พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]

    แปลกคนจริงๆ คนเขาอยากทำบุญ ก็กีดกันไม่ให้ทำ แบบนี้จะเรียกว่า ขวางบุญหรือไม่...

    เงื่อนไขการทำบุญก็ออกแบบซะยุ่งยาก สับสน ดูเหมือนทำยากทำเย็นกันจริงๆ

    ลุงหนุ่มน้อยช่วยตอบกันให้ชัดๆดีกว่า ทำไมบางคนลุงให้ บางคนลุงไม่ให้ ขอความชัดเจนหน่อย ทำไมไม่ทำใจกว้างๆ เปิดทั้ง ๓ โลกธาตุให้มาร่วมบุญกัน ลุงอาจจะมองไม่เห็นว่า ยังมีเทพเทวามารอทำบุญพระอุ้มบาตรกันอยู่ หรือดลใจให้คนนั้นคนนี้มาให้ช่วยทำบุญให้หน่อย กายทิพย์มองไม่เห็น ก็อาจดลใจให้กายเนื้อใดกายหนึ่งมาให้ช่วยทำบุญ ผมก็ไม่เห็นความจำเป็นจะต้องไปห้าม แต่น่าจะห้ามทำเกินท่านละ 100 หรือ 500 หรือ 1,000 หรือ 10,000 ก็เพื่อป้องกันการอ้างความเป็นเจ้าของบุญ เจ้าของพระ ก็ว่าไปอีกเรื่องหนึ่ง..

    แล้วหากผมจะให้ผู้ที่ลุงไม่ให้ร่วมบุญ ส่ง PM มาถึงผม แล้วให้ผมช่วยทำแทน แบบนี้ลุงจะรู้หรือ? หรือลุงรู้แล้วจะห้ามผมอีกคน หุ..หุ...เพราะผู้ร่วมบุญบางท่านเขาก็ไม่ได้อยากได้ชื่อออกอากาศแต่อย่างใด บุญเกิดตั้งแต่ตั้งใจร่วมแล้ว เช่น กำลังจะกำเงินไปทำบุญ แล้วเกิดอุบัติเหตุ ถูกรถชนตายขณะกำเงินวิ่งข้ามถนน แบบนี้บุญเกิดตั้งแต่ตั้งใจแล้ว ไม่ได้เกิดตอนวิ่ง...

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เมื่อมีผล ต้องเกิดจากเหตุ เป็นเรื่องธรรมดา

    นับตั้งแต่ผมตั้งกระทู้พระวังหน้าฯมา เกิดเหตุขึ้นอย่างมากมาย

    มีเรื่องนึงที่เกิดขึ้นก็คือ โดนโจมตีเรื่องของการร่วมทำบุญ แม้กระทั่งการที่ผมให้ร่วมทำบุญกับสภากาชาดไทย , มูลนิธิชัยพัฒนา , มูลนิธิราชประชาฯ , การทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง และ ทำบุญกับ สนส.บ่อเงินบ่อทอง

    บอกว่า ผมเองมีเอี่ยวในเงินทำบุญ ผมสามารถไปรับเงิน(บางส่วน)ได้ที่สภากาชาดไทย , มูลนิธิชัยพัฒนา , มูลนิธิราชประชาฯ , หลวงพ่อแผน (สนส.บ่อเงินบ่อทอง) และ พระอาจารย์นิล (การทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง)

    ในวาระงานบุญนี้ เป็นการโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวผม เรื่องนี้ยิ่งหนักกว่า เรื่องงานบุญที่ผ่านมาด้วยซ้ำ ผมจึงขอสงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่ผมเห็นว่า น่าจะทำบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ ไม่มีสิ่งเคลือบแอบแฝง(ในการเก็บข้อมูลไว้โจมตีผมในวาระต่อๆไป)

    อย่างที่บอก จริงๆผมทำเองก็ได้ เพราะว่า พระพุทธรูปองค์นี้ อยู่ที่บ้านผม ผมเองเพียงแต่รบกวนลูกน้องพี่สิทธิพร มาอัญเชิญท่านไปให้พี่สิทธิพร และพี่สิทธิพร ก็อัญเชิญไปถวายพระอาจารย์รูปหนึ่ง แค่นี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร

    แต่ที่ผมบอกในวาระบุญนี้กับ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ และสมาชิกชมรมพระวังหน้าทุกๆท่าน เพียงแค่อยากให้ได้ร่วมงานบุญที่ทำเพียงครั้งเดียว ได้ถึง 4 บุญก็คือ

    1.การถวายพระพุทธรูป(รัตนะ) ปางอุ้มบาตร
    2.การร่วมทำบุญกับชมรมพระวังหน้า ( จะมีการทำบุญในงานบุญต่างๆในวาระต่อๆไป ซึ่งยังไม่รู้ว่า จะมีกี่งานบุญที่จะทำบุญกัน รู้แต่ว่า มีหลายๆงานบุญ)
    3.การร่วมเป็นเจ้าภาพในการบวชพระภิกษุหลายๆรูป (ที่สวนทิพย์โลกอุดร)
    4.การร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร

    มีกี่งานบุญที่จะทำเพียง 1 ครั้ง ได้อย่างน้อยถึง 4 งานบุญครับ

    แต่หากลุงเพชร รับเป็นตัวแทนผมในวาระงานบุญการถวายพระพุทธรูป(รัตนะ) ปางอุ้มบาตร นี้ ผมก็ยินดี โดยหากท่านใดที่มีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญ ขอให้แจ้งกับลุงเพชร และโอนเงินการร่วมทำบุญไปยังบัญชีของลุงเพชร อีกทั้งแจ้งชื่อให้กับลุงเพชร

    เมื่อรวบรวมเงินทำบุญ (ตามระยะเวลาที่กำหนด) ได้ ลุงเพชรก็โอนเงินทำบุญมาให้ผม เรื่องของค่าธรรมเนียมการโอนเงิน ผมจ่ายให้ลุงเพชรเอง และลุงเพชรก็แจ้งชื่อและจำนวนเงินที่ร่วมทำบุญ มาที่ผม

    ยินดีครับลุงเพชรที่ช่วยในวาระงานบุญนี้


    โมทนาครับ

    .<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 18 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 14 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+, Nui28, somlatri </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ผมเข้าใจลุงเพชรครับ

    .<!-- google_ad_section_end -->____________________________________.



    .

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]

    แปลกคนจริงๆ คนเขาอยากทำบุญ ก็กีดกันไม่ให้ทำ แบบนี้จะเรียกว่า ขวางบุญหรือไม่...

    เงื่อนไขการทำบุญก็ออกแบบซะยุ่งยาก สับสน ดูเหมือนทำยากทำเย็นกันจริงๆ

    ลุงหนุ่มน้อยช่วยตอบกันให้ชัดๆดีกว่า ทำไมบางคนลุงให้ บางคนลุงไม่ให้ ขอความชัดเจนหน่อย ทำไมไม่ทำใจกว้างๆ เปิดทั้ง ๓ โลกธาตุให้มาร่วมบุญกัน ลุงอาจจะมองไม่เห็นว่า ยังมีเทพเทวามารอทำบุญพระอุ้มบาตรกันอยู่ หรือดลใจให้คนนั้นคนนี้มาให้ช่วยทำบุญให้หน่อย กายทิพย์มองไม่เห็น ก็อาจดลใจให้กายเนื้อใดกายหนึ่งมาให้ช่วยทำบุญ ผมก็ไม่เห็นความจำเป็นจะต้องไปห้าม แต่น่าจะห้ามทำเกินท่านละ 100 หรือ 500 หรือ 1,000 หรือ 10,000 ก็เพื่อป้องกันการอ้างความเป็นเจ้าของบุญ เจ้าของพระ ก็ว่าไปอีกเรื่องหนึ่ง..

    แล้วหากผมจะให้ผู้ที่ลุงไม่ให้ร่วมบุญ ส่ง PM มาถึงผม แล้วให้ผมช่วยทำแทน แบบนี้ลุงจะรู้หรือ? หรือลุงรู้แล้วจะห้ามผมอีกคน หุ..หุ...เพราะผู้ร่วมบุญบางท่านเขาก็ไม่ได้อยากได้ชื่อออกอากาศแต่อย่างใด บุญเกิดตั้งแต่ตั้งใจร่วมแล้ว เช่น กำลังจะกำเงินไปทำบุญ แล้วเกิดอุบัติเหตุ ถูกรถชนตายขณะกำเงินวิ่งข้ามถนน แบบนี้บุญเกิดตั้งแต่ตั้งใจแล้ว ไม่ได้เกิดตอนวิ่ง...


