วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

ขออนุโมทนาครับและขออนุญาต อาจารย์ kananun นำกระทู้ท่านไปเผยแพร่ต่อครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

กราบนมัสการครับพระคุณเจ้า

การก้าวเข้าสู่ธรรมก็นับว่าเป็นการก้าวเข้าสู่มรรคเพื่อผลแห่งการปฏิบัติในพระบวรพุทธศาสนาแล้วครับ

การไหว้ครูนั้น เป็นการไหว้ตรงต่อพระบรมครูเป็นที่สุดคือ พระพุทธเจ้าครับ ไหว้เหมือนกันครับ

การปฏิบัติธรรมนั้น มุ่งเน้นที่จิตเป็นสำคัญ การชำระล้างจิตพลิกใจเราขึ้นสู่ความสะอาด สว่าง สงบ เย็นและผ่องใส

ชำระจิตเราจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งปวง อันได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ

พลิกใจเราขึ้นจากอารมณ์ที่เป็นอกุศล อารมณ์ร้าย อารมณ์ร้อน อารมณ์ลบ ขึ้นสู่ อารมณ์ใจที่แช่มชื่น เบิกบานในกระแสธารแห่งธรรม อันมีกระแสพระนิพพานเป็นที่สุด

ประคองที่ใจ รักษาที่ใจให้ผ่องใส มุ่งเน้นชัดเจน ที่แก่น ที่ผล มุ่งลัดตัดตรงในพระนิพพานเป็นที่สุด

สภาวะ อารมณ์โลกๆใดมากระทบ เรา พึง ละ ดับ วาง ก่อนจะมาเปื้อนใจของเรา ทำจนชิน จนเป็นธรรมชาติของจิต จนใจเราพ้นจากอารมณ์ลบๆทางโลก หายสลายไปไม่มีผลมากระทบหรือเกี่ยวข้องปรุงแต่งกับจิตเราได้อีก

และระมัดระวังกาย วาจา ใจของเราไม่ให้ไปกระทบใจผู้อื่น ไร้ซึ่งจิตเจตนาในอกุศลทั้งปวง ไร้อกุศลกรรมทางกาย วาจา ใจ ดับ"เจตนาในอกุศล"ตัวเดียว ได้ความมืดความมัวหมองในใจเราก็ค่อยๆสลายไป

เละเราเองประคับประคองจิตเราเองในความเป็นประภัสสรผ่องแผ้วเบิกบานเอาไว้เป็นปกติของใจ คิดผ่านใจที่เป็นกุศล พูดผ่านใจที่เป็นกุศล กระทำในสิ่งที่เป็นกุศล มงคลเป็นธรรมชาติของใจอย่างแท้จริง


ผลแห่งการปฏิบัติทั้งปวงเมื่อผ่านพ้นสู่การรู้ตื่นภายในย่อมเข้าถึง"ธรรมชาติของจิต" ที่ผ่องใสเบิกบาน กระจ่าง มั่นคง ในธรรม มีพระนิพพานเป็นที่สุด

รู้โดยสัญญา สู่ การรู้ตื่นกระจ่างโดยปัญญาญาณจากภายใน

จิตเป็นหนึ่งเดียวแนบเนื่องกับอารมณ์พระนิพพาน

พ้นจากพหุภาวะ ทั้งปวง รูป นาม สลายสิ้นไปจากใจ ความรัก ความชัง การเทียบเปรียบดีว่าเลว เราเขา เก่งไม่เก่ง ค่อยๆสลายไปจากมโนความคิด จิตยิ่งเบาพ้นไปจากโลก จากโลกธรรมแปด

จิตยิ่งผ่องใส กายยิ่งปรากฏราศี ใจยิ่งสงบนอบน้อม สติยิ่งตั้งมั่น ธรรมยิ่งผุดตื่นเตือนในใจตนมากเข้า มากเข้า วิชชายิ่งกระจ่างแจ้งแทงตลอดในธรรม

ปฏิบัติไป ทำไป ด้วยใจสบายๆ จนธรรมเป็นเนื้อเดียวกับจิต เป็นเพชรใสสว่างทั้งดวง

ขอคุณแห่งพระไตรรัตน์โปรดดลบันดาลให้ธรรม ทั้งปวงปรากฏ ความรู้ตื่น กระจ่างแก่ทุกดวงจิตอันหาประมาณไม่ได้อย่างฉับพลันทันใดด้วยเทอญ

 

