พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

พระผงของขวัญ เนื้อโลหะ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากเป็นเนื้อเงินแท้ และทองแดง รับประกันแท้

เนื้อเงินบูชา 1,400 บาท

เนื้อทองแดง 650 บาท

 

รูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ปี พ.ศ.2495 ปลุกเสก โดยหลวงปู่นาค วัดระฆังโฆสิตาราม และเกจิร่วมยุคนั้นหลายองค์เช่น หลวงพ่อ จาด ,หลวงพ่อจง,หลวงพ่อคง และหลวงพ่ออี้ องค์นี้ตัวจริง หล่อได้สวย กริ่งดัง สมบูรณ์มาก ถือเป็นพระประสบการณ์ของยุคนั้นๆนักเล่นรุ่นเก่ารู้ดี ของเก๊มากมาย

บูชา 1,200 บาท

 

พระครูภาวนาวัชโรภาส นามเดิม แผ่ว นามสกุล ม่วงมงคล เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2475 ที่บ้านท่าไทร อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
ในวัยเยาว์ได้ศึกษาเล่าเรียนขั้นต้นที่โรงเรียนประชาบาลสุขประสิทธิวิทยา วัดโตนดหลวง จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ต่อมาเมื่ออายุได้ 12 ปี โยมบิดามารดาได้ถึงแก่กรรม จึงต้องไปอาศัยอยู่กับโยมย่าและประกอบอาชีพทำการประมง ทำโป๊ะหาเลี้ยงชีพ ครั้นอายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ได้บรรพชาและอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโตนดหลวง เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2494 โดยมีพระครูพินิจสุตคุณ (ทองสุข) วัดโตนดหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูฌานาภิรัติ (ฉิน) วัดชะอำ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า”ปณฺฑิโต”

รูปถ่ายหลวงพ่อแผ่วรูปถ่ายหลวงพ่อแผ่ว
เมื่อเป็นภิกษุแล้วได้เล่าเรียนหนังสือไทยและขอม ท่องสวดมนต์ พระสูตรต่างๆ ตลอดจนวิทยาคมจากหลวงพ่อทองสุข เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากในยุคนั้น ขณะที่หลวงพ่อแผ่วเป็นพระ
ลูกวัดโตนดหลวง ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ดูแลกิจการงานภายในวัด จนกระทั่ง พ.ศ. 2500 หลวงพ่อทองสุขมรณภาพลง ทางคณะสงฆ์ตลอดจนเหล่าทายกทายิกาเห็นพ้องต้องกันให้ท่านรับเป็นรักษาการเจ้าอาวาสสืบต่อ จนถึง พ.ศ. 2501 จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดโตนดหลวงอย่างเป็นทางการ ด้วยวัยเพียง 28 ปี พรรษาที่ 8 เท่านั้น
จนกระทั่งวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2516 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูภาวนาวัชโรภาส” ฝ่ายวิปัสสนา

ในด้านวัตถุมงคล หลวงพ่อแผ่วได้จัดสร้างขึ้นหลายรุ่น อาทิเช่น เหรียญหลวงพ่อทองสุข พ.ศ. 2503 , รูปเหมือนหลวงพ่อทองสุข พ.ศ. 2505 , เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อแผ่ว
รุ่นแรก พ.ศ. 2517 นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางของขลัง อาทิ ตะกรุด ผ้ายันต์ ลูกอม และแหวนหัวยันต์นะ เป็นต้น

หลวงพ่อแผ่วได้ถึงแก่มรณภาพลงเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2538 สิริรวมอายุได้ 64 ปี พรรษา 43

ขอขอบคุณข้อมูลจาก “หนังสือพระเครื่องเมืองเพชร”

ปลอกกระสุนปืนด้าน หุ้มด้วยตะกรุดทองแดงจารพอกด้วยครั่ง สร้างน้อย หายากครับ

 

ชายคนนึง
เจอกับวิกฤตของชีวิต

ร้านอาหารที่เขาทำ
ขายไม่ดี ไม่ค่อยมีลูกค้า
กินทุนเก่า ขาดทุนทุกวัน

พอมีปัญหาการเงิน
ก็ทะเลาะกับแฟน มีปากเสียงกันทุกวัน

เขาตัดสินใจไปหาหลวงตา
เขาไปเล่าปัญหาให้หลวงตาฟัง
หวังว่าหลวงตา จะให้น้ำมนต์
ให้ของดีกลับมา

หลวงตาฟังปัญหาเสร็จ
หลวงตาก็เลยบอกชายหนุ่มว่า
เดี๋ยวจะให้พรวิเศษ กลับไปเปลี่ยนชีวิตเลย

แต่มีข้อแม้

ท่านต้องช่วยหลวงตา
หากุญแจห้องเก็บเครื่องรางก่อน
หลวงตามีกิจนิมนต์
ค่ำๆจะกลับมา

ชายหนุ่มรับปาก
ได้ครับหลวงตา เดี๋ยวผมช่วยหา

ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลงจากกุฏิ
ไปเดินหากุญแจ หาตั้งแต่เช้าจนค่ำ ก็ไม่เจอ

จนหลวงตากลับมา
ถามชายหนุ่มว่า...เจอมั้ย?