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เมื่อมีผล ต้องเกิดจากเหตุ เป็นเรื่องธรรมดา

    นับตั้งแต่ผมตั้งกระทู้พระวังหน้าฯมา เกิดเหตุขึ้นอย่างมากมาย

    มีเรื่องนึงที่เกิดขึ้นก็คือ โดนโจมตีเรื่องของการร่วมทำบุญ แม้กระทั่งการที่ผมให้ร่วมทำบุญกับสภากาชาดไทย , มูลนิธิชัยพัฒนา , มูลนิธิราชประชาฯ , การทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง และ ทำบุญกับ สนส.บ่อเงินบ่อทอง

    บอกว่า ผมเองมีเอี่ยวในเงินทำบุญ ผมสามารถไปรับเงิน(บางส่วน)ได้ที่สภากาชาดไทย , มูลนิธิชัยพัฒนา , มูลนิธิราชประชาฯ , หลวงพ่อแผน (สนส.บ่อเงินบ่อทอง) และ พระอาจารย์นิล (การทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง)

    ในวาระงานบุญนี้ เป็นการโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวผม เรื่องนี้ยิ่งหนักกว่า เรื่องงานบุญที่ผ่านมาด้วยซ้ำ ผมจึงขอสงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่ผมเห็นว่า น่าจะทำบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ ไม่มีสิ่งเคลือบแอบแฝง(ในการเก็บข้อมูลไว้โจมตีผมในวาระต่อๆไป)

    อย่างที่บอก จริงๆผมทำเองก็ได้ เพราะว่า พระพุทธรูปองค์นี้ อยู่ที่บ้านผม ผมเองเพียงแต่รบกวนลูกน้องพี่สิทธิพร มาอัญเชิญท่านไปให้พี่สิทธิพร และพี่สิทธิพร ก็อัญเชิญไปถวายพระอาจารย์รูปหนึ่ง แค่นี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร

    แต่ที่ผมบอกในวาระบุญนี้กับ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ และสมาชิกชมรมพระวังหน้าทุกๆท่าน เพียงแค่อยากให้ได้ร่วมงานบุญที่ทำเพียงครั้งเดียว ได้ถึง 4 บุญก็คือ

    1.การถวายพระพุทธรูป(รัตนะ) ปางอุ้มบาตร
    2.การร่วมทำบุญกับชมรมพระวังหน้า ( จะมีการทำบุญในงานบุญต่างๆในวาระต่อๆไป ซึ่งยังไม่รู้ว่า จะมีกี่งานบุญที่จะทำบุญกัน รู้แต่ว่า มีหลายๆงานบุญ)
    3.การร่วมเป็นเจ้าภาพในการบวชพระภิกษุหลายๆรูป (ที่สวนทิพย์โลกอุดร)
    4.การร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร

    มีกี่งานบุญที่จะทำเพียง 1 ครั้ง ได้อย่างน้อยถึง 4 งานบุญครับ

    แต่หากลุงเพชร รับเป็นตัวแทนผมในวาระงานบุญการถวายพระพุทธรูป(รัตนะ) ปางอุ้มบาตร นี้ ผมก็ยินดี โดยหากท่านใดที่มีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญ ขอให้แจ้งกับลุงเพชร และโอนเงินการร่วมทำบุญไปยังบัญชีของลุงเพชร อีกทั้งแจ้งชื่อให้กับลุงเพชร

    เมื่อรวบรวมเงินทำบุญ (ตามระยะเวลาที่กำหนด) ได้ ลุงเพชรก็โอนเงินทำบุญมาให้ผม เรื่องของค่าธรรมเนียมการโอนเงิน ผมจ่ายให้ลุงเพชรเอง และลุงเพชรก็แจ้งชื่อและจำนวนเงินที่ร่วมทำบุญ มาที่ผม

    ยินดีครับลุงเพชรที่ช่วยในวาระงานบุญนี้


    โมทนาครับ

    .<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    .<!-- google_ad_section_end -->____________________________________.


    เพิ่มเติมอีกนิดครับ

    งานบุญที่ผมบอกว่า ได้ถึง 4 งานบุญ ในแง่ความเป็นจริง สำหรับท่านที่ไม่ได้เป็นสมาชิกชมรมพระวังหน้า สามารถไปทำเองได้อยู่แล้ว

    1.การถวายพระพุทธรูป(รัตนะ) ปางอุ้มบาตร
    สามารถไปหาพระพุทธรูป ที่สร้างขึ้นใหม่ แล้วนำไปถวายวัดเองได้

    3.การร่วมเป็นเจ้าภาพในการบวชพระภิกษุหลายๆรูป (ที่สวนทิพย์โลกอุดร)
    สามารถไปร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพในงานบวชที่ผู้มีความประสงค์จะบวชแล้วไม่มีเงินในการบวชพระภิกษุ ซึ่งมีหลายๆแห่งที่ได้เปิดโอกาสให้ร่วมทำบุญในลักษณะนี้ได้

    4.การร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร
    สามารถไปร่วมทำบุญในกระทู้สงเคราะห์สงฆ์อาพาธได้


    ส่วนงานบุญในข้อ 2.

    2.การร่วมทำบุญกับชมรมพระวังหน้า ( จะมีการทำบุญในงานบุญต่างๆในวาระต่อๆไป ซึ่งยังไม่รู้ว่า จะมีกี่งานบุญที่จะทำบุญกัน รู้แต่ว่า มีหลายๆงานบุญ)

    ในงานบุญของชมรมฯ ท่านผู้อ่านก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาร่วมทำบุญด้วยก็ได้ เพราะสามารถไปร่วมทำบุญในสถานที่ต่างๆ ที่มีอย่างเยอะแยะมากมายหลายแห่งครับ



    โมทนาครับ


    .<!-- google_ad_section_end -->
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    คำวัด - สาธุ - สาธุการ


    การลงมติในทางโลกนั้นมีหลายวิธีการ ซึ่งที่จะมาถึงในวันอาทิตย์ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔ คือ การไปลงคะแนนเสียงเลืกตั้ง ส่วนการยกมือแสดงความเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอาจจะเป็นการลงมติในระดับต้นๆ ของประชาธิปไตย เช่น เลือกหัวหน้ากลุ่ม หัวหน้าห้องเรียน


    ส่วนในทางธรรมนั้นก็มีการลงมติเช่นกัน กล่าวคือ การยืนยัน หรือรับรองการทำสังฆกรรมนั้นๆ ว่า “ถูกต้องเหมาะสม” หรือเพื่อลงมติว่า “เห็นด้วยกับข้อเสนอ” พระสงฆ์จะใช้คำว่า "สาธุ"


    "สาธุ" มาจากรากศัพท์ว่า สาธฺ หรือ สธฺ ในความหมายว่า สำเร็จ และประกอบด้วย รู ปัจจัย (สาธ + รู = สาธุ) หมายถึง ผู้ใดยังประโยชน์ของตนและของผู้อื่น ย่อมให้สำเร็จ ดังนั้น ผู้นั้น เชื่อว่า สาธุ (ยังประโยชน์ของตนและของผู้อื่นให้สำเร็จ) ดังเช่น ทายกที่ไปทำบุญมา เมื่อเจอญาติมิตรเพื่อนฝูง หลังจากเล่าเรื่องราวให้ฟังแล้วมักจะตามด้วยการให้ส่วนบุญว่า รับส่วนบุญด้วยนะ และโดยมากมักจะรับกันว่า สาธุ
    ทั้งพระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต) เจ้าอาวาสวัดราชโอสาราม ได้อธิบายความหมายของคำว่า “สาธุ” แปลว่า ดี งาม ชอบ ถูกต้อง

    สาธุ ในคำวัดใช้เป็นคำที่พระสงฆ์เปล่งวาจาเพื่อยืนยัน หรือรับรองการทำสังฆกรรมนั้นๆ ว่า “ถูกต้องเหมาะสม” หรือเพื่อลงมติว่า “เห็นด้วยกับข้อเสนอ”เป็นกิริยาที่พระสงฆ์ใช้แทนการยกมือแบบคฤหัสถ์ในเวลาลง มติ
    สาธุ ในคำไทยใช้เป็นคำอนุโมทนาแสดงความชื่นชมยินดีในบุญกุศล หรือความดีที่คนอื่นทำ โดยประนมมือยกขึ้นเสมอศีรษะพร้อมเปล่งว่าจากว่า “สาธุ

    นอกจากนนี้ยังใช้ในความหมายว่า “ไหว้” เช่นบอกให้เด็กๆ แสดงความเคารพพระ หรือผู้ใหญ่ด้วยการไหว้ ทั้งนี้ใช้กร่อนไปเหลือเพียง “ธุ” ก็มี เช่นใช้ว่า
    “ขออนุโมทนาสาธุด้วนะ”
    “ธุพระเสียลูก”