เร่งปฏิบัติที่ใจนะ
เอาให้ละเอียด
ปล่อยวาง ไปจากหยาบ
อารมณ์จมในความคิดที่เศร้าหมอง
ถอนใจขึ้นมาสู่ความผ่องใส
เป็นกลางๆให้ได้ก่อน
จากนั้นดูอารมณ์วิตก กังวล
ดับวางให้ได้
เน้นที่จิตปลอดโปร่ง
ดูละเอียดลงไปในอารมณ์พะวง คือจิต ติดอยู่นิดๆเราก็ละ ดับเสีย
เมื่อจิตปลอดโปร่งขึ้นก็กำหนดปล่อยวางแต่ละอารมณ์ที่เกิดได้เร็วขึ้น
จนเหลือแต่จิตผ่องใส
พอจิตโปร่งไร้มลทิน ไร้ ตำหนิ ไร้ความขุ่น
ก็เอาความผ่องใสมาพิจารณาในวิปัสนาญาณต่อบ้างกฏพระไตรลักษณ์บ้าง
โดยมุ่งจิตเพื่อพระนิพพานจุดเดียว
วางเรื่องทวิภาวะไปให้หมด
การเปรียบเทียบ
เก่งไม่เก่ง คนนี้ดีเลว
ใจตำหนิดำไปขาวไป เย็นไป ร้อนไป สูงไปต่ำไป
ให้จิตพ้นไปวางไปให้สิ้น
เหลือจิตมุ่งพ้นเรื่องโลกธรรมทั้งปวง
จดจ่อกับพระพุทธเจ้า อยู่กับพระนิพพานจุดเดียว
พ้นโลกไปให้ได้
กำหนดใจแบบสบายๆ
คราวนี้ทุกข์ก็ไม่มาสัมผัสใจเราได้
กำหนดใจแบบสบายๆ
คราวนี้ทุกข์ก็ไม่มาสัมผัสใจเราได้
รู้ที่ใจ ละดับที่ใจเรา
ดับอวิชชาที่ทำให้เรายังติดในอารมณ์เหล่านี้
รู้ที่ใจ ละดับที่ใจเรา
ดับอวิชชาที่ทำให้เรายังติดในอารมณ์เหล่านี้
อารมณ์ขุ่นมัว กังวล พะวง เศร้าหมอง คิดร้าย คิดลบ คิดระแวง คิดไปกำไรหรือขาดทุน
ตายไปขณะจิตแบบนี้ตายแล้วไปไหน
รีบละ รีบดับ รีบถอดถอนจากใจเราให้สิ้น
ประคองจิตที่ผ่องใส สะอาดเป็นแก้วประกายพรึกเอาไว้ ทุกลมหายใจ
ตั้งจิตมั่นในพระรัตนไตร
กำหนดการละ ดับอวิชชาทั้งปวงอันเป็นบ่วงทุกข์ร้อยรัดสัตว์โลกในวัฏฏ์นี้ ก็เพื่อพระนิพพาน

 

ขอบคุณมากครับ kananun ตอนนี้กำลังพยามยามจับอารมณ์ของตัวเองอยู่
แล้วในระดับฌานต้องทรงให้ได้แต่ละระดับฌานรึเปล่าครับ หรือ ปล่อยไหลขึ้นไปเลยครับ
ไม่ค่อยแนใจในการจับลมสามฐานด้วยครับ

ขอโมทนาสาธุ กับคำชี้แนะของคุณ ด้วยครับ มีคุณอนันต์

 

เน้นจับที่ลมละเอียดจนจิตสบายผ่องใส ประคองจิตที่ผ่องใสเอาไว้ให้ได้ จนอารมณ์ทรงตัว คือจิตผ่องใสเป็นปกติได้ทุกวันทุกเวลา


เมื่อใดที่จิตผ่องใส ใจเราก็เป็นกุศล เมื่อใดที่จิตเราอิ่มเต็ม ใจก็เป็นบุญ

ยามทำบุญสร้างกุศล ก็จงทำด้วยจิตผ่องใสอิ่มเต็มที่สุด เพราะเมื่อนั้นเกิดบุญสูงสุด

หากเราทำบุญแต่จิตห่วง กังวล หรือร้อนรุ่มใจ หรือตำหนิตินั่นตินี่ บุญจะได้เต็มไหม

ดังนั้นทำบุญ สร้างกุศลก็จงตั้งจิตให้ผ่องใสที่สุดดั่งพระจันทร์วันเพ็ญทรงกลด

จะทรงภาพพระพุทธเจ้าในจิตก็จงทรงในอารมณ์จิตที่ผ่องใสที่สุด

จะทำสมาธิก็จงเจริญสมาธิด้วยจิตที่ผ่องใสที่สุด

จะเจริญวิปัสสนาญาณก็จงพิจารณาด้วยจิตที่ผ่องใสที่สุด

จะอธิษฐานอภิญญาจิตก็จง อธิษฐานด้วยจิตที่ผ่องใสที่สุด

ทำได้ผลแล้วย่อมประจักษ์แจ้งเป็นปัจจัตตัง อันสัมผัสดูรู้เห็นได้ด้วยตนเอง

เมื่อนั้นย่อมเกิดผลแห่งการปฏิบัติอย่างชัดเจน

ขอกราบโมทนาบุญและยินดีกับหลายท่านที่พัฒนา ยก ภูมิจิต ภูมิธรรมขึ้นสู่ความบริสุทธิ์ผ่องใสขึ้นตามลำดับด้วยครับ

 

แล้วผมจะสู้ต่อไป อิอิ+

 

ท่านใดรู้จักวิชา"แผ่นน้ำ ขอบฟ้า ลมภายใน ลมภายนอก" บ้างครับ

 

การปฏิบัติ ได้ทำ จน "ได้ธรรม"




