รวมคำทำนายเรื่องภัยพิบัติ ปี 2555-2560 โดยพระอริยะสงฆ์ของไทย

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 30 ธันวาคม 2010.

  1. แมวน้ำ9

    แมวน้ำ9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    689
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +512
    สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่งๆ สาธุๆๆ:cool:
     
  2. กินข้าวยัง

    กินข้าวยัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +27
    น่ากลัวหรือน่าดีใจดีน๊า ยังไม่รู้เหมือนกัน
     
  3. mr.khajit

    mr.khajit สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +27
    ดีจัง รอมานานล่ะ...........
     
  4. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ยังดีที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านให้สร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ไว้ เพื่อขอพระบารมียับยั้งภัยพิบัติสำหรับผู้ที่อยู่ในศีลธรรมและผู้บำเพ็ญบารมีอยู่ในร่มโพธิ์ของพระศรีฯ

    ก็ได้แต่หวังว่า "พระตถาคต" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำบรรจุพระบรมสารีริธาตุส่วนต่างๆ ทั้งห้าพระองค์ (ที่พระมหากัสสปะสร้างจากพุทธดำรัส(สร้างล่วงหน้า) เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ชาวพุทธผู้ที่ถูกฆ่าและทำลายในประเทศอินเดีย จนพุทธศาสนาล่มสลายในกาลต่อมา) และนำมาประดิษฐานในที่เร้นลับ 5 แห่งในสุวรรณภูมิ(เขตประเทศไทย)

    พระตถาคต เป็นพระพุทธรูปที่วิเศษ พูดได้แบบคน สอนธรรมได้เหมือนพระพุทธเจ้า(คุณวิเศษของพระบรมสารีริกธาตุของแท้) ครูบาอาจารย์หลายรูปท่านได้รับธรรมจากพระตถาคต เช่น พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่ทองทิพย์ จ. หนองคาย ดังที่หลวงปู่ท่านบอกว่า "เฮาเรียนธรรมกับพระพุทธเจ้า บ่เห็นโต(ตัว) ในวันงานบุญสำคัญท่านจะเสด็จมาที่วัด มาอยู่ที่ต้นโพธิ์ เป็นแสงสว่างเท่าผลส้ม ตอนดึกๆ ท่านก็เสด็จกลับ" และพ่อแม่ครูบาอาจารย์มหาบัว แห่งวัดป่าบ้านตาด เมื่อพระตถาคตไปเยี่ยมหลวงตาบัว หลวงตาท่านก็จะปิดกุฏิสนทนาธรรมกับพระตถาคตจนพระตถาคตเสด็จกลับ และ หลวงปู่ศรี จ.หนองบัวลำพู ผู้ที่เฉียดตายมาหลายครั้ง เมื่อใกล้จะตายทุกครั้ง พระตถาคตก็จะเสด็จมารักษาโรคให้ พระตถาคตท่านบอกว่า เป็นการตอบแทนที่ท่านเคยอุปัฏฐากพระตถาคต นอกจากนั้น พระตถาคตก็ยังได้สนทนากับบุคคลสำคัญของประเทศในหลายวาระ ท่านเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็น ผู้มีบุญญฤทธิ์ทั้งสิ้น

    นี่แหละแผ่นดินไทย จึงเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ และผู้มีศีลธรรมซึ่งปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์จะสามารถรอดจากภัยพิบัติได้ด้วยบารมีแห่งพระพุทธองค์

    และหากไม่สามารถอัญเชิญพระตถาคต ขึ้นมาปรากฏได้ทันเวลา เมื่อท่านรามสูรผู้ยิ่งใหญ่กลับเข้าไปสู่โลกภายในซะก่อน มหาวิบัติก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยเช่นกัน

    และเมื่อถึงเวลา พระตถาคตทั้งห้าพระองค์จะได้ถูกอัญเชิญขึ้นมาเพื่อสอนโลก
    พระมหากัสสปะ ท่านก็จะปรากฏและอัญเชิญพระคถาคต ซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ทั้งห้าพระองค์ขึ้นมาและจะมีการสถาปนา พระยาธรรมิกราช ให้ปรากฏแก่ชาวโลก และศาสนาจะเป็นหนึ่งเดียว และ ราชอาณาจักรไทยก็จะเป็นมหาอำนาจของโลก

    แม้ว่าจิตของพระพุทธองค์และพระอรหันต์ จะเข้าพระนิพพานไปแล้ว แต่ธาตุตัวแทนท่านยังอยู่ก็สามารถเป็นตัวแทนทำหน้าที่ได้เช่นกัน(ศีลธรรมของพระพุทธองค์และพระอรหันต์) เมื่อครบห้าพันปีจึงจะถึงวาระรวมธาตุ เทศนาธรรมเจ็ดวัน เจ็ดคืน เข้าสู่ "ธาตุนิพพาน"

    พระตถาคต ทั้งห้าพระองค์ จะเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ที่ จ. หนองคาย ถ้าใครโชคดีมีวาสนา ก็จะได้อยู่รอดูความเจริญรุ่งเรืองของพระศาสนาในยุคศิวิไล หลังจากมหาภัยพิบัติผ่านพ้นไป

    ความลับสวรรค์ พูดมากกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ
     
  5. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    คนบางคนต้องมีไฟมารนก้นมันถึงจะตั้งใจ อย่างผมเป็นต้น :cool:
     
  6. ARUNN

    ARUNN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +296
    ดีใจที่ได้เจอเว็ปนี้ ตอนนี้เริ่มเตรียมข้าวของแล้วละ

    ไม่อยากประมาทกับชีวิต บอกตามตรงว่ากลัวตาย กลัวสูญเสียคนที่เรารักมากๆ

    ได้เจอเว็ปนี้เหมือนเป็นบุญของเราเลยละ :)
     
  7. สุคน

    สุคน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +898
    12-16 เมษายน ศกนี้ ขอเชิญร่วมสวดมนต์พระปริตรและอิติปิโส 108 ป้องกันแผ่นดินไหว..!!!
    <!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625";/* 336x280 */google_ad_slot = "0551074580";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT>
    อย่างที่เพื่อนๆ ผู้รู้ในห้องนี้ตั้งกระทู้ไว้มากมายเกี่ยวกับภัยพิบัติ เราก็ได้ยินได้ฟังและได้รับคำเตือนจากครูบาอาจารย์มาเช่นกัน น่าแปลกที่ข้อมูลสอดคล้องกันอย่างน่าตกใจ พ่อแม่ครูอาจารย์ของเราท่านไม่ได้ออกจากกุฏิไปไหนเลย ท่านคงไม่ได้อ่านข้อมูลพวกนี้ แต่ท่านก็ทราบด้วยญาณทัศนะ และเตือนศิษย์มาด้วยข้อความใกล้เคียงกัน อย่างน้อยก็สององค์ล่ะ ทั้งพระอาจารย์ใหญ่และหลวงปู่หงส์ ท่านว่าช่วงเวลาหลังสงกรานต์นี้ควรระวังค่ะ..


