พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    วันนี้จะแนะนำวิธีหาพยานบุญสำหรับผมและภรรยาใช้เป็นประจำโดยคำแนะนำของพี่ใหญ่ในก๊วน (เผื่อการตามหาได้ไม่ยาก จะได้รู้ว่าไปอยู่ที่ใด) โดยมีประสบการณ์จากพี่ใหญ่ และ อ.ประถมเรียบร้อยแล้ว คือ
    1. เวลาจะใส่บาตรพระ ใส่ซองผ้าป่ากฐิน หรือทำบุญอื่นๆ ขอให้อธิษตรงนั้นและเวลานั้นเลยว่า ขอบารมีแห่งหลวงปู่เทพโลกอุดร หรือหลวงปู่ทวด หรือท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต หรือพระพุทธรูปที่ตนเอง นับถือให้มาเป็นพยานบุญ และโมทนาบุญกุศลที่เราได้ทำนี้ให้เราด้วย
    2. เวลาทำสังฆทาน ให้เรามีจิตที่ละเอียดขึ้นอีกหน่อยก็คือ อาจจะอธิษฐานที่บ้านเลย ตั้งจิตให้ดี นึกถึงตามข้อ 1. และค่อยๆ ดูว่าสังฆทานเรามีอะไรบ้างค่อยๆ ดู ค่อยๆ สำรวจ จิตจะมีปิติมากกว่าถวายเลย แล้วไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง อีกอย่างที่บ้านเราสงบเงียบจิตทรงตัวดี บางทีที่วัดมีเสียงอึกกธึก หรือระหว่างทางเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ดีอาจทำให้จิตเศร้าหมองได้บุญไม่เต็มที่ เมื่อมีความพร้อมตามข้อ 1. และค่อยๆ ดูรายละเอียดของเครื่องสังฆทานข้างต้นแล้ว ก่อนออกจากบ้าน ชวนท่านเจ้าของที่ ผีบ้านผีเรือน พระภูมิเทวา ไปทำบุญกับเราเพื่อให้ท่านสร้างบารมีด้วย
    3. อย่าลืมพ่อแม่ซื้อสังฆทานไปให้ท่านทำบ้างให้ท่านใช้วิธีเดียวกันกับเรา พี่ใหญ่บอกว่าให้ลูกคนใดให้พ่อแม่มีจิตใจที่เกิดปิติในบุญกุศลแล้วลูกคนนั้นอานิสงค์หลายกัปป์หลายกัลป์เลยทีเดียวล่ะ

    นี่คือความห่วงใยสำหรับศิษย์ที่อยู่ไกล และมิได้มาเจอกัน แต่ถ้าหากอยากมาเจอกัน คุณหนุ่มผมว่าเอาเหอะไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เดือนหน้าพี่ใหญ่ก็ไปบ้าน อ.ประถมด้วย เอาเลยใครอยากไปกราบ ไปสนทนาธรรม ไปรู้จักกันไว้ไม่เสียหลายไปบ้าน อ.ประถมที่ชลบุรีกัน ไปฟังข้อธรรมดีๆ แล้วนำมาปฏิบัติกุศลทั้งผู้ให้และผู้รับจะได้ต่อยอดกันไปเป็นศิษย์รุ่นที่ 3 รุ่น 4 รุ่น 5 ไปเรื่อยๆ ใครมีบารมีต่อยอดได้เร็ว ก็ต้องมาช่วยคนที่ได้ช้า ไปแสดงตัวกับหลวงปู่กัน บ่งอับบ่งรา จะได้นับญาติกันในภพภูมิใหม่ตามหากันง่ายขึ้น
     
  2. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    2.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ในกระทู้นี้) หลวงปู่ท่านสอนอะไร

    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>

    2. ตอบคำถามท่านสอนให้สิ้นการยึดมั่นถือมั่น”<o:p></o:p>
    กลับไปอ่านมาหลายรอบ รู้สึกว่า จะหมายถึง ฤทธิ์ ซึ่งไม่ควรจะไป<o:p></o:p>
    ยึดมั่น สำหรับ คนที่มีความสามารถนะ ซึ่งมันก็อยู่ในกฎไตรลักษณ์<o:p></o:p>
    คือ ทุกขัง อนิจจัง อนันตา ไม่คงทน มองต่อไปท่านมุ่งเน้นไปสู่<o:p></o:p>
    แดนนิพพาน หมายถึง ไม่กลับเข้ามาอยู่สังสารวัฏฏ์อีก <o:p></o:p>
    ไม่กลับมาเกิด ไม่เจ็บ ไม่แก่ ไม่ตายอีกแล้ว<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    การยึดมั่นถือมั่น มันเป็นอุปาทาน ว่าต่อไป ก็คือ สังขาร จิตคิด<o:p></o:p>
    ปรุงแต่ง ถ้าคิดต่อดีๆ ไอ้สังขารนี่ แรงมากจริงๆ เล่นเราแรง<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ยึดมั่นมันกัดแน่<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ชอบยึดมั่น ระวังมัน จะกัดเอา<o:p></o:p>
    เพราะความเขลา ยึดมั่น มีตัณหา<o:p></o:p>
    อุปาทาน กอดรัด มัดวิญญาณ์<o:p></o:p>
    อยู่ดีดี ก็เป็นบ้า มาทันที<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ยึดสิ่งใด สิ่งนั้น แหละมันกัด<o:p></o:p>
    กิน,กาม,เกียรติ สารพัด กลีหรือศรี<o:p></o:p>
    หรือแม้บุตร ภรรยา และสามี<o:p></o:p>
    ความชั่วดี บุญหรือบาป จงทราบกัน<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    แม้รสสุข ที่อร่อย อยู่กับใจ<o:p></o:p>
    ชั้นที่อร่อย แน่นิ่งไป, ถ้ายึดมั่น<o:p></o:p>
    จะกลายเป็น ยักษา ขึ้นมาพลัน<o:p></o:p>
    แล้วห้ำหั่น กัดเอา อย่าเขลาเอยฯ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    เอาคาถาดับสังขารซะ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    สิ่งปรุงแต่ง ทั้งหลาย ไม่เที่ยงหนอ<o:p></o:p>
    มันก่อเกิด ตามหน้าที่ มีสังขาร<o:p></o:p>
    แล้วก็ดับ เป็นธรรมดา ตามอาการ<o:p></o:p>
    ไม่อยู่นาน มันเป็น เช่นนี้แล<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    สังขารกลุ่ม นี้หนอ ก็เหมือนกัน<o:p></o:p>
    จะสิ้นสุด ลงในวัน นี้เป็นแน่<o:p></o:p>
    ไม่มีใคร เกิดหรือตาย มีได้แต่<o:p></o:p>
    สังขารแท้ มันจะดับ โดยธรรมดา<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ความสงบ มีเพราะดับ แห่งสังขาร<o:p></o:p>
    มันดับเย็น เป็นนิพพาน สิ้นสังสาร์<o:p></o:p>
    นามรูปนี้ ดับวันนี้ เป็นกิริยา<o:p></o:p>
    ไม่มีเชื้อ กลับมา เกิดอีกแลฯ<o:p></o:p>
    (ท่านพุทธทาส)<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    หากยังยึดมั่นถือมั่นต่อไป มันก็จะกลายเป็นอวิชชา (ความโง่ ความ<o:p></o:p>
    หลง) หลังจากนั้นตัณหาจะตามมาในบัดดล <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ที่นี้ ฤทธิ์ เป็นตัวติด เป็นตัวยึด ก่อให้เกิดทุกข์ ซึ่งมันอยู่ใน<o:p></o:p>
    กฎไตรลักษณ์ด้วย และถ้าดับก็ต้องดับด้วยอริยสัจ 4 ดังนี้<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ทุกข์ = ฤทธิ์<o:p></o:p>
    (ผล)<o:p></o:p>
    สมุทัย = เหตุแห่งทุกข์ = ความยึดมั่นถือมั่น = อุปาทาน = สังขาร <o:p></o:p>
    (เหตุ) (สังขารก็อยู่ในขันธ์ 5)<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ผมก็เริ่มต่อที่ขันธ์ 5 นี่แหละ เป็นสิ่งที่พิจารณาก่อน<o:p></o:p>
    1. รูปหรือร่างกาย ไม่คงอยู่เลี้ยงอย่างดี กินอร่อย กินดี มันยังป่วยอีก<o:p></o:p>
    แน่ะ มันยังเจ็บ ไม่ช่วยกันเลย สุดท้ายมันก็ตาย สลายเป็นขี้เถ้า <o:p></o:p>
    แล้วจะเอาอะไรอีกกะมันเนี้ย<o:p></o:p>
    2. เวทนา ความรู้สึก เดี๋ยวมันโกรธ เดี๋ยวมันอยาก เดี๋ยวมันร้อน <o:p></o:p>
    ไม่คงตัว เอาแน่นอนไม่ได้ เปลี่ยนไปเรื่อย<o:p></o:p>
    3. สัญญา หรือความจำ จำนั่น จำนี่ จำโน้น จำทุกอย่าง แต่ไอ้ทุก <o:p></o:p>
    อย่างที่จำ มันก็ไม่คงตัว เช่น คนนั้นชื่อนี้ พอไปเปลี่ยนชื่อใหม่ ก็<o:p></o:p>
    จำชื่อใหม่มันเปลี่ยนไปเรื่อย<o:p></o:p>
    4. สังขาร หรือความคิด คิดนั่น คิดนี่ คิดไปเรื่อย ไม่คงตัวอีก<o:p></o:p>
    เช่นกัน แต่ไอ้ที่สำคัญคือ คิดราคะ คิดโลภะ คิดโทสะนี่สิ<o:p></o:p>
    ร้ายแรงเป็นโทษแก่ตน และคนรอบข้าง<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ราคะ ศัตรูแห่งศานติ<o:p></o:p>
    พอราคะ กลัดกลุ้ม ห่อหุ้มจิต <o:p></o:p>
    ตาก็พิศ เพ่งแต่หน้า รากษศี <o:p></o:p>
    ไม่เห็นส่วน อื่นใด เหมื่อนไม่มี<o:p></o:p>
    เห็นนาคี เป็นมัจฉา น่ากอดรัดฯ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    โลภะ ศัตรูแห่งศานติ<o:p></o:p>
    สมัยนี้ ละโมบกล้า อย่างป่าเถื่อน<o:p></o:p>
    จะรวบเดือน ดาวใส่ ในกระเป๋า <o:p></o:p>
    ศิวิไลซ์ ล้วนแต่หมาย ว่าจะเอา<o:p></o:p>
    โลกของเรา ย้อนกลับหลัง ยังป่าเอยฯ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    โทสะ ศัตรูแห่งศานติ <o:p></o:p>
    ดนตรีชีพ รื่นสำราญ ชื่นบานนัก<o:p></o:p>
    แล้วก็มัก ถูกทำลาย ให้หายสูญ <o:p></o:p>
    เพราะโทสะ สุมเผา เป็นเค้ามูล<o:p></o:p>
    ต้องอาดูร ชีพรส หมดดนตรี<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ตัวสุดท้าย 5. วิญญาณ ความรู้ ก็เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงเช่นกัน มันแปรเปลี่ยน<o:p></o:p>
    ไปเรื่อย วันนี้รู้อย่างนั้นมันอย่างนี้ วันหน้ารู้อย่างนี้มันอย่างนั้น <o:p></o:p>
    จะไปถือมันได้อย่างไรเล่า ถือมัน เราก็ทุกข์<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    วันพรุ่งนี้อยู่ไกลยังไม่เกิด<o:p></o:p>
    ช่างมันเถิดอย่าใจร้อนไปก่อนใช้<o:p></o:p>
    วันวานนี้ผ่านไปแล้วให้แล้วไป<o:p></o:p>
    อย่าเอาใจไปข้องทั้งสองวัน<o:p></o:p>
    ถ้าวันนี้สดชื่นระรื่นจิต <o:p></o:p>
    อย่าไปคิดหน้าหลังมาคลั่งฝัน <o:p></o:p>
    สิ่งที่แล้วแล้วไปให้แล้วกัน <o:p></o:p>
    สิ่งที่ฝันไม่เคยมาอย่าอาวรณ์<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    นิโรธ = ความไม่เป็นทุกข์ พัฒนาจิตให้พ้นทุกข์ = นิพพาน<o:p></o:p>
    (ผล)<o:p></o:p>
    มรรค = เหตุให้พ้นทุกข์ ผมก็มองไปที่ สติปัฏฐาน 4 (หาต่อเองนะครับ)<o:p></o:p>
    (เหตุ)<o:p></o:p>
    (ทั้งหลายเหล่านี้เป็นความคิดของผม ผิดถูกอย่างไร ขอได้โปรดสั่งสอน<o:p></o:p>
    ด้วยครับ)<o:p></o:p>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948