ชายหนุ่มตอบ
ผมหาทุกซอกทุกมุมเลยครับ
เดินวนไปวนมาหลายรอบ
ตั้งแต่เช้ายันเย็น....ไม่เจอ

หลวงตานั่งลงแล้วบอกชายหนุ่มว่า

หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอหรอก
กุญแจหลวงตาทำตกไว้ที่โบสถ์
มาหาตรงนี้จะไปเจอได้ยังไง?

ชายหนุ่มโกรธหลวงตาใหญ่
ว่าทำไมถึงหลอกลวงให้ตน
เดินหากุญแจตั้งแต่เช้ายันค่ำ

นี่หลวงตา!!
เป็นพระเป็นเจ้า
มาโกหกได้ไง บาปนะ
เสียแรงนับถือ!!

หลวงตาบอก

ท่านดูเอาเถิด
ทุกข์ของท่าน เกิดขึ้นที่บ้าน
เกิดขึ้นที่ครอบครัวท่าน
แล้วท่านมาทำอะไรที่นี่??

ท่านมีปากเสียงกับภรรยา
ท่านต้องไปปรับความเข้าใจกับภรรยา
ไปพูดคุยกัน

ไม่ใช่มาหาพระ
หรือมาขอร้องให้ใครช่วย

ท่านบอกร้านท่าน
ค้าขายไม่ดี พระบวชมาทั้งชีวิต
ไม่เคยค้าขาย ไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจ
พระจะช่วยแก้ปัญหาอะไรได้??

ที่ต้องทำคือ
กลับไปที่ร้าน กลับไปนั่งพิจารณา
ว่าร้านมีข้อเสียอะไร บกพร่องตรงไหน
บริการเป็นอย่างไร รสชาดอาหารดีหรือไม่

ไม่ใช่มาขอน้ำมนต์
มาขอเครื่องรางของขลัง
มันจะไปช่วยอะไรได้!!

เหมือนกับที่ท่าน
งมหากุญแจตั้งแต่เช้ายันค่ำนี่แหละ
หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอหรอก
มันไม่ได้ตกที่นี่ !!

ชายหนุ่มทรุดลงกับพื้น
กราบที่เท้าหลวงตาแล้วรีบกลับไป
แก้ไขชีวิตตัวเอง

จนไม่นาน
ครอบครัวก็กลับมารักกัน
เข้าใจกัน กิจการก็เจริญรุ่งเรือง

นิทานเรื่องนี้ มาจากเรื่องจริง
ที่ถูกเล่าต่อกันมานาน

ผู้คนสมัยนี้
อกหัก ผิดหวังความรัก
ชวนเพื่อนไปกินเหล้า
ไปร้านเหล้า ทุกข์ใจอยู่แล้ว
ทุกข์กว่าเดิม

จิตใจกำลังอ่อนแอ
ไปเจอใครเอาใจพูดเพราะ
ดีด้วย ก็ไปด้วยกันตามอารมณ์
สุดท้ายคนใหม่ดีกว่าคนเก่า

หลายคน
ชีวิตไม่เจริญก้าวหน้า
แทนที่จะพัฒนาตัวเอง
เปล่าเลย

นั่งกินเบียร์ข้างโรงงาน
จับกลุ่มนินทาเจ้านาย

หลายคนอยากรวย
อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น
แทนที่จะขยัน เพียรพยายาม
กลับไปหาหมอดู ไปหาร่างทรง
ไปให้เขาหลอกลวง

ทุกข์เกิดตรงไหนแก้ตรงนั้น
ปวดหัวอย่าเอายาแดงมาทาขา
ไม่มีทางหาย!!

ปัญหาเกิดตรงไหนแก้ตรงนั้น!
ทุกข์ตรงไหนแก้ตรงนั้น

อย่าเดินหากุญแจ
ที่ไม่ได้หายตรงนั้น เหมือนชายคนนี้

สิริทัศน์ สมเสงี่ยม เขียน
เด็กวัดชลประทานฯช่วยแชร์

 

ปิด

พระขุนแผน รุ่นปลัดทวี ปี 2490

หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่เสก พิมพ์ทรงพลเล็กหายาก
พระขุนแผน รุ่นปลัดทวี ปี 2490 เลี่ยมพร้อมใช้