    ส่วนคำว่า “สาธุการ” เจ้าคุทองดีได้ให้ความหมายไว้ว่า การเปล่งวาจาสาธุ การแสดงความเห็นว่าดีแล้ว ชอบแล้ว

    สาธุการ ใช้เรียกการแสดงความเห็นด้วยการเปล่งวาจาว่า ชอบแล้ว เหมาะสมแล้ว เห็นชอบด้วย หรือแสดงความชื่นชมยินดี ยกย่องสรรเสริญ เช่นว่า

    “เขาได้รับการแซ่ซ้องสาธุการเป็นอย่างมากที่ได้บำเพ็ญประโยชน์ครั้งนี้”
    “เมื่อเห็นสมควรแล้วก็ขอให้เปล่งวาจาว่า สาธุการให้พร้อมกันเทอญ”

    สาธุการ ในคำไทยเป็นชื่อเรียกเพลงหน้าพาทย์ที่สำคัญยิ่ง ใช้บรรเลงในพิธีกรรมเมื่อบูชาหรืออัญเชิญพระรัตนตรัย เทพดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และใช้เพื่อแสดงกิริยาน้อมไหว้ เป็นเพลงอันดับแรกของชุดโหมโรงเช้า โหมโรงเย็น เรียกว่า เพลงสาธุการ
    "พระธรรมกิตติวงศ์ "


    -http://www.komchadluek.net/detail/20110701/101881/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3.html-
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    กุศลกรรมบถ

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%...B8%9A%E0%B8%96

    กุศลกรรมบถ หมายถึง ทางแห่งกรรมดี,ทางทำดี, ทางแห่งกรรมที่เป็นกุศล, กรรมดีอันเป็นทางนำไปสู่ความสุขความเจริญหรือสุคติ (wholesome course of action) เป็นธรรมส่วนสุจริต 10 ประการ จึงเรียกชื่อว่า กุศลกรรมบถ 10

    คำว่า กรรมบถ (อ่านว่า กำมะบด) แปลว่า ทางแห่งกรรม คือ การกระทำที่เข้าทางเป็นกรรมหรือที่นับว่าเป็นกรรม หมายถึง ทางแห่งกุศลกรรม คือการกระทำที่นับว่าเป็นความดีได้แก่
    • ที่เป็นกายกรรม มี 3 อย่าง คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม
    • ที่เป็นวจีกรรม มี 4 คือ ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ
    • ที่เป็นมโนกรรม มี 3 คือ ไม่โลภอยากได้ของเขา ไม่พยาบาทปองร้าย เห็นชอบตามคลองธรรม (สัมมาทิฐิ)
    กุศลกรรมบถ ก็คือสุจริตทางกาย ทางวาจา และทางใจนั่นเอง
    กุศลกรรมบถหมวดนี้ ในบาลีเรียกชื่อหลายอย่าง เช่นว่า ธรรมจริยา (ความประพฤติธรรม - righteous conduct), โสไจย (ความสะอาดหรือเครื่องชำระตัว -- cleansing), อริยธรรม (อารยธรรม, ธรรมของผู้เจริญ - virtues of a noble or civilized man), อริยมรรค (มรรคาอันประเสริฐ - the noble path), สัทธรรม (ธรรมดี, ธรรมแท้ - good law; true law),สัปปุริสธรรม (ธรรมของสัตบุรุษ - qualities of a good man)

    [แก้] ประวัติ

    กุศลกรรมบถมาจากพุทธสุภาษิต สุจริตธรรมดังนี้
    [​IMG]ธมฺมญจเร สุจริตํ น ตํ ทุจฺจริตํ จเร ธมฺมจารี สุขํ เสติ อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จาติ
    [​IMG]
    สุภาษิตนี้มีเนื้อความว่า ธมฺมญจเร สุจริตํ บุคคลพึงประพฤติธรรมส่วนสุจริตอยู่ทุกเมื่อเถิด น ตํ ทุจฺจริตํ จเร ไม่พึงประพฤติธรรมส่วนทุจริตเลย ธมฺมจารี สุขํ เสติ ผู้ประพฤติธรรมส่วนสุจริต ย่อมนอนเป็นสุข หรือเป็นสุขทุกอิริยาบท อสฺมึ โลเก ปรมฺ หิ จ ทั้งในโลกนี้ด้วย โลกเบื้องหน้าด้วย ดังนี้ฯ

    [แก้] กุศลกรรมบถ 10


    [แก้] ประพฤติดีด้วยกาย 3 ประเภท


    ประพฤติดีด้วยกาย นั้นชื่อว่า กายกรรม คือ ทำกิจการงานด้วยกายอย่าให้ทุกข์เกิดขึ้นแก่ผู้อื่น กายกรรมที่ให้เกิดทุกข์แก่ผู้อื่นนั้น มี 3 ประการ
    1. คือ อย่าเบียดเบียนร่างกายของท่าน คือ อย่าฆ่า อย่าฟัน อย่าทุบ อย่าตี ร่างกายของท่านผู้อื่นโดยที่สุด เว้นถึงสัตว์ติรัจฉานได้ยิ่งเป็นการดี ตรงภาษาบาลีที่ว่า ปาณาติปาตาเวรมณี ฯ
    2. คือ อย่าเบียดเบียนทรัพย์สมบัติข้าวของของท่านผู้อื่น คืออย่าลักขโมย อย่าฉ้อโกง อย่าเบียดบังเอาข้าวของของท่านผู้อื่น ตรงภาษาบาลที่ว่า อทินฺนาทานาเวรมณี ฯ
    3. คือ อย่าแย่งชิงลักลอบด้วยอำนาจของกายในหญิงที่ท่านหวงห้าม ตรงภาษาบาลีที่ว่า กาเมสุมิจฉาจาราเวรมณีฯ
    [แก้] ประพฤติดีด้วยวาจา 4 ประเภท


    ประพฤติดีด้วยวาจา 4 ประเภท (วจีกรรม 4 ประเภท) นั้นได้แก่
    1. คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำที่สัตย์ที่จริง ให้เว้นจากวาจาที่เท็จไม่จริงเสีย ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า มุสาวาทาเวรมณี ฯ
    2. คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำอันสมานประสานสามัคคีให้ท่านดีต่อกัน ให้เว้นวาจาส่อเสียดยุยงเสีย ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า ปิสุณายาวาจาเวรมณีฯ
    3. คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำอันอ่อนโยน ให้เกิดความยินดีแก่ผู้ฟัง ให้งดเว้นวาจาที่หยาบคายขึ้นกูขึ้นมึง บริภาษตัดพ้อหยาบๆ คายๆ ให้ผู้ฟังได้รับความเดือดร้อนต่างๆ เสีย ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า ผรุสฺสายวาจายเวรมณี ฯ
    4. คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำที่เป็นไปกับด้วยประโยชน์ ให้เว้นวาจาที่เหลวไหล คือพูดเล่นหาประโยชน์มิได้เสีย ตรงกับภาษาลีที่ว่า สมฺผปฺปลาปาวาจายเวรมณี ฯ
    [แก้] ประพฤติดีด้วยใจ 3 ประเภท


    ประพฤติดีด้วยใจ 3 ประเภท (มโนกรรม 3 ประเภท) นั้นคือ
    1. คือ ให้ระวังเจตนากรรม ให้สัมประยุตต์ด้วยเมตตาอยู่เสมอ คือ ความดำริของใจ อย่าให้ลุอำนาจแห่งโลภะ คืออย่าเพ่งเอากิเลสกามและวัตถุกามของท่านผู้อื่น อันไม่สมควรแก่ฐานะของตน ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า อนภิชฺฌา โหติฯ
    2. คือ ให้ระวังเจตนากรรมให้สัมประยุตต์ด้วยกรุณาอยู่ทุกเมื่อ อย่าให้โทสะ พยาบาท เข้าครอบงำได้ ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า อพฺพยาปาโท โหติฯ
    3. คือ ให้ระวังเจตนากรรมให้สัมประยุตต์ด้วย มุทิตา อุเบกขา อยู่ทุกเมื่อ อย่าให้ไหลไปในทางผิด ให้เห็นตรงตามคลองธรรมทั้ง 10 นี้อยู่ทุกเมื่อ ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า สมฺมทิฎฺฐิโก โหติฯ
    [แก้] อ้างอิง
    1. พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548
    2. พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ 12 พ.ศ. 2546
    3. พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจนฺโท จันทร์) อัตตโนประวัติ ธรรมบรรยาย และ คิริมานนทสูตร ชมรมพุทธศาสน์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต 2531 ผู้พิมพ์ หจก. ป. สัมพันธ์พาณิชย์
    ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A8%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%96".
    หมวดหมู่: กรรม | อภิธานศัพท์พุทธศาสนา | ธรรมหมวด 10
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    สรุปบุญกิริยาวัตถุ ๑0
    http://www.geocities.com/southbeach/...587/10good.htm

