วัวธนูรุ่นแรก หลวงปู่เท อายุ 102 ปี วัดยี่งอ จ.นราธิวาส ประสบการณ์แรง น.94

เพราะหลวงปู่ท่านเอามือล้วงเข้าไปในย่ามและหยิบซองปัจจัยที่ทางตำรวจ(เจ้าภาพ)ถวาย ขึ้นมาฉีกออกแล้วนำธนบัตรปัจจัยในนั้นออกมาแจกโดยไม่สนใจว่าธนบัตรแต่ละใบจะมีมูลค่ามากน้อยเท่าไรจนผู้เขียนถึงกับอึ้งเลยลืมบันทึกภาพทั้งๆที่มีกล้องอยู่ในมือ เพราะนี่ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตอีกเหตุการณ์หนึ่งเหมือนกันที่ผู้เขียนไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต จนต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า พระที่ไม่ยึดติดในปัจจัยแบบนี้ยังมีอยู่ในยุคปัจจุบันอีกหรือ? พอตั้งคำถามให้ตัวเองเสร็จ จิตก็ตอบว่า มีสิก็เราเห็นคาตาอยู่นี่อย่างไร ขณะเดียวกันประสาทอัตโนมัติก็สั่งการไปยังเท้าของผู้เขียนให้เดินเข้าไปกราบท่านทันที ตอนนั้นผู้คนเริ่มถอยออกไปหมดแล้ว เพราะหลวงปู่ท่านแจกจนไม่มีอะไรจะเหลือแล้ว แม้กระทั้งค่ารถที่เจ้าภาพถวายท่านก็แจกจนหมด
เมื่อผู้เขียนเข้าไปถึงตัวท่านแล้วก็ทำการนมัสการหลวงปู่ ท่าหันมายิ้มด้วยความเมตตา ผู้เขียนก็เลยกราบเรียนถามท่านไปว่า หลวงปู่ชื่ออะไรและอยู่วัดไหนครับ หลวงปู่ท่านเมตตาตอบว่า ท่านชื่อนา อยู่วัดไผ่ท่าโพ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร

 

ระหว่างนั้นคนขับรถของหลวงปู่นาก็ไปเอาเหรียญที่มีเหลือติดรถมายื่นให้ท่านพอดี ผู้เขียนเลยนิมนต์หลวงปู่เดินหลบคนเข้าไปนั่งคุยที่ศาลาข้างๆพระอุโบสถ ตอนนั้นหลวงปู่ก็ได้นำเหรียญที่คนขับรถเอามาให้เพิ่มเติมแจกแก่ผู้เขียนและนายตำรวจอีกสองสามคนที่เดินตามมา พอนายตำรวจถอยออกไปผู้เขียนก็เริมขออนุญาติเรียนซักถามประวัติคร่าวๆของท่านจนทราบว่าท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อพวง กิตฺติสทฺโธ อดีตพระเกจิอาจารย์ผู้โด่งดังทางตะกรุดตำรับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน โดยหลวงพ่อพวงท่านได้ถ่ายทอดวิชาและยกตำราดังกล่าวให้ท่านมาทั้งหมด ผมจึงถามหลวงปู่นาไปว่าหลวงปู่หวงวิชาไหม? หลวงปู่ท่านไม่ตอบ แต่ท่านสั่งให้ผู้เขียนขึ้นไปหาท่านที่วัดให้ได้ถ้ามีโอกาส

 

อีกหนึ่งปีต่อมาผู้เขียนได้เดินทางไปทำบทความเรื่องราวของหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง ที่จังหวัดพิจิตร จึงมีโอกาสได้ไปกราบนมัสการหลวงปู่นายังวัดไผ่ท่าโพที่อำเภอโพธิ์ประทับช้าง เมื่อเข้าไปถึงวัดปรากฏว่าหลวงปู่นาท่านมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว พอผู้เขียนกราบนมัสการท่านเสร็จ ก็เล่าเรื่องภารกิจที่ต้องมาจังหวัดพิจิตรให้ท่านฟัง จากนั้นก็เลยพูดคุยสอบถามถึงประวัติความเป็นมาของท่าน จึงทำให้ทราบว่าที่จริงแล้วหลวงพ่อนาเกิดที่บ้านหมื่นเกลา อำเภอแสวงหาจังหวัดอ่างทองเมื่อวันที่ ๒ ฯ ๙ ค่ำ ปีชวด ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ มีโยมพ่อชื่อหยวน โยมแม่ชื่อมล นามสกุล เที่ยงแท้ แต่ในยุคที่หลวงพ่อเกิดนั้นพวกจอมโจรเสือมเหศวร เสือใบ เสือดำกำลังมีอิทธิพลในพื้นที่ทำให้โยมพ่อของหลวงปู่รู้สึกหนักใจเป็นอย่างมาก เพราะหากไม่เข้าพวกกับเสือก็จะทำให้ครอบครัวไม่ปลอดภัย แต่ถ้าหากเข้าพวกกับเสือก็อาจจะถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจับกุม ตอนนั้นโยมพ่อของหลวงปู่รู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่ง จนในที่สุดจึงตัดสินใจอพยพครอบครัวมาอยู่กับญาติๆที่บ้านไผ่ท่าโพใต้ ตำบลไผ่ท่าโพ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร โดยได้นำหลวงปู่นาใส่กระชุสะพายหลังแบกเดินทางรอนแรมมาในขณะที่หลวงปู่นามีอายุได้เพียงขวบเศษ หลวงปู่นาจึงมาเติบโตอยู่ที่ตำบลไผ่ท่าโพตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