ขุนแผนบ้านกร่างพระครูอาภัสศีลคุณ (ปลัดทวี) ได้เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2486 ปลุกเศก ปี 2492
มวลสารที่ใช้สร้าง
1.พระเครื่องก้นกรุวัดบ้านกร่าง ที่แตกหัก จำนวน 1 โอ่งมังกรเป็นมวลสารหลัก และดินก้นกรุ
2.ดิน7โป่ง ดินขุยปู 7 ทุ่ง
3.ดินสังเวชนียสถาน 4
4.ดินกรุพระซุ้มกอกำแพงเพชร
5.พระรอดมหาวันที่แตกหัก และดินก้นกรุพระรอดมหาวัน ลำพูน
6.ดิน ผงธูป เกษรดอกไม้ จากวัดพระธาตุดอยสุเทพ และวัดอื่น ๆ ทางภาคเหนือ
7.ผงวิเศษ และผง 108 จากหลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
8.ผงวิเศษจากพระเมธีธรรมสาร (หลวงพ่อไสว) วัดบ้านกร่าง
9.ผงวิเศษจากหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
10.ดิน ผงธูป เกษรดอกไม้ จากทางภาคอีสาน วัดใน จ. ขอนแก่น พระธาตุช่อแฮ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
11.พระเนื้อดินจากกรุวัดพระรูป สุพรรณ
12.ผงธูป พระร่วงโรจนฤทธิ์ พระปฐมเจดีย์ วัดพระนอนจักรสีห์ สิงห์บุรี พระนอน วัดพระเชตุพนฯ สมเด็จพระศาสดา วัดสุทัศน์ พระอัฏฐารส พิษณุโลก พระเเก้วมรกตในพระบรมมหาราชวัง เจดีย์ภูเขาทองวัดสะเกศ
13. ดิน ผงธูป เกษรดอกไม้ จากพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์
14.ดิน 7 วัง วังบางขุนพรม วังบูรพา วังสราญรมย์ วังเทเวศร์ วังสุโขทัย วังจันทร์เกษม และพระบรมมหาราชวัง
15.ดิน 5 ทัพ ทัพขุนช้าง ทัพขุนแผน ทัพผึ้ง ทัพหมัน ทัพหลวง
16. ดิน 5 ถ้ำ ถ้ำมหาสนุก สระบุรี ถ้ำกินนร สระบุรี ถ้ำเขาวัง เพชรบุรี ถ้ำจอมพล ราชบุรี ถ้ำเขานกจอด กาญจนบุรี
17.ดิน 7 สระ สระแก้ว สระคา สระยมนา สระเกษ สระหนองหลวง สระลาดสิงห์ สุพรรณบุรี สระโกษิณารายณ์ กาญจนบุรี
18 ดิน7 ท่า ท่าช้างวังหน้า ท่าราชวรดิษฐ์ ท่าเสด็จ ท่ามะกา ท่าม่วง ท่านางเริง ท่าวาสุกรี
19ทราย 7หาด บางแสน พัทยา หัวหิน หาดประจวบ ภูเก็ต เจ้าสำราญ แหลมสิงห์

เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2490 จึงได้นิมนต์พระอาจารย์ 7 รูปมาทำพิธีปลุกเศก และบวงสรวงขณะกดพิมพ์พระ
1.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
2.หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย
3.หลวงพ่อโต๊ะ วัดลาดตาล
4.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
5.หลวงพ่อไสว วัดบ้านกร่าง
6.หลวงพ่อคำ วัดหน่อพุทธางกูร
7.หลวงพ่อเปลื้อง วัดสุวรรณภูมิ
โดยจะพิมพ์พระภายในวิหารวัดบ้านกร่าง และจะเผาพระเครื่องเฉพาะ วันเสาร์ ตามตำราโบราณ
ได้จำนวนพระบ้านกร่างประมาณ 3 แสนกว่าองค์ครับ
จนถึงปี 2492 จึงได้ทำพิธีพุทธาภิเษกก่อนจะนำไปบรรจุกรุเจดีย์เดิม มีพระอาจารย์มาดังนี้
1.หลวงพ่อนำ วัดดอนศาลา พัทลุง
2.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
3.หลวงพ่อเปลื้อง วัดสุวรรณภูมิ
4.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
5.หลวงพ่อแขก วัดหัวเขา
6.หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย
7.หลวงพ่อโต๊ะ วัดลาดตาล
พระขุนแผนปลัดทวีพิมพ์นี้ เรียกอีกอย่างว่า *พิมพ์เสือดำ * เพราะเเจกทหารกองพลเสือดำไปรบ เวียดนาม จนทหารเวียดนามเกรงกลัวในความหนังเหนียว และฮึกเหิมของทหารไทย
ใน สงครามเวียตนาม ผบ.ทหารเวียตนามเหนือได้ส่งใบปลิวนี้เพื่อเป็นคำเตือนต่อทหารเวียตนามเหนือ เองและฝ่ายพันธมิตรคือเวียตกงและเวียตมิน "ถ้าหากปะทะกับกองกำลังไม่ปรากฏฝ่ายให้พวกทหารพึงระลึกไว้ว่า
1.ถ้าปะทะกับศัตรูที่ยิงต่อสู้กับเราแล้วหยุดยิงเป็นระยะๆ และมีปืนใหญ่ยิงสนับสนุนมานั่นคือทหารอเมริกัน
2.ถ้าปะทะกับศัตรูที่ยิงต่อสู้กับเราแล้วหมอบหรือคลานต่ำนั่นคือทหารเวียตนามใต้
3.ถ้าปะทะกับศัตรูที่ยิงต่อสู้กับเราแล้วอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหวนั่นคือทหารลาว

4.ถ้า ปะทะกับศัตรูที่ยิงต่อสู้กับเราแล้วไม่มีปืนใหญ่หรือนกยักษ์(เครื่อง บิน)มาสนับสนุน ไม่รู้จักหยุดยิง ไม่รู้จักหมอบ ไม่รู้จักคลาน ไม่รู้จักถอย เอาแต่วิ่งเข้าใส่ บางรายยิงไม่ตาย บางรายยิงไม่เข้า จงระวังไว้นั่นคือ........ทหารไทย
************************
รับประกันแท้

