รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 28 กันยายน 2006.

  1. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    รู้ก่อนติดแก๊ส แอลพีจี-เอ็นจีวี...ดีด้อยต่างกัน
    [​IMG]

    แม้ช่วงนี้จะมีข่าวดีเล็ก ๆ กับราคาน้ำมันที่เริ่มปรับลดลง ชั่วโมงนี้ประชาชนที่ยังจำเป็นต้องใช้รถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ส่วนตัว ไม่รอให้รัฐบาลมาพยุงราคาน้ำมัน หรือรอน้ำมันลดราคา รีบออกมาจัดการปัญหาราคาค่าใช้จ่ายจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ด้วยการนำรถไปติดตั้งแก๊ส

    ปัจจุบันสถิติรถยนต์ใช้ก๊าซ เชื้อเพลิงทั่วประเทศมี 309,064 คัน แบ่งเป็นรถที่ใช้ก๊าซแอลพีจี 256,083 คัน และใช้ก๊าซเอ็นจีวี 52,981 คัน จากตัวเลขความต้องการที่สูงขึ้น ตัวรัฐบาลเองก็ปรับ ตัวไม่ทันกับความต้องการของประชาชน จะเห็นว่าเรื่องของการออกมาตรฐานรับรองเรื่องของอู่ หรือให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับการติดตั้งแก๊สยังไม่มีหน่วยงานจากภาครัฐออกมาให้ความรู้อย่างจริงจัง ก่อนจะพารถคู่ใจไปยังอู่ติดตั้งแก๊ส มาทำความรู้จักกับแก๊ส 2 ชนิดกันก่อนคือ NGV และ LPG

    ยานยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Natural Gas Vehicles หรือเรียกย่อ ๆ ว่า NGV หมายถึง ยานยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัด (Compressed Natural Gas : CNG) เป็นเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงประเภทฟอสซิลอย่างหนึ่ง พบ ในแอ่งใต้ดิน หรืออาจพบร่วมกับน้ำมันดิบ

    [​IMG]


    คาดว่าจะเป็นแหล่งพลัง งานหลักที่จะนำมาใช้ได้อีก 60 ปีข้างหน้า ปริมาณสำรองที่มีข้อมูลแล้วทั่วโลกเมื่อปี 2541 มีปริมาณ 5,086 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต พบมากที่สุดในสหภาพโซเวียตเดิม มีปริมาณ 1,700 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ​

    ส่วน LPG คือคำย่อ ซึ่งได้มาจากตัวอักษรหน้าของก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas) และเป็นส่วนประกอบที่เบาที่สุดที่มีอยู่ในน้ำมันปิโตรเลียม LPG เป็นสารประกอบ ไฮโดรคาร์บอนมีหลายชนิดด้วยกันขึ้นอยู่กับการรวมตัวของคาร์บอนอะตอม และไฮโดรเจนอะตอม ได้แก่ โพรเพน โพรพิลีน บิวเทน บิวทีลีน เป็นต้น

    มีส่วนประกอบที่สำคัญคือโพรเพน และบิวเทน ก๊าซเหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษที่ว่า เมื่อได้รับความเย็นหรือความดันจะเปลี่ยนสภาพเป็นของเหลวได้โดยง่าย ในทางกลับกัน เมื่อให้ความร้อนหรือลดความดันก็จะกลายเป็นก๊าซ ซึ่งจะมีน้ำหนักประมาณ 1.5-2 เท่า ของอากาศ โดยปกติ LPG จะ ถูกทำให้เป็นของเหลวโดยได้รับความดัน และถูกเก็บไว้ในภาชนะความดันสูง ​


    [​IMG]

    แอลพีจีมี 2 ชนิด คือชนิดก๊าซบ่อน้ำมัน (oil field gas) ที่ได้จากการแยกและกลั่นก๊าซธรรมชาติที่ได้ (ทั้งแอลพีจี และเอ็นจีวี) และชนิดก๊าซโรง กลั่นน้ำมันที่ได้จากการแยกก๊าซ อันเป็นผลพลอยได้จากการกลั่น น้ำมันดิบ เนื่องจาก LPG มีสภาพ เป็นก๊าซที่อุณหภูมิและความดันปกติ จึงต้องทำให้เป็นของเหลวอยู่เสมอ โดยการอัดความดันหรือแช่แข็ง แล้วต้องขนส่งด้วยเรือที่ใช้บรรทุก LPG โดยเฉพาะ

    ดูจากตัวเลขการติดตั้งข้างต้นการติดตั้ง แอลพีจีสูงกว่าเอ็นจีวี ปรากฏการณ์นี้ ชัยฤทธิ์ กาญจนาเวส นายกสมาคมติดตั้งแก๊สไทย บอกว่า แอลพีจีใช้ในบ้านเรามา นาน 27 ปีแล้ว ขณะที่เอ็นจีวี เพิ่งมาใช้ เมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา ช่างติดตั้ง ช่างซ่อมบำรุงจะมีประสบการณ์มีความเชี่ยวชาญมากกว่า มีผู้ค้าแก๊สรายใหญ่หลายรายไม่ถูกผูก ขาดเหมือนเอ็นจีวี ดังนั้นจึงหาปั๊มเติมได้สะดวกกว่า อีกทั้งรถยนต์ที่ติดตั้งแก๊สแอลพีจีบรรจุก๊าซขนาดใกล้เคียงกันวิ่งได้ระยะทางมากกว่า ซึ่งระยะเฉลี่ยแอลพีจีต่อถังวิ่งได้ 350 กม. ขณะที่เอ็นจีวีวิ่งได้แค่ 100 กม. อีกทั้งขนาดของถังที่หนัก กว่าแอลพีจี ​

    นอกจากนี้ยังรวมถึงราคาค่าติดตั้งเอ็นจีวีสูงกว่าแอลพีจี เหตุ ผลหลักของราคาแพง มาจากราคา ค่าถังแก๊ส เพราะถังเอ็นจีวีต้องใช้ แรงดัน 3,000 ปอนด์ ขณะที่แอลพีจี 300 ปอนด์ ต่างกัน 10 เท่า ดังนั้นเมื่อมีความดันสูง ถังเอ็นจีวี จำเป็นต้องใช้เหล็กที่หนากว่า ถังที่ เป็นเหล็กล้วนที่เรียกว่า Type 1 ราคาอยู่ที่หมื่นกว่าบาท ขณะที่ถัง Type 2 ใช้วัสดุเหล็กผสมไฟเบอร์ กลาสเบาลงอีก ราคาขยับขึ้นกว่า 20,000 บาท และถัง Type 3 ขยับขึ้นมาเกือบ 50,000 บาท น้ำหนักเบาลงมาแต่ยังมีเหล็กผสม และถัง Type 4 เป็นไฟเบอร์กลาส ล้วน น้ำหนักใกล้เคียงกับถังแอล พีจี ราคาตกใบละ 100,000 บาท ซึ่งเมื่อรวมอุปกรณ์ชุดฉีด และค่าติดตั้งเบ็ดเสร็จแล้ว 150,000 บาท

    อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันสูงขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้ ราคาค่าติดตั้งแก๊สแอลพีจีและเอ็นจีวีสูงขึ้นเฉลี่ย 20 เปอร์เซ็นต์ บวก กับราคาเหล็กขึ้น ทองเหลืองขึ้น ​

    ส่วนรูปแบบของถังที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถังตามมาตรฐาน มอก. ที่อนุญาตให้ใช้ในประเทศไทยต้องเป็นถังชนิด แคปซูล เท่านั้น ส่วนถังล้ออะไหล่หรือถังโดนัท ไม่ได้รับอนุญาตจาก มอก. ในบ้าน เรา แต่ในต่างประเทศใช้กันแพร่หลาย ปลอดภัยเหมือนกันหากได้รับรอง มอก. รถยนต์ที่เลือกติดถังโดนัทจะไม่ผ่านการตรวจสภาพจาก กรมการขนส่งทางบก ​

    สำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องดีเซล หากต้องการติดตั้งแก๊สต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงถึง 80,000-90,000 บาท เพราะต้องเปลี่ยนลูกสูบใหม่ เปลี่ยนฝาหัวเทียน เพิ่มระบบ ราคา ที่สูงมากจนทำให้ผู้บริโภครับไม่ไหว ยกเครื่องดีเซลออกไปเปลี่ยนมาเป็นเครื่องเบนซินแทน ​

    นายกสมาคมติดตั้งแก๊สไทย บอกถึงข้อเท็จจริงของเอ็นจีวี อีกด้านหนึ่งว่า ก๊าซเอ็นจีวีในบ้านเรามีกากมาก คือยังมีคาร์บอน ยัง แยกก๊าซที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงออกหมด มีความบริสุทธิ์แค่ 73% เมื่อเทียบ กับเอ็นจีวีของมาเลเซียบริสุทธิ์ถึง 99% เมื่อมีความบริสุทธิ์น้อย ส่งผลให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็ว แม้ขณะนี้ราคาของเอ็นจีวีจะถูกกว่า คือลิตรละ 8.50 บาท และจะปรับขึ้นเป็น 12 บาท ในวันที่ 1 ม.ค. ปีหน้า ขณะที่ราคาแอลพีจีอยู่ที่ลิตร ละ 11.50 ซึ่งรัฐบาลพยายามให้ข่าวเป็นระยะว่าจะปรับราคาแอลพีจี โดยจะแยกเป็น 2 ราคา คือราคาก๊าซหุงต้ม และภาคขนส่ง คาด ว่าจะปรับราคาขึ้นอีก 4 บาทต่อลิตร ​

     
  2. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ปภ. แนะวิธีเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติในครอบครัว

    www.ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2008 17:03:55 น.
    กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--ปภ.
    กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะหลักการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ ในระดับครอบครัว จัดเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภค ของใช้จำเป็นให้เพียงพอ วางแผนรับมือภัยพิบัติฉุกเฉินล่วงหน้า หมั่นฝึกซ้อมแผนเตรียมรับมือและอพยพหนีภัยพิบัติต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ กำหนดเส้นทางอพยพ จุดนัดพบ ที่ปลอดภัย รวมทั้งสอนให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวเรียนรู้วิธีการช่วยเหลือตนเองในเบื้องต้นอย่างปลอดภัย

    <SCRIPT type=text/javascript><!-- np_ad_client = 'AID08010707'; np_ad_width = 336;np_ad_height = 280; np_color_border = 'FFFFFF'; np_color_bg = 'FFFFFF'; np_color_link = '0044BB'; np_color_url = '888888'; np_color_text = '000000'; np_advertise = 3; np_ad_amount = (np_advertise-1); np_ad_format = '336x280_as';np_ad_type = 'Rotate'; np_ad_channel = ''; //--></SCRIPT><SCRIPT src="http://tns.nipa.co.th/pagead/show_v3adsponsors_v.js" type=text/javascript> </SCRIPT>
    นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ภาวะโลกร้อนส่งผลให้เหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมีแนวโน้มทวีความรุนแรงและบ่อยครั้งมากขึ้นเรื่อยๆ สร้างความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมหาศาล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะหลักในการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือภัยพิบัติในระดับครอบครัว ดังนี้ เตรียมเครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์หรือของใช้ที่จำเป็น เช่น มีด เชือก ยารักษาโรค ไฟฉาย ให้พอใช้อย่างน้อย ๓ วัน พกกระเป๋าที่บรรจุเอกสารสำคัญ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน สูติบัตร ติดตัวไว้ตลอดเวลา จัดเตรียมถุงอุปกรณ์ฉุกเฉินให้พร้อมใช้งานได้ทันทีที่เกิดภัยพิบัติ และถ่ายสำเนาเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต บัตรประกันสังคม ฯลฯ ไว้หลายๆชุดและเก็บไว้ในที่ปลอดภัยตามจุดต่างๆของบ้าน เรียนรู้ตำแหน่งและศึกษาวิธีการเปิดปิดของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ตำแหน่งประตูน้ำ (Valve) และคัตเอาท์ไฟฟ้า วาว์ลถังก๊าซ อีกทั้งควรศึกษาสถานที่ตั้งของสถานีตำรวจและสถานีดับเพลิงในพื้นที่ รวมทั้งสำรองเงินสดไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากถ้าไม่มีไฟฟ้า เครื่องบริการเงินด่วน (ATM) จะไม่สามารถทำงานได้ อีกทั้งควรจดชื่อ — นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ของสมาชิกในครอบครัว หรือญาติที่อยู่ต่างจังหวัด เพื่อใช้สำหรับติดต่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น เสียชีวิต สูญหาย เป็นต้น หากมีเด็กอาศัยอยู่ ให้เขียนชื่อ — นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ผู้ปกครอง ติดไว้กับเสื้อผ้าของเด็ก เพื่อป้องกันการพลัดหลงจากการอพยพหนีภัย กรณีสมาชิกในครอบครัวพูดภาษาไทยไม่ได้ ให้เตรียมแผ่นการ์ดเขียนเป็นภาษาไทยระบุชื่อบุคคล ที่อยู่ และความต้องการพิเศษ เช่น โรคประจำตัว อาการแพ้ยา พกติดตัวไว้ตลอดเวลา สำหรับหัวหน้าครอบครัวควรวางแผนรับมือภัยพิบัติ และสอนให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวเรียนรู้เส้นทางหนีภัย พื้นที่ปลอดภัย และการช่วยเหลือตนเองในเบื้องต้นอย่างปลอดภัย หมั่นฝึกซ้อมการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติและการอพยพหลบภัยตามเส้นทางที่ปลอดภัยอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยปีละ ๒ ครั้ง รวมทั้งกำหนดสถานที่ปลอดภัยภายในที่อยู่อาศัยเผื่อไว้หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน อีกทั้งกำหนดเส้นทางอพยพหรือจุดนัดพบที่ปลอดภัยภายหลังภัยพิบัติสิ้นสุดลง จัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้มีความปลอดภัย ด้วยการหมั่นซ่อมแซมโครงสร้างอาคารบ้านเรือนให้มีความมั่นคงแข็งแรง มีประตูทางออกหลายด้าน และจัดวางสิ่งของให้เป็นระเบียบไม่กีดขวางเส้นทางออกบริเวณประตู บันได หรือระเบียงบ้าน ในกรณี ที่เกิดภัยพิบัติ ควรให้ความช่วยเหลือเด็กและผู้สูงอายุก่อน รวมทั้งรีบอพยพออกจากพื้นที่เกิดภัยอย่างเร่งด่วน อย่ามัวแต่ห่วงทรัพย์สิน เพราะชีวิตมีความสำคัญมากกว่า จะเห็นได้ว่า ปัญหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น การเตรียม ความพร้อมรับมือภัยพิบัติในระดับครอบครัว จึงถือเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้
    <!-- / message -->
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ต้นแบบสุขาลอยน้ำ
    (ดัดแปลงทำเป็นบ้านลอยน้ำได้)

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สุขาลอยน้ำ ออกแบบและจัดสร้างโดย วิทยาลัยเทคนิคนครสวรรค์