เมื่อถึงวัยเรียนหลวงปู่นาก็ได้เข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนวัดไผ่ท่าโพใต้จนถึงชั้นประถมปีที่๔ จากนั้นก็ออกมาช่วยพ่อแม่ทำนาจนโตเป็นหนุ่ม พออายุครบบวช จึงได้เข้าอุปสมบทที่วัดไผ่ท่าโพใต้เมื่อวันที่ ๔ฯ ๔ ปีระกา ตรงกับวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ โดยมีพระครูธรรมาภิรัติ หรือ หลวงพ่อโปร่ง วัดบางลายเหนือ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อฟุ้ง วัดไผ่ท่าโพธิ์เหนือเป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อหนอม วัดไผ่ท่าโพธิ์ใต้เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (ตอนนั้นหลวงพ่อพวงมาวัดสุทัศน์ฯที่กรุงเทพ) บวชแล้วก็ได้เรียนนักธรรมและจำพรรษาอยู่ที่วัดไผ่ทาโพใต้คอยเป็นผู้อุปัฏฐากรับใช้หลวงพ่อพวงมาตลอดตราบจนกระทั่งหลวงพ่อพวงถึงแก่มรณภาพ หลังจากนั้นคณะสงฆ์และชาวบ้านจึงแต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อจากหลวงพ่อพวง

 

เมื่อได้เป็นเจ้าอาวาสแล้วหลวงปู่นาก็เจริญรอยตามหลวงพ่อพวงทุกประการ ทำการพัฒนาวัดไผ่ท่าโพและเผยแผ่ธรรม อบรมสั่งสอนกุลบุตรกุลธิดาของญาติโยม อย่างไม่ย่อท้อ จนกระทั่งคณะสงฆ์ได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์และเป็นเจ้าคณะอำเภอโพธิ์ประทับช้างในลำดับต่อมา หลวงปู่นาท่านก็ต้องจำใจรับทั้งๆที่ท่านไม่ชอบเลย เนื่องจากหลวงปู่นาท่านเป็นพระสมถะ มีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ถือยศถือศักดิ์แต่ประการใด ขนาดทุกวันนี้ท่านดำรงตำแหน่งทางการบริหารคณะสงฆ์เป็นถึงเจ้าคณะอำเภอแต่ท่านก็ยังลงไปถางป่าช้าหลังกุฏิเองทุกเย็นเหมือนสมัยที่หลวงพ่อพวงท่านเคยทำ

 

จระเข้ขบทรัพย์ขนาดบูชา หลวงปู่นา วัดไผ่ท่าโพใต้

สร้างเท่าไรก็ไม่พอ จองกันจนเกลี้ยง ราคาพุ่งพรวด

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/yMn9MJsLDLimGUYj" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/b5a/ASit4S.jpg" /></a>

 

ขณะที่ผู้เขียนกำลังเขียนบทความอยู่นี้ ทราบจากทางหลวงปู่มาว่ามีคนเข้าไปจองจระเข้ที่วัดฯกันจนล้น กระทั่งหลวงปู่ท่านต้องประกาศปิดจอง โดยท่านบอกว่า ปิดจองก่อน ฉันไม่รับจองแล้ว เดี๋ยวพอของออก ก็ค่อยเข้ามาดูก็แล้วกัน ถ้ามีเหลือก็บูชาไป (เพราะตอนนี้ท่านกลัวว่ายอดจองจะเกิน)

 

ส่วนพวกศูนย์พระทางกรุงเทพที่ได้ยอดไปก็ไม่เพียงพอ ต่างก็วิ่งหายอดเพิ่มขึ้น เพื่อมาบริการลูกค้าของตนเอง เลยทำให้กระแสจระเข้ขบทรัพย์เนื้อหินพระธาตุสามร้อยยอดขนาดบูชารุ่นแรกของท่านนี้พุ่งแรงสุดๆ เพราะคนที่พลาดการจองต่างก็ให้ราคากับผู้ที่ต้องการขายยอดจองสูงกว่าราคาออกให้บูชาเป็นเท่าตัว ส่งผลให้ราคาปล่อยต่อตอนนี้พุ่งขึ้นไปถึงตัวละ ๓,๐๐๐ บาทแล้วครับ ถามว่าเหตุการณ์แบบนี้ เกินความคาดหมายหรือไม่? ผู้เขียนว่า..ไม่เกินความคาดหมายหรอก เพราะ...

