รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 28 กันยายน 2006.

  1. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    เครก เวนเทอร์ นี่ น่ากลัวจริงจริงครับ
    เหมือนหาคำตอบให้กับปัญหา
    แทนที่จะขจัดการเกิดของปัญหาให้หายไป
    การไปยุ่งกับธรรมชาติมากมาก
    นำวิทยาศาสตร์ มาเป็นพระเจ้า
    ถ้าจุลินทรีย์กลายพันธ์มา (ซึ่งมีโอกาศ เป็นไปได้)
    จะเกิดอะไรขึ้นมาครับ ซึ่งคำตอบนี้อาจเหนือการคาดคิด
    ของพวกเราก็ได้
     
  2. -:=ดรณ์=:-

    -:=ดรณ์=:- สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +0
    จุลินทรีย์มีโอกาสกลายพันธุ์ได้ และหากมันเพิ่มประชากรได้มากจนทำลายจุลินทรีย์สายพันธุ์อื่นจนหมดสิ้น (ตามหลักวิชาการถ้าจุลินทรีย์สายพันธุ์ใดมีประชากรมากกว่าจะเข้าแย่ง ทำลาย กิน ประชากรของสายพันธุ์อื่น และจะขยายตัวอย่างรวดเร็วเพื่อดำรงพันธุ์ของตัวเอง--อย่างเช่นโรคของพืชก็เกิดจากเชื้อรา หรือแบคทีเรีย ที่เพิ่มจำนวนประชากรอย่างรวดเร็วจนสายพันธุ์เจ้าที่ หรือในพื้นที่ที่ไม่ทำลายและมีประโยชน์ต่อพือ มีไม่มากพอที่จะควบคุมสายพันธุ์ร้ายได้ คือไม่สมดุลกัน ทำให้มันทำลายพืชจนแสดงอาการโรคขึ้นมา) แล้วต้นไม้จะใช้อะไรในการเจริญเติบโต เพราะต้นไม้ใช้(ดูด)คาร์บอนไดออกไซด์ในตอนกลางวันรวมกับแสงแดดปรุงเป็นอาหารสำหรับตัวพืชเอง และให้ออกซิเจนออกมาให้สัตว์โลกได้มีอากาศที่ดีในการดำรงชีวิต
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แพไม้ไผ่

    [​IMG]

    วิธีการทำแพไม้ไผ่

    เริ่มจากตัดไม้ไผ่ขนาดพอเหมาะ ยาวพอประมาณขนาดเท่า ๆ กัน เมื่อได้ไม้ไผ่ตามที่ต้องการแล้ว ก็ตัดด้านปลายให้เท่ากันประมาณ 1 คืบ ขึ้นด้านบนข้อไม้ไผ่ แล้วนำไม้ไผ่ลอยน้ำ ถ้าไม้ไผ่ลอยน้ำขึ้นด้านไหนให้เจาะรูด้านนั้นและเจาะรูอีกด้านของไม้ไผ่ที่อยู่ตรงข้ามกัน ทำแบบนี้จนครบที่จะทำแพ 1 ลำ โดยแพ 1 ลำ ใช้ไม้ไผ่ 9 ลำ โดยสามารถบรรทุกสัมภาระและสามารถนั่งได้ 3
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    สารานุกรมความรู้นี้ดีนัก


    กระนั้น การจะบอกกล่าวแก่ผู้ที่ยังไม่มีความเชื่อ และยังคงมิได้เตรียมตัวเตรียมใจ คือ


    ต้องค่อยๆ สอดแทรก ผ่านสื่อประการต่างๆ
     
  5. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,632
    เคยเห็นว่า ตอนนี้มีการต่อแพจาก ท่อพีวีซี แต่ไม่ทราบขนาดและวิธีการทำ
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อ้างอิง ข้อความดั้งเดิมของคุณคุณานันท์

    อาหารและยาที่ต้องเตรียมเอาไว้ในช่วงเกิดภัยพิบัติ

    3.5 วิตามินรวม วิตามินซี ซึ่งจะจำเป็นมาก เพราะการขาดสารอาหาร และขาดวิตามินซีจาก ผักผลไม้สด

    เรื่องของวิตามินที่ควรรู้

    เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่า มีสารบางอย่างในอาหารที่สามารถป้องกันการเกิดโรคบางชนิดได้ เช่น ส้มป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน ข้าวซ้อมมือป้องกันโรคเหน็บชา ทำให้นักวิทยาศาสตร์สนใจและค้นหา ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ไ้ด้มีนักชีวเคมีชาวอังกฤษชื่อ คาซิเมอร์ ฟังค์ สามารถแยกเอาผลึกสารชนิดหนึ่งออกมาจากรำข้าวซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชาในนกพิราบได้และให้ชื่อว่า วิตามีน(vitamine) ตามโครงสร้างทางเคมีและบ่งชี้ว่าสารจำพวกวิตามีนเป็นสารจำเป็นต่อชีวิต แต่ต่อมานักวิจัยรุ่นหลังพบว่า นอกจากสารกลุ่มอามีนแล้ว ยังมีสารกลุ่มอื่นอีกที่จำเป็นต่อชีวิตเช่นกันจึงได้ตัดตัวอักษร E ท้ายคำว่า วิตามีน(Vitamine) เหลือเพียงวิตามิน (Vitamin) เพื่อไม่ให้มีความหมายเจาะจงที่กลุ่มอามีน
    <TABLE cellSpacing=15 width="100%"><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ความสำคัญ

    วิตามินเป็นสารอินทรีย์ที่สิ่งมีชีวิตจำเป็นต้องได้รับในบริมาณเล็กน้อย สำหรับการเติบโต ขยายพันธุ์ และช่วยให้ให้มีสุขภาพดี ถ้าสิ่งมีชีวิตขาดวิตามินตัวใดตัวหนึ่งจะมีอาการป่วยซึ่งมีลักษณะเฉพาะขึ้นกับวิตามินที่ขาด วิตามินส่วนมากทำหน้าที่เป็นปัจจัยร่วม ช่วยให้เกิดปฏิกริยาเคมีโดยที่ตัวเองไม่ได้เป็นตัวการในปฏิกริยานั้น เช่น วิตามินบี 1 เป็นปัจจัยร่วมของกระบวนการปฏิกริยาเคมีเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตในร่างกาย กรดโฟลิก ทำหน้าที่เป็นปัจจัยร่วมในปฏิกริยาเคมีพื้นฐานที่ทำให้เซลล์ภายในร่างกายแบ่งตัวได้ การแบ่งตัวของเซลล์เป็นสิ่งจำเป็น ทำให้เกิดเซลล์ใหม่ๆ เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ และทำให้แผลสมานโดยการเกิดเซลล์ใหม่แทนเซลล์ที่ตายไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ประเภทของวิตามิน