    ๑. ทาน ที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องในการสร้างทานนั้น
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการทำทานนั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนที่จะทำทานนั้น
    ๒. เจตนาขณะที่กำลังทำทานนั้น
    ๓. เจตนาขณะที่ทำทานนั้นเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาที่ทำทานนั้นเสร็จไปแล้วเป็นเวลานาน
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔
    ๔. องค์ทานที่จะทำนั้นต้องได้มาด้วยความบริสุทธิ์
    ๕. องค์ทานนั้นต้องมีประโยชน์กับปฏิคาหกหรือผู้รับ
    ๖. ปฏิคาหกหรือผู้รับต้องเป็นบุคคลที่สมควร ( มีคุณธรรมสูงสุด คืออริยบุคคล ต่ำสุด คือผู้มีนิจศีล)
    ผลของ ทาน
    ปฏิสนธิกาล คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    มีกินมีใช้ด้วยวคามอุดมสมบูรณ์ตามฐานะ

    ๒ ศีลที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องในการที่จะรักษาศีลอันถูกต้อง
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการรักษาศีลนั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนที่จะรักษาศีล
    ๒. เจตนาขณะที่กำลังอยู่ในศีล
    ๓. เจตนาที่พ้นจากศีลใหม่ๆ
    ๔. เจตนาที่พ้นจากศีลนานแล้ว
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔
    ๔. ศีลแต่ละตัวจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนไม่ขาดตกบกพร่อง
    ๕. ประเภทของศีลอย่างหยาบๆมีดังนี้คือ
    ๑. นิจศีล หมายถึง ศีลที่ติดอยู่ตลอดไปโดยไม่ละทิ้ง และมีความถูกต้องครบถ้วน
    ๒. อุโบสถศีล หมายถึง ศีล ๒ อันได้แก่
    ๑. ปาฏิโมกขสังวร คือ ศีลทั้ง ๘ ตัว จะต้องมีครบถ้วนไม่บกพร่อง
    ๒. ภาวนา คือ ในขณะที่รักษาศีลอยู่นั้นจะต้องมีการภาวนาในอนุสสติ ๕ ให้เกิดขึ้น
    ตลอดเวลาที่รักษาศีล คือ พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ สีลานุสสติ เทวตานุสสติ
    ๓. วิสุทธิศีล หมายถึง ศีล ๔ อันได้แก่
    ๑. ปาฏิโมกขสังวร คือ ศีลที่รักษามีกี่ตัวจะต้องครบถ้วนสมบูรณ์
    ๒. อินทรีย์สังวร คือ การสำรวมทางทวาร ๖ อยู่ในความเป็นอุเบกขา
    ๓. อาชีวสังวร คือ การเลี้ยงชีวิตโดยชอบ ภิกษุได้แก่การบิณฑบาต ถ้าเป็นคฤหัสถ์จะ
    ต้องเป็นสัมมาอาชีวะ
    ๔. ปัจจยสังวร คือ การกินอาหารต้องพิจารณาว่ากินเพื่อดำรงชีวิตอยู่ การแต่งกายต้อง
    พิจารณาว่าแต่งกายเพื่อป้องกันอุณหภูมิร้อนเย็น และป้องกันความอุจาดลามก ที่อยู่อาศัยจะต้อง
    พิจารณาว่าเพื่อป้องกันแดดป้องกันฝน การกินยารักษาโรคต้องพิจารณาว่าเพื่อบำบัดทุกขเวทนา
    ให้ลดน้อยถอยลง จะได้ทำคุณงามความดีให้เกิดขึ้นได้
    ผลของ ศีล
    ปฏิสนธิกาล คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    มีคนเคารพนับถือมีความสุขสบาย

    ๓ ภาวนาที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องในการที่จะสร้างภาวนาให้เกิดขึ้น
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการภาวนานั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนภาวนา
    ๒. เจตนาขณะกำลังภาวนา
    ๓. เจตนาเมื่อภาวนาเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาเมื่อภาวนาเสร็จไปนานแล้ว
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. ภาวนาอันถูกต้องในพระธรรมของพุทธศาสนา๕. มีความรู้ความหมายของบทบริกรรมภาวนานั้นว่ามีความหมายประการใดแล้วโน้มจิตตามไป
    ผลของ ภาวนา
    ปฏิสนธิกาล คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    ๑. มีจิตใจไม่วุ่นวาย
    ๒. การดำรงชีวิตมีสุข

    ๔. การเคารพบุคคลที่ควรเคารพหรือการอ่อนน้อมถ่อมตนที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องในบุคคลผู้นั้น
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการเคารพหรือการอ่อนน้อมถ่อมตน คือ
    ๑. เจตนาก่อนทำ
    ๒. เจตนาขณะกำลังทำ
    ๓. เจตนาเมื่อทำเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาเมื่อทำเสร็จแล้วเป็นเวลานาน
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. บุคคลผู้นั้นมีคุณสมบัติอันดีทางโลกหรือทางธรรมอันถูกต้อง
    ๕. เคารพโดยการอนุโมทนาในคุณงามความดีในทางโลกหรือทางธรรมอันถูกต้องของผู้นั้น
    ผลของ เคารพบุคคลที่ควรเคารพ
    ปฏิสนธิกาล
    คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    มีคนเคารพนับถือยอมรับเป็นผู้นำของเขา

    ๕. ขวนขวายในกิจที่ชอบที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องในการที่จะขวนขวายในกิจที่ชอบ
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการขวนขวายในกิจที่ชอบนั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนทำการขวนขวายในกิจที่ชอบ
    ๒. เจตนาขณะทำการขวนขวายในกิจที่ชอบ
    ๓. เจตนาที่ขวนขวายในกิจที่ชอบเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนที่ขวนขวายในกิจที่ชอบเสร็จแล้วนาน
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. การกระทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นต่อส่วนรวมโดยไม่เดือดร้อนแก่ผู้ใด เช่น การทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
    ผลของ ขวนขวายในกิจที่ชอบ
    ปฏิสนธิกาล
    คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    ๑. ดำรงชีวิตด้วยความปลอดโปร่ง
    ๒. มีคนช่วยเหลือและสนับสนุนในกิจการที่กระทำในชีวิต

    ๖. การแผ่กุศลผลบุญที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องที่จะให้ความเอื้อเฟื้อความสุขความสบายแก่ผู้อื่น
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการที่จะแผ่กุศลผลบุญนั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนที่จะแผ่กุศลผลบุญนั้น
    ๒. เจตนาขณะที่กำลังแผ่กุศลผลบุญนั้น
    ๓. เจตนาที่แผ่กุศลผลบุญนั้นเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาที่ได้แผ่กุศลผลบุญนั้นเสร็จนานแล้ว
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. ตนได้สร้างกุศลอันถูกต้องให้เกิดขึ้นแล้ว อันได้แก่ กามาวจรกุศล รูปาวจรกุศล อรูปาวจรกุศล โลกุตตรกุศล อันถูกต้องในพระพุทธศาสนา
    ๕. การแผ่กุศลเสร็จแล้ว ควรจะได้ขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ทั้งนี้เพราะผู้นั้นอาจเคยเป็น เจ้าเวรนายกรรมมาแต่ก่อนก็ได้๖. ระบุผู้ที่ควรแก่การแผ่กุศลนั้นด้วยเจตนาอันมั่นคง และสมควรแก่ฐานะที่เราจะแผ่กุศลผลบุญให้แก่เขา หรือสมควรแก่ฐานะของผู้รับจะได้รับหรือไม่
    ผลของ แผ่กุศลผลบุญ
    ปฏิสนธิกาล
    คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    ๑. มีผู้ยกย่องสรรเสริญ
    ๒. มีกินมีใช้อันสมควรแก่ฐานะ
    ๓. มีผู้เสียสละให้แก่ตน

    ๗. การอนุโมทนาบุญที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องที่ผู้นั้นกระทำคุณงามความดีอันถูกต้องในทางโลกหรือทางธรรม
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการอนุโมทนาคุณงามความดีของผู้นั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนที่จะอนุโมทนา
    ๒. เจตนาขณะที่กำลังอนุโมทนา
    ๓. เจตนาขณะที่อนุโมทนาเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาขณะที่อนุโมทนาเสร็จเป็นเวลานานแล้ว
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. รู้ว่าผู้นั้นกระทำโดยถูกต้องทั้งในทางโลกหรือทางธรรมเพื่อเป็นการสืบต่อ ๓ สถาบัน คือ ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา องค์พระมหากษัตริย์ โดยไม่หวังประโยชน์ใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
    ๕. อนุโมทนาคุณงามความดี หรือมีความยินดีต่อการกระทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมโดยไม่
    เบียดเบียนหรือหวังผลแต่ประการใดๆ เลย
    ผลของ การอนุโมทนาบุญ
    ปฏิสนธิกาล
    คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    ๑. มีผู้สรรเสริญ
    ๒. ดำเนินชีวิตโดยความถูกต้อง