การปฏิบัติธรรมนั้น เราได้ฟังธรรม ได้นั่งสมาธิ ได้สวดมนต์ ได้ภาวนา
เราได้ทำ ได้ปฏิบัติ
แต่สิ่งสำคัญยิ่งที่สุดคือ เราปฏิบัติเพื่อให้ "ได้ธรรม"(เข้าสู่จิตใจจนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นจากภายใน)
ไม่ใช่เพียง ฉันไปปฏิบัติ ฉัน ได้ทำแล้ว ได้ เดินจงกรมเท่านี้ ได้ไปอยู่วัดหลายวัน ทำสมาธิหลายชั่วโมง
แต่ ได้ทำ ได้ทำ จริงๆ เมื่อกลับมาสู่โลก ก็ยังปรากฏความเศร้าหมอง การกระทบจิต กระทบใจ กระทบอารมณ์กันอยู่ ยังมีการเสียดแทงใจกัน โมโหกัน
หากเราปฏิบัติให้ "ได้ธรรม"แล้ว
เราใช้สมาธิ จิต พิจารณา ถอดถอนอกุศลจิตออกไปจากจิตใจของเราได้
อารมณ์นี้เศร้าหมอง เราละ
อารมณ์เพ่งโทษนี้ จิตคิดตำหนิ บุคคล สิ่งของ อารมณ์ สถานที่ จนจิตเกิดปฏิฆะบ้างหงุดหงิดใจบ้าง เราละ
อารมณ์จมในการปรุงแต่ง ที่ทำให้จิตเศร้าหมอง เป็นทุกข์ เราละ
อารมณ์กังวล พะวง ติดขัด เศร้าหมอง เราละ
อารมณ์ข้องติดในคำด่า คำชม คำสรรเสริญ คำตัดสินของคนอื่น ที่ทำให้เราวิตก ปรุงแต่ง เราละ




เมื่อละอารมณ์เศร้าหมองทั้งปวงได้ ละอกุศลจิต ที่ละเอียดที่เราเคยหลงไม่รู้ว่าทุกข์ได้


จิตก็มาทรงรักษา อยู่กับความผ่องใส เบิกบาน จิตที่สะอาด สว่าง สงบ ปราศจากความเร่าร้อน ทุกข์ร้อนอันใด
จิต ยกขึ้นสู่ความบริสุทธิ์ใส พ้นจากเรื่องราว โลกๆ ที่มีการเปรียบ เทียบ ตัดสิน แบ่งแยก เรา เขา อันเป็นโลกธรรม
พ้นจากทวิภาวะการแบ่งแยกขัดแย้งของใจ เข้าสู่เอกกัตคตารมณ์เป็นหนึ่งเดียวกับจิตเดิมแท้ตามธรรมชาติอันผ่องใสประภัสสรอย่างแท้จริง
เมื่อ นั้นอยู่ในโลก อย่างที่จิตเราไม่เปื้อนอารมณ์ทางโลก โลกและธรรมเป็นหนึ่งเดียวผสมกลมกลืนหนุนเนื่องส่งเสริมกันให้มีแต่เจริญขึ้น เพียงฝ่ายเดียว
เมื่อ"ได้ธรรม" ธรรมปรากฏกระจ่างแก่ใจแล้ว จิตมีแต่ความผ่องใสเพียง สถานเดียว
เมื่อแสงสว่างเกิดขึ้นเมื่อใด ความมืดหายไปเมื่อนั้น
เมื่อวิชชาปรากฏ อวิชชาดับไปเมื่อนั้น
เมื่อจิตผ่องใสปรากฏ ความทุกข์ ความเศร้าหมองทั้งปวงดับไปเมื่อนั้น จะหวนไปสู่ความเศร้าหมองนั้นอีกทำไมเล่า


"ธรรมใดเกิดแต่เหตุ ก็จงดับที่เหตุของธรรมนั้น"


เมื่อทุกข์เกิดขึ้นที่ใจ ด้วยจิตที่เศร้าหมอง ก็จงดับด้วยการ ตั้งจิตที่ผ่องใส
พลิกจิตดับทุกข์ อารมณ์เศร้าหมอง ด้วยจิตอันผ่องใสเป็นกุศลเอิบอิ่ม
พลิกใจที่คิดลบคิดร้าย มาเป็นพลิกคิดบวก คิดดี
พลิกปัญญา หาคุณค่าความดีงามของทุกสรรพสิ่งได้ ใจเราก็สิ้นความเกลียดชังขัดแย้ง เมตตาต่อทุกสรรพสิ่งได้เสมอกัน


มีหลายท่านก้าวหน้าเจริญในธรรม ยกภูมิจิตให้สูงขึ้นได้แล้วก็ขอกราบโมทนาบุญด้วย


..................................................................................

สนามจริงคือชีวิตประจำวัน จะพยายามทำให้ได้ทุกวันค่ะ ^ ^
..................................................................................
ใช่แล้วครับ ให้น้อมนำธรรมมะไปสู่การเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจเราและชีวิตของเราให้ดีขึ้นครับ
จิตปลอดโปร่งผ่องใส ชีวิตก็ราบรื่นลื่นไหลไม่สะดุด
จิต วาจา การแสดงออกทางกายเราดี เป็นกุศล
สิ่งที่เราได้รับก็มีแต่ดี ได้รับแต่กุศลความผ่องใส เบิกบานครับ
..................................................................................
ขอบคุณ อาจารย์อีกครั้งค่ะ หนิงและเพื่อน ๆ จะทำให้การอบรมในวันอาทิตย์มีคุณค่าที่สุดค่ะ จะทำเป็นแบบอย่างให้เพื่อน ๆ ได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในจิตที่เป็นกุศล จะสอนลูก อบรมหลาน ให้สังคมเกิดคนดีให้มากที่สุดค่ะอาจารย์
...................................................................................
ใช่ครับ ช่วยกันสร้างคนดี เป็นแรงบันดาลใจให้คนอยากทำดี อยากเข้าสู่ธรรมกันครับ