    โดยพื้นฐานแล้ว วิตามินแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ

    วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่วิตามินบี1(ไทอามิน) วิตามินบี2(ไรโบปลาวิน) วิตามินบี3(ไนอะซินหรือกรดนิโคทินิก) วิตามินบี5(กรดแพนโทเทนิก) วิตามินบี6(ไพริดอกซิน) วิตามินบี12(ซัยอะโนโคบาลามิน) วิตามินซี(กรดแอสคอร์บิก) ไบโอทิน และกรดโฟลิก วิตามินเหล่านี้สามารถดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยกรดน้ำดีหรือสารพิเศษใดช่วยในกระบวนการดูดซึม วิตามินชนิดนี้จะไม่เก็บกักไว้ในร่างกาย วิตามินส่วนเกินจะถูกขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะ

    วิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค วิตามินเหล่านี้มีสภาพเป็นน้ำมัน ต้องการกรดน้ำดีคลุกเคล้าเข้ากันได้กับน้ำแล้วจึงดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ เมื่อร่างกายดูดซึมเข้าไปแล้วจะนำไปเก็บไว้ในคลังไขมันในร่างกาย เมื่อต้องการใช้ก็จะมีโปรตีนพาหะนำเอาวิตามินที่ต้องการออกจากคลังไปสู่ที่ที่ร่างกายต้องการใช้

    <TABLE cellSpacing=15 width="100%" bgColor=#f0f0f0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>วิตามินเอ</TD><TD vAlign=center align=middle>วิตามินบี 1</TD><TD vAlign=center align=middle>วิตามินบี 2</TD><TD vAlign=center align=middle>วิตามินบี 3</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle>วิตามินบี 5</TD><TD vAlign=center align=middle>วิตามินบี 6</TD><TD vAlign=center align=middle>วิตามินบี 12</TD><TD vAlign=center align=middle>วิตามินซี</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle>วิตามินดี</TD><TD vAlign=center align=middle>วิตามินอี</TD><TD vAlign=center align=middle>วิตามินเค</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ที่มา http://www.bpl.co.th/knowledge_vitaminmain.html
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">สัตว์รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหว </TD><TD class=buttonheading align=right width="100%"> </TD><TD class=buttonheading align=right width="100%"> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=createdate vAlign=top colSpan=2>Wednesday, 06 June 2007 </TD></TR><TR><TD vAlign=top colSpan=2>[​IMG] จากการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวพบว่า หากสัตว์ป่ามีพฤติกรรมผิดไปจากปกติ มักจะเกี่ยวข้องกับการเกิดภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ทั้งนี้เพราะสัตว์มีความสามารถรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหว เป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งในการเอาชีวิตรอด

    พฤติกรรมผิดปกติของนก

    นกมีความรู้สึกต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะนกพิราบป่าจะไวเป็นพิเศษ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวในประเทศจีนพบว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหวแรงสั่นสะเทือน 3 ริกเตอร์ขึ้นไป ฝูงนกพิราบป่าที่อยู่ภายในรัศมี 50 กม. จากศูนย์กลางแผ่นดินไหวจะรู้ล่วงหน้า และบินหนีไปภายใน 24 ชั่วโมง นอกจากนี้กาและนกเลี้ยงบางชนิด เช่น นกแก้ว ก็มีความรู้สึกไวต่อการเกิดแผ่นดินไหวเช่นกัน
    <TABLE width="80%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    ฝูงนกพิราบหรือกาจะบินหนีไปทันที ​
    </TD><TD>
    นกในกรงก็แตกตื่นจะหนีออกจากกรง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>พฤติกรรมผิดปกติของปลา

    ปลาน้ำเค็ม

    เมื่อ ค.ศ.1995 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ ชาวประมงจับปลาได้มากกว่าปกติ และมีปลาจากทะเลลึกว่ายเข้ามาในเขตน้ำตื้นด้วย
    <TABLE width="80%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    พบปลาแปลกๆ หรือปลาน้ำจืดในเขตน้ำตื้น ​
    </TD><TD>
    ก่อนเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณใกล้เคียงจะจับปลาได้มากกว่าเดิม 2-10 เท่า
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ปลาน้ำจืด

    ปลาน้ำจืดในแม่น้ำหรือทะเลสาบที่มีความรู้สึกไวต่อการเกิดแผ่นดินไหวคือปลาคาร์ป ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เคยมีคนเห็นปลาคาร์ปจำนวนมากกระโดดขึ้นมาบนผิวน้ำเหมือนตกใจหนีอะไรบางอย่าง
    <TABLE width="80%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    ปลาคาร์ปกระโดดขึ้นมาเหนือผิวน้ำ หรือมีท่าทางลุกลน ​
    </TD><TD>
    ถ้าปลาดุกมีท่าทางตื่นตระหนก แสดงว่าอาจจะเกิดแผ่นดินไหว
    </TD></TR></TBODY></TABLE>พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์เลื้อยคลาน
    ผลการวิจัยพบว่า สัตว์ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหวก่อนใครคืองู ทั้งนี้เพราะงูจำศีลอยู่ในโพรงดิน (งูในประเทศเขตหนาว) จึงรู้สึกถึงความผิดปกติได้ง่ายเมื่อมีการสั่นสะเทือนของเปลือกโลก มีก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ มีการเปลี่ยนแปลงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ฯลฯ และจะหลับภัยด้วยการเลื้อยขึ้นมาบนดินแม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวก็ตาม
    ตัวอย่างเช่นเมื่อ ค.ศ. 1855 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นหนึ่งวัน พบฝูงงูเลื้อยขึ้นมาแข็งตายบนดิน เมื่อ ค.ศ. 1976 หนึ่งวันก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองถังซานในประเทศจีน ก็มีฝูงงูจำนวนมากเข้าไปหลบอยู่ในซอกหิน
    <TABLE width="80%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ

    กบก็แสดงพฤติกรรมผิดปกติเช่นเดียวกับงู เมื่อ ค.ศ. 1976 ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่เมืองถังซานในประเทศจีน มีคนเห็นกบนับพันนับหมื่นตัวพากันอพยพ
    <TABLE width="80%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

    สุนัข

    ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ มีรายงานว่าสุนัขจะแสดงพฤติกรรมแปลกๆ มากที่สุด สุนัขเป็นสัตว์ใกล้ชิดกับคน จึงสังเกตความผิดปกติของสุนัขได้ง่าย และพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหว สุนัขจะมีอาการตื่นตระหนก วิ่งไปวิ่งมา บางตัวก้าวร้าวขึ้น ส่วนบางตัวก็เห่าและหอน
    แมว
    ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แมวส่วนใหญ่จะหาที่หลบ ญี่ปุ่นมีคำโบราณกล่าวไว้ว่า "ก่อนแผ่นดินไหว แมวจะปีนขึ้นต้นไม้สูง" และมีคนเห็นเช่นนี้จริงๆ ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แมวบางตัวแสดงอาการงุ่นง่าน วิ่งไปมา และส่งเสียงร้องอย่างกระวนกระวาย
    หนู
    เมื่อ ค.ศ. 1923 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่คันโต หนูพากันหลบหนีไปหมด และตอนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ ก็พบปรากฎการณ์หนูพากันหลบหนีเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวจะมีหนูติดกับดักเพิ่มขึ้น และหนูบางตัววิ่งพล่านไปทั่ว
    <TABLE width="80%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    สุนัขที่เคยเชื่อง แสดงอาการดุร้ายขึ้นทันที ​
    </TD><TD>
    แมววิ่งไปมาอย่างงุ่นง่าน หรือปีนขึ้นต้นไม้สูง ​
    </TD><TD>
    หนูพากันหลบหนี ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR>แหล่งที่มา
    [​IMG]
    หนังสือการ์ตูนวิทยาศาสตร์ช่วยให้เด็กฉลาด
    (เรื่อง..เอาชีวิตรอดจากแผ่นดินไหว)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://geothai.net/2008/index.php?option=com_content&task=view&id=48&Itemid=62
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำแนะนำเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ทางน้ำ