    หากท่านใดมีความประสงค์ที่จะไปร่วมบุญกันที่บ้านท่านอาจารย์ประถม ขอให้ PM เบอร์โทร.มาหาผมด้วยครับ ผมจะได้แจ้งกำหนดการให้ และจะได้กะเกณฑ์ถูกว่าจะไปกันกี่ท่าน จะได้เตรียมเรื่องอาหารด้วยครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2007
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันที่ไปบ้านท่านอาจารย์ประถมทุกๆครั้งนั้น จะมีการเลี้ยงพระเพลกัน จะมีการนิมนต์พระอาจารย์นิลท่านไปทุกครั้ง ผมจะได้ปรึกษากับพี่แอ๊วในเรื่องอาหารที่จะเลี้ยงคนที่ไป คราวที่แล้วกินกันไม่หมด ต้องขนกลับบ้านด้วย

    อีกทั้งอาจมีงานบุญอื่นๆได้ร่วมกันทำ ได้ทั้งฟังธรรมดีๆและข้อคิดดีๆจากพระอาจารย์นิล ,ท่านอาจารย์ประถม อีกทั้งได้พบปะพี่น้องกัน ในความรู้สึกของผมเองทุกๆท่านที่ได้ไปบ้านท่านอาจารย์ประถม เป็นพี่เป็นน้องกัน มีความรัก ความห่วงใยกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกันเสมอครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2007
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ผมจะจัดส่งหนังสือ "ปู่เล่าให้ฟัง" ชุดล็อคเก็ต ให้กับคุณตั้งจิต ,ส่งพระพิมพ์ให้กับคุณMOODEE ส่งมวลสารให้กับคุณzz (กลุ่มพิชิตภัยพิบัติ) และคุณคนวังหน้าครับ

    หากได้รับพระพิมพ์ หรือมวลสารแล้ว ขอความกรุณาแจ้งให้ทราบด้วยครับ จะได้ไม่เป็นห่วง

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    อ้าว แล้วจะกินอะไรกันละเนี่ย กองทัพเดินด้วยท้องน๊ะจ๊ะ

    คราวนี้ต้องคำนวนให้ดี จะได้ไม่เหลือมาก พี่คิดว่าจะเก็บเงินคนที่ไปบ่อยๆ(แล้วแต่ศรัทธา) ทำเป็นทุนค่าอาหารกัน จะได้ไม่ไปรบกวนท่านอาจารย์ประถมมากนัก น่าจะดี ท่านอื่นๆมีความคิดเห็นกันอย่างไรครับ คุณพันวฤทธิ์ ,คุณเพชร ,พี่ตุ่น ,คุณแด๋น

    .
     
  8. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE class=tborder id=post604819 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>MOUNTAIN<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_604819", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:47 AM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 5,303 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 25,368 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 39,727 ครั้ง ใน 4,853 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 4815 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_604819 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->คุณสิทธิพงศ์ นอกจากจะมีความรู้ความชำนาญ
    เรื่องพระหลวงปู่ใหญ่แล้ว

    ข้อมูล ทางด้านภัยต่างๆ ก็มีไม่น้อย
    เริ่มนำมาให้พวกเราที่สนใจรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมกันแล้วครับ

    ขอโมทนาเป็นอย่างสูง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE class=tborder id=post605206 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date -->[​IMG] เมื่อวานนี้, 11:00 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #6 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Chayutt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_605206", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 11:00 PM
    วันที่สมัคร: Aug 2005
    สถานที่: สมุทรสาคร
    อายุ: 35 ปี
    ข้อความ: 1,045 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 5,525 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 7,895 ครั้ง ใน 858 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 910 [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_605206 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ MOUNTAIN [​IMG]
    คุณสิทธิพงศ์ นอกจากจะมีความรู้ความชำนาญ
    เรื่องพระหลวงปู่ใหญ่แล้ว

    ข้อมูล ทางด้านภัยต่างๆ ก็มีไม่น้อย
    เริ่มนำมาให้พวกเราที่สนใจรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมกันแล้วครับ

    ขอโมทนาเป็นอย่างสูง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ไชโย..!!

    คุณสิทธิพงษ์มาปรากฎตัวในห้องนี้แล้ว..
    แสดงว่าเริ่มเห็นอะไร รำไร รำไร บ้างแล้วกระมังเนี่ย..

    ดีคับ ดี ดี..
    ด้วยเหตุผลกลใดก็ตามแต่..

    ที่แน่ๆ..พวกเราเป็นคนดี..
    ที่ทำเพื่อส่วนรวมและพระพุทธศาสนา
    ด้วยกันทั้งนั้น..แม่นบ่..
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

     
  10. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    อยยากไปร่วมมากครับ จะพยายามไปให้ได้
     
  11. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    ขอบคุณพี่พันวฤทธิ์มากครับ ข้อมูลอย่างนี้สำหรับผมแล้วเป็นประโยชน์ต่อผมมากครับ หากมีอะไรดีๆอย่างนี้ อยากให้พี่ๆช่วยกันชี้แนะบ้างนะครับ ผมขอปวารณาตัวเนศิษย์น้อง รอการถ่ายทอด จะได้ร่วมทางบุญไปกับพี่ๆครับ
    และที่สำคัญผมตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่ามีโอกาสจะไปกราบท่านอาจารญ์ประถม อย่างน้อยที่สุดเพราะรู้สึกขอบคุณที่ท่านได้ถ่ายทอดสิ่งที่เป็นประโชน์มากให้ได้รู้ และอย่างมากคืออยากฝากตัวเป็นศิษย์ครับ คำชวนของพี่ครั้งนี้จึงทำให้ผมดีใจมา อยากไปในโอกาสนี้ให้ได้
    ขอบคุณมากๆครับ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“นักดื่ม” สร่างเมา ถูกจับเจอเพิกถอนใบขับขี่ 5 ปี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 มิถุนายน 2550 17:12 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> คณะรัฐมนตรีอนุมัติเพิ่มโทษ “เมาแล้วขับ” ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ให้อำนาจศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับบี่ 5 ปี หากฝ่าฝืนไม่ยอมให้เป่า เชื่อไว้ก่อนว่าเมา

    วันนี้ (26 มิ.ย.) นางเนตรปรียา ชุมไชโย ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ เนื่องจากรัฐบาลพยายามป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากผู้ขับขี่ขณะเมาสุรา หรือเสพของมึนเมาต่างๆ ปรากฏว่ามีผู้ขับขี่จำนวนมากที่ได้รับคำสั่งให้ถูกทดสอบแอลกอฮอล์ ส่วนใหญ่จะปฏิเสธและไม่ให้ความร่วมมือในการทดสอบกับเจ้าหน้าที่ ดังนั้น จึงต้องเพิ่มอำนาจให้แก่เจ้าพนักงานในการสั่งการให้มีการทดสอบและตั้งข้อสันนิษฐานว่า ผู้ขับขี่ที่ไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันควรนั้นจะต้องถือว่ามีการกระทำผิดใดบางอย่าง

    ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถใช้ไฟฉายเรืองแสงในการแสดงสัญญาณจราจรในเวลากลางคืนได้ กำหนดให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจกักตัวผู้ขับขี่ที่ไม่ยอมให้ทดสอบไว้ดำเนินการทดสอบได้ และหากไม่ยอมให้ทดสอบให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นหย่อนความสามารถในการขับขี่รถในขณะเมาสุรา หรือมึนเมาของอย่างอื่น และมีการปรับปรุงอัตราโทษในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง นอกจากนี้ยังกำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งพักใช้ เพิกถอน หรือห้ามผู้นั้นขับรถเป็นเวลา 5 ปี หากผู้ขับขี่ต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.นี้ และอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น รวมทั้งกำหนดโทษในกรณีผู้กระทำผิดฐานขับรถขณะเมาสุรา หรือของมึนเมาอื่นกระทำการฝ่าฝืนคำสั่งของศาล
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมว่าจะลองเขียนเรื่องบัตรเครดิต กับเรื่องกลโกงของพวกมิจฉาชีพที่เกี่ยวข้องกับพวกเราและธนาคารพาณิชย์ ยังไม่ได้เขียนซักกะที หลายสิ่งหลายอย่าง ผมรู้มาแต่บางครั้งก็ถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดไม่ค่อยได้ ไว้ผมไม่ลืมจะเขียนมาให้ได้อ่านกัน เพื่อเป็นวัคซีนป้องกันตนเองครับ
    *************************************************

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จับสองผัวเมียใช้บัตรเครดิตปลอม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 มิถุนายน 2550 16:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พล.ต.ต.สุชาติ สุวรรณาคม ผบก.ทท.แถลงข่าว พร้อมผู้ต้องหาและของกลาง</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายภูเบศวร์ และ น.ส.ธนภร ผู้ต้องหา</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ตำรวจท่องเที่ยวแถลงจับสองผัวเมียจอมแสบ ใช้บัตรเครดิตปลอมซื้อตั๋วเครื่องบิน และที่พักบนเกาะสมุย รวมมูลค่า 120,000 บาท สารภาพมีเพื่อนร่วมแก๊ง 5 คน และทำมาแล้วหลายปี

    เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (26 มิ.ย.) พล.ต.ต.ชูชาติ สุวรรณาคม ผบก.ทท. พ.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบก.ทท. พ.ต.ท.พันธนะ นุชนารถ รอง ผกก.1 บก.ทท. แถลงข่าวจับกุมนายภูเบศวร์ ปานแย้ม อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 221/44 หมู่ 1 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. นางธนกร นพขำ อายุ 27 บ้านเลขที่ 5/7 หมู่ 4 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง บัตรวีซ่าธนาคารกสิกรไทยจำนวน 2 ใบ บัตรมาสเตอร์การ์ด ธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 2 ใบ สลิปบัตรเครดิตวีซ่าการ์ด จำนวนเงิน 134,700 บาท กระเป๋าสตางค์ 2 ใบ สุรายี่ห้อจอห์นนี วอล์กเกอร์ แบล็กเลเบิล จำนวน 9 ลัง

    พล.ต.ต.ชูชาติ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากฝ่ายตรวจสอบบัตรเครดิตร้านค้าสมาชิก ธนาคารกสิกรไทย ว่ามีคนร้ายนำบัตรเครดิตปลอมหรือบัตรที่ขโมยไปจากชาวต่างชาติมาใช้ จึงทำการสืบสวนเพื่อจับกุมกระทั่งทราบว่าคนร้ายได้นำบัตรเครดิตปลอมไปซื้อตั๋วเครื่องบินของบริษัท บางกอกแอร์เเวย์ส จำกัด และที่พักบนเกาะสมุย รวมมูลค่า 120,000 บาท จึงสืบสวนจนกระทั่งทราบว่าคนร้ายจะนำบัตรไปใช้ที่ร้านวิลล่ามาร์เก็ต หน้าหมู่บ้านแกรนด์ คาแนล จ.นนทบุรี จึงติดตามไปจนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ขณะกำลังใช้บัตรเครดิตปลอมมาซื้อสุราของกลาง นอกจากนี้ เมื่อตรวจค้นในรถของผู้ต้องหายังพบเอกสารและบัตรเครดิตที่ใช้ซื้อสินค้า และพบบัตรประชาชน ใบขับขี่ และบัตรข้าราชการตำรวจของ พ.ต.ต.ธรรมโรจน์ ปุญญโชติ ที่ได้แจ้งหายไว้เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมมาสอบสวน

    จากการสอบสวน นายภูเบศวร์ให้การรับสารภาพว่า ตนและสมาชิกในแก๊งอีก 5 คน คือ นายภูวนัย พรหมราช นายเทพ นายเอกอ้วน นายดล และนางหมวย ประตูน้ำ จะนำบัตรเครดิตปลอมและบัตรเครดิตที่ขโมยมาจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาใช้รูดซื้อสินค้าต่างๆ มาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว ส่วนบัตรเครดิตที่นำมาใช้ซื้อสินค้านั้นตนไปซื้อมาจากชาวมาเลเซียชื่อ เซ้งไม่ทราบนามสกุล ในราคา 10,000 บาท ส่วนบัตรประชาชน ใบขับขี่ และบัตรข้าราชการตำรวจของ พ.ต.ต.ธรรมโรจน์ นั้นไม่รู้ว่ามาอยู่ในรถของตนได้อย่างไร อาจจะเป็นของเพื่อนตนที่ทำลืมไว้

    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันปลอมหรือใช้หรือมีไว้ เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอม หรือแปลงขึ้นโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9500000074398
    ดู "ฉลากโภชนาการ" ให้เป็น
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 มิถุนายน 2550 17:02 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ตามข้างกล่อง ข้างถุง หรือข้างกระป๋องของอาหารต่างๆ ที่เราซื้อมานั้น หากใครลองมาจับพลิกดูก็คงจะเห็นกรอบสี่เหลี่ยมที่เขียนเอาไว้ว่า "ข้อมูลโภชนาการ" ซึ่งก็คือการแสดงข้อมูลโภชนาการของอาหารนั้นๆ ในรูปของชนิดและปริมาณสารอาหาร นอกเหนือไปจากการระบุชื่อที่อยู่ผู้ผลิต วันผลิต น้ำหนักสุทธิ ที่ต้องระบุอยู่แล้ว โดยข้อมูลโภชนาการนี้มีทั้งแบบเต็มและแบบย่อด้วย

    บางคนอ่านเจ้าข้อมูลโภชนาการแล้วก็ยังงงๆ อยู่ ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร "108 เคล็ดกิน" จึงจะมาไขข้อข้องใจในฉลากโภชนาการแบบย่อให้ฟังกัน เริ่มจาก "หนึ่งหน่วยบริโภค" ก็หมายถึงปริมาณการกินหรือดื่มต่อครั้ง เช่น หนึ่งหน่วยบริโภค : 1 กล่อง (160 กรัม) หมายถึงกินครั้งละ 1 กล่องหรือ 160 กรัม แต่ถ้าเขียนว่า หนึ่งหน่วยบริโภค : 5 ลูก (150 กรัม) หมายความว่า กินครั้งละ 5 ลูกหรือ 150 กรัม ส่วน "จำนวนหน่วยบริโภคต่อภาชนะบรรจุ" หมายถึง ห่อ ขวด หรือกล่องนี้กินได้กี่ครั้ง เช่น จำนวนหน่วยบริโภคต่อกล่อง : 1 หมายความว่า สามารถกินหมดกล่องภายใน 1 ครั้ง แต่ถ้าเขียนว่า จำนวนหน่วยบริโภคต่อกล่อง : 3 ก็หมายความว่า 1 กล่องให้แบ่งกินได้ 3 ครั้ง

    ส่วน "คุณค่าทางโภชนาการต่อหนึ่งหน่วยบริโภค" หมายถึงเมื่อกินตามปริมาณที่ระบุไว้หนึ่งหน่วยบริโภคแล้วจะได้รับพลังงานและสารอาหารอะไรบ้าง ในปริมาณน้ำหนักจริงเท่าใด และปริมาณที่กินนี้คิดเป็นร้อยละเท่าไรของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน "ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน" หมายถึง สารอาหารที่ได้รับจากการกินแต่ละครั้งตามปริมาณที่ระบุไว้ในหนึ่งหน่วยบริโภคคิดเป็นสัดส่วนเท่าใดของปริมาณที่ควรจะได้รับต่อวัน เช่น ถ้าปริมาณอาหารที่กินต่อครั้งให้คาร์โบไฮเดรต 8% ของปริมาณที่แนะนำให้กินต่อวัน ก็ต้องกินคาร์โบไฮเดรตจากอาหารอื่นๆ อีก 92% และสุดท้าย "Thai RDI" หมายถึง ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้กินต่อวันสำหรับคนไทยอายุ 6 ปีขึ้นไป เช่น วันหนึ่งๆ ควรได้รับคาร์โบไฮเดรตประมาณ 300 กรัม ไขมันน้อยว่า 65 กรัม เป็นต้น

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ร่วมสนุกตอบปัญหา มอบลูกอม ,สมเด็จอรหังพิมพ์เล็ก และอื่นๆ

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=82524&page=2


    <TABLE class=tborder id=post605864 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 06:54 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#13 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>littlelucky<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_605864", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 07:17 PM
    วันที่สมัคร: Oct 2005
    ข้อความ: 105 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 12,755 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 759 ครั้ง ใน 108 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 107 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_605864 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->[​IMG]
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->๑.คุณมีความคิดเห็น หรือมีความรู้สึกอย่างไร กับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรอย่างไร
    ผมคิดว่า ประเด็นของความรู้สึกเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ได้ก็ต้องเคยสัมผัสหรือพบมาก่อน ซึ่งผู้ที่ได้พบมักเป็นท่านที่มีบุญบารมีสูง เช่น พระสงฆ์ ผู้ปฎิบัติธรรม เนื่องจากทราบมาว่าท่านมักมาพบในนิมิต อทิสมานกาย
    ตามความเข้าใจของผมคิดว่าตัวเอง คงมีบุญบารมีอาจไม่สูงถึงขนาดนั้น เพียงแต่ใจของผมมีกุศลและได้ไปสัมผัสกับอะไรที่อธิบายไม่ได้ ที่เกี่ยวกับหลวงปู่มาบ้าง
    ก้าวแรกที่ผมหัดสวดมนต์พระคาถายอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎกเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ เนื่องจาก ช่วงนั้นผมมีความทุกข์อย่างมาก (เมื่อราวสองปีมาแล้ว) ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร นอกจากนี้ในช่วงนั้น ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพระนเรศวรและพระสุพรรณกัลยา และการเสียเอกราชของอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา แล้วรู้สึกรักและเคารพบูชาท่านทั้งหลายที่เสียสละมาก
    ทุกครั้งเวลาสวดมนต์ผมจึงมักอุทิศบุญกุศลให้ท่านอยู่เสมอ ซึ่งพอผมได้ทำแล้วผมก็รู้สึกสบายใจขึ้น
    หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้มาเจอกับกระทู้พระวังหน้า ฯของคุณ Sithiphong ซึ่งก่อนหน้านั้นผมไม่ได้มีความรู้เรื่องพระพิมพ์ และประวัติเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรมาก่อน แต่ก็กลับรู้สึกสนใจมาก และเห็นความศรัทธาของคุณ Sithiphong จึงติดตามอ่านเรื่องมาโดยตลอดซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นการกล่าวถึงต้นเหตุ ของความรู้สึกของผมคนเดียวซึ่ง ถ้าคนอื่นไม่เห็นด้วยก็ขออภัยครับ เพราะเป็นปัจจัตตัง ครับและนอกจากนี้ ผมคิดว่า หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ท่านน่าจะมีส่วนเมตตาช่วยเหลือ ชาติไทย ตลอดจนสถาบันพระมหากษัตริย์ อยู่มากครับเพราะ จากการที่ผมได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ แต่ที่เห็นชัดที่สุดก็คือ ประสบการณ์ของผมที่เกี่ยวกับหลวงปู่ฯครับ
    "
    ตอนช่วงที่มีการให้ร่วมทำบุญ งานตอบแทนบุญคุณแผ่นดินนั้น ผมได้คิดว่าจะร่วมทำบุญ จึงได้ไปเพื่อจะโอนเงิน ก่อนหน้านั้นผมนึกอย่างไรไม่ทราบ ได้พูดว่า "ถ้าไปทำบุญครั้งนี้แล้วจะกลับมา บอกกล่าวหลวงปู่ให้ท่านโมทนาบุญด้วย "
    พอผมไปถึงตู้ ATM กำลังจะไปกดโอนเงินทำบุญ อยู่ ๆ ก็เหมือนมีลมหรือบางอย่างพุ่งมาใกล้ผมอย่างรวดเร็วมาก หลังจากนั้น ผมก็ได้กลิ่นหอมคล้ายดอกมะลิ อบอวนไปหมด ผมก็รู้สึกประหลาดใจ จึงหันดูว่าใครเอาดอกไม้มาอยู่ใกล้หรือไม่ แต่ก็ไม่มี คิดไปคิดมา หน้าตู้ ATM คงไม่มีน่ามีมั้ง ก็เลยนึกได้ว่า ได้พูดบอกว่าจะทำบุญนี้แล้วจะให้หลวงปู่ท่านโมทนาด้วย ผมก็เลยเข้าไปกดโอนเงินต่อ แต่สิ่งที่ทำให้ผมแน่ใจขึ้นก็คือ หลังจากผมได้ทำบุญเสร็จแล้ว พอจะเดินกลับบ้าน อยู่ ๆ กลิ่นนั้นก็หายไป
    หลังจากนั้น เวลาผมทำบุญอะไร ผมก็ต้องมาบอกกล่าวท่านเสมอครับ โดยเฉพาะงานที่มีส่วนในการช่วยเหลือประเทศชาติครับ
    เช่น พิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ๒๖๖ วัด ใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผมก็พบประสบเหตุทำนองเดียวกันอีกหลายครั้งครับ
    ซึ่งสอดคล้องกับที่ คุณ Sithiphong ได้กล่าวว่า ควรทำบุญอุทิศให้กับผู้เสก พระพิมพ์ รวมถึงเจ้าของและผู้สร้างด้วย ตลอดจนท่านเทวดาประจำพระพิมพ์ด้วย "