ใจสบาย ใฝ่กุศล คงความผ่องใสเบิกบาน


ยิ่งเห็นธรรมอย่างแท้จริงจิตยิ่งผ่องใส ยิ่งปล่อยวางง่าย



ยิ่งซาบซึ้งในพระคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยิ่งหยั่งถึงความลึกซึ้งสะอาดหมดจดแห่งพระธรรม ยิ่งเคารพรักกราบนอบขอบพระคุณในพระอริยะสงฆ์ครูบาอาจารย์ทั้งปวงที่ท่าน เมตตาสืบต่อธรรมกันจนมาสู่ใจของเรา ถ่ายทอดจากจิตสู่จิต


" ขอธรรมทั้งปวงอันพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยะสงฆ์ทุกพระองค์ได้เข้าถึงธรรมอันบริสุทธิ์หมดจดมีพระนิพพานเป็น ที่สุดแล้วนั้น ขอปวงหมู่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้เข้าถึงธรรมนั้น จิตบรรลุหลุดพ้นด้วยธรรมนั้นอย่างฉับพลันทันใด ได้เป็นอัศจรรย์ มีความผ่องใสเบิกบานในธารแห่งพระโลกุตระธรรมเจ้า เข้าสู่กระแสพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ "

 

วันนี้ เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้ต้องเข้ามาอ่าน ทั้งที่ไม่ได้เข้าเวบนานแล้ว
และก็ได้มาเจอข้อความข้างบนนี้

ซึ่งวันนี้ในเวลาใกล้เคียงกัน หนิงก็นำข้อความที่อาจารย์พิมพ์ไปเผยแพร่ใน blog บริษัทค่ะ

กราบขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ

(ในใจวันนี้ฟองฟู เหมือนศิษย์โชคดีที่ได้มีครู)

 

เพียงได้สัมผัสว่า "แผ่นน้ำ ขอบฟ้า" ไม่เคยแบ่งแยก เหนือใต้ ออก ตก ล้วนแต่ประสานรวมเป็นเพียงหนึ่งเดียว

ใจเราเป็นผู้แบ่งแยก เหนือ ใต้ ออก ตก สูง ต่ำ


หยาดน้ำระเหยสู่ฟ้า ฟ้ากลั่นฝนหลั่งลงสู่ผืนน้ำ หมุนเวียนเปลี่ยนแปลง เป็นหนึ่งเดียวกัน

เมื่อจิตเป็นหนึ่ง ไร้การแบ่งแยก ไร้การเปรียบเทียบ จิตย่อมปลอดโปร่งเป็นหนึ่งเดียวในเอกกัตคตารมณ์

"ลมภายใน ลมภายนอก " แท้จริงคือห้วงอณูแห่ง ปราณอันเป็นหนึ่งเดียวกัน
ลมภายในถ่ายเทสู่ ลมภายนอก ลมภายนอกถ่ายเทสู่ลมภายใน

ลมหายใจแห่งชีวิตเรารับจากต้นไม้
และ
ลมหายใจออกเราก็กลับเป็นฝ่ายให้กลับสู่ต้นไม้เช่นกัน

ต่างเป็นผู้รับ และผู้ให้

เมื่อจิตเข้าถึง ย่อมประสานเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติได้อย่างแท้จริง


เราทั้งหลายล้วนแล้วเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่งทั้งปวง

ยืม ธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ จากธรรมชาติ จากโลก จากจักรวาล มาประกอบรวมเป็นร่างกายขันธุ์ห้านี้

ไม่ต่างกัน เป็นส่วนหนึ่งของโลก ของจักรวาลเช่นเดียวกัน

แม้ฝ่ายนามธรรมเล่า จิตทุกดวงล้วนประภัสสร ไม่ต่างกัน
และโดยที่สุดโดยปรมัตถะธรรมแล้ว ทุกดวงจิตย่อม บรรลุถึงซึ่งพระนิพพานเช่นกัน

จะแบ่งแยก ดีชั่ว เราเขา เพ่งโทษ โกรธแค้นไปใย

จิตยกหลุดจาก โลกทั้งปวง สู่กระแสแห่งโลกุตระ กระแสพระนิพพาน ไม่คลุกเคล้า เศร้าหมอง กับเรื่องโลกธรรมทั้งหลาย

สรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน

ทุกสรรพสิ่งล้วน อยู่ภายใต้กฏพระไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

เมื่อสัญญา เกิดสภาวะ รู้ตื่น ย่อม เกิด "ปัญญา" อันดับอวิชชาให้สลายตัวไป

เมื่อใช้ทางธรรม ย่อมเกิด ธรรม

 

อาจารย์อธิบายได้ลึกซึ้งเหลือเกินขอบพระคุณครับ

 

ไม่ได้เข้ามาอ่านนานเลยค่ะ พอเข้ามา ก็ได้อ่านคำสอนดีๆ ของอาจารย์ ขอบพระคุณจริงๆค่ะ

 

ค่อยๆปฏิบัติใจไป ด้วยความพากเพียร ประคองรักษาความผ่องใสสะอาดของใจเราไว้

กำหนดสติในอิริยาบททั้งปวง ยืน เดิน นั่ง นอน เป็นธรรมชาติ

การเคลื่อนขยับดูรู้ กาย ฝึกโดย การหยิบจับ ทุกสิ่งใช้สติ ใช้แรงพอดี ไม่กระทบ ไม่กระแทกไม่แรงเกินไป ไม่เบาเกินไป เคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติ

การเดิน การเปิดปิด ประตู การบิดลูกบิดประตู การวางของหากเราไม่มีสติ เราวาง เรากระแทก