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF0814.jpg
      DSCF0814.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.3 KB
      เปิดดู:
      2,011
    • DSCF0789.jpg
      DSCF0789.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.6 KB
      เปิดดู:
      65
    • DSCF0809.jpg
      DSCF0809.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.9 KB
      เปิดดู:
      63
    • DSCF0818.jpg
      DSCF0818.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.2 KB
      เปิดดู:
      1,749
    • DSCF2820.jpg
      DSCF2820.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.2 KB
      เปิดดู:
      67
    • DSCF2825.jpg
      DSCF2825.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.2 KB
      เปิดดู:
      69
    • DSCF2827.jpg
      DSCF2827.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.2 KB
      เปิดดู:
      61
    • DSCF2830.jpg
      DSCF2830.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.8 KB
      เปิดดู:
      94
    • DSCF2863.jpg
      DSCF2863.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.3 KB
      เปิดดู:
      62
    • DSCF2867.jpg
      DSCF2867.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.1 KB
      เปิดดู:
      65
    • DSCF2870.jpg
      DSCF2870.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.4 KB
      เปิดดู:
      69
    • DSCF2871.jpg
      DSCF2871.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.6 KB
      เปิดดู:
      60
    • DSCF2872.jpg
      DSCF2872.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.3 KB
      เปิดดู:
      1,730
    • %20_0001.jpg
      %20_0001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.6 KB
      เปิดดู:
      123
    • %20_0001%20(2).jpg
      %20_0001%20(2).jpg
      ขนาดไฟล์:
      31 KB
      เปิดดู:
      109
    • %20_0001%20(3).jpg
      %20_0001%20(3).jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.6 KB
      เปิดดู:
      96
    • %20_0001%20(4).jpg
      %20_0001%20(4).jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.7 KB
      เปิดดู:
      2,289
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    บ้านลอยน้ำแบบต่างๆ
    (ถึงน้ำจะท่วมสูงสักแค่ไหนก็ไม่หวั่น)

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรือนแพแบบต่างๆ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ที่มา ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เทียนไขสมุนไพรไล่ยุงที่ทำจาก"มะกรูด"

    [​IMG]

    ปัจจุบันถ้าจะพูดถึงสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค สัตว์อันดับต้นๆที่เราคิดคงหนีไม่พ้น "ยุง" เนื่องจากยุงเป็นพาหะนำโรคร้ายต่างๆ ที่คร่าชีวิตคนเป็นจำนวนมาก อาทิ โรคมาลาเรีย โรคไข้เลือดออก นอกจากนั้น ยุงยังเป็นตัวก่อความรำคาญให้แก่มนุษย์ จึงได้มีการใช้สารเคมีนานาชนิดในการปราบยุง ก็นับว่าเป็นวิธีที่ดี แต่ผลข้างเคียงจากการใช้สารสังเคราะห์เหล่านั้นย้อนกลับมาส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและยังผลมาถึงมนุษย์ในที่สุด

    จากการศึกษาพบว่า มีสมุนไพรบางชนิดสามารถกำจัดยุงได้ ข้าพเจ้าและเพื่อนๆจึงได้ศึกษาพีชสมุนไพรพื้นบ้านที่หาได้ง่ายและมีราคาถูก ซึ่งก็คือ "มะกรูด" พบว่าเปลือกผิวมะกรูดมีสารจำพวกน้ำมันหอมระเหย a mysterious flora-citrus aroma ที่สามารถไล่ยุงได้ และจากการทดลองเพิ่มเติม เราสามารถนำน้ำมันหอมระเหยนั้นมาใช้ในรูปผลิตภัณฑ์เทียน โดยให้มีส่วนผสมของผิวเปลือกมะกรูดปั่นละเอียด 14% ซึ่งจะได้เทียนที่มีประสิทธิภาพในการไล่ยุงมากที่สุด ส่วนวิธีการทำนั้นก็ง่าย เหมือนการทำเทียนธรรมดาทั่วๆไป เพียงแต่เราเติมผงผิวเปลือกมะกรูดเข้าไปเท่านั้น จากเทียนธรรมดาที่ให้เพียงแค่แสงสว่าง กลับสามารถไล่ยุงได้ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น

    "สิ่งแวดล้อมคือชีวิต" คำกล่าวนี้ยังเป็นจริงเสมอ ในเมื่อวิธีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทำได้ไม่ยากเลย อย่างเช่นการใช้เทียนไขไล่ยุงนี้ ก็ถือเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ใช้ประโยชน์จากพืชให้คุ้มค่า อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้คนไทยใช้ของไทย ที่มาจากความคิดและภูมิปัญญาของคนไทยล้วนๆ จากวัตถุดิบที่หาได้ง่ายและราคาถูกในประเทศ แทนการซื้อของจากนอกประเทศที่ทำให้เงินตรารั่วไหลและเสียดุลการค้า


    ประโยชน์
      1. ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น
      2. ตระหนักถึงคุณค่าของพรรณพืช เราสามารถใช้พืชให้เป็นประโยชน์ได้หลายด้าน
      3. ได้รับประโยชน์จากแสงเทียนและสามารถไล่ยุงไปพร้อมๆกัน
      4. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้สารเคมีไล่ยุง
    ขั้นตอนการทำเทียน
    1. นำผิวเปลือกมะกรูดไปตากแดดทิ้งไว้จนแห้ง (ประมาณ 2 วัน) แล้วปั่นละเอียด
    2. ใส่น้ำลงในหม้อต้มน้ำให้ร้อน
    3. ใส่เนื้อเทียนลงไป ในกระป๋อง 43 กรัม คนเนื้อเทียนในกระป๋อง ให้ละลาย
    4. เมื่อเทียนละลายแล้ว ใส่ผิวเปลือกมะกรูดแห้งปั่น 7 กรัม ลงไปในกระป๋อง
    5. ใช้คีมจับกระป๋อง เทน้ำเทียนลงในแม่พิมพ์ที่ใส่ไส้เทียนและทาด้วยน้ำมันไว้แล้ว ตั้งแม่พิมพ์ในแนวนอนให้ตกตะกอนข้างใดข้างหนึ่ง ทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงให้เทียนแห้งสนิท แล้วแกะแม่พิมพ์ออก
    น.ส. อัมพา สมศักดิ์
    ร.ร. เตรียมอุดมศึกษา

    ที่มา http://ecurriculum.mv.ac.th/library2/lobrary/thailiterature/10000-7353.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 302.jpg
      302.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.9 KB
      เปิดดู:
      2,253
    • aedes1.gif
      aedes1.gif
      ขนาดไฟล์:
      104 KB
      เปิดดู:
      109
    • MNewsImages_41322.jpg
      MNewsImages_41322.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.8 KB
      เปิดดู:
      63
    • MNewsImages_41427.jpg
      MNewsImages_41427.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.4 KB
      เปิดดู:
      114
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2008
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE width=614 align=center><TBODY><TR><TD class=style1 width=403>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    ผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ชีวภาพ MMO ตราแม่โจ้
    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    [​IMG]
    หัวเชื้อจุลินทรีย์ MMO สูตร1 ราคา 60 บาท

    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    [​IMG]
    หัวเชื้อจุลินทรีย์ MMO สูตร 2 ราคา 100 บาท
    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    [​IMG]
    หัวเชื้อจุลินทรีย์ MMO สูตร 3 ราคา 60 บาท
    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    [​IMG]
    กากน้ำตาล ราคา 10 บาท
    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    [​IMG]
    จุลินทรีย์ก้อนบำบัดน้ำเสีย ราคา 10 บาท
    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    [​IMG]
    จุลินทรีย์กำจัดกลิ่น ราคา 20 บาท
    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    [​IMG]
    จุลินทรีย์ขับไล่แมลง ราคา 30 บาท
    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    [​IMG]
    ตะไคร้หอมกลั่นกับ MMO ราคา 30 บาท
    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    [​IMG]
    ตะไคร้หอมกันยุง ราคา 80 บาท
    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    [​IMG]
    น้ำยาทำความสะอาดจากผิวส้ม ราคา 15 บาท
    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    [​IMG]
    สมุนไพรขับไล่แมลง ราคา 20 บาท
    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    [​IMG]
    สารสกัดชีวภาพจากหอยเชอรี่ ราคา 40 บาท
    </TD></TR><TR><TD class=style1>
    [​IMG]
    ฮอร์โมนจากผลไม้สุก ราคา 20 บาท
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพ และสถาบันบริการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50290 Fax 0-5387-3841 Tel 0-53873842