    อย่างไรก็ดี พระอาจารย์ท่านบอกว่าหากพวกเราช่วยกันสวดมนต์ หนักก็จะเป็นเบา ท่านจึงให้มาบอกข่าว ให้พวกเราช่วยกันสวดมนต์ป้องกันแผ่นดินไหว..

    โดยให้สวด มนต์พระปริตร 12 ตำนาน

    จากนั้นต่อด้วย

    อิติปิโส 108 จบ (ต้องสวดครบ 3 ห้องคือพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ)


    ให้เริ่มสวดตั้งแต่วันที่ 12-16 เมษายน


    จึงขอนำข่าวมาบอกกัลยาณมิตร หากท่านเป็นผู้ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำอยู่แล้ว ก็ขอแรงช่วยกันสวดมนต์ดังกล่าวที่บ้านหรือวัด หรือสำนักปฏิบัติของท่านเอง ตามวันและเวลาที่บอกไว้ แต่หากสวดได้ทุกวันก็จะยิ่งอนุโมทนาค่ะ


    อย่างน้อยพลังใจที่เราร่วมด้วยช่วยกันสวดมนต์ภาวนา จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาค่ะ


    รายละเอียด บทสวดมนต์ 12 ตำนาน
    http://palungjit.org/posts/4578658
     
  8. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ณ เวลานี้ ไม่มีผู้ใดที่จะยัับยั้งภัยพิบัติได้ แม้แต่พระอริยสงฆ์ก็ไม่สามารถยับยั้งธรรมชาติที่กำลังแปรปรวนได้ ครับ การสวดมนต์ภาวนา อย่างน้อยก็ได้อานิสงส์กับตนเองและหมู่คณะ

    วันก่อนไปกราบสักการะพระเถระผู้เฒ่า หลวงปู่จาม ที่คำชะอี สาเหตุที่ไปเพราะเมื่อโทรศัพท์คุยกับญาติธรรมคนหนึ่งถึงหลวงปู่จาม ญาณจิตท่านส่งกระแสจิตมาหา ท่านบอกว่า "รอ...อยู่นะ" ก็ตอบท่านไปว่า "อีกไม่นาน ผมจะมาหาครับ" พอไปถึงปากทางเข้าวัด เห็นท่านมานั่งอยู่ที่ศาลาทางเข้าวัด พอลงรถท่านก็ชำเลืองมามอง เข้าไปกราบท่านก็เอาไม้เท้าเคาะหัวเคาะหลังไปหลายที ญาณจิตท่านสุดยอด ครับก็ถวายของบางอย่างให้ท่านรับ โดยเฉพาะรูปพระศรีอริยเมตรัย ท่านมองพิจารณาอยู่นาน จากนั้นก็เข้าไปในวัดท่านให้คณะประกอบบายศรี ถวายไว้ในศาลา

    เมื่อเข้าไปในวัดขณะที่ลูกศิษย์เข็นรถ เข็นท่านผ่านหน้าไป ก็ยกมือไหว้ท่าน แต่สิ่งที่ปรากฏในทางทิพย์ก็คือ หลวงปู่จามท่านมายืนอยู่ตรงหน้า ก็สนทนากับท่านเรื่องการสร้างบารมี การสร้างเจดีย์และปราสาทพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ก็นิมนต์หลวงปู่ท่านมาร่วมสร้างเพราะภัยพิบัติกำลังใกล้เข้ามามากแล้ว ผมก็เดินเลี่ยงคณะที่ไปด้วย ไปทางพระธาตุเจดีย์และโบสถ์ เพื่อที่จะสนทนาทางจิตกับหลวงปู่ได้ถนัดขึ้น เมื่อคนในยุคพระเจ้าอโศกมาเจอกันกระแสญาณเดิมก็ปรากฏสื่อสารกัน

    การเดินทางก่อนถึงวัดหลวงปู่จามประมาณหนึ่งชั่วโมง ขณะที่ขับรถก็มีกระแสญาณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์หมุนอยู่เหนือศีรษะ ตรงกลางกระหม่อม ก็อธิษฐานถามไปว่า "ท่านเป็นใคร" ท่านบอกว่า "เราคือตถาคต" ถามว่า " ท่านอยู่ที่ไหน" ท่านตอบว่า "เราอยู่กับเจ้าติดตามเจ้าอยู่" จิตก็ถามเป็นราชาศัพท์ว่า "พระองค์มีความประสงค์สิ่งใด " จิตก็นึกถึงพระตถาคตที่ จ. หนองบัวลำภู ว่าตนเองยังไม่ได้แต่งเครื่องไปสักการะ ก็บอกท่านไปว่า "กลับจากนี่ไป ลูกจะแต่งเครื่องไปสักการะที่หนองบัวลำภู" ท่านตอบว่า "เจ้าดำริชอบแล้ว" จากนั้นกระแสญาณก็ตัดออก ผมขับรถไปก็งงไป ว่าวันนี้เจอของแปลก ไม่เคยเจอแบบนี้

    กลับมาถึงพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ จ.หนองคายก็บอกให้คณะ ประกอบบายศรีชุดใหญ่ขึ้นมา เพราะวันรุ่งขึ้นจะไปสักการะพระตถาคตที่ จ. หนองบัวลำภู ไปถึงในตอนบ่าย ก็เตรียมเครื่องบายศรีและสิ่งอื่นๆ ขึ้นตั้ง บนโต๊ะ เมื่อจุดธูปเทียน ก็มีกระแสลงมาอย่างแรง ทีแรกไม่ทราบว่าเป็นใคร ท่านเป็นฤษี มาอธิษฐานอัญเชิญพระตถาคต เมื่อประกอบพิธีเสร็จ ท่านก็ไป(มาทราบชื่อภายหลังว่าสท่านคือปู่ฤษีพรหมเมศวร์ ท่านบอกว่าท่านไม่ได้ลงมาบนโลกมนุษย์นานมากแล้ว จากนั้นพระตถาคตท่านก็เสด็จมาให้พร ฯลฯ

    กลับไปถึงพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ จ.หนองคาย ในวันรุ่งขึ้นก็ได้คุยกันกับ ลูกศิษย์ใกล้ชิดพ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้ช่วยชาติ ก็คุยกันถึงสิ่งที่ครูบาอาจารย์ให้เก็บรักษาไว้ หลังจากที่ไปทำพิธีแล้วของนั้นผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ว่าของสิ่งนั้นคงเป็นของที่สูงส่ง แม้แต่หลวงปู่ทวดยังอธิษฐานของบารมีจากสิ่งนั้น ครู่เดียวพระตถาคตท่านก็เสด็จมาแล้วตรัสบอก มีใจความว่า "ให้รีบนำสิ่งนั้น มาประดิษฐานที่พระพุทธเจ้าห้าพระองค์โดยเร็วพลัน เทพเทวาทั้งหลายเขามารอสักการะกันมากมาย เพราะข้างในนั้นเป็นพระบรมสารีริกธาตุของแท้ของพระตถาคต ต่อไปสถานที่นี้จะเป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองของพุทธศาสนา" ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า ให้จัดงานสมโภชน์พระบรมสารีริธาตุให้สมพระเกียรติ์เท่าที่จะทำได้

    จากแผนงานเดิมที่มูลนิธิฯจะจัดงานสมโภชน์พระอินทร์ ก็จะเป็นงานสมโภชน์พระบรมสารีริกธาตุ เป็นหลัก

    คืนก่อนไปกราบหลวงปู่จาม เวลาประมาณตีสอง(ที่พระพุทธเจ้าห้าพระองค์) พ่อพระอินทร์ท่านลงมาทำพิธีปิดทองเกศพระพุทธรูปทรงเครื่อง 5 องค์ ที่มาด้วยแรงอธิษฐาน ครูบาอาจารย์บอกว่าเป็นของคู่บารมีของผมในอดีต พระอินทร์ท่านพิถีพิถันในการทำพิธีมาก ปิดทองเกศพระ 5 พระองค์ ท่านทำพิธีตั้งแต่ตีสอง ถึงตีห้า ช่วงนี้ท่านคอยกำกับในการทำหลายสิ่งหลายอย่างแม้แต่การทำบายศรีต่างๆท่านก็คอยดูและบอกกล่าว ท่านลงมาสถิตที่พระพุทธเจ้าห้าพระองค์เพื่อสร้างบารมี

    ผมเข้าใจว่าเมื่อมีปรากฏการณ์ดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้น ย่อมเป็นสัญญาณของมหาภัยพิบัติ มาอย่างต่อเนื่องแน่นอน เทวดาต่างๆเขาก็เร่งทำงานคัดผู้มีบุญและล้างคนบาป เพื่อไปสู่ยุคของศีลธรรม เราบางคนอาจจะโชคดีได้ฟังธรรมจากพระตถาคต อันเป็นบุญญฤทธิ์จากพระบรมสารีริกธาตุที่ทำหน้าที่แทนพระพุทธองค์ อย่างที่หลวงปู่ทองทิพย์ หลวงตาบัว หรือหลวงปู่ศรี ท่านได้ประสบมาก็ได้ อย่างน้อยผมเองก็ได้ฟังมาบ้างแล้ว เช่นกัน และรับรองว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง ผู้รู้เห็นเรื่องเหล่านี้ก็มีไม่น้อยเช่นกัน

    ก็ขอให้ผู้อ่านพิจารณาด้วยความแยบคาย ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 เมษายน 2011
  9. pipatz

    pipatz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +199
    งง ว่าคุยกับ "ตถาคต" ได้ยังไง ขอโทษนะครับ คือ "ตถาคต" ที่ท่านอ้าง ท่านคงไม่มีหลอดเสียง ไม่มีทักษะการใช้ภาษาไทยหรือแม้ราชาศัพท์ ไม่มีลิ้นไก่ ลิ้น ริมฝีปาก ที่จะสะกดคำต่างๆ ออกมาได้ ที่สำคัญไม่มีโสตประสาท ที่ไว้สำหรับฟัง ไม่มีเนื้อสมองไว้แปลผลสิ่งที่คุณพูด หรือประมวลผลและแปลผลโต้ตอบได้ การสื่อสารกับอะไรๆที่ไม่มีกายเนื้อ ไม่น่าจะสื่อสารด้วยภาษาท่าทางได้ เท่าที่คิด ถ้าเป็นไปได้จริง น่าจะเป็นการสื่อสารโดยผ่านจิตเสียมากกว่า และถ้าเป็นการสื่อสารผ่านจิตจริง คงไม่มีการแปลผลเป็นคำพูดได้สละสลวยนอกจากคิดปรุงแต่งเข้าไปเอง การสื่อสารผ่านจิตที่เป็นเรื่องเหนือการเนื้อนั้นไม่อาศัยโสตประสาทฟัง ไม่อาศัยลำคอน้ำเสียงในการพูด เพราะไม่มีกายเนื้อ แต่การสื่อสารผ่านทางจิต นั้น ไร้รู้แบบ ไม่อาจอธิบายด้วยคำพูดได้

    555 ต้องขออภัย แต่คิดแบบนี้จริงๆ ถ้ามีคำตอบช่วยตอบหน่อยนะครับ ผมกำลังคิดว่าการสื่อสารทั้งหลายที่มีผู้อ้างถึงต่างๆ ในรูปแบบการสื่อสารกับผู้ที่ไม่มีกายเนื้อ จะเป็นไปได้อย่างไรกันที่จะถ่ายทอดเป็นคำพูดออกมาเป็นคำ ๆ ได้ขนาดนี้ น่าจะเป็นในลักษณะ จิตสังหรณ์เพราะได้รับการสื่อสารมา หรือในลักษณะเห็นภาพนิมิต เสียมากกว่า
     
  10. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ถ้าคนที่มีประสบการณ์ในการคุยทางจิตนั้น จะเข้าใจว่าเป็นอย่างไร สภาวะการคุยนั้นก็เหมือนการใช้อายตนะภายใน ส่วนคำต่างๆที่สามารถสื่อสารกันได้นั้น ท่านที่มาสื่อสารนั้นท่านใช้จากสัญญาของผู้ที่มีธาตุขันธ์อยู่ องค์เทพต่างๆก็ใช้วิธีแบบนี้ ครับ