 

รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

แท้ ไม่ทราบปี ไม่ทราบวัด รับประกันแท้

บูชา 250 บาท

 

250 บาท

 

พระพุทโธน้อย คุณแม่บุญเรือน รุ่นแรก เนื้อดินเผาพิมพ์กลางหน้าเทวดา ปี2496

แต่ก่อนเช่าหาต้องมีหมื่นขึ้น ยุคนี้ไม่ถึงหมื่นก็บูชาได้แล้ว

 

แต่ก่อน สวยๆแชมป์ ต้องมีสองหมื่นอัพ ยุคนี้ 15,000-16,000 ต้องขอบคุณโควิด19

 

เป็นพระเครื่องที่ราคาสวนกระแสโควิด เอามากๆ แต่ก่อน 7,000-10,000 ตอนนี้ 15,000-18,000 ยังไม่ค่อยมีคนออกให้บูชา ผมเห็นคนศรัทธาหลวงปู่ดู่คนนึงสะสมรุ่นนี้ถึง 37 หรือเกือบ40 เหรียญ เป็นเพราะอะไร ???

 

เหรียญหน้าเณร รุ่นแรก วัดคะตึกเชียงมั่น ปี 2514
เป็นเหรียญรุ่นแรกๆ ของหลวงพ่อเกษม จัดสร้าง ปีเดียวกับเหรียญ วัดนางเหลียว

เหรียญคะตึกเชียงมั่น เหรียญนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๔ จัดเป็นวัตถุมงคลอันดับที่ ๒ ของชุดเบญจภาคี
มูลเหตุของการสร้างเหรียญนี้ขึ้นมานั้น เนื่องจากท่านเจ้าคุณวัดเชียงมั่น มาขอให้สร้าง เพื่อหารายได้สร้างโบสถ์วัดคะตึกเชียงมั่น ซึ่งทางกรมการศาสนามีดำริ ให้รวมสองวัดนี้เป็นวัดเดียวกัน (วัดเชียงมั่น และ วัดคะตึก)

เหรียญที่สร้างครั้งแรก แบ่งเป็นสองแบบ คือ แบบแรกจะเป็นเหรียญรูปไข่ ในเหรียญมีรูปหลวงพ่อเกษมในลักษณะครึ่งองค์ เป็นเหรียญทองแดง สร้างจำนวน ๑๐,๐๐๐ เหรียญ

เมื่อรุ่นแรกหมด ปรากฏว่า จำนวนเงินที่ได้มายังไม่เพียงพอแก่การสร้างโบสถ์ ก็เลยจัดสร้างรุ่นสองขึ้น โดยมีรูปหลวงพ่อเกษมนั่งเต็มองค์ การสร้างเพิ่มเติมคราวนี้ ไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน และเหรียญกลมเล็กครึ่งองค์ สร้างแค่เนื้ออัลปาก้า ไม่เท่านั้นไม่มีเนื้อทองแดง

(เหรียญหน้าเณรปี ๒๕๑๔ เนื้อทองแดง จัดให้อยู่ชุด ๑ ใน ๕ เบญจบารมี สายหลวงพ่อเกษม เขมโก อีกด้วยคับผม พุทธคุณไม่ต้องพูดถึงคับ ถ้าจัดอยู่ในชุด "เบญจบารมี" แล้วนั้น สุดยอด.เเน่นอน
เหรียญนี้เลี่ยมสมัยเก่าโบราณๆ

 

ปิดตาสาริกา หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ตัวจริง

เจ้าของเดิม ไม่รู้ แกะออกจากกรอบเดิม ที่เขาเลี่ยมเก่า บูชาแบบเดิม สีเขียวๆ ที่เห็นติดตามองค์พระนั่นคือ สีผึ้งหลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง

ตอนนี้ พระถูกแกะออกจากกรอบเดิม และล้างผิวใหม่ รับประกันแท้ ทุกสนาม ท่านใดสนใจจริงทักมาครับ

บูชา ****" บาท



พระปิดตา สาริกา

สร้างขึ้นเพื่อแจกพร้อมหนังสือ”อภินิหารและพระเครื่อง” แม้แต่ ดร.ทางวิทยาศาสตร์ ยังทึ่งในพุทธคุณ

เมื่อปี ๒๕๑๔ ผมคิดทำหนังสือพระเครื่องขึ้นมา เพราะในปี ๒๕๑๔นั้น ในวงการหนังสือยังไม่มีหนังสือพระเครื่องออกวางขาย ผมจึงคิดจะออกหนังสือพระเครื่องขึ้น และได้เริ่มทำหนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” ออกสู่ตลาด

หนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” ที่ผมเป็นทั้งเจ้าของและบรรณาธิการได้ออกวางจำหน่ายและได้รับการต้อนรับจากผู้อ่านเป็นอย่างดี และก็เป็นทางให้ผมได้มาทำพระเครื่องต่างๆให้ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ซึ่งขณะนั้นท่านเป็นเพียงพระประเภทเสือซุ่ม ดังเงียบอยู่แต่ภายในท้องถิ่นเท่านั้น