    ที่มา http://www.mju.ac.th/biotech/Biotech_mic.html

    หมายเหตุ จุลินทรีย์ บำบัดน้ำเสียและกำจัดกลิ่น ใช้กับสุขาลอยน้ำได้ครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF0814.jpg
      DSCF0814.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.3 KB
      เปิดดู:
      120
    • DSCF0818.jpg
      DSCF0818.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.2 KB
      เปิดดู:
      11,140
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    หัวเชื้อจุลินทรีย์ MMO สูตร 3

    [​IMG]


    - กำจัดกลิ่นเหม็นทุกชนิด ปลอดภัยทั้งผู้ใช้และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
    - ดับกลิ่นห้องน้ำ ,โถส้วม ,อ่างล้างมือ
    - พื้นที่มีกลิ่นเหม็น , กระเบื้องปูพื้น
    - แหล่งน้ำเสีย , น้ำเน่าเหม็น
    - แก้ปัญหาถังส้วมตัน ไม่ต้องสูบทิ้งบ่อยๆ
    - เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโรงงาน,ตลาดสดที่มีกลิ่นเหม็น เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
    - เป็นหัวเชื้อเข้มข้นมากกว่า 20 เท่าของน้ำยาที่ต่อเชื้อแล้ว

    ศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพ และสถาบันบริการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50290 Fax 0-5387-3841 Tel 0-53873842

    ที่มา
    http://www.mju.ac.th/biotech/Biotech_mic.html
     
  9. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    เมื่อคืน ไฟดับ น้ำประปา ไม่ไหล บอกได้เลยว่าควรจะเตรียมอะไร

    อย่างน้อย ถ้าไฟดับ สามสี่วัน ก็ ถ่านไฟฉาย นี่ล่ะครับ

    สำหรับผม ผมอยู่ใน อพาร์ตเม้นท์ ถ้าไฟดับ ที ร้อนก็ร้อน

    ตัดไปเลย เรื่อง ตะเกียงแก๊ส (Kovea 894) ใช้ ไฟฉายจานบิน ดีกว่า ซื้อมา สัก 4 ดวง ก็สว่างแล้ว อันแค่ร้อยกว่าบาท

    ใช้ตะเกียงแก๊ส มันร้อนมากครับ เก็บกระป๋องแก็ส ไว้ใช้กับ เตาแก๊สดีกว่า

    ถ่านไฟฉาย ก็ซื้อมาตุนเยอะๆ หน่อย จะยี่ห้ออะไรก็ได้ แต่อัลคาไรท์ ก็ดี อยู่ได้นานครับ
     
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=blog cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">สิ่งที่ควรปฎิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>[​IMG]
    ช่วงนี้ มีเหตุการณ์สะเทือนขวัญใหญ่เกิดขึ้นใกล้ๆ กันถึงสองครั้ง เป็นภัยธรรมชาติที่มนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างเราๆ
    ไม่มีทางป้องกันได้เลย ไม่ว่าจะเป็นพายุไต้ฝุ่นหรือแผ่นดินไหว
    ผมอ่านจากข่าว ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตน่าจะประมาณแสนคนแล้วทั้งประเทศพม่าและประเทศจีน
    พอดีผมได้รับ forware email เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฎิบัติตนเกี่ยวกับแผ่นดินไหว
    เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนสมาชิกทุกคน อย่างน้อยเราอ่านผ่านตาไว้บ้างก็ดีครับ
    เพราะว่า ภัยพิบัติทั้งสองนั้น ผมว่ามันใกล้ๆ เมืองไทยยังไงก็ไม่รู้ครับ ยังไงก็อย่าประมาทนะครับ
    พูดถึงไฟฉาย ผมว่าคนส่วนมากในเมืองไทย ไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไหร่นัก
    อาจจะเป็นเพราะว่า ประเทศเราไม่มีภัยธรรมชาติร้ายแรงแบบประเทศอื่นๆ เค้า
    ไฟฉายในสายตาของคนทั่วไปในเมืองไทยนั้น คงเป็นแค่แสงสว่างธรรมดาๆ เท่านั้น
    แต่สำหรับคนในประเทศที่มีภัยธรรมชาติเกิดบ่อยๆ นั้น เค้าให้ความสำคัญมากเป็นอย่างยิ่ง
    ต้องทนทาน แบตต้องใช้ได้นาน กระพริบขอความช่วยเหลือได้ยิ่งดี และที่สำคัญต้องกันน้ำได้ด้วย
    ลองนึกภาพตามนะครับ เกิดมีพายุฝนจนเกิดน้ำท่วม เราอาจจะต้องถือไฟฉายดำน้ำออกจากชั้นล่าง
    เกิดแผ่นดินไหว ไฟฉายก็ควรจะกันกระแทกและกระพริบขอความช่วยเหลือได้ถ้าหากเราเกิดติดในซอกตึก
    ผมจึงแนะนำ คนรู้จักของผมเสมอว่า อย่างน้อยมีไฟฉายดีๆ ติดบ้านไว้บ้าง
    ไม่ใช่มีแต่ไฟฉายโบราณ ตกพื้นก็หลอดขาด แสงก็ริบหรี่เหลือเกิน แบตก็ใช้ได้แปลบเดียว
    แถมแช่น้ำก็ไม่ได้ น้ำเข้า ไฟช็อตอีก
    สุดท้าย ขอภาวนาอย่าให้เหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นในเมืองไทยเลยครับ
    <HR>ก่อนการเกิดแผ่นดินไหว
    1. ควรมีไฟฉายพร้อมถ่านไฟฉาย และกระเป๋ายาเตรียมไว้ในบ้าน และให้ทุกคนทราบว่าอยู่ที่ไหน
    2. ศึกษาการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
    3. ควรมีเครื่องมือดับเพลิงไว้ในบ้าน เช่น เครื่องดับเพลิง ถุงทราย เป็นต้น
    4. ควรทราบตำแหน่งของวาล์วปิดน้ำ วาล์วปิดก๊าซ สะพานไฟฟ้า สำหรับตัดกระแสไฟฟ้า
    5. อย่าวางสิ่งของหนักบนชั้น หรือหิ้งสูง ๆ เมื่อแผ่นดินไหวอาจตกลงมาเป็นอันตรายได้
    6. ผูกเครื่องใช้หนัก ๆ ให้แน่นกับพื้นผนังบ้าน
    7. ควรมีการวางแผนเรื่องจุดนัดหมาย ในกรณีที่ต้องพลัดพรากจากกัน เพื่อมารวมกันอีกครั้ง ในภายหลัง
    8. สร้างอาคารบ้านเรือนให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว

    ระหว่างเกิดแผ่นดินไหว
    1. อย่าตื่นตกใจ พยายามควบคุมสติอยู่อย่างสงบ ถ้าท่านอยู่ในบ้านก็ให้อยู่ในบ้าน ถ้าท่านอยู่นอกบ้านก็ให้อยู่นอกบ้าน เพราะส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเพราะวิ่งเข้าออกจากบ้าน
    2. ถ้าอยู่ในบ้านให้ยืนหรือมอบอยู่ในส่วนของบ้านที่มีโครงสร้างแข็งแรง ที่สามารถรับน้ำหนัก ได้มาก และให้อยู่ห่างจากประตู ระเบียง และหน้าต่าง
    3. หากอยู่ในอาคารสูง ควรตั้งสติให้มั่น และรีบออกจากอาคารโดยเร็ว หนีให้ห่างจากสิ่งที่จะล้มทับได้
    4. ถ้าอยู่ในที่โล่งแจ้ง ให้อยู่ห่างจากเสาไฟฟ้า และสิ่งห้อยแขวนต่าง ๆ ที่ปลอดภัยภายนอกคือที่โล่งแจ้ง
    5. อย่าใช้ เทียน ไม้ขีดไฟ หรือสิ่งที่ทำให้เกิดเปลวหรือประกายไฟ เพราะอาจมีแก๊สรั่วอยู่บริเวณนั้น
    6. ถ้าท่านกำลังขับรถให้หยุดรถและอยู่ภายในรถ จนกระทั่งการสั่นสะเทือนจะหยุด
    7. ห้ามใช้ลิฟท์โดยเด็ดขาดขณะเกิดแผ่นดินไหว
    8. หากอยู่ชายหาดให้อยู่ห่างจากชายฝั่ง เพราะอาจเกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาฝั่ง

    หลังเกิดแผ่นดินไหว
    1. ควรตรวจตัวเองและคนข้างเคียงว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ให้ทำการปฐมพยาบาลขั้นต้นก่อน
    2. ควรรีบออกจากอาคารที่เสียหายทันที เพราะหากเกิดแผ่นดินไหวตามมาอาคารอาจพังทลายได้
    3. ใส่รองเท้าหุ้มส้นเสมอ เพราะอาจมีเศษแก้ว หรือวัสดุแหลมคมอื่น ๆ และสิ่งหักพังแทง
    4. ตรวจสายไฟ ท่อน้ำ ท่อแก๊ส ถ้าแก๊สรั่วให้ปิดวาล์วถังแก๊ส ยกสะพานไฟ อย่าจุดไม้ขีดไฟหรือก่อไฟจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีแก๊สรั่ว
    5. ตรวจสอบว่า แก๊สรั่ว ด้วยการดมกลิ่นเท่านั้น ถ้าได้กลิ่นให้เปิดประตูหน้าต่างทุกบาน
    6. ให้ออกจากบริเวณที่สายไฟขาด และวัสดุสายไฟพาดถึง
    7. เปิดวิทยุฟังคำแนะนำฉุกเฉิน อย่าใช้โทรศัพท์ นอกจากจำเป็นจริง ๆ
    8. สำรวจดูความเสียหายของท่อส้วม และท่อน้ำทิ้งก่อนใช้
    9. อย่าเป็นไทยมุงหรือเข้าไปในเขตที่มีความเสียหายสูง หรืออาคารพัง
    10. อย่าแพร่ข่าวลือ

    แหล่งข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วิธีเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติ

    [​IMG]


    น้องๆ คงจะสังเกตได้ใช่ไหมครับว่า เดี๋ยวนี้ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยมากๆ ทั่วทุกภูมิภาคของโลก ซึ่งส่วนหนึ่งก็เกิดจากน้ำมือของมนุษย์เราเองที่ไปเร่งให้ปรากฏการณ์เหล่านี้เกิดเร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี การเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติเหล่านี้ก็เป็นเรื่องสำคัญมากๆ เช่นกันครับ มาดูกันเลยครับผม

    แผ่นดินไหว

    หากอยู่ในบ้านขณะเกิดแผ่นดินไหว ต้องป้องกันบริเวณศีรษะเอาไว้ พยายามหาที่หลบใต้โต๊ะหรือหาหมอนมาบังศีรษะเอาไว้ หรือวางมือเปล่าไว้เหนือศรีษะนิดๆ อย่ารีบร้อนออกจากบ้านเพราะอาจมีอันตรายจากของตกจากที่สูงและล้มทับ ถ้าอยู่ใกล้ประตู หน้าต่างให้เปิดทิ้งไว้ก่อนแต่อย่าไปอยู่ใกล้ๆ ที่หลบภัยในบ้านควรจะเป็นห้องเล็กๆที่มีเสารองรับเยอะๆ อย่างห้องน้ำ และพยายามคิดหาทางหนีภัยด้วยครับ อย่าตกใจ

    กรณีอยู่นอกบ้าน สถานที่ที่ปลอดภัยคือสวน หรือพื้นที่โล่งกว้าง อย่าวิ่งเข้าบ้านหรือตึกที่ไม่น่าไว้ใจในความแข็งแรง อย่าอยู่ใกล้ชายหาดเพราะโอกาสเกิดคลื่นใหญ่ซัดชายฝั่งมีสูง กรณีอาศัยอยู่บนตึกสูง ให้รีบหนีออกมาทันทีโดยระวัง อย่าใช้ลิฟท์เด็ดขาดเพราะไฟอาจดับ ทำให้น้องมีโอกาสติดอยู่ในลิฟท์มีสูงมาก ห้ามทำกิจกรรมใดๆ ที่ทำให้เกิดประกายไฟ เพราะอาจมีก๊าซรั่วซึมอยู่บริเวณนั้นครับ

    น้ำท่วม โคลนถล่ม

    อย่างแรกเลยคือ น้องๆ ควรติดตามข่าวพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงที่มีฝน เมื่อมีการเตือนภัยให้อพยพ ควรอพยพไปอยู่ในที่สูงหรืออาคารที่มั่นคงแข็งแรง ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ไว้ในที่ที่พ้นน้ำโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า ถ้าอยู่ในพื้นที่ราบใกล้ภูเขาให้ระวังน้ำป่าไหลหลากให้ดี เพราะกระแสน้ำจะมีความรุนแรงมาก ระวังอย่าสัญจรไปมาบนทางเลียบภูเขาช่วงที่ฝนตกหนัก โอกาสเกิดดินโคลนถล่มมีสูงมาก บอกคุณพ่อคุณแม่ อย่าขับรถลงไปในกระแสน้ำหลากแม้จะบนพื้นถนนก็ตามครับ หลังน้ำท่วมระวังโรคระบาดด้วยครับ ทั้งเชื้อราและโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นน้ำควรต้มก่อนดื่มทุกครั้งครับ

    พายุไต้ฝุ่น

    เช่นเดียวกันครับ ควรติดตามข่าวพยากรณ์อากาศให้ดี เตรียมอพยพไปยังที่หลบภัยที่ทางรัฐเตรียมไว้ให้ หรืออาคารที่มีความมั่นคงแข็งแรง ตรวจสอบว่ารอบบริเวณบ้านมีสิ่งของที่อาจจะปลิวหรือไม่ ของชิ้นเล็ก หรือกระถางต้นไม้ ถ้าเป็นไปได้ให้เก็บในบ้าน อีกทั้งควรตัดไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านก่อน เตรียมไฟฉายหรือเทียนไขแทน หากเกิดพายุขณะอยู่ในบ้าน ระวังอย่าออกไปข้างนอกบ้านเด็ดขาด อย่าอยู่ใกล้รั้วบ้านหรือกำแพง ให้หลบอยู่ในห้องเล็กๆ ที่แข็งแรงที่สุดเช่นเดียวกันครับ

    ไฟป่า

    เมื่อเกิดไฟไหม้ หรือไฟป่า ให้หลบหนีออกมาจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็วที่สุด หากอยู่ในอาคารสูงอย่าใช้ลิฟท์ ให้ใช้บันใดหนีไฟ ระวังอย่าสูดควันไฟและควรหลบให้พ้นจากสิ่งของติดไฟ ที่อาจหล่นลงมาทำให้เกิดอันตราย หรือหากพอมีเวลาจะใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดปิดจมูกแล้วรีบหลบหนีออกมา กรณีไฟป่าให้อพยพไปยังสถานที่หลบภัยที่ทางรัฐเตรียมไว้ให้ครับ

    ที่มา http://forum.mthai.com/view_topic.php?table_id=1&cate_id=34&post_id=20195
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    บัญญัติ 10 ประการในอาคารสูง