    ทำให้ผมได้เกิดความสนใจและมีคำถามในใจว่า หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ท่านเป็นใคร แล้วบุคคลิกภาพ และจริตของท่านเป็นอย่างไร ผมได้อ่านชีวประวัติหลวงปู่เทพโลกอุดรของ อาจารย์ประถม อาจสาคร ซึ่งท่านได้ค้นคว้า สืบหาจากหลักฐานและตรวจสอบกับผู้รู้หลาย ๆ ท่าน อีกทั้งท่านเองก็มีบุญบารมี ร่วมกับหลวงปู่ฯ อยู่มาก ข้อมูลที่ได้จึงชัดเจนยิ่งขึ้น จึงพอสรุปได้ว่า

    หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ท่านเป็นพระอรหันต์ ยังไม่จบกิจ แบบพระแม่กวนอิมโพธิสัตว์ ยังค้ำจุนพระศาสนา ไปกว่าจะสิ้นพุทธธันดร (พ.ศ.5000) ถ้าจบกิจแล้วท่านก็หมดหน้าที่ เพียงแต่ท่านไม่ต้องสร้างบารมีต่อแบบอีกสององค์ คือหลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หลวงปู่หน้าปาน
    เมื่อครั้ง พ.ศ. 235 พระเจ้าอโศก มหาราช ได้กระทำตติยสังคายนาพระไตรปิฎก และได้คัดเลือกบรรดาพระอรหันต์เถระ ออกทำการเผยแพร่พระพุทธศาสนายังประเทศต่าง ๆ ซึ่งเขตสุวรรณภูมิประเทศ เป็นหน้าที่ของพระโสณเถระกับพระอุตร เถระได้อัญเชิญพระพุทธศาสนา มาประดิษฐสถานที่เมืองสุวรรณภูมิ ซึ่งเรียกเรียกว่า คณะพระธรรมฑูต ข้อเท็จจริงพบว่าท่านทั้งสองเป็นพี่น้องร่วมสายโลหิต องค์พี่คือ พระอุตร องค์น้องมีร่ายกายสูงใหญ่ มีฉายาว่าขรัวตีนโต องค์น้องบรรลุอรหันต์ก่อนองค์พี่ แต่มีความเคารพองค์พี่มากนอกจากนี้ สมเด็จพุฒจารย์ (โต) พรหมรังสี กล่าวนามขององค์ท่านว่า พระโสอุดรพระโลกกุดร
    ในส่วนปริเฉทสี่ ในสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการปรากฎคณะพระธรรมฑูต ประกอบด้วย
    1.พระอุตร เถระ เรียกกันว่าพระครูโลกอุดร หลวงปู่ใหญ่ ซึ่ง เจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี เรียกท่านว่า "พระโลกุดร" ท่านมีจิตเยี่ยงพระโพธิสัตว์เจ้า บรรลุอภิญญาหก และปฎิสัมภิทาญาณ อันเป็นเหตุผลที่ทำให้ท่านสอนศาสนาแก่คนต่างภาษาได้ และ ท่านเป็นหัวหน้าคณะพระธรรมฑูต เชี่ยวชาญการแพทย์และเภสัชกรรม
    2.พระโสณเถระ เรียกกันว่า พระครูโลกอุดร เช่นกัน ฉายานามขรัวตีนโต เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ท่านว่า "พระโสอุดร"
    พระโสณเถระ ก็บรรลุปฎิสัมภิทาญาณ เช่นกัน ใจดีประกอบด้วยเมตตาธรรม ชอบผาดโผนเหินฟ้านภาลัย
    3.พระมูนียะ เรียกกันว่าหลวงปู่โพรงโพ ท่านอิเกสาโร หลวงปู่เดินหน บุคลิกสง่างามปรากฎตามภาพซึ่งใช้บูชากันอยู่ในปัจจุบัน เชี่ยวชาญในวิชาแปรธาตุ ชอบเจริญอสุภกรรมฐาน 10
    4.พระฌาณียะเถระเจ้า เรียกกันว่าหลวงปู่ขรัวขี้เถ้า (หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี) รูปกายค่อนข้างสูงใหญ่ มีอำนาจ แต่ขี้เล่น ปริศนาธรรม คือ ขรัวขี้เถ้าเผาแหลก มีอะไรเผาหมด แบบเฒ่าสู่เถ้า ผลคลีดินสู่ผงคลีดิน
    5.พระภูริยะ เรียกกันว่าหลวงปู่หน้าปาน (หลวงพ่อโอภาสี หรือมหาชวนแห่งอาศรมบางมด) ท่านสำเร็จปรอท ล่องหนย่นทางเก่ง ซึ่งกล่าวกันว่าท่านเป็นสหมิกกับหลวงปู่ขรัวขี้เถ้า มาสร้างเสริมบารมีเวลาเดียวกัน

    ท่านมีสภาวะจิตที่รวดเร็วมาก เพียงนึกถึงท่าน ท่านว่า "เมื่อเจ้าต้องการพบเรา เราก็มา เรามาจากทางไกล ด้วยความรวดเร็วยิ่ง"
    สำหรับผมการกราบไหว้สักการะไปหาท่าน แม้จะเพียงการสวดมนต์ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกก็ถือว่าได้ผลเช่นกัน เพราะเมื่อผมได้สวดมนต์ ผมสัมผัสได้โดยได้กลิ่นหอมมะลิ อยู่หลายครั้ง สอดคล้องกับที่ คุณ Sithiphong ได้แนะนำวิธีบูชาพระบรมครูพระเทพโลกอุดร ว่าท่านชอบฟังคำสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ครับ
    ความรู้สึกจากประสบการณ์ที่ผมได้เขียนมานี้เป็นเรื่องจริง ซึ่งอันที่จริงผมยังมีประสบการณ์อีกหลายครั้ง แต่ผมคงไม่นำมากล่าวกลัวจะกลายเป็นข้อวิจารณ์ว่ายกตนเอง เพราะผมไม่ได้มีบุญบารมีอะไร เป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่ยังมีต้องชดใช้กรรม ซึ่งบางครั้งเกือบเอาชีวิตไม่รอด ดีว่าได้บารมีหลวงปู่ฯ ช่วยไว้ นอกจากนี้ ผมเองยังมี ความโลภ ความโกรธ ความหลง อยู่ครบ ทุกข์ อนิจจัง อนัตตา ไป แต่ที่ผมตัดสินใจกล่าวบางส่วน เพราะ ผมถือว่าเป็นการเสริมศรัทธาให้กับ ผู้บูชาหลวงปู่ ฯ ทั้งใหม่และเก่าครับ เพื่อให้ทุกท่านมีความเคารพศรัทธาท่านจริง ๆ ครับ

    ๒.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(ในกระทู้นี้) หลวงปู่ท่านสอนอะไร

    จากที่ผมได้อ่านในเนื้อหาที่คุณ Sithiphong เผยแพร่และเนื้อหาจากชีวประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร มีการแทรกธรรมะของหลวงปู่ฯ อยู่มากมาย แต่ที่ธรรมะบางข้อของท่าน ที่ผมสนใจมาก ๆ สรุปย่อ ๆ บางส่วนคือ
    มหาสติปัฐฐานสี่ พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม ว่า มันเป็น ทุกข์ อนิจจัง อนัตตา
    ผมขอยกธรรมะที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ท่านสอนในเรื่อง มหาสติปัฐฐาสี่ ว่าเป็นการสอนให้เราตระหนักถึงความจริง เพื่อการดับทุกข์ ซึ่งจัดเป็นภูมิธรรมขั้นละเอียด ลึกซึ้งมาก แต่ไม่ใช่ว่าท่านสอนสำหรับชั้นโสดาบัน เรายังไม่บรรลุพระโสดาบันก็ควรอาจเอื้อม จะกลายเป็นการดูถูกตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งไม่ดี ที่จริงหลักของท่านสอนเพื่อให้รู้จักยับยั้งชั่งใจด้วยเหตุผล ตรวจตรา ตัณหา ความอยากเป็น ความไม่อยากเป็น อยากได้นั่นได้นี่ เพราะไม่อยู่ในอำนาจของใคร ทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง ซ้ำยังเป็นทุกข์ อีกทั้งยังไม่แน่นอนอีกด้วย เราจึงบังคับให้เป็นไปตามปรารถนาไม่ได้ ไม่ควรไปยึดมั่นจริงจัง เมื่อหัดฝึกฝนพิจารณาตรวจตราดูตนเองตามหลักนี้ ก็จะคลายความหลงยึดปรารถนา หลงในสิ่งที่ไม่เป็นจริงสภาพจิตใจก็จักสงบ ไม่วุ่นวายเดือนร้อนตนเองและคนอื่นจนเกินควร

    3.ตามเรื่องราวของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(ในกระทู้นี้) คุณสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หรือไม่
    ถ้าได้ในด้านใดบ้างและนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร

    ปาฎิหารย์ของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรนี้ ให้ข้อคิดว่า บารมีและความดีนั้น ทำให้เกิดสิ่งปาฏิหาริย์ต่างๆ มากมายครับ ถ้าลองอ่านในพระไตรปิฎกดู ก็พอจะได้พบบ้าง เรื่องความลี้ลับของท่านที่บอกว่าอย่าไปเสียเวลากับชื่อของท่าน ที่เป็นชื่อสมมติที่ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ เป็นผู้เรียกท่าน แต่ผมเองไม่กล้าคาดเดา ปริศนาธรรมของหลวงปู่ฯ ท่านมากนัก แต่คิดว่าท่านน่าจะให้เร่งปฎิบัติ เพราะเห็นว่าชีวิตคนนี้น้อยนัก ไม่เพียงพอแก่การปฎิบัติอยู่แล้ว อย่ามัวเสียเวลา
    สำหรับผมไม่ได้ปฎิบัติธรรมก็อาจจะยากที่เข้าใจได้ แต่สำหรับผู้ปฎิบัติธรรมและมีบุญบารมี เช่น ท่านอาจารย์ประถม ท่านเคยเล่าว่า(จากบทความของคุณ Sithiphong) เรื่องของหลวงปู่เทพโลกอุดร นั้นไม่ใช่สิ่งลี้ลับแต่ประการใด เพียงแต่ต้องปฏิบัติธรรมให้ดี อย่างเช่น หลานของท่าน นั่งสมาธิ จนกระทั่งเห็นหลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านออกมาจากรูปทั้ง 5 องค์ สามารถจับต้องได้ด้วยกายเนื้อ สามารถพูดคุยได้ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เป็นประสบการณ์เฉพาะตนเท่านั้น ขึ้นอยู่กับบุญ บารมีของแต่ละบุคคลที่ได้สั่งสมกันมา
    อย่างไรก็ตามผมก็ยังอยาก ที่จะพบท่าน แต่เมื่อลองอ่านดู เรื่องราวของท่านดูเหมือนท่านจะต้องการกล่าวว่าไม่ต้องไปตามหาท่านให้เหนื่อยยากเสียเวลาหรอก ถ้าไม่ถึงเวลาที่จะได้พบ ถ้าถึงเวลาท่านก็จะมาโปรดเอง
    เรื่องหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร เป็นพระภิกษุลี้ลับ และมหัศจรรย์ ตลอดจนถึงเรื่องอิทธิฤทธิ์ หรือปาฎิหาริย์ ต่าง ๆ ผมก็ชื่นชอบมาก และปรารถนาจะมีประสบการณ์ มหัศจรรย์ต่าง ๆ อยากจะได้พบท่าน แต่ผมคิดว่าท่านก็ไม่ปราถนาจะแสดงตนและแสดงอิทธิฤทธิ์ และปาฏิหาริย์ ให้ดู เพราะว่า กลัวว่าจะหลงงมงายกับเรื่องเหล่านี้ จะไปยึดติดอยู่กับเรื่องเหล่านี้ เพราะว่ายัง ไม่มีโอกาสที่จะได้ปฏิบัติตัว ให้อยู่ ในศีลในธรรม หรือเป็นคนดีได้ตลอดเวลา เท่ากับพระสงฆ์ ผู้ปฎิบัติธรรม ที่ได้ปฏิบัติตัวและระวังตัว หรือที่เรียกว่าสำรวม ทั้งกายวาจาและใจ อยู่เกือบตลอดเวลาได้ บุคคลใดจะปฏิบัติตัว ให้ได้เห็นอิทธิปาฏิหาริย์ เกิดขึ้นได้ แต่จะทำได้แค่ไหนนั้นมันเป็นเรื่อง ของบุคคลนั้น
    กาลามสูตรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบรมครู
    1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา
    2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆกันมา
    3. อย่าปลงใจเชื่อ ค้วยการเล่าลือ
    4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
    5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
    6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน
    7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
    8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฏีที่พินิจไว้แล้ว
    9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้
    10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา
    สรุปคือ ก่อนที่จะเชื่ออะไร เราต้องพิสูจน์ให้รู้แจ้งเห็นจริงแล้วจึงเชื่อ เพราะ ธรรมะของท่านต้องเกิดจากการปฎิบัติเท่านั้น ท่านจึงเน้นย้ำเสมอ ให้เร่งปฏิบัติธรรม เพราะท่านตระหนักถึงความเชื่อเพื่อนำไปสู่ดับทุกข์อย่างแท้จริง ที่เกิดจากผู้ที่รู้ธรรมะ กับผู้ที่ปฏิบัติธรรมะ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างมาก

    4.ท่านมีความเห็นอย่างไรกับพระองค์ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญที่พระองค์ท่านได้สร้างพระพิมพ์ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก

    1.เนื่องจากท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร มีความประสงค์จะสร้างพระเครื่อง และวัตถุมงคลเพราะท่านมีหน้าที่ต้องช่วยปกปักรักษาแผ่นดิน แจกจ่ายให้ทหาร ให้แคล้วคลาดปลอดภัย
    2.การเชิญให้หลวงปู่บรมครูโลกอุดรมาอธิษฐานจิตให้เป็นเรื่องยากมากและต่อไปอาจจะไม่มีการปลุกเสกที่แก่กล้าเช่นนี้อีก ตามความประสงค์ของสมเด็จวังหน้า (กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ หรือท่านเจ้าแห่งวังหน้าองค์ที่ 5 และเป็นองค์สุดท้ายในราชวงศ์จักรี)
    3.เพื่อนำมาแจกให้ทหารซึ่งมีจำนวนมาก
    4.เพื่อบรรจุในฐานพระอุโบสถ เช่น วัดพระแก้ววังหน้า และวัดพระแก้ววังหลวง ให้ชาวไทยรุ่นหลัง
    5.ถ้าพระเครื่อง มีปริมาณน้อยก็จะทำให้มีราคาสูง ทำให้เกิดการเก็งกำไร ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้เป็นสมบัติของแผ่นดินหรือประชาชนรุ่นหลังซึ่งมีวาสนาบารมีจะได้มีสิ่งคุ้มครองตน

    5.คุณมีความเห็นอย่างไรกับกระทู้นี้ (ตอบได้เต็มที่ทั้งด้านลบและบวก ผู้จะได้นำมาปรับปรุงตนเองครับ)

    ด้านบวก(โมทนา)
    1.ทำให้ผมได้มีโอกาสรู้จักได้รับความรู้เกี่ยวกับพระพิมพ์พระวังหน้าที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสกครับ และได้ร่วมทำบุญ สร้างเสริมบารมี
    2.ได้ทราบชีวประวัติของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
    3.ได้แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เช่น ธรรมะ การทำบุญ ปฎิบัติธรรม ศีล สมาธิ ปัญญา
    4.พบบทความดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อ สังคมและบ้านเมือง นำเผยแพร่ และเรื่องราวมงคลต่าง ๆ ไม่จำเป็นว่า จะต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระเครื่อง หรือวัตถุมงคลด้วย ครับ เรื่องอะไรก็ได้ ที่คนอ่านแล้วรู้สึกว่าดี มีคุณค่าเป็นประโยชน์
    ด้านลบ(ไม่เห็นด้วย) ไม่มีครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พุทธบริษัท ๔ ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว<O:p</O:p
    พิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ๒๖๖ วัด<O:p</O:p
    ใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้ง ๒๕<O:p</O:p
    ช่วยเหลือพระ และเจ้าหน้าที่ ผู้ประสบภัยในเหตุการณ์ความไม่สงบ<O:p</O:p
    วันเสาร์ที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๐ เวลา ๐๗.๐๐ – ๑๒.๐๐ น.<O:p</O:p
    ณ หอประชุมเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา<O:p</O:p


    กำหนดการ <O:p</O:p
    • ๐๖.๓๐ น. ผู้รักพระพุทธศาสนาพร้อมกันในพื้นที่ <O:p</O:p
    • ๐๗.๐๐ น. พิธีตักบาตรอาหารแห้งแด่ ๒๖๖ วัด <O:p</O:p
    • ๐๘.๐๐ น. กล่าวคำไถ่ชีวิตโค และปล่อยนก ปล่อยปลา <O:p</O:p
    • ๐๙.๐๐ น. เสวนาธรรม <O:p</O:p
    • ๑๐.๐๐ น. พิธีอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้วายชนม์ฯ <O:p</O:p
    • พิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรม <O:p</O:p
    • พิธีถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน <O:p</O:p
    • ๑๑.๐๐ น. คณะสงฆ์ฉันภัตตาหารเพล <O:p</O:p
    • รับประทานอาหารร่วมกัน<O:p</O:p
    ชีวิตของใคร ใครก็รัก ขอเป็นกำลังใจให้พระสงฆ์ทุกรูปใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งยังคงยืนหยัดเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เพื่อรักษาพระพุทธศาสนา ให้ยังคงอยู่ในพื้นที่แห่งนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    จัดโดย ศูนย์กัลยาณมิตรหาดใหญ่, กลุ่มสะเดาแก้ว, สมาคมบัณฑิตรัตน์, ชมรมบ้านสีขาว, ชมรมใจใสสงขลา และชมรมพุทธศาสน์ มอ.<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สนับสนุนโดย คณะสงฆ์จังหวัดสงขลา, จังหวัดสงขลา, เทศบาลนครหาดใหญ่, สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยว จ.สงขลา ชุมชนและโรงเรียนต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่, มูลนิธิสมาคมชมรมต่าง ๆ ทั่วประเทศและสหพันธ์รวมใจไทยทั้งชาติ<O:p</O:p

    สอบถามรายละเอียดได้ที่ 089-466-8899,081-478-4598,081-599-9013
    081-678-2153, 081-349-3421, 081-300-7870

    <O:p</O:p
    ทุกท่าน คือบุคคลที่สำคัญยิ่งของพระพุทธศาสนา โปรดร่วมเป็นขวัญกำลังใจให้กับพระภิกษุผู้หยัดสู้ รักษาพระพุทธศาสนาใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้อยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดกาลนาน<O:p</O:p

    “อาตมาเป็นคนในพื้นที่ คือ อ.ปะนาเระ ตั้งแต่เกิดเลย บวชมา ๕ พรรษาแรก จำพรรษา อยู่ที่วัดพรหมประสิทธิ์ จังหวัดปัตตานี หลังจากนั้น ได้รับนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดนี้ รวมแล้ว ๓๔ ปี เมื่อก่อนวัดแห่งนี้ร้างไม่มีพระอยู่ สิ่งแรกที่ทำเมื่อมาอยู่ที่นี่ คือ การสร้างความสัมพันธ์กับชาวบ้านทุกศานา เป็นผู้ให้โยการเอื้อเฟื้ออนุเคราะห์แก่ชาวบ้านในหลาย ๆ ด้าน จึงทำให้ในปัจจุบันแม้ว่า จะมีชาวพุทธอยู่บริเวณวัดไม่ถึง ๔๐ ครัวเรือน ก็ยังไม่เป็นปัญหาในส่วนตัวของอาตมา ในส่วนที่เป็นปัญหา คือ การลอบทำร้ายชาวพุทธ ซึ่งคนที่โนฆ่ามักจะเป็นคนที่ออกจากบ้านไปทำงาน ต่างพื้นที่ เมื่อตอนเย็นกลับบ้านก็ถูกลอบทำร้าย ทำให้ชาวพุทธมีขวัญกำลังใจไม่ดีนัก แต่อาตมาเองก็พยายามใช้ธรรมะเป็นเครื่องจรรโลงให้ญาติโยม ดำเนินชีวิตอย่างไม่หวาดกลัว วัดของอาตมาเองเป็นพื้นที่สีแดง แต่อาตมาคิดว่า ถ้าทุกคนมีสติ และมีความสามัคคีกัน เข้มแข็ง ไม่ท้อถอย ไม่ย้ายไม่หนี สักวันหนึ่งก็ต้องดีขึ้น โจรจะถอยเมื่อเจอคนจริง อาตมาเองจะขอตายในผ้าเหลืองอยู่ที่นี่แหละ ไม่ขอทิ้งแผ่นดิน ไม่ทิ้งพระพุทธศาสนา ไม่ทิ้งญาติโยม”