    ภาษาเป็นสมมติของการสื่อสาร เป็นไปตามยุคสมัย แม้องค์เทพต่างๆท่านก็ไม่พูดภาษาไทย แต่ท่านก็สามารถสื่อสารเป็นภาษาไทยได้ โดยอาศัยสัญญาจากผู้ที่รับสาร

    อย่ามองข้ามความอัศจรรย์ของจิตซึ่งมีสิ่งที่คนทั่วไปไม่ทราบอีกหลายอย่าง เมื่อจิตเข้าถึงความเป็นทิพย์ ก็จะสามารถทำได้หลายอย่าง

    มีพระสงฆ์ที่สามารถสื่อสารกับพระตถาคตแบบที่ผมทำอีกหลายท่าน สาวนใหญ่เป็นพระสงฆ์ อย่างรูปนึงที่อยู่กับผมที่พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ท่านก็สามารถสื่อสารแบบเดียวกับที่ผมทำได้เช่นกัน ท่านฝึกมาจากสำนักพุทธศาสน์โลกธรรม อีกรูปนึงเป็นศิษย์หลวงพ่อชาญ นครสวรรค์ ท่านเห็นภาพแต่สื่อสารไม่ได้ เป็นต้น
     
  11. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ที่จริงการสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยวิธีแบบนี้ ผมทำมานานหลายปีแล้ว เมื่อจะทำงานหรือทำพิธีบางอย่างก็ต้องถามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นครูบาอาจารย์เสียก่อน ว่าทำอย่างไรถูกต้องและบรรลุวัตถุประสงค์ได้ง่าย รวมทั้งถามเรื่องมารและอุปสรรคต่างๆ

    ที่ปรึกษาใหญ่ของผมคือ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ก็สื่อสารกับท่านมามากกว่า 5 ปีแล้ว บางครั้งก็ถามหลวงปู่ทองทิพย์ หรือบางเรื่องที่พระท่านไม่ตอบ ก็จะถามปู่ฤษีองค์ต่างๆ ถ้าหากจะไล่ลำดับภพชาติ ลำดับยุคสมัย ก็ต้องถามปู่ฤษี เพราะพระท่านจะไม่ค่อยตอบเรื่องพวกนี้ เนื่องจากผมมีครูบาอาจารย์เป็นปู่ฤษีมากมาย ก็ถามองค์โน้นบ้าง องค์นี้บ้าง แล้วมาประกอบกัน จากนั้นก็ไปในสถานที่ที่ตนเองเคยอยู่ของภพชาติเดิมแล้วก็พิสูจน์ ถามภพภูมิจิตวิญญาณที่เขายังไม่จุติ ถ้าเราเคยเกี่ยวข้องกันเขาก็มาทักทาย ชื่อที่เขาเรียกเราก็คือชื่อเดิมในอดีต ก็ถามเขาในเรื่องที่เราสงสัย ถ้าเป็นจริงก็สามารถพิสูจน์ได้ไม่ยาก รู้แล้วก็ทิ้งไป หากมีภาระที่ต้องสงเคราะห์ก็ทำไป ก่อนทำก็อธิษฐานถามครูบาอาจารย์เสียก่อน

    เรื่องภัยพิบัติก็เช่นกัน ส่วนใหญ่ผมไม่ได้ถามครูบาอาจารย์หรอก เพราะเบื่อที่จะรู้แล้ว เมื่อครูบาอาจารย์ท่านมา ท่านบอกเอง อย่างในคราวที่ปู่ฤษีจักรวาล(พระอริยฤษี)ท่านลงมาอัญเชิญญาณพระแก้วมรกตไปสถิตที่องค์พระศรีฯ ที่พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ (เรื่องญาณพระแก้วมรกตนี่หลวงปู่ทวดท่านเคยบอกผมมาก่อนหน้าแล้วว่า ในงานสมโภชน์พระอุปคุต(วันมาฆบูชา)นั้นพระแก้วมรกตท่านจะเสด็จมาเป็นประธาน ให้จัดพิธีให้ถูกต้องสมบูรณ์) จากนั้นไม่นานปู่ฤษีจักรวาลท่านก็ลงมาอัญเชิญญาณพระแก้วมรกต เมื่อเสร็จแล้วปู่ฤษีจักรวาลท่านก็บอกว่า "ให้ลูกหลานเร่งสร้างบารมีกันนะ ภัยพิบัติเข้ามาใกล้ตัวมากแล้ว" ท่านประกาศบอกเทพเทวาว่า ให้เว้นไว้เฉพาะมนุษย์ที่มีศีลธรรมเท่านั้น มนุษย์ผู้ไม่มีศีลธรรมจะตายหมด ท่านก็บอกว่าท่านเองก็สงสารมนุษย์แต่กรรมมนุษย์มีมาก ก็ต้องให้เป็นไปตามกฏแห่งกรรม

    อย่างหลวงปู่ทวด ท่านก็ปรารภเรื่องภัยพิบัติเหมือนกัน ท่านบอกว่า "ภาคใต้นั้นที่น้ำ มันท่วมเพราะแผ่นดินมันยุบตัว" ผมก็ถามว่า "ยุบถึงขนาดไหนปู่" ท่านบอกว่า "ยุบถึงยอดเขา" ท่านบอกว่า "น่าสงสาร สมเพท เวทนามาก แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ แม้แต่พระอริยะก็ไม่สามารถยับยั้งภัยพิบัติได้" แต่ท่านบอกว่า "ไม่ต้องตื่นตระหนก ตกใจ ไม่ใช่จะเกิดในวันพรุ่งนี้หรือวันมะรืน มันจะค่อยเป็นค่อยไป ให้หมั่นสร้างบุญกุศลไว้"


    ผมถามหลวงปู่ทวดแม้กระทั่งว่า "ตอนปู่เหยียบน้ำทะเลจืด ปู่เหยียบยังไง ใช้เท้าไหนเหยียบ ทำไมน้ำเค็มถึงจืดได้" ปู่ทวดท่านบอกว่า "ไม่ใช่ว่าเหยียบ ปู่เดินไปที่ท้ายเรือแล้วก็ใช้เท้าขวาหย่อนลงในน้ำแล้วก็อธิษฐานว่าทุกอย่างคือสมมติ น้ำเค็มก็เป็นสมมติ ก็ขอให้น้ำนี้ใช้ดื่มกินได้" หลวงปู่บอกว่า "ปู่ทำแค่นั้น ทำภายนอกเป็นสัญญลักษณ์เท่านั้น ที่เหลือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านทำ เทวดาที่เขาอนุโมทนาบารมีกับหลวงปู่เขาเป็นผู้ทำ" ท่านบอกว่าผู้ที่ปฏิบัติถึงระดับนี้ อย่าง "ทองทิพย์ ชินบัญชร มหาบัว ก็สามารถทำได้เช่นกัน ไม่ใช่ว่าจะทำได้แต่เฉพาะปู่"