และเมื่อของหยาบเรากระแทก เราเคยสังเกตุไหม ว่าใจเรา วาจาเราเคยกระแทกใจคนอื่นหรือไม่

เมื่อของหยาบ เราทำให้ละเอียด การเดินเราไม่ลงซ้นให้หนวกหูคนอื่น การปิดประตูเราไม่ปิดกระแทกให้รำคาญใจคนอื่น การจับวางเราไม่กระแทกกระทั้น เพราะเรารู้ว่ามันมีผลต่อใจผู้อื่น

เมื่อจิตเราละเอียดจนระมัดระวังไม่เบียดเบียนกันทาง วาจา ทางเสียง ทางความรู้สึกแล้ว

สิ่งเหล่านี้ย่อมสะท้อนถึงภายในจิตใจของเราว่า เราเป็นผู้มีสติ มีจิตละเอียดผ่องใส และเป็นผู้ไม่เบียดเบียนกันแม้ในส่วนที่ละเอียดที่สุดที่ผู้อื่นนึกไม่ถึงว่ามีผล

ผู้ปฏิบัติธรรมอันได้พัฒนาขัดเกลาจิตแล้ว ย่อมเป็นผู้ นอบน้อม นุ่มนวล ละเอียดอ่อนผ่องใส การพูด การแสดงออก การเคลื่อนไหว สงบเย็น อ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยพลังที่ออกมาจากภายในใจของบุคคลนั้น

รำลึกเสมอว่า เราเป็นผู้ที่ให้ ผู้ที่แบ่งปันความดีงาม บุญกุศล ความเจริญรุ่งเรืองให้ทุกรูปทุกนาม ทั้งทางโลกและทางธรรม

เราเป็นผู้ไม่เบียดเบียน ไม่ทำร้ายผู้อื่น ระมัดระวังจิตความคิดของเรา ด้วยความละเอียดถึงที่สุดว่า

คิดร้าย คิดลบ คิดติว่า คิดอกุศลต่อผู้อื่นเมื่อไร เรากำลังทำร้ายเขา เบียดเบียนทั้งเราและเขาด้วย มโนกรรม อันเป็นอกุศลอยู่

พูดนินทา พูดด่าว่าร้าย พูดตำหนิ พูดแดกดัน พูดเสียดสี ต่อผู้อื่นเมื่อไร เรากำลังเสียบแทง เชือดเชือน ทำร้ายหัวใจผู้อื่นและใจของเราเองด้วย วจีกรรมอันเป็น อกุศลอยู่ อันซ้ำร้ายแรงแทงใจกว่าการกระทำด้วยซ้ำไป

ซึ่งยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเบียดเบียนกันทางกาย ล่วงขาดซึ่งศีลห้าประการอันเป็น กายกรรมอันเป็นอกุศล

เมื่อจิตเราละเอียดยิ่งขึ้นแล้ว เราหยุดโจษโทษความผิดเพ่งโทษผู้อื่น มาเพ่งเตือนจิตล้างใจเราเองให้ผ่องใสประภัสสร

เราใช้ใจคิดเรื่องไม่ดีผู้อื่นนานเท่าไร เราใช้เวลาไปในอกุศลนานเท่านั้น

เราใช้ใจคิดเรื่องดีๆเป็นกุศลของผู้อื่นนานเท่าไร เราใช้เวลานั้นไปเจริญมุทิตาจิตเป็นกุศลนานเท่านั้น

เราใช้เวลาคิดระงับดับความคิดลบ คิดอกุศลในทุกสิ่งจากใจเรามากเท่าไร เราใช้เวลาไปเพื่อการตัดกิเลสเครื่องเศร้าหมองของใจเราออกไปมากเพียงนั้น

ลองพิจารณาดูว่าในวันหนึ่ง เราเวลาล่วงไป เราใช้เวลาแห่งชีวิตไปกับเรื่องใดหนอ ชั่งน้ำหนักของจิตเราให้เวลาของใจอยู่ในกุศล ในความผ่องใสมีพระนิพพานเป็นที่สุด

เรื่องอกุศลที่ก่อให้เกิดความเศร้าหมองของจิตไม่ว่าจะของเรา ของเขา ของใคร ไม่เป็นสาระของใจ

สาระของใจคือ ความผ่องใสตั้งมั่นในพระนิพพานเพียงจุดเดียว
สาระของใจคือ การสร้างความดี สร้างแรงบันดาลใจในการบำเพ็ญความดีให้สรรพชีวิตเพื่อพระโพธิญาณเพียงจุดเดียว

ขอทุกดวงจิตได้น้อมเข้าสู่ความสะอาดบริสุทธิ์ของใจ อันมีมณีแก้วรัตนะสามประการเป็นธงชัย มีพระนิพพานกระจ่างในดวงจิตที่สะอาด สว่าง สงบเย็น โดยฉับพลันด้วยเทอญ.

