พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เมื่อวานไปนครนายก เลยถือโอกาสไปปราจีนบุรีเพื่อไปกราบพระทวาฯที่ครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีโอกาสได้ไปบ่อยมาก ๔-๕ ครั้งในปีเดียว แต่เห็นว่าใกล้ค่ำแล้ว เลยไปได้เพียงโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ ได้ไปชมหินบดยาทวารวดีที่เคยได้เรียนรู้จากประวัติการแพทย์แผนไทยที่มีการค้นพบหินบดยาทวารวดี สถานที่นี้ได้ใช้เป็นที่ถ่ายทำละครเรื่องดั่งดวงหฤทัย วนิดา และอีกหลายเรื่อง

    นอกจากได้เห็นหินบดยาทวารวดีของจริงแล้ว ยังได้เห็นลูกปัดทวารวดีของจริงอีก เหมือนกันกับพระทวาฯปีละบาททุกประการเลยครับลุงกูรูน้องนู๋...

    นอกจากนี้ยังได้รู้จักกับผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้ชำระตำรายาจากหลักศิลาจารึกในวัดโพธิ์สมัยรัชกาลที่ ๓ อีกต่างหาก น่าจะเกี่ยวพันกับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่ผมเคยไปร่วมงานที่วัดโพธิ์เมื่อไม่นานมานี้ ท่านใช้เวลาดำเนินการมาแล้ว ๑๐ ปี ผมได้ลองเลียบๆเคียงๆถามถึงการออกหน่วยต่างจังหวัด ผมยิงไปที่เพชรบุรี เพราะได้เคยทราบว่า มี.................อยู่ที่จังหวัดนี้มากเป็นพิเศษ ได้ความครับลุงกูรูน้องนู๋ ท่านเล่าเป็นฉากๆว่า คนในพื้นที่เขาหวงแหนมาก บอกทำนองว่า อย่ามาหลอกผมเลย ผู้เชี่ยวชาญนี้เลยยังไม่ได้ข้อมูลไปมากเท่าไหร่ อาจจะเนื่องจากไม่ใช่คนในท้องที่ แต่ก็เป็นการยืนยันความเชื่อที่ได้ยินได้ฟังมาจริงๆ ถึงเวลานั้นอาจจะต้องรบกวนลุงกูรูน้องนู๋ไปด้วยกันซักครั้งหลังสอบเสร็จช่วงเดือน มิ.ย. หรือก.ค.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2012
  2. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อ่า ไม่โชว์ก้ว่าโหวงๆ อีกล่ะครับ งั้นตาลุงฝากมาโชว์เพิ่มความคึกคัก หน่อยครับ รูปแรกเป็นของหลวงปู่เอี่ยม ชินเขียว เรียกว่าปิดตานะหัวเข่า เนื้อชินเขียว ลุงหนุ่มสังเกตุเห็นคราบปรอทขาวเหลือบๆข้างองค์มั้ย ครับ ตามที่คุยแป๊ะ เลยครับ ส่วนตามเมล์นั้นสุดยอดจริงๆสนิมแดง น่าจะไม่ใช่ 3เดี่ยวนะครับ น่จะมี2ด้วยครับ ส่วนรูปถัดมา เป็นราหู ของหลวงปู่สรวง เนื้อกะลา...ทั้งสององค์ คงหาไม่ยากส์มั้งครับ ลุง อ.เพชร ลุงหนุ่มครับ หุ หุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2012
  3. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    555ได้เลย ลุง อ.เพชรครับ ขากลับจะ ชวนไปชม ชุมชน คูบัว ที่ราชบุรี ไปตอนบ่ายๆเย็นๆ เยี่ยมชมพิพพธพันฑ์ แล้ว จะบรื่อๆๆๆๆครับ หุ หุ
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ที่ลุงหนุ่มน้อยส่งมานั้น น่าสนใจครับ ชอบพิมพ์ซุ้มป...องค์สนิมแดง พิมพ์แบบเนื้อว่านลงรักปิดทองเลย จะ 3 เดี่ยว หรือ 3+2 ก็ดีทั้งนั้น