    ผมก็ถามเรื่องกรุงเทพฯว่า "กรุงเทพฯจะจมน้ำเมื่อไหร่ปู่" ท่านไม่ตอบ ท่านตอบแต่เพียงว่า "ไอ้ชายแกจะให้ปู่เป็นผู้ทำนายทายทักเรอะ" ผมก็เลยไม่ได้ถามต่อ ก็เข้าใจว่าถ้ากรุงเทพฯจะจมน้ำเมื่อไหร่ หลายๆหลวงปู่ท่านคงจะมาบอกผมแน่นอน ถึงตอนนั้นก็ตัวใครตัวมัน ครับ


    สิ่งที่น่ากลัวในกรุงเทพฯ ในเวลาอันใกล้นี้ ผมคิดว่า น่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง ที่จะพัฒนาเป็นสงครามกลางเมือง ซึีงผู้คนจะล้มตายกันอีกมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2011
  12. lemon112233

    lemon112233 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +287

    อนุโมทนาค่ะ

    อยากฝึกจิตให้บริสุทธิ์+รวมจิตให้แข็งแกร่ง จนสามารถพูดคุยทางทิพย์ได้บ้างค่ะ
     
  13. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,198
    หลวงปู่ทวด เป็นพระภิกษุในสมัยอยุธยาในแผ่นดินของ สมเด็จพระเอกาทศรถ แต่เดิมท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดพะโค๊ะ จึงมีอีกสมญานามหนึ่งว่า สมเด็จพะโค๊ะ
    มีเรื่องเล่าว่า ตอนที่ท่านเดินทางโดยเรือผ่านอ่าวไทยเพื่อเข้ากรุงศรีอยุธยานั้นก็เกิดคลื่นลมทะเล ปั่นป่วนขึ้น เรือไม่สามารถแล่นฝ่าคลื่นลมไปได้ ต้องทอดสมออยู่กลางทะเลถึง ๗ วัน ทำให้เสบียงอาหารและน้ำหมด บรรดาลูกเรือจึงตั้งข้อสงสัยว่าการที่เกิดอาเภทในครั้งนี้เป็นเพราะท่านที่เป็นภิกษุ จึงตกลงใจ ส่งท่านขึ้นเกาะได้นิมนต์ท่านให้ลงเรือมาด ขณะที่ท่านนั่งอยู่ในเรือมาดนั้น ท่านได้ห้อยเท้าซ้ายแช่ลงไปในน้ำทะเลได้บังเกิดอัศจรรย์ขึ้น เมื่อน้ำทะเลบริเวณนั้น เกิดประกายแวววาว โชติช่วง ท่านจึงบอกลูกเรือให้ตักน้ำขึ้นมาดื่ม เมื่อดื่มน้ำนั้นก็รู้สึกว่าเป็นน้ำจืด จึงช่วยกันตักไว้จนเพียงพอ นายสำเภาเรือจึงนิมนต์ ให้ท่าน ขึ้นเรือสำเภา อีกครั้ง ท่านจึงมีอีกหนึ่งสมญานามว่า “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด”เมื่อท่านใกล้จะมรณะภาพได้สั่งญาติโยมว่าให้นำศพท่านไปฌาปณกิจ ที่วัดช้างไห้
     
  14. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    เรื่องเล่าของหลวงปู่ทวด ผมก็ฟังมาเยอะเพราะบ้านเกิดผม อยู่ห่างจากวัดพะโค๊ะไม่กี่สิบกิโลเมตร ในปัจจุบันเมื่อมีโอกาสผมก็ถามท่าน เกี่ยวกับเรื่องที่เขาบันทึกไว้ก็มีตรงบ้างไม่ตรงบ้าง

    อย่างที่เขาทำรูปเหมือนท่านแล้วให้นั่งบัว หลวงปู่ท่านบอกว่า เขาทำผิด เพราะผู้ที่จะนั่งบัวได้นั้น มีพระพุทธเจ้าเท่านั้น

    ผมเคยถามท่านว่า หลวงปู่กับผมนี่สร้างบารมีกันมายังไง ถึงมาเจอกันอีก ท่านก็บอกว่า เรื่องยาว ท่านก็เล่าตัดตอนเอาตั้งแต่ยุคอโยธยา เรื่องที่พราหมณ์เจ้าเล่ห์ มาทายปัญหาธรรม พนันกินบ้านกินเมือง หลวงปู่ท่านมาช่วยบ้านเมือง มาคราวหลังได้ยินท่านกระเซ้าหลวงตามหาบัวว่า มหาบัวช่วยชาติใช้ทองคำเป็นตันๆ ปู่ก็ช่วยบ้านเมืองเหมือนกัน แต่ใช้ทองคำเท่าใบมะขาม

    ผมเคยถามท่านว่า มีใครในยุคนั้นมาเกิดกันบ้าง ทำไมปู่ไม่มาเกิด ท่านบอกว่ายุคนี้คนอโยธยามาเกิดกันเยอะ ไอ้ชายก็ได้เจออยู่ไม่ใช่เรอะ ปู่อยู่อย่างนี้ปู่ก็ยังสร้างบารมีได้ ใครปฏิบัติดีปู่ก็ไปอยู่ด้วย เมื่อเขาปฏิบัติไม่ดีปู่ก็ไป

    ยุคอโยธยานั้นหลวงปู่มีสานุศิษย์เยอะ ทั้งพระ เณร และฆราวาส ปู่อยู่อโยธยา เป็นเวลานาน มาอโยธยาตั้งแต่หนุ่มกว่าจะกลับไปวัดพะโค๊ะก็วัยกลางคนปลายๆแล้ว