 

สิ่งที่อาจารย์สอนนั้น งดงามเกินคำบรรยายใดๆเลยค่ะ ขออนุโมทนา และน้อมจิตกระทำ ตามที่สอนค่ะ สาธุ...... _/\_

 

จิตกุศลเพิ่มมาก เพียงใดโลกยิ่งสงบเย็นมากขึ้นเพียงนั้น
จิตนั้นทรงพลานุภาพอย่างยิ่ง

เมื่อเปลี่ยนแปลงจิตเราจากภายในได้สำเร็จ โลกภายนอกก็เปลี่ยนไป
กาย วาจา ที่เคย เผลอ พลั้ง เบียดเบียนกัน
ก็กลับ สงบ ระงับ สำรวมอินทรีย์ขึ้น

จากที่หยาบ ก็กลับละเอียดผ่องใสขึ้น

จากที่กระด้าง ก็กลับอ่อนน้อมนุ่มนวลขึ้น

จากขัดข้อง(จากโลภะ) คับแค้น(จากโกรธะ) หม่นหมอง(จากโมหะ)

ก็กลับ ปลอดโปร่ง ปล่อยวาง ผ่องใส

ธรรมใดเกิดแต่เหตุ ตถาคตตรัสให้ดับ ที่เหตุแห่งธรรมนั้น

ดังนั้น เมื่อทุกข์ ที่จิต ก็จงพลิกดับ ตัดที่จิต ให้เป็นสุข

เมื่อแสงสว่างปรากฏ ความมืดก็ดับหายไปฉันใด

จิตเป็นสุขผ่องใสปรากฏ ความทุกข์ก็สลายยามนั้น

พลิก ปรับ ดับทุกข์ที่จิตเรา จนกระทั่งทุกข์ทั้งปวงไม่อาจเปื้อนใจเราได้

ปฏิบัติธรรมเพื่อจิตเป็นสุข ผ่องใส ในปัจจุบัน และเพื่อพระนิพพานเป็นที่สุด

 

ขอให้เราทุกๆคน เชื่อมั่นว่า ทุกๆสรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลงไปด<wbr>้วย กฏแห่งความไม่เที่ยงหรือกฏไตรลั<wbr>กษณ์

และในขณะเดียวกัน กฏของกรรม ก็บอกว่า เมื่อเรา ทำเหตุที่ดี ย่อมได้รับผลที่ดี
เมื่อเราคิดดี ก็ย่อมเกิดสิ่งดีๆขึ้น

ดังนั้นหากโลกเปลี่ยนแปลงพลิกผั<wbr>นไปจนเกิดภัยพิบัติ เพราะความโลภ โกรธ หลง
เราก็ย่อมร่วมใจกันฟื้นฟูโลกใบน<wbr>ี้ได้ด้วย เมตตา การให้อภัย ศานติ ความร่มเย็น

ทุกสรรพสิ่งเริ่มต้นจากภายในจิต<wbr>ของเรา จิตยิ่งประภัสสร มากเท่าไร ย่อมปรากฏสิ่งดีงามขึ้นสู่โลกมา<wbr>กขึ้นเพียงนั้น


เริ่มต้นที่ใจของเรา รักษาที่จิตของเรา ขัดเกลารักษาจิตใจเราให้ผ่องใส นิ่งสงบเย็น

 

​

​

​

​

คุณความดีงาม จะคงอยู่ตลอดไป ​

[MUSIC]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=47773[/MUSIC]​

 

รวมบุญรวมสมาธิจิต มาใช้ในยามภัยพิบัติ

โดยคณานันท์ ทวีโภค รักในหลวงเมื่อ 18 ตุลาคม 2011 เวลา 23:02 น.

เรื่องนี้อาจจะขออนุญาตสำหรับท่านที่มีพื้นาฐานสมาธิบ้างนะครับมาช่วยกัน

ในยามเกิดภัยพิบัติ เราชาวธรรม นอกเหนือจากช่วยชาวโลกด้วยเมตตา ด้วยกำลังกาย กำลังทรัพย์ กำลังควา่มคิด กำลังสติปัญญาแล้ว
กำลัง ในทางธรรม บุญ ฌาน ญาณ ศีลก็ยังช่วยเหลือส่วนรวมได้อีก ขอเพียงเรามั่นคงในไตรสรณะคมม์ ศรัทธาในพระพุทธเจ้า และเจริญจิตด้วยเมตตามีความผ่องใสในกุศลของจิตเป็นที่ตั้ง ช่วยกันด้วยจิตเมตตา หล่อหลอมรวมเป็นอภิจิตที่มีพลังยิ่งใหญ่

เริ่มกันได้เลยครับ

สงบจิต น้อมใจ ให้นิ่ง สงบ เย็นเป็นสมาธิ

ตั้ง จิตไว้ในศีล ห้า ศีลแปดตามที่ตั้งรักษาว่า ขณะจิตนี้ศีลของข้าพเจ้าบริสุทธิ์ด้วยกำลังแห่งศีลนี้ขอให้เกิด ธรรมอันเป็นเครื่องคุ้มครองรักษาขึ้น

ตั้งจิตต่อไปให้มั่นคงในพระรัตนไตร ด้วยจิตมั่นคงเด็ดเดี่ยวว่า ข้าพเจ้าขอเข้าถึงซึ่งพระรัตนไตรและพระนิพพานด้วยชีวิตของข้าพเจ้า

ตั้ง จิตในบารมีสามสิบทัศน์ว่าและด้วยบุญบารมีทั้งสามสิบประการอันข้าพเจ้าบำเพ็ญ ไว้ดีแล้วนับแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ เพื่อพระโพธิญาณ (และหรือ เพื่อพระนิพพานในชาตินี้)

ขอเมตตาอันไม่มีประมาณในอะิษฐานบารมีของข้าพเจ้า อันเอื้อเอ็นดูต่อหมู่สัตว์ทั้งหลายอันหาประมาณไม่ได้นี้ จงปรากฏผล