    [​IMG]
    • ไม่ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่คับ หนา หรือมีน้ำหนักมากเช่น กางเกงยีนส์เป็นต้น ตลอดจนรองเท้าที่ถอดได้ยาก
    • การรอลงเรือให้ยืนคอยบนฝั่ง หรือบนท่าอย่ายืนคอยบนโป๊ะ หากยืนคอยบนโป๊ะจำนวนมากๆ โป๊ะอาจพลิกคว่ำได้
    • ไม่ควรนำสัมภาระติดตัวเกินความจำเป็น ในการเดินทางทางน้ำ และควรจัดเก็บสิ่งของต่างๆ ไว้ในระวาง หรือสถานที่ที่ทางเรือจัดไว้ให้
    • เมื่อลงเรือแล้วให้เดินเข้าไปในตัวเรือ นั่งบริเวณที่นั่ง ที่ทางเรือจัดไว้ ไม่ควรเดินไปเดินมา อย่ายืนท้ายเรือ อย่านั่งที่กราบเรือหรือบนหลังคาเรือ ยืน นั่ง หรือเกาะราวกันคนตกน้ำและไม่ยื่นแขน ขา หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายออกนอกตัวเรือ
    • การลงเรือเล็ก ควรสวมเสื้อชูชีพ ตลอดการเดินทาง
    • จะต้องไม่กลัวเปียก ไม่กลัวแดด เพราะในการขยับตัวเพื่อหลบฝอยน้ำหรือเปลี่ยนที่นั่ง เพื่อหลบแดด จะทำให้เรือเสียการทรงตัว
    • อย่าตื่นตกใจเมื่อเรือเอียงหรือโคลงเพราะคลื่นหรือพริ้วน้ำจากเรือลำอื่น พยายามยึดจับพนักที่นั่งให้มั่น อย่าให้ลื่นล้มไปรวมทางกราบที่เอียง ส่วนที่อยู่ทางกราบที่เรือเอียง ให้นั่งนิ่งๆ อย่ากลัวเปียกน้ำ
    • ไม่ควรดื่มสุรา และของมึนเมาขณะเดินทาง
    • ผู้เดินทางโดยทางเรือเป็นประจำ ต้องสามารถว่ายน้ำได้ เพื่อช่วยตนเองและผู้อื่น
    • ผู้ยังไม่เคยเดินทางโดยทางเรือและผู้ที่มีอาการเมาคลื่นควรนำถุงพลาสติกติดตัวไปด้วย หากเมาคลื่นให้นั่งพักบริเวณที่อากาศถ่ายเทสะดวก และมองไปที่หมายใกล้ๆ อย่าอยู่ใกล้กราบเรือ เพราะคลื่นอาจทำให้ตกน้ำได้
    • ไม่ควรโดยสารเรือที่มีสภาพชำรุด หรือบรรทุกผู้โดยสารเกินอัตราที่กำหนด ควรระมัดระวังเด็กๆ ขณะขึ้น - ลงเรือ หรือขณะอยู่ในเรือ
    • ห้ามสูบบุหรี่บริเวณใกล้เครื่องยนต์หรือถังน้ำมัน
    • อย่ากีดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำเรือ
    • เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง จงเชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ประจำเรือ หรือหัวหน้าคณะเดินทาง
    • ไม่ควรเดินทางโดยทางเรือ ในเวลากลางคืน หากไม่จำเป็น
    • ควรศึกษาภูมิประเทศและเส้นทางก่อนการเดินทาง
    • สิ่งของหรือเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประจำตัว กล้องถ่ายรูป หนังสือเดินทางฯลฯ ควรผนึกกันน้ำให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันการชำรุดเสียหาย
    • ควรจัดเตรียมน้ำ อาหาร เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางระยะไกล
    • ไม่ควรเดินทางทางทะเล ขณะที่มีคลื่นลมจัด และควรติดตามข่าวอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาก่อนการเดินทาง
    • ไม่ควรเดินทางไปในบริเวณที่มีโขดหิน ใต้น้ำหรือบริเวณที่มีกระแสน้ำแรง
    • ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือน พฤษภาคม - ตุลาคม มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ทะเลด้านมหาสมุทรอินเดียว (ทะเลอันดามัน) คลื่นลมแรงจัด โปรดระมัดระวังอันตราย
    • ทะเลด้านอ่าวไทย เดินทางท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล แต่บางครั้งในฤดูหนาวจะมีคลื่นลมแรงได้เป็นครั้งคราว
    • อ่าวไทยด้านตะวันออก ตั้งแต่จังหวัดชลบุรีถึงตราด มีลมแรงระหว่างประมาณกลางเดือน พฤษภาคม ถึงประมาณกลางเดือนตุลาคม
    • อ่าวไทยด้านตะวันตกตั้งแต่ จังหวัดประจวบฯ ถึงนราธิวาส มีลมแรงระหว่างประมาณกลางเดือนตุลาคม ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์
    สัญญาณขอความช่วยเหลือที่ท่านต้องปฎิบัติ

    1. ระหว่างเรือประมงกับเรือรบหรือของทางราชการ

    ก.ในเวลากลางวัน ถ้าเรือของท่านเครื่องยนต์ขัดข้องต้องลอยลำ

    1. เมื่อต้องการลาดจูง ให้ลูกเรือคนใดคนหนึ่งยืนที่สูงเด่นของเรือ หันหน้าไปทางหัวเรือกางแขน
    2. เมื่อต้องการอาหาร หรือมีคนเจ็บป่วย ให้ลูกเรือคนใดคนหนึ่งยืนในที่สูงเด่นของเรือใช้ผ้าโบกไปมาขวาซ้ายเหนือศรีษะ
    3. สิ่งที่ใช้เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเรือได้อีก คือ กระจกเงาฉายแสงสะท้อนไปที่เรือรบหรือให้สัญญาณหวูด หรือแตร

    ข. ในเวลากลางคืนเมื่อต้องการความช่วยเหลือ ให้ใช้หวูดหรือแตร หรือไฟฉาย หรือตะเกียงรั้ว เป็นสัญญาณ ดังนี้