    อย่างที่วัดห้วยมงคล ปู่ทวดเคยพักจำวัด 1 คืน ตอนที่ท่านธุดงค์กลับจากอโยธยา ถ้าจำไม่ผิดเจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลเคยเป็นสามเณร ในคณะของหลวงปู่ทวด อีกรูปนึงอยู่ที่สุโขทัย ชื่อหลวงพ่อราม อ. คีรีมาศ ท่านก็เคยเป็นสามเณร ในคณะของหลวงปู่ทวด และก็เคยเจอคนอีกหลายๆคน ก็ถามท่านว่าเกี่ยวพันกันมายังไง ท่านก็บอกให้

    หลวงปู่ท่านบอกว่าเมื่อท่านบูรณะวัดพะโค๊ะเสร็จแล้ว มีคนมาหามาก จนท่านไม่ได้พัก ไม่ได้มีเวลาปฏิบัติ ท่านก็เลยออกจากวัดพะโค๊ะ ธุดงค์ไปทางมลายูและไปละสังขารที่นั่น

    หลวงปู่ทวดนี่หากใครได้สัมผัส ได้ใกล้ชิดท่าน จะเคารพรักท่านมาก เพราะท่านมีมหาเมตตา ท่านมีวาทะศิลป์และอารมขันดีมาก
     
  15. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,198
    หลวงปู่ทองทิพย์ เคยเห็นภาพท่านนอนอยู่ มีติดภาพสีทองเป็นกวาง คนเอาภาพมาให้ท่านดู ท่านบอกว่าชาติก่อนเคยเกิดเป็นกวาง เคยได้ยินเรื่องหลวงปู่ทองทิพย์ จากคนมุกดาหาร เล่าให้ฟังอยู่ ท่านสนิทกับหลวงปู่เณร ที่อยู่อุบล หลวงปูเณร เป็นสามเณรไม่ได้บวชพระ อายุ 80 กว่า ปัจจุบันมรณภาพแล้ว
     
  16. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    รูปกวางของหลวงปู่ทองทิพย์นั้น หลวงปู่ท่านบอกผมว่า เป็นชาตินึงในสิบชาติสุดท้ายของพระศรีฯ ชาตินั้นท่านถูกยักษ์ขินีสาปให้เป็นกวาง เพราะท่านเป็นโอรสของเจ้าเมือง มีรูปงาม ยักษ์ขินีต้องการเอาท่านเป็นสามี ท่านไม่ยอม จึงถูกสาป ท่านจึงต้องใช้ชาติเป็นกวางทองอยู่ในถ้ำเชียงดาว จ. เชียงใหม่

    ผมรู้จักหลวงปู่เณร ดีครับ ท่านมากราบหลวงปู่ทองทิพย์บ่อยครั้ง ผมได้คุยกับท่านหลายครั้ง ตอนที่ท่านมรณภาพ ผมก็ได้ไปทำบุญอุทิศกุศลให้หลวงปู่เณรที่ จ. อุบลฯ ท่านมรณภาพหลังจากหลวงปู่ทองทิพย์ 4-5 ปี

    ตอนที่หลวงปู่ทองทิพย์ละสังขาร หลวงปู่เณรท่านก็มางานบำเพ็ญกุศลหลวงปู่ทองทิพย์ หลวงปู่เณร ท่านก็มีดีหลายอย่างครับ อย่างท่านไปกับลูกศิษย์ เดินข้ามแม่น้ำลึก หลวงปู่เณรท่านก็เดินข้ามแม่น้ำแต่น้ำถึงท่านแค่หน้าอก พวกลูกศิษย์เดินข้ามไปด้วย ปรากฏว่าน้ำลึกจมท่วมหัว ต้องว่ายน้ำข้ามไป หลวงปู่เณรท่านมีญาณหยั่งรู้ดีมากครับ
     
  17. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    วันนี้อาราธนาปู่ทวดท่านลงมา เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติในพิธีสมโภชน์พระพุทธรูปที่พระมหากัสสปะ ท่านสร้างไว้ หลวงปู่ทวดท่านดีใจมากที่พระมหากัสสปะ ท่านมา ณ สถานที่ ที่ญาณปู่ทวดท่านสถิตอยู่ พระมหากัสสปะ ท่านมาประทับรอยเท้าเอาไว้ ปู่ทวดท่านบอกว่าพระมหากัสสปะนี้มีคุณต่อพุทธศาสนาและชาวพุทธมาก ที่ท่านชำระพระไตรปิฎก ปู่ทวดก็ได้ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ

    สำหรับพระพุทธรูปที่พระมหากัสสปะสร้างไว้นั้น หลวงปู่ท่านบอกว่ามีพญานาครักษา พญานาคตนนี้แหละจะช่วยปกป้อง คุ้มครองเรื่องภัยพิบัติต่างๆ หลวงปู่ท่านเน้นย้ำให้จัดพิธีสมโภชน์พระพุทธรูปที่พระมหากัสสปะสร้างอย่างสมพระเกียรติ์ ให้จัดงานในวาระสำคัญทางศาสนา ก็ระลึกถึงหลวงปู่ทองทิพย์ ที่ท่านเคยบอกผมไว้ว่า ต่อไปสถานที่ของพระพุทธเจ้าห้าพระองค์จะปลอดภัยจากภัยพิบัติ ก็คงเนื่องมาจากบารมีของพระตถาคตและพญานาคที่รักษาองค์พระนั่นเอง

    วันนี้ได้มีโอกาส สอบถามปู่ทวดเกี่ยวกับพระตถาคต ก็ได้ความกระจ่างเรื่องของพระพุทธองค์และพระนิพพาน ได้ความกระจ่างเรื่องของพระพุทธเจ้าองค์ปฐมและพระองค์อื่นๆ เรื่องของผู้เข้าถึงธรรม เรื่องของกาลเวลา หลวงปู่ท่านบอกวิธีที่จะสามารถติดต่อพระตถาคตให้ว่าต้องทำอย่างไร และที่หนองบัวลำภูนั้นปู่ฤษีปรเมตร(พรหมเมศวร์) ท่านดูแลอยู่ ท่านบอกว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา ให้พระอินทร์ขึ้นนั่งบัลลังก์ที่พระพุทธเจ้าห้าพระองค์เสียก่อน แล้วพระอินทร์ท่านจะจัดการเอง

    ผมถามหลวงปู่ทวดว่าทำไมครูบาอาจารย์ต่างๆจึงไม่เอ่ย ไม่พูดเกี่ยวกับสภาวะการดำรงอยู่ของพระตถาคต ท่านบอกว่าผู้ที่ถึงธรรมนั้นมีน้อย ส่วนผู้ที่เปิดเผยเรื่องพระตถาคต ก็ทำเป็นการอวดฤทธิ์เอาความลับสวรรค์มาเปิดเผย เบื้องบนเขาก็มาเอาตัวกลับไป