เมื่อออกหนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” มาได้หลายฉบับ เลยคิดว่าเมื่อมาพบพระดีและพระเก่งอย่างหลวงปู่ทิมแล้ว ก็ควรจะทำอะไรเป็นของตอบแทนสมนาคุณท่านผู้อ่านที่เสียสละเงินซื้อหนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” ผมจึงทำ เหรียญหลวงพ่อสิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง ขึ้น แจกคู่หนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” เหตุที่ไม่ทำเป็นเหรียญรูปหลวงปู่ทิม เพราะผมเป็นผู้ขอร้องหลวงปู่ทิม และกรรมการวัดละหารไร่ ว่า ตราบใดที่ยังสร้างศาลาภาวนาภิรัตไม่เสร็จจะไม่ยอมให้ใครสร้างรูปหลวงปู่ทิม ผมจึงไม่สร้างเหรียญรูปหลวงปู่ทิมแจกกับหนังสือ เพราะเหรียญนี้เป็นเหรียญที่ทำขึ้นเป็นส่วนตัว และเพื่อประโยชน์ในการขายหนังสือ จึงขอสร้างเป็นเหรียญกลมหลวงพ่อสิม ขึ้น นอกจากหลวงพ่อสิม จะอธิษฐานจิตให้ในงานวันเกิดของท่านเมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๗ แล้วได้นำไปให้หลวงปู่ทิม ปลุกเสกอีกครั้งก่อนจะแจกไปพร้อมหนังสืออภินิหารและพระเครื่อง และเอา โค๊ตตัวนะในเม็ดงา ที่ใช้ตอกพระกริ่งชินบัญชรตอกเหรียญไว้ด้วย

เมื่อปี ๒๕๑๘ ก็สร้างเหรียญพระพุทธโสธรแจกอีกครั้ง และเมื่อจะขึ้นปีใหม่ ๒๕๑๙ ผมก็คิดทำพระเครื่องแจกเป็นของขวัญขึ้นอีกครั้ง เพื่อสมนาคุณท่านผู้อ่าน แต่ครั้งนี้จะทำเป็นรูปพระเครื่อง และคิดว่าควรทำเป็นพระปิดตา หรือภควัมบดีองค์เล็กๆ ขนาดพระปิดตาผงดำห้าเหลี่ยมของกรมหลวงชุมพร ซึ่งหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปลุกเสก และคุณ มานพ คงคาประสิทธิ์ เพื่อนร่วมงานและร่วมทำหนังสือพระเครื่องกับผมก็มีอยู่องค์หนึ่ง ผมจึงให้โรงงานรับทำแบบ โดยถอดแบบจากพระปิดตากรมหลวงชุมพร

ครั้งแรกปั๊มออกมาตรงพระนาภี หรือสะดือ จะบุ๋ม เป็นรูกลมเล็กๆ ปั๊มไปได้จำนวนหนึ่งประมาณ ๑,๐๐๐ -๓,๐๐๐ องค์ จึงมาคิดว่าหากจะเปลี่ยนจากรูกลมเป็นตัว นะแอล ภาษาขอมได้ก็จะดี จะได้เป็นเครื่องหมายกันปลอมไปด้วย ช่างก็บอกทำได้จึงถอดพิมพ์ขึ้นใหม่และแกะตัวนะขอม แทนสะดือบุ๋ม พระปิดตานี้สร้างทั้งหมดประมาณ ๒๐,๐๐๐ องค์เป็นเนื้อทองแดง, มีเนื้อเงิน สะดือนะ (เพราะปั๊มทีหลัง) ประมาณไม่เกิน ๒๐๐ องค์ ส่วนเนื้อทองคำไม่มี มีทั้งแบบหนา และ แบบบาง