    หลวงพ่อท่าน คือ พระสงฆ์ผู้เป็นเนื้อนาบุญ ในงานพิธีถวายไทยธรมทุกครั้ง ท่านได้เล่าถึงความประทับใจว่า “อาตมาได้ประโยชน์มากที่ได้เห็นเพื่อนสหธรรมิกทุกเดือน ได้พูดคุยกัน ปรับทุกข์ ปรับสุขกันและกัน ทำให้พระพุทธศาสนาเข้มแข็งขึ้น ยังไม่มีหน่วยงานไหนคิดจะทำแบบนี้มีเฉพาะแต่ วัดพระธรรกายเท่านั้น ส่วนไทยธรรมปัจจัยที่ได้ถวายมา ช่วยได้มากทีเดียว เพราะได้ไปช่วยเติมเต็ม หลายส่วนที่ขาด บางวัดขาดค่าไฟ ค่าน้ำ บางวัดขาด อาหารบิณฑบาต เช่น วัดของอาตมานำปัจจัยมาซื้อ อาหารเฉลี่ยวันละ ๕๐ บาท ทำให้ความเป็นอยู่ของ พระสงฆ์ดีขึ้นมาก ต้องขออนุโมทนาบุญกับหลวงพ่อ พร้อมกับพุทธบริษัท ๔ ที่ได้ทำบุญวัดละบาททุก ๆ เดือน ขอให้โยมปลื้มใจและให้มีความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป”........
    พระครูวิชาญโพธิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดโพธาราม อ.ปานาเระ จ.ปัตตานี
    <O:p</O:p

    เมื่อพุทธบริษัทสี่รวมใจ พุทธบุตรไม่เดียวดาย<O:p</O:p

    พระธรรมสว่างไสวตราบกาลนาน
    จะคอยเป็นกำลังใจ เพื่อพุทธบุตร ผู้พิทักษ์พระพุทธศาสนา ได้อุ่นใจว่า ความเสียสละที่ท่านเอาชีวิตเป็นเดิมพันเสียงภัย ในอันที่จะปกป้องพระพุทธศาสนา มีผู้รู้เห็น ซาบซึ้ง และคอยสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง จนกว่าเหตุเพศภัยต่อพระพุทธศาสนาจะคลี่คลาย

    ****************************************************

    เรียนสมาชิกในกลุ่มครับ หากท่านใดที่มีความประสงค์ที่จะร่วมทำบุญก็โทร.แจ้งผมด้วย ผมคิดว่าจะโอนเงินให้น้องคนหนึ่งที่อยู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นตัวแทนพวกเราทุกคนในการถวายจตุปัจจัยไทยธรรม 266 วัด จะโอนเงินประมาณวันพฤหัสที่ 28 มิย.50นี้นะครับ

    โมทนาสาธุครับ


    .<!-- / message --><!-- sig --><O:p</O:p<!-- / message --><!-- sig -->
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่ค้นคว้ามา) ผมเปิดให้จองแล้วครับ โดยจองเล่มละ 200 บาทและค่าจัดส่งเล่มละ 50 บาท(โดยหากค่าจัดส่งมากกว่านี้ ผมจะจ่ายให้เองครับแต่หากน้อยกว่านี้ ผมจะนำไปเป็นค่าพิมพ์หนังสือครับ) และกรุณาระบุด้วยว่า จองกี่เล่ม โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1.ต้องเป็นผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเท่านั้น<O:p</O:p

    2.ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจอง ถึงแม้ว่าจะได้มาร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแล้วก็ตาม และผมไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบนะครับ<O:p</O:p

    3.เงินค่าจองหนังสือ ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้ทราบทาง PM อีกครั้งเมื่อผมรับจองแล้ว
    บัญชีที่จะให้โอนเงินค่าหนังสือนั้น เป็นบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมเองไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งได้เลย <O:p</O:p

    4.เงินในส่วนต่างนั้น ผมจะนำเงินในส่วนนี้นำไปพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมเริ่มให้จองตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2550 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 เวลา 18.00 น. ครับ


    รูปเล่มนั้น ต้องยอมรับว่าสวยงามครับ อีกทั้งมีรูปพระพิมพ์อีกพอสมควร ทางคณะผู้จัดทำ จะทำให้ดีที่สุด เพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่พระองค์ได้มีความเมตตาที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ และอยู่ดูแลพระศาสนาไปจนครบ 5000 ปีตามพุทธดำรัสครับ

    ผมจะนำรายชื่อทั้งหมด ลงไว้ท้ายเล่มด้วยนะครับ

    ผมเองก็ใช้หนังสือเล่มนี้เป็นครูในการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและเป็นส่วนหนึ่งในการเสาะแสวงหาพระของหลวงปู่ และอีกเล่มก็คือหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ

    ส่วนหนังสือปู่เล่าให้ฟังที่กำลังจะตามมานั้น เป็นเรื่องราวที่ท่านอาจารย์ประถมได้เคยเขียนลงในหนังสือต่างๆ และนำมารวบรวมไว้ในเล่มเดียวกัน แต่จะมีการปรับปรุงเนื้อหาบางเรื่อง ที่ได้ความรู้ใหม่ มาเพิ่มเติมขึ้นอีก และจะแตกต่างจะหนังสือปู่เล่าให้ฟังเล่มแรกและไม่ซ้ำกับหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    สาเหตุที่ผมจะไม่รับจองหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1.ผมไม่ต้องการให้หนังสือเล่มนี้ไปตกอยู่กับบุคคลที่จะนำไปหาผลประโยชน์(ไม่ว่ากรณีใดๆ)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    2.ผมป้องกันในเรื่องของที่จะมีบุคคลที่นำข้อมูลไปทำพระปลอม เนื่องจากมีรูปสีค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าหากว่ามีการหลุดไปจริงๆ ผมถือว่าผมได้ทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุดแล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    3.คณะผู้จัดทำทุกๆท่าน ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และแรงเงิน ที่จะทำเพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    4.ผมเองตามหาเรื่องหลวงปู่มาเป็นระยะเวลา 10 ปี ถึงได้เจอ ได้พบเรื่องราวของหลวงปู่และพระพิมพ์ของท่าน ผมมีความพยายามตามหามาตลอดเวลา และที่สำคัญเมื่อผมได้พบนั้น ผมได้พบหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1 พระองค์(หลวงปู่ท่านอยู่ในห้าองค์ แต่ผมไม่บอกว่าผมได้พบองค์ไหนครับ) และหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ด้วยตาเนื้อของผมเอง <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    5.มีวาสนาบารมีก็จะได้มีไว้ จะช้าหรือเร็วนั้นอีกเรื่องนึง แต่ถ้าไม่มีวาสนาบารมีทำอย่างไรก็จะไม่มีโอกาสมีไว้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หมายเหตุ บุคคลใดๆก็ตามทำอะไรไว้ จะได้รับผลที่ตนเองได้ทำไว้เสมอ <O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->

    ************************************************
    ฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿

    รายละเอียดพระพิมพ์และวัตถุมงคล ที่มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68899 ) จะอยู่ในหน้าแรกของกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

    ส่วนยอดคงเหลือ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้เป็นระยะครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ผมมาคุยให้ฟัง เรื่องของหนังสือ ปู่เล่าให้ฟัง เล่ม 2
    ผมเดาว่า ท่านอาจารย์ประถม ท่านน่าจะนำเรื่องนี้มามาลงในหนังสือเล่มนี้ด้วย แต่ยังไม่รู้ว่า ผมเดาถูกหรือผิด แต่จะมาลงเป็นตัวอย่างสักเล็กน้อยครับ


    กรรมวิธีการเก็บตัวยาใบไม้รู้นอน ๗ สิ่ง

    เล่าโดย ปรัศนี ประชากร
    (ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร)<O:p</O:p


    .....................ผู้เขียนเองศึกษาวิชาอิธะเจแฝดหรือปถมังอิธะเจลบต่อจากอิธะเจขาดตัว ............... เรียกว่าผงอ่อนใจรัก สร้างพระปิดตาบินเดี่ยวคุณภาพสูงเยี่ยมเท่าหลวงพ่อแก้ว วัดเคลือวัลย์ สมัยโบราณ พญามารได้กลั่นแกล้งจนล้มป่วยอาการขั้นปางตายมาแล้ว บังเกิดความเบื่อหน่ายแบ่งปันผงให้หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้งไปบ้าง ที่เหลือถวายเจ้าคุณวรพรต ปัญญาจารย์ วัดป่าอรัญญิกาวาส และท่านเจ้าคุณได้ถวายล้นเกล้ารัชกาลองค์ปัจจุบันนำไปสร้างพระสมเด็จจิตรลดาหมดไปแล้ว...................................
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผมมีคำถามมาถามทุกท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งกันอีกแล้วครับ
    <O:p</O:p
    เริ่มตอบปัญหาได้ตั้งแต่บัดนี้( 22 มิถุนายน 2550) จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2550 เวลา 18.00 น.(เวลาในเว็บพลังจิต)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โดยผมมีลูกอม(เป็นชานหมากพระอาจารย์รูปหนึ่ง ผสมกับผงต่างๆ เช่นผงอ่อนใจรักที่ท่านอาจารย์ประถม ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรัชกาลที่ 9 ,ผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ และผงอื่นๆอีกหลายๆอย่าง) เป็นรางวัลที่ 1 ส่วนรางวัลที่ 2 – 5 เป็นพระพิมพ์อรหังพิมพ์เล็ก จำนวน 4 รางวัล การให้คะแนน จะมีตั้งแต่ 1 – 10 โดย 10 คะแนนจะเป็นคะแนนสูงสุด , 1 จะเป็นคะแนนที่น้อยที่สุด ถ้าหากมีผู้ที่ตอบเกินกว่า 5 ท่าน ผู้ที่ได้คะแนนตั้งแต่ลำดับที่ 6 จนถึงลำดับที่ 10 ผมมีพระพิมพ์ที่เป็นพระปิดตา(ทรงชลูด) มอบให้ ถ้ามีผู้ที่ตอบคำถามมากกว่านี้คือตั้งแต่ลำดับที่ 11 เป็นต้นไป ผมมอบสมเด็จหลังเบี้ยให้ และทุกๆท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งสามารถตอบได้ครับ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ส่วนรูปลูกอม และพระพิมพ์ที่ผมมอบให้นั้น ผมจะไม่ลงให้เห็น แต่จะให้รอลุ้นตอนรับนะครับ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คำถามมีดังนี้<O:p</O:p
    1.คุณมีความคิดเห็น หรือความรู้สึกอย่างไร กับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(ในกระทู้นี้)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    2.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(ในกระทู้นี้) หลวงปู่ท่านสอนอะไร<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    3.ตามเรื่องราวของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(ในกระทู้นี้) คุณสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ ถ้าได้ ได้ในด้านใดบ้างและนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    4.คุณมีความคิดเห็นอย่างไร กับพระองค์ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญที่พระองค์ท่านได้สร้างพระพิมพ์ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    5.คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับกระทู้นี้ (ตอบได้เต็มที่ทั้งด้านลบและด้านบวก ผมจะได้นำมาปรับปรุงตนเองด้วยครับ)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมขอคำตอบไม่น้อยกว่า 5 บรรทัดครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมขอให้คุณพันวฤทธิ์ และคุณเพชร เป็นคณะกรรมการการตัดสิน แต่หากว่าคะแนนเท่ากัน ผมขอให้คุณพันวฤทธิ์และคุณเพชร ตัดสินอีกครั้งครับ คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สุด ส่วนการให้คะแนนนั้น หากท่านใดตอบแล้ว ผมขอความกรุณาคณะกรรมการให้คะแนนได้เลย หรือว่าจะรวบรวมให้คะแนนครั้งเดียวก็ได้ และผมขอบพระคุณคณะกรรมการทั้งสองท่านด้วยครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    สามารถไปตอบในกระทู้ ร่วมสนุกตอบปัญหา มอบลูกอม ,สมเด็จอรหังพิมพ์เล็ก และอื่นๆ (http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=82524 ) หรือตอบในกระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ .... ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=22445&page=568 ) กระทู้ใดกระทู้หนึ่งก็ได้ครับ


