาจากค่าเฉลี่ยของอัตราแลกเปลี่ยนที่ได้รับจากธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ ในชมรม ACI Thailand โดยสามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนได้จาก Reuters หน้า <THBFIXP=> และตลาดอนุพันธ์ก็จะมีการประกาศอัตราที่ใช้คำนวณเหล่านี้ทุก ๆ วันซื้อขายวันสุดท้ายของ Gold Futures ใน เว็บไซต์ TFEX อีกด้วย


    + วิธีการส่งมอบ / ชำระราคา
    ชำระราคาเป็นเงินสด

    + ค่าธรรมเนียมการซื้อขายและชำระราคา
    ไม่เกินกว่า 50 บาท ต่อสัญญา โดยเรียกเก็บจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

    + ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขาย
    ตลาดอนุพันธ์ไม่มีข้อกำหนดเรื่องค่าธรรมเนียมนายหน้าการซื้อขาย อัตราค่าธรรมเนียมสามารถต่อรองได้เสรี

    การ ลงทุนคือการเสี่ยง การวิเคราะห์ไม่ใช่ข้อเท็จจริง สภาพการเก็งกำไรทองคำมีความผันผวนสูง โปรดใช้ข้อมูลและวิจารณญาณของตนเองในการตัดสินใจ

    Goldhips Board ::
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>
    อรุณสวัสดิ์ครับ


    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อนาคตทองคำราคาปรับขึ้นอีกสิ้นปี!? <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">23 สิงหาคม 2553 23:29 น.</td></tr></tbody></table>
    [​IMG] <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> จากเศรษฐกิจในยุโรปที่ยังคงกดดันความเชื่อมั่นอยู่ในขณะนี้ นักวิเคราะห์หลายฝ่ายยังคงมองว่า ความต้องการซื้อทองคำมีมากขึ้น เพื่อป้องกันการลดค่าของสินทรัพย์เสี่ยงประเภทอื่น ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาผลตอบแทนของการลงทุนทองคำและกองทุนทองคำอยู่ที่ 9% และมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อในครึ่งปีหลัง จึงสามารถลงทุนติดไว้ในพอร์ตประมาณ 5 -10%

    วรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคม บลจ.) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. บัวหลวง จำกัด บอกว่า ราคาทองคำในระยะสั้น ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวได้อีกเนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ ได้แก่

    1. Investment demand ลดลงไป เนื่องจากความกังวลต่อเสถียรภาพค่าเงินยูโรลดลง รวมถึงเงินเฟ้อยังไม่ใช่ประเด็นในปีนี้เนื่องจากทั้งยุโรปและสหรัฐยังมีเงิน เฟ้อในระดับต่ำมาก ขณะที่นักลงทุนโยกเงินเข้าสู่ risky assets เช่นหุ้น มากขึ้น เพราะผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนออกมาดี และเศรษฐกิจยุโรปยังมีการฟื้นตัวแม้จะเป็นไปอย่างช้าๆ

    2. Physical demand ลดลง (ความต้องการทองคำไปเป็นเครื่องประดับหรือไปผลิตเป็นส่วนประกอบสินค้าอื่นๆ) เพราะเป็นช่วง Low season ของทุกปี โดยเฉพาะความต้องการทองคำจากอินเดียซึ่งมีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของ Physical demand ทั้งหมด

    และ 3. การที่ราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือระดับ $1,200/oz. ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยาที่สำคัญได้ ยิ่งทำให้เกิดแรงขายจากนักเก็งกำไรมากยิ่งขึ้น

    นายกสมาคม บลจ. บอกต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ ไตรมาส 4 ปีนี้ ราคาทองคำน่าจะเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอีกครั้ง เนื่องจาก มีเทศกาลต้องการทองคำที่อินเดียจะเริ่มขึ้นในไตรมาส 4 จึงจะมีความต้องการทองคำ (Physical demand) เพิ่มตามมา รวมถึงการฟื้นตัวเศรษฐกิจของสหรัฐที่เปราะบางยังคงเป็นความเสี่ยงที่ช่วยให้ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นมาบ้าง แต่ผลตอบแทนอาจจะไม่ได้มากเหมือนกับในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และผลการสำรวจความต้องการลงทุนในทองคำล่าสุดของบริษัท Ipsos พบว่านักลงทุนในเอเชียมีแนว โน้มที่จะซื้อทองคำเพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้ามากกว่านักลงทุนจากทางฝั่งยุโรปและอเมริกาเหนือ

    โดยมีความต้องการที่จะถือทองคำเพื่อลงทุนและเพื่อเก็งกำไรในสัดส่วน ใกล้เคียงกัน ซึ่งความต้องการทองคำจากทวีปเอเชียจะมาจาก อินเดีย อินโดนีเซีย และ จีน เป็นหลัก เนื่องจากจะมีเทศกาลสำคัญๆ ที่จะเพิ่มความต้องการทองคำจำนวนมากในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ยังมีเพียง 10% ของกลุ่มสำรวจที่ได้ซื้อทองคำแล้วในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา จึงยังมีโอกาสอีกมากที่พวกเขาจะลงทุนในทองคำ โดยเฉพาะเมื่อราคาทองคำในปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาสูงสุดในอดีตที่ได้ปรับ อัตราเงินเฟ้อแล้วซึ่งจะอยู่ที่ระดับ $2,300/oz.