    ผมถามหลวงปู่ว่าปัจจุบันนี้ผมสื่อสารกับจิตวิญญาณ กับเทพพรหม พระศรีฯ และพระตถาคต(พระโคดม)ได้ ต่อไปจะสามารถสื่อสารกับ พระพุทธเจ้าอีก 3 พระองค์ในภัทรกัปป์นี้ได้หรือเปล่าปู่ หลวงปู่ท่านบอกว่าปู่ตอบแทนผู้ใหญ่ไม่ได้ เมื่อถึงเวลาก็คงได้แหละ ให้เตรียมผ้าสีจีวร 5 สี ไว้ เมื่อถึงเวลาจะได้ใช้ผ้านี้

    ปู่ท่านบอกว่าเมื่อสมัยอโยธยา ท่านก็นั่งให้คำปรึกษาผมแบบที่เป็นอยู่ในสมัยปัจจุบันนี้ สมัยนั้นผมยังหนุ่ม ปู่ท่านก็อายุมากแล้ว แต่ต่างกันที่กาลเวลา ท่านเล่าเรื่องที่วัดแค จ. พระนครศรีอยุธยา ว่าหลวงปู่อยู่กุฏิเก่าๆ มีเสื่อผืนนึงและหมอนใบนึง ปู่อยู่อย่างสมถะ ผมอาสาจะสร้างให้ใหม่หลังใหญ่ ปู่ท่านไม่เอา ท่านบอกว่า กุฏิเก่าๆก็เพียงพอแล้ว เอาไว้ปกปิดกายสังขารแค่นั้นเอง

    ผมถามท่านเรื่องการสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์สมัยอโยธยา หลวงปู่บอกว่าสมัยอโยธยา มีการสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ผมเป็นผู้สร้าง ผมถามเรื่องการบูรณะพระธาตุนครศรีธรรมราชร่วมกับหลวงปู่ ท่านบอกว่าบูรณะในช่วงที่ผมเดินทางไปภาคใต้ครั้งที่ 2 ในยุคนั้น ครั้งแรกเอาเรือสำเภาไปส่งหลวงปู่ หลวงปู่ท่านลงเรือสำเภาแล้วก็ไปขึ้นบกที่เพชรบุรี เพื่อโปรดสัตว์ที่ยังมีกรรมอยู่ ท่านบอกว่าไปเรือสำเภาไม่เห็นอะไร สู้ไปทางบกไม่ได้ จะได้เห็นโน่นเห็นนี่ โปรดสัตว์ได้ ครั้งที่สอง ตอนลงไปเยี่ยมหลวงปู่ ไปดูสารทุกข์ความเป็นอยู่ จึงได้ร่วมกันบูรณะพระธาตุนครศรีธรรมราช

    ขอให้อ่านและพิจารณาด้วยความแยบคาย ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2011
  18. meecup

    meecup สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +11
    ผมว่า การได้พบพระศรีอาริย์ยังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้พ้นทุกข์ ตราบใดที่เรายังเวียนว่ายตายเกิด
    ถ้าจะให้ดีคือถึงนิพพาน ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่มีอะไรเลยตลอดไปนั่นแหละ สุดยอด:cool:

    แต่มีคำถามว่า เมื่อโลกของเราไปถึงยุคพระศรีอาริย์ แล้วพวกที่ตายไประหว่างเจอภัยพิบัติทั้งคนดีและคนบาป วิญญาณเค้าจะตามไปมั้ย แล้วไปเกิดใหม่ เค้าจะคิดดีทำดี รึยังจะคิดชั่วทำเลวอยู่อีก แล้วเค้าจะต้องชดใช้กรรมยังไง
     
  19. เกาะแก้ว

    เกาะแก้ว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +58
    ได้อ่านบทความของคุณ Aunyasit มีความรู้สึกว่าท่านเป็นผู้ที่รู้จริง นับถือครับ
    ถ้ามีโอกาสอยากรู้จักเพื่อขอคำแนะนำในการปฏิบัติ และถามข้อสงสัยต่างๆ
    ผมอยู่ภูเก็ตครับ
     
  20. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    คุณเกาะแก้ว

    เรื่องการปฏิบัติ วิธีที่ผมให้ลูกศิษย์ผมทำ ไม่ยากเลยครับ ผมทำโดยการให้เขาอธิษฐานขันธ์ห้าเป็นขันธ์กรรมฐาน มี ธูป 10 ดอก เทียน 10 เล่ม ดอกบัว 10 ดอก หมากพลู 5 คำ ถวายบูชาพระพุทธองค์และอธิษฐานถึงครูบาอาจารย์ของเขา ให้เขาสามารถสื่อสารถกับครูบาอาจารย์ของเขา ผมเองทำแค่ช่วยอธิษฐานหรือเชื่อมญาณให้เท่านั้น จากนั้นก็ให้เขาพากันนั่งสมาธิ เท่าที่เห็นภายใน 1 เดือน ถ้าเขามีหน้าที่มาในศาสนา เขาจะสามารถเชื่อมญาณวิถีเดิมของเขาได้ไม่ยาก และสามารถสื่อสารกับครูบาอาจารย์ภายในของเขาได้เลย ทีนี้เขาก็มีครูของเขาคอยแนะนำการปฏิบัติเอง บางคนสื่อสารกับครูบาอาจารย์ยังไม่ค่อยได้เพราะครูบาอาจารย์ภายในส่วนใหญ่ท่านจะใช้ภาษาจิตสื่อสาร นักปฏิบัติใหม่ๆจะสื่อสารไม่รู้เรื่อง ผมก็จะให้เขาสื่อสารทางข้าง คือให้คนที่สามารถสื่อสารกับครูบาอาจารย์ภายในได้ชำนาญแล้ว ช่วยสื่อสารให้และก็บอกต่อ ครับ