ข้าพเจ้า ขอน้อมกราบอารธนาบารมี พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ทั้งหลาย คุณเทพพรหมเทวาและท่านผู้มีพระคุณทุกๆพระองค์ คุณแห่งองค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ขอได้โปรดส่งผลอันอัศจรรย์ขึ้นด้วย

ปฐะวีกสิณัง ขอธาตุดินจงแข็งแกร่งเป็นกำแพงแก้วคุ้มครองคนดี กัลยาณชน ให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวง
อาโปกสิณัง ขอธาตุน้ำจงใสสะอาดสมดุล เป็นน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิต พอดี พอเหมาะพอสม
วาโยกสิณัง ขอธาตุลมจงพัดพาน้ำน้ำลงสู่มหาสมุทร โดยปราศจากอันตราย
เตโชกสิณัง ขอธาตุไฟ แผ่ไออุ่นให้แผ่นดินแห้งแน่น อุดมสมบูรณ์

ขอธาตุทั้งสี่จงสมดุล ด้วยพุทธานุภาพ ธรรมมานุภาพ สังฆานุภาพด้วยเทอญ

(กำหนดจิตทำสมาธิภาวนา ด้วยจิตเป็นกุศลผ่องใส สงบเย็น)

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:TrackMoves/> <w:TrackFormatting/> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <woNotPromoteQF/> <w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther> <w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian> <w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> <w:SplitPgBreakAndParaMark/> <wontVertAlignCellWithSp/> <wontBreakConstrainedForcedTables/> <wontVertAlignInTxbx/> <w:Word11KerningPairs/> <w:CachedColBalance/> </w:Compatibility> <m:mathPr> <m:mathFont m:val="Cambria Math"/> <m:brkBin m:val="before"/> <m:brkBinSub m:val="--"/> <m:smallFrac m:val="off"/> <m:dispDef/> <m:lMargin m:val="0"/> <m:rMargin m:val="0"/> <m:defJc m:val="centerGroup"/> <m:wrapIndent m:val="1440"/> <m:intLim m:val="subSup"/> <m:naryLim m:val="undOvr"/> </m:mathPr></w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true" DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99" LatentStyleCount="267"> <w:LsdException Locked="false" Priority="0" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Normal"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="heading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="35" QFormat="true" Name="caption"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="10" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" Name="Default Paragraph Font"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="11" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtitle"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="22" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Strong"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="20" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="59" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Table Grid"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Placeholder Text"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="No Spacing"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Revision"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="34" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="List Paragraph"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="29" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="30" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="19" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="21" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="31" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="32" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="33" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Book Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="37" Name="Bibliography"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" QFormat="true" Name="TOC Heading"/> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin-top:0cm; mso-para-margin-right:0cm; mso-para-margin-bottom:10.0pt; mso-para-margin-left:0cm; line-height:115%; mso-pagination:widow-orphan; font-size:11.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Calibri","sans-serif"; mso-ascii-font-family:Calibri; mso-ascii-theme-font:minor-latin; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-theme-font:minor-fareast; mso-hansi-font-family:Calibri; mso-hansi-theme-font:minor-latin; mso-bidi-font-family:"Cordia New"; mso-bidi-theme-font:minor-bidi;} </style> <![endif]--> การปฏิบัติที่ลัด ตัดตรงสู่แก่นแห่งพระพุทธศาสนา
ตามที่ชาวพุทธนั้น ได้ศึกษากันมาตลอดแล้วว่า แก่นแห่งพระพุทธศาสนานั้น คือ
การละ บาป อกุศล ทั้งปวง
การสร้างกุศลให้เจริญงอกงาม
และรักษาจิตให้ผ่องแผ้วเบิกบาน
แต่กระนั้น ธรรมที่ดูเรียบง่ายนี้ กลับเป็นเรื่องยากเย็น ในการปฏิบัติของเราอีกหลายต่อหลายคน

เราไปรักษาศีล ถืออุโบสถกัน แต่ก็ยังมีการ นินทาว่าร้ายกัน นั่นเป็นกุศล หรืออกุศล
เราไปทำบุญกัน แต่ยังมีการกระทบอารมณ์กันในความเศร้าหมอง
เราไปวัดแต่ก็มีการไปนำของสงฆ์มา

และที่น่าห่วงที่สุดก็คือ เทพบุตรมาร มักมาลวงใจเราให้"คล้าย"หวังดี ต่อคนอื่น โดย หลอกให้เราห่วงคนอื่น ในเรื่องอกุศลของเขา หลอกให้อยากให้เขาดีโดย การหาโทษหาความชั่วให้คนอื่นเขาแก้ แต่ลืมมาแก้ที่จิตตัวเอง
และคราวนี้การสนทนาธรรม ก็จะกลายเป็นการว่าร้าย พินิจในอกุศลของบุคคลอื่น

ขอ ให้พิจารณาดูเถิด เวลาที่เราคุยเรื่องอกุศลแล้วนั้น ใจเราเป็นสุขผ่องใส หรือเผลอเศร้าหมอง คุยกันเรื่อง อกุศลเมื่อไรไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเราหรือของคนอื่น เมื่อนั้น ใจเราก็เป็น อกุศล วาจาเราก็เป็นอกุศล ไปด้วย

เอาเรื่องไม่ดีของคนอื่นมาพูด มาคิด ก็เหมือนเราเอาขยะจากบ้านคนอื่นมาถมใส่ใจของเรา

จงคิดเอาเถิดว่า คิดไปให้ตายอย่างไร เราไปเปลี่ยนเขาได้หรือไม่

บุคคลที่เปลี่ยนได้ คือใจของเราเองเท่านั้น จะไปเสียเวลากับอกุศล เรื่องขยะจากบ้านอื่นทำไมให้มารกใจของเรา