 

1. เนื่องจากหลวงปู่นาท่านเป็นพระเกจิอาจารย์เพียงรูปเดียวที่มีวิชาจระเข้อยู่จริง โดยหลวงปู่นาสร้างตามตำรับที่ได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผ่านหลวงปู่พวง วัดไผ่ท่าโพใต้ ผู้เป็นพระอาจารย์ของท่านมาทุกประการอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะแม้กระทั่งช่างผู้แกะจระเข้นั้น หลวงปู่ยังต้องทำการประสะชำระอัปมงคลและลงอักขระหัวใจพระเจ้าสิบชาติที่เล็บมือทั้งสิบก่อนให้ทำการแกะภายในฤกษ์ยามที่กำหนด จึงนับได้ว่าวิชาจระเข้ของหลวงปู่นานั้นเป็นของแท้ ของจริง และเป็นหนึ่งเดียวที่มีอยู่แบบครบถ้วนที่สุดในยุคปัจจุบัน ท่านไม่ใช่พระเกจิอาจารย์ที่ชอบทำตามกระแส คือพอเห็นวัดไหนทำอะไรออกมาแล้วมีผู้นิยมศรัทธาบูชาไปกันมาก ก็คิดอยากทำกับเขาบ้าง ทั้งๆที่ตนเองก็ไม่มีความรู้ในวิชานั้นๆเลยสักนิด พอทำออกมาก็แป๊ก ไม่มีใครเอา พวกพระเกจิที่ชอบทำตามกระแสโดยไม่มีความรู้จริงอย่างนั้น ไม่น่าจะใช่พระเกจิอาจารย์ แต่คงเป็นพระเกจิอาเจียนเสียมากกว่า เพราะมีแต่ความโลภและความลวง
2. ในวงการผู้นิยมพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง มีการจัดทำเนียบเครื่องรางยอดนิยมเป็นอมตะนิรันดร์กาล ไว้หลายหลวงพ่อเช่น ปลัดหลวงพ่อเหลือ เสือหลวงพ่อปาน หนุมานหลวงพ่อสุ่น หุ่นอาจารย์ลอย ราหูหลวงพ่อน้อย ลิงหลวงพ่อดิ่ง สิงห์หลวงพ่อเดิม เต่าหลวงพ่อหลิว ฯลฯ ซึ่งต่อไปคงจะต้องต่อท้ายด้วย...จระเข้หลวงปู่นา อย่างแน่นอน
3. หินพระธาตุสามร้อยยอดเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่หลวงพ่อยิด วัดหนองจอกก็ยืนยัน เมื่อจระเข้บูชารุ่นแรกของหลวงปู่นาแกะจากหินนี้จึงเท่ากับว่าศักดิ์สิทธิ์ทั้งเนื้อหามวลสารและวิชา
4. จระเข้ขนาดบูชารุ่นแรกนี้ นอกจากหลวงปู่นาจะจารอักขระยันต์ให้แล้ว ท่านยังจะเซ็นต์ชื่อที่ใต้ท้องจระเข้ให้ทุกตัวด้วย ถ้าสิ่งที่ผู้เขียนได้ยินมานั้นเป็นจริง ก็นับว่าจระเข้ขบทรัพย์ขนาดบูชารุ่นแรกนี้ทรงคุณค่ายิ่งทีเดียว
5. เท่าที่ได้ยินได้ฟังมา ช่างที่แกะจระเข้รุ่นนี้ยังถูกหวยติดต่อกันไม่หยุด

 

