มีเรื่องจะถามถึงการไปนิพพานครับฦ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย tunotun, 27 กันยายน 2010.

  1. รัก_D

    รัก_D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +1,096
    เขาก็ไปตามกรรมเก่าเขา..<br>เพราะว่าไม่ใช่เพิ่งเกิดชาติแรก.อาจจะทำกรรมมาเยอะ เลยทำให้ส่งผล ออกมาดูโลกได้เพียงชั่วคราว หรือ อาจจะไม่ได้ลืมตาดูโลกเลยก็ได้ อย่างเช่น คนที่เคยทำแท้ง ในการเกิดบางคราวอาจจะเป็นคนที่โดนทำแท้งเอง อันนี้เป็นกฏแห่งกรรม<br>
    ถ้ากลัวในกรรมต่างๆ เรื่องบาปเก่าๆ เราอย่าไปนึกถึงมัน เราตั้งใจว่า ต่อแต่นี้ไปจะทำแต่ความดี ถือศีลให้หนัก แค่ ศีล๕ก็พอแล้วถ้าทำได้จริงๆ อย่างน้อย ก็การันตีได้ว่าไม่ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ถือเข้าให้หนักเลยศีล๕ ถ้าทำได้อีกก็ถือศีล๘
    <br>ถ้าจะมีกรรมเก่าไล่ตามทันมาส่งผลก็ให้นึกเสีย โดนกำเก่าไล่เล่นงานแล้ว ไม่ต้องไป สเดาะเคราะห์แต่อย่างใด เคยไหมไปฆ่าเขา แล้ว เข้าพิธีสเดาะห์เคราะแล้ว เขายกโทษให้ กรรมต้องชดใช้อย่างมากก็ขอแค่ผลัดเขาไปก่อนยังไม่อยากใช้หนีตอนนี้ แต่ยังไงเราก็ต้องใช้เขาอยู่ดี<br>
    เราก็วางเฉยในผลที่เกิดขึ้นก้มหน้าก้มตายอมรับผิด เพราะไปยืมเขามานี่ แต่ก็มีการแก้ไขจริงๆคือการ กรรมฐานจะได้่ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา เหมือนเราไปทำทุนกำไรจากทางอื่นมา เพื่อมาผ่อนเขา แต่ก็ยังรับผลกรรมอยู่ไม่มากก็น้อย <br>ถ้าอยากพ้นกรรมเลยก็ต้อง กรรมฐาน+วิปัสนา เพื่อตัดกิเลส พ้นจากโลกนี้ เข้าสู่โลกุตร คือจากพระโสดาบันขึ้นไปจะเข้าสู่กระแสพระนิพาน ถ้าถึงจริง กรรมมันจะส่งผลให้ไม่ถึง กรรมไล่ไม่ทันเพราะความดีมันเกิน แต่มันก็ไม่ล้านเปอร์เซ็นนะ เพราะพระอริยะหลายท่านก็ยังประสบอุบัิติเหตุได้ บางคราวถึงแก่มรณะภาพก็มี อันนี้ก็กรรมเก่าส่งผล และท่านก็อาจจะอยากพ้นๆไปก็ได้ ท่านก็เบื่อโลกมนุษย์เต็มที อันนี้ไม่รู้ใจท่าน..
     
  2. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    แล้วอย่างเด็กเกิดใหม่เขาก็ ไม่ติดในกาม ไม่โกรธ ไม่โลภ วางทุกอย่าง ด้วยหรือเปล่าครับ ?
     
  3. primrose

    primrose เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +527

    ไม่ใช่ค่ะ ...

    กิเลส (โลภะ โทสะ โมหะ) มีอยู่ในทุกดวงจิต .... เรียกว่า อนุสัยกิเลส เมื่อมีเหตุปัจจัยพร้อม ก็จะแสดงตัวออกมา แต่พระอริยะนั้น จะมีสติ รู้ ทำให้ไม่เผลอออกมาทางกาย วาจา ใจ .... ผู้ที่ละกาม และกิเลสตัวอื่น ๆ ได้ขาดสิ้นคือ พระอนาคามี ..