หยุดตัวแรกสิ่งนี้ก่อน ละเลิก การสนใจ ไปคิด ไปติ ไปเพ่งโทษ โจทย์ความผิดคนอื่น ก่อน

จาก นั้น เอาสติ มาตามละ ดับ อกุศลในใจของเรา โดยกำหนดว่า อกุศล ในใจเราก็ดี เรื่องอกุศลของคนอื่น เรื่องจากภายนอกก็ดี เราจะไม่นำมาให้งอกงามในใจของเรา เพราะการคิด การพูด เรื่องชั่วคนอื่น เพราะใจเราชั่ว หากไม่ชั่ว ย่อมไม่คิด ไม่พูด

ดับละอกุศล ทั้งภายในภายนอกให้หมดจากใจของเรา

จากนั้น

มา กำหนดใจ ใฝ่ในกุศล ทั้งภายใน ภายนอก พิจารณาให้มากๆว่า กุศลและบุญใด ที่เราพึงทำให้มาก ทำให้งอกงาม ความดีของคนอื่น จงสนใจ จงอนุโมทนา พลอยยินดีในกุศลของผู้อื่นให้มาก เพราะนั่นหมายถึง เราได้รับการแบ่งบุญจาก การโมทนาบุญของเขา เป็นการนำทรัพย์รับเพิ่มจากผู้อื่นเป็นอริยะทรัพย์ที่ได้เปล่า เป็นกำไร กับใจของเรา

เอาปัญญาบารมีมาพิจารณาว่า กุศลใด สร้างแล้วเกิดผลมาก กุศลใด เจริญแล้วเกิดผลต่อเนื่องไม่สิ้นสุด กุศลใดสร้างแล้ว งอกเงยเกิดผลทวีคูณ

อารมณ์กรรมฐานใด เจริญแล้วจิตเราผ่องใส คำภาวนาใด ภาวนาแล้ว จิตเราสงบระงับเย็น กัลยาณมิตรหมู่ใด เข้าไปมาหาสู่แล้วยังความเจริญในธรรมนำความชื่นอกชื่นใจมาให้

การปฏิบัติใดยังความ สัปปายะ สบายกาย สบายจิตเป็นทางสายกลางของเรา

กำหนดแนวทางในการปฏิบัติ มุ่งเพื่อให้จิตผ่องแผ้วเบิกบานแช่มชื่น
เพราะ "นิพพานัง ปรมังสุขัง" พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

ทรงอารมณ์รักษาจิตในความผ่องใส เอาไว้ให้มาก ตลอดเวลา และกระทั่งเป็นเนื้อแท้ของใจเรา ทรงไว้ทั้งวันทั้งคืน

และใช้กำลังแห่งความผ่องใสสูงสุดนี้มาพิจารณา ในการเจริญเมตตาพรหมวิหารสี่
ในวิปัสสนาญาณ
ในความตั้งมั่นในไตรสรณะคมม์
ในจิตมั่นในพระนิพพานด้วยจิตผ่องใส

เมื่อนั้น "ผล " ย่อมไม่ไกล
ใจไม่ห่างจากพระนิพพาน
จิตยิ่งผ่องใส ยิ่งใกล้พระนิพพาน

เรื่องนี้ขอยืนยัน จากพระอาจารย์ที่ท่านบรรลุอรหันต์ผลตั้งแต่ ท่านอายุ ยี่สิบเศษ
ท่านเมตตาสอนว่า "จิตที่ผ่องใส ทำให้บรรลุธรรมได้เร็ว"
มุ่งรักษา จิตที่ผ่องใสเอาไว้ ตามแก่นแห่งพระพุทธศาสนา

เมื่อจิตผ่องใส ใจเราเป็นสุข
เมื่อใจเป็นสุข ทุกข์ก็พลอยสงบ ระงับ ดับไป
เมื่อจิตผ่องใส กุศลก็เปี่ยมล้นกลางใจ
เมื่อกุศลล้นใจเสียแล้วก็ย่อมไม่คิดชั่ว พูดชั่วทำชั่ว
เมื่อไม่คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว ก็ย่อมห่างจากอบายภูมิทั้งปวง

จิตผ่องใส กายก็พลอยเปล่งปลั่ง มีราศี โรคภัยเบียดเบียนน้อย

จิตผ่องใส ใบหน้าย่อมยิ้มแย้ม แจ่มใส ทำกิจการงานใด ก็มีคนเมตตา คนรักใคร่ คนอุดหนุน คนช่วยเหลือ

จิตผ่องใส แล้วย่อมคิดบวก คิดดี คิดสร้างสรรค์ คิดเกิดประโยชน์ตน ประโยชน์ส่วนรวม

จิตผ่องใสแล้ว ย่อมเกิด พลังดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาสู่ชีวิต อย่างที่ได้พิสูจน์กันมาหลายท่าน

จิตผ่องใส และใช้ปัญญา ย่อมยังประโยชน์และความสุขให้เกิดปรากฏได้ทั้งทางโลก ทางธรรม ด้วยประการฉะนี้

 

มหาโมทนาสาธุค่ะ อาจารย์ คณานันท์ เตรียมจิตให้ผ่องใส และประหารกิเลสด้วยปัญญาค่ะ