    สำหรับคนที่จะเข้ามาฝึกด้วยวิธีนี้ได้ ผมจะตรวจก่อน โดยการอธิษฐานรู้ด้วยตัวเองบ้าง หรือบางครั้งก็จะถามครูบาอาจารย์ว่า คนนี้มีวาสนามาสร้างบารมีกับกลุ่มผมหรือไม่ ถ้าเขามีวาสนามาผมก็จะให้เขาขึ้นกรรมฐาน อธิษฐานถวายขันธ์ห้า หน้าองค์พระ ก็เป็นอันเสร็จหน้าที่ผม ที่เหลือเขาก็จะบำเพ็ญภาวนา ทำความสงบตามความหนัดของแต่ละคน เมื่อเขาสงสัยหรือติดขัดอะไร ก็ค่อยมาคุยกัน ตอนนี้มีเด็กหนุ่ม ราวๆ 20-24 ปี ประมาณ 20 กว่าคน สามารถเข้าถึงครูบาอาจารย์ทางจิตวิญญาณของเขาได้แล้วด้วยวิธีแบบนี้

    เด็กพวกนี้ผมจะคัดเลือกเอาเฉพาะคนที่ถูกกำหนด(ส่งมาเกิด)มาทำหน้าที่ในทางพุทธศาสนาร่วมกับผมเท่านั้น บางคนเขามีบริวารของเขา เขาก็จะคัดเลือกชักจูงกันมาเอง และมีผู้ใหญ่อีกหลายคนที่เขามีสิ่งเหล่านี้ติดตัวมา แม้เขาอาจจะมีที่มาต่างกันแต่เมื่อมีหน้าที่มาในศาสนา สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือครูบาอาจารย์ที่อยู่กับเขา ก็จะบอกเองว่าต้องมาทำอะไร ซึ่งหลายคนที่ผมกล่าวถึง ต่อไปจะเป็นกำลังสำคัญของศาสนา ในยุคนี้เทพพรหม จะมีหน้าที่ลงมาดูแลศาสนา ในช่วงเวลาแบบนี้ ครูบาอาจารย์ท่านอนุญาตให้ใช้วิธีการขึ้นกรรมฐานแบบนี้เนื่องจากต้องเร่งให้ผู้ที่จุติลงมาทำหน้าที่ทางศาสนา เข้าถึงสภาวะและหน้าที่ของตนเองให้เร็วขึ้น


    สำหรับที่ จ.ภูเก็ตนั้น ผมมีอดีต อยู่ที่เขานาคเกิด เทวดาเขามาตามให้ไปเปิดพระพุทธบาทแห่งนึงที่เขานาคเกิด เขาแสดงภาพให้ดูและบอกตำแหน่งมาให้ทราบแล้ว แต่ผมยังไม่มีเวลาไป ก็กะว่าจะหาเวลาลงไปเปิดพระพุทธบาทเอาบุญซะหน่อย ก่อนที่คลื่นซึนามิ ขนาดเท่าเกาะภูเก็ตจะเข้ามาซะก่อน เคยเห็นในนิมิต เป็นคลื่นขนาดเท่าเกาะภูเก็ต คลื่นม้วนตัวซัดเข้ามาบนเกาะครั้งแล้วครั้งเล่า เห็นสิ่งก่อสร้าง รวมทั้งคน กระเด็นกระดอน กระจายไปทั่วเกาะ ส่วนใหญ่คลื่นจะม้วนเอาจมไปในน้ำ ภาพน่าสมเภทเวทนาแบบหลวงปู่ทวดท่านบอกนั่นแหละครับ

    สำหรับเรื่องภัยพิบัติที่กล่าวถึงกันเกี่ยวกับเมืองกาญจนบุรี เข้าใจว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ภาคตะวันตก แถว จ.ตาก และ จ. กาญจนบุรี จะมีความเสี่ยงในเรื่องของภัยพิบัติมากขึ้น เนื่องจาก พระพุทธรูปที่มีพุทธานุภาพ สามารถยับยั้บภัยพิบัติได้( 1ใน 5 พระองค์ที่พระมหากัสสปะท่านสร้าง ภายในบรรจุด้วยพระบรมสารีริกธาตุ)นั้น จะมีการอัญเชิญเสด็จสู่ จ. หนองคายในเดือนพฤษภาคม(เป็นพระบัญชาของพระตถาคต) ซึ่งหลังจากนั้นผมเข้าใจว่าเขตภาคตะวันตกก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิดภัยพิบัติ เนื่องจากพุทธานุภาพของการยับยั้ังภัยพิบัติในเขตนั้นจะลดลง

    อย่างไรก็ตาม คนในภาคตะวันตกนั้นต้องกราบขอบคุณหลวงตาบัว(พระนเรศวร์หรือพระองค์ดำ-ท่านละแล้วผมเลยพอจะเปิดเผยได้ว่าใครเป็นใคร) ที่ท่านเมตตาให้อัญเชิญพระพุทธรูปที่มีมหาพุทธานุภาพ 1 ใน 5 มาไว้ที่เมืองกาญจน์ เพื่อจุดประสงค์ของการสงเคราะห์ในภูมิภาคนั้น แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องอัญเชิญกลับแล้ว

    อีกไม่นานจากนี้ไป ผมคิดว่า จะสามารถรวบรวมพระพุทธรูปที่พระมหากัสสปะท่านสร้างได้ครบทั้ง 5 พระองค์ บางพระองค์ตอนนี้ก็ยังอยู่ในมิติเร้นลับ เมื่อถึงเวลาก็ต้องอัญเชิญเสด็จมา อันนี้เป็นหน้าที่ของพระมหากัสสปะ ผมมีหน้าที่รับช่วงต่อจากท่านอีกทีนึง นี่แหละคือการหน้าที่ทางศาสนา สร้างบารมีกันมาแบบนี้ ตั้งแต่สมัยพระเวสสันดร จนถึงพุทธกาล มาทำหน้าที่ในยุคสร้างพระธาตุพนม หน้าที่ในยุคของพระเจ้าอโศก ฯลฯ จวบจนถึงยุคปัจจุบันต้องลงมาสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ เมื่อเป็นลูกหลานพระเวสสันดรมา ก็ต้องมาทำหน้าที่ในศาสนาของท่าน จากยุคนี้ไปจนกว่าจะถึง 5000 ปี หลวงปู่ทวดท่านบอกว่า เทวดาเขาจะให้ผมลงมาทำหน้าที่อีกครั้งนึง คือลงมาบูรณะพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ กระนั้นก็ยังไม่หมดหน้าที่ ในยุคพระศรีฯก็ต้องไปทำหน้าที่ให้พระศรีฯท่านอีก จนสิ้นภัทรกัปป์นี้

    ก็ขอให้อ่านด้วยความพิจารณา ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...