เมื่อปั๊มพระปิดตาพิมพ์นี้เสร็จ ได้นำขึ้นไปขอให้หลวงปู่ทิมปลุกเสกให้พร้อมพระปิดตาจัมโบ้ ๒๖ องค์ และปิดตาพิมพ์เล็กที่ทำอีก ๑๖ องค์เพื่อให้ครบ ๓๒ องค์ ตามที่หลวงปู่ทิมบอกว่า ถ้าจะสร้างก็สร้างให้ได้ครบ ๓๒ องค์ เท่าอาการ ๓๒ ของมนุษย์ เมื่อเอาพระปิดตาทั้งหมดไปให้หลวงปู่ทิมปลุกเสกที่วัดละหารไร่ ประมาณต้นเดือน กันยายน ราววันเสาร์ เมื่อไปถึงหลวงปู่ทิมกำลังป่วยและอ่อนเพลีย ต้องนอนให้น้ำเกลืออยู่ที่วัด ผมหยิบตัวอย่างพระทั้งหมดออกให้ท่านดู หลวงปู่ทิมท่านบอก “เอาได้” ซึ่งเป็นภาษาระยอง หมายถึงใช้ได้ สำหรับพระปิดตาพิมพ์เล็กเนื้อทองแดง ซึ่งมีทั้งแบบหนาและแบบบาง ท่านหยิบขึ้นมาดูและเรียกว่า ปิดตาสาริกา ท่านบอกว่า ถ้าจะขอร้องอะไรกับใครๆ ให้อมไว้ใต้ลิ้น แล้วขออะไรใครก็ได้ เขาจะใจอ่อน และท่านให้เอาพระปิดตาทั้งหมดเข้าไปเก็บไว้ในกุฏิ ทั้งยังสั่งให้ผมนำพระเครื่องของผมทั้งหมดที่ฝากให้ท่านปลุกเสกกลับไปด้วยในวันนั้น ผมบอกจะมาเอาวันหลังก็ได้ ท่านก็ย้ำให้เอากลับไปวันนั้นเลย หลวงปู่ท่านก็ใช้ให้ คุณ สาย แก้วสว่าง ไปยกมาใส่รถผม มีพระแก้วมรกต เป็นพระบูชาขนาดใหญ่และพระพุทธรูปปางนาคปรก ของคุณ วรเทพ อุดมรัตนศิลป์ ซึ่งวันนั้นไม่ได้ไปที่วัดละหารไร่กับผม นอกจากนั้นก็มีหีบใส่พระเครื่องของผมและผงต่างๆ อีกหลายขวด เหมือนหลวงปู่ทิมท่านรู้ล่วงหน้าว่าท่านจะไปแล้ว ผมเอาพระปิดตาสาริกาไปฝากท่านเสกราววันเสาร์ ต่อมาอีก๒-๓วัน ราววันอังคาร คุณ เพียรวิทย์ จารุสถิติ ได้โทรมาบอกผมว่าหลวงปู่ทิมป่วยมาก ได้นำเข้ารักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จศรีราชา และให้ผมไปด่วน

พระปิดตาสาริกาตลอดจนพระปิดตาจัมโบ้ชุด ๒๖ องค์จึงอยู่ในกุฏิหลวงปู่ทิมเพียง ๒-๓ คืน และในเวลานั้นก็คิดว่าหลวงปู่ทิม คงยังไม่ปลุกเสกให้เพราะท่านกำลังป่วยอยู่ ท่านรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราวเดือนหนึ่ง พอกลับมาถึงวัดละหารไร่ได้เพียงวันสองวัน ท่านก็จากพวกเราไป ( ระหว่างอยู่โรงพยาบาล หลวงปู่ท่านบอกทำให้หมดแล้ว “ กายป่วย ใจไม่ป่วย”)

เมื่องานทำบุญ ๑๐๐ วัน ในวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๑๙ ซึ่งจะมีพุทธาภิเษกรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริง, พระผงกลมจันทร์ลอย ผมได้นำเอาพระปิดตาทั้งหมดห่อผ้าขาววางไว้บนมือที่รูปหล่อท่านด้วย เมื่อเพื่อนร่วมงานถามว่าอะไร ผมก็เปิดให้ดูและบอกว่าไม่ทันปลุกเสก เพราะครั้งนั้นยังอายุไม่มากคิดว่า เมื่อหลวงปู่ทิม กำลังป่วยท่านคงไม่ปลุกเสกให้ มารู้ภายหลังว่าหลวงปู่ทิมท่านเจริญพุทธมนต์ทำวัตรทุกวัน ไม่ว่าจะเจ็บหรือป่วย ของที่อยู่ในกุฏิท่านๆก็ปลุกเสกให้แล้ว เหมือนประโยคที่ท่านบอกที่โรงพยาบาลว่า “กายป่วย จิตไม่ป่วย”

เมื่อนำพระปิดตาสาริกา มาแจกพร้อมหนังสือ “อภินิหารและพระเครื่อง” ไปได้ไม่กี่วัน คุณ สุรพล วสุธารนันท์ สายส่งหนังสือก็มาเล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนวานซืนมีการจี้ปล้นกันขึ้นที่หน้าร้านขายหนังสือ ปากตรอกวัดแค สามเสน คนร้ายใช้ปืนจี้ลูกค้าที่มายืนซื้อหนังสือเพราะในตัวลูกค้าใส่ทองหลายเส้น หมวยลูกสาวเจ้าของร้านขจายหนังสือก้ยืนอยู่ในหมู่คนที่ถูกจี้ด้วย และตัวหมวยลูกสาวเจ้าของร้านก็ใส่เพราทองมากกว่าใครๆมีมูลค่าหลายหมื่น และแขวนพระปิดตาสาริกาเลี่ยมทองไว้ที่คอด้วย เป็นพระที่คุณสุรพลให้ไว้โดยที่สาวหมวยก็ยังไม่รู้ว่าเป็นพระของหลวงพ่อองค์ใด แต่ก็เอาเป็นที่พึ่งในยามคับขัน นึกในใจว่าหลวงพ่อช่วยด้วย คนร้ายก็ไม่ได้สนใจหมวยลูกสาวเจ้าของร้าน จึ้เอาแต่ลูกค้าในร้านไปเป็นเงินประมาณ ๓,๘๐๐ บาท เมื่อคุณสุรพล ไปส่งหนังสืออาหมวยจึงถามคุณสุรพลสายส่งว่า “อาแป๊ะ หลวงพ่อที่ลือให้อั๊วชื่ออะไรว่ะ เก่งจัง” เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ ๒๐กว่าปีมาแล้ว