    ปิดตานะหัวเข่า เนื้อชินเขียว+คราบปรอทขาว หลวงปู่เอี่ยม งามๆ แต่สงสัยว่าคราบปรอทขาวนี่ปลอมแปลงกันได้ไม๊ครับ อย่างพระนาดูนส่วนที่ฝังข้างกำแพง ก็เห็นคราบขาวเช่นกัน ดูจากภาพเล็กๆมีความคล้ายกันหรือไม่ ส่วนพระราหูกะลาตาเดียว หลวงปู่สรวง ด้านหลังแม้ไม่มีเกศา+จีวร แต่งานก็ละเอียดดี น่าจะมีรอยจารนะครับ..
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    แนะนำหนังสือ 3 เล่มที่น่าอ่าน ซักครู่จะขอไปสั่งซื้อมาอ่านบ้าง..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Leelar-01.jpg
      Leelar-01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      936.9 KB
      เปิดดู:
      55
    • Red-01.jpg
      Red-01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      927.4 KB
      เปิดดู:
      47
    • Rockman-01.jpg
      Rockman-01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      455.2 KB
      เปิดดู:
      48
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2012
  6. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ฮึ ฮึ อึ ทราบปายหมดเลยนะคร๊าบ หุ หุ
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หุ..หุ..๑ ในวิชากลับดวงของหลวงปู่สรวงนี่ พี่ที่นับถือครั้งกราบหลวงปู่สรวงเป็นอาจารย์ เป็นผู้สืบวิชาของหลวงปู่ ผมขอเรียนกับพี่เขา พี่เขาบอกว่า หลวงปู่สรวงท่านสั่งไว้ว่า หากยังไม่ครบ ๒๐ ปี ห้ามถ่ายทอดให้ผู้ใด นี่เพิ่งจะ ๑๐ กว่าปีเอง ผมบอกผมรอได้ พี่เขาหัวเราะ..หึ..หึ..ไม่มีปัญหา ในที่เรียนหนังสือด้วยกัน พี่เขาสนิทกับผมที่สุด ไม่ถ่ายทอดให้ผมจะไปถ่ายทอดให้ใคร ๑๐ กว่าปีที่เขาใช้วิชากลับดวงของหลวงปู่สรวงมานี่ทำไป ๒ ครั้ง ใช้ได้ดีทีเดียว จะว่าไปแล้วศิษย์ของหลวงปู่มีจำนวนหนึ่งขอเรียนวิชานี้ แต่หลวงปู่ท่านไม่สอน บอกว่า เป็นของพี่เขา แต่หากพิจารณาแล้ว ผมคิดว่า น่าจะมีเหตุบางอย่างที่หลวงปู่ท่านเลือกถ่ายทอดวิชานี้ให้พี่ท่านนี้ เช่นพี่ของผมท่านนี้เกิดวันเสาร์ ตามคติโหร เสาร์เป็นเพื่อนราหู มีอื่นๆที่ซ่อนอยู่ในวิชา ผู้เรียนจะต้องมีคุณสมบัติต้องตามตำรา เหตุบังเอิญไม่มีในโลกครับ....

    ที่เล่ามานี่ จะบอกว่าพระราหูกะลาตาเดียวของหลวงปู่ท่านไม่ธรรมดาครับ
     
  8. TrainSSS

    TrainSSS สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +4
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    การเลี่ยมพลาสติกปิดทั้งหมด ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยครับ

    หากเป็นผม จะเก็บไว้ที่บ้าน โดยแกะพลาสติกออกครับ

    จะนำมาห้อยกับพวงกุญแจเลยเลี่ยมปิดน่ะครับ ก็คิดว่าเวลาพกติดตัวก็จะขยับไปมา เลยเขย่าดู ตอนแรกไม่เห็นมีปรอทออกมาครับ พอห้อยพวงกุญแจพักเดียวดูอีกทีมีเป็นหยดๆตามรูปแล้วอ่ะครับ
    ขอบคุณครับพี่ๆที่แนะนำ
     
  9. TrainSSS

    TrainSSS สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +4
    โหวงๆเพราะเข้ามาแล้วไม่เห็นรายชื่อผู้ที่อยู่ในกระทู้ฯ แบบก่อนๆครับ เลยรู้สึกเหมือนเข้ามาอยู่คนเดียวครับ
    แต่ก็ดีมากเลยครับที่พี่nongnoooกับพี่เพชร นำพระเก่าๆสวยๆมาให้ชมกัน แถมด้วยเรื่องราวเร้าใจ ยั่วกิเลสชะงัดนัก...อิอิ:cool:
    ขอบคุณครับ
     
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137

    หุ..หุ..โชว์เบี้ยแก้ โชว์พระราหู....ก็ม่ายบอก..