    ๘. การฟังธรรมที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องที่ได้ฟังธรรมในพระพุทธศาสนา
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการฟังธรรมนั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนที่จะฟัง
    ๒. เจตนาขณะที่กำลังฟังธรรม
    ๓. เจตนาที่ฟังธรรมเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาที่ฟังธรรมเสร็จนานแล้ว
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. ตั้งใจฟังด้วยความเคารพในธรรมของพุทธศาสนาและพยายามจดจำไว้
    ๕. เมื่อฟังแล้วพิจารณากลั่นกรองด้วยเหตุด้วยผล และพิจารณาว่าธรรมนั้นสมควรแก่ฐานะ
    ของตัวเราที่จะประพฤติปฏิบัติได้หรือไม่
    ๖. เมื่อมีข้อสงสัยก็สนทนาไต่ถามเพื่อทำความเข้าใจอันถูกต้อง
    ๗. ประพฤติปฏิบัติธรรมที่ได้ฟังให้ถูกต้องตามควรแก่ฐานะ คือ การสืบต่อพระพุทธศาสนา
    นั่นเอง
    ผลของ การฟังธรรม
    ปฏิสนธิกาล
    คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ที่คนอื่นรู้ได้ยากแต่ตนรู้ได้โดยง่าย

    ๙. การให้ธรรมเป็นทาน ที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องเพื่อดำรงไว้ซึ่งพุทธศาสนา
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการที่ให้ธรรมอันสมควร คือ
    ๑. เจตนาก่อนให้ธรรม
    ๒. เจตนากำลังให้ธรรม
    ๓. เจตนาที่ให้ธรรมเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาที่ให้ธรรมเสร็จนานแล้ว
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. เป็นธรรมในพระพุทธศาสนาอันถูกต้อง
    ๕. ธรรมที่ให้นั้นเป็นธรรมที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์แก่ผู้ฟังที่จะนำไปประพฤติปฏิบัติ
    ๖. ชี้แจงให้ผู้ฟังมีความเข้าใจ สามารถนำไปประพฤติปฏิบัติได้โดยถูกต้องตามฐานะ
    ผลของ การให้ธรรมเป็นทาน
    ปฏิสนธิกาล
    คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    ๑. มีปัญญาเฉลียวฉลาด
    ๒. เข้าถึงธรรมอันถูกต้องได้โดยง่าย
    ๓. มีกินมีใช้อันสมควรแก่ฐานะ
    ๔. มีผู้เคารพนับถือ
    ๕. ดำเนินชีวิตไปด้วยความถูกต้อง

    ๑0. ทิฏฐุชุกรรม( การทำความเห็นให้ถูก ) ที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องโดยเชื่อพระธรรมในพุทธศาสนาแต่ละเรื่องและขั้นตอนในการที่กระทำ
    สิ่งนั้นๆ ให้ถูกต้อง
    ๒. จะต้องมีการค้นคว้าในพระธรรมคำสอนอันถูกต้อง
    ๓. จะต้องมีการประพฤติธรรมปฏิบัติธรรมอันสมควรแก่ธรรมและผลเกิดขึ้นแล้วจึงจะสามารถรู้ได้ว่าอย่าง
    ใดผิดอย่างใดถูก
    ๔. ต้องใช้สติและปัญญาประกอบด้วยเหตุและผลแต่ละขั้นละตอน
    ๕. ในเรื่องแต่ละเรื่องจะต้องพิจารณาด้วยเหตุและผลด้วยจิตเป็นอุเบกขา ทั้งในเรื่องดีและ
    เรื่องชั่ว
    ๖. สิ่งที่ถูกต้องตามพระธรรมคำสอนนั่นก็คือ " ละความชั่ว ทำแต่ความดี "
    ๗. เมื่อการทำความเห็นให้ถูกต้องแล้ว จะกระทำในสิ่งอันถูกต้องนั้นจะต้อง ประกอบด้วยเจตนา
    ๔ อันมีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่ง ใน ๘ ดวง
    ผลของ ทิฏฐุชุกรรม
    ปฏิสนธิกาล
    คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    ๑. มีสติปัญญาอันว่องไว
    ๒. มีความคิดความเห็นอันถูกต้องทั้งในทางโลกและทางธรรม


    พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
    พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
    พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

    พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๔๖
    http://84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=89

    บันทึก ๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗, ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘
    การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจาก พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
    พิมพ์ครั้งที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๓๕, พิมพ์ครั้งที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๔๖
    หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ DhammaPerfect@yahoo.com

     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ลุงหนุ่มตอบมาละ เพื่อนๆที่จะทำบุญพระปางอุ้มบาตรกับลุงหนุ่ม ก็คงเข้าใจแล้วนะครับ ด้วยเหตุผลมากมายที่พรรณามา เฮ้อ ดีที่ลุงไม่ชวนเขาสาบานกรณีที่ไม่เชื่อลุงว่าเอาตังค์ไปทำอะไร..

    เพื่อนๆที่เขาสนใจร่วมบุญกับลุงหนุ่ม ก็คงคิดไปอีกแบบว่า การร่วมบุญกับลุงหนุ่มโดยตรง อาจจะสามารถส่งบุญไปถึงหลวงปู่ทุกๆพระองค์ได้ถึง และรวดเร็วแบบ EMS และง่ายๆไงครับ..หุ..หุ...
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ลุงหนุ่มตอบมาละ เพื่อนๆที่จะทำบุญพระปางอุ้มบาตรกับลุงหนุ่ม ก็คงเข้าใจแล้วนะครับ ด้วยเหตุผลมากมายที่พรรณามา เฮ้อ ดีที่ลุงไม่ชวนเขาสาบานกรณีที่ไม่เชื่อลุงว่าเอาตังค์ไปทำอะไร..

    เพื่อนๆที่เขาสนใจร่วมบุญกับลุงหนุ่ม ก็คงคิดไปอีกแบบว่า การร่วมบุญกับลุงหนุ่มโดยตรง อาจจะสามารถส่งบุญไปถึงหลวงปู่ทุกๆพระองค์ได้ถึง และรวดเร็วแบบ EMS และง่ายๆไงครับ..หุ..หุ...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เทคนิคการทำบุญ ผมก็บอกในกระทู้พระวังหน้าฯนี้แล้ว

    การทำบุญ พยายามให้ได้บุญ เต็ม 100%

    แต่โดยปกติแล้ว ทำบุญแทบไม่เคยมีใครที่ทำบุญแล้วได้เต็ม 100% ส่วนใหญ่ได้ไม่เกิน 50 % เท่านั้น

    ผมถึงได้บอกเทคนิคในการทำบุญ ทำอย่างไรให้ได้บุญมากที่สุด ถึงแม้จะไม่ได้เต็ม 100% ก็ตามครับ

    โมทนา

    .<!-- google_ad_section_end -->
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .

    อ้างอิง:

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ลุงหนุ่มตอบมาละ เพื่อนๆที่จะทำบุญพระปางอุ้มบาตรกับลุงหนุ่ม ก็คงเข้าใจแล้วนะครับ ด้วยเหตุผลมากมายที่พรรณามา เฮ้อ ดีที่ลุงไม่ชวนเขาสาบานกรณีที่ไม่เชื่อลุงว่าเอาตังค์ไปทำอะไร..

    เพื่อนๆที่เขาสนใจร่วมบุญกับลุงหนุ่ม ก็คงคิดไปอีกแบบว่า การร่วมบุญกับลุงหนุ่มโดยตรง อาจจะสามารถส่งบุญไปถึงหลวงปู่ทุกๆพระองค์ได้ถึง และรวดเร็วแบบ EMS และง่ายๆไงครับ..หุ..หุ...

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    __________________

    เทคนิคการทำบุญ ผมก็บอกในกระทู้พระวังหน้าฯนี้แล้ว

    การทำบุญ พยายามให้ได้บุญ เต็ม 100%

    แต่โดยปกติแล้ว ทำบุญแทบไม่เคยมีใครที่ทำบุญแล้วได้เต็ม 100% ส่วนใหญ่ได้ไม่เกิน 50 % เท่านั้น

    ผมถึงได้บอกเทคนิคในการทำบุญ ทำอย่างไรให้ได้บุญมากที่สุด ถึงแม้จะไม่ได้เต็ม 100% ก็ตามครับ

    โมทนา

    .<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    __________________

    ผมอยากแก้ความเข้าใจสำหรับบางท่านที่อาจเข้าใจว่า การทำบุญกับผม และผมสามารถถวายบุญกับหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรได้นั้น ไม่เป็นความจริง

    ตามที่ผมเคยบอกไว้เรื่องของเทคนิคการทำบุญในกระทู้พระวังหน้าฯ ตามนั้นครับ

    โมทนา

    .<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .


    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .

    สรุปบุญกิริยาวัตถุ ๑0
    http://www.geocities.com/southbeach/...587/10good.htm

    ๑. ทาน ที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องในการสร้างทานนั้น
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการทำทานนั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนที่จะทำทานนั้น
    ๒. เจตนาขณะที่กำลังทำทานนั้น
    ๓. เจตนาขณะที่ทำทานนั้นเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาที่ทำทานนั้นเสร็จไปแล้วเป็นเวลานาน
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔
    ๔. องค์ทานที่จะทำนั้นต้องได้มาด้วยความบริสุทธิ์
    ๕. องค์ทานนั้นต้องมีประโยชน์กับปฏิคาหกหรือผู้รับ
    ๖. ปฏิคาหกหรือผู้รับต้องเป็นบุคคลที่สมควร ( มีคุณธรรมสูงสุด คืออริยบุคคล ต่ำสุด คือผู้มีนิจศีล)
    ผลของ ทาน
    ปฏิสนธิกาล คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    มีกินมีใช้ด้วยวคามอุดมสมบูรณ์ตามฐานะ

    ๒ ศีลที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องในการที่จะรักษาศีลอันถูกต้อง
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการรักษาศีลนั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนที่จะรักษาศีล
    ๒. เจตนาขณะที่กำลังอยู่ในศีล
    ๓. เจตนาที่พ้นจากศีลใหม่ๆ
    ๔. เจตนาที่พ้นจากศีลนานแล้ว
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔
    ๔. ศีลแต่ละตัวจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนไม่ขาดตกบกพร่อง
    ๕. ประเภทของศีลอย่างหยาบๆมีดังนี้คือ
    ๑. นิจศีล หมายถึง ศีลที่ติดอยู่ตลอดไปโดยไม่ละทิ้ง และมีความถูกต้องครบถ้วน
    ๒. อุโบสถศีล หมายถึง ศีล ๒ อันได้แก่
    ๑. ปาฏิโมกขสังวร คือ ศีลทั้ง ๘ ตัว จะต้องมีครบถ้วนไม่บกพร่อง
    ๒. ภาวนา คือ ในขณะที่รักษาศีลอยู่นั้นจะต้องมีการภาวนาในอนุสสติ ๕ ให้เกิดขึ้น
    ตลอดเวลาที่รักษาศีล คือ พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ สีลานุสสติ เทวตานุสสติ
    ๓. วิสุทธิศีล หมายถึง ศีล ๔ อันได้แก่
    ๑. ปาฏิโมกขสังวร คือ ศีลที่รักษามีกี่ตัวจะต้องครบถ้วนสมบูรณ์
    ๒. อินทรีย์สังวร คือ การสำรวมทางทวาร ๖ อยู่ในความเป็นอุเบกขา
    ๓. อาชีวสังวร คือ การเลี้ยงชีวิตโดยชอบ ภิกษุได้แก่การบิณฑบาต ถ้าเป็นคฤหัสถ์จะ
    ต้องเป็นสัมมาอาชีวะ
    ๔. ปัจจยสังวร คือ การกินอาหารต้องพิจารณาว่ากินเพื่อดำรงชีวิตอยู่ การแต่งกายต้อง
    พิจารณาว่าแต่งกายเพื่อป้องกันอุณหภูมิร้อนเย็น และป้องกันความอุจาดลามก ที่อยู่อาศัยจะต้อง
    พิจารณาว่าเพื่อป้องกันแดดป้องกันฝน การกินยารักษาโรคต้องพิจารณาว่าเพื่อบำบัดทุกขเวทนา
    ให้ลดน้อยถอยลง จะได้ทำคุณงามความดีให้เกิดขึ้นได้
    ผลของ ศีล
    ปฏิสนธิกาล คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    มีคนเคารพนับถือมีความสุขสบาย

    ๓ ภาวนาที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องในการที่จะสร้างภาวนาให้เกิดขึ้น
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการภาวนานั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนภาวนา
    ๒. เจตนาขณะกำลังภาวนา
    ๓. เจตนาเมื่อภาวนาเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาเมื่อภาวนาเสร็จไปนานแล้ว
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. ภาวนาอันถูกต้องในพระธรรมของพุทธศาสนา๕. มีความรู้ความหมายของบทบริกรรมภาวนานั้นว่ามีความหมายประการใดแล้วโน้มจิตตามไป
    ผลของ ภาวนา
    ปฏิสนธิกาล คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    ๑. มีจิตใจไม่วุ่นวาย
    ๒. การดำรงชีวิตมีสุข

    ๔. การเคารพบุคคลที่ควรเคารพหรือการอ่อนน้อมถ่อมตนที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องในบุคคลผู้นั้น
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการเคารพหรือการอ่อนน้อมถ่อมตน คือ
    ๑. เจตนาก่อนทำ
    ๒. เจตนาขณะกำลังทำ
    ๓. เจตนาเมื่อทำเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาเมื่อทำเสร็จแล้วเป็นเวลานาน
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. บุคคลผู้นั้นมีคุณสมบัติอันดีทางโลกหรือทางธรรมอันถูกต้อง
    ๕. เคารพโดยการอนุโมทนาในคุณงามความดีในทางโลกหรือทางธรรมอันถูกต้องของผู้นั้น
    ผลของ เคารพบุคคลที่ควรเคารพ
    ปฏิสนธิกาล คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    มีคนเคารพนับถือยอมรับเป็นผู้นำของเขา

    ๕. ขวนขวายในกิจที่ชอบที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องในการที่จะขวนขวายในกิจที่ชอบ
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการขวนขวายในกิจที่ชอบนั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนทำการขวนขวายในกิจที่ชอบ
    ๒. เจตนาขณะทำการขวนขวายในกิจที่ชอบ
    ๓. เจตนาที่ขวนขวายในกิจที่ชอบเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนที่ขวนขวายในกิจที่ชอบเสร็จแล้วนาน
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. การกระทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นต่อส่วนรวมโดยไม่เดือดร้อนแก่ผู้ใด เช่น การทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
    ผลของ ขวนขวายในกิจที่ชอบ
    ปฏิสนธิกาล คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    ๑. ดำรงชีวิตด้วยความปลอดโปร่ง
    ๒. มีคนช่วยเหลือและสนับสนุนในกิจการที่กระทำในชีวิต

    ๖. การแผ่กุศลผลบุญที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องที่จะให้ความเอื้อเฟื้อความสุขความสบายแก่ผู้อื่น
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการที่จะแผ่กุศลผลบุญนั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนที่จะแผ่กุศลผลบุญนั้น
    ๒. เจตนาขณะที่กำลังแผ่กุศลผลบุญนั้น
    ๓. เจตนาที่แผ่กุศลผลบุญนั้นเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาที่ได้แผ่กุศลผลบุญนั้นเสร็จนานแล้ว
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. ตนได้สร้างกุศลอันถูกต้องให้เกิดขึ้นแล้ว อันได้แก่ กามาวจรกุศล รูปาวจรกุศล อรูปาวจรกุศล โลกุตตรกุศล อันถูกต้องในพระพุทธศาสนา
    ๕. การแผ่กุศลเสร็จแล้ว ควรจะได้ขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ทั้งนี้เพราะผู้นั้นอาจเคยเป็น เจ้าเวรนายกรรมมาแต่ก่อนก็ได้๖. ระบุผู้ที่ควรแก่การแผ่กุศลนั้นด้วยเจตนาอันมั่นคง และสมควรแก่ฐานะที่เราจะแผ่กุศลผลบุญให้แก่เขา หรือสมควรแก่ฐานะของผู้รับจะได้รับหรือไม่
    ผลของ แผ่กุศลผลบุญ
    ปฏิสนธิกาล คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    ๑. มีผู้ยกย่องสรรเสริญ
    ๒. มีกินมีใช้อันสมควรแก่ฐานะ
    ๓. มีผู้เสียสละให้แก่ตน

    ๗. การอนุโมทนาบุญที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องที่ผู้นั้นกระทำคุณงามความดีอันถูกต้องในทางโลกหรือทางธรรม
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการอนุโมทนาคุณงามความดีของผู้นั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนที่จะอนุโมทนา
    ๒. เจตนาขณะที่กำลังอนุโมทนา
    ๓. เจตนาขณะที่อนุโมทนาเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาขณะที่อนุโมทนาเสร็จเป็นเวลานานแล้ว
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. รู้ว่าผู้นั้นกระทำโดยถูกต้องทั้งในทางโลกหรือทางธรรมเพื่อเป็นการสืบต่อ ๓ สถาบัน คือ ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา องค์พระมหากษัตริย์ โดยไม่หวังประโยชน์ใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
    ๕. อนุโมทนาคุณงามความดี หรือมีความยินดีต่อการกระทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมโดยไม่
    เบียดเบียนหรือหวังผลแต่ประการใดๆ เลย
    ผลของ การอนุโมทนาบุญ
    ปฏิสนธิกาล คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    ๑. มีผู้สรรเสริญ
    ๒. ดำเนินชีวิตโดยความถูกต้อง

    ๘. การฟังธรรมที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องที่ได้ฟังธรรมในพระพุทธศาสนา
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการฟังธรรมนั้น คือ
    ๑. เจตนาก่อนที่จะฟัง
    ๒. เจตนาขณะที่กำลังฟังธรรม
    ๓. เจตนาที่ฟังธรรมเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาที่ฟังธรรมเสร็จนานแล้ว
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. ตั้งใจฟังด้วยความเคารพในธรรมของพุทธศาสนาและพยายามจดจำไว้
    ๕. เมื่อฟังแล้วพิจารณากลั่นกรองด้วยเหตุด้วยผล และพิจารณาว่าธรรมนั้นสมควรแก่ฐานะ
    ของตัวเราที่จะประพฤติปฏิบัติได้หรือไม่
    ๖. เมื่อมีข้อสงสัยก็สนทนาไต่ถามเพื่อทำความเข้าใจอันถูกต้อง
    ๗. ประพฤติปฏิบัติธรรมที่ได้ฟังให้ถูกต้องตามควรแก่ฐานะ คือ การสืบต่อพระพุทธศาสนา
    นั่นเอง
    ผลของ การฟังธรรม
    ปฏิสนธิกาล คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ที่คนอื่นรู้ได้ยากแต่ตนรู้ได้โดยง่าย

    ๙. การให้ธรรมเป็นทาน ที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องเพื่อดำรงไว้ซึ่งพุทธศาสนา
    ๒. มีเจตนา ๔ ในการที่ให้ธรรมอันสมควร คือ
    ๑. เจตนาก่อนให้ธรรม
    ๒. เจตนากำลังให้ธรรม
    ๓. เจตนาที่ให้ธรรมเสร็จแล้วใหม่ๆ
    ๔. เจตนาที่ให้ธรรมเสร็จนานแล้ว
    ๓. มีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่งใน ๘ ดวงในเจตนา ๔๔. เป็นธรรมในพระพุทธศาสนาอันถูกต้อง
    ๕. ธรรมที่ให้นั้นเป็นธรรมที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์แก่ผู้ฟังที่จะนำไปประพฤติปฏิบัติ
    ๖. ชี้แจงให้ผู้ฟังมีความเข้าใจ สามารถนำไปประพฤติปฏิบัติได้โดยถูกต้องตามฐานะ
    ผลของ การให้ธรรมเป็นทาน
    ปฏิสนธิกาล คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    ๑. มีปัญญาเฉลียวฉลาด
    ๒. เข้าถึงธรรมอันถูกต้องได้โดยง่าย
    ๓. มีกินมีใช้อันสมควรแก่ฐานะ
    ๔. มีผู้เคารพนับถือ
    ๕. ดำเนินชีวิตไปด้วยความถูกต้อง

    ๑0. ทิฏฐุชุกรรม( การทำความเห็นให้ถูก ) ที่จะให้ผลเกิดย่อมประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
    ๑. มีศรัทธาอันถูกต้องโดยเชื่อพระธรรมในพุทธศาสนาแต่ละเรื่องและขั้นตอนในการที่กระทำ
    สิ่งนั้นๆ ให้ถูกต้อง
    ๒. จะต้องมีการค้นคว้าในพระธรรมคำสอนอันถูกต้อง
    ๓. จะต้องมีการประพฤติธรรมปฏิบัติธรรมอันสมควรแก่ธรรมและผลเกิดขึ้นแล้วจึงจะสามารถรู้ได้ว่าอย่าง
    ใดผิดอย่างใดถูก
    ๔. ต้องใช้สติและปัญญาประกอบด้วยเหตุและผลแต่ละขั้นละตอน
    ๕. ในเรื่องแต่ละเรื่องจะต้องพิจารณาด้วยเหตุและผลด้วยจิตเป็นอุเบกขา ทั้งในเรื่องดีและ
    เรื่องชั่ว
    ๖. สิ่งที่ถูกต้องตามพระธรรมคำสอนนั่นก็คือ " ละความชั่ว ทำแต่ความดี "
    ๗. เมื่อการทำความเห็นให้ถูกต้องแล้ว จะกระทำในสิ่งอันถูกต้องนั้นจะต้อง ประกอบด้วยเจตนา
    ๔ อันมีจิตเป็นมหากุศลดวงใดดวงหนึ่ง ใน ๘ ดวง
    ผลของ ทิฏฐุชุกรรม
    ปฏิสนธิกาล คือ กามสุคติภูมิ อันได้แก่ ความเป็นมนุษย์ และเทวดา ๕ ชั้น ( เว้นเทวดาชั้นดุสิต )
    ปวัตติกาล
    ๑. มีสติปัญญาอันว่องไว
    ๒. มีความคิดความเห็นอันถูกต้องทั้งในทางโลกและทางธรรม

    พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
    พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
    พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

    พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๔๖
    http://84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=89

    บันทึก ๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗, ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘
    การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจาก พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
    พิมพ์ครั้งที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๓๕, พิมพ์ครั้งที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๔๖
    หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ DhammaPerfect@yahoo.com


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ____________________________________



    วิธีการทำบุญ มี 10 วิธี

    แต่มีเพียงวิธีเดียว ที่ต้องเสียเงิน

    อีก 9 วิธี ไม่ต้องเสียเงิน ที่สำคัญ ในบางข้อ(ส่วนใหญ่)ได้บุญเยอะกว่า การทำบุญที่ต้องเสียเงิน ครับ


    .<!-- google_ad_section_end -->
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 8 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+ </TD></TR></TBODY></TABLE>



    เรียน ท่านผู้อ่าน

    การพูดคุยกันในกระทู้พระวังหน้าฯ

    มีบางสิ่งที่ดี ขอให้ท่านนำไปใช้

    แต่หากมีสิ่งที่ไม่ดี ขอให้ดูไว้เป็นตัวอย่าง อย่านำไปใช้

    ส่วนการพูดคุยกันระหว่าง พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ของผม มีสิ่งที่ท่านผู้อ่าน อ่านแล้วควรพิจารณา เนื่องจากในบางเรื่อง มีการเตือนในสิ่งต่างๆ มีการบอกในเรื่องต่างๆ กับท่านผู้อ่านครับ

    สาธุ

    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    นครบาลสั่งทุก สน.เฝ้าระวังจับกุมแก๊งค้าทองปลอม <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" valign="middle" align="left">โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</td> <td class="date" valign="middle" align="left">20 มกราคม 2555 14:34 น.</td> </tr></tbody></table>

    ผบช.น.ร่อนหนังสือถึงทุก สน.ให้เฝ้าระวังขบวนการค้าทองปลอม แนะผู้เสียหายอย่ายอมความให้ทำประวัติกลุ่มผู้กระทำผิดไว้ เมื่อเกิดเหตุจะได้นำข้อมูลมาตรวจสอบตามจับกุมง่ายขึ้น ยอมรับห่วงร้านทองขนาดเล็กจะถูกหลอกง่ายกว่า เพราะร้านใหญ่มีความชำนาญในการตรวจสอบมากกว่า

    วันนี้(20 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. เปิดเผยเกี่ยวกับมาตรการเฝ้าระวังทองปลอมในช่วงเทศกาลตรุษจีนว่า ได้ทำหนังสือสั่งการไปยังทุกสถานีตำรวจในพื้นที่นครบาลแล้ว หากมีเรื่องดังกล่าวขึ้นแนะนำให้ผู้เสียหายอย่ายอมความ และให้ทำประวัติกลุ่มผู้กระทำความผิดไว้ เนื่องจากสมาคมผู้ค้าทองคำเชื่อว่ามีการทำกันเป็นขบวนการแน่นอน ซึ่งเมื่อเกิดเหตุจะได้นำข้อมูลมาตรวจสอบว่าน่าจะเป็นกลุ่มขบวนการไหน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความเรื่องทองปลอมเข้ามา และยังไม่มีพื้นที่ไหนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่กลุ่มผู้กระทำผิดนี้จะเน้นร้านทองเล็ก ๆ มากกว่าร้านใหญ่ที่มีความชำนาญในการตรวจสอบมากกว่า

    “ในพื้นที่ย่านเยาวราช ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านทองเป็นจำนวนมากนั้นไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่ เพราะแต่ละร้านเป็นมืออาชีพ ตรวจสอบได้อยู่แล้ว จะห่วงก็แต่ร้านเล็กๆที่รับจำนำทอง อาจจะโดนหลอก เพราะจะต้องมีความเสี่ยง ส่วนผู้กระทำความผิดมักจะเป็นช่างทำทองหรือหรือไม่นั้น ก่อนหน้านี้ก็มีการพูดคุยกันว่าคนที่จะทำได้จะต้องเป็นช่างทอง เพราะมีขั้นตอนในการทำที่ยาก ต้องอาศัยความชำนาญในการทำ แต่ยังไม่มีเบาะแสว่าช่างทองคนไหนเป็นคนทำ ถ้ามีเบาะแสก็สามารถจับกุมได้ ” พล.ต.ท.วินัย กล่าว

    -http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9550000008949-


    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .


    จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็น ปปง.หลอกโอนเงินเกือบ 30 ล้าน! <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="middle" align="left">โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</td> <td class="date" valign="middle" align="left">20 มกราคม 2555 14:53 น.</td></tr></tbody></table>

    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td valign="baseline" align="center">กองปราบฯ จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกข้าราชการเกษียณอายุโอนเงินเกือบ 30 ล้าน</td> </tr> </tbody></table>
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]

    [​IMG]


    </td> </tr> <tr> <td valign="baseline" align="center">โฉมหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน</td> </tr> </tbody></table>


    รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็น ปปง.หลอกอดีตข้าราชการบำนาญโอนเงินเกือบ 30 ล้านบาท สารภาพว่าจ้างครั้งละหมื่น เพื่อให้คนเปิดบัญชีรับโอนเงินฉ้อโกงครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่พบบัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีธนาคารตรงกับรายชื่อ 85 คนที่กำลังจะออกหมายจับผู้รับจ้างเปิดบัญชีรองรับขบวนการคอลเซ็นเตอร์

    วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองปราบปราม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. และพ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมกันจับกุม นายวิชัย กองมงคล อายุ 46 ปี, นางอุสาห์ บุญเรือง อายุ 57 ปี, นายเบเบ เชียงหลี่ อายุ 29 ปี, นายธีระเกียรติ แซ่จู อายุ 24 ปี ทั้ง 4 รายเป็นชาว จ.เชียงใหม่ และนายดิลกพัฒน์ รายเรียงวนาขจี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/21 หมู่ 9 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. ตามหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 32.1-5 วันที่ 18 ม.ค. 2555 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของ ผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นหรือประชาชน พร้อมด้วยของกลางสมุดบัญชีธนาคาร 32 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 126 ใบ โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง

    ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา มีอดีตข้าราชการบำนาญหญิงรายหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่ง หนึ่งอายุ 68 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างชื่อของ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินว่ายุ่งเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติด ก่อนหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี จนต้องเสียเงินไปเกือบ 30 ล้านบาท

    ต่อมาเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. สอบสวนนายดิลกพัฒน์ให้การรับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างจากนายไพโรจน์ (ไม่ทราบนามสกุล) ครั้งละ 1 หมื่นบาท ให้หาคนมาเปิดบัญชีธนาคารและเก็บบัตรเอทีเอ็มจากนั้นให้ตนเป็นคนโอนเงินเข้า บัญชีของนายไพโรจน์ โดยทำมาแล้ว 5 ครั้ง นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าบัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีธนาคารตรงกับรายชื่อ 85 คนที่ตำรวจกองปราบปรามกำลังจะออกหมายจับอยู่หลายรายการจึงต้องสอบสวนต่อไป

    สารภาพว่าจ้างครั้งละหมื่นเพื่อให้คนเปิดบัญชีรับโอนเงินฉ้อโกงครั้ง นี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่พบบัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีธนาคารตรงกับรายชื่อ 85 คนที่กำลังจะออกหมายจับผู้รับจ้างเปิดบัญชีรองรับขบวนการคอลเซ็นเตอร์

    ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา ข้าราชการบำนาญวัย 68 ปี ได้เข้าพบพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาการเลขาธิการ ปปง. เพื่อให้ปากคำ หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ปปง.โทรศัพท์หลอกให้โอนเงินผ่านตู้ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ 75 บัญชี จำนวน 269 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย 26,750,185 บาท โดยระบุว่าเหตุเกิดระหว่างวันที่ 21 ธ.ค.54-4 ม.ค.55 ซึ่งข้าราชการบำนาญคนดังกล่าวถูกแก๊งคอลฯหลอกว่า มีชื่ออยู่ในบัญชีเครือข่ายฟอกเงินของแก๊งยาเสพติดต้องโอนเงินนำไปตรวจสอบ กับธนาคารแห่งประเทศไทย จึงทำให้หลงเชื่อและสูญเสียเงินจำนวนมาก

    -http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9550000008966-

    .
     
  15. TrainSSS

    TrainSSS สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +4
    วันนี้โอนเงินร่วมทำบุญ 200บาทเรียบร้อยแล้วครับ

    อิมินาปุญญะกัมเมนะด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้า,ภรรยา และครอบครัว ได้ ...ร่วมบุญถวายพระในกองทุนทั้ง4 ครั้งนี้.....ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่ คุณบิดา มารดา และทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้าและพระกรุวัดพระแก้วทุกท่าน, เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณีแม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระพิรุณ พยายมราชนายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุดพรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาลคุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคาท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุขขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าอุทิศไปให้นี้จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบันและอนาคตเบื้องหน้าโน้นเทอญฯ

    พุทธังอนันตังธัมมังจัรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจโยโหนตุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0333.JPG
      IMG_0333.JPG
      ขนาดไฟล์:
      718.3 KB
      เปิดดู:
      60
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 มกราคม 2012
  16. TrainSSS

    TrainSSS สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +4
    ผมคิดว่า อย่างน้อยได้มารู้จักกระทู้นี้ ก็แสดงว่ามีวาสนาร่วมกันมาส่วนหนึ่ง ทำบุญร่วมกับพี่หนุ่ม , พี่เพชร และทุกๆท่าน จะได้เกื้อหนุนกันต่อไปในอนาคต จะได้มีกัลยานมิตรช่วยแนะนำในสิ่งที่ถูกที่ควรครับ
    มาพบเจอช้า...ยังดีกว่าไม่มาพบเจอเลย
    ขอขอบคุณที่ให้โอกาสครับ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ train@sss [​IMG]
    วันนี้โอนเงินร่วมทำบุญ 200บาทเรียบร้อยแล้วครับ

    อิมินาปุญญะกัมเมนะด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้า,ภรรยา และครอบครัว ได้ ...ร่วมบุญถวายพระในกองทุนทั้ง4 ครั้งนี้.....ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่ คุณบิดา มารดา และทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณ กรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้าและพระกรุวัดพระแก้วทุกท่าน, เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณีแม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระพิรุณ พยายมราชนายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุดพรหมาเบื้องต่ำ ตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาลคุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอด ทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคาท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุขขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าอุทิศไปให้นี้จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระ นิพพานในปัจจุบันและอนาคตเบื้องหน้าโน้นเทอญฯ

    พุทธังอนันตังธัมมังจัรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจโยโหนตุ
    [​IMG]
    </td> </tr> </tbody></table>

    โมทนาบุญทุกประการครับ


    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    วันตรุษจีน

    ทำอย่างไร ทำอะไร เป็นอย่างไร

    ติดตามได้ใน 2 กระทู้ครับ


    ต้องไม่พลาด "วันตรุษจีน" และความรู้ต่างๆที่เกี่ยวกับตรุษจีน

    PaLungJit.com > ทั่วไป > จักรวาลคู่ขนาน


    และ

    ตรุษจีน 2555 เที่ยวไหนดี ต้องติดตาม 10 ไฮไลท์งานตรุษจีน อลังการรับปีมังกร

    PaLungJit.com > ทั่วไป > ท่องเที่ยว - อาหารการกิน



    .

    -http://palungjit.org/threads/%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%86%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99.322092/-

    -http://palungjit.org/threads/%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99-2555-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1-10-%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99-%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3.322681/-


    .
     
  20. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    อย่าอิจฉาผมเลยครับพี่ท่าน ก็แค่ท่านพี่ผู้มีแต่ให้ท่านหนึ่งได้ให้อั่งเปาผมรับตรุษจีนในปีนี้ครับผม ก็ไม่มีอะไรมากครับ พี่ท่านนั้นก็แค่ให้อั่งเปามาเต็มเป้ที่ผมเอาไปเองครับ เป้แทบขาด555 เรื่องจริงนะครับขอย้ำ ขอให้พี่ๆทุกๆท่านในชมรม เฮง เฮง เฮง รับปีใหม่จีนทุกๆท่านนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...