    [​IMG]


    ความรู้เบื้องต้นเพื่อพ้นอัคคีภัย

    <TABLE style="MARGIN-TOP: 0px; MARGIN-BOTTOM: 0px; LINE-HEIGHT: 120%" cellSpacing=2 cellPadding=2 width=766 align=center><TBODY><TR><TD width=589 height=158>
    เด็กดับไฟปลอดภัย 10 วิธี
    ความรู้เบื้องต้นเพื่อพ้นอัคคีภัย
    <CENTER><TABLE style="MARGIN-TOP: 0px; MARGIN-BOTTOM: 0px; LINE-HEIGHT: 120%" borderColor=#cccccc cellSpacing=2 cols=5 borderColorDark=white cellPadding=2 width=600 bgColor=#ffffcc borderColorLight=#999999 border=1><TBODY><TR><TD width=103 height=34>
    ไม้ขีดห้ามเล่น
    </TD><TD width=101 height=34>
    ใช้เป็นเครื่องไฟฟ้า
    </TD><TD width=91 height=34>
    เตรียมท่าไว้หนี
    </TD><TD width=90 height=34>
    ฝึกดีจึงปลอดภัย
    </TD><TD width=115 height=34>
    หนีไฟต้องตรวจสอบ
    </TD></TR><TR><TD width=103><CENTER>คลานหมอบใต้ควัน</CENTER>
    </TD><TD width=101><CENTER>บอกกันให้ทั่ว</CENTER>
    </TD><TD width=91><CENTER>รวมตัวจุดหมาย</CENTER>
    </TD><TD width=90><CENTER>ดับไฟท่วมตัว</CENTER>
    </TD><TD width=115><CENTER>อย่ากลัวเมื่อติดกับ</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>​
    <CENTER><TABLE style="MARGIN-TOP: 0px; MARGIN-BOTTOM: 0px; LINE-HEIGHT: 120%" borderColor=#cccccc cellSpacing=2 borderColorDark=white cellPadding=2 width=766 bgColor=#ffffff borderColorLight=#999999 border=1><TBODY><TR><TD width=176 bgColor=#ffffff>
    [​IMG]
    </TD><TD width=570>
    1.) ไม้ขีดห้ามเล่น ( Matches and Lighters are tools not toy)
    เด็กๆ ทั้งหลายจงจำไว้ว่า ไม้ขีดและไฟแช็ค เป็นเครื่องมือสำหรับผู้ใหญ่เด็กๆ ไม่ควร
    นำมาเล่นเพราะอาจทำให้เกิดไฟไหม้
    เสียหายทั้งทรัพท์สินและชีวิตได้ ถ้าพบเห็นเด็กๆเล่นไฟ ต้องรีบยุติโดยเร็ว มิฉะนั้น
    ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบตามกฏหมาย
    </TD></TR><TR><TD width=176 bgColor=#ffffff>
    [​IMG]
    </TD><TD width=570>
    2.)ใช้เป็นเครื่องไฟฟ้า (Use electricity safety)
    ผู้ใหญ่ควรให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้ากับเด็กๆ โดยเฉพาะภยันตราย
    และทุกคนต้องคอยระวังสิ่งผิดปกติจากเครื่องไฟฟ้า เช่น มีควันลอยออกมา หรือมีกลิ่นไหม้
    ให้รีบตัดกระแสไฟฟ้า แล้วแจ้งผู้รู้ทันที ควรปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งที่เลิกใช้
    </TD></TR><TR><TD width=176>
    [​IMG]
    </TD><TD width=570>
    3. เตรียมท่าไว้หนี (Know at least two ways out of every room)
    ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ไปที่ใดให้มองทางหนีไว้อย่างน้อย 2 ทาง ดูให้แน่ใจว่าทางหนีใช้ได้
    ปลอดภัยพร้อมทั้งดูอุปกรณ์ช่วยชีวิตและอุปกรณ์หนีไฟว่าอยู่ที่ไหน ใช้อย่างไร
    </TD></TR><TR><TD width=176>
    [​IMG]
    </TD><TD width=570>
    4. ฝึกดีจึงปลอดภัย (Practice your escape plan with an exit drill every six months)
    ต้องมีแผน เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน แล้วจัดการฝึกซ้อมทุก 6 เดือน
    ในแผนควรมีขั้นตอน คือ

    พบเหตุ- แจ้งเหตุ- ระงับเหตุ- หนีเหตุ
    </TD></TR><TR><TD width=176 bgColor=#ffffff>
    [​IMG]
    </TD><TD width=570>
    5. หนีไฟต้องตรวจสอบ (Test doors before opening them)
    อยู่ในอาคารที่มีไฟไหม้ จะเปิดประตูต้องระวัง เมื่อมีเหตุเพลิงไหม้ ก่อนออกจากห้อง
    ให้นั่งชันเข่าให้มั่นคงหลังประตู แล้วใช้หลังมือแตะที่ลูกบิดประตู
    ถ้ามีความร้อนสูง อย่าเปิดโดยเด็ดขาด แต่หากไม่ร้อนผิดปกติ
    ให้ค่อย ๆ เปิดออกช้า ๆ โดยใช้ไหล่คอยหนุนประตูไว้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • escape3.jpg
      escape3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      410.4 KB
      เปิดดู:
      4,627
    • escape4.jpg
      escape4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      408.3 KB
      เปิดดู:
      131
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2008
  13. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    [​IMG]

    ไปหาเจอมาครับ
    ที่บ้านเรามีเอามาขายแล้ว
    อุปกรณ์ประคบร้อน Therma Plast ให้ความร้อนนาน 8ชั่วโมง นวัตกรรมใหม่เพื่อสุขภาพ จากประเทศญี่ปุ่น



    อุปกรณ์ประคบร้อน Therma Plast ให้ความร้อนนาน 8ชั่วโมง นวัตกรรมใหม่เพื่อสุขภาพ จากประเทศญี่ปุ่น อาการเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นกับตัวคุณหรือคนที่คุณรัก :อาการปวดตามร่างกาย ปวดต้นคอ ปวดไหล่ ปวดแขน ปวดเอว ปวดสะโพก ปวดประจำเดือน ปวดต้นขา ปวดเข่า ปวดน่อง อาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เจ็บกล้ามเนื้อจากการเล่นกีฬา อาการเคล็ดขัดยอก ภาวะหนาวเย็น อาการครั่นเนื้อครั่นตัว อาการหนาวเย็น เดินป่า เดินทางไปต่างประเทศ หิมะตก หลักการทำงานของ Therma Plast:เทอร์มา พลาสท์ หรือ Air Activated Heat Pack เมื่อแกะ ออกจากถุงพลาสติกที่หุ้มไว้ สัมผัสกับ อากาศ จะเกิดความร้อน โดยผงเหล็กเฟอรัส (Ferrous) ซึ่งปนอยู่กับ ผงถ่านคาร์บอน จะทำปฏิกิริยา ทางเคมี กับออกซิเจน ในอากาศภายใน 15 นาที เกิดเป็นผงเหล็กเฟอริค (Ferric) ทำให้เกิดความร้อนขึ้น โดยความร้อนที่เกิดขึ้น จะยาวนาน ติดต่อกันมากกว่า 8-10 ชั่วโมง
    ...
    ซึ่งเวลาไปเจออากาศหนาวมาก ให้เอาแผ่นนี้แปะไว้หน้าท้องครับ
    ราคาที่เอามาขายเมืองไทย ซองหนึ่ง สามแผ่น 550 บาทครับ
     
  14. ยาล้างตา

    ยาล้างตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +3,539
    ใช้ไม่ถึง 8 ชั่วโมงหรอกครับ เคยทดลองดู 3 ชั่วโมงก็หายร้อนแล้ว
    :z12
     
  15. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    สงสัย 3แผ่น คูณ 3 มั้งครับ
    555
     