    1. เมื่อมีตะเกียงรั้ว ให้ชูตะเกียงในที่เด่นชัด แกว่งไปมาด้วยเรือที่ผ่าน
    2. เมื่อมีไฟฉาย ให้ฉายไฟ วาบ - วาบ - วาบ - วาบ....ไปที่เรือรบ/เรือของทางราชการที่แล่นผ่าน
    3. สัญญาณหวูดหรือแตร
    4. เมื่อมีทั้งไฟฉายและตะเกียงรั้ว จะปฏิบัติพร้อมกันทั้ง 1,3 และ 3 ก็ได้

    2. ระหว่างเรือประมงกับประมงกับเครื่องบิน

    ถ้าเครื่องยนต์เรือขัดข้องต้องลอยลำ (เครื่องบินอาจช่วยท่านได้โดยแจ้งข่าวไปยังเรือที่ผ่านไปมา) ขอให้ท่านปฏิบัติดังนี้

    ก. เมื่อต้องการลากจูงให้ลูกเรือคนใดคนหนึ่งยืนในที่สูงเด่นของเรือ หันหน้าทางหัวเรือ กางแขน จนกว่าเครื่องบินจะโคลงปีกรับทราบสัญญาณนั้น
    ข. เมื่อต้องการอาหาร หรือมีคนเจ็บป่วยให้ลูกเรือทุกคนนอนราบกับดาดฟ้า จนกว่าเครื่องบินจะโคลงปีกรับสัญญาณนั้น

    3. คำเตือน

    ก. อย่าดีใจว่าเครื่องบินมาช่วยเหลือท่านแล้ว จึงโบกมือจนลืมปฏิบัติตามสัญญาณข้างต้น จะทำให้เจ้าหน้าที่เข้าใจผิดและไม่ทราบว่าท่านต้องการความช่วยเหลืออะไร
    ข. สิ่งที่ใช้เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเครื่องบินได้ คือกระจกเงาฉายแสงสะท้อนไปที่เครื่องบิน หรือสุมควันไฟบนดาดฟ้าเรือ อย่าใช้เตาหุงต้มเพราะจะทำให้นักบินเข้าใจว่ากำลังประกอบอาหาร

    วิธีแจ้งอุบัติเหตุหรือขอความช่วยเหลือ

    1. ผู้พบเห็นอุบัติเหตุทางทะเล หรือผู้ร้องขอความช่วยเหลือ ให้รีบหาทางแจ้งต่อหน่วยงานกองตำรวจน้ำทุกแห่ง คือ

    ก. เรือตรวจการณ์ของกองตำรวจน้ำที่พบเห็นในทะเลทุกลำ
    ข. หน่วยงานของกองตำรวจน้ำทุกแห่ง ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทั้งด้านอ่าวไทย ทะเลอันดามัน หรือริมแม่น้ำโขง

    2. ข้อมูลประกอบการแจ้งอุบัติเหตุในทะเลของผู้ร้องขอความช่วยเหลือ

    ก. วันที่ เวลา
    ข. ตำบลที่ที่เกิดอุบัติเหตุ โดยประมาณ
    ค. จำนวนคน
    ง. รูปร่างลักษณะ สี สิ่งที่เห็นได้ชัดเจน หรือภาพของเรือ
    จ. ชื่อเรือ ขนาด ประเภทของเรือ (เรือสินค้า เรือประมง เรือน้ำมัน ฯลฯ)
    ฉ. ความเร็ว

    3. วิธีแจ้งไปยังหน่วยงานของกองตำรวจน้ำต่างๆ

    ก. ส่งคนนำข่าวไปบอก
    ข. แจ้งโดยทางโทรศัพท์
    ค. แจ้งโดยทางวิทยุ
    ง. แจ้งโดยสัญญาณดังกล่าวมาแล้ว

    ที่มา http://www.mrp9.org/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2008
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สัญญาณขอความช่วยเหลือ S.O.S.

    [​IMG]


    ใครที่เคยดูหนังเรื่อง Titanic คงจะจำกันได้ ขณะที่เรื่อสำราญกำลังจะอับปาง ห้องวิทยุมาร์โคนี่บนเรือนี้กัปตันพยายามส่งสัญญาณ ขอความช่วยเพลือ ไปยังเรือลำอื่นๆ....และ ใครเคยสังเกตุเมือเวลามีข้อความเข้ามายังโทรศัพท์มือ ถือ จะมีเสียงสัญญาณ ดิด ดิด ดิด ดาห์ ดาห์ ดิด ดิด ดิด (SMS) เสียงเหล่านี้คือรหัสมอร์ส ค่ะ (Morse Code)

    รหัสมอร์สคือ รหัสสัญญาณสั้น ยาวใช้แทนตัวอักษรในการส่งข้อความหากัน อาจเป็นสัญญาณเสียงหรือแสง แต่เดิมใช้กับเครื่องส่งโทรเลข เพื่อการส่งข้อความถึงกันในระยะทางไกลๆ ทำได้รวดเร็วกว่าการส่งจดหมาย ในปัจจุบันความเจริญทางเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท จึงทำให้ การเคาะรหัสมอร์สของโทรเลขจึงล้าสมัยไม่ทันการไปแล้ว

    ปัจจุบันไม่มีหน่วยงานใด ใช้รหัสมอร์สอีกต่อไปแล้ว ยกเว้นกิจการวิทยุสมัครเล่น ซึ่งยังใช้ในการติดต่อสื่อสารกันอยู่

    การติดต่อด้วยรหัสมอร์สนั้นเป็นส่วนช่วยให้นักวิทยุส มัครเล่นที่อยู่คนละประเทศ พูดคนละภาษา แต่สามารถใช้รหัสมอร์สพูดคุยหรือสื่อสารกันได้ด้วยรู ปแบบที่เป็นสากล และที่สำคัญเครื่องรับ-ส่ง CW นั้นสามารถสร้างได้ง่ายอีกด้วยโครงสร้างของรหัสมอร์ส ประกอบขึ้นจาก ขีด(-) และ จุด(.) โดยให้ 3จุด=1ขีด แต่ละอักษรก็จะประกอบด้วยขีดและจุด แตกต่างกันไป จ้า...

    [​IMG]

    สัญญาณขอความช่วยเหลือ S.O.S.