    มาแนะข้อมูลกันนิดนึงสำหรับประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร จะอยู่หน้าแรกในกระทุ้นี้ครับ


    ขอให้ทุกๆท่านโชคดี โมทนาสาธุครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  19. littlelucky

    littlelucky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,938
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- / icon and title --> <!-- message --> ๑.คุณมีความคิดเห็น หรือมีความรู้สึกอย่างไร กับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรอย่างไร
    ผมคิดว่า ประเด็นของความรู้สึกเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ได้ก็ต้องเคยสัมผัสหรือพบมาก่อน ซึ่งผู้ที่ได้พบมักเป็นท่านที่มีบุญบารมีสูง เช่น พระสงฆ์ ผู้ปฎิบัติธรรม เนื่องจากทราบมาว่าท่านมักมาพบในนิมิต อทิสมานกาย
    ตามความเข้าใจของผมคิดว่าตัวเอง คงมีบุญบารมีอาจไม่สูงถึงขนาดนั้น เพียงแต่ใจของผมมีกุศลและได้ไปสัมผัสกับอะไรที่อธิบายไม่ได้ ที่เกี่ยวกับหลวงปู่มาบ้าง
    ก้าวแรกที่ผมหัดสวดมนต์พระคาถายอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎกเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ เนื่องจาก ช่วงนั้นผมมีความทุกข์อย่างมาก (เมื่อราวสองปีมาแล้ว) ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร นอกจากนี้ในช่วงนั้น ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพระนเรศวรและพระสุพรรณกัลยา และการเสียเอกราชของอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา แล้วรู้สึกรักและเคารพบูชาท่านทั้งหลายที่เสียสละมาก
    ทุกครั้งเวลาสวดมนต์ผมจึงมักอุทิศบุญกุศลให้ท่านอยู่เสมอ ซึ่งพอผมได้ทำแล้วผมก็รู้สึกสบายใจขึ้น
    หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้มาเจอกับกระทู้พระวังหน้า ฯของคุณ Sithiphong ซึ่งก่อนหน้านั้นผมไม่ได้มีความรู้เรื่องพระพิมพ์ และประวัติเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรมาก่อน แต่ก็กลับรู้สึกสนใจมาก และเห็นความศรัทธาของคุณ Sithiphong จึงติดตามอ่านเรื่องมาโดยตลอดซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นการกล่าวถึงต้นเหตุ ของความรู้สึกของผมคนเดียวซึ่ง ถ้าคนอื่นไม่เห็นด้วยก็ขออภัยครับ เพราะเป็นปัจจัตตัง ครับและนอกจากนี้ ผมคิดว่า หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ท่านน่าจะมีส่วนเมตตาช่วยเหลือ ชาติไทย ตลอดจนสถาบันพระมหากษัตริย์ อยู่มากครับเพราะ จากการที่ผมได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ แต่ที่เห็นชัดที่สุดก็คือ ประสบการณ์ของผมที่เกี่ยวกับหลวงปู่ฯครับ
    "
    ตอนช่วงที่มีการให้ร่วมทำบุญ งานตอบแทนบุญคุณแผ่นดินนั้น ผมได้คิดว่าจะร่วมทำบุญ จึงได้ไปเพื่อจะโอนเงิน ก่อนหน้านั้นผมนึกอย่างไรไม่ทราบ ได้พูดว่า "ถ้าไปทำบุญครั้งนี้แล้วจะกลับมา บอกกล่าวหลวงปู่ให้ท่านโมทนาบุญด้วย "
    พอผมไปถึงตู้ ATM กำลังจะไปกดโอนเงินทำบุญ อยู่ ๆ ก็เหมือนมีลมหรือบางอย่างพุ่งมาใกล้ผมอย่างรวดเร็วมาก หลังจากนั้น ผมก็ได้กลิ่นหอมคล้ายดอกมะลิ อบอวนไปหมด ผมก็รู้สึกประหลาดใจ จึงหันดูว่าใครเอาดอกไม้มาอยู่ใกล้หรือไม่ แต่ก็ไม่มี คิดไปคิดมา หน้าตู้ ATM คงไม่มีน่ามีมั้ง ก็เลยนึกได้ว่า ได้พูดบอกว่าจะทำบุญนี้แล้วจะให้หลวงปู่ท่านโมทนาด้วย ผมก็เลยเข้าไปกดโอนเงินต่อ แต่สิ่งที่ทำให้ผมแน่ใจขึ้นก็คือ หลังจากผมได้ทำบุญเสร็จแล้ว พอจะเดินกลับบ้าน อยู่ ๆ กลิ่นนั้นก็หายไป
    หลังจากนั้น เวลาผมทำบุญอะไร ผมก็ต้องมาบอกกล่าวท่านเสมอครับ โดยเฉพาะงานที่มีส่วนในการช่วยเหลือประเทศชาติครับ
    เช่น พิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ๒๖๖ วัด ใน ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผมก็พบประสบเหตุทำนองเดียวกันอีกหลายครั้งครับ
    ซึ่งสอดคล้องกับที่ คุณ Sithiphong ได้กล่าวว่า ควรทำบุญอุทิศให้กับผู้เสก พระพิมพ์ รวมถึงเจ้าของและผู้สร้างด้วย ตลอดจนท่านเทวดาประจำพระพิมพ์ด้วย "

    ทำให้ผมได้เกิดความสนใจและมีคำถามในใจว่า หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ท่านเป็นใคร แล้วบุคคลิกภาพ และจริตของท่านเป็นอย่างไร ผมได้อ่านชีวประวัติหลวงปู่เทพโลกอุดรของ อาจารย์ประถม อาจสาคร ซึ่งท่านได้ค้นคว้า สืบหาจากหลักฐานและตรวจสอบกับผู้รู้หลาย ๆ ท่าน อีกทั้งท่านเองก็มีบุญบารมี ร่วมกับหลวงปู่ฯ อยู่มาก ข้อมูลที่ได้จึงชัดเจนยิ่งขึ้น จึงพอสรุปได้ว่า

    หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ท่านเป็นพระอรหันต์ ยังไม่จบกิจ แบบพระแม่กวนอิมโพธิสัตว์ ยังค้ำจุนพระศาสนา ไปกว่าจะสิ้นพุทธธันดร (พ.ศ.5000) ถ้าจบกิจแล้วท่านก็หมดหน้าที่ เพียงแต่ท่านไม่ต้องสร้างบารมีต่อแบบอีกสององค์ คือหลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หลวงปู่หน้าปาน
    เมื่อครั้ง พ.ศ. 235 พระเจ้าอโศก มหาราช ได้กระทำตติยสังคายนาพระไตรปิฎก และได้คัดเลือกบรรดาพระอรหันต์เถระ ออกทำการเผยแพร่พระพุทธศาสนายังประเทศต่าง ๆ ซึ่งเขตสุวรรณภูมิประเทศ เป็นหน้าที่ของพระโสณเถระกับพระอุตร เถระได้อัญเชิญพระพุทธศาสนา มาประดิษฐสถานที่เมืองสุวรรณภูมิ ซึ่งเรียกเรียกว่า คณะพระธรรมฑูต ข้อเท็จจริงพบว่าท่านทั้งสองเป็นพี่น้องร่วมสายโลหิต องค์พี่คือ พระอุตร องค์น้องมีร่ายกายสูงใหญ่ มีฉายาว่าขรัวตีนโต องค์น้องบรรลุอรหันต์ก่อนองค์พี่ แต่มีความเคารพองค์พี่มากนอกจากนี้ สมเด็จพุฒจารย์ (โต) พรหมรังสี กล่าวนามขององค์ท่านว่า พระโสอุดรพระโลกกุดร
    ในส่วนปริเฉทสี่ ในสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการปรากฎคณะพระธรรมฑูต ประกอบด้วย
    1.พระอุตร เถระ เรียกกันว่าพระครูโลกอุดร หลวงปู่ใหญ่ ซึ่ง เจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี เรียกท่านว่า "พระโลกุดร" ท่านมีจิตเยี่ยงพระโพธิสัตว์เจ้า บรรลุอภิญญาหก และปฎิสัมภิทาญาณ อันเป็นเหตุผลที่ทำให้ท่านสอนศาสนาแก่คนต่างภาษาได้ และ ท่านเป็นหัวหน้าคณะพระธรรมฑูต เชี่ยวชาญการแพทย์และเภสัชกรรม
    2.พระโสณเถระ เรียกกันว่า พระครูโลกอุดร เช่นกัน ฉายานามขรัวตีนโต เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ท่านว่า "พระโสอุดร"
    พระโสณเถระ ก็บรรลุปฎิสัมภิทาญาณ เช่นกัน ใจดีประกอบด้วยเมตตาธรรม ชอบผาดโผนเหินฟ้านภาลัย
    3.พระมูนียะ เรียกกันว่าหลวงปู่โพรงโพ ท่านอิเกสาโร หลวงปู่เดินหน บุคลิกสง่างามปรากฎตามภาพซึ่งใช้บูชากันอยู่ในปัจจุบัน เชี่ยวชาญในวิชาแปรธาตุ ชอบเจริญอสุภกรรมฐาน 10
    4.พระฌาณียะเถระเจ้า เรียกกันว่าหลวงปู่ขรัวขี้เถ้า (หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี) รูปกายค่อนข้างสูงใหญ่ มีอำนาจ แต่ขี้เล่น ปริศนาธรรม คือ ขรัวขี้เถ้าเผาแหลก มีอะไรเผาหมด แบบเฒ่าสู่เถ้า ผลคลีดินสู่ผงคลีดิน
    5.พระภูริยะ เรียกกันว่าหลวงปู่หน้าปาน (หลวงพ่อโอภาสี หรือมหาชวนแห่งอาศรมบางมด) ท่านสำเร็จปรอท ล่องหนย่นทางเก่ง ซึ่งกล่าวกันว่าท่านเป็นสหมิกกับหลวงปู่ขรัวขี้เถ้า มาสร้างเสริมบารมีเวลาเดียวกัน