    ผู้ไม่ติดในกาม ละกิเลส และปล่อยวางความยึดถือได้นั้น คือ ผู้ที่ฝึกฝนจิต ด้วยสมถะสมาธิ และวิปัสสนาสมาธิ จนเกิดปัญญาเห็นความเป็นจริงที่เป็นปรมัตถ์ เห็นการเกิดดับของสภาวะ เห็นว่า สุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ เสมอกัน จนเกิดความเบื่อหน่ายถึงความไม่มีตัวตนเราเขา ของเรา ของเขา จนเห็นว่าโลกนี้ว่างเปล่า ไม่มีอะไรที่เป็นของแท้ เข้าใจอริยสัจ 4 จิตจะปล่อยวาง คลายกำหนัดไปเอง ....เมื่อนั้นจะเข้าสู่ อริยมรรคเป็นลำดับขั้นไป ในแต่ละขั้นจะละได้ทีละอย่าง สองอย่าง ....
     
  4. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    ปัญหาที่ ๓ ถามถึงการสำเร็จธรรมของบุคคล

    " ข้าแต่พระนาคเสน พวกที่ปฏิบัติชอบได้ธรรมาภิสมัยเหมือนกันทั้งนั้นหรือ? "

    " ขอถวายพระพร บางพวกก็ได้ บางพวกก็ไม่ได้ "

    " ใครได้ ใครไม่ได้ พระผู้เป็นเจ้า ? "

    " ขอถวายพระพร พวกที่ไม่ได้นั้น มีอยู่หลายจำพวกด้วยกัน คือ

    เดรัจฉาน ๑


    เปรต ๑

    มิจฉาทิฏฐิ ๑


    ผู้ลวงโลก ๑

    ผู้ฆ่ามารดา ๑


    ผู้ฆ่าบิดา ๑

    ผู้ฆ่าพระอรหันต์ ๑


    ผู้ทำสังฆเภท ๑ ( ทำสงฆ์ให้แตกกัน )

    ผู้ทำโลหิตุปบาท ๑ ( ทำพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต )

    ผู้เป็นไถยสังวาส ๑


    ผู้ไปเข้ารีตเดียรถีย์ ๑

    ผู้ประทุษร้ายนางภิกษุณี ๑


    ผู้มีอาบัติสังฆาทิเสสติดตัว ๑

    บัณเฑาะก์ ๑ (กระเทย)


    อุภโตพยัญชนก ๑ ( คนสองเพศ )

    เด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบ ๑




    พวกเหล่านี้ถึงปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ธรรมาภิสมัย"

    พระเจ้ามิลินท์ตรัสแย้งว่า

    " ข้าแต่พระนาคเสน บุคคล ๑๕ จำพวกเบื้องต้น เป็นพวกทำผิด จะได้ธรรมาภิสมัยหรือไม่ก็ช่างเถอะ แต่จำพวกที่ ๑๖ คือเด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบนี้แหละเป็นปัญหา เพราะเด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบ ยังไม่มีราคะ โทสะ โมหะ มานะ มิจฉาทิฏฐิ อรติกามวิตกอย่างใดอย่างหนึ่ง ธรรมดาผู้ที่ห่างไกลจากิเลส สมควรจะรู้แจ้งแทงตลอดซึ่งอริยสัจ ๔ ไม่ใช่หรือ ? "

    พระนาคเสนอธิบายว่า

    " ขอถวายพระพร ข้อนี้ขอจงทรงฟังเหตุผล คือถ้าเด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบ รู้จักเกิดราคะ โทสะ โมหะ รู้จักมัวเมาในสิ่งที่ควรมัวเมา รู้จักยินดี ไม่ยินดี รู้จักนึกถึงกุศลอกุศล ก็จักมีธรรมาภิสมัยได้ แต่เด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบนั้น จิตมีกำลังน้อย ส่วนพระนิพพานเป็นของใหญ่ ของหนัก จึงไม่อาจรู้แจ้งแทงตลอดนิพพานได้ เปรียบเหมือนบุรุษมีกำลังน้อย ไม่อาจยกภูเขาสิเนรุราชได้ฉันนั้น หรือเปรียบเหมือนหยาดน้ำอันเล็กน้อย ไม่อาจซึมไปทั่วแผ่นดินใหญ่ได้ หรือเปรียบเหมือนเปลวไฟเล็กน้อยไม่อาจทำให้สว่างทั่วโลกได้ หรือเปรียบเหมือนตัวหนอนไม่อาจกลืนช้างได้ฉะนั้น "

    " ข้าแต่พระนาคเสน ตามที่พระผู้เป็นเจ้าแก้มานี้ โยมเข้าใจดีแล้ว"
     

แชร์หน้านี้

Loading...