    สัญญาณขอความช่วยเหลือ S.O.S. ที่รู้จักกันทั่วโลก มีคนเดากันต่าง ๆ นานา ว่าย่อมาจาก Save Our Souls (ช่วยชีวิตพวกเราด้วยเถิด), Save Our Ship (ช่วยเรือของเราด้วย), Stop Other Signals (หยุดสัญญาณอื่น ๆ ทั้งหมด) หรือ Sure Of Sinking (จมแน่แล้ว) ที่จริงแล้ว S.O.S. ไม่ใช่คำย่อใด ๆ แต่เป็นรหัสมอร์ส ที่ใช้ส่งโทรสารหรือสัญญาณวิทยุ ประกอบด้วยจุด (...) และ ขีด (---) ที่เขาเลือกใช้สัญญาณ S.O.S. ก็เป็นเพราะว่า สัญญาณนี้ปรากฏอยู่ในรูปของ ...---... สัญญาณนี้จะเด่นออกมาจากสัญญาณอื่น ๆ เพราะว่ารหัสมอร์สส่วนใหญ่เป็นคำที่มีสามตัว หากมีเรื่องเดือดร้อน ผู้รับสัญญาณจะเห็นข้อความนี้เด่นชัดและส่งความช่วยเหลือได้ทัน ตัวอักษร S.O.S. ไม่ได้มีความหมายอะไรในตัวเอง ค่ะ...

    [​IMG]

    ที่มา http://www.baanmaha.com/community/showthread.php?t=13397
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • titanic_6.jpg
      titanic_6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.8 KB
      เปิดดู:
      4,675
    • titanic.jpg
      titanic.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.4 KB
      เปิดดู:
      151
    • titanic6.jpg
      titanic6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.4 KB
      เปิดดู:
      173
    • Titanic_5.jpg
      Titanic_5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.9 KB
      เปิดดู:
      148
    • morsegr3.jpg
      morsegr3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.6 KB
      เปิดดู:
      4,793
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2008
  10. ju ju

    ju ju Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +87
    ขอตายก่อนได้ไหม จะได้ไม่ต้องลำบาก ไม่อยากเจอชีวิตโหดๆๆ แบบนี้เลย สงสัยนะค่ะ คนที่รอดนะ มีบุญหรือบาปกันแน่ ถ้ารอดก็ต้องลำบากน่าดู แล้วมันจะเกิดเมื่อไหร่ กลัวว่าเตรียมของไว้แต่เนิ่นๆๆ เด๋วของจะเสีย แล้วเราควรเตรียมตอนไหนอย่าวไร ถ้าเราไม่เตรียมอะไรเลยปล่อยไปตามยถากรรมถ้าต้องตายในตอนนี้ก็ให้ตาย ถ้าถึงคราวไม่ตายก็ขอให้รอดแล้วอยู่อย่างไม่ต้องลำบากจะได้ไหมค่ะ ขอกุศลผลบุญที่สร้างสมมาให้เราได้ตายดีด้วยเทอญ
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ถ้ารอดได้จริงก็ไม่ต้องกลัวลำบากหรอกครับ

    พระนครผู้มีบุญ

    ในคริสต์ศาสนา ความในพระคัมภีร์วิวรณ์บอกว่า เมื่อคริสต์ศักราชครบ 2,000 ปีแล้ว พระเยซูคริสต์เจ้าจะเสด็จลงมาปกครองโลก โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่นครเยรูซาเลม และการปกครองของพระเยซูในครั้งนี้จะกินเวลารวมทั้งสิ้น 1,000 ปี ในคติทางพระพุทธศาสนาก็เช่นเดียวกัน ได้มีความเชื่อในหมู่ของชาวพุทธแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะชาวพุทธของเมืองไทยว่า ภาคเหนือของไทยจะถูกสถาปนาขึ้นเป็นมหาอาณาจักรสัมมาทิฏฐิ พระอิศวรเป็นเจ้า หรืออินทราธิราช จึงนำเอาปราสาท 3 หลังขึ้นมาตั้งไว้บนแผ่นดิน คือ ปราสาทแก้ว ปราสาททอง ปราสาทเงิน กว้างหลังละ 1 กิโลเมตรเท่ากันทั้ง 3 หลัง แล้วเนรมิตกำแพงแก้วล้อมปราสาททั้ง 3 หลัง กว้างยาวเท่ากันด้านละ 4 กิโลเมตร กลางคืนจะสว่างเหมือนกลางวัน พระนครที่อินทราธิราชสร้างนั้นจะสว่างเหมือนกลางวัน พระนครที่อินทราธิราชสร้างนั้นจะได้นามว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2008
  12. ชนินทร

    ชนินทร พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,725
    ค่าพลัง:
    +6,384
    ตอนนี้เห็นว่ากำลังข้าวยากหมากแพงไปทั่ว... จึงขอนำเอาพระคาถาที่หลวงพ่อฤาษีท่านมอบไว้ให้ท่อง เพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของลูกหลานของท่านในเรื่องนี้มาลงไว้ให้ใช้นำไปสวดกันค่ะ...

    จับภาพพระให้ใสปิ๊งก่อน... จับลมสบาย... แล้วค่อยๆ สวดไปเรื่อยๆ ค่ะ...


    คาถาเงินล้าน
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    ( ๓ จบ )

    สัมปจิตฉามิ
    นาสังสิโม
    พรหมา จะ มะหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ ,
    พรหมา จะ มะหาเทวา อะภิลาภา ภะวันตุ เม ,
    มะหาปุญโญ มะหาลาโภ ภะวันตุ เม ,
    มิเตพาหุหะติ,
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
    สัมปะติจฉามิ
    เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ ๆ
     
  13. pat3112

    pat3112 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +2,904
    การใช้พระคาถาเงินล้าน โดยหลวงพี่เล็กครับ
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- / icon and title --><!-- message --> ดังนั้น ขอให้ทุกคนยึดคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งให้มั่นคงเอาไว้ สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อมอบให้แก่เรามา โดยเฉพาะพระคาถาเงินล้าน ขอให้ทุกคนท่องบ่นภาวนาไว้เป็นประจำ ๆ จะสร้างความคล่องตัวให้แก่เราอย่างคิดไม่ถึง ใครจะว่างมงาย ใครจะว่าเหลวไหล อาตมายืนยันว่าไม่งมงาย ไม่เหลวไหล เพราะอาตมาใช้มาเอง มีใครบ้างที่สามารถสร้างวัด ๆ หนึ่งเสร็จได้ภายในปีเดียว โดยที่ ๒ มือเปล่า ๆ มีแต่คาถาบทเดียว จะไม่ให้ยืนยันอย่างนี้ก็ไม่ได้ แล้วขณะเดียวกัน ไปช่วยเขาที่อื่นไปช่วยเขาที่ไหนก็ตามขึ้นชื่อว่าการสะดุดหยุดยั้งผิดจังหวะไม่มี มีแต่ความสะดวกคล่องตัวอยู่เสมอ