จากเรื่องที่หลวงปู่บ่น ประกอบกับสภาพภัยแล้งที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายปี กระทั่งแม่น้ำยมหน้าวัดไผ่ท่าโพใต้แห้งขอดจนเกิดสันดอนทรายอยู่เป็นประจำ จะมีน้ำมากก็เฉพาะหน้าฝนเท่านั้น พอหมดหน้าฝนแล้วน้ำก็แห้งอย่างเดิม ทำให้พระในวัดไผ่ท่าโพใต้ขาดแคลนน้ำสำหรับใช้อุปโภคบริโภคเป็นระยะๆ ดังนั้นหลวงปู่นาจึงมีดำริที่จะสร้างถังกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ไว้ใช้ในยามแล้ง ท่านจึงได้จัดสร้างเหรียญที่ระลึกอายุ ๘๐ ปีรุ่นแรกขึ้น (ต้นปีที่จะถึงนี้หลวงปู่นาท่านจะมีอายุ ๘๐ ปี) พร้อมกับจัดสร้างจระเข้ขบทรัพย์ขนาดพกพารุ่นใหม่ และล็อกเก็ตหลวงปู่นา เฮง เฮง เฮง รุ่นแรก ออกให้บูชา (รายละเอียดจะแจ้งในฉบับหน้า) โดยเหรียญจะมีชุดกรรมการ (มีโบว์ ) รวม ๕ เหรียญ อันประกอบไปด้วยเหรียญเนื้อเงินลงยา นวะ ทองแดง ทองเหลือง และตะกั่วหลังจาร สร้างขึ้นจำนวน ๒๕๐ ชุด (ตอกโค๊ดเรียงหมายเลขทุกชุด) จองบูชาชุดละ ๒,๕๐๐ บาท (จองแล้วชำระเงินก่อนวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๙ จะได้รับเหรียญโบว์เนื้ออัลปาก้าหลวงปู่นาฟรี ชุดละเหรียญ ดังนั้นจะได้เป็น ๖ เหรียญ ) และเหรียญทั่วไป (พิมพ์เดียวกันแต่ไม่มีโบว์) มีเนื้อทองแดง ทองเหลือง บูชาเหรียญละ ๑๙๙ บาท เนื้ออัลปาก้า บูชาเหรียญละ ๒๙๙ บาท รวมจำนวน ๑๐,๐๐๐ เหรียญ (ค่าบูชาติดตามได้ในหน้าโฆษณา) เพื่อเป็นที่ระลึกแด่ผู้ร่วมสละทรัพย์สร้างถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ในครั้งนี้ ซึ่งผู้เขียนเองถือว่าเป็นเหรียญสำคัญมากของหลวงปู่นา เพราะสร้างขึ้นในโอกาสสำคัญ หลวงปู่ท่านคิดเอง ดำริเอง พร้อมสั่งให้ช่างนำยันต์ของหลวงพ่อพวงลงประทับไว้ที่หลังเหรียญเนื่องจากก่อนที่หลวงพ่อพวงผู้เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่จะมรณภาพ ท่านได้สั่งกับหลวงปู่นาไว้ว่า...หากหลวงปู่นาจะทำวัตถุมงคลใดๆให้ใช้ยันต์ของท่านนี้ประทับไว้ในวัตถุมงคลต่างๆ แล้วท่านจะมาลงให้ศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังที่สุด วาจาสิทธิ์ของหลวงพ่อพวงนั้นหลวงปู่นาท่านไม่เคยละเลย ท่านจึงทำตามคำสั่งของหลวงพ่อพวง

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/yMoC2rU1GI6XsH3d" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/bbb/nUmbDF.jpg" /></a>

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/yMn9MJsLDO5PiZaJ" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/7d2/dueqZq.jpg" /></a>

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/yPmiz9D6oHV6RLFs" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/c74/rjCUrE.jpg" /></a>

แบบแว๊ก 80% มาแล้วคะ

 

ตะกั่วลองพิมพ์ 100% พร้อมปั้ม

<a href="http://www.mx7.com/view2/yR2wY4zDWgEehITp" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/690/ahNZSe.jpg" /></a>

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/yR2wXmChn47c3iJv" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/c42/OGuhJp.jpg" /></a>

 

แจ้งข่าวดี สำหรับท่านที่จองชุดกรรมการหลวงปู่นา ชุดละ 2500 บาท จะได้รับเหรียญอัลปาก้า 1 เหรียญ

 

แล้วจะมาอัปเดทเหรียญจริงให้อีกทีนะคะ

 

ตอนนี้ช่างกำลังเริ่มแกะจระเข้ขบทรัพย์เนื้อหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดขนาดพกพาให้หลวงปู่นาอยู่ ๕๐๐ ตัว หลวงปู่ตั้งใจจะออกในช่วงตรุษจีน ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๙ จองบูชาตัวละ ๔๙๙ บาท

<a href="http://www.mx7.com/view2/yR2vzzLeKssJWnvY" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/5b4/61fmPr.jpg" /></a>

 

สั่งจองได้ที่นี่นะคะ ตัวละ 499 บาท
โอนเงินเข้าธนาคารทหารไทย ออมทรัพย์ เลขที่ 2532031875
ชื่อชุลีพรรณ ปัญถา
ค่าจัดส่ง 100 บาท
หลังจากโอนเงินส่งหลักฐานเข้ามาทาง pm พร้อมชื่อที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์