    เบี้ยแก้พระราหู 2 in 1 แบบนี้ดีเปล่าครับ ได้รับมาในวันจักรี และเป็นวันไหว้ครูแพทย์ บรมครูแพทย์ชีวกโกมารภัจจ์ ไหว้ครูปีนี้น่าจะได้รับของดีอีก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2012
  11. Pinkcivil

    Pinkcivil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +1,644
    เมื่อคืนวันเสาร์ ไปไหว้เซียนแป๊ะที่วัดศาลเจ้า-วัดมะขาม ปทุมธานี มาครับ ตอนดึกมีโต๊ะจีนและมีงานเปียซิ่งโจ๊ยประจำปีนี้ น่าสงสารปีที่ผ่านมาน้ำท่วมสุงมากเรยครับ ท่วมหัวไปเยอะเรย เสียดายไปตอนเย็น เรยไม่ได้เข้าไปกราบหลวงพ่อสอน ปีนี้ที่บ้านโชคดี ในงานได้รางวัลที่ 1 ตู้เย็น 1 ใบ:cool:
    อิอิ ตอนเช้าเรยตื่นซะ 11.30 น. ยังไงก็โมทนากับคุณเพชรด้วยครับ พุธที่แล้วผมก็เพิ่งจะทำบุญถวายพระเจดีย์ให้คณะพี่ใหญ่ใส่พระบรมฯ ไปถวายวัดที่อินเดียอ่ะครับ:d
     
  12. Pinkcivil

    Pinkcivil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +1,644
    ไปด้วยครับ :cool::cool::cool: อาสาขับรถให้ครับ:cool:
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ขอแสดงความยินดีกับคุณ Pink ด้วยครับ รางวัลใหญ่มักตกแก่ผู้มีวาสนา ใช่ว่าจะได้มาด้วยความบังเอิญ ต้องเป็นเพราะเนื้อนาบุญ...:cool: โมทนาบุญกับคุณ Pink ทุกๆงานที่ผ่านมา และที่จะบังเกิดในอนาคตด้วยครับ:cool:



    ผ้าจกไทยวนแบ่งตามตระกูล
    <DL><DT>ผ้าจกตระกูลคูบัว</DT><DD>เป็นผ้าจกที่มีลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง เช่น ลายดอกเซีย ลายหักนกคู่ ลายโก้งเก้ง ลายหน้าหมอน และลายนกคู่กินน้ำฮ่วมเต้า ผ้าจกตระกูลคูบัวจะพบมากใน ตำบลคูบัว ตำบลดอนตะโก อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เพราะมีชุมชนไท-ยวนอาศัยอยู่ โดยในการจกจะใช้เส้นด้ายยืนสีดำ พุ่งดำ โดยไม่มีลายประกอบมากลาย พื้นผ้าเว้นพื้นต่ำไว้มากตามแบบของลวดลาย เพื่อจกให้เห็นลายชัดเจน ส่วนสีสันของเส้นใยที่ใช้ทอ จะใช้เส้นใยที่มีสีสันหลากหลาย เช่น จะใช้พุ่งต่ำดำจกแดง แซมเหลืองหรือเขียว เป็นต้น โดยตีนซิ่นจะมีความกว้างประมาณ 9-11 นิ้ว</DD></DL><DL><DT>ผ้าจกตระกูลหนองโพ-บางกะโด</DT><DD>เป็นผ้าจกที่มีลวดลายขนาดและสีสันที่มีความใกล้เคียงกับจกตระกูลคูบัว เป็นผ้าจกที่ได้จากชุมชนไท-ยวน ในตำบลหนองโพ-บางกะโด อำเภอโพธาราม โดยผ้าจกตระกูลหนองโพ-บางกะโด จะมีความแตกต่างจากผ้าจกตระกูลคูบัวตรงที่ ชายของตีนซิ่น ซึ่งผ้าจกตระกูลหนองโพ-บางกะโด จะมีการเว้นพื้นที่ต่ำระหว่างลายซะเปา ถึงเล็บเหลืองไว้กว้างมากกว่าผ้าจกตระกูลคูบัว และผ้าจกตระกูลหนองโพ-บางกะโดจะมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับลายนกของผ้าไท-พวนในภาคเหนือ คือ ลักษณะของนกคู่กินฮ่วมเต้าของผ้าจกตระกูลหนองโพ-บางกะโด จะมีหางที่ยาวมากกว่าผ้าจกตระกูลคูบัว</DD></DL><DL><DT>ผ้าจกตระกูลดอนแร่</DT><DD>เป็นผ้าจกที่มีลายที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เช่น ลายกาบ ลายกาบดอกแก้ว และลายนกคู่กินน้ำฮ่วมเต้า พบมาในชุมชนไท-ยวน ตำบลดอนแร่ ตำบลห้วยไผ่ ตำบลหนองปลาหมอและตำบลรางบัว โดยลักษณะของการจก จะประกอบด้วยหลากหลายของลวดลาย และจะมีการจกลายแน่นเต็มผืนผ้า มีการเว้ยพื้นต่ำไว้น้อย ทำให้ลดความเด่นชัดของลายหลักลงไป โดยจะคงสีสันของเส้นใยเป็นสีแดงเป็นหลัก จะไม่นิยมใช้เส้นใยหลายสี และตีนจกจะมีความกว้างประมาณ 14-15 นิ้ว</DD></DL> ประเภทผ้าซิ่น