    ดังนั้น ขอย้ำว่าถ้าเราใช้คาถาเป็น ส่วนใหญ่ทำไมใช้ไม่เป็นใช้ไม่ถูกกัน การใช้คาถาเป็นก็คือต้องวางกำลังใจให้เป็น การวางกำลังใจให้เป็นก็คือตั้งใจว่า คาถานี้คือสมบัติวิเศษที่พ่อให้มา หน้าที่เราคือรักษาไว้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะพึงดีได้ ด้วยการเป็นคนที่ขยันท่องบ่นเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อย่างสม่ำเสมอและจริงจังทุกวัน เรื่องของความสม่ำเสมอจริงจังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดส่วนใหญ่มันทำ ๆ ทิ้ง ๆ กัน ในเมื่อเราตั้งใจทำถวายบูชาต่อท่านอย่างสม่ำเสมอและจริงจัง ผลพิเศษต่าง ๆ มันจะเกิดขึ้นเอง แต่ถ้าเราทำเพื่อจะหวังผลพิเศษนั้น ตัวอยากที่บังหน้ามันจะตัดไปเกือบหมด อยากได้ ไม่ใช่ความผิด แต่พออยากตั้งใจว่าต้องการอะไรแล้วลืมความอยากนั้นเสียแล้วตั้งหน้าตั้งตาภาวนาไป นี่คือการใช้คาถาที่ถูก การปฏิบัติทุกอย่างเหมือนกัน อยากมันถึงทำ แต่ตัวอยากตัวนี้เป็นฉันทะ หลวงพ่อเรียกว่าธรรมฉันทะ คือ ความพอใจในธรรม ไม่ใช่ตัวตัณหา ตัวตัณหาเป็นการอยากได้ใคร่มีในลักษณะที่เรียกว่าถ้าไม่ได้มาผิดศีลผิดธรรมก็ยังเอา ตัวอยาก มีอยู่ในทุกธรรมะ แต่ว่าตัวอยากนี้เป็นตัวธรรมฉันทะคือพอใจในการปฏิบัติ ขณะเดียวกันการปฏิบัติทุกอย่างอารมณ์อุเบกขาสำคัญที่สุด

    การปฏิบัติไม่ว่าจะทาน ศีล ภาวนา ถ้าขาดตัวอุเบกขาการปฏิบัตินั้น ๆ เข้าไม่ถึงจุดสุดท้าย การให้ทานถ้าไม่รู้จักอุเบกขาปล่อยวางก็นั่งกลุ้มใจ ขอทานมันขอสตางค์ก็ให้มันไป ให้แล้วก็แล้วกันเรารู้ว่าเขาต้องการก็ให้เขาไป เป็นการตัดความโลภของเราให้มันจบลงตรงนั้นนี่คือตัวอุเบกขา แต่ว่าให้แล้วก็ไปนั่งคิดต่อว่า เอ๊...มันจะหลอกเราหรือเปล่าหว่า มันเป็นแก๊งค์ขอทานประเภทที่เรียกว่าเดี๋ยวถึงเวลาก็เอาคนมาปล่อย ๆๆ ตามจุดแล้วก็ขอสตางค์เขาไปวัน ๆ หนึ่ง ถึงเวลามันกินดีอยู่ดีกว่าเราอีกหรือเปล่า

    ไอ้อย่างนี้ขาดอุเบกขา การรักษาศีลก็เช่นกัน ถ้าหากว่าขาดอุเบกขาขาดการปล่อยวางจริง ๆ การรักษาศีลมันก็รักษาไม่ได้ตลอด ไม่ฆ่าสัตว์ แต่อีคราวน้โกรธมันขึ้นมาก็อัดมันตุ้บเข้าให้ ไม่ตายหรอกแต่เจ็บ ดีไม่ดีก็สาหัสไปเลย ขาดอุเบกขา การภาวนายิ่งหนักเข้าไปใหญ่ถ้าขาดตัวอุเบกขาคือการปล่อยวางไม่รู้จักวาระของมันจะก้าวหน้าได้ยากมาก เราต้องทำใจว่าเรามีหน้าที่ภาวนา ผลพิเศษต่าง ๆ จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่เป็นเรื่องของเขา นี่คือการปล่อยในตัวอุเบกขา แต่ถ้าไปภาวนาตั้งใจอยากให้มันได้อยากให้มันเป็น มันจะไม่ได้มันจะไม่เป็น มันเหมือนกับเราปลูกต้นไม้เรามีหน้าที่รดน้ำพรวนดินจับหนอนจับแมลงใส่ปุ๋ยดูแลก็ทำมันไป เราไม่มีหน้าที่ไปบังคับเขาออกดอกออกผล ลองไปจับมันดึงยอดดูสิมันจะออกมั๊ย .. เฉาตายซะก่อน แต่ถ้าเรามีหน้าที่ทำของเราไปเรื่อยด้วยการปล่อยวางและเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย

    เมื่อถึงเวลาดอกผลมันจะเกิดของมันเอง ถึงวาระ ถึงฤดูกาลของมัน ๆ ก็ออกดอกออกผลให้ชื่นใจ อีตอนที่มันยังไม่ถึงวาระไม่ถึงเวลาอยากเท่าไหร่มันก็ไม่ได้อยากเท่าไหร่มันก็ไม่เป็น ตัวอยาก คือ การไม่รู้จักวางอุเบกขา ตัวรู้ว่าเรามีหน้าที่อย่างไรเราทำให้ดีที่สุด ผลของหน้าที่นั้นจะเป็นอย่างไรช่างมัน นั่นคือตัวอุเบกขา นะ เบรคให้เป็นเบรคขา เบรคแขน เบรคปากเอาไว้ด้ว ไม่อย่างนั้นจะไปทะเลาะกับคนอื่นเขา ถ้าอุเบกขาเป็นทุกอย่างก็ดีหมด ไม่มีการกระทบกระทั่งกับใคร ทุกอย่างเป็นธรรมดาหมด ปกติของโลกมันเป็นอย่างนั้น ไม้ตายท่าสุดท้ายแล้ว อุเบกขา ถ้าเต็มที่มันจะเป็นสังขารุเปกขาญาณ รู้็จักปล่อยวางในการปรุงแต่ง การปรุงแต่งการนึกคิดเพิ่มเติมทุกอย่างไอ้ตัวฟุ้งซ่านขนาดหนักเลย ทุกอย่างถ้าหยุดการปรุงแต่งลงได้มันก็หยุดหมดมันก็ดับหมด ใครเคยตามดูความคิดตัวเองบ้าง หยุดความคิดตัวเองเป็นมั๊ย หยุดเป็นเมื่อไหร่ก็เย็นเมื่อนั้นแหละ จิตสังขารคือตัวปรุงแต่งของใจสำคัญมาก

    เกิดมันก็ตรงเนี้ย แก่มันก็ตรงเนี้ย เจ็บมันก็ตรงเนี้ย ตายมันก็ตรงเนี้ย อนิจจังไม่เที่ยงก็เพราะมัน ทุกขังเป็นเพราะมัน อนัตตาก็เป็นเพราะมัน ก็เพราะจิตตัวปรุงแต่งนี้ตัวเดียว หยุดปรุงแต่งเมื่อไหร่พระท่นเรียกว่านิโรธ คือ เข้าถึงความดับ ความร่มเย็น ความสงบอย่างแท้จริง การหยุดมันท่่านเรียกว่า มรรค สาเหตุที่มันปรุงมันแต่งมันทำให้เกิดทุกข์ท่านเรียกว่า สมุทัย ปรุงแต่งมันเมื่อไหร่มันก็เป็นทุกข์ อริยสัจ ๔ มันก็อยู่ตรงนี้นั่นแหละ อยู่ที่จิตตัวเดียว ไม่ได้อยู่ที่อื่นเลย

    ดังนั้น ท่านถึงให้ัดูภายใน ดูที่ตัว แก้ที่ตัว ดูที่คนอื่นไม่สำเร็จ แก้ที่คนอื่นไม่สำเร็จ ทุกอย่างเป็นเรื่องของโลก เราไม่สามารถแก้ไขโลกได้ แต่เราแก้ไขตัวเราเองได้ ภาระทุกอย่างถ้าเราแบกโลกไว้มันหนักเหลือเกิน แต่ถ้าเราวางลงตัวเรามันมีภาระอยู่นิดเีดียวเท่านั้น ยิ่งฟังก็ยิ่งง่ายเนาะ ฟังง่ายใช่มั๊ย?