    ท่านมีสภาวะจิตที่รวดเร็วมาก เพียงนึกถึงท่าน ท่านว่า "เมื่อเจ้าต้องการพบเรา เราก็มา เรามาจากทางไกล ด้วยความรวดเร็วยิ่ง"
    สำหรับผมการกราบไหว้สักการะไปหาท่าน แม้จะเพียงการสวดมนต์ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกก็ถือว่าได้ผลเช่นกัน เพราะเมื่อผมได้สวดมนต์ ผมสัมผัสได้โดยได้กลิ่นหอมมะลิ อยู่หลายครั้ง สอดคล้องกับที่ คุณ Sithiphong ได้แนะนำวิธีบูชาพระบรมครูพระเทพโลกอุดร ว่าท่านชอบฟังคำสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ครับ
    ความรู้สึกจากประสบการณ์ที่ผมได้เขียนมานี้เป็นเรื่องจริง ซึ่งอันที่จริงผมยังมีประสบการณ์อีกหลายครั้ง แต่ผมคงไม่นำมากล่าวกลัวจะกลายเป็นข้อวิจารณ์ว่ายกตนเอง เพราะผมไม่ได้มีบุญบารมีอะไร เป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่ยังมีต้องชดใช้กรรม ซึ่งบางครั้งเกือบเอาชีวิตไม่รอด ดีว่าได้บารมีหลวงปู่ฯ ช่วยไว้ นอกจากนี้ ผมเองยังมี ความโลภ ความโกรธ ความหลง อยู่ครบ ทุกข์ อนิจจัง อนัตตา ไป แต่ที่ผมตัดสินใจกล่าวบางส่วน เพราะ ผมถือว่าเป็นการเสริมศรัทธาให้กับ ผู้บูชาหลวงปู่ ฯ ทั้งใหม่และเก่าครับ เพื่อให้ทุกท่านมีความเคารพศรัทธาท่านจริง ๆ ครับ

    ๒.หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(ในกระทู้นี้) หลวงปู่ท่านสอนอะไร

    จากที่ผมได้อ่านในเนื้อหาที่คุณ Sithiphong เผยแพร่และเนื้อหาจากชีวประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร มีการแทรกธรรมะของหลวงปู่ฯ อยู่มากมาย แต่ที่ธรรมะบางข้อของท่าน ที่ผมสนใจมาก ๆ สรุปย่อ ๆ บางส่วนคือ
    มหาสติปัฐฐานสี่ พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม ว่า มันเป็น ทุกข์ อนิจจัง อนัตตา
    ผมขอยกธรรมะที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ท่านสอนในเรื่อง มหาสติปัฐฐาสี่ ว่าเป็นการสอนให้เราตระหนักถึงความจริง เพื่อการดับทุกข์ ซึ่งจัดเป็นภูมิธรรมขั้นละเอียด ลึกซึ้งมาก แต่ไม่ใช่ว่าท่านสอนสำหรับชั้นโสดาบัน เรายังไม่บรรลุพระโสดาบันก็ควรอาจเอื้อม จะกลายเป็นการดูถูกตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งไม่ดี ที่จริงหลักของท่านสอนเพื่อให้รู้จักยับยั้งชั่งใจด้วยเหตุผล ตรวจตรา ตัณหา ความอยากเป็น ความไม่อยากเป็น อยากได้นั่นได้นี่ เพราะไม่อยู่ในอำนาจของใคร ทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง ซ้ำยังเป็นทุกข์ อีกทั้งยังไม่แน่นอนอีกด้วย เราจึงบังคับให้เป็นไปตามปรารถนาไม่ได้ ไม่ควรไปยึดมั่นจริงจัง เมื่อหัดฝึกฝนพิจารณาตรวจตราดูตนเองตามหลักนี้ ก็จะคลายความหลงยึดปรารถนา หลงในสิ่งที่ไม่เป็นจริงสภาพจิตใจก็จักสงบ ไม่วุ่นวายเดือนร้อนตนเองและคนอื่นจนเกินควร

    3.ตามเรื่องราวของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(ในกระทู้นี้) คุณสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หรือไม่
    ถ้าได้ในด้านใดบ้างและนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร

    ปาฎิหารย์ของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรนี้ ให้ข้อคิดว่า บารมีและความดีนั้น ทำให้เกิดสิ่งปาฏิหาริย์ต่างๆ มากมายครับ ถ้าลองอ่านในพระไตรปิฎกดู ก็พอจะได้พบบ้าง เรื่องความลี้ลับของท่านที่บอกว่าอย่าไปเสียเวลากับชื่อของท่าน ที่เป็นชื่อสมมติที่ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ เป็นผู้เรียกท่าน แต่ผมเองไม่กล้าคาดเดา ปริศนาธรรมของหลวงปู่ฯ ท่านมากนัก แต่คิดว่าท่านน่าจะให้เร่งปฎิบัติ เพราะเห็นว่าชีวิตคนนี้น้อยนัก ไม่เพียงพอแก่การปฎิบัติอยู่แล้ว อย่ามัวเสียเวลา
    สำหรับผมไม่ได้ปฎิบัติธรรมก็อาจจะยากที่เข้าใจได้ แต่สำหรับผู้ปฎิบัติธรรมและมีบุญบารมี เช่น ท่านอาจารย์ประถม ท่านเคยเล่าว่า(จากบทความของคุณ Sithiphong) เรื่องของหลวงปู่เทพโลกอุดร นั้นไม่ใช่สิ่งลี้ลับแต่ประการใด เพียงแต่ต้องปฏิบัติธรรมให้ดี อย่างเช่น หลานของท่าน นั่งสมาธิ จนกระทั่งเห็นหลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านออกมาจากรูปทั้ง 5 องค์ สามารถจับต้องได้ด้วยกายเนื้อ สามารถพูดคุยได้ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เป็นประสบการณ์เฉพาะตนเท่านั้น ขึ้นอยู่กับบุญ บารมีของแต่ละบุคคลที่ได้สั่งสมกันมา
    อย่างไรก็ตามผมก็ยังอยาก ที่จะพบท่าน แต่เมื่อลองอ่านดู เรื่องราวของท่านดูเหมือนท่านจะต้องการกล่าวว่าไม่ต้องไปตามหาท่านให้เหนื่อยยากเสียเวลาหรอก ถ้าไม่ถึงเวลาที่จะได้พบ ถ้าถึงเวลาท่านก็จะมาโปรดเอง
    เรื่องหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร เป็นพระภิกษุลี้ลับ และมหัศจรรย์ ตลอดจนถึงเรื่องอิทธิฤทธิ์ หรือปาฎิหาริย์ ต่าง ๆ ผมก็ชื่นชอบมาก และปรารถนาจะมีประสบการณ์ มหัศจรรย์ต่าง ๆ อยากจะได้พบท่าน แต่ผมคิดว่าท่านก็ไม่ปราถนาจะแสดงตนและแสดงอิทธิฤทธิ์ และปาฏิหาริย์ ให้ดู เพราะว่า กลัวว่าจะหลงงมงายกับเรื่องเหล่านี้ จะไปยึดติดอยู่กับเรื่องเหล่านี้ เพราะว่ายัง ไม่มีโอกาสที่จะได้ปฏิบัติตัว ให้อยู่ ในศีลในธรรม หรือเป็นคนดีได้ตลอดเวลา เท่ากับพระสงฆ์ ผู้ปฎิบัติธรรม ที่ได้ปฏิบัติตัวและระวังตัว หรือที่เรียกว่าสำรวม ทั้งกายวาจาและใจ อยู่เกือบตลอดเวลาได้ บุคคลใดจะปฏิบัติตัว ให้ได้เห็นอิทธิปาฏิหาริย์ เกิดขึ้นได้ แต่จะทำได้แค่ไหนนั้นมันเป็นเรื่อง ของบุคคลนั้น
    กาลามสูตรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบรมครู
    1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา
    2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆกันมา
    3. อย่าปลงใจเชื่อ ค้วยการเล่าลือ
    4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
    5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
    6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน
    7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
    8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฏีที่พินิจไว้แล้ว
    9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้
    10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา
    สรุปคือ ก่อนที่จะเชื่ออะไร เราต้องพิสูจน์ให้รู้แจ้งเห็นจริงแล้วจึงเชื่อ เพราะ ธรรมะของท่านต้องเกิดจากการปฎิบัติเท่านั้น ท่านจึงเน้นย้ำเสมอ ให้เร่งปฏิบัติธรรม เพราะท่านตระหนักถึงความเชื่อเพื่อนำไปสู่ดับทุกข์อย่างแท้จริง ที่เกิดจากผู้ที่รู้ธรรมะ กับผู้ที่ปฏิบัติธรรมะ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างมาก

    4.ท่านมีความเห็นอย่างไรกับพระองค์ท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญที่พระองค์ท่านได้สร้างพระพิมพ์ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก

    1.เนื่องจากท่านกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร มีความประสงค์จะสร้างพระเครื่อง และวัตถุมงคลเพราะท่านมีหน้าที่ต้องช่วยปกปักรักษาแผ่นดิน แจกจ่ายให้ทหาร ให้แคล้วคลาดปลอดภัย
    2.การเชิญให้หลวงปู่บรมครูโลกอุดรมาอธิษฐานจิตให้เป็นเรื่องยากมากและต่อไปอาจจะไม่มีการปลุกเสกที่แก่กล้าเช่นนี้อีก ตามความประสงค์ของสมเด็จวังหน้า (กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ หรือท่านเจ้าแห่งวังหน้าองค์ที่ 5 และเป็นองค์สุดท้ายในราชวงศ์จักรี)
    3.เพื่อนำมาแจกให้ทหารซึ่งมีจำนวนมาก
    4.เพื่อบรรจุในฐานพระอุโบสถ เช่น วัดพระแก้ววังหน้า และวัดพระแก้ววังหลวง ให้ชาวไทยรุ่นหลัง
    5.ถ้าพระเครื่อง มีปริมาณน้อยก็จะทำให้มีราคาสูง ทำให้เกิดการเก็งกำไร ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้เป็นสมบัติของแผ่นดินหรือประชาชนรุ่นหลังซึ่งมีวาสนาบารมีจะได้มีสิ่งคุ้มครองตน

    5.คุณมีความเห็นอย่างไรกับกระทู้นี้ (ตอบได้เต็มที่ทั้งด้านลบและบวก ผู้จะได้นำมาปรับปรุงตนเองครับ)

    ด้านบวก(โมทนา)
    1.ทำให้ผมได้มีโอกาสรู้จักได้รับความรู้เกี่ยวกับพระพิมพ์พระวังหน้าที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสกครับ และได้ร่วมทำบุญ สร้างเสริมบารมี
    2.ได้ทราบชีวประวัติของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
    3.ได้แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เช่น ธรรมะ การทำบุญ ปฎิบัติธรรม ศีล สมาธิ ปัญญา
    4.พบบทความดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อ สังคมและบ้านเมือง นำเผยแพร่ และเรื่องราวมงคลต่าง ๆ ไม่จำเป็นว่า จะต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระเครื่อง หรือวัตถุมงคลด้วย ครับ เรื่องอะไรก็ได้ ที่คนอ่านแล้วรู้สึกว่าดี มีคุณค่าเป็นประโยชน์
    ด้านลบ(ไม่เห็นด้วย) ไม่มีครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    ____________________________________________________________

     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผมคิดว่า 1 ปีครึ่งที่คุณหนุ่มเผยแพร่เรื่องราวของหลวงปู่ทั้ง 5 พระองค์ รวมทั้งเรื่องราวของพระพิมพ์วังหน้าที่ท่านเจ้าแห่งวังหน้าองค์สุดท้ายของราชวงศ์จักรีนี้น่าจะประสพความสำเร็จก่อนเวลาที่กำหนดแล้วนะ

    ขอโมทนาสาธุ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...