    สำหรับในปีหน้า คาดว่าปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปน่าจะยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งการที่ Ben Bernanke ได้ให้ความเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในภาวะไม่แน่ไม่นอน แสดงว่าความเสี่ยงเหล่านี้ยังคงไม่ได้หายไปอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้รัฐบาลต้องใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อ ดังนั้น ความต้องการทองคำเพื่อการลงทุน (Investment demand) ในอนาคตก็ยังคงมีอยู่ จึงคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำว่าจะยังคงเป็นขาขึ้นต่อในระยะยาว อย่างไรก็ตามจึงอยากให้นักลงทุนมีการกระจายการลงทุนไปในทองคำบ้าง จึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อลดความเสี่ยงของการลงทุนโดยรวมของพอร์ตการลง ทุน

    ด้าน วนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลัก ทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี(ไทย) จำกัด ยังแนะนำนักลงทุนว่า นักลงทุนควรทยอยลงทุนในทองคำและควรมีไว้ในพอร์ตการลงทุนของตัวเอง นอกจากจะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแล้ว ยังสามารถใช้เป็นสินทรัพย์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่ดี และสามารถใช้กระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนในหุ้นได้ดีเพราะมีความ สัมพันธ์ (Correlation) กับตลาดหุ้นค่อนข้างต่ำ การลงทุนในทองคำจึงตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี

    ขณะเดียวกันมองว่าระดับราคาทอง ณ ปัจจุบันยังสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้อีก แม้ราคาในปัจจุบันได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนนักลงทุนลังเลที่จะ เข้าลงทุน แต่ทางบริษัทและนักวิเคราะห์หลายๆ แห่งมองว่าราคาทองคำยังไม่แพงเกินไปและมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นได้อีก ด้วยหลายๆ ปัจจัย เช่น ธนาคารกลางหลายๆ ประเทศกลับมาถือทองคำมากขึ้น กระแสเงินลงทุนจากกองทุน Gold ETF ต่างๆ (ETF Inflows)ที่เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง แต่ซัพพลายมีจำกัดและมีต้นทุนการผลิตสูง รวมทั้งปัญหาหนี้สาธารณะของสหรัฐฯและประเทศพัฒนาแล้ว

    "คาดการณ์ราคาทองคำเฉลี่ยในปีนี้ว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,300 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ดอยช์แบงก์ คาดการณ์ว่าราคาทองเมื่อจบไตรมาสที่ 3 จะอยู่ที่ 1,275 เหรียญสหรัฐ และจบสิ้นปีอยู่ที่ 1,400 เหรียญสหรัฐ ซึ่งทำให้เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 1,245 เหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าราคาเฉลี่ยในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1,450 เหรียญสหรัฐ"

    ขณะที่ กิดาการ สุวรรณธรรมา ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอนุพันธ์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บอกว่า การ ที่รัฐบาลประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสหรัฐและยุโรปอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงที่ผ่านมาประกอบกับเศรษฐกิจเอเชียที่ฟื้นตัวมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ ส่งผลให้ยังมีความต้องการทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อ (Inflation Hedge) และยังคงความเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย (Safe Haven)

    "เราคาดว่าในปีนี้ราคาทองคำน่าจะมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1,250-1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เทียบเท่าราคาโกลด์ฟิวเจอร์สที่บริเวณ 18,700-19,500 บาท และเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส4 โดยเป็นการปรับขึ้นเทียบจากสิ้นปี 2552 ราว 18%นักลงทุนสามารถทำกำไรได้จากการเข้าสะสมทองคำหรือถือสถานะ Long โกลด์ฟิวเจอร์ส ในจังหวะอ่อนค่าหรือพักฐานที่มีโอกาสลงไปทดสอบบริเวณ 1,100-1,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เทียบเท่าราคาโกลด์ฟิวเจอร์ส ที่บริเวณ 16,500-17,200 บาท"
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมตอบให้ทาง Email แล้วนะครับ

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 16 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 14 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, psombat+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ได้ชมกันไปแล้วสำหรับพระสมเด็จ เนื้อผงยาวาสนาและผงยาจินดามณี

    ยังคงมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนสำหรับท่านอื่นๆอีกมาก

    อย่างที่ผมเคยบอกไว้ว่า ดูจากรูปนั้น ดูไม่ค่อยชัดเจน ต้องดูองค์จริงๆ

    ในแต่ละเนื้อก็มีความแตกต่างกัน

    ส่วนพระสมเด็จ องค์ที่โค้งด้านบน จะเรียกว่า พิมพ์คะแนนร้อย ครับ



    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...