    เหลืออีกครึ่งชั่วโมง หรือ...มันพูดมากขนาดนี้เชียวหรือ...ว่าไปเรื่อยเปื่อยนะ ยิ่งอีตอนบรรยายให้ ชาวบ้านเขาฟังยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ วิทยากรต่าง ๆ จะพูดด้วยภาษาราชการ แต่ชาวบ้านฟังไม่รู้เรื่อง ไปถึงก็อุปโภคอยา่งนั้น บริโภคอย่างนี้ กะเหรี่ยงมันฟังรู้เรื่องไหมล่ะ เอออุปโภคบริโภค มันรู้แต่ ออหมี่ออที กินข้าวกินน้ำ อาตมาก็ต้องไปเป็นล่ามแปลไทยเป็นไทยให้เขาฟังอีกทีหนึ่ง ว่าไปว่ามาวิทยากรก็นิมนต์อาจารย์ว่าไปเรื่อย ๆ เลยครับ ตกลงบรรยาย ๖ ชั่วโมง พระว่าไป ๕ ชั่วโมงครึ่ง จริง ๆ ไม่ใช่เขาไม่เก่งนะ เขาเก่งแต่เขาลดระดับตัวเองลงมาไม่เป็น ต้องพูดภาษาชาวบ้านให้ชาวบ้านเขาฟัง นี่อาตมาก็พูดมากจนเกินไปเหมือนกัน ตกลงมีใครเก็บเอาไว้ได้บ้าง เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาหมด นักปฏิบัติที่ดีเมื่อกี้บอกแล้วการจดบันทึกสำคัญมากเป็นการซ้อมอตีตังสญาณด้วย

    ขณะเดียวกันก็กันลืม หัวใจนักปราชญ์จำได้มั๊ย สุ จิ ปุ ลิ สุ มาจาก สุตะ แปลว่า ฟัง จิ ก็มาจากจิตติ ปลว่าคิด ปุ ก็มาจากปุจฉา แปลว่าถาม ลิ ก็มาจากลิขิต เขียน ฟัง-คิด-ถาม-เขียน ไอ้เขียนนี่ท่านบอกไว้ว่ากันลืม สุตตะจงฟัง เขาอย่าขี้เกียจ จิตตะคิดให้ละเอียดที่สงสัย ปุจฉาหลงจงถามอย่าเกรงใจ ลิขิตเขียนไว้ได้จะดีเอย เก่งกันทุกคนจำได้หมดเลยไม่มีใครจดสักคนหนึ่ง อย่าเชียวนะไอ้ประเภทพึ่งเทคโนโลยีน่ะ เจ๊งมาเยอะต่อเยอะแล้ว

    อาตมาอยู่วัดท่าซุงถือสมุดบันทึกเข้าโบสถ์อยู่องค์เดียว ถึงเวลาก็จดยิก ๆ พี่น้องไอ้ ๔๐ กว่าคนไปพึ่งไอ้เครื่องบันทึกเสียงอยู่ ปรากฏว่าวันนั้นหลวงพ่อพูดเรื่องที่สำคัญที่สุด เครื่องบันทึกเสียงเจ๊ง อีคราวนี้มันทึ้งอาตมาซะเป็นชิ้น ๆ เลย จดอยู่คนเดียว สิ่งที่เราฟัง จะจำได้ก็ต่อเมื่อสิ่งนั้นกระทบใจของเรา ไอ้ตัวกระทบใจก็คือมันตรงกับใจของเรา ตรงกับการปฏิบัติของเราตอนนั้น แต่สิ่งที่เป็นโยชน์มหาศาลสำหรับเราในอนาคตมันจะผ่านเลยไปเฉย ๆ เพราะฉะนั้นจดซะบ้างโดยเฉพาะนักปฏิบัติ หลวงพ่อท่านบอกว่านักปฏิบัติที่ดีกระดาษปากกกาห้ามห่างมือเด็ดขาด ยิ่งเวลากลางคืนที่พระท่านสงเคราะห์ อาตมาพลิกตัวมาได้ มืดก็มืดแล้วเขี่ยนไว้ก่อนอ่านออกอ่านไม่ออกให้มันมีนัยเอาไว้ถึงเวลามันก็นึกได้เอง แต่ถ้าไม่จดรอให้เวลาผ่านไปพักเดียวเท่านั้นแหละ...ลืม มีอยู่วันหนึ่งหลวงพ่อท่านมาตอนเช้ามืด บอกให้ทำอย่างนั้น ๆๆ สั่งมา ๓ ข้อ ไอ้เราโอ๊ย...สบาย ๓๐๐ ข้อยังจำได้เลย ๓ ข้อ แค่นี้หมูมาก ปรากฏว่าพออรุณขึ้น มัเนหลือแค่ข้อเดียว อีก ๒ ข้อ มันหายขาด ชนิดคิดหัวแทบแตกก็เค้นไม่ออก ถ้าจดไว้ก่อนมันมีเค้าอยู่เราก็จะนึกขึ้นมาได้
     
  14. เกสรช์

    เกสรช์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +1,401
    ขออนุโมทนากับบทความของทุกๆท่านและคุณpat3112และคุณchdhornกับบทความเรื่องพระคาถาเงินล้านดีมากๆ ขอนำcopyเพื่อส่งเผยแพรเป็นธรรมทานต่อไปนะคะ สาธุ

    ทำยังไงถึงจะทราบว่าช่วงไหนเพราะจะได้เตรียมตัวกลับเมืองไทยคะ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย ก่อสร้างห้องหลบภัยก็ไม่เป็นเพราะไม่เข้าใจและสร้างไม่เป็น ตอนนี้ก็ปักหลักอยู่อินโดฯอยู่คอนโดสูงสุดด้วยซิ ตอนนี้ทำได้คือปฏิบัติธรรมประจำทุกวัน ทำไงดีเอ่ย

    ผู้รู้ช่วยแนะนำนอกเหนือข้อมูลจากกระทู้หน่อยนะคะ ว่าจะมีในช่วงประมาณปีไหน จะได้เตรียมตัวและใจถูก

    ขอบคุณคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2008
  15. เกสรช์

    เกสรช์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +1,401
    โมทนาสาธุด้วยคะ
    แล้วเหตุการณ์จะรุนแรงทั่วโลกเเละจะโดนผลกระทบหมดเลยเหรอคะ
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ลูกศิษย์ของพระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ ได้บอกเอาไว้ในเว็บไซต์พุทธแท้
    http://www.geocities.com/buddhatatum/index.htm ดังนี้ครับ

    การถามถึงเรื่องอนาคตและตอบเรื่องอนาคตนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะอนาคตที่จะเกิดขึ้นนั้น มันขึ้นอยู่กับการกระทำที่มาจากอดีตและปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ยากมากเพราะกิเลสของมนุษย์ การกระทำของมนุษย์มันสุดที่จะคำนวณได้ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่ามันจะเป็นสงครามศาสนาหรือไม่ และก็ไม่รู้ว่า
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>สัญญาณที่อ่านได้จาก..<BLINK>"เมฆ"</BLINK><BLINK></BLINK></TD></TR><TR><TD>
    </TD></TR><TR><TD>
    เมฆ เป็นไอน้ำและเกล็ดน้ำแข็งที่เกิดการควบแน่นรวมกันเป็นกลุ่มก้อน และลอยอยู่บนท้องฟ้า ปกคลุกอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลกอยที่ระยะไม่เกิน 5 กิโลเมตร นอกเหนือจากเมฆจะแสดงปรากฏการณ์ให้เห็นถึง การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เช่น เกิดพายุฝน แล้ว เมื่อใดก็ตามที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก เช่น แผ่นดินไหว การเกิดความร้อนผุดจากใต้พิภพ ฯลฯ การเกิดและการเปลี่ยนแปลงของเมฆ ก็สามารถสื่อสารให้เห็นถึงปรากฏการณ์เหล่านั้นได้เช่นกัน ต่อไปนี้คือตัวอย่างเมฆที่ได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ​
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    การเกิดพายุหมุน ที่ จ.นครปฐม ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>
    [​IMG] [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD width="91%">
    ปรากฏการณ์เกิดฝนที่มีลักษณะไม่ปกติ​
    </TD><TD width="9%"> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    เมฆเกิดการกจะจายจากอิทธิพลความร้อนที่ผุดขึ้น ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="34%">
    </TD><TD width="36%">
    </TD><TD width="30%"> </TD></TR><TR><TD colSpan=3>[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3>
    เมฆที่เกิดความร้อนผุดขึ้นจากใต้พิภพ (1) ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    เมฆที่เกิดความร้อนผุดขึ้นจากใต้พิภพ (2)​
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    เมฆที่เกิดความร้อนผุดขึ้นจากใต้พิภพ (3)​
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG] [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    เมฆที่เกิดความร้อนผุดขึ้นจากใต้พิภพ (4) ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. kanalove

    kanalove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +386
    เมฆเหมือนรูปนกเลยเนอะ * * มันมีความหมายว่าไงอะ * *
     
  19. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    <TABLE class=tborder id=post1180881 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] 08-05-2008, 10:08 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #16 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1180881", true); </SCRIPT>
    หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:41 PM
    วันที่สมัคร: May 2006
    ข้อความ: 5,328 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 6,069 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 104,211 ครั้ง ใน 5,388 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 9243 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1180881 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ละเอียดยิบ

    จุดสำคัญเรามาช่วยกันลงวิธีเตรียมตัว เตรียมของใช้ฉุกเฉิน และวิธีปฏิบัติตัวในยามเกิด พายุกันครับ

    1. เตรียมเป้ฉุกเฉินทั้งส่วนตัว และสำหรับครอบครัว รวมรวมไว้ในจุดเดียว หาได้ง่าย
    -แพ๊คของแบบกันน้ำได้ (ใส่ถุงพลาสติกดำปิดสองชั้น ถุงเก็บใช้งานอื่นได้อีก)
    -เสื้อผ้า แห้งง่าย
    -อาหารแห้งที่กินได้เลยโดยไม่ต้องหุงหา สำหรับ 3 วัน
    -น้ำสะอาด ที่กรองน้ำอย่างง่าย ภาชนะสำหรับต้มน้ำ
    -ยา อุปกรณ์ทำแผล
    -เทียน ไม้ขีด อุปกรณ์จุดไฟ
    -ไฟฉาย ถ่านสำรอง
    -เชือก
    -ผ้าใบกันฝน
    -มีดยังชีพ
    -อุปกรณ์ยังชีพ

    2. หาจุดปลอดภัยในบ้าน โดยเฉพาะที่เป็นกำแพงปูนสี่ด้านยิ่งดี ระวังระดับน้ำที่เอ่ออย่างรวดเร็วเอาไว้ด้วย หาตำแหน่งที่มีโครงสร้างที่แข็งแรงที่สุดในบ้านเอาไว้

    3.พูดคุยกับคนในบ้านให้เข้าใจในแผนฉุกเฉิน ในยามเกิดภัยพิบัติ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ kananun [​IMG]
    ตอนหัวค่ำ ฟังข่าวสัมภาษณ์ คนไทยที่เฉิงตู ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์แต่ระหว่างนั้น ไม่ได้อยู่ในเมือง อยู่บนรถที่กำลังแล่น เลยปลอดภัย
    แต่หลังจากนั้นถนนหนทางพังหมด การอพยพต้องอาศัยการเดินเท้าเพียงอย่างเดียว เดินออกไปยังเมืองอื่น ตั้งแต่ตีห้า จนถึงบ่ายโมง
    ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การที่เราเตรียม เป้ และอุปกรณ์ยังชีพเอาไว้นั้น นับว่า ถูกต้องแล้ว ควรดูกรณีทุกกรณีเอาไว้เป็นเคสสตัดดี้ครับ ว่า ควรทำอย่างไรกันบ้าง

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    วิธีการจัดเป้



    เรื่องโดย
    หญิงเหล็ก , ตุลาคม 2002

    ก่อนอื่น เราควรจะคิดถึงสิ่งที่ควรจะเอาใส่เป้ไปด้วยเวลาไปเดินป่า ว่าควรจะมีอะไรไปบ้าง ซึ่งของใช้จำเป็นในการเดินป่าทุกครั้ง พอจะแบ่งออกได้ตามประเภทต่างๆ ดังนี้
    • ถุงนอน
    • เต็นท์หรือเปล
    • เสื้อผ้า (ปกติเวลาเดินอยู่ในป่าเรามักจะต้องการแค่ชุดที่ใส่ตอนนอนอีกเพียงชุดเดียว ส่วนตอนกลางวันที่เดินป่าก็มักจะใส่ชุดเดิม แต่สำหรับบางคนที่ทนกลิ่นตัวเองไม่ไหว อาจจะเอาเสื้อสำรองเข้าไปเปลี่ยนในแต่ละวันด้วยก็ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...