  16. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,633
    หินไฟที่ใช้ขีดจุดไฟ ที่ทหารคอมมานโดอังกฤษใช้ มีขายที่ไหน ราคาเท่าใด
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การใช้รอกหนีไฟ

    [​IMG]

    การใช้รอกหนีไฟFire Escape Device(A2 เพื่อฝึกใช้รอกหนีไฟ)

    รอกหนีไฟ
    FireEscape Device
    [​IMG]

    คืออุปกรณ์ ลักษณะเหมือนรอกใช้เพื่อนำคนหรือสิ่งของลงจากที่สูง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินโดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ (บางชนิดอาจนำขึ้นได้)โดยมีเข็มขัดรัดตัวอยู่ปลายเชือก และระบบของรอกจะมีเบรคอัตโนมัติเพื่อนำคนหรือสิ่งของนั้นลงด้วยความเร็วที่ปลอดภัย

    ส่วนประกอบของรอกหนีไฟ

    1) ตัวรอก ทำด้วยโลหะที่แข็งแรงข้างในมีระบบเฟืองทด และตัวเบรค เพื่อช่วยลดความเร็ว (ตัวเฟืองนั้นควรเป็นโลหะที่เหมาะสม
    จะมีอายุใช้งานนานบางยี่ห้อใช้เฟืองพลาสติคเพื่อการใช้งานเพียง 2-3 ครั้ง )

    2) สายเคเบิ้ล (Cable)เส้นแกนกลางเป็นลวดสลิงหุ้มด้วยไนลอน หรือฝ้ายมีความยาวเหมาะสมกับความสูงของอาคารปกติจะใช้ต่ำสุด 15 เมตร (5 ชั้น)และสูงสุดไม่เกิน 30 เมตร(10 ชั้น)(ความยาวมากกว่านี้สามารถสั่งพิเศษได้ แต่ไม่นิยมเพราะการใช้รอกหนีไฟ จะใช้นำลงแค่ข้ามช่วงเหตุไฟไหม้ระยะไม่ห่างกันมากนัก)

    3) เข็มขัดรัดตัว (Harness)ใช้คล้องไว้ใต้แขนระหว่างอก และมีแถบโลหะเพื่อรูดกระชับจะมี 1 ชุดอยู่ที่ตัวรอก สำหรับ รอกทางเดียวและมี 2 ชุดอยู่ปลายสายเคเบิ้ลทั้ง 2 ข้างของรอกสองทาง

    4) ห่วงคล้อง (Eyebolt)ต้องยึดเหนี่ยวอย่างแข็งแรงอยู่กับอาคารสถานที่ควรติดตั้งให้สูงเกิน 2 เมตร (ไม่ควรสูงเกินเอื้อมถึง)หลังจากติดตั้งรอกเข้ากับห่วงคล้องนี้แล้ว ตัวรอกจะต้องอยู่สูงกว่าศีรษะของผู้ประสบภัย

    ชนิดของรอกหนีไฟ


    ถ้าแบ่งชนิดของรอกหนีไฟตามจำนวนการใช้ต่อครั้งจะแบ่งเป็น2 ชนิดคือ

    1) ชนิดใช้ได้คราวละครั้งเดียวคนเดียวเมื่อใช้เสร็จแล้วต้องนำส่งผู้จำหน่ายไปทำการกรอกลับคืนในประเทศไทยมีขายอยู่2 ยี่ห้อคือExit Traveler และSky Line
    2) ชนิดที่ใช้ได้หลายครั้งซึ่งแบ่งออกเป็น2 แบบคือแบบลงทางเดียวและลง2 ทางซึ่งทั้งสองแบบนี้มีส่วนประกอบเหมือนกันสามารถปรับเปลี่ยนไปมาได้

    2.1แบบลงทางเดียวรอกชนิดนี้เหมาะที่จะใช้สำหรับการกู้ภัยหรือการหนีไฟเฉพาะคน

    [​IMG]
    ลักษณะรอก

    2.1.1 ปลายสายเคเบิ้ลทั้ง2 ข้าง

    2.1.2 เข็มขัดรัดตัวติดกับตัวรอกคนจะลงพร้อมกับรอกติดห่วงคล้องเพื่อยึดติดกับอาคาร

    วิธีใช้
    ก.นำชุดรอกมาคล้องปลายสายเคเบิ้ลเข้ากับห่วงคล้องหรือสิ่งยึดเหนี่ยว แข็งแรงที่ควรอยู่สูงกว่าศีรษะของผู้จะลง
    ข. โยนสายเคเบิ้ลอีกปลายลงสู่เบื้องล่าง
    ค. นำเข็มขัดรัดตัว ซึ่งติดอยู่กับรอกคล้องเข้าใต้แขนระหว่างอก
    ง. นำตัวออกนอกอาคาร และปล่อยตัวลงโดยหันหน้าเข้าหาตึกถ้าต้องการเบรคเพื่อหยุดระหว่างทางใช้มือยึดดึงสายเคเบิ้ลอีกข้าง
    (ควรสวมถุงมือ)ก็จะสามารถหยุดเพื่อชะลอความเร็วได้(ต้องฝึกฝนจนชำนาญ)
    จ.เมื่อคนแรกลงถึงพื้นคนต่อไปที่จะลง ต้องดึงสาว สายเคเบิ้ลที่ติดกับรอกขึ้นมาข้างบนแล้วสลับห่วงคล้องที่อยู่อีกปลาย
    ยึดติดอาคารและโยนสายเคเบิ้ลที่เหลือลงข้างล่าง
    ฉ.ปฏิบัติตามข้อค. ต่อไป

    2.2 แบบลง 2 ทาง รอกชนิดนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดสามารถใช้งานได้คล่องตัวสะดวก รวดเร็ว และประกอบกับเทคนิคการใช้จะมีความปลอดภัยสูงมักใช้กันมากในโรงพยาบาลโรงแรมและคอนโดมิเนียม

    2.2.ตัวรอกมีห่วงคล้องเพื่อยึดติดกับอาคารควรติดตั้งใช้งานบริเวณ ด้านนอกอาคาร เพื่อให้สายเคเบิ้ลทิ้งดิ่งลงด้านล่างโดยตรง
    2.2.ปลายสายเคเบิ้ลทั้ง 2 ข้าง มีเข็มขัดรัดตัว (Harness)
    2.2.3 มีเชือกต๋งที่คล้องกับห่วงยึดสายรัดตัวทั้ง 2 ข้าง

    วิธีใช้และบุคลากร (เตอร์,ตรึง,ต๋ง,เซฟ)

    ก.(1) นำรอกมาติดตั้งกับห่วงคล้องถาวร ที่ติดยึดอย่างแข็งแรงกับ
    อาคาร( เมื่อคล้องรอกแล้วตัวรอกต้องอยู่สูงกว่าศีรษะของผู้ลง
    ( หรือสูงประมาณ2 เมตร)และสายเคเบิ้ลต้องทิ้งดิ่งอยู่นอก
    อาคาร )ผู้ที่ทำหน้าที่นี้เรียกว่าเตอร์”ซึ่งย่อมาจาก
    JumpMaster ควรมีมากกว่า 1 คนสวมถุงมือหนังอย่างดี

    (2) ติดตั้ง”สายเซฟ” (คือเชือกสำหรับดึงรั้งผู้ประสบภัย หรือผู้ฝึกหัด ไว้กันพลัดตก เป็นลำดับที่ 2 ) โดยปลายข้างหนึ่งติดเข็มขัดรัดตัว (Safetybelt) ผู้ถูกนำลง คล้องผ่านห่วง Snap link พัน 2 รอบ (เพื่อเพิ่มแรงหนืด) โยงลงไปยังเจ้าหน้าที่ “เซฟ”คอยดึงรั้งหากมีข้อผิดพลาด