อีกรายที่เขียนไว้ในหนังสือพลังเหนือโลกที่ผมเป็นบรรณาธิการว่า ดร.อานนท์ อาจารย์ด้านรังสีวิทยาคณะแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี เล่าให้ผู้ช่วยสมุห์บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ร.พ.รามาธิบดี ฟังว่าเพื่อนข้างบ้านมีเด็กเล็กๆซึ่งเพิ่งจะคลานได้ แม่ของเด็กน้อยเทน้ำร้อนจากกาต้มน้ำซึ่งกำลังเดือดใหม่ๆ ใส่ไว้ในอ่างเพื่อเตรียมอาบให้ลูก ขณะที่แม่กำลังจะตักน้ำเย็นมาเติม ลูกก็คลานเตาะแตะลงไปในอ่างน้ำร้อนแล้วร้องลั่น คุณแม่ตกใจแทบสิ้นสติ เพราะรู้ดีว่าน้ำในอ่างร้อนจัด แต่แปลกที่แม่หนูน้อยไม่เป็นอะไรเลย แม้แต่ถลอกหรือพุพองก็ไม่มี เพียงแต่ร้องลั่นอย่างเดียว ในคอหนูน้อยมีเพียง ปิดตาสาริกาของหลวงปู่ทิม อิสริโก อยู่องค์เดียว ดร.อานนท์ซึ่งถูกตามให้ไปช่วยและเป็นผู้เปิดเผยเรื่องนี้เห็นแล้วยังงง!!! เป็นไปได้อย่างไร เหลือเชื่อจริงๆ

คุณโป้ง เรืองจิตจรัส ลูกชายคนโตของ คุณ ประเสริฐชัย เรืองจิตจรัส ซึ่งรู้จักกับผมและเคยไปหาหลวงปู่ทิมกับผมตั้งแต่ปี ๒๕๑๗ เล่าว่า เคยถูกหมาฝรั่งตัวใหญ่กัด แต่ไม่เข้า ถึงกระนั้นก็จับไข้ไปถึง ๒ วัน ในคอมีเพียงพระปิดตาสาริกาองค์เดียว

ผู้พิสมัยและเชื่อมั่นในการตรวจพุทธคุณหรือตรวจพลังจิต เอาไปให้เพื่อนตรวจด้วยมโนมยิทธิ ปรากฏว่าแรงมาก แรงเท่าพระปิดตาจัมโบ้ของหลวงปู่ทิม ที่เช่าบูชามาในราคาเกือบแสนบาท และใช้ห้อยคออยู่

เรื่องในทำนองนี้ยังมีอีกมาก อันเป็นเครื่องยืนยันถึงพุทธคุณในพระองค์จิ๋ว แต่แจ๋ว เช่น ปิดตาสาริกา ของหลวงปู่ทิม ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไหน แบบหนา หรือแบบบาง ก็ล้วนมีอานุภาพไม่ต่างกันเพราะเสกพร้อมกันหมด

 

เสือหลวงพ่อปาน วน1 ปี 2517

ออก วัดเจริญวราราม (วัดน้อย)ต. คลองด่าน ( หลวงพ่อคง วัดวังสรรรส , หลวงพ่อเนื่อง , หลวงพ่อหอม , หลวงพ่อสุด,หลวงพ่อชื่น) ปลุกเสก เนื้อตะกั่วชุบทองแดง หายาก ครับ
พิธีใหญ่( หลวงพ่อคง , หลวงพ่อเนื่อง , หลวงพ่อหอม , หลวงพ่อสุด ฯลฯ ) ร่วมปลุกเสก สภาพสวย หายาก ครับ
ใช้แทน เสือ ปี 17 วัดคลองด่านได้ ครับ ( เสือ ปี 17 วัดคลองด่าน คนพื้นที่เล่น ราคากันแรง 4,000-8,000

 

สมเด็จพุฒจารย์โต ปี 2495 เนื้อสัมฤทธิ์ อุดกริ่ง กริ่งดัง

รูปหล่อ อุดกริ่ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ชาวไทยให้ความเคารพนับถือท่านเป็นอมตะเถราจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษรูปหนึ่งของเมืองไทย และมีผู้นับถือจำนวนมากในปัจจุบัน “พระสมเด็จ” ที่ท่านได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา ได้ถูกจัดเข้าในพระเครื่องเบญจภาคี หรือสุดยอดของพระเครื่องวัตถุมงคล ๑ ใน ๕ ของสยามประเทศ ทั้งยังมีราคาซื้อขายในปัจจุบันต่อองค์เป็นราคาหลักล้านบาท