    ของชาวไทย – ยวน ราชบุรี สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภท ซึ่งขึ้นอยู่กับโอกาส และลักษณะที่นำไปใช้ ซึ่งแบ่งได้ ดังนี้คือ
    1. ผ้าซิ่นตีนจก
    2. ซิ่นตา
    3. ซิ่นซิ่ว
    4. ซิ่นแล่
    <DL><DT>ผ้าซิ่นตีนจก</DT><DD>ผ้าซิ่นตีนจก คือซิ่นที่มีตีนประกอบด้วยส่วนที่เป็นผ้า ลวดลายทอด้วยวิธีจก หรือ ควักเส้นด้ายพิเศษมาผูกมัดขัดกับเส้นอื่นเป็นลวดลายแบบต่างๆ ซึ่งซิ่นตีนจกมีโครงสร้าง ประกอบด้วยผ้า 3 ส่วน คือ หัวซิ่น ตัวซิ่น และ ตีนซิ่น ซิ่นตีนจกที่พบในลักษณะการแต่งกายของสตรีชาวไท-ยวน ราชบุรี มี 3 ลักษณะ คือ</DD></DL>
    1. ซิ่นตีนจก จกเฉพาะตีน ตัวซิ่นเป็นผ้าพื้นสีดำ หรือ สีคราม ซิ่นบางผืนมีตัวซิ่นทอด้วยวิธียกมุกหัวซิ่น ใช้ผ้าขาวผ้าแดงเย็บต่อกันแล้วจึงเย็บต่อกันกับตัวซิ่น
    2. ซิ่นตีนจก จกทั้งตัว ซึ่งลักษณะนี้จะมีตัวซิ่นและตีนซิ่นทอด้วยวิธีจก แต่ทอเป็นผ้าคนละชิ้น แล้วนำมาเย็บต่อเป็นผืนเดียวกัน ตัวซิ่นส่วนมากจะทอด้วยลายกูด ลายนก ลายมะลิเลื้อย เป็นลายพันรอบตัวซิ่นตีนซิ่นทอลายหลักทั้ง 9 ลาย หัวซิ่นมีลักษณะเดียวกับซิ่นตีนจกจึงถือได้ว่า ซิ่นชนิดนี้เป็นผลงานทางศิลปหัตถกรรมชั้นสูงของ ไท-ยวน ราชบุรี
    3. ซิ่นตีนจก ตัวยกมุกสลับมัดหมี่ ตีนซิ่นทอด้วยวิธีจกเหมือนตัวซิ่นตีนจกทั่วไป ตัวซิ่นทอด้วยวิธียกมุกสลับด้วยการทอแบบมัดหมี่ ถือได้ว่าเป็นเทคนิคของภาคอีสาน ตัวซิ่นใช้เส้นใยประเภทไหม เป็นวัสดุทอ พบไม่มากในผ้าซิ่นตีนจกของไท-ยวน ราชบุรี
    <DL><DT>ซิ่นตา</DT><DD>ถือได้ว่าเป็นศิลปะการทอรองจากซิ่นตีนจก ซึ่งมี 2 ชนิด คือ</DD></DL>
    1. ซิ่นตาผ้าพื้น เป็นการทอแถบสีต่างๆพันรอบตัว เช่น สีดำ,สีเหลือง,สีเขียว ส่วนตีนซิ่นจะมีเล็บเหลือบ และ แถบผ้าเป็นสีดำ
    2. ซิ่นตาหมู่ แตกต่างจากชนิดแรก ตรงที่ส่วนตัวซิ่นมีการจกลายประกอบเป็นหมู่ๆ พันรอบตัวซิ่นเว้นระยะเป็นช่วงๆ ส่วนมากจะใช้ลายหักขอเหลียว มะลิเลื้อย ดอกจัน ในการทำลายจกเป็นซิ่นที่มีศิลปะการทอสูงรองมาจากซิ่นตีนจก ปัจจุบันจะทอซิ่นตาหมู่ที่มีลายประกอบไม่มากและเป็นลายที่ทอง่าย ๆ
    <DL><DT>ซิ่นซิ่ว</DT><DD>เป็นซิ่นที่ทอสำหรับนุ่งทำงานอยู่กับบ้าน ตีนซิ่นเป็นผ้าพื้นสีดำ ตัวซิ่นเป็นพื้นสีเขียว จะจกลายประกอบระหว่างรอยต่อตีนกับตัว และตัวกับหัวซิ่น</DD></DL><DL><DT>ซิ่นแล่</DT><DD>เป็นซิ่นที่ทอสำหรับนุ่งทำงานอยู่กับบ้าน หรือนอกบ้าน เป็นซิ่นที่ถือว่าทำการทอไม่ยาก และโดยส่วนมาก ผู้หญิง ไท- ยวน ในสมัยก่อนจะมีซิ่นแล่ไว้นุ่งกันทุกคน</DD></DL>ผมว่าจะชวนลุงกูรูน้องนู๋ไปดูทอผ้า ไม่ทราบว่าคุณ Pink จะสนใจไปดูทอผ้า ผ้าซิ่นกับเขาด้วยเหมือนกันนะ..หุ...หุ...ยังไงก็ยินดีที่ได้ร่วมเดินทางดูการทอผ้าโบราณกันครับ ผมสงสัยมานานว่า ทำไมผ้าโบราณถึงมีค่ามากขนาดที่นักสะสมตามหากัน ตามบทความนี้ครับ...

    ผ้าซิ่นเบญจภาคีที่พ่อเรือนหนุ่มล้านนาออกปากเล่า ก็ลำดับมาถึงผืนสุดท้ายแล้ว ทวนอีกทีว่ามีอยู่ ๕ ตระกูล อันได้แก่ ซิ่นไหมคำเชียงตุง ซิ่นจกไหมเงิน ไหมคำเชียงใหม่ ซิ่นน้ำถ้วมดอยเต่า ซิ่นจกวิเศษเมืองน่าน และอันดับสุดท้ายที่เป็นยอดปรารถนาของนักสะสมผ้าโบราณในล้านนานับเป็นนางพญาแห่งผ้าซิ่น คือ ซิ่นน้ำปาด ฟากท่าอุตรดิตถ์ ที่เชื่อกันว่าเป็นนางพญานั้น เพราะถ้าใครมีหรือใครรักษาไว้ดี จะมีเหตุให้ได้ครองผ้าโบราณอื่นๆขอย้ำอีกทีนะ ว่าเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคล ผู้เขียนได้ฟังมาเช่นใด ก็เล่าต่อไปเช่นนั้น

    ซิ่นน้ำปาด ฟากท่า อย่างโบราณ ในปัจจุบันหายากและพบน้อยมาก เล่ากันว่าเมื่อราว ๓๐ ปีที่ผ่านมาแล้ว มีนักสะสมผ้าโบราณท่านหนึ่งจากเชียงใหม่ ตามหาความงามของซิ่นน้ำปาดฟากท่าทั้งสองอำเภอเกือบทุกหลังคาเรือน ชนิดค่ำไหนนอนนั่น ตะลอนละไมไปทุกแห่ง เก็บสะสมด้วยใจรัก ทุ่มเทพลังรักจนได้ครองซิ่นน้ำปาดทั้งมวล กาลต่อมาผ้างามดังกล่าวจึงได้ย้ายมาสถิตสำราญอยู่พิพิธภัณฑ์ผ้าธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ

    จะด้วยเหตุผลใดไม่ปรากฏ ปัจจุบันซิ่นน้ำปาด ฟากท่าผืนใหม่งามอย่างของโบราณ ไม่เห็นทอให้ใครได้นุ่ง ศิลปหัตถศิลป์ขาดสายไปอย่างน่าเสียดาย ขาดผู้สนับสนุน ขาดผู้เข้าใจ หรือขาดตัวอย่างผ้าโบราณงามๆเป็นต้นแบบก็ไม่รู้

    ซิ่นน้ำปาด ฟากท่า ได้กลิ่นอายของวัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำน่าน กล่าวคือ รวมความงามของลาว ลื้อ และยวนไว้อย่างครบถ้วน นักภูษิตาภรณ์พิลาส อย่าง พ่อครูทรงศักดิ์ (รองศาสตราจารย์ ทรงศักดิ์ ปรางค์วัฒนากุล แห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่) นิยามความงามของซิ่นน้ำปาด ฟากท่าว่า “เป็นซิ่นงามมีรสนิยมอย่างชนชั้นสูงหรืออย่างเจ้าอย่างนาย ด้วยว่าประณีตทั้งการเลือกสีและลวดลายและความลงตัวในด้านอื่นๆ” ความลงตัวของโทนสีและโครงสร้างนั้นคล้ายกับซิ่นลาวครั่ง ตัวเป็นมัดหมี่หลากหลาย เชิงซิ่นต่อจกอย่างซิ่นไทยวน เสริมเอกลักษณ์ตรงส่วนที่เป็นผ้าพื้นกว้างสีแดง ก่อนจะจบส่วนเชิงด้วยการคาดแถบแซมสีเขียว

    จะว่าไปแล้วซิ่นน้ำปาด ฟากท่านั้นเด่นสง่าที่ตัวซิ่น ถึงแม้จะมีส่วนคล้ายซิ่นลาวครั่ง แต่ถ้าพินิจอย่างละเอียดจะเห็นความหลากหลายของมัดหมี่ไม่ซ้ำแบบ เติมคั่นใส่ก่านอย่างซิ่นน่านหรือไทยวนก็มี เป็นลายเกาะ (ล้วง) น้ำไหลของซิ่นลื้อก็มาก เติม ขิด จก เข้าไปอีก บางผืนถึงกับใช้ผ้ามัดย้อมของจีนหรือผ้าอย่างแขกอินเดียมาทำตัวซิ่น สีสดใสผุดผาดบาดใจไปอีกแบบหนึ่ง


    ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือเสน่ห์ของซิ่นน้ำปาด ฟากท่าอุตรดิตถ์ เรื่องที่ผู้หญิงสวมสวย และเรื่องที่ผู้ชายได้ชมชื่น ชมชื่นทั้งคนสวมและผ้าซิ่น ขอความสดชื่นและสดสวย จงมีแด่ผู้อ่านทุกๆท่าน จบเรื่องนางพญาแห่งผ้าซิ่นไว้เท่านี้แหละ ท่านเฮย

    -ขอบคุณข้อมูลจากคุณ วิลักษณ์ ศรีป่าซาง
    ลงในสกุลฉบับที่ 2645 ปีที่ 51 ประจำวัน อังคาร ที่ 28 มิถุนายน 2548
     
  14. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เทวดานำพระคัมภีร์โบราณมาถวาย
    [​IMG]
    พระคัมภีร์โบราณ ๔ แผ่นแรก
    ในวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๔๘ (ตรงกับวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีระกา)เทวดาได้นำ พระคัมภีร์โบราณ ส่วนแรก จำนวน ๔ แผ่นมาถวายหลวงพ่อภรังสีในเวลา ๐๔.๐๐ น.จากการสอบถามเทวดาที่นำพระคัมภีร์มาถวายได้ทราบว่า เป็นพระคัมภีร์ที่ได้บันทึกเรื่องราวของ พระบรมสารีริกธาตุ และคำทำนายเกี่ยวกับวัดภูพลานสูง ถูกบรรจุไว้ใน เจดีย์พระธาตุพนม ในปี ๒๔๔๔ พระครูวิโรจน์รัตโนบล (บุญรอด นนฺตโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ได้ ไปบูรณะพระธาตุพนม ได้พบพระคัมภีร์นี้ จึงได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่หอพระไตรปิฎก วัดทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราช ธานี หลังจากท่านมรณภาพแล้ว ไม่มีผู้ใดได้พบเห็นพระคัมภีร์นี้อีกเลย จนกระทั่งเทวดาทั้ง ๘ องค์ ผู้รักษาพระคัมภีร์ ได้นำมาถวายหลวงพ่อ เพื่อให้เก็บไว้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ
    [​IMG]
    หอพระไตรปิฎกกลางน้ำวัดทุ่งศรีเมือง
    วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๙ ( ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีจอ) เทวดาได้นำพระคัมภีร์ ส่วนที่ ๒ จำนวน ๑๑ แผ่น มาถวาย จากการสอบถามจึงได้ทราบว่าพระคัมภีร์โบราณนี้เก็บรักษาไว้ ที่เจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ( ภายหลังได้ทราบว่า เป็นนครจำปาศรี ) เทวดาได้นำมาถวายไว้เพื่อเป็นหลักฐานและศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ หลวงพ่อได้รับพระคัมภีร์นี้ไว้ และได้ให้พรแก่เทวดา จากนั้นก็ได้ทำการศึกษาค้นคว้าถอดใจความพระคัมภีร์ออกมา จึงได้ทราบเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตามมาภายหลัง ได้มีการค้นพบพระพุทธโลหิตธาตุ พระพุทธทันตธาตุ และรอยพระพุทธบาทที่ภูพลานสูง ในเวลาต่อมา จากร่องรอยหลักฐานบันทึกที่มีปรากฏในพระคัมภีร์โบราณ พระคัมภีร์นี้จึงถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ไขไปสู่เรื่องราว ประวัติของพระบรมสารีริกธาตุการเดินทางจากอินเดีย สู่สุวรรณภูมิของพระบรมสารีริกธาตุโดยละเอียด

    [​IMG]
     
  15. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ลุง อ.เพชร และลุงหนุ่มครับ ตาลุงร้อนใจมากเลยครับ ไม่ทราบว่า สมเด็จองค์ในรูปนี้ พอทราบที่มั้ยครับ เนื้อก็ฟ่าม แตก ไม่ดูเก่า(แต่มวลสารอาจจะเป็นพันปีก็ได้นะครับ) ด้วยครับ ถ้าไม่ทราบจริงๆตอบ แค่ดีปล่าว แรงปล่าวครับ หุ หุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2012
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ขอบคุณครับ

    .
     
  17. Pinkcivil

    Pinkcivil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +1,644
    คุณ ผบ. กำลังฮิตผ้าโบราณ ผ้าไหมหมักโคลนเรยครับ ไปได้ที่งาน Otop เมืองทองเร็วๆนี้มาหนึ่งผืน ไปเจอที่ jjmall มีหลายร้านขายผ้าโบราณ ราคาเอาเรื่องแต่สวยจริงๆครับ พอดีคุณ ผบ.ท่านตัวสูงก็เรยใส่สวยอ่ะครับ:cool:

    วิธีการนุ่งผ้าก็มีหลายวิธีครับ นอกจากจะโดนผ้านุ่งแล้วก็จะโดนหัวเข็มขัดด้วยครับ:'(
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2012
  18. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    จริงครับ ไปเจอราคาที อึ้ง ทึ่ง เสียว ไปเลยครับ หุ หุ
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ไปเมื่อไหร่ รบกวนแจ้งล่วงหน้าด้วย

    หากเป็นวันธรรมดา ผมต้องลาพักผ่อน ผมต้องลาล่วงหน้า 1 อาทิตย์

    แต่หากเป็นวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ผมต้องขออนุญาตลากับ ผบทบ.ครับ

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    อ่า ถ้าตาลุงข้างบ้าน มอบให้ผม

    แล้วจะบอกว่า ดีแค่ไหน แรงแค่ไหนครับ อิอิ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...