    ข.“เตอร์” โยนปลายสายเคเบิ้ลที่เหลืออีกด้านหนึ่งลงข้างล่างพร้อมกับ เชือกต๋ง (คือเชือกที่ติดกับเข็มขัดรัดตัวผู้ประสบภัยใช้ดึงร่างผู้ประสบภัย ออกห่างจากตัวอาคารกันการกระทบกระแทก )

    ค.เตอร์” นำผู้ประสบภัย (แม้เป็นผู้ป่วยหมดสติ) มาคล้องกับเข็มขัดรัดตัวที่ใต้แขนระหว่างอกก่อนนำร่างออกนอกอาคารโดยหันหน้าเข้าหาตึก ถ้ามีสติให้ยกเท้าพาดไปทางด้านหลัง ทีละข้าง

    .“ตรึง”ย่อมาจาก ผู้ยึดตรึงดีงสายเคเบิ้ลไว้ให้ตึงเพื่อยึดตรึงร่างผู้ประสบภัย ให้อยู่กับที่ไม่เลื่อนไหลลงเพื่อความปลอดภัย โดย “เตอร์” ออกคำสั่งว่า “ตรึงดึง”, ตรึง” ต้องยึดตรึงไม่ให้คนเคลื่อนที่ลง แล้วตอบว่า “พร้อม”เตอร์
    ออกคำสั่งว่า“พร้อม”หรือ“Stable” (สเตเบิล)

    จ.ต๋งผู้ทำหน้าที่ดึงเชือกต๋งซึ่งปลายยึดติดกับเข็มขัดรัดตัวผู้ประสบภัยคอยฟังคำสั่งจาก “เตอร์”เมื่อ“เตอร์”สั่งให้ตรึงดึงและStableแล้วจึงสั่งให้ “ต๋งดึง”หมายความว่าต๋งดึง ร่างผู้ประสบภัย ให้ห่างจากอาคารเมื่อต๋งดึงแล้วให้พูดว่า“พร้อม”

    ฌ.“เตอร์”สั่งต่อว่า“ตรึงปล่อย”ผู้ยึดตรึงปล่อยสายเคเบิ้ลที่ยึดอยู่ทันทีไม่ต้องค่อยๆ ผ่อน เพราะตัวรอกมีเบรคอัตโนมัติร่างของผู้ประสบภัยจะเคลื่อนที่ลงจนถึงพื้นอย่างปลอดภัยเพียงแต่“เตอร์”ต้องคอยจัดสายเคเบิ้ลไม่ให้ไปเสียดสีกับร่างผู้ประสบภัย

    ช.ผู้ประสบภัยคนแรกถึงพื้นปลายสายเคเบิ้ลที่มีเข็มขัดรัดตัวฝั่งตรงข้าม จะขึ้นไปข้างบน เพื่อพร้อมรับผู้ประสบภัยคนต่อไป โดยวิธีเดิม

    ข้อควรระวัง

    1. พึงจำไว้ว่า“ตรึง(ต้อง)ดึง(ให้เชือก)ตึง(จนเข็มขัดคล้องลำตัวกระชับและแขนผู้ประสบภัยทิ้งดิ่งข้างกายแล้ว)ต๋ง(จึง)ดึง(แล้ว) ตรึง(จึง)ปล่อยสรุปเป็นคำสั่งที่กระชับคือ"ตรึงดึงตึงพร้อมต๋งดึงตรึงปล่อย"

    2. และที่สำคัญที่สุดคือทุกคนที่จะทำหน้าที่ช่วยชีวิตคนอื่นต้องได้รับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจนชำนาญมีความมั่นใจในเครื่องมือและฝีมือ100 เปอร์เซ็นต์ตลอดเวลา(ต้องมีวุฒิบัตรรับรอง)

    3. อย่าประมาทเลินเล่อหรือล้อเล่น

    4. ตรวจตราอุปกรณ์ทุกชิ้นส่วนให้ปลอดภัยก่อนใช้งานและไม่ใช้รอกต่อเนื่องนานเกินไป(ความสูง3 ชั้นไม่เกิน10 ครั้ง)เพราะจะเกิดความร้อนสูงจนอุปกรณ์ได้รับความเสียหาย

    5. ทำบันทึกการฝึกซ้อม(Log Book) ทุก1.ครั้งเพื่อให้ทราบจำนวนการใช้งาน(เพื่อหาความสึกหรอ) หากได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีสามารถใช้ได้ไม่ต่ำกว่า500 ครั้ง(ข้อกำหนดจากโรงงาน100 ครั้ง)ชั่วโมงบินของผู้ฝึก(เพื่อทราบความชำนาญ)และเป็นการประเมินผลการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม

    [​IMG]

    อุปกรณ์เสริมรอกหนีไฟ

    1.ถุงมือหนังอย่างน้อย5คู่(เตอร์2 คน, ตรึง1 คนต๋ง1 คนและเซฟอีก1 คน)
    2.ปลอกนวมหุ้มสายรัดตัว2 คู่เพื่อรองใต้แขนกันเจ็บ
    3.เชือกต๋ง(ความยาวเท่าความสูงที่ต้องการและขนาดเหมาะมือ)
    4.เปลหรือตะกร้าพิเศษเพื่อนำผู้ประสบภัยลง
    5.สายสลิงยึดติดอาคารเพื่อคล้องรอกในบริเวณที่ไม่มีห่วงคล้องถาวรพร้อมยางรองสายเพื่อป้องกันการครูดกับมุม
    6. สายเซฟพร้อมสแนปลิ้งและเข็มชัด

    ข้อแนะนำเพิ่มเติม


    1.ควรใช้รอกหนีไฟที่มีเฟืองโลหะ
    2.รอกหนีไฟควรเปิดบำรุงรักษาได้(โดยผู้ที่ได้รับมอบหมาย)
    3.ต้องฝึกการใช้งานให้ถูกต้องปลอดภัย
    4. ต้องมีการเซฟทุกครั้งที่ฝึก

    พึงระลึกเสมอว่าผิดพลาดเพียงนิดชีวิตดับแน่

    ที่มา http://www.fara.ksc.th.org/fed.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pic-yff32-13.jpg
      pic-yff32-13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.5 KB
      เปิดดู:
      2,701
    • pic-yff32-10.jpg
      pic-yff32-10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.5 KB
      เปิดดู:
      2,560
    • pic-fed7.jpg
      pic-fed7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.1 KB
      เปิดดู:
      2,752
    • pic-fed6.jpg
      pic-fed6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.6 KB
      เปิดดู:
      2,735
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2008
  18. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ลองดูในเทรคกิ้งไทยครับ ผมได้มาจาก คุณหมอ วิเชียร เป็นแบบคลาสสิค อยู่ในถุงหนังแบบโบราณครับ
     
  19. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ผมเคยมีหินไฟ ครับ ผมคิดว่า จุดยากพอควร แต่มีไว้ฉุกเฉิน ก็ดีครับ

    ตอนนี้ที่มีไว้ มีไม้ขีด แบบแพ็คใหญ่ ไฟแช็ค สักโหล ขี้ใต้ 1 ห่อ อยากได้ zippo อีกสักอัน
    [​IMG]
     
  20. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    สิ่งที่คิดว่า ขาดไม่ได้เลย ณ เวลานี้ ผมคิดว่า หัวพ่นไฟ สักตัว

    กรณีน้ำท่วม หรือแผ่นดินไหว อากาศชื้น วัตถุดิบ เชื้อเพลิง มันหาได้ทั่วไปอยู่แล้ว แต่จะจุดยังไง ถ้ามันชื้นครับ

    หัวพ่นไฟ Kovea ดีกว่า ซึ่งดีกว่าของจีนแดงครับ จุดไฟติดแน่นอน ชื้นก็ชื้นเถอะ

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...