ในภาพเป็นรูปหล่อสมเด็จโต ในท่าบริกรรมที่คุ้นตา ก้นอุดกริ่งหลวงปู่นาค แห่งวัดระฆัง ท่านได้จัดสร้างขึ้น สันนิษฐานว่าสร้างในปี พ.ศ.๒๔๙๕ –๒๕๐๐ ในช่วงเวลาดังกล่าวเกิดสงครามโลกขึ้น หลวงปู่นาคท่านได้สร้างพระทั้งเป็นแบบผง, รูปหล่อ, เหรียญ และนิมนต์เกจิอาจารย์ร่วมยุคมาร่วมปลุกเสกเช่น หลวงพ่อจาด,หลวงพ่อจง,หลวงพ่อคง,หลวงพ่ออี๋ และอีกหลากหลายคณาจารย์ ซึ่งสัตถุมงคลเหล่านั้นต่างก็ได้รับความนิยมจากประชาชนเพราะได้ก่ออภินิหารคงกระพันชาตรี มีพลังทางเมตตามหานิยม ด้วยหลวงปู่นาคท่านมีฌานวิปัสสนาแก่กล้า จนมีเรื่องเล่าโดยพระราชพรหมญาณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เมื่อครั้งหนึ่ง ที่วัดชิโนรสาราม ธนบุรี มีการทำพิธีพุทธาภิเศกพระ ความตอนหนึ่งว่า “...สำหรับกระแสจิตหลวงพ่อนาคนี่พุ่งออกมาใหญ่เหลือเกิน คลุมเครื่องรางของขลังทั้งหมด เรียกว่าแสงสว่างของจิตแทรกลงไปในเครื่องของขลังอยู่ที่ด้านหน้า ยันข้างล่างสุด เรียกว่าคลุมหมด อาบลงไปหมดเลย โพลงสว่างชัด” นี่คืออานุภาพของกระแสจิตหลวงปู่นาคที่ท่านได้แผ่ลงไปในวัตถุมงคลก็คงพอการรันตีได้ในความเข้มขลังพระรูปหล่ออุดกริ่งแบบนี้ หาแท้ๆ ถึงยุคได้ยากเพราะมีการสร้างเลียนแบบออกมาขายกันมากมายมหาสาร เพราะสมัยก่อนนั้น หลวงปู่นาคท่านดังมาก ประกอบกับการสร้างเป็นรูปเหมือนสมเด็จโต และผ่านการปลุกเสกจากเกจิอาจารย์แห่งยุค พระเกิดชัดเจน ประสบการณ์ปากต่อปาก จึงทำให้ผู้คนต่างแสวงหามาตึดตัว ของแท้ หน้าตาท่านต้องน่าเกรงขาม,เนื้อโลหะเก่าถึงยุค ของเก๊ หน้าตาผิดเพี้ยน โลหะออกใหม่ๆส่วนมากจะใช้ทองเหลืองหรือทองแดงสร้าง

 

เหรียญหน้าเณร รุ่นแรก วัดคะตึกเชียงมั่น ปี 2514
เป็นเหรียญรุ่นแรกๆ ของหลวงพ่อเกษม จัดสร้าง ปีเดียวกับเหรียญ วัดนางเหลียว

เหรียญคะตึกเชียงมั่น เหรียญนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๔ จัดเป็นวัตถุมงคลอันดับที่ ๒ ของชุดเบญจภาคี
มูลเหตุของการสร้างเหรียญนี้ขึ้นมานั้น เนื่องจากท่านเจ้าคุณวัดเชียงมั่น มาขอให้สร้าง เพื่อหารายได้สร้างโบสถ์วัดคะตึกเชียงมั่น ซึ่งทางกรมการศาสนามีดำริ ให้รวมสองวัดนี้เป็นวัดเดียวกัน (วัดเชียงมั่น และ วัดคะตึก)

เหรียญที่สร้างครั้งแรก แบ่งเป็นสองแบบ คือ แบบแรกจะเป็นเหรียญรูปไข่ ในเหรียญมีรูปหลวงพ่อเกษมในลักษณะครึ่งองค์ เป็นเหรียญทองแดง สร้างจำนวน ๑๐,๐๐๐ เหรียญ

เมื่อรุ่นแรกหมด ปรากฏว่า จำนวนเงินที่ได้มายังไม่เพียงพอแก่การสร้างโบสถ์ ก็เลยจัดสร้างรุ่นสองขึ้น โดยมีรูปหลวงพ่อเกษมนั่งเต็มองค์ การสร้างเพิ่มเติมคราวนี้ ไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน และเหรียญกลมเล็กครึ่งองค์ สร้างแค่เนื้ออัลปาก้า ไม่เท่านั้นไม่มีเนื้อทองแดง

(เหรียญหน้าเณรปี ๒๕๑๔ เนื้อทองแดง จัดให้อยู่ชุด ๑ ใน ๕ เบญจบารมี สายหลวงพ่อเกษม เขมโก อีกด้วยคับผม พุทธคุณไม่ต้องพูดถึงคับ ถ้าจัดอยู่ในชุด "เบญจบารมี" แล้วนั้น สุดยอด.เเน่นอน

 

พระปิดตา รุ่นแรกหลวงปู่บุญตา วัดคลองเกตุ จ. ลพบุรี

รุ่นแรกหลวงปู่บุญตา วัดคลองเกตุ ลพบุรี

ฝังตะกรุดเงิน+ ติดเกษา ปลุกเสก1ไตรมาส(3เดือน) และวันเกิดสุริยุปราคา 24 ต.ค. 2538 สร้าง 40,000 องค์พระหลักร้อย พุทธหลักล้าน พระไม่แพง แต่